xs
xsm
sm
md
lg

รัตนาวดี ตอนที่ 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รัตนาวดี ตอนที่ 2

ท่านหญิงรัตนาวดีกับสร้อย พากันเดินมาตามทางเดินที่ไม่ค่อยมีคนแล้ว แสวงเดินอยู่ไกลๆ กับเจ้าหน้าที่สนามบิน รัตนาวดีมองเห็น

"ป้าคะ...นั้นคนเอเซียนี่คะ"
"จริงด้วยค่ะ คนไทยหรือเปล่า ป้าจะลองเรียกดูนะคะ"
สร้อยรีบวิ่งไป
"คุณคะ...คุณคะ"
ท่านหญิงรัตนาวดีรีบเดินตามมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง ทีแรก แสวงยังไม่ได้ยินจึงไม่ได้หันมา สร้อยมองรัตนวดีอย่างหมดหวัง
"ขอโทษค่ะ"
แสวงหันขวับมาทันที รัตนาวดีกับสร้อยดีใจมาก

แสวงพาท่านหญิงรัตนาวดีกับป้าสร้อยมาที่รถที่จอดอยู่ แสวงขนกระเป๋าใส่รถ "ท่านดนัย ท่านเสด็จไป สก็อตแลนด์ได้สองวันแล้วครับ"
สร้อยโมโห
"ทำไมท่านถึงมาลอยแพกันแบบนี้...ท่านนะท่าน แล้วบอกว่าเป็นพระญาติ...เชื่อใจกันได้"
รัตนาวดีหน้าเฉย ไม่พูดอะไรเลย ... แสวงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
"แต่ผมได้ยินท่านพูดถึงพระญาติที่จะมา ว่ายังไม่ได้บอกว่าจะมาแน่หรือเปล่า"
สร้อยเริ่มจะหนาวสั่น และ โมโหด้วย
"จะเป็นไปได้ยังไงกันคุณ...ท่านพี่ของท่านหญิงนะ หม่อมเจ้าพจน์ ปรีชา ท่านทรงเขียนจดหมายมาทูลท่านดนัยแล้ว"
แสวงยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อได้ยินชื่อท่านพจน์...พยายามแก้ตัวแทนนาย
"แต่ท่านดนัยได้รับสั่งไว้ว่าถ้ามีข่าวจากท่านพจน์ ให้รีบทูลท่านด่วน...ถ้าอย่างนั้นผมจะรีบส่งข่าวให้ท่านดนัยโดยเร็ว"

รัตนาวดีรีบห้ามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ไม่ต้องหรอกค่ะ....ไม่ต้องไปรบกวนท่านหรอก เรามีคนรู้จักอยู่ที่นี้ รบกวนคุณหาที่อยู่ให้ฉันกับ
ป้าสร้อยก็พอ"
แสวงพยายามยิ้มแย้ม...นึกรู้ว่ารัตนาวดีไม่พอใจ
"เรื่องนั้นไม่ยากเลยกระหม่อม สถานทูตมีห้องรับรองที่โรงแรมแลนด์มาร์ก และก็ไม่ไกลจากสถานฑูตมากนักกระหม่อม"
ป้าสร้อยหันไปยิ้มให้รัตนาวดี

รถแสวงวิ่งมาตามถนนในลอนดอน ก่อนเข้ามาจอดหน้าโรงแรมแลนด์มาร์กลอนดอน แสวงลงจากรถเปิดท้ายยกกระเป๋าออกมา รัตนาวดี ป้าสร้อยลงจากรถ ป้าสร้อยเจออากาศหนาวถึงกับปากสั่น
"ห้องพักท่านหญิงอยู่ชั้นสามกระหม่อม"
"ขอบคุณคุณแสวงมากนะคะ...ถ้าคุณแสวงไม่บังเอิญไปที่สนามบินฉันกับป้าสร้อยคงแย่"
"กระหม่อมมีหน้าที่ต้องประสานกับสนามบินกระหม่อม ต้องไปแทบทุกวัน คุณสร้อยหนาวมากเหรอครับ"
แสวงเห็นสร้อยยืนหนาวตัวสั่น ก็ถามอย่างเป็นห่วง
"ไหนท่านพจน์ว่าเรามาเที่ยวตอนนี้อากาศไม่หนาว...ป้าว่าหนาวมากเลยนะเพคะ ท่านหญิง"
"อากาศอย่างนี้ที่นี่ว่าเป็นหน้าร้อนนะครับคุณสร้อย ถ้าเสด็จหน้าหนาวละก็จะหนาวกว่านี้มาก"
สร้อยทำท่าจะเป็นลม
"โอย…ถ้าหนาวขนาดนั้นป้าตายแน่"
แสวงเดินหิ้วกระเป๋านำรัตนาวดีกับป้าสร้อยเข้าไปในโรงแรม

แสวงเดินนำรัตนาวดีกับสร้อยเข้ามาที่ล็อบบี้โรงแรม แสวงเดินไปที่เคานเตอร์เพื่อขอกุญแจห้อง รัตนาวดีกับสร้อยดูความสวยงามของโรงแรม

แสวงเปิดประตูเข้ามาที่ห้องรับแขก ป้าสร้อยมองห้องอย่างพอใจ
"ท่านหญิงต้องการเสด็จไปดูรอบๆ ไหม…กระหม่อมจะพาไป..ถ้าจะทรงไปเสวยอาหารเย็นกระหม่อมยินดีพาเสด็จ"
"ไม่ละค่ะ...ฉันอยากจะพัก เดี๋ยวสั่งอาหารเย็นของโรงแรมขึ้นมาทานกับป้าสร้อยบนห้องนี้ดีกว่าคะ"
"เอ้อ…ท่านหญิงแน่พระทัยที่จะไม่ให้ทูลท่านดนัยหรือกระหม่อม"
"แน่ที่สุด...อย่าไปรบกวนท่านเลยค่ะ"
"วันนี้กระหม่อมทูลลา...หากมีอะไรจะให้สถานฑูตรับรอง ท่านหญิงโทรไปได้ตลอดเวลา"
แสวงโค้งคำนับและเดินออกไป รัตนาวดีมองตามสีหน้าเรียบเฉย

หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดีเปิดประตูห้องนอนเข้ามา สีหน้าพอใจ
"ห้องพักที่นี่ดีใช้ได้เลยนะคะ"
"แหม…ก็ระดับสถานทูตยังใช้รับรองแขกนี่คะท่านหญิง"

ท่านหญิงรัตนาวดีเปิดประตูออกไปดูที่ระเบียงเห็นวิวของลอนดอน มีลมพัดมา เธอยิ้มรับกับสายลมอย่างมีความสุข สร้อยกำลังจัดกระเป๋าวุ่นวาย
"กลับเข้ามาดีกว่าเพคะ...ประทับอย่างนั้นนะหนาวจะแย่ เพิ่งมาถึงนะเพคะ ยังไม่ทันปรับตัวเดี๋ยวจะไม่สบายซะก่อน"
รัตนาวดีเดินเข้ามา ปิดประตูระเบียง
ป้ายังไม่ต้องจัดของหรอกค่ะ...ทานข้าวก่อนแล้วค่อยจัดก็ได้"
"ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันอยากได้ถุงเท้าคู่ยาวๆ มาสวมทับ"

ป้าสร้อยจัดของวุ่นวาย รัตนาวดีหาเอกสารและเดินไปที่โทรศัพท์ที่ห้องรับแขกหมุนหมายเลขตามเบอร์ที่จดมา....

