ห้องหุ่น ตอนที่ 4
ทั้งหมดช่วยกันหิ้วสัมภาระขึ้นบ้านพักชายทะเล ผอบรีบเข้าไปดูด้านในอย่างเร็ว แล้วออกมาบอกด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
"ตายจริงมีแค่สี่ห้องนอนเองเหรอคุณพี่ คนตั้งเยอะจะนอนกันยังไง"
พรรณรายหมั่นไส้
"ไหนคุณป้าว่าเป็นคนกินง่ายนอนง่ายไงคะ มาโดยไม่ได้รับเชิญแบบนี้ ก็คงต้องนอนห้องรับแขกล่ะคะ"
ผอบไม่พอใจแต่พูดไม่ออก พงษ์ลอบมองพรรณรายอย่างเจ็บใจ เดชรีบแก้สถานการณ์"ไม่เป็นไรนี่ ให้ตาอ๊อดมานอนกับผมก็ได้"
อ๊อดดีใจ
"เย้ดีจัง อ๊อดได้นอนกับคุณพ่อคุณแม่ด้วย"
อารีย์กอดอ๊อดอย่างเอ็นดู เดชพูดต่อ
"พงษ์ก็นอนกับออย อาร์ต ส่วนคุณผอบนอนกับยัยพรรณยัยอัม คงไม่อึดอัดนะครับ"
"ก็ได้ค่ะ ยังไงก็คงดีกว่านอนห้องรับแขก ไปพงษ์ ยกกระเป๋าแม่มาที"
ผอบเดินนำพงษ์เข้าห้องไปอย่างปั้นปึงนิดๆ พรรณรายไม่พอใจ
"คุณพ่อ..ให้ป้าผอบมานอนกับพรรณทำไมก็ไม่รู้ พูดมากแบบนี้พรรณหูชาแน่ๆ"
"พูดถึงผู้ใหญ่แบบนี้ไม่ดีนะลูก เรามาเที่ยวสนุกๆ อย่าให้เรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้หมดสนุกเลยนะ"
พรรณรายทำท่าจะบ่นต่อ เดชรีบตัดบท
"เอาข้าวของไปเก็บในห้องได้แล้ว ไป"
"ก็ได้ค่ะ ก็ได้ ไปยัยอัมเอาของไปเก็บแล้วไปเล่นน้ำทะเลกัน พี่ออยคะเดี๋ยวไปเจอกันชายหาดนะคะ" พรรณรายบอก
"โอเคจ้ะ"
ทั้งหมดพากันแยกย้ายเอาของเข้าห้อง
ในบรรยากาศชายทะเล สันติ อัมรา อาทร พรรณราย เดินเล่นมาตามชายหาด
"อากาศดีจังนะคะ" อัมราบอก
พรรณรายหน้าบึ้ง
"จะดีกว่านี้ ถ้าไม่มีสองแม่ลูกนั่นมาด้วย"
"พี่ก็ว่าอย่างนั้น บอกตรงๆนะ พี่ก็ไม่ค่อยชอบหน้านายพงษ์ซักเท่าไร นายละอาร์ต" อาทรบอก
"ฉันเฉยๆนะ เขาไม่ได้ทำอะไรให้เรา เราจะไปไม่ชอบเขาทำไม คิดแบบนั้นก็จะมีแต่ทำให้เราไม่สบายใจไปเปล่าๆ"
พรรณรายหมั่นไส้
"โอ๊ยนึกว่ามีพระมาด้วย สงสัยอยู่วัดมาก ฟังแต่พระเทศน์เลยติดนิสัยมาเทศน์คนอื่นเค้าด้วยละสิ แต่ฉันไม่อยากฟังนะ"
สันติอึ้ง อัมราท้วงพรรณรายอย่างเกรงๆ
"พี่พรรณก็..พี่อาร์ตแค่อธิบาย"
พรรณรายไม่สน
"ไม่รู้อะไรแล้วอย่าพูดดีกว่า ... พี่ออยรู้มั้ย วันก่อนไอ้พงษ์บ้านั่นมันมาจับมือพรรณด้วยล่ะ"
อาทรกับอัมราต่างตกใจอัมรา
"จริงเหรอคะพี่พรรณ"
"ก็จริงนะสิ"
"ตอนงานคุณแม่ ก็ทำรุ่มร่ามกับอัมเหมือนกัน" อัมราบอก
อาทรตกใจ
"อะไรนะ เอ๊ะแบบนี้ชักไม่สวยซะแล้ว"
พรรณรายเสนอ
"เอางี้มั้ยคะ พวกเรามาเล่นงานสองแม่ลูกนั่น เอาให้กลับกรุงเทพไปเลย ดีมั้ย"
"ก็ดีนะ สั่งสอนซะบ้าง" ออยบอก
"ไม่เอาน่า ออย " สันติแย้ง
"นายไม่ได้ยินเหรอ นายพงษ์มันมาวุ่นวายกับน้องพรรณ น้องอัม ต้องสั่งสอนซะบ้างจะได้เข็ด"
"ก็เรียกเขามาคุยกันดีๆก็ได้นี่ ไปแกล้งเขามันบาปนะออย"
พรรณรายรำคาญสันติสุดขีด
"ไปบวชซะเลยสินายน่ะ"
"แต่อัมเห็นด้วยกับพี่อาร์ตนะคะ อย่าไปแกล้งเค้าเลย"
พรรณรายหมั่นไส้
"เชอะ ทำตัวเป็นพระเอกนางเอกอยู่ได้ คนอย่างนายพงษ์มันต้องเล่นแรงๆถึงจะเข็ด"
อัมราอ่อนใจแล้วชะงักมองไปที่ชายหาด อัมราตื่นเต้น
"ดูนั่นสิคะ เขากำลังถ่ายแบบกันอยู่นี่ ไปดูกันดีกว่า"
อัมราดึงมือพรรณรายไป สันติ อาทรตามไปติดๆ พากันยืนอยู่ข้างๆกลุ่มคนที่มุงอยู่
เพทายในชุดว่ายน้ำค่อนข้างโป๊กำลังโพสท่าเซ็กส์ซี่ให้ ช่างภาพถ่าย อาทรตื่นเต้นเสียงดังลืมตัว
"คุณเพทาย"
เพทายโพสท่าถ่ายรูปอย่างคล่องแคล่ว สันติ อัมรา อาทร พรรณราย ยืนดูอยู่ห่างๆ
"หุ่นดีเป็นบ้า" อาทรบอก
พรรณรายมองไม่พอใจ
"ไม่เห็นจะดีตรงไหน ก็งั้นๆแหละ"
ช่างภาพบอก "เพอร์เฟ็คมากครับ คุณเพทาย"
เพทายยิ้มหยิ่งๆตะโกนบอก
"หมดชุดนี้ฉันขอพักก่อนนะคะ เหนื่อยมากๆเลย"
"โอเคครับ"
ช่างภาพหันไปตะโกนบอกทีมงาน
"ให้คุณเพทายพักก่อน เตรียมเสื้อผ้าเซ็ตต่อไปด้วย"
เพทายเดินแยกออกไปจากกอง เดินไปพักที่รถกองถ่าย
สันติ อาทร อัมรา พรรณราย ยังยืนดูอยู่ห่างๆ อาทรหันมาบอกทุกคน
"เดี๋ยวมานะ"
อาทรจะไป สันติเรียกไว้
"เดี๋ยวออย นายจะทำอะไร"
"อ้าวก็ไปขอให้คุณเพทายเป็นแบบให้พวกเราปั้นนะสิ"
"อย่าเสียเวลาเลยค่ะ ท่าทางหยิ่งซะขนาดนั้น พรรณว่าเธอไม่ยอมเป็นแบบให้พี่ออยหรอก"
"ไม่ลองก็ไม่รู้นะ"
อาทรรีบวิ่งไป พรรณรายโมโห หันมาพูดกับอัมรา
"ดูพี่ออยสิ สนใจอะไรแม่ดาราคนนี้หนักหนานะ พี่ชักจะโกรธแล้วนะ"
"ใจเย็นๆค่ะพี่พรรณ พี่ออยก็แค่อยากได้เธอมาเป็นแบบปั้นหุ่นประกวดแค่นั้นเอง"
พรรณรายยังไม่ค่อยพอใจ วิ่งตามไปติดๆ อัมราจะตาม แต่สันติแตะแขนไว้
"ปล่อยเขาสองคนเถอะครับ ดื้อพอๆกัน ห้ามไปก็ไม่ฟัง"
อัมราถอนใจแต่ก็เห็นด้วย สันติชี้ไปทางริมทะเลอีกด้าน
"เราไปเดินเล่นทางด้านโน้นกันมั้ยครับ"
อัมราพยักหน้าเขินๆ
"ก็ได้ค่ะ"
สองคนเดินไปทางชายทะเลอีกด้านอย่างช้าๆ
เพทายนั่งจิบน้ำส้มอยู่ในรถกองถ่ายที่เปิดประตูกว้างไว้
"คุณเพทายครับ"
เพทายชะงักถอนใจ เบื่อหน่าย ก่อนหันมา
"ถ้าจะมาขอลายเซ็นหรือขอถ่ายรูปละก็ไว้วันหลังเถอะ ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก"
อาทรรีบพูด
"ไม่ใช่ครับ..ผมจะมาขอให้คุณเป็นแบบปั้นหุ่น"
เพทายงง
"อะไรนะ"
พรรณรายตามเข้ามายืนข้างๆสันติ
"ผมชื่ออาทรเป็นนักศึกษามหา'ลัยศิลปากร ตอนนี้มีการจัดโครงการประกวดปั้นหุ่น ผมเลยอยากขอร้องให้คุณเพทายช่วยเป็นแบบให้กลุ่มเรานะครับ
เพทายรำคาญ
"นี่พ่อหนุ่มน้อย ฉันมีคิวถ่ายละครถ่ายแบบเกือบทุกวัน ไม่มีเวลามาร่วมกิจกรรมเด็กๆของเธอหรอกนะ"
เพทายดึงประตูรถจะปิด อาทรรีบจับประตูไว้
"เดี๋ยวสิครับ"
เพทายไม่พอใจ
"เอ๊ะเธอนี่..หลีกไป ฉันกำลังพักผ่อนอยู่ไม่เห็นเหรอ ไม่มีมารยาทเลย"
พรรณรายของขึ้นทันที ตวาดแว้ด
"ใครกันแน่ไม่มีมารยาท"
เพทายชะงัก อาทรรีบหันมาปราม
"น้องพรรณ"
พรรณรายไม่สน ใส่เป็นชุด
"คิดว่าตัวเองเป็นใคร นางฟ้านางสวรรค์หรือไง ถึงได้เชิดใส่คนอื่นแบบนี้ โธ่เอ๊ยก็แค่ดาวโป๊ที่ใช้เต้าไต่ขึ้นมา ความสามารถซักนิดก็ไม่มี"
เพทายเหวอ แล้วฉุนสุดๆ ลงจากรถโวยวาย
"ใครก็ได้มาเอาตัวนังเด็กบ้านี่ไปที"
พรรณรายตาลุก ผลักอกเพทายล้มลง
"แกด่าใครนังเด็กบ้า หึ"
เพทายกรี๊ด
"ว้าย"
พรรณรายตรงเข้าเล่นงานเพทาย อาทรรีบเข้าห้ามดึงตัวพรรณไว้อย่างตกใจ
"น้องพรรณอย่า"
พรรณรายสะบัดหลุดจากอาทร เพทายลุกขึ้นมา ทีมงานเข้ามาพอดี
"เกิดอะไรขึ้นคะคุณเพทาย"
เพทายชี้หน้าพรรณราย
"ก็นังเด็กนี่ไง เอาตัวไปเดี๋ยวนี้เลย"
ทีมงานเข้ามาช่วยดึงตัว พรรณรายดิ้นอาละวาด
"ปล่อยฉันนะปล่อย ปล่อยสิ"
เพทายมองพรรณรานอย่างสมเพช เดินหนีไปทางชายหาด พรรณรายตะโกนตาม
"แน่จริงอย่าหนีสิ นังปอดบวม"
อาทรเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ขอโทษขอโพยทีมงาน แต่พรรณรายยังอาละวาด เรื่องราวยังชุลมุนวุ่นวายกันยกใหญ่
อัมรายืนทอดสายตามองทะเลอย่างสดชื่น สันติเผลอจ้องอัมราด้วยสายตาลึกซึ้ง
เธฮหันไปเห็น ชะงัก หน้าแดง
"เอ้อ เราเดินกันต่อเถอะค่ะ"
อัมราเดินออกไป แล้วสะดุดหิน เซจะล้ม สันติเข้ามารับไว้ได้ในอ้อมกอด เธอเขินมาก สันติรีบปล่อย
"ขอโทษครับ"
อัมราเก้อเขิน
"ไม่..ไม่เป็นไรคะ อัมนี่ซุ่มซ่ามตลอดเลย ทำให้พี่อาร์ตต้องลำบากอยู่เรื่อย พี่อาร์ตคงเบื่อแย่"
"ไม่เลยครับ พี่รู้สึกดีมากกว่าที่ได้ดูแลน้องอัม" สันติหยุด ลังเลก่อนตัดสินใจพูด "เพราะเด็กวัดอย่างพี่ก็คงทำได้แค่นี้"
สันติเศร้า อัมรารีบพูด
"พี่อาร์ตคงเสียใจที่พี่พรรณพูด อย่าไปถือเลยค่ะ พี่พรรณคงไม่ได้คิดจะดูถูกพี่อาร์ตหรอกนะคะ"
สันติรีบยิ้ม
"พี่ไม่ได้เสียใจหรอกครับ พี่ยอมรับความเป็นจริงเสมอ แค่น้องอัมไม่รังเกียจ ยอมพูดคุยกับพี่ พี่ก็ถือว่าดีที่สุดแล้วละครับ"
สันติเดินต่อ อัมรามองตามอย่างสงสาร
อาทรดึงพรรณรายมาถึงชายหาดอีกมุมหนึ่ง พรรณรายดิ้นรนสะบัด
"ปล่อยพรรณนะ..ปล่อยสิ..ปล่อย"
อาทรปล่อย ถอนใจเฮือกใหญ่
"น้องพรรณทำอะไรลงไปรู้ตัวมั้ย"
"รู้ตัวสิคะ แหมเสียดาย พรรณน่าจะตบนังดาวโป๊นั่นสักฉาด"
"จะไปตบเค้าทำไม"
"ก็มันด่าพรรณ พี่ออยไม่ได้ยินเหรอ"
"ก็น้องพรรณไปว่าเค้าทำไมละ เฮ้อเสียเรื่องหมด เค้าโกรธขนาดนี้คงไม่ยอมเป็นแบบให้พี่แน่ๆ"
พรรณรายโมโหๆตรงเข้าทุบอาทร
"พี่ออยบ้าๆๆๆแทนที่จะเข้าข้างพรรณกลับไปเข้าข้างมัน พรรณโกรธพี่ออยแล้ว"
พรรณรายวิ่งหนีไป อาทรยืนงง ถอนหายใจเซ็งๆ
"โอ๊ย..อะไรกันเนี่ย..."
อัมรากับสันติเดินกันมาเงียบๆ อัมรากำลังจะพูดปลอบสันติ แต่กลับชะงักฃเมื่อเพ่งมองไปข้างหน้า สันติถามแปลกใจ
"มีอะไรครับ"
สันติมองตามสายตาอัมรา เห็นเพทายเดินหงุดหงิดตรงมา บ่นพึมพำ
"บ้าชะมัด เสียอารมณ์สุดๆเลย"
เพทายชะงักมองสันติอย่างสนใจ สีหน้าเปลี่ยนไป ท่าทางพอใจมาก สันติเผลอเรียกชื่อ
"คุณเพทาย"
เพทายยิ้มพอใจ
"เธอรู้จักฉันด้วย เป็นแฟนละครฉันเหรอจ้ะ"
"ไม่ใช่ครับ..ผมไม่เคยดูละครเพราะผมอยู่วัด"
เพทายมองสันติอย่างแปลกใจ
"เธอเป็นเด็กวัดเหรอ ต๊ายไม่น่าเชื่อเลย"
"ครับ"
"งั้นเธอรู้จักฉันได้ยังไง"
"ผมเป็นนักศึกษา พวกเราจะปั้นหุ่นประกวดเพื่อนผมเสนออยากปั้นคุณเพทาย เพราะคุณเพทายมีหน้าตาและสรีระที่สวยสมบูรณ์มากครับ"
เพทายเข้าใจ
"อ๋อเธอคงเป็นเพื่อนกับสองคนเมื่อกี๊ เค้ามาขอฉันให้เป็นแบบ แต่มาไม่ถูกเวลา ส่วนผู้หญิงก็พูดจาไม่เข้าหูเอาซะเลย ฉันก็เลยปฏิเสธไปแล้ว"
"ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อน"
สันติหันมาพยักหน้ากับอัมราจะไป เพทายรีบถาม
"แล้วเธอไม่อยากได้ฉันเป็นแบบแล้วเหรอ"
"อยากสิครับ แต่เมื่อคุณเพทายตัดสินใจแล้ว ผมก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของคุณ"
เพทายมองพอใจ ก่อนหันมองอัมรา ถามห้วนๆ
"นั่นแฟนเธอเหรอ"
อัมรารีบยิ้มให้ แต่แล้วต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินสันติตอบ
"อ๋อ..ไม่ใช่ครับ น้องที่มหา’ลัยนะครับ"
เพทายพอใจ หยิบนามบัตรมาส่งให้
"ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เธอไปหาฉันที่โรงแรม ฉันพักที่นั่น แล้วฉันจะให้คำตอบ"
เพทายยิ้มยั่ว ก่อนเดินนวยนาดไป สันติมองนามบัตรอย่างพอใจ หันมาหาอัมราพูดดีใจ
"คุณเพทายยอมให้เจออีก พี่ว่าน่าจะมีโอกาสนะครับน้องอัม"
อัมราหน้าบึ้งเดินเร็วๆหนีไป สันติงง
"น้องอัม..น้องอัม..อ้าว เป็นอะไรไป"
สันติงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนรีบตาม
อัมราเดินมาถึงหน้าบ้านพัก สันติวิ่งตามมาทันรีบขวางไว้
"เดี๋ยวสิครับน้องอัม น้องอัมเป็นอะไรไป"
อัมราเมินๆ
"ไม่ได้เป็นอะไรนี่คะ"
พงษ์ขี่จักรยามมาหน้าบ้านพักรีบจอดชวน
"น้องอัมครับ พี่ไปเช่าจักรยานมา กำลังจะหาคนซ้อนท้ายอยู่พอดี ไปนั่งรถเล่นเลียบชายหาดกับพี่นะครับ"
สันติรีบพูด
"น้องอัมคงไม่ไปหรอกครับ เพราะเพิ่งกลับมาจากชายหาด"
พงษ์ไม่พอใจ
"ฉันว่าให้น้องอัมเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่ามั้ย"
สันติมองอัมให้ปฏิเสธ อัมราหันไปยิ้มกับพงษ์
"ดีเหมือนกันค่ะ นั่งซ้อนจักรยานชมชายหาด คงน่าสนุกกว่าเดินเยอะเลย"
สันติงง พงษ์ยิ้มเยาะ อัมรารีบขึ้นซ้อนท้าย
"ไปกันเถอะค่ะพี่พงษ์"
พงษ์ขับรถผ่านไป เย้ยสันติ สันติมองอย่างเป็นห่วง อัมราเมิน
พงษ์มาจอดรถจักรยานตรงหาดเปลี่ยว อัมราลงจากรถมองรอบๆ
"ทำไมมาแถวนี้ละคะ อัมว่ามันค่อนข้างเปลี่ยว เราไปชายหาดทางโน้นดีกว่าค่ะ"
พงษ์ลงจากรถ ยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ก็เพราะมันเงียบนะสิครับพี่ถึงพาน้องอัมมา"
อัมราชักไม่ไว้ใจ
"ถ้าพี่พงษ์ไม่ขี่รถกลับไป งั้นอัมเดินดีกว่า"
อัมราเดิน พงษ์ขวางไว้ คว้ามือ
"แหมน้องอัมทำไมทำเหมือนไม่ไว้ใจพี่เลย"
อัมราดึงมือออก แต่พงษ์ไม่ยอม
"ปล่อยอัมค่ะพี่พงษ์"
"ไม่เอาน่า พี่ไม่ทำอะไรน้องอัมหรอก ก็แค่อยากคุยด้วยเงียบๆ"
อัมราพยายามดึงมือออก
"ปล่อยค่ะ อัมจะกลับแล้ว ปล่อยสิคะ"
พงษ์ไม่ยอมปล่อยยื้อยุดกัน
"ปล่อยน้องอัมเดี๋ยวนี้"
สันติขี่จักรยานเข้ามา อัมราดีใจรีบสะบัดมือพงษ์อย่างแรงวิ่งไปหาสันติ
"พี่อาร์ต"
สันติจ้องพงษ์อย่างเอาเรื่อง
"อย่ามาทำรุ่มร่ามกับน้องอัม ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน"
พงษ์มองฉุนๆ
"แส่อะไรด้วย ตามมาทำไมวะ"
สันติทำท่าจะลงจากจักรยาน อัมรารีบห้าม บอกสันติ
"พาอัมกลับเถอะค่ะ อัมอยากกลับบ้าน"
อัมรามองขอร้อง สันติพยักหน้า "ครับ"
พงษ์ทำท่าจะเข้ามาขวาง สันติขู่
"ถ้าคุณไม่ถอยไป คุณอาเดชรู้เรื่องนี้แน่ แล้วผมก็เชื่อว่าคุณอาคงไม่พอใจมาก"
พงษ์ชะงัก สันติมองเอาจริงก่อนขี่จักรยานผ่านหน้าไป พงษ์ฉุนเตะไปในอากาศแรงๆ
"ถุยไอ้หน้าอ่อน ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองฝากไว้ก่อนเถอะวะ"
ห้องหุ่น ตอนที่ 4 (ต่อ)
สันติมาจอดรถจักรยานหน้าบ้านพัก อัมราลงมา
"ขอบคุณนะคะพี่อาร์ต"
"เดี๋ยวครับ ตกลงน้องอัมโกรธพี่เรื่องอะไร"
อัมรานิ่ง มองสันติอย่างน้อยใจ
"อัมไม่โกรธพี่อาร์ตหรอกคะ ก็อัมเป็นแค่น้องที่มหา’ลัยจะไปโกรธพี่อาร์ตได้ยังไงละคะ"
สันตินิ่งคิด แล้วเข้าใจยิ้มออก
"โธ่ที่แท้ก็โกรธที่พี่พูดกับคุณเพทายนะเอง"
อัมราเชิด สันติหัวเราะ
"บอกว่าไม่ได้โกรธก็ไม่ได้โกรธสิคะ ถ้าพี่อาร์ตยังไม่หยุดหัวเราะ อัมจะโกรธจริงๆด้วย"
"อ้าว..."
สันติรีบหยุด อธิบาย
"พี่บอกว่าน้องอัมเป็นน้องสาวก็เพราะไม่อยากให้ใครมองน้องอัมเสียหาย เพราะน้องอัมยังเรียนหนังสืออยู่ พี่เป็นผู้ชายนะไม่เป็นไรหรอกครับ แต่พี่ห่วงน้องอัม"
สันติจริงจังมาก อัมราเข้าใจ
"ทำไมพี่อาร์ตคิดมากจัง เรื่องรวยจนก็ทีแล้ว อัมไม่เห็นสนใจเลย ถ้าพี่อาร์ตพูดเรื่องพวกนี้อีก อัมจะโกรธจริงๆด้วย"
สันติมองตามประทับใจในความน่ารัก อัมราคาดคั้น
"ว่าไงคะ สัญญามั้ยว่าจะไม่พูดแบบนี้อีก"
"ครับ"
อัมรายิ้มน่ารัก
"งั้นอัมขึ้นบ้านก่อนนะคะ"
สันติมองอัมราขึ้นบ้านไป พึมพำกับตัวเอง
"ยังไงน้องอัมก็เป็นดอกฟ้า เรามันแค่หมาวัด"
สันติเศร้า
บริเวณ ระเบียงบ้านพัก ตอนกลางคืน ทั้งหมดนั่งคุยกันอยู่
"เชอะทำเป็นเชิด คิดว่าดังตายล่ะใครๆเค้าก็รู้ว่าเจ้าหล่อนนะใช้เต้าไต่ขึ้นมาจากนักแสดงประกอบ" พรรณรายว่า
"ตายแล้วยัยพรรณพูดจาน่าเกลียดจริงลูก" อารีย์ว่า
"ก็จริงนี่คะ เนี่ยข่าวยังลงซุบซิบว่ามีเสี่ยเลี้ยงอยู่ด้วย รถที่ขับเชิดอยู่นั่นก็เสี่ยซื้อให้ทั้งนั้นแหละคะคุณแม่"
เดชปรามดุๆเ
"นั่นมันเรื่องส่วนตัวของเขา เราไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เค้าเสียหาย"
พรรณอึ้ง เดชหันมาบอกอาทรกับสันติ
"เอาเป็นว่าพรุ่งนี้น้าจะไปด้วยก็แล้วกัน จะได้ไปช่วยพูดด้วย"
"ก็เยี่ยมเลยสิครับ น้าเดช"
พรรณรายโมโห
"ทำไมต้องไปงอนง้อให้ความสำคัญแม่นั่นขนาดนี้ด้วยคะ ปั้นคนอื่นก็หมดเรื่อง พรรณไม่อยากฟังเรื่องยัยเพทายแล้ว น่ารำคาญ"
เดชเสียงแข็งไม่พอใจ
"ไม่อยากฟังก็ไปอาบน้ำ"
อัมรารีบลุกขึ้นดึงแขนพี่สาว
"นั่นสิคะ พี่พรรณเราไปอาบน้ำกันเถอะ"
"ก็ฉันยังไม่อยากอาบ"
"ไปเถอะค่ะนะ นะคะ"
พรรณรายไม่พอใจ แต่อัมราดึงตัวไปจนได้ เดชส่ายหน้า ผอบเปรยขึ้น
"หนูพรรณรายกับอัมราเนี่ยนิสัยต่างกันมากเลยนะคะ ถ้าไม่รู้ว่าเป็นลูกคุณเดชทั้งคู่ต้องคิดว่าไม่ใช่พี่น้องกันแน่ๆ"
เดชกับอารีย์เผลอมองหน้ากัน สีหน้าไม่สบายใจ แต่คนอื่นๆไม่ทันสังเกต
ตอนกลางคืน สันติเดินเล่นรับลมมาหยุดมองทะเล ครุ่นคิด สักพักหันกลับจะขึ้นบ้าน ชะงัก พงษ์ยืนจ้องอยู่
"ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย"
พงษ์เข้ามาใกล้มองยียวน
"นายชอบน้องอัมเหรอ"
สันตินิ่ง ไม่ตอบเดินผ่านพงษ์ พงษ์ใส่ทันที
"หัดเจียมตัวซะบ้างสิ เป็นแค่หมาวัดคิดจะเด็ดดอกฟ้า มันไม่หวังสูงไปหน่อยเหรอ"
สันติหันกลับมา
"คุณพูดอะไร"
พงษ์ยักไหล่ยียวน
"ฉันพูดจี้ใจดำนายใช่มั้ย ขอบอกไว้ก่อน น้องอัมนะฉันจีบอยู่ แล้วผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็เห็นดีด้วย เพราะฉะนั้นฉันว่านายน่าจะรู้นะว่าควรทำตัวยังไง"
"ผมรู้ดีว่าผมควรทำตัวยังไง"
พงษ์เข้ามาตบบ่าสันติแรงๆ
"ดี..พูดกันง่ายๆแบบนี้ จะได้ไม่ต้องใช้กำลังให้เหนื่อยแรง"
สันติผลักมือพงษ์ออกจากบ่า
"ผมเองก็อยากพูดกับคุณเรื่องน้องอัมอยู่เหมือนกัน"
"หมายความว่ายังไง"
"ผมอยากให้คุณให้เกียรติน้องอัมด้วย ถ้าผมรู้ว่าคุณทำรุ่มร่ามกับน้องอัมอีก คนที่ต้องออกแรงน่าจะเป็นผมมากกว่า"
สันติจะเดินไป พงษ์โมโห
"โธ่เอ๊ยไอ้กระจอก ฉันน่ะดูแกออกนะโว้ย ทำเป็นมาดดี ที่แท้แกก็คิดจะเกาะชายกระโปรงน้องอัมเหมือนกันแหละวะ"
สันติ โกรธแต่ข่มอารมณ์
"ผมไม่เคยคิดแบบนั้น แต่คุณอาจจะไม่แน่"
"ทำไม ฉันรวยเว้ย รวยกว่าแกเยอะไอ้เด็กวัด"
"สมัยนี้พวกรวยแต่เปลือกก็เยอะไป คุณก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ใครจะรู้"
"อ้าวพูดแบบนี้ก็สวยสิ"
พงษ์พุ่งเข้าใส่ สันติหลบไม่อยากมีเรื่อง แต่พงษ์ไม่เลิก เข้าทำร้ายอีก สองคนสู้กัน พงษ์สู้ไม่ได้ล้มไปที่พื้น สันติมองสมเพช หันหลังเดินหนี
พงษ์แค้น กระชากมีดออกมา พงษ์พุ่งเข้าใส่สันติทางด้านหลัง กำลังจะแทง "ทวีศักดิ์" หุ่นนักยิงธนูทีมชาติเข้ามายึดแขนพงษ์ บิดอย่างแรงจนพงษ์ร้อง
"โอ๊ย"
สันติหันมา ตกใจ เห็นหุ่นนักยิงธนูแต่งตัวธรรมดา ใส่หมวกบังหน้าตา กำลังบิดข้อมือพงษ์ จนพงษ์ต้องปล่อยมีด ทวีศักดิ์ผลักพงษ์กระเด็นไป หยิบมีดขึ้นมา ขว้างไปปักที่พื้นข้างๆตัวพงษ์
พงษ์ตกใจวิ่งหนีไป สันติวิ่งเข้าไปหยิบมีด มองตามพงษ์อย่างนึกไม่ถึง สันติหันกลับมา
"ขอบคุณครับ"
สันติชะงัก ที่ตรงน้น ไม่มีใครแล้ว สันติเดินมองหา
"หายไปไหนเร็วจัง"
สันติมองมีดในมือ ท่าทางแปลกใจมาก ลมกรรโชกมาอย่างแรงเหมือนจะมีพายุ สันติรีบเดินขึ้นบ้านพัก แต่ก็อดเหลียวมามองไม่ได้
เช้าวันใหม่ เดช อารีย์นั่งคุยกัน ผอบเดินออกมา สีหน้ามีแผนในใจรีบเข้าไปร่วมวง
"อุ๊ย คุณเดช คุณอารีย์ แหมพอดีเลยฉันมีเรื่องอยากปรึกษาหน่อยค่ะ"
เดชกับอารีย์มองหน้ากัน สงสัยว่าผอบจะพูดอะไร
"มีอะไรเหรอคะ"
พงษ์เดินมาแอบฟัง
"ขอพูดตรงๆละกันค่ะ คือตาพงษ์ท่าทางจะชอบหนูอัมมากๆเลย ถึงขนาดมาขอร้องฉันให้หมั้นหมายหนูอัมไว้ก่อนนะคะ"
พงษ์ตื่นเต้นพึมพำ
"สุดยอดเลยแม่ ต้องอย่างนี้สิ"
อารีย์ตกใจมองหน้าเดช เดชรีบออกตัว
"เอ๊ะ ... ผมว่ามันเร็วไปนะครับ อีกอย่างยัยอัมยังเด็กมาก แล้วก็เรียนหนังสืออยู่คงไม่เหมาะมั้งครับ"
"เข้าใจค่ะ เข้าใจ ถึงอยากให้แค่หมั้นไว้ก่อน"
"การหมั้นหมายคือการผูกมัด ครอบครัวผมไม่นิยมบังคับใจลูก ถ้าพงษ์ชอบอัมราจริง ก็น่าจะรอได้" เดชบอก
"แต่"
"ไว้ให้ยัยอัมเรียนจบก่อนดีกว่า ผมว่าเราค่อยคุยกันนะครับ"
เดชลุกขึ้นตัดบท
"อารีย์ไปเดินเล่นกันดีกว่ามั้ย"
อารีย์ก็รีบลุกขึ้น
"ค่ะ"
สองคนพากันออกไป ผอบอึ้ง พงษ์รีบเข้ามาอย่างผิดหวัง
"แบบนี้ผมก็หมดหวังแล้วสิแม่"
"ไม่ต้องห่วง ใช้ไม้อ่อนไม่ยอมคงต้องใช้ไม้แข็งแล้วล่ะ"
"แม่หมายความว่าไง"
"คอยดูฝีมือแม่แล้วกัน"
ผอบมองตามเดช อารีย์อย่างแค้น สีหน้าร้ายกาจ
ในห้องพัก ของโรงแรม เพทายแต่งตัวค่อนข้างโป๊
ฉีดน้ำหอม มองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ เสียงเคาะประตู แกล้งตะโกนถาม
"ใครคะ"
"ผมสันติครับ"
เพทายยิ้มตาวาว ขยับคอเสื้อให้ลึกลงมาอีก ก่อนเดินนวยนาดมาเปิดประตู
เพทายยิ้มหวาน สันติยืนอยู่ เพทายชะงักมองไปเห็นเดชกับอาทรยืนอยู่ข้างๆ
อาทรรีบพูด
"ผมต้องขอโทษเรื่องเมื่อวานด้วยครับ"
เพทายไม่สน ต่อว่าสันติ
"พาใครมาเยอะแยะก็ฉันบอกแล้วไงว่าให้เธอมาคนเดียว"
สันติรีบแนะนำ
"นี่อาจารย์เดช สัตยาภา อาจารย์ที่ปรึกษาของโครงการเราครับ"
เดชสุภาพมาก
"สวัสดีครับคุณเพทาย ต้องขอโทษด้วยที่ผมมารบกวน ผมอยากมาขอบคุณคุณเพทายที่เห็นคุณค่าของงานศิลปะและกรุณาสละเวลาอันมีค่าเป็นแบบให้กับนักศึกษาของเรา ผมขอรับรองด้วยเกียรติว่านักศึกษาจะตั้งใจปั้นหุ่นคุณเพทายออกมาให้ดีที่สุดครับ"
