สมการการเมือง
“ระวังจะตายเหมือนกึ้งกือตกท่อ” คือคำที่ “อดีตพวกพ้อง” ที่เคยทำงานร่วมกับ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาเตือน “ธาริต” ที่ทำงานตามใบสั่งของลิ่วล้อในช่วง “รัฐบาลปูแดง”
ซึ่งรู้กันดีว่าในช่วง “รัฐบาลอภิสิทธิ์” กลไกตัวหนึ่งที่ใช้ปราบการชุมนุมสมุนแดงคือ “ดีเอสไอ” ที่มี “ธาริต” กุมบังเหียน เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล “ธาริต” จากแบล็คลิสต์เบอร์หนึ่งที่“เพื่อไทย-คนเสื้อแดง” ปักชื่อยื่นโนติสต์ให้ปรับออกจากตำแหน่ง
แต่คดีกลับพลิก “ธาริต” ทำตัวเป็น “ธาเลีย” กุนซือเพื่อไทยคิดแผนชั่วใช้ “ธาริต” ย้อนศรมาทำร้ายคนที่เคยทำงานด้วยทั้งหมด เพียงเพื่อหวังใช้ “ดีเอสไอ” เป็นเครื่องมือตั้งเรื่องฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมปี 2552-2553 ใหม่ทั้งหมด เพื่อบีบให้ยอมรับการนิรโทษกรรม
“ธาริต” ที่หลงระเริงกับอำนาจยอมกลืนเลือด ไม่เหลือศักดิ์ศรีลูกชายไว้ให้ดูต่างหน้า ก้มหน้าก้มตาทำงานรับใช้เป็น “ทาสแม้ว” ผู้จงรักภักดี
โดย “ธาริต” เดินหน้าล้างบางดีเอสไอใหม่ด้วยการย้าย “ลูกน้อง” ที่มีความใกล้ชิดกับ “พรรคสีฟ้า-ขุนทหาร” ออกไปให้หมด เพื่อเปิดทางให้ตัวเองทำงานในดีเอสไอได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
คดีโยกย้าย “พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ” ออกจากตำแหน่งผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ยังเป็นหนามหยอกอกปักกลางหัวใจดำๆของ “ธาริต” หลังศาลอาญาตัดสินมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ยังโชคดีอยู่ที่ศาลอาญาให้ประกันตัวออกมาสู้คดี แต่ชีวิตหลังจากนี้ไม่มีทางกลับมาสงบสุขเหมือนเดิมได้แน่นอน เพราะมีคดีสำคัญรอจ่อคิวให้ “ธาริต” เข้าแก้ต่างกันอีกมากมายก่ายกอง
ข้อมูลจากปากของ “ธาริต” เองก็ยอมรับว่ายังต้องลุ้นอีกกว่า 30 คดีที่จ่อหัวรอขึ้นเขียง โดยคดีส่วนใหญ่ยังอยู่ในชั้นของ ป.ป.ช. และส่วนใหญ่เป็นคดีความที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง
โดย “วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ฟ้องร้องไว้เพียบ ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ “ธาริต” ที่ไม่ยอมนำ “แกนนำคนเสื้อแดง” มาลงโทษคดีการชุมนุม 2552-2553 อีกทั้งยังปล่อยปละละเลยไม่จับกุมบางคนมาดำเนินคดีทางกฎหมาย เรียกได้ว่าที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมคนเสื้อแดงของ “ธาริต” ที่รอขึ้นเขียง ป.ป.ช.ไม่น้อยกว่า 10 คดี แต่ ป.ป.ช.คงนำสำนวนทั้งหมดมารวมเป็นสำนวนเดียว ก่อนจะพิจารณาสั่งฟ้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่
แว่วมาว่าอีกไม่นานคดีของ “ธาริต” ในชั้น ป.ป.ช.จะได้ข้อสรุป ซึ่งต้องลุ้นกันว่าจะรอดกี่คดี หรือไม่รอดกี่คดี แต่ที่แน่ๆคงมีคดีที่ป.ป.ช.ต้องส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาฟัน “ธาริต” อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ “ธาริต” ยังถูกตั้งข้อกล่าวหากรณีถือครองที่ดิน โฮมสเตย์ ฟิออเร่ ปาร์ค ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคดีอยู่ในความดูแลของ “สุวรรณา สุวรรจูฑะ” อธิบดีดีเอสไอ ซึ่งหากจะตรวจสอบอย่างจริงจังมีหวัง “ธาริต” ไม่รอดข้อกล่าวหาอย่างแน่นอน เพราะมีหลักฐานการถือครองที่ดินซึ่งรุกล้ำเขตป่าสงวนอย่างชัดเจน
สำนวนคดีถือครองที่ดิน “โฮมสเตย์ ฟิออเร่ ปาร์ค” ป.ป.ช.ได้นำสำนวนไปพิจารณาอีกทางหนึ่งแล้วด้วย และแว่วมาอีกตามเคยว่ามีสิทธิที่ “ธาริต” จะโดน ป.ป.ช.ยึดทรัพย์อีกจำนวนหนึ่ง ที่ขณะนี้กำลังถูกอายัดอยู่
งานนี้ “ธาริต” คงเอาตัวรอดยาก เพราะยังมีอีกหลายดาบที่รอฟันอยู่ อย่าลืมว่าคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง “ธาริต” เคยส่งคำสั่งคดีดำ เพื่อฟ้องร้องเอาผิดกับ “แกนนำคนเสื้อแดง” มาแล้ว แต่เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ “ธาริต” กลับเปลี่ยนใจพลิกสำนวนมาทำใหม่ทั้งหมด แต่ไม่สามารถกลบคดีเดิมที่ทำไว้ได้ทั้งหมด
แต่ยังพอมีบางคดีที่ทำให้ “ธาริต” ได้ใจชื้นขึ้นบ้าง และถือว่ายังมีความโชคดีอยู่ที่ศาลไม่รับฟ้อง โดยเฉพาะคดีที่ “พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม” อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
อีกคดีที่คดีที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ยื่นฟ้องหมิ่มประมาทกรณีกล่าวหาทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหากยังจำกัดได้ “ธาริต” ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวหา “สุเทพ” ภายหลังที่ “เหลิมดาวเทียม” ออกมาชี้โพรงให้ดีเอสไอนำเรื่องนี้ไปสอบสวน
คดีที่ “มาร์ค-เทือก” ฟ้องร้องกรณีตั้งข้อหาคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ซึ่งคดีเหล่านี้ ศาลมองว่า “ธาริต” ในฐานะเจ้าพนักงานมีหน้าที่และอำนาจในการตั้งข้อกล่าวหาได้
แต่หากจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้วประชาชนรู้กันทั้งประเทศว่า ขณะนั้น “ธาริต” รับใบสั่งจาก “บิ๊ก รบ.ปูแดง” ให้ไล่บี้ถล่ม มาร์ค-เทือก-ปชป.-กองทัพ เพื่อต่อยอดหวังให้ทุกคนสยบยอม เปิดทางให้นิรโทษกรรม สานฝันให้ “นายใหญ่” ได้กลับบ้าน แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามแผนที่ “บิ๊กรบ.ปูแดง” ได้ฝันเฝื่องเรื่องอารมณ์ไว้ “ธาริต” ในเวลานี้จึงตกที่นั่งลำบากยิ่ง
ลำบากที่ไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย ลำบากที่หันไปไหนก็ไม่มีเพี่อน ลำบากที่คดีจ่อคอหอยหลายคดี ลำบากที่เกิดมาเป็น “ธาริต” ที่ชอบทำร้ายตัวเอง