ห้องหุ่น ตอนที่ 12
พรรณรายยืนแอบฟังอยู่หน้าห้องครัว
"อัมอยากขอบคุณพี่อาร์ตมากๆค่ะสำหรับเรื่องวันนี้"
พรรณรายค่อยๆยื่นหน้าไปแอบดู เห็นสันติยืนอยู่ตรงหน้าอัมรา
"ถ้าไม่ได้พี่อาร์ตมาช่วยอัมคงแย่แน่ๆ"
สันติก้าวเข้าไปหาอัมรา พรรณรายจ้องตาไม่กระพริบ สีหน้าระแวงมาก
สันติหยุดชะงักแค่ตรงหน้าอัมรา
"ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ใครเป็นพี่เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว ยิ่งเป็นน้องอัมพี่ยิ่งต้องช่วยต่อให้แลกด้วยชีวิตพี่ก็ต้องทำ"
อัมรายิ้มดีใจ
"พี่อาร์ต"
พรรณรายเม้มปาก กำมือแน่น ไม่พอใจ ทำท่าจะก้าวเข้าไป สันติพูดต่อ พรรณรายชะงัก
"เพราะน้องอัมเป็นน้องสาวของคนที่พี่รักที่สุด"
พรรณรายชะงักสีหน้าดีขึ้น ถอยกลับยืนที่เดิมยิ้มพอใจ อัมราอึ้งมองสันติอย่างผิดหวัง น้อยใจ
"พี่อาร์ต"
สันติมองอัมราอย่างเข้าใจ
"พี่รู้ว่าแต่ก่อนพี่ทำเหมือนชอบน้องอัม แต่พี่เพิ่งรู้ตัวว่าพี่ชอบน้องอัมแบบน้องสาว พี่ต้องขอโทษจริงๆ"
อัมราน้ำตาจะไหลรีบหันข้างให้ เสียงสั่น
"ช่างเถอะค่ะ..ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ถ้าพี่อาร์ตรักพี่พรรณจริงๆอัมก็ดีใจด้วย"
"แต่พี่สัญญานะว่าพี่จะดูแลน้องอัมให้เหมือนน้องสาวคนหนึ่งเลยทีเดียว"
อัมราข่มใจได้แล้วหันมาเผชิญหน้า พูดเด็ดเดี่ยว
"ไม่ต้องรบกวนขนาดนั้นหรอกค่ะ อัมดูแลตัวเองได้"
อัมรารีบเดินเลี่ยงออกจากห้องครัว พรรณรายรีบหลบเข้าหลังประตูยิ้มถอนใจโล่งอก
สันติหลับตาข่มใจไม่ให้ตามอัมราออกไป พึมพำ
"น้องอัมครับพี่ขอโทษ"
พรรณรายเดินออกมาหน้าบ้าน เห็นรถเสี่ยกวงเข้ามาจอด พรรณรายเห็นเสี่ยกวงลงจากรถ เข้ามาหาร้อนใจ เสี่
"สวัสดีคัก ผงเพิ่งกลับจากฮ่องกงรู้ข่าวว่าอาคุณเดชตายแล้ว ผงตกใจมากๆเลยรีบมาแสดงความเสียจาย"
พรรณรายมองรำคาญ
"เสี่ยไม่น่าต้องลำบากมาก็ได้ค่ะ นี่ก็สวดเสร็จแล้ว ขอบคุณนะคะที่มา"
พรรณรายทำท่าจะเลี่ยงเข้าบ้าน เสี่ยรีบขวางไว้
"อาคือผงมีอีกเลื่องอยากจะคุยกับคุณพรรณราย"
พรรณมองแปลกใจ
"เรื่องอะไร"
"คือก่อนอาคุณเดชตายผมเคยมาคุยเรื่องเอ้อเรื่องหุ่นในห้องหุ่น"
"ทำไมคะ"
"ผงอยากซื้อหุ่นพวกนั้น"
พรรณรำคาญ
"ฉันคงไม่ขายหรอกค่ะ เพราะคุณพ่อเคยสั่งไว้แล้วว่าห้ามใครขายหุ่น"
"แหมแต่ผมอยากได้จิงๆครับ"
พรรณรายรำคาญกำลังจะตัดบท
"ถ้าเสี่ยอยากได้ก็ควรจะคุยกับฉันน่าจะดีกว่า"
พรรณกับเสี่ยหันไปมอง เสี่ยแปลกใจ
"อาคุณพิไล"
"คุณแม่."
เสี่ยงงหนักกว่า เดิมพึมพำ
"คุงแม่เหรอ"
พิไลมองพรรณราย พูดเชิงสั่ง
"เรื่องนี้แม่จะเป็นคนจัดการเองจ้ะ"
พรรณตอบรับอย่างว่าง่าย
"ค่ะคุณแม่"
เสี่ยอึ้ง พิไลยืนยิ้มวางท่าสง่าเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน
"เชิญเสี่ยข้างในดีกว่ามั้ยคะเพราะเราคงต้องคุยกันนาน"
เสี่ยกระตือรื้นร้น
"ลีคักลี"
สันติรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่เห็นพรรณรายเอาแต่นั่งจ้องตัวเอง กำลังจะถาม
พรรณรายก็หัวเราะขึ้นก่อน สันติยิ่งแปลกใจมาก
"คุณพรรณขำอะไรครับ"
"ขำตัวเองนะสิคะ"
สันติงงมากขึ้น พรรณรายรีบอธิบาย
"พรรณระแวงอาร์ตได้ยังไงก็ไม่รู้"
"ระแวงผม"
"ค่ะก็คุณแม่พิไลนะสิคะเตือนพรรณเรื่องอาร์ตกับยัยอัม พรรณเกือบจะเชื่อแล้วเชียว โชคดีนะที่พรรณบังเอิญไปได้ยินอาร์ตคุยกับยัยอัมเมื่อกี้"
สันติตกใจ
"คุณพรรณตามผมไปเหรอครับ"
"ค่ะพรรณอยากรู้ว่าอาร์ตคิดยังไงกันแน่ แต่ตอนนี้พรรณเชื่อแล้วละคะว่าอาร์ตนะรักพรรณจริงๆ"
พรรณเข้ามาคล้องแขน ซบหน้าอย่างประจบ
"ขอโทษนะคะที่พรรณระแวงอาร์ต"
สันติยิ้มแอบถอนใจโล่งอก
"ไม่เป็นไรครับ"
เสียงอัมราดังออกมากจากในบ้าน
"ไม่ค่ะเป็นตายยังไงอัมก็ไม่ยอม"
สันติตกใจ พรรณรายหันไปมองทางเสียงในบ้าน อย่างรำคาญ
"เฮ้อยัยอัมก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ"
พรรณทำหน้าเบื่อๆ
