ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 18
เช้าวันใหม่ ในครัวทำงานกันคึกคัก เตรียมของเช้าขึ้นตึก หมอนทำอาหาร เข็มจัดอาหารใส่สำรับ เหงื่อตก อีกกลุ่มพวกผู้ชายเข้ามานั่งกินข้าวคุยกัน
"นี่นังอึ่งมันมัวไปทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ลงมาช่วยกันบ้าง ยุ่งจนมือพันกันไปหมดแล้ว" เข็มบอก
"ยังไม่ตื่นละมั้ง" หมอนว่า
เอี้ยงจัดสำรับอยู่อีกมุม จะเอาไปให้ลำเจียก เงยหน้าตอบ
"เมื่อกี้ฉันเอาผ้าไปซักก็ไม่เห็นใครในเรือนนอนแล้วนะป้า"
"แหม อีนี่ แอบไปอู้อีกตามเคย คอยดูนะเดี๋ยวกูจะฟ้องคุณสร้อยทอง" เข็มว่า
เข็มบ่นๆ แล้วเห็นเอี้ยงเอาอาหารไปมากมายก็ชะงักมอง
"เอี้ยง นี่เอ็งเอาสำรับไปให้ใคร" เข็มถาม
เอี้ยงชะงัก
"ก็คุณดอกแก้วไงพี่"
"เธอทานเยอะขนาดนี้เชียวหรือ ปกติเห็นกินเท่าแมวดม"
เอี้ยงอึกอัก
"เอ่อ ช่วงนี้เธอเจริญอาหารจ้ะพี่ หิวบ่อย เลยให้ตักไปเผื่ออีกมื้อจะได้ไม่ต้องเดินมาเอา ฉันไปก่อนนะเดี๋ยวเธอเรียกหา"
เอี้ยงรีบยกสำรับออกไป เข็มแปลกใจ รีบแถไปหาหมอน
"ป้าๆๆ คุณดอกแก้วอยู่ๆ ก็เจริญอาหารขึ้นมา จะท้องหรือเปล่า"
"โอ๊ย อย่าเพิ่งเล้ย แค่นี้ก็วุ่นวายเหลือเกินแล้ว ขอให้บ้านเราได้อยู่สงบสุขกันบ้างเถ๊อะ เฮ้อ"
หมอนทำท่าขนลุกขนพองแล้วทำอาหารต่อไป
ดอกแก้วเปิดประตูออกมา เจอกับเอี้ยงที่ถือถาดอาหารรีบร้อนมา
"มาแล้วค่ะคุณดอกแก้ว อาหารของคุณลำเจียก"
เอี้ยงรีบแบ่งอาหารอีกชุดไว้ให้ดอกแก้ว แล้วยกถาดที่เหลือให้ดอกแก้ว
"คุณแก้วรีบไปเถอะนะคะ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าห้องขังหรอก พวกผู้ชายกำลังกินข้าวกันอยู่"
"จ้ะๆ ขอบใจนะเอี้ยง"
ดอกแก้วรีบถือถาดลงเรือนไป เอี้ยงมองตามแล้วถอนใจเหนื่อยแทน
ดอกแก้วถือถาดอาหารชุดใหม่เข้ามาในห้องขัง
"คุณพี่ลำเจียกคะ แก้วเอาอาหารเช้า"
ดอกแก้วพูดยังไม่ทันจบ เพราะเข้ามาก็เห็นเศษอาหารกระจัดกระจายออกมานอกห้องขังทั้งที่ประตูยังปิดอยู่
ดอกแก้วสังหรณ์ใจรีบวางถาดอาหาร แล้วเข้าไปชะโงกใกล้ลูกกรง พยายามมองหาลำเจียก
"คุณพี่ลำเจียกคะ คุณพี่..."
ดอกแก้วพูดแค่นั้นก็ชะงัก เพราะเห็นลำเจียกนอนจมกองเลือดอยู่
"คุณพี่ลำเจียก !"
ดอกแก้วร้อนใจ พยายามเขย่าประตูเปิด แต่ประตูยังมีโซ่คล้องอยู่
พวกบ่าวชายได้ยินเสียงดอกแก้วเอะอะ รีบวิ่งกรูกันเข้ามา
"เปิดประตูเดี๋ยวนี้ คุณลำเจียกบาดเจ็บ"
พวกบ่าวงงงัน ชะโงกหน้ามองเข้าไป เห็นลำเจียกนอนเลือดเต็มตัวก็ตกใจ
"เปิดสิเร็วๆ"
บ่าว1บอก
"เอ่อ พวกเราไม่มีกุญแจหรอกครับ คุณหลวงท่านเก็บไว้หมด"
ดอกแก้วโมโห รีบร้อนวิ่งออกไป
ดอกรีบร้อนวิ่งมาเจอกับเทพไทที่กำลังตามหาพอดี
"ดอกแก้ว"
ดอกแก้วละล่ำละลัก จะร้องไห้
"คุณเทพ ช่วยคุณพี่ลำเจียกด้วยเถอะค่ะ"
"คุณน้าเป็นอะไร"
"ไม่ทราบค่ะ แต่แก้วเห็น...เห็นเธอนอนบาดเจ็บอยู่ในห้องขัง ช่วยด้วยเธอเถอะค่ะ"
เทพไทตกใจมาก รีบวิ่งไปที่ห้องขังทันที ดอกแก้วตามไปติดๆ
เวลาต่อเนื่องมา เทพไทถือจอบตามดอกแก้วเข้าในห้องขัง บ่าวชายยืนละล้าละลังกันอยู่
เทพไทมองเป็นห่วงลำเจียก ออกแรงฟันโซ่คล้องประตูโครมๆ จนประตูแง้มเปิดออก
ดอกแก้วโผเข้าไปหา
"คุณพี่ลำเจียก ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเลือดเต็มไปหมดอย่างนี้"
เทพไทมีสติ ขยับเข้าไปอังมือที่จมูกลำเจียก แต่แทบไม่เจอลมหายใจ เทพไทใจคอไม่ดี รีบคว้าข้อมือลำเจียกจับชีพจร
"ชีพจรยังเต้นอยู่ เราต้องพาคุณน้าไปโรงพยาบาล ช่วยผมหน่อยดอกแก้ว"
"ค่ะๆ"
ดอกแก้วช่วยประคองร่างลำเจียกให้เทพไทอุ้มขึ้นมา แล้วพากันออกมาจากห้องขัง ทั้งเนื้อทั้งตัวเทพไทกับลำเจียกเต็มไปด้วยเลือดจนพวกบ่าวตกใจ
เทพไทอุ้มลำเจียกมาที่จอดรถ ดอกแก้ววิ่งตามมาติดๆ เชตกับพวกบ่าวอื่นๆ โผล่หน้าออกมามองหน้าตื่น
"เชต เอารถออก"
เชตมองลำเจียกอย่างคาดไม่ถึง รีบวิ่งไปเปิดประตูรถให้เทพไทกับดอกแก้ว หลวงปกรณ์กับสารภีเดินลงมาจากตึกพอดีพร้อมกับสร้อยทอง
"หยุดเดี๋ยวนี้ไอ้เทพ แกจะเอาแม่ลำเจียกไปไหน"
เทพไทหันกลับมามองหลวงปกรณ์อย่างโมโห
"คุณน้าลำเจียกบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ คุณพ่อยังจะกักขังเธออีกเหรอครับ"
สารภีเห็นสภาพลำเจียก เอามือปิดปากร้อง "ว้าย !"
หลวงปกรณ์ช็อกไปเหมือนกัน แต่เห็นลำเจียกเลือดเต็มตัว
"เกิดอะไรขึ้น"
"ไม่ทราบค่ะ แก้วเอาอาหารไปให้คุณพี่ที่ห้องขัง แต่พอมองเข้าไปก็เห็นคุณพี่ลำเจียกอยู่ในสภาพนี้แล้ว"
"นี่คงคิดจะฆ่าลูกชู้ประชดฉันน่ะสิ"
"คุณพ่อ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคาดเดานะครับ คุณน้าลำเจียกต้องการรับการรักษาด่วน"
"แต่ฉันไม่ให้ไป แม่ลำเจียกถูกลงโทษอยู่ ฉันไม่อนุญาตให้ออกไปไหน"
"ณ วินาทีนี้ ผมทําตามคําสั่งคุณพ่อไม่ได้ครับ เพราะ ตอนนี้ผมเป็นหมอ หน้าที่ของหมอคือไม่ยอมให้คนตาย ผมจะต้องทําทุกอย่างเพื่อให้คนเจ็บรอดพ้นจากความตายและความทรมาน"
เทพไทพูดเสียงหนักแน่น แล้วรีบขึ้นรถเชตไป ดอกแก้วรีบตามไปด้วย
หลวงปกรณ์โมโห "ไอ้เทพ !"
เทพไทไม่สนใจ สั่งให้เชตขับรถออกไปจากบ้านทันที
หลวงปกรณ์ยัวะที่เทพไทอวดดีไม่ฟังตน สารภีมองตามอย่างสยดสยอง
"สภาพนั้นไปถึงโรงพยาบาลก็ตายอยู่ดี ปล่อยพี่เทพไปเถอะค่ะคุณหลวง" สารรภีว่า
สร้อยทองรีบออกตัวด่า
"ปากอัปมงคล ! แม่ลำเจียกโดนขนาดนี้แล้วจะเห็นใจซักนิดก็ไม่มี"
"ลองคุณป้าโดนคนบ้าไล่แทงบ้างสิคะ อยากจะรู้นักว่ายังจะมีหน้าเห็นอกเห็นใจกันอยู่ได้ไหม"
สารภีลอยหน้าน่าตบ สร้อยทองสะบัดหน้าหนี ไม่อยากมีเรื่องด้วย หันไปสั่งศรี
"ศรี ไปบอกนายเชิดให้เอารถออกอีกคัน ฉันจะไปดูแม่ลำเจียก ใครอยากจะยืนแช่งอยู่ตรงนี้ก็ช่างเขา"
สร้อยทองตวัดสายตามองหลวงปกรณ์เป็นเชิงเหน็บ แล้วรีบกลับเข้าไปแต่งตัว
พวกหมอน เข็มและคนอื่นๆ จับกลุ่มคุยกันอยู่ พอเห็นเอี้ยงวิ่งเข้ามาก็รีบกรูกันไปหา
"นังเอี้ยง เขาว่าคุณลำเจียกตกเลือดเหรอ เกิดอะไรขึ้นวะ"
"ยังไม่รู้เลยป้า แต่คุณดอกแก้วไปเห็นคุณลำเจียกนอนจมกองเลือด เรียกเท่าไรก็ไม่ฟื้น"
ทุกคนมีสีหน้าตกใจ
"แต่คุณเทพไทพาไปโรงพยาบาลแล้ว นี่พี่อึ่งอยู่ไหน มีใครเห็นบ้าง"
"มันก็ยังไม่โผล่มาในครัวตั้งแต่เช้าแล้วนะ"
"ฉันตามหาจนทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอเลย จะให้เก็บของให้คุณลำเจียกไปโรงพยาบาล" เอี้ยงบอก
"ลงอีแบบนี้ก็ไม่ต้องไปตามหาซะให้ยาก มันคงหนีไปเที่ยวข้างนอก เพราะเห็นว่าไม่ต้องรับใช้คุณลำเจียกนี่แหละ เดี๋ยวฉันไปเอาให้เอง ตามมาสิ" เข็มว่า
เข็มรีบเดินออกจากเรือนครัวไป หมอนกระเหี้ยนกระหือรือ
"อีอึ่งนะอีอึ่ง ถึงเวลาต้องใช้งานล่ะก็หายหัวทุกที"
ตอนเย็น ในตัวอาคารตึกโรงพยาบาล ดอกแก้วและคุณสร้อยนั่งรอผลอยู่อย่างใจจดใจจ่อ สักพักหนึ่ง เทพไทเดินออกมาพร้อมกับอาจารย์หมอนายแพทย์ประจําเวร สร้อยทองและดอกแก้วรีบลุกขึ้นไหว้นายแพทย์ท่านนั้นน้อมไหว้ภรรยาของหลวงปกรณ์ คุณสร้อยทองรีบถามอาการ
"คุณหมอ อาการแม่ลําเจียกเป็นอย่างไรบ้างคะ"
คุณสร้อยทองทุกข์ร้อนกระวนกระวายใจเมื่อเห็นนายแพทย์มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
"คุณแม่ครับ อาจารย์หมอท่านมีเรื่องอยากจะขอปรึกษาคุณแม่น่ะครับ"
"เชิญที่ห้องข้างในก่อนครับ คุณสร้อยทอง"
สร้อยทองเดินตามอาจารย์หมอไปอย่างรีบร้อน ดอกแก้วยืนทอดสายตาเหม่อมองด้วยความเสียววูบในใจ เทพไทรับผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ชุบน้ำหมาดๆจากนางพยาบาลเดินตรงมายัง
ดอกแก้ว
"เช็ดเนื้อเช็ดตัวก่อนนะครับคุณดอกแก้ว"
ชายหนุ่มมองดูสภาพเสื้อผ้าของดอกแก้วที่เปื้อนคราบเลือดลำเจียก ดวงหน้าของเธอซีดสลดค่อยๆเช็ดคราบเลือดออก
"คุณลําเจียกเป็นอย่างไรบ้าง ฉันใจคอไม่ดีเลย"
"อาจารย์หมอกําลังสรุปผลกับคุณแม่อยู่ครับ ท่านอาจจะขออนุญาตคุณแม่ บางอย่างในการรักษา ซึ่งคุณแม่จะเป็นผู้ตัดสินใจ"
อ่านต่อหน้าที่ 2
ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 18 (ต่อ)
ดอกแก้วตกใจ
"ต้องทําอะไรหรือคะ มันร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือคะคุณเทพ"
ดอกแก้วเป็นห่วงลำเจียก เทพไทแอบหนักใจนิดๆ
ดอกแก้วยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
"ขอให้คุณลําเจียกปลอดภัยด้วยเถอะเจ้าค่ะ"
ดอกแก้วกลั้นสะอื้นไว้ไม่อยู่ น้ำตาไหลล้นออกมาจากดวงตา เทพไทโอบกอดดอกแก้วไว้แนบอก เลือดที่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของเขาส่งกลิ่นคาวสาบสาง แต่ทั้งสองเสียใจเกินกว่าจะได้กลิ่นนั้น ดอกแก้วรู้สึกเหน็บหนาวและอบอุ่นใจซ้อนทับอยู่ในเวลาเดียวกัน
"คุณน้าลําเจียกต้องไม่เป็นอะไรครับ ผมสัญญา"
เทพไทคลายอ้อมกอดอันแสนอุ่นออกจากร่างดอก เมื่อหันหลังกลับไป เทพไทผงะตื่นเล็กน้อยเมื่อเห็นคุณสร้อยทองผู้เป็นแม่ยืนนิ่งมองดูอยู่ เทพไทผละออกเข้ามาหาสร้อยทอง
"แม่อนุญาตอาจารย์หมอแล้ว รีบๆเข้าเถอะพ่อเทพ"
"ครับคุณแม่ ผมขอตัวเข้าไปช่วยอาจารย์หมอก่อนนะครับ"
ชายหนุ่มเดินหายวับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน คุณสร้อยทองเดินตรงเข้ามาหาดอกแก้ว
"คุณหมอว่าอย่างไรบ้างคะคุณพี่"
"หมอจะช่วยให้รอดชีวิต แต่ก็ต้องเลือกที่จะแลกกับการสูญเสียบางอย่าง"
ดอกแก้วอึ้ง สร้อยทองหน้านิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความร้าย
หลวงปกรณ์นั่งเคร่งเครียด คิดถึงเรื่องลำเจียก สารภีเดินเข้ามาเกาะแกะเอาใจ
"คุณหลวงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำหน้าเครียดๆ"
"ฉันไม่เข้าใจว่า มันเกิดเรื่องขึ้นกับแม่ลำเจียกได้ยังไง"
"ก็คงจะฆ่าลูกประชดชีวิตอย่างที่คุณหลวงว่านั่นแหละค่ะ" สารภีบอก
"ทีแรกฉันก็คิดอย่างนั้น แต่มานึกอีกที ถ้าแม่ลำเจียกท้องลูกไอ้ไหล ทำไมถึงประชดด้วยการฆ่าลูกทิ้ง ในเมื่อรักมันนักหนา"
หลวงปกรณ์ทำหน้าติดใจสงสัย แต่สารภีเบ้ปาก ไม่อยากให้หลวงปกรณ์เอาใจใส่ลำเจียกมาก
"คนบ้า เวลาคุ้มคลั่งขึ้นมา ก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละค่ะ จะรักจะเกลียดไม่สำคัญหรอก ก็เหมือนที่คุณน้าคลุ้มคลั่งจะเอามีดแทงคุณหลวงกับสารภีไงล่ะคะ คุณหลวงจำไม่ได้แล้วหรือ"สารภีว่า
หลวงปกรณ์นิ่งไป นึกได้ว่าจริง แล้วก็ถอนใจ
"น่าเวทนาเด็กที่มันไม่รู้อิโหน่อิเหน่"
สารภีเห็นท่าทางหลวงปกรณ์ใจอ่อนก็ปรี๊ด รีบเสี้ยม
"คุณหลวงห่วงลูกชู้ในท้องคุณน้าลำเจียกหรือคะ"
หลวงปกรณ์รู้สึกตัว ทำเสียงเขียวใส่
"เหลวไหล"
หลวงปกรณ์ลุกหนีซ่อนหน้าสับสนในใจไว้ สารภีมองตามอย่างไม่ไว้ใจ แต่โทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน เลยเอื้อมมือรับ
"สวัสดีค่ะ ที่นี่บ้านนพรัตน์"
"สารภี นี่แม่เอง"
สารภีจำเสียงแม่ได้ จะเรียก... "แม..."
โกสุมแทรก
"หยุด ! แกไม่ต้องให้ใครรู้ว่าฉันโทร.มานะ"
สารภีชะงักเหลือบมองเห็นหลวงปกรณ์ยังยืนหันหลังอยู่ เลยไม่กล้าพูดต่อ
"ออกมาเจอแม่หน่อย แต่ไม่ต้องบอกให้คุณหลวงรู้นะ แม่มีเรื่องให้ช่วย"
สารภีตอบเสียงเบา
"ค่ะๆ"
สารภีวางสายลง หลวงปกรณ์หันมาพอดี
"ใครโทร.มาหรือ"
สารภีอึกอัก
"เพื่อนสารภีเองค่ะ โทร.มาว่าอยากพบ" สารภีเข้าไปกอดแขน "สารภีขออนุญาตออกไปข้างนอกหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะบ่ายๆ จะรีบกลับ"
สารภีคลอเคลียอ้อน หลวงปกรณ์พยักหน้าเมินๆ แบบไม่ได้สนใจอะไร
เชตกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว สารภีเดินคุยกับเชตมาที่รถ
"นังลำเจียกมันเป็นยังไงบ้าง"
"ผมก็ไม่รู้หรอกครับ พาไปส่งหมอแล้วก็รีบกลับมาเลย กลัวว่าคุณสารภีจะเรียกใช้แล้วไม่เจอ" เชตยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย
"ฉันไม่เจอแกก็ไปกับคนอื่นได้ย่ะ"
"คนอื่นก็คงไม่รู้ใจคุณสารภีเท่าผม จริงไหมครับ"
สารภีค้อนหมั่นไส้เชต ก้าวหนีขึ้นรถ เชตตามขึ้นรถไป
"อ้อ คุณสารภีรู้เรื่องนังอึ่งหรือเปล่าครับ"
สารภีทำท่าชะงักเหมือนมีพิรุธ แต่จริงๆ ชะงักเพราะสนใจ
"ทำไม"
"เขาบอกว่ามันหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน ไม่รู้ไปไหน"
สารภีนิ่ง แล้วแสยะยิ้มออกมา
"มันคงเบื่อจะรับใช้คนบ้า ก็เลยหนีเตลิดไปละมั้ง"
สารภีทำไม่สนใจอะไรอีก เชตเหลือบมองสารภีผ่านกระจกอย่างสงสัยว่า สารภีไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งพูดไปงั้น แต่พอสารภีมองมาก็รีบขับรถออกไป
สารภีเดินรีบร้อนมาทางตลาดมาถึงร้านกาแฟ โกสุมกับเพิ่มพูนโบกมือเรียก
"คุณพ่อ คุณแม่"
สารภีโผเข้ากอดพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึง พ่อแม่ลูกกอดหอมกันอย่างดีใจ น้ำตาซึม
ในร้านอาหารในตลาด อาหารเต็มโต๊ะ สารภีนั่งกับพ่อแม่ ทั้งสองท่าทางตื่นเต้น
"พ่อกับแม่อยากทานอะไรอีกสั่งได้เลยนะคะ เดี๋ยวสารภีจ่ายเอง"
เพิ่มพูนมองท่าทางสารภีที่ดูอิ่มเอม มีสง่าราศีอย่างสบายใจ
"คุณหลวงคงจะดูแลแกเป็นอย่างดีสินะ"
"แหม ก็มีแต่เมียแก่ๆ จืดๆ อยู่ในบ้าน คุณหลวงก็ต้องเอาใจสารภีที่สุดสิคะ"
โกสุมปลาบปลื้ม หยิกแก้มลูกสาวอย่างเอ็นดู
"ยิ่งตอนนี้ นังลำเจียกมีอันเป็นไปแล้ว ก็เหลือนังแก่สร้อยทองกับนังดอกแก้ว มันจะไปสู้อะไรสารภีได้"
"ฮ้า นังลำเจียกมันตายเรอะ "
"แท้งลูกค่ะ ส่วนตัวมันเองก็บ้าๆ บอๆ สติไม่สมประดี จนคุณหลวงเขาเกลียดขี้หน้ามัน"
โกสุมหัวเราะร่วน
"โธ่เอ๊ย สมน้ำหน้า ดีแล้วล่ะลูก สารภีของแม่ไม่ต้องทำอะไรเลย รอให้อีพวกนี้มันแพ้ภัยตัวเอง เดี๋ยวก็ได้ครองสมบัติคุณหลวงคนเดียว"
สารภีกระหยิ่ม ฝันหวานเช่นนั้นเหมือนกัน แล้วนึกได้
"ว่าแต่พ่อกับแม่เถอะค่ะ เป็นยังไงกันบ้าง แล้วเรียกสารภีมาที่นี่มีอะไร ทำไมไม่ไปหาที่บ้าน"
เพิ่มพูนกับโกสุมสบตากันอึดอัด เลังเลว่าจะเล่ายังไงดี โกสุมเลยชิงพูดเอง
"พ่อกับแม่สบายดี ค้าขายแถวปากน้ำโพมันก็พอตั้งตัวได้แหละลูก ตอนนี้ก็ไถ่หนี้เกือบหมดแล้ว เหลือแค่... อีกนิดๆ หน่อย ก็เลยอยากจะรบกวนหนู"
"เท่าไรคะ"
เพิ่มพูนบอก "ก็ซักหมื่..."
ทว่าโกสุมรีบแทรก "ซักสี่ซ้าห้าหมื่นน่ะลูก"
เพิ่มพูนหันขวับแบบไม่ได้เป็นหนี้ขนาดนั้น แต่โกสุมถลึงตาปราม
สารภีหนักใจ
"เงินขนาดนั้น สารภีจะไปเอาที่ไหนล่ะคะ"
"เอ๊า ก็เอาที่คุณหลวงสิ เรามันคนโปรด ไม่ขอตอนนี้แล้วจะไปขอตอนไหนล่ะจ๊ะ"
สารภีนิ่ง ลำบากใจ ไม่รู้หลวงปกรณ์จะให้หรือเปล่า
สารภีเดินบ่นมาตามทาง
"เงินตั้งห้าหมื่น ต้องขอยังไงถึงจะได้ล่ะเนี่ย"
"คุยกับคุณแม่เสร็จแล้วเหรอครับคุณสารภี"
สารภีสะดุ้ง หันไปมอง เห็นเชตยืนยิ้มเผล่รอ
"ฉันบอกให้แกรอที่รถ ตามฉันมาทำไม"
"ผมแค่แวะมาซื้อน้ำกินเฉยๆ นะครับ แต่พอดี แอบเห็นคุณสารภีนั่งอยู่ที่ร้านโน้น"
สารภีเจ็บใจที่เชตรู้ความลับอีกแล้ว จำต้องควักเงินให้
"ห้ามบอกใครว่าฉันมาหาพ่อกับแม่ที่นี่ ไม่งั้นแกเจอดี"
สารภีเดินเชิ่ดจากไป เชตรับเงินใส่กระเป๋าสบายใจ
สร้อยทองนั่งลงข้างๆ หลวงปกรณ์ บอกข่าวไม่ดีของลำเจียก
" ลูกแม่ลำเจียกตายเสียแล้วล่ะคะคุณพี่"
หลวงปกรณ์ได้ยินก็นิ่งงันไป
สร้อยทองถามหยั่งเชิง
"คุณพี่จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอคะ"
"จะให้ฉันพูดอะไร พูดว่าเสียใจหรือ ฉันไม่ได้เป็นคนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แม่ลำเจียกน่ะเป็นบ้า แล้วก็ทำตัวเอง !"
หลวงปกรณ์โพล่งออกไปอย่างอัดอั้น แต่แล้วก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย
"หล่อนจัดการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เด็กหน่อยก็แล้วกัน แกจะได้ไปผุดไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้"
"แล้วแม่ลำเจียกล่ะคะ คุณพี่จะเอายังไง"
"ตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ"
"อาการยังไม่สู้ดีนัก แต่ตาเทพกับอาจารย์หมอกำลังช่วยกันดูแลอยู่"
"งั้นก็รักษากันไปให้สุดความสามารถ ฉันไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรถึงขนาดอยากจะให้เมียทั้งคนตายลงไปต่อหน้าหรอก"
คุณหลวงพูดขรึม แต่ใจลึกๆ ก็เป็นห่วงลำเจียกเหมือนกัน
อ่านต่อหน้าที่ 3
ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 18 (ต่อ)
เทพไทเอาห่อข้าวมาให้ดอกแก้วที่นั่งรออยู่ที่ม้าหิน มุมหนึ่งในโรงพยาบาล
"คุณลำเจียกฟื้นหรือยังคะ"
"ยังครับ แต่ผมให้พยาบาลเฝ้าไว้แล้ว คุณอย่าเป็นห่วงเลย กินข้าวซะก่อนเถอะ"
"ฉันกินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ"
"แต่คุณต้องกิน จะมาอดข้าวอดน้ำแบบนี้ไม่ได้ เดี๋ยวจะป่วยไปอีกคน"
เทพไทแกะห่อข้าวให้ แล้วยื่นช้อนให้ ดอกแก้วอึกอัก
"จะกินเองหรือจะให้ผมป้อน"
ดอกแก้วหน้าแดง ประหม่า รีบรับช้อนจากเทพไทมาตักข้าวกิน เทพไทมองดูอย่างเอ็นดู
"เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ผมจะให้รถของโรงพยาบาลไปส่งคุณที่บ้าน จะได้กลับไปพักผ่อน"
"แล้วคุณเทพล่ะคะ"
"ผมจะรอดูอาการคุณน้าก่อน เผื่อมีอะไรฉุกเฉินที่ต้องให้คนในครอบครัวตัดสินใจ"
ดอกแก้วสีหน้าไม่สบายใจ พาลจะกินข้าวไม่ลงอีก
"ไม่ต้องห่วงหรอกดอกแก้ว ผมนับถือคุณน้าลำเจียกเหมือนญาติสนิทคนหนึ่ง ยังไงผมก็ต้องช่วยคุณน้าให้ปลอดภัยให้ได้ ผมสัญญา"
ดอกแก้วเงยหน้าสบตากับเทพไท ซึ้งกับคำมั่นสัญญาของเทพไท
ศรีเข้ามานวดเท้าให้สร้อยทอง
"ตกลงเจอนังอึ่งหรือยังศรี"
"ยังเลยค่ะ เห็นเขาว่ามันไปติดบ่อนตรงหัวถนนบ้านเรา แต่ให้คนไปตามแล้ว ที่นั่นก็บอกไม่เห็นมันมาตั้งหลายวันแล้ว"
สร้อยทองฟังสีหน้านิ่งๆ เฉยๆ แล้วออกความเห็น
"หรือมันจะกลับบ้าน"
"มันจะไปไม่ลามาไม่ไหว้อย่างงั้นเชียวหรือคะ อีกอย่างข้าวของมันในเรือนพักก็ยังอยู่ครบ"
"ถ้าคนมันเบื่องานขึ้นมา อยู่ๆ จะหนีไปแต่ตัวก็ไม่แปลกหรอก นังอึ่งมันขี้เกียจสันหลังยาว แกก็รู้ดี"
"แหม ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แย่น่ะสิคะ เดี๋ยวคุณลำเจียกกลับมาแล้วใครจะไปรับใช้"
"แกก็พูดพิลึก บ่าวไพร่เราออกเต็มบ้าน ใครว่างก็เรียกมันมาดูแลแม่ลำเจียกจะไปยากอะไร นังอึ่งมันไม่ใช่บ่าวเทวดามาจากไหนถึงจะไม่มีใครมาทำหน้าที่แทนได้"
"แต่ที่ผ่านมาก็มีนังอึ่งคนเดียวนะคะที่ทนคุณลำเจียกได้ คนอื่นเข้าหน้าเธอติดเสียทีไหนล่ะคะ"
"เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที ให้แม่ลำเจียกกลับมาเสียก่อน จะกลับมาในสภาพไหนฉันก็ยังไม่รู้เลย"
สร้อยทองพุดด้วยสีหน้าหนักใจ
ดอกแก้วเดินเหนื่อยๆ กำลังจะกลับเรือน แต่หลวงปกรณ์รออยู่ที่หน้าเรือน
"คุณหลวง"
"เพิ่งกลับหรือดอกแก้ว"
"ค่ะ คุณหลวงมีอะไรกับแก้วหรือเปล่าคะ"
หลวงปกรณ์มองดอกแก้วอย่างคิดถึง เดินเข้าไปหา
"ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกว่าพักนี้ไม่ค่อยได้พบเธอ ไม่รู้ว่าเธอจงใจหลบหน้าหลบตาฉันหรือเปล่า"
ดอกแก้วหลบสายตา
"แก้ว...แก้วแค่ไม่อยากรบกวนคุณหลวงค่ะ"
"เรื่องอะไร"
"คือ...แก้วเห็นคุณหลวงมีคุณสารภีคอยดูแลอยู่แล้ว"
หลวงปกรณ์มองท่าทางดอกแก้วแล้วหัวเราะเอ็นดู
"นี่อย่าบอกนะว่าหึงฉัน"
ดอกแก้วรีบพูด
"เปล่าค่ะ"
"พูดเถอะว่าหึง ฉันจะมีความสุขมาก"
หลวงปกรณ์เชยคางดอกแก้ว แววตาลึกซึ้ง ดอกแก้วเมินหน้าหนีอย่างตกประหม่า
"ง่วงนอนหรือยัง ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากมีเพื่อนคุย"
ดอกแก้วสบตาหลวงปกรณ์อย่างลังเล แต่เห็นหลวงปกรณ์ดูเศร้าๆ เลยใจอ่อน
ดอกแก้วกับหลวงปกรณ์เดินเล่นด้วยกันมาถึงแปลงซ่อนกลิ่น
"ใครๆ ในบ้านนี้คงคิดว่าฉันเป็นคนใจยักษ์ใจมาร ที่ทำให้แม่ลำเจียกเป็นแบบนี้"
"คุณหลวงไม่ได้ทำนี่คะ"
"แต่ฉันก็คือต้นเหตุ"
"ยังไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร คุณหลวงอย่าเพิ่งเป็นทุกข์ไปเลยค่ะ"
หลวงปกรณ์ชะงัก มองหน้าดอกแก้ว
"เธอไม่ได้โกรธเกลียดฉันที่ใจร้ายกับแม่ลำเจียกหรอกหรือ"
"แก้วไม่บังอาจโกรธคุณหลวงหรอกค่ะ แต่แก้วอยากให้มันเป็นบทเรียน"
หลวงปกรณ์มองหน้าดอกแก้วอย่างแปลกใจ
"แก้วเข้าใจความเจ็บปวดของคุณหลวงนะคะ แต่แก้วอยากจะให้คุณหลวงหันหน้าพูดจากับคุณพี่ลำเจียกถึงเรื่องที่ข้องใจกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะตัดสินเธอ"
"เธอก็พูดเหมือนแม่สร้อยทอง แต่ฉันไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์ เพราะยังไงแม่ลำเจียกก็คงไม่ยอมรับว่าคบชู้"
"คุณหลวงอยู่กับคุณพี่ลำเจียกมานาน แก้วเชื่อว่าคุณหลวงดูออกว่าเธอพูดจริงหรือโกหก ให้โอกาสเธอได้พูดก่อนเถอะค่ะ อย่างน้อยคุณหลวงจะได้หมดความสงสัยว่าอะไรที่อยู่ในใจของคุณลำเจียก"
หลวงปกรณ์นิ่งอึ้งไป ครุ่นคิดว่าจะเอายังไงดี
เวลาผ่านไป2-3วัน เช้าวันใหม่ เมื่อดอกแก้วเข้าไปในห้องพักฟื้นอีกครั้ง เธอพบว่า ลําเจียกถูกมัดมือมัดเท้าไว้กับเตียง เสียงลำเจียกโวยวาย
"ปล่อยกู"
เสียงนั้นดังแผดก้องไปทั่วบริเวณ
"ปล่อยกู ฮือๆๆๆ เอาลูกกูคืนมา"
ดอกแก้วได้ยินแล้วแทบเข่าอ่อนทรุดล้มลงกับพื้น เสียงนั้นคล้ายมีดกรีดคว้านหัวใจเธอ ลําเจียกคงรู้ตัวแล้วว่า เธอได้สูญเสียลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของหลวงปกรณ์และเป็นเพียงความหวังสุด
ท้ายที่จะรั้งหลวงปกรณ์ไว้กับเธอ
"คุณพี่คะ"
ดอกแก้วเรียกขานเธออย่างอาทร
"ออกไป ออกไป"
คุณลําเจียกร้องไล่ด้วยความหวาดระแวง ดีดดิ้นจนเตียงคนไข้เสียงดังกึกกัก ข้อมือข้อเท้าที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกผ้าถูกรัดและดึงรั้งจนแดงไปหมด
"แก้วเองค่ะคุณลำเจียก จำแก้วได้ไม๊คะ ลูกศิษย์คุณลำเจียกไงคะ คุณลำเจียกยังเคยช่วยสอนการบ้านการเรือนให้แก้วเลยค่ะจำได้ไม๊คะ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณลําเจียกคลายความหวาดกลัวลงทันที
"แม่ดอกแก้ว... หล่อนไปไหนมา หล่อนทําไมไม่มาช่วยฉัน เขาเอาลูกฉันออกไปแล้ว เขาฆ่าลูกฉันตาย ลูกฉันตายแล้ว"
ลําเจียกร้องคร่ำครวญเหมือนใจจะขาด
"ฉันกําลังจะมีลูกเป็นเจ้าใหญ่นายโต แต่เขามาฆ่าลูกฉัน ลูกฉันผิดอะไร"
"ไม่มีใครฆ่าหรอกค่ะคุณลำเจียก"
ดอกแก้วปลอบขวัญ น้ำตาไหลพราก
"มีสิ มีคนฆ่าลูกฉัน ฉันเห็น ฉัน อ๊ายๆ ออกไปนะอย่าเข้ามา อย่าๆๆ"
พยาบาลรีบเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง พยาบาลตรงเข้าช่วยกันจับแขน
"ไป ออกไป อย่าฆ่าฉันกับลูกเลย ฉันกลัวแล้ว กลัวๆๆ"
"ไม่มีใครมาทำอะไรคุณหรอกค่ะ ใจเย็นๆค่ะ คุณลำเจียกใจเย็นๆนะคะ"
ดอกแก้วกอดลำเจียกให้สงบนิ่งลง
"ดอกแก้วอยู่กับคุณแล้วค่ะ แก้วจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณเด็ดขาด เชื่อแก้วนะคะ"
ได้ยินเช่นนั้น คุณลําเจียกชะงักทันที น้ำตาเอ่อไหลล้นท่วมดวงตา
"อยู่กับฉันนะ"
ลำเจียกสงบลงคร่ำครวญ นอนแน่นิ่งไม่ดีดดิ้นทุรนทุราย นางพยาบาลที่รุมกันอยู่รายล้อมเตียงคนไข้ค่อยๆทยอยออก ดอกแก้วนั่งลงข่างๆ จับมือคุณลําเจียกไว้พลางปลอบประโลมใจ
"คุณลำเจียกไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะ แก้วจะอยู่ข้างๆคุณจะไมทิ้งคุณไปไหนหรอกค่ะ แก้วสัญญา"
"หล่อนสัญญากับฉันแล้ว หล่อนอย่าทิ้งฉันไปนะ"
ลําเจียกพูดด้วยเสียงแหบพร่า ทอดสายตาเหม่อเศร้ามองดูดอกแก้ว เทพไทรีบเข้ามาแต่เมื่อเห็นอาการลำเจียกสงบลงแล้วก็เบาใจ ยืนมองดูสองสาวที่ให้กำลังใจกันด้วยรอยยิ้ม
เทพไทเปิดม่านออก เดินมาหาดอกแก้วที่ยืนรอมุมห้อง
"ผมให้ยานอนหลับคุณน้าไปคงจะหลับสักพักนึงน่ะครับ"
"คุณลำเจียกจะต้องถูกมัดอยู่ในสภาพนี้อีกนานแค่ไหนกันคะ"
"อาการทางกายของคุณน้าดีขึ้นมากแล้วล่ะครับ แต่คุณน้ามีโรคซ้อนคือ อาการผิดปรกติทางจิต เนื่องจากสภาพจิตกําลังอ่อนแอ เพราะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง"
ดอกแก้วตกใจ
"ตายจริง แล้วแบบนี้จะมีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ไหมคะ"
"ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้หรอกครับ คงต้องใช้ยาช่วยปรับสมดุลให้คุณน้าไปสักระยะและก็หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนจิตใจ"
ดอกแก้วเดินเข้าไปที่เตียง ลำเจียกมองดูลำเจียกจับมือลำเจียกขึ้นมา
"คุณต้องหายนะคะคุณลำเจียก"
ดอกแก้วมองดูลำเจียกที่นอนนิ่งไม่รับรู้ใดๆ ดอกแก้วเศร้าใจ
ดอกแก้วเดินคุยกับเทพไท สีหน้ากลัดกลุ้ม
"คุณพี่ลำเจียกจะมีโอกาสหายได้จริงๆ เหรอคะ"
"อาการกระทบกระเทือนจิตใจจน สมองปิดกั้นการรับรู้ไปชั่วขณะมันรักษาได้นะดอกแก้ว แต่ต้องใช้เวลา"
"นานแค่ไหนคะ"
"ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้และสภาพแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้นความทรงจำ และต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีอะไรมากระทบจิตใจของคนไข้อีก"
"แก้วจะดูแลเธอเองค่ะ"
"คุณไม่เหนื่อยเหรอ ผมให้พยาบาลตามมาดูแลน่าจะดีกว่านะ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ในเมื่อคุณพี่ลำเจียกต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม เธอก็ควรจะอยู่ในความดูแลของพวกเรา ไม่ใช่คนนอก แก้วยินดีทำหน้าที่นี้"
ดอกแก้วรับคำหนักแน่น เทพไทซึ้งใจ ยิ้มออกมา
"จะไม่ใช่คุณคนเดียวหรอก เราจะช่วยกัน"
เทพไทยื่นมือให้ดอกแก้วจับแทนคำสัญญา ดอกแก้วเขินๆ ค่อยยกมือจับกับเทพไท แล้วยิ้มให้กำลังใจกัน
ชั้นบนของบ้าน สร้อยทองยืนมองอยู่ สีหน้าของสร้อยทองดูมีความกังวลที่เห็นทั้งสองใกล้ชิดกัน
อ่านต่อหน้าที่ 4
ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 18 (ต่อ)
เช้าวันใหม่ ดอกแก้วเคาะประตู แล้วเข้ามาหาสร้อยทองที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง
"มาแล้วหรือดอกแก้ว"
"คุณพี่สร้อยทองให้คนไปตามแก้ว มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ฉันจะวานให้เธอคุมคนงานในครัวทำอาหารไปเลี้ยงพระที่วัดหน่อย ฉันจะทำบุญให้ลูกของแม่ลำเจียก"
ดอกแก้วชะงัก
"เอ้อ แต่ว่า..."
"เธอจะต้องไปเฝ้าแม่ลำเจียกใช่ไหม วันนี้ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวฉันทำธุระเสร็จแล้วจะไปอยู่แทนให้เอง"
ดอกแก้วเสียดาย แต่ก็รับคำ "ได้ค่ะ"
สร้อยทองพยักหน้าพอใจ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ผมเสร็จแล้วครับคุณแม่"
"จ้ะ แม่ก็เสร็จแล้ว"
สร้อยทองลุกหยิบกระเป๋าจะออกไป เทพไทมองมาทางดอกแก้วที่นั่งพับเพียบเรียบร้อย
"คุณดอกแก้ว ไม่ไปด้วยกันเหรอครับ"
"วันนี้แม่วานให้ดอกแก้วดูแลบ้านวันนึง เดี๋ยวแม่จะไปเฝ้าแม่ลำเจียกเอง ... ฝากด้วยนะดอกแก้ว"
สร้อยทองทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป เทพไทมองดอกแก้วอย่างเสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก่อนจะรีบตามแม่ไป
ลําเจียกค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากนอนหลับพักผ่อนมาหลายชั่วโมง ความเจ็บปวดที่หลงเหลืออยู่หวนกลับมาวิ่งพล่านในร่างกายอีกครั้ง แต่ก็ยังรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อหลายวันก่อน แสงจากภายนอกส่องสะท้อนร่างคุณสร้อยทองที่ยืนมองไม่วางตา ลำเจียกเพ่งมองจนเห็นหน้า สะดุ้งเบาๆ
"คุณพี่"
เสียงแหบโหยเรียกหาสร้อยทองที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง คุณสร้อยทองได้ยินเสียงเรียกรีบปรับสีหน้าทักทาย
"ตื่นแล้วรึ"
"คุณพี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
"มาได้สักพักแล้วล่ะเห็นว่าหล่อนหลับอยู่เลยไม่ปลุกน่ะ"
สร้อยทองนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย
"อิฉันอยากไปไหว้พระจังเลยค่ะ คุณพี่พาอิฉันไปไหว้พระหน่อยได้ไหมคะ"
"ให้หล่อนออกจากโรงพยาบาลก่อนเถอะ ฉันจะพาไป"
"ไปวันนี้เลยได้ไหมคะ อิฉันกลัวว่าอิฉันจะตายเสียก่อน"
"อะไรกัน คนเราไม่ตายกันง่ายขนาดนั้นหรอก"
สร้อยทองปลอบประโลมลําเจียกสีหน้าโศกสลด น้ำตาเอ่อคลอดวงตา
"คุณหลวงไม่รักอิฉันกับลูกเลย คุณหลวงทําร้ายอิฉันเพราะ เชื่อคํายุยงของนังสารภี คุณหลวง จะฆ่าให้อิฉันตายทั้งเป็น"
ทันใดนั้นน้ำตาที่เก็บไว้ข้างในไหลหลั่งนองสองแก้มจนเปียกเปรอะ
"ขนาดอิฉันเจ็บแทบตาย ก็ยังไม่มาดูดําดูดีกันเลย แล้วอิฉันจะบอกลูกว่ายังไง ถ้าเขาลืมตาเกิดมา อิฉันจะกล้าบอกลูกไหมว่าพ่อของตาหนูไม่รักแม่กับตาหนูแล้ว อิฉันกลัวลูกเสียใจเจ้าค่ะ"
ลำเจียกเอามือลูบท้องเสมือนว่าลูกยังอยู่ในท้อง
สร้อยทองได้ยินถ้อยคําที่ออกมาจากเบื้องลึกในหัวใจแล้วอดที่จะเวทนาลําเจียกไม่ได้ ตอนนี้เธอกลับคิดว่าลูกยังอยู่ในท้องอยู่
"อิฉันไม่อยู่บ้าน ใครจะปรุงอาหาร ทํากับข้าว ไปจ่ายตลาด แม่ดอกแก้วทำคนเดียว ไม่ไหวหรอก อิฉันอยากจะกลับบ้าน จะกลับไปทํากับข้าวให้คุณหลวงกับคุณพี่ไงล่ะคะ"
ลําเจียกเริ่มพูดเพ้อไปตามอารมณ์ สร้อยทองเห็นอาการลำเจียกผิดปกติ
"อย่าเป็นกังวลเลย แม่ลําเจียก หล่อนพักผ่อนให้มากๆ จะได้หายเร็วๆ ฉันจะได้พาหล่อนกลับบ้าน"
"กลับตอนนี้เลยไม่ได้หรือคะ คุณพี่ อิฉันเป็นห่วงคุณหลวง"
"จะไปห่วงเขาทําไม ขนาดหล่อนเจ็บเขายังไม่มาเยี่ยมเลย"
คุณสร้อยทองเผลอหลุดพูดคําแทงใจออกมา
ลำเจียกน้ำตาไหล
"คุณหลวงไม่คิดถึงอิฉันกับลูกบ้างเลยหรือคะ ทําไมคุณหลวงใจดําอย่างนี้ อิฉันรักคุณหลวงยิ่งกว่าชีวิต ทําไมคุณหลวงไม่รักอิฉันเลย จริงสิ คุณหลวงจับอิฉันล่ามโซ่ขังไว๎ในหลุมมืด ทําไมคุณหลวงไม่รักอิฉัน"
"ทําใจเสียเถอะนะแม่ลำเจียก ไม่มีความรักใดเสมอด้วยความรักตน หล่อนอย่าเสียใจไปเลย"
ลำเจียกปรี๊ดขึ้นมาอีก
"แต่คุณหลวงเป็นผัวอิฉันนะคะ คุณพี่ คุณหลวงสู่ขออิฉันแต่งงาน"
"แม้แต่ร่างกายของเราเอง เรายังครอบครองมันไม่ได้ นับประสาอะไรกับจิตใจของคน"
ลำเจียกเศร้าจัดๆจู่ๆก็คิดพรวดขึ้นมา
"ลูก อิฉันมีลูกกับคุณหลวง ลูกอิฉัน" ลำเจียกพูดพลางลูบท้อง
ลําเจียกพูดจบก็ร้องไห้สะอื้นขึ้นอีก สร้อยทองมองสมเพชในใจ
ลำเจียกปาดน้ำตาที่อาบหน้า จับผมเผ้า
"คุณพี่ ช่วยเอาเครื่องสําอางมาให้อิฉันแต่งหน้าหน่อยได้ไหมคะ อิฉันจะแต่งหน้า ให้สวยเหมือนเดิม เผื่อคุณหลวงมาเยี่ยมลูก"
ลําเจียกคะยั้นคะยอ เขย่าแขนคุณสร้อยทองพลางร้องไห้
"แม่ลําเจียก หล่อนนอนพักก่อนเถอะ อย่าให้จิตฟุ้งซ่าน ทําจิตใจให้สบาย สงบจิตสงบใจนะ"
"หรือคุณพี่ไม่อยากให้อิฉันสวยใช่ไหมคะ คุณพี่อิจฉาอิฉันใช่ไหม ใช่ไหมคุณพี่ทำร้ายฉันทำร้ายฉันใช่ไหม"
ลำเจียกสีหน้าจริงจังน่ากลัวสร้อยทองอึ้ง ลำเจียกร้องไห้อีก
"ขอเครื่องสำอางค์ให้อิฉันเถอะนะ ฉันขอ"
สร้อยทองเห็นความเกรี้ยวกราดเมื่อครู่ ใจไม่ดี รีบเอาเครื่องสำอางส่งให้ ลำเจียกรีบคว้าลิปติกมาทาปากส่องกระจกดูจนสีปากแดงแปร๋ด ลำเจียกมองยิ้มๆสวยๆ แล้วก็เปลี่ยนทีท่า เพราะเห็นว่าเป็นเลือด ลำเจียกร้องกรี๊ด ดวงตาเบิกโพลง
" แม่ลําเจียก หล่อนเป็นอะไรไป!"
ลําเจียกคว้าแขนคุณสร้อยทองมากอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย มือของเธอสั่นเกร็ง ง้างกรงเล็บจนเห็นเส้นเอ็นปูดโปน
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
"แม่ลําเจียก ตั้งสติดีๆ พยาบาล มาช่วยกันหน่อยเร็ว แม่ลําเจียกเพ้อหนักแล้ว"
ทันใดนั้น นางพยาบาลสองคนที่เข้าเวรอยู่ในขณะนั้นต่างวิ่งกรูมาช่วยกันคุมตัวผู้ป่วย ลําเจียกกรีดร้องอย่างไร้สติ เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดผวา พยาบาลเอาผ้าที่มัดอยู่มุมเตียงมามัดลําเจียกไว้เพราะกลัวว่าเธอจะลุกออกจากเตียง
สร้อยทองมองดูภาพลําเจียกกําลังดิ้นทุรายอยู่บนเตียงคนไข้อย่างสุดเวทนาแอบสาสมใจ
ในคราเดียวกัน
คืนนั้น สร้อยทองแจ้งหลวงปกรณ์ว่าลำเจียกไม่เหมือนเดิมคล้ายเป็นโรคประสาท และหากขออนุญาติหลวงปกรณ์พาลำเจียกกลับมารักษาตัวที่บ้าน
"ตามใจหล่อน"
หลวงปกรณ์กำชับว่า
"อย่าให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะความบ้าประสาทหลอนของลำเจียกอีกก็แล้วกัน ไม่งั้นจะส่งไปอยู่ที่โรงหมอแบบเดิม"
เช้าวันใหม่ เทพไทพาลำเจียกกลับมาบ้านทุกคนรอต้อนรับ ดอกแก้ว สร้อยทอง ศรี บ่าวอื่นๆ ลำเจียกลงจากรถด้วยอาการเหม่อลอยกอดตุ๊กตาเก่าๆ มองทุกคนผ่านๆอย่างไม่รู้จักใครเลย ทุกคนมองอึ้งๆจนเทพไทประคองลำเจียกเข้าบ้านไป ...
เทพไทรีบพาลำเจียกไปหาหลวงปกรณ์ที่ห้องรับแขก ลำเจียกยิ้มจำหลวงปกรณ์ได้ ลำเจียกส่งตุ๊กตาให้
"ลูกของเรา"
หลวงปกรณ์สะบัดลงพื้น
"นี่มันตุ๊กตา ลูกเธอน่ะมันตายไปแล้ว"
ลำเจียกได้ยินความจริงดังนั้นก็รับไม่ได้ เสียใจจนเสียสติ
"ไม่"
เทพไทดอกแก้วรีบปลอบ หลวงปกรณ์จึงสั่งให้ลำเจียกไปอยู่เรือนเล็ก ซึ่งเป็นเรือนคุณย่า เพื่อให้พ้นหน้าพ้นตา ท่ามกลางความสะใจของสารภีและสร้อยทอง
ในเรือนคุณย่า ดอกแก้วคอยดูแลลำเจียกอย่างใกล้ชิดลำเจียกหลับไป ดอกแก้วมองลำเจียกสงสาร
วันใหม่ หลวงปกรณ์โล่งใจที่ไม่ต้องอยู่กับความคลางแคลงใจอีก เพราะไม่ต้องกังวลว่าลูกในท้อง
ลำเจียกเป็นลูกใครกันแน่ แต่เยื่อใยที่มีให้ลำเจียกก็พลอยหมดสิ้นไปด้วย
โกสุมนั่งดื่มกาแฟหิวโหยอยู่ตรงหน้าสารภีในตลาด สารภีเปิดกระเป๋ายื่นเงินให้
"แม่เอาไปเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน"
โกสุมรับเงินมานับแล้วโวยวาย
"อะไร้ นี่มันไม่กี่พันเอง ก็แม่บอกแล้วไงว่าต้องใช้หนี้เป็นหมื่น"
"ตอนนี้สารภียังไม่มีจังหวะจะพูดกับคุณหลวงเลย"
"อ้าว คุณหลวงไม่อยู่เรอะ"
"อยู่ แต่ที่บ้านนั้นกำลังวุ่นวายเรื่องนังลำเจียกอยู่ มันกลับมาแล้วนะแม่ แต่เป็นบ้าประสาทหลอน คุณหลวงก็เลยให้มันไปอยู่เรือนหลังบ้าน"
"งั้นก็ดีสิ จังหวะนี้แหละ แกต้องเข้าไปยึดห้องมัน ... ตายแล้ว มันบ้าๆ แบบนี้ สมบัติส่วนตัวของมันก็ไม่มีความหมาย แกก็ถือโอกาสกอบโกยมาเป็นของตัวเองให้หมดเลยสิ เอามาให้แม่ไปขายก็ได้" โกสุมบอก
"แหม จะหยิบฉวยง่ายๆ ได้หรือแม่ ตาอีพวกบ่าวไพร่ยังกับสับปะรด ดีไม่ดีฉันกลายเป็นขโมยก็โดนตะเพิดออกจากบ้านน่ะสิ"
โกสุมเห็นด้วยกับสารภี
"ก็จริง งั้นเราก็ไม่ควรเสี่ยงกับน้ำบ่อเล็กบ่อน้อย เอาเป็นว่าแกก็เอ่ยปากกับคุณหลวงนั่นแหละ เอาใจเขามากๆ หน่อย เดี๋ยวพอคุณหลวงเคลิ้มๆ หลงๆ ก็ยอมทุกอย่างเอง ขี้คร้านดาวเดือนก็หาให้แกได้ ลูกแม่เก่งอยู่แล้ว ช่วยแม่หน่อยเถอะนะลูกนะ"
สารภีเซ็งๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็คิดแผนออกมา
"ทำให้คุณหลวงเคลิ้มเหรอแม่ สารภีนึกออกแล้วล่ะ"
เวลาต่อมา สารภีแกะห่อผ้าเล็กๆ ซึ่งเป็นห่อยาอันเก่าใกล้หมดเต็มที สารภีหยิบยาขึ้นมามองคิดร้าย ให้คุณหลวงกินเพื่อขออะไรบางอย่าง
สารภีถือถาดใส่น้ำขิงเดินขึ้นมาบนชั้นห้องหลวงปกรณ์ แต่พอถึงหัวบันไดก็หยุดชะงัก วางถาด แล้วรีบจับชุดนอนให้ดูเผยๆ ทรวดทรงองค์เอวนิดๆ แล้วรีบถือถาดตรงไปเคาะประตูห้อง
หลวงปกรณ์เปิดประตูออกมา เห็นสารภี
"คุณหลวงนอนหรือยังคะ สารภีทำน้ำขิงมาให้"
"ขอบใจนะ เข้ามาก่อนสิ"
หลวงปกรณ์ยิ้มพอใจ แล้วเปิดประตูให้สารภีเข้าไป ก่อนจะปิดประตู
ฝ่ายสร้อยทองยืนเกาะมุมบันไดเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน มือกำราวบันไดแน่นอย่างเจ็บปวด
น้ำตาคลอ พยายามกล้ำกลืนไว้ แต่ก็กลั้นไม่อยู่ ปล่อยให้ไหลลงมา พอได้สติก็ยกมือขึ้นจะเช็ด แต่มีมืออีกมือยื่นมากุมไว้อย่างให้กำลังใจ
สร้อยทองหันไปมอง เห็นว่าเป็นเทพไท
"ตาเทพ"
เทพไทมองสร้อยทองอย่างเห็นใจ แล้วโอบไหล่ให้กำลังใจแม่
กลางคืนต่อเนื่องมา สร้อยทองนั่งอยู่ที่สนาม เจ็บใจกับภาพที่เห็น เทพไทตามมาปลอบใจแม่สร้อยทองทำเข้มแข็งเลี่ยงคุยเรื่องรัศมีดาราแทน
คืนเดียวกัน คนใช้เมาท์กันเรื่องลำเจียกเป็นบ้า ดอกแก้วบอกกับทุกคนว่า
"คุณลำเจียกแค่ไม่สบาย ไม่ได้เป็นบ้า ดอกแก้วขอร้องทุกคนว่า อย่าพูดแบบนี้อีกเลยมันไม่ดี" เข็มบอก
"ถ้าคุณลำเจียกไม่กลับมาเหมือนเดิม เรื่องอาหารการกินของคนในเรือนจะทำยังไง"
"แก้วจะดูแลแทนคุณลำเจียกเอง"
จังหวะนั้น เอี้ยงวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกดอกแก้วว่าคุณลำเจียกตื่นแล้ว ดอกแก้วรีบออกไปทันที
เสียงโหยหวนเสียงกล่อมลูกดังแว่วมาจากเรือน ดอกแก้วกับคนใช้มาถึงได้ยินเสียงต่างก็กลัวๆ ดอกแก้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง ลำเจียกหันมาตาขวางรีบกอดตุ๊กตาที่อุ้มถอยกรูดเข้าไปอยู่มุมห้อง "อย่าเข้ามานะ"
ดอกแก้วตกใจ
อ่านต่อหน้าที่ 19