หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 29
บรรยากาศหมู่บ้านยามเช้า แมวกับมั่นนั่งอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ กำลังตักข้าวเปล่ากันอย่างเอร็ดอร่อย
ไทกับหมากเดินเข้ามามองๆ ส่ายหน้าอย่างสงสาร
"อร่อยมั้ยน้า นั่งกินข้าวกับปลาเนี่ย" ไทว่า
"ไม่ใช่ปลาธรรมดาด้วยนะ ปลาสดๆ ด้วย" หมากว่า
ไทกับหมากมองเห็นปลาในน้ำ เต็มไปหมด ก่อนหมากทำหน้าเซ็ง หันมาพูดกับแมวมั่น
"ข้าเบื่อกับข้าวบนศาลามีแต่ผัก อยากได้โปรตีนบ้าง" มั่นบอก
"อ้าวอยากได้ก็ไม่บอก โปรข้าไม่มีให้หรอก แต่ข้ามี" แมวบอก
แมวทำท่าจะยกเท้า มั่นรีบดุ
"ทะลึ่งแล้วไอ้แมว" มั่นบอก
ไทมองด้วยความสงสาร
"น้าสองคนอยากกินอะไร เดี๋ยวฉันเลี้ยง"
แมวกับมั่นรีบวางจานแล้วเดินมาเกาะแขนไท พูดเสียงอ้อน
"จริงนะไท"
"นิดๆ หน่อยฉันเลี้ยงได้"
"ไม่ต้องหรอกไอ้น้อง น้าสองคนเนี่ย ฉันเลี้ยงเอง"
ไท หมาก มั่น แมว หันไปมอง
ชายใส่ชุดเอี๊ยมขาสั้นผูกหูกระต่ายดูดี ดูเป็นคุณชาย มีกระเป๋าสะพายดูดีมาด้วย ชายยืนยิ้มกว้างพร้อมกับขนมและอาหารเต็มไม้เต็มมือ แมวกับมั่นทำท่าดีใจ
"ไอ้ชาย"
ชายยิ้ม "เปลี่ยนจากไอ้เป็นคุณจะดีกว่านะน้า"
มั่นกับแมววิ่งมาหาชาย ชายกางแขนนึกว่าสองคนจะเข้ามากอด แต่ดันวิ่งมารับถุงอาหารไป ชายเซ็ง
ไทมองชายอย่างสงสัยว่าเป็นใคร
บนศาลาวัด หลวงพ่อกำลังพูดไปยิ้มไป
"ชาย เนี่ยเค้าเป็นเด็กวัดรุ่นแรกเลยท่าน"
หลวงพี่พยักหน้ารับ
"เรียกว่าเด็กวัดรุ่นที่หนึ่งครับ ปลุกเสกที่วัดบ้านธารธรรม พุทธคุณทำมาค้าขึ้น ค้าขายร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง"
"พุทธคุณขนาดนั้นเด็กวัดหรือพระเครื่องกันแน่ครับ" ไทถาม
"ไอ้ชายมันเป็นคนตลก" แมวบอก
"น้าเรียกฉันให้เกียรติเงินในกระเป๋าฉันด้วย ต่อไปนี้ให้เรียกฉันให้มีคุณนำหน้าด้วย"
"ได้สิ ไอ้คุณชาย" แมวบอก
"จะเรียกอะไรก็แล้วแต่น้าละกัน"
"หนีไปทำงานกรุงเทพฯ ร่ำรวยเลยซะสิแต่งตัวซะดูดีเชียว" แมวบอก
"ก็ไม่เท่าไหร่หรอกน้า เสื้อผ้าฉันตัวละหกเจ็ดพัน"
มั่นแมวทำตาโต ชายยิ้มภูมิใจ
"โห...ค่าเสื้อผ้าเอ็งตัวเดียวจ่ายค่าไฟวัดได้เป็นปีๆ" มั่นบอก
"พี่ชายไปทำงานที่กรุงเทพฯมากี่ปีแล้วครับ" ไทถาม
ชายทำท่านับ ยืมนิ้วมั่นมานับ ยืมนิ้วแมวมานับ ก่อนตอบไท
"3 ปี"
"แหมยืมนิ้วคนอื่นนับยังกับไปเป็นสิบๆ ปี" หมากบอก
"หายไปนานไม่ส่งข่าวเลยนะชาย"
ชายรีบเข้าไปหาหลวงพ่อ ออเซาะทันที
"ถ้าผมไม่ได้ดี ผมคงไม่มีหน้ากลับมาทำให้หลวงพ่อเป็นห่วงผมหรอก"
ชายกราบหลวงพ่อ หลวงพ่อยิ้มบางๆ ให้
"แต่ดูท่าทางโยมไปอยู่กรุงเทพฯ คงสุขสบายดี" หลวงพี่บอก
"ครับ และผมมีเงินเล็กๆ น้อยๆ มาตอบแทนวัด ตอบแทนหลวงพ่อที่เคยเลี้ยงดูผมครับ"
ทุกคนมองชายลุ้นๆ ชายหยิบซองสีน้ำตาลใหญ่ดูหนาๆ มั่นมองตาโตคิดว่าเป็นซองเงิน ชายหยิบออกมาจากกระเป๋าก่อนใส่คืนแล้วหยิบถุงผ้าออกมาประเคนให้หลวงพ่อ
"นี่ครับหลวงพ่อ"
หลวงพี่มองหลวงพ่อรับถุงผ้า เห็นว่าใส่เงินเหรียญชัดเจน
"ขอโทษนะครับมีแต่เงินเหรียญพอดีไม่มีเวลาไปแลก"
หลวงพี่มองอย่างสงสัย ก่อนคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วยิ้มยินดีไปกับหลวงพ่อ
ริซซี่กำลังจัดผมให้เหมยอยู่ในร้าน เหมยเพิ่งทำผมเสร็จ เจนนี่นั่งจ้องหน้าเหมยอยู่ข้างๆ
"เรียบร้อยค่ะ"
เจนนี่ยื่นหน้าไปพูดใกล้ๆ
"บอกได้ยัง"
"ยัง"
เหมยหันหน้าหนี เจนนี่ดึงตัวเหมยกลับ
"บอกเหอะพี่อยากรู้"
"ปากพี่เจนเหม็นมาก"
"เหม็นได้ไงพี่กินสารส้มไปตั้ง 3 ก้อน"
"คนบ้าอะไรกินสารส้ม" ริชชี่ว่า
เจนนี่ยิ้มอาย
"ที่เหม็นเพราะพี่ไม่ได้แปรงฟันก็รีบออกมาทำผมเป็นเพื่อนน้องเหมยเนี่ย"
เจนนี่กับริซซี่จ้องหน้าเหมยพร้อมกัน เข้าคนละฝั่งแล้วถามเหมือนกัน
"ตกลงจะทำผมไปไหน พูด"
เหมยอึกอักๆ ไม่ตอบเสียงโทรศัพท์ดัง เหมยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ามาดู
"คุยโทรศัพท์แป๊บน้า"
เหมยวิ่งออกไปหน้าร้านริซซี่ เจนนี่กับริซซี่มองตามอย่างสงสัย
ไทคุยโทรศัพท์อยู่ มุมหนึ่งในวัด
"อย่าลืมนัดนะคุณ ... ไม่รู้แหละโทร.มาเตือนเดี๋ยวคุณเบี้ยว อย่าลืมคิดมาด้วยละว่าอจะดูหนังเรื่องอะไร"
หมากหลบฟังอยู่ตรงต้นไม้ ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
"อีกชั่วโมงเจอกันตรงหน้าหมู่บ้านนะ ครับๆ สวัสดีครับ"
ไทวางสายยิ้มๆ หมากโผล่มา ไทตกใจ
"พี่ไทจะไปดูหนังกับใคร"
ไททำหน้าอึกอัก หมากมองอย่างรอคำตอบ
เหมยหน้าเหรอหราแก้ตัวอยู่
"เปล่าซะหน่อย เหมยไม่ได้ไปดูหนัง"
เจนนี่กับริซซี่จ้องเหมยอยู่
"ทำตัวมีนิรุษ" เจนนี่บอก
"พิรุธ" ริชชี่บอก
"นั่นแหละ แล้วน้องเหมยคุยกับใคร"
"กับเพื่อน"
"จริงอ่ะ"
"จริงสิ ถามไรกันวุ่นวายเหมยไปนะ"
เหมยรีบเดินไป เจนนี่จะเดินตามริซซี่ดึงไว้
"อะไรนังริซซี่"
"จ่ายค่าทำผมมาก่อน"
เจนนี่ทำท่าเซ็ง
หลวงพี่นั่งมองชายนวดเอาใจหลวงพ่ออยู่ หลวงพี่ยิ้มๆ มั่นกับแมวมอง
"ปวดตรงไหนบอกเลยนะครับหลวงพ่อ"
"ตอนแรกก็ไม่ปวดหรอก แกนวดนานจนหลวงพ่อปวดแล้วเนี่ย"
"ก็ผมอยากดูแลหลวงพ่อ ชดเชยตอนผมไม่อยู่"
"ไอ้แมวไอ้มั่นก็ดูแลหลวงพ่อไม่ต้องห่วงหรอก เอ็งไปทำมาหากินดีแล้ว"
มั่นอยากรู้อยากเห็น
"ไอ้ชายเอ็งทำงานที่กรุงเทพฯ ได้เงินเดือนกี่บาทวะ"
"สามหมื่นน้า"
"โอ้โห แกเรียนไม่จบปริญญาได้เงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอ งานอะไรอ่ะ"
"ก็บริษัทเอ็นเทอร์สิเม้นท์"
ทุกคนทำหน้างง มึนตึบ
"เอ็นเทอร์เทนเม้นท์รึเปล่า" หลวงพี่ว่า
"อ้อใช่ๆ ครับหลวงพี่ ชื่อบริษัทอาร์เอ็กซ์"
"ใช่ครับผมออกเสียงผิด อาร์เอสเค้าทำค่ายมวยด้วย"
"ค่ายเพลง" หลวงพี่ว่า
"มีนักร้องในค่ายชื่อใบตอง"
"ใบเตย"
"นั่นแหละๆ ฉันลองภูมิพวกน้าดู ว่าจะรู้เรื่องในวงการมั้ย"
"ทำไมพวกข้าจะไม่รู้ พวกข้านี่แฟนช่อง 8 เลยละ" มั่นว่า
"ไอ้ชายไหนๆ เอ็งก็มีเงินแล้ว เลี้ยงข้าวข้าสักมือดิ อยากกินอาหารเหลา" แมวว่า
"พวกกบเหลาดินสอ มีดเหลาดินสอนะเหรอน้า"
"อย่ามาตลกเร็วๆ เลย"
"อ่ะๆ ไปๆ ...เดี๋ยวผมกลับมานะครับหลวงพ่อ"
หลวงพ่อพยักหน้ารับ แมวกับมั่นเดินนำไป ชายหยิบกระเป๋าเดินแล้วคลานตามออกไป หลวงพี่มองที่ก้นชาย เห็นป้ายร้านเช่าชุด “ร้านสูทลูกคุณ”
หลวงพี่สงสัย
อ่านต่อหน้าที่ 2
หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 29 (ต่อ)
เหมยเดินมาทำหน้าเหมือนสงสัยบางอย่าง เจนนี่กับริซซี่ย่องตามมา เหมยหยุดเดินแล้วหันกลับ เจนนี่กับริซซี่หลบ เหมยมองไม่เห็นคิดว่าตัวเองคิดไปเองเดินต่อ เจนนี่กับริซซี่ออกจากที่ซ่อน เหมยเดินต่อหยุดแล้วหันกลับอย่างเร็ว เจนนี่ริซซี่หลบตรงต้นไม้ข้างทาง แต่หลบไม่พ้นเหมยมองเห็นแล้วยิ้มๆ
เหมยหันกลับยิ้มๆ ก่อนกาแฟโผล่มา เหมยไม่ทันเห็นชนกาแฟเหมยตกใจ กาแฟรับไว้
"เฮ้ย!"
"เดินเหม่อคิดถึงใครเนี่ย"
เหมยยิ้มเหมือนนึกแผนได้พูดเสียงดัง
"มีคนบ้าตามเรามามันแอบอยู่หลังต้นไม้"
กาแฟตกใจหยิบปืนออกมาอย่างเร็ว
"ใครอ่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ"
ริซซี่กับเจนนี่ตกใจ เหมยจับมือกาแฟให้เอาปืนลงก่อนแกล้งตะโกน
"ยิงเลยกาแฟ ยิงเลย ยิงเลย ปั้ง ปั้ง ปั้ง"
เจนนี่บอก "อย่ายิงค่ะ อย่ายิง"
กาแฟมองเห็นเจนนี่กับริซซี่ออกจากต้นไม้ ขาสั่น เหมยหัวเราะลั่น
"ฮ่าๆๆๆ สมน้ำหน้า"
"น้องเหมยรู้ใช่มั้ยคะว่าพี่สองคนตามมา"
"ใช่"
"รู้แล้วทำไมใจร้ายจะให้หมวดยิงพี่ได้ลงคอ พี่ยังไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตนเลย"
"อย่ามาตลก ตามเหมยมาทำไม"
เจนนี่บอก "ก็น้องเหมยทำตัวมีลับลมใน เหมือนนัดใครไว้แล้วไม่ยอมบอก"
"นัดใครไว้เหรอเหมย" กาแฟถาม
เหมยเสียงสูง "เปล๊า"
ทุกคนมองหน้าเหมยอย่างสงสัย กาแฟมองเศร้าๆ เหมือนรู้
"ถ้าไม่ได้นัดใครไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ ว่างปะ"
เหมยหันหน้าหนีทำท่าเซ็งๆ ที่ทุกอย่างไม่เป็นตามแผน
"ถ้านัดใครไว้ก็ไม่เป็นไรนะ เราไปคนเดียวได้"
"เปล่านัด ไปสิปะๆๆๆ ไปกินข้าวกัน"
เหมยดึงมือกาแฟจะเดินออกไป เสียงโทรศัพท์เหมยดัง ทุกคนมองเหมย เหมยทำท่าเซ็งคนเดียว
ไทคุยโทรศัพท์ยิ้มๆ เดินลงบันได หมากย่องตามมาติดๆ
"ผมกำลังออกนะคุณ"
"อย่าเพิ่งๆ"
ไทหยุดยืนอยู่ที่บันไดทำหน้าสงสัย
"ทำไมคุณยังแต่งตัวไม่เสร็จเหรอ ไม่ต้องแต่งสวยมากหรอกคุณเดี๋ยวคนอื่นมอง เก็บ
ไว้ให้ผมมองคนเดียวพอ"
ไทมัวแต่คุยโทรศัพท์ไม่ทันเห็นว่าหมากยื่นหูมาฟังโทรศัพท์ของไทอยู่
"ฉันมีธุระขอเลื่อนไปสักสองชั่วโมง"
"อ้อได้สิ"
เสียงกาแฟเข้ามา "เหมยอยากกินอะไร ไปกินร้านเดิมนะ"
ไทฟังเสียงกาแฟทำหน้าเศร้า
"แค่นี้นะไว้เจอกัน"
เสียงโทรศัพท์ถูกวางสาย
"นัดเราแล้วไปกับคนอื่นได้ยังไง"
ไทหันไปเจอหมากตกใจ
"เห้ย! มาได้ไง"
"มาได้ไงไม่สำคัญพี่ แต่เราจะไม่ยอมให้ผู้หญิงมาเห็นเราเป็นของเล่นแบบนี้เด็ดขาด"
หมากทำท่าจริงจัง เหมือนโดนลบเหลี่ยม ไททำหน้าเครียดๆ
โต้งนั่งกินองุ่นจากพวงอยู่ ก่อนเป่าเม็ดองุ่นทิ้งไปทั่วดูกะเลวกะลาด เผือกมาหยุดมองอย่างสมเพชก่อนเดินวนไปมาต่อ
"เลิกเดินได้แล้วไอ้เผือกฉันเวียนหัว"
เผือกถอนหายใจเซ็งนั่งลง
"บางทีการไม่มีงานทำมันก็น่าเบื่ออ่ะพี่ว่ามะ"
"ถ้าเบื่อก็หาอะไรทำดิวะ"
เผือกมองหน้า โต้งพยักหน้าไปมองไปใกล้ๆ โต้งมองไปเห็นชาย มั่น และแมวเดินมา
โต้งเผือกหันมองหน้ากันก่อนรีบเดินไปขวางทางแมว มั่น ชาย
"อะไรของเอ็งสองคน โผล่มายังกะสัมภเวสี" มั่นถาม
"ใช่พวกฉันอยากได้ส่วนบุญ แฮ่" เผือกว่า
โต้งทำท่าเซ็งเผือกก่อนหันมาพูดต่อ
"ก็แค่อยากมาทักทายคนเคยรู้จักกัน"
"แค่คนรู้จักที่ไหน เรียกว่าเป็นอดีตเป้าหมายเลยหนึ่งของพี่โต้งต่างหาก"
ชายทำท่าเซ็ง
"ฉันหายไปตั้งนาน แกสองคนก็ยังอยู่อย่างไร้ประโยชน์ ใช้ออกซิเจนโลกไปวันๆ เหมือนเดิมสินะ"
"ปากเสียขึ้นเยอะเลยนะไอ้ชาย ถามจริงที่กลับมาเนี่ยไปไม่รอดแล้วใช่มั้ย" เผือกถาม
"ทำไมจะไม่รอดมันมีงานดี มีเงินใช้ เงินเยอะด้วยโว้ย" แมวว่า
"อย่างไอ้ชายเนี่ยนะจะรวย" เผือกว่า
"ทำไมคนอย่างฉันจะรวยไม่ได้"
"ถ้าแกรวยจริงก็เอาหลักฐานมาโขว์ดิ"
ชายทำหน้าคิดๆ มองหน้าโต้ง
ในร้านอาหารตามสั่ง กาแฟกับเหมยกำลังดูเมนู เหมยดูนาฬิกา ร้อนใจ
"เหมยมีนัดสำคัญกว่ากินข้าวกับเราปะเนี่ย"
"เปล่าไม่มี สั่งข้าวกินเหอะ"
สองคนดูเมนู หน้าร้านมุมหนึ่งไทกับหมากยืนอยู่ ไทดูเสียใจ
"พี่ไท"
ไทมองไปเห็นกุ๊กไก่เดินมา
"กุ๊กไก่มาได้ไงเนี่ย"
หมากขยิบตาให้ไท
"ก็พี่ให้ฉันโทรชวนกุ๊กไก่มากินข้าวไม่ใช่เหรอ"
ไทกระซิบกับหมาก
"ไอ้หมากแกจะทำอะไร"
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันพี่คอยดู"
ไทมีสีหน้าไม่สบายใจ
"มีอะไรกันรึเปล่า"
"เปล่า"
"ไปกินข้าวกันเหอะกุ๊กไก่หิว"
กุ๊กไก่เดินเข้าร้านมา ไทกับหมากเดินตาม
"อ้าวหมวด กินข้าวเหมือนกันเหรอ"
"กินพิซซ่ามั้ง ร้านตามสั่งเนี่ย" กาแฟว่า
"พูดดีๆ ด้วยกวนทำไม เดี๋ยวกระโดดกัดคอซะเลย"
ไทห้าม
"ไปนั่งโต๊ะอื่นกันเหอะกุ๊กไก่"
ไทเดินนำไปเลื่อนเก้าอี้ให้กุ๊กไก่นั่ง เหมยมองอย่างไม่พอใจ
อ่านต่อหน้าที่ 3
หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 29 (ต่อ)
ส่วนชายจ้องโต้งอยู่
"อ้าวนิ่งๆ ไม่ได้มีเงินจริงอย่างพี่พูดอะดิ"
"มีสิ ข้าเห็นซองเงินไอ้ชายซองเบ้อเร่อเลย เอาให้มันดูเลยไอ้ชาย มันจะได้เลิกดูถูกเอ็ง" แมวว่า
"ฉันไม่บ้าตามมันหรอก ไปกันเหอะน้า"
ชายจะเดินผ่านไป เผือกดึงเป้ชายแย่งมาถือ
"เฮ้ยไอ้เผือกทำไรวะ"
"ก็จะดูเงินเอ็งไง"
พูดจบเผือกรูดซิบกระเป๋าชายพยายามดึงกระเป๋าคืน ยื้อกันไปมาของในกระเป๋าเทออกมา มีสบู่ก้อนใช้เหลือใส่ถุงพลาสติกไว้ ยาสระผมซอง น้ำยาบ้วนปากขวดเล็ก แปลงสีฟันบานๆ ขนมปังก้อนใหญ่ๆกินเหลือ บ๊อกเซอร์เก่า กางเกงในขอบยางยืด
ทุกคนมอง ของที่หล่นอยู่ มั่นแมวมองงงๆ
เผือกหยิบทีละชิ้น
"โอ้โห กางเกงในหรือสายวัดเอววะ ยืดขนาดนี้ฮ่าๆๆ"
ชายแก้ตัว
"ยืดๆ แบบนี้มันสบายไม่อึดอัดโว้ย"
โต้งมองเห็นซองสีน้ำตาลหยิบขึ้นมาดู ชายจะแย่งแต่แย่งไม่ทัน
"นี่สินะซองเงิน ขอดูหน่อยสิ"
พูดจบโต้งเทซองสีน้ำตาลออกเห็นเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าหลายฉบับ
"ไหนวะเงินเห็นมีแต่หนังสือพิมพ์" เผือกบอก
"พกหนังสือพิมพ์ทำไมเยอะแยะ หรือว่า" โต้งว่า
"ไอ้ชายมันชอบอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้โว้ย" แมวบอก
"เพิ่มพูนความรู้หรือเอาไว้พับถุงกล้วยแขกขาย ดูดิมีอยู่ซองหนึ่งด้วย" เผือกบอก
เผือกหยิบหนังสือพิมพ์มาคลี่ดูเห็นซองกล้วยแขกที่พับจากหนังสือพิมพ์อยู่ 4-5 ใบ
ชายทำท่าโกรธมาก มองเผือกกับโต้งที่หัวเราะเยาะสะใจ
"ถ้าไม่มีที่ไป กลับมารับใช้ฉันเหมือนเดิมก็ได้นะไอ้ชาย" โต้งบอก
"ไอ้โต้งไอ้เผือกเลิกดูถูกไอ้ชายมันได้แล้ว ไปเหอะชาย"
"อย่าไปยุ่งกับมันเลยพี่คนอย่างไอ้ชาย มันไม่รักดี “ไอ้เด็กวัด” เผือกบอก
"ใครจะไปก็ไป ข้าขอเอาเลือดปากไอ้สองคนนี้ออกก่อน" แมวบอก
พูดจบแมวกะโจนเข้าใส่เผือก ตะลุมบอนกัน มั่นเข้าไปห้ามแต่ไปร่วมด้วย ห้าคนตีกันมั่วไปหมด
หลวงพ่อกับหลวงพี่ส่ายหน้ามองๆ ที่ทุกคนมีบาดแผล
"มั่นกับแมวเป็นผู้ใหญ่แทนที่จะห้ามก็ดันไปร่วมด้วย" หลวงพ่อบอก
"โยมโต้งกับโยมเผือกก็ไม่น่าหาเรื่องชายขนาดนี้" หลวงพี่ว่า
"ไม่เป็นไรครับหลวงพี่ ผมไม่ถือ" ชายบอก
"ทำเป็นคนดี มีเงิน ไอ้สร้างภาพ"
"ปากเสียไม่หยุด"
แมวจะกระโจนใส่เผือก มั่นดึงไว้
"งั้นผมกลับนะครับหมดธุระแล้ว" โต้งว่า
"ไม่คิดจะขอโทษกันรึไง" แมวถาม
"ไม่"
โต้งกับเผือกเดินออกไป โต้งหันมาพูดก่อนออกไป
"อ้อลืมไป หนังสือพิมพ์ที่บ้านฉันมีเยอะนะ ถ้าจะเอาไปพับถุงขาย"
"ไอ้โต้ง ไอ้เสล็ดพังพอน"
แมวทำท่าโมโห หลวงพี่มองชายทำหน้าเศร้า
"ไม่ต้องไปถือโทษโกรธเค้านะชาย ใครจะว่ายังไงเรารู้อยู่เต็มอก" หลวงพ่อบอก
"ครับหลวงพ่อ"
"เอ็งก็น่าจะอวดมันไปบ้างว่ารวยแล้ว ปล่อยให้มันว่าอยู่ได้นึกละโมโห" แมวว่า
ชายทำหน้าเศร้าๆ หลวงพี่มองหน้าชายคิดๆ
ไทนั่งกินข้าวอยู่กับกุ๊กไก่และหมาก ไทมองกาแฟที่ตักกับข้าวให้เหมย
"พี่ไทจ๋าตักผัดผักให้กุ๊กไก่หน่อยสิ"
ไทพยักหน้ารับ แต่ไม่มองตักพริกในจานผัดผักให้กุ๊กไก่
กุ๊กไก่เสียงดัง
"พี่ไทตักอะไรให้กุ๊กไก่"
ไทยังมองเหมยอยู่ "ผักไง" ไทมองที่จานกุ๊กไก่เห็นพริกเต็มจาน "เห้ย"
เหมยกับกาแฟหันมามองโต๊ะไท
"ก็พริกก็ถือว่าเป็นผักเหมือนกัน"
กาแฟหันกลับมาคุยกับเหมย
"กินข้าวเสร็จถ้าเหมยไม่ไปไหน ไปดูหนังกันปะ"
ไทกับเหมยหันมามองหน้ากัน
"อุ้ยพี่ไท กุ๊กไก่ก็อยากดูหนังเหมือนกันอ่ะ"
เหมยงอนไทหันมาตอบกาแฟ
"ไปสิเราว่างแล้ว"
"พี่ไทฉันว่าสั่งผัดผักเพิ่มดีกว่า ป้าๆ เอาผัดผักนารีผิดนัด" หมากบอก
เหมยหันมองโต๊ะไททันทีเหมือนรู้ว่าโดนด่า แล้วจ้องหน้าไท
เหมยสั่งกับแม่ค้า
"ฉันเอาข้าวผัดใจโลเล"
ไทรู้ว่าเหมยด่าเอาบ้าง
"งั้นผมเอากระเพราหลอกลวง" ไทบอก
"ผัดเผ็ดงี่เง้า"
"ไข่ดาวหลายใจ"
ป้าคนขายโวยเสียงดัง
"ไม่มีโว้ยอยากกินไปสั่งร้านอื่น"
ทุกคนเงียบหมด
เหมยโมโหตบโต๊ะแล้วเดินออกไป ไทรู้สึกผิดวิ่งตามออกไป แม่ค้าขวางทางกาแฟ กุ๊กไก่ หมากไว้
"จ่ายค่าข้าวมาด้วย"
สามคนทำหน้าเซ็ง
เหมยเดินหนี ไทเดินตามมาง้อมาทางทางเดินในหมู่บ้าน
"นี่คุณ"
เหมยได้ยินเสียงไทยิ่งเดินเร็ว ไทวิ่งมาจับแขนเหมยไว้
"โกรธเหรอ"
เหมยดึงมือออก
"เปล่า"
"ผมขอโทษ ผมทำไมเพราะน้อยใจ ที่คุณไม่มาตามนัด"
"ฉันบอกแล้วไงว่าขอเลทไม่ได้บอกว่าจะไม่ไป"
"แต่ผมเห็นคุณกับหมวดอยู่ด้วยกันแล้วมันเจ็บจี้ด"
"แค่เริ่มยังไม่เชื่อใจกัน ก็พอเหอะ"
เหมยเดินหนี ไทได้ยินแล้วก็อึ้งๆ รู้สึกผิด
ชายนั่งเหม่ออยู่ริมน้ำ คิดเรื่องตัวเองอยู่ ย้อนคิดถึง
โต้งเทซองสีน้ำตาลออกเห็นเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าหลายฉบับ
"ไหนวะเงินเห็นมีแต่หนังสือพิมพ์" เผือกถาม
"พกหนังสือพิมพ์ทำไมเยอะแยะ หรือว่า"
"ไอ้ชายมันชอบอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้โว้ย" แมวบอก
"เพิ่มพูนความรู้หรือเอาไว้พับถุงกล้วยแขกขาย ดูดิมีอยู่ซองหนึ่งด้วย"
เผือกหยิบหนังสือพิมพ์มาคลี่ดูเห็นซองกล้วยแขกที่พับจากหนังสือพิมพ์อยู่ 4-5 ใบ
ชายทำท่าโกรธมาก มองเผือกกับโต้งที่หัวเราะเยาะสะใจ
ชาย ถอนหายใจแรง
ไทเดินเศร้าๆ เข้ามามองเห็นชายนั่งอยู่เลยเข้ามาทัก
"นั่งดื่มด่ำบรรยากาศเก่าๆ อยู่เหรอพี่"
"อืม...กินลมชมวิวริมน้ำ ปกติสูดแต่ควันรถ"
"อย่าสูดเยอะนักนะพี่ ตัวเริ่มบวมแล้ว"
"อ้าวไอ้นี่"
ไทนั่งลงข้างๆ ชายทำหน้าเศร้า ชายมอง
"เป็นไร อกหัก รักคุด หรือตุ๊ดเมิน"
"ผิดหวังกับตัวเองนิดหน่อยพี่"
"พี่ผิดหวังกับตัวเองเยอะเลยละ"
ไทกับชายมองหน้ากันอย่างเห็นใจ
"โดดน้ำกันมั้ย"
"ไม่เอาผมไม่อยากตาย"
"ก็ไม่ได้ชวนฆ่าตัวตาย แต่อยากว่ายน้ำ"
"ไม่ดีกว่าพี่ พี่เครียดเหรอคุยกับผมได้นะ"
"การจะก้าวข้ามคำว่าเด็กวัดไปได้ เพื่อไม่ให้คนดูถูกยาก"
"ทำไมต้องก้าวข้ามพี่ เราเป็นเด็กวัดมันผิดอะไร คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน"
"เมื่อไหร่คนอย่างเราจะมีเหมือนคนอื่นเค้าซะที เค้าจะได้ดูถูกเราไม่ได้"
"ถ้าเราทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและ ความดี สักวันความดีจะตอบแทนเราเอง"
ชายมองหน้าไทคิดๆ ไทยิ้มให้ ก่อนสองคนมองทอดออกไปริมน้ำด้วยกัน
อีกฝั่งหลวงพ่อยืนมองอยู่ด้วยความเป็นห่วงศิษย์
อ่านต่อตอนที่ 4
หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 29 (ต่อ)
วัดยามค่ำคืน หมากนั่งหน้าจอคอมพ์ หลวงพี่นั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่
"หลวงพี่ครับมีคนมาโพสถามคำถามในเฟซครับ"
"เค้าถามว่าอะไรละ"
หมากอ่าน - - ทำยังไงดีเพื่อนที่เรียนจบมาได้ทำงานดีๆ ทั้งนั้นยกเว้นดิฉันที่ได้ทำงานเงินเดือน
น้อยและรู้สึกอายเวลาไปเจอเพื่อน
หลวงพี่คิดๆ
"เดี๋ยวหมากตอบให้หลวงพี่หน่อยนะ พิมพ์ว่า"
"ครับ"
"Enjoy your own life without comparing it with that of another."
"หลวงพี่ครับ"
"พิมพ์ไม่ทันเหรอ"
"ไม่ใช่ไม่ทันครับ พิมพ์ไม่ถูก มีภาษาไทยมั้ยครับ"
"อ๋อโทษทีงั้นพิมพ์ว่า จงมีความสุขอยู่กับชีวิตของตัวคุณเอง โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับชีวิตของคนอื่น"
"โอเคครับ"
หมากนั่งพิมพ์ให้หลวงพี่ ก่อนหลวงพี่หันไปมองเห็นหลวงพ่อเดินเข้ามา
หลวงพ่อสีหน้าไม่สบายใจ เดินเข้ามาหาหลวงพี่
"ท่าน หลวงพ่อมีอะไรจะให้ช่วยหน่อย"
"อะไรเหรอครับท่าน"
"ท่านช่วยเสิด"
"เสิร์ทครับท่าน"
"นั่นแหละ เสิดหาข้อมูลอะไรให้หลวงพ่อหน่อย"
หลวงพ่อหน้าเครียดๆ หมากกับหลวงพี่มองหน้าหลวงพ่ออย่างสงสัย
บรรยากาศเช้าวันใหม่
ริซซี่กับเจนนี่มีเหงื่อซึมๆ เพราะกำลังยืนเต้นแอโรบิกประกอบเพลง “ฝึกกับพี่ได้มั้ยของ FFK” อยู่ เหมยนั่งมองสองคนเต้นยิ้มๆ
"น้องเหมยมาเต้นด้วยกันสิคะ" เจนนี่ว่า
"ไม่เอาหรอกตามลำบากเลย"
"ตามสบาย"
เจนนี่หันกลับมา ริซซี่เต้นแรงกว่าเพลงมาก เจนนี่เท้าสะเอวดูริซซี่เต้นเบื่อๆ
"นี่นังริซซี่ถ้าแกจะเต้นไม่ให้เกียรติจังหวะขนาดนั้นก็ปิดเพลงเหอะ"
"ก็ถ้าไม่แรงกลัวน้ำหนักไม่ลดอ่ะ"
"อยากลดเร็วๆ มั้ยละฉันมีวิธี"
"ทำไงอ่ะ"
"ไปตัดขาทิ้งสักข้างรับรองลด"
ริซซี่ทำท่างอน ก่อนเดินไปปิดเพลงจากมือถือ
"ไอ้บ้า"
เหมยขำๆ สองคน ก่อนหันมองเห็นไทเดินเข้ามามอง เหมยเห็นไทรีบหุบยิ้ม
"น้องไทมาหาพี่เจนเหรอ" เจนนี่เข้าไปควงแขนไท
"เปล่าครับ"
ริซซี่ยิ้มเยาะก่อนดึงเจนนี่ออกมาแล้วไปควงแขนไทแทน
"มาหาพี่ใช่ปะ" ริชชี่ว่า
"เปล่าครับ"
เจนนี่หัวเราะเยาะริซซี่
"มาหาน้องเหมยละสิ"
เหมยได้ยินก็เดินสวนไทออกไปอย่างไม่สนใจ ไทเดินตามเหมยไป
"อะไรของสองคนนี้เนี่ย" เจนนี่ว่า
"จะงงอะไร อยากรู้ก็ตามไปดูสิ"
เจนนี่กับริซซี่เดินตามไทกับเหมยออกไป
เหมยเดินหนีไทเดินตาม
"ต่อให้คุณหนีไปไหนผมก็จะตามคุณไปทุกที่"
เหมยเดินเร็ว
"กลัวผมเหรอ"
เหมยหยุดเดินแล้วหันมาจ้องไท
"เรื่องอะไรฉันต้องกลัวนาย"
ไทเดินมาใกล้เหมย
"ถ้าไม่กลัวแล้วหนีทำไม"
"เกลียดไง"
"ระวังเหอะเค้าว่าเกลียดสิ่งไหนจะได้สิ่งนั้น"
เหมยเบือนหน้าหนีไท ทำท่างอนๆ
"ผมขอโทษที่ทำตัวแบบเมื่อวาน ยกโทษให้ผมนะ"
เหมยนิ่งๆ ด้านหลังริซซี่กับเจนนี่โผล่หน้ามาแอบฟัง
"จริงๆ ผมน่าจะรอเวลาจนกว่าคุณจะมาไม่ใช่พาลแบบนั้น เพราะแค่คุณเหมยยอมรับปากไปดูหนังกับผม แค่นั้นก็ดีเกินพอแล้วสำหรับคนอย่างไอ้ไท"
เหมยหันมามองหน้าไท
"อย่าให้มันเว่อร์นัก ก็คนเหมือนกันนะแหละ"
"ยกโทษให้ผมนะ"
"อืม" เหมยพยักหน้ายิ้ม
"ต่อไปถ้าคบกันผมจะไว้ใจเชื่อใจคุณให้มาก"
"ไอ้บ้า ใครบอกจะคบกับนาย เพี้ยนปะเนี่ย"
"งั้นให้เกียรติไปดูหนังกับผมให้ผมได้แก้ตัวได้มั้ย"
เหมยทำท่าคิดๆ ริซซี่กับเจนนี่ที่แอบฟังทำท่าไม่ได้ยิน
"ได้ยินปะ" ริชชี่ถาม
"ไม่ได้ยินแต่กำลังจะได้กลิ่น"
"กลิ่นไร"
เจนนี่ทำท่าเบ่งตดดังปู้ด
ริซซี่โผล่ออกมา ไทกับเหมยมองไปเห็น
"อี๋ นังเจนทำไมซกมกขนาดนี้"
"ซกมกอะไร เรื่องตดเป็นเรื่องธรรมชาติ"
"น้องเหมยกับน้องไท คุยไรกันอ่ะ"
ไทกับเหมยมองหน้ากันยิ้มๆ ไม่ตอบ เจนนี่กับริซซี่ทำท่าเซ็งๆ
หลวงพ่อนั่งอ่านหนังสือสวดมนต์อยู่ มั่นกับแมวนั่งข้างๆ ชายคลานเข้ามาแต่ไกล
"แหม...มีมารยาทจังนะไอ้ชาย" แมวว่า
"นิดหนึ่งครับ"
"มารยาทดีแบบนี้ไงหลวงพ่อถึงได้รักเอ็งนักหนา"
"จริง นี่ฉันว่าถ้าหลวงพ่อมรณะไปคงยกสมบัติให้แกหมดแหละ" มั่นว่า
"ไอ้มั่น ปากเสียไปแช่งหลวงพ่อขี้กากขึ้นหัว"
ชายเข้ามานั่งลงข้างๆ หลวงพ่อ มั่นทำท่าเงียบ แมวคุยกับหลวงพ่อ
"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลวงพ่อจริงๆ ขอที่ให้ผมปลูกข้าวสักแปลงนะครับ"
"ได้สิ แต่ไม่ใช่ที่ทำกินนะ ที่ทำหลุมศพพวกเอ็งนะแหละ"
"ผมมีอะไรจะบอกหลวงพ่อครับ" ชายบอก
มั่น/แมวโพล่ง"อุ้ย!"
