พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช. แถลงสรุปความคืบหน้าคดีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 เป็นต้นมา รวม 63 คดี และมีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เร่งรัดด้วยตัวเอง โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ 1. คดีที่เกิดขึ้นหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง 2. คดีที่เกิดที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง 3. กลุ่มคดีเกี่ยวกับระเบิด กระจายกันไป เกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ กทม. และที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด 4. คดีอื่นๆ เช่น เหตุปะทะแยกหลักสี่ เหตุยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท.วัดศรีเอี่ยม เหตุปะทะผ่านแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
ทั้งนี้ คดีกลุ่มที่ 1 คดีที่เกิดขึ้นหน้า ม.รามคำแหง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย มีความคืบหน้าแยกเป็น 1. คดีฆ่านายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 56 มีการตรวจสอบคลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุสอบปากคำพยานไปแล้ว 11 ปาก ตรวจที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้าย 2. คดีฆ่าพลทหาร ธนะสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 56 คดีนี้ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว 2 ราย คือนายนภดล แก้วมีจีน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ที่ 6 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับที่ 248/56 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 56 และนายธีรภัทร ทองฤทธิ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246 หมู่ 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตามหมายจับที่ 2484/56 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 56 พร้อมของกลางอาวุธรีวอลเวอร์ขนาด .38 เครื่องกระสุนปืนจำนวน 6 นัด โดยกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. คดีฆ่านายวิโรจน์ เข็มนาค อายุ 43 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.56 คืบหน้าได้มีการสอบพยานไปแล้ว 11 ปาก ตรวจที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนที่อาคารเก่า 4. คดีฆ่านายวิศณุ เภาพู่ อายุ 26 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 56 คืบหน้าสอบสวนพยานแล้ว 8 ปาก ได้รับผลชันสูตรศพแล้วอยู่ระหว่างติดตามสืบสวนอยู่ (5. คดีวางเพลิงเผาทรัพย์นายสุรเดช หรือเจ คำแปง อายุ 17 ปี เสียชีวิต ความคืบหน้าได้สอบสวนพบผู้กระทำผิด 15 คน ออกหมายจับแล้ว 8 คน จับกุมแล้ว 2 คน คือ นายอดิสรน์ หรือต้า สีจันทร์ผ่อง อายุ 29 ปี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี
คดีกลุ่มที่ 2 คดีที่เกิดที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง แยกเป็น 2 คดี คือ กรณีการเสียชีวิตของ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ คืบหน้าสอบปากคำไปแล้ว 9 ปาก กรณีการเสียชีวิตของนายวสุ สุฉันทบุตร คืบหน้ามีการสอบปากคำไปแล้ว 27 ปาก ส่งรายงานชันสูตรพลิกศพให้พนักงานอัยการแล้ว โดยได้มีการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันตำแหน่งผู้ตายและคนร้ายในขณะเกิดเหตุ นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับวิถีกระสุนและยืนยันข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุว่ากระสุนมาจากที่ใด
คดีกลุ่มที่ 3 กลุ่มคดีเกี่ยวกับระเบิด ประกอบด้วย คดีระเบิด 9 คดี คือ คดีระเบิดหน้าบ้าน นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีระเบิดที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด คดีระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง คดีระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คดียิงเอ็ม 79 ศาลอาญา รัชดาฯ คดีระเบิดหน้าศาลอุทธรณ์และศาลแพ่ง คดีระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ คดีระเบิดและกราดยิงผู้ชุมนุม กปปส.ที่ จ.ตราด คดียิงบ้าน นพ.กรกฤษณ์ ชัยเจนจิต
สำหรับความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าบ้าน นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีระเบิดที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดทั้ง 2 คดีสามารถจับภาพจักรยานยนต์ต้องสงสัยได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยให้แฟนพันธุ์แท้มาช่วยวิเคราะห์ว่าเป็นรถรุ่นใดยี่ห้อใด และได้มีการตรวจดีเอ็นเอกระเดื่องที่พบในที่เกิดเหตุไว้แล้วดีเอ็นทั้งสองคดีมีแนวโน้มว่าเป็นคนร้ายชุดเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง สอบปากคำผู้บาดเจ็บแล้ว 7 ปาก ตรวจภาพวงจรปิดพบจักรยานยนต์ต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และพบภาพชายต้องสงสัยเดินผ่านหน้าร้านสมบูรณ์โภชนาเมื่อเวลา 12.41 น. เดินมุ่งหน้าไปซอยจุฬา 6 และ 4 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ตรวจดีเอ็นเอกระเดื่องเก็บไว้เปรียบเทียบ
ส่วนคืบหน้าเหตุระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการตรวจดีเอ็นเอจากเสื้อผ้าผู้ก่อเหตุยืนยันชัดเจนเมื่อเทียบกับดีเอ็นเอที่ได้จากผู้ต้องสงสัย สามารถออกหมายจับนายกฤษฎา ไชยแค อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. ข้อหาฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้ประกาศให้เงินรางวัลนำจับ 2 แสนบาท และก่อนหน้านี้ ผบช.น.ได้ตั้งรางวัลนำจับได้ 5 แสนบาท รวมรางวัลนำจับ 7 แสน สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวคนร้ายไปที่บ้านที่ จ.กาญจนบุรี บางบัวทอง คลองเตย ซึ่งได้เบาะแสแต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทั้งนี้การสืบสวนเชื่อว่าเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสารวรีย์ชัยฯ น่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนคืบหน้าคดียิงเอ็ม 79 ศาลอาญา รัชดาภิเษก จากการตรวจภาพวงจรปิดทั้งหมด 23 ตัว และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันขับผ่านมาบริเวณหน้าศาลอาญารัชดาฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชะลอความเร็ว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับเกิดเหตุระเบิดขึ้น ในทางสืบสวนเชื่อว่ายิงเอ็ม 79 จากรถคันดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ได้ประสานให้แฟนพันธุ์แท้มาดูรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อใด ส่วนความคืบหน้าระเบิดหน้าศาลอุทธรณ์และศาลเเพ่ง ยังไม่พบรถต้องสงสัยคาดยิงจากอีกฟากของถนนรัชดาภิเษก แต่ติดต้นไม้ทำให้ไม่ครบวงรอบจึงไม่ระเบิด ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี จากการตรวจวิถีกระสุนทิศทางมาจากแยกประตูน้ำ จัดทีมตรวจอาคารสูงทุกจุด จัดทีมใหญ่สแกนรอบพื้นที่เกิดเหตุ จัดทีมตรวจกล้องวงจรปิดทุกที่ มีการสอบปากคำพยานแล้ว 25 ปาก กองพิสูจน์หลักฐานตรวจอาคารสูง 6 จุดที่จะก่อเหตุได้ คือ โรงแรมโนโวเทล ห้างพาราเดียม ห้างแพลทินัม โรงแรมแกรนด์ไดมอน ชุมชนหลังวัดปทุมวราราม ชุมชนหลังบิ๊กซี ตรวจที่เกิดเหตุ เป็นเครื่องยิงเอ็ม 79 หรือเอ็ม 203 ใช้กระสุนระเบิดขนาด 40 มม. ระยะหวังผล 150 เมตร ระยะยิงไกลสุด 400 เมตร รัศมีระเบิดแผลฉกรรจ์ 5 เมตร รัศมี 400 มีทั้งกระสุนเจาะเกราะ และกระสุนธรรมดา ซึ่งที่บิ๊กซีเป็นกระสุนธรรมดา ขณะยิงจะไม่เกิดเสียง เสียงจะดังเมื่อกระทบเป้าหมาย สามารถยิงจากรถที่วิ่งอยู่ได้
ความคืบหน้ากราดยิงและระเบิดเวที กปปส.เขาสมิง จ.ตราด มีการสอบปากคำไปแล้ว 26 ปาก ผู้เห็นเหตุการณ์ 6 ปาก ตรวจพบรถปิกอัพ 2 คัน แบ่งชุดทำงานตรวจสอบเส้นทางเข้าเมืองและออกนอกเมือง ยังคงประเด็นไว้ 2 ประเด็นคือ หวังผลการเมือง และประเด็นส่วนตัว กลุ่มที่ 4 คดีอื่นๆ แยกเป็นคดียิงนายสุทิน ที่วัดศรีเอี่ยม คืบหน้าพนักงานสอบปากคำแล้ว 90 ปาก ออกหมายเรียกพยานอีก 12 ปาก อนุมัติหมายจับตามภาพ 1 คนตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส71/2557 ลงวันที่ 25 ก.พ.57 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ คืบหน้าเหตุปะทะแยกหลักสี่ ตำรวจได้รวบรวมภาพในที่เกิดเหตุ ขออนุมัติหมายจับ 4 ราย ศาลยกคำร้องให้หาหลักฐานเพิ่ม 1 ราย อีก 3 ราย ศาลนัดฟังวันที่ 11 มี.ค. ส่วนความคืบหน้าเหตุปะทะแยกผ่านฟ้าฯ สอบปากคำพยานแล้ว 16 ปาก ชันสูตรพลิกศพ 5 ตรวจที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนมีการทำภาพจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวกระสุนบางส่วนมีคนเก็บไว้เร่งรัดตรวจพิสูจน์และจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ ผบ.ตร.เห็นว่าคดีที่มีความสูญเสียส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระเบิดเอ็ม 79 จึงได้สั่งให้ตั้งชุดพิเศษ 1 ชุดในการติดตามการใช้ระเบิดเอ็ม 79 โดยเฉพาะโดยการระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก บช.น. ตชด. ศชต. และผู้มีความรู้ในเรื่องนี้ มาเป็นชุดพิเศษเชื่อมโยงคดีเข้าด้วยกัน ซึ่งการข่าวพบว่ามีประมาณ 2-3 กลุ่มที่ใช้ระเบิดชนิดนี้ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนหนึ่งคือต้องได้รับการฝึกมาระดับหนึ่งในการใช้อาวุธและต้องมีการประกอบกำลัง ชุดล่วงหน้า ชุดชี้เป้า และชุดยิง ตอนนี้การสืบสวนก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้เร่งรัดด้วยตัวเอง โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ 1. คดีที่เกิดขึ้นหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง 2. คดีที่เกิดที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง 3. กลุ่มคดีเกี่ยวกับระเบิด กระจายกันไป เกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ กทม. และที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด 4. คดีอื่นๆ เช่น เหตุปะทะแยกหลักสี่ เหตุยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท.วัดศรีเอี่ยม เหตุปะทะผ่านแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
ทั้งนี้ คดีกลุ่มที่ 1 คดีที่เกิดขึ้นหน้า ม.รามคำแหง มีผู้เสียชีวิต 5 ราย มีความคืบหน้าแยกเป็น 1. คดีฆ่านายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 56 มีการตรวจสอบคลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุสอบปากคำพยานไปแล้ว 11 ปาก ตรวจที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้าย 2. คดีฆ่าพลทหาร ธนะสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 56 คดีนี้ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว 2 ราย คือนายนภดล แก้วมีจีน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ที่ 6 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับที่ 248/56 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 56 และนายธีรภัทร ทองฤทธิ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246 หมู่ 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตามหมายจับที่ 2484/56 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 