ป้าสร้อยหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้อง ยกกระเป๋าวางบนเตียง เปิดกระเป๋าค้นหาถุงเท้า ระหว่างนั้นจะได้ยินเสียงรัตนาวดีคุยโทรศัพท์
 
"สวัสดีนพ....หญิงมาถึงแล้ว ดีจ๊ะๆ หญิงคิดถึงวิมลมากเลย... คุณนพจดที่อยู่หญิงไว้นะ"

เวลาต่อมา สร้อยเดินออกมาจากห้องพัก แต่งตัวด้วยชุดกันหนาวเต็มที่จนรัตนาวดีขำ ในมือก็ถือหนังสือ ไกลบ้าน มาด้วย
"ป้าหนาวมากเหรอคะ"
"หนาวสิเพคะ....ท่านหญิงก็ควรจะเปลี่ยนเป็นชุดหนาๆ ดีกว่านะเพคะ"
"หนังสืออะไรคะนั่น"
สร้อยอวดอย่างภูมิใจ
"พระราชนิพนธ์ ไกลบ้านเพคะ...หม่อมฉันเอามาด้วยจะได้ไปเที่ยวตามที่พระพุทธเจ้าหลวงเคยเสด็จ"
"แต่หญิงว่าบางแห่งอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ค่ะ"
"ก็ไม่เป็นไรเพคะ...อย่างน้อยเราก็ได้ชื่อว่าตามทางเสด็จในพระองค์ท่าน...แค่นี้ป้าก็ว่าบุญนักหนาแล้ว"
ทั้งสองคนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"สั่งอาหารทานกันดีกว่าค่ะ...จะได้รีบนอน พรุ่งนี้คุณนพจะมานำเที่ยว..ไม่ต้องรอพระญาติของท่านพี่"
"ท่านหญิงเพคะ..อย่าทรงกริ้วท่านดนัยเลย...ท่านอาจจะทรงมีความจำเป็น"
รัตนาวดีตัดบท
"หญิงไม่อยากพูดเรื่องนี้ค่ะ"
ป้าสร้อยมองรัตนาวดีอย่างรู้ใจว่าโกธรท่านชายดนัยวัฒนา

ท่านชายดนัยวัฒนาไปตกปลาอย่างมีความสุข

ใน Kew Garden รัตนาวดี หยุดชมกับดอกไม้สวยๆ ท่านหญิงรัตนาวดี พาสร้อย ที่สนุก แต่ท่าทางเริ่มเหนื่อยมานั่งพัก
"เหนื่อยแล้วใช่ไหมคะป้า"
"นิดหน่อยเพคะ...ต้นไม้ที่นี่สวยเหลือเกินจนหม่อมฉันลืมเหนื่อยเลยเพคะ"

นพรินเครื่องดื่มอุ่นๆ ที่เตรียมมาออกมาแจก
"โกโก้ท่านหญิง"
"ขอบใจจ้ะ"
นพส่งให้ป้าสร้อยด้วย
"ของคุณสร้อยครับ"
"รอบคอบจริงพ่อนพ...อุตส่าห์หอบมาด้วย"
"เสียดายจริงๆเลยที่วิมลมาด้วยไม่ได้"
"เห็นว่ากำลังสลับเปลี่ยนเวรกันให้วุ่นอยู่ครับ"
รัตนาวดีมองไปรอบๆ
"สวนนี้มีต้นไม้แปลกๆ เยอะมากนะคุณนพ"
"นั่นซิเพคะ...ป้าไม่เคยเห็นสวนกระจกที่ไหนใหญ่เท่าที่นี่เลย...เค้าคงจะปลูกกันมานานแล้วนะตานพ" สร้อยว่า
"สมัยก่อนสวนคิวเป็นของราชวงศ์ สมัยที่อังกฤษออกล่าอาณานิคม...ไม่ได้เอาแต่ทรัพย์สมบัติมาเท่านั้น..แต่เอาพันธุ์ไม้แปลก ๆ กลับมาด้วย"
"เอามารวมไว้ที่นี่"
"ใช่กระหม่อม..เซอร์ โจเซฟ แบงค์ เดินทางไปกับเรือของกัปตัน เจมส์ คุก ไปรอบโลก เก็บพันธุ์ไม้ต่างๆ กลับมากลายเป็นสวน คิว แห่งนี้กระหม่อม"
"แหม…ตานพนี่รู้เรื่องราวดีจริง...อย่างนี้น่าจะตามเสด็จ ท่านหญิงไปตลอดก็จะดีนะ"
"ผมก็รู้ไม่มากหรอกครับคุณสร้อย...เฉพาะที่อังกฤษนี่เท่านั้น ประเทศอื่นๆ ก็ไม่รู้หรอกครับ...ถ้าผมไม่กำลังจะสอบก็ยินดีตามเสด็จท่านหญิงครับ"
รัตนาวดีโบกมือยิ้มๆ
"อย่าวิตกไปเลยคุณนพ...หญิงคิดว่าพอจะค้นจากหนังสือและเอกสารเอาได้บ้าง...หญิงก็หาข้อมูลมาหลายที่ค่ะป้า ยังไงหญิงก็จะหาทางพาป้าไปเที่ยวจนได้"
"หม่อมฉันว่าท่านหญิงน่าจะทรงรอท่านดนัยก่อนนะเพคะ อีกไม่กี่วันก็คงเสด็จกลับ"
"อย่าไปรบกวนท่านชายเลยค่ะ..ในเมื่อคนที่หญิงคิดจะพึ่งพาเค้าไม่อยากอยู่ให้เราพึ่ง...เราก็ต้องพึ่งตัวเอง"
สร้อยมองหน้ากับนพ...

วันใหม่ รัตนาวดีเดินไปตามที่ต่างๆในลอนดอน ทั้งสามสนุกมาก เดินบนสะพานข้ามแม่น้ำเห็นที่ทำการรัฐสภา เดินหน้าตึกโบราณสวยๆ หน้าพิพิธภัณฑ์.....

มาเรียกำลังทำความสะอาดบ้านไป กินขนมไปอย่างมีความสุข ปากก็ร้องเพลงไปด้วย ขนม
ร่วงจากมือ มาเรียพยายามคว้า แต่คว้าไม่ทัน ขนมตกไปที่พื้น มาเรียรีบก้มลงเก็บ จึงเหลือบไปเห็นจดหมายของท่านชายพจน์ ปรีชาที่ตกอยู่ใต้โต๊ะ มาเรียหยิบจดหมายออกมาดู พอเห็นจ่าหน้า ก็สีหน้าตกใจ
"Oh my god!"

มาเรียรีบใส่เสื้อคลุมคว้ากระเป๋าแล้วรีบออกจากบ้านไป สักครู่กลับเข้ามาใหม่ มาคว้ากระดาษที่ท่านดนัยเขียนที่อยู่ไว้ให้ใส่กระเป๋าไปด้วย
 
อ่านต่อหน้า 2

รัตนาวดี ตอนที่ 2 (ต่อ)

ลำธารกลางทุ่ง เช้าวันใหม่ หม่อมเจ้าดนัยวัฒนาตกปลาอย่างมีความสุข เด็กส่งเอกสารขี่จักรยานเมาหาอย่างรวดเร็ว
 
เสียงกริ่งจักรยานดังมาแต่ไกล....ท่านชายหันไปมองอย่างสนใจ เห็นเด็กส่งเอกสารลงจากจักรยานวิ่งมาหา ท่านชายดมองอย่างแปลกใจ....

ห้องนอนที่อพาร์ทเม้นท์ แสวงนอนหลับบนเตียง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้ง แสวงงัวเงียลุกขึ้นรับโทรศัพท์หัวเตียง
"กระหม่อมแสวงพูดกระหม่อม"
"ท่านหญิงเสด็จมาถึงแล้วใช่ไหม"
"มาถึงเรียบร้อยแล้วหม่อม...กระหม่อมให้พักที่บ้านรับรองของสถานทูตเราหม่อม...มีเพื่อนมาพาเสด็จไปเที่ยวหม่อม"
"ขอบใจมากนะ...ฝากดูแลท่านหญิงด้วย ฉันจะกลับอีกสองสามวัน"
"ไม่ต้องทรงห่วงหม่อม...ท่านชายทรงพักผ่อนให้สบาย กระหม่อมจะดูแลท่านหญิงเอง"
"ฉันจะส่งโทรเลขไปถึงคุณแสวง ฝากเอาไปถวายท่านหญิงด้วย"
"กระหม่อมจะจัดการให้"

หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดี และสร้อย นั่งทานเครื่องดื่ม กับ ขนมที่ร้านกาแฟน่ารักริมทาง
"ถ้าหญิงทานขนมอย่างนี้ทุกวัน...หญิงต้องอ้วนแน่ๆ"
"อย่าทรงคิดมากเพคะ เราทานแล้วก็เดิน เดิน เดิน…ไม่อ้วนหรอกเพคะ"
รัตนาวดีมองสร้อยอย่างรัก
"ดีจริงๆ ที่ป้ามากับหญิง ไม่อย่างนั้น หญิงคงหง่าวแย่... แล้วนี่ป้าไม่คิดถึงอาหารไทย ขนมไทยบ้างเหรอจ้ะ...อยู่ที่วังเห็นทานทั้งวัน"
"ไม่เลยเพคะ...ป้ากำลังตื่นของฝรั่ง...ยังไม่คิดถึงอาหารไทยซักนิด"
"ก็ดีคะ เพราะพรุ่งนี้ วิมล กับ คุณนพจะพาไปหาร้านอร่อยๆกิน ดีกว่าทานแต่ร้านใกล้โรงแรมน่าเบื่อ"
"เอ….ถ้าท่านหญิงมีเพื่อนตามเสด็จแล้ว พรุ่งนี้หม่อมฉันว่าจะขอนอนพักได้ไหมเพคะ"
"อ้าว…ไหนคุยว่าเก่ง...ไปไม่ไหวละซิคะ"
"ท่านหญิงก็...ไม่ใช่เพคะ หม่อมฉันจะนอนอ่านไกลบ้าน...ว่าจะวางแผนไปตามเสด็จไงเพคะ...หม่อมฉันต้องไปดูให้ได้"
ประพัทธ์เดินมากับเพื่อนเป็นผู้หญิงท่าทางดี ประพัทธ์หันมาเห็นรัตนาวดี
"ท่านหญิง"
ท่านหญิงรัตนาวดีหันไปเห็นประพัทธ์ก็ดีใจ
"คุณประพัทธ์"

ประพัทธ์ทิ้งเพื่อนรีบเดินมานั่งที่โต๊ะรัตนาวดี โดยไม่สนใจป้าสร้อย
"เสด็จมาเมื่อไหร่...ทำไมไม่ติดต่อกระหม่อมล่ะ...หม่อมเคยให้ที่อยู่ไว้แล้วนี่"
"เพิ่งมาถึงไม่กี่วันค่ะ"
"ท่านหญิงเสด็จมากับใคร"
สร้อยแอบเหล่
"มากับป้าสร้อย"
รัตนาวดีผายมือให้ประพัทธ์หันไปมอง ประพัทธ์ยิ้มๆ พยักหน้าให้สร้อยเท่านั้น
"กระหม่อมขอดูแลท่านหญิงเอง....มาอยู่เกือบปีก็พอจะรู้จักหลายที่แล้ว"
"หญิงมีเพื่อนหลายคนที่นี่...คงไม่ต้องรบกวนหรอกค่ะ"
"ทำไมท่านหญิงพูด เอ้อ...ตรัสอย่างนั้น..รู้ไหมว่า กระหม่อมดีใจมากแค่ไหนที่ได้พบท่านหญิง"
ประพัทธ์มองรัตนาวดีอย่างมีความหมาย สร้อยแอบค้อน เพื่อนสาวของประพัทธ์ที่มาด้วยยืนเก้อ ประพัทธ์หันมามอง
"จูน…นี่ท่านหญิงรัตนาวดี ท่านเป็นรุ่นน้องที่มหาลัย นี่เพื่อนของกระหม่อมเรียนที่เดียวกัน...มารู้จักกันที่นี่"
"ยินดีที่รู้จักค่ะ...เชิญนั่งด้วยกันสิคะ"
จูนมองประพัทธ์อย่างน้อยใจหน่อยๆ
"เอ้อ…ไม่เป็นไรค่ะ...พอดีเราจะรีบไปซื้อของกัน"
"งั้นจูนไปซื้อของก็ได้นะ...เดี๋ยวพี่ขออยู่คุยกับท่านหญิงก่อน"
จูนตกใจกับคำพูดของประพัทธ์...เดินหน้าคว่ำออกไป
"ดีจังมีเพื่อนนักเรียนไทยหลายคนไหมคะ"
"ก็มีไม่กี่คนแหล่ะหม่อม...แต่ใจจริงหม่อมชอบเพื่อนฝรั่งมากกว่า ภาษาเราจะได้คล่องเร็วๆ"
สร้อยมองประพัทธ์อย่างพิจารณา

บริเวณทางเดินสวยๆ ในลอนดอน ประพัทธ์ถือของให้รัตนาวดี แต่ไม่ถือให้สร้อย
"ท่านหญิงพักที่ไหนหม่อม"
"ห้องพักรับรองสถานฑูตที่โรงแรมแลนด์มาร์กคะ"
"แล้วไม่มีใครมาดูแล....เอาอย่างที่ดีกว่านั้น...ความจริงอพาร์ทเมนต์หม่อมก็กว้างขวาง"
สร้อยเริ่มทนไม่ไหว
"อย่าเลยค่ะคุณ...มันไม่เหมาะกับท่านหญิง..ห้องรับรองที่เราอยู่เป็นโรงแรม สะดวก สบายดีแล้วนะ"
ประพัทธ์เห็นสร้อยเสียงแข็งก็พยายามเอาใจ
"อ้อ..ครับ"
"แล้วเพื่อนคุณหายไปไหนคะ...ปล่อยเค้าไปอย่างนั้นเค้าจะไม่โกรธเอาเหรอ"
"ช่างเค้าเถอะครับ...เอ้อ...ท่านหญิงไม่เคยพูดถึงป้าสร้อยให้ผมฟังเลยหม่อม"
รัตนาวดีจะตอบ แต่สร้อยชิงพูดก่อน
"แปลว่าคุณไม่ใช่เพื่อนสนิทท่านหญิง เพราะเพื่อนสนิทท่านหญิงทุกคนจะต้องรู้จักป้าสร้อย...ท่านหญิงเพคะ หม่อมฉันว่าเรากลับกันดีกว่า...ป้ารู้สึกอยากจะพักแล้ว"
"ดีเหมือนกันค่ะ...หญิงอยากเขียนจดหมายไปหาเจ้าพี่ด้วย"
"ถ้าอย่างนั้นกระหม่อมขอไปส่งท่านหญิง กับป้าสร้อยนะหม่อม"
"ไม่ต้อง...กลับไปหาเพื่อนเถอะจ้ะ...ฉันกับท่านหญิงกลับกันเองได้"
"ขอให้ผมได้รับใช้ท่านหญิงกับป้าสร้อยเถอะนะครับ...จะได้ช่วยอำนวยความสะดวกเล็ก ๆ น้อยๆ เวลาเพื่อนท่านหญิงไม่ว่างไง..."

รัตนาวดีเห็นท่าทางจริงใจของประพัทธ์ก็ยิ้มๆ...ประพัทธ์เอาของในมือสร้อยไปถือให้ด้วยท่าทางที่ดีกว่าเดิม

