xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 9

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 9

ภูมิใส่ชุดลำลองสุดหล่อ โทรศัพท์นัดไผท
 
“มีอะไรอีกล่ะ”
“วันนี้มาเจอกันหน่อยสิ ฉันกับคุณยายมีเรื่องจะคุยกับแก”
“ก็บอกมาเลยไม่ได้รึไง วันนี้วันเสาร์ ฉันขี้เกียจออก อยากทำงานที่ค้างให้เสร็จ”
“ไม่ได้ คุณยายเขาต้องการพบแก แล้ววันนี้ฉันก็อยากจะเซอร์ไพรส์เขา”
“แหม หมู่นี้เอาใจกันเสียจริงนะ เออ เออ งั้นฉันไปก็ได้”
“แล้วฉันจะโทรนัดเวลาแกอีกทีนะ”
ภูมิกดตัดสายโทรศัพท์ ก่อนยืนเก๊กท่าที่หน้ากระจก หยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดที่ซอกคอ มองกระจกยิ้มปลื้ม ตรวจดูกระเป๋า มีบัตรเครดิตเพียบ
“เราต้องแสดงออกถึงการเป็นสามีที่ดี กับ ภรรยา”
ภูมิยืนหันหน้าหันหลัง สำรวจความเรียบร้อย

รามนรีกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาที่ลับตาคน มองซ้ายมองขวา จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จึงดึงก้อนหนังสือพิมพ์ออกจากกระเป๋ากางเกง คลี่ออกมาดู เห็นข้อความ "รามนรี วิชพัชร์ กรุณาติดต่อกลับทางบ้านด่วน หรือใครพบเห็นบุคคลในภาพ ขอความกรุณาติดต่อกลับ 085- 5959955”
“นี่มันไม่ใช่เบอร์พ่อ หรือน้าแก้วนี่ แล้วใครกัน ที่ประกาศตามหาเรา หะ หรือว่านายผสาน”
รามนรีลังเล ยืนครุ่นคิดหน้าเครียด

ระพีกับศจี นั่งคุยกับวิรัชที่มุมลับตาคน
“ผมกับศจี ลงประกาศตามหาหนูเล็กในเว็บคนหาย แล้วเมื่อวานคุณผสานก็พาไปลงประกาศในหนังสือพิมพ์มาครับพ่อ”
“เฮ้อ พูดถึงพ่อผสาน เขาก็แสนดีกับเราเสียเหลือเกิน แต่ยัยหนูเล็กก็ทำกับเขาซะ”
เสียงมือถือระพีดัง เขาหยิบมาดู เห็นเบอร์ไม่คุ้น
“เบอร์ใคร สวัสดีครับ”
รามนรีดัดเสียงเป็นคนแก่
“สวัสดีจ้ะ คุณเป็นคนลงข่าวประกาศตามหาคุณรามนรีใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ ผมเป็นพี่ขายของรามนรี ชื่อระพีครับ”
รามนรีอึ้ง อุทานเบาๆ
“พี่พี กลับมาจากเมืองนอกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“คุณว่าอะไรนะครับ”
“เอ่อ เปล่าค่ะ เปล่า”
“ไม่ทราบว่าคุณเจอน้องสาวผมเหรอครับ”
ศจีดีใจ
“หะ มีคนโทรมาแจ้งข่าวหนูเล็กแล้วเหรอคะ”
ระพีพยักหน้า ศจีหันไปยิ้มกับวิรัช
“พ่อคะ เราได้ข่าวหนูเล็กแล้วนะคะ”
วิรัชยิ้มดีใจจนออกนอกหน้า
“เร็วลูกรีบถามเขาเร็ว”
“เอ่อ พอดีฉันเห็นคนหน้าเหมือนผู้หญิงในรูป แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกันไหม”
“แล้วคุณเจอเธอที่ไหน ผมจะได้รีบไปที่นั่น เพราะคุณพ่อผมเป็นห่วงเขามาก แล้วท่านก็สุขภาพไม่ค่อยดี ผมอยากเจอเขาให้เร็วที่สุด”
รามนรีชะงัก น้ำตาคลอ พูดไม่ออก
“ว่าไงครับคุณ คุณเจอน้องสาวผมที่ไหนครับ”
รามนรีลังเลสักครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจกดสายทิ้ง และกดปิดเครื่องทันที
“อ้าว คุณครับ คุณ กรุณาบอกผมก่อน ฮัลโหลๆๆ”
“เกิดอะไรขึ้นคะพี”
“สายหลุดไปแล้ว เลยไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย”
“รีบโทรกลับไปหาเขาสิลูก เร็ว”
ระพีรีบกดโทรกลับ แต่ติดต่อไม่ได้
“ติดต่อไม่ได้แล้วครับพ่อ เขาอาจจะแบตหมดก็ได้”
“เขาอุตส่าห์มีน้ำใจ เดี๋ยวก็คงโทรกลับมาอีกค่ะ”
“แต่อย่างน้อย ก็ทำให้เราสบายใจได้ ว่าหนูเล็กยังปลอดภัย”
“พ่อก็ขอให้มันเป็นอย่างนั้น”
“ไม่ต้องห่วงนะครับพ่อ ผมมั่นใจว่าอีกไม่นาน เราจะต้องได้เจอยัยหนูเล็ก”

ระพีจับมือพ่อปลอบใจ

รามนรีเป็นห่วงพ่อ ยืนร้องไห้น้ำตาไหล สักครู่ สูดลมหายใจเข้า
 
ก่อนปาดน้ำตา แล้วเดินออกไป ภูมิโดดพรวดออกมา
“จ๊ะเอ๋ วันนี้เราจะไปช็อปปิ้งกันนะที่รัก”
รามนรีตกใจ ผงะเกือบล้ม ภูมิเข้าไปประคองไว้ เห็นหญิงสาวร้องไห้จนตาแดงก็ตกใจ
“นี่คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรคุณ หรือว่าคุณย่า”
“เปล่าซะหน่อย ฉันก็แค่เดินมา แล้วแมลงบินมาเข้าตาต่างหาก”
“หา แมลงเข้าตางั้นเหรอ มาเดี๋ยวผมดูให้นะ”
ภูมิกุลีกุจอ เข้ามาจ้องหน้าแหกตารามนรีดูด้วยความเป็นห่วง รามนรีจำใจยอมตามน้ำ กลัวภูมิสงสัย
“ไม่เห็นมีอะไร ว่าแต่แมลงมันเข้าทีสองตาเลยเหรอ”
รามนรีพยักหน้า
“สงสัยจะตาโตเกินไป ผมว่าคุณต้องไปล้างตาแล้วล่ะ ไม่งั้นอาจติดเชื้อ”
“ไม่เป็นไร ฉันหายแล้ว”
“ตาแฉะขนาดนี้จะหายได้ยังไง คุณนี่ดื้อจริงๆ เลย”
ภูมิล็อคตัวรีบอุ้มรามนรีออกไป
“อ๊าย คุณนี่เล่นใหญ่มาก ก็บอกแล้วไง ว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ”
“คุณไม่ต้องเกรงใจ นี่มันเป็นหน้าที่ของสามี ที่ต้องดูแลภรรยาให้ดีที่สุด”
รามนรีเอามือตบหน้าผาก เป่าปากเซ็ง ยอมให้ภูมิอุ้มไป

ทุกคนนั่งคุยกัน ก่อนหันไปมองหน้าเหรอ เมื่อเห็นภูมิอุ้มรามนรีเดินเข้ามา
“เร็ว คุณเดือนแมลงเข้าตา รีบไปหายามาเร็ว”
“ตายแล้ว เป็นอะไรมากไหม เรื่องตา ย่าว่าเอาไปโรงพยาบาลดีกว่า”
คนรับใช้ทุกคนวิ่งกันขวักไขว่ ดูเป็นเรื่องใหญ่มาก รามนรีถอนใจ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า”
ภูมิวางรามนรีนั่งลงข้างย่า คนใช้วิ่งถือขวดยากลับเข้ามา หน้าตาตื่น เอายามายื่นให้ภูมิ นิดยืนดูอยู่ห่างๆ
“นี่ครับยาล้างตา”
“นี่ยาหยอดตาค่ะ”
“นี่ชุดสำลี กับที่ปิดตาค่ะ”
ทุกคนยื่นยาให้ภูมิถือจนล้นมือ รามนรีทนไม่ไหว
“หยุดค่ะ หยุด”
“หยุดทำไม พวกเขาอุตส่าห์เป็นห่วงคุณเอายามาให้คุณ”
รามนรีมองทุกคนซาบซึ้ง รับรู้ได้ถึงความห่วงใย
“ขอบคุณทุกคนจริงๆ ค่ะ แต่เดือนไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ไม่เชื่อดูสิคะ”
รามนรียิ้มร่า ทำตาโต กระพริบตาถี่ๆ ให้ทุกคน ทุกคนโล่งใจ
“งั้นจบ เพราะฉันเชื่อว่าแม่เดือนไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”
“คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นรีบไปแต่งตัวเร็ว”
“แต่งตัวทำไม”
“ผมจะพาคุณไปช็อปปิ้งก่อนแต่ง”
“อุ้ย ไม่เป็นไร อย่าสิ้นเปลืองเลยค่ะ”
“หือ สามีเขาอยากจะเอาใจขนาดนี้ก็ไปเถอะ อย่าขัดศรัทธาเขาเลย”
“อุ้ย หวานซะขนาดนี้ อย่าปฏิเสธสามีเลยนะคะคุณเดือน”
รามนรียิ้มแหย จำใจพยักหน้าให้ เภาตบหัวถวิลเสียงดัง
“ดูเขาไว้นะไอ้พี่หวิน ว่าสามีที่ดีเขาเป็นยังไง”
“เอ๊า ขนาดอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรก็ยังโดน เฮ้อ กรรม”

ทุกคนหัวเราะขำถวิลกับเภา

ภูมิพารามนรีมาที่ร้านเพชร พนักงานเข้ามาให้บริการ
 
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม หรือว่าจะให้มาช่วยเลือกเพชรให้คุณ”“ถ้าบอกตั้งแต่แรกว่าเป็นเรื่องนี้ ฉันก็คงไม่ปฏิเสธคุณ”
“เปล่า ผมตั้งใจจะพาคุณมาเซอร์ไพรส์ ผมจะซื้อให้คุณ”
“ไม่ต้อง มันมีค่าเกินไป ฉันไม่ต้องการ แค่ค่าจ้างที่คุณให้ฉัน มันก็มากเกินพอแล้ว เก็บทุกอย่างไว้ให้คุณเดือนฉายเถอะนะคะ”
รามนรีจะเดินหนี ภูมิคว้ามือไว้
“ไม่ได้ เพราะมันเป็นความตั้งใจของผม ที่อยากตอบแทนคุณ อย่างน้อยคุณก็เคยรับรู้รับฟังในสิ่งที่ผมเป็นหรือไม่ก็ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานของเรา ถึงแม้มันจะเป็นแค่เรื่องหลอกๆ ก็ตาม”
ภูมิหันไปบอกพนักงาน
“ผมต้องการสร้อยทองคำขาวกับจี้เพชรเม็ดเล็กๆ ที่ใส่ติดตัวได้”
“ได้ค่ะ งั้นเชิญด้านนี้เลยนะคะ”
ภูมิดึงมือรามนรีที่จำใจเดินตามไป เขาเลือกแบบเอามาแนบที่คอ
“รู้ไหม ทำไมผมถึงเลือกทองคำขาวให้คุณ”
รามนรีส่ายหน้า
“ถ้าเป็นทองคำ มันไม่ปลอดภัย สมัยนี้ทองเส้นนิดเดียวก็ทำให้คนตายได้”
“แต่ทองคำขาว กับ จี้เพชรมันแพงกว่าทองคำนะคะ”
“คุณรู้ได้ไง”
“ก็อ่านเจอในเน็ต”
“จะมีกี่คนที่รู้ เพราะฉะนั้น มันจะทำให้คุณปลอดภัยจากพวกมิจฉาชีพ”
“งั้นเอาแค่ทองคำก็ได้ ฉันจะได้เก็บไว้”
“ไม่ได้ เพราะผมให้ใส่ไม่ได้ให้เก็บ และอยากให้คุณใส่มันไว้ตลอดไป”
รามนรีขี้เกียจเถียง
“งั้นก็ตามใจคุณละกัน”
ภูมิเลือกสร้อยจนถูกใจ ยื่นให้พนักงานพร้อมบัตรเครดิต

ผสานยืนเลือกนาฬิกาอยู่กับจอสภายในร้าน
“เป็นไง สวยไหมไอ้จอส เหมาะกับพ่อตากูไหม”
“ครับนายหัว ว่าแต่ราคาเท่าไหร่ครับเนี่ย”
“แค่แสนกว่าบาทเอง”
“โห แสนกว่า จอสว่าลงทุนมากไปไหมครับนายหัว”
“ของแค่นี้จิ๊บๆ ขนหน้าแข้งกูไม่ร่วงหรอก จะเล่นเกมทั้งทีก็ต้องลงทุน เพราะเกมนี้กูแพ้ไม่เป็น”
“ครับนายหัว”
พนักงานเดินเข้ามา
“ผมเอาเรือนนี้ ช่วยห่อของขวัญมาให้ด้วย แล้วคุณช่วยเลือกของผู้หญิงมาให้อีกเรือนเอาราคาแค่หมื่นสองหมื่นพอ แล้วห่อของขวัญเหมือนกันนะ”
ผสานยื่นบัตรเครดิตให้ พนักงานเดินออกไป
“ไอ้จอส มึงก็ไปเลือกเอาซะเรือน กูซื้อให้ เพื่อตอบแทนความดีความมีน้ำใจของมึง”
“จริงเหรอครับนายหัว”
“ก็เออสิ”
“ขอบคุณมากนะครับนายหัวที่เมตตาจอส”
ผสานพาจอสเลือกซื้อนาฬิกาภายในร้านฆ่าเวลา