เพทายอึ้ง แต่สีหน้าไม่พอใจ
ในบ้านพักชายทะเล ทุกคนนั่งปรึกษากัน
" ดูท่าทางจะยากนะคะ ขนาดคุณพ่อไปพูดด้วยตัวเอง เธอยังไม่ยอมรับปาก" อัมราบอก
"แต่พี่ว่าตื้ออีกหน่อยคุณเพทายต้องยอมแน่ๆ" อาทรว่า
เดชมองสันติ
"ก็อาจเป็นได้นะ เหมือนเธออยากให้อาร์ตเป็นคนปั้น"
อาทรหันมาแซว
"เสน่ห์แรงไม่เบานะ เพื่อนเรา"
พรรณรายพูดไม่เกรงใจ
"ก็หล่อนไม่รู้นะสิว่าเป็นเด็กวัด"
อัมราตกใจรีบมองสันติอย่างขอโทษ เดชไม่พอใจ
"พรรณรายพ่อเตือนหลายครั้งแล้วนะ ก่อนพูดอะไรหัดคิดซะบ้าง"
พรรณรายจ๋อย เดชเอาจริง
"ขอโทษพี่อาร์ตเดี๋ยวนี้"
พรรณรายยังนิ่ง สันติรีบบอก
"ไม่เป็นไรครับไม่ต้องขอโทษหรอก ผมไม่โกรธจริงๆ"
พรรณรายลุกขึ้น อัมรารีบถาม
"พี่พรรณจะไปไหนคะ"
"ก็จะไปเที่ยวเกาะนะสิ คุณลุงติดต่อเรือไว้แล้ว จะบอกก็เห็นทุกคนมัวแต่ยุ่งกับเรื่องปั้นหุ่นอยู่ได้ จะไปหรือไม่ไปกันละคะ"
"ไปสิครับ เอ้อแต่เดี๋ยวก่อน คุณน้าผอบกับนายพงษ์ไปด้วยหรือเปล่า" อาทรถาม
"ไม่ชวนไปให้เสียบรรยากาศหรอกค่ะ"
"ทำงั้นได้ไง" เดชถาม
"ก็เค้าไม่อยู่กันนี่คะไม่รู้หายไปไหนตั้งแต่เช้า ไปกันเถอะค่ะ"
พรรณรายเข้ามาฉุดมืออาทร ไม่สนที่เดชมอง พากันไป เดชอ่อนใจ ลุกขึ้นพยักหน้าให้
สันติกับอัมราลุกตามกันออกไป
ตอนเย็น ทุกคนยกเว้นผอบกับพงษ์ขึ้นมาบนบ้านพัก คุยกันลั่นๆ ทุกคนชะงัก อาหารถูกจัดเตรียมไว้เต็มโต๊ะ อ๊อดดีใจวิ่งไปเกาะโต๊ะ
"โอโห..อาหารน่ากินทั้งเลย ดีจังกลับมาก็ได้กินเลย อ๊อดกำลังหิวอยู่พอดีเลยครับ"
ทุกคนเข้ามาดูที่โต๊ะอาหาร
"เอ๊ะใครเป็นคนทำเนี่ย" บุญเรือนถาม
"นั่นสิในเมื่อพวกเราก็ไปเกาะกันหมด" ดำเกิงบอก
ผอบกับพงษ์ถือจานอาหารออกมาอีก
"อ้าว..ทุกคนกลับมากันแล้วเหรอคะ มาเร็ว ฉันกับตาพงษ์ช่วยกันเตรียมอาหารไว้ให้ กำลังร้อนๆเลยค่ะ"
"นั่งเลยครับ นั่งเลย" พงษ์บอก
พงษ์เดินมาวางอาหารข้างสันติ สันติมองพงษ์อย่างสงสัย พงษ์กระซิบ
"เรื่องเมื่อวานน่ะฉันขอโทษนะ หวังว่านายคงไม่ถือสา"
พงษ์ยิ้มให้จริงใจ สันติงงๆ
"นั่งกันสิคะยืนงงกันอยู่ทำไม" ผอบบอก
อารีย์รู้สึกไม่ดีรีบบอก
"เออต้องขอโทษนะคะที่พวกเราไปเที่ยวเกาะกันโดยไม่ได้ชวนคุณผอบกับพงษ์"
"อุ๊ยฉันไม่คิดมากหรอกค่ะ ฉันเองก็แอบออกไปกันสองแม่ลูกเพราะตั้งใจจะซื้อของมาทำอาหารเป็นการขอบคุณที่ทุกคนให้เรามาด้วยนะคะ มาเร็วมาทานกัน หนูพรรณ หนูอัม อ๊อดนั่งเลยลูก"
ผอบกุลีกุจอ ทุกคนนั่งลง ผอบชวนให้ชิมโน่นนี่ ทุกคนลงมือทาน อย่างไม่ได้ระแวง
ผอบกับพงษ์แอบสบตากันอย่างหมายมาด
เวลาต่อมา ผอบกับพงษ์ยืนมองเดช อารีย์ อ๊อดที่นอนหลับอยู่ในห้องอย่างพอใจ
"ยานอนหลับของแม่นี่ออกฤทธิ์เร็วเหมือนกันแหะ"
"คงหลับสนิทถึงเช้าเลยล่ะ"
บุญเรือนกับดำเกิงก็หลับสนิทอยู่ในห้อง ผอบเข้าไปตบแก้มบุญเรือนแรงๆ บุญเรือนไม่รู้สึกตัว ผอบหัวเราะสะใจ
"นังแก่..ชอบกระแหนะกระแหนฉันนัก"
ส่วนสันติ อาทร สองคนหลับสนิท พงษ์มองสันติ
"เสียใจด้วยนะไอ้หน้าจืด น้องอัมต้องเป็นของฉันคนเดียว"
พงษ์หัวเราะชอบใจ
"แกรีบไปจัดการยัยอัมราเถอะ"
ผอบกับพงษ์พากันออกไป
ผอบออกมารับอากาศที่ระเบียงบ้านพักอย่างอารมณ์ดี
"อีกเดี๋ยวฉันก็จะมีสะใภ้เป็นลูกเศรษฐีกับเขาซะที โอ๊ย...คันไม้คันมือยิบๆจริงๆ"
ลมพัดวูบมาอย่างแรง อากาศแปรปรวนเหมือนจะมีพายุ ผอบกอดอกหนาวๆ
"ทำไมจู่ๆอากาศมันถึงเย็นยะเยือกขึ้นมาแบบนี้เนี่ย"
หมาหอนขึ้นใกล้ๆ ผอบแปลกใจ เสียงไม้ตะพดกระแทกบันไดขึ้นมาช้าๆเป็นจังหวะหลอนๆ
ผอบชะงัก พึมพำ
"บ้าจริง..ใครมาตอนนี้"
ผอบเดินเร็วๆมาที่บันได มองลงไป แต่ไม่มีใคร ผอบงง ชะเง้อมองลงไปก็ไม่มีใคร ผอบแปลกใจ หันกลับผอบผงะ ตกใจสุดขีด เจ้าคุณนรบดินทร์อยู่ตรงหน้า
อัมรา พรรณรายนอนอยู่คนละเตียง พงษ์ยืนอยู่ตรงกลางมองสองพี่น้องอย่างพอใจ
"ใครมันจะโชคดีเท่าไอ้พงษ์วะเนี่ย"
พงษ์นั่งที่เตียง ลูบไล้หน้าอัมราอย่างหื่นๆ ก่อนค่อยๆปลดกระดุมเสื้ออัมรา ทีละเม็ด ประตูเปิดผางเข้ามาอย่างแรง พงษ์ตกใจกระโดดลุกขึ้น แล้วถอนใจโล่งอก เห็นผอบยืนหน้าบึ้งอยู่
"แม่..เข้ามาทำไม ตกใจหมดเลย"
ผอบเสียงแข็ง น่ากลัว
"ออกไป"
"อะไรแม่..แม่นั่นแหละออกไป"
พงษ์จะลงมือต่อ ผอบตรงเข้ากระชากคอเสื้อพงษ์เหวี่ยงไปปะทะผนังห้อง พงษ์จุกงง
ผอบตรงเข้ากระชากพงษ์เหวี่ยงกระเด็นไปอีกทาง พงษ์ตะลึง
"โอ๊ย...แม่นี่มันอะไรกัน แล้วทำไมแม่แรงเยอะขนาดนี้"
ผอบเงื้อมือเหมือนถืออะไรสักอย่างฟาดใส่พงษ์ พงษ์ร้องเจ็บปวด
"แม่..โอ๊ยแม่เอาอะไรมาฟาดผมเนี่ย เจ็บนะ"
"ฉันเคยเตือนแกแล้วใช่มั้ยว่า อย่ายุ่งกับอัมรา"
"อะไรเล่าแม่..ก็แม่เป็นคนวางแผนทั้งหมดนี่นา"
ผอบเงื้อฟาดลงอีก พงษ์สะดุ้งเจ็บมาก ร้องโอดโอ๊ย ผอบฟาดไม่ยั้งจนพงษ์ทรุดกับพื้น
ผอบเดินทื่อๆเข้าหาพงษ์ พงษ์ตกใจรีบลุกวิ่งล้มลุกคลุกคลานออกไปนอกห้องอย่างไม่
คิดชีวิต ผอบยืนมองสีหน้าท่าทางน่ากลัว ก่อนเดินไป
พงษ์วิ่งล้มลุกคลุกคลาน ชะงัก ผอบยืนดักอยู่ พงษ์ตกใจ
"แม่มาได้ยังไง"
ผอบชี้หน้า เสียงดุ
"ถ้าแกยังคิดชั่วๆกับครอบครัวคุณเดชอีก แกตาย"
ผอบผงะหงายไปข้างหลัง ก่อนค่อยๆล้มลงแน่นิ่ง พงษ์ตะลึง ผอบค่อยๆรู้สึกตัว
พงษ์เดินเข้าไปหาอย่างกลัวๆ ผอบเห็นพงษ์ รีบลุกขึ้นถามงงๆ
"อ้าว..พงษ์..เอ๊ะทำไมแม่มาอยู่ตรงนี้ แล้วนี่แกจัดการยัยอัมราเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย"
"แม่..นี่แม่เป็นอะไรไป"
"แกพูดอะไร"
"ก็เมื่อกี้แม่ยังกับผีเข้า แม่เล่นงานผมเสียจนต้องวิ่งกระเจิงออกมาเนี่ย ดูสิเหมือนเอาไม้อะไรสักอย่างฟาดผม"
พงษ์ยกแขนที่มีรอยเขียวช้ำหลายแห่งให้ดู ผอบมองงงๆ
"แม่ตีแกเหรอบ้าแล้วแม่จะทำ ทำไม"
"ผมก็งงอยู่เนี่ย แต่เมื่อกี้เหมือนไม่ใช่แม่ หน้าตาแม่น่ากลัวแถมแรงก็เยอะมาก เหวี่ยงผมกระเด็นเลย"
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น"
ผอบย้อนคิด ถึงตอนที่ชะเง้อมองลงไปก็ไม่มีใคร ก่อนตกใจสุดขีดเมื่อเจอเจ้าคุณนรบดินทร์พุ่งเข้าใส่
ผอบนึกได้
"ใช่แล้วเมื่อกี้มีคนมา"
"ใครแม่"
"ไม่รู้ ผู้ชายแก่ๆถือไม้ตะพด จ้องแม่น่ากลัวมาก แล้วจากนั้นแม่ก็จำอะไรไม่ได้"
"ผู้ชายแก่ถือไม้ตะพดเหรอแม่"
ผอบพยักหน้ามั่นใจ "ใช่"
"ก็ไอ้แก่นี่แหละที่ผมเจอที่บ้านคุณเดช ที่ผมเล่าให้แม่ฟังไง"
"แต่คุณอารีย์บอกที่บ้านไม่มีคนแก่นี่....หรือว่ามันเป็นผี..ผีเจ้าที่บ้านคุณเดช ว้าย.."
ผอบกับพงษ์มองหน้ากันตกใจ ผอบกระโดดเข้ามาพงษ์ เสียงเจ้าคุณหัวเราะน่ากลัวดังขึ้น
สองแม่ลูกตาเหลือก เสียงหัวเราะของหุ่นทุกตัวประสานเสียงกันน่าสะพรึงกลัว ลมพายุพัดแรง สองแม่ลูกตกใจสุดขีด
"ผี..ผีหลอก อยู่ไม่ได้แล้วพงษ์รีบไปกันเถอะ"
สองแม่ลูกวิ่งไปขึ้นรถ พงษ์รีบขับออกไป มองกระจกหลังเห็นหุ่นเจ้าคุณยืนมองน่ากลัว
พงษ์เหยียบคันเร่งมิด รถพุ่งไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
เช้าวันใหม่ อารีย์ บุญเรือน เดช ดำเกิงเดินคุยกันออกมาที่ระเบียง
"แหมเมื่อคืนผมหลับสนิทดีจริงๆ" ดำเกิงบอก
"ผมก็เหมือนกันหลับไปตอนไหนไม่รู้ตัวเลย" เดชว่า
"สงสัยพวกเราคงเหนื่อยที่ไปเที่ยวเกาะนะคะ" อารีย์บอก
บุญเรือนบอก
"เดี๋ยวทานอาหารเช้าแล้วค่อยออกเดินทางก็แล้วกันนะคะ"
ทุกคนเห็นด้วย อัมรา พรรณราย อ๊อด สันติ อาทรเดินออกมาสมทบ
"คุณป้าผอบละลูก"
"ไม่ได้อยู่ในห้องนี่คะ อัมยังนึกว่าคุณป้าออกมาแล้วซะอีก" อัมราบอก
"นายพงษ์ก็ไม่ได้อยู่ในห้องครับ" อาทรบอก
"สองแม่ลูกนี่ชอบทำตัวแปลกๆ เดี๋ยวๆก็พากันหายไปพิลึกจริง" บุญเรือนบอก
เสียงโทรศัพท์ในบ้านพักดัง บุญเรือนเดินไปรับ
"สวัสดีค่ะ..อ๋อ..คะ.. ค่ะ"
บุญเรือนวางสายหันมาบอกทุกคน
"คุณผอบโทรมาค่ะ เขากลับกรุงเทพกันไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
ทุกคนงงๆ
บุญเรือนพูดต่อ "บอกมีธุระด่วน เห็นพวกเราหลับเลยไม่บอก"
"ดีแล้วละคะขากลับจะได้สบายหู ไม่งั้นพูดแจ้วๆตลอดทาง"
"ยัยพรรณ..นินทาผู้ใหญ่แบบนี้ไม่ดีนะลูก"
พรรณรายนิ่ง
"เออสองแม่ลูกนี่ก็พิลึกจริงๆซะด้วยนะอยากจะมาก็มา อยากจะกลับก็กลับ แต่ก็ช่างเขาเถอะไปเราไปทานอาหารเช้าแล้วเตรียมตัวเดินทางกันดีกว่า" ดำเกิงบอก
ทุกคนเห็นด้วยไม่มีใครสนใจผอบกับพงษ์อีก
ห้องหุ่น ตอนที่ 4 (ต่อ)
วันใหม่ ภายในห้องสอนปั้นหุ่น สันติ อาทร จุฑาและนักศึกษาอื่นเฝ้าจับตาดูเดชที่ยืนอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง
บนโต๊ะมีเหล็กที่เตรียมขึ้นรูปดินเหนียวตั้งอยู่ เดชกำลังอธิบาย
"เมื่อนักศึกษาผ่านขั้นตอนการวัดสัดส่วนแบบเรียบร้อยแล้ว ก็จะถึงขั้นตอนการปั้น"
เดชขยุ้มดินขึ้นมาก้อนหนึ่งลงมือหุ้มไม้กากบาทอย่างชำนาญ ผ่านเวลา เดชขึ้นรูปดินเหนียวเป็นโครงหน้าคน ทุกคนมองอย่างทึ่ง
"เมื่อเราขึ้นโครงสร้างกะโหลกได้รูปร่างตามแบบแล้ว เราก็จะเริ่มใส่รายละเอียดของใบหน้า
เดชใช้เครื่องมือในการปั้นหุ่น เกลาแต่งใบหน้าอย่างประณีต เดชอธิบาย นักศึกษาทุกคนมองอย่างสนใจ
เวลาต่อมา เดชเดินออกมาหน้าห้อง นักศึกษาหลายคนเข้าไปรุมถาม สันติ อาทรเดินมาออกมา จุฑาตามมาติดๆจุ๊บ
"เดี๋ยวสิอาร์ต"
สันติชะงัก อาทรหยุดด้วย จุฑาไม่พอใจ
"ไปเที่ยวทะเลไม่ชวนจุ๊บสักคำเลยนะ"
อาทรตอบแทน
"ก็เธอไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ ถึงชวนก็ไปไม่ได้อยู่ดี"
"นายอย่ายุ่งได้มั้ย..ฉันพูดกับอาร์ต"
เดชเดินเข้ามาหา
"ตกลงเราจะนัดไปเจอคุณเพทายอีกทีเมื่อไรดี"
จุ๊บงงๆ
"คุณเพทาย... นี่เราจะได้คุณเพทายเป็นแบบปั้นเหรอคะ" จุฑาตื่นเต้น
สันติตอบแทน
"ยังไม่รู้เลยว่าคุณเพทายจะยอมเป็นแบบให้หรือเปล่า พวกเรากำลังจะนัดขอเข้าไปคุยกับเธออีกที"
"หมายความว่าไปคุยกับคุณเพทายมาแล้วเหรอ ไปมาเมื่อไร ที่ไหน ทำไมไม่ชวนจุ๊บไปด้วยล่ะ"
"พวกเราไปเจอคุณเพทายที่ทะเล"
จุฑาเข้าใจ
"ผมว่าเราโทร.ไปนัดก่อนดีมั้ยครับ"
เดชคิด
"ก็ดี..พรุ่งนี้อาว่าง ลองนัดดูน่ะ ถ้าได้อาจะไปด้วย ลองดูอีกที"
"ครับถ้างั้นได้เรื่องแล้ว ผมจะบอกให้คุณอาทราบ"
"ตกลง"
เดชผละไป จุฑาตื่นเต้น ลืมเรื่องทะเลสนิท
"โอ๊ยตื่นเต้นจังเลย เรื่องจริงใช่มั้ยเนี่ย ฉันไม่ได้ฝันใช่มั้ย เราจะได้คุณเพทายเป็นแบบปั้นหุ่น"
อาทรหันมาตีแขนจุฑาแรงๆ เธอตกใจ
"เฮ้ย ตีฉันทำไมเจ็บนะ"
"อ้าวเจ็บก็แสดงว่าเธอไม่ได้ฝันไง"
จุฑาฉุน
"ไอ้บ้าออย"
จุฑาเงื้อมือจะตีอาทร อาทรรู้ทันรีบวิ่งหนี เธอไม่ยอมไล่อาทรอย่างเอาเรื่อง สันติมองสองคนขำๆ
เช้าวันใหม่ อารีย์เข้ามาในห้องนอน เดชยังหลับสนิท อารีย์เข้ามานั่งที่เตียงปลุกเดช
"ไหนว่านัดกับอาร์ต ออยจะไปพบคุณคุณเพทายไม่ใช่เหรอคะ"
เดชรีบ ลืมตาลุกขึ้นนั่ง
"จริงด้วย"
อารีย์จะลุกไป เดชคว้ามือไว้ให้นั่งต่อ เดชดมไหล่อารีย์
"ฮึ่ม ตัวหอมจัง กลิ่นสบู่อะไรเนี่ย"
อารีย์หัวเราะ
"พี่เดชเนี่ย อย่ามาทำตลก ฉันก็ใช้สบู่เหมือนพี่นั่นแหละ"
อารีย์จะลุกอีก เดชกอด ซุกไซ้ อารีย์รีบดันตัวเดชออก เดชชะงัก อารีย์รีบพูด
"ฉันขอโทษค่ะ แต่พี่เดชก็รู้ว่าฉันไม่ค่อยสบาย"
เดชนึกได้ ยิ้มออก กอดอารีย์ไว้เฉยๆ
"ไม่ต้องขอโทษหรอก พี่เสียอีกต้องขอโทษเธอที่ลืมตัวไป"
อารีย์ไม่สบายใจ
"ฉันเป็นเมียที่แย่จริงๆใช่มั้ยคะ"
"ไม่เลย..ตรงกันข้ามเธอเป็นเมียและแม่ที่ดีที่สุดในโลก"
เดชหอมแก้มเบาๆ กอดอารีย์ไว้ อารีย์ค่อยยิ้มออก เดชลอบถอนใจ
สันติ อาทร จุฑานั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เพทายหน้างอ มองอาทรกับจุ๊บอย่างไม่ค่อยพอใจ
สันติรีบบอกสุภาพ
"ผมต้องขอโทษด้วยครับที่มาช้ากว่าที่นัดไว้ครับ สงสัยอาจารย์เดชจะติดธุระ อีกสักพักก็คงมาครับ"
"ฉันคิดว่าวันนี้คงไม่มีเวลาให้พวกเธอแล้วล่ะ"
จุฑาไม่พอใจ
"อ้าว...ทำไมละคะ"
"ก็พวกเธอมาช้า ฉันมีนัดถ่ายละครตอนบ่าย ไว้วันหลังค่อยนัดกันใหม่แล้วกัน"
อาทรช่วยกันพูด
"แต่พวกเราช้าไปแค่สิบนาทีเองนะครับ"
เพทายลุกขึ้น
"จะกี่นาทีก็ถือว่าช้า พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ"
จุฑาฉุนจะต่อว่า แต่เสียงเคาะประตู สันติ อาทร จุฑาดีใจ
"สงสัยอาจารย์เดชคงจะมาแล้วละครับ เดี๋ยวผมไปเปิดให้เองครับ"
สันติรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างดีใจแล้ว เสี่ยมองสันติงงๆ
"แกเป็นใคร ทำไมมาอยู่ในห้องอาเพทาย"
เสี่ยรีบเข้ามา เพทายรีบลุกขึ้นเข้าไปหาเสี่ย
"อุ๊ยเสี่ย สวัสดีค่ะทำไมมาไม่บอกละคะ"
เสี่ยมองทุกคนอย่างไม่พอใจ
"นี่มันอะไรกัน พวกนี้เป็นใคร"
"อ๋อ...เด็กๆมหา’ลัยนะคะ มาขอให้เพทายเป็นแบบปั้นหุ่น"
เสี่ยโวยวาย
"หุ่นอะไรไม่เอา ไปไล่พวกมันกลับไปให้หมด เสี่ยไม่ชอบ เสี่ยจะมารับหนูไปดูแหวนเพชรเร็วๆเข้า"
เสี่ยออกไป เพทายตื่นเต้นจะตามเสี่ย รีบหันมาไล่
"เอ้านั่งเฉยกันอยู่ทำไม ไปสิฉันจะออกไปข้างนอก"
ทั้งสามลุกขึ้นอย่างงงๆ
เมียเสี่ยอยู่ในรถมองไปเห็นเพทายเดินเกาะแขนเสี่ยมาที่ลานจอดรถ ส่วนคนอื่นๆตามมาห่างๆ เมียเสี่ยเจ็บใจพึมพำ
"นังเพทาย"
จุฑาโมโห วิ่งตามมา
"เดี๋ยวคุณเพทาย"
เพทายกับเสี่ยชะงักหันมามอง
"คุณเป็นคนรับนัดพวกเราเอง แล้วจะไปดื้อๆแบบนี้มันไม่ถูกนะคะ"
"เอ๊ะ จะมาโทษฉันได้ไงเวลาฉันมีค่าเป็นเงินเป็นทอง ถ้าจะโทษก็ต้องไปโทษอาจารย์เธอโน่น นัดแล้วไม่เป็นนัด"
จุฑาไม่ยอม สันติ กับอาทรรีบเข้ามาขวางสันติ
"จุ๊บพอเถอะ เชิญคุณเพทายเถอะครับ วันนี้พวกผมต้องขอโทษคุณเพทายอีกครั้ง"
เพทายมองสันติพอใจ แต่เสี่ยอยู่เลยรีบพาเสี่ยไปขึ้นรถ รถเสี่ยออกไป เมียเสี่ยแค้น
"ไอ้แก่ตัณหากลับ แกแอบเลี้ยงดูนังเพทายจริงๆด้วย"
เมียเสี่ยขับรถตามออกไปผ่านหน้าทั้งสามที่กำลังเซ็ง
"งี่เง้าที่สุดเลย"
"เอาน่าก็เราผิดเองที่มาช้า"
อาทรหันมาเห็น สันติครุ่นคิด อาทรตบไล่
"ไม่ต้องห่วงเรื่องปั้นหุ่นหรอก เดี๋ยวเรานัดคุณเพทายใหม่แล้วกัน"
"ฉันไม่ห่วงเรื่องปั้นหุ่น ฉันห่วงคุณอาเดชมากกว่า คุณอาหายไปไหน ทำไมถึงไม่มา"
ทุกคนหันมาเห็นด้วย สันติสีหน้ากังวล
เวลาเดียวกัน เดชประคองพิไลเข้ามาในบ้าน พาไปนั่งที่เตียง
"ทานยาตามหมอสั่งให้หมดนะเธอจะได้ดีขึ้น"
พิไลกราบเดชที่อก
"ขอบคุณพี่เดชมากนะจ้ะที่กรุณาพาฉันไปหาหมอ ฉันไม่รู้จะบากหน้าไปพึ่งใคร เงินทองที่มีก็โดนคนเลวมันเอาไปจนหมด"
เดชนิ่ง หยิบเงินออกมาส่งให้
"เก็บไว้ใช้ ฉันคงมาช่วยเธอทุกครั้งไม่ได้ แล้วก็ถ้าไม่จำเป็นอย่าโทร.ไปที่บ้านอีก ถ้าอารีย์รู้เค้าจะไม่สบายใจ ฉันไปละ"
เดชจะลุก พิไลรีบกอดรัดไว้ ร้องไห้
"พี่เดชขาอย่าเพิ่งไปเลย ฉันไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการตัวพี่ ฉันคิดถึงพี่เดชมากเหลือเกิน"
เดชอึ้งชะงัก พิไลเกลือกหน้าจูบกับแผ่นหลังเดช แอบมองปฏิกิริยาเดชอย่างพอใจ
เดชปรามเสียงสั่น
"อย่าทำแบบนี้ พิไล"
พิไลเลื่อนตัวขึ้นมาซุกไซ้เดชที่ซอกคอ พึมพำ
"ทำไมล่ะ ฉันเคยทำยิ่งกว่านี้อีก ฉันเป็นเมียพี่นะ"
เดชอ่อนยวบแต่พยายามฝืนความรู้สึก
"มันจบไปแล้ว..ตอนนี้ฉันมีอารีย์"
"ผู้หญิงอย่างอารีย์ยังไงก็ให้ความสุขพี่แบบฉันไม่ได้หรอก"
พิไลรุกเดชอย่างช่ำชอง เดชพยายามจะดันพิไลออก
"ปล่อยพิไล อย่าทำบ้าๆ"
"ฉันยอมบ้า บ้าเพราะรักพี่เดช รู้มั้ยคะว่าฉันเสียดายพี่แค่ไหน ฉันคิดถึงพี่ทุกวันทุกคืน ฉันจะไม่ยอมปล่อยพี่เดชไปไหนเด็ดขาด"
พิไลดันตัวเดชนอนลงไป เดชทำเสียงแข็ง
"พิไล"
ครู่เดียวเดชเสียงอ่อนพึมพำ
"พิไล"
อารีย์นั่งปอกผลไม้ไปมองอัมรากำลังสอนการบ้านพรรณรายไปด้วย พรรณรายวางปากกาหงุดหงิด
"โอ๊ยทำไมมันยากมันเย็นแบบนี้นะ"
"ไม่ยากหรอกค่ะ อัมจะอธิบายใหม่ช้าๆนะคะ"
"ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเรียนแล้วน่าเบื่อ"
"ทำไมพูดแบบนี้ละคะพี่พรรณ ถ้าพี่พรรณตั้งใจมากกว่านี้เดี๋ยวก็เข้าใจเองละคะ"
พรรณรายฉุน
"เอ๊ะไม่ต้องมาสอนฉัน คิดว่าตัวเองเก่งตายแล้วเหรอ แค่ให้สอนหน่อยทำเป็นพูดมาก"
อารีย์โดนมีดบาดเลือดออก
"โอ๊ย..."
