xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 8

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 8

ไลลาเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าที่เลื่อนลอยเสมือนไร้ชีวิต เพ็ญศรีรีบเดินรี่มาหา
 
“ทันมั้ย”
ลูกสาวยื่นกระเป๋าให้แทนคำตอบ
“โอ๊ย เกือบไปแล้วเชียว”
“คนนี้ดูดีนะแม่” เธอแกล้งพูดหยั่งเชิงแม่
“ก็บอกแล้ว เค้าชื่อคุณดามพ์ คนนี้น่ารัก พูดเพราะ สปอร์ต ใจดี เป็นพ่อม่ายนะ ถ้าแกได้คุยกับเค้าแกต้องชอบแน่ๆ”
“แล้วแม่ไปเจอเค้าที่ไหน”
“ผับแถวทองหล่อ”
ไลลารีบถามต่อ “เค้าเดินเข้ามาจีบแม่เหรอ”
“เออสิ ทำไมล่ะ”
ฝ่ายลูกสาวเริ่มมีอารมณ์ “ไม่ทำไมหรอก แต่ไลคิดว่ากำลังจะมีพ่อคนเดียวกับเพื่อน”
คนเป็นแม่ตกใจ “พูดอะไรของแก”
“แม่ไม่รู้เหรอคะ ว่าตาดามพ์นั่นมันเป็นพ่อของนางฟ้า”
“นางฟ้าไหน”
“ก็อีนางฟ้า นางเอกละครไงแม่”
เพ็ญศรียิ่งอึ้งหนัก ก่อนจะย้อนนึกถึงเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อน

ขณะที่เพ็ญศรีกับดามพ์เดินมาถึงหน้าร้านเพชรที่อยู่ในห้างสรรพสิน ฝ่ายแรกเหลือบเห็นสร้อยเพชรในตู้ก็ตาลุกวาว ท่าทางกระดี๊กระด๊าอยากได้
“อุ๊ย เส้นนี้น่ารักจังเลยค่ะคุณ ดีไซน์สวยมาก”
พูดพลางหันมองหน้า ดามพ์ยิ้มนิดๆ ขณะเดียวกันสายตาเขาก็สอดส่องกลัวคนรู้จักผ่านมาเห็น ก่อนจะเห็นอัปสรสวรรค์กับจริยากำลังเดินคุยกันมา ดามพ์ตกใจ รีบดันเพ็ญศรีเข้าประตูร้าน
“อะไรกันคะคุณ”
ดามพ์ชะโงกมองนอกร้านอย่างมีพิรุธ จนกระทั่งเห็น 2 สาวเดินผ่านหน้าร้านไป
“คุณดามพ์” เพ็ญศรีเรียกชื่อเป็นเชิงถามย้ำ
“คือ ลูกสาวผมน่ะ”
“อ้าว ไหนคุณเคยบอกว่าลูกสาวไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าจะมีคนอื่น แล้วคุณหลบทำไม”
“ผมไม่อยากให้เค้าเห็น เดี๋ยวจะรู้สึกไม่ดี”
“อะไรกันคะ เดี๋ยวเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” เพ็ญศรีชะโงกหน้าออกไปดู “ไหนๆ คนไหนคะ”
ดามพ์รีบดึงแขนไว้ “อย่าสนใจเลยคุณ ไหน คุณจะเอาเส้นไหน”
เพ็ญศรีหน้าระรื่น หันมาสนใจกับสร้อยเพชรแทน
ดามพ์หน้าซีดกังวล

“บ้าน่า”
เพ็ญศรีพยายามพูดเหมือนปลอบใจตัวเอง ไลลาสวนกลับทันที
“ไม่บ้าหรอก แม่รู้ไว้ด้วย ว่าแม่กำลังคั่วอยู่กับพ่อของเพื่อนลูก”
“อ้าว พูดหมาๆ ก็เค้าบอกว่าเป็นพ่อม่าย เลิกกับเมียมานานแล้ว ถ้ารู้แต่แรกฉันไม่ยุ่งกับเค้าหรอกโว้ย ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าพ่อใครลูกใคร แล้วคนอย่างแก เคยพาเพื่อนมาเที่ยวบ้านซักคนมั้ย”
ไลลาจ้องหน้าแม่ “ก็เพราะแม่เป็นอย่างนี้ไง ใครเค้าจะอยากพาเพื่อนมา ใครอยากให้เพื่อนเห็นว่าแม่มีอาชีพเป็นเมียน้อย”
เพ็ญศรีเลือดขึ้นหน้า “แก อีไร อีเลว”
จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือตบหน้าลูกสาวฉาดใหญ่จนหน้าหัน แล้วเดินร้องไห้ขึ้นห้องไป
ไลลาเครียดทรุดตัวลงบนโซฟาร้องไห้

อัปสรสวรรค์กับเดือนเด่นกำลังช่วยกันเก็บข้าวของหลังทีมงานสัมภาษณ์กลับไป
“ฉันบอกแล้วว่าพ่อแกน่ะไม่มาหรอก”
“แค่ที่แม่ให้สัมภาษณ์ไปมันก็ครบแล้วมั้งค่ะ ชีวิตฟ้าตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้มีอะไรมาก”
พออัปสรสวรรค์พูดจบ ดามพ์ก็เปิดประตูเดินเข้ามา ทำหน้ามึนๆ
“อ้าว พ่อ”
เดือนเด่นหันไปเห็นดามพ์ก็อารมณ์เสียทันที
“คุณไปไหนมา ฉันโทร หาคุณเป็นร้อยๆ รอบ”
“โทร หาผมทำไม” ดามพ์ย้อนถาม
“ก็วันนี้รายการเขามาขอสัมภาษณ์เรื่องยัยฟ้าตอนเด็กๆ ยัยฟ้าก็บอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ”
“โอย ลืมจริงๆ พ่อขอโทษนะลูก แต่เรื่องสมัยเด็กๆ ให้แม่เค้าพูดคนเดียวก็พอ เค้าคุมลูกหมดทุกอย่างอยู่แล้วนี่เนอะ”
อัปสรสวรรค์ก้มหน้านิ่ง เดือนเด่นแหวขึ้นมาอีก
“ไปซุกหัวอยู่ไหนมาอีก”
“ก็นอนคอนโดแถวบริษัทไง โอ๊ย รำคาญจริง ถามมากี่รอบแล้ว”
ดามพ์เดินหนีขึ้นข้างบนไป เดือนเด่นตามไล่ด่าต่อ
“นี่คุณ มาคุยให้รู้เรื่องกันไปเลย ว่าจะอยู่หรือจะไป ฮะ”
อัปสรสวรรค์แม้จะชาชินกับปัญหาครอบครัวตัวเอง แต่น้ำตาก็มิวายจะหยด

ขณะเดียวกัน ไลลาก็ยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่โซฟา

“อีนางฟ้า แกมันเลวทั้งบ้าน”

2 พิธีกร “พี่หนูแหม่มกับพี่ลิง” เดินยิ้มเข้ามาที่หน้ากล้อง
 
“กลับมาสู้กันต่อกับศึก 12 ราศีค่ะ เปิดศึกข้อที่...”
พี่หนูแหม่มนำเข้ารายการช่วงต่อไป ก่อนที่พี่ลิงจะพูดต่อ
“สอง ราศีใดในช่วงนี้มีเกณฑ์โดนเพื่อนรักแทงข้างหลังจนถึงขั้นกระอักเลือด”
กล้องรายการแพนไปเห็นหน้าดารารับเชิญแต่ละคน จากอัปสรสวรรค์ ภีม จริยา โจ บ้างคิด บ้างเขียนคำตอบในกระดาน
“เอ้า เรามาถามน้องโจกันก่อน น้องโจตอบว่า”
โจพลิกกระดานคำตอบ เขียนว่า “จิ๋วหลิว”
พี่ลิงทวนคำตอบ “น้องจิ๋ว”
จริยาหัวเราะขำ พี่หนูแหม่มถามต่อ
“อ้าว ทำไมตอบอย่างนั้น”
“เพราะน้องจิ๋วเค้าเป็นคนรักเพื่อน ไว้ใจเพื่อนมากๆ ครับ ผมเคยเตือนบ่อยๆ ก็ไม่ฟัง เลยคิดว่าซักวันต้องโดนแน่”
จริยาชี้หน้าโจยิ้มๆ
“งั้นไปดูของน้องจิ๋วกันบ้าง”
2 พิธีกรเดินไปหาจริยาที่แท่นข้างๆ
“น้องจิ๋วว่าไงคะ”
ฝ่ายถูกถามรีบพลิกกระดานคำตอบ เขียนว่า “เจ้นางฟ้า สุดสวย”
อัปสรสวรรค์ทำแอ็กติ้งตกใจ
“ทำไมล่ะ อ๊ะ ได้ข่าวคู่นี้เป็นเพื่อนคบกันมานานตั้งแต่มหาลัยด้วย”
“ใช่ค่ะ เจ้ฟ้าเป็นคนดีนะคะ ใครทำร้ายเค้า จิ๋วว่ามันต้องแย่สุดๆ”
พี่ลิงถามต่อ “อ้าว แล้วไงจ๊ะ”
“แต่นั่นแหละ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง คนดีๆบางครั้งอาจโดนแทงข้างหลังมั่งก็ได้”
พี่ลิงหันไปหาอัปสรสวรรค์ ก่อนจะกลับมาชี้ที่จริยา
“และเพื่อนคนนั้นสงสัยจะเป็นมันนี่เอง”
ซุปตาร์สาวยิ้มขำ ก่อนที่ 2 พิธีกร จะเดินไปหา
“งั้นเรามาดูของน้องนางฟ้ากัน”
อัปสรสวรรค์พลิกกระดานคำตอบเขียนว่า “JIW คร่า”
พี่หนูแหม่มทวนคำตอบ “น้องจิ๋วคร่า”
“เพราะว่าจิ๋วกำลังดังมาก เป็นธรรมดาว่าต้องมีคนอิจฉาแน่นอนค่ะ”
“งั้นมาดูเฉลยกันค่ะ อาจารย์ลิงฟันทิ้ง”
2 พิธีกรเดินมาด้านหน้า พี่ลิงหันมาทางผู้ชม
“ฟัน...ทิ้ง ราศีที่ในช่วงนี้มีเกณฑ์โดนเพื่อนรักแทงข้างหลังจนถึงขั้นกระอักเลือดคือราศี....”
ดาราทุกคนทำหน้าลุ้น
“มีคนถูกนะครับ ราศี...ราศี.... สิงห์ครับ”
“น้องนางฟ้าค่ะ”
กล้องจับภาพอัปสรสวรรค์ทำท่าตกใจขำๆ แล้วเดินออกไปด้านหน้าหาพิธีกร
พี่หนูแหม่มรีบถาม “รู้สึกยังไงบ้างที่เป็นเรา”
“ก็เฉยๆ ค่ะพี่หนูแหม่ม เพราะถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว ยังโดนกลั่นแกล้งก็คงเป็นกรรมเก่าน่ะค่ะ”
“กลัวมั้ยครับ”
ซุปตาร์สาวส่ายหน้า “ถ้าจะกลัว ก็กลัววิธีการที่เขาจะทำเรามากกว่า คนเดี๋ยวนี้โหดร้ายมากค่ะ”
“ก็จริงของน้องเค้านะ แค่แกล้งน่ะยังไม่น่ากลัวเท่าเอาจริง ยังไงพวกเราขอเป็นกำลังใจให้ แต่ แหม ได้ข่าวว่า ความรักก็กำลังสดชื่นน่าอิจฉา พ่อหนุ่มดวงตะวันคนนั้นคงไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายเราได้หรอกมั้งเนอะ”
อัปสรสวรรค์ยิ้มเขิน “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”

ปูเปรี้ยวกำลังเดินเข้าตึก ทันใดนั้นเสียงเตือนข้อความไลน์ก็ดังขึ้น พอหยิบมือถือขึ้นมากดดู ก็พลันหน้าเสีย
“ตายๆๆๆๆๆๆๆๆ”
จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าออฟฟิศทันที

เรด้าวิ่งหน้าตื่นไปเคาะประตูห้องป๋าช้าง
“ป๋าๆๆๆๆ”
ป๋าช้างเปิดประตูออกมา เรด้าไม่หยุดเคาะทำให้เคาะโดนหัวเจ้าของห้องแทน
“เว้ย อะไรของแกเนี่ยยัยดำ”
“ป๋าเห็นข่าวนี้ยัง”
เรด้ารีบยื่นข่าวของปกรณ์กับอัปสรสวรรค์ให้ดู
ป๋าช้างเห็นแล้วถึงกับหน้าเสีย “ตายล่ะ” ทันใดนั้นเสียงมือถือก็ดังขึ้นมาทันที
“ครับมาดาม ครับ ไปเดี๋ยวนี้ครับ”

ภาพอัปสรสวรรค์กับปกรณ์ใกล้ชิดกันอยู่ในทะเล ปรากฏอยู่ในหน้า นสพ. บันเทิง
“นางเอกดังคั่วกับช่างภาพดาวรุ่ง”
อาทิตย์หันมาบอกราศี “ภาพนี้ผมมั่นใจครับ ว่าอยู่กันเป็นสิบคน แต่คนถ่ายตั้งใจเลือกมุมนี้เอง”
“แล้วแกสงสัยว่าเป็นใคร”
อาทิตย์ย้อนนึกถึงตอนอยู่บนสปีดโบ๊ท ขณะยืนดูทั้งคู่เล่นน้ำกันสองคนอย่างเซ็งๆ พอหันหน้ากลับมาก็เห็นไลลายกมือถือขึ้นมาส่องไปทางนั้นพอดี
“ตอนนั้นคนมันเยอะครับ” เขาเลือกที่จะโกหก
“แล้วแกจะเอายังไง”
“ผมเหรอครับ เกี่ยวไรด้วย”
ราศีส่ายหน้า “ โธ่ ตาบ๊อง ลืมไปแล้วรึไง ว่าชาวบ้านเค้าคิดว่าแกกับหนูฟ้าน่ะคบกันอยู่”
อาทิตย์เองก็เพิ่งนึกได้
“งั้นแกก็ควรให้ข่าวว่าตัวเองอยู่ในเหตุการณ์” พูดแล้วก็หันมาถามป๋าช้างต่อ “นี่คุณช้าง แล้วเด็กมันชอบกันรึเปล่า”
“แหม่ ผมก็ไม่ทราบจริงๆ ครับ”
“หลานชายคุณช้างคนนี้นี่ยังไง คราวก่อนก็มีข่าวกิ๊กกับแม่นักข่าวไลลา คราวนี้นางเอกนางฟ้า
คราวหน้าจะใครอีกคะคุณลุง”
ป๋าช้างสะดุ้ง “ก็แล้วแต่ เอ๊ย! ผมก็ไม่ทราบจริงๆ ครับ”
อาทิตย์ทำหน้าครุ่นคิด

ป๋าช้างคุยกับปกรณ์หน้าตาเคร่งเครียด
“ละครหนูนางฟ้ากำลังแรง มาดามไม่อยากให้มีข่าวแบบนี้ ยังไงช่วงนี้ห่างๆ หนูฟ้าหน่อยแล้วกัน”
ตากล้องหนุ่มทำหน้านิ่ง “ครับ”
ป๋าช้างมองหน้าหลานชาย ก่อนจะถามหยั่งเชิง
“แล้วแกคิดอะไรกับหนูนางฟ้าเค้ารึเปล่าวะ”
ปกรณ์ทำหน้านิ่ง ไม่ตอบ ป๋าช้างถามต่อ
“หนูไลลาล่ะ”
“โห่..ลุง”
ป๋าช้างมองหน้าปกรณ์แล้วถอนใจ
“เรื่องความรักจริงๆ มันเป็นของง่ายนะ แต่มนุษย์เรามันดันไปทำให้ซับซ้อน ก็คงเพราะถูกสอนกันมามั้ง ว่าอะไรง่ายๆ มักไม่ใช่ของดี”
พูดพลางหันหลังไปมองนอกหน้าต่าง ก่อนจะร่ายยาวต่อ
“ แล้วยิ่งเป็นวงการนี้ก็ยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ ความรักมันไม่ใช่เรื่องของความรู้สึกอีกแล้ว แต่กลายเป็นเรื่องค้าขาย ใครคู่กับใครจะเพิ่มมูลค่าได้เท่าไหร่ จะออกอีเว้นต์ได้มั้ย จะเป็นข่าวได้กี่วัน มันเป็นซะอย่างนี้”

