เลขาฯ คสช.กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำงานร่วมกันในการให้ข้อมูลและการรับรู้เรื่องต่างๆ ลงสู่ระดับหมู่บ้าน ดึงนักศึกษาวิชาทหาร ร่วมรับรู้ข้อมูลก่อนนำลงพื้นที่พบประชาชน สร้างความเข้าใจปัญหาต่างๆ รวมถึงเนื้อหาร่าง รธน. ส่วนงานรักษาความสงบเรียบร้อยยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) ได้มีการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธาน มีการรายงานผลการปฏิบัติงานในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยยังคงสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ยาเสพติด ป่าไม้ การพนัน ผู้มีอิทธิพล การดูแลความสงบเรียบร้อย ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจัดระเบียบชุมชน การดูแลความปลอดภัยการจัดกิจกรรมในเทศกาลกินเจ การจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ 60 ชุด บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการสนับสนุนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารานั้น ได้ดำเนินการแล้วใน 72,316 ไร่ จากพื้นที่เป้าหมาย 405,664 ไร่ รวมทั้งได้เข้าร่วมตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ ตามที่รัฐบาลมอบหมาย จำนวน 164 แห่ง นอกจากนี้ ยังคงจัดคณะทำงานร่วมลงพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน ให้ข้อมูลภัยแล้ง พร้อมขอความร่วมมือปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนในพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า เลขาธิการ คสช.ได้สั่งการในที่ประชุมในเรื่องที่สำคัญดังนี้ การให้ข้อมูลและการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนถึงระดับหมู่บ้าน ให้เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในลักษณะคณะทำงานร่วมประกอบด้วย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ศูนย์ดำรงธรรม และฝ่ายปกครองประจำพื้นที่ ซึ่งเลขาธิการ คสช. เห็นความสำคัญในศักยภาพของนักศึกษาวิชาทหารที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต สมควรที่เยาวชนกลุ่มนี้จะได้รับรู้ มีความเข้าใจในบริบทของบ้านเมืองปัจจุบัน สามารถนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปบอกเล่าให้แก่เพื่อน ครอบครัว ชุมชนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นการปลูกฝังให้นักศึกษาวิชาทหารมีจิตอาสา เลขาธิการ คสช.จึงได้สั่งการเพิ่มเติมให้นำนักศึกษาวิชาทหารประจำพื้นที่ เข้ามาร่วมในการลงพื้นที่ ชุมชน หมู่บ้าน รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมที่หน่วยงานภาครัฐจัดขึ้น เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยกำชับให้คณะทำงานร่วมฯ เดินหน้าชี้แจงทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากประชาชนในปัญหาภัยแล้ง และการปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการปลูกข้าว
นอกจากนี้ ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ประสานกับพาณิชย์จังหวัดพิจารณาหามาตรการส่งเสริมการขายพืชผลทางการเกษตรที่ได้แนะนำให้เกษตรกรปลูกทดแทนการปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการช่วยเหลือของภาครัฐที่ให้กับภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในลักษณะมาตรการช่วยเหลือเฉพาะด้านนั้น ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยให้การสนับสนุนหน่วยงานที่รับผิดชอบในมาตรการช่วยเหลือนั้นๆ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง เช่น การตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์ม การแก้ปัญหายางพารา การรวบรวมข้อมูลพื้นที่ประสบภัยแล้งที่ต้องเป็นข้อมูลถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง เป็นต้น
“เลขาธิการ คสช.ให้ทุกส่วนปฏิบัติงานในเชิงรุกต้องเข้าไปรับทราบปัญหาในทุกพื้นที่ และให้ใช้การป้องกันมิให้เกิดปัญหาในลักษณะการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ความเดือดร้อนของประชาชนจะต้องได้รับการดูแลในระดับพื้นที่ โดยยึดถือการชี้แจงทำความเข้าใจภายใต้กรอบกฎหมายเป็นหลัก ส่วนเรื่องใดที่เป็นผลการดำเนินงานของภาครัฐเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสังคมโดยรวมนั้น ต้องสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนด้วย”
รองโฆษก คสช.กล่าวว่า สำหรับการสร้างการรับรู้ในเรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญตามที่ เลขาธิการ คสช.ได้สั่งการให้ทุกส่วนของ คสช.เร่งดำเนินการนั้น ล่าสุดหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้ดำเนินการอบรมครูฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2558 ให้มีความรู้ในเรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นในช่วงธันวาคม 2558 ถึงเดือนมีนาคม 2559 จะดำเนินการอบรมนักศึกษาวิชาทหารให้มีความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานของกระบวนการและเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปบอกเล่าให้แก่ครอบครัว ตลอดจนชุมชนต่อไป