ประพัทธ์ถือของเดินเข้ามองสภาพของโรงแรมแล้วตกใจในความใหญ่โต

"โรงแรมใหญ่โตดีกว่าที่หม่อมคิดไว้อีก"
ท่านหญิงรัตนาวดีกับป้าสร้อยฟังแล้วก็อมยิ้ม แสวงเดินเข้ามาหา ถือจดหมายมาด้วย แสวงมายืนโค้งคำนับให้รัตนาวดี
"ท่านหญิงหม่อม"
รัตนาวดีหันไปเห็นแสวงก็ยิ้มอย่างดีใจ
"อ้าว…คุณแสวง"
แสวงหันไปไหว้สร้อย
"สวัสดีครับคุณสร้อย...กระหม่อมมีจดหมายให้ท่านหญิง"
แสวงยื่นจดหมายให้ รัตนาวดีรับมา
"จดหมายใครคะ"
"เป็นโทรเลขจากท่านดนัยหม่อม ส่งมาที่สถานทูต ให้นำมาถวายท่านหญิง"
รัตนาวดีเก็บจดหมายใส่กระเป๋า พยายามซ่อนสีหน้าที่ไม่พอใจ....สร้อยแก้สถานการณ์
"คุณแสวง...สถานทูตเราไปทางไหนนะคะ...ป้าว่าจะแวะไปเยี่ยมไปขออะไรที่เป็นของไทยๆทานบ้าง"
แสวงชี้มืออธิบาย
"คุณสร้อยต้องเดินไปอีกสองซอยครับ ก็จะเห็นสถานทูตทางซ้ายมือ แต่ตอนนี้คนทำอาหารไทยไม่อยู่ครับ"
"ที่สถานทูตมีแม่ครัวคนไทยเหรอจ้ะ"
"ไม่ใช่คนของสถานทูตหรอกครับ เป็นคนของท่านดนัย ชื่อนายเล็กทำอาหารไทยเก่งมาก...ใครทานต้องติดใจ... เวลาสถานทูตมีงาน ท่านดนัยจะประทานนายเล็กไปช่วยทำอาหารไทยเลี้ยงแขก... คุณสร้อยไปที่ประทับท่านดนัยก็ได้ครับ...อยู่ด้านหลังโรงแรมนี่เอง สังเกตง่าย""ขอบคุณมากค่ะ" รัตนวดีบอก
แสวงโค้งรัตนาวดี หันไปไหว้ลา สร้อยแล้วเดินออกไป สร้อยมองหน้าประพัทธ์ ประพัทธ์ไม่สนใจ ทำท่าจะพูดกับรัตนาวดี แต่โดนรัตนาวดีตัดบท
"ขอบคุณ คุณประพัทธ์มากค่ะ...แล้วค่อยเจอกัน"
"กระหม่อมจะมาใหม่พรุ่งนี้"
"พรุ่งนี้หญิงมีเพื่อนมาหาค่ะ...เรานัดกันไว้แล้ว...คงไม่รบกวนคุณประพัทธ์"
"ตรัสรบกวนอีกแล้ว...รบกวนที่ไหนกัน"
"คุณประพัทธ์จ้ะ...รับสั่งอย่างนั้นคือไม่ต้องจ้ะ ขอตัวก่อนนะจ้ะ แล้วค่อยเจอกัน เด็จเถอะเพคะท่านหญิง"

ประพัทธ์ยืนหน้าเสีย รัตนาวดีอดสงสารไม่ได้
"เอาไว้มะรืนก็แล้วกันค่ะ...หญิงจะให้คุณประพัทธ์พาเที่ยว"
ประพัทธ์ดีใจหน้าบาน สร้อยแอบค้อน...

ท่านหญิงรัตนาวดีกับสร้อย เปิดประตูห้องพักเข้ามา ทั้งสองเอาถุงที่ไป shopping มาเอามาวางไว้ที่ห้องกลาง
"ท่านหญิงเพคะ...หม่อมฉันไม่ค่อยชอบหน้านายประพัทธ์นี่เลย...ท่านหญิงไม่น่าทรงอนุญาตให้เขามาพาเราไปเที่ยวนะเพคะ"
รัตนาวดียิ้ม
"ทีแรกหญิงก็คิดจะปฏิเสธเขาค่ะ...แต่มาคิดดูว่า วิมล กับ คุณนพคงจะไม่ค่อยว่างพาเราไปเที่ยว... มีเขามาพาไปบ้างก็ดีเหมือนกัน"
"โธ่…เราก็ไปกันสองคนก็ได้เพคะ...อีกไม่กี่วันท่านพี่ก็เสด็จกลับ"
รัตนาวดีหยุดยิ้ม
"หญิงว่าป้าหยุดหวังกับท่านดนัยดีกว่าค่ะ...ถ้าจะเสด็จมาก็คงมาแล้ว นี่เราก็มาอยู่สามสี่วันแล้ว...ยังไม่ได้เห็นพักตร์ท่านดนัยเลย ถึงประพัทธ์จะน่าเบื่ออยู่บ้างแต่เขาก็เต็มใจที่จะดูแลเราหญิงถือว่าเค้ามีน้ำใจดีกับเราค่ะ"
รัตนาวดีพูดแล้วก็เดินเข้าห้องนอนไป สร้อยกลุ้ม

รัตนาวดีถอดเสื้อคลุม แล้ววางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ นึกขึ้นมาได้ หยิบจดหมายท่านดนัยในกระเป้าออกมาอ่าน
"น้องหญิงรัตนาวดี พี่ต้องขอโทษเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ไปรับที่สนามบินตามที่ได้สัญญาไว้...เกิดการผิดพลาดในการรับจดหมายจากท่านพี่พจน์ อย่างไรอย่างหนึ่ง... ทางสถานทูตได้แจ้งให้พี่ทราบว่าได้จัดหาที่ประทับให้ได้แล้ว...ซึ่งหากน้องหญิงไม่ใคร่สะดวกกับห้องพักที่ทางสถานทูตได้จัดให้ โปรดบอกแสวงได้ทันที พี่ได้กำชับให้แสวงทำตามพระประสงค์ทุกประการในระหว่างพี่ยังไม่กลับและหากทรงประสงค์สิ่งใดเพิ่มเติม โปรดรับสั่งกับแสวงได้ทุกอย่างจากพี่ ……. ดนัย"
รัตนาวดีอ่านจดหมายจบ เม้มปากนิ่ง หยิบกระดาษ และ ปากกาออกมาเขียนจดหมาย
"ทูลเจ้าพี่ทรงทราบ.....หญิงมาอยู่ลอนดอนได้หลายวันแล้ว"

รัตนาวดีเงยหน้ามองไปข้างหน้าเห็นวิวของลอนดอนตอนกลางคืนผ่านระเบียงห้อง
 
อ่านต่อหน้า 3

รัตนาวดี ตอนที่ 2 (ต่อ)

เช้าวันใหม่ หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดีเปิดประตูห้องนอนออกมา แต่งชุดใหม่สวย มือถือซองจดหมาย

ที่ห้องกลาง สร้อยนั่งคุยอยู่กับนพ และวิมล พอรัตนาวดีเห็นวิมลก็ดีใจมาก
"วิมล"
วิมลรีบลุกขึ้นก้มลงไหว้ต่ำอย่างนอบน้อม รัตนาวดีตรงเข้าสวมกอด
"คิดถึงจริงๆ"
"หม่อมฉันก็คิดถึงท่านหญิงมากเพคะ"
"มานานแล้วเหรอจ้ะ"
"มาได้ครู่เดียวเพคะ...หม่อมฉันเห็นท่านหญิงปิดประตูเงียบ เลยไม่กล้ารบกวนเกรงจะทรงพักผ่อนเพคะ"
"จะเอาจดหมายนี่ไปทิ้งที่ไหนได้"
วิมลรับจดหมายมา
"ให้คุณนพไปจัดการให้ก็ได้...เค้าไปส่งจดหมายบ่อยๆ"
วิมลส่งจดหมายให้นพ
"ถึงวังศิลาขาวแน่ๆท่านหญิง"
"อยากให้วิมลมาอยู่ด้วยกันหลายๆ วันจังเลย"
วิมลทำหน้าละห้อย
"หม่อมฉันก็อยากมาใจจะขาด...แต่เรียนหนักเหลือเกิน แล้วก็ต้องฝึกงานที่โรงพยาบาลวันละสี่ชั่วโมง นี่หม่อมฉันได้หยุดสองวันเลยรีบมาเฝ้าท่านหญิงเพคะ"
"งานหนักมากเหรอ...มิน่า..วิมลดูซูบๆ ไปนะ"
"น้ำหนักหม่อมฉันลงไปหลายปอนด์เลยเพคะ"
"ฉันอยากทำบ้างจัง...จะได้ผอมๆ...ตั้งแต่มาที่นี่ได้แต่กิน กิน กินจนจะอ้วนแล้ว"
"อ้วนอะไรกันเพคะ...ถ้าท่านหญิงต้องทรงงานแบบวิมล หม่อมฉันว่าบั้นพระองค์ได้ขาดกันพอดี"
รัตนาวดีหัวเราะกับวิมล
"ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่า...ป้าไม่เปลี่ยนใจไปกับหญิงเหรอคะ"
"ไม่ละเพคะ...ให้หนุ่มๆ สาวๆ ไปเที่ยวกันดีกว่า...ท่านหญิงไม่ต้องทรงห่วง...หม่อมฉันมีผลไม้ กับขนมที่ซื้อมาตั้งเยอะ แม่วิมลน่ะ อย่าพาท่านหญิงกลับดึกนักนะจ้ะ"
วิมลหันไปยิ้มกับรัตนาวดี
"ค่ะคุณสร้อย...แต่ก็ต้องแล้วแต่ท่านหญิงนะคะ"
สร้อยยิ้มๆ แต่ส่งสายตาเข้มกับท่านหญิง
"ไม่กลับดึกหรอกจ้ะ"
รัตนาวดีหัวเราะสนุก ออกไปกับวิมล และนพ สร้อยเดินมาหยิบหนังสือไกลบ้าน ไปตั้งท่านอนอ่านที่เก้าอี้สบาย

ทั้งสามคน ท่องเที่ยวใน Stonehenge พระราชวังแฮมป์ตัน และ Blenheim Palace ตลอดจนอื่นๆ ตลอดทั้งวัน

ภายในห้องทำงานของท่านชายพจน์ ที่วังศิลาขาว ทรงนั่งอ่านจดหมายของรัตนาวดี อยู่ในห้องทำงานด้วยท่าทางสบายๆ มีโคมไฟสวยๆ
"ทูลเจ้าพี่ทรงทราบ...หญิงมาอยู่ลอนดอนได้หลายวันแล้ว เพิ่งจะได้โอกาสเขียนจดหมายมาทูลเจ้าพี่..ป้าสร้อยเก่งมาก ปรับตัวเก่งทุกเรื่อง…หญิงจะต้องเขียนจดหมายไปกราบทูลขอบพระทัยเสด็จอาที่รับสั่งให้หญิงพาป้าสร้อยมาด้วย ไม่เช่นนั้นหญิงคงจะต้องเคว้งจนแทบจะร้องไห้แน่ๆ....เพราะท่านดนัยของเจ้าพี่ไม่ได้ความเลย ไม่ได้มารับเราที่สนามบินตามคำขอร้องของเจ้าพี่สักหน่อย...ดีว่าได้เจ้าหน้าที่สถานทูตช่วยจัดการเรื่องที่พักให้เรา ตอนนี้หญิงจึงไปเที่ยวสนุกันเองโดยไม่ต้องมีท่านดนัยของเจ้าพี่มาช่วยเหลือใดๆ"

"หญิงกับ ป้าสร้อยจึงเก่งกาจขนาดว่าขึ้นรถเมล์ไปตามที่ต่างๆ ในลอนดอนกันเอง"
ท่านหญิงรัตนาวดีกางแผนที่ เดินไปตามแผนที่กับ สร้อย สร้อยหนาวเวลามีลมพัดมาจนตัวสั่น รัตนาวดีต้องกอดไว้ บนรถเมล์สองชั้นไม่มีหลังคาชมวิวตอนกลางคืนในลอนดอน
"หญิงได้พบวิมลกับคุณนพ น้องชายคุณอานนท์แล้ว เขาพาไปเที่ยวสวนคิว กับ อีกหลายแห่ง....หญิงยังได้พบคุณประพัทธ์ รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยโดยบังเอิญ และยังมาพาหญิงไปเที่ยวด้วย
ป้าไม่ค่อยถูกชะตาคุณประพัทธ์สักเท่าไหร่"

สร้อยพยายามแทรกตรงกลางระหว่างรัตนาวดีกับประพัทธ์ ประพัทธ์แอบทำหน้าไม่พอใจนิดหน่อย

"วิมลก้บคุณนพก็เรียนหนัก..หาเวลาไปกับหญิงยาก ถ้าไม่ไปเที่ยวกับป้าสองคน ก็มีแต่คุณประพัทธ์ที่อาสาพาเราเที่ยว ป้าก็บ่นแต่จะให้รอท่านดนัย...แต่หญิงว่าคนที่เค้าเต็มใจจะมาดูแลเรา ถึงเราจะไม่พอใจซะทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าคนที่เราหวังพึ่งพิงแต่เขากลับไม่มาให้เราเห็นซะด้วยซ้ำ"

ท่านชายพจน์นั่งอ่านจดหมาย
"คนที่สถานทูตเอาจดหมายท่านดนัยมาให้หญิง ท่านดนัยของเจ้าพี่ขอโทษที่ไม่ได้ไปรับ เวลานี้อยู่สก็อตแลนด์ ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตมาคอยดูแลถ้าหญิงต้องการอะไร... เจ้าพี่ไม่ต้องทรงเป็นห่วงน้องของเจ้าพี่นะเพคะ...แหม.. หญิงเจ็บใจท่านดนัยจริงๆ ที่เจ็บใจมากเห็นจะเป็นเพราะหวังมากนั่นเอง หญิงรู้สึกเคว้งคว้างอย่างบอกไม่ถูกที่โดนทิ้งอยู่สนามบิน เกิดมาก็เพิ่งออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก ยอมรับว่าตอนนั้นกลัวเหลือเกิน....ไม่นึกเลยว่า ท่านดนัยจะทัยดำถึงเพียงนี้...ยิ่งเขียนยิ่งเดือดท่านดนัย ฝากความระลึกถึงคุณปริศนา และ จูบหลานแฝดประทานด้วย...คิดถึงเหลือเกิน......... รัตนาวดี"

ท่านชายพจน์เก็บจดหมายเข้าซอง เดินไปเอาเก็บในลิ้นชัก สีหน้าไม่สบายใจ

วันใหม่ หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดี กับ สร้อยเดินไปตามทางหลังโรงแรมจะไปบ้านท่านชายดนัยวัฒนา

"แหม…หม่อมฉันดีใจจริงๆ ที่ท่านหญิงตัดสินพระทัยมาหาท่านพี่ถึงท่านจะเคยผิดนัดเรา...แต่หม่อมฉันว่าต้องมีการคลาดเคลื่อนอะไรบางอย่างนะเพคะ...ยังไงๆ ท่านชายก็เป็นพระญาติ ไว้ใจได้มากกว่าคนอื่นแน่ๆ"
รัตนาวดีสีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบ
"ป่านนี้อาจจะเสด็จกลับมาแล้วก็ได้...แหมอยากเฝ้าท่านจริงๆ"
"หญิงแค่จะมาฝากจดหมายไว้เท่านั้นนะคะ"
"โธ่…ท่านหญิง อย่างทรงน้อยพระทัยอีกเลยเพคะ"
"หญิงไม่ได้น้อยใจค่ะ....แต่หญิงโกรธ"
รัตนาวดีพูดเรียบๆ สร้อยรู้ว่าเอาจริงแน่ ก็ไม่กล้าขัดอีก มาเรียถือตะกร้าจ่ายตลาดเดินสวนผ่านไป มาเรีย มองรัตนาวดีอย่างทึ่ง สร้อยก็ยิ้มกับมาเรีย
"Hi….good morning…"
"Good morning…."
มาเรียยิ้มให้อย่างพอใจแล้วก็เดินไป รัตนาวดีขำป้าสร้อย
"พูดภาษาอังกฤษซะด้วย"

สร้อยทำท่าภูมิใจ
"จะว่าหม่อมฉันคุย...คุณนพกับวิมลสอนไห้หลายคำเพคะกลับไปบ้านเมื่อไหร่ จะแกล้งด่าแม่พวกข้าหลวงเป็นภาษาฝรั่งซะหน่อย…จะได้ไม่รู้เรื่อง...ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า"
สร้อยพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจเองอย่างมีความสุข...

ท่านชายดนัยวัฒนาอยู่ในครัว ผูกผ้ากันเปื้อนกำลังหั่นเนื้อ หันผัก เปิดตู้เย็นหยิบของวุ่นวายอย่างรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ก้มๆ เงยๆ หาของ เอาหม้อขึ้นตั้งไฟ....