หลวงพ่อจ้องดุมั่นกับแมวก่อนหันมาคุยกับชาย
"มีอะไรชาย"
"คือจริงๆ แล้วผมไม่ได้มีงานดีๆ ทำ ไม่ได้มีเงินทองอย่างที่บอกหลวงพ่อหรอกครับ"
"หลวงพ่อรู้แล้ว"
"รู้ได้ยังไงครับ"
หลวงพ่อกับหลวงพี่เดินคุยกันอยู่
"ท่านครับผมจะไปดูลูกหน่อยนะครับ" หลวงพี่บอก
"ตามสบายเลยท่าน ไว้คราวหน้าหลวงพ่อจะไปด้วยนะ"
"ครับ... ผมเช็คเรื่องที่ทำงานของชายแล้วนะครับท่าน"
"ได้เรื่องว่ายังไงท่าน"
"เค้าไม่ได้ทำงานที่อาร์เอสครับ"
"อืม"
หลวงพ่อมีสีหน้าไม่สบายใจ
"ผมขอพูดอะไรหน่อยได้มั้ยครับ"
"ได้สิ"
"ผมว่าชุดที่ชายเค้าใส่ก็เป็นชุดที่เค้าเช่ามาจากร้านสูทลูกคุณครับ"
"ที่ชายเค้าแกล้งทำเป็นมีเงินมีทองคงเพราะกลัวหลวงพ่อจะไม่สบายใจ"
"แล้วหลวงพ่อจะทำยังไงครับ"
หลวงพี่มองหน้าหลวงพ่อ
แมวกับมั่นทำหน้าช็อก
"จะทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้น เอ็งสองคนก็รู้เรื่องแล้วเหมือนกัน"
"นี่ทุกคนรู้เรื่องหมดแล้วเหรอ" ชายถาม
แมว มั่น หลวงพ่อ พยักหน้า
"ข้าสงสัยตั้งแต่ของในกระเป๋าเอ็งเมื่อวานแล้วไอ้ชาย" แมวบอก
"ผมขอโทษที่ต้องโกหกว่าผมรวย ผมไม่อยากให้หลวงพ่อกับทุกคนเป็นห่วง"
"หลวงพ่อเข้าใจ"
"ไอ้ชายแล้วแกไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำอะไร" แมวถาม
"ก็หลายอย่างน้า เข็ญรถส่งของ พับถุงขาย รับจ้างซักผ้า ล่าสุดก็สอนเต้นหน้าห้าง"
"โถ่ไอ้ชาย ลำบากมากมั้ยเอ็ง" มั่นว่า
"ลำบากน้า แต่ฉันก็สู้ อยากมีเหมือนคนอื่นเค้า ฉันไม่อยากให้คนดูถูกด้วย"
แมวกับมั่นกอดชายด้วยความสงสาร กอดแน่นจนชายหายใจไม่ออก
"ข้าสงสารเอ็งวะไอ้ชาย" แมวบอก
"ถ้าสงสารฉันก็ปล่อยฉัน ฉันหายใจไม่ออก"
แมวกับมั่นปล่อยชาย
"อย่ามัวใช้ชีวิตเพราะกลัวคนจะดูถูก จนลืมความสุขของตัวเองนะชาย"
ชายยกมือไหว้หลวงพ่อ หลวงพ่อคืนถุงเงินให้ชาย
"รับเงินคืนไปเถอะ
"แต่ผมตั้งใจให้หลวงพ่อนะครับ"
"หลวงพ่อให้เอ็งเก็บไว้ใช้จ่าย ไม่อยากเบียดเบียนเอ็ง"
"ผมพอมีใช้ครับหลวงพ่อ ถึงจะไม่มาก แต่เงินก้อนนี้ผมตั้งใจให้หลวงพ่อจริงๆ"
ชายยิ้มกับหลวงพ่อ
"ถ้าไม่มีใครเอาผมกับไอ้แมว เอาไว้ใช้ก็ได้ครับ" มั่นบอก
หลวงพ่อหันมาจ้องดุมั่น
"ไอ้ชาย ถ้ามันลำบากมากกลับมาอยู่ด้วยกันที่นี่มั้ย" แมวถาม
"ไม่ละน้า ฉันมีความสุข มีงานทำ รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเวลาได้ทำงาน"
"ดีแล้วชาย คนอื่นจะว่าจะดูถูกเรายังไงก็เรื่องของเค้า ขอแค่เราอย่าดูถูกสิ่งที่เราเป็น
ทำทุกอย่างบนพื้นฐานของความดี แล้วสักวันความดีก็จะตอบแทนเรา"
มั่น/แมว บอก "สาธุ"
หลวงพ่อมองเงินที่ชายให้อย่างชื่นชม ทุกคนมองหน้ากันยิ้มๆ
อ่านต่อตอนที่ 30