ภายในร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า ไผทตาโตที่ได้ยินภูมิเล่าเรื่องราวจบลง
“หะ ซ้อมเป็นสามีภรรยากัน ให้มันเสมือนจริง”
รามนรีกับภูมิพยักหน้าพร้อมกัน
“นี่ ตกลงพวกคุณคิดอะไรกันอยู่ครับเนี่ย”
“แต่ที่ฉันทำไปก็เพื่อเดือนฉายนะไอ้ไท”
“แกกำลังจะบอกฉันว่า จู่ๆ ก็นึกสนุก อยากจะเป็นสามีดีเด่นขึ้นมาซะงั้น”
ภูมิพยักหน้า
“แล้วเคยนึกถึงปัญหาที่มันจะตามมาบ้างไหม”
ภูมิกับรามนรีหันไปมองหน้ากัน ก่อนหันมามองไผท ส่ายหน้า พูดออกมาพร้อมกัน
"ปัญหาอะไร"
ไผทกลัวว่าสองคนจะรักกันจริงๆ แต่พูดไม่ได้ ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา ด้วยความเหนื่อยใจ
“ก็เขาขอร้องแกมบังคับ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องยอมไปในฐานะลูกจ้าง”
“เอาน่า มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะเราตกลงกันแล้ว เพียงให้แกรับรู้สัญญาเพิ่มเติมของเราไว้ คุณยายเขาก็จะได้สบายใจ”
“ถ้าบอกแล้วไม่เชื่อก็ตามใจ จะเอาอย่างนั้นใช่ไหม ฉันเป็นลูกจ้าง ทำให้แกได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องจำเอาไว้ ว่าฉันเตือนแกแล้ว”
“เออน่า เอ้า อยากกินอะไรก็สั่งเลย เดี๋ยวเราต้องไปซื้อของสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง”

ทุกคนนั่งดื่มกาแฟกันชื่นมื่น

รามนรีกับภูมิ และไผท เดินตามกันมาใกล้จะถึงประตูทางเข้า
 
รามนรียิ้มสดใส ก่อนหันมองเข้าไปในร้าน หน้าเหรอหุบยิ้ม เมื่อเห็นผสานกับจอส กำลังจะเดินออกมาจากร้าน ในขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไป รามนรีชาวาบ คิดหาทางออก ภูมิหันหน้าไปมองหญิงสาว
“อ้าว เป็นอะไรไปคุณ”
ผสานกับจอส เดินออกมา รามนรีหมดทางเลี่ยง รีบดึงภูมิเข้ามากอดเอาหน้าซุกอกเพื่อหลบผสานกับจอสให้ได้ ภูมิกับไผทหันไปสบตากันงงๆ
“ขอบคุณมากนะคะที่รัก”
ภูมิตัวสั่นขนลุกซู่ จอสเดินผ่านบิดคอหันไปมอง เห็นหน้ารามนรีแว่บๆ รู้สึกคุ้นๆ ก่อนสะกิดผสาน
“ดูคู่นั้นสิครับนายหัว เขาสวีทกันมาก ผมรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนั้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ไอ้หน้าหล่อนั่นผมไม่คุ้นมันเลย”
ผสานหันไปมอง รามนรีตกใจ รีบกอดภูมิแน่นกว่าเดิม ซุกหน้าหลบกับอกภูมิ ภูมิได้ที รีบเอามือโอบบังหน้ารามนรีไว้โดยบังเอิญ ทำให้ผสานมองมาไม่เห็น ภูมิยิ้มปลื้มยักคิ้วให้ไผท ไผทหันไปมองผสานกับจอส จำหน้าได้ และหันมามองรามนรีด้วยความสงสัย
“พอเถอะไอ้จอส คนเพิ่งถูกแฟนทิ้ง มึงจะให้ดูทำหอกอะไร ยิ่งดูกูยิ่งเจ็บ ไปได้แล้ว เดี๋ยวก็ได้ตกเครื่องไปใต้กันพอดี”
ผสานเดินหัวเสียออกไป จอสเดินไป แต่หันกลับมามองด้วยความสงสัย จนลับตา รามนรีรีบผละออก ถอนใจ ก่อนยิ้มแหย เมื่อเห็นไผทมองมาด้วยแววตาสงสัย
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากจะขอบคุณ คุณภูมิ”
“อืม ผมก็นึกว่าคุณหลบหน้าใครเสียอีกนะครับเนี่ย”
“เอาน่า ไม่ว่าจะขอบคุณหรือหลบใคร ผมก็ยินดีให้คุณทำอย่างนี้อีกนะ ผมชอบ”
รามนรีเขินระคนหมั่นไส้ เอาศอกถองพุงภูมิ
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ”
รามนรีรีบเดินไป ไผทยิ้มเยาะ
“สมน้ำหน้าไอ้มหากะล่อน”
ภูมิกุมท้องจุก มองแค้นรามนรีกับไผท

รามนรีเดินมองซ้ายมองขวากวาดตาหาผสานกับจอส แต่หาไม่เจอ
“อึ๊ย หายไปไหนแล้วไอ้ตัวอันตราย มันจะเห็นเรา มันจะจำเราได้ไหมนะ”
รามนรีวิ่งซิกแซกไปตามทาง เสี่ยอุดรกับประกัน เดินคุยกันมา ประกายฟ้า พวงศรี เดินตามหลัง พวงศรีเห็นรามนรีก็จำได้ สะกิดประกายฟ้า พร้อมกับรีบเอามือถือมาถ่ายภาพรามนรีไว้
“นั่นมันอีนังเด็กแว่นปากแมว ที่เราเคยมีเรื่องกับมันที่สปานี่นา”
“ใช่มันจริงๆ ด้วยค่ะแม่”
“แล้วมันวิ่งไปไหน ไปทำไม”
“หนูว่ามันต้องไปทำอะไรไม่ดีมาแน่ ไปค่ะแม่ ตามไปดูมันกันเถอะ”
“อย่าเสียเวลากับคนพวกนี้เลย ไปเอาใจเสี่ยอุดรจะดีกว่า”
“แต่หนูสนใจ เพราะหนูแค้นมัน”
พวงศรีเซ็ง จำใจตามใจลูก หันไปบอกประกัน
“เดี๋ยวคุณ เชิญเสี่ยไปนั่งรอที่ร้านกาแฟก่อนนะ”
“อ้าว แล้วทำไมไม่ไปด้วยกัน”
“ฉันกับน้องฟ้า จะขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงน่ะค่ะ”
“งั้น เชิญตามสบายเลยครับ”
“เสี่ยขา เสี่ยรอสักครู่ เดี๋ยวฟ้าตามไปนะคะ”
“จ้ะ อย่านานนะ ไมงั้นเสี่ยคิดถึงแย่เลย”
เสี่ยอุดรกับประกันพากันเดินไป ประกายฟ้าดึงมือพวงศรี รีบเดินตามรามนรีไป รามนรีวิ่งเข้ามาหยุดที่มุมหนึ่งของประตูทางออกห้าง ยืนหอบ ก่อนมองไป เห็นผสานกับจอส กำลังรอขึ้นแท็กซี่ พวงศรีกับประกายฟ้า ย่องตามไปแอบมอง
“คนพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกัน หรือมันมาเป็นแก็งค์สิบแปดมงกุฎ”
“ดูแล้วไม่น่าจะมาด้วยกัน ดูแม่นั่นเขาแอบมองสองคนนั้นอยู่นะคะแม่”
“งั้นเราก็ต้องถ่ายไอ้สองตัวนั้นไว้ด้วย”
ประกายฟ้ารีบยกมือถือของตัวเองมาถ่ายภาพผสานกับจอส และรามนรีที่ยืนคนละมุมไว้
“ถ้ารู้ว่ามันทำผิด หนูจะเอาคลิปนี้ไปเป็นพยาน แล้วจับมันเข้าคุกให้ได้”
“เร็วลูก มันกำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว”
รามนรีชะเง้อมอง เห็นผสานกับจอสขึ้นแท็กซี่ไป ก็เป่าปากโล่งใจ ก่อนนึกได้ รีบวิ่งกลับไปที่เดิม
“ไปแม่ เราไปหาเรื่องมันกันดีกว่า”
ประกายฟ้ากับพวงศรี หันกลับไปมองแต่ไม่เห็นรามนรีแล้ว
“อ้าว มันหายไปไหนแล้วล่ะ ไวจัง”
“ช่างมันเถอะ แม่ว่าเรารีบไปหาเสี่ย ให้เขาพาไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ไว้ใส่ไปเซอร์ไพรส์คุณภูมิกันดีกว่า อย่ามาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเลย คุณป้าสราญเขาอุตส่าห์โทรมาย้ำนักย้ำหนาให้เราเตรียมตัวให้ดี เพราะอีกไม่กี่วัน เขาก็จะกลับมาแล้วนะคะลูก”
“นั่นคือสิ่งเดียวที่เป็นความหวัง และทำให้หนูมีกำลังใจ”
“ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะสมกับเป็นลูกแม่ ฉลาดเริ่ดเลยจริงๆ แต่ตอนนี้แม่เขียนบทไว้ในหัวแล้ว ว่าเราจะเมคเรื่องราวกับเสี่ยยังไงให้ดูดี มีชาติตระกูล”

“ดีค่ะแม่”

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 9 (ต่อ)

ภูมิเดินดูนาฬิกาภายในร้าน ไผทยืนรอ รามนรีวิ่งกลับเข้ามา ยืนกลั้นหอบหน้าประตู
 
ก่อนค่อยๆ เดินเข้ามายืนคุยกับไผท ไม่สนใจภูมิ ภูมิหันมองหลายรอบแต่ไม่มีใครสนใจ จนอารมณ์เสีย
“นี่ ตกลงจะคุยกันอีกนานไหม”
“อ้าว แกจะซื้อก็ซื้อไปสิ พวกฉันไม่ได้ซื้อกับแกนี่”
“ก็ฉันจะซื้อให้แกอยู่นี่ไง มาเลือกเอาเองสิ”
“หะ ซื้อให้ฉัน”
“ก็ทั้งคู่นั่นแหละ”
“แต่ฉันพอแล้ว ฉันได้สร้อยทองคำขาวแล้ว คุณซื้อให้คุณไทเถอะ”
“คนหนึ่งเป็นเพื่อนรัก อีกคน ก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน นาฬิกาจะทำให้เรานึกนึกถึงวันเวลา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ที่เราเคยอยู่เคยสู้มาด้วยกัน”
รามนรีรู้สึกใจหาย
“โห ซึ้งอ่ะ อารมณ์ระเมียดมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าแกยังมีสมองอยู่”
ไผทเข้าไปซบภูมิ
“อ้าว พูดอย่างนี้เดี๋ยวมีชก เป็นผู้ชาย อย่ามาใกล้ขนาดนี้ ฉันไม่ชอบ แล้วก็รีบมาเลือกให้ไว ห้ามขัดใจคนรวย เร็ว”
ไผทดึงแขนรามนรี
“ไปเร็วคุณยาย ในเมื่อเขาตั้งใจขนาดนี้ เราก็ต้องสนองนี้ดคนรวยเขาหน่อย จริงไหม”
“จริงก็ได้ค่ะ”
รามนรีกับไผทปะมือกัน ภูมิมองหมั่นไส้ ภูมิช่วยรามนรีเลือกนาฬิกาอย่างมีความสุข และซื้อนาฬิกาคู่รักที่เหมือนกันไปคนละเรือน ไผทแอบมองสองคน หนักใจ

ประกายฟ้าอยู่ในร้านเสื้อผ้า ออดอ้อนเสี่ยอุดรที่ยอมทุ่มไม่อั้น
“คืองี้ค่ะเสี่ย อีกไม่กี่วัน เราจะต้องไปบ้านคุณหญิงย่าของประกายฟ้า ดีนะที่ได้เสี่ยมาเป็นสปอนเซอร์ พาเรามาซื้อชุดสวยใส่”
“เอาเลยครับ อยากได้อะไรซื้อไปเลย จะได้ไม่น้อยหน้าใคร”
“ผมก็หวังว่า เจ้าคุณย่าจะใจอ่อน ยอมยกสมบัติให้ผม ผมจะได้เอามาใช้คืนให้เสี่ย”
“ที่ผ่านมาฟ้าก็ไม่ค่อยสบายใจ ที่เห็นพ่อกับแม่เป็นทุกข์เพราะเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ”
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องซีเรียส ผมรักหนูฟ้า ไม่ว่าอะไร ผมก็ให้ได้ ไม่เคยคิดจะเอาคืน”
ประกันหันไปสบตาพวงศรี ยิ้มเจ้าเล่ห์ ประกายฟ้าหยิบชุดมาทาบตัวโชว์เสี่ยอุดร
“ชุดนี้เป็นยังไง สวยไหมคะเสี่ย”
“คนสวยหุ่นดีอย่างหนูฟ้าใส่อะไรก็สวย”
“ดูสิคะ เสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ มีแต่สวยๆ ทั้งนั้นเลย”
“สวยหมด ก็เหมาหมดเลยสิคะ เสี่ยไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“ว้าย จริงเหรอคะเสี่ย”
เสี่ยอุดรพยักหน้า ประกายฟ้าเข้าไปจูบแก้มเสี่ยอุดร
“ขอบคุณมากนะคะเสี่ย”
ประกายฟ้าหันหลังไปมองพ่อกับแม่ ดีใจ

ตอนเย็น ย่ากินอาหารเสร็จ นั่งชะเง้อรอหลาน มีบุญปลูกกับเภา ถวิล นั่งอยู่เป็นเพื่อน
“นี่พวกเขายังไม่กลับมากันอีกเหรอ”
“ยังเลยค่ะ สงสัยจะสวีทกันจนเพลิน”
“อย่าบอกนะว่าคุณท่านเหงา”
“ก็นิดนึง แต่ไม่เป็นไร ให้เขาไปสวีทกันเถอะ ยิ่งใกล้จะถึงวันแต่งงานยิ่งต้องสวีทกัน”
รามนรีกับภูมิถือถุงของฝากเดินยิ้มร่าเข้ามา
“คุณย่า หนูกลับมาแล้วค่ะ นี่โยเกิร์ตเค้ก ดีต่อสุขภาพ และอร่อยมากเลยนะคะ”
“หือ โม้เกินไปรึเปล่าจ๊ะ”
“อร่อยจริงไม่ได้โม้ แล้วนี่ก็ของอร่อย เอามาฝากพี่ๆ ทุกคนเลยค่ะ”
“มีลาภปากอีกแล้ววันนี้”
“เพราะคุณเดือนใจดีอย่างนี้ ผมเลยไม่แปลกใจ ว่าทำไมใครๆ ก็รักแต่คุณเดือน”
“ขอบใจจ้ะพี่หวิน”
“แล้วคุณย่าทานข้าวแล้วใช่ไหม”
“ก็ใช่น่ะสิ จะให้หิ้วท้องรอยังไงไหว คราวหน้าก็กรุณาโทรมาบอกด้วยจะได้ไม่ต้องรอ”
“ขอโทษทีนะคะคุณย่า ที่ไม่ได้โทรมาแจ้งให้ทราบ”
“ไม่เป็นไร ย่าก็พูดไปอย่างนั้นเอง มาเหนื่อยๆ ไปพักกันเถอะ อ้อ พรุ่งนี้เขาจะเอารูปถ่ายมาให้เราเลือก แล้วก็จะเอาชุดไทย ที่จะใส่รดน้ำสังข์มาให้แล้วนะแม่เดือน”
“ค่ะคุณย่า”
ภูมิจับมือรามนรี
“ไปคุณ”
“คุณไปก่อนเถอะ ฉันจะอยู่คุยกับคุณย่าก่อน”
“ไม่เอา คุณต้องไปคุยกับผม เร็ว”
ภูมิดึงมือรามนรีออกไป
“ดูสิ ดูท่าเจ้าภูมิมันจะหลงเมียเอามากๆ เลยนะเนี่ย”
“ยิ่งหลงมากเท่าไหร่ ก็จะได้เหลนเร็วมากเท่านั้นนะครับคุณท่าน”
ย่าพยักหน้ายิ้มปลื้ม ยกมือสาธุ

ประกายฟ้าตักอาหารเอาอกเอาใจเสี่ยอุดรอยู่ในร้านอาหาร
“ทานเยอะๆ นะคะเสี่ยขา”
ประกันกับเสี่ยอุดร นั่งดื่มเบียร์กันจนหน้าแดงก่ำ
“หือ บอกให้เสี่ยทานเยอะๆ ถ้าเสี่ยอ้วนไม่มีซิกแพ็ค แล้วหนูฟ้าจะรักเสี่ยไหม”
เสี่ยอุดรส่งสายตาหวานเยิ้ม ประกายฟ้าไม่กล้าพูดเพราะอีกไม่กี่วันจะได้เจอภูมิ จะเตรียมหนีจากเสี่ย พวงศรีรีบตอบแทน
“หือ ถ้าเป็นเสี่ย ทำไมน้องฟ้าจะไม่รักล่ะคะ”
“ใช่ ดีขนาดนี้ ไม่รัก คงไม่ได้แล้วล่ะครับเสี่ย”
ประกายฟ้ามองพ่อกับแม่ไม่พอใจ ที่พูดไปอย่างนั้น
“พ่อกับแม่ดีกับผมเสมอ คนอย่างผม ถ้ารักใคร ผมให้ได้ทุกอย่างแต่ผมขออย่างเดียว”
“อะไรเหรอครับเสี่ย”
“ให้ซื่อสัตย์กับผม อย่าทรยศผมเด็ดขาด”
ประกายฟ้าเครียด ประกันหัวเราะ
“อย่าซีเรียสเลยน่าเสี่ย เอ้าดื่มครับดื่ม”
“ผมไม่ได้ซีเรียส แต่ผมอยากให้รู้ไว้ เราจะได้ไม่ผิดใจกัน เพราะคนอย่างผมรักใครรักจริง ถ้าทำให้รัก ผมก็จะรักมาก ถ้าทำให้เกลียด ผมก็จะเกลียดมากเหมือนกัน”
เสี่ยอุดรมองประกายฟ้าจริงจัง ประกายฟ้าขนหัวลุก และรู้สึกได้ว่าเสี่ยอุดรเอาจริง
 
ต่างจากประกันกับพวงศรี ที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ยังนั่งดื่มเบียร์กันไปอย่างมีความสุข 

วิรัชกินอาหารเย็นเสร็จ เดินแกว่งแขนออกกำลังกายเบาๆ ไปมาอยู่ในบ้าน
 
กองแก้วนั่งอ่านหนังสือดารา แอบมองดูอยู่ไม่ห่าง ระพีกับศจี เดินเข้ามา
“พาหนูศจี ไปเที่ยวไหนกันมาเหรอลูก”
“ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปดูบัญชีที่รีสอร์ทมาครับ”
กองแก้วตกใจ เอามือคลำหัวใจที่เต้นตึกตัก ระพีแอบมองกองแก้ว
“รีสอร์ทสวยดีนะคะคุณพ่อ”
“ก็ฝีมือการตกแต่งของสองพี่น้องเขานั่นแหละ ที่ช่วยกันทำ แล้วเป็นไงบัญชี”
“เท่าที่ดู ก็เรียบร้อยดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
กองแก้วถอนใจโล่งอก ก่อนเดินเข้ามา
“เห็นว่าน้าแก้ว เป็นคนช่วยดูแลบัญชี”
“อ๋อค่ะ น้าก็แค่ช่วยเขาดูน่ะค่ะ”
“ดีที่น้าแก้วมีผู้ช่วยอย่างคุณเกริกเกียรติ ดูเขาเก่งนะคะ”
“เหรอคะ ไม่เสียแรงที่น้าส่งเสริมเขา ก็เพราะเห็นว่าเขาเก่งนี่แหละค่ะ”
“และที่ไม่ชมไม่ได้ ก็คืออาหาร เพราะมันอร่อยมากจริงๆ”
“พ่อครัวแม่ครัวที่นี่เขาฝีมือดี และอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เราเปิดบริการ”
“คุณพ่อโชคดี ที่ได้เจอคนดีๆ และไม่ทิ้งกันไปไหน ปกติทุกที่จะมีปัญหาเรื่องพ่อครัว”
“พ่อครับ เมื่อเย็น คุณผสานโทรมา บอกพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมพ่อ”
“อ๋อเหรอ ดีๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พ่อก็คิดถึงพ่อผสานเขาอยู่เหมือนกัน”
“งั้นผมกับศจี ขอตัวไปทำธุระก่อนนะครับ”
ระพีพาศจีเดินออกไป กองแก้วถอนใจโล่งอก วิรัชเห็นเข้า
“มีเรื่องหนักอกหนักใจอะไร ถึงได้ถอนใจซะขนาดนั้น”
“ก็ ถอนใจโล่งอก ที่หนูศจีชมว่าทำบัญชีได้ดีไงคะ”
“ขอบใจมากนะที่คุณยอมเหนื่อย ยอมทำทุกอย่างเพื่อผม”
“ไม่เป็นไร ไม่ว่าจะยังไงแก้วก็ยอม เพราะแก้วรักคุณนี่คะ”
วิรัชกอดกองแก้วซึ่งแอบทำหน้าเลี่ยนๆ

ประกายฟ้าถือถุงของเดินเข้ามาในบ้านหน้าบึ้ง ประกันกับพวงศรี เข้าไปนั่งที่โซฟาเพราะเมา
“เป็นอะไรไปอีกแล้วแม่คนนี้”
“พ่อกับแม่รู้บ้างไหมว่าเสี่ยเขาพูดว่ายังไง เขากำลังขู่ฟ้า”
“เขารักหนู เขาก็พูดไปเรื่อย ไม่มีอะไรหรอก”
“ใช่ ถ้าเราไม่เอาซะอย่าง มันจะทำอะไรได้”
“แต่ฟ้ากลัว ฟ้าไม่อยากยุ่งกับเขาแล้ว”
“ก็บอกแล้วไง แกจับคุณภูมิได้ก็จบ แล้วฉันจะตามใจแกทุกอย่าง”
“เอาเป็นว่าเราสัญญากันแล้วนะคะแม่ พ่อด้วยนะ และฟ้าจะต้องทำให้ได้ ช่วงนี้ ช่วยหาทางปฏิเสธเสี่ยให้ที เพราะฟ้าต้องเตรียมตัวแกรนด์โอเพ่นนิ่งกับคุณภูมิ”
“ได้ลูกได้ แม่ตามใจหนู ได้ยินไหมคุณ”
“โอเค โอเคเลยลูกรัก”
ประกันหงายท้องหลับไปกับโซฟา ประกายฟ้ามองดูพ่อกับแม่ส่ายหน้าระอา

กลางคืน รามนรีพยายามจะกดโทรศัพท์หาเดือนฉาย แต่ทำได้แค่กดโทร แล้วกดทิ้งอยู่สองสามครั้ง นั่งมองโทรศัพท์ อยากจะโทรหาเดือนฉาย แต่รู้สึกละอายใจเรื่องภูมิ จึงหลับตาทำสมาธิ
“ขอให้หนูเล็กเคลียร์ใจ แล้วจะโทรไปหาพี่นะคะ”
รามนรีนอนคว่ำหน้าเอามือเกยคาง มองกล่องสร้อยทองคำขาวกับนาฬิกา ครุ่นคิด ภูมิเข้ามาหยิบกล่องสร้อยไป
“คุณภูมิ”
“จะมานอนมองตาละห้อยอยู่ทำไม แล้วทำไมยังไม่ใส่มันอีก”
“ก็ฉันยังไม่มีเวลา”
“มา งั้นผมจะใส่ให้นะ”
“ไม่เอา ไม่ต้อง”
รามนรีพยายามแย่งกล่องสร้อยกับภูมิ จนล้มไปกองทับกันบนโซฟา สบตากัน ภูมิประคองรามนรีลุกขึ้นนั่งบนโซฟาด้วยท่าทีอ่อนโยน
“คุณนี่ดื้อจริงๆ ดูสิ ผมยุ่งหมดเลย”
ภูมิเอามือเกลี่ยผมที่ยุ่งเหยิงให้รามนรี จับไหล่สบตา ยิ้มให้ด้วยแววตาจริงใจ และอ่อนโยน
“คุณลองมองมาที่ผม แล้วอยู่นิ่งๆ นะคนดี”

รามนรีมองภูมิ หน้านิ่งเหมือนต้องมนต์ ภูมิหยิบสร้อยบรรจงใส่ให้ ทั้งสองสบตากันหวานซึ้ง

ภูมินอนหงายท้อง ร้องครวญครางอยู่ที่พื้น มือกุมเบ้าตา
 
“โอ๊ย”
“สมน้ำหน้า ก็บอกแล้วว่าอย่าเล่นเกินบท”
“เล่นเกินบทอะไร ผมก็แค่เคลิ้ม”
“แต่คุณจะเคลิ้มกับใครไม่ได้ นอกจากคุณเดือนฉายเท่านั้น”
“โห ผมก็แค่ล้อเล่นขำๆ ไม่น่าทำกันขนาดนี้เลย”
“ไม่ต้องมาพูดมาก รีบไปได้แล้วไป ไม่งั้นจะโดนอีกข้าง”
รามนรีทำหน้าดุ ชูหมัดใส่ ภูมิรีบลุกขึ้น
“ไปก็ได้ แล้วถ้าพรุ่งนี้ตาผมเขียวปั้ด ผมจะบอกคุณย่าว่ายังไง คุณก็คิดไว้ก็แล้วกัน”
ภูมิเดินงอนออกไป รามนรีครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่ ที่เธอกับภูมิสบตา ต่างคนต่างเคลิ้ม ภูมิยื่นหน้าเข้าไปใกล้ รามนรีหลับตาพริ้ม จนจมูกชนกัน ภูมิจะหอมแก้ม แต่รามนรีได้สติลืมตาโพลง แล้วชกโครมเข้าไปที่เบ้าตา จนภูมิหงายท้องตกจากโซฟา ไปนอนร้องครวญครางที่พื้น รามนรีชูหมัดขวาขึ้นมาดู หน้าแหย รู้สึกผิด

กลางคืน ไผทจะโทรศัพท์หาเดือนฉาย แต่เปลี่ยนใจไม่โทร ถือโทรศัพท์ไว้ เดินไปเดินมา ก่อนยืนมองเหม่อไปนอกหน้าต่าง ครุ่นคิดหน้าเครียดถึงความสัมพันธ์ของภูมิกับรามนรีซึ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ไผทมองภาพเดือนฉายที่หน้าจอโทรศัพท์
“ถ้าภูมิเขาไปมีคนใหม่ ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีครับคุณเดือน แล้วผมควรจะทำยังไง ระหว่างเพื่อนรักกับคนที่ผมรัก”
ไผทวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะหัวเตียง

คืนนั้น ภูมินั่งมองกระจก เสียงเคาะประตูดัง เขาเดินไปเปิดประตู เห็นรามนรีถือกะละมังน้ำเย็นมีผ้าผืนเล็กแช่อยู่ ทั้งคู่ยืนคุยกันที่หน้าประตู
“คุณมาทำไม”
“ก็จะมาประคบตาให้คุณน่ะสิ”
“ไม่จำเป็น คุณกลับไปเถอะ”
“หรือพรุ่งนี้คุณอยากจะตาเขียวเป็นหมีแพนด้าให้คุณย่าสงสัย เดี๋ยวก็ได้งานเข้าอีก”
“ที่แท้ก็กลัวคุณย่า แต่ไม่ได้เป็นห่วงผมอย่างจริงใจ”
“มันก็ด้วยกันนั่นแหละ มา เร็ว ฉันจะรีบทำ ก่อนที่มันจะช้ำไปมากกว่านี้”
“ไม่เอา ถ้าคุณไม่บอกว่าคุณเป็นห่วงผมจริงๆ ผมก็จะไม่ยอมให้คุณทำอะไรกับตาผม ผมจะยอมเป็นหมีแพนด้า ให้คุณย่าสงสัย”
รามนรีมองภูมิเหนื่อยใจ
“บอกผมมาว่าคุณคิดยังไง เป็นห่วงผมไหม”
“เออ ก็ได้ ฉันเป็นห่วงคุณก็ได้ พอใจรึยัง”
ภูมิยิ้มดีใจ ก่อนผายมือเชิญรามนรี

คืนนั้น บุญปลูกเดินนำหน้า เภาถือถาดถั่งเช่าสองถ้วย เดินตามมาติดๆ บุญปลูกเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบ ก่อนเปิดประตูเข้าไป เห็นผ้าห่มกับหมอนวางอยู่ที่โซฟา บนโต๊ะกลางมีแปรงกับยาสีฟัน และครีมบำรุงวางอยู่ ทั้งคู่หันมามองหน้ากันงงๆ บุญปลูกกับเภาเดินตรวจตราดูภายในบริเวณ เภาเอาโทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาถ่ายภาพที่โซฟาไว้เป็นหลักฐาน
“เป็นผัวเมียกัน จะแยกกันนอนได้ไง เราต้องถ่ายเก็บไว้ให้คุณท่านดู ดีไหมพี่”
“เออดี แต่ถ้าดูจากรูปการ แสดงว่าเขานอนที่นี่มานานแล้ว เอ๊ะ หรือว่าเขางอนกัน”
“ก็เห็นรักกันดีขนาดนั้น มันไม่น่าเป็นไปได้นะ”
“หรือว่า มันมีอะไรมากกว่านั้น”
“ก็นั่นน่ะสิ ดีนะที่อีพี่หวินได้ถั่งเช่ามาวันนี้ เลยทำให้เราได้รู้ความลับอีกหนึ่งเรื่อง”
“หือ ชอบล่ะสิเรื่องสาระแนเนี่ย”
“ก็นิดนึงน่า หรือว่าพี่ปลูกไม่ชอบ”
บุญปลูกอมยิ้ม พยักหน้า ก่อนหันมองซ้ายมองขวา
“งั้นเรารีบเอาถั่งเช่ากลับไป เขาจะได้ไม่สงสัยว่าเราเข้ามารู้เรื่องนี้ งั้นเรารีบไปรายงานเรื่องนี้กับคุณท่านกันเถอะ”
“ดีพี่ปลูก ไปเร็ว”
“เดี๋ยว แกห้ามให้อีนังนิดรู้เรื่องนี้โดยเด็ดขาด เข้าใจไหม”
“รู้แล้วน่าพี่ ไปได้แล้วเร็ว เดี๋ยวเขามาเห็นเข้าก็เป็นเรื่อง”
บุญปลูกกับเภา รีบย่องไปเปิดประตู แล้วผลุบออกไป

ภูมินอนอยู่บนเตียง รามนรีนั่งห้อยขาอยู่ด้านข้าง หยิบผ้าในกะละมังน้ำเย็นมาบิดให้หมาด ก่อนเอาไปประคบที่เบ้าตาให้ภูมิ แล้วเช็ดหน้า คอ ภูมิรู้สึกเย็นสบาย
“หือ เย็นจังแล้วหอมด้วย นี่คุณใส่อะไรมาเหรอ”
“ก็แค่น้ำเย็นธรรมดา แล้วก็ผ้าที่ผสมด้วยสบู่เหลวนิดหน่อยให้มีกลิ่นหอมชื่นใจ”
ภูมินอนหลับตาพริ้ม รามนรีมองหน้าชายหนุ่มเต็มๆ ตา ก่อนบรรจงเช็ดไป ชวนคุยไป
“จริงๆ แล้ว”
“แล้วอะไร”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณ”
“แล้วทำทำไมล่ะครับ”
“ก็คุณ อยากมาแหย่ฉันทำไม”
ภูมิลืมตามองรามนรี
“ผมไม่ได้แหย่ ผมแค่ทำตามความรู้สึก ณ เวลานั้นที่มันพาไป”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า ณ เวลานั้นผมอาจจะชอบคุณ”
“นี่มันนิสัยของผู้ชายเจ้าชู้ อยู่ใกล้ใคร ก็เผลอใจไปหมด”
“แต่กับคุณมันแปลกไป”
รามนรีอ้าปากจะถาม แต่ภูมิชิงตอบ
“ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร ผมก็ตอบไม่ได้ ว่ามันคืออะไรกันแน่ หรือว่า”
“หรือว่าอะไร”
“ผมจะชอบคุณขึ้นมาจริงๆ”
รามนรีใจสั่น ตัวชาวาบ ภูมิมองหน้า สบตารามนรีด้วยความเป็นห่วง
“นี่คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าๆ คุณภูมิ ขอความกรุณาอย่าคิดแบบนี้กับฉัน เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ อย่าลืมว่าสิ่งที่เราทำ เรากำลังทำเพื่อคุณเดือนฉาย และคุณควรจะเป็นคนที่มั่นคงในความรักให้มากกว่านี้ ฉันไปล่ะ”
 
รามนรีถือกะละมัง รีบเดินออกไป ภูมิครุ่นคิด

ไผทยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างครุ่นคิด
 
ก่อนสะดุ้ง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดัง เขารีบมองหน้าจอ เห็นภาพเดือนฉายโทรเข้ามา ไผทกระอักกระอ่วน กลัวถูกถามเรื่องภูมิ ไม่อยากโกหกเดือนฉาย เขานิ่งคิดสักครู่ก่อนจำใจกดรับ
“สวัสดีค่ะคุณไท วันนี้ทำไมรับโทรศัพท์ช้าจังเลยล่ะคะ หรือว่าติดสายแฟนอยู่ ว่าแต่เดือนโทรมารบกวนรึเปล่าคะเนี่ย”
“สำหรับคุณเดือนไม่มีคำว่ารบกวนหรอกครับ แล้วผมก็ไม่มีแฟน ยังโสดสนิทครับ ถ้าให้เดา คุณเดือนคงจะโทรมาถามเรื่องเจ้าภูมิใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ แต่เดือนมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นจะปรึกษาคุณไท”
“สำหรับคุณเดือน จะมีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าเจ้าภูมิได้อีกเหรอครับ”
“มีสิคะ แต่ทุกอย่างก็เกี่ยวกับเขานั่นแหละค่ะ ถึงได้รีบโทรมาปรึกษาคุณไท”
“โล่งไป ผมนึกว่าคุณเดือนจะบอกผมว่ามีแฟนใหม่ไปแล้วเสียอีก”
“ตราบใดที่เรายังไม่ได้เลิกกัน เดือนไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ เดือนให้เกียรติภูมิเสมอ”
“ผมรู้ว่าหมู่นี้เพื่อนผมไม่ค่อยได้โทรหาคุณเดือน แต่เขาก็ยังรักเหมือนเดิมนะครับ”
“หือ รู้ใจเพื่อนเหลือเกินนะคะ ว่าแต่คุณไทสัญญากับเดือนได้ไหม ว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสำหรับเราสองคน ห้ามบอกใครเด็ดขาด โดยเฉพาะภูมิ”
“เพื่อคุณเดือน ผมสัญญา ว่าจะไม่บอกใคร”
“ขอบคุณมากค่ะ มันก็แปลกดีนะคะ เวลาที่เดือนมีเรื่องอะไรค้างคาใจ มักจะนึกถึงคุณไทเป็นคนแรก แทนที่จะเป็นภูมิ ชาติก่อนเราคงจะเป็นเพื่อนกันมาแน่ๆ เลย”
“โห ให้เกียรติผมขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเดือน”
“ค่ะ นี่เดือนพูดจริงๆ จากใจ เพราะเดือนรู้สึกไว้ใจคุณไทมากๆ เลย”
“แล้วมีเรื่องลับอะไร ไหนเล่าให้ผมฟังสิครับ”
“คือเดือนตัดสินใจจะกลับไปเรียนต่อที่เมืองไทย โดยใช้ระบบอีเลิร์นนิ่งของมหาวิทยาลัย เรียนจบเมื่อไหร่ค่อยบินมารับปริญญาที่มหาวิทยาลัยอีกที”
ไผทตกใจ
“หะ แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่เหรอครับ”
“ก็คงอีกไม่นานค่ะ แต่ทำไมดูคุณไทตกใจมากเลย หรือว่า ที่ภูมิหายไป เขาไปทำเรื่องอะไรอีกแล้ว”
“เปล่าครับเปล่า ผมก็แค่ตกใจเพราะก่อนหน้า คุณเดือนไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเลย”
“เดือนยอมรับค่ะ ว่าที่มาเพราะน้อยใจ ต้องการหนีปัญหา เลยทำอะไรวู่วามไปหน่อย”
“ถ้าคิดได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วล่ะครับ นี่ดีนะที่มหาวิทยาลัยมีระบบนี้ให้เราเลือก”
“ใช่ค่ะ และต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เดือนสัญญา ว่าจะไม่หนีปัญญาอีกแล้วค่ะ”
“นี่ถ้าเจ้าภูมิรู้ มันคงจะดีใจมาก”
“แต่เราจะให้เขารู้ไม่ได้ เดือนอยากจะให้เขาดีใจ อยากจะเซอร์ไพรส์เขา”
“ได้ครับได้”
“ว่าแต่ คุณไทต้องสัญญาเพิ่มอีกข้อ ว่าจะอยู่ข้างเดือน ไม่ใช่ภูมินะคะ”
“ขอผมอยู่ทั้งสองข้างไม่ได้เหรอครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ก็คุณไท อยากมีเพื่อนกะล่อนขนาดนั้นต้องเข้าข้างเดือนถึงจะถูก”
“โอเค ครับโอเค”
“งั้นเดือนไม่รบกวนเวลาพักผ่อนแล้วนะ แล้วค่อยเจอกันที่เมืองไทยนะคะ ฝันดีค่ะ”
เดือนฉายวางสาย ไผทหนักใจ

ย่าตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่บุญปลูกกับเภาเล่า
“หะ มันจะเป็นไปได้ยังไง แกก็เห็นเหมือนที่ฉันเห็น ว่าเขารักกันปานจะกลืน”
“ก็นั่นน่ะสิคะ ปลูกกับเภาก็ยังงงๆ”
“แต่เราเห็นเขาแยกกันนอนจริงๆ นะคะคุณท่าน”
เภาหยิบโทรศัพท์ โชว์รูปที่ถ่ายมา ย่าหยิบแว่นตามาสวมเพ่งมอง
“เออ จริงด้วย เดี๋ยวพวกแกกลับไปก่อนแล้วกัน ฉันขอคิดหาเหตุผลอีกที ว่าเขาทำอย่างนี้ทำไม”
“ค่ะคุณท่าน ไปนังเภา”
บุญปลูกกับเภาลุกขึ้นเดินไป
“เดี๋ยว ห้ามพวกแกเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แล้วอย่าทำให้เขาสงสัยเด็ดขาดว่าเรารู้ ทำทุกอย่างให้ปกติ เช้าใจไหม”
"ค่ะ คุณท่าน"
“นังเภา แกมาเอาถั่งเช่านี่ไปกิน ให้เจ้าหวินมันด้วยนะ เผื่อจะมีลูกมีเต้ากับเขาบ้าง”
“โห จริงเหรอค่ะคุณท่าน นี่มันเป็นบุญของเภากับพี่หวินชัดๆ”
บุญปลูกปรายตามองหมั่นไส้
“ไอ้เรื่องอาการ เว่อร์วัง ไม่มีมีใครเกิน”
“ก็เขาดีใจนี่นา ว่าแต่ถ้าเภามีลูก จะให้ชื่อน้องถั่งเช่า ดีไหมคะคุณท่าน”
“ยิ่งนานวันก็ยิ่งบ๊องๆ นะแกเนี่ย จะตั้งชื่ออะไร ก็นึกถึงใจลูกบ้างก็ดีนะ”
“ไปได้แล้วเร็ว คุณท่านจะได้พักผ่อน”
เภารีบวิ่งไปยกถาดถั่งเช่าประคองออกไป ย่ามองไปนอกหน้าต่าง ครุ่นคิด นิดพยายามเอาหูแนบฟังที่ประตู บุญปลูกผลักประตูออกมา ดันนิดล้มไปกองที่พื้น บุญปลูกรีบปิดประตูไป
“นี่แกกล้ามาแอบฟังคนเขาคุยกันงั้นเหรอนังนิด”
นิดหน้าจ๋อย รีบหาทางแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“อ๊าย แอบฟังอะไรกันน้าปลูก ฉันก็แค่มาทำความสะอาดประตูก็เท่านั้นเอง”
“เหรอ คนใช้บ้านนี้ขยันดีเนาะ ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่ยอมหลับยอมนอน จู่ๆ ก็ลุกมาทำความสะอาดประตูยามดึก ซะงั้น”
“ก็ฉันยังไม่ง่วง ก็เลยลุกมาทำงานให้คุ้มกับค่าจ้าง ไม่ดีหรือไง”
“ดี คนใช้ดีๆ อย่างนี้หายากมากเลย งั้นฉันจะให้นังเภา พาแกก็ไปล้างห้องน้ำ จะได้คุ้มกับค่าจ้างไง”
บุญปลูกหันไปส่งสายตาพยักหน้าให้เภา
“ตามมา”

นิดไม่กล้าเถียง จำใจเดินตามเภาไป
 
จบตอนที่ 9 
กำลังโหลดความคิดเห็น