รัตนาวดีกับสร้อย เดินหาบ้านท่านดนัย สร้อยเริ่มเหนื่อยก็บ่น
"ไหนคุณแสวงบอกว่าหาง่าย...ไม่เห็นเจอซักทีเพคะ"
ป้าสร้อยบ่นตุปัดตุป่อง รัตนาวดีหันไปเห็นบ้านที่มีป้ายชื่อท่านดนัยที่หน้าบ้าน รัตนาวดีเดินตรงเข้าไป ป้าสร้อยรีบตาม
"ท่านหญิง."
รัตนาวดีเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน
"หลังนี้เหรอเพคะ"

ท่านดนัยกำลังผัดกับข้าว ได้ยินเสียงกริ่งเรียกหน้าบ้าน แล้วรีบเดินออกมาเปิดประตูบ้านทันที
เห็นรัตนาวดียืนอยู่ ตะลึงที่เห็นที่หลงรักในทันที รัตนาวดีมอง ท่านดนัยนิ่งนิดหนึ่งแล้ เห็นรอยยิ้มรัตนาวดี รู้สึกหลงใหลเหมือนโลกหยุดหมุน รัตนาวดีมองเข้าไปข้างในเหมือนมองหาผู้เป็นเจ้าของบ้าน..ก่อนที่พูด
ท่านดนัยอึ้งไปพูดไม่ออก
"เราคือนายเล็กพ่อครัวของท่านดนัยใช่มั้ย" สร้อยถาม
"ท่านดนัยคงยังไม่กลับจากสก็อตแลนด์" รัตนาวดีบอก
ท่านดนัยอึ้ง พูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มมองหน้ารัตนาวดี
"ฉันมีจดหมายมาถวายท่านดนัยฉบับหนึ่ง...นายเล็กรับไว้ได้ไหมจ้ะ"
ท่านดนัยพูดไม่ออกอึกอัก
"เอ้อ…ได้"
รัตนาวดีส่งจดหมายให้ ท่านดนัยรับไว้
"เมื่อไหร่ท่านดนัยจะกลับทราบไหมจ้ะ"
"เอ้อ..ไม่ทราบ"
สร้อยชักจะไม่ค่อยพอใจท่านดนัย ที่พูดอึกอัก
"นี่นายเล็ก...ช่วยทูลท่านดนัยด้วยว่า ท่านหญิงรัตนาวดีมาเฝ้า....จดหมายนี่เก็บดีๆ ล่ะ อย่าลืมถวายท่านชายด้วยนะ ...เด็จกลับเถอะเพคะท่านหญิง"
"ลาก่อนนะจ้ะนายเล็ก....กำลังทำกับข้าวอะไรอยู่น่ะ กลิ่นฟุ้งเชียวท่าจะอร่อย"
สร้อยทำจมูกฟุดฟิด
"แต่หม่อมฉันว่ากลิ่นเหมือนอะไรไหม้มากว่าเพคะ"

รัตนาวดียิ้มหวานกับนายเล็กอย่างเป็นกันเอง แล้วเดินกลับไปกับสร้อย ท่านดนัยมองตามด้วยสายตาละห้อย สักพักได้กลิ่นเหม็นไหม้ รีบวิ่งเข้าบ้านไป...

ท่านดนัยรีบวิ่งกลับมาในครัว...เห็นหม้อที่ตั้งไว้บนเตาควันโขมง รีบปิดไฟ มองอาหารในหม้ออย่างผิดหวัง แต่พอนึกถึงรัตนาวดีก็ยิ้มกับตัวเอง...เอาจดหมายรัตนาวดีออกมาอ่าน สีหน้าเปลี่ยนไปใช้ความคิด

เวลากลางคืน ทางเดินในมหาวิทยาลัยของประพัทธ์ เป็นทางเดินที่มีผนังด้านหนึ่งเป็นกำพงหินแบบอังกฤษ จูนเดินคุยกับทอม และ เพื่อนหญิงฝรั่งอีกคน ประพัทธ์วิ่งตามมาเรียก
"จูน…จูน…"
กลุ่มของจูนหยุดเดิน จูนสีหน้าดีใจที่ประพัทธ์วิ่งมาหา
"ตามหาซะแทบแย่"
"หายหน้าไปตั้งหลายวันนะ" ทอมบอก
"ก็อยู่แถวๆ นี้แหล่ะน่า...จูน..เรามีเรื่องจะกวนหน่อยนะ"
จูนยิ้มตาเป็นประกาย
"แหม…จะกวนเรื่องอะไรคะ"
"คืองี้...ขอยืมรถเธอหน่อยนะ"
จูนยื่นกุญแจรถให้
"เอาซี้...จะเข้าเมืองเหรอ...จูนก็กำลังจะไปพอดี..พี่ขับก็แล้วกัน"
"เปล่า…ไม่ใช่ตอนนี้...วีคเอนท์น่ะ"
"เย…ไปเที่ยวกันก็ดีเหมือนกัน...แต่รถจูนคงขับไปไกลๆ ไม่ไหวมั้ง"
"ก็ไม่ได้กะจะไปไหนไกลๆหรอก แค่จะไปรับท่านหญิงไปดินเนอร์น่ะ ถ้าอยากจะไปด้วย เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน"
จูนหน้าเสีย
"นี่พี่จะยืมรถเราไปรับผู้หญิงคนอื่นไปดินเนอร์เหรอ"

จูนกระชากกุญแจรถกลับมา สะบัดหน้าเดินหนีไป ทอมรีบเดินตาม ประพัทธ์คิดหนัก
 
อ่านต่อหน้า 4

รัตนาวดี ตอนที่ 2 (ต่อ)

ในร้านขายของหรู วิศาลกำลังพูดกับคนขายด้วยท่าทางที่กร่าง มีพุทธคอยพูดเสริมอยู่ข้างๆ วิศาล แต่งตัวด้วยชุดหนังเท่ๆ
 
ท่านหญิงรัตนาวดี กับสร้อย เดินเข้ามาในร้าน มองดูของในร้านรอบๆ พุทธ สะกิดวิศาลให้ดู วิศาลมองรัตนาวดีอย่างสนใจ
"สวยว่ะ....คนไทยหรือเปล่า" วิศาลว่า
"ไม่แน่ใจ." พุทธบอก
สร้อยชี้ให้ท่านหญิงดูของชิ้นหนึ่งที่สวยงาม
"ชิ้นนี้สวยเพคะ...น่าจะซื้อไปถวายเสด็จ"
วิศาล กับ พุทธดีใจ
"เป็นเจ้าด้วย" พุทธบอก
"หญิงยังไม่ตกลงใจของที่จะถวายเสด็จอา....แต่อันนี้ก็สวยดี"

วิศาลรีบเดินเข้ามาหา
"ขออนุญาตให้ผมแนะนำไหมครับ"
รัตนาวดี กับ สร้อยหันไปมอง สร้อยยิ้มหวาน
"โอ้…คนไทยเหรอคะ...แหมดีใจจริงๆที่เจอคนไทยด้วยกัน"
วิศาลก้มหัวให้รัตนาวดี และรีบยกมือไหว้ป้าสร้อย พุทธก็ยกมือไหว้ตาม
"สวัสดีครับ...ผมชื่อวิศาล...ผมเรียนที่นี่ได้สองปีแล้วครับ นี่พุทธ..คนของคุณพ่อครับ"
"พ่อคุณ…กิริยาเรียบร้อย..นี่ท่านหญิงรัตนาวดีจ้ะ...ป้าชื่อ ป้าสร้อยเป็นพระพี่เลี้ยงท่าน...เราเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก"
"มากันสองคนเหรอครับ"
"จ้า…แต่ท่านหญิงมีพระสหายที่นี่หลายคน...พระญาติก็มี"
สร้อยจะโม้ต่อ รัตนาวดีแอบสะกิด พูดตัดบท
"คุณวิศาลมาอยู่ที่นี่สองปีแล้วคงรู้จักอังกฤษดีแล้วสิคะ"
"กระหม่อม…หม่อมไปทั่วยุโรปมาหลายครั้งแล้วกระหม่อม...เอ้ กระหม่อมขออนุญาตพาท่านหญิงกับคุณป้าสร้อยไปทานน้ำชาร้านที่อร่อยที่สุดในลอนดอนนะกระหม่อม...เพื่อเป็นเกียรติกับกระหม่อมที่ได้รู้จักท่านหญิงกับคุณป้าสร้อย"
"กระหม่อมสองคนจะได้เล่าเรื่องอังกฤษ ให้ท่านหญิงฟังด้วย" พุทธบอก
รัตนาวดีมองหน้าวิศาล กับ พุทธ ยิ้มๆ
"เอ้อ…"
รัตนาวดีลังเลมองหน้าสร้อย
"ร้านอยู่ไกลไหมพ่อคุณ...ท่านหญิงยังมีธุระอีกหลายแห่ง"
"อยู่ใกล้ๆ นี่เองหม่อม...เดินไปช่วงตึกเดียวเท่านั้น"
พุทธพูดด้วยท่าทางเรียบร้อย
"ก็ได้ค่ะ...เรากำลังมองหาร้านน้ำชาเหมือนกัน...แต่ไม่รู้ร้านไหนดี คุณสองคนแนะนำให้ก็ดีเหมือนกัน...แต่เราคงอยู่ได้ไม่นาน"
วิศาลมองหน้ากับพุทธอย่างถูกใจ

ร้าน afternoon tea แถว Cotswolds เป็นร้านน้ำชาสวยในลอนดอน ร้านสวยแบ่งเป็นหลายมุม ท่านดนัยนั่งอยู่กับคนไทยสองคนซึ่งอยู่ที่มุมด้านในของร้าน
ชาย 1บอก
"ช่วงนี้ยังไม่มีงานสำคัญของสถานทูตกระหม่อม มีแต่คณะคนไทยคณะหนึ่งติดต่อผ่านกระทรวงต่างประเทศ ขออำนวยความสะดวกที่จะมาท่องเที่ยว"
ท่านดนัยยิ้มๆ
"มาเที่ยวต้องผ่านกระทรวงต่างประเทศเชียวหรือ"
ชาย 2บอก "คิดว่าเขาคงยังไม่ค่อยเข้าใจกระหม่อม...เลยจะทำอะไรก็ขอใหญ่ไว้ก่อน"
"เค้าคงไม่รู้จะทำยังไงมากกว่า...แล้วคณะกี่คน"
"สามคนหม่อม....นัยว่าพ่อกับลูกอีกสองคน...เค้าขอให้เราเช่ารถกับคนนำเที่ยวพาขับรถเข้าหลายประเทศ" ชาย 1 บอก
ชาย 2 ว่า "หม่อมว่าน่าจะกระเป๋าหนักอยู่...เพราะให้เบี้ยเลี้ยงคนรถเกือบสามเท่าของราคาที่เค้าจ้างกัน...หม่อมเลยว่าจะไปรับจ้างคณะนี้ออกทัวร์เพราะงานสถานทูตว่างๆ อยู่หม่อม"
"อ้าว…อย่าตัดหน้ากันนา"ชาย 1 บอก
สามคนหัวเราะสนุก วิศาล กับ พุทธ พารัตนาวดี กับสร้อย เดินเข้ามาในร้าน ท่านดนัยนั่งหันหลังให้ไม่เห็น แต่ชาย 1-2 มองเห็นวิศาล แต่กลุ่มรัตนาวดีไม่มีใครเห็นกลุ่มท่านดนัยที่นั่งด้านในเลย
"อ้าว…นั่นนายวิศาลนี่...พาผู้หญิงที่ไหนมา..สวยเชียวนะ" ชาย 2 ว่า
ท่านดนัยหันไปมอง พอเห็นรัตนาวดี ก็รีบหลบ
"ใครกันนายวิศาล"
ชาย 1 บอก "ลูกคนใหญ่คนโตคณะรัฐบาลไงหม่อม....ใช้เงินอย่างกับเบี้ย..หมอนี่ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ โดยเฉพาะ..."
ชาย 2 เสริม "ผู้หญิง....กิติศัพท์เรื่องเจ้าชู้นี่...ต้องยกให้เลย...ผู้หญิงที่มาด้วยเหมือนคนไทยนะ"
ท่านดนัย แอบหันไปมองอย่างไม่สบายใจ เห็นวิศาลทำท่าเอาอกเอาใจรัตนาวดี

ท่านชายพจน์นั่งอ่านจดหมายท่านดนัยอยู่ในห้องนั่งเล่นวังศิลาขาว...
"ท่านพี่เพื่อนรัก...น้องหญิงของท่านเขียนไปฟ้องท่านเรื่องหม่อมว่าอย่างไรบ้าง...หม่อมยอมรับผิดเพราะยังหาเหตุไม่ได้ว่า จดหมายท่านไปตกหล่นอยู่ที่ไหน กว่ายายแม่บ้านจะจับใส่ซองส่งตามมาให้หม่อมที่สก็อตแลนด์ น้องหญิงก็มาอยู่ที่ลอนดอนได้สองสามวันแล้ว.. หม่อมยอมรับว่า แต่แรกไม่ได้สนใจนักเพราะคิดว่าเด็กๆ มาเที่ยวกับพี่เลี้ยงหลังเรียนจบ จึงตั้งใจจะพาเที่ยวไปให้ทั่วแบบสวนสนุก....แต่ ..ทำไมท่าน กับ ปริศนาถึงไม่เตือนให้หม่อมรู้ตัวเสียก่อนเล่าว่า หญิงรัตนาวดีเป็นสาวแล้ว และ สวยเพียงไร"
"หม่อมได้พบกับน้องหญิงโดยที่ น้องหญิงเข้าทัยว่าหม่อมคือนายเล็ก มหาดเล็กของหม่อม น้องหญิงยิ้มหวานเป็นกันเอง ไม่ถือองค์ และตรัสอย่างอ่อนหวาน จนหม่อมทำอะไรไม่ถูก จะทูลว่าเป็นหม่อมเองก็ไม่กล้า กลัวจะทำให้น้องหญิงเก้อ"

หม่อมเจ้าดนัยวัฒนาสะกดรอยตาม รัตนาวดี กับสร้อย โดยมีวิศาล กับพุทธ พาเดินออกมาจากร้านน้ำชาในลอนดอน

หม่อมเจ้าดนัยวัฒนาสะกดรอยตาม รัตนาวดี กับสร้อย โดยมีวิศาล กับพุทธ พาเดินออกมาจากร้านน้ำชาในลอนดอน

"แต่จะว่าหม่อมโกหกก็ไม่ใช่ เพราะชื่อเล่นหม่อมก็ชื่อเล็กเหมือนกัน แต่พอได้อ่านจดหมายที่น้องหญิงประทานไว้ให้ท่านดนัยหม่อมก็ใจหาย เพราะจดหมายที่ท่านหญิงเขียนถึงท่านดนัย ช่างเย็นชา ตัดไมตรีหมดสิ้น กับนายเล็กผู้ต่ำต้อยน้องหญิงยังมีไมตรีให้ดีกว่า ถ้าอย่างนั้นหม่อมคงรับบทเป็นนายเล็กต่อไป เพราะหม่อมทนไม่ได้ที่จะเห็นน้องหญิงโกรธที่รู้ความจริงว่า หม่อมคือท่านดนัย ...หม่อมทนไม่ได้ที่จะให้น้องหญิงโกรธหม่อมมากกว่าเดิม"

ท่านดนัยตามแอบดูมาจนถึงหน้าโรงแรมที่วิศาล กับ พุทธมาส่งรัตนาวดีกับสร้อย ร้ตนาวดีเดินเข้าไปทันที วิศาล ทำสีหน้าพอใจ พูดกับพุทธ ท่านดนัยไม่สบายใจ

"หม่อมขอสัญญาว่าจะดูแลน้องหญิงอย่างดี เวลานี้เริ่มจะมีคนมาสนใจน้องหญิงอยู่หลายคน หม่อมไม่ไว้ใจใครเลย ..หม่อมจะคอยดูต่อไป และ ส่งข่าวไปถวายท่านและปริศนาให้ทราบเสมอๆ ท่านจะได้ทรงทราบเรื่องแต่ต้น แล้วไม่เตะหม่อมทีหลัง...จากผู้ที่กำลังสนุก.... ดนัย"