ปกรณ์ได้ฟัง ก็ทำหน้าเครียด

เดือนเด่นเดินบ่นออกมากับอัปสรสวรรค์
 
“ต้องเป็นฝีมือไอ้กุ๊ยเป๋าแน่ๆ ที่ปล่อยรูป มันกะจะเกาะแกดังรู้รึเปล่า”
ฝ่ายลูกสาวหยุดเดิน ทำหน้าเบื่อหน่าย
“แม่เลิกบ่นซักทีได้มั้ยคะ นี่แม่บ่นมาตั้งแต่ห้องคุณป้า ไม่เมื่อยกรามบ้างหรือคะ”
“ก็ฉันบอกแกกี่รอบแล้วให้ห่างๆ มัน แกนี่ชอบทำอะไรโง่ๆ เรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง เป็นดาราไปเล่นน้ำกับช่างกล้องทำบ้าอะไร คราวก่อนมีข่าวกินช่างไฟยังไม่เข็ดอีกเหรอ จะให้คนเค้ามองแกมั่วไปถึงไหน”
“แม่ เป๋ามันเพื่อนฟ้านะคะ”
“เพื่อนเพิ่นบ้าอะไร กับอีนังไลลานั่นมันก็เพื่อนกัน มันก็ยังไม่เว้น แล้วนี่นะ สายตามันมองแก แต่ละทีงี้ แทบจะทะลุไปถึงท้องน้อย”
“ความคิดแม่มันน่าฟอกสบู่จริงๆ”
เดือนเด่นสวนกลับ “เออ สมองแกก็น่ากวนสารส้มให้ความฉลาดมันตกตะกอนเหมือนกัน คุณอาทิตย์เค้าไม่ดีตรงไหนฮึ ทำไมต้องเที่ยวร่อนไปหาสวะอย่างไอ้กุ๊ยเป๋า หัดพอใจซะบ้างเถอะ”
“พอใจในสิ่งที่แม่จัดให้หรือคะ แล้วถามหน่อย ถ้าฟ้าจะคบกับเป๋าจริงๆ ธรณีจะสูบ โลกจะพังพินาศเลยใช่มั้ยคะ จะได้คบๆ กันไปเลย เบื่อหน้าคนบนโลกเต็มที”
เดือนเด่นอ้าปากจะด่าต่อ แต่อัปสรสวรรค์ชิงเดินหนีออกไปก่อน

กลุ่มนักข่าวกำลังทยอยเข้าห้องที่เตรียมไว้เพื่อจัดแถลงข่าวของอัปสรสวรรค์ มีปูเปรี้ยวคอยต้อนรับ
“ทางนี้เลยนะคะ เชิญรอข้างในค่ะ”
ครู่หนึ่งปกรณ์ก็เดินเข้ามาหา “พี่ปูเปรี้ยว ฟ้าล่ะครับ”
ปูเปรี้ยวเห็นตากล้องหนุ่ม ก็ช็อกเหมือนเห็นผี
“อร๊าย มาตรงนี้ทำไม เดี๋ยวก็โดนนักข่าวรุมหรอก”
“ผมอยากคุยกับฟ้าก่อนน่ะครับ”
ปูเปรี้ยวรีบโบกมือห้าม “โนๆๆๆ ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“แต่…”
“ออกไปเดี๋ยวนี้”
พอตากล้องหนุ่มหันไป ก็เห็นเดือนเด่นยืนอยู่ ปูเปรี้ยวหน้าซีด
“คุณหญิง”
“อย่าคิดว่าแผนปล่อยข่าวแบบนี้จะได้ผล บ้านนี้ไม่ต้อนรับลูกเขยกุ๊ยอย่างแกแน่นอน”
“คุณป้าครับ ผมไม่ได้...”
เดือนเด่นพูดสวนขึ้นมาทันที “อย่ามาเรียกฉันว่าป้า ใครญาติแก นี่ ฉันเตือนเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามาใกล้ลูกสาวฉันอีก บอกไว้เลยลูกสาวฉันเค้าไม่ได้ชอบแก เค้าชอบคุณอาทิตย์ แกไม่รู้หรอกว่าเค้ารำคาญแกเต็มทนแล้ว แต่เค้าไม่อยากพูด แกอยากได้เงินใช่มั้ย บอกฉันมา จะเอาเท่าไหร่ ฉันจะให้แก แลกกับการออกไปจากชีวิตลูกฉัน”
ปกรณ์ทั้งอึ้ง ทั้งตะลึง ทั้งฉุน ปูเปรี้ยวเห็นท่าไม่ดีรีบหาทางออก
“ว้าย ข้างในเริ่มแล้วค่า ไปเร็วๆ ค่ะคุณหญิง”
จากนั้นก็รีบฉุดเดือนเด่นเข้าไปในห้อง ปกรณ์หน้าเครียด ไม่พอใจ ที่โดนดูถูก

ไลลากดลบรูปอัปสรสวรรค์กับปกรณ์ในไอแพด ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า พร้อมๆ กับที่กรณ์เดินเข้ามาในสตูฯ สีหน้าเบิกบาน
“ว้าว ไม่มีที่ไหนจะสุขใจเท่าบ้านเรา กลับคืนสู่มาตุภูมิซะที”
พอเห็นหน้าไลลาก็เปลี่ยนจากยิ้มเป็นหน้าหงิกทันที
“อีตัวซวย”
ไลลาเดินไปนั่งหน้าบลูสกรีนเตรียมจัดรายการ เรด้าเดินเข้ามายื่นกระดาษให้
“ไลจ๋า มีข่าวเพิ่มเข้ามานะ เดี๋ยวอ่านต่อจากข่าวดารารับปริญญา”
พูดพลางชี้ในกระดาษพร้อมอธิบาย
“คืนนี้สามทุ่ม รายการบุกบ้านดาว จะพาไปสัมภาษณ์น้องนางฟ้ากับคุณแม่”
เหยี่ยวข่าวสาวรู้สึกร้อนวูบขึ้นที่หน้าทันที
“ตอนแรกคิวนัดได้ทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูกเลยนะ พอถ่ายจริงคุณดามพ์แกไม่มาซะงั้นแหละ สงสัยจะอยู่บ้านอีเมียน้อย ฮิๆ”
ไลลาได้ยินคำว่า “อีเมียน้อย” ก็ปรี๊ดเลือดขึ้นหน้า ลุกพรวดต่อว่าเรด้าเสียงดัง
“แล้วพี่จะไปยุ่งอะไรกับเค้าวะ เบาๆ มั่งเหอะเรื่องนินทาชาวบ้านน่ะ เอาตัวเองไปตัดสินคนอื่น มันไม่แฟร์”
ด่าเสร็จก็เดินออกไปเลย ทิ้งให้เรด้ายืนงง

“เป็นไรวะ ขอรีเซ็ตเครื่องแป๊บ”

ไลลากำลังจัดรายการ โดยมีปกรณ์ถ่ายภาพด้วยใบหน้าอ่อนแรง
 
“ยังไงไลลาก็ขอแสดงความยินดีกับดาราบัณฑิตใหม่ทุกท่านด้วยนะคะ”
จากนั้นก็พลิกกระดาษอ่านข่าวต่อไป พร้อมกับสูดหายใจเข้าไปครั้งหนึ่ง
“ต้องขอแสดงความเสียใจกับดารามากความสามารถ คุณการะเกด ผิวเนียนดี ที่ต้องสูญเสียคุณย่าไปในวัยร้อยแปดปี”
กรณ์ที่คุมอยู่หลังมอนิเตอร์ตาโต เรด้าที่อยู่ข้างๆ หน้าเหวอไปตามๆ กัน
“เฮ้ย ข่าวเยี่ยมบ้านนางฟ้าล่ะ”
เรด้ารีบลุกเดินออกไปข้างฉากใกล้ๆ ไลลา แล้วทำปากว่า “นางฟ้า นางฟ้า”
ไลลาไม่สนใจอ่านต่อไป
“คำถามประจำวันนี้ถามว่า....ถ้าคุณได้ไปออกเดทกับดาราซักคน คุณอยากไปกับดาราคนไหน”
เรด้าวิ่งลนเป็นลิง ไปเอาป้ายไวท์บอร์ดมาชูแล้วชี้ๆ บนป้ายเขียนข้อความว่า “ข่าวเยี่ยมบ้านนางฟ้า”
ไลลามองเมิน แล้วพูดต่อ
“ รีบส่ง sms กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ แล้วกลับมาเจอข่าวแซ่บๆ จี๊ดจ๊าด ถามจริง เจ็บจริง กันได้ใหม่พรุ่งนี้เวลาเดียวกันนี้ค่ะ สวัสดีค่ะ จุ๊บๆ”
กรณ์ยกมือกุมหัว พร้อมกับโยนบทลงพื้น “คัท” ก่อนจะเดินเข้าไปต่อว่าทันที “ทำไมไม่อ่านข่าวนางฟ้าล่ะ”
ไลลาเชิดหน้า “ก็บทเดิมไลซ้อมไว้อย่างนี้ จะมาแทรกได้ยังไงล่ะคะ”
“ทำไมจะแทรกไม่ได้ นี่มันรายการข่าวไม่ใช่ละครเวที ข่าวมันก็ต้องมาสดๆ ร้อนๆ อยู่แล้ว”
“ไม่หรอกค่ะ เขาเรียกว่าไม่รู้จักเตรียมตัวมากกว่า คุณเป็นโปรดิวเซอร์ยังไง ถึงไม่รู้ว่ารายการที่จะออนคืนนี้มีอะไรบ้าง ถึงเพิ่งมายัดบทเอาตอนจะเริ่ม”
กรณ์พยายามห้ามอารมณ์ “บทก็อยู่ในมือเธอ ทำไมเธอไม่อ่านล่ะวะ”
“ไลมีสิทธิไม่ทำ ถ้าการเตรียมงานนั้น ไม่มีความเป็นมืออาชีพ”
กรณ์กัดฟันกรอด “จองหองจริงๆ นะ”
ไลลาจ้องหน้ากลับอย่างไม่กลัวเกรง พวกทีมงานต่างเดินเข้ามา ทุกคนไม่เห็นด้วยกับไลลา ปกรณ์รีบแหวกทางทีมงานเข้ามา
“ไล เรื่องนี้ฉันก็ไม่เห็นด้วยนะ ขอโทษพี่กรณ์เค้าเถอะ”
“ขอโทษเรื่องอะไรวะเป๋า” ไลลาย้อนถาม
“ก็ที่ผ่านมา ก็มีเพิ่มข่าวแบบนี้ ไม่เห็นแกเคยเดือดร้อนเลย หรือเพราะนี่มันเป็นข่าวของฟ้า”
ไลลาหน้าตึง “ นี่ ที่แกเข้าข้างมัน เพราะเห็นเป็นข่าวแฟนตัวเองใช่มั้ย”
ขาดคำก็เดินออกไป เรด้าวิ่งตาม กรณ์มองตามอย่างเจ็บใจ
ปกรณ์ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

ราศีกำลังสงบศึกเรื่องไลลากับกรณ์ มีป๋าช้างนั่งอยู่ในห้องด้วย
“เธอจะทำตามใจตัวเองไม่ได้นะไลลา”
ไลลานิ่งฟัง
“ไอ้การที่คุณกรณ์เอาข่าวมาเพิ่มกะทันหันนั่น ถึงมันจะไม่ถูกก็จริง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่เธอจะดื้อแพ่งไม่อ่านข่าวนั้นเลย เธอเป็นอะไรรึไลลา”
ไลลาก้มหน้าเงียบ ราศีย้อนถาม
“ไม่อยากอ่านข่าวนางฟ้า? หน้าที่ของเธอคือนักข่าว ก็ต้องเสนอข่าวทุกอย่าง นางฟ้าเป็นนางเอกอันดับหนึ่งของช่องเรา ก็ต้องช่วยกันโปรโมต แม้เธอจะไม่ชอบก็ตาม”
ไลลายังคงทำหน้านิ่ง

ไลลาออกมาหน้าห้องราศี สีหน้าไม่พอใจ แววตาสุดแค้น
“อยากรู้ว่าถ้าเป็นตัวเองมั่ง มาดามจะอยากเชียร์มันอยู่มั้ย”
จู่ ๆ ก็มีเสียงเตือนข้อความไลน์เข้ามา เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมากดดู ก่อนจะเห็นข้อความของจริยา
“ถึงเวลาที่เราจะกลับไปที่สวนแองเจิ้ลแล้วนะเจ้ สี่ทุ่มคืนนี้เจอกันที่ร้านริมน้ำ จากจิ๋ว”
ไลลาหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับสวนแองเจิ้ล

เพื่อนทั้งสามในชุดนักศึกษา รวมตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนร้าง
มือของทั้งสามถือที่ตักดินอันเล็กๆ ช่วยกันขุดหลุมอยู่ มือจริยาอีกข้างถือไฟฉายส่อง
อุไรวรรณพูดขึ้นมาก่อน “นี่ฉันเพิ่งรู้นะว่าหลังมหาลัยจะมีที่แบบนี้ด้วย”
อัปสรสวรรค์รีบบอกต่อ “ขุดลึกๆ เลยนะ จะได้ไม่มีใครมาเจอ”
หลุมที่ขุดเสร็จ ลึกกว้างประมาณ 1x1 ฟุต จริยาถอนใจเฮือก
“เฮ้อ เสร็จซะที”

จากนั้นก็หันไปหยิบกล่องกระดาษใบเล็กๆ ลวดลายสวยงามใบหนึ่งที่เตรียมไว้เข้ามา
“นี่คือกล่องแห่งอนาคตของพวกเรา ไหน..”
ว่าแล้วก็หยิบถุงผ้าเล็กๆ ที่เขียนชื่อตัวเองพร้อมใส่ของเรียบร้อยแล้วขึ้นมาโชว์
“อนาคตของทุกคนเตรียมกันมายัง”
อัปสรสวรรค์กับอุไรวรรณรีบชูถุงผ้าใบเล็กๆ ที่ใส่ของแล้วขึ้นมา แล้วส่งให้จริยา ที่รีบใส่ถุงผ้าทั้งสามลงไปในกล่อง ปิดฝา แล้วใส่กล่องลงไปในถุงก๊อบแก๊บเพื่อมัดอีกรอบ
อัปสรสวรรค์หันมาคุยกับอุไรวรรณ
“แกใส่อะไรลงไปในกล่องวะไร”
“ความลับเว้ย บอกได้ไง แล้วแกล่ะ อย่าบอกนะว่าใส่สร้อยเพชรลงไป ไม่งั้นคืนนี้ฉันแอบมาขุดจริงๆ”
“บ้าสิ”
“เอานะ”
พอจริยาพูดจบ เพื่อนทั้งสามก็ช่วยกันจับกล่องนั้นวางลงไปในหลุม แล้วเกลี่ยดินลงไปกลบจนมิด ก่อนจะลุกขึ้น เอาเท้าเหยียบๆ ดินอีกครั้งให้แน่นๆ
จริยาหันกลับมาถาม “พวกเราสามคนจะกลับมาขุดมันขึ้นมา ตอนไหนดีเจ้ๆ”
อัปสรสวรรค์รีบตอบ “ตอนเรียนจบ”
อุไรวรรณพูดแย้ง “เฮ้ย ง่ายไป ไม่เร้าใจ เอานี่ดีกว่า ตอนที่ได้ทำงานที่เรารัก”
จริยาพูดต่อ “ เฮ้ย ตั้งเป้าให้มันเว่อร์ๆ ไปเลย เราจะกลับมาขุดกล่องแห่งอนาคตนี้ขึ้นมา ตอนที่เราได้ทำงานที่เรารัก และได้ทำในที่เดียวกัน บริษัทเดียวกัน โอเค ปะ”
“โห ชาติหน้าป่าววะ”
อุไรวรรณโวย อัปสรสวรรค์แย้งกลับ
“เฮ้ย นี่แหละ ตั้งเป้าหมายให้สุดๆ มันจะได้เป็นแรงดึงดูดให้เราไปถึงไง”
“แล้วถ้าถึงตอนนั้น เราแยกย้ายกันไปคนละทางล่ะวะ”
จริยาพูดต่อ แววตามุ่งมั่น “กล่องนี้แหละเจ้ จะเชื่อมเราไว้ด้วยกัน”
“เป็นอุบายของไอ้จิ๋วมัน ให้เราคบกันตลอดไป จะได้กลับมาขุดกล่องนี้ขึ้นมาน่ะสิ”
“ใช่เจ้ รู้ได้ไง”
อุไรวรรณส่ายหน้ายิ้มๆ “เจ้าแม่ดรามา”
“กลับกันดีกว่า ป่านนี้คุณหญิงแม่บ่นละ”

เพื่อนรักทั้งสามหันหลังเดินออกไปด้วยกัน

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 8 (ต่อ)