สันติกับพรรณเข้ามานห้องรับแขก เห็นพิไลนั่งอยู่กับเสี่ยกวง อัมรายืนอยู่สีหน้าไม่พอใจ
อัมราเห็นพรรณราย รีบบอก
"พี่พรรณคะ น้าพิไลจะขายหุ่นในห้องหุ่นค่ะ"
สันติตกใจ พรรณมองเฉยเมย
"ที่เธอเสียงดังลั่นบ้านเพราะเรื่องแค่เนี่ยเหรอ"
อัมราเข้ามาหาพี่สาว ถามอย่างไม่อยากเชื่อ
"เรื่องแค่นี่..พี่พรรณอย่าบอกนะคะว่าพี่พรรณก็เห็นดีด้วย"
"ตอนนี้เรื่องทุกอย่างในบ้านฉันยกหน้าที่ให้คุณแม่พิไลเป็นคนจัดการ ถ้าคุณแม่อยากจะขายฉันก็ขาย"
"เรื่องอื่นอัมยอมได้แต่เรื่องหุ่นของคุณพ่ออัมไม่มีวันยอม คุณพ่อรักหุ่นทุกตัวเหมือนญาติคุณพ่อทุ่มเทชีวิตและจิตใจปั้นขึ้นมา อัมจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องหุ่นของคุณพ่อเด็ดขาด"
อัมราจริงจังจนทุกคนอึ้ง อัมราออกไปจากห้อง เสี่ยกวงร้อนใจ
"อาคุงพิไล ดูท่าจะมีปัญหาแล้วมั้งคับ"
พิไลตาวาวโกรธมาก
"เสี่ยไม่ต้องห่วง ไม่มีใครหน้าไหนจะมาขวางฉันได้ทั้งนั้น เสี่ยไปเตรียมเงินไว้เลย"
เสี่ยดีใจ
"อ๋อๆๆๆคับๆๆ"
สันติมองท่าทางเอาเรื่องของพิไลอย่างไม่สบายใจ
ในห้องหุ่น อัมรากอดหุ่นเดชร้องไห้
"คุณพ่อขาอัมไม่เข้าใจพี่พรรณเลย"
อัมรามองไปที่หุ่นอารีย์ เดินไปกอดไว้
"ทำไมพี่พรรณถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"
วิญญาณอารีย์และเดชที่ซ้อนอยู่ในหุ่นมองอัมราอย่างปวดร้าว
"อัมรา พ่อขอโทษที่พ่อไม่สามารถช่วยลูกได้เลย"
"ลูกอัมของแม่..โธ่"
อัมเดินไปดูหุ่นทีละตัวลูบเบามืออย่างรักมาก ร้องไห้ไปด้วยอย่างคับแค้นใจ
"ต่อให้อัมต้องตาย..อัมก็จะไม่ยอมให้ใครมาเอาหุ่นไปเด็ดขาด"
อารีย์ตกใจ
"อย่าพูดแบบนั้นลูกอัม"
อัมราเดินกลับไปกอดหุ่นอารีย์ร้องไห้เสียใจมาก
"คุณแม่ขาช่วยบอกอัมหน่อยได้มั้ยคะ ว่าอัมควรจะทำยังไงดี..อัม..อัมไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว"
อัมราร้องไห้เสียใจ ที่บันไดสันติแอบมองลงมาที่อัมราอย่างสงสารจับใจ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ สันติเครียด
อาทรเปิดประตูรั้วบ้านออกมา สันติยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ อาทรมองซ้ายขวา รีบเข้าไปหา"มีอะไรด่วนเหรออาร์ต"
"น้องอัมกำลังแย่ ฉันออกหน้าก็ไม่ได้เห็นจะมีแต่นายเท่านั้นที่จะช่วยน้องอัมได้"
"บอกมาเลยจะให้ฉันช่วยยังไง"
อาทรกระตื้อรื้อร้น สันติมองอย่างพอใจ
ในห้องนั่งเล่นบ้านอาทร ดำเกิงกับบุญเรือนตกใจ
"แม่พิไลนี่จะมากเกินไปแล้วนะ"
"นั่นสิ..รู้ทั้งรู้ว่าคุณเดชรักหุ่นพวกนั้นมากจะขายทำไม เดือดร้อนเงินทองหรือก็เปล่า"
"ผมคิดว่าคงตั้งใจจะแกล้งน้องอัม ตอนนี้น้องอัมก็ยืนยันเด็ดขาดว่าจะไม่ยอมให้ขายครับ"
บุญเรือนเข้าใจ
"คิดจะหาเรื่องกันละสิ เรื่องนี้เราจะทำเฉยไม่ได้นะคะคุณ ตอนนี้หนูอัมกับตาอ๊อดก็ไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้ว"
"ผมรู้.. แต่เราไปพูดก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ครั้งก่อนพรรณรายยังไม่ฟังผมเลย"
อาทรร้อนใจ
"เราไม่มีทางทำอะไรได้เลยเหรอครับ"
"ตอนนี้มันเป็นแค่เรื่องภายในครอบครัว ว่ากันตามจริงเราก็เป็นแค่คนอื่นจะไปก้าวก่ายมากก็ไม่ได้"
ดำเกิงคิดหนัก
"นอกจากพิไลกับพรรณรายจะทำอะไรที่เป็นการละเมิดสิทธิของอัมรา ถึงตอนนั้นพ่อคงจะใช้กฎหมายเข้าไปช่วยได้"
อาทรเครียด ดำเกิงตบบ่าอาทรอย่างเข้าใจ
"ใจเย็นๆเชื่อพ่อสิว่าคนอย่างพิไลต้องคิดจะทำอะไรมากกว่านี้แน่"
อาทรพยักหน้าเข้าใจ แต่ยังมีท่าทางห่วงอัมรามาก บุญเรือนมองอย่างรู้ใจ
วิญญาณที่ซ้อนอยู่ในหุ่นแต่ละตัวมีปฏิกิริยาทันทีที่เห็นพิไลเข้ามาในห้องหุ่น เทิดตามมาด้วย "เจ็บใจจริงๆ ที่ทำอะไรผู้หญิงคนนี้ไม่ได้" สมศรีบอก
"นั่นสิ..พวกเราไม่น่าปล่อยพิไลไปเลย เหมือนปล่อยงูพิษชัดๆในที่สุดก็กลับมาแว้งกัดจนได้" พรรณีบอก
พิไลมองหุ่นแต่ละตัวอย่างเยาะเย้ย พูดเสียงดัง
"รู้แล้วใช่มั้ยว่าฉันกำลังจะขายพวกแกไป ยืนทื่ออยู่ทำไม ทำไมไม่ออกมาเล่นงานฉันอีกล่ะ"
วิญญาณที่ซ้อนอยู่ในหุ่นทุกตัว ต่างมีท่าทางเจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้
พิไลหันไปสั่งเทิด
"ถ้าพี่เวทย์กลับมาเมื่อไร พี่รีบไปบอกให้พี่เวทย์มาจัดการกับวิญญาณที่สิงอยู่ในหุ่นพวกนี้ซะก่อนที่ฉันจะขายหุ่นให้กับเสี่ย"
"ได้จ้ะ อีกสองสามวันพี่จะไปดูที่บ้าน"
พิไลเดินไปยืนต่อหน้าเดช
"วิญญาณพี่คงแค้นฉันมากละสิ เธอก็ด้วยใช่มั้ยอารีย์ แต่ให้แค้นยังไงก็ไม่มีปัญญาจะทำอะไรฉันได้"
ห้องหุ่น ตอนที่ 12 (ต่อ)
พิไลหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ
"ตั้งแต่พรุ่งนี้ฉันจะเล่นงานนังลูกสาวตัวดีของเธอให้เธอได้เห็น เธอคงจะเจ็บปวดทุรนทุรายที่ช่วยลูกไม่ได้ รู้ไว้เถอะว่ายิ่งเธอเจ็บปวดเท่าไรฉันยิ่งสะใจเท่านั้นฮ่ะๆๆ"
วิญญาณอารีย์ตะโกนโต้ตอบอย่างเจ็บปวด
"ฉันไปทำอะไรให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจหนักหนา ทำไมต้องมาทำร้ายฉันมาทำร้ายลูกของฉันด้วยพิไล...ทำไม"
พิไลไม่ได้ยิน มองอารีย์อย่างเยาะหยัน ก่อนเดินออกไปจากห้องหุ่นอย่างผู้ชนะ เทิดตามไปติดๆ
วิญญาณอารีย์ร้องไห้สะเทือนใจ เดชกลัดกลุ้ม หุ่นทุกตัวต่างมีท่าทางร้อนใจ
เช้าวันใหม่ ในห้องนอน อัมรานอนห่มผ้าหลับสนิท พิไลเข้ามากระชากผ้าห่มออกอย่างแรง
จนอัมราสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นนั่งมองงงๆ
"อะไรกันคะน้าพิไล"
"จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือยังไง ตื่นได้แล้ว"
อัมราหันไปมองนาฬิกาปลุกหัวเตียงบอกเวลาตีห้า เห็นอ๊อดนอนอยู่ที่เตียงพรรณราย
"นี่เพิ่งจะตีห้าเองนะคะ"
"ตีห้าก็ต้องตื่น อย่าลืมสิว่าบ้านนี้ไม่มีคนรับใช้อีกแล้ว รีบลุกขึ้นไปเตรียมอาหารเช้า"
อัมรายังนั่งนิ่งอึ้ง พิไลมองหมั่นไส้
"ถ้าเธอไม่อยากจะทำก็ไม่เป็นไร ฉันกับยัยพรรณออกไปกินข้างนอกก็ได้ ปล่อยให้น้องชายเธออดไปก็แล้วกัน"
พิไลเดินลอยชายออกไป อัมราหันไปมองอ๊อดยังหลับสนิท ถอนใจ ลุกขึ้นไปนั่งข้างๆอ๊อด ลูบผมเบาๆอย่างสงสาร ก่อนตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอน เดินออกไปจากห้อง
อัมราเตรียมอาหารอยู่ในครัวคนเดียวอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่คล่องแคล่ว อัมทอดไข่ดาว
ไส้กรอก ปิ้งขนมปัง พิไลแอบดูอยู่อย่างสะใจ
"นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นนังอัมราแกยังต้องชดใช้ให้แม่แกอีกเยอะ"
อัมรายังทำอาหารเช้าอย่างแข็งขัน ไม่รู้ตัวว่าพิไลมาแอบดูอยู่
อาหารเช้าพร้อมอยู่บนโต๊ะ พิไล พรรณราย เทิด นั่งอยู่แล้ว อ๊อดเพิ่งเดินเข้ามานั่งยิ้มดีใจ "โอโหไข่ดาว ไส้กรอกน่ากินจัง ใครทำนะครับ น้าชิ้นก็ไม่อยู่แล้วนี่"
อัมราเดินถือถาดใส่กาแฟเข้ามาทัก
"ตื่นแล้วเหรอจ้ะอ๊อด"
"ครับ นี่พี่อัมทำอาหารเช้าเองเหรอครับ"
"จ้ะ"
พิไลมองสบตากับเทิดอย่างรู้กัน เทิดโวย
"อะไรกัน มีแต่ไส้กรอกไข่ดาว"
เทิดหยิบขนมปังมามองแล้วโยนคืนใส่จาน
"ขนมปังนี่มันจะอยู่ท้องอะไร พิไลพี่เคยกินแต่ข้าวขอเป็นข้าวได้มั้ย"
พิไลมองอัมรา
"ไปหุงข้าวให้ลุงเค้าหน่อย อาหารฝรั่งแบบนี้ลุงเค้าไม่เคยกิน"
อัมราอึ้งๆ อ๊อดโวย
"พี่อัมไม่ใช่คนรับใช้นะครับ ถ้าลุงเทิดอยากกินข้าวก็ไปหุงเองสิ"
เทิดหันไปตบหัวอ๊อด
"ไอ้เด็กบ้านี่ วอนซะแล้ว"
อ๊อดร้องไห้ อัมรารีบเข้ามากอด
"ทำไมต้องทำร้ายอ๊อดด้วย"
"ก็มันปากเสีย"
"ยังไงลุงเทิดก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายอ๊อดแบบนี้"
พรรณรายโวยขึ้นมาอย่างรำคาญ
"โอ๊ยอะไรกันนักหนาเนี่ย ต่อปากต่อคำอยู่ได้ เธอไปทำให้ลุงเทิดซะก็หมดเรื่อง"
อัมรามองพรรณอย่างผิดหวัง
"อัมก็ทำให้แล้วนะคะ ถ้าอยากทานอะไรที่นอกเหนือจากนี้ก็คงต้องทำเอง"
อัมท่าทางเอาจริง พรรณรายมองพิไล พิไลสบตาเทิดมองไปที่จานอ๊อด
เทิดเข้าใจ หันไปคว้าจานอ๊อดมาเทไส้กรอก ไข่ดาวใส่จานตัวเองหน้าตาเฉย