56 พร้อมของกลางอาวุธรีวอลเวอร์ขนาด .38 เครื่องกระสุนปืนจำนวน 6 นัด โดยกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. คดีฆ่านายวิโรจน์ เข็มนาค อายุ 43 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.56 คืบหน้าได้มีการสอบพยานไปแล้ว 11 ปาก ตรวจที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนที่อาคารเก่า 4. คดีฆ่านายวิศณุ เภาพู่ อายุ 26 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 56 คืบหน้าสอบสวนพยานแล้ว 8 ปาก ได้รับผลชันสูตรศพแล้วอยู่ระหว่างติดตามสืบสวนอยู่ (5. คดีวางเพลิงเผาทรัพย์นายสุรเดช หรือเจ คำแปง อายุ 17 ปี เสียชีวิต ความคืบหน้าได้สอบสวนพบผู้กระทำผิด 15 คน ออกหมายจับแล้ว 8 คน จับกุมแล้ว 2 คน คือ นายอดิสรน์ หรือต้า สีจันทร์ผ่อง อายุ 29 ปี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี
คดีกลุ่มที่ 2 คดีที่เกิดที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง แยกเป็น 2 คดี คือ กรณีการเสียชีวิตของ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ คืบหน้าสอบปากคำไปแล้ว 9 ปาก กรณีการเสียชีวิตของนายวสุ สุฉันทบุตร คืบหน้ามีการสอบปากคำไปแล้ว 27 ปาก ส่งรายงานชันสูตรพลิกศพให้พนักงานอัยการแล้ว โดยได้มีการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันตำแหน่งผู้ตายและคนร้ายในขณะเกิดเหตุ นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับวิถีกระสุนและยืนยันข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุว่ากระสุนมาจากที่ใด
คดีกลุ่มที่ 3 กลุ่มคดีเกี่ยวกับระเบิด ประกอบด้วย คดีระเบิด 9 คดี คือ คดีระเบิดหน้าบ้าน นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีระเบิดที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด คดีระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง คดีระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คดียิงเอ็ม 79 ศาลอาญา รัชดาฯ คดีระเบิดหน้าศาลอุทธรณ์และศาลแพ่ง คดีระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ คดีระเบิดและกราดยิงผู้ชุมนุม กปปส.ที่ จ.ตราด คดียิงบ้าน นพ.กรกฤษณ์ ชัยเจนจิต
สำหรับความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าบ้าน นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีระเบิดที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดทั้ง 2 คดีสามารถจับภาพจักรยานยนต์ต้องสงสัยได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยให้แฟนพันธุ์แท้มาช่วยวิเคราะห์ว่าเป็นรถรุ่นใดยี่ห้อใด และได้มีการตรวจดีเอ็นเอกระเดื่องที่พบในที่เกิดเหตุไว้แล้วดีเอ็นทั้งสองคดีมีแนวโน้มว่าเป็นคนร้ายชุดเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง สอบปากคำผู้บาดเจ็บแล้ว 7 ปาก ตรวจภาพวงจรปิดพบจักรยานยนต์ต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และพบภาพชายต้องสงสัยเดินผ่านหน้าร้านสมบูรณ์โภชนาเมื่อเวลา 12.41 น. เดินมุ่งหน้าไปซอยจุฬา 6 และ 4 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ตรวจดีเอ็นเอกระเดื่องเก็บไว้เปรียบเทียบ
ส่วนคืบหน้าเหตุระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการตรวจดีเอ็นเอจากเสื้อผ้าผู้ก่อเหตุยืนยันชัดเจนเมื่อเทียบกับดีเอ็นเอที่ได้จากผู้ต้องสงสัย สามารถออกหมายจับนายกฤษฎา ไชยแค อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. ข้อหาฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้ประกาศให้เงินรางวัลนำจับ 2 แสนบาท และก่อนหน้านี้ ผบช.น.ได้ตั้งรางวัลนำจับได้ 5 แสนบาท รวมรางวัลนำจับ 7 แสน สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวคนร้ายไปที่บ้านที่ จ.