ไลลาเห็นข้อความนั้นก็หน้านิ่ง ยังไม่ตัดสินใจ
 
อัปสรสวรรค์กับจริยานั่งอยู่ที่ร้านริมน้ำ บนโต๊ะมีน้ำผลไม้และขนมขบเคี้ยว
“ขอบคุณนะคะเจ้ที่มา”
ซุปตาร์สาวยิ้มกว้าง “ฉันตั้งใจไว้นานแล้ว ไม่ว่าเรา 3 คนจะเป็นยังไง วันนี้ฉันก็ต้องมา”
“แสดงว่า เจ้ยินดีจะกลับมาคืนดีกับเจ้ไลแล้ว ใช่มั้ย”
อัปสรสวรรค์ถอนใจ ” ฉันก็ไม่รู้นะจิ๋ว วันนี้ฉันมาตามสัญญา นอกนั้นก็แล้วแต่ทุกอย่างมันพาไป”
พูดพลางเอนไปที่พนักพิงแล้วนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา
“จากวันที่เราฝังกล่องนั้น อะไรมันเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ นะ”
จริยาพยักหน้าเศร้าๆ “ อืม แต่อย่างน้อย เรื่องที่ไม่น่าเชื่อมันก็เกิดขึ้นนะ ก็คือเราได้ทำงานใน
ที่เดียวกัน โดยไม่ได้ตั้งใจ”
“ใช่ มันเป็นปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่เราลืมอธิษฐานก็คือ ขอให้ถึงฝันพร้อมกับความสัมพันธ์ที่เหมือนเดิม”
จริยาหันมองหน้าอัปสรสวรรค์ “โธ่ เจ้ ก็วันนี้แหละ ที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง รียู้เนี่ยน”
ทั้งสองเงียบไปสักพัก ก่อนที่จริยาจะอ้ำๆ อึ้งๆ ขึ้นมา
“เอ่อ...เจ้ เจ้กับไอ้เป๋า....”
อัปสรสวรรค์ยิ้มขำ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะถามอะไร
“อะไร จะถามอะไร จะเอากะเค้าด้วยเหรอจิ๋ว ได้ข่าวว่าตอนนั้นแกก็เล่นน้ำอยู่กับฉันไม่ใช่เหรอ”
จริยาฝืนยิ้ม “ข่าวลืออะเนอะ เหอะๆๆ”
“ฉันว่าไลมันคงไม่มาแล้วล่ะจิ๋ว”
ขาดคำจริยา ก็หันไปเห็นไลลาหยุดยืนอยู่ด้านหลังอัปสรสวรรค์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เจ้ไล”
อัปสรสวรรค์หันไปมองไลลา ต่างคนต่างทำหน้านิ่ง ไม่มีใครยิ้มให้กัน

จริยาใช้จอบขุดลงไปที่ดิน จนเริ่มเห็นถุงใส่กล่องที่ฝังไว้ในหลุมนั้น อัปสรสวรรค์ยืนส่องไฟให้อยู่ข้างๆ ส่วนไลลายืนเล่นมือถือ หน้านิ่ง
“ยังอยู่เหมือนเดิมเลย”
จริยารีบหยิบกล่องขึ้นมาจากหลุม แกะถุงพลาสติกออก
“เอาล่ะครับ เรามาดูกันว่าเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เราฝังอนาคตอะไรกันไว้ เจ้ไล มาเร็ว”
ไลลาเก็บมือถือ แล้วเดินเข้ายืนดูอย่างงั้นๆ
จริยาค่อยๆ เปิดกล่องออก เพื่อนทั้งสามมองเข้ามาในกล่องอย่างสนใจ ก่อนจะเห็นถุงผ้าเล็กๆ 3 ถุง แต่ละถุงมีชื่อเขียนไว้
“ว้าวๆ ยังเหมือนเดิมเลย”
อัปสรสวรรค์รีบบอก “ดูของแกก่อนดีกว่าจิ๋ว”
พูดพลางหยิบถุงขึ้นมาเปิดออก เจ้าของถุงทำท่าเขินๆ อัปสรสวรรค์ล้วงไมโครโฟนเด็กเล่นออกมา
“ไมโครโฟนเด็กเล่น....”
จริยายิ้มรับ “ตอนนั้นจิ๋วฝันอยากเป็นนักร้องไง ไมค์เนี่ยแม่จิ๋วซื้อให้ตอน 5 ขวบ”
“โห ได้เป็นแล้วจริงๆ ด้วย สุดยอด”
“มาดูของเจ้ฟ้ากันบ้าง”
จริยาหยิบถุงของอัปสรสวรรค์มาเปิดออก แล้วล้วงของออกมา เป็นรูปถ่ายของเพื่อนทั้งสามในชุดนักศึกษากอดคอกัน รักกันสุดๆ
“โอ้โห รูปนี้ไม่เคยเห็นเลย ทำไมฝังไปอ่ะเจ้”
“อืม ตอนนั้นฉันคิดว่า กว่าที่เราจะเดินทางมาถึงความฝัน สิ่งต่างๆ อาจทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่เหมือนวันนั้นแล้ว ฉันจึงอยากให้เราได้เห็นภาพเก่าๆ จะได้ทวนความทรงจำ ถึงวันที่สวยงาม”
ทั้ง 3 เพื่อนนิ่งอึ้งไป สักพักจริยาก็ได้สติก่อน
“เอาล่ะ ของเจ้ไล”
ว่าแล้วก็หยิบถุงของไลลาออกมาแล้ววางกล่องไว้กับพื้น ก่อนที่เธอกับอัปสรสวรรค์จะยืนขึ้น
จริยารีบล้วงมือเข้าไป อัปสรสวรรค์ยืนกอดอกดูอย่างสนใจ
บัตรประจำตัวนักเรียนของไลลาสมัยเรียนป.1 ถูกจริยาล้วงออกมา เห็นชื่อ ด.ญ.อุไรวรรณ เกิดงามพริ้ง โรงเรียนวัดใน พร้อมรูปถ่ายสมัยเด็ก
“โอ้โห เด็กหญิงอุไรวรรณ โรงเรียนวัดใน น่ารักอ่ะ ทำไมใส่ลงไปอะเจ้”
ไลลานิ่งไปครู่หนึ่ง “ ก็เพราะตอนนั้นฉันคิดว่า อีกไม่กี่เดือนฉันก็คงจะได้รางวัลนักศึกษาดีเด่น ได้ทุนเรียนฟรีจนจบ และต่อยอดไปถึงเรียนเมืองนอก”
จริยาหน้าเจื่อน หันมองหน้าอัปสรสวรรค์ ที่เจื่อนยิ่งกว่า ไลลาพูดต่อ
“ไม่ต้องลำบากเหมือนตอนเด็กๆ ที่ต้องคอยรอขอทุนอาหารกลางวัน พอถึงวันที่ฉันประสบความสำเร็จ ฉันคงมองรูปนี้อย่างภูมิใจ”
จริยาพยายามยิ้มสร้างบรรยากาศ “ แหม ตอนนี้ภูมิใจแล้วสิ สำเร็จแล้วนี่นา”
ไลลาเสียงแข็งขึ้นมาทันที “สำเร็จหลังร้องไห้จนไม่มีน้ำตาน่ะเหรอ”
จากนั้นก็หันมองหน้าอัปสรสวรรค์ พร้อมน้ำตาคลอ จริยายังพยายามต่อ
“ไม่เป็นไรๆ อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เริ่มต้นที่เส้นทางแห่งความฝัน มาบรรจบกันที่ความจริง เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกัน ดีมั้ย”
ไลลาถอนใจแล้วพูดหน้าตาเฉย
“ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ จบสิ้นซะที”
อัปสรสวรรค์กับจริยายิ่งเจื่อนหนัก
“อะไรอะเจ้”
“ตอนนี้เรามีทางของแต่ละคน และดูแล้วมันคงไม่มาบรรจบกันได้อีกต่อไป”
“แต่เจ้ก็ได้เป็นนักข่าวตามความฝันแล้วนี่คะ”
ไลลาแค่นยิ้ม “แต่ถ้าเป็นนักข่าวที่ THE SUN ถึงฉันจะดังแค่ไหน ก็ยังต้องคอยอ่านข่าวเชียร์ อ่านข่าวโฆษณาให้พวกแก”
“โห ทำไมคิดมากอย่างนี้อะเจ้”
“เหรอวะจิ๋ว เมื่อก่อนตอนเรียน แกกับฉันคนเค้าล้อกันว่าเป็นเบ๊นางฟ้า เดี๋ยวนี้แกขึ้นไปเป็นนักร้องแล้วก็คงไม่เดือดร้อน แต่ฉันนี่สิ ยังเป็นเบ๊เขียนข่าวเชียร์นางฟ้าอยู่เลย จะให้ภูมิใจยังไง”
อัปสรสวรรค์หันขวับทันที “แกไม่เชียร์ฉัน ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“เหรอ”
ไลลาเตะกล่องกระดาษที่พื้นกระเด็น จนรูปถ่ายเพื่อน 3 คนของอัปสรสวรรค์กระเด็นตกไปที่พื้น
“โอ้ย... ใจเย็น...เย็น”
จริยาเห็นบรรยากาศเริ่มแย่ จึงเดินไปหยิบถาดที่ใส่แก้วพันช์เข้ามา
“เอาๆๆ นี่ ชนกันก่อนดีกว่า เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ครั้งใหม่”
อัปสรสวรรค์ทำหน้านิ่งแต่ก็หยิบแก้วขึ้นมา ตรงข้ามกับไลลาที่ยืนเฉย
“เจ้ไล เร็วซี่”
ไลลาจำยอมหยิบแก้วขึ้นมา
“อะไรที่แล้วก็แล้วไป เริ่มต้นกันใหม่ รีสตาร์ตแก๊งแองเจิ้ล”
ไลลาหยิบแก้วไปชนอย่างแรง จนแก้วแตกกระจาย อีก 2 คนตกใจ
ที่มือไลลา มีเลือดแดงฉาน “ปิดฉากอย่างเป็นทางการ ฟินนาเล่”

อัปสรสวรรค์กับจริยายืนอึ้ง ขณะที่ไลลาเดินแยกออกไป

เพ็ญศรีเปิดประตูรถแท็กซี่ลงมา พอเห็นไลลาเดินเข้ามาหน้าบ้านพอดี ก็รีบเรียกไว้
 
“นี่แก..”
ไลลาไม่สนใจจะเดินเข้าบ้าน เพ็ญศรีเดิมตาม
“ฉันเลิกยุ่งกับคุณดามพ์แล้ว”
ไลลาค่อยๆ หันมองแม่ “ ใครให้แม่เลิกกับเค้า”
เพ็ญศรีทำหน้างง “อะไร”
“ไลลองคิดดูแล้ว แม่คบกับเค้าก็ดีเหมือนกัน”
“ก็แกบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าเค้าเป็นพ่อนางฟ้า ฉันก็กลัวจะมีปัญหาเหมือนกันนั่นแหละ”
“แล้วเค้าว่าไงบ้าง” ลูกสาวย้อนถาม
“เค้าก็แล้วแต่แม่ เพราะทุกวันนี้ คุณดามพ์ก็แทบไม่ได้เจอลูกเมียอยู่แล้ว”
“แม่คบกับเค้าต่อไปเถอะ ฉันจะได้เล่นงานมันได้ถนัดหน่อย”
พูดเสร็จก็เดินเข้าบ้านไปทันที ทิ้งให้เพ็ญศรีหน้าเหวอ แปลกใจในอารมณ์ของลูก

อัปสรสวรรค์กลับเข้ามาในบ้าน ยังไม่ทันได้วางสัมภาระ เดือนเด่นก็เอาภาพถ่ายเข้ามาให้ดู
“นี่ๆ ได้ตัวแล้ว”
ฝ่ายลูกสาวถอนหายใจเซ็งๆ “อะไรคะแม่”
“อีเมียน้อยแย่งผัวคนอื่น ฉันจ้างนักสืบไปตามถ่ายมา”
อัปสรสวรรค์ตกใจ “จ้างนักสืบ ? แม่ไม่กลัวเหรอคะว่าเค้าจะรู้ว่าครอบครัวเราเป็นยังไง”
“โอย ไม่หรอก ที่นี่เพื่อนในวงไฮโซเค้าใช้บริการกันทั้งนั้น ไม่หลุดหรอก”
ลูกสาวพยักหน้าเซ็งๆ แล้วก้มดู ฝ่ายแม่พูดต่อ
“ดูหน้าตามันสิ ขี้เหร่ชั้นต่ำ ฉันดีกว่าเป็นล้านเท่า ไม่เข้าใจพ่อแกไปติดมันได้ยังไง”
อัปสรสวรรค์เห็นรูปแอบถ่ายดามพ์กับเพ็ญศรีที่ห้างสรรพสินค้า ก็ตกใจในรสนิยมของพ่อ
“ตกใจใช่มั้ย นึกไม่ถึงล่ะสิว่าพ่อแกจะเป็นคนอย่างนี้ ชอบวาดภาพว่าเค้าเป็นคนดีนัก”
“เค้าเป็นใครอ่ะคะแม่ แม่เคยเจอตัวรึเปล่าคะ”
“ไม่เค้ย เจอที่ไหนจะตบให้ฟันร่วงเลยคอยดู”
อัปสรสวรรค์ยืนนิ่ง ดวงตาเหม่อลอย ทำอะไรไม่ถูก แม้เธอจะยังไม่ทราบว่าผู้หญิงในภาพนั้นคือ
แม่ของไลลา

ทางด้านจริยาเดินกลับมาที่บ้านพร้อมกับเมฆ
“ฉันล่ะเซ็งเลย นึกว่าจะกลับมาดีกันเหมือนเดิม”
“งี้แหละจิ๋ว ชื่อเสียงเงินทองมันทำให้คนเปลี่ยนได้ มันอาจจะทำให้ลืมคนที่เคยลำบากด้วยกันมา”
เมฆพูดเหน็บไปถึงเรื่องของจริยากับเขา แต่อีกฝ่ายไม่ทันเฉลียวใจ
“ไม่จริงหรอก เจ้ไลแกคิดเล็กคิดน้อยมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว”
“เมฆก็จะคอยดู”
จู่ๆ ป้าแหวน เพื่อนของสมรวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“จิ๋ว”
“อ้าว ป้าแหวน มาหาแม่เหรอ แม่ไปวิ่งที่สวนลุมจ้ะ”
“สวนลุมอะไรล่ะ แม่เอ็งไปเล่นไพ่กับป้า โดนเจ้าหนี้มันไล่แทงวิ่งไปในดงโน่นแล้ว”
จริยาตกใจ ตาโต
“หา”

สมรวิ่งหนีเข้ามาในดง จู่ๆ ก็สะดุดล้ม กลิ้งเกลือกไปตามทางดินและโคลน คนทวงหนี้วิ่งตามมาถึงตัว
“แกจะคืนมั้ย”
“ก็บอกว่าไม่มีไงโว้ย”
คนทวงหนี้ทำหน้าเหี้ยม “ไม่มีอะไร ลูกแกดังจะตาย”
“เพลงดังแต่ตังค์ยังไม่ได้โว้ย ติดหนี้แค่นี้จะฆ่ากันเลยรึไง”
สมรพูดพลางหันไปคว้าไม้ได้ข้างกาย ก่อนจะหยิบขึ้นมาหวดใส่หัวคนทวงหนี้
“โอ๊ย ! สู้เหรอ”
มันใช้หลังมือตบสมรล้มไป ขณะจะเข้าไปซ้ำ เมฆก็กระโดดมาเหนี่ยวคอไว้ จนมันเสียหลักล้มลง ก่อนที่เมฆจะตามเข้าไปต่อยรัว จนมันหนีไป
จริยากับป้าแหวนวิ่งเข้ามาพยุงสมรขึ้น
“แม่เป็นอะไรรึเปล่า”
สมรเห็นลูกสาวก็โผเข้ากอดร้องไห้
“ฮือ ไอ้จิ๋ว ช่วยด้วย”

ปกรณ์ว่ายน้ำในสระอยู่เพียงลำพัง ก่อนจะดำน้ำลงไปลึกๆ พร้อมกับย้อนนึกถึงคำของเดือนเด่นเมื่อกลางวัน
“ฉันเตือนเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามาใกล้ลูกสาวฉันอีก บอกไว้เลยลูกสาวฉันเค้าไม่ได้ชอบแก เค้าชอบคุณอาทิตย์ แกไม่รู้หรอกว่าเค้ารำคาญแกเต็มทนแล้ว แต่เค้าไม่อยากพูด ถ้าแกอยากได้เงิน บอกฉันมา จะเอาเท่าไหร่ ฉันจะให้แกแลกกับการออกไปจากชีวิตลูกฉันซะ”
เขาผุดขึ้นมา นั่งริมขอบสระ สีหน้าเศร้าสลด ก่อนจะระบายความเครียดด้วยการโดดตีลังกาลงสระแล้วว่ายน้ำต่อไปอย่างบ้าคลั่ง

