xs
xsm
sm
md
lg

สตช.แถลงสรุปเหตุการณ์รุนแรงชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สตช.แถลงสรุปเหตุการณ์ความ่รุนแรงระหว่างมีการชุมนุมทางการเมือง รวม 63 คดี ส่อมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เผย “อดุลย์” สั่งเร่งรัดคดีหน้ารามฯ-สนามไทย-ญี่ปุ่น-ลอบระเบิดทั่วกรุง และระเบิดที่ จ.ตราด-ยิงปะทะหลักสี่-ผ่านฟ้าฯ ตลอดจนคดีคนร้ายลอบยิง “สุทิน” เสียชีวิต อ้างตำรวจทำเต็มที่ ผบ.ตร.ย้ำภารกิจตำรวจต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง

วันนี้ (27 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปความคืบหน้าคดีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 เป็นต้นมา ว่าเหตุต่างๆ แยกสถิติออกมาแต่ละเดือนพบว่า เดือน ต.ค. 2556 มีคดีเกิดขึ้น 1 คดี เดือน พ.ย. 4 คดี ธ.ค.8 คดี ม.ค.29 คดี ก.พ.นับถึงวันที่ 26 ก.พ.21 คดี รวมทั้งหมด 63 คดี จะเห็นได้ว่าคดีที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มสูงขึ้น สำหรับห้วงเวลาเกิดเหตุส่วนใหญ่เหตุเกิดขึ้น หลังเที่ยงคืนถึงเวลา 03.00 น. รองลงมาคือ 21.00 น.ถึงเที่ยงคืน สังเกตได้ว่าหลังจากมีการตั้งด้านความมั่นคงร่วมกับทางทหารช่วงเวลา 21.00 น.เป็นต้นไป ทำให้เกิดเหตุช่วงเวลา 18.00-21.00 น.มากขึ้น ส่วนรูปแบบการก่อเหตุร้อยละ 28.44 ก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืน รองลงมาคือ ระเบิด ร้อยละ 13.21 ที่เหลือเป็นประทัดยักษ์ ระเบิดเพลิง เป็นต้น ส่วนอาวุธที่ใช้เป็นปืนพก 12 คดี ระเบิดขว้าง 10 คดี เอ็ม 79 จำนวน 6 คดี

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับคดีสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เร่งรัดด้วยตัวเอง แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 1. คดีที่เกิดขึ้นหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง 2. คดีที่เกิดที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง 3. กลุ่มคดีเกี่ยวกับระเบิด กระจายกันไป เกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ กทม. และที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด 4. คดีอื่นๆ เช่น เหตุปะทะแยกหลักสี่ เหตุยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท.วัดศรีเอี่ยม เหตุปะทะผ่านแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า คดีกลุ่มที่ 1 คดีที่เกิดขึ้นหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย มีความคืบหน้าแยกเป็น (1. คดีฆ่านายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 56 มีการตรวจสอบคลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุสอบปากคำพยานไปแล้ว 11 ปาก ตรวจที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้าย (2. คดีฆ่าพลทหาร ธนะสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 56 คดีนี้ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว 2 ราย คือนายนภดล แก้วมีจีน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ที่ 6 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับที่ 248/56 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2556 และนายธีรภัทร ทองฤทธิ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246 หมู่ 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตามหมายจับที่ 2484/56 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 56 พร้อมของกลางอาวุธรีวอลเวอร์ขนาด .38 เครื่องกระสุนปืนจำนวน 6 นัด โดยกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

(3. คดีฆ่านายวิโรจน์ เข็มนาค อายุ 43 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.56 คืบหน้าได้มีการสอบพยานไปแล้ว 11 ปาก ตรวจที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนที่อาคารเก่า (4. คดีฆ่านายวิศณุ เภาพู่ อายุ 26 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 56 คืบหน้าสอบสวนพยานแล้ว 8 ปาก ได้รับผลชันสูตรศพแล้วอยู่ระหว่างติดตามสืบสวนอยู่ (5. คดีวางเพลิงเผาทรัพย์นายสุรเดช หรือเจ คำแปง อายุ 17 ปี เสียชีวิต ความคืบหน้าได้สอบสวนพบผู้กระทำผิด 15 คน ออกหมายจับแล้ว 8 คน จับกุมแล้ว 2 คน คือ นายอดิสรน์ หรือต้า สีจันทร์ผ่อง อายุ 29 ปี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า คดีกลุ่มที่ 2 คดีที่เกิดที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง แยกเป็น 2 คดี คือ กรณีการเสียชีวิตของ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ คืบหน้าสอบปากคำไปแล้ว 9 ปาก กรณีการเสียชีวิตของนายวสุ สุฉันทบุตร คืบหน้ามีการสอบปากคำไปแล้ว 27 ปาก ส่งรายงานชันสูตรพลิกศพให้พนักงานอัยการแล้ว โดยได้มีการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันตำแหน่งผู้ตายและคนร้ายในขณะเกิดเหตุ นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับวิถีกระสุนและยืนยันข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุว่ากระสุนมาจากที่ใด

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า กลุ่มที่ 3 กลุ่มคดีเกี่ยวกับระเบิด ประกอบด้วย คดีระเบิด 9 คดี คือ คดีระเบิดหน้าบ้าน นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีระเบิดที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด คดีระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง คดีระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คดียิงเอ็ม 79 ศาลอาญา รัชดาฯ คดีระเบิดหน้าศาลอุทธรณ์และศาลแพ่ง คดีระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ คดีระเบิดและกราดยิงผู้ชุมนุม กปปส.ที่ จ.ตราด คดียิงบ้าน นพ.กรกฤษณ์ ชัยเจนจิต

สำหรับความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าบ้าน นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีระเบิดที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดทั้ง 2 คดีสามารถจับภาพจักรยานยนต์ต้องสงสัยได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยให้แฟนพันธุ์แท้มาช่วยวิเคราะห์ว่าเป็นรถรุ่นใดยี่ห้อใด และได้มีการตรวจดีเอ็นเอกระเดื่องที่พบในที่เกิดเหตุไว้แล้วดีเอ็นทั้งสองคดีมีแนวโน้มว่าเป็นคนร้ายชุดเดียวกัน

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ความคืบหน้าคดีระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง สอบปากคำผู้บาดเจ็บแล้ว 7 ปาก ตรวจภาพวงจรปิดพบจักรยานยนต์ต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และพบภาพชายต้องสงสัยเดินผ่านหน้าร้านสมบูรณ์โภชนาเมื่อเวลา 12.41 น. เดินมุ่งหน้าไปซอยจุฬา 6 และ 4 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ตรวจดีเอ็นเอกระเดื่องเก็บไว้เปรียบเทียบ

ส่วนคืบหน้าเหตุระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการตรวจดีเอ็นเอจากเสื้อผ้าผู้ก่อเหตุยืนยันชัดเจนเมื่อเทียบกับดีเอ็นเอที่ได้จากผู้ต้องสงสัย สามารถออกหมายจับนายกฤษฎา ไชยแค อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. ข้อหาฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้ประกาศให้เงินรางวัลนำจับ 2 แสนบาท และก่อนหน้านี้ ผบช.น.ได้ตั้งรางวัลนำจับได้ 5 แสนบาท รวมรางวัลนำจับ 7 แสน สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวคนร้ายไปที่บ้านที่ จ.กาญจนบุรี บางบัวทอง คลองเตย ซึ่งได้เบาะแสแต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทั้งนี้การสืบสวนเชื่อว่าเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสารวรีย์ชัยฯ น่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนคืบหน้าคดียิงเอ็ม 79 ศาลอาญา รัชดาภิเษก จากการตรวจภาพวงจรปิดทั้งหมด 23 ตัว และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันขับผ่านมาบริเวณหน้าศาลอาญารัชดาฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชะลอความเร็ว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับเกิดเหตุระเบิดขึ้น ในทางสืบสวนเชื่อว่ายิงเอ็ม 79 จากรถคันดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ได้ประสานให้แฟนพันธุ์แท้มาดูรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อใด ส่วนความคืบหน้าระเบิดหน้าศาลอุทธรณ์และศาลเเพ่ง ยังไม่พบรถต้องสงสัยคาดยิงจากอีกฟากของถนนรัชดาภิเษก แต่ติดต้นไม้ทำให้ไม่ครบวงรอบจึงไม่ระเบิด ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี จากการตรวจวิถีกระสุนทิศทางมาจากแยกประตูน้ำ จัดทีมตรวจอาคารสูงทุกจุด จัดทีมใหญ่สแกนรอบพื้นที่เกิดเหตุ จัดทีมตรวจกล้องวงจรปิดทุกที่ มีการสอบปากคำพยานแล้ว 25 ปาก กองพิสูจน์หลักฐานตรวจอาคารสูง 6 จุดที่จะก่อเหตุได้ คือ โรงแรมโนโวเทล ห้างพาราเดียม ห้างแพลทินัม โรงแรมแกรนด์ไดมอน ชุมชนหลังวัดปทุมวราราม ชุมชนหลังบิ๊กซี ตรวจที่เกิดเหตุ เป็นเครื่องยิงเอ็ม 79 หรือเอ็ม 203 ใช้กระสุนระเบิดขนาด 40 มม. ระยะหวังผล 150 เมตร ระยะยิงไกลสุด 400 เมตร รัศมีระเบิดแผลฉกรรจ์ 5 เมตร รัศมี 400 มีทั้งกระสุนเจาะเกราะ และกระสุนธรรมดา ซึ่งที่บิ๊กซีเป็นกระสุนธรรมดา ขณะยิงจะไม่เกิดเสียง เสียงจะดังเมื่อกระทบเป้าหมาย สามารถยิงจากรถที่วิ่งอยู่ได้

