xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 6

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 6

รถหรูของอาทิตย์แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้าน อัปสรสวรรค์กำลังจะเปิดประตูลงไป แต่ก็คิดว่าน่าจะขอบคุณเขาสักนิด
 
“ขอบคุณนะคะ”
พูดจบก็เปิดประตูรถลงไป อาทิตย์ยิ้มรับ แล้วรีบลงจากรถอ้อมไปหา
“ถ้าอาการไม่ค่อยดีอีก โทร.หาผมเลยนะ”
“ฉันไปหาหมอเองได้ ส่งแค่นี้พอแล้ว”
ขาดคำก็เดินจะเข้าบ้าน แต่แล้วเธอก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาอีก อาทิตย์รีบเดินเข้าไปประคองแขน
แต่แล้วจู่ๆ ปกรณ์ก็เดินเข้ามาผลักอกเขาจนเซ
“แกพาฟ้าไปไหนมา”
อาทิตย์มองหน้าปกรณ์อย่างโกรธจัด อัปสรสวรรค์ตกใ จรีบเข้าไปรั้งแขนเพื่อน
“เป๋า ฉันไม่สบาย คุณอาทิตย์เค้า....”
อาทิตย์รีบแทรกขึ้นมาทันที “แล้วมันเรื่องอะไรของคุณ”
“เรื่องอะไรเหรอ”
ปกรณ์ตะคอกกลับอย่างโมโห ก่อนจะเข้าไปต่อยอาทิตย์ อัปสรสวรรค์ที่เข้าไปรั้งไว้ โดนตากล้องหนุ่มชนล้มลง ฝ่ายหลังรีบเข้าไปประคอง
“ฟ้า เป็นไรมั้ย”
ทันใดนั้น เสียงเดือนเด่นก็ลั่นมา
“หยุดนะ”
อาทิตย์กับปกรณ์หันไปเห็นเดือนเด่น ก็สงบลงทั้งคู่
“นี่มาทำอะไรกัน”
อาทิตย์กำลังจะอธิบาย “ผมขอโทษครับคุณอา คือผม...”
“ไม่ต้องพูดอะไรตาทิตย์ อาเห็นแล้ว เราไม่ได้เป็นคนเริ่ม นายเป๋าเข้าไปหาเรื่องเธอก่อน”
ตากล้องหนุ่มหน้าเจื่อน “ผมขอโทษครับ”
เดือนเด่นทำหน้าเอือม “โกรธแค้นกันมาจากไหน แล้วทำไมต้องใช้กำลังกันด้วย”
“เอ่อ คุณอาครับ ผมกับเค้าไม่มีอะไรกันหรอกครับ แค่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย”
เดือนเด่นไม่เชื่อ ตวัดสายตาตำหนิไปที่ปกรณ์ ก่อนจะหันมาหวานใส่อาทิตย์
“ขอบใจมากนะตาทิตย์ที่พายัยฟ้าไปหาหมอ ปูเปรี้ยวเค้าโทร. มาบอก ก็เป็นห่วงแทบแย่ พอรู้ว่าไปกับเธอ ค่อยสบายใจหน่อย เข้าไปพักก่อนมั้ย”
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ”
“ไม่เข้าจริงๆ นะ กาแฟบ้านอาอร่อยนะ”
อาทิตย์ยิ้ม ส่ายหน้าเบาๆ
เดือนเด่นหันไปจิกตาใส่ปกรณ์อีก “ส่วนเธอ อย่ามาทำตัวนักเลงที่หน้าบ้านฉันอีก บ้านฉันไม่ต้อนรับกุ๊ย ไปยัยฟ้าเข้าบ้าน”
“แม่”
อัปสรสวรรค์โดนแม่ลากตัวเข้าบ้าน ปกรณ์หน้าสลด หันหลังกลับจะเดินออกไป พอเห็นอาทิตย์ยืนมองอยู่ เขาก็จ้องหน้าหน้ากลับ ก่อนจะเดินออกไป
อาทิตย์มองตาม แล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ

ปกรณ์เดินเศร้าๆ มาตามลำพัง พลางนึกถึงภาพที่ใกล้ชิดกับอัปสรสวรรค์ตั้งแต่สนมัยเรียน จนมาถึงปัจจุบัน
ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า ก่อนจะแหกปากลั่น ระบายอารมณ์

ฟากอุไรวรรณก็นั่งรถแท็กซี่มากับเรด้า
“นี่รู้เรื่องนางฟ้าเป็นลมป่าว”
อุไรวรรณแกล้งทำไม่รู้ “ไม่เลยค่ะ ทำไมเหรอ”
“ก็อยู่ๆ ชีก็เป็นลมในห้องแต่งตัว พอดีคุณอาทิตย์เข้าไปเห็น ก็เลยพาไปโรงพยาบาล สงสัยจะรับงานเยอะเกิน”
คนฟังแอบยิ้มร้าย “คงงั้นมั้งคะ”
“คงรู้ตัวว่ากำลังจะตก เลยรีบโกยไว้ก่อน ไม่ดูกำลัง” เรด้าพูดพลางยื่นหน้าเข้ามาถามจริงจัง “แล้วนี่ พร้อมรึยัง”
อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างกลัวๆ
เรด้ามองไปหน้ารถ เห็นใกล้จะถึงจุดหมาย ก็รีบบอกแท็กซี่ “จอดข้างหน้าค่ะพี่”
อุไรวรรณตกใจ “ถึงแล้วเหรอ”

รถแท็กซี่แล่นไปจอดหน้าตึกแถวโทรมๆ แห่งหนึ่ง อุไรวรรณกับเรด้าพากันลงจากรถ
“ร้านนี้แหละ คลินิกในตำนาน”
อุไรวรรณเหลือบมองป้ายหน้าร้าน “บิ๊กตู้มคลินิก”

