รองโฆษก คสช.แจง ประชุมสำนักเลขาฯ คสช.สรุปผลงานรอบสัปดาห์ เผย ผบ.ทบ. ย้ำหนุนนโยบายนายกฯ กำชับ กกล.รส.ประสานรวมข้อมูลภัยแล้ง สำรวจความต้องการเกษตร ใช้กลไกคณะทำงานฝ่ายปกครองลงพื้นที่หมู่บ้าน ชี้แจงนโยบายรัฐควบคู่ให้ข้อมูลแล้ง วาง 8 มาตราการช่วย หนุนงานศูนย์ดำรงธรรม
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยมีการชี้แจงผลการปฏิบัติงานในรอบสัปดาห์ที่สำคัญ เช่น การช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยใน กทม. และต่างจังหวัด, การพบปะส่วนราชการและภาคประชาชนเพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์, การเดินหน้าจัดระเบียบสังคมและบังคับใช้กฎหมายอย่างยั่งยืน และป้องกันไม่ให้กลับมาเกิดปัญหาอีก เช่น การจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ, การสนับสนุนกระทรวงยุติธรรมควบคุมสถานบริการ, การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งขันรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวน 214 ครั้งใน 34 จังหวัด, การเข้าช่วยคลี่คลายและควบคุมสถานการณ์การประท้วงที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต รวมทั้งการปรับแผนงานและกระจายโครงการของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ลงสู่จังหวัด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า เลขาธิการ คสช.ได้สั่งการให้ทุกส่วนสนับสนุนนโยบายเร่งด่วนและปฏิบัติตามบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช.อย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลสถานการณ์ในประเทศให้เกิดความสงบเรียบร้อย, การชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องนโยบายและแผนการปฏิบัติงานที่สำคัญของรัฐบาลให้ประชาชนและต่างประเทศได้รับทราบ, การดูแลปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มต่างๆ ให้ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยมีเรื่องสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ การรับมือและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเลขาธิการ คสช.ได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เข้าประสานงานกับฝ่ายปกครองจัดทีมงานเข้าสำรวจและรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งความต้องการของเกษตรกร เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสนับสนุนให้รัฐบาลพิจารณาหามาตรการความช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ให้สำรวจปัญหาที่เกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ กำลังประสบอยู่ด้วย เช่น ปัญหายางพารา ปาล์มน้ำมัน การชุมนุมเรียกร้องด้านมลภาวะ เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ให้ใช้กลไกของคณะทำงานร่วมฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารลงพื้นที่ถึงระดับหมู่บ้านอย่างสม่ำเสมอผ่านกิจกรรมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อพบปะและนำผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่สำคัญไปชี้แจงต่อประชาชน โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ ทำไมต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ตัวเลข 6-4 - 6-4 คืออะไร, รัฐบาลสั่งห้ามใช้น้ำหรือสั่งห้ามทำนาจริงหรือ และโรดแมปของ คสช. โดยการชี้แจงจะดำเนินการควบคู่ไปกับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง ได้แก่ สถานการณ์น้ำในพื้นที่นั้นๆ การขอความร่วมมือและให้คำแนะนำในเรื่องการปลูกพืชใช้น้ำน้อยสำหรับพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง บนพื้นฐานของความเห็นใจในความเดือดร้อนของเกษตรกร ทั้งนี้การแก้ปัญหาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรให้อยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจ
“การช่วยเหลือภัยแล้งรัฐบาลได้กำหนด 8 มาตรการช่วยเหลือ และแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนคือในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด และพื้นที่นอกเขตชลประทาน 55 จังหวัด เลขาธิการคสช.กำชับให้ กกล.รส.ประสานในเรื่องการจัดทำและเสนอ โครงการความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง โดยให้ฝ่ายปกครอง กระทรวงเกษตรฯ และฝ่ายทหารร่วมกันทำประชาคมกับประชาชน เสนอเป็นโครงการความช่วยเหลือภายในเดือน ต.ค. 58 เพื่อให้สามารถเริ่มเปิดโครงการได้ตั้งแต่ พ.ย. 58 ทั้งนี้รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือในลักษณะเมล็ดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ส่วนการปฏิบัติงานของ คสช.ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกกล.รส.และศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปให้ทำงานสอดคล้องกันสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและจังหวัดอย่างเต็มที่ โดยยึดถือความเดือดร้อน ความไม่เข้าใจ และความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรมได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนแล้ว 1,186,077 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 95.7 ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ให้ยึดถือหลักการเช่นเดียวกันด้วย” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว