xs
xsm
sm
md
lg

ห้องหุ่น ตอนที่ 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ห้องหุ่น ตอนที่ 2

คืนเดียวกัน อารีย์เดินตามหาเดช เธอเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าห้องเก็บของ อารีย์ชะงัก
 
เห็นเดชยืนอยู่หน้าตู้เก็บเครื่องมือปั้นหุ่น มีอุปกรณ์ปั้นหุ่นชิ้นหนึ่งอยู่ในมือ เดชมองสีหน้าครุ่นคิด
"พี่เดชอยากปั้นหุ่นอีกเหรอคะ"
เดชตกใจหันกลับมายิ้มเก้อ
"เปล่า..พี่แค่คิดว่าจะเอาออกมาทำความสะอาดนะ"
อารีย์เดินมาใกล้ๆ
"แต่ฉันอยากให้พี่กลับไปปั้นหุ่นอีกนะคะ"
"ทำไม"
"ก็เป็นสิ่งที่พี่รัก พี่ทำแล้วมีความสุข ฉันก็อยากให้พี่ทำ"
เดชเครียด
"เธอลืมไปเหรอว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"โธ่พี่เดช..จนป่านนี้พี่ยังไม่เลิกโทษตัวเองอีกเหรอ ฉันไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์อะไรนั่นเลย ทุกคนที่ตายก็เพราะอุบัติเหตุทั้งนั้น"
เดชนิ่ง อารีย์มองให้กำลังใจ
"เชื่อฉันสิ"
เดชนิ่ง แต่สุดท้ายก็เก็บเครื่องมือกลับเข้าที่ อารีย์มองอย่างอ่อนใจ

ในห้องหุ่น เวลาต่อเนื่องมา เดชมองหุ่นทีละตัว แล้วพูดกับหุ่นทั้งหมด
"ช่วยบอกผมหน่อยได้มั้ย ว่าผมควรทำยังไง"
เดชเดินไปหาหุ่นที่ละตัว
"ผมยอมรับว่าผมอยากปั้นหุ่นอีก แต่ถ้าผมปั้นแล้วคนคนนั้นจะตายเหมือนพวกคุณอีกหรือเปล่า"
หุ่นเลื่อนเสียงครืดคราด เดชตกใจหันไปห็น "ทวน" หุ่นชาวนาสั่นก่อนจะล้มครืนลงมาแตกกระจาย เดชตะลึง
"ลุงทวน"
ทับเริ่มสั่นอีก เดชหันไปมอง หุ่นทับล้มลงแตกกระจาย หุ่นตัวอื่นๆสั่นตามก่อนล้มลงแตกหมด
ทุกตัว เดชผงะ ตกใจสุดขีด ตะโกนออกมา
"ไม่..ไม่"

เดชนอนหลับอยู่ที่โซฟาตัวยาว ลุกพรวดขึ้นนั่งร้องเสียงดังทั้งที่ยังหลับตา
"ไม่"
เดชลืมตา เหงื่อซึม หายใจหอบๆ มองรอบๆตัว แล้วรีบลุกขึ้นถลาเข้าไปที่หุ่น เดชไล่มองหุ่นทีละตัว หุ่นทุกตัวยังอยู่ในสภาพปกติ เดชถอนใจโล่งอก
"นี่เราแค่ฝันใช่มั้ย"
เดชมองหุ่น สีหน้าไม่แน่ใจ แล้วพึมพำ
"หรือว่านี่คือคำตอบ"
อัมราลงบันไดมายังห้องหุ่น
"คุณพ่ออยู่ในนี้จริงๆด้วย"
เดชรู้สึกตัว ลูบหน้า ทำปกติ
"อัมมีอะไรกับพ่อหรือเปล่าลูก"
"คุณแม่ให้มาตามค่ะ เห็นคุณพ่อหายไป"
"พ่อเผลอหลับไปนะ ไปเราขึ้นข้างบนกันเถอะ"
เดชโอบอัมราพากันขึ้นบันได
"พรุ่งนี้มีเรียนหรือเปล่า"
"มีค่ะแต่เรียนตอนบ่าย"
"ดีเลยงั้นเช้าเราไปทำบุญกันนะ"
"ดีสิคะ"
อัมราหันกลับมามองหุ่นทุกตัว
"พรุ่งนี้อัมจะอุทิศผลบุญกุศลให้ทุกๆคนนะคะ"
เดชยิ้มโอบอัมราขึ้นข้างบน รัหุ่นแต่ละตัวสีหน้าเหมือนมีรอยยิ้มนิดๆ

เช้าวันใหม่ บริเวณลานดินหน้าวัดพิไลเข็นรถเข็นเก่าๆขายหมูปิ้งผ่านมา รถตกหล่มดินเข็นไม่ขึ้น พิไลโมโห
"โอ๊ยซวยจริงๆ แล้วจะทำยังไงเนี่ย"
เด็กวัดหลายคนวิ่งเล่นมา พิไลเรียก
"นี่ๆๆไอ้หนูมาช่วยเข็นรถให้หน่อยสิ"
เหล่าเด็กวัดมองแล้วไม่สนใจ พากันวิ่งไปเล่นที่อื่นต่อ พิไลแค้น
"ไอ้เด็กบ้า ช่วยหน่อยก็ไม่ได้"
"ให้ผมช่วยมั้ยครับ"
พิไลหันมาเห็นหน้าสันติ ทึ่ง มองการแต่งตัวในชุดนักศึกษาสะอาดสะอ้าน
"ได้ก็ดีสิ..แต่ชุดคุณจะเปื้อนหมดนะ"
สันติส่งหนังสือให้พิไล
"ไม่เป็นไรครับ ผมฝากหนังสือหน่อย"
สันติพับแขนเสื้อทะมัดทะแมง ตรงเข้าเข็นรถเข็นครู่เดียว รถเข็นก็เคลื่อนขึ้นจากหล่มดิน พิไลดีใจ วิ่งเข้ามา สันติหันไปบอก
"เรียบร้อยแล้วครับ"
"แหมขอบใจมากนะคุณ ว่าแต่มาทำอะไรที่วัดละจ้ะ มาทำบุญเหรอ"
"เปล่าครับ ผมเป็นเด็กวัด"
พิไลอึ้ง

"เด็กวัด"

พิไลทำหน้ารังเกียจ ส่งหนังสือคืนให้ กระชากเสียง
 
"เอ้า..เอาคืนไป"
พิไลรีบเข็นรถร้องขายหมูปิ้งต่อ สันติไม่ได้ใส่ใจท่าทางพิไล รีบออกจากวัดไป

เดช อารีย์ พรรณรายกับอัมราในชุดนักศึกษาออกมาจากโบสถ์ อารีย์มองเดช
"สบายใจขึ้นหรือยังคะพี่เดช"
เดชพยักหน้า พรรณรายหาวท่าทางยังง่วงหันมาถาม
"ที่คุณพ่อมาทำบุญเพราะไม่สบายใจเหรอคะ"
"จ้ะคุณพ่อฝันเห็นหุ่นล้มลงมาแตก"
พรรณรายหัวเราะ
"แตกจริงๆก็ดีสิคะ บอกตรงๆพรรณไม่ชอบห้องหุ่นเลย มันดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเป็นพรรณ พรรณจะขายไปให้หมดเลย"
เดชหันขวับ เสียงดุ
"พรรณรายอย่าพูดแบบนี้อีกนะพ่อไม่ชอบ"
พรรณรายไม่พอใจเถียง
"ทำไมละคะ คนที่คุณพ่อปั้นไม่ใช่ญาติเราสักหน่อย จะเก็บไว้ทำไม ทีญาติพวกเขาเองยังไม่มาเอาไปเลย"
"หุ่นทุกตัวเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของเรา พ่อคิดเสมอว่าเขาเป็นเหมือนญาติ"
พรรณรายทำหน้าเซ็ง เดชจริงจัง
"แล้วก็จำไว้นะถ้าพ่อตายห้ามใครขายหุ่นอย่างเด็ดขาด"
พรรณรายทำท่าจะเถียง อัมราจับแขนไว้รีบเปลี่ยนเรื่อง มองไปที่คนกำลังรุมซื้อหมูปิ้งของพิไลอยู่
"อุ๊ย...นั่นเขาขายหมูปิ้งนี่ คนรุมซื้อกันเยอะเชียว เมื่อกี้พี่พรรณบ่นหิวไม่ใช่เหรอ ไปดูกันเถอะท่าทางจะอร่อย"
อัมรารีบลากพรรณรายที่ไม่พอใจไป อารีย์พูดกับเดชอย่างเกรงใจ
"พี่เดชก็พูดกับลูกแรงเกินไปนะคะ"
"ขอทีอย่าให้ท้ายผิดๆหน่อยเลย เธอก็ได้ยินที่พรรณรายพูดหึ จะขายหุ่น"
เดชมองตามไม่พอใจ
"ลูกคนนี้ยิ่งโตความคิดก็ยิ่งเหมือน..."
อารีย์ขัดเสียงแข็ง
"พี่เดช"
เดชถอนใจ
"พี่จะไปรอที่รถ"
เดชเดินอ้าวๆไป อารีย์เป็นฝ่ายถอนใจบ้าง

พิไลส่งถุงหมูปิ้งให้ลูกค้ารายสุดท้าย
"ขอบใจนะจ๊ะ"
อัมราดึงพรรณรายมาถึงหน้ารถเข็น พรรณรายมองอย่างรังเกียจ
"ไม่เห็นอยากกินเลย"
"ของเขาน่ากินออก..ขายยังไงคะแม่ค้า"
พิไลมองพรรณรายหมั่นไส้
"ไม่อยากกินแล้วจะถามทำไมละคู๊ณ"
พิไลทำท่าจะเข็นรถไป อัมรารีบบอก
"กินสิจ้ะ"
พรรณรายหมั่นไส้
"เขาไม่ขายก็ช่างเขาสิ สกปรกจะตายใครจะกินเข้าไปลง"
พิไลฉุนตั้งท่าจะด่า แต่ต้องชะงัก เมื่อเสียงอารีย์ดังเข้ามา
"ซื้อกันเสร็จหรือยังจ้ะ"
พิไลหันไปมอง เห็นอารีย์เดินเข้ามา พิไลตกใจ รีบดึงหมวกปิดหน้า ก้มหน้าจะรีบเข็นไป
"อ้าวจะรีบไปไหนละแม่ค้า ไหนลูกพรรณบอกอย่างกินไงจ้ะ"
พิไลตกใจแอบเงยหน้ามองไปที่พรรณราย พึมพำอย่างดีใจ
"พรรณราย"
พรรณรายเบ้ปาก
"พรรณไม่อยากกินค่ะ ยัยอัมต่างหากที่อยากจะกิน ไปขึ้นรถเถอะค่ะคุณแม่ ร้อนจะตาย"
พรรณรายกระชากแขนอารีย์ไปจนได้ อัมราหน้าเสีย
"ขอโทษนะคะป้า..หนูต้องรีบไปก่อน"
อัมราจะรีบตามไป พิไลเรียกไว้
"เดี๋ยวหนู"
อัมราชะงักมองงงๆ พิไลรีบคว้าหมูปิ้งหลายไม้ใส่ถุงส่งให้ อัมรางงๆ
"เอ้อ... ป้าให้จ้ะเอาไปกินฟรีๆไม่คิดตังค์หรอก เอาไปให้หนูคนนั้นด้วยนะ"
"ทำไมป้าต้องให้ฟรีๆด้วยละคะ"
พิไลอึกอักแล้วรีบพูด
"อ๋อ..ก็หนูจะได้รู้ไงว่าถึงจะดูไม่น่ากินแต่อร่อยนะ วันหลังผ่านมาจะได้อุดหนุนป้าไง"
"แต่..."
เดชขับรถเข้ามาใกล้บีบแตรเร่ง
"เอาไปเถอะจ้ะ"
พิไลรีบก้มหน้าเข็นรถออกไป อัมราตะโกนตาม
"ขอบคุณนะคะป้า"
อัมรารีบวิ่งขึ้นรถ รถออกไป พิไลหยุดหันมองตามไปเห็นเดชขับรถ อารีย์นั่งสง่าอยู่หน้ารถ
พรรณรายกับอัมรานั่งเบาะหลัง พิไลจ้องที่พรรณรายไม่วางตาพึมพำ

"พรรณราย..ลูกโตขนาดนี้เชียวเหรอ"

ภายในรถ อัมรายื่นหมูปิ้งให้พรรณรายอย่างคะยั้นคะยอ
 
"ลองชิมหน่อยน่าพี่พรรณ อร่อยจริงๆนะ"
พรรณรายรำคาญดึงมากินแล้วชะงัก
"ฮึ่มอร่อยแหะ"
"เห็นมั้ย..วันหลังผ่านมาแถวนี้เราต้องอุดหนุนป้าแกหน่อยนะคะ"
อารีย์บอก
"นั่นสิเป็นคนมีน้ำใจดีนะอุตส่าห์ให้มาชิม"
พรรณรายคว้าหมูปิ้งจากถุงมากินอีก
"ท่าทางสกปรกอย่างนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะทำอร่อย"
เดชมองพรรณรายทางกระจกหลัง
"จำไว้เป็นบทเรียนว่า อย่ามองคนแต่ภายนอก ของอร่อยไม่จำเป็นต้องเป็นของตามร้านหรูๆ คนก็เหมือนกัน คนดีไม่ใช่ต้องเป็นคนรวยหรือคนแต่งตัวหรูหรา ไม่งั้นจะมีสุภาษิตที่ว่า ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงเหรอ"
พรรณรายหยุดกินทำหน้าเซ็ง
"อ้าวพี่พรรณไม่กินแล้วเหรอ"
พรรณประชด
"พี่อิ่มจนจุกเลยล่ะ"
พรรณรายมองออกนอกหน้าต่าง เดชมองกระจกหลังรู้ว่าลูกสาวประชด สีหน้าไม่พอใจ อารีย์กับอัมราเงียบกันไปหมด รู้สึกบรรยากาศเริ่มแย่ อัมรารีบเปลี่ยนเรื่อง
"คุณพ่ออย่าขับเพลินจนลืมแวะส่งอัมที่มหา’ลัยนะคะ"
"ไม่ลืมหรอก อ๋อพ่อฝากหนังสือให้อาร์ตเขาหน่อยนะ"
"ค่ะ"

อัมราถือหนังสือเดินขึ้นบันไดมาจนเกือบถึงหน้าห้องเล็กเชอร์ อัมราชะงัก จุฑาเดินออกมาจากห้องพอดี จุฑาซ่อนความไม่พอใจไว้
"อ้าว น้องอัม"
"หวัดดีค่ะพี่จุ๊บ คุณพ่อฝากหนังสือเกี่ยวกับการปั้นหุ่นมาให้พี่อาร์ตนะคะ"
"เหรอคะ เอเมื่อวานก็เจอกัน ทำไมคุณน้าเดชไม่ให้อาร์ตเลยละคะ"
อัมราอึ้งๆ แต่ก็ตอบน้ำเสียงปกติ
"เอ้อ... อัมก็ไม่ทราบค่ะคุณพ่อคงเพิ่งนึกได้"
"อ๋อค่ะ แต่ฝากพี่ไว้ก็ได้นะคะเพราะอาร์ตเค้ายุ่งๆอยู่ คือกำลังปรึกษากับเพื่อนเรื่องงานประกวดนะค่ะ"
อัมราเข้าใจ ยื่นหนังสือให้
"งั้นก็ได้ค่ะ อัมฝากพี่จุ๊บให้พี่อาร์ตด้วยแล้วกัน"
อัมราเดินกลับไป จุ๊บมองพึมพำ
"น่าเชื่อตายล่ะ หึ เห็นหงิมๆตื้อเก่งเหมือนกันแหะ"
จุฑาหันกลับ ตกใจที่อาทรมองอยู่
"ทำไมเธอต้องกีดกันน้องอัมด้วย"
"กีดกันอะไร นายพูดอะไร ออย ฉันไม่เข้าใจ"
"ก็อาร์ตไม่ได้ยุ่งซักหน่อย เธอจงใจไม่ให้น้องอัมเจออาร์ตใช่มั้ยจุ๊บ"
"อย่ามาหาเรื่องกันนะ"
"ฉันดูออกนะจุ๊บ ว่าเธอชอบอาร์ตมากกว่าเพื่อน"
จุฑาตกใจ "ออย"
"แต่การที่เราชอบใครสักคนเราก็ต้องให้โอกาสเขาเลือกสิ ไม่ใช่ปิดโอกาสเขา"
"แล้วฉันปิดโอกาสอาร์ตตรงไหน"
"ก็ตรงที่เธอไม่ยอมให้อาร์ตได้เลือกไง อาร์ตเขายังไม่บอกเลยว่าเขาเป็นแฟนเธอ เพราะฉะนั้นอาร์ตก็มีสิทธิ์ที่จะคบใครก็ได้"
จุฑาอึ้ง
"นายไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก ถ้านายเป็นฉัน นายก็ต้องทำอย่างฉัน"
จุฑาเดินหนี ออยยังพูดตามหลัง
"ไม่จริง..ความรักสำหรับฉันคือการให้ ฉันจะทำทุกอย่างให้คนที่ฉันรักมีความสุข ถึงเขาจะไม่รู้ก็ตาม"
จุฑาหยุดเดินหันกลับไปมอง แต่ออยเดินไปแล้ว จุฑางงๆพึมพำ

"พูดแปลกๆ..หรือว่าออยแอบรักใคร ใช่แล้วต้องใช่แน่ๆ แต่ใครกันนะ"

อัมราเดินมาตามทาง สันติวิ่งเข้ามาหาจากด้านหนึ่ง
 
"น้องอัม..โอ๊ยพี่วิ่งตามเกือบไม่ทัน"
"พี่อาร์ต ได้หนังสือของคุณพ่อหรือยังคะ"
"ได้แล้วครับ ทำไมน้องอัมไม่เข้าไปให้พี่ในห้องเองล่ะ พี่จะได้พาไปเลี้ยงไอศกรีมตอบแทน"
"ก็เห็นพี่อาร์ตยุ่งเรื่องการประกวดหุ่นอยู่ไม่ใช่เหรอคะ"
สันติงง
"เปล่านี่ครับ คาบนั้นพี่ว่างทั้งชั่วโมงเลย เพราะอาจารย์ติดธุระ ไม่มีอาจารย์เข้าสอนแทนด้วย เอ๊ะใครบอกว่าพี่ยุ่ง"
อัมราอึ้งรู้ทันทีว่าจุฑากีดกัน
"อ๋อ..ไม่มีใครบอกหรอกค่ะ อัมก็คิดเอาเองแล้วพอดีอัมก็รีบเข้าเรียนด้วย"
"นี่จะกลับแล้วเหรอครับ"
"ค่ะ แต่รอรถที่บ้านอยู่ วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็ว อัมเลยจะไปหาที่นั่งรอนะคะ"
"งั้นระหว่างรอ ให้พี่เลี้ยงไอศกรีมนะ ร้านข้างๆมหา’ลัยนี่เอง"
อัมรานิ่งคิด สันติรีบพูด
"แต่ถ้าน้องอัมไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ"
"ค่ะ..อัมไม่..."
สันติหน้าเสีย แต่แล้วยิ้มออกเมื่ออัมราพูดต่อ
"ไม่ปฏิเสธค่ะ แต่มีข้อแม้นนะคะ"
"อะไรครับ"
"ขออัมทานสองถ้วยได้มั้ยคะ"
สันติหัวเราะชอบใจ
"ได้เลยครับ ถ้าน้องอัมไม่กลัวอ้วนนะ"
สองคนหัวเราะให้กันอย่างร่าเริง พากันเดินไป จุฑายืนแอบมองที่มุมหนึ่ง สีหน้าไม่พอใจ

บริเวณริมถนน ตอนกลางคืน หมูปิ้งยังเหลืออยู่ในถาดอีกหลายไม้ พิไลยืนเหม่อสีหน้าครุ่นคิด... เดชขับรถ อารีย์นั่งสง่าอยู่หน้ารถ พิไลพึมพำอย่างอิจฉา
"คนที่จะนั่งข้างพี่เดชในรถหรูหรานั้น มันน่าจะเป็นฉันมากกว่า"
พิไลเจ็บใจ
"นังอารีย์แกมันชุบมือเปิบชัดๆ ได้ทั้งผัวได้ทั้งลูกฉัน ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว"
พิไลรีบก้มลงเก็บข้าวของ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็ตกใจ "นวล" หุ่นนางพยาบาลเข้ามายืนเงียบๆ
"อุ๊ยคุณ..ตกใจหมดเลย"
"ขายยังไง"
"เอาไปหมดเลยสิคุณ ฉันคิดแค่ยี่สิบเอ้า จะกลับบ้านแล้ว เอามั้ยคะ"
นวลพยักหน้าช้าๆ พิไลรีบหยิบหมูปิ้งใส่ถุงยื่นให้ นวลยื่นเงินให้ พิไลมอง
"เอ๊ะ ทำไมฉันรู้สึกคุ้นๆหน้าคุณเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน"
นวลยิ้มเยือกเย็น
"หมูปิ้งของคุณรสชาติอร่อย ถ้าตั้งใจทำแล้วรู้จักเก็บออม ไม่นานก็จะตั้งตัวได้ อย่าไปคิดโลภอยากได้ใคร่ดีกับของที่ไม่ใช่ของเรา ไม่อย่างนั้นจะเดือดร้อนนะ"
นวลเดินจากไป พิไลงง
"พูดอะไรของเค้า"
พิไลเก็บของต่อ แล้วจู่ๆก็หยุดคิด
"เอ๋ทำไมมันคุ้นๆหน้า ฉันต้องเคยรู้จักนางพยาบาลคนนี้แน่ๆ แต่ว่าเคยเจอกันที่ไหนน๊า...หรือจะเป็นลูกค้าที่เคยมาซื้อหมูปิ้งเฮ้ยช่างมันเถอะ"
พิไลรีบเก็บของต่ออย่างไม่สนใจอีก ผู้หญิงอุ้มเด็กทารกเดินมาถาม
"หมดแล้วเหรอน้า"
"จ้าหมดแล้ว เขาเพิ่งเหมาไปหมดเมื่อกี้เอง"
ผู้หญิงอุ้มเด็กไป พิไลมองตามเด็กทารกสีหน้านึกอะไรขึ้นมาได้

วันนั้นในห้องพักผู้ป่วยรวม นวลในชุดนางพยาบาลอุ้มเด็กทารกส่งให้พิไล
"น่าเกลียดน่าชังดีนะคะ ลูกสาวคุณพิไล ตั้งชื่อหรือยังคะ"
พิไลรับลูกมามอง
"ชื่อพรรณรายค่ะ ผัวเอ๊ยสามีฉันเค้าตั้งชื่อว่าพรรณราย"
พิไลเงยหน้ามองนางพยาบาล นวลยิ้มให้
"ตายจริงเกือบจะชื่อเหมือนกันเลย แต่ฉันชื่อพรรณีค่ะ"

พิไลมองหน้า นวลยิ้มให้

ห้องหุ่น ตอนที่ 2 (ต่อ)

พิไลตกใจ
 
"ใช่แล้วนางพยาบาลที่ทำคลอดให้เรา คุณพรรณีแต่เธอตายไปแล้วนี่นา"
พิไลตกใจกว่าเดิม มองซ้ายขวารอบๆ
"ไม่ใช่น่าคง..คงหน้าคล้ายๆมากกว่า"
พิไลรีบเก็บของเร็วกว่าเดิม เสร็จแล้วกำลังจะเข็น มีมือเข้ามาแตะที่บ่า พิไลร้องลั่น
"ว้าย..."
ผู้หญิงซึ่งเดินผ่านมา งงๆ
"ป้า..ป้าทำของตก"
พิไลชะงัก หันไปมองเห็นผู้หญิงทำงานมองเธออย่างแปลกใจ ที่พื้น... พิไลมองตาม เห็นถุงพลาสติกใส่หมูปิ้งหล่นจากรถเข็นทั้งหมด พิไลรีบก้มเก็บ ผู้หญิงเดินผ่านไป พิไลมองรอบๆหวาดๆ
เสียงผู้หญิงหัวเราะดังแว่วๆมา พิไลสะดุ้งโหยงมองรอบๆก็ไม่มีใคร
"ใคร..เสียงใครหัวเราะ"
พิไลขนหัวลุก รีบเข็นรถเข็นไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว แต่เสียงหัวเราะของผู้หญิงยังดังก้องอยู่อย่างน่ากลัว

เช้าวันใหม่ ในมหาวิทยาลัย นักศึกษาหลายคน บางเดินไปคณะ บ้างจับกลุ่มอยู่ตามโต๊ะในมุมต่างๆ อัมราเดินมาเห็นสันตินั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะใต้ต้นไม้ จึงรีบวิ่งเข้ามาทัก
"สวัสดีค่ะพี่อาร์ต"
สันติชะงักมือที่กำลังเปิดปิ่นโต อัมรามอง
"พี่อาร์ตเอาข้าวมาทานเหรอคะ"
สันติไม่มีท่าทางอาย รับคำปกติ
"ครับ..พอดีวันนี้คนเขาใส่บาตรเยอะ พี่เลยเอามาทานด้วย"
สันติเปิดฝาปิ่นโต อัมราชะงัก ข้าวในปิ่นโตมีกับข้าวหลายสุมๆกันอยู่ มองแล้วไม่น่ากินเลย
อัมราอึ้ง ถามอย่างเกรงใจ
"เออ ... ทำไมรวมมาหมดอย่างนั้นละคะแล้วจะทานยังไง"
"คนเขาใส่มาในบาตรนะครับ เลือกไม่ได้หรอก"
อัมรามองสันติอย่างเห็นใจ สันติยิ้ม
"ไม่ต้องสงสารพี่หรอกครับ พี่ทานได้ พี่ทานข้าวก้นบาตรมาตั้งแต่เด็กแล้ว มีให้ทานครบสามมื้อ ก็ถือว่าเป็นบุญของพี่แล้วล่ะ"
อัมราทึ่ง
"พี่อาร์ตมองโลกในแง่ดีจังค่ะ"
"ก็โลกมีทั้งดีและไม่ดี ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านดีทำชีวิตเราให้ดี เราก็จะมีความสุข ถ้าเราเลือกมองด้านไม่ดี คิดติดลบน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา เราก็จะหมดความหวัง เพราะฉะนั้นเราเลือกมองในด้านดีๆไม่ดีกว่าเหรอครับ"
"ค่ะอัมเห็นด้วยเลย พี่อาร์ตรีบทานเถอะค่ะ"
"น้องอัมละครับ ทานข้าวหรือยัง"
"อัมทานมาจากบ้านแล้วค่ะ พี่อาร์ตตามสบายเลยนะคะ"
สันติลงมือทาน อัมราถามสนใจ
"นี่แกงใช่มั้ยคะ แกงอะไรคะ"
"แกงเทโพครับอร่อยมากๆเลย"
อัมราสนใจถามโน่นนี่
"ผัดเนี่ยละคะ มีไข่ด้วย"
"อ๋อ ผัดผักกาดดองกับไข่ครับ ออกเปรี้ยวๆหวานๆเค็มๆ ยิ่งถ้าทานกับข้าวต้มร้อนๆนะ โอโห ข้าวต้มทั้งหม้อยังไม่พอทานเลย ต้องยกสองนิ้วให้แบบนี้ครับ"
สันติชูนิ้วโป้งสองนิ้ว อัมราหัวเราะ
แหมพี่อาร์ตพูดซะอัมเห็นภาพเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าอิ่มมากแล้วละก็ สงสัยอัมต้องแย่งพี่อาร์ตทานแน่ๆค่ะ"
สองคนหัวเราะกันร่าเริง จุฑาเดินมาพอดีกำลังจะเลี้ยวไปคณะฯ ชะงักมองไปที่โต๊ะใต้ต้นไม้
เห็นสันติ อัมรากำลังคุยกันสนุกสนาน อัมราหัวเราะกับสันติสนิทสนม
จุฑามองอัมรานิ่งไม่พอใจมาก อัมราลุกขึ้นจากโต๊ะเดินแยกไปทางหนึ่ง จุฑายิ้มร้าย รีบเดินตามไปห่างๆ จนถึงหน้าห้องน้ำหญิง อัมราเลี้ยวเข้าไป จุฑามองป้ายและเดินเข้าห้องน้ำหญิง ภายมนห้องน้ำ จุฑากวาดตามอง มีสองห้องที่ปิดอยู่
ห้องหนึ่งเปิดออกมา นักศึกษาหญิงคนหนึ่งเดินออกมาแล้วเดินออกไป... จุฑามองไปที่ห้องซึ่งปิดอยู่ แล้วมองไปจนทั่วห้องน้ำ มุมหนึ่งมีพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ พร้อมป้ายที่เขียนว่า ห้องน้ำชำรุด เธอคว้าป้ายมาหน้าห้องน้ำ ปิดประตูใส่กลอนที่ด้านนอก เอาป้ายแขวนแล้วมองอย่างสะใจ พึมพำ
"นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในห้องน้ำให้สบายใจนะจ้ะ น้องอัมรา"
จุฑาหัวเราะขำแล้วรีบเดินไป แต่กลับคะมำไปข้างหน้าเหมือนโดนผลัก เธอตกใจ หันขวับกลับมามอง ที่ด้านหลังเธอไม่มีใคร เธองงมองที่พื้นพูดกับตัวเอง
"สะดุดอะไร...ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่นา"
จุ๊บรีบหันกลับเดินเร็วๆออกไป มีมือเด็กเข้ามาหยิบป้ายออก ถอดกลอนประตู
ประตูห้องน้ำเปิดออกช้าๆเหมือนเดิม ... อัมราออกมาจากห้องน้ำด้านใน เดินตรงไปล้างมือ อัมราชะงักหันมามอง เห็นเหมือนเงาเคลื่อนหลบวูบไป ไม่มีใคร นักศึกษาหญิงคนหนึ่งเข้ามา อัมราเลยล้างมือต่อ ก่อนจะเดินออกไป โดยไม่รู้ว่าตัวเองโดนแกล้ง
2.2.1

จุฑาเดินอารมณ์ดี เดินขึ้นตึก แล้วเดินเรื่อยๆมาตามทางเดิน กำลังจะเข้าห้องเล็กเชอร์
อาจารย์หอบรายงานเดินผ่านมา เธอรีบอาสา
"ให้หนูช่วยมั้ยคะ อาจารย์"
"ดีเหมือนกัน งั้นช่วยเอาไปไว้ที่โต๊ะครูให้หน่อยนะ ครูมีสอนต่อ จะได้ไม่เสียเวลา"
"ได้ค่ะ"
อาจารย์ส่งรายงานทั้งปึกให้ จุฑารับรีบเดินเลี้ยวไปห้องพักอาจารย์ อาจารย์มองตามชื่นชม
"เด็กคนนี้มีน้ำใจดีจริงๆ"
อาจารย์เดินต่อ สวนกับสันติ อาทรเดินมาถึงหน้าห้องเล็กเชอร์ อาทรมองเข้าไปในห้อง
"จุ๊บยังไม่มาเลยอาร์ต แปลกนะ ปกติจุ๊บไม่เคยมาสายนี่"
สันติมองนาฬิกาข้อมือ
"หรือว่ารถจะติด เราเข้าไปกันก่อนเถอะ ใกล้เวลาอาจารย์จะเข้าสอนแล้ว"
อาทรกับสันติเข้าไปในห้องเล็กเชอร์

จุฑาเดินออกมาจากห้องพักครูมาตามทาง ยิ้มขำๆพูดคนเดียว
"ป่านนี้ยัยอัมราคงตกใจกลัวแย่แล้ว ดีสมน้ำหน้า"
เธอเดินต่อ "พีท" หุ่นเด็กเคลื่อนตามหลัง จุฑาชะงัก รู้สึกเหมือนมีคนตาม เมื่อหันกลับไปมอง ด้านหลังว่างเปล่า พอจะหันกลับ ก็เห็นเด็กวิ่งเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ปั้นหุ่น เธอเพ่งมอง
"เด็กที่ไหนเข้ามาเล่นถึงนี่"
จุฑาลังเล
"เดี๋ยวเข้าไปซน อุปกรณ์เสียหายหมดละแย่เลย"
เธอตัดสินใจตามเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ ภายในห้อง เธอเดินมองหาเด็ก
"หนู..หนูอยู่ไหน"
ทั่วห้อง ไม่มีใคร
"หายไปไหน ก็เราเห็นกับตานี่นา"
เสียงเหมือนโต๊ะเคลื่อนครืด เธอหันขวับ เห็นโต๊ะวางอุปกรณ์ที่มุมห้อง มีข้าวของบังอยู่เต็ม เธอค่อยๆเดินไปที่โต๊ะอย่างเบาที่สุด ก้มลงดูใต้โต๊ะก็ไม่มี เธอแปลกใจ เสียงเหมือนเด็กวิ่งไปอีกด้านหนึ่งของห้อง เธอหันขวับ มองหาแต่ก็ไม่มีใคร จนชักโมโห
"ออกมานะฉันรู้ว่าเธออยู่ในห้องนี้ ออกมาเร็วๆ ไม่งั้นถ้าจับตัวได้โดนตีแน่ๆ"
เงียบ เหมือนมีใครแว่บผ่านไปมุมหนึ่ง เธอหันขวับแต่ก็ไม่มีใคร เหมือนมีใครแว่บผ่านอีกด้าน เธอรีบหันไปมอง ก็ไม่มีใครอีก จนใจไม่ดี เสียงใส่กลอนประตูที่ด้านนอก... จุฑาตกใจ หันขวับรีบวิ่งไป เปิดประตู แต่เปิดไม่ออก
"ใครใส่กลอนนะ ฉันอยู่ในนี้ เปิดสิเปิด"

ภายในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย อัมรากับนุชนารถถือจานข้าวมามองหาที่นั่ง
"น้องอัมครับ"
อัมรามองตามเสียง เห็นสันติกับอาทรนั่งทานข้าวอยู่ก่อนแล้ว สันติโบกมือให้ อัมราสะกิดนุชนารถ สองคนพากันเดินไปนั่งกับสันติ และอาทร
"โชคดีจังคะที่เจอพี่อาร์ตกับพี่ออย คนเยอะจังนะคะ เกือบไม่มีที่นั่งแหนะ"
"ไม่ใช่โชคหรอกครับน้องอัม อาร์ตรีบมาจองโต๊ะไว้ให้น้องอัมเลยล่ะ"
สันติเก้อ
"เฮ้ย ออย.."
นุชนารถแกล้งแหย่
"แหม..พี่ออยพูดแบบนี้เดี๋ยวพี่แฟนพี่อาร์ตเข้าใจผิดล่ะยุ่งเลยนะคะ"
สันติแทบสำลัก
"แฟน..น้องนุชหมายถึงใครกันครับ"
อัมรามองปรามนุชนารถ แต่นุชนารถไม่สนใจ
"ก็พี่จุ๊บไงคะ"
สันติตกใจ รีบบอกอัมรา
"พี่กับจุ๊บไม่ใช่แฟนกันนะครับ"

"จริงเหรอคะ" นุชนารถว่า

อัมรารีบปราม
 
"นุช..เรื่องส่วนตัวของพี่เค้าน่า"
อาทรช่วยเสริม
"ไม่เป็นไรหรอกน้องอัม ดีแล้วอาร์ตมันจะได้เคลียร์ตัวเอง"
"พี่กับจุ๊บรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม สนิทกันมากๆกับจุ๊บเนี่ยก็เหมือนเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเลยล่ะครับ"
สันติมองอัมราเหมือนอธิบาย อัมราเก้อรีบเปลี่ยนเรื่อง
"ว่าแต่ทำไมพี่จุ๊บไม่มาทานด้วยละคะ"
"วันนี้จุ๊บไม่มาครับ สงสัยจะไม่สบายนี่พี่ก็ว่าเลิกเรียนแล้วจะแวะไปดูที่บ้านหน่อย"
"งั้นไปด้วยคน น้องอัมไปด้วยกันมั้ยครับ ขากลับกลับพร้อมพี่ก็ได้"
อัมราคิด นุชนารถรีบบอก
"ไปสิอัม ไปด้วยกันหมดนี่แหละจะได้รู้จักบ้านพี่จุ๊บเอาไว้ด้วย"
สันติมองลุ้น อัมราคิดก่อนพยักหน้า
"ค่ะไปก็ไป เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วแวะดูผลไม้ไปเยี่ยมพี่จุ๊บกันนะคะ"
สันติยิ้มออก อัมราโล่งใจ ทานข้าวไปเผลอสบตากับสันติ ต่างคนต่างยิ้ม อาทรแอบมองสองคน
สีหน้าเศร้านิดหนึ่ง แล้วกลับเป็นปกติ ชวนพูดคุยยิ้มแย้ม ไม่มีใครทันสังเกต

ในห้องเก็บอุปกรณ์ จุฑาทั้งทุบประตู ทั้งตะโกนอย่างตกใจ
"ช่วยด้วย..ช่วยด้วย เปิดประตูให้หน่อย"
เธอหันมามองข้างหลังอย่างหวาดๆ กลืนน้ำลาย กลัวจะมีอะไรโผล่ออกมา
เสียงเหมือนคนเดินมาหน้าประตู จุ๊บดีใจรีบหันกลับมาทุบประตู ส่งเสียงตะโกนอีกจุ๊บ
"ใครอยู่ข้างนอกช่วยเปิดประตูให้ทีค่ะ"
เสียงเด็กหัวเราะน่ากลัวอยู่หน้าประตู เธอผงะตกใจ ถอยกรูดอย่างหวาดกลัว
"สะ..เสียงเด็ก"
เธอนึกถึงเรื่องที่น้ามนบอกว่าเห็นเด็กตอนที่อาร์ตไปส่งที่บ้าน
"อ๋อ..แล้ววันนี้พาเด็กที่ไหนมาด้วยล่ะ น้องอาร์ตเหรอ"
เธอชะงัก
"เด็ก..เด็กที่ไหนคะ"
"ก็น้าเห็นยืนอยู่ข้างๆจุ๊บนะ"
เธอหน้าตาตื่นถามย้ำ
"น้ามนเห็นเด็กยืนอยู่ข้างๆจุ๊บเหรอคะ"

จุฑาตกใจ
"หรือว่า..."
เสียงหัวเราะของเด็กดังขึ้นอีก เธอถอยกรูดไปมุมห้อง สีหน้าตกใจมาก มองหน้าประตูอย่างหวาดกลัวมาก เสียงเหมือนอะไรตกโครม เธอรีบกระโดดไปอีกมุม ร้องเสียงดัง
"ว้าย"
ทุกอย่างในห้องตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศอึมครึมน่ากลัวสุดๆ

กลางวัน ในห้องนอน พิไลคลุมโปงผ้าห่มอยู่บนที่นอนเก่าๆ สีหน้าหวาดกลัว ตัวสั่นพึมพำ
"อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ"
เทิดเข้ามาช้าๆดึงโปงผ้าห่มออก พิไลกรีดลั่นๆ
"ว้าย..ช่วยด้วย"
พิไลก้มหน้าก้มตาตัวคุดคู้ร้อง เทิดยืนเซๆมองอย่างหมั่นไส้
"เป็นอะไรนังพิไล"
พิไลชะงัก รีบเงยหน้ามองดีใจ
"พี่เทิด"
เทิดชี้หน้า
"ชะเดี๋ยวนี้ริอ่านขี้เกียจเหรอนังพิไล ทำไมไม่ออกไปทำมาหากินหึ ตะวันสายโด่งแล้ว มานอนคลุมโปงอยู่ได้"
พิไลกระซิบกระซาบ
"ฉันไม่ได้ขี้เกียจ แต่..เมื่อคืนฉันโดนผีหลอก จับไข้อยู่เนี่ย"
เทิดชะงักจ้องหน้าพิไล พิไลย้ำ
"จริงๆนะพี่ ฉันโดนพี่หลอกจริงๆ วันนี้พี่ช่วยไปขายแทนฉันทีเถอะนะ"
เทิดหัวเราะ
"แหนะ..นังนี่แผนสูง จะหลอกให้ฉันไปขายของแทนใช่มะ แกคิดว่าคนอย่างไอ้เทิดโง่เหรอ ผีเผอที่ไหน ผีมันไม่มีในโลก"
เทิดคว้าแขนพิไลกระชาก
"ไป..ออกไปขายของ"
"โธ่พี่ฉันไม่สบายจริงๆ ฉันไปไม่ไหว"
"ต้องไป..ถ้าแกไม่ไปขายแล้ว ฉันจะเอาเงินที่ไหนซื้อเหล้าวะ"
เทิดลากพิไลไปที่ราวเสื้อผ้า
"เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปขายของเดี๋ยวนี้"
พิไลชักโมโห เสียงแข็ง
"ฉันไม่สบายพี่ไม่เข้าใจเหรอ"
เทิดโมโห
"อ๊ะทำเสียงแข็ง แบบนี้มันต้องเจอสักดอก"
เทิดตบพิไลเต็มแรงจนผวาฟุบไป แถมตรงเข้าจิกผม ตะคอก
"จะไปไม่ไปอีนี่"
"โอ๊ย..ฉันเจ็บนะ ปล่อยเถอะพี่..โธ่ฉันไปไม่ไหวจริงๆ"
เทิดไม่ปล่อย
"ได้..ไม่ไปก็ไม่ต้องไป งั้นเอาเงินมา"

"ฉันไม่มี วันนี้ยังไม่ได้ขายของเลย"

เทิดผลักพิไลไปทางหนึ่ง ตรงไปค้นมุมห้อง คว้าถุงเงินออกมาจนได้ พิไลผวาเข้าแย่ง
 
"อย่าเอาทุนของฉันไปนะ"
สองคนยื้อแย่งกัน พิไลโดนตบไปอีกทีจนฟุบ พิไลร้องไห้ เทิดชี้หน้า
"เงินแกก็เหมือนเงินฉัน อย่าสะเออะเดี๋ยวเจ็บ"
พิไลคร่ำครวญ
"โธ่แล้วฉันจะไปหาทุนที่ไหนเล่า"
เทิดจะไป แล้วชะงักหันมา
"ฉันเคยบอกทางลัดให้แกแล้วไง ไปขอเงินผัวเก่าแกสิ นังพิไล สารรูปแกตอนนี้มันเห็นก็คงเวทนา ถ้าโชคดีแกอาจจะไม่ได้แค่ทุนแต่อาจได้เงินก้อนโตเลยก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ แล้วอย่าลืมแบ่งกันนะโว้ย"
เทิดหัวเราะเหมือนขำมากๆ ก่อนออกไป พิไลหยุดร้องไห้ สีหน้าคิดหนัก

เวลาต่อมา พิไลมองเข้าไปในบ้านเดชทั่วๆ แล้วมาหยุดที่หน้าตัวตึก เห็นเดชกำลังเดิน
ออกมา หอบแฟ้มเอกสารมาที่รถ กำลังเปิดรถจะขึ้นไป พิไลยืนซุ่มอยู่หน้ารั้วบ้าน สีหน้าตื่นเต้นสุดๆ "พี่เดช"
พิไลคิดเร็วๆ ก่อนรีบวิ่งผละออกจากหน้ารั้วบ้านไปอย่างรวดเร็ว

เดชขับมาเรื่อยๆ คนเดียวในซอยเล็กๆ ขณะที่กำลังจะเลี้ยวออกจากซอย ก็มีผู้หญิงวิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด "เฮ้ย"
เดชเบรกรถอย่างแรง ผู้หญิงล้มลงกับพื้นถนน เดชตกใจมาก
"แย่แล้ว"
เดชรีบเปิดประตูรถลงไป เดชเข้าประคอง เรียกเสียงดัง
"คุณ..คุณเป็นยังไงบ้างครับ..คุณ"
เดชพลิกตัวหญิงนั้นหันหน้ามา มีเลือดที่หัวนิดหน่อย พอเห็นหน้าชัด ตะลึงงัน
"พิไล"
พิไลนอนนิ่งไม่ไหวติง

ในห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล พิไลนอนอยู่บนเตียง มีบาดแผล หัวแตกนิดหน่อย พิไลค่อยๆรู้สึกตัว พิไลมองรอบๆครุ่นคิดแล้วลุกพรวดขึ้นนั่งมองรอบห้อง แต่ไม่มีใคร
"พี่เดช"
พิไลรีบกระโดดลงจากเตียงจะออกจากห้อง พยาบาลเปิดประตูเข้ามาพอดี ตกใจ
"อุ๊ย คุณคะลุกขึ้นมาทำไม"
"คุณพยาบาล..ใครพาฉันมาส่งที่นี่คะ"
"อ๋อ คุณเดชค่ะ เขาเป็นคนขับรถชนคุณ"
"เขาไปแล้วเหรอคะ..บ้าชะมัดคนอะไรใจดำ ฉันอุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้ ไม่คิดจะเหลียวแลกันบ้างเลยเหรอ"
พิไลจะออกไป พยาบาลห้ามไว้
"เดี๋ยวค่ะ คุณยังไปไหนไม่ได้นะคะ คุณหมอให้รอดูอาการคืนหนึ่งค่ะ"
พิไลสะบัด
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรหลีกฉันนะ"
พิไลเปิดประตูออกไป แล้วชะงัก เดชกำลังจะเข้ามา พิไลดีใจมาก
"พี่เดช"
เดชมองแปลกใจ พิไลนึกได้ โรยตัวล้มลงทันที
"โอ๊ย"
พยาบาลตามออกมาตกใจ
"อ้าวคุณคะ..คุณ"
พยาบาลประคอง
"เป็นอะไรไปคะคุณ"
พิไลแอบมองเดช รีบสำออย
"ปวดหัวค่ะ..อยู่ๆมันก็วูบไป โอ๊ย... สงสัยสมองฉันจะกระทบกระเทือน คุณช่วยประคองฉันไปที่เตียงหน่อยนะคะ"
เดชมองพิไล หน้านิ่งมาก

เดชยืนหันหลังอยู่ที่หน้าต่าง เงียบ พิไลนอนอยู่บนเตียงร้อนรน สุดท้ายเรียกเดช
"พี่เดชจ้ะ"
เดชหันกลับมา
"ไม่รู้ว่าเวรกรรมอะไรที่ทำให้ฉันต้องมาเจอกับเธออีก"
"โธ่พี่เดชทำไมพูดแบบนี้ละจ้ะ"
เดชเครียด
"เธอคิดว่าฉันควรจะพูดกับผู้หญิงที่ทิ้งลูกทิ้งผัวไปกับชู้ว่ายังไงล่ะ"
พิไลอึ้ง ค่อยๆลงมาจากเตียงเหมือนเจ็บหนัก บีบน้ำตา เข้ามากราบเดชที่ไหล่
"ฉันขอโทษ..ฉันผิดไปแล้ว ตอนนี้ฉันก็ได้รับผลกรรมต้องลำบากเลือดตาแทบกระเด็น ฉันได้พบพี่อีกก็คงเป็นเพราะเรายังมีวาสนาต่อกัน พี่อย่าทำเย็นชากับฉันเลยนะ"
เดชนิ่ง พิไลอ้อนวอน
"ฉันคิดถึงพี่ คิดถึงลูกตลอดเวลา ฉันอยากเจอลูก พรรณรายลูกเราไงจ้ะ"
"หยุดนะอย่ามาพูดถึงพรรณรายแบบนี้ พรรณรายเป็นลูกของฉันกับอารีย์"
"โธ่พี่เดช ทำไมพูดแบบนี้"
"ฉันรอพบเธอไม่ใช่เพราะยังพิศวาส แต่ฉันจำเป็นต้องรับผิดชอบ"
เดชดึงซองเงินออกมา ยัดใส่มือ
"เอ้า... เงิน เงินที่เธอรักนักหนา เอาไปซะ คงคุ้มกับที่ฉันทำให้เธอเจ็บแล้วอย่ามาพบมาเจอกันอีก"
เดชเดินหนี พิไลรีบวิ่งเข้ามากอดด้านหลังรัดเดชไว้ไม่ให้ไป ร้องไห้สะอื้น

"ไม่นะพี่เดช ฉันไม่ได้อยากได้เงิน ฉันรักพี่ฉันต้องการพี่"

เดชหันกลับมา กระชากแขนพิไลออกจากตัว
 
ผลักอย่างแรงจนพิไลล้มลง มองอย่างรังเกียจมาก ก่อนเดินออกไปอย่างรวดเร็ว พิไลอึ้งเจ็บใจ น้ำตาหยุดไหลทันที
"หึคิดว่าทำแค่นี้คนอย่างนังพิไลจะยอมแพ้เหรอ ไม่มีทาง"
พิไลเปิดซองดึงเงินปึกหนึ่งมามอง สูดดมอย่างดีใจมากๆ

ที่บ้านจุฑา สันติ อาทร อัมรา นุชนารถมองหน้ากันอย่างแปลกใจ สันติถามน้ามนอย่างงงมาก
"จุ๊บไปมหา’ลัยแล้วทำไมพวกเราไม่เจอจุ๊บเลยละครับ"
มนตกใจ
"หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุ...ทำไงดีล่ะอาร์ต น้าเป็นห่วงจุ๊บ"
ทุกคนนิ่งคิด อัมราเสนอ
"อัมว่าเราลองไปสอบถามตามโรงพยาบาลดูมั้ยคะ"
"ไม่ต้อง"
ทุกคนหันขวับ จุ๊บยืนสีหน้าอิดโรยอยู่หน้าบ้าน มนรีบวิ่งเข้าไปหา
"จุ๊บหายไปไหนมาน่ะ ไหนว่าไปมหา’ลัยไง"
"ก็ไปนะสิน้ามน"
"แล้วเธอไปอยู่ไหนมาล่ะ พวกเรานึกว่าเธอไม่สบายก็เลยมาเยี่ยม" อาทรบอก
"ฉันไม่สบายจริงๆ นอนอยู่ห้องพยาบาล"
อัมราเป็นห่วง
"พี่จุ๊บเป็นอะไรคะ แล้วตอนนี้หายหรือยังคะ"
จุฑาตอบส่งๆรำคาญ
"แค่ปวดท้อง หายแล้วล่ะ ... เธอไม่เป็นอะไรเลยเหรอ"
"เป็นอะไรคะ"
"อ๋อ..ก็พี่คิดว่าที่ปวดท้องเพราะอาหารที่มหา’ลัย เธอไม่ได้ปวดท้องบ้างเลยเหรอ ตอนพี่ไปห้องน้ำเหมือนจะเห็นเธอแถวๆห้องน้ำแว่บๆนะ"
"อ๋อใช่ค่ะ อัมไปห้องน้ำแต่ไม่ได้ปวดท้องหรอกค่ะ"
จุฑาแปลกใจที่อัมราไม่ได้พูดเรื่องโดนขัง
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ตกใจหมด งั้นน้าเอาเสื้อไปส่งลูกค้าก่อนนะ"
มนออกไป จุฑามองอัมราไม่พอใจ พูดห้วนๆ
"มากันทำไม น้ามนเลยตกอกตกใจไปใหญ่"
อัมรา นุชนารถหน้าเสีย
"ทำไมพูดแบบนี้ล่ะจุ๊บ พวกเราเป็นห่วงเธอน่ะ" อาทรบอก
"ขอบใจ แต่กลับกันไปเถอะ ฉันอยากพัก"
"ก็ได้งั้นพวกเรากลับก่อนนะ" สันติบอก
จุฑาดึงแขนสันติ
"อาร์ตอยู่ก่อนนะ จุ๊บมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
สันติลังเล มองอัมรา อาทรรีบบอก
"ไม่ต้องห่วงน้องอัมนะอาร์ต ฉันไปส่งเองเพราะยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว"
จุฑาหมั่นไส้
"ออยนี่พิลึกน่ะ อาร์ตเค้าพูดตอนไหนว่าห่วงน้องอัม"
นุชนารถรีบเสริม
"ต้องห่วงสิคะ เพราะพี่อาร์ตเป็นคนชวนอัมมา"
"น้องนุชพูดถูกแล้วครับ ไว้คุยกันพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอจุ๊บ"
จุฑาไม่พอใจ อัมรารีบตัดบท
"ไม่เป็นไรค่ะ อัมกลับกับพี่ออยได้เพราะทางเดียวกัน"
อัมราหันมาชวนนุชนารถกับอาทร
"ไปกันเถอะค่ะเย็นมากแล้ว"
สันติไม่สบายใจ อาทรตบบ่าเบาๆ
"ไม่ต้องห่วง ฉันจะส่งน้องอัมให้ถึงบ้านเลย"
"ขอบใจมาก ออย"
สันติมองจนทั้งสามคนจากไป หันมาถาม
"มีอะไรเหรอจุ๊บ"
"จุ๊บโดนผีหลอก"

สันติมองอย่างตกใจ

ห้องหุ่น ตอนที่ 2 (ต่อ)

ภายในห้องรับแขก จุฑามองสันติอย่างไม่พอใจ
 
"นี่อาร์ตไม่เชื่อที่จุ๊บเล่าใช่มั้ย"
"ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ที่จุ๊บเล่ามาในห้องก็ไม่มีใครนี่ ส่วนเสียงหัวเราะ จุ๊บอาจจะโดนขังนานแล้วกลัว ก็เลยหลอนไปเองมากกว่า"
จุฑาสีหน้าจริงจัง
"มันไม่ใช่แค่นั้นนะสิอาร์ต พอลุงภารโรงมาช่วยเปิดประตูให้จุ๊บออกมา"

จุฑาพรวดออกมาจากห้องเก็บอุปกรณ์อย่างอิดโรย ลุงภารโรงมองอย่างงงๆ
"เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ นี่ถ้าลุงไม่มาตรวจดูก่อนปิดตึกล่ะก็ สงสัยต้องอยู่ในนี้จนถึงเช้า"
เธอยกมือไหว้
"ขอบคุณมากนะคะลุง"
ลุงปิดล็อคห้อง
"ไม่เป็นไร รีบกลับบ้านเถอะหนู"
ทั้ง 2 คนเดินไปตามทางเดินด้วยกัน พอเดินมาได้หน่อย เสียงเด็กหัวเราะเยาะดังน่ากลัว
จากด้านหลัง จุฑาตกใจรีบหันไปมอง น้องพีทยืนอยู่หน้าห้องอุปกรณ์ตาแดงกลวงโบ๋ หัวเราะปากโหว่ จุ๊บตะลึงยืนอึ้ง ลุงหันมามอง
"มีอะไรเหรอหนู"
เธอหลับตาปี๋ชี้ไปที่หน้าห้อง ตะกุกตะกัก พูดไม่ออก ลุงมองตาม แต่ไม่เห็นอะไร ลุงภารโรงถามซ้ำ
"อะไรเหรอหนู"
"นะ..หน้า..ห้อง"
ลุงมองอีกที แล้วส่ายหน้า
"ไม่เห็นมีอะไรนี่"
เธอค่อยๆลืมตามอง หน้าห้องว่างเปล่าเพ่งมองอีกทีก็ไม่มีอะไร จุฑารีบหันกลับโกยอ้าว ลุงงง

สันติฟังแล้วก็นิ่งไป สีหน้าครุ่นคิด จุฑากอดแขนสันติ พูดร้อนรน
"จุ๊บโดนผีหุ่นเด็กในห้องหุ่นหลอกจริงๆนะอาร์ต"
"เป็นไปไม่ได้"
"แต่มันเป็นไปแล้ว หน้าผีเด็กนั่นเหมือนหน้าหุ่นเด็กในห้องหุ่นไม่มีผิดเลย"
"ไม่ใช่หรอกน่า อาร์ตว่าจุ๊บคิดมากไป"
"โธ่อาร์ตทำไมไม่เชื่อกันบ้าง หุ่นในห้องหุ่นนะต้องมีชีวิตแน่ จุ๊บรู้สึกได้หลายครั้งแล้ว"
"ไปกันใหญ่แล้วจุ๊บ ถ้าจุ๊บไม่สบายใจก็ไปทำบุญซะ อุทิศส่วนกุศลให้น้องเค้า อาร์ตว่าน้องเขาไม่มาหลอกจุ๊บหรอก จุ๊บไม่ได้คิดไปทำอะไรไม่ดีนี่จริงมั้ย หรือถ้าจุ๊บคิดจะทำก็รีบเปลี่ยนความคิดซะ"
จุฑาอึ้ง สันติหัวเราะ
"อาร์ตล้อเล่นน่า..ทำหน้าซีเรียสไปได้ จุ๊บเป็นคนดีไม่เคยได้ยินเหรอ เค้าว่าคนดีผีคุ้มนะ"
จุฑาฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้สันติสงสัย

เย็นต่อเนื่องมา อัมราเดินมาถึงหน้าบ้านกับอาทร
"ขอบคุณมากนะคะพี่ออย ส่งอัมแค่นี้ก็พอ"
อาทรส่งหนังสือให้
"ไม่เป็นไรจ้ะ"
อัมรารับหนังสือแต่หนังสือตก สองคนรีบก้มลงเก็บ มืออาทรจับมืออัมรา อาทรนิ่งไป
เผลอมองอัมราอย่างลืมตัว อัมรายิ้มบริสุทธิ์ใจ
"อัมนี่ซุ่มซ่ามจริง"
อาทรรู้สึกตัว รีบปล่อยมือ กลับร่าเริงเหมือนเดิม
"พี่ไปละนะ พรุ่งนี้เจอกัน"
"ค่ะ"
อาทรโบกมือให้ อัมราโบกตอบมองจนอาทรออกไป อัมราเข้าบ้าน พรรณรายยืนมองอยู่มุมหนึ่งไม่พอใจมาก

ในห้องเตรียมอาหาร อัมราเทน้ำจากเหยือกใส่แก้ว กำลังจะยกขึ้นดื่ม พรรณรายเข้ามากระชากแก้วไป อัมรางง
"อะไรกันคะพี่พรรณ"
"ทำหน้าซื่อตาใสเก่งจริงนะ"
อัมรางงมากขึ้น
"พี่พรรณพูดเรื่องอะไรอัมไม่เข้าใจ"
"ก็เรื่องที่เธอจะแย่งพี่ออยจากฉันไง"
อัมราตกใจ
"พี่พรรณ"
"ทำไม..ตกใจที่ฉันรู้ทันใช่มั้ย"
"พี่พรรณกำลังเข้าใจผิดแล้วละคะ อัมไม่เคยคิดอะไรกับพี่ออยนอกจากเป็นพี่ชาย"

"เชอะ พี่ชาย ทำไมต้องอ้อนให้พี่ออยมาส่ง ทำไมต้องอ่อยทำหนังสือตกเพื่อจะให้พี่ออยจับมือเธอ"

อัมราเข้าใจแล้ว
 
"ไปกันใหญ่แล้วพี่พรรณ อัมไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะเ มื่อกี้มันเป็นอุบัติเหตุ"
"ฉันไม่เชื่อ"
อัมราถอนใจ
"ถ้าพี่พรรณไม่เชื่อ อัมก็จนใจ"
อัมราจะเดินไป พรรณรายขวางไว้ โมโห
"คิดว่าจะเดินหนีฉันไปง่ายๆเหรออัมรา นี่แน่ะ"
พรรณรายสาดน้ำในแก้วใส่ตัวอัมรา อัมราตกใจ
"พี่พรรณ ทำไมพี่พรรณทำแบบนี้"
เดชกับอารีย์ผ่านมา อารีย์ตกใจ
"ตายจริงนี่มันอะไรกันลูก พรรณ อัม..."
ทั้งพรรณรายและอัมราต่างตกใจที่เห็นพ่อกับแม่ เดชสีหน้าไม่พอใจมาก

ห้องนั่งเล่น พรรณรายยืนเชิด อัมราก้มหน้าสีหน้าไม่สบายใจ อารีย์นั่งกระสับกระส่าย
เดชมองพรรณรายอย่างไม่พอใจมาก
"พ่อไม่คิดเลยว่า พรรณจะทำตัวแย่ขนาดนี้"
พรรณรายตาลุก
"อะไรนะคะ คุณพ่อรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว แทนที่คุณพ่อจะดุอัมรากลับมาว่าพรรณ คุณพ่อไม่ลำเอียงออกนอกหน้าไปหน่อยเหรอคะ"
ทุกคนตกใจ เดชตวาด
"พรรณราย"
"ลูกพรรณอย่าก้าวร้าวคุณพ่อสิลูก" อารีย์บอก
"ก็คุณพ่อลำเอียงจริงๆนี่ค่ะคุณแม่ ยัยอัมคิดจะแย่งพี่ออยของพรรณ ทำไมคุณพ่อกลับมาว่าพรรณ"
"ออยเขาบอกเหรอว่าเขาเป็นแฟนเรา เขาเคยพูดเหรอ" เดชถาม
พรรณรายอึ้งแต่ก็เถียง
"ถึงไม่พูด แต่ยัยอัมก็รู้ว่าพรรณชอบพี่ออย"
"ก็น้องอธิบายแล้วทำไมยังทำกับน้องแบบนี้" อารีย์ถาม
"ก็พรรณไม่เชื่อมัน"
เดชโกรธมาก
"อะไรนะยัยพรรณ เรียกน้องว่าอะไรนะ ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้"
"ไม่ พรรณไม่ผิด มันคิดจะแย่งคนที่พรรณรัก พรรณเกลียดมัน"
เดชตรงเข้าหาพรรณ เงื้อมือ อารีย์รีบดึงแขนไว้ร้องห้าม
"อย่านะคะพี่เดช"
พรรณรายมองเดชอย่างน้อยใจ
"คุณพ่อลำเอียง คุณพ่อไม่รักพรรณ รักแต่อัมรา"
พรรณรายวิ่งออกไป อัมราตกใจ
"พี่พรรณ"
อัมราวิ่งตามไป เดชมองตามอย่างคาดไม่ถึง
"ทำไมยิ่งโต นิสัยยิ่งเหมือน....ทำไม"

เดชพลุ่งพล่านเดินปึงๆออกไป อารีย์ค่อยๆนั่งลง มือกุมหัวใจ หน้าซีดหายใจหอบๆ

อัมราวิ่งมาถึงสนามข้างบ้านก็ชะงัก เห็นพรรณรายยืนหันหลังร้องไห้อยู่ อัมรานิ่งคิดอยู่ครู่
 
ก่อนตัดสินใจเข้าไปด้านหลัง สวมกอดพรรณรายไว้ พรรณรายชะงักจะสะบัด
"พี่พรรณคนดี..ใจเย็นๆก่อนนะคะ"
"ไปให้พ้น ฉันเกลียดเธอ"
"แต่อัมรักพี่พรรณ รักมากและจะไม่มีวันแย่งของที่พี่พรรณรักเด็ดขาด อัมให้สัญญา"
พรรณรายเย็นลง หันกลับมา
"เธอพูดจริงเหรอ"
"จริงค่ะพี่พรรณ ใจเย็นๆแล้วฟังอัมบ้าง อัมขอยืนยันว่า ที่พี่พรรณเห็นมันไม่ใช่อย่างที่พี่พรรณคิด อัมไปเยี่ยมพี่จุ๊บกับพี่อาร์ต พี่ออยแล้วก็ยัยนุช อัมก็ต้องกลับกับพี่ออยเพราะบ้านเราใกล้กัน หนังสืออัมตกเราก็เก็บพร้อมกัน ก็เท่านั้นเอง"
พรรณรายคิดตาม สีหน้าดีขึ้น อัมราอ้อนวอน
"เชื่ออัมนะคะ อัมไม่ได้คิดกับพี่ออยอย่างคนรักเลย"
พรรณรายมองอัมรายังไม่เชื่อใจ
"เธอกล้าสาบานมั้ยล่ะ"
"ถ้าอัมสาบานแล้วพี่พรรณจะเลิกเป็นอย่างนี้มั้ยคะ"
"ก็ได้ ถ้าเธอกล้าสาบานพี่ก็จะเชื่อเธอ"
อัมรายกมือขึ้น
"ค่ะ อัมสาบานว่าอัมไม่เคยคิดจะแย่งพี่ออยมาจากพี่พรรณเลย"
พรรณรายค่อยยิ้มออก
"เธอไม่ได้ชอบพี่ออยจริงๆเหรอ"
"ก็จริงนะสิค่ะ"
พรรณรายจ๋อยๆพรรณ
"แล้วเธอไม่โกรธพี่เหรอ"
"อัมไม่โกรธพี่พรรณหรอกค่ะ แต่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่สาวอัมขี้หึงน่าดูเลย"
พรรณรายหัวเราะออกมา
"พี่ขอโทษนะ"
อัมรากอดพี่สาว
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราเป็นพี่น้องกันต้องรักกัน จำได้มั้ยคะที่คุณพ่อสอนบ่อยๆ"
พรรณรายพยักหน้า กอดตอบ อัมราแอบถอนใจโล่งอก

ในห้องนอน อารีย์ส่งแก้วยาหอมคืนให้ชิ้นที่มองอย่างเป็นห่วง
"คุณผู้หญิงเป็นยังไงบ้างคะ"
อารีย์หายใจลึกๆ
"ดีขึ้นแล้วล่ะ"
"หมู่นี้อิฉันเห็นคุณผู้หญิงหน้ามืดบ่อยๆ ไปหาหมอตรวจซักหน่อยน่าจะดีกว่านะคะ"
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอก เอ้อนี่ชิ้นห้ามบอกใครเรื่องที่ฉันไม่สบายนะ"
ชิ้นแปลกใจ อารีย์รีบกำชับ
"ก็ฉันไม่เป็นอะไรมากไง ถึงไม่ให้บอก เดี๋ยวจะตกอกตกใจไปเปล่าๆเข้าใจมั้ย"
"ค่ะ"
"คุณผู้ชายอยู่ไหน"
"อยู่ในห้องหุ่นตั้งแต่เย็นแล้วล่ะคะ"
อารีย์ถอนใจ
"แล้วพรรณกับอัมล่ะ"
"อยู่ในห้องนอนค่ะ"
อารีย์แปลกใจ
"ทั้งคู่เลยเหรอ"
"ค่ะ แต่ไม่ทราบว่าทำอะไรกันอยู่ เมื่อกี้อิฉันผ่านมาได้ยินเสียงหัวเราะกันนะคะ"
อารีย์แปลกใจ โบกมือให้ชิ้นออกไป

ครู่ต่อมา อารีย์เดินมาถึงหน้าห้อง หยุดฟัง ได้ยินเสียงหัวเราะของสองคนดังออกมา จึงค่อยๆเปิดประตูห้องแง้มดู เห็นสองพี่น้องนั่งอยู่บนเตียง พรรณรายกำลังถักเปียให้น้อง แต่ท่าทางเก้ๆกังๆ จนผมอัมราพันกันยุ่งเหยิง
พรรณรายขำ
"เอ้าเสร็จแล้ว"
อัมราวิ่งไปดูกระจก ตาเหลือก
"โอ๊ย..นี่มันเปียหรืองูเกงกองกันคะพี่พรรณ"
พรรณรายหัวเราะ
"พี่ทำสุดฝีมือแล้วนะเนี่ย"
อัมราหันมาเอาเรื่อง
"พี่พรรณแกล้งอัมแน่ๆ ได้เลยงูจะกัดเจ้า..พรรณราย"
อัมราโคลงเคลงหัวพุ่งเข้าหาพรรณราย
"อย่านะ..พี่ไม่ได้แกล้ง"
อัมรากระโจนกอดพรรณรายแล้วจั๊กกะจี้เอว พรรณรายดิ้นไปหัวเราะไป"
"อย่าโอ๊ย..จั๊กกะจี้ โอ๊ย ยัยอัม"
"นี่แนะๆ อยากแกล้งอัมนี่จะถักใหม่ให้อัมดีๆมั้ย"
"จ๊ะๆๆจะทำให้ใหม่ โอ๊ย"
สองคนหัวเราะขำกันเสียงดังอยู่บนเตียงเหมือนเด็กๆ อารีย์ปิดประตูยิ้มออกมาได้ ถอนใจโล่งอก

"ดีกันแล้ว..เฮ้อโล่งอกไปที"

ในห้องหุ่น ตอนกลางคืน หุ่นแต่ละตัวเหมือนจ้องมองเดชที่นั่งเครียดเรื่องพิไลอยู่
 
"ฉันคิดถึงพี่ฉันคิดถึงลูกตลอดเวลา ฉันอยากเจอลูก พรรณรายลูกเราไงจ้ะ"
อารีย์เข้ามาจับบ่า เดชสะดุ้ง หันไปมอง อารีย์นั่งลงใกล้ๆ
"ทำไมยังไม่นอนล่ะคะ กลุ้มเรื่องยัยพรรณกับยัยอัมอยู่หรือเปล่า"
"อ๋อ..ก็ใช่"
"อย่ากลุ้มไปเลยค่ะ เด็กๆก็ยังงี้ เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีกัน"
"แต่ครั้งนี้พรรณรายทำเกินไป"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ยัยพรรณก็โมโหร้ายหงุดหงิดง่ายแบบนี้ละคะ นี่ก็ดีกันแล้ว"
"จริงเหรอ"
"ค่ะ ฉันถึงบอกพี่ไงว่า ไม่ต้องกลุ้มเสียสุขภาพเปล่าๆ"
เดชถอนใจ
"พี่ไม่อยากให้พรรณรายมีนิสัยเหมือนพิไล"

"พี่เดชจะพูดถึงพิไลขึ้นมาอีกทำไมค่ะ พิไลกับเราต่างคนต่างอยู่มานานแล้ว และก็ไม่มีวันจะกลับมาเจอกันอีก ถ้าพี่หลุดปากบ่อยๆ ฉันกลัวพรรณรายจะได้ยินเข้าสักวัน"
"ก็ได้พี่จะไม่พูดอีก ว่าแต่ว่าพรุ่งนี้จะไปรับตาอ๊อดที่โรงเรียนประจำด้วยกันมั้ย แต่พี่ต้องเลยไปสอนที่มหา’ลัยด้วย"
"ไม่ดีกว่าค่ะ พี่เดชไปคนเดียวก็แล้วกัน"
เดชพยักหน้าตามใจ สองคนพากันออกไปจากห้อง หุ่นแต่ละตัวนิ่งแต่ดูน่ากลัว

คืนเดียวกันในโรงพยาบาล เมฆเคลื่อนบังพระจันทร์ในบรรยากาศหลอนๆ พิไลกระสับกระส่ายอยู่ในห้องพักคนไข้
"พี่เดชนะพี่เดช ใจแข็งเป็นบ้าไม่มาดูดำดูดีฉันอีกเลย งี่เง่าชะมัด"
นางพยาบาลพิเศษเข้ามา
"คุณอยากได้อะไรมั้ยคะ ฉันเป็นพยาบาลพิเศษที่คุณเดชจ้างให้ดูแลคุณคืนนี้"
พิไลตาโต
"เหรอ..งั้นช่วยไปซื้ออะไรให้กินหน่อยได้มั้ย ฉันชักหิว อาหารโรงพยาบาลเมื่อเย็นนิดเดียวกินไม่อิ่มเลย"
"ได้ค่ะ"
พิไลหยิบเงินให้ นางพยาบาลจะไป พิไลจิกใช้อีก
"เดี๋ยว..รินน้ำให้ฉันก่อน คอแห้ง"
นางพยาบาลรินน้ำส่งให้ พิไลพอใจ นางพบาบาลออกไป พิไลดี๊ด๊า
"เฮ้อ..ดี จ้างนางพยาบาลไว้ให้ ขอเป็นคุณนายนอนสบายๆในห้องแอร์สักวันก็ยังดี เผื่อหัวจะแล่นคิดแผนอะไรดีๆออก"
พิไลนอนไขว่ห้างกระดิกเท้าครุ่นคิด ประตูเปิดเข้ามาอีก นางฯพยาบาลเข้ามา หันหลังปิดประตู
"อ้าว..ทำไมไม่รีบไปล่ะ"
นางพยาบาลหันกลับมาเป็นพรรณี พิไลตะลึง
"ว้าย..ผีหลอก..ผี..."
พิไลกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปซุกมุมห้อง
"อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ฉันจะทำบุญไปให้"
มือนางพยาบาลเข้ามาจับ พิไลสะดุ้งเฮือกร้องลั่น
"ว้าย..กลัวแล้วจ้ากลัวแล้ว"
"คุณพิไลคะ คุณ..นี่ฉันเองคุณเป็นอะไรไปคะ"
พิไลชะงักค่อยๆเงยหน้ามอง นางพยาบาลยืนมองอย่างงงๆ
"คุณตกใจอะไรคะ ฉันเองพยาบาลที่คอยดูแลคุณไง ฉันลืมถามไปว่าคุณจะทานอะไร"
พิไลงงค่อยๆลุกขึ้น มองรอบๆ อย่างหวาดกลัว
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะให้ฉันตามหมอมั้ย"
"ไม่ต้องๆเธอออกไปได้แล้ว ของก็ไม่ต้องซื้อ แล้วก็ไม่ต้องเข้ามาอีกนะ ฉันเห็นชุดเธอแล้วหวาดๆ ไปเถอะ... ไปสิ"
นางพยาบาลงง วางเงินไว้ที่โต๊ะแล้วรีบออกไป จู่ๆหมาหอนเกรียวขึ้นมา พิไลรีบกระโดดขึ้นเตียงคลุมโปงอย่างหวาดๆ
 
กระสับกระส่าย ผวาไม่มีความสุขอย่างที่คิด

ห้องหุ่น ตอนที่ 2 (ต่อ)

วันใหม่ ในมหาวิทยาลัย สันตินั่งลง วางปิ่นโตลงบนโต๊ะ เปิดออกเห็นกับข้าว
 
รวมๆหลายอย่างเหมือนเดิม สันติกำลังจะลงมือกิน ชะงัก มีกล่องพลาสิกสีสวยน่ารักวาง
ลงมาบนโต๊ะ สันติเงยหน้ามอง อัมรายิ้มสดใส
"ขออัมทานข้าวเช้าด้วยคนได้มั้ยคะ"
สันติยิ้มกว้าง
"ได้สิครับ"
อัมรานั่งลง มองกับข้าวของสันติอย่างตื่นเต้น
"อุ๊ยวันนี้มีผักกาดดองกับไข่อีกแล้ว"
"ครับ..ส่วนมากคนใส่บาตรก็ใส่ของเดิมๆ"
อัมราอึกอัก เกรงใจ สันติรีบถาม
"น้องอัมจะพูดอะไรเหรอ พูดออกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจพี่"
"คือ..อัม..อยากลองทานกับข้าวแบบพี่อาร์ตบ้างนะคะ"
สันติงง
"อะไรนะ"
"ดูท่าจะน่าอร่อยนะคะ เอางี้มั้ยคะ เรามาแลกกัน"
สันติอึ้ง อัมรารีบคุยอวด
"กับข้าวที่บ้านอัมก็อร่อยนะคะ ฝีมือคุณแม่กับน้าชิ้นรับรองได้"
สันติลังเล
"พี่ไม่ได้ห่วงรสชาติกับข้าวที่บ้านน้องอัมหรอกครับ แต่พี่ห่วงว่าน้องอัมจะทานกับข้าวก้นบาตรได้เหรอ"
อัมรารีบดึงปิ่นโตมาตรงหน้าตัวเอง แล้วเลื่อนกล่องกับข้าวของตัวเองไปตรงหน้าสันติ
"ได้สิค่ะ แหม อัมนะอยากจะแย่งพี่อาร์ตทานตั้งแต่วันก่อนแล้วล่ะคะ" พลางกระซิบกระซาบ Wแต่เกรงใจ"
อัมราลงมือทานข้าวก้นบาตรอย่างกระตือรื้อร้น แต่พอเคี้ยวไปได้นิดหนึ่งก็ทำหน้าเหยเก สันติหน้าเสีย
"พี่บอกแล้วว่า น้องอัมจะทานไม่ได้ เอามาให้พี่เถอะครับ พี่ทานเอง"
สันติจะดึงปิ่นโตกลับ อัมรารีบคว้าไว้รีบกลืนข้าวหัวเราะร่าเริง
"ใครบอกละคะว่าอัมทานไม่ได้ อัมแกล้งเล่นน่ะ โอ้โห ผักกาดดองผัดไข่เนี่ย อร่อยจริงๆ"
อัมราตักทานอีกคำโต ท่าทางอร่อยอย่างที่พูดจริงๆไม่ได้เสแสร้ง สันติมองอัมรากินเอากินเอาอย่างดีใจ แต่ก็อดถามไม่ได้
"น้องอัม อร่อยจริงๆเหรอครับ"
"จริงสิคะ แบบนี้นะเอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม"
อัมราชะงักจ้องสันติที่มองไม่วางตา อัมราดึงปิ่นโตเข้าหาตัวอีก
"จ้องแบบนี้คิดจะแลกคืนเหรอคะ ไม่มีทาง"
สันติหัวเราะขำท่ากับทางอัมรา
"ไม่หรอกครับ ถ้าน้องอัมอร่อยก็ทานเลย ทานให้หมดนะครับ"
"ค่ะ..พี่อาร์ตก็ทานของอัมด้วยสิคะ นะทานด้วยกัน"
"ตกลงครับ"
สันติลงมือตักข้าวของอัมราทานช้าๆ แอบมองท่าทางอัมราอย่างรู้สึกดีมาก สันติยิ้มอย่างเอ็นดู
อัมราเงยหน้ายิ้มด้วยแล้วชะงักมองข้ามไหล่สันติไปทางด้านหลัง สันติแปลกใจหันไปมองตาม
ทั้งสองคนเห็นจุฑาเดินจะไปคณะฯ แต่เดินแบบลุกลน เลี้ยวซ้ายมองขวา ตลอดเวลา
"พี่จุ๊บเค้าเป็นอะไรไปคะ ทำไมทำท่าอย่างกับกลัวใครตามมา"
สันติรีบหันมาบอก
"ไม่มีอะไรหรอกครับ จุ๊บคงหนีเพื่อนที่ไม่อยากเจอละมั้ง รีบทานกันเถอะ จะถึงชั่วโมงเรียนแล้ว"

อัมราพยักหน้าเห็นด้วย สองคนทานข้าวกันต่ออย่างมีความสุข

ภายในห้องเรียน เดชกำลังสอนการปั้นสิ่งของ สันติ อาทร ตลอดจนนักศึกษาทุกคนตั้งใจ
 
ยกเว้นจุฑาที่มีท่าทางหวาดๆ หันซ้ายหันขวา ไม่มีสมาธิ จนเดชรู้สึกได้ เดชหยุดการสอน
มองอย่างแปลกใจ อาทรสะกิดเพื่อน จุฑาหน้าเสียหันมาเห็นเดชมองอยู่
"เป็นอะไรไป วันนี้ดูไม่มีสมาธิเลย"
เธออึกอัก
"คือ..หนู...เอ้อมันกลัวๆยังไงก็ไม่รู้ค่ะ"
"กลัว...กลัวอะไร"
นักศึกษาคนอื่นยกเว้นสันติ กับอาทรเริ่มมองรอบๆห้องอย่างระแวง
"ไม่ทราบค่ะ รู้สึกเหมือนมีใครตามตลอดเวลา"
อาทรรำคาญ
"เมื่อคืนดูหนังผีมากไปหรือเปล่าจุ๊บ"
จุฑาตาเขียวใส่อาทร เดชเข้าใจ พูดอ่อนโยน
"ถ้าไม่สบายใจลองสวดมนต์ดูสิ"
จุฑานึกได้
"สวดมนต์"
"ใช่..ไปหลังห้องเรียนไป ทำใจให้สงบ สวดมนต์ให้พระคุ้มครอง ครูว่าเธอจะรู้สึกดีขึ้นนะ เอานักศึกษาคนอื่นฟังครูต่อ"
เดชสอนสันติ อาทรและนักศึกษาอื่นต่อ จูฑาเดินไปหลังห้อง พีท หุ่นเด็กเดินตาม
ไป อยู่ข้างๆจ้องเธออย่างน่ากลัว จุฑาตั้งสติตั้งนะโมสามจบลงมือพึมพำสวดมนต์
ชั่วครู่ รัศมีสีขาว สาดแสงสว่างกระจายมาทางหุ่นเด็ก พีทตกใจ ยกมือป้องหน้า ร่างพีทค่อยๆเลื่อนถอยห่างออกไปอย่างกลัวๆ จนร่างเลือนหายไปในที่สุด
จุฑายังพึมพำสวดมนต์อยู่

ในห้องหุ่น หุ่นทั้งหมดหันหน้ามามองพีทพร้อมกัน
หุ่นเจ้าคุณเสียงดุๆ ถาม
"ซุกซนจนได้เรื่องนะเจ้าพีท"
"ผมไม่ได้ซนนะครับ ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายพี่อัมราก่อน"
ครูสมศรี หุ่นนางรำบอก "เขาจะได้รับผลแห่งการกระทำของเขาเอง"
พีทจะเถียง เสียงเปิดประตูดังขึ้น หุ่นทั้งหมดหันกลับ อยู่ในท่าเดิม ชิ้นลงมาทำความสะอาด
ชิ้นมองรอบๆห้องหุ่น พึมพำ
"เอ๊ะเมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงใครคุยกัน นึกว่าคุณผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ในนี้เสียอีก"
ชิ้นมอง หุ่นทุกตัวนิ่งสงบ ชิ้นเลิกใส่ใจ
"สงสัยหูแว่วละมั้ง เรา"
ชิ้นลงมือทำความสะอาดในห้องหุ่นอย่างไม่สนใจอะไรอีก

วันใหม่ ผอบเอาของฝาก จำพวกปลาเค็มแห้ง ของทะเลให้อารีย์
"ขอบคุณมากนะคะ แต่คุณพี่ไม่น่าต้องลำบากเลย"
"อุ๊ยลำบากอะไรกันคะ ของเล็กน้อย ไปเที่ยวทะเลมานะคะเลยซื้อมาฝาก เอ๋ว่าแต่ทำไมบ้านเงียบจังคะ"
"อ๋อพี่เดชไม่อยู่ค่ะ น่าเสียดายที่ไม่เจอวันนี้คงกลับดึก"
"อ้าวคุณเดชไปไหนเหรอคะ"
"ไปรับตาอ๊อดค่ะ แล้วต้องไปสอนที่มหา’ลัยด้วย"
"แล้วหนูพรรณรายกับอัมราละคะ"
"ยัยพรรณคงจะฟังเพลงอยู่ที่สนามข้างบ้านนะคะ ส่วนอัมราไปตลาดกับชิ้นค่ะ"
ผอบส่งสายตาให้พลูกชาย พงษ์ทำสุภาพ
"คือผมมีของเล็กๆน้อยๆมาฝากน้องพรรณรายกับน้องอัมรา ผมขออนุญาตคุณน้าเอาไปให้น้องได้มั้ยครับ"
"ได้สิจ้ะ เชิญตามสบาย"
พงษ์รีบลุกไป อารีย์มองปลาเค็ม
"แหมดูสะอาดน่าทานจังนะคะ"
"ค่ะเห็นว่ามีคนแก่อยู่ ทอดร้อนๆทานกับข้าวต้มก็คล่องคอดีนะคะ"
อารีย์งง
"คนแก่"
"อ๋อพี่หมายถึงคุณปู่ เอ๊ะหรือจะเป็นคุณตาของเด็กๆนะคะ"
"ไม่มีนี่คะ คุณพ่อของดิฉันหรือของพี่เดชต่างก็เสียไปหมดแล้วล่ะคะ"
"อ้าว เห็นตาพงษ์เคยเจอนี่คะ ยังบอกพี่เลยว่าท่าทางดุไม่ใช่เล่น"
"ที่บ้านนี่มีกันอยู่แค่ห้าคนเท่านั้นเองค่ะพี่เดช ดิฉันแล้วก็ลูกๆอ๋อมีชิ้นอีกคน คนแก่ที่ไหนกันคะ"
ผอบงงกว่า สีหน้าแปลกใจมาก

หุ่นท่านเจ้าคุณหันขวับมา ขยับไม้ตะพดกระแทกพื้นไม่พอใจ
"ไอ้หมอนี่มันพูดไม่รู้เรื่อง"

หุ่นเจ้าคุณลุกขึ้นจังก้า

พงษ์แอบมองพรรณรายที่กำลังนอนฟังเพลงเสียงดังมาก
 
อย่างสบายที่เสื่อบนสนามข้างตัวบ้าน กางเกงขาสั้นอวดน่องขาว เสื้อตัวสั้นเปิดขึ้นเห็นเนื้อที่หน้าท้อง พงษ์กลืนน้ำลายฃ
"มันน่าปล้ำจริงๆ"
พงษ์จะก้าวเข้าไป ชะงัก ไม้ตะพดวางพาดมาบนบ่าค่อนข้างแรง พงษ์หันมาสะดุ้ง
"คุณปู่"
"ฉันเคยเตือนแล้ว ถ้าไม่บริสุทธิ์ใจ..อย่ามาที่นี่อีก"
"ผมแค่จะเอาของฝากมาให้น้องพรรณนะครับ"
เจ้าคุณเสียงดุมาก
"ไม่ต้อง"
"คือผม"
เจ้าคุณเสียงเหี้ยม
"กลับไป"
พงษ์อึ้ง เจ้าคุณขยับไม้ตะพด พงษ์จำต้องล่าถอย เจ้าคุณหน้าตาน่ากลัวมองจนพงษ์จนพ้นไป

พงษ์เข้าบ้านมาอย่างหงุดหงิด
"โอ๊ยยากเย็นแบบนี้ ผมว่าเราเปลี่ยนที่หมายเถอะแม่"
"อะไรของแกเห็นหงุดหงิดๆมาตลอด ทำไมยัยเด็กพรรณรายมันเล่นตัวมากนักเหรอ ไหนว่าจะแสดงฝีมือไง"
"มันก็ต้องถึงตัวให้ได้ก่อนสิแม่ ถึงจะแสดงฝีมือได้"
"อ้าววันนี้แม่ก็ช่วยเปิดทางให้แกแล้วไง"
"แม่เปิดแต่ไอ้แก่นั่นมันกันท่าอยู่แบบนี้ ผมจะไปทำอะไรได้"
"ไอ้แก่ที่ไหนอีก"
"ก็ไอ้แก่ที่ผมเล่าให้แม่ฟังไง แหมวันนี้มันทำท่าน่ากลัวกว่าวันก่อนอีก แค่มาเห็นผมยืนมองขาอ่อนน้องเค้า ไม่รู้ป่านนี้จะไปฟ้องอะไรคุณน้าอารีย์หรือเปล่า"
"แกพูดถึงใคร"
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขัดจังหวะ ผอบตกใจรีบลุกขึ้นร้อนรน
"อุ๊ยใครมา นี่แม่จะไปหลบข้างบนก่อนนะ ถ้าเป็นพวกเจ้าหนี้แกบอกไปเลยนะว่าแม่ไม่อยู่ไปต่างจังหวัดอีกนานกว่าจะกลับ"
ผอบวิ่งเอาตัวรอดขึ้นข้างบน ไม่ฟังเสียงพงษ์เลย
"แม่..แม่เดี๋ยว..เฮอะให้มันได้อย่างนี้สิ ให้เรารับหน้าอีกแล้ว"
พงษ์เซ็ง

ครู่ต่อมา พงษ์พาเพื่อนมานั่งหน้าบ้าน
โชคบอก "หายหน้าไปเลยนะไอ้พงษ์ รวยแล้วละสิ มีให้ยืมสักพันสองพันมั้ยเพื่อน"
"หวังมาพึ่งแกนะเนี่ย ตอนนี้พวกเรากรอบยังกะข้าวเกรียบเลยว่ะ" นัยบอก
"ฉันก็ไม่ต่างกับพวกแกหรอกวะ หวังจะจีบลูกสาวเศรษฐี แต่ดูท่าจะยากว่ะ"
ยะถาม"รวยมากเหรอ"
"โคตรรวยเลย"
โชค นัย ยะแอบสบตากัน
"บ้านอยู่แถวไหน"
"ซอยถัดไปนี่เอง บ้านคุณเดชอยู่สุดซอยหลังใหญ่กว่าเพื่อน ว่าแต่พวกแกถามทำไม"
โชคบอก "เปล๊าไม่มีอะไร ก็ถามดู ทำไมพ่อหรือพี่ชายเขากันท่าแกล่ะ"
"ไม่ใช่ทั้งคู่ มีแต่พ่อไม่มีพี่ชาย"
"ลูกสาวคนเดียวสิท่า" ยะว่า
"ไม่ใช่..ผู้หญิงสองคน น้องคนเล็กผู้ชายแต่ยังเด็ก อยู่โรงเรียนประจำต่างจังหวัด"
"แล้วใครกันท่าล่ะที่บ้านเขาญาติเยอะเหรอ" โชคถาม
"ไม่มี มีแต่ปู่แก่ๆแต่ดุเป็นบ้า นี่ถ้าไม่เกรงใจนะอัดให้สักหมัดก็ร่วงแล้ว"
เพื่อนทั้งสามหัวเราะ แต่สบตากันอย่างเจ้าเล่ห์ พงษ์ไม่รู้เรื่องคุยโม้ต่อ สามคนแกล้งสนใจฟัง

ตอนเย็น เดชเดินมากับลูกชายคนเล็ก อ๊อดมองตึกคณะ
"คุณพ่อสอนห้องไหนครับ"
เดชชี้ไปที่ห้องชั้นสอง มีหน้าต่างหลายบาน
"ห้องนั่นไงลูก"
"อ๋อ..งั้นอ๊อดจะวิ่งเล่นรอคุณพ่ออยู่แถวนี้ คุณพ่อจะได้มองลงมาเห็นอ๊อดด้วย ดีมั้ยครับ"
เดชโยกหัวเอ็นดู
"เก่งมาก"
สันติ อาทร เดินถือเครื่องมือปั้นหุ่นมาด้วยจะขึ้นตึก ชะงัก เดชรีบวิ่งมาหา
ทั้งสองทัก "สวัสดีครับคุณอา"
"อ้าวกำลังจะขึ้นตึกเหรอ"
"ครับ พวกเราไปเอาอุปกรณ์ปั้นหุ่นมาครับ" สันติบอก
เดชพยักหน้า อาทรทักอ๊อด
"ไงอ๊อด..ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ อยู่โรงเรียนประจำสนุกมั้ย"
"ไม่สนุกครับ อ๊อดอยากอยู่บ้านมากกว่า"
เดชหัวเราะก่อนหันมาบอกทุกคน
"พวกเราไปกันเถอะ"
เดชบอกอ๊อด
"รอพ่ออยู่แถวนี้นะ อย่าไปไหน"
"ครับ"
เดชพยักหน้า ก่อนเดินนำทุกคนขึ้นตึกคณะไป อ๊อดหันซ้ายหันขวาจะหาอะไรเล่น ณ มุมหนึ่ง
อ๊อดเห็นพีทนั่งก้มหน้าท่าทางเศร้า อ๊อดแปลกใจเดินเข้าไปหา
"เป็นอะไรหรือเปล่า"
พีทเงยหน้าขึ้นช้าๆ ส่ายหน้าไม่ตอบ
"เราชื่ออ๊อดนะ..เธอชื่ออะไร"
"เราชื่อพีท"
"ทำไมหน้าเศร้าจัง"
"เราโดนดุมา"
"อ้าวไปทำอะไรล่ะ"
"เราไปแกล้งคนอื่น"
อ๊อดนั่งข้างๆ
"แบบนี้เธอก็เป็นเด็กไม่ดีสิ คุณพ่อคุณแม่สอนเราไม่ให้แกล้งใคร ไม่งั้นเราจะเป็นเด็กไม่ดี"
"เราไม่แกล้งแล้ว"
"งั้นก็ดี แล้วทำไมต้องทำหน้าเศร้าล่ะ"
"เราเหงา เราไม่มีเพื่อนเล่น"
"งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันมั้ยล่ะ"
"จริงเหรอ จะเล่นกับเราจริงนะ"
"จริงสิมา มาเล่นไล่จับกัน"

พีทยิ้ม แต่ดูหลอนๆ น่ากลัว

เดชสอนปั้นอยู่หน้าห้อง ทุกคนสนใจมากรวมทั้งสันติ สันติหันไปมอง
 
เมื่อเห็นอ๊อดหยุดวิ่งแต่เหมือนกำลังคุยกับใครอยู่ อ๊อดหัวเราะร่าเริง สันติแปลกใจมองอย่างสงสัย จุฑาหันมาเห็นสันติซึ่งมองไปที่หน้าต่างก็กระซิบถาม
"มองอะไรน่ะอาร์ต"
สันติรีบหันกลับมา
"อ๋อ..ไม่มีอะไร"
สันติหันกลับมาสนใจเดชต่อ แต่ครู่เดียวก็หันกลับไปมองอ๊อดอีก สันติสีหน้างงมาก แปลกใจ
เมื่อเห็นอ๊อดวิ่งไล่เหมือนกำลังจับใคร แต่ไม่มีใครเลยนอกจากอ๊อด

ศิษย์ทั้งสามเดินตามมาส่งเดชกับอ๊อดที่รถ เดชหันไปคุยกับอาทร และจุฑาอยู่
สันติพาอ๊อดเดินอ้อมมาขึ้นรถอีกด้าน สันติเปิดประตูให้ ก้มลงกระซิบถาม
"เมื่อกี้พี่เห็นอ๊อดวิ่งเล่นสนุกใหญ่เลยนะครับ"
"ครับสนุกมาก พีทเค้าก็สนุกเหมือนกัน หัวเราะใหญ่เลย ไม่หน้าเศร้าแล้ว"
สันติงง
"พีท..ใครกันครับ"
"อ้าวก็เพื่อนใหม่ของอ๊อดไงครับที่เราวิ่งไล่จับกัน เขาชื่อพีท"
"พีท"
เดชตะโกนถาม
"เอ้า..ชวนพี่อาร์ตคุยใหญ่ตาอ๊อด ขึ้นรถได้แล้วลูก"
อ๊อดรีบขึ้นรถ สันติถอยออกมา เดชโบกมือให้ทุกคน
"อากลับก่อนนะ"
สามคนยกมือไหว้ เดชขึ้นรถ รถแล่นออกไป สันติยังยืนอึ้งๆ จุฑาหันมาเร่ง
"กลับกันเถอะอาร์ต เดี๋ยวมืด ไปเร็ว"
จุฑายังมีท่าทางหลอนๆ รีบเดินนำไป อาทรตาม สันติมองไปทางตึกคณะแล้วพึมพำ
"ทำไมเราไม่เห็นเด็กที่ชื่อพีทล่ะ พีท..ชื่อคุ้นๆ"
ลมพัดวูบมา บรรยากาศเยือกเย็น สันติมองรอบตัวรู้สึกหนาวประหลาด แล้วรีบเดินตามเพื่อนทั้งสองไป

คืนนั้น โชค นัย และยะ มองสำรวจอย่างระวังที่หน้ารั้วบ้านเดช
"บ้านหลังนี้ไม่ผิดแน่ ใหญ่โตยังที่ไอ้พงษ์มันคุยจริงๆ" โชคบอก
"มีผู้ชายแค่สองคน อีกคนก็แก่แล้วไม่น่ามีปัญหา" นัยบอก
"งั้นจะรอช้าอยู่ทำไมล่ะ" ยะว่า
สามคนพยักหน้าให้กัน ก่อนรีบปีนรั้วเข้าไปอย่างเงียบกริบ

เวลาเดียวกัน หุ่นแต่ละตัวหันขวับจ้องไปทางหน้าบ้าน เริ่มจากหุ่นเจ้าคุณนรบดินทร์ "ทับ"หุ่นนักดาบ, "พีท" หุ่น, "ครูสมศรี"หุ่นนางรำ, "พรรณี"หุ่นนางพยาบาล, "ทวีศักดิ์" หุ่นนักยิงธนู , "ลุงทวน"หุ่น
"ไอ้พวกหัวขโมย ไม่คิดทำมาหา" ทับบอก พลางมองถามนรบดินทร์ "เอายังไงดีครับท่านเจ้าคุณ"
"สั่งสอนพวกมันให้เข็ดหลาบ จะได้ไม่กล้าทำอีก"
หุ่นแต่ละตัวสีหน้าท่าทางน่ากลัว เตรียมพร้อมจะเล่นงานผู้บุกรุก

บนถนนชานเมืองเวลากลางคืน รถค่อนข้างน้อย รถของเดชขับแล่นมาในความมืด เดชขับรถอย่างระวัง เหลือบไปมองอ๊อด
"หิวมั้ยลูก แวะหาอะไรทานกันหน่อยมั้ย"
"ดีครับ อ๊อดวิ่งเล่นซะเหนื่อย หิวมากๆเลยครับ"
เดชหันกลับมามองข้างหน้า ตกใจ เห็นชาวนา ข้ามถนนตัดหน้ารถไป เดชรีบเบรกรถอย่างแรง เดชเปิดประตูลงไปเห็นชาวนายืนหันหลังอยู่ริมทาง
เดชตะโกนถาม
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
ชาวนาตอบทั้งที่หันหลังอยู่
"ไม่เป็นไร..คุณรีบกลับบ้านเถอะ"
ชาวนาเดินย้อนกลับไปตามทางเดินช้าๆ เดชถอนใจโล่งอก รถแล่นออกรถไป เดชมองกระจกหลังแปลกใจ
"เอ๊ะหายไปไหนแล้ว"
เดชมองทุ่งนาข้างทาง
"สงสัยจะเดินตัดท้องนาไป"
เดชหันมาลูกชาย
"ตกใจหรือเปล่าอ๊อด"
"ครับ..อ๊อดตกใจจนหายหิวเลย"
"งั้นเราตรงกลับบ้านเลยก็แล้วกันนะ"
อ๊อดพยักหน้า เดชขับรถต่อไป ณ ริมทาง ลุงทวนยังยืนมองท้ายรถเดช พูดพึมพำ
"รีบกลับบ้านเถอะครับคุณเดช"
เวลาต่อมา โชค นัย ยะค่อยๆลัดเลาะมาจากริมรั้วจนถึงตัวบ้าน โชคลองขยับลูกบิด
ก็ชะงัก หันมาบอกเพื่อนโชค
"ประตูล็อกวะ"
"ก็งัดสิวะ" นัยบอก
"เออรู้แล้ว พวกแกดูต้นทางไว้ให้ดี" โชคบอก
โชคดึงอุปกรณ์งัดแงะออกมา ลงมืองัดอย่างชำนาญ

ในห้องนอน พรรณรายนอนพังพาบอ่านนิตยสารแบบเสื้อ อารีย์กำลังแปรงผมให้อัมรา
แต่ท่าทางกังวล อัมราหันมาถาม
"มีอะไรหรือเปล่าคะคุณแม่"
"ตาแม่นะสิ เขม่นอยู่ได้ ตาขวาซะด้วย"
"ทำไมคะ"
"ก็โบราณว่าไว้ขวาร้ายซ้ายดีไงจ้ะ"
อารีย์หยุดแปรงผม มองนาฬิกา
"เอ๋คุณพ่อก็ยังไม่กลับซะด้วย แม่ชักจะเป็นห่วงแล้วล่ะ"
"รถคงติดมั้งคะ"
พรรณรายหาวเสียงดัง
"ง่วงจัง...ทำไมคุณพ่อยังไม่กลับอีกละเนี่ย"
"ง่วงก็นอนก่อนก็ได้จ้ะ แม่จะรอคุณพ่อเอง"
"งั้นอัมรอเป็นเพื่อนค่ะ"
พรรณรายมองอัมราอย่างหมั่นไส้
"เธอเนี่ยเก่งจริงนะเรื่องประจบคุณพ่อคุณแม่ ตั้งแต่เด็กจนโตเลย เชอะ.."
อัมราจ๋อย อารีย์ปราม
"ทำไมว่าน้องแบบนั้นละลูก"
พรรณรายไม่สน ลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ในห้องนอน อารีย์หันมาปลอบอัมรา
"อย่าไปถือพี่พรรณเค้าเลย"
อัมรายิ้มเข้าใจ อารีย์หวีผมให้อัมราต่อ
"มาแม่จะหวีให้ครบร้อยครั้งเลย ดีมั้ย"
"ดีค่ะ"

โชคกำลังงัดประตูเสียงกริก สามหัวขโมยมองหน้ากัน ยิ้มหมายมาด โชคค่อยๆเปิดประตู เข้าไป นัยและยะตามเข้าไปติดๆอย่างเงียบกริบ

สามคนค่อยๆคลำความมืดเข้ามาแล้วชะงัก เสียงเพลงไทยเดิมดังแว่วๆมาจากห้องนั่งเล่น
สามคนมองหน้ากันตกใจ
"ฉิบหายแล้ว พวกมันยังไม่นอน" ยะบอก
"เอาไงดีว่ะ" นัยว่า
โชคกระชากมีดออกมาจากเอว
"ถ้างั้นก็เป็นคราวซวยของพวกมัน"
โชคนำสองคนไปที่หน้าห้องซึ่งประตูแง้มอยู่ ไฟเปิดสว่าง สามหัวขโมยย่องไปแอบดูที่ประตู
เห็นครูสมศรี กับพรรณีที่แต่งตัวเหมือนคนปกติ สมศรีกำลังรำตาม ส่วนพรรณีนั่งมอง
โชคบอก
"สงสัยนังลูกสาวสองคนที่ไอ้พงษ์บอกแน่"
"ทั้งสวยทั้งขาวน่าเจี๊ยะชะมัด เป็นของแถมดีมั้ยวะ จะได้ไม่เสียเที่ยว" นัยว่า
สามคนพยักหน้าจู่โจมเข้าไปทันที สองสาวหันมามองตกใจ
โชคยกมีดชูขู่
"อย่าร้องนะถ้าร้องตาย"
สมศรีกับพรรณีนิ่ง นัยกับยะรีบเข้ามาจับสองสาวไว้ นัยชะงัก
"ทำไมตัวเย็นจัง" นัยว่า
"จะสงสัยอะไรวะก็อยู่ในห้องแอร์นี่หว่า" โชคบอก
"เออจริงด้วย เอาไงดีจะจัดการสองคนนี่ก่อนหรือจะเก็บของมีค่าก่อน" นัยบอก
พรรณีรีบพูด
"อย่าทำอะไรเราสองคนเลย ถ้าอยากได้ของมีค่าก็เอาไปเถอะ"
"งั้นก็พาพวกเราไปที่ห้องเก็บของมีค่า เดี๋ยวนี้เร็ว" โชคบอก

สมศรีกับพรรณีแอบสบตากัน แววตาน่ากลัว ก่อนเดินนำพวกโชคและคณะไปทางห้องหุ่น


จบตอนที่ 2 
กำลังโหลดความคิดเห็น