เธอถึงกับหน้าซีดเผือด

ปกรณ์นั่งเซ็งอยู่ที่ชิงช้าหน้าบ้าน สักพักเสียงมือถือก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดู เห็นเป็นสายจากอัปสรสวรรค์ ก็รีบกดรับ
 
“ไงฟ้า”
“เป๋า แกอย่าโกรธแม่ฉันเลยนะ แม่ก็เป็นงี้ เค้าก็มีตรรกะแปลกๆ ของเค้า”
“อืม ไม่โกรธหรอก ฟ้าล่ะเป็นไงมั่ง”
“วันนี้ฉันไม่สบายในกองถ่าย คุณอาทิตย์ เค้าก็เลย...”
คนฟังถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เรียกเปลี่ยนไป คนพูดดูเหมือนจะรู้ตัว
“เอ่อ อีตาเสี่ยนั่น ดันเค้าเข้าไปเจอพอดี ก็เลยพาไปโรงพยาบาล”
“แล้วคนอื่นล่ะ ไปไหนกันหมด”
“ก็คนอื่นเค้าถ่ายกันอยู่”
“แล้วทำไมมือถือฟ้าอยู่กับมัน”
ปกรณ์ซักต่อ อีกฝ่ายเริ่มโมโหที่โดนต้อน
“ก็ฉันเป็นลม เค้าคงรับแทน”
“แล้วมันตัดสาย...”.
อัปสรสวรรค์เริ่มไม่ไหวแล้ว “เป๋า นี่แกเป็นอะไร แกไม่ถามมั่งเหรอว่าฉันป่วยเป็นอะไร ฉันรู้ว่าแกเป็นห่วงนะ แต่มันเยอะไป”
ปกรณ์ถือสายนิ่ง ไม่ตอบอะไร
อัปสรสวรรค์หันไปเห็นเดือนเด่นเดินเข้ามาในห้อง ก็รีบตัดบท
“แค่นี้ก่อนนะ”
จากนั้นก็รีบวางสายทันที ปกรณ์ถอนหายใจเซ็งๆ พาลถีบอะไรแถวนั้น ระบายอารมณ์

เดือนเด่นเข้ามานั่งบนเตียง ก่อนจะคุยกับลูกสาว สีหน้าจริงจัง
“นี่ยัยฟ้า แม่ว่าแกห่างๆ นายเป๋านั่นไว้หน่อยดีกว่า กุ๊ยมาก เดี๋ยวจะพาลพาลูกเสียไปด้วย”
“แม่ก็เกินไป เป๋าเป็นเพื่อนฟ้า ฟ้ารู้จักเป๋าดี เรื่องเมื่อกี้ มันแค่เข้าใจผิดกันเฉยๆ เป๋าคงเป็นห่วงฟ้าน่ะค่ะ”
“ห่วงหรือหึง?” เดือนเด่นย้อนถาม
ฝ่ายลูกสาวตกใจ “หึง? เป๋าเป็นเพื่อนฟ้านะคะ”
“เพื่อนกันมันต้องขนาดนี้เลยเหรอ แม่ดูตามัน ก็รู้”
“เซ้นต์แม่ เชื่อไม่ได้หรอกค่ะ”
เดือนเด่นรีบพูดปราม “นี่ เตือนไว้ก่อนนะ ตอนนี้แกมีชื่อเสียงระดับประเทศ ใครๆ ก็อยากได้แกทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนที่คบกันมาหรอก แต่เชื่อแม่นะ มันไม่ได้รักตัวตนของแก แค่อยากมีแฟนเป็นดาราก็ เท่านั้นเอง ไม่เหมือนตาทิตย์ที่ศักดิ์ศรีพอๆ กับลูก เค้าน่าจะรักลูกที่ใจมากกว่า”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าเอือม “นี่แม่ไปกันใหญ่ล่ะ”
“ไม่รู้ล่ะ เตือนไว้ก่อน จะรักใครก็ต้องเลือกดูที่มันช่วยเสริมราศีบารมี ให้ดูดีไม่อายใครเค้า ไม่ใช่ แค่..........”
เดือนเด่นยังถูกไม่จบ อัปสรสวรรค์ก็แทรกขึ้นมา
“รักใครก็ต้องเลือกให้ดี ? แล้วไงคะ ความรักค่อยตามมาทีหลังเหรอ”
“เออสิ อยู่ๆไป เดี๋ยวก็รักกันเอง”
“พ่อกับแม่ก็ถูกบังคับให้แต่งงานกันไม่ใช่หรือคะ”
พอถูกลูกสาวย้อนกลับ คนเป็นแม่ถึงกับนิ่งเงียบ
“นี่เป็นตัวอย่างที่ดีได้รึยัง”
เดือนเด่นหน้าเจื่อน แต่ทำเสียงแว้ดใส่กลบเกลื่อน “มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ นี่ฉันมั่นใจว่าเค้าเหมาะสมกับแก”
“หนังเรื่องเดียวกันแหละค่ะ แต่เอามารีเมคใหม่ โดยผู้จัดชื่อเดือนเด่น เรื่องนี้ฟ้าขอตัดสินใจเอง
ซักเรื่องได้มั้ยคะ”
ขาดคำก็นอนห่มผ้าหันหลังให้แม่ทันที เดือนเด่นทำหน้าเซ็ง
“หึ้ย เด็กดื้อ”

อุไรวรรณนั่งอยู่ในคลินิก ที่มีสภาพทั้งเก่า ทั้งโทรม พลางนึกถึงคำแม่และยายหมอดู
“ก็ทำตัวให้มันสวยเหมือนฉันสิ ผู้ชายจะได้วิ่งเข้าหา ถ้าวันนั้นฉันไม่ทำนม แกก็ไม่ได้เรียนต่อหรอก”
“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง อยากให้คนมองโดยไม่ต้องใช้แรง ก็ต้องใช้นม”
เรด้าที่นั่งข้างๆ ตบหัวเข่าอุไรวรรณเบาๆ
“เลือกได้ยังอะทรงไหน ส้มจีนแดง แตงกวายาว มะนาวรุ่น องุ่นพวง รึว่าห่วงชูชีพ”
อุไรวรรณส่ายหน้า “ไม่รู้เลยอะพี่ กลัวเจ็บอย่างเดียวเนี่ย”
“โอ๊ย จะกลัวไปทำไม ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น เค้าว่าเจ็บนิดๆ ประมาณโดนสิบล้อทับแค่นั้นเอง”
อีกฝ่ายหน้าเสีย “ไม่เอาละพี่”
พูดพลางรีบลุกไปที่ประตู เรด้าวิ่งเข้าไปขวางไว้
“อะไรล่ะ”
“ปล่อยมันแบนๆ งี้ไปเหอะ”
เรด้าพยายามโน้มน้าว “ เฮ้ย อย่านึกถึงอุปสรรค ให้นึกถึงจุดหมาย นึกถึงโอกาสที่ได้จากความยิ่งใหญ่ไม่ต่างนมเรา”
“นี่ร้านเค้าให้เปอร์เซ็นต์พี่รึเปล่า”
เรด้าอ้ำอึ้ง “เอ่อ....”.
ทันใดนั้นพนักงานร้านก็เดินออกมา “โอเค. ค่ะ คุณหมอพร้อมแล้ว”

อุไรวรรณหน้าเหวอ หนังสือนางแบบนมตู้มร่วงลงพื้น

5 วันถัดมา
 
อุไรวรรณที่อยู่ในห้องนอนตัวเอง เอื้อมมือปลดภาพตัวเองสมัยนมแบนๆ บนข้างฝาลงมา ดวงตาที่ผ่านการศัลยกรรมของเธอคมกริบ หน้าอกตู้มซ่อนอยู่ใต้เสื้อกล้าม
เพ็ญศรีกำลังเล่นโยคะ พอเห็นลูกสาวเดินลงมาจากชั้นบน เดินผ่านหน้าออกจากบ้านไป ก็สะดุดตากับขนาดหน้าอก ที่โดดเด่น จนต้องมองตามอย่างแปลกใจ
อุไรวรรณเดินมาตามทางอย่างมั่นใจ ตลอดทางตั้งแต่ออกจากบ้านมา มีแต่คนเดินผ่านแล้วแอบมองหน้าอกเธอ ตั้งแต่เด็กวัยรุ่น นักศึกษา หนุ่มออฟฟิศ คนที่เดินมากับแฟน ไปจนถึงลุงแก่ๆ ถึงกับหน้าคะมำเลยทีเดียว

อุไรวรรณเดินเข้ามาในหน่วยบันเทิง ก็เจอเรด้าเป็นคนแรก ฝ่ายหลังมองนมก่อนมองหน้า
“โอเค.”
อุไรวรรณพยักหน้าหงึก “อืม แต่ไม่ใช่สิบล้อทับ รถแบ็คโฮเลยดีกว่า”
เรด้ากระแซะไหล่เย้าๆ “แต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ แล้วนี่แผลหายแล้วเหรอ”
“ยังค่ะ แต่พอทนได้”
เรด้าหันซ้ายหันขวาก่อนป้องปากพูด
“นี่ วันก่อนพี่เพิ่งนึกอะไรได้อย่าง บางทีต้นเหตุที่เธอโดนปลด อาจไม่ใช่เรื่องทะเลาะกับนางฟ้าก็ได้”
อุไรวรรณรีบถามอย่างอยากรู้ “มีอะไรคะ”
“ไม่ตะหงิดใจบ้างเหรอ ว่าทำไมสปอนเซอร์ถึงขู่จะถอนพรวดพร้อมกันอย่างนั้น ถ้าเธอยังจัดรายการอยู่”
อีกฝ่ายเริ่มคิดตาม
“ก็เพราะสปอนเซอร์รายการ I Love Gossip ทุกราย ต้องติดต่อผ่านนังนัตตี้ไงเล่า พี่ว่ามันต้องไปชงอะไรแน่”
อุไรวรรณพยักหน้าอย่างเข้าใจ จังหวะนั้น กรณ์กับนัตตี้เดินออกมาพอดี
“เรด้า ถ่ายเอกสาร” นัตตี้กำลังจะอ้าปากสั่ง แต่พอเห็นอุไรวรรณ ก็ร้องเสียงหลง “ว้าย กลับมาทำงานแล้วเหรอ ยอมรับความพ่ายแพ้ได้แล้วเหรอ”
อุไรวรรณลุกพรวดขึ้น กรณ์เห็นหน้าอกของเธอแล้วแทบสำลัก
“โดนคนกลั่นแกล้ง เค้าไม่เรียกว่าพ่ายแพ้หรอก อีกอย่างฉันกลับมาครั้งนี้ ก็เตรียมจะเผด็จศึกอีพวกเชื้อโรคชีวิตให้สิ้นซากด้วย เตรียมล้างไส้ไว้ให้สะอาด รอฉันลากออกมาเถอะ”
พูดจบก็เดินออกจากห้องไป นัตตี้มองตามอย่างแค้นใจ ครั้นหันกลับมาเห็นกรณ์ยังมองอีกฝ่ายตาเยิ้ม ก็ตบไหล่ผัวะ
“นี่ พี่กรณ์ ทำไมไม่ช่วยกันด่ามันล่ะ”
กรณ์หลุดปาก “มันใหญ่มากจ้ะ”
นัตตี้แว้ดขึ้นมาทันที “ว่าไงนะ”
“นม”
“หา”
กรณ์รีบแก้ตัว “กาแฟ กาแฟใส่นม หิวกาแฟ”
ขาดคำก็รีบวิ่งจู๊ดออกไป ทิ้งให้นัตตี้ยืนโมโหอยู่ตรงนั้น