ลูกทั้งสองตกใจรีบหันมาดูอารีย์
"คุณแม่เป็นอะไรไปคะ"
"มีดบาดนิดหน่อยลูก ไม่เป็นไรจ้ะ"
"แต่เลือดออกเลยนะคะ งั้นเดี๋ยวพรรณไปเอาน้ำยาล้างแผลกับพลาสเตอร์ติดแผลมาให้ค่ะ"
อารีย์พยักหน้า เสียงโทรศัพท์ดัง อารีย์บอกอัมรา
"ยัยอัมไปรับทีลูก"
อัมราออกไป อารีย์มองเลือดที่ไหลเยอะ หยิบทิชชูมาเช็ด อัมราเข้ามา รีบบอก
"พี่อาร์ตโทร.มาค่ะ เห็นว่าคุณพ่อยังไปไม่ถึง พี่อาร์ตก็เลยลองโทร.มาถามว่าคุณพ่อออกไปนานหรือยังค่ะ"
"เอ๊ะ..ป่านนี้น่าจะถึงแล้วนะ แม่ชักห่วงคุณพ่อแล้วสิ"
พรรณรายเข้ามาได้ยินพอดี
"สงสัยรถคงติดมั้งคะ มา ยัยอัมมาช่วยกันทำแผลให้คุณแม่หน่อย"
"ได้ค่ะ"
สองพี่น้องช่วยกัน อารีย์มองลูกๆทำแผลให้แต่สีหน้าครุ่นคิด
"ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีกับพี่เดชเลย"
เวลาต่อมา เดชนั่งติดกระดุมเสื้อช้าๆ สีหน้าละอายใจมาก พิไลเข้ามากอดด้านหลัง
"ฉันมีความสุขมากที่สุดเลย พี่เดชละคะ"
เดชอึ้ง พิไลประคองหน้าเดชให้มองตัวเอง อ้อนถาม
"ว่าไงคะพี่เดช..ยังไม่ตอบฉันเลย"
เดชค่อยๆสบตาพิไล
"เราไม่ควรทำแบบนี้ ถ้าอารีย์รู้..."
พิไลหัวเราะ
"โธ่พี่เดชก็..ฉันกับพี่ก็เป็นผัวเมียกันมาก่อน ก่อนอารีย์ซะอีก"
เดชดึงมือพิไลออก หน้าเครียดมาก พิไลรีบเลื่อนตัวไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเดช
"พี่เดชขา พี่เดชไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะอะไร ฉันรับรองว่าจะไม่เรียกร้องหรือทำให้พี่ลำบากใจเด็ดขาด"
เดชมองพิไลอย่างคาดคั้น
"เธอพูดจริงหรือพิไล"
"จริงสิคะ..ฉันขอแค่ให้พี่เดชอย่าทิ้งฉัน มาหาฉันบ้างได้มั้ยคะ"
"เธอต้องการแค่นั้นจริงๆเหรอ"
พิไลซบกับขาเดช ทำตัวน่าสงสาร
"จริงๆจ้ะ พี่เดชสงสารฉันเถอะนะ"
เดชใจอ่อนดึงตัวพิไลมานั่งข้างๆ
"พี่ก็สงสารเธอ แต่พี่ก็ทำร้ายอารีย์ไม่ได้ เขาไม่มีความผิดอะไรสักนิด และที่สำคัญตอนนี้อารีย์ไม่สบาย เป็นโรคหัวใจ"
พิไลทำเป็นตกใจ
"ตายจริง โธ่น่าสงสารอารีย์จังเลย"
"เพราะฉะนั้นพี่ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจเขา หวังว่าเธอคงเข้าใจ"
"พี่เดชไม่ต้องห่วงนะจ้ะ ฉันจะอยู่ในที่ของฉัน ฉันจะไม่ไปวุ่นวายให้อารีย์รู้เด็ดขาด ฉันสัญญา"
"ขอบใจมากพิไล ขอบใจเธอจริงๆ"
พิไลกอดเดช เดชกอดตอบสีหน้าสบายใจขึ้น ที่พิไลแอบยิ้มเยาะในความซื่อของเดช
โต๊ะสนามบ้านเดช ทั้งหมดนั่งคุยกันอยู่ อารีย์สีหน้าแปลกใจมาก
"พี่เดชไม่ได้ไปพบพวกเธอ แล้วพี่เดชหายไปไหนกันเนี่ย"
อารีย์หน้าซีด อัมรารีบลุกขึ้นมาประคอง
"คุณแม่ใจเย็นๆก่อนค่ะ คุณพ่อคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
เดชขับรถเข้ามา
"นั่นไงคะคุณพ่อมาแล้ว"
ทุกคนหันไปมอง เดชลงจากรถเดินเข้ามา สันติกับอาทรยกมือไหว้ เดชรับไหว้รีบพูด"ขอโทษจริงๆ พอดีรถน้าเกิดอุบัติเหตุนะ"
อารีย์ตกใจ รีบลุกเข้ามาหาจับตัว
"พี่เดชเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ แต่คู่กรณีหนักอยู่" เดชหลบตาอารีย์ "พี่มัวแต่พาส่งโรงพยาบาลไม่มีเวลาโทรบอกใครเลย" เดชบอกกับสันติ อาทร "อาขอโทษนะ เธอสองคนไปพบคุณเพทายหรือเปล่า"
"ไปครับ แต่พวกเราไปช้า คุณเพทายเลยขอเลื่อนเป็นวันหลัง" สันติบอก
"แต่ผมว่าเป็นข้ออ้างจะไม่ยอมเป็นแบบให้เรามากกว่าครับอาเดช ถ้าต้องเลื่อนไปแบบนี้สงสัยเราจะปั้นกันไม่ทันแน่" อาทรบอก
เดชคิด
"ไม่ต้องห่วง อาเป็นคนทำให้เสียเรื่อง อาจะจัดการเอง เดี๋ยวขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"
เดชหันมายิ้มให้อารีย์ก่อนเดินไป อารีย์มองตามหลัง แล้วชะงักจ้องสงสัย เห็นรอบลิปสติกจางๆที่หลังเสื้อเดช อารีย์อึ้ง หน้าซีด
เวลาต่อมา เดชเดินเข้าไปใกล้กองถ่าย เจ้าหน้าที่เข้ามากั้น
"คนนอกเข้าไม่ได้นะครับ"
"ผมเป็นเพื่อนกับผู้กำกับครับ" เดชบอก
ผู้กำกับนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์หันมาเห็น ยกมือทักทาย เดชยกมือตอบ
"อ๋อ..งั้นสักครู่นะครับ อีกซีนเดียวก็เสร็จแล้วครับ"
"ขอบคุณครับ"
เดชเลี่ยงไปยืนรอมุมหนึ่ง เห็นเพทายเข้าฉากกับดาราชายคนหนึ่งอยู่
ในบทบาทการแสดงนั้น เพทายสนทนากับดาราชาย
"คุณจะทิ้งฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันทำผิดอะไร"
"ผิดสิก็เธอรับปากแล้วว่าจะอยู่อย่างเงียบๆไม่ให้เมียฉันรู้ไง"
"คุณมันอยากโง่เอง มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่จะยอมกินน้ำใต้ศอกคนอื่น ไงเมียคุณถึงกับช็อกเลยเหรอ ป่านนี้คงหัวใจวายไปแล้วมั้ง"
ดาราชายโกรธ ตบหน้าเพทายจนล้มคว่ำลง
"เธอมันเลวจริงๆ"
ดาราชายหันหลังจะไป เพทาย มองโกรธมาก หยิบปืนออกมาจากกระเป๋า ลุกขึ้นเล็ง
"แก..ตายซะเถอะ"
เพทายยิงหลายนัด ดาราชายล้มลง ผู้กำกับสั่งคัทชอบใจ เดชยืนอึ้ง ผู้กำกับฯสั่งเลิกกอง เดินมาหาเดช
"ไงคุณเดช คิดยังไงถึงมาเยี่ยมกองถ่ายผมได้"
เดชยังอึ้งกับเรื่องราวการแสดงเมื่อครู่ ผู้กำกับฯเรียกซ้ำ"คุณเดช"
เดชรู้สึกตัว "อ๋อครับ"
เพทายเดินเข้ามา
"เพทายกลับก่อนนะคะ..อ้าวคุณ"
"รู้จักกันเหรอเนี่ย" ผู้กำกับถาม
เพทายทำเชิด เดชรีบบอก
"ครับ..ที่จริงผมตั้งใจจะมาพบคุณเพทาย"
เพทายมองอย่างรำคาญ
"ถ้าจะมาพูดเรื่องขอปั้นหุ่นฉันละก็..."
"อะไรนะ คุณเดชจะขอให้คุณเพทายเป็นแบบปั้นหุ่นเหรอ โอโห เหลือเชื่อ คุณเพทายคุณต้องดังระเบิดแน่ๆ คุณรู้มั้ยคุณเดชไม่ยอมปั้นใครมาเป็นสิบๆปีแล้ว ขนาดคุณตรีประดับคู่แข่งคุณขอร้องให้ปั้นเธอ คุณเดชยังไม่ยอมปั้นเลย"
เพทายอึ้งไป มองเดชอย่างไม่อยากเชื่อว่าเดชจะมีฝีมือขนาดนั้น เดชยิ้มถ่อมตัว
ห้องหุ่น ตอนที่ 4 (ต่อ)
คืนนั้น ... ในห้องหุ่น เพทายมองหุ่นทีละตัว ก่อนหันมามองเดชอย่างชื่นชม
"ไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นหุ่น เหมือนคนจริงๆเลยนะคะ"
"ขอบคุณครับที่ชมและต้องขอบคุณที่คุณจะยอมเป็นแบบให้ลูกศิษย์ผมปั้น"
"เดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันมีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่ง"
"อะไรครับ"
"คุณต้องลงมือปั้นหุ่นฉันอีกตัวด้วยนะคะ"
เดชอึ้ง เพทายพูดต่อ
"หุ่นที่เป็นฝีมือคุณฉันจะเอาไปตั้งโชว์ที่บ้านหลังใหม่ กำลังจะเสร็จเร็วๆนี้ละคะ"
เดชอึกอัก เพทายแปลกใจ
"ทำไมล่ะคะ"
เดชตัดสินใจอธิบาย
"คุณคงทราบเรื่องที่ผมเลิกปั้นหุ่นมานานมาก"
"ค่ะ..ฉันถึงต้องการให้คุณปั้นฉันไงคะ"
"ที่ผมไม่ปั้นหุ่นอีกก็เพราะว่า...ผมปั้นใครเสร็จ คนนั้นก็จะต้องตายทุกคน"
เพทายนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนหัวเราะอย่างขำมากๆ
"ตายจริงไม่อยากเชื่อว่าคุณจะงมงาย เชื่อเรื่องอาถรรพ์อะไรแบบนี้ ... แต่ฉันไม่เชื่อค่ะ"
"คุณเพทาย"
เพทายยกมือห้าม
"นี่เป็นข้อตกลงของฉัน ถ้าคุณไม่รับปาก ฉันก็คงเป็นแบบให้ลูกศิษย์คุณไม่ได้"
เดชนิ่ง เพทายเดินจะขึ้นบันไดกลับไป เดชลังเล สุดท้ายตัดสินใจเรียก
"เดี๋ยวครับคุณเพทาย"
เพทายหันกลับมายิ้มอย่างผู้ชนะ
"วันนี้ฉันว่าง เรามาเริ่มกันเลยดีมั้ยคะ"
คืนเดียวกัน รถเพทายวิ่งเข้ามาจอดในคอนโดฯ เพทายลงจากรถยืนไขกุญแจปิด มีคนจู่โจมเข้าไปใกล้ เพทายหันมา สีหน้าตกใจสุดขีด เสียงปืนปังๆๆหลายนัด เพทายล้มลง ตายอย่างน่าอนาถ
เดชนอนพักอยู่ในห้องหุ่น ตกใจตื่นร้องเสียงดัง
"คุณเพทาย"
ที่แท้เป็นความฝัน ! เดชรู้สึกตัว มองรอบๆรู้ว่า ฝัน เดชลูบหน้า
"บ้าจริง..ฝันอะไรแบบนี้"
เดชลุกขึ้นเดินไปยืนมอง ขึ้นรูปดินเหนียวโครงหน้าเพทาย เดชชะงักจ้องแล้วตกใจ โครงหน้าเพทายนั้นมีรอยร้าวกลางหน้าเหมือนจะแตกออกจากกันอย่างน่ากลัว เดชขยับเข้าไปใกล้ จ้องอย่างตกใจ หุ่นแต่ละตัวสายตาจ้องมองมาที่เดชทั้งหมด เหมือนเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง เดชไม่สบายใจ
วันใหม่ หุ่นทุกตัวยืนสงบนิ่ง สายตาเหมือนมองไปที่เดชกำลังปั้นหุ่นเพทาย เพทายนั่งในท่าทางเซ็กซี่ด้วยชุดนอนพริ้วบางๆ อยู่ตรงกลางห้อง อีกด้านหนึ่ง สันติ อาทร จุฑาต่างกำลังปั้นหุ่นเพทายอย่างตั้งใจ เทียบหุ่นแล้ว หุ่นของเดชผั้นดูสวยกว่า และมีละเอียดมากกว่า เดชมีท่าทางกระสับกระส่าย และกังวล พลางนึกถึงความฝัน...
เพทายหันมา สีหน้าตกใจสุดขีด เสียงปืนปังๆๆหลายนัด เพทายล้มลง ตายอย่างน่าอนาถ
เดชเหงื่อซึม หน้าเครียด มือที่ปั้นสั่นๆ มองเพทายอย่างไม่สบายใจ
อัมราเข้ามามองการปั้นเงียบๆ สันติหันไปเห็น ยิ้มให้ อัมรายิ้มตอบ อาทรลอบมองแอบถอนใจ จุฑาหันมาเห็นอาทรแอบแปลกใจ เดชเห็นอัมรา เลยหยุดการปั้นรีบถาม
"มีอะไรหรือเปล่า"
"เอ้อ... คืออาหารเตรียมพร้อมแล้วนะคะ"
"ดีเลย" เดชบอกเพทาย "ผมว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าครับ คุณเพทายจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป"
เพทายลุกขึ้นเดินมาดูหุ่นที่เดชปั้น ยิ้มพอใจ
"สวยมากค่ะ ไม่ผิดหวังเลยที่ฉันยอมเสียเวลามานั่งเป็นแบบให้"
เพทายเดินไปดูหุ่นของพวกสันติ เพทายยิ้มหวานให้สันติ พูดแบบเจาะจงกับสันติ
"แต่ฝีมือเธอก็ไม่เลวนะจ้ะ"
สันติยิ้มถ่อมตน จุฑาหมั่นไส้จะพูด แต่อาทรกระตุกแขนไว้ เลยจำใจเงียบ
"เชิญครับ เชิญคุณเพทายที่ห้องอาหารดีกว่า"
ทั้งหมดพากันเดิน เสียงเปรี๊ยะเหมือนอะไรแตก ทุกคนชะงัก ต่างหันมอง หุ่นเพทายที่เดชปั้น เห็นรอยแตกของดินที่หน้า เดชเห็นชะงัก แต่ทุกคนไม่เห็น
"เสียงอะไร"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ อัมพาทุกคนไปที่ห้องอาหารก่อน เดี๋ยวพ่อตามไป"
"ค่ะ"
อัมรานำทุกคนออกไปจนหมด เดชรีบมายืนมองหุ่นเพทายอย่างตกใจ หุ่นมีรอยแตกร้าวที่กลางหน้าเหมือนภาพในฝัน เดชตะลึง
ในห้องอาหาร อารีย์กับชิ้นช่วยกันดูแลจัดโต๊ะอาหาร มีอาหารวางหลายอย่างบนโต๊ะ
พรรณรายเข้ามามองอย่างไม่พอใจ
"แหม ทำไมต้องจัดเตรียมอาหารซะอลังการขนาดนี้ด้วยคะ"
"คุณเพทายเค้าอุตส่าห์ยอมมาเป็นแบบให้ เราก็ต้องดูแลเค้าให้ดีหน่อยสิลูก" อารีย์บอก
"ก็เห่อกันแบบนี้ เจ้าหล่อนถึงวางมาดอย่างกับนางพญา คอยดูนะ ถ้ามาทำหยิ่งให้พรรณเห็นละก็ จะเล่นงานให้วิ่งแจ้นกลับไปไม่ทันเลย"
อารีย์จะหันมาปรามแต่ต้องชะงัก อัมราเดินนำเพทาย และคนอื่นๆ เข้ามา อารีย์รีบหันไปเชิญ
"เชิญเลยค่ะคุณเพทาย"
เพทายเข้ามามองกวาดไปที่อาหารบนโต๊ะ ทำหน้าไม่พอใจ
"อาหารอะไรกันเนี่ย ฉันกินไม่ได้หรอก"
ทุกคนอึ้ง พรรณรายมองหมั่นไส้ พูดโพล่งขึ้น
"ก็แค่ใส่ปากเคี้ยวมันจะกินไม่ได้ตรงไหน"
เพทายมองพรรณรายอย่างไม่พอใจ
"ฉันหมายถึงฉันไม่กินอาหารแบบนี้ ฉันเคยกินแต่อาหารฝรั่งพวกสเต็กหรือสปาแก็ตตี้นะไม่มีบ้างเลยเหรอ"
อารีย์กุลีกุจอ
"สปาเก็ตตี้ ฉันพอทำเป็น ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณเพทายรอสักครู่นะคะ"
"ไม่ต้องค่ะคุณแม่..ใครกินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน กินฟรีแล้วยังเรื่องมากอีก"
ทุกคนตกใจ เพทายมองพรรณรายอย่างโกรธมาก
"เธอว่าใครเรื่องมาก"
พรรณก็ไม่ยอม
"ก็ว่าเธอนะสิ"
"ปากร้ายแบบนี้ต้องสั่งสอนซะหน่อยแล้ว"
"มาสิแน่จริงเข้ามาเลย"
เพทายขยับเข้าไป พรรณรายก็ขยับเข้ามา ต่างคนต่างไม่ยอม ทุกคนตกใจ
"หยุดนะพรรณราย"
เดชเข้ามา พรรณรายอึ้ง เพทายโกรธมาก
"ถ้าคุณเดชยังอยากได้ฉันเป็นแบบปั้นหุ่นละก็ คงรู้นะคะว่าควรทำยังไงกับยัยเด็กคนนี้"
"พรรณรายขอโทษคุณเพทายเดี๋ยวนี้"
"ไม่ค่ะก็เค้าเรื่องมากเอง"
เดชเอาจริงท่าทางโกรธมาก
"พ่อสั่งให้ขอโทษเดี๋ยวนี้"
พรรณรายอึ้ง เดชจ้อง สุดท้ายจำใจยกมือไหว้พูดห้วนๆ
"ขอโทษ"
เพทายยิ้มเยาะ พรรณรายสะบัดออกไป เดชรีบพูดกับเพทาย
"อย่าไปสนใจเลยครับ เชิญคุณเพทายนั่งก่อน"
เดชหันไปมอง อารีย์รีบบอก
"ค่ะๆๆฉันจะไปทำสปาเก็ตตี้มาให้"
อารีย์กับชิ้นรีบออกไป เพทายนั่งวางมาดเหนือกว่า ทุกคนนั่งตามเงียบๆ จุฑาแอบมองอย่างหมั่นไส้
อัมราเดินมาส่ง สันติ อาทร จุฑา
"วันนี้อัมต้องขอโทษแทนพี่พรรณด้วยนะคะ เกือบทำให้พวกพี่ๆต้องมีปัญหากับคุณเพทาย"
"พี่เองก็ไม่ชอบคุณเพทายเท่าไร แต่คนเราก็ต้องรู้จักกาลเทศะบ้าง พรรณรายเอาแต่ใจเกินไป"
อัมราหน้าเสีย อาทรรีบขัด
"น้องอัมก็ขอโทษแทนแล้วไง แล้วมันก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เธอจะพูดมากทำไมเนี่ย"
"เอ๊ะ ทำไมต้องมาว่าฉันด้วย"
"ก็จริงนี่นา ไปๆกลับบ้านไปได้แล้ว" อาทรบอก
"เออฉันกลับอยู่แล้วไม่ต้องมาไล่"
จุฑาสะบัดเดินนำไปก่อน สันติมองอย่างอ่อนใจ อัมราหน้าเสีย
"พี่จุ๊บเลยโกรธไปอีกคนแล้ว"
"ช่างเขาเถอะครับ น้องอัม ยัยนี่วันไหนไม่โกรธใคร สงสัยนอนไม่หลับ"
"พี่กลับก่อนนะครับ น้องอัม" สันติบอก
สันติกับอาทรจะไป อัมราเรียกไว้
"เดี๋ยวคะ พี่อาร์ต"
สันติชะงัก อาทรมองสงสัย อัมราชี้ที่หน้าสันติ ข้างๆจอนผมมีรอยดินติดอยู่
"ดินติดที่ข้างแก้มนะคะ"
สันติหัวเราะ
"สงสัยพี่เผลอเอามือเช็ดตอนปั้นหุ่นแน่ๆ"
สันติล้วงกระเป๋าหาผ้าเช็ดหน้าแต่ไม่มี อัมรายื่นผ้าเช็ดหน้าตัวเองให้ สันติมองอึ้ง
"ใช้ผ้าของอัมก็ได้ค่ะ"
สันติลังเล อาทรมองอึ้ง อัมราคะยั้นคะยอ
"รับไปสิคะเช็ดซะ มอมแมมเป็นเด็กๆไปได้"
สันติยังนิ่งแบบเจียมตัว อาทรรับมาแทนยัดใส่มือ
"แหมลีลาอยู่ได้ เอ้าเช็ดๆๆซะ นายโชคดีแค่ไหนที่ได้ผ้าเช็ดหน้าน้องอัมราเลยนะเนี่ย โอ๊ยอิจฉา เดี๋ยวพี่ต้องเอาดินมาป้ายหน้าบ้างดีกว่า"
สามคนเลยหัวเราะกันขำๆ แต่อาทรแอบลอบมองสันติกับอัมรา สีหน้าเศร้า อัมรากับสันติไม่ทันสังเกต
คืนนั้น จ่อเนื่องมา เดชยืนพิจารณารูปปั้นหุ่นเพทายที่มีรอยร้าว
เดชหันไปมองหุ่นที่ละตัว พลางคิดถึงต้นแบบหุ่นทุกตัวตายและอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น เดชหน้าเครียดมาก มองหุ่นเพทาย แล้วมองมือสองข้างของตัวเอง
"ไม่นะ..ไม่..มันต้องไม่เป็นแบบนั้น ไม่..."
เดชกุมหัวตัวเองอย่างสับสน บรรยากาศในห้องหุ่นน่ากลัวขึ้นมาทันที หุ่นทุกตัวต่างมองมาที่เดช แต่เดชไม่ทันเห็น
เช้าวันใหม่ เดชเดินมาตามทางไปกุฏิช้าๆ สีหน้าครุ่นคิด ชะงัก เห็นสันติถือกระป๋อง
กับผ้าขี้ริ้วออกมาจากจากกุฏิหลวงตาพอดี สันติวางของลงรีบไหว้เดช
"สวัสดีครับคุณอา"
"อ้าวอาร์ตทำอะไรอยู่นะ"
"ผมมาถูกุฏิให้หลวงตาครับ"
เดชพยักหน้าชื่นชม
"คุณอามาหาหลวงตาเหรอครับ"
"ใช่"
"หลวงตาไม่อยู่ครับ คนมานิมนต์ไปตั้งแต่เช้า"
เดชอึ้ง สันติรีบบอก
"แต่หลวงลุงที่กุฏิด้านหลังอยู่ครับ ถ้าคุณอาจะไปทำบุญผมจะพาไป"
"เปล่า อาไม่ได้มาทำบุญ"
เดชหน้าเครียด สันติมองแปลกใจ
เดชมองเหม่อไปที่ท่าน้ำ ก่อนหันมาถามสันติที่นั่งอยู่ตรงข้าม
"อาร์ตเธอเชื่อเรื่องอาถรรพ์อะไรแบบนี้มั้ย"
"ผมไม่เข้าใจครับ คุณอาหมายถึงอะไร"
เดชรู้สึกตัวรีบหัวเราะกลบเกลื่อน
"ไม่มีอะไรหรอก อารู้สึกเหนื่อยๆเครียดๆนะ ตั้งใจจะมาคุยกับหลวงตาสักหน่อย ท่านมักมีแง่คิดดีๆให้อาเสมอ"
"ครับ เวลาผมมีปัญหาคิดไม่ออก พอได้คุยกับหลวงตาผมก็จะเข้าใจถึงปัญหา แล้วก็ผ่านมันไปได้ทุกครั้ง"
เดชพยักหน้าเห็นด้วย
"เอ้าอาก็มาชวนคุยเสียเพลิน เช้านี้เธอมีเรียนหรือเปล่า"
"มีครับ"
"งั้นก็ไปแต่งตัว อาจะแวะไปส่งให้"
สันติทำท่าจะปฏิเสธ เดชรีบพูด
"ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้อาว่าง ไปสิ"
"ครับ..ขอบคุณครับ"
สันติรีบเดินไป เดชมองท่าน้ำ สีหน้าครุ่นคิด
สันติ เดชเดินคุยกันมาถึงลานจอดรถ กำลังจะขึ้นรถ สันติชะงักมองไปนอกวัดที่รั้ว เห็นพิไลแต่งตัวสวย ไม่เป็นแม่ค้าแล้ว สันติแปลกใจ เดชสงสัย
"มองอะไรเหรออาร์ต"
"อ๋อ..ผมมองแม่ค้าที่ขายหมูปิ้งครับ แกเข็นรถผ่านหน้าวัดทุกวัน แปลกใจที่วันนี้แกแต่งตัวสวยผิดปกติ"
เดชพยักหน้า หันไปมองบ้าง เดชตกใจพึมพำ
"พิไล"
สันติได้ยินไม่ถนัด
"อะไรครับ"
"ปละเปล่า เรารีบขึ้นรถกันเถอะ"
เดชรีบเปิดประตูแต่ไม่ทัน พิไลหันมาเห็นพอดี พิไลตื่นเต้นดีใจรีบวิ่งเข้ามาทัก
"อุ๊ย พี่เดช...พี่เดชคะพี่เดช"
พิไลเข้ามาเกาะแขน เดชอึ้ง สันติมองแปลกใจ
"ดีใจจังที่เจอพี่เดช พิไลคิดถึ๊งคิดถึง"
เดชรีบบอกสันติ
"อ้า... คือนี่พิไลเพื่อนเก่าอาเอง"
สันติยกมือไหว้ พิไลจะรับไหว้แต่พอเห็นเป็นสันติ พิไลจำได้
"เธอ..เด็กที่วัดนี้นี่ เอ๊ะมาวุ่นวายอะไรกับพี่เดช เค้ามาขอเงินพี่เดชเหรอคะ"
"พูดอะไรนะพิไล อาร์ตเป็นเพื่อนกับลูกสาวพี่ แล้วก็ยังเป็นลูกศิษย์ด้วย"
พิไลอึ้ง ไม่สนใจสันติอีก หันมาอ้อนเดช
"เจอพี่เดชก็ดีเลย พิไลมีเรื่องอยากคุยกับพี่เดชเยอะแยะเลย เราไปหาอะไรทานแล้วคุยกันไปด้วยดีมั้ยคะ"
เดชอึกอัก สันติรีบบอก
"ถ้าอย่างนั้นผมไปเองดีกว่าครับ คุณอาเจอเพื่อนเก่าทั้งที คงมีอะไรคุยกันเยอะ งั้นผมไปก่อนนะครับ"
สันติไหว้เดช และพิไล รีบไป เดชจะห้ามแต่ไม่ทัน มองพิไลอย่างไม่ค่อยพอใจ
พิไลยิ้มหวานให้ ส่งสายตายั่วยวน
เช้าต่อเนื่องมา โต๊ะใต้ต้นไม้ในมหาวิทยาลัย อัมรานั่งชะเง้อมองหาสันติ บนโต๊ะมีกล่องข้าวพลาสติกสวยๆสองกล่อง พลางพึมพำ
"เอ๋ ทำไมวันนี้พี่อาร์ตมาช้าจัง"
อาทรเดินผ่านมาเห็น ดีใจรีบเข้ามาทัก
"น้องอัม"
"พี่ออย จะไปไหนคะ"
"พี่กำลังจะไปทานข้าวที่โรงอาหาร น้องอัมทานหรือยังครับ"
"ยังค่ะ"
"งั้นไปทานด้วยกันนะ"
"เอ้อ ... คืออัมเอาข้าวมาจากบ้านนะคะ"
อาทรมองกล่องข้าว
"เปลี่ยนบรรยากาศเหรอครับ ฮื่ม... ไม่เลวนะ แหมเอามาตั้งสองกล่อง งั้นให้พี่ทานด้วยคนได้มั้ย"
อาทรนั่งลง คว้ากล่องข้าว อัมราบอกเกรงใจ
"กล่องนั้นของพี่อาร์ตค่ะ"
อาทรชะงัก
"คืออัมเห็นพี่อาร์ตเอาข้าวก้นบาตรมาทานทุกวัน อัมก็เลยเอามาเผื่อนะคะ"
อาทรสีหน้าเปลี่ยนไป อัมรารีบเอาใจ
"เอาอย่างนี้มั้ยคะ ถ้าพีออยอยากทานด้วย พรุ่งนี้อัมจะเอามาเผื่อ"
สันติมาถึงพอดี ทักอัมรา
"ขอโทษทีครับน้องอัม พี่มาสายไปหน่อย อ้าว... ออย อยู่ด้วยเหรอทานข้าวด้วยกันสิ"
อาทรปรับท่าทางกลับมาปกติ ลุกขึ้น
"ไม่ล่ะนายกินกับน้องอัมเถอะ ฉันแค่แวะมาคุยกับน้องอัม ไปกินข้าวก่อนนะ"
อาทรยิ้มแย้ม รีบออกไป เดินห่างไปหน่อย อาทรหยุดเดินหันมามอง เห็นสันตินั่งลงข้างๆ อัมราเปิดกล่องข้าวให้ สองคนคุยกันอย่างสนิทสนม อาทรถอนใจเศร้าๆ ก่อนสะดุ้งกับเสียงจุฑาที่ดังขึ้นทางด้านหลัง
"ฉันสงสัยมาตั้งนานว่านายชอบใคร เพิ่งรู้คำตอบวันนี้เอง"
อาทรตกใจ จุฑายืนมองยิ้มมีเลศนัย
จุฑาเดินเข้ามาในห้องปั้นหุ่นในคณะ อาทรตามมาติดๆ พยายามอธิบาย
"มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ ยัยจุ๊บ"
เธอเดินไปนั่งโต๊ะหยิบสมุดออกจากย่าม เตรียมเรียน ไม่สน อาทรโมโห
"จุ๊บคุยกันให้รู้เรื่อง"
"ฉันรู้เรื่องแล้ว เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งเลยล่ะ"
"ก็ที่เธอเข้าใจมันไม่ใช่"
จุฑากวน
"ฉันเข้าใจว่าอะไรเหรอ"
อาทรอึกอัก
"ก็เอ้อ... เธอคิดว่า ฉัน...ฉันชอบน้องอัมใช่มั้ย"
"มันไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นหรอก หึ ยัยเด็กคนนี้เสน่ห์แรงเป็นบ้าเลยนะ"
"ฉันขอบอกว่าที่เธอคิดนะมันผิด"
"คนที่คิดผิดนะคือเธอ"
"เธอพูดอะไร"
"ก็ในเมื่อเธอชอบอัมราทำไมต้องปิดบังความรู้สึกตัวเองด้วย"
อาทรอึ้ง จุฑายุต่อ
"ของแบบนี้มันต้องแข่งขันกันสิ ใครดีใครได้"
อาทรมองหน้า จุฑาจริงจัง
"เธอยอมหลีกทางง่ายๆแบบนี้ คิดเหรอว่าอาร์ตเค้ารู้เค้าจะขอบใจเธอ มันเป็นการดูถูกกันชัดๆ"
"เธอพูดบ้าอะไร เพื่อนกันมันต้องไม่มาแย่งกันเองสิ ถึงจะเรียกว่าเพื่อน เธออย่ามายุฉันให้ยากเลย แล้วก็จำไว้นะห้ามบอกอาร์ตด้วย ไม่งั้นฉันกับเธอมีเคืองกันแน่"
อาทรเดินออกไปจากห้อง จุฑามองตามหมั่นไส้ สีหน้าทางทางครุ่นคิด
สันติกับอัมราเดินคุยกันมาระหว่างเดินในมหาวิทยาลัย
"พี่ลืมบอกน้องอัมไป เมื่อเช้าคุณอาเดชไปที่วัดด้วยครับ"
"เหรอคะ คงไปทำบุญ"
"เปล่าครับ เห็นคุณอาบอกว่าจะมาคุยกับหลวงตา แต่หลวงตาไม่อยู่ พี่ดูท่าทางเหมือนคุณอามีเรื่องไม่สบายใจ"
อัมราแปลกใจ
"ไม่สบายใจเหรอคะ"
"พี่คิดว่าพี่ดูไม่ผิดนะ คุณอานั่งคุยอยู่กับพี่สักพักก็เลยกลับ ตอนแรกจะมาส่งพี่แต่พอดีเจอเพื่อนเก่า พี่ก็เลยขอตัวแยกมาก่อน"
"เพื่อนเก่าของคุณพ่อเหรอคะ สงสัยจะเป็นเพื่อนๆสมัยเรียนมั้งคะ"
"ไม่น่าใช่นะครับ ป้าคนนี้พี่เห็นแกบ่อยๆ แกขายหมูปิ้งแถวๆวัด"
อัมรางงมาก
"ขายหมูปิ้ง"
"ครับ ชื่อพิไล"
อัมราส่ายหน้า
"อัมไม่เคยได้ยินชื่อเพื่อนคุณพ่อคนนี้มาก่อนเลยค่ะ"
อัมราแปลกใจ
ในบ้านเช่าพิไล พิไลถือถาดใส่อาหารเข้ามาในห้อง เดชนอนก่ายหน้าผากคิดหนัก แล้วอยู่ๆเดชก็ลุกพรวดขึ้นแต่งตัว
"อ้าวพี่เดชจะกลับแล้วเหรอคะ"
พิไลรีบวางถาด เข้ามากอด
"ไม่เอา..พิไลยังไม่ให้พี่เดชกลับนะ..นะคะยังไม่หายคิดถึงเลย"
เดชหันมาจับตัวพิไลดันออก หน้าจริงจัง
"พิไล..เราจะทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้"
พิไลงง
"พี่เดชหมายความว่ายังไงจ้ะ"
"พี่จะหยุด พี่จะไม่มาที่นี่อีก พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกเด็ดขาด"
พิไลตกใจ แกล้งร้องไห้ เสียใจ
"ไม่นะพี่เดช พี่เดชจะทิ้งฉันไม่ได้นะ ฉันรักพี่ ฉันขาดพี่ไม่ได้ พี่รับปากฉันแล้วไงว่าจะไม่ทิ้งฉัน"
เดชมองพิไลจริงจัง
"พี่ขอโทษนะพิไล แต่พี่ทรยศอารีย์ไม่ได้จริงๆ"
เดชออกไปอย่างรวดเร็ว พิไลหยุดร้องไห้ มองตามเดชแววตาเจ็บใจ
"ฉันจะไม่ยอมเสียพี่ไปเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด"
พิไลพุ่งตามไปที่ประตู แต่จู่ๆประตูปิดปังเข้ามา พิไลงงพยายามเปิดแต่เปิดไม่ออก
"อะไรวะ ทำไมประตูเปิดไม่ออก"
พิไลพยายามเปิด ลมพัดแรงเข้ามาเหมือนฝนจะตก ข้าวของในห้องปลิวไสว
อากาศสลัว มืดครึ้มขึ้นมากะทันหัน พิไลตกใจ รีบหันมาวิ่งเก็บของอย่างตกใจโวยวายไปด้วย
"ไอ้พายุบ้าจะมาอะไรตอนนี้เนี่ย"
พิไลชุลมุนเก็บข้าวของอย่างอลหม่าน บนเพดานมุมห้อง พรรณี หุ่นนางพยาบาลจ้องมองพิไลลงมาอย่างน่ากลัว
จบตอนที่ 4