จริยากับสมรเดินเข้ามาที่ล็อบบี้ของบริษัท เห็นกลุ่มแฟนคลับเด็กม.ต้นประมาณสิบคนยืนกันอยู่
“รีบเดินหน่อยแม่ คุณอาทิตย์รอนานแล้ว”
สมรมองไปรอบๆ “โอ้โห นี่แฟนคลับแกเหรอวะจิ๋ว มาต้อนรับกันน่าชื่นใจ”
แฟนคลับคนหนึ่งหันมาเห็น “ นี่ไงพวกเรา มันมาแล้ว”
2 แม่ลูกตกใจ แฟนคลับพากันเอะอะวิ่งกรูเข้ามาต่อว่า
“ไปเลย ไม่ต้องมาร้องคู่พี่โจของเรา”
“พี่โจร้องเพลงมาตั้งนานไม่เคยเสียชื่อ ไม่น่ามาร้องกับแกเลยนังจิ๋ว”
จริยายืนงง “เรื่องอะไรกันคะ”
“ก็เรื่องนักร้องที่มีแม่ติดการพนันไง พวกฉันจะยื่นหนังสือให้เปลี่ยนตัวแกเป็นนักร้องคนอื่นอีจิ๋ว”
สมรได้ยินก็อารมณ์ขึ้นทันที
“อะไรกัน มาขึ้นไอ้ขึ้นอี น้อยๆ หน่อยนะพวกแกเนี่ย ลูกฉันไปทำอะไรให้อีตาโจของพวกแก”
แฟนคลับโวยกลับ “อ้าวๆ ป้านี่ มาเรียกพี่โจอย่างงั้นได้ยังไง เพื่อนเล่นเหรอ พวกเรารุมด่ามันเลย
อีมนุษย์ป้า”
“มาเลย อีมนุษย์ม.ต้น จะตบให้หวีสับร่วงเลยมึง ลูกใครวะเนี่ย”
สมรถลกแขนเสื้อจะตบกับแฟนคลับ จริยาดูท่าจะเกิดชุลมุน รีบดึงแม่หลบเข้าไปด้านใน

“ไอ้จิ๋ว ยอมมันทำไมวะ สู้มันสิโว้ย”

สมรกับจิ๋วนั่งดูหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะอาทิตย์ เห็นพาดหัวข่าว
 
“จิ๋วนักร้องหน้าใหม่ หาเงินหน้ามันใช้หนี้พนันแม่”
สมรอ่านจบ ก็โวยวายเสียงดัง ” โห ฝีมือไอ้พวกเจ้าหนี้มันปล่อยข่าวแหงๆ”
จริยาหน้าเครียด “ฝีมือใครก็เหอะ เมื่อไหร่แม่จะเลิกเล่นการพนันซะที เดือดร้อนมาตั้งกี่ครั้งแล้ว แม่ยังไม่เข็ดอีกเหรอ”
“แหม ก็คลายเครียด คนมันมือว่างๆ”
อาทิตย์ถอนหายใจ “นี่ยังไม่รวมกระแสในอินเตอร์เน็ตนะครับ คนโจมตีจิ๋วรุนแรงมาก”
“ไหนคะ ขออ่านหน่อยสิ”
ลูกสาวรีบห้าม “อย่าเลยแม่ เดี๋ยวความดันขึ้น”
“อะไรวะ ก็ฉันเล่นเอง ไปเกี่ยวอะไรไอ้จิ๋วมัน”
อาทิตย์มองหน้า 2 แม่ลูก
“ก็นี่แหละครับบุคคลสาธารณะ บางทีความประพฤติของพ่อแม่ หรือคนใกล้ตัว ก็ส่งผลต่อความนิยมมากนะครับ”
สมรทำปากเบะ “แหม เยอะ”
“ความสนุกของคุณป้ากำลังจะทำลายอนาคตของลูกนะครับ คุณป้าอยากให้จิ๋วกลับไปทำงานอย่างเก่าหรือครับ”
สมรเริ่มรู้สึกผิด
“คุณป้าติดหนี้อยู่เท่าไหร่ครับ”
จริยาเงยหน้ามองอาทิตย์
“ก็...แสนนึงค่ะ”
ลูกสาวอึ้ง ตกใจ อาทิตย์นิ่ง สมรทำหน้าปะหลับปะเหลือก
“หนี้ก้อนนี้ผมจะใช้ให้ทั้งหมด”
สมรยิ้มปลื้ม จริยารีบค้าน
“คุณอาทิตย์ ไม่เอาแล้วค่ะ”
อาทิตย์รีบยกมือให้เงียบก่อน “แต่มีข้อแม้ว่า ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมขอให้คุณป้าเลิกเล่นการพนันอย่างเด็ดขาด จะได้ไหมครับ ไม่งั้นผมจะขอพักงานของจิ๋วทั้งหมด”
อาทิตย์มองหน้าแบบเอาจริง สมรหน้าเจื่อน มองไปทางลูกสาวที่กำลังมองเธออยู่อย่างเซ็งๆ

ทางด้านปูเปรี้ยวก็รีบเข้ามารายงานราศี
“แม่จิ๋วรับปากคุณอาทิตย์แล้วค่ะว่าจะเลิกเล่นการพนัน”
ราศีพยักหน้าแล้วส่งหนังสือพิมพ์ธุรกิจให้ปูเปรี้ยว
“อ่านข่าวนี้รึยัง”
ปูเปรี้ยวรับไปอ่าน
“นิรันดร์ นักธุรกิจพันล้านโดดมาจับงานบันเทิง เปิดตัวช่องใหม่ สตาร์สเตชั่น แว่วมางานนี้ทุ่มหนัก ดารา พิธีกร เบื้องหลังตบเท้าย้ายช่องเพียบ ย้ำชัด หวังล้มยักษ์ช่องอันดับหนึ่ง “เดอะซัน” นะยูว์”
“แหม นายนิรันดร์นี่ท่าจะจินตนาการเก่งนะคะ”
ราศีกอดอกครุ่นคิด “นายคนนี้ไม่ธรรมดา ที่ผ่านมาเค้าเคยเข้าไปช่วยทำให้หลายๆ บริษัทที่ตกต่ำกลับมาครองตลาดและโด่งดังได้อย่างไม่น่าเชื่อ”
“แต่ประสบการณ์ด้านบันเทิง เค้าคงสู้เราไม่ได้หรอกมั้งคะ”
“แต่วิธีการของเค้าน่ะสิ”
ปูเปรี้ยวมองหน้าราศีอย่างแปลกใจ

พอไลลาเพิ่งเดินทางมาถึงหน้าตึก THE SUN ปราณก็โผล่เข้ามาทัก
“สวัสดีครับคุณไลลา”
ฝ่ายถูกทักปรายตามองหัวจรดเท้า ก่อนจะจำได้ว่าคือโปรดิวเซอร์จอมหื่น
“จะทำไม”
“พูดกับฉันให้มันดีๆ หน่อย”
ไลลาทำหน้าเหยียด “ฉันก็เลือกพูดดีๆ เฉพาะกับคนดีๆ”
พูดจบก็ทำท่าจะเดินไป ปราณรีบรั้งไว้
“เดี๋ยว...”
ไลลาหยุดกึก ปราณยิงคำถามต่อ
“เธอพอใจกับรายได้ที่นี่มั้ย”
“ก็...พอใจ”
ปราณยิ้มเจ้าเล่ห์ “เหรอ ถ้ามีที่อื่นเค้าให้เพิ่มจากที่นี่อีก 2 เท่า สนมั้ย”
“งานจากแกคงไม่พ้นซ่องหรอก”
“เฮ้ย จะบอกว่าตอนนี้เพื่อนฉันทำอยู่ช่อง star station ที่กำลังจะเปิดใหม่ เค้าฝากให้มาถามเธอ เผื่ออยากเจริญในหน้าที่การงาน”
ไลลาส่ายหน้า “ขอบใจ แต่ฉันไม่ได้เดือดร้อนอะไร”
“ไม่เดือดร้อนตอนนี้ก็แล้วไป แต่เผื่อในอนาคต ติดต่อมาก็แล้วกัน”
ไลลายิ้มหยัน “ฉันไม่ได้โง่เหมือนไอ้จิ๋ว”
ขาดคำก็รีบเดินผละไป ปราณยิ้มเยาะ ก่อนจะมองหุ่นด้านหลังด้วยสายตาหื่น
“น่าฟัดดีเว้ย”

ไลลาเดินเข้ามาถึงห้องข่าว ป๋าช้างก็เดินเข้ามาทักทันที
“ไลลา ไปที่สตูฯ 2 ด่วน”
“เอ๊ะ สตูฯ 2 มันสตูของรายการ “ทอล์กวาไรตี้” นะคะ”
“ก็นั่นแหละ พอดีคุณจอยพิธีกร เค้าตกบันไดขาหักมาไม่ได้ เลยจะให้เธอช่วยเป็นแทน”
ไลลาตาโตเมื่อได้ยิน เรด้ารีบยุ
“โอ้โห รายการดังซะด้วย โชคดีจริงๆ น้องไล ขาขึ้นสุดๆ แล้ว”
ไลลายิ้มดีใจ

ไลลาผลักประตูเข้าไปในสตูฯ 2 ที่กำลังเตรียมถ่ายทำรายการ “ทอล์กวาไรตี้” เห็นทีมงานกำลังวิ่งวุ่นวาย ก่อนที่โปรดิวเซอร์รายการจะเข้ามาต้อนรับ
“อ้าว ไลลา เชิญค่ะ เอ้า พวกเรา พิธีกรมาแล้ว”
ทุกคนหันมามองแล้วปรบมือโห่ร้อง โปรดิวเซอร์เชิญไลลาไปนั่งที่ฉากรายการตรงเก้าอี้พิธีกร
“จะให้ไลทำอะไร บอกมาได้เลยค่ะ”
“สัมภาษณ์วันนี้จะอารมณ์สบายๆไม่เครียดนะคะ”
ไลลายิ้มรับ “ อ๋อ ดีเลยค่ะ แนวถนัด”
โปรดิวเซอร์ยื่นสคริปต์ให้ “ดารารับเชิญจะมากับคุณแม่นะคะ”
“พี่ตั๊ก บงกช เหรอคะ”

โปรดิวเซอร์ส่ายหน้า “ น้องนางฟ้าไงคะ”

ไลลานั่งตะลึง
 
“แนวทางคำถามก็ตามในสคริปต์เลยค่ะ”
ไลลาถอนใจ วางสคริปต์ไว้เก้าอี้ข้างๆ แล้วลุกขึ้น โปรดิวเซอร์หน้าเหวอ
“อ้าว จะไปไหนล่ะคะ”
อาทิตย์เห็นไลลาทำท่าจะเดินหนี ก็รีบเดินเข้ามาขวางไว้
“พอเห็นว่าเป็นนางฟ้าก็จะหนีเลยเหรอ”
“ฉันไม่ได้หนี แต่ไม่อยากสัมภาษณ์เพื่อน”
“เพื่อนกันสิยิ่งน่าคุยไม่ใช่เหรอครับ”
ไลลาแค่นยิ้ม “ค่ะ แต่นางฟ้าคือเพื่อนเก่า ที่ฉันไม่มีอะไรอยากคุยด้วย”
ขาดคำก็จะเดินหนีอีก อาทิตย์รีบพูดไล่หลัง
“ขี้แพ้”
ไลลาชะงักกึก กำมือแน่น เพราะเกลียดคำนี้ที่สุด
“ในที่สุดคุณ ก็ยอมรับว่าตัวเองแพ้นางฟ้า”
“ฉันไม่ใช่...”
อาทิตย์พูดท้า “พิสูจน์สิ ทำให้ผมเห็นว่าคุณไม่กลัว และสามารถเอาชนะนางฟ้าได้”
ไลลามองหน้าอาทิตย์ พร้อมๆ กับที่อัปสรสวรรค์เดินออกมาจากหลังฉาก
“พี่โปรดิวเซอร์คะ”
พอเหลือบเห็นไลลา ก็อึ้งไปเช่นกัน

คนดูปรบมือกันเกรียว ก่อนที่ไลลาจะพูดเข้ารายการ
“สวัสดีค่ะ ทอล์กวาไรตี้วันนี้พบกับไลลาพิธีกรจำเป็นอีกแล้วนะคะ สำหรับแขกรับเชิญของเราวันนี้ เรียกได้ว่าเธอเป็นนางเอกผู้โชคดีจนสาวๆทั้งประเทศพากันอิจฉา”
โปรดิวซ์ก้มมองสคริปต์แล้วบ่น “เฮ้ย...ใครเปลี่ยนสคริปต์ไม่บอกฉันรึเปล่าเนี่ย”
ไลลาพูดต่อ “ ขอเสียงปรบมือต้อนรับ คุณนางฟ้า อัปสรสวรรค์ค่ะ”

อัปสรสวรรค์หายใจเข้าลึกๆ ก่อนก้าวออกไปในสตูฯ
ด้านเดือนเด่นที่นั่งรอคิวเตรียมออกอยู่ตรงโซฟา ก็มีสายเข้ามา พอหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็เห็นเป็นสายจาก “คุณนักสืบ”
“ว่าไงคะคุณนักสืบ”

เสียงปรบมือดังเกรียว กล้องรับภาพอัปสรสวรรค์ยกไหว้แล้วยิ้มให้กล้องอย่างรู้งาน ไลลาพยายาม ข่มใจ
“ท่านผู้ชมหลายๆ ท่าน คงรู้อยู่แล้วว่าคุณนางฟ้านางเอกของเราเธอมีความสามารถแค่ไหน แต่ที่ ทุกท่านคงจะยังไม่รู้ว่า นอกจากความสวยและความสามารถที่มีอยู่มากมาย เธอยังมีครอบครัวที่สุดแสนจะ เฟอร์เฟ็กต์อีกด้วยนะคะ”
อัปสรสวรรค์พยายามทำหน้าให้เป็นปกติ
“คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ครอบครัวของนางฟ้าก็เป็นแค่ครอบครัวเล็กๆ เรามีกันแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก”
“น่าอิจฉาจริงๆ นะคะที่มีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า บางครอบครัวไม่พร้อมขนาดนี้เลย แบบนี้ยังไม่เรียกเฟอร์เฟ็กต์อีกเหรอคะ”
“นางฟ้าคิดว่าคำว่าครอบครัวไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องอยู่กันพร้อมหน้าเสมอไป แต่ขอแค่เรามีความรักความเข้าใจและปรารถนาดีต่อกัน แม้ในยามที่เราต้องแยกกันอยู่ก็พอแล้วค่ะ”
ทุกคนในห้องส่งปรบมือชื่นชม ไลลาแอบทำหน้าไม่พอใจ อาทิตย์ยิ้มชื่นชมกับคำตอบ
ไลลาฝืนชม “น่าชื่นชมจริงๆ นะคะ แบบนี้ก็แสดงว่าคุณพ่อคุณแม่ของนางฟ้าต้องไม่เคยทะเลาะกันเลยซิคะ”
อัปสรสวรรค์อึกอัก ก่อนที่เสียงเดือนเด่นจะดังแว้ดขึ้นมา
“อีลูกเมียน้อย”
ทุกคนหันไปเห็นเดือนเด่นเดินหน้าตาเอาเรื่องเข้ามา โปรดิวซ์ยืนงง
“ยังไม่ถึงคิวคุณแม่น้องนางฟ้าเลย พาออกมาทำไม”
ทีมงานส่ายหน้า “ หนูเปล่านะพี่”
เดือนเด่นพุ่งเข้าไปตบหน้าไลลาทันที คนดูอึ้ง ทีมงานลุกฮือ
เดือนเด่นจะตบซ้ำ อัปสรสวรรค์รีบลุกขึ้นห้าม
“แม่ นี่มันอะไรกันคะแม่”
เดือนเด่นชี้หน้าด่า “แม่อีไลลานี่แหละ แม่มันเป็นเมียน้อยพ่อแก”
ทุกคนตกใจ อัปสรสวรรค์อึ้ง หันขวับไปมองหน้าไลลา
“แม่ฉันไม่ใช่เมียน้อยใคร พูดให้มันดีๆ นะ ผัวคุณนั่นแหละมายุ่งกับแม่ฉันเอง”
เดือนเด่นมองเย้ย “เชอะ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกย่ะ บอกมาแม่แกอยู่ที่ไหน”
“พอเถอะค่ะแม่ อายเขา”
เดือนเด่นไม่ยอมหยุด “อายทำไม คนที่ต้องอาย อีพวกมีแม่เป็นเมียน้อย ชอบแย่งผัวชาวบ้านสิ ต้องอาย”
“หยุดเดี๋ยวนี้ อย่ามาว่าแม่ฉันนะ”
เดือนเด่นสะบัดตัวหลุด แล้วพุ่งเข้าถึงตัวไลลาพร้อมกับกระชากคอเสื้อ
“ทำไม ฉันสืบมาหมดแล้ว แม่แกมันก็อีตัว ทำทีเป็นเอาตำแหน่งนางงามเก่าเข้าล่อขายให้คนนั้นที
คนนี้ที แก่จะลงโลงแล้วยังไม่เจียม ทุเรศที่สุด”
ไลลาตาวาวด้วยความโกรธ “แกไม่มีสิทธิ์มาด่าแม่ฉัน”
จากนั้นก็ผลักเดือนเด่นจนล้ม
“แม่”
อัปสรสวรรค์หันขวับ ตาวาวอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะฟาดฝ่ามือตบไปที่หน้าไลลาเต็มๆ ทุกคนกรีดร้องลั่น
“อย่าเอามือสกปรกของแกมาถูกตัวแม่ของฉัน”
ไลลาโกรธจัด กระโดดเข้าไปตบกับอัปสรสวรรค์ ชนข้างของระเนระนาด
อาทิตย์วิ่งเข้ามาจับแขนทั้งสองแยกจากกัน
“พอได้แล้ว ทั้งคู่เลย ใจเย็นๆ กันหน่อยได้มั้ย”
2 สาวถูกจับแยกกัน แต่ยังคงกัดฟันจ้องหน้ากันอยู่ เดือนเด่นตะคอกขู่
“เรื่องนี้ต้องถึงคุณราศี ให้มันรู้กันไปเลยว่าใครจะอยู่ ใครจะไป”
ว่าแล้วก็กระชากลูกสาวเดินออกไป อาทิตย์มองตาม ทุกคนเงียบกริบ
โปรดิวเซอร์หันมาถาม “เอายังไงต่อดีคะคุณอาทิตย์”
“เลิก พรุ่งนี้ค่อยถ่ายใหม่ เอาจิ๋วกับแม่มาเป็นแขกรับเชิญแทน ส่วนพิธีกรก็หาคนใหม่มา”

อาทิตย์เดินเครียดออกไป ไลลาโกรธ เดินไปหยิบแก้วน้ำปาใส่ฉากจนแตกกระจาย
 
อ่านต่อพรุ่งนี้ เวลา09.30น.



เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 8 (ต่อ)

“เดือนเด่นเขาจะให้แม่ไล่ไลลาออกไปจากช่อง ไม่งั้นจะบอกนักข่าว”
 
ราศีบอกกับอาทิตย์ ก่อนจะถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม
“แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ไม่ใช่หรือครับ”
“ก็ใช่ แต่เขาคงลำบากใจที่จะให้ลูกทำงานอยู่ที่เดียวกับลูกคู่กรณี แม่เลยบอกว่าถ้าปล่อยข่าวไป มันก็กระทบไปถึงชื่อเสียงหนูนางฟ้าด้วย เอาเป็นว่าต่อไปจะไม่ให้ 2 คนนี้มาร่วมงานกันอีก เขาถึงอ่อนลง เฮ้อ.. คุณช้างนี่ก็ไม่ดูตาม้าตาเรือ ดันทะลึ่งส่งไลลาไปแทนได้”
พูดพลางลุกเดินไปมองวิวที่หน้าต่าง ระบายความเคร่งเครียด
“2 คนนี้คงทำงานด้วยกันลำบากแล้วครับ”
“แกช่วยกำชับทีมงานที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ให้ปิดปากให้หมด ถ้าจับได้ว่าใครให้ข่าว หรือขายข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันฟันไม่เลี้ยง”
ราศีหนักใจกับเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น

ทางด้านอัปสรสวรรค์ก็มายืนคุยกับจริยาที่มุมระเบียง
“ทำไมจิ๋วรู้ล่ะ”
“โธ่ เขาลือกันไปทั้งตึกแล้วเจ้ ขนาดพวกแดนเซอร์ยังเอามาเม้าท์”
ซุปตาร์สาวยิ่งตกใจหนักขึ้นไปอีก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ด้วยความโกรธ
“เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตฉันเลยจิ๋ว”
“เข้าใจเจ้ ถ้าเป็นจิ๋ว ก็ไม่รู้จะมองหน้ากันยังไงติดเหมือนกัน”
“มันเอาเรื่องครอบครัวฉันมาล้อเล่นในรายการ เลวที่สุด”
จริยานิ่งฟัง อัปสรสวรรค์ระบายความอัดอั้นต่อ
“ที่ผ่านมา มันแกล้งฉันตั้งกี่ครั้ง ฉันก็พยายามอดทน เพราะคิดถึงเรื่องเก่าๆ แต่นับจากนี้พอกันที มันต่ำเกินไปที่จะเป็นเพื่อนฉัน”
ฝ่ายที่นิ่งฟัง ยิ้มเจื่อน “ก็ถือซะว่าเป็นเพื่อนร่วมโลกก็แล้วกันนะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ฉันกับมันอยู่กันคนละภพภูมิ ฉันอยู่โลกมนุษย์ แต่มัน..นรก”
อัปสรสวรรค์พูดด้วยสีหน้าโกรธจัด จนจริยาไม่กล้าพูดอะไรต่อ

ขณะปกรณ์กำลังจะเดินกลับบ้าน อัปสรสวรรค์ก็เดินเข้ามาขวาง
“เป๋า”
ตากล้องหนุ่มถอนใจ “ ยังไม่กลับเหรอฟ้า”
“ไปหาไรกินกันมั้ย”
ปกรณ์หยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะตัดใจไม่ยุ่ง เพราะเดือนเด่นเคยบอกว่าเธอรำคาญเขา
“ไม่อ่ะ กลับก่อนนะ”
อัปสรสวรรค์รีบวิ่งไปดึงไว้ “เฮ้ย ไปไหนอ่ะ คุยกันก่อนสิ”
“ฟ้ารีบไปเหอะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“ก็ช่างมันสิ”
“ไปเหอะฟ้า” ตากล้องหนุ่มพูดย้ำ พยายามจะหันหลังเดินไปให้ได้ แต่อีกฝ่ายก็รั้งไว้อีก
“แกเป็นอะไรวะเป๋า ไอ้ข่าวนั่นมาจากไหน ฉันไม่สนใจหรอก”
ปกรณ์พยายามจะผละไปอีก
“ทำไมวะเป๋า” อัปสรสวรรค์กระชากเสื้ออีกฝ่ายให้หันมา “แกไม่รักฉันแล้วเหรอ”
ขาดคำ ตากล้องหนุ่มก็กระชากซุปตาร์สาวมาจูบทันที
ครู่หนึ่ง ปกรณ์ก็ได้สติ รีบผละออกมา ก่อนจะตบหน้าตัวเองผลัวะ
“ขอโทษนะฟ้า”
จากนั้นก็รีบเดินออกไป ปล่อยอัปสรสวรรค์ให้ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น

“ไปตบมันเลยไป”
เพ็ญศรีผุกลุกขึ้นทันที สีหน้าแค้นสุดในชีวิต หลังจากได้ยินไลลาเล่าเรื่องเดือนเด่นบุกตบในรายการให้ฟัง
“มันนึกว่ามันแน่นักเหรอ ถึงได้กล้าทำขนาดนี้”
ไลลาเอง ก็โมโหเหมือนกัน “แต่แม่ก็ไปกิ๊กกับผัวมันจริงๆ”
“แต่มันจะมาทำอย่างนี้กับแกไม่ได้ แค้นฉันก็มาเอากับฉันสิ ไปตบลูกฉันกลางรายการอย่างนั้นได้ยังไง”
ไลลาชะงัก แอบรู้สึกดีที่แม่พูดประโยคนั้น
“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะเอาคืน”
“ไลว่าแม่อยู่เฉยๆ ดีกว่า ยิ่งทำ ไลก็ยิ่งแย่”
“อยู่เฉยแล้วปล่อยให้มันระรานเหรอ ไม่ใช่เพ็ญศรี เกิดงามพริ้งล่ะมั้ง”
ลูกสาวถอนหายใจเซ็งๆ “ก็เพราะนิสัยแบบคุณเพ็ญศรีนี่ไง ถึงทำให้ไลโดนแบบนี้”
เพ็ญศรีฟึดฟัด
“คุณราศีเค้าขอให้เงียบกันทั้งคู่ เพราะไลกับอีนางฟ้ากำลังขาขึ้น ช่วงนี้แม่ก็ระวังตัวหน่อย ดูท่าแม่ อีนางฟ้ามันไม่หยุดแค่นี้แน่”

หน้าไลลาเปี่ยมความแค้น รอคอยเวลาเอาคืน

อัปสรสวรรค์นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขกตามลำพัง สีหน้าซึมเศร้า
 
ภาพในทีวีเป็นละครหลังข่าว นางเอกกับเพื่อนกำลังพูดคุยกัน
“จริงเหรอยัยลูกหมี”
เพื่อนนางเอกยิ้มหน้าบาน “จริงสิ ฉันเพิ่งรู้ความจริงจากยาย พ่อแม่ฉันมีลูกยาก เลยขอฉันจากพ่อแม่เธอไปเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เขาขอให้ปิดเป็นความลับจนกว่าจะอายุยี่สิบ”
นางเอกตกใจ “อย่างนั้น เธอ”
“ฉันเป็นพี่เธอ น้องเหมียว”
“โธ่ พี่ลูกหมู”
จากนั้นก็มีเสียงบรรยายตามมา
“และแล้ว 2 เพื่อนรักที่ต่างเพิ่งรู้ความจริงว่าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน ก็สวมกอดกันอย่าง ปลาบปลื้มใจที่สุดในชีวิต”
ตัวหนังสือขึ้นหน้าจอ “จบบริบูรณ์”
พลันหน้าจอทีวี ก็ถูกเปลี่ยนช่องเป็นรายการสารคดีสัตว์โลก

อัปสรสวรรค์นั่งอยู่หน้าทีวีอย่างไร้ชีวิต ก่อนที่ดามพ์จะค่อยๆ เปิดประตูเข้ามา เมื่อหันไปเห็นลูกสาวนั่งอยู่ ก็เข้ามาชวนคุยอย่างอารมณ์ดี
“อ้าวฟ้า ยังไม่นอนอีกเหรอลูก”
“อ๋อค่ะ ยังไม่ง่วง”
ดามพ์เอาเสื้อผ้าเก่าในกระเป๋าใส่ลงตะกร้าซัก ก่อนจะหันมาชวนคุยต่อ
“แล้วแม่ล่ะ”
“ยังไม่กลับค่ะ ไปนั่งสมาธิกับเพื่อน”
ดามพ์พยักหน้าหงึก “ดี หัดเข้าวัดเข้าวา จะได้ปลงๆ ซะบ้าง เนอะ”
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกสาว
“รีบนอนซะนะ เดี๋ยวตาดำหมด แฟนคลับจะทักเอานะลูก”
พูดจบ ก็หิ้วกระเป๋าเปล่าจะเดินขึ้นไปข้างบนเพื่อเอาชุดใหม่ อัปสรสวรรค์ถามโพล่งขึ้นมาทันที“พ่อคบอยู่กับแม่ไลเหรอคะ”
ดามพ์หยุดชะงัก รอยยิ้มหายไปทันตา ก่อนจะพยายามตั้งสติแล้วค่อยๆ หันมาคุยกับลูก
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะลูก”
“พ่อไม่ต้องปิดแล้วค่ะ เค้ารู้กันทุกบ้านแล้ว”
ดามพ์ไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม “นี่ลูกไปเอาข่าวมาจากไหน ใครบอกลูกอย่างนั้น”
อัปสรสวรรค์หยิบรูปที่นักสืบแอบถ่ายมาโยนลงบนโต๊ะข้าง ดามพ์เห็นรูปก็หยิบขึ้นมาดู แล้วก็ตกใจแทบไม่เชื่อสายตา
“วันนี้แม่ไปโวยวายกลางรายการที่ไลเป็นพิธีกร”
ดามพ์ถอนใจ ค่อยๆ เข้าไปนั่งข้างลูก อย่างพยายามขอความเห็นใจ
“พ่อผิดเองลูก ตอนแรกที่เจอเค้า พ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นแม่ของไล”
“งั้นก็แสดงว่าตอนหลังรู้ แล้วก็ยังยุ่งกับเขาต่อไปใช่มั้ยคะ”
อัปสรสวรรค์ย้อนถามกลับ ดามพ์ถึงกับหน้าเครียด
“เอ่อ พ่อขอโทษนะลูก”
ฝ่ายลูกสาวเริ่มสะอื้นไห้ “คนบนโลกมีเป็นล้าน ทำไมต้องเป็นแม่ไลด้วยคะพ่อ ทำไม”
“แต่พ่อก็ไม่ได้ยุ่งกับเค้าแล้วนะลูก”
“มันสายไปแล้วค่ะพ่อ”
อัปสรสวรรค์น้ำตาริน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงโกรธถึงที่สุด
“สงครามของฟ้ากับมันเกิดขึ้นแล้ว ฟ้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายครอบครัวฟ้าได้”
“จะให้พ่อไถ่บาปได้ยังไงบ้าง”
ดามพ์มองหน้าลูกสาวอย่างสำนึกอยากขอโทษ แต่อีกฝ่ายกลับมองหน้านิ่ง ไร้คำตอบ

อัปสรสวรรค์กับดามพ์นั่งอยู่ด้วยกันที่ร้านไอศครีมในห้างสรรพสินค้า
“ขอบคุณนะคะพ่อ ที่ทำให้ภาพดีๆ ของฟ้าย้อนกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ครบเหมือนเมื่อก่อนก็ตาม”
ดามพ์ยิ้มให้ลูกสาว “พ่อก็อยากทำให้ครบหรอกนะ แต่สำหรับแม่เค้าคงยาก แล้วนี่โทร หาเค้าติด รึยัง”
“โทร ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ปิดมือถือ คงอยู่ที่วัด”
“ไม่เป็นไร วันหลังเราค่อยมาพร้อมกันอีกครั้งก็ได้”
อัปสรสวรรค์ตักไอศครีมเข้าปาก ใบหน้าเศร้าซึม

อีกมุมหนึ่งในห้างสรรพสินค้า ที่ร้านกระเป๋าราคาแพง เดือนเด่นเดินมาหยุดยืนดูกระเป๋าอยู่หน้าร้าน
ขณะมองเข้าไปในร้าน ก็เห็นเพ็ญศรีกำลังยืนคุยกับพนักงานขายอยู่ เธอเล็งจนแน่ใจว่าใช่ผู้หญิงในรูปคนนั้นแน่
“อีเมียน้อย”
เพ็ญศรีที่อยู่ด้านในร้าน กำลังหยิบกระเป๋าถือใบใหม่ส่งให้พนักงาน
“นี่เท่าไหร่หนู”
“ใบนี้สองแสนค่ะ ทำจากหนังจระเข้มีลิ้น มีแค่ 2 ตัวในโลกเท่านั้นนะคะ”
เพ็ญศรียิ้มแป้น “ จ้ะ จำได้ พี่มาดูตั้งหลายรอบแล้ว พอดีลูกสาว “ไลลา” น่ะค่ะ ที่อ่านข่าวช่อง THE SUN เคยดูมั้ย”
พนักงานทำตาโต “เคยค่ะ นี่คุณแม่ไลลาเหรอคะ”
“ใช่ค่า”
“โห ชอบมากๆ เลยค่ะ หนูเปิดดูทุกเที่ยงเลย อ่านข่าวมันส์มาก”
เพ็ญศรีตัวพอง “นั่นแหละ เค้าให้ตังค์พี่มาซื้อ เอาใบนี้แหละจ้ะ”
พนักงานยิ้ม ก่อนจะรับกระเป๋าเดินไปคิดเงิน พร้อมกับที่เพ็ญศรีหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา
“แน่ใจเหรอว่าเงินลูกแก”
เพ็ญศรีได้ยินเสียง ก็เงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นเป็นเดือนเด่นก็นึกแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน
“นี่คุณพูดกับฉันเหรอ”
“พูดกับอีจระเข้มีลิ้นมั้ง”
เพ็ญศรีชักฉุน “เอ๊ะ ฉันรู้จักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฉันน่ะแกไม่รู้จักหรอก แต่กับผัวฉันน่ะ คงรู้จักลึกซึ้งไปถึงเสปิร์มเลยทีเดียว”
เพ็ญศรีเริ่มนึกได้ว่านี่คือเมียของดามพ์ แต่ก็แกล้งตีหน้าเซ่อ
“ฉันเป็นเพื่อนสามีคุณหรือคะ”
เดือนเด่นยิ้มหยัน “ จ้ะ เพื่อน เพื่อนปีนต้นงิ้ว เพื่อนลงนรกอเวจี กอดคอกันลงไปทั้งคู่นั่นแหละ”
“นี่คุณพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
เดือนเด่นเชิดหน้า “ ก็ถูกแล้วที่ไม่รู้เรื่อง เพราะถ้าฉลาดจริง มีสมองเยอะ ก็คงไม่นอนกกผัวคนอื่นเขาหรอก อีเมียน้อย”
คนเดินผ่านไปมาเริ่มหันมามอง เพ็ญศรีอ้าปากหวอไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำเสียงดังเข้าข่ม
“คนบ้ารึเปล่าเนี่ย ไหนยามอยู่ไหนมาดูหน่อยซิ ทำไมปล่อยคนบ้าเข้ามาอย่างนี้”
พอคนเริ่มหันมามองมากขึ้น เดือนเด่นจึงหันไปตะโกนประจานกลับ
“อีนี่แหละค่ะ มันเป็นเมียน้อยแย่งผัวคนอื่น เป็นแม่อีไลลาช่อง THE SUN แม่มันเป็นเมียน้อยค่ะ”
เพ็ญศรีเดือดดาลสุดขีด “อีนี่ประจานลูกฉันเหรอ”

“ลูกมันก็เลว มั่วผู้ชายไปทั่ว แม่มันก็มั่วแย่งผัวชาวบ้าน”

ขาดคำ ก็ถูกเพ็ญศรีหยิบกระเป๋าหรูบนชั้นฟาดหลังจนเซ
 
เดือนเด่นไม่ยอมแพ้ หันไปคว้าข้าวของที่วางโชว์มาขว้างปาใส่กลับ ต่างฝ่ายต่างหยิบของในร้านมาตะบันกันจนพนักงานอ้าปากหวอ
หน้าร้านผู้คนต่างมุงดูราวกับมวยคู่เอก
“ไฮโซอะไรวะ ตบกันยังกะแม่ค้า”
2 พ่อลูกเดินผ่านมาพอดี อัปสรสวรรค์ไม่นึกสนใจ จะเดินผ่านไป แต่ดามพ์กลับหยุดเดิน พลางชะโงกเข้าไปดูในร้าน ก่อนจะเห็นเมียหลวงกับเมียน้อยของตัวเองตบตีกันให้วุ่น
“ฟ้า รีบเดินออกไปก่อนนะลูก”
พูดพลางรีบวิ่งเข้าไปในร้าน อัปสรสวรรค์เห็นพ่อตัวเองวิ่งไป ก็ตกใจเดินตามไปดู
ดามพ์เข้าไปก็จับเดือนเด่นกับเพ็ญศรีแยก แต่ทั้งคู่ยังไม่ยอมหยุด
“แม่”
อัปสรสวรรคฺเห็นคู่กรณีของแม่ คือแม่ไลลาก็ยิ่งตกใจ
จังหวะนั้น ไทยมุงหลายคน ก็เริ่มยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปทันที

ปูเปรี้ยวกับบ๊วยกำลังยืนดูคลิปเดือนเด่นตบกับเพ็ญศรีในไอแพด ส่วนเรด้าอ่านข่าวในมือถือ
“แม่ดาราตบกันยับกลางห้าง ปมแย่งสามี-ศึกรุ่นลูก”
ปูเปรี้ยวทำหน้าอ่อนใจ “ฉันอยากจะกรี๊ดเป็นภาษาสเปน นี่ขนาดมาดามขอแล้วนะ ว่าให้เงียบให้เงียบ ไม่ห่วงชื่อเสียงลูกกันบ้างเลย”
“ก็คุณหญิงนั่นแหละค่ะที่เริ่มก่อน แทนที่จะชวนไปคุยกันดีๆ ว่าจะเอายังไง”
ปูเปรี้ยวแย้งกลับ “แกจะบ้าเหรอ จะคุยกันยังไง คนเป็นเมียหลวงมันแค้น เจอหน้าเมียน้อยที่ไหน ก็ฟัดยับอยู่แล้ว”
“ใช่ แต่มันไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของ she”
ปูเปรี้ยวย้อนกลับอีก “แล้วถ้าเป็นแกล่ะ”
เรด้าอ้าปากกำลังจะตอบ แต่ปูเปรี้ยวแทรกขึ้นมาก่อน
“เออลืมไป ชาตินี้แกคงไม่มีผัวกับเขาหรอก”
“โธ่ คุณปูเปรี้ยว อย่าเพิ่งดูถูกไป เหลืออีกตั้งครึ่งชีวิต”
ปูเปรี้ยวถอนใจ “ทีนี้แหละ ภาพลักษณ์ของไลลา ก็จะแย่ลงเรื่อยๆ”
เรด้าไม่เห็นด้วย “ไม่หรอกค่ะ แฟนคลับเขาก็มี คนที่เติบโตมาจากดิน ย่อมได้รับความเห็นใจอยู่แล้ว”
“เหรอ เพิ่งรู้ว่าน้องนางฟ้าของฉันมาจากอวกาศ แต่ เอ๊ะ! นี่ไลลาเพิ่งดังไม่เท่าไหร่ แกก็เขียนใบสมัครแล้วเหรอ”
เรด้าทำหน้าเหรอ “ สมัครอะไรคะ”
“พนง.สขว.”
เรด้าทำหน้าภูมิใจ “อ๋อ พนักงานสื่อข่าวมือรางวัล”
“พนักงานทำความสะอาดหน้าแข้งให้ขาววิ้ง”
ปูเปรี้ยวยิ้มเยาะเดินจากไป
“พนักงานทำความสะอาดหน้าแข้ง” เรด้าเพิ่งนึกได้ ก็โกรธ “หนอย ว่าฉันชอบเลียเหรอคะ คุณปูเปรี้ยว”
บ๊วยพูดขึ้นมาบ้าง “ ห.ด.”
เรด้าหันขวับไปทันที “อะไร”
“เห็นด้วย”
เรด้าย้อนกลับ “ ด.ด.ถ.”
“อะไร”
“เดี๋ยวโดนถีบ”
บ๊วยสะอึก เรด้าแอบเซ็ง ที่โดนปูเปรี้ยวหลอกด่า

ราศีนั่งคุยมือถือกับเดือนเด่นหน้าตาเคร่งเครียด
“ใจเย็นๆ หน่อยแล้วกันนะคะ คุณหญิง”
จากนั้นก็กดวางสาย แล้วถอนใจเฮือก
“ต้องดูแลตั้งแต่ลูกไปยันแม่”
จังหวะนั้น ปูเปรี้ยวก็เดินเข้ามารายงาน
“ตอนนี้ในเว็บไซต์ แฟนคลับของทั้งนางฟ้า ทั้งไลลาเปิดศึกโจมตีกันรุนแรงมากค่ะ มีการไปขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ของทั้ง 2 คนมาด่า แต่ดูเหมือนฝ่ายไลลาจะแย่หน่อยค่ะ เพราะแม่เธอโดนข้อหาเมียน้อยไปซะแล้ว”
ราศีส่ายหน้าเอือมๆ “ฉันว่าพอกัน แล้วแต่ว่าใครจะเชียร์ใคร ที่แน่ๆ ข่าวนี้กลบเรื่องช่อง STAR STATION ที่กำลังจะเปิดตัวไปซะมิด”
“จริงค่ะ”
“ถ้าไม่มีใครโหมต่อ อีก 2 วันน่าจะเงียบ”
พลันที่หน้าโน้ตบุ๊กของราศี ก็มีเสียงเตือนข้อความเฟซบุ๊ก
“ขยันส่งอะไรมากันอีกล่ะ”
ที่หน้าจอ เห็นคลิปหนึ่งเป็นหน้าไลลา
“คลิปไลลาสู้เพื่อแม่” ราศีส่ายหัว “ไม่อยากเปิดดูเลยจริงๆ ปูเปรี้ยว”
แต่แล้วก็ตัดสินใจกดเปิดคลิปดู เป็นคลิปไลลาถ่ายหน้าตัวเองในห้องนอน
“ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้เติบโตมาบนกองเงินกองทอง ฟันฝ่าล่าฝันด้วยตัวเองมาโดยตลอด แม้ไม่เลอค่าแต่ก็มีเกียรติ ขอบอกเลยว่า ถ้ามีคนที่มีลูกมีเมียแล้วมายุ่งกับฉัน หากรู้ตั้งแต่แรกก็คงไม่ยุ่งกับเขาแน่ ไม่มีใครอยากเป็นที่สอง ดิฉันไม่ได้พูดถึงใคร แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจและเห็นใจคนที่ด้อยกว่า”
คลิปจบเพียงเท่านั้น
ปูเปรี้ยวทำหน้าเบ้ ราศีกลุ้มใจ จนต้องยกมือกุมหน้าผาก
ไลลากำลังนั่งให้ช่างทำผมอยู่ในสตูดิโอ เตรียมจัดรายการ ครู่หนึ่งเรด้าก็เดินเข้ามาคุยด้วย
“ช่วงนี้ข่าวถี่จัง เว้นวรรคซักนิดดีมั้ยน้องไล”
ไลลาหันไปถาม “เว้นวรรคยังไง”
“ก็อยู่เฉยๆ บ้าง เงียบบ้าง ใครจะว่ายังไงก็ช่างลูกคุณยายมัน อย่าไปต่อล้อต่อเถียง นี่เตือนเพราะรักนะ สแกนแล้วกลิ่นมันชักแปลกๆ”
เหยี่ยวข่าวสาวยักไหล่ “ไลไม่สนหรอกค่ะ”
“พอดีมีคำสั่งจากเบื้องบนมา”
ไลลาย้อนถามโดยไม่มองหน้า “ไงอีกคะ ห้ามพูดเรื่องอะไรอีก”

“ก็ช่วงนี้ห้ามพูดอะไรที่โยงไปถึงเรื่องที่มีปัญหากับนางฟ้า”

รอยยิ้มเยาะผุดขึ้นทันที “เชียร์ได้อย่างเดียวว่างั้น ได้ค่ะ จะดันให้สุดๆ ไปเล้ย ให้มันดังกว่าระเบิดเลยเอามั้ย”
 
“แล้วก็เรื่องคุณแม่...”
เรด้ายังพูดไม่ทันจบ ไลลาก็สวนขึ้นมาด้วยอารมณ์ฉุน
“ไม่มีใครเอาแม่ตัวเองมาประจานออกสื่อหรอกพี่ สมองมีค่ะ”
“แม่คนอื่นด้วยค่ะ”
ไลลาหันขวับไปมองหน้า เห็นชัดว่าเรด้าเริ่มเกรงบารมีเธอจนไม่กล้าสบตา
“เรื่องคลิปเมื่อเช้า ?”
“เฮอะ ก็แค่ระบายอารมณ์ส่วนตัว ทำไมต้องมีคนร้อนใจ”
“แล้วก็..”
ไลลาชักรำคาญ หันมาตะคอกใส่ “ช่างหัวมาดามเหอะ นี่กูเป็นพิธีกรอาชีพนะโว้ย ไม่ใช่เบ๊ ไม่พอใจนักก็หาคนใหม่สิวะ”
พวกทีมงานพากันหันมามอง เรด้าหน้าเจื่อน

ไลลาทำหน้าที่พิธีกร จัดรายการ I Love Gossip อยู่ในสตูฯ
“สรุปว่าสาวชาช่าเธอก็บอกแล้วนะคะว่าฝ่ายชายมาขอนอนด้วยเองต่างหาก นี่แหละค่ะ บางทีคนเรา ถ้าฟังข่าวข้างเดียว ก็นึกว่าผู้หญิงไปแย่งของคนอื่นเค้ามา แต่ความจริงแล้ว ผู้ชายนั่นแหละตัวแสบที่สุด”
ปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตากล้องเหล่มองอย่างเซ็งๆ ส่วนเรด้าก็ยืนกุมหน้าผากปวดหัวจี๊ด เพราะไลลาพูดนอกบท
“แฟนตัวจริงก็มัวแต่ไปหาหญ้ากินที่ไหนไม่รู้ เรื่องแบบนี้มันเป็นเวรกรรมมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่ตกทอดมารุ่นลูกเป็นมรดก”
ด้านกรณ์เริ่มหน้าเหวอ หันไปบอกทีมงาน
“ตัดเข้าโฆษณาเลย”
ที่ VTR เห็นไตเติ้ลตัดออกโฆษณา
กรณ์ตะโกนสั่ง “คัทๆๆ” ก่อจจะโยนสคริปต์ทิ้ง แล้วเดินชกหัวตัวเองออกไป
“กูมันผิดเอง ดันมาทำงานกับคนบ้า”
ไลลาชักสีหน้า โมโหที่ถูกตัดรายการ
“จะรีบตัดไปกินนมแม่ที่ไหนวะ”

ราศีกำลังประชุมเครียดกับทีมงาน ที่จอโปรเจ็กเตอร์ เห็นตารางเปรียบเทียบผังรายการของ THE SUN กับ STAR STATION
“ผังรายการของสตาร์สเตชั่นออกมาแล้วนะ เขาตั้งใจจัดรายการมาชนกับเราเต็มที่ โดยเฉพาะละคร ตอนนี้เรากำลังรอผลประมูลลิขสิทธิ์ซีรี่ย์เรื่อง Super dancer จากทางเกาหลีอยู่ บ่ายนี้น่าจะรู้”
ป๋าช้างตาโต “โอ้โห เรื่องนี้คนรอดูเยอะมาก ถ้าเราได้มา สตาร์สเตชั่นดับแน่ครับ”
“ใช่ และฉันมั่นใจว่าต้องได้ ส่วนอีกเรื่องที่จะคุยกับคุณ คือเรื่องไลลา”
ป๋าช้างก้มหน้าเครียดๆ “ครับ”
“ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะเป็นคนเจ้าปัญหามากที่สุด เธอกำลังจะเอาชนะคะคานฉันอยู่ อะไรที่ห้ามไปก็ไม่หยุด อะไรที่ขอไปก็ไม่รับฟัง นี่คุณกรณ์ก็เพิ่งโทร ขึ้นมาบอกว่ารายการต้องรีบตัดสลับเข้าโฆษณาเพราะไลลาพูดแดกดันไปถึงแม่นางฟ้าอีกแล้ว”
ป๋าช้างถอนใจ “เฮ้อ แต่เด็กมันก็เป็นคนขยัน มีฝีมือนะครับ แถมตอนนี้ก็มีฐานแฟนๆ เยอะ”
“นั่นแหละเป็นสิ่งที่เธอกำลังจะดึงมาต่อรองฉัน ฉันไม่ชอบเด็กดื้อแบบไร้เหตุผล หากไม่มุ่งไปจุดหมายเดียวกัน ก็ต้องแยกย้าย ถ้าเป็นเนื้อร้ายก็ต้องตัดทิ้ง”
ป๋าช้างเริ่มหนักใจ

“แต่สิ่งที่ไลเสนอไปก็เป็นความจริงทั้งนั้นนะคะ เราต้องตรงมาตรงไปสิคะ”
ไลลาเสียงแข็ง ขณะนั่งคุยกับป๋าช้างในห้องทำงานแบบตัวต่อตัว
“ใช่ แต่เธอกำลังใช้อารมณ์อยู่นะ เธอใส่อคติลงในข่าว สาดเสียเทเสียแบบนี้ มันได้แต่ความแค้นและความสะใจ”
“ยุคนี้มันมีแต่คนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี มัวแต่พูดเพราะๆ พวกมันจะสะเทือนหรือคะ”
ป๋าช้างพยายามใจเย็น “การจะติจะชมใคร มันต้องมีศิลปะ การวิจารณ์ที่ดี แม้แต่คู่กรณีก็ยังต้องหยุดฟัง แล้วนำไปปรับปรุงตัว”
ไลลายิ้มหยัน “ ก็เพราะการจัดรายการแบบนี้ไม่ใช่หรือคะ ถึงทำให้รายการขึ้นมาอยู่อันดับหนึ่งได้ จากที่เคยโหล่มาตลอด”
ป๋าช้างนิ่งไปพักหนึ่งก่อนเอ่ย “เธอรู้ตัวมั้ย เธอกำลังใช้รายการเป็นกระบอกเสียงทำร้ายคนอื่นนะ”
ไลลาเริ่มโกรธแต่พยายามข่ม
“ขอให้เธอหยุดพฤติกรรมทั้งหมดตั้งแต่วันนี้ ไม่มีคำว่า “แล้วแต่” แล้วนะ เธอต้องทำ”

ป๋าช้างทำหน้าเหมือนจำใจที่ต้องพูดขู่ ไลลามองจ้องอย่างเคืองๆ

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 8 (ต่อ)

ที่ห้องโถงของช่อง STAR STATION กำลังมีงานแถลงข่าวเปิดตัวช่อง นักข่าวทุกสำนักมาออกันอยู่เต็ม
 