ในทีวีที่ห้องแคนทีน เห็นฮันนี่กำลังให้สัมภาษณ์
“นี่ก็รู้สึกเป็นห่วงพวกเค้าทั้ง 2 คนอะนะคะ เพราะดวงกำลังจะรุ่งๆ แต่ดันมามีเรื่องกัน ยังไงเป็นเพื่อนกัน ก็อภัยกันนะคะ”
อุไรวรรณที่กำลังนั่งดูอยู่เบ้ปากใส่ “หวังดีจริงๆ นะ ดีออก”
ครู่หนึ่งเรด้าก็เดินเข้ามาหน้าตากังวล “นี่น้องไร มันแรงไปป่าวจ๊ะ”
“อะไรเหรอพี่”
“โพสต์เฟซด่านางฟ้าจะๆ ไม่กลัวโดนเรียกเข้าห้องเย็นเหรอ”
อุไรวรรณตกใจ “โพสต์ไหน”
“เอ้า ก็นี่ไง”
เรด้ารีบเลื่อนมือถือส่งให้ อุไรวรรณรับมาดู เห็นหน้าเฟซบุ๊กตัวเอง มีข้อความโพสต์ด่าอัปสรสวรรค์
“อุไรมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่เกลียดอีนางฟ้า”
”อะไรเนี่ย ไรไม่ได้โพสต์นะพี่”
อุไรวรรณอึ้ง เครียดจนพูดไม่ออก

ฮันนี่กำลังเล่นน้ำที่สระอย่างสบายใจกับพี่ติ๊ก ไฮโซหนุ่มลูกสองที่เคยมีข่าวด้วยกัน ชิวาว่านั่งเล่นโน้ตบุ๊คอยู่ใกล้ๆ กำลังเปิดดูเฟซบุ๊กของอุไรวรรณ พลางยิ้มพอใจ
ฮันนี่ขึ้นจากสระ เดินเข้ามาหา “เป็นไงมั่งพี่ว่า”
“เลิศค่ะ ประโยคเดียวคนไลค์กันเป็นหมื่น คนนึกว่าเป็นมันจริงๆ ไปเรียบร้อย”
“ดีมาก ไปชวนพวกนักข่าว ออกาไนซ์มาไลค์กันให้หมดเลยนะ”
ชิวาว่ายิ้มร้าย “ เรียบร้อยค่า บางสำนักเอาไปลงแล้วด้วย”
“อะไรชั่วๆ ของอีนางฟ้าขุดมาด่าให้หมด ภาพหลุดๆ รั่วๆ ตาเบลอๆ ลงมันให้หมดรอบนี้”
“ดวงของเราจริงๆ นะคะ มันมากัดกันตอนนี้”
ฮันนี่ยืนกอดอก แววตาร้ายกาจ

“อาทิตย์หน้าละครก็จะออนแล้ว นี่จะเผด็จศึกอีนางฟ้าให้มันตาย ใช้อีอุไรนี่แหละเป็นตัวรับกรรม ให้มันพินาศกันทั้งคู่”

อีกด้านหนึ่ง ปราณกำลังวอร์มเสียงให้กับโจกับจริยา
 
พอถึงท่อนที่ฝ่ายหลังร้อง ก็แกล้งทำเป็นส่ายหัวไม่พอใจ
“เอาใหม่ เพี้ยน”
จริยาพยักหน้าเครียดๆ แล้วเริ่มร้องใหม่อีกครั้ง แต่ปราณก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
“โอ๊ย นี่หูพิการรึเปล่า มันเพี้ยน เป็นนักร้องได้ยังไงวะเนี่ย เอาอีกรอบ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องร้องแล้ว กลับบ้านไป””
โจชักไม่พอใจแทน “ผมไม่เห็นมันจะเพี้ยนตรงไหน”
ปราณอึ้ง มองหน้าโจ “เพี้ยนสิครับ เทียบคีย์ดูก็ได้ เอาอีกรอบ”
จริยาฝืนใจร้องเพลงอีกรอบ แต่พอถึงท่อนเดิม ปราณก็โกรธหนักจนถึงขนาดโยนโน้ตทิ้ง
“โธ่เว้ย โง่บัดซบ กลับไปฝึกมาใหม่ไป เสียเวลา”
โจทนไม่ไหว “ขอโทษนะ นี่คุณเพิ่งมาเป็นโปรดิวเซอร์รึเปล่า”
ปราณสะอึก โจพูดต่ออีก
“ทำไมต้องใช้อารมณ์ขนาดนั้น”
“อยากให้คนได้ดีไวๆ มันก็ต้องใช้ไม้เรียวครับ มัวแต่พูดดีๆ คงชาติหน้าโน่น”
“แต่โปรดิวเซอร์มืออาชีพที่ผมเคยร่วมงาน เค้ามีแต่จะให้กำลังใจ บอกแนวทางแก้ปัญหา ไม่ใช่กดดันนะครับ”
ปราณแก้ตัวแถๆ ไป “มันเป็นสไตล์แต่ละคน ทำงานกับผม มันก็ต้องแบบนี้”
โจยิ้มหยัน “อ๋อ เข้าใจ ว่าคนมันมีทั้งดี...และชั่ว ต้องยอมรับนะน้องจิ๋ว”
ปราณมองหน้าอย่างไม่พอใจ “คุณโจ คุณเคยเซิร์ชกูเกิ้ลดูประวัติผมมั้ย ในยูทูปคนไลค์เพลงผมตั้งเท่าไหร่”
โจสวนกลับทันที “ได้ข่าวว่าสมัยนี้เค้ามีบริษัทรับจ้างปั่นยอดวิวกันไม่ใช่เหรอครับ จะเอากี่ล้านล่ะฮะ บริษัทเก่าผมก็เคยจ้าง”
ปราณโกรธมาก แต่พยายามเก็บอารมณ์ โจหันไปพูดกับจิ๋ว
“น้องจิ๋วจ๊ะ คนบางคนก็พยายามพรีเซ้นต์ว่าตัวเองเก่ง มีความมั่นใจ โดยการด่าคนอื่น ดูถูกคนอื่น กลบเกลื่อนความกระจอกของตัวเองและปัญหาทางบ้าน เราควรสงสารเค้ามากกว่าโกรธ อุเบกขานะดาร์ลิ้ง พี่โจว่าน้องจิ๋วพักไปวิ่งเล่นก่อนดีกว่า ให้พี่ปราณเค้ากลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ วันหลังค่อยกลับมาเรียนต่อ”
โจตบไหล่ให้กำลังใจ จริยายิ้มรับ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไป ทิ้งให้ปราณมองตามอย่างแค้นๆ

ทั้งคู่เดินมาที่มุมหนึ่ง จริยายิ้มอย่างสะใจ
“เจ็บมากพี่โจ ดูหน้ามันจ๋อยไปเลย”
“คนอย่างงี้ ต้องเอาซะบ้างจ้ะ”
“ขอบคุณนะคะ”
โจลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู เมฆแอบมองมาจากอีกมุมหนึ่ง ด้วยอารมณ์หึง

เรด้ากำลังยืนชงกาแฟ พอชงเสร็จ กำลังจะยกแก้วขึ้นจิบ ก็มีมือหนึ่งมาคว้าเอาไป
“ขอบใจจ้ะ”
ลูกเป็ดคว้าแก้วมา แล้วก็สะบัดก้นร้องเพลงออกจากห้องไป เรด้ายืนเหวอ บ๊วยเดินเข้ามาเห็นพอดี
“ว้าย ป้าลูกเป็ด ยังไม่ซื้อกาแฟกินเองอีกเหรอ”
เรด้าทำหน้าเบ้ “ไม่ซื้อไม่พอ มันไม่ชงด้วย”
“เออ นี่ เม้าท์ๆ เพื่อนฉันที่อยู่ชัยนาทเค้าเม้าท์มา เจ๊รู้ปะว่าเมื่อก่อนโจ ศรัณธรน่ะร้องเพลงอยู่วงอีเล็คโทนต่างจังหวัด”
“แล้วไงวะ แปลกตรงไหน”
บ๊วยขยายความต่อ “มันบอกว่ายัยป้าลูกเป็ดเนี่ยแหละ แกเป็นแม่ม่ายผัวตาย เลยชอบไปติดนักร้องคาเฟ่กับพระเอกลิเก”
“นั่นไงว่าแล้ว”
“พอวันนึงไปเจอโจร้องเพลง ทีนี้เลยตามไปคล้องมาลัยทุกงานเลย”
“แล้วไงๆ” เรด้ารีบถามต่ออย่างสนใจ
“ผ่านไปได้ไม่กี่เดือน โจก็ลาออกจากวง ไปกินไปนอนอยู่บ้านป้าลูกเป็ดเลย”
“ว้าย”
“ป้าแกเที่ยวบอกคนอื่นว่าเอาไปเลี้ยงเป็นลูก แต่เค้าเม้าท์ว่าเป็นผัวเมียกันนี่แหละ”
เรด้ายกมือกุมอก “ต๊าย อกอีแป้นจะแตก นี่แกก็เม้าท์ไป เรื่องจริงเรื่องหลอกก็ไม่รู้”
“จริ๊ง นี่เพื่อนฉัน บ้านติดกับป้าลูกเป็ดเลยนะ เชื่อได้”
“ไร้สาระ ทำงานไปเหอะ มัวแต่สอดเรื่องชาวบ้าน”
บ๊วยพยักหน้ารับ “เออ แล้วห้ามเอาไปเม้าท์ต่อนะ ฉันแช่งให้ปากเท่ารูเข็มจริงๆ ด้วย”
“ก็ดีนะ ปากเล็กกินอะไรไม่ได้ จะได้ผอมๆ”
บ๊วยแอบทำหน้าย่น

กองถ่ายละครยกกองมาปักหลักถ่ายทำอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง
ในห้องแต่งตัวของบ้าน อัปสรสวรรค์กำลังชี้ให้ทีมงานช่วยกันทำความสะอาดตามใต้ตู้ใต้โต๊ะ และยกของรกๆ ออกไป ปูเปรี้ยวเดินเข้ามาเห็นก็มองอย่างงงๆ
“มีอะไรหรือคะ”
“อ๋อ ฟ้าเห็นมันรกน่ะค่ะ กลัวจะมีงูหรือตัวอะไรเข้ามา อีกอย่างฟ้าก็แพ้ฝุ่นด้วย”
ปูเปรี้ยวพยักหน้างงๆ “อ๋อ ค่ะๆ อ้าวๆ เดี๋ยวนักแสดงแต่งตัวกันได้เลยนะคะ”
สั่งเสร็จก็รีบเดินออกไป ทีมงานเดินไปหยิบเสื้อคลุมที่ราวจะเข้ามาใส่ให้ อัปสรสวรรค์พอเห็นเสื้อก็ระแวง รีบสลัดเสื้ออกไปจากตัว
“อย่าเพิ่งค่ะ”
ทีมงานตกใจ “มีอะไรหรือคะ”
“สะบัดๆ ก่อนซิคะ”
ทีมงานรีบสะบัดเสื้ออย่างงงๆ
“แรงๆ สิคะ สะบัดสิ”
ทีมงานยิ่งงงหนัก แต่ก็พยายามสะบัดเสื้ออย่างแรงๆ
“โอเค. ค่ะ”
อัปสรสวรรค์ค่อยสบายใจ แต่พอทีมงานจะเดินเอาไปใส่ให้ เธอก็ยกมือห้าม
“เดี๋ยว ฟ้าใส่เองค่ะ”