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ความคืบหน้ากราดยิงและระเบิดเวที กปปส.เขาสมิง จ.ตราด มีการสอบปากคำไปแล้ว 26 ปาก ผู้เห็นเหตุการณ์ 6 ปาก ตรวจพบรถปิกอัพ 2 คัน แบ่งชุดทำงานตรวจสอบเส้นทางเข้าเมืองและออกนอกเมือง ยังคงประเด็นไว้ 2 ประเด็นคือ หวังผลการเมือง และประเด็นส่วนตัว กลุ่มที่ 4 คดีอื่นๆ แยกเป็นคดียิงนายสุทิน ที่วัดศรีเอี่ยม คืบหน้าพนักงานสอบปากคำแล้ว 90 ปาก ออกหมายเรียกพยานอีก 12 ปาก อนุมัติหมายจับตามภาพ 1 คนตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส71/2557 ลงวันที่ 25 ก.พ. 2557 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ คืบหน้าเหตุปะทะแยกหลักสี่ ตำรวจได้รวบรวมภาพในที่เกิดเหตุ ขออนุมัติหมายจับ 4 ราย ศาลยกคำร้องให้หาหลักฐานเพิ่ม 1 ราย อีก 3 ราย ศาลนัดฟังวันที่ 11 มี.ค. ส่วนความคืบหน้าเหตุปะทะแยกผ่านฟ้าฯ สอบปากคำพยานแล้ว 16 ปาก ชันสูตรพลิกศพ 5 ตรวจที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนมีการทำภาพจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวกระสุนบางส่วนมีคนเก็บไว้เร่งรัดตรวจพิสูจน์และจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ตำรวจทำงานเต็มที่ รอบคอบ เป็นธรรมโปร่งใส ยึดตามพยานหลักฐาน มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ควบคุมดูแลทั้งหมด และจะมีการประชุมความคืบหน้าทุกคดี ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผบ.ตร.เห็นว่าคดีที่มีความสูญเสียส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระเบิดเอ็ม 79 จึงได้สั่งให้ตั้งชุดพิเศษ 1 ชุดในการติดตามการใช้ระเบิดเอ็ม 79 โดยเฉพาะโดยการระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก บช.น. ตชด. ศชต. และผู้มีความรู้ในเรื่องนี้ มาเป็นชุดพิเศษเชื่อมโยงคดีเข้าด้วยกัน ซึ่งการข่าวพบว่ามีประมาณ 2-3 กลุ่มที่ใช้ระเบิดชนิดนี้ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนหนึ่งคือต้องได้รับการฝึกมาระดับหนึ่งในการใช้อาวุธและต้องมีการประกอบกำลัง ชุดล่วงหน้า ชุดชี้เป้า และชุดยิง ตอนนี้การสืบสวนก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำภารกิจของตำรวจต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นต้องประสานงานให้เข้าที่เกิดเหตุให้ได้เร็วที่สุด ต้องติดตามคนร้ายรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนได้รับทราบ ยังคงมุ่งเน้นการบรารประชาชนด้านต่างๆให้ประชาชนอุ่นในมากที่สุด และขอความร่วมมือผู้ชุมนุมเพราะที่ผ่านมาตำรวจเข้าพื้นที่ไม่ได้ทำให้การรวบรวมพยานหบักฐานไร้ประสิทธิภาพขอให้ความร่วมมือกับตำรวจจะได้คลี่คลายคดีให้ได้ด้วยดี ยืนยันว่าเราเป็นตำรวจโดยอาชีพทุกคดีไม่ว่าผู้กระทำผิดเป็นใครเราก็ดำเนินทุกคดี
(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแแก้ว ผบ.ตร.
กำลังโหลดความคิดเห็น