เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 18
รามนรีนั่งมองกระจก ดูรอยแดงที่หน้า นึกแค้น ภูมิถือกะละมังน้ำอุ่นเดินเข้ามา
“นี่คุณจะทำอะไร”
“ก็เช็ดหน้าให้คุณไง ไม่งั้นมันจะแดงช้ำ จะทำให้คุณขี้เหร่ไปมากกว่านี้ได้นะ”
“ไม่ต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้น เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่โดนตบ”
“อย่าอวดเก่งกับผมได้ไหม ก็บอกแล้วไง ว่าผมจะดูแลคุณ นอนลงเดี๋ยวนี้”
ภูมิจับรามนรีนอนลงไปที่เตียง แล้วบรรจงเช็ดหน้าให้
“ดูสิ แดงไปหมดเลย คุณเจ็บมากไหม ต่อไป ผมจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”
รามนรีใจสั่นมองหน้าภูมิ รู้สึกซาบซึ้ง
“ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง ฉันดูแลตัวเองได้”
“อย่าดื้อได้ไหม ในฐานะสามีที่ดี ผมมีหน้าที่ดูแลคุณ เดี๋ยวเช็ดหน้าเสร็จคุณรีบไปอาบน้ำแต่งตัว เราจะรีบออกไปจากที่นี่ ก่อนที่คุณแม่จะกลับมา”
“คุณจะไปไหน แล้วทำไมต้องหลบคุณนายด้วย”
“ผมเบื่อที่จะตอบคำถามของคุณแม่หรือแม้แต่คุณ มันไม่มีอะไรมากนอกจากผมอยากจะเห็นคุณได้มีความสุข และสนุกกับเขาบ้าง แล้วก็กรุณาอยู่นิ่งๆ และทำตามที่ผมบอกเถอะ”
รามนรีจำใจนอนนิ่งยอมให้ภูมิเช็ดหน้าให้จนเสร็จ
ถวิลกำลังพรวนดิน ตัดแต่งต้นไม้ บุญปลูกกับเภาเดินเซ็งเข้ามา
“อ้าว ไหนบอกไปหาคุณเดือนช่วยทำงาน แล้วทำไมกลับมากันไวนักล่ะ”
“ไวกะผีอะไร ฉันไม่ได้ไปเสียหน่อย”
“ไหงเป็นงั้น”
“ก็ฉันกับนังเภา ถูกคุณสราญ เขาจับได้ก่อนน่ะสิ”
“ฉันสังหรณ์ ว่าวันนี้คุณเดือนของเรา คงจะโดนเขายำเละแน่ๆ”
“ก่อนหน้า ฉันเห็นคุณภูมิกลับมา แล้วก็เข้าไปข้างใน และเมื่อครู่ ฉันก็เห็นสองแม่ลูกนั่น วิ่งหน้าตั้งออกมาแล้วก็ขับรถออกไป ตกลงใครยำใครกันแน่วะ”
“เหรอ งั้นก็แสดงว่า สองแม่ลูกนั่นหนีตายหงายเงิบไปแล้วล่ะสิ”
“มีความเป็นไปได้สูง ว่าพวกนั้นจะถูกยำว่ะนังเภา”
บุญปลูกกับเภาหัวเราะร่า หันไปปะมือกัน
ย่านั่งดูไอแพดอยู่ สราญชะเง้อมอง ก่อนเดินยิ้มเข้ามา
“คุณแม่ขา คุณแม่ ทำอะไรอยู่คะ”
“เห็นไหมล่ะว่าทำอะไร รึเห็นว่าฉันรำไทยอยู่”
สราญหน้าแตกยิ้มแหย
“แล้ววันนี้ลมอะไรหอบหล่อนมาได้ เห็นได้ข่าวแขกมาเฝ้าเต็มบ้านไม่ใช่เหรอ”
“แหม คุณแม่นี่รู้เยอะ รู้จริงมากๆ เลยนะคะเนี่ย”
“ก็แหงล่ะ ก็ฉันเป็นคนชอบเรื่องจริงไม่ชอบเรื่องโกหกนี่จ๊ะ”
“ดีค่ะ เพราะหนูวันนี้หนูก็มีเรื่องจริงจะมาบอกคุณแม่เหมือนกัน”
“เรื่องจริงอะไร”
“ก็หนูเพิ่งจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของนัง เอ๊ย แม่เดือนฉาย ว่าที่แท้ มันไม่ได้ดีอย่างที่คุณแม่คิดเลยนะคะ แถมมันยังแสดงความถ่อย หาเรื่องทำร้ายหนูฟ้า”
“แล้วสอบสวนทวนความดีรึยัง ว่าใครทำร้ายใครกันแน่”