จากนั้นก็รับเสื้อมา พอทีมงานเดินออกไป เธอก็ตบๆ ตามกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะใส่อย่างระแวง

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 6 (ต่อ)

ปกรณ์กับอุไรวรรณเดินคุยกันเข้ามาที่สถานที่ถ่ายทำ
 
“แกก็เปิดเฟซใหม่สิ แล้วเข้าไปโพสต์ว่าโดนแฮ็ก”
อุไรวรรณหน้าเครียด “โพสต์ไปแล้ว อีนั่นก็ยืนยันว่าเป็นอุไรตัวจริง หน้าด้านสุดๆ นี่ฉันส่งอีเมลไป บอกนักข่าว ก็ไม่มีใครแก้ให้ซักคน”
“ฉันว่าแล้ว ซักวันแกต้องกลายเป็นเครื่องมือคนอื่นแบบนี้”
“ฉันว่าฝีมืออีนัตตี้แน่ ทั้งฟ้องสปอนเซอร์ ทั้งแฮ็กเฟซ” อุไรวรรณพูดอย่างมั่นใจ
“ให้แน่ใจก่อน ค่อยไปโทษเขา”
“นี่ก็พ่อพระ เดี๋ยวแกเข้าไปเก็บภาพเลยนะ ฉันรออยู่แถวนี้แหละ ไม่อยากเจอหน้าอีนั่น”
ปกรณ์ย้อนถาม “ใครอีกอ่ะ”
“ก็แฟนแกไง”
ตากล้องหนุ่มส่ายหัว “ศัตรูเยอะนะ” พอจะเดินไป ก็นึกขึ้นมาได้ “เออ ฉันลืมกระเป๋าไว้หลังรถ แกไปเอาให้ฉันหน่อยนะ”
พอตากล้องหนุ่มจะเดินไป อุไรวรรณก็นึกได้ว่าเพิ่งทำนมมา
“เฮ้ย เดี๋ยวเป๋า เอ่อ ช่วงนี้ฉันยกของหนักไม่ได้ว่ะ”
“เป็นไรวะ”
อุไรวรรณอึกอัก “เอ่อ ปวดหลัง”
ปกรณ์ถอนใจแล้วเดินกลับไปที่รถ อุไรวรรณยิ้มแฉ่ง ก่อนจะแยกไปเดินเล่นในสวน

ที่จอมือถือ เห็นเป็นเฟซบุ๊คของอุไรวรรณ กำลังพิมพ์สเตตัส “คนจะงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า...”
ชิวาว่ากำลังเล่นมือถืออย่างมันมือที่ม้าหินในสวน อุไรวรรณเดินผ่านเข้ามา ก็เหลือบมอง ก่อนจะเดินเข้าไปด้านหลัง แล้วฉกเอามือถือมา
ชิวาว่าตกใจ “อร้าย อะไรเนี่ย”
อุไรวรรณดูที่มือถือ แล้วก็โกรธหนัก “อีเลว นี่แกแฮ็กเฟซฉันเหรอ”
” เธอพูดอะไร แฮ็กอะไร”
“พิมพ์คาอยู่นี่ ยังมาแก้ตัวอีกเหรอ”
ไม่พูดพล่ามทำเพลง อุไรวรรณเอามือถือตบไปที่บ้องหู จนชิวาว่าลงไปนอน
“อย่าค่ะ ช่วยด้วยค่ะ”
อุไรวรรณเข้าไปกระชากคอชิวาว่าโยนลงไปในน้ำพุ แต่ไม่หนำใจ เธอบุกตามเข้าไปตบๆๆ เอาหัวกดน้ำ
“อร๊าย ช่วยด้วยค่า” ชิวาว่าร้องลั่น
ปกรณ์ได้ยินเสียงดังก็วิ่งเข้ามา พอเห็นอุไรวรรณกำลังตบชิวาว่าอยู่ก็เข้าไปดึงออก
“เฮ้ยไร อะไรอีกวะ”
อุไรวรรณหันไปบอก “อีนี่แหละมันแฮ็กเฟซฉัน ดูดิ”
ขณะกำลังจะส่งมือถือให้ดู ชิวาว่ารีบแย่งจากมือ จนมือถือหลุดมือลอยกระเด็นออกไปตกบนถนนหน้าบ้าน
ชิวาว่าวิ่งไปจะเก็บ อุไรวรรณวิ่งตาม
รถคันหนึ่งแล่นผ่านมา ล้อรถทับมือถือดังแกร๊บ แตกกระจาย แล้วผ่านไป ชิวาว่าตกใจ ส่วน
อุไรวรรณโกรธมากที่มือถือโดนรถทับพัง พอไม่รู้จะทำไง ก็เข้าไปกระชากหัวชิวาว่า แล้วตะคอกถาม
“ใครสั่งให้แกทำ อีฮันนี่ใช่มั้ย”
ชิวาว่าทรุดตัวลงร้องไห้ แล้วยกมือไหว้
“ฮือ พี่ว่าไม่รู้ พี่ว่าไม่ได้ทำ”
“บอกมา แผนอีฮันนี่ใช่มั้ย มันจะโยนขี้ให้ฉันใช่มั้ย”
ปกรณ์รีบเข้ามาดึงอุไรวรรณออก “พอแล้วไร แกแน่ใจแล้วเหรอว่าเค้าทำ”
“ก็ฉันเห็น”

ชิวาว่ารีบแก้ตัว “ฮือ พี่ว่าก็แค่เข้าไปส่องเฟซน้องไร พี่ชื่นชมผลงานน้องไรมาตั้งนานแล้ว ทำไมทำกันแบบนี้ ฮือ..”