ท่านชายพจน์อ่านจดหมายจากท่านดนัยเสร็จ พับจดหมายเก็บในซองสีหน้ายิ้มๆ ปริศนาเดินมาหา
"อ่านจดหมายแล้วทรงอารมณ์ดีเหรอเพคะ"
"จดหมายจากท่านดนัย"
"คงจะได้พบกับท่านหญิงแล้ว"
"ได้พบ...แต่ยังไม่ได้พบ"
ปริศนาเอียงคอสงสัย
"ยังไงเพคะ...ได้พบ แต่ไม่ได้พบ"
"หญิงรัตน์ได้พบกับท่านดนัย...แต่กลับคิดว่าเป็นมหาดเล็กท่าน"
"อ้าวแล้วท่านดนัยไม่ได้อธิบายให้ท่านหญิงรู้เหรอเพคะ"
"เค้าไม่กล้า."
"ทำไมไม่กล้า....ทำให้ท่านหญิงเข้าทัยผิดแบบนั้น ถ้าทรงรู้ที่หลังจะกริ้วท่านดนัยนะเพคะ"
"เค้าริเรียนผูก...ก็ต้องเรียนแก้เอง"
ท่านชายพจน์ยิ้มสนุกกับปริศนา

เช้าวันใหม่ สร้อยแต่งตัวเสร็จแล้ว นั่งอ่านหนังสือไกลบ้าน อยู่ที่ห้องกลาง
"วังวินเซอร์...วังวินเซอร์"
ท่านหญิงรัตนาวดีเดินออกมาจากห้องนอน แต่งตัวสวย
"คอยหญิงนานไหมคะ"
สร้อยเงยหน้าจากหนังสือ ทำสีหน้าละห้อย
"ท่านหญิงเพคะ...ป้าอยากไปวังวินเซอร์จะแย่แล้ว เราไปตั้งหลายที่แล้ว แต่ป้ายังไม่ได้ตามรอยเสด็จเลยเพคะ"
"ทำไมถึงอยากไปที่นั่นคะ."
"ก็พระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จที่นั่นเพคะ...หม่อมฉันอยากไปเห็น"
"ก็ได้ค่ะ...เราไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารกัน... ระหว่างนั้นหญิงจะสำรวจเส้นทางว่าเราจะไปรถไฟสายไหนกันดี"
"เราจะไปกันสองคนนะเพคะ"
"ก็งั้นสิคะ...มาอยู่ที่นี่หลายวันแล้ว หญิงไปไหนมาไหนเองคล่องแล้วค่ะหรือป้ากลัวที่จะเดินทางกันลำพัง"
"โถ…ท่านหญิงขา...ป้าน่ะชอบที่จะไปกับท่านหญิงที่สุดเพคะ แต่ตอนนี้ป้านะกลัวนายโน่นนายนี่จะมารับอาสากันวุ่นวาย"
"เค้ามีน้ำใจก็ดีนี่คะ"
สร้อยค้อน
"มีน้ำใจก็ดีเพคะ...ป้าน่ะกลัวพวกนี้จะหวังสูง ถ้าท่านหญิงอยากเสด็จไกลๆ เรารอท่านดนัยดีกว่าเพคะ"
"อย่าพูดถึงท่านดนัยอีกเลยค่ะ...จนป่านนี้ท่านดนัยหน้าตาเป็นยังไง ถึงเจอกันหญิงก็คงทักไม่ถูก"

ภายในโรงแรม ประพัทธ์ยืนรออย่างกระวนกระวาย วิศาลเดินเข้ามากับพุทธ มองประพัทธ์ด้วยหางตา ประพัทธ์ก็มองวิศาลด้วยหางตาเหมือนกัน
"ไหนล่ะท่านหญิง"
วิศาลทำท่าจะเดินไป ประพัทธ์พูดลอยๆ
"เป็นแขกมาเยี่ยม...ไม่ควรจุ้นจ้านเดินเข้าไปในสถานที่ที่จัดเฉพาะnMember ไม่ใช่มารยาทสุภาพบุรุษ"
วิศาลชะงัก หันกลับไปมองหน้าประพัทธ์
"คุณเป็นใคร..ผมเป็นแขกท่านหญิง..พูดจาให้มันดีหน่อย"
"ผมก็ยังไม่ได้พูดคำไม่ดีกับใคร....คุณจะมาหาท่านหญิงทำไม"
วิศาลยิ้ม
"ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องของคุณ"
ประพัทธ์เริ่มหน้าตึง
"อะไรที่เกี่ยวกับท่านหญิงเป็นเรื่องของผมทั้งนั้น"
วิศาลท่ากร่างเต็มที่
"ถึงเป็นคนไทยด้วยกัน...แต่คุณคงไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ไม่เป็นไร....แค่อยู่ห่างๆ ผมดีกว่านะ"
ประพัทธ์ไม่พอใจ พุทธก็ทำท่ากร่างไปด้วย...
"จะเป็นใครผมก็ไม่สนใจ"
ทั้งสองมองหน้ากัน รัตนาวดี กับสร้อยเดินลงมา เห็นท่าสองคนยืนเผชิญหน้ากัน แต่ไม่รู้ว่า ทั้่งสองคนกำลังจะปะทะกัน
"คุณประพัทธ์ คุณวิศาล....รู้จักกันแล้วเหรอคะ"
ประพัทธ์ กับ วิศาล แยกจากกัน โดยยังมองหน้ากัน
"เอ้อ…กระหม่อม"
สร้อยมองหนุ่มๆ ด้วยสีหน้าเบื่อๆ หันไปมองหน้ารัตนาวดี
"ไม่ผิดคำพูดหม่อมฉันเลยเพคะ"
วิศาลรีบเดินมาใกล้รัตนาวดี สร้อยรีบยืนแทรก
"หม่อมจะมารับท่านหญิงไปแฮร์ร็อด ประทับรถสปอร์ตกับหม่อมดีกว่า….อย่าไปรถคันเล็กๆ เลย เสียพระเกียรติ"
รัตนาวดีหัวเราะ ประพัทธ์เดินมาใกล้รัตนาวดีอีกด้านหนึ่ง สร้อยก็รีบเดินมากั้นกลาง
"แต่กระหม่อมจะพาเสด็จพิกคาเดลลี่ดีกว่าหม่อม..ถึงรถหม่อมจะเล็กแต่ก็ไว้ใจได้"
"วันนี้ท่านหญิงจะเสด็จวังวินเซอร์"
"หม่อมไม่เห็นด้วย....วังวินเซอร์ไม่เห็นน่าสนใจ...หม่อมว่าเราไปshopping กันดีกว่า...ถ้าคุณป้าอยากไป ก็ไปกับคุณ...เอ้อพุทธ ประพัทธ์ ช่วยพาป้าสร้อยไปวังวินเซอร์ ผมจะพาท่านหญิงไปเที่ยวเอง....วินเซอร์เหมาะที่จะพาคนแก่ไป"
สร้อยไม่พอใจ
"ไม่ได้...ท่านหญิงเสด็จไหน ป้าไปด้วย"

รัตนาวดีมองคนโน้นคนนี้อย่างขำ ประพัทธ์ และ วิศาล และป้าสร้อยเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่านดนัยเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ รัตนาวดีหันไปเห็นดีใจรีบเดินมาหา ท่านดนัย ในฐานะนายเล็กก้มหัวให้อย่างเท่
"นายเล็ก"
ทุกคนหยุดหันไปมองท่านดนัยส่งจดหมายให้รัตนาวดี
"จดหมายจากท่านดนัยหม่อม....ให้หม่อมรีบนำมาถวายท่านหญิง"

รัตนาวดีเปิดจดหมายออกอ่าน สีหน้ามีรอยยิ้มบางๆ หันไปยิ้มกับนายเล็ก ที่พยายามกลั้นยิ้ม ที่เหลือมองหน้ากันอย่างงงๆ ท่านหญิงรัตนาวดียิ้มๆ อย่างพอใจ
 
อ่านต่อตอนที่ 3
กำลังโหลดความคิดเห็น