"ไม่ต้องทำก็ได้ เอาของไอ้อ๊อดมา ฉันจะกินเอง ปากดีนักก็ไม่ต้องกิน"
เทิดลงมือกิน อ๊อดโวย
"แล้วอ๊อดจะกินอะไรล่ะ"
อัมรามองเจ็บใจ แต่ข่มไว้ หยิบจานของตัวเองมาให้อ๊อด พูดเรียบๆ
"อ๊อดกินของพี่ก็ได้จ้ะพี่ยังไม่หิว พี่ไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ"
อัมราลูบหัวอ๊อด ก่อนเดินออกไป พิไล พรรณราย เทิดยิ้มให้กันอย่างสะใจ
พรรณรายแต่งชุดไปเที่ยวเดินออกมาจากบ้านกับพิไล พรรณรายดีใจเห็นสันติยืนหันหลังรออยู่
"อาร์ต"
สันติหันกลับมา ไหว้พิไล ยิ้มให้พรรณรายก่อนทำหน้าแปลกใจ
"ทำไมคุณพรรณแต่งตัวแบบนี้ล่ะครับ ไหนว่าจะให้ผมไปส่งที่มหาลัย"
"พรรณเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เช้านี้อารมณ์ไม่ค่อยดี เลยขอคุณแม่หยุดวันหนึ่ง เราไปเที่ยวกันดีกว่านะ"
สันติอึ้ง แต่รีบยิ้ม
"ตามใจคุณพรรณสิครับ"
พรรณคล้องแขนสันติ ซบหน้าประจบ
"อาร์ตน่ารักที่สุดในโลกเลย"
อัมราแต่งชุดนักศึกษา เดินออกมามองสันติ พรรณราย พิไล แล้วทำท่าจะเลี่ยงไปเรียน
พิไลกระชากเสียงถาม
"จะไปไหนอัมรา"
"ไปเรียนค่ะ
"ไม่ต้องไป"
อัมราหันมามองงๆ พิไลเน้น
"เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ตั้งแต่วันนี้เธอไม่ต้องไปเรียนอีกแล้ว"
สันติตกใจ แต่ฝืนนิ่งไว้ อัมรามองพิไลอย่างไม่ยอมเหมือนกัน
"ทำไมคะ ทำไมอัมจะไปเรียนไม่ได้"
"เพราะว่าตอนนี้บ้านเราไม่มีรายได้อะไร เราต้องช่วยกันประหยัด ตัดรายจ่ายอะไรได้เราก็ต้องตัด"
"อัมรู้ค่ะว่าตอนนี้ไม่มีรายได้ แต่เงินที่คุณพ่อคุณแม่สะสมไว้ก็เชื่อว่าน่าส่งลูกๆทุกคนเรียนได้จนจบ ถ้าไม่มีใครมาช่วยใช้"
พิไลเต้น
"นี่แกจะว่าฉันใช่มั้ย"
พรรณรายเดินไปตรงหน้า ตบหน้าเต็มแรง อัมราอึ้งมองอย่างผิดหวัง สันติพูดไม่ออก
"นี่คือโทษที่กล้าพูดจาก้าวร้าวคุณแม่ ได้ถ้าเธออยากจะเรียนก็เรียนไปฉันจะให้ตาอ๊อดเป็นคนออกมาเอง"
อัมราตกใจ
"ไม่นะคะพี่พรรณ"
"งั้นเธอก็ต้องเป็นคนที่เสียสละ ให้เค้าตัดสินใจเองก็แล้วกันคะคุณแม่ พรรณจะออกไปกับอาร์ตนะคะ"
พิไลยิ้มหวาน
"จ้ะ"
สันติรีบบอกพรรณ
"เอ้อ...ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่ได้มั้ยครับ"
"ได้สิคะงั้นพรรณรอตรงนี้นะ"
"ครับ"
สันติรีบเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้อัมรา เผชิญหน้าอยู่กับพิไล พรรณราย อัมรามองตามสันติอย่างผิดหวัง
สันติรีบเข้ามา เดินไปที่โทรศัพท์บ้าน สันติมองซ้ายมองขวา ไม่มีใคร
"ออย..นี่ฉันเอง"
สันติกระซิบกลัวใครได้ยิน จนกระซิบสรุป
"นายต้องรีบหาทางช่วยน้องอัมนะ ไม่งั้นน้องอัมแย่แน่ ขอบใจมาก แค่นี้ก่อนนะ"
สันติรีบวางโทรศัพท์ สันติหันกลับมาตกใจ อ๊อดมองอยู่อย่างสงสัย
"อ๊อด"
"อ๊อดคิดว่าพี่อาร์ตอยู่ข้างพี่พรรณซะอีก"
สันติตกใจมองซ้ายขวารีบดึงตัวอ๊อดมากระซิบ
"อ๊อดครับสัญญากับพี่ได้มั้ยว่าจะไม่บอกใครเรื่องนี้"
อ๊อดมองไม่เข้าใจ
"ทำไมครับ ถ้าพี่อาร์ตอยากช่วยพี่อัมทำไมต้องทำแบบนี้ อ๊อดหลงไม่ชอบพี่อาร์ตด้วยนะ"
"คือเรื่องมันยาว แต่พี่รับรองว่าพี่นะอยู่ข้างเดียวกับน้องอัมกับอ๊อดครับ ไว้ให้พี่ช่วยได้สำเร็จก่อนแล้วพี่จะบอกอ๊อดเป็นคนแรกเลยว่าทำไมพี่ต้องทำแบบนี้"
อ๊อดยังแปลกใจ สันติยื่นมือไปตรงหน้า
"สัญญากันแบบลูกผู้ชายนะครับจะเป็นความลับระหว่างเราสองคน ตกลงมั้ย"
อ๊อดพยักหน้ายื่นมือออกไปจับมือกับสันติ
"ตกลงครับแค่รู้ว่าพี่อาร์ตอยู่ข้างเดียวกับเราอ๊อดก็ดีใจแล้ว"
สันติเขย่ามืออ๊อด ก่อนถอนใจโล่งอก
อัมรานั่งเศร้า คิดหนัก เสียงพรรณรายเข้ามาในความคิด
"ได้ถ้าเธออยากจะเรียนก็เรียนไป ฉันจะให้ตาอ๊อดออกมาเอง งั้นเธอก็ต้องเป็นคนที่เสียสละ"
อัมราน้ำตาไหล
"ความจริงนังพิไลกับหนูพรรณก็ใจร้ายไปหน่อยนะ"
อัมราสะดุ้ง รีบเช็ดน้ำตาหันมามอง เทิดเดินเข้ามาในศาลา อัมรีบลุกขึ้นจะออกไป เทิดกางแขนขวางไว้
"ทำไมเห็นลุงต้องทำท่าอย่างกับเห็นผี ลุงมาดีนะ"