อุไรวรรณตวาดซ้ำ “ไม่ต้องมาพูดเลย อีตอแหล”
 
ว่าแล้วก็ถีบไปอีกที ปกรณ์รีบห้าม
“เฮ้ย ไร แล้วถ้าที่พี่เค้าพูดเป็นเรื่องจริงล่ะ”
อุไรวรรณเก็บกด ที่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่แหกปากเสียงดัง
“โธ่เว้ย” ตะโกนแล้วแล้วก็สะดุ้งเจ็บนมจี๊ดเอามือกุมนม “โอ๊ย”
“เฮ่ย..เป็นไร” ตากล้องหนุ่มถามอย่างเป็นห่วง
“ปะ เปล่า”
อุไรวรรณรีบเดินออกไปเลย ปกรณ์ส่ายหัว ชิวาว่ามองซากมือถืออย่างเศร้าๆ
“เกือบไปแล้ว”

อัปสรสวรรค์ถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่ในห้อง คล้ายถูกคนร้ายจับตัวมา ครู่หนึ่งพี่หมีก็เดินเข้ามาข้างๆเพื่อแนะนำบท
“เดี๋ยวน้องนางฟ้าดิ้นพราดๆ ไปนะฮะ จนกว่าฮันนี่จะเข้ามาช่วย จากนั้นก็วิ่งหนีออกไปด้วยกัน โอเค.นะฮะ”
พออีกฝ่ายพยักหน้ารับ พี่หมีก็วิ่งเข้าไปหลังมอนิเตอร์ พร้อมกับทีมงานให้สัญญาณ
“โอเค. ห้า สี่ สาม สอง ไป”
อัปสรสวรรค์ดิ้นพราดๆ อยู่กับพื้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นมุมห้องที่มืด ๆ รกๆ เธอเริ่มระแวงถึงแมงมุมขึ้นมา เหงื่อเริ่มแตกซิก มือไม้เกร็ง พยายามหลับตาลบความกลัว
พี่หมีหันมาคุยกับทีมงาน “เป็นอะไรวะ” แล้วก็ตะโกนกำกับ “ดิ้นสิฮะ ดิ้น”
อัปสรสวรรค์พยายามฝืนดิ้น พี่หมีตะโกนต่อ
“เอ้า ฮันนี่เข้ามาเลย”
ฮันนี่ถีบประตูเข้ามา “ฉันมาแล้ว” ว่าแล้วก็วิ่งเข้าไปแก้มัดทั้งเท้าและมือ “เธอไม่เป็นอะไรแล้วนะ
หนีกันเถอะ”
อัปสรสวรรค์กำลังจะลุก แต่พอหันไปเห็นที่หูฮันนี่ใส่ตุ้มหูรูปแมงมุมตัวเบ้อเริ่ม ก็รีบกระชากตุ้มหูหลุดออกมาอย่างแรง
ฮันนี่โดนกระชากตุ้มหูก็กรี๊ดลั่น พวกทีมงานพากันตกใจ พี่หมีทำหน้าเซ็ง
“อา..ราย...อีก”
อัปสรสวรรค์โยนตุ้มหูทิ้งแล้วรีบเดินออกไปจากฉาก ทีมงานรีบเข้าไปดูฮันนี่ ที่นั่งกุมหูร้องไห้ เลือดโชก
“เจ็บ โอ๊ย”
พี่หมีแหกปากสั่งอย่างหงุดหงิด
“ใครก็ได้พาน้องฮันนี่ส่งโรงบ้าล โว้ย ชาตินี้จะได้ปิดกล้องมั้ยวะ”
ทีมงานรีบพยุงฮันนี่ออกไป ส่วนปูเปรี้ยวก็วิ่งตามอัปสรสวรรค์ออกไป
พี่หมีแหกปากอีก
“ใครก็ได้ไปจุดธูปบนให้ที้ ปิดกล้องได้ กูจะแก้ผ้ารำรอบหมู่บ้านเลยเอ้า”

อัปสรสวรรค์วิ่งออกมา พลางก้มหน้าเครียด พยายามหายใจลึกๆ ปูเปรี้ยววิ่งตามมาจนทัน
“เป็นอะไรคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เครียดรึเปล่า อยากพักมั้ยคะ”
ซุปตาร์สาวส่ายหน้าช้าๆ “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฟ้าพักแป๊บเดียวคงถ่ายได้”
“แต่ยัยฮันนี่คงไม่ถ่ายแล้วมั้งคะ หูนางฉีก”
ปูเปรี้ยวพูดพลางมองอัปสรสวรรค์อย่างเป็นห่วง

อาทิตย์เปิดประตูห้องคอนโดหรูให้จริยากับแม่เข้ามาในห้อง
สมรเข้ามาคนแรก ก็ตื่นตะลึงในความหรูหรา พลางกวาดสายตาสำรวจรอบๆ อย่างตื่นใจ
“แม่เจ้าโว้ย ไอ้จิ๋ว เราจะได้มาอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอเนี่ย”
จริยาแอบส่ายหน้าเอือมกับอาการเยอะของแม่ อาทิตย์ยิ้มรับ
“จริงสิครับ ผมรับรอง”
สมรตาวาว “พ่อเจ้าประคุณ เป็นบุญจริงๆ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็อยู่แต่ในสลัม ขอบพระคุณคุณอาทิตย์จริงๆ นะคะ ที่เมตตาไอ้จิ๋วมัน”
“โห คนกันเอง เรื่องแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกครับ”
สมรได้ที แกล้งหลอกถาม
“เอ ว่าแต่คุณอาทิตย์มาซื้อคอนโดให้ไอ้จิ๋วมันแบบนี้ แฟนไม่ว่าเอาเหรอคะ”
จริยาทำตาโตที่แม่ถามแบบนั้น “แม่ พอเลย”
อาทิตย์อ้ำอึ้ง “ผม...ยังไม่มีแฟนหรอกครับ”

“ฮั่นแน่ อย่ามาโกหกคนแก่หน่อยเลยน่า แม่อ่านหนังสือดารา เห็นซุบซิบว่ากิ๊กอยู่กับหนูนางฟ้าไม่ใช่เรอะ”