กาญจนบุรี บางบัวทอง คลองเตย ซึ่งได้เบาะแสแต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทั้งนี้การสืบสวนเชื่อว่าเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสารวรีย์ชัยฯ น่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนคืบหน้าคดียิงเอ็ม 79 ศาลอาญา รัชดาภิเษก จากการตรวจภาพวงจรปิดทั้งหมด 23 ตัว และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันขับผ่านมาบริเวณหน้าศาลอาญารัชดาฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชะลอความเร็ว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับเกิดเหตุระเบิดขึ้น ในทางสืบสวนเชื่อว่ายิงเอ็ม 79 จากรถคันดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ได้ประสานให้แฟนพันธุ์แท้มาดูรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อใด ส่วนความคืบหน้าระเบิดหน้าศาลอุทธรณ์และศาลเเพ่ง ยังไม่พบรถต้องสงสัยคาดยิงจากอีกฟากของถนนรัชดาภิเษก แต่ติดต้นไม้ทำให้ไม่ครบวงรอบจึงไม่ระเบิด ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี จากการตรวจวิถีกระสุนทิศทางมาจากแยกประตูน้ำ จัดทีมตรวจอาคารสูงทุกจุด จัดทีมใหญ่สแกนรอบพื้นที่เกิดเหตุ จัดทีมตรวจกล้องวงจรปิดทุกที่ มีการสอบปากคำพยานแล้ว 25 ปาก กองพิสูจน์หลักฐานตรวจอาคารสูง 6 จุดที่จะก่อเหตุได้ คือ โรงแรมโนโวเทล ห้างพาราเดียม ห้างแพลทินัม โรงแรมแกรนด์ไดมอน ชุมชนหลังวัดปทุมวราราม ชุมชนหลังบิ๊กซี ตรวจที่เกิดเหตุ เป็นเครื่องยิงเอ็ม 79 หรือเอ็ม 203 ใช้กระสุนระเบิดขนาด 40 มม. ระยะหวังผล 150 เมตร ระยะยิงไกลสุด 400 เมตร รัศมีระเบิดแผลฉกรรจ์ 5 เมตร รัศมี 400 มีทั้งกระสุนเจาะเกราะ และกระสุนธรรมดา ซึ่งที่บิ๊กซีเป็นกระสุนธรรมดา ขณะยิงจะไม่เกิดเสียง เสียงจะดังเมื่อกระทบเป้าหมาย สามารถยิงจากรถที่วิ่งอยู่ได้
ความคืบหน้ากราดยิงและระเบิดเวที กปปส.เขาสมิง จ.ตราด มีการสอบปากคำไปแล้ว 26 ปาก ผู้เห็นเหตุการณ์ 6 ปาก ตรวจพบรถปิกอัพ 2 คัน แบ่งชุดทำงานตรวจสอบเส้นทางเข้าเมืองและออกนอกเมือง ยังคงประเด็นไว้ 2 ประเด็นคือ หวังผลการเมือง และประเด็นส่วนตัว กลุ่มที่ 4 คดีอื่นๆ แยกเป็นคดียิงนายสุทิน ที่วัดศรีเอี่ยม คืบหน้าพนักงานสอบปากคำแล้ว 90 ปาก ออกหมายเรียกพยานอีก 12 ปาก อนุมัติหมายจับตามภาพ 1 คนตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส71/2557 ลงวันที่ 25 ก.พ.57 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ คืบหน้าเหตุปะทะแยกหลักสี่ ตำรวจได้รวบรวมภาพในที่เกิดเหตุ ขออนุมัติหมายจับ 4 ราย ศาลยกคำร้องให้หาหลักฐานเพิ่ม 1 ราย อีก 3 ราย ศาลนัดฟังวันที่ 11 มี.ค. ส่วนความคืบหน้าเหตุปะทะแยกผ่านฟ้าฯ สอบปากคำพยานแล้ว 16 ปาก ชันสูตรพลิกศพ 5 ตรวจที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนมีการทำภาพจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวกระสุนบางส่วนมีคนเก็บไว้เร่งรัดตรวจพิสูจน์และจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ ผบ.ตร.เห็นว่าคดีที่มีความสูญเสียส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระเบิดเอ็ม 79 จึงได้สั่งให้ตั้งชุดพิเศษ 1 ชุดในการติดตามการใช้ระเบิดเอ็ม 79 โดยเฉพาะโดยการระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก บช.น. ตชด. ศชต. และผู้มีความรู้ในเรื่องนี้ มาเป็นชุดพิเศษเชื่อมโยงคดีเข้าด้วยกัน ซึ่งการข่าวพบว่ามีประมาณ 2-3 กลุ่มที่ใช้ระเบิดชนิดนี้ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนหนึ่งคือต้องได้รับการฝึกมาระดับหนึ่งในการใช้อาวุธและต้องมีการประกอบกำลัง ชุดล่วงหน้า ชุดชี้เป้า และชุดยิง ตอนนี้การสืบสวนก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว