xs
xsm
sm
md
lg

ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 15

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดอกซ่อนชู้ ตอนที 15
เทพไทเดินเข้ามาที่หน้าบ้าน เห็นดอกแก้วรีบร้อนมาจากอีกทางพร้อมเอี้ยง

"คุณเทพคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ"
"มีอะไรครับ"
"คุณหลวงค่ะ คุณหลวงกำลังทะเลาะกับคุณลำเจียกเรื่องนายไหล"
เทพไทร้อนใจมองเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงหลวงปกรณ์เอะอะด่าทอนายไหลพอดี

เทพไทกับดอกแก้ววิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกัน หลวงปกรณ์เข้าไปเตะนายไหล ปากก็ด่าไม่หยุด
"คุณพ่อ หยุดเถอะครับ"
หลวงปกรณ์ไม่สนใจเทพไทที่พยายามไปดึง ยังเตะถีบนายไหลต่อ สร้อยทองรีบแสดงบทเข้าไปช่วยห้าม
"พอเถอะค่ะคุณพี่ พอ" สร้อยทองบอกกับเชต และคนใช้ชายอื่น "มาช่วยห้ามสิ ยืนอยู่ทำไม"
คุณหลวงยังบ้าคลั่ง หลายคนช่วยกันจับแยก หลวงปกรณ์ก็เริ่มสู้แรงไม่ได้ ประกอบกับเริ่มเหนื่อย
"ลากมันไปโยนทิ้งให้ไกลหูไกลตาฉัน แล้วอย่าให้มันเข้ามาเหยียบบ้านนพรัตน์อีก ไม่งั้นฉันจะฆ่าให้ตาย ! ไปสิวะ"
เชตกับคนใช้อื่นๆ รีบช่วยกันประคองนายไหลที่คอพับคออ่อน แต่ยังมีสติให้ลุกขึ้น
ดอกแก้วเห็นลำเจียกนอนตัวงออยู่ตรงคนใช้รีบวิ่งเข้าไป เห็นกุมท้องไม่ยอมลุก และเลือดซึมออกมาจากขา
"คุณเทพคะ คุณลำเจียกมีเลือดออกค่ะ"
ทุกคนชะงักหันไปมองลำเจียกทันที นายไหลที่หน้าตาบวมปูดมองอย่างเป็นห่วง แต่ก็โดนหิ้วปีกออกไปเสียก่อน
หลวงปกรณ์ได้สติหันมาหาลำเจียก แต่เทพไทปราดถึงตัวก่อน
"คุณน้าครับ คุณน้า"
ลำเจียกยังนอนกุมน้องนิ่ง ครางตัวด้วยความเจ็บปวด เทพไทกวาดสายตาประเมินแล้วพูดอย่างร้อน
"เราต้องพาคุณลำเจียกไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ให้ใครเอารถออกที !"
ทุกคนพากันแตกตื่นวุ่นวาย สร้อยทองทำเป็นวุ่นวายไปด้วย แต่สารภียืนดูลำเจียกอย่างสะใจ

เทพไทอุ้มลำเจียกออกมาจากบ้าน พร้อมกับดอกแก้ว อึ่งวิ่งตามออกมาท่าทางร้อนใจ
เชิดเปิดประตูให้เทพไทพาลำเจียกขึ้นรถ ดอกแก้วรีบตามไป
"ฉันตามไปดูคุณลำเจียกเอง"
ดอกแก้วบอกกับอึ่งแล้วรีบขึ้นรถออกไป

เชตกับพวกผู้ชายจับนายไหลโยนกระเด็นไป บ่าวอีกคนลากรถมาเหวี่ยงตามไป นายไหลรีบไปที่รถ
"ลากรถของมึงกลับไป แล้วอย่าให้กูเห็นว่ามึงเข้ามาในบ้านนี้อีก"
เชตกับพวกบ่าวออกไป นายไหลลุกขึ้นเช็ดเลือดที่ริมฝีปาก รถของเทพไทแล่นออกมาจากในบ้านพอดี นายไหลเห็นลำเจียกนอนโอดโอยอยู่ในรถ
"คุณลำเจียก"
นายไหลร้อนใจ อยากจะลากรถตามไป แต่ก็เจ็บเสียดท้องที่โดนเตะจนทรุดลง ได้แต่มองตามรถเท่านั้น

หลวงปกรณ์ราชกิจยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองเห็นรถที่พาลำเจียกไปโรงพยาบาลขับออกไป สีหน้ากลุ้ม รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน แต่พอหันกลับมาก็เห็นสารภียืนอยู่
"คุณหลวงอย่างห่วงเลยค่ะ พี่เทพไทตามไปดูแลถึงโรงหมอ ยังไงคุณลำเจียกก็คงจะไม่เป็นอะไร"
หลวงปกรณ์คลายใจลง แต่ยังรู้สึกผิดอยู่ สารภีเดินเข้ามา
"แล้วตัวคุณหลวงเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ สารภีจะทายาให้"
"เจ็บตรงนี้ไม่เท่าไรหรอก แต่มันเจ็บที่ใจมากกว่า"
"โดนไปคราวนี้ไอ้ชู้ เอ๊ย ไอ้คนลากรถนั่นมันคงเข็ดไม่มายุ่งกับคุณลำเจียกแล้วล่ะค่ะ คุณหลวงสบายใจเถอะค่ะ"
สารภีทำเป็นปลอบ แต่มีเจตนาเสี้ยม หลวงปกรณ์ได้ยินก็ขบกรามแน่น ยังเชื่ออยู่ว่าลำเจียกมีชู้

ลำเจียกถูกพาลงจากรถ แล้วเอาขึ้นเตียง เข็นเข้าไปในโรงพยาบาล
ดอกแก้วกับเทพไทรีบตามเข้าไป พยาบาลเอาชุดกาวน์มาให้เทพไทสวม
"คุณลำเจียกจะเป็นอะไรมากไหมคะ"
"ผมยังไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณรออยู่แถวนี้ก่อน ถ้ามีอะไรผมจะรีบมาบอก"
ดอกแก้วพยักหน้า เทพไทรีบสวมชุดกาวน์แล้วเดินตามหมอและพยาบาลไป ดอกแก้วชะเง้อมองเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างกระวนกระวาย
"ขอให้คุณลำเจียกไม่เป็นอะไรด้วยเถิด"

อึ่งนั่งนับเงินเป็นปึกๆ เอามัดรวมกันไว้ ท่าทางหลุกหลิก เข็มกับหมอนเดินเข้ามา
"แหม รวยจังนะพี่อึ่ง" เข็มบอก
อึ่งสะดุ้งเฮือก เก็บไม่ทัน เงยหน้าเห็นทั้งสองยืนอยู่
"นี่เอ็งมีเงินเยอะแยะอย่างนี้เชียวหรือ ไปเอามาจากไหนวะนังอึ่ง" หมอนถาม
อึ่งมีพิรุธ
"ฉันก็เก็บหอมรอมริบเอาน่ะสิ ! ว่าจะเอาไปไถ่ที่นาให้พ่อกับแม่ ป้าสงสัยอะไร"
"เปล๊า ข้าก็แค่แปลกใจ ไม่นึกว่าคนอย่างเอ็งมันจะรู้จักคิดนี่หว่า"
อึ่งค้อน แล้วรีบเก็บเงินใส่ชายพก หมอนนึกได้ หันมาถาม
"แล้วนี่ได้ข่าวคุณลำเจียกหรือยังวะ"
"ยังไม่มีใครกลับมาเลย"
"เฮ้อ เวรกรรมอะไรของเธอก็ไม่รู้ ไปไหนมาไหนกับนายไหลตั้งหลายครั้ง คุณหลวงท่านก็ไม่เคยอารมณ์เสียขนาดนี้ จำเพาะต้องมาเป็นเรื่องเอาตอนกำลังท้องกำลังไส้" เข็มว่า
"นั่นน่ะสิ นี่ถ้าแท้งขึ้นมาก็ไม่เท่ากับคุณหลวงฆ่าลูกตัวเองเหรอ บาปแท้ๆ" หมอนบอก
อึ่งสะดุ้ง หน้าเสีย รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนผิดที่ปากโป้งบอกสารภี

อึ่งลากพิศมาต่อว่า ท่าทางลับๆ ล่อๆ
"ไหนคุณสารภีบอกว่าแค่จะไปฟ้องให้คุณหลวงโกรธคุณลำเจียก จะได้ไม่ออกรถให้เท่านั้น ไงล่ะวะนังพิศ ทำไมมันถึงบานปลายขนาดนี้"
พิศหลบตา
"ก็ใครจะไปรู้ว่าคุณหลวงเธอปึงปังขึ้นมาล่ะ"
อึ่งกระวนกระวาย สำนึกผิด
"ข้าไม่น่าปากโป้งกับนายเอ็งเลย นี่ถ้าคุณลำเจียกเธอเสียลูกไป ข้าก็กลายเป็นคนบาปหนา บอกคุณสารภีนายเอ็งเลยนะ ไม่ต้องมาถามอะไรข้าอีก"
"เอ็งแน่ใจนะว่าไม่อยากได้เงินอีก"
อึ่งชะงัก ลังเล แล้วก็โวยวายกลบเกลื่อน
"ไม่เอาโว้ย"
อึ่งรีบเดินหนีไป กลัวใจอ่อน พิศยิ้มเยาะ

เทพไทเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ท่าทางเหนื่อยอ่อน ดอกแก้วเห็นก็รีบลุกขึ้นเดินมาหา
"คุณลำเจียกกับลูกปลอดภัยแล้วครับ"
ดอกแก้วยกมือไหว้ท่วมหัว
"ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า" แล้วนึกได้ "ขอบคุณคุณเทพไทด้วยนะคะ"
"โชคดีที่ตอนล้มไปกระแทกไม่แรง แต่ยังไงก็คงต้องอยู่โรงพยาบาลต่อไปซักพัก เพราะต้องคอยเฝ้าดูว่าจะมีภาวะครรภ์เป็นพิษหรือเปล่า"
"งั้นฉันจะอยู่เฝ้าเธอเองค่ะ"
"คุณจะไหวเหรอ"
"กลับไปบ้านฉันก็คงนอนไม่หลับเพราะห่วงคุณลำเจียก ฉันอยู่ที่นี่ดีกว่าค่ะ เผื่อมีอะไรจะมีคนช่วยตามหมอ"
เทพไทมองดอกแก้วอย่างทึ่งๆ ในน้ำใจของดอกแก้วที่กระตือรือร้นจะช่วยลำเจียก
"งั้นผมจะอยู่ด้วย แต่เดี๋ยวผมจะกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้ามาให้คุณแล้วกัน"
"ขอบคุณนะคะคุณเทพ"
เทพไทยิ้มให้ดอกแก้ว ด้วยความรู้สึกประทับใจ

สร้อยทองกับหลวงปกรณ์นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก พอเห็นเทพไทเข้ามาก็รีบลุกไปหา
"ตาเทพ แม่ลำเจียกเป็นยังไงบ้าง"
"ปลอดภัยแล้วครับคุณแม่"
สร้อยทองใจเต้นโครมคราม ลุ้นเรื่องเด็ก
"แล้ว...เด็กในท้องล่ะลูก"
"เด็กก็ปลอดภัยดีครับ"
หลวงปกรณ์ถอนใจโล่งอก เทพไทมัวแต่หันไปมองพ่อ เลยไม่เห็นว่าแม่ตัวเองหน้าเสีย
"แต่อาจารย์หมอยังอยากให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลก่อน เพราะผมเรียนไปว่า สถานการณ์ที่บ้านตอนนี้ยังไม่ค่อยดีนัก กลัวว่าถ้าคุณน้ากลับมาบ้านแล้วจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก"
"นี่แกคิดว่าฉันจะลงไม้ลงมือกับแม่ลำเจียกหรือไง"
"คุณพ่อก็ทำให้ผมเห็นแล้วกับตานี่ครับ ใครจะรับประกันได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก"
"ฉันไม่ได้ตั้งใจ ! ฉันจะเล่นงานก็ไอ้ชายชู้นั่น ไม่ใช่แม่ลำเจียก"
"ไอ้การใช้กำลัง ไม่ว่าใช้กับใครมันก็ไม่ถูกต้องทั้งนั้นแหละครับ"
หลวงปกรณ์เอ็ดตะโร ชี้หน้า
"เอาไว้ให้แกมีเมียที่มันกล้าสวมเขาให้แกก่อนก็แล้วกัน ฉันจะรอดูน้ำหน้าว่าแกจะทนได้ไหม ไอ้เทพ"
หลวงปกรณ์ปึงปังออกไป เทพไทมองตาม ถอนใจ หันมาเห็นสร้อยทองทำหน้าเซียวๆ ก็คิดว่ายังหนักใจเรื่องลูกลำเจียก
"ไม่ต้องห่วงนะครับคุณแม่ ตอนนี้ดอกแก้วอาสาเฝ้าคุณน้าลำเจียกอยู่ เดี๋ยวผมจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็จะไปช่วยดูอีกแรง"
"จ้ะ"
สร้อยทองพยักหน้ารับเซียวๆ รู้สึกเสียใจเรื่องที่ลำเจียกไม่แท้งมากกว่า

พิศรีบเข้ามารายงานสารภีในห้อง
"คุณเทพไทกลับมาแล้วค่ะคุณสารภี"
"เหรอ แล้วนังลำเจียกเป็นยังไงบ้าง"
"ได้ยินว่าปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ดวงมันแข็งนัก"
"ไม่ตายก็ดี ให้อยู่คาท้องไปแบบนั้นแหละ"
พิศงง
"เอ๊ะ ทำไมล่ะคะ ถ้าคุณลำเจียกยังมีเด็ก เธอก็ยังมีอะไรต่อรอง"
"แต่คุณหลวงระแวงไปแล้วว่ามันมีชู้ แกคิดว่าใจคอคุณหลวง จะรับว่าเป็นลูกได้สนิทใจไหมล่ะนังพิศ"
พิศอึ้ง แล้วคล้อยตาม หันมายิ้มสะใจกับสารภี
"จริงด้วยค่ะ"
"อย่างน้อยแผนปลูกฝีความระแวงของฉันก็ได้ผล คนบ้านนี้มันต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงกันไปชั่วชีวิตนั่นแหละดี จะได้สาสมใจฉัน"

เทพไทเดินขึ้นบันไดมาด้วยความอ่อนล้า เห็นสารภีรออยู่ ก็ชะงัก
"นั่นพี่เทพจะไปไหนอีกคะ
"ไปเฝ้าคุณน้าลำเจียกที่โรงพยาบาล"
"ดีจริง สารภีอยากจะไปด้วยค่ะ พี่เทพรอซักครู่นะคะ ขอสารภีไปแต่งตัว"
สารภีจะรีบไปแต่งตัว
"เธออยู่ที่นี่แหละสารภี ไปก็เกะกะไม่ได้ประโยชน์อะไร ตอนนี้ดอกแก้วก็เฝ้าอยู่"
สารภีชะงักหน้าเสีย
"แต่สารภีก็ห่วงคุณน้าลำเจียกเหมือนกันนะคะ"
"เรื่องของคุณน้าลำเจียกไม่ใช่เรื่องของเธอ เอาเวลาไปสนใจเรื่องอื่น ไปดูแลคุณพ่อให้ดีให้สมกับการเป็นภรรยาจะดีกว่านะ"
เทพไทเดินออกไป สารภีหน้าเสีย เจ็บใจ
อ่านต่อหน้าที่ 2


ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 15 (ต่อ)
เทพไทหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเปิดประตูเข้ามาในห้อง

"คุณดอกแก้ว ผมเอาเสื้อผ้ากับข้าว..."
เทพไทพูดไม่จบ ก็เห็นดอกแก้วฟุบหลับอยู่ที่ข้างๆ ลำเจียกที่นอนบนเตียง เลยวางของแล้วเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ดอกแก้วหลับสนิท ไม่รู้เรื่อง เข้าไปเรียกใกล้ๆ
"คุณดอกแก้ว คุณดอกแก้วครับ"
ดอกแก้วยังนอนนิ่งไม่รับรู้ เทพไทมองสีหน้าดอกแก้วที่หลับสนิทด้วยความเอ็นดู อยากจะเอื้อมมือไปปลุก แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ปล่อยให้หลับอยู่อย่างนั้น
เทพไทเปิดกระเป๋า หยิบเสื้อคลุมแขนยาวที่เอี้ยงจัดมาให้ เอามาคลุมห่มให้ดอกแก้ว แล้วนั่งลงข้างๆ มองดอกแก้วที่หลับไปแล้วอย่างมีความสุข

เช้าวันใหม่ อึ่งออกมาเทขยะที่ด้านหลังบ้าน โดยไม่เห็นว่านายไหลที่ซุ่มอยู่ย่องตามมา
"พี่อึ่ง"
อึ่งหันมาเห็นนายไหลก็สะดุ้งเฮือกตกใจ รีบหันรีหันขวาง ลากนายไหลออกไปให้พ้นจากหลังบ้าน
"เอ็งกลับมาทำไมที่นี่อีกไอ้หลาย ไม่เข็ดหรือไง"
"คุณลำเจียกเป็นยังไงบ้างพี่ กลับมาจากโรงพยาบาลหรือยัง"
"ยัง ที่เธอเป็นอย่างนี้ก็เพราะเอ็งนั่นแหละ" อึ้งพูดพลางจิ้มหัวนายไหล "นี่ยังจะมีหน้ากลับมาอีก ไปซะ"
"ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะพี่ คุณหลวงท่านเข้าใจผิดว่า เพราะเห็นฉันเอาแหวนไพฑูรย์มาคืนคุณลำเจียกเท่านั้นเอง"
อึ่งงง ไม่รู้มาก่อน มาไม่ทัน
"แหวนอะไร"
"แหวนของคุณลำเจียก ฉันเจอมันหล่นอยู่ในรถตอนจะออกจากบ้าน บ่าวของคุณนายคนใหม่คุณหลวงนั่นแหละเป็นคนเก็บได้เอามาให้ฉันดู"
อึ่งอึ้งไป ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ชักเอะใจ

สารภีทำหน้าตกใจ เมื่ออึ่งมารายงาน
"แกว่าอะไรนะ"
"ไอ้ไหลมันอยากจะพบคุณหลวงเพื่ออธิบายเรื่องแหวนของคุณลำเจียก มันว่านังพิศเป็นพยานให้มันได้ว่า คุณลำเจียกทำตกไว้บนรถ"
เชตที่กำลังเดินมาได้ยินก็ตกใจ
"แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน"
"อึ่งไล่มันกลับแล้วค่ะ เพราะไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือโกหก แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงมันก็ต้องกลับมาอีกแน่ ตกลงเรื่องแหวนนี่มันยังไงกันคะ"
สารภีล่อกแล่ก มีพิรุธ
"แหวนบ้าบออะไรฉันไม่รู้เรื่อง ไอ้ไหลมันคงโกหกแกน่ะสิ"
สารภีรีบลุกหนีออกไป อึ่งยังข้องใจนิดๆ เชตตามสารภีไป

สารภีเดินหนีอึ่งมาเพราะกลัวโดนเซ้าซี้ เชตรีบตามมาดัก
"คุณสารภีครับ เมื่อกี้ผมได้ยินนังอึ่งมันพูดถึงไอ้ไหล"
"แกรีบไปทำให้มันเงียบซะ"
"ทำยังไงล่ะครับ"
"ยังไงก็ได้ที่จะไม่ให้มันกล้ามาเหยียบบ้านนี้อีก"
เชตคิดๆ แล้วยิ้มร้าย

นายไหลจอดเช็ดรถอยู่ริมถนน ระหว่างรอลูกค้า จู่ๆ เชตยกเท้าเหยียบโครมขึ้นมาบนรถ ตรงหน้านายไหลกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่พอดี
นายไหลเงยหน้ามองตกใจ
"กูเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้มึงกลับไปที่บ้านนพรัตน์อีก"
"ผม...ผมแค่จะไปพบคุณหลวง จะไปอธิบายว่า..."
"คุณหลวงไม่อยากพบมึง ! แล้วก็วานกูให้มาสั่งสอนมึงว่าอย่าสะเออะ"
เชตพูดจบก็ชกนายไหลโครม จนล้มคว่ำไป นายไหลเจ็บที่โดนชก ลุกขึ้นจะต่อยกลับ แต่เชตชกซ้ำไปอีกหลายที จนลงไปกอง แล้วถีบสามล้อล้มโครม
เชตมองดูอย่างสะใจ แล้วถุยน้ำลายลงพื้นตรงหน้านายไหล
"นี่เหรอวะ คนที่คิดจะมาตีท้ายครัวคุณหลวง ชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้างไอ้กระจอก"
เชตเดินกร่างๆ ออกไป นายไหลเช็ดเลือดอย่างเจ็บใจ ยิ่งกังวลมากขึ้นที่คุณหลวงยังเข้าใจผิด

เชตกลับมาหาสารภีที่รออยู่ตรงที่จอดรถอยู่
"เรียบร้อยแล้วครับคุณสารภี"
สารภีเห็นเชตลูบมือไปมา
"เจ็บหรือ ถ้างั้นก็เอาเงินไปซื้อหยูกยามาทา"
สารภียื่นเงินให้ เชตมองยิ้มๆ
"แค่คุณสารภีเป็นห่วง ผมก็หายเจ็บแล้วล่ะครับ"
สารภีค้อน แต่ลึกๆ ก็ปลื้มที่เชตแทะโลม
"จะเอาหรือไม่เอา"
"เอาก็ได้ครับ"
เชตรับเงินจากสารภีแล้วถือโอกาสลูบไล้มือ หยิบเงินมาจูบแบบยั่ว สารภีเขิน สะบัดสะบิ้งหนีขึ้นรถ เชตยิ้มตาม

ลำเจียกค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นบนเตียง มองรอบๆ ตัวอย่างงงๆ ดอกแก้วเห็นลำเจียกขยับตัวก็รีบลุกมาหาอย่างดีใจ
"คุณลำเจียกฟื้นแล้ว เป็นยังไงบ้างคะ"
ลำเจียกมองหน้าดอกแก้ว กะพริบตางงๆ
"ฉันมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร"
"เมื่อคืนค่ะ คุณเทพไทพามา คุณลำเจียกยังเจ็บท้องอยู่ไหมคะ แก้วจะได้ไปตามหมอ"
ลำเจียกส่ายหน้า นิ่งคิดทบทวนแล้วนึกได้ รีบจับท้อง
"ลูก ! ลูกฉัน"
"คุณหนูในท้องปลอดภัยดีค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง คุณลำเจียกพักผ่อนเยอะๆ จะได้แข็งแรงนะคะ"
ลำเจียกยังมองดอกแก้วอย่างระแวง ไม่ค่อยไว้ใจ
"นังอึ่งล่ะ"
"อึ่งอยู่ที่บ้านค่ะ มีแก้วอยู่โรงพยาบาลคนเดียว คุณลำเจียกต้องการอะไรหรือคะ แก้วจะไปเอาให้"
ลำเจียกส่ายหน้า
"ไม่ หล่อนจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว"
ดอกแก้วหน้าจ๋อย แต่ก็ฝืนยิ้ม
"งั้นแก้วจะไปดูว่าโรงพยาบาลเตรียมอาหารไว้หรือยังนะคะ"
ดอกแก้วออกไป ลำเจียกทำหน้ากลุ้ม ครุ่นคิด นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่หลวงปกรณ์เอะอะ ซ้อมนายไหล ลำเจียกไปช่วยเลยล้มบาดเจ็บ
"คุณพี่ อย่านะคะ"
หลวงปกรณ์ไม่ฟังเข้าไปซ้ำ นายไหลตั้งหลักได้ รีบยกมือไหว้หลวงปกรณ์
"คุณหลวงกำลังเข้าใจผิดนะขอรับ"
"แกจะแก้ตัวยังไงฉันก็ไม่ฟังทั้งนั้น วันนี้ฉันจะเอาเลือดชู้อย่างแกมาล้างตีน ไอ้ไหล"
หลวงปกรณ์เตะหน้านายไหล ลำเจียกร้องกรี๊ด วิ่งเข้าไปรั้งแขนหลวงปกรณ์
"คุณพี่ อย่าคะ ! พอแล้ว"
"นี่หล่อนปกป้องมันหรือแม่ลำเจียก ! รักไอ้ชู้นี้มากนักใช่ไหม รักมันนักใช่ไหม"
หลวงปกรณ์เข้าไปเตะซ้ำๆ ใส่นายไหลที่ตัวงอ ลำเจียกร้องไห้สงสาร พยายามดึงหลวงปกรณ์ออกมา แต่หลวงปกรณ์กำลังคลั่ง ไม่สนใจ พอลำเจียกยื้อยุดมากเข้าก็สะบัดแขนออก จนลำเจียกเซถลาล้มไปอีกทางที่พวกบ่าวไพร่ยืนแอบดูอยู่ ทุกคนรีบถลารับ
ลำเจียกสีหน้าเป็นกังวล เป็นห่วงนายไหล

สารภีเดินเกาะแขนพาหลวงปกรณ์ลงมาร่วมโต๊ะอาหาร ที่สร้อยทองนั่งรออยู่
หลวงปกรณ์เหลือบมองที่ว่างบนโต๊ะ
"แม่ดอกแก้วล่ะ"
"ยังไม่กลับไปเฝ้าแม่ลำเจียกเลยค่ะ" สร้อยทองบอก
"บ่าวไพร่ก็มีออกเยอะแยะ ทำไมไม่ไปเปลี่ยนให้ดอกแก้วกลับมาพักผ่อนบ้าง"
"คุณพี่ก็ไปเปลี่ยนเองสิคะ เวลานี้แม่ลำเจียกก็คงอยากพบคุณพี่มากที่สุด"
สร้อยทองแหย่ แต่ทำสีหน้าเนียนๆ
"ป่านนี้คงจะน้อยใจที่คุณพี่ไม่ไปเยี่ยมเลย"
"ฉันไปแน่ แต่รอให้แม่ลำเจียกหายดีเสียก่อน จะได้ซักความกันต่อ"
สารภีลอบยิ้มชอบใจ แต่แกล้งทำเป็นพูดเอื้อเฟื้อ
"ถ้าคุณหลวงจะไปวันไหน บอกสารภีด้วยนะคะ สารภีก็อยากไปเยี่ยม เป็นห่วงหลานในท้องคุณน้าลำเจียกเหลือเกินค่ะ"
สร้อยทองปรายตามองสารภี รู้ว่าสารภีเฟค แต่ไม่อยากสนใจ ก้มหน้ากินข้าวไป

ในเวลากลางคืน ดอกแก้วลงจากรถที่จอดหน้าตึก กำลังจะเดินไปที่เรือนของตน แต่เห็นสร้อยทองยืนรออยู่
"คุณสร้อย ยังไม่นอนอีกหรือคะ"
"ฉันมารอฟังข่าวจากเธอ แม่ลำเจียกเป็นยังไงบ้าง"
ดอกแก้วสีหน้าหนักใจ
"คุณหมอบอกว่าสภาพร่างกายไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ แต่จิตใจยังไม่ดีขึ้นเลยคุณลำเจียกเอาแต่ถามถึงคุณหลวง ข้าวปลาก็ไม่ค่อยยอม..."
"ฉันก็บอกคุณพี่ให้ไปเยี่ยมแล้ว แต่คุณพี่ยังเคืองอยู่ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แม่ลำเจียกก็ทำตัวเองนั่นแหละ สร้างเรื่องไม่ได้หยุดหย่อน"
"พรุ่งนี้แก้วจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณลำเจียกอีกค่ะ เธอจะได้ไม่เหงา"
"ถ้ามีแรงก็ตามใจเถอะ ถือว่าช่วยสงเคราะห์คนกำลังทุกข์กำลังโศก ... แล้วนี่ตาเทพไม่ได้กลับมากับเธอหรือดอกแก้ว"
"คุณเทพอยู่เวรค่ะ"
"นี่ก็อีกคน ทำแต่งานทุกวันไม่ได้หยุดได้หย่อน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปให้คุณรัศมีดารา"
ดอกแก้วยิ้มเจื่อน เจ็บแปลบลึกๆ เมื่อรู้ว่าสร้อยทองยังหวังในตัวรัศมีดาราอยู่
"จริงสิ คุณรัศมีดาราชอบกับเธอนี่นา ฉันว่าเธอคงจะต้องช่วยฉันหน่อยแล้วล่ะดอกแก้ว"
สร้อยทองยิ้มให้ดอกแก้วอย่างมีแผนการ

สร้อยทองนั่งบดยาสมุนไพร ซึ่งมีส่วนผสมของเมล็ดน้อยหน่าที่บดเป็นผง ซึ่งกินแล้ว จะทำให้แท้งลูก และทำลายกระจกตาทำให้ตาบอดได้ รากเป็นยาถ่ายอย่างรุนแรง ทั้งเมล็ดและใบที่บดเป็นผงเพื่อใช้เป็นยาฆ่าแมลง สร้อยทองกรอกใส่ในขวดโหลไว้ ศรีมองๆ
"คุณสร้อยจะปรุงยาอะไรหรือคะคราวนี้"
"ยาให้แม่ลำเจียกยังไงล่ะ"
ศรีมองสร้อยทอง สีหน้าหวั่นๆ
"แต่คุณลำเจียกอยู่โรงพยาบาล คุณเทพคงจะจัดยาฝรั่งให้ ไม่น่าให้ทานยาหม้อหรอกมั้งคะ เดี๋ยวมันจะตีกัน"
"กินยาขนานเดียวมันจะไปหายได้ยังไง"
สร้อยทองพูดเย็นๆ เหมือนจะสื่อความหมายว่า แล้วลูกจะตายได้ยังไง
"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะไม่ได้บดไปเป็นยา แต่จะเอาไปต้มข้าวต้ม เขาว่ามันบำรุงเลือดลมคนท้องดี ! "
อ่านต่อหน้าที่ 3 


ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 15 (ต่อ)
สร้อยทองต้มข้าวต้มอยู่ในครัว มีเข็มเป็นลูกมือ ศรีเดินนำเอี้ยงเข้ามา

"นังเอี้ยงมาแล้วค่ะ"
"นายแกจะไปโรงพยาบาลแล้วหรือเอี้ยง"
"เจ้าค่ะ"
"ฉันจะฝากข้าวต้มไปให้แม่ลำเจียกกินหน่อยนะ จะได้หายวันหายคืน"
สร้อยทองพยักหน้า เรียกหาหม้ออวยใส่ข้าวต้มจากเข็ม แล้วเทข้าวต้มที่เสร็จพอดีใส่หม้อ
"กำชับดอกแก้วให้เฝ้าแม่ลำเจียกให้กินให้หมดนะ เข้าใจไหม"
"เจ้าค่ะ"
เอี้ยงรับคำ ปิดฝาหม้อแล้วหิ้วออกไป สร้อยทองมองตาม สีหน้าลึกลับ แล้วหันกลับมาเช็ดถู เก็บเครื่องครัวเหมือนไม่มีอะไร

ดอกแก้วตรงไปที่รถ เอี้ยงรีบมาหา
"คุณดอกแก้วจะไปโรงพยาบาลใช่มั้ยคะ"
"ใช่จ้ะ มีอะไรจะฝากหรือ"
เอี้ยงส่งหม้อซุปมีหูหิ้วให้
"คุณสร้อยทองลงครัวต้มข้าวต้มไว้ให้คุณลำเจียกค่ะ รบกวนคุณดอกแก้วกำชับให้เธอทานด้วยนะคะ จะได้แข็งแรง"
"ได้สิจ๊ะ"
ดอกแก้วรับมาแล้วขึ้นรถไป


ลำเจียกนอนอยู่ในห้องคนเดียว ได้ยินเสียงเคาะประตูก็ลุกพรวด ท่าทางตื่นเต้นคิดว่าเป็นหลวงปกรณ์ แต่พอเป็นดอกแก้วก็ชะงัก เซ็ง
"เธอน่ะเอง"
ดอกแก้วฝืนยิ้ม
"วันนี้คุณลำเจียกเป็นยังไงบ้างคะ"
ลำเจียกเมินหน้าหนีไม่ตอบ หงุดหงิดที่ดอกแก้วไม่ใช่หลวงปกรณ์ ดอกแก้วเห็นลำเจียกอารมณ์ไม่ดี ก็พยายามเอาใจ
"แก้วเอาข้าวต้มร้อนๆ มาจากที่บ้าน คุณสร้อยทองเธอตั้งใจจะทำให้คุณลำเจียกรับประทาน รับเลยไหมคะ"
ลำเจียกไม่สนใจข้าวต้ม
"เธอมาคนเดียวหรือ"
"ค่ะ แก้วมากับนายเชิด"
"แล้วคุณพี่ไปไหน ไม่คิดจะมาดูดำดูดีฉันบ้างหรือไง"
ดอกแก้วนิ่งไม่ตอบ ลำเจียกเริ่มพุ่งพล่าน
"หรือผิดหวังที่ฉันกับลูกไม่ตาย"
"คงไม่ใช่หรอกค่ะ คุณหลวงเธองานมาก"
"ลูกที่จะเกิดมามันไม่สำคัญเท่างานอย่างนั้นล่ะสิ" ลำเจียกน้ำตาคลอเจ็บปวด
ดอกแก้วเห็นใจ พยายามเปลี่ยนเรื่อง ให้ลำเจียกอารมณ์ดีขึ้น
"เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วคุณหลวงก็คงจะมาค่ะ ตอนนี้คุณลำเจียกรับข้าวก่อนนะคะ กำลังร้อนๆ"
ดอกแก้วเปิดฝาหม้อ จะตักใส่ถ้วย แต่ลำเจียกปัดโครม ชามข้าวต้มตกแตก
"อุ๊ย !" ดอกแก้วตกใจถอยหนี)
"หล่อนคิดว่าฉันเป็นเด็กอมมือหรือไง ถึงมาพูดปลอบใจกันแบบนี้ ! ฉันไม่ได้โง่นะ เอาสิถ้าคุณพี่ไม่มา ฉันก็ไม่กินอะไรทั้งนั้น ในเมื่อพ่อมันไม่ใยดี ก็ให้มันตายๆ กันไปทั้งแม่ทั้งลูกนี่แหละ"
ลำเจียกปัดหม้อข้าวต้มหล่นโครมตามลงไปอีก แล้วหันหลังนอนต่อ น้ำตาไหล
ดอกแก้วยืนตะลึง ตกใจ แต่อีกใจก็เป็นห่วงลำเจียก

ดอกแก้วออกมานั่งคุยกับเทพไท ท่าทางกลัดกลุ้ม
"คุณลำเจียกไม่ยอมรับข้าวเลยค่ะ ขนาดแก้วให้พยาบาลเอาไปให้ก็ไม่สำเร็จ"
"ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องให้น้ำเกลือต่อไปก่อน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ในเมื่อคุณพ่อยังไม่หายโกรธคุณน้า"
"เดี๋ยวเย็นนี้แก้วจะลองกล่อมคุณหลวงดูอีกทีค่ะ"
เทพไทลุกขึ้นอย่ากระตือรือร้น
"งั้นผมจะไปช่วยพูด เย็นนี้ผมว่าง ถ้าเราสองคนช่วยกันกล่อมคุณพ่อคงใจอ่อน คุณว่าไหม"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไปคนเดียวดีกว่า"
เทพไทชะงัก งงว่าทำไมดอกแก้วไม่ยอมให้ช่วย ดอกแก้วทำหน้าลังเล แล้วตัดสินใจพูด
"ถ้าคุณเทพไทว่าง น่าจะแวะไปหาคุณรัศมีดาราดีกว่านะคะ แก้วทราบว่าเธอกำลังจะเปิดเทอม อีกหน่อยคงไม่มีเวลาพบปะกัน ส่วนเรื่องคุณหลวง เดี๋ยวแก้วจะจัดการเองคะ"
เทพไทชะงัก คิดไปว่าดอกแก้วไม่อยากให้ตนเองไปเป็นก้างขวางคอ จึงแค่นหัวเราะ
"ทำเป็นเอาคุณรัศมีมาอ้าง คุณคงกลัวผมจะไปเป็นก้างขวางคอคุณกับคุณพ่อมากกว่ามั้ง"
"ไม่ใช่นะคะ"
เทพไทแดกดัน
"ผมก็ลืมไปว่าในบ้านมีคุณคนเดียวที่คุณพ่อเกรงอกเกรงใจ ผมไม่จำเป็นต้องไปช่วยเจรจาให้เกะกะก็ได้ เพราะแค่คุณเป่าลมเสน่ห์นิดเดียว จะจูงพ่อผมไปทางซ้ายทางขวาก็ได้ทั้งนั้น"
"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นซักหน่อย ฉันเพียงแค่เห็นว่าคุณกับคุณรัศมีไม่ได้พบปะกันนาน น่าจะคิดถึงกัน"
เทพไทยิ่งน้อยใจ เมื่อดอกแก้วพูดเหมือนผลักไสตน
"ก็จริงของคุณ ผมมัวแต่ทำงาน ไม่ได้เจอหน้าน้องรัศมีตั้งหลายวันแล้ว คิดถึงมากๆ เลย" เทพไทลากเสียงประชด แล้วยิ้มเยาะ "ขอบคุณนะครับที่ช่วยเตือนสติว่าอะไรสำคัญ ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณจัดการเรื่องคุณพ่อด้วย ถือซะว่าทำเพื่อเด็กในท้องที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ละกัน"
เทพไทลุกขึ้นเดินจากไป ทิ้งให้ดอกแก้วถอนใจกลุ้มที่เทพไทโกรธ แต่ก็จำใจ เพราะตนเองทำตาม
คำสั่งของสร้อยทอง

สารภีกับพิศเดินกลับมาจากเรือนรับรองของพ่อกับแม่ กำลังจะขึ้นตึก จู่ๆ นายไหลก็โผล่พรวดเข้ามา
"ว้าย ไอ้ไหล"
นายไหลรีบทรุดลงยกมือไหว้สารภี สารภีตกใจ มองล่อกแล่ก
"แกกลับมาทำไมอีก เดี๋ยวคุณหลวงก็เอาตายหรอก"
"ผมก็ร้อนใจเรื่องนี้แหละครับ ถึงต้องแอบมาเข้ามา ... พี่ต้องไปเป็นพยานให้ผมคุยกับคุณหลวง"
พิศสะดุ้ง
"พยานอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง"
อีกมุมหนึ่งไม่ไกล สร้อยทองกำลังเดินดูดอกไม้ ได้ยินเสียงพิศดังแว่วๆ ก็หันไปมองตาม เห็นพิศยืนคุยว่อบแว่บๆ ไม่ไกลนัก สร้อยทองจะเข้ามาดู แต่นายคงเหมือนมาคุยตามให้ไปดูสวนทางโน้น สร้อยทองจึงจำเป็นต้องเดินออกไป
นายไหลยังคงเอาความกับสารภีและพิศ
"ทำไมพี่จะไม่รู้ ที่คุณหลวงเข้าใจผมกับคุณลำเจียกผิด ก็เพราะแหวนที่พี่เก็บได้ในรถนั่น"
พิศหน้าเสีย สารภีหน้าเจื่อนพอกัน นายไหลรีบคว้าแขน
"พี่ต้องไปพบคุณหลวงกับผม ! ไปอธิบายให้ท่านเข้าใจเดี๋ยวนี้เลย"
"ว้าย แกอย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ฉันไม่ไป"
"พี่ต้องไป"
นายไหลฉุดกระชากไม่ยอม เพราะยังไงต้องล้างบาปให้ตัวเองให้ได้
"คุณสารภีเจ้าขา ช่วยพิศด้วย"
สารภีเข้าไปแกะมือนายไหล
"หยุดนะแก จะเอาคนของฉันไปไม่ได้ หยุด ! ว้าย"
นายไหลยื้อยุดไม่ยอม แล้วผลักสารภีล้มลง แล้วรีบลากพิศออกไป
พิศดีดดิ้น แต่สู้แรงนายไหลไม่ได้ โดนลากไปอีกทาง
สารภีรีบลุกขึ้นมองตามอย่างร้อนใจ แล้วรีบวิ่งออกไปอีกทาง

เชตกำลังนอนหลับอยู่ที่ชานบ้าน สะดุ้งเฮือก เมื่อสารภีเอาน้ำสาดโครม
"โอ้ย คุณสารภี อะไรครับเนี่ย !"
"แกรีบลุกขึ้นไปจัดการไอ้ไหลเดี๋ยวนี้เลย"
"ไอ้ไหล มันทำอะไรครับ"
"ก็มันกลับมาที่นี่อีกแล้วน่ะสิ ไหนแกบอกว่ามันจะไม่กล้ามาแล้วไง"
เชตตกใจเลิ่กลั่ก
สารภีสีหน้าเหี้ยมดุ
"มันกำลังลากนังพิศไปหาคุณหลวง ถ้ามันบอกความจริงกับคุณหลวงเมื่อไร เราจะเดือดร้อนกันหมด แกรีบไปปิดปากมันซะ อย่าให้มันได้มีโอกาสพูดอะไรอีก"
เชตรีบลุกขึ้นวิ่งแจ้นไปทันที

นายไหลลากพิศมาตามทางเรือกสวนด้านหลัง ที่ดูเปลี่ยวๆ
"ปล่อยฉันนะ ไอ้เจ๊กบ้า ! ฉันไม่ไป"
"มีพี่คนเดียวที่จะช่วยผมกับคุณลำเจียกได้ ! ทำไมถึงไม่อยากช่วย ... หรือว่าพี่อยากให้คุณลำเจียกเดือดร้อน"
พิศนิ่งหลบสายตา นายไหลเริ่มเข้าใจ
"นี่แสดงว่าพี่ใส่ร้ายคุณลำเจียกใช่ไหม"
พิศหน้าเสีย เริ่มออกพิรุธหนักขึ้น นายไหลแน่ใจ กระชากตัว
"ถ้ามันเป็นแผนของพี่ พี่ก็ยิ่งต้องไปสารภาพ ไป !"
"อ๊าย ไม่ไป ! กูไม่ไป๊"
พิศโวยวาย นายไหลตัดสินใจรวบตัวพิศ เอามือข้างนึงอุดปากแล้วลากถูลู่ถูกังไป พิศดิ้น คิดว่าตัวเองไม่รอดแน่แล้ว ฉับพลันเชตก็โผล่มาด้านหลังไหล เอาไม้ฟาดโครมเข้าที่หัว
ไหลไม่ทันระวังตัว ล้มสลบเหมือดไป พิศรีบลุกขึ้นหนีผวา สารภีรีบตามเข้ามา
"ยืนกันอยู่ทำไม ลากมันออกไปสิ เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้า"
พิศได้สติ รีบช่วยเชตลากร่างไหลที่หมดสติคอพับคออ่อนไป

นายไหลหมดสติอยู่ที่ชายป่า เลือดโทรมหน้าเหมือนตายไปแล้ว แต่อยู่ๆ ก็ได้สติ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
นายไหลขยับตัวช้าๆ แล้วเอามือจับหัวตัวเองเห็นเลือด แล้วมองๆ ไปรอบๆ ถึงเห็นว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านนพรัตน์แล้ว
นายไหลค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พยายามจะเดินฝ่าความมืดไป แต่จู่ๆ ก็มีร่างใครบางคนโผล่ออกมา
พร้อมกับจอบในมือ นายไหลร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นใครคนนั้นยืนประจันหน้า
คนลึกลับเงื้อจอบขึ้นจะฟัน แต่นายไหลเอามือรับ ยื้อยันกันไปมา นายไหลแรงเยอะกว่า
ผลักคนลึกลับเซไป แล้วรีบวิ่งหนีไปอีกทาง
ร่างลึกลับรีบคว้าจอบตามนายไหลไป
อ่านต่อหน้าที่ 4


ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 15 (ต่อ)
นายไหลวิ่งเตลิดเปิดเปิงผ่านสุมทุมพุ่มไม้ ด้วยความหวาดกลัว รู้ว่าคนลึกลับคนนั้นจะฆ่าตนแน่

"ช่วยด้วย ! ช่วยด้วย"
นายไหลมัวแต่วิ่งแล้วมองไปข้างหลัง พอหันกลับมาอีกทีก็โดนกิ่งไม้ที่อยู่ตรงระยะหัว
ฟาดเข้าที่หน้าผากเต็มๆ จนล้มลง
นายไหลล้มลงกับพื้น ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด เสียงฝีเท้าวิ่งตามมา
นายไหลหันกลับไปมองตกใจ เพราะคนลึกลับตามมาอีก พยายามตะเกียกตะกายหนี
ร่างคนลึกลับเดินตามไหลอย่างใจเย็น นายไหลมองอย่างกลัวๆ
นายไหลรีบตะกายหนีเพราะลุกไม่ขึ้น เสียงคนย่ำสวบสามตรงมาทางนายไหล
นายไหลมองไปเห็นเท้าคนย่ำเข้ามาใกล้ ก็ดีใจ รีบตะกายไป
"ช่วยผมด้วยครับ ช่วยผมด้วย "
นายไหลเงยหน้ามองอย่างมีความหวัง แต่เหมือนวินาทีต่อมาก็สีหน้าตกใจ ก่อนจะก็โดนวัตถุบางอย่างฟาดเปรี้ยงเข้าเต็มหน้าโดยฉับพลัน
นายไหลหงายกลิ้งไป เลือดออกเต็มซีกหน้าแล้วสลบเหมือดไปอีกครั้ง
ร่างคนลึกลับตามเข้ามาใกล้ร่างนายไหลที่นอนแน่นิ่ง แล้วเงื้อจอบขึ้นฟันฉับอีกครั้ง พร้อมกับเสียงเนื้อถูกฟันอย่างแรง

เช้าวันใหม่ หมอนเดินปาดเหงื่อเข้ามาในครัว พร้อมกับตะกร้ากับข้าว แล้วทรุดนั่งลง
"อ้าว ทำไมเหงื่อโทรมอย่างนั้นล่ะป้า" เข็มถาม
หมอนหอบ
"ก็ข้าเดินมาจากที่ตลาดน่ะสิวะ รถราไม่มีเลยวันนี้ ไอ้ไหลก็หายหน้าไปไหนไม่รู้"
"กลัวพวกญี่ปุ่นกันละมั้ง เลยไม่มีใครกล้าออกมารับจ้าง เห็นว่าเดินกันเต็มถนนเลยไม่ใช่เหรอป้าหมอน"
"นั่นละ แล้วก็พูดกันวะๆ โว้ยๆ อะไรก็ไม่รู้ ข้าฟังไม่รู้เรื่อง ท่าทางมันก็น่ากลั๊วน่ากลัว เห็นแล้วก็ไม่อยากอยู่ใกล้ เลยต้องรีบกลับ"
"มันออกมากันยั้วเยี้ยอย่างนี้แหละ เขาถึงลือกันว่าจะมีบอมบ์น่ะ ป้าหมอน"
"โฮ้ย เวรกรรมอะไรของบ้านเมืองเราก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็ต้องมาโดนหางเลข ที่มันรบกัน เจ้าประคู๊ณ ขอให้พ้นเคราะห์พ้นภัยคราวนี้ไปเร็วๆ ทีเถอะ"
หมอนยกมือไหว้ท่วมหัว

เช้าเดียวกัน ดอกแก้วแต่งตัวออกจากเรือน มีเอี้ยงหิ้วกระเป๋าตามมา
"คุณดอกแก้วน่าจะอยู่บ้านนะคะวันนี้ เอี้ยงได้ข่าวว่าข้างนอกนั่นอันตราย เขาจะกวาดล้างญี่ปุ่นกัน"
"ข่าวลือกระมัง บ้านเราไม่ได้ไปทำศึกอะไรกับเขา เป็นแค่ทางผ่าน ใครจะมาทิ้งระเบิด"
"แต่ระวังตัวไว้จะดีกว่านะคะ เอี้ยงกลัว"
"ก็เห็นกลัวกันหมดทุกคน ถ้าฉันไม่ไปแล้วใครจะไป คุณลำเจียกเธอไม่มีใครนะ"
"ไม่ต้องกลัวหรอกเอี้ยง ฉันจะไปกับนายเธอเอง"
ดอกแก้วกับเอี้ยงหันไป เห็นเทพไทเดินมา ยังเย็นชา เพราะยังงอนอยู่
"แต่แก้วให้นายเชิดเตรียมรถไว้แล้ว"
"ลุงเชิดก็กลัวระเบิดเหมือนกัน มีผมกับคุณสองคนเท่านั้นแหละที่กล้าออกจากบ้าน"
ดอกแก้วชะงักมองเทพไทลังเล ไม่ค่อยอยากไปด้วย ขี้เกียจไปทะเลาะกลางทาง
เทพไทแดกดัน หมั่นไส้
"หรือว่าคุณกลัวผมมากกว่าระเบิด จะปล่อยให้คุณน้าลำเจียกเหงาอยู่โรงพยาบาลก็ตามใจนะ"
ดอกแก้วค้อนเทพไทนิดๆ รู้ว่าอีกฝ่ายแดกดัน

ระหว่างทาง ในรถ เทพไทท่าทีมึนตึงขับรถพาดอกแก้วไปเยี่ยมลำเจียกที่โรงพยาบาล ระหว่างทางไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ ดอกแก้วแอบมองเทพไทก่อนที่เอ่ยเข้าเรื่องที่สร้อยทองไหว้วานให้ช่วยเชียร์รัศมีให้เทพไทสนใจ
"คุณน่าจะชวนคุณรัศมีดารามาเยี่ยมคุณลำเจียกด้วยกันนะคะ คุณรัศมีช่างพูดอาจจะ ช่วยให้คุณลำเจียกจำอะไรได้มากขึ้นนะคะ"
เทพไทนิ่งไม่พูดอะไร ดอกแก้วหาเรื่องชวนคุยต่อ
"คุณรัศมีเก่งนะคะ เรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรือนได้เร็วมาก นอกจากเก่งแล้วยังมีความสามารถในทุกๆด้านอีกด้วย"
ดอกแก้วแอบมองท่าทีเทพไทที่ดูนิ่ง ดอกแก้วบิวส์ต่อ
"คุณเทพกับคุณรัศมีมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกัน ดอกแก้วว่าคุณสองคน เหมาะสมกันดีนะคะ"
เทพไทเบรกรถเอี๊ยด !! ด้วยความไม่พอใจ
"ว๊าย..!"
ด้วยความที่รถเบรกอย่างเร็วทำให้ผ้าเช็ดหน้าของดอกแก้วที่เทพไทเก็บไว้ในหนังสือ หลุดไถล
ออกมา ดอกแก้วค่อยๆขยับขึ้นมามองเห็นผ้าเช็ดหน้าที่หนังสือเทพไท เทพไทหันมาสีหน้าดุดัน
"ผมจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับใครผมคิดเองได้"
ดอกแก้วมองผ้านิ่งไม่คิดว่าเทพไทจะเก็บเอาไว้
"อย่าพยายามผลักไสผมนักเลย ทำไมผมจะไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ คุณเองก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆไปนั่นแหล่ะ"

เทพไทมองดอกแก้วด้วยสายตาที่โกรธและเจ็บในใจ ก่อนที่จะหันไปขับรถออกด้วยความเร็ว
"หยุดนะคะคุณเทพ ดอกแก้วกลัว"
"จะกลัวอะไร เธอชนะในสิ่งที่ใครต่อใครเค้ากลัวกันจนหมดแล้วนี่"
"คุณพูดอะไรแก้วไม่เข้าใจ"
"อย่าแกล้งทำไม่รู้หน่อยเลย ฉันเสียใจที่ดูเธอผิดมาตั้งแต่ต้น ที่แท้เธอมันก็แค่ ต้องการที่ยืนที่สูงกว่าใครๆในบ้านนพรัตน์ก็เท่านั้นเอง เธอคงสมใจแล้วสินะที่ได้เป็นคนโปรดของพ่อฉัน"
ดอกแก้วน้ำตาเอ่อ
"จอดรถเถอะค่ะ"
"ไม่"
"งั้นฉันก็จะลงตรงนี้"
ดอกแก้วทำท่าจะเปิดประตูลง เทพไทชะงักเห็นท่าทีจริงจังดอกแก้วจึงยอมจอดรถ ดอกแก้วคว้าผ้าเช็ดหน้าที่หลุดอยู่ขึ้นมาถือไว้
"ถ้าคุณคิดว่าฉันเปลี่ยน คุณก็ไม่ควรเก็บสิ่งนี้ไว้ไม่ว่าคุณจะมองฉันเป็นอะไร ฉันก็ยังคงเป็นฉัน ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"
ดอกแก้วเปิดประตูลงไป เทพไทมองตามรู้สึกผิดที่พูดแรงเกินไป

เทพไทมองตาม ระหว่างนั้นเทพไทมองเห็นทหารญี่ปุ่นเอ่ะอ่ะโวยวายชี้มือไปที่ท้องฟ้า เทพไทมองตาม เห็นเครื่องบินฝรั่งบินอยู่บนฟ้า เทพไทรู้ได้ด้วยสัญชาตญานเพราะเห็นญี่ปุ่นวิ่งไปทางเดียวกับดอกแก้วเทพไทมองตาม เป็น รีบออกจากรถ วิ่งตามดอกแก้วเข้าไปในตลาดทันที
ดอกแก้วเดินเลี้ยวเข้าในตลาดมา เห็นชาวบ้านแหงนมองบนท้องฟ้า ดอกแก้วงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงเครื่องบินมองตามที่ชาวบ้านชี้มือเห็นเครื่องบิน เสียงวิจารณ์ดังเซ็งแซ่
"เฮ้ย..!! นั่นมันอะไรวะน่ะ"
"นั่นสิมันบินวนมารอบสองแล้วนะเนี่ย"
ระหว่างนั้นเสียง"หวอ"เตือนภัย ทหารไทย ตำรวจไทยต่างก็ออกมาป่าวประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นหาที่หลบภับ
"หลบไปอย่าอยู่ในที่แจ้ง หลบให้หมดทุกคนเรากำลังจะถูกโจมตี"
ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งกันชุลมุน ดอกแก้วตกใจ แต่ผู้คนที่วิ่งไปมาเพื่อหาที่หลบภัย บ้างก็วิ่งชนดอกแก้วจนเซไปมาเพราะยืนขวางอยู่
เทพไทวิ่งตามหาดอกแก้ว แทรกตัวผ่านผู้คนมองหา
"ดอกแก้ว ดอกแก้ว คุณอยู่ไหน"
เสียงหวอดังลั่นไปทั่ว พร้อมเสียงระเบิดที่ลงมาไกลๆเสียง "ตูม" ดังลั่น
ผู้คนกรี๊ดวิ่งหนีตายกันโกลาหล ดอกแก้วถูกผู้คนเบียดเสียดพยายามหาทางออกไป
เทพไทมองเห็นดอกแก้วอยู่ไกลๆพยายามแทรกผู้คนเข้าไปหา
"ดอกแก้ว"
ดอกแก้วได้ยินเสียงหันมาเห็นเป็นเทพไทดีใจ
"คุณเทพ"
ระหว่างนั้นดอกแก้วพยายามเบียดผู้คนเพื่อเข้าไปหาเทพไท ระเบิดลง " ตูม " ที่ใกล้ๆกับดอกแก้ว
เทพไทตกใจ
"ดอกแก้ว"
กลุ่มควันเต็มไปหมด เทพไทมองหาดอกแก้วไม่เห็น ชาวบ้านแตกฮือหนีตายกันอลม่าน
เทพไทวิ่งฝ่ากลุ่มควันเข้าไปมองหาเห็นดอกแก้วทรุดตัวนั่งหลบอยู่ข้างๆกำแพงด้วยความกลัว
"ดอกแก้ว คุณเป็นอะไรหรือเปล่า"
ดอกแก้วตัวสั่นๆด้วยความกลัวพอเห็นว่าเป็นเทพไทก็โผเข้าหาด้วยความกลัว กอดเทพไทแน่น
ผู้คนวิ่งหลบผ่าน 2 คนที่อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันเหมือนโลกนี้มีเพียงกันและกัน เสียงทหารตะโกนดังลั่น
"ทุกคนรีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า"
ทหารต้อนคนให้ออกไปจากตลาด เทพไทได้สติรีบบอกกับดอกแก้ว
"เรารีบออกไปจากที่นี่ดีกว่าครับ"
เทพไทประคองดอกแก้วลุกออกไป เสียงปืนกลยิงรัวมาด้านหลัง เทพไทพาหลบมุมตึก ดอกแก้วหายจากอาการตื่นกลัวรู้ตัวว่ากระเป๋าถือใบเล็กหายไป
"กระเป๋า... ฉันทำ กระเป๋าตกตอนที่หลบระเบิด เดี๋ยวฉันมานะคะ"
ดอกแก้วจะย้อนกลับไป เทพไทดึงไว้ จับบ่าดอกแก้วดันให้ชิดผนัง
"เดี๋ยวผมไปเอาให้เอง คุณรอผมอยู่ที่นี่นะ อย่าออกไปไหน"
เทพไทละมือจากบ่าดอกแก้ววิ่งฝ่าคนกลับไปที่จุดเดิม มองเห็นกระเป๋าที่หล่นอยู่ ตรงเข้าหยิบ
ดอกแก้วแอบมองจากมุมตึก เทพไทหันมองที่ดอกแก้ว ยกมือที่ถือกระเป๋าให้ดู ว่ากระเป๋าอยู่ในมือแล้ว ดอกแก้วยิ้มดีใจ
เทพไทกำลังจะก้าวออกมา ระเบิดลงต่อหน้าเทพไท "ตูม" ฝุ่นควันฟุ้งตลบอบอวลไปทั่ว
ดอกแก้วมองตาค้างด้วยความตกใจสุดขีดตะโกนเรียกเทพไทสุดกำลังที่มีอยู่
ดอกแก้ววิ่งฝ่าผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปหาเทพไทที่นอนฟุบหน้าอยู่กับพื้น
"คุณเทพคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณเทพ"
เทพไทนอนนิ่งมือกำกระเป๋าอยู่ ดอกแก้วใจไม่ดีรีบเข้าไปจับเทพไทให้พลิกมา
ทันทีที่เทพไทพลิกตัวมาเห็นว่ามีเลือดที่ช่วงหน้าผากเลือดไหลอาบมาที่แก้ม ดอกแก้วตกใจ น้ำตาไหลเป็นห่วงเทพไทร้อนรน
"คุณเทพ คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ คุณเทพพูดกับฉันสิ คุณเทพ"
ดอกแก้วกอดเทพไทไว้แน่นด้วยความเสียใจ ร้องเรียกคนให้ช่วย
"ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ คนเจ็บอยู่ทางนี้ค่ะ"
ชาวบ้านเดินผ่านไปมาต่างก็ได้รับบาดเจ็บบ้างหนีตายบ้าง ดอกแก้วกอดเทพไทไว้ในอ้อมกอด น้ำตาไหล
อ่านต่อตอนที่ 16

กำลังโหลดความคิดเห็น