อัมรามองระแวง เทิดจริงจัง
"ลุงเองเกะกะเกเรก็เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ ลุงอยากให้หนูกับน้องได้เรียนหนังสือต่อ"
อัมราดีใจ
"จริงเหรอคะ"
"จริงสิ..บอกตรงๆที่พิไลมันไม่ให้หนูกับน้องเรียนก็เพราะอยากจะแกล้งนั่นแหละ แต่นังพิไลยังไงๆมันก็ไม่กล้ากับลุง เอาอย่างนี้นะลุงจะช่วยพูดให้ดีมั้ยล่ะ"
อัมรามองอย่างไม่ค่อยไว้ใจ เทิดหนักแน่น
"ลุงพูดจริงๆ ถ้าลุงออกหน้ารับรองหนูกับน้องต้องได้เรียนต่อแน่ๆ"
อัมราลังเล แต่แล้วตัดสินใจยกมือไหว้
"ถ้าลุงเทิดช่วยพูดให้จริงๆอัมก็ต้องขอบคุณมากค่ะ"
เทิดยิ้มมีเลศนัย
"ไฮ้ขอบคุณอย่างเดียวได้ยังไง ลุงช่วยหนูอัม หนูก็ต้องช่วยลุงสิ"
"จะให้อัมทำอะไรละคะ ถ้าอัมทำได้อัมก็จะทำ"
เทิดกระซิบ
"หนูอัมยอมเป็นเมียลุงสิ ลุงรับรองจะออกหน้าให้ทุกอย่างเลย"
เทิดยิ้มหื่นๆ อัมราเจ็บใจ ลืมตัวตบหน้าเทิดเต็มแรง
"คนเลว..คิดแต่เรื่องชั่วๆ ฉันไม่น่าหลงคุยกับคนอย่างแกเลย"
อัมราจะออกไป เทิดกระชากแขนไว้
"เฮ้ยตบไอ้เทิดแล้วจะเดินหนีไปหน้าตาเฉยแบบนี้มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ"
อัมราเงื้อมืออีกข้างจะตบอีกเทิดจับไว้ทัน กระชากเข้ามาหาอัมราตะโกนเสียงดัง"ปล่อยฉันนะ
"ตะโกนให้คอแตกก็ไม่มีใครมาช่วยหรอก ป่านนี้ไอ้อาร์ตมันไปเที่ยวกับหนูพรรณสนุกไปแล้ว อย่าดีดดิ้นนักเลยเรามาสนุกกันบ้างดีกว่า รับรองว่าหนูจะติดใจลุงไปอีกนาน"
เทิดลงมือปลุกปล้ำอัมรา อาทรเข้ามากระชากคอเสื้อเทิดอย่างแรง เทิดผงะหงายหันมาเจอมัดอาทรเข้าเต็มหน้า เทิดกระเด็นล้มกลิ้งออกไปนอกศาลา อาทรตามไปซ้ำอย่างโกรธจัด
"ไอ้สารเลว"
เทิดพยายามจะสู้แต่สู้ไม่ได้ อาทรค่อมบนตัวเทิดไว้ ชกอย่างไม่นับ อัมราวิ่งเข้ามาห้ามอย่างตกใจ
"พอแล้วค่ะพี่ออย"
อาทรชะงัก อัมรารีบเข้ามาดึงตัวอาทรออกไป
"ปล่อยพี่ น้องอัม พี่จะฆ่ามัน"
"ใจเย็นๆค่ะพี่ออย อัมไม่ได้เป็นอะไร พอเถอะค่ะ"
อัมพยายามดึงอาทรไป อาทรชี้หน้าเทิด สำทับอย่างดุดัน
"ถ้าแกยังคิดทำเลวๆกับน้องอัมอยู่คราวหน้าฉันไม่เอาแกไว้แน่"
ห้องหุ่น ตอนที่ 12 (ต่อ)
อัมราดึงอาทรไป เทิดพยายามจะลุกขึ้น แต่ไม่ไหวค่อยๆล้มลุกคลุกคลานไป
เทิดชะงักแทนสายตาเทิดเห็นขวดน้ำมันพรายตกอยู่ข้างหน้า เทิดแทบจะหายเจ็บหยิบขวดน้ำมันพรายขึ้นมามอง
"นี่มันขวดน้ำมันพรายที่พี่เวทย์ให้นังพิไลมานี่หว่า"
อาทรกับอัมราเดินมาด้วยกัน อาทรยังมีท่าทางโมโหไม่หาย
"น้องอัมไม่น่าห้ามพี่เลย คนเลวอย่างมันโดนแค่นี้ยังน้อยไป ที่จริงควรจะลากคอมันเข้าตะรางด้วยซ้ำ"
อัมรามองอาทรอย่างขอบคุณ
"ช่างเถอะค่ะพี่ออย อัมไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต อัมขอบคุณพี่ออยมากนะค่ะที่มาช่วยอัมไว้ "
"ไม่เป็นไรจ้ะ แต่ถ้ามันมาทำรุ่มร่ามกับน้องอัมอีกน้องอัมต้องบอกพี่นะ"
"ค่ะ ว่าแต่พี่ออยมาหาอัม มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"
"พี่มากับคุณพ่อ ตอนนี้คุณพ่อคุยกับน้าพิไลอยู่จ้ะ"
อัมรามีสีหน้าแปลกใจ
ในห้องรับแขกบ้านเดช พิไลมองดำเกิงถามเยาะๆ
"คิดจะเอากฎหมายมาเล่นงานฉันอย่างงั้นเหรอ"
ดำเกิงมองตอบพูดหนักแน่น
"มันเป็นความยุติธรรมที่หนูอัมและตาอ๊อดควรจะได้รับ"
"ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องของคนอื่น"
"ผมไม่เคยคิดว่าหนูอัมกับตาอ๊อดเป็นคนอื่น เด็กสองคนนี้ก็เหมือนลูกหลานแท้ๆ ถ้าถูกรังแกเมื่อไรผมก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างแน่นอน"
ดำเกิงลุกขึ้นยืน
"ผมเชื่อว่าคนฉลาดอย่างคุณพิไลน่าจะรู้ว่าควรจะทำยังไง"
ดำเกิงเดินออกไป พิไลมองตามอย่างโกรธแค้นพึมพำ
"ไอ้แก่อยู่ดีๆไม่ว่าดีรนหาที่ซะแล้ว"
อัมราและอาทรเห็นดำเกิงเดินออกมาจากตัวบ้าน อัมรารีบเข้าไปหา อาทรเดินตามติดๆ อัมรารีบยกมือไหว้
"สวัสดีค่ะคุณลุง"
ดำเกิงพยักหน้า
"ไหว้พระเถอะหลาน"
อาทรซักร้อนใจ
"เป็นไงบ้างครับคุณพ่อ"
ดำเกิงยิ้มอย่างมั่นใจ
"เจอเข้าแบบนี้เป็นใครๆก็ต้องคิดหนัก ลุงเชื่อว่าพิไลคงไม่กล้าทำอะไรตามใจตัวเองแน่ คงไม่มีใครอยากเสี่ยงขึ้นโรงขึ้นศาลโดยไม่จำเป็นหรอกเพราะเค้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเค้าไม่มีสิทธิ์อะไรเลย"
อัมรายิ้มดีใจ
"หมายความว่าอัมกับตาอ๊อดจะได้เรียนต่อใช่มั้ยคะ"
ดำเกิงพยักหน้า อัมรายกมือไหว้
"ขอบคุณมากค่ะคุณลุง ถ้าไม่ได้คุณลุงกับพี่ออยอัมคงแย่"
ดำเกิงตบบ่าอัมราเบาๆยิ้มให้กำลังใจ
"จำไว้นะว่าหนูอัมยังมีลุงกับป้าและตาออยอยู่เคียงข้างเสมอ ถ้ามีอะไรที่ลุงช่วยได้ลุงจะช่วยทันที"
อัมราน้ำตาซึมมองดำเกิงกับอาทรอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ แต่แล้วนึกอะไรได้
"เอ๊ะแล้วคุณลุงกับพี่ออยรู้ได้ยังไงคะว่าน้าพิไลจะไม่ให้อัมเรียนต่อ"
ดำเกิงกับอาทรมองหน้ากันอึ้งๆ ไม่ยอมตอบ อัมรารู้สึกแปลกใจ
พิไลมองหน้าเทิด .oสภาพที่โดนอาทรซ้อมมา อย่างตกใจ
"ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีกล่ะพี่เทิด"
เทิดตอบฉุนๆ
"ก็ไอ้อาทรนะสิ"
พิไลเจ็บใจ
"มันรนหาที่ทั้งพ่อทั้งลูก ฉันกำลังคิดจะให้พี่จัดการมันอยู่ทีเดียว"
"เรื่องไอ้สองพ่อลูกเอาไว้ก่อนเถอะ พี่ว่าตอนนี้เราจัดการเรื่องนี้ก่อนดีกว่า"
เทิดยื่นขวดน้ำมันพรายไปตรงหน้าพิไล พิไลมองแปลกใจ
"นี่มันขวดน้ำมันพรายที่ฉันทำหายไป พี่ไปเจอที่ไหน"
"มันตกอยู่ในสวนหลังบ้าน"
"งั้นก็เก็บเอาไปคืนพี่เวทย์ก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ฉันก็ไม่รู้จะเอาไปใช้กับใคร"
"เธอดูให้ดีๆสิพิไล"
พิไลหยิบขวดน้ำมันพรายจากมือเทิดมามองอย่างพิจารณา
"เหมือนมีคนเอาไปใช้"
"ใช่เลยล่ะแล้วก็ต้องเป็นคนในบ้านนี้ด้วย"
พิไลมองหน้าเทิดสองคนสบตากัน พิไลตกใจ
"หรือว่าคนที่โดนน้ำมันพรายก็คือ…."
ในห้างสรรพสินค้าไทยไดมารู สันติยิ้มอ่อนโยน พยักหน้าเห็นด้วยกับพรรณรายทุกครั้งที่พรรณหยิบเสื้อผ้ามาถาม
มือสันติก็เต็มไปด้วยถุงเสื้อผ้าหลายถุง แต่พรรณรายก็ยังส่งเสื้อผ้าให้พนักงานตัวแล้วตัวเล่า
โดยไม่สนใจราคา พรรณหยิบเสื้อตัวสุดท้ายให้พนักงาน
"คิดเงินได้เลยค่ะ"
พรรณรายหยิบเงินออกมาเป็นปึกส่งให้ พนักงานรับนอบน้อมรีบไปที่เคาท์เตอร์แคชเชียร์
"มีความสุขจัง อยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากได้อะไรก็ได้ เมื่อก่อนตอนคุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ พี่อาร์ตรู้มั้ยถ้าพรรณซื้อแบบนี้ต้องโดนดุตายแน่ๆ"
"แล้วตอนนี้คุณพรรณไม่กลัวน้าพิไลดุเอาเหรอครับ"
"ไม่มีทางหรอกค่ะคุณแม่พิไลใจดีจะตาย"
"แต่เมื่อกี้นี้ผมยังได้ยินน้าพิไลบ่นเรื่องค่าใช้จ่าย ขนาดน้องอัมยังไม่ให้เรียนเพราะต้องการประหยัด"
พรรณณษญหัวเราะ
"โธ่เอ๊ยเงินทองทรัพย์สมบัติที่คุณพ่อมีกินใช้ไปอีกสิบชาติก็ไม่หมด"
สันติทำหน้างง
"อ้าว..ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่ให้น้องอัมเรียนละครับ"
"โธ่อาร์ต ก็แค่อยากจะแกล้งยัยอัมนะสิคะ อยากทำเป็นหัวแข็งไม่ยอมลงให้คุณแม่ ก็ต้องเจอแบบนี้ล่ะ"
สันตินิ่งอึ้ง แต่ฝืนทำหน้าปกติ พรรณรายพูดต่อไม่ระแวง
"นี่แค่เริ่มต้นนะคะ คอยดูเถอะต่อไปยัยอัมต้องโดนหนักกว่านี้"
พนักงานนำถุงเสื้อผ้ามาส่งให้ พรรณรายรับมารีบเปลี่ยนเรื่อง
"เราอย่าไปสนใจเรื่องนี้กันเลยค่ะปล่อยให้คุณแม่พิไลจัดการไปเถอะ เราไปดูตรงที่ขายพวกเครื่องประดับเถอะค่ะพรรณอยากได้ต่างหูกับพวกสร้อยคอ"
สันติพยักหน้าตามใจ
"ไปสิครับ"
สองคนพากันเดินไป พรรณรายรื่นเริง แต่สันติแอบเครียดลอบถอนใจ
พรรณรายร่าเริงเปิดห้องเข้ามาพร้อมถุงข้าวของมากมาย พิไลนั่งรออยู่
"คุณแม่อยู่นี่เอง ดูสิคะพรรณไปช้อปปิ้งมาซะเหนื่อยเลย"
พิไลท่าทางเครียด
"พรรณรายแม่มีเรื่องอยากคุยด้วย"
"คะ"
พิไลเดินเข้ามาหายื่นขวดน้ำมันพรายให้ดู
"ลูกใช้น้ำมันในขวดนี้ใช่มั้ย"
พรรณรายหยิบขวดมามองคิด...