นักข่าวหญิง 2 คนนั่งอยู่กับพื้น หนึ่งในนั้นกำลังอ่านข้อความในมือถือ ซึ่งเป็นข้อความใน Instagram ของไลลา ที่เขียนว่า “คุณจะรู้สึกยังไง ? เมื่อวันหนึ่งรู้ว่ามีพ่อคนเดียวกับเพื่อน !!! ”
“ดูคุณไลลาเขาโพสต์ไอจีสิจ๊ะ “คุณจะรู้สึกยังไง เมื่อวันหนึ่งรู้ว่ามีพ่อคนเดียวกับเพื่อน” หมายความว่าไงวะ”
“โอย อย่าไปสนใจเลย คนมันดัง นึกบ้าอะไรได้ มันก็โพสต์”
“แหม เราต้องยึดเค้าเป็นไอดอลสิยะ เข้าวงการมาหลังพวกเราอีก เดี๋ยวนี้กลายเป็นดารา จากนางสาวอุไรกลายเป็นคุณไลลา ฮ่าๆๆ”
อีกคนพูดแขวะ “ก็ดังมาได้เพราะเกาะเพื่อนนั่นแหละว้า ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนนางฟ้าก็คงเป็นหมาต่อไป”
“ แต่ก็ต้องยอมรับว่าวินาทีนี้เธอมาอันดับหนึ่ง ก็ยุคใครก็ยุคมันล่ะนะ สมัยยัยนัตตี้อู้ฟู่ เดือนนึงรับงานอีเว้นต์ซะ 40 งาน เดี๋ยวนี้เป็นไง ไปขายสบู่ขายครีม”
พลันเสียงนัตตี้ก็แทรกขึ้นมาทันที “แล้วฉันไปขายบนหัวกบาลพวกแกเหรอ”
2 นักข่าวหันไปเห็นนัตตี้ถือกระเป๋าหรูยืนอยู่ก็ตกใจ ยกมือไหว้แล้วรีบเดินหลีกไป นัตตี้ด่าตามหลัง
“ทุกวันนี้ฉันก็ยังดังอยู่ รู้ไว้ซะด้วย นังไลลาน่ะ มันแค่กระแสโว้ย เดี๋ยวก็ร่วง”
นัตตี้โมโหแล้วหันเดินต่อไป

งานแถลงข่าวเริ่มขึ้นแล้ว บนเวที เห็นนิรันดร์ ผู้บริหารช่อง กำลังยืนพรีเซ้นต์อยู่หน้าจอขนาดยักษ์
“ผมอยากให้ผู้ชมได้มีทางเลือกใหม่ที่มีคุณภาพและแตกต่างจากเดิมๆ ในบรรดาสถานีที่เกิดขึ้นมามากมายนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะเราเชื่อมั่นว่าช่องเราทิ้งห่างแน่นอน ผมจึงขอพูดเลยว่า เป้าหมายของช่องสตาร์สเตชั่นก็คือการล้มยักษ์ และยักษ์ที่ว่านี้ก็คือ เดอะซัน”
นิรันดร์กำหมัดชูขึ้น เหล่าผู้ร่วมงานลุกขึ้นปรบมือ นักข่าวถ่ายรูปกันรัว แสงแฟลชวูบวาบไปทั้งงาน

หลังงานแถลงข่าวเสร็จสิ้น ที่แบ็คดรอปเห็นเหล่าช่างภาพรัวแฟลชถ่ายรูปอาทิตย์กับอัปสรสวรรค์ที่กำลังมอบดอกไม้ให้แก่นิรันดร์
“คุณแม่ฝากมาแสดงความยินดีด้วยนะครับ”
นิรันดร์ยิ้มรับ “ขอบคุณครับ แล้วคิดจะมีน้องรึยังครับ”
อาทิตย์มองหน้าอัปสรสวรรค์เจื่อนๆ “ยัง ไม่ได้แต่งกันครับ”
นิรันดร์หัวเราะขำ “อ้อ ขอโทษทีครับ ผมนึกว่าเรื่องธรรมดา” พูดพลางส่งสายตาเจ้าชู้ไปถึงอัปสรสวรรค์ ที่ยืนยิ้มแหยๆ
“แล้วคุณนางฟ้า จะมีละครเรื่องใหม่ไหมครับ”
ยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากตอบ อาทิตย์ก็ชิงตอบแทน
“กำลังถ่ายเรื่องใหม่อยู่ครับ”
“อ๋อ ว่างเมื่อไหร่ ก็ขอเชิญมาร่วมงานกับช่องเราบ้างนะครับ”
นิรันดร์ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินจากไป อาทิตย์มองตามอย่างขัดใจ
“พูดมาได้ ใครจะไปทำกับมัน”
อัปสรสวรรค์ยิ้มน้อยๆ “ก็ไม่แน่หรอกค่ะ”
“อ้าว ทำไมพูดงั้นล่ะคุณ”
“ถ้าช่องเรายังมีคนคอยปัดแข้งปัดขากันเองอยู่อย่างนี้ สักวันฉันคงทนไม่ได้”
“เรื่องคนปัดแข้งปัดขา หรือเรื่องแฟนแอบนอกใจกันแน่” อาทิตย์ย้อนถามกลับ
ได้ผล อัปสรสวรรค์ตาขวางทันที
“ก็มันเป็นช่องเจ้าปัญหา เพราะมีแต่คนเจ้าปัญหา”
“คนไม่มีปัญหาก็มี คุณไม่สนใจเอง”
ซุปตาร์สาวนึกรำคาญ เลยเดินเลี่ยงไปที่อื่น อาทิตย์ยิ้ม แล้วรีบเดินตาม

กองทัพนักข่าวเห็นอัปสรสวรรค์เดินมาก็กรูกันเข้าไปจ่อไมค์ถามทันที
“น้องนางฟ้าคะ เรื่องที่คุณแม่ไปบุกตบคุณแม่ของนักข่าวชื่อดัง เรื่องเป็นยังไงกันแน่คะ”
อัปสรสวรรค์พยายามข่มอารมณ์ “ฟ้าขอไม่พูดถึงนะคะ เพราะเป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่น่ะค่ะ”
“แล้วที่ว่าเป็นเรื่องชู้สาวนี่จริงมั้ยคะ แม่ของนักข่าวคนนั้นเป็นภรรยาน้อยของคุณพ่อน้องนางฟ้า รึเปล่าคะ”
ซุปตาร์สาวเกินจะข่มอารมณ์ หันไปกระชากคอนักข่าวทันที ก่อนจะจ้องตายิ้มๆ
“อยากรู้มากนักใช่มั้ยคะ “
นักข่าวหน้าซีด
“เรื่องพ่อแม่ตัวเองรู้ดีรึยังคะ ถึงได้มาสอดบ้านคนอื่น”
นักข่าวอีกคนรีบขัดขึ้นมา “นี่พวกเราทำตามหน้าที่นะคะ”
อัปสรสวรรค์ย้อนกลับ “หน้าที่อะไร คิดเองเออเองแล้วก็เอามาจี้ๆๆ ให้เค้ายอมรับ”
“หยุดคุกคามสื่อนะคะ”
ซุปตาร์สาวหัวเราะหึๆ “ท่องมารึเปล่าคะประโยคนี้”
อาทิตย์เห็นท่าไม่ดีก็เข้าไปช่วย
“พอก่อนนะครับพี่ๆ ตอนนี้นางฟ้ายังไม่พร้อมจะตอบอะไรนะครับ พอแล้วคุณ”
อัปสรสวรรค์ผลักนักข่าว แล้วเดินออกไปอย่างโกรธจัด อาทิตย์ผงกหัวให้นักข่าวเป็นเชิงขอโทษ แล้วรีบตามไป
นักข่าวพากันสุมหัวซุบซิบนินทา
“นี่ไงธาตุแท้ของมัน”

“อีแม่มด”

ปราณอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องอัด กำลังเปิด MV โจ & จิ๋วใน Youtube
 
พร้อมกับกดพิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็น
“เกลียดนักร้องหญิง ร้องเต้นแย่ อยากให้พี่โจออกเพลงคนเดียว”
จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลัง “นายปราณ”
ปราณสะดุ้งรีบปิดจอคอมพ์แล้วหันไปดู
“อ้าว มีอะไรให้รับใช้ครับคุณไลลา”
ไลลาเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ข้างๆ
“ฉันถามก่อนดีกว่าว่า ค่าจ้างนายคืออะไร”
ปราณยิ้มที่ไลลารู้ทัน “มาช้าไปนิด นัตตี้เพิ่งเข้าไปเซ็นสัญญาที่สตาร์สเตชั่นเมื่อเช้า เป็นนักข่าวอันดับหนึ่งของเค้าไปแล้ว เธอเข้าไปตอนนี้ก็ต้องเป็นลูกน้องนัตตี้อะนะ”
ไลลาอึ้ง ก่อนจะถอนใจเซ็งๆ
“งั้นขอบใจ ฉันไม่ต้องการ”
จังหวะกำลังจะหันออกไป ปราณก็โพล่งขึ้น
“เดี๋ยว มันยังพอมีทางอยู่ ถ้าเธอทำอะไรให้เค้า ก็น่าจะต่อรองได้”
ไลลาหันขวับกลับมามองหน้าปราณทันที

เรด้าเดินหันรีหันขวางเข้ามาในบริษัทเหมือนกำลังหลบใครอยู่ แล้วก็เดินมาชนเข้ากับอาทิตย์ จนเอกสารร่วงเต็มพื้น
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ ตายๆๆ ขอโทษทีค่ะ”
อาทิตย์ยิ้มรับ “ไม่เป็นไรครับๆ”
เรด้ารีบก้มเก็บเอกสาร ก่อนจะเห็นซองสีน้ำตาล ที่หน้าซองมีภาษาเกาหลี และคำว่า “ ซีรี่ย์ Super Dancer”
ขณะจะเอื้อมไปหยิบ แต่ยังช้ากว่าอาทิตย์ ที่รีบคว้ามา ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกขึ้นยืน
“คุณอาทิตย์ กลับแล้วหรือคะ”
“นัดเพื่อนไว้ที่ผับแถวเอกมัยน่ะครับ ไปด้วยกันมั้ยครับ”
“อยากนะ แต่ไม่แสดงออก ไปไม่ได้ค่ะ งานเพียบเลย”
เรด้าพูดพลางสังเกตเห็นอาทิตย์เช็คเอกสารในซองสีน้ำตาลอย่างระวัง
“นั่น บทละครเรื่องใหม่หรือคะ”
“อ๋อ เปล่าครับ ไปก่อนนะครับ”
อาทิตย์โบกมือยิ้มๆ แล้วเดินจากไป เรด้ายืนมองอย่างงงๆ

พอเรด้าเดินเข้ามาในห้องทำงานปั๊บ เสียงเครื่องแฟ็กซ์ใกล้ๆ ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นเอกสารแผ่นหนึ่งไหลออกมา ก็รีบเดินไปหยิบมาดู
ที่กระดาษ มีรูปเรด้าพร้อมข้อความ “ผู้หญิงคนนี้ไม่ชำระหนี้บัตรเครดิตเป็นเงินสองแสนบาท”
“ว้าย มันตามมาถึงนี่แล้ว”
เรด้ารีบฉีกๆๆ เอกสารเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ถังขยะ เสียงแฟ็กซ์เครื่องอื่นดังตามขึ้นมาอีก เอกสารไหลออกมาไม่หยุด เรด้าตกใจวิ่งไปดู ก็เป็นเอกสารประจานหนี้เช่นกัน
“ตายๆๆ”
จากนั้นก็วิ่งวุ่นตามเก็บจนขาขวิด
กรณ์เดินถือเอกสารประจานออกมาจากมุมโต๊ะส่วนตัว เรด้ารีบวิ่งไปหลบข้างโต๊ะ
“อ้าว เฮ้ย นักข่าวไฮโซ รูดอะไรนักหนาล่ะเนี่ย”
พวกทีมงานที่อยู่ด้านนอกกรูกันเข้ามาดู เรด้าที่หลบอยู่หน้าเสีย

ไลลากำลังเซิร์ชหาข้อมูลบางอย่างในโน้ตบุ๊ก เรด้าค่อยๆ เดินย่องเข้ามาด้านหลัง
“น้องไล”
ฝ่ายถูกเรียกสะดุ้งโหยง ตกใจร้องกรี๊ดเสียงดัง ก่อนจะหันไปเห็นหน้าเรด้า
“โห่พี่ ย่องเข้ามาได้”
พูดจบก็รีบพับหน้าจอโน้ตบุ๊กลง เรด้าอ้ำๆ อึ้งๆ ก่อนเอ่ย
“เอ่อ น้องไลพอจะมีเงินเหลือให้พี่ยืมซักนิดนึงมั้ย”
ไลลาหยิบกระเป๋ามาทันทีโดยไม่คิด “โธ่ แค่นี้เอง เอาเท่าไหร่พี่”
“ 2 แสน”
ไลลาตกใจ “หา บ้าแล้ว จะเอาไปดาวน์รถรึไง”
เรด้าหน้าเจื่อน “พี่เป็นหนี้บัตรเครดิต มันโทร มาขู่หลายวันแล้ว บอกไม่ใช้ภายใน 2 วันนี้ จะเอาพี่ถึงตาย”
“ โห พี่ ไลก็ต้องผ่อนอะไรตั้งหลายอย่าง”
“พูดงี้แสดงว่ามี นะน้องไล คบกันมา ไม่เคยยืมเลย พี่ก็ไม่รู้จะบากหน้าไปหาใครแล้ว เพื่อนฝูงก็ไม่มี ถ้าไม่ช่วยพี่พี่ตายแน่”
ไลลานิ่งคิด เรด้าอ้อนต่อ
“ช่วยพี่ซักครั้ง แล้วจะให้ทำอะไร พี่ทำทั้งนั้น จะให้เป็นหมาเป็นแมว ก็ชี้เอาเลย”
ไลลาคิดอะไรขึ้นมาได้ “อืม พี่พอรู้เรื่องที่ช่องเราจะประมูลซีรี่ย์เกาหลีมั้ย”
“อ๋อ..ก็พอรู้นิดหน่อย ทำไมอ่ะ”
ไลลาไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม “ช่องเรายื่นประมูลไปที่ราคาเท่าไหร่พี่รู้ปะ”
“โอ๊ย เรื่องนี้ลับมาก มีแต่มาดามมั้งที่รู้ ขนาดชื่อเรื่องอะไรพี่ยังไม่รู้เลย”
“เรื่อง Super Dancer”
“Super Dancer ...งั้นเหรอ”
เรด้านึกถึงเมื่อตอนเจออาทิตย์ที่หน้าตึก แล้วเห็นเอกสาร“Super Dancer” ร่วงลงพื้น
“ถ้าพี่หาตัวเลขมาได้ ฉันให้ยืม”

เรด้าทำตาโต

อาทิตย์กำลังเดินออกมาจากผับ ก็ชนเข้ากับไลลาที่อยู่ในสภาพแกล้งเมา
 
“ขอโทษครับ อ้าว ไล”
ไลลาแกล้งพูดเสียงอ้อแอ้ “อ้าว คุณอาทิตย์ หวัดดีค่ะ”
“คุณมาทำอะไรเนี่ย”
“ช่วงนี้เรื่องมันเยอะ ชีวิตมันเศร้า ขอเมาให้ลืมโลกซักพักค่ะ”
อาทิตย์หันไปมองรอบๆ “ เดี๋ยวใครเห็นจะดูไม่ดีนะ แล้วนี่จะกลับรึยัง”
ไลลาพยักหน้าหงึกๆ
“งั้นไป กลับพร้อมผมเลย”
อาทิตย์จับแขนไลลาแล้วพาออกไป

ทั้งสองนั่งรถมาด้วยกันจนถึงทางเปลี่ยว ไลลาทำท่าเหมือนจะอาเจียน
“คุณอาทิตย์ช่วยจอดหน่อยค่ะ ไลไม่ไหวแล้วค่ะ จะออกแล้ว”
อาทิตย์หันไปมองด้านหลังรถ ก็ไม่มีอะไรจะให้ไลลาอาเจียน
“ได้ๆ แป๊บนะครับ”
เขารีบหักรถข้าข้างทาง “จอดแล้วครับ”
“ลุกไม่ไหวอะค่ะ คุณอาทิตย์พาไลไปหน่อยค่ะ”
อาทิตย์รีบลงจากรถ อ้อมไปด้านข้างคนขับ แล้วพยุงไลลาออกไปที่โคนต้นไม้
“ต้นโน้นดีกว่าค่ะ ต้นนี้หญ้าเยอะ ไลกลัวงู”
เขารีบพยุงพาเธอเดินไปต้นไม้ที่ไกลไปอีกนิด ไลลาคุกเข่าลงทำเป็นจะอาเจียน
เรด้าที่ใส่หมวกไหมพรมปิดหน้าตา ค่อยๆ ย่องไปเปิดประตูรถด้านหลัง แล้วรื้อเอกสารที่เบาะหลัง จนเจอซองเอกสารสีน้ำตาล ก่อนจะรีบชักเอกสารด้านในออกมา แล้วรีบใช้มือถือถ่ายรูปอย่างไวที่สุด
อาทิตย์พยุงไลลากลับมาที่รถ เรด้าใช้จังหวะที่เขาปิดประตูให้ไลลา ปิดประตูด้านตัวเองไปด้วย เพื่อกลบเสียง
อาทิตย์ขึ้นรถแล้วขับออกไป
เรด้านอนหอบอยู่ในพงหญ้า หน้าตาอกสั่นขวัญแขวน ก่อนจะเอามือถือมากอดแนบอก แล้วยิ้มทั้งที่ยังหอบอยู่

ทางด้านอัปสรสวรรค์ก็กำลังยืนคุยมือถือกับแม่อยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม
“สตาร์ สเตชั่นเหรอแม่”
“ใช่ๆ เค้าโทร มาถามแม่ว่า ถ้าปีนี้แกหมดสัญญาแล้วสนใจจะย้ายช่องมั้ย เค้าเสนอจะให้มากกว่าที่นี่เยอะเลย แม่ก็บอกเขาไปว่าแม่น่ะสนใจ แต่ขอถามแกก่อน”
“โธ่ แม่ ฟ้าไม่ย้ายหรอกค่ะ แม่ตอบไปอย่างนั้น คุณป้ารู้จะว่ายังไง”
เดือนเด่นยิ้มหยัน “ก็ช่างเค้าสิ ในเมื่อเค้ายังจะให้นังไลลาอยู่ต่อไป เราก็ไม่เห็นต้องแคร์”
“แล้วทำไมเราต้องหนีเค้าด้วยล่ะคะ” อัปสรสวรรค์ย้อนถาม
“ไม่ได้หนี แค่ไม่อยากให้แกทำงานที่เดียวกับมัน อยู่ที่นี่ต่อไปมีหวังได้ตะบันหน้ากันซักวัน”
ซุปตาร์สาวถอนหายใจ “โธ่ แม่ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวสิคะ ตอนนี้คนยิ่งด่าไลว่าเป็นพวกไม่รู้คุณคน แล้วนี่คุณป้าก็ปั้นฟ้าขึ้นมาจนดัง อยู่ๆ จะมาทิ้งแก คนเขาไม่มองฟ้าเป็นแบบนั้นไปด้วยหรือคะ”
“ก็แกนั่นแหละ ไม่น่าไปขอเขาไว้เลยตั้งแต่แรก เป็นไงล่ะ เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ก้างมันยังมาทิ่มแทงคออยู่ทุกวัน”
เดือนเด่นยิ่งพูด ก็ยิ่งอารมณ์เสีย

ที่ห้องซ้อมเต้น จริยากำลังพูดหน้ากล้องให้ปกรณ์ถ่ายเพื่อทำสกู๊ป
“เป็นไงบ้างคะ ไลฟ์สไตล์ของจิ๋ว แล้วของคุณล่ะเป็นยังไง ยังไงสุดท้ายก็ขอฝากผลงานของจิ๋วด้วยนะคะ”
“คัท”
พอตากล้องหนุ่มสั่งคัท จริยาก็รีบเดินไปหา
“ภาพไหนน่าเกลียด ตัดออกไปเลยนะ”
“แหม รักษาภาพสุดๆ แม่นักร้องซุปตาร์”
จริยายิ้มเขินๆ “งานถ่ายภาพเยอะปะช่วงนี้”
“อืม ก็โอเค”
นักร้องสาวแอบเหล่มอง ก่อนจะเลียบๆ เคียงๆ จะถามเรื่องไลลา
“คิดถึงเจ้ไลเนอะ เมื่อก่อนถ้าแกมา เจ้ไลก็ต้องมา เป็นนักข่าวดูโอ”
“เค้าดังไปแล้ว”
“เมื่อคืนฉันฝันไม่ดีเลยว่ะ ฝันว่าเจ้ไลหัวขาด”
ตากล้องหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ “กินมากฝันมาก”
“บ้าสิ เออ แล้วนี่เจอเจ้ฟ้ามั่งป่าว”
ปกรณ์ก้มหน้าเช็ดกล้องไม่ยอมตอบ จนอีกฝ่ายต้องถามย้ำ
“เฮ้ย เจอเจ้ฟ้ามั่งป่าว”
“ไม่อ่ะ”
“เฮ้ย แฟนกัน เค้าต้องโทร หากันทุกวันสิ”
ปกรณ์หน้าเจื่อน “แฟนบ้าอะไรล่ะ เลิกพูดซะทีเหอะ ปากว่างก็ไปร้องเพลงไป”
พูดจบก็รีบลุกเดินหนีไปเลย
“อีเป๋าปากหมา”
จริยาด่าไล่หลัง แต่แล้วก็แอบอมยิ้มน่ารัก พอมีหวัง

ราศีตบโต๊ะเสียงดังอย่างเสียอารมณ์
“เป็นไปได้ยังไง ทำไมสตาร์สเตชั่นถึงได้ลิขสิทธิ์ไปฉาย”
อาทิตย์รีบอธิบาย “ทางเกาหลีบอกว่าราคาเฉือนกันนิดเดียวเองครับ”
“นิดเดียว ? อย่างนี้ก็แสดงว่าทางนั้นรู้ราคาของเรา”
อาทิตย์กอดอกครุ่นคิด ราศีพูดต่อ
“เป็นไปได้ยังไง คนที่รู้ราคาในซองก็มีแต่แกกับฉันแค่นั้น .แกไปเผลอวางซองข้อมูลไว้แถวไหนรึเปล่า”
“ผมก็เซฟอย่างดีที่สุดแล้วนะครับ”
ราศีส่ายหัว “ซีรี่ย์ชุดนี้แหละจะทำให้สตาร์สเตชั่นดังขึ้นอีกเยอะ เฮ้อ เป็นทีของเขานะ”

อาทิตย์พยายามนึกว่าความลับจะหลุดไปทางไหนได้ พลันก็เหมือนนึกอะไรออก

บ๊วยและทีมงานกำลังยืนกินโดนัทที่เรด้าซื้อมาเลี้ยง พนักงานชายคนหนึ่งถามยิ้มๆ
 
“ได้ข่าวเมื่อวานแฟ็กซ์ทวงหนี้ร่อนมาให้ฟุ้ง ทำไมวันนี้มีตังค์เลี้ยงขนมพวกเราล่ะพี่”
เรด้ารีบแก้ตัว “โอย อีเจ้าหนี้มันจำชื่อผิด ยัยคนที่ติดหนี้มันชื่อเรยา ดันส่งมาทวงฉันได้”
บ๊วยทำท่า “นึก เอ๊ะ เรด้าใช่มั้ยที่เคยพูดว่า ไอ้พวกที่อยู่ๆ ก็มีตังค์ซื้อขนมมาแจกเพื่อน ทั้งที่ไม่เคยทำ แสดงว่ามันเพิ่งได้เงินมาโดยมิชอบ”
เรด้าแทบจะสำลักโดนัท “ เออ ทำไมวะอีบ๊วย”
“เปล่า นึกถึงนัตตี้ ที่ทำแบบนี้ตอนขโมยข่าวไปขายได้ไง”
เรด้าทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน “อ๋อ เออ ใช่ๆ เลวเนอะ”
จังหวะนั้น กรณ์ก็เดินหน้าเครียดเข้ามา บ๊วยหันไปเห็น ก็พูดทัก
“เอ้า พี่กรณ์ มากินโดนัทด้วยกันสิคะ”
กรณ์ส่ายหัว “ เรด้า มาดามเชิญหน่อย”
เรด้าสะดุ้ง โดนัทในมือร่วงพื้นทันที

อัปสรสวรรค์นั่งอยู่ในรถตู้กับปูเปรี้ยว สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
“พี่ปูเปรี้ยวคะ ไอ้การที่เป็นดาราแล้วมีแฟนอยู่นอกวงการเนี่ย มันยากมากมั้ยคะ”
ปูเปรี้ยวแปลกใจกับคำถามนิดหนึ่งก่อนตอบ
“เอ่อ ไม่ยากค่ะ ถ้าเป็นคนในแวดวงไฮโซ คนมียศ เป็นข่าวได้ เกื้อกูลกันและกัน พี่ปูเปรี้ยวดูแลดารามาเยอะ ส่วนมากจะมีผัว อุ๊ย ขอโทษค่ะ มีแฟนกันมาตั้งแต่เข้าวงการทั้งนั้นแหละค่ะ พอมาเป็นดารา ก็เจอทั้งผู้ใหญ่กีดกัน ทั้งสังคม ทั้งสายงาน คบกันหลบๆ ซ่อนๆ บ้าง ก็ถูกบังคับให้ออกข่าวว่าคบกับดาราด้วยกัน สุดท้ายไอ้แฟนเก่ามันก็ทนไม่ได้ หาผู้หญิงใหม่สบายกว่า ถามทำไมหรือคะ ?”
อัปสรสวรรค์นิ่งฟัง ทว่าไม่ตอบคำถาม จังหวะนั้นมือถือปูเปรี้ยวก็ดังขึ้น
“อุ๊ย ! มาดาม” จากนั้นก็รีบกดรับ “คะ ?”
พอได้ยินปลายสาย ก็ทำหน้าตกใจ รีบบอกคนขับ
“ตามิตร วกรถกลับก่อน” ก่อนที่จะหันมาบอกอัปสรสวรรค์ “มาดามให้กลับด่วนค่ะ มีเรื่อง”
ซุปตาร์สาวหันมามองหน้าปูเปรี้ยวอย่างแปลกใจ

ไลลามาถึงสตูดิโอก็เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ทำผมตามปกติ แล้วหันไปสั่งช่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่ใกล้ๆ
“ทำผมได้เลยค่ะพี่”
ช่างทำผมทำเป็นไม่เห็น ลุกเดินไปที่อื่น
“ทะเลาะกับแฟนอยู่หรือคะ เรียกไม่ได้ยินเลย”
พอช่างแต่งหน้าเดินผ่านมา เธอก็รีบบอก
“พี่อ๋อย แต่งหน้าก่อนได้เลยนะคะ”
ช่างแต่งหน้าก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป ไลลาเริ่มเห็นผิดสังเกต ก็ลุกขึ้น ยื่นมือไปจับแขน
“เฮ้ย พวกพี่เป็นอะไรกันน่ะ ใครทำอะไรพี่ บอกไลซิ”
ช่างแต่งหน้ายืนก้มหน้าไม่พูดไม่จา
“แล้วพี่เรด้าล่ะไปไหน ป่านนี้ทำไมยังไม่ได้สคริปต์”
ช่างแต่งหน้ารีบวิ่งหนีไป ไลลามองตามอย่างโมโห

ไลลาเดินเข้าไปในสตูดิโอ เห็นทีมงานในสตูกำลังเตรียมถ่ายรายการกันเหมือนเป็นปกติธรรมดา
แต่ที่ไม่ปกติคือที่ฉากบลูสกรีน มีพิธีกรซึ่งเป็นดาราหน้าใหม่กำลังนั่งอ่านบทอยู่
“สวัสดีค่ะ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งแปลกใจไป ถูกแล้วค่ะ นี่คือรายการ I Love Gossip รูปแบบใหม่ มาเจอ
ออมวันนี้เป็นวันแรก ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ กิ๊วๆ”
กรณ์ยืนยิ้ม ลุ้นพิธีกรใหม่ ไลลาแปลกใจเดินเข้าไปหา
“นี่มันอะไรคะพี่กรณ์”
กรณ์หันไปตอบ ด้วยสีหน้าสะใจ “อะไรล่ะ ก็เห็นอยู่ว่าซ้อมอ่านสคริปต์”
“สคริปต์อะไร แล้วน้องคนนี้จะมาแทรกช่วงไหน ยังไง ไลไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ไม่แทรกหรอก นี่พิธีกรคนใหม่”
พูดจบ ก็รีบเดินไปประคบประหงมพิธีกรใหม่ ไลลาตกใจจนพูดไม่ออก พลางพยายามมองหาเรด้า
“พี่เรด้าอยู่ไหนคะ”
ทีมงานไม่มีใครตอบ
“ฟังภาษาคนออกมั้ย ฉันถามพวกแกว่าพี่เรด้าอยู่ไหน”
เงียบ...ไม่มีใครตอบคำถามนั้น ไลลาฉุน รีบเดินออกไปทันที กรณ์มองตาม แล้วยิ้มเย้ย

ไลลาเดินบึ่งมาถึงหน้าห้องราศี บ๊วยที่นั่งอยู่ หันมาเห็นก็หน้าเสีย
“มาดามอยู่มั้ยบ๊วย”
“เอ่อ มาดามประชุมอยู่จ้ะ”
ไลลาทำท่าจะเข้าไปในห้องทันที บ๊วยรีบขวาง
“ยังเข้าไปไม่ได้นะ”
“เรื่องอะไรของแกด้วย”
ไลลาตะคอกเสียงดัง ก่อนจะผลักบ๊วยล้มหน้าคว่ำ แล้วผลักประตูห้องราศีเข้าไป ภาพที่เห็นตรงหน้ายิ่งทำให้ตกใจมากกว่าเดิม
ราศี อัปสรสวรรค์ อาทิตย์ ป๋าช้าง ล้อมรอบเรด้า ทั้งหมดหันมามองเธอเป็นตาเดียว
เรด้าเหมือนกำลังร้องไห้อยู่
“น้องไล”
ไลลายืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ราศีพูดขึ้นมาโดยไม่มองหน้า
“ฉันมันผิดเอง ที่ดันทุรังเลี้ยงงูจงอางไว้ในบ้าน หนูฟ้า มีอะไรจะคุยกับเพื่อนอีกมั้ย”
อัปสรสวรรค์ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้วค่ะ คนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่สำนึก ก็คือคนที่มีความชั่วเป็นสันดาน ไม่ควรจะให้อภัย”
ราศีพูดต่อ “เรด้า โชคดีที่เป็นความผิดครั้งแรก ฉันจะคาดโทษไว้”
เรด้ารีบยกมือไหว้ “ขอบคุณค่ะมาดาม”
“คุณช้าง ทำเรื่องออกให้ไลลาด้วย”
เรด้าอ้าปากหวอ ป๋าช้างยกมือปิดตาตัวเอง ไลลามองราศีอย่างแค้น ทว่าไม่สะทกสะท้าน
อาทิตย์อ้าปากจะท้วง “คุณแม่ครับ ผมว่า....”
ราศียกมือห้าม “พอแล้ว รอบนี้ฉันขอ”
อาทิตย์หน้าสลด อัปสรสวรรค์หันไปมองหน้าไลลา ทั้งสองจ้องตากันด้วยความแค้น

อีกมุมหนึ่งจริยากับปกรณ์ากำลังเร่งฝีเท้าเดินเข้ามา หวังจะตามไปคุยกับไลลาเรื่องที่โดนไล่ออก
“ให้ออกเลยหรือวะเป๋า”
ปกรณ์พยักหน้า “ฉันก็เพิ่งรู้เนี่ย”
“เจ้นะเจ้”

ไลลาเดินมาตามทาง อาทิตย์รีบเดินตามมา
“เดี๋ยวก่อนครับ”
ฝ่ายแรกหันกลับไปมองหน้า
“ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่เรื่องของคุณ มันเกินที่ผมจะช่วยได้”
“ไลเข้าใจค่ะ”
“คุณหยุดไปพักผ่อนซักพักนะ ผมรับปากว่า ไม่นานจะช่วยให้คุณได้กลับมา”
ไลลามองหน้าอาทิตย์นิ่ง

จริยากับปกรณ์เดินมา เห็นทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่ไกลๆ อีกมุมหนึ่ง ด้านหลังอาทิตย์ อัปสรสวรรค์เดินออกมา
ไลลามองหน้าอาทิตย์ น้ำตาไหลมาคลอเบ้า
“ไล...รักคุณค่ะ”
ขาดคำก็โผเข้ากอดและจูบอาทิตย์ทันที

จริยากับปกรณ์เห็นภาพนั้นก็อึ้ง อัปสรสวรรค์ก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน
อาทิตย์หันมาเห็นอัปสรสวรรค์ ก็รีบดันอีกฝ่ายออก ไลลาหันไปเห็นซุปตาร์สาวยืนอยู่ ก็เบ้ปากใส่ ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
ทุกคนต่างอึ้งพูดไม่ออก อาทิตย์ยืนมองอัปสรสวรรค์นิ่ง แต่อีกฝ่ายสะบัดหน้าเดินแยกออกไป

ปกรณ์มองตามอัปสรสวรรค์ ส่วนจริยาก็แอบมองปกรณ์


จบตอนที่ 8
 
กำลังโหลดความคิดเห็น