“แน่นอน หนูให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ก็เลยได้รู้ว่าแม่เดือนฉายเขาร้ายลึก ก็เลยรีบมาเรียนให้คุณแม่ทราบ จะได้ไม่หลงกลเขาง่ายๆ ไงคะ”
“อืม ดี ฉันจะได้ระวังตัวไว้ ว่าแต่แม่สราญก็อย่าเผลอไปหลงกลใครเข้าก็แล้วกัน”
“ค่ะ ตอนนี้หนูก็ลองให้เขาทำอาหารให้ดู ว่าจะเก่งจริงอย่างที่มันโม้ไหม”
“ก็ดี ที่แม่สราญทำอย่างนี้ อย่างน้อยก็จะได้เรียนรู้คนอย่างตรงไปตรงมา เผื่อจะได้ตาสว่าง จะได้รู้เสียที ว่าคนไหนดีคนไหนเลว คนไหนตัวจริง ตัวปลอม”
สราญพยักหน้าฝืนยิ้มให้ ทั้งที่ในใจรู้อยู่เต็มอก ว่ากำลังถูกแม่ผัวด่าประชด ย่าปรายตามองสราญ แอบหมั่นไส้
ศจี ระพี และเจือจันทร์ นั่งคุยกันอยู่ภายในบ้าน ผสานกับจอสเดินเข้ามายกมือไหว้ เจือจันทร์พูดต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณผสาน เชิญนั่งก่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
“มีเรื่องอะไรด่วนเหรอครับ”
“หรือว่า เจอหนูเล็กแล้ว”
“ก็เพราะไม่เจอน่ะสิครับ ผมถึงได้ร้อนใจ จนทนไม่ไหวแล้ว ผมอยากจะเรียนปรึกษา ผมว่าเราควรจะแจ้งความดีกว่านะครับพี่”
ระพีครุ่นคิดหนักใจ
“ก็น่าคิดนะคะพี”
“ใช่ ให้ตำรวจเขาช่วยตาม ดีกว่ามานั่งกลุ้มใจกันอย่างนี้ มันไม่เป็นผลดีกับใคร” เจือจันทร์เห็นด้วย
“ที่ผมเสนออย่างนี้ เพราะเพื่อนเป็นสารวัตรอยู่ที่นั่น เขาแนะนำให้ทำอย่างนี้ เพราะกลัวจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเขา และถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
“โถ พ่อคุณ ช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้”
“ขอบคุณครับคุณแม่ ไปแจ้งความเถอะนะครับพี่พี เพื่อนผมเขารับปากจะดูแลเรื่องนี้ให้”
“ไปเถอะนะคะพี”
ระพีมองศจี ก่อนหันไปมองผสาน ครุ่นคิดตัดสินใจ
“ก็ได้ งั้นเราจะไปแจ้งความกัน”
ผสานแอบยิ้มสะใจ
สราญเดินกลับเข้ามาในบ้าน ไม่เห็นใคร เดินไปที่ห้องครัว เห็นสภาพห้องครัวเลอะเทอะ ของหกเกลื่อน
“ว้าย นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ภูมิกับรามนรีเดินลงจากบันไดมา เห็นสราญกำลังเดินออกมา รีบพากันวิ่งลงบันไดไปหลบอีกมุม แอบมอง
“แม่เดือนฉาย นี่หล่อนทำอะไรกับแขกของฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้น”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ สราญโมโหจนของขึ้น เดินกระแทกเท้าขึ้นบันไดไปที่ชั้นบน ภูมิกับยาย รู้สึกสนุกหันไปยิ้มให้กัน ภูมิดึงมือรามนรีเปิดประตูวิ่งออกจากบ้านไปได้สำเร็จ
พวงศรีกับประกายฟ้า เดินหัวเสียเข้ามาหาประกันภายในบ้าน
“เป็นไง เกิดอะไร หน้าตูมกลับมาทั้งแม่ทั้งลูกเลย เฮ้ย นั่นคุณไปโดนใครเขาตบมา เต็มฝ่ามือเลย”
พวงศรี หัวเสียทิ้งตัวลงนั่ง
“มือหนูเองค่ะพ่อ หนูจะตบนังนั่นแต่ดันพลาด”
“เหรอ รึที่เขาว่าเวรกรรมมีจริง มันจะจริงอย่างที่เขาว่า”
“พูดบ้าอะไร มันใช่เวลาไหมเนี่ย แล้วเรื่องไอ้เสี่ยนั่นมันว่าไง”
“ไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้มันเชื่องและเชื่อเราสนิทใจ แถมยังสัญญาว่าจะเชื่อฟัง และจะไม่ทำอีก”
พวงศรีถอนใจโล่งอก ประกายฟ้านั่งคิดหน้าเครียด
“อย่าห่วงเรื่องไอ้เสี่ยบ้านั่น เพราะถึงยังไง หนูก็ไม่เอามันมาทำพันธุ์แน่ คิดสิคะคิด ว่าหนูจะทำยังไง ถึงจะไม่เสียพี่ภูมิไป”
พวงศรีกับประกัน หันไปสบตากันหน้าเครียด ครุ่นคิด
สราญเปิดประตูเข้าไป กวาดตามองในห้องภูมิ ไม่เห็นรามนรี
“มันไปไหนของมันกันแน่เนี่ย”
สราญสะดุดตาที่ข้อความเขียนติดไว้หน้ากระจกด้วยลิปสติกสีแดง
“คุณแม่ที่เคารพ ผมขออนุญาตพาภรรยาไปปาร์ตี้อย่างมีความสุขกัน สักวันนะครับ"
สราญกำมือแน่นหายใจแรง อย่างเดียวดาย ก่อนกรี๊ดสนั่นลั่นห้องด้วยความโมโห
ระพีและคนที่บ้านพร้อมด้วยผสานกับจอส เดินลงมาจากสถานีตำรวจ
“ต้องขอโทษทีนะครับพี่พี ที่เพื่อนผมไม่ได้อยู่ดูแล เพราะเขาติดงานด่วน”
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เจ้าหน้าที่เขาก็ดูแลเรา เขาลงรายละเอียดให้เราได้ดีมาก”
“ใช่ค่ะ เขาถามถึงเหตุจูงใจ ถามถึงการเจอตัวหนูเล็กครั้งสุดท้าย”
“ผมว่าครั้งนี้ เราน่าจะมีหวังมากกว่าทุกครั้งนะครับ”
“ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
“แล้ววันนี้ ผมขออนุญาตเป็นเจ้ามือ เลี้ยงอาหารสักมื้อนะครับ กินอาหารเสร็จ เราค่อยมูฟไปร้องคาราโอเกะกันต่อก็ได้ เพราะที่นี่มีห้องคาราโอเกะส่วนตัว บรรยากาศดีมากเลยนะครับ”
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็รบกวนคุณผสานมากพอแล้ว ผมว่าเรากลับไปพักผ่อนจะดีกว่านะครับ”
“อย่าคิดว่าเป็นการรบกวนเลยครับ ถึงผมจะเป็นแค่น้องเขย แต่ผมก็เคารพและรักพี่เหมือนพี่แท้ๆ ไม่ควรมีคำว่าเกรงใจอีกต่อไปนะครับ”
ระพีมองผสานรู้สึกอึดอัดใจ
“นะคะพี คุณผสานอุตส่าห์มีน้ำใจให้เราขนาดนี้ ก็ไปเถอะนะคะ ถ้าพีเกรงใจ เอาไว้วันหลัง เราค่อยเลี้ยงคุณผสานตอบแทนก็ได้นี่คะ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้”
ผสานยิ้มให้ระพีกับศจี
ห้องคาราโอเกะในร้านอาหาร เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานดังกระหึ่ม ภูมิกับรามนรีร้องเพลงเต้นกันอย่างเมามัน ภัทรนั่งมองสองคนอย่างมีความสุข ก่อนหยิบโทรศัพท์มาอัดคลิปและถ่ายภาพทั้งคู่ไว้ ต่างจากไผท ที่นั่งมองสองคน หน้าเศร้า คิดถึงเดือนฉาย ที่คงจะต้องเสียภูมิไป ภูมิวางไมค์ ก่อนจูงมือรามนรีออกมานั่งพัก ต่างคนต่างตักอาหารป้อนให้กันอย่างมีความสุข
“พ่อดีใจ ที่เห็นลูกรักกันมากขนาดนี้”
รามนรียิ้มเจื่อนรู้สึกละอายใจ ก่อนหันไปมองหน้าไผท ภูมิยิ้มสดใสกอดพ่อ
“แต่ผมดีใจมากกว่า ที่วันนี้ผมได้พ่อของผมคืนมาอย่างสนิทใจ คราวนี้พ่อต้องร้องเพลงให้ผมฟังบ้างผมจะได้กินอาหารให้อร่อยไง”
“ใช่ค่ะคุณพ่อ ขอสักเพลงนะคะ”
“ก็ได้”
ภัทรลุกออกไปกดเลือกเพลงที่ด้านหน้าจอ
“ไอ้ไท แกเป็นอะไรไปวะ เศร้าๆ เหงาๆ เหมือนหมาหงอยเชียว”
“ไม่มีอะไร ฉันอาจจะดีใจมากเกินไปจนช็อค”
ภูมิมองไผท ไม่เข้าใจ ยักไหล่ใส่ ก่อนหันไปมองหน้ารามนรี
ชวนกันออกไปทำรีวิวประกอบเพลงให้ภัทรกันอย่างสนุกสนาน
ระพี ศจี ผสาน นั่งกินอาหารกันจนเสร็จ
“คุณผสานนี่สุดยอดจริงๆ พาไปทานแต่ละที่ ไม่มีผิดหวังเลย อร่อยมากๆ”
“ทุกเรื่องในชีวิต ผมมักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ แม้แต่เรื่องคู่ครอง ผมเลือกที่จะรักและรอหนูเล็ก ก็เพราะผมมั่นใจว่าเขาดีที่สุดสำหรับผม”
“ว้าว หวานมาก ถ้าหนูเล็กได้ยินคำนี้ คงใจละลายเลยนะคะเนี่ย จริงไหมคะพี”
“เดี๋ยวนั่งคุยกันไปก่อน ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ”
“เชิญเลยครับพี่ ห้องน้ำอยู่ด้านนี้นะครับ”
ผสานยิ้มให้ระพี
ภูมิร้องเพลงรักซึ้งๆ ส่งสายตาหวานซึ้งไปให้รามนรี ซึ่งนั่งหน้าชา เขิน ภัทรนั่งมองคนสองคนบอกรักกันผ่านเสียงเพลงอย่างมีความสุข
“ดูสิไผท ทำไมเขาหวานกันมากมายขนาดนี้ น่ารักจังเนอะ”
ไผทฝืนใจยิ้มให้ภัทร มองภูมิกับรามนรีพยายามจะเข้าใจ รามนรีเขินมาก พยายามหักห้ามใจ ก่อนขอตัวเดินออกไป
สราญโทรศัพท์หาภัทรกับภูมิ แต่ทุกคนพร้อมใจกันปิดเครื่อง เธอยิ่งปรี๊ดแตก
“หือ มันพร้อมใจหายหัวไปปาร์ตี้บ้าบออะไร ที่ไหน กันแน่เนี่ย”
สราญพยายามนั่งสงบสติอารมณ์ที่พุ่งพล่านสักพัก ก่อนกดโทรศัพท์หาพวงศรี พวงศรียิ้มร่า แล้วจึงทำเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้น
“คุณพี่ค่ะ”
ประกันมองทึ่งพวงศรี
“พี่รู้เรื่องจากนังนิดมาบ้าง แต่อยากจะได้ยินความจริงจากปากคุณน้องมากกว่า ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เล่าให้คุณพี่ฟังเดี๋ยวนี้ค่ะ”
พวงศรีตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ฟ้องสราญจนจบ สราญโมโห
“งั้นพรุ่งนี้ คุณพี่ขอสั่งให้คุณน้องกับหนูฟ้ามาที่นี่ เดี๋ยวคุณพี่จะเล่นงานมันให้ดูต่อหน้า และจะเปิดหน้าสู้กับทุกคนที่ปกป้องมัน ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่”
“จะไหวเหรอคะคุณพี่”
“ทำไมจะไม่ไหว ถึงน้องศรีจะทนได้ แต่คุณพี่ทนไม่ได้อีกต่อไป ให้มันรู้กันไปเลย ว่าเลือดมันยังจะข้นกว่าน้ำอยู่ไหม”
“โห คุณพี่ น้องรู้สึกซาบซึ้งในความดี และน้ำใจของคุณพี่มากๆ ๆ เลยค่ะ”
“งั้นคุณน้องก็ต้องรีบไปบอกหนูฟ้า ว่าไม่ต้องเครียด พรุ่งนี้มาเจอกัน งั้นแค่นี้นะคะ”
พวงศรียิ้มสะใจ
“ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ”
“ได้อะไร หรือพรุ่งนี้จะไปเติมรอยแดงที่ข้างแก้มมาอีกข้างจ้ะแม่พวงศรี”
“ปากเสีย”
ประกันหลบตา
รามนรีใจเต้นตึกตัก เดินเข้ามาที่หน้ากระจกในห้องน้ำร้านอาหาร
“คนบ้า ทำเอาเราเขินแทบแย่”
รามนรีเปิดน้ำล้างมือ ก่อนยืนบิดไปมา ยิ้มเขินให้กระจก คนเดินผ่านไปผ่านมามองด้วยสายตาแปลกๆ นึกว่าบ้า
รามนรีเดินยิ้มระรื่นออกมาจากห้องน้ำ ระพีเห็นน้องสาว ปรี่ไปคว้ามือรามนรีดึงไป
“ว้าย”
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 18 (ต่อ)
รามนรีตกใจหน้าเหวอ ระพีดึงมือน้องสาวมาหลบมุมร้านอาหาร รามนรีสะบัดหลุด หันไปมองหน้า ก่อนยิ้มดีใจ โผเข้าไปกอด
“พี่พี”
“บอกพี่มา ว่ามีเหตุผลอะไร ทำไมถึงได้หายไป ทำไมไม่ติดต่อพี่”
“หนูเล็กขอโทษ เพราะตอนนี้หนูเล็กไว้ใจใครไม่ได้เลย”
“แม้แต่พี่งั้นเหรอ”
รามนรีพยักหน้า
“อะไรที่ทำให้คิดอย่างนั้น ลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเป็นพี่น้องกัน”
“ก็รู้ แต่หนูเล็กไว้ใจใครไม่ได้ พ่อก็หลงน้าแก้วหลงนายผสาน แล้วยังมาเห็นพี่อยู่กับเขาที่อพาร์ตเม้นท์ ก็เลยคิดว่าพี่คงจะหลงกลเขาไปอีกคน ก็เลยไม่กล้าติดต่อไป กลัวถูกจับกลับไปเจอคนๆ นั้นอีกนี่คะ”
“หะ แล้วเราไปทำอะไร ที่อพาร์ตเม้นท์นั่น”
“หนูเล็กเช่าทิ้งไว้เป็นที่เก็บของ ถ้าว่างงานก็จะไปพักบ้างเป็นบางครั้ง แล้วพี่พีไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง”
“เป็นอพาร์ตเม้นท์ของญาติศจีแฟนพี่ ตอนกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ พี่ไปอาศัยอยู่ที่นั่นเพื่อตามหาเรา แล้วคุณผสานเขาก็ตามมาหา อ้างว่าห่วงเรามาก แล้ววันนี้เขาก็อยู่ที่นี่ เขาพาพี่ไปแจ้งความคนหายที่สน.แล้วก็พามากินข้าวที่นี่”
“หะ แจ้งความ แล้วนายผสานก็อยู่ที่นี่ พี่ไม่น่าเชื่อเขาเลย”
“ก็เราเงียบหายไปตั้งนาน พี่ก็เป็นห่วงน่ะสิ พี่เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าพี่จะไม่มีวันเห็นใครสำคัญไปมากกว่าน้อง ต่อไปนี้ห้ามเงียบหายไปอีก”
“ได้ค่ะ แต่พี่ก็ต้องสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แม้แต่แฟนพี่”
“ได้ พี่สัญญา แต่หนูเล็กก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้พี่เป็นห่วง เข้าใจไหม”
“ค่ะ หนูเล็กรักพ่อกับพี่พีเสมอนะคะ สักวันเราจะต้องได้กลับไปอยู่ด้วยกันค่ะ”
“อ้อ เกือบลืม พ่อเขาตามป้าผ่องกลับมาอยู่บ้านเราเหมือนเดิมแล้วนะ”
“จริงเหรอคะ ฝากความรักและคิดถึงให้ป้าผ่องด้วยนะคะพี่พี”
รามนรีจับมือระพีร่ำลา ก่อนมองซ้ายมองขวา วิ่งกลับไปหาภูมิ จอสจะไปเข้าห้องน้ำ เดินผ่านมา มองไปเห็นรามนรีช่วงสะบัดหน้าวิ่งออกไป เลยเห็นไม่ถนัด
“นั่นคุณพี ยืนคุยกับผู้หญิงที่ไหน ทำไมดูคุ้นๆ จังวะ”
จอสเกาหัวแกรกๆ พยายามนึก แต่นึกไม่ออก
ศจี ผสาน เดินเข้ามาหาระพี ซึ่งยืนมองส่งรามนรีจนลับตา ทุกคนมองตามสายตาระพี
“มองหาใครอยู่เหรอครับพี่พี”
“แล้วทำไมออกมานานขนาดนี้คะพี”
“อ๋อ คือ ผมเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม ก็เลยคุยกันเพลินไปหน่อย ต้องขอโทษทีที่ปล่อยให้รอ”
ศจีพยักหน้าเข้าใจ จอสแอบนิ่วหน้ามองระพี เพราะรู้ดีว่าระพีโกหก ก่อนแอบขำเพราะคิดว่าระพีมีกิ๊ก
“ไปกันเถอะค่ะ กว่าคุณผสานจะไปส่งเรา กว่าจะถึงบ้านก็ดึกกันพอดี”
“เชิญครับ เชิญครับนายหัว”
จอสเดินเข้ามาผายมือให้ทุกคน
ภูมิ รามนรี ไผท และภัทร เดินออกมาจากห้องคาราโอเกะ จะไปที่รถ
รามนรีจำใจเดินเกาะแขนภูมิ เอาหน้าบัง คอยหลบกลัวเจอผสาน ภูมิยิ้มปลื้มชื่นชม
“ทำไมวันนี้ คุณดูอินเลิฟ ดูรักผมมากยังไงก็ไม่รู้”
รามนรีไม่รู้จะตอบอย่างไร ทำได้แค่ยิ้มแหย จำใจพยักหน้า ยิ้มเขินหลบตา ไผทสังเกตเหมือนรามนรีหลบหน้าใคร
ผสานเปิดประตูเข้ามาในคอนโด หยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรออกหาเพื่อนที่เป็นตำรวจสายสืบ
“ว่าไงเพื่อน”
“วันนี้ ฉันไปแจ้งความคนหายที่สน. ตามที่แกแนะนำมาแล้วนะ”
“เดี๋ยวจะไปดูบันทึกประจำวันแล้วจะรีบตามเรื่องให้ จะได้ทันใจคนใจร้อนอย่างแกไง”
“ขอบใจมากเพื่อน ยังไงฝากช่วยดูหน่อย ฉันใจร้อนจริงๆ”
“ได้ๆ ถ้ามีอะไรคืบหน้าฉันจะโทรไปหาแกนะ”
“โอเค งั้นไม่รบกวนเวลาทำงานของแกละ ขอบใจมากนะเพื่อน”
ผสานกดวางสาย ยิ้มตาวาว
“เวลาหนีของเธอ เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้วหนูเล็ก”
จอสใส่ผ้าขาวม้า ปะแป้งหน้าขาวเดินออกมา ยืนมองผสานหัวเราะคนเดียว
“เฮ้อ วันนี้ชีวิตกู ดูมีสีสันขึ้นมาเยอะเลยว่ะไอ้จอส”
“ครับนายหัว”
“ต่อไปนี้มึงเตรียมนับถอยหลัง กูจะเอาคืนมันให้แสบไปเลย ฮ่าๆๆ”
“ครับนายหัว จอสจะซ้อมนับถอยหลัง ให้นายหัวดูทุกวันเลยนิ”
ผสานกับจอสหัวเราะร่า อารมณ์ดี
คืนนั้น รามนรีกับภูมิ ช่วยกันเข็นรถที่ดับเครื่องก่อนจะมาถึงบ้าน โดยมีภัทรนั่งขับอยู่ตั้งแต่หน้าประตูบ้าน เข้ามาจอดในบ้าน เพราะกลัวสราญได้ยินเสียงแล้วจะตื่นขึ้นมาบ่น จนถึงที่หมายได้สำเร็จ ทั้งสองยิ้มร่าหันไปปะมือกัน ภัทรเดินลงมาจากรถดูนาฬิกาข้อมือ
“นี่ก็ใกล้จะตีหนึ่งแล้ว แม่เราเขาคงจะหลับไปแล้วล่ะ ไปลูกเข้าบ้านกันเถอะ”
“ครับพ่อ”
ภัทรเดินนำไป ภูมิจับมือรามนรี ที่แอบเขินพยายามจะสลัดออก แต่ภูมิไม่ยอมปล่อย รามนรีจำใจเดินตามภูมิไป
ภัทรเดินนำไปที่ประตู ก่อนเอื้อมมือไปเปิดประตู และเปิดไฟ ภูมิจูงมือรามนรี หัวเราะคิกคักตามมา ภัทรตกใจ
“คะ คะ คุณสราญ”
ภูมิกับรามนรีหุบยิ้มหันมามองหน้ากัน เห็นสราญยืนจังก้าหน้าเหี้ยมอยู่ด้านใน พอทั้งหมดเข้าไปในบ้าน สราญดึงหูภัทรกับภูมิคนละข้างก่อนเหวี่ยงไปที่โซฟา สองพ่อลูกเอามือกุมหูร้องโอดโอย รามนรีหน้าเหวอ เอามือปิดปากร้องไม่ออก
“โอ๊ย นี่หูผมยังอยู่ไหม หรือว่าผมกลายเป็นคนพิการไปแล้วเนี่ย”
“สมน้ำหน้า นี่มันยังน้อยไป กับสิ่งที่แกทำ”
“คุณสราญ ใจเย็นๆ ก่อนจะได้ไหม”
“ไม่ได้ คุณรู้ไหมว่าวันนี้มันมีเรื่องตั้งมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ก็เพราะอีนังผู้หญิงคนนี้”
รามนรีหลบตาต่ำ
“คุณแม่ไม่รู้อะไร จริงเท็จแค่ไหน ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิครับ”
“จริงอย่างที่ลูกพูดนะคุณสราญ ฟังหูไว้หูเถอะ”
“ไม่ฟัง เพราะฉันได้ยินเต็มสองรูหูของฉันนี่ มันทำร้ายว่าที่สะใภ้ของฉัน ทำให้เขาต้องเสียใจต้องร้องไห้ มันย่ำยีเขาทุกอย่าง”
“หนูเปล่านะคะ”
“เลิกมารยาต่อหน้าลูกฉันเสียที พรุ่งนี้ประกายฟ้าเขาจะมาที่นี่ คืนนี้ฉันจะให้โอกาสแกรีบไปเก็บเสื้อผ้า แล้วร่ำลากันซะ เพราะพรุ่งนี้ชะตาแกขาดแน่”
ภูมิมองสงสารรามนรีอ้าปากจะพูด แต่ไม่ทัน
“ไปกับแม่เดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
สราญดึงภูมิออกไป
กลางคืน ไผทยืนเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง หันไปมองโทรศัพท์ ก่อนหยิบขึ้นมาจะกดโทรออก แต่เปลี่ยนใจ ไม่กล้า ทำได้แค่มองโทรศัพท์
“แล้วผมยังจะมีหน้าไปคุยกับคุณได้ยังไง ในเมื่อผมกำลังจะทำให้คุณต้องเสียใจ ต้องเจ็บอีกครั้ง”
ไผทถอนใจ วางโทรศัพท์ลง ยืนมองพระจันทร์
“ผมขอโทษนะเดือนฉาย ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ”
ไผทหน้าเศร้ามองเหม่อ นึกเป็นห่วงเดือนฉายจับใจ
ภัทรยืนปลอบรามนรี หลังจากสราญพาภูมิออกไปแล้ว
“อย่าถือสาแม่เขาเลยนะหนูเดือน เขาก็เป็นอย่างนี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย นี่คงจะไปฟังเขาใส่ไฟจนมากเกินไป ถึงได้ของขึ้นขนาดนี้”
“ไม่เป็นไร หนูเข้าใจค่ะคุณพ่อ จะห่วงก็แต่คุณภูมิ”
“เขาแม่ลูกกัน คงจะไม่มีอะไรมากมายหรอก เดี๋ยวพ่อจะไปดูแลเขาเอง”
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวนะคะ”
รามนรีเดินออกไป ภัทรถอนใจ
ประกายฟ้านั่งหน้าหงิก พวงศรีเปิดประตูเดินยิ้มร่าเข้ามาหา
“เห็นไหม คนระดับพวงศรี ทำอะไร ไม่มีเสีย มีแต่ได้ และได้มากด้วย”
“หมายความว่ายังไงคะแม่”
“ก็ คุณสราญโทรมา บอกพรุ่งนี้เขาจะจัดการแม่นั่นขั้นเด็ดขาดให้เราดู และจะไม่ไว้หน้าใคร ไม่เว้นแม้แต่คุณย่า”
ประกายฟ้ายิ้มร่าดีใจ
“จริงเหรอคะ ถ้าเขากล้าพูดขนาดนี้ หนูแฮปปี้เว่อร์ทันทีเลยค่ะแม่”
ประกายฟ้าโผกอดพวงศรีด้วยความดีใจ
รามนรียืนมองกระจกในห้องนอนภูมิ เห็นหน้าที่ถูกตบเป็นรอยแดง
“ทำไมมันถึงเลวได้ใจขนาดนี้ ทำไมไม่ยอมหยุดเสียทีนะ”
รามนรีนึกแค้น
“ฉันจะช่วยคุณภูมิยังไง ฉันจะทำยังไงกับแกดี มันถึงจะสาสม เฮ๊ย เราลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงเนี่ย”
รามนรีวิ่งไปรื้อค้นของออกมากองพะเนิน จนเจอของที่ต้องการ หัวเราะร่าหน้ากวนๆ ชูแว่นตากับชุดเสื้อผ้าที่ใส่ไปเจอประกายฟ้าครั้งแรกที่สปา
“มันถึงเวลา ที่ฉันจะเอาคืน”
รามนรีมองของที่ถูกรื้อค้นกระจัดกระจายในห้อง กลัวภูมิเข้ามาเห็นเข้า จะสงสัย เธอรีบโกยของที่รื้อค้นออกมา ใส่ไว้ในกระเป๋าตามเดิม บางส่วนวิ่งเอาไปเก็บยัดไว้ตรงโน้นตรงนี้ จนห้องกลับคืนสู่สภาพเดิม รามนรีนั่งหอบแฮ่ก ปาดเหงื่อ คว้าผ้าเช็ดตัว หายไปในห้องน้ำ
สราญมองภูมิน้ำตารื้น
“แกอย่ามาเถียงแทนมันให้ฉันช้ำใจ ทำไมแกถึงทำกับฉันอย่างนี้”
“ผมทำอะไรผิด”
“ผิดตั้งแต่เอาผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ที่นี่โดยที่ไม่บอกฉัน แล้วก็หลงมันจนลืมแม่”
“ไม่จริงเลยนะครับคุณแม่”
“ถ้างั้นแกรีบไปบอกเลิกกับมัน แล้วไล่มันไปเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ก็ได้”
ภัทรเดินเข้ามาไม่เห็นด้วย
“มีเหตุผลหน่อยสิคุณ”
“ก็นี่ไงเหตุผล บอกไม่รู้กี่ครั้ง ว่าฉันไม่มีวันจะรับนังนั่นเป็นลูกสะใภ้ ไม่มีวัน”
ภูมิหนักใจ หันไปมองภัทร ก่อนเดินเข้าไปกอดปลอบสราญ
“คุณแม่ ผมยังรักคุณแม่เหมือนเดิมไม่มีวันเปลี่ยน แต่เดือนเขาเป็นเมียผม จะให้ผมเลิกกับเขาได้ยังไง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด”
สราญสลัดหลุด ผลักภูมิออกไป
“ถ้าแกยังรักนังนั่น ก็ไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำเป็นรักฉัน”
“ผมรู้ ว่าคุณแม่ไม่ชอบเขา แต่ผมอยากให้คุณแม่ลองเปิดใจแล้วค่อยๆ มองดูเขา ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน คุณแม่จะต้องรักเขา เหมือนที่ผมรัก”
“รู้ทั้งรู้ว่าฉันเกลียด แล้วจะมาบังคับให้ฉันรักมันได้ยังไง”
“แต่หนูเดือนเขาเป็นเด็กดีเป็น”
สราญหันไปถลึงตา ภัทรรีบหุบปาก ก่อนแว้ดใส่
“พอกัน หลงมันไม่ลืมหูลืมตาทั้งพ่อทั้งลูก คิดไหมว่าทำไมฉันต้องค้านหัวชนฝา ก็เพราะฉันรู้ ว่ามันดีไม่จริงไง มันหลอก เข้าใจไหมว่ามันหลอก”
“คุณแม่ครับ”
“เงียบไปเลย ถ้าแกยังคิดว่าฉันเป็นแม่ แกก็ต้องเลือก ว่าระหว่างแม่กับเมีย แกจะเลือกใคร ไปได้แล้วไป”
สราญไล่และผลักภูมิออกไปจากห้อง ภูมิหน้าเศร้า วิงวอน
“ฟังลูกบ้างเถอะคุณ”
“ไม่ ฉันจะให้โอกาสถึงพรุ่งนี้ ทันทีที่หนูฟ้ากับแม่เขามา ถ้าแกไม่เลือกฉัน เลือกหนูฟ้า แกก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ แล้วก็รีบพาเมียแกไสหัวไปให้ไกลๆ”
สราญปิดประตูใส่หน้าภูมิ
จบตอนที่ 18