เท้าพรรณรายเหยียบขวดน้ำมันพราย ชะงักก้มมอง
"ขวดอะไรนะ"
พรรณรายเก็บขึ้นมามองพิจารณา เปิดออกอย่างสงสัย ดม
"กลิ่นประหลาดๆเหมือนอะไรน๊า"
พรรณเทใส่มือสองสามหยดดมอีกนึกไม่ออก
พรรณรายทำท่านึกได้
"อ๋อ..ใช่ค่ะ"
พิไลตกใจ
"นี่ลูกใช้มันจริงๆเหรอ"
"พรรณไม่ได้ใช้นะคะ พรรณแค่สงสัยว่าอะไร พรรณขว้างทิ้งไปแล้วด้วยซ้ำ ทำไมคุณแม่ต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วยคะมันคืออะไรเหรอคะ"
พิไลถอนใจ
"มันคือน้ำมันพราย เค้าใช้ในการทำเสน่ห์ให้คนมารักมาหลง มิน่าแม่สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมนายอาร์ตถึงเปลี่ยนใจมารักลูก"
พรรณรายตกใจ
"อะไรนะคะ นี่คุณแม่จะบอกว่าที่อาร์ตมารักพรรณเพราะน้ำมันพรายเหรอคะ"
"ใช่"
"ไม่จริงค่ะพรรณไม่ได้เอาไปใช้กับอาร์ตสักหน่อย พรรณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นอะไร"
"คิดดูให้ดีๆหลังจากมือลูกเปื้อนน้ำมันพรายลูกเจอใครเป็นคนแรก เพราะแค่แตะตัวเขานิดเดียว น้ำมันพรายก็จะแสดงอิทธิ์ฤทธิ์ของมันทันที"
พรรณรายอึ้ง คิดหนักแล้วชะงักเหมือนคิดอะไรได้
พรรณรายเดินเร็วๆตรงมา อัมราเห็นรีบชวน
"พี่พรรณมาพอดี เดี๋ยวทานของว่างด้วยกันนะคะ น้าชิ้นกำลังไปเตรียมอยู่เห็นว่ามีขนมปังหน้าหมูของโปรดพี่พรรณด้วย"
"ไม่ล่ะพี่ไม่อยากอ้วน พี่จะไปซื้อผ้าดำที่พาหุรัดมาตัดเสื้อเพราะยังต้องไว้ทุกข์ให้คุณแม่อีกนายช่วยขับรถให้หน่อยสิ ตอนนี้ฉันใจคอยังไม่ค่อยดีไม่อยากขับรถเอง"
สันติเตรียมตัวปฏิเสธ "ผม"
พรรณเข้ามาจับแขนสันติ อ้อน
"นะฉันขอร้องล่ะ"
ทันทีที่มือพรรณรายโดนแขนสันติ ลมพัดแรงเหมือนจะมีพายุ ท้องฟ้าดำมืดขึ้นมากะทันหัน สันติสะดุ้งเหมือนโดนไฟช็อต
"ใช่ค่ะพรรณเจออาร์ตเป็นคนแรกแล้วยังจับแขนเค้าด้วย"
พิไลสีหน้าแน่ใจ
"นั่นไง แม่คิดอยู่แล้วเชียว"
พรรณรายคิดตาม
"มิน่าทำไมอยู่ๆอาร์ตถึงเปลี่ยนไปอย่างกับเป็นคนละคน นี่นายรักฉันเพราะอิทธิฤทธิ์ของน้ำมันพรายหรอกเหรอ"
พรรณเซไปนั่งที่เตียงอย่างหมดแรง สีหน้าผิดหวังอย่างที่สุด
ห้องหุ่น ตอนที่ 12 (ต่อ)
ในกุฏิหลวงตาตอนกลางคืน สันตินั่งอยู่กับหลวงตา หลวงตากังวล
"ฟังจากที่เจ้าเล่ามา ตอนนี้หนูอัมรากับอ๊อดกำลังลำบากมาก"
"ครับ..อีกเรื่องหนึ่งก็คือน้าพิไลคิดจะขายหุ่นในห้องหุ่นด้วยครับหลวงตา"
หลวงตาตกใจ
"อะไรนะ...ถ้าพิไลขายหุ่นไปจริงๆต้องเกิดเรื่องยุ่งแน่ๆ"
"น้องอัมคงไม่มีทางคัดค้านได้หรอกครับหลวงตา เพราะตอนนี้อำนาจตัดสินใจต่างๆคุณพรรณเธอยกให้น้าพิไลจัดการทั้งหมด"
"เรื่องยุ่งที่หลวงตาพูดไม่ได้หมายถึงหนูอัมรา"
"ถ้าอย่างนั้นหลวงตาหมายถึงใครครับ"
หลวงตานิ่งไปครู่หนึ่งลังเล ก่อนมองสันติถามจริงจัง
"เจ้าเชื่อเรื่องวิญญาณหรือเปล่า"
"เมื่อก่อนผมไม่เชื่อครับ แต่พอโดนเข้ากับตัวเอง ผมถึงเข้าใจว่าเรื่องที่เหนือธรรมชาติมีอยู่จริง"
หลวงตาพยักหน้า สันติถามสงสัย
"หลวงตาถามทำไมครับ"
"หุ่นในห้องหุ่นทุกตัวมีวิญญาณสิงอยู่"
"อะไรนะครับ"
หลวงตาพยักหน้าให้รู้ว่าพูดจริง สันติตกใจมาก
วิญญาณซ้อนอยู่ในหุ่นทุกตัวต่างร้อน
"ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว พวกเราต้องทำอะไรซักอย่าง" ทับบอก
"พ่อทับพูดถูก เราต้องพยายามหาใครมาช่วยพวกเรา" ลุงทวนว่า
"ใครละคะที่จะมีบารมีมากพอที่จะช่วยปลดปล่อยพวกเราได้" สมศรีว่า
ทั้งหมดนิ่งคิด เดชนึกได้
"หลวงตา...หลวงตาไงครับ"
หุ่นทั้งหมดดีใจ
"แต่ไม่มีใครออกจากหุ่นได้ แล้วจะติดต่อหลวงตาได้ยังไงคะ" อารีย์บอก
ทั้งหมดอึ้งไปอีก ต่างพยายามคิดแต่คิดไม่ออก
หุ่นเจ้าคุณบอก
"เราต้องสื่อด้วยด้วงจิตที่สงบและมีสมาธิมากพอ เชื่อว่าหลวงตาจะรับสื่อจากเราได้"
หุ่นทุกตัวมองหน้ากันแล้วหมดหวัง
"พวกเราคงไม่มีใครสามารถทำได้หรอกค่ะท่านเจ้าคุณ" อารีย์บอก
"ตอนฉันยังมีชีวิตอยู่ได้เคยปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ฉันจะลองดูก็แล้วกัน"
เจ้าคุณหลับตาทำสมาธิ สีหน้าสงบ หุ่นทุกตัวเฝ้ามองเจ้าคุณอย่างมีความหวัง
หลวงตายังเล่าให้สันติฟังต่อ
"แต่เจ้าไม่ต้องตกใจกลัวไปหรอกนะ หุ่นพวกนั้นไม่ทำร้ายใครพวกเค้าแค่อยู่คอยปกป้องคุ้มครองคนในครอบครัวสัตยาภาเท่านั้น"
"มิน่า..."
