ผบ.ทบ.สั่งกำลังพลช่วยเหลือภัยแล้ง ย้ำไม่มีแตกแถวการเมือง เสียใจทหารพรานเหยื่อบึ้ม

“ธีรชัย” เผยประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก และผู้บังคับหน่วยระดับกองพันทั่วประเทศ มอบการบ้าน 11 เรื่อง ย้ำต้องตอบสนองนโยบายรัฐบาล แก้ภัยแล้งประชาชน สร้างความปรองดอง ยันทหารไม่แตกแถว ดูแลบ้านเมืองสงบ ปราศจากอำนาจมืด พร้อมกล่อมชาวบ้านห่างไกลถึงความจริงใจรัฐบาล - คสช. ซัดมวลชนเสื้อสีพวกสร้างปัญหา เสียใจทหารพรานเสียชีวิตถูกลอบวางระเบิด เตือนต้องไม่ประมาท แจงสื่อเหตุรุนแรงไม่ได้มาช่วงสับเปลี่ยนกำลัง

วันนี้ (19 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) และผู้บังคับหน่วยระดับกองพันทั่วประเทศ โดย พล.อ.ธีรชัย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม ว่า วันนี้ได้เน้นย้ำให้กำลังพลดูแลประชาชนเป็นหลักในพื้นที่ โดยเฉพาะต้องตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งปัญหาในช่วงนี้คือภัยแล้ง โดยเราจะร่วมมือกับศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด และอำเภอในการเข้าไปดูแลประชาชน ในส่วนการบรรเทาสาธารณภัย ตนได้เน้นย้ำทหารต้องเข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที

พล.อ.ธีรชัย กล่าวถึงการตอบสนองงานรัฐบาล และคณะรักษาความสงบสุขแห่งชาติ (คสช.) ในการสร้างความปรองดอง ว่า กองทัพบกตอบสนองนโยบายรัฐบาล และ คสช. อย่างชัดเจนในทุก ๆ เรื่อง โดยปัจจุบันทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.), ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูป (ศปป.) ที่ตนดูแลอยู่นั้น ทำงานสอดคล้องซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะ ศปป. จะทำงานร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมทั้งจังหวัดและอำเภอ เพราะในพื้นที่จะรู้ปัญหาดีในพื้นที่มีปัญหาอะไรบ้าง ดังนั้น ตนจะให้ในส่วนทหาร อาทิ หน่วยทหารพัฒนา และ กกล.รส. ในพื้นที่เข้าไปดูแลอิทธิพลอำนาจมืดต่าง ๆ รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ไม่เข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น จะต้องไปชี้แจงทำความเข้าใจ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันกองทัพบกเน้นย้ำให้หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ให้เข้าไปในพื้นที่ เป็นจิตอาสาเข้าไปพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องถึงความถูกต้อง และเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งปัญหาภัยแล้ง และปัญหาสังคมในปัจจุบันอีกด้วย

เมื่อถามว่า ได้เน้นย้ำกำลังพลว่าอะไรต้องทำก่อนหรือหลัง พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้กำชับอะไรมากนัก เพราะเข้าใจดีว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของตนทุกคนมีจิตใจที่จะปฏิบัติงานต่าง ๆ ในพื้นที่ดูแลประชาชน อีกทั้งตนได้สั่งการมาโดยตลอด เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับผู้พันดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในระเบียบวินัย และต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน

เมื่อถามว่า สถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาล และ คสช. รวมทั้งกองทัพบกจะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้หรือไม่ว่า ทหารจะไม่ออกนอกแถว และออกมาแทรกแซงทางการเมือง พล.อ.ธีรชัย กล่าวว่า “ทหารเข้าแถวตลอดเวลา เมื่อสักครู่ก็เข้าแถวอยู่นะ ผมยืนยันว่ากองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย จะทำทุกอย่างทุกวิถีทางให้บ้านเมืองสงบ โดยปราศจากอิทธิพลอำนาจมืด ให้สร้างความปรองดอง เพราะฉะนั้นก็จะทำทุกวิถีทางให้สภาวะแวดล้อมของบ้านเมืองนี้อยู่ในภาวะสงบเรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งชีวิต และทรัพย์สิน”

เมื่อถามว่า การร่างรัฐธรรมนูญทางฝ่ายความมั่นคงมีความกังวลหรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า สื่อต้องเขียนให้ดี ลงข่าวให้ดี เพื่อให้การร่างรัฐธรรมนูญเดินต่อไปได้ เพราะจะเลือกตั้งได้ต้องมีรัฐธรรมนูญก่อน ทั้งนี้ ร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่นี้ คิดว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มุ่งเน้นประชาชนเป็นหลัก และให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง อีกทั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และรัฐบาลพยายามหาระบบการปกครองที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับประเทศที่สุด เพื่อให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเป็นหน้าที่ของ กกล.รส. ในการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทั้งประเทศว่าความจริงใจของรัฐบาล และ คสช. นั้น คืออะไร ส่วนกลุ่มมวลชนต่าง ๆ นั้นก็เป็นคนที่มีปัญหาที่ไม่อยากให้บ้านเมืองสงบ

พล.อ.ธีรชัย ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดทหารพรานชุดลาดตระเวนที่จังหวัดปัตตานีเสียชีวิตเมื่อเช้า ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอแสดงความเสียใจ และได้เน้นย้ำให้ พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ถึงแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องไม่ประมาททุกย่างก้าว เพราะมีการปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อวันมากมาย อีกทั้งกำลังพลทุกคนมีความเต็มใจ และตั้งใจในการปฏิบัติภารกิจ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามพวกเขาเป็นฝ่ายเลือกก่อเหตุกับฝ่ายเรา เนื่องจากเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่นโยบายเราเป็นเชิงรุก ดังนั้นเราจะเน้นการพูดคุยมากที่สุด พร้อมทั้งจะบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผล ตลอดจนการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐมีความจริงใจในการทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสุข

“สิ่งที่เข้าใจว่าช่วงสับเปลี่ยนกำลังแล้วจะเกิดเหตุรุนแรงนั้น ผมขอยืนยันว่า ไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี เพราะผมอยู่ในพื้นที่มาผมรู้ ไม่ใช่ว่าจะสับเปลี่ยนกำลังแล้วจะเกิดเหตุขึ้น มันไม่ใช่ อย่าไปจับประเด็นแบบนี้ และอยากให้ไปดูสถิติที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่อย่างที่เข้าใจมา” พล.อ.ธีรชัย กล่าว

ด้าน พ.อ. หญิง ศิริจันทร์ งาทอง โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงผลการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ว่า ผบ.ทบ. มอบนโยบายสำคัญ 11 เรื่อง ดังนี้ 1. การพิทักษ์ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นภารกิจที่ทุกหน่วยจะต้องให้ความสำคัญสูงสุด ดำเนินการอย่างเต็มที่ในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง 2. ให้การสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อให้สามารถบริหารราชการแผ่นดิน และดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ตามความมุ่งหมาย 3. การดูแลสวัสดิการกำลังพลและครอบครัว ด้วยมาตรการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้เป็นรูปธรรม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 4. พัฒนาระบบงานด้านการข่าว เพื่อให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองทัพบกในทุกภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและขยายเครือข่ายงานข่าว โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

5. เสริมสร้างความพร้อมรบในทุกด้าน โดยการปรับปรุงโครงสร้างให้เป็นกองทัพ ที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาขีดความสามารถความพร้อมรบ ด้วยระบบการฝึกที่จริงจังมีมาตรฐานและการบริหารจัดการที่ดี ให้หน่วยมีความพร้อมรบ รวมทั้งสามารถสนับสนุนภารกิจด้านการบรรเทาสาธารณภัย 6. ยกระดับมาตรฐานการฝึกเป็นบุคคลตามตำแหน่งหน้าที่และความชำนาญการทางทหาร การฝึกหน่วยทหารขนาดเล็กและการฝึกเป็นหน่วยในภาพรวม 7. พัฒนาระบบการส่งกำลังบำรุงให้สอดคล้องกับความต้องการยุทโธปกรณ์ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ปรับปรุงและเข้มงวดในมาตรการควบคุมสิ่งอุปกรณ์ ตลอดจนปรับปรุงระบบการบริหารจัดการภายในเพื่อลดภาระงานด้านธุรการ

8. การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงยึดถือและน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม มุ่งสู่วัตถุประสงค์หลัก คือ ลดการก่อเหตุ สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สนับสนุนการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธี ควบคู่ไปกับงานด้านการพัฒนาพื้นที่ 9. ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติโดยทันที รวมทั้งการเตรียมความพร้อมและมีแผนการปฏิบัติร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการเตรียมรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ตลอดจนการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยอย่างยั่งยืน

10. เสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับกองทัพบกประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเมื่อสิ้นสุดปี 2558 11. การใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2559 ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดและเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย

พ.อ. หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ผบ.ทบ. กำชับให้ผู้บังคับหน่วยทุกหน่วยปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา และหน่วยงานให้ดีที่สุด ให้หน่วยทหารมีเกียรติและศักดิ์ศรี ในขณะที่กำลังพลมีความภูมิใจในหน่วยงานของตน ให้ทำงานในลักษณะเป็นทีมงานของกองทัพบก เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ยืนยันกองทัพบกพร้อมปฏิบัติตามแนวนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติในทุกเรื่อง โดยดำเนินการทันที เพื่อให้เกิดผลดีแก่ชาติบ้านเมืองและประชาชน สิ่งใดที่กองทัพบกจะช่วยดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ทุกหน่วยดำเนินการทันที รวมทั้งให้ดำรงการปฏิบัติตามค่านิยมหลัก 12 ประการ ทั้งในส่วนของหน่วยทหาร ครอบครัว ชุมชนรอบค่าย และในทุกพื้นที่ที่หน่วยไปปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการเสริมสร้างวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย และช่วยสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่