"มีอะไรรึ"
"จุ๊บครับ จุ๊บเคยพยายามบอกผมว่าหุ่นมีชีวิตแต่ผมไม่เชื่อ"
"ทำไมจุ๊บถึงรู้ล่ะ"
"เมื่อก่อนจุ๊บไม่ค่อยชอบน้องอัมก็เลยแกล้งน้องอัม แต่จุ๊บก็โดนหุ่นมาเตือนครับ แต่ไม่ได้ถึงกับทำร้าย"
หลวงตาพยักหน้า
"ตอนนั้นผมไม่เชื่อคิดว่าจุ๊บนึกไปเอง"
"ถ้าพิไลขายหุ่น หุ่นอาจไม่พอใจ ตรงนี้ล่ะที่หลวงตากลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับพิไล"
สันตินิ่งคิดแปลกใจ
"เอ๊ะหลวงตาครับ..แต่ตอนนี้น้องอัมโดนแกล้งตั้งหลายครั้ง ขนาดนายเทิดรังแกน้องอัมในห้องหุ่น ทำไมไม่เห็นโดนหุ่นเล่นงานเลยครับ"
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ"
"ครับเมื่อวันก่อนนี้เอง โชคดีที่ผมไปที่บ้านนั่นแต่เช้าเลยช่วยน้องอัมไว้ได้ทัน"
หลวงตานิ่งคิดแปลกใจ
"หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับหุ่นพวกนั้น"
สันติกับหลวงตาสบตากันอย่างสงสัย
หุ่นเจ้าคุณหลับตาทำสมาธิอยู่ลืมตาขึ้น หุ่นทั้งหมดต่างดีใจ
"ท่านเจ้าคุณติดต่อหลวงตาได้แล้วใช่มั้ยคะ" พรรณีถาม
หุ่นทุกตัวมองหุ่นเจ้าคุณอย่างรอคำตอบ หุ่นเจ้าคุณถอนใจ
"ฉันทำไม่ได้ ถึงดวงจิตจะสงบแต่ก็ไม่อาจผ่านอาคมของไอ้หมอผีไปได้"
หุ่นทุกตัวมองหน้ากันอย่างหมดหวัง
"นี่พวกเราต้องกลายเป็นทาสรับใช้ไอ้หมอผีชั่วคนนั้นเหรอครับ ไม่ผมไม่ยอม" พีทว่า
พีทพยายามพุ่งร่างออกจากหุ่นแต่ทำไม่ได้ พีทพยายามอีกแต่ก็ต้องร้องด้วยความเจ็บ
"ใจเย็นๆก่อนพีท ยิ่งทำแบบนั้นเธอจะยิ่งเจ็บปวด" อารีย์บอก
"แต่ผมไม่อยากเป็นทาสมัน ผมไม่อยากเป็นทาสมัน"
พีทร้องไห้เสียใจ ทุกคนอึ้ง ต่างนิ่งใช้ความคิดอย่างเคร่งเครียด
หลวงตาปัดเสื่อที่เตรียมตัวจะนอน ชะงักนั่งครุ่นคิด
"เกิดอะไรขึ้นกับหุ่นพวกนั้นกันแน่"
หลวงตาเปลี่ยนท่าเป็นนั่งสมาธิ สีหน้าหลวงตาสงบ นิ่ง ดูน่าเลื่อมใสมาก
ครู่หนึ่งเห็นวิญญาณหลวงตา ลุกออกจากร่างที่ยังนั่งสมาธิอยู่
หลวงตามองร่างตัวเอง ก่อนเดินทะลุฝาผนังห้องหายไป
ร่างหลวงตาปรากฏขึ้นหน้าบ้าน หลวงตามองตัวบ้านก่อนจะเดินเข้าไป
แต่หลวงตาต้องชะงัก ปรากฏร่างอสูรดำพุ่งออกมาขวางหลวงตา ส่งเสียงแหบกร้าว
"เจ้าเป็นใคร"
หลวงตามองอย่างสงบไม่มีท่าทางหวาดกลัว
"เจ้าคงเป็นวิญญาณที่โดนปลุกเสกมาเพื่อให้เป็นทาสรับใช้"
"ไม่ต้องพูดมาก นายข้าสั่งไว้ห้ามใครหน้าไหนเข้ามาในเขตบ้านนี้เด็ดขาด"
"นายของเจ้าเป็นใคร"
"ไม่ต้องมาถามจะไปดีๆหรือจะให้ข้าจัดการเจ้า"
หลวงตามองอย่างปกติ
"หลีกทางให้อาตมาเถอะ อาตมาเองก็ไม่อยากทำร้ายเจ้า"
อสูรดำมองโมโห หลวงตาทำท่าจะเดินเข้ามา อสูรดำอ้าปากพ่นไฟอาคมใส่หลวงตา
หลวงตาหลับตา พึมพำภาวนาเกิดเป็นฝนอาคมตกลงมา ดับไฟอาคมทันที อสูรดำตะลึง แต่ยังไม่ยอมแพ้ อสูรดำพุ่งร่างเข้าล้อมรัดหลวงตาทันที หลวงตาแผ่เมตตาเสียงดังกังวาน
"สัพเพ สัตตา..อะเวรา โหนตุ..อัพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆาโหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ"
ระหว่างที่หลวงตาแผ่เมตตา เกิดเป็นรัศมีล้อมร่างอสูร อสูรร้ายร้องโหยหวน ก่อนค่อยๆสลายกลายเป็นอากาศธาตุไป หลวงตาถอนใจ
"เราปลดปล่อยเจ้าแล้ว จงไปสู่ภพภูมิที่เจ้าควรไปเถิด"
ในป่าช้า เวทย์ยังนั่งนิ่งหลับตาบริกรรมคาถาปลุกเสก ตุ๊กตาโหงพรายอยู่ บรรยากาศสงบเยือกเย็น กลับแปรเปลี่ยนเป็นมีลมพายุ พัดรุนแรง นกกลางคืนส่งเสียงร้องรับกันน่ากลัว หมาหอนโหยหวน เสียงอสูรดำกรี๊ดร้องดังแหวกความมืดน่าขนหัวลุก เวทย์ลืมตาขึ้นทันที สีหน้าแปลกใจมาก
"ใครบังอาจปลดปล่อยทาสของข้า"
เวทย์รีบหลับตาบริกรรมคาถาอย่างโกรธแค้น เหงื่อซึม ครู่หนึ่งเวทย์ลืมตา
"บารมีมันแก่กล้าจนบังตาไม่ให้ข้าเห็นมันได้ หึ ข้าเจอคู่ปรับที่น่ากลัวเข้าแล้วละสิ"
เวทย์สีหน้าแปลกใจ
"ข้าต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร"
เวทย์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
จบตอนที่ 12