ฝ่ายลูกสาวทำตาโตใส่เป็นเชิงปรามให้แม่หยุด อาทิตย์ยิ้มกลบเกลื่อน
 
“ข่าวก็คือข่าวแหละครับ ความจริงมีแค่ผมกับเค้าเท่านั้นที่รู้”
สมรยิ้มหวาน แล้วหันไปกระทุ้งลูกสาว พลางแอบกระซิบ “มีหวังแล้วเว้ยไอ้จิ๋ว”
“พอละแม่”
อาทิตย์ผายมือเชิญ “ลองดูข้างในก่อนครับ”
สมรกระดี๊กระด๊า “ไปๆ ไหนดูซิ มีอ่างอาบน้ำด้วยป่าว ฮิๆ แม่อยากเล่นฟอง”
ว่าแล้วเดินตามอาทิตย์เข้าไปอย่างรื่นเริง จริยาอมยิ้ม แอบดีใจเล็กๆ ที่อาทิตย์ไม่ได้เป็นแฟนกับอัปสรสวรรค์

2 แม่ลูกลงจากรถอาทิตย์ สมรอารมณ์ดีเดินร้องเพลงเข้าบ้านไปก่อน ฝ่ายลูกสาวหันไปขอบคุณอาทิตย์ผ่านหน้าต่างรถ
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณอาทิตย์”
อาทิตย์โบกมือให้แล้วขับรถออกไป พอเธอกำลังจะเดินเข้าบ้าน เมฆก็เดินเข้ามา
“จิ๋วไปไหนมา”
“อ๋อ คุณอาทิตย์เขาพาไปดูคอนโดน่ะ”
เมฆตกใจ “คอนโด จิ๋วจะย้ายบ้านแล้วเหรอ ทำไมเมฆไม่รู้เลย”
“โธ่ ฉันก็ไม่รู้ อยู่ๆ วันนี้เค้าก็มารับไปดูเลย”
“แล้วมันเรื่องอะไรอะ อยู่ๆ มาซื้อคอนโดให้จิ๋วทำไม” เมฆถามอย่างร้อนรน
“ก็ฉันเป็นศิลปินในสังกัดเค้า เค้าอยากให้ภาพลักษณ์ฉันดูดี”
“แน่ใจเหรอว่าเค้าหวังแค่นั้น”
จริยาเริ่มจะฉุน “เอ๊ะ เมฆ ทำไมแกต้องมองว่าทุกคนเป็นคนไม่ดีไปซะหมดวะ พี่โจก็คนแล้วนะ”
“จิ๋วนั่นแหละ ไว้ใจหมดทุกคน เชื่อใจหมดทุกคน ยกเว้นเมฆ” เมฆพูดอย่างน้อยใจ
“แกเอาอะไรมาพูด ฉันแค่คิดว่ามันไม่ยุติธรรมที่แกจะไปว่าเขา”
“จะพี่โจหรือคุณอาทิตย์ เลือกซักคนเถอะจิ๋ว”
จริยาได้ยินคำพูดของเมฆ ก็ตกใจ
“บ้าๆๆ บ้าไปแล้ว ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะ แล้วคุณอาทิตย์ เค้าก็คนละระดับกับเรา ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้”
“ใช่ คนละระดับ งั้นจิ๋วก็มองมาที่เมฆบ้างสิ มองเราให้มากกว่าเพื่อนคนหนึ่ง เมฆคิดยังไงกับจิ๋ว จิ๋วก็รู้นี่”
เมฆพูดพลางเข้าจู่โจมกระชากแขนเข้ามาใกล้ อีกฝ่ายสลัดออก
“ใช่ ฉันรู้ รู้ว่าคิดยังไงกับแก เพราะฉะนั้นอย่าทำแบบนี้กับฉันอีก ฉันไม่ชอบ”
พูดจบก็หลังเดินหนีเข้าบ้านไป เมฆมองตามด้วยแววตาเจ็บปวด

เดือนเด่นกำลังหิ้วของออกมาจากร้านเพชรหน้าตายิ้มแย้ม พอหันไปอีกทาง ก็เห็นดามพ์กำลังเดินอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
“ควงมาเดินห้างเลยใช่มั้ย”
จากนั้นก็ค่อยๆ แอบเดินตามไป จนถึงลานจอดรถ ใกล้ถึงตัวดามพ์อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น พลางกำลังจะตะโกนเรียก
“นี่....”
จู่ๆ พนักงานร้านเสริมความงามก็เข้ามาจับแขนไว้ “ สถาบันเสริมความงาม เชิญทดลองรักษาฟรีค่ะ”
เดือนเด่นหันไปมองอย่างโมโห “ปล่อย”
“เชิญค่ะ ไม่เสียตังค์นะคะ แค่ช่วยกรอกแบบสอบถามค่ะ”
“โธ่เว่ย ไปแจกแม่แกโน่น”
เดือนเด่นโมโหสะบัดพนักงานล้ม แล้วหันกลับไปหาดามพ์ แต่อีกฝ่ายขึ้นรถปิดประตู ขับแล่นออกไป
ฝ่ายแรกรีบโยนข้าวของทิ้งแล้ววิ่งตาม แต่ก็ไม่ทัน
“เลว”

ฮันนี่กำลังเติมหน้าเติมปากที่กระจกตรงอ่างล้างมือ พลางแหวกผมดูหูข้างที่แปะพลาสเตอร์ยาไว้
ด้วยความทั้งเจ็บ ทั้งโมโห
“อีนางฟ้า อีบ้า อีแม่มด อีกองถ่ายบ้านี่ก็โหดนรก คนเจ็บจะตาย ยังจะให้กลับมาถ่ายต่ออีก”
พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้นมา ฮันนี่รีบหยิบมากดรับ
“ฮัลโหลค่า เสร็จแล้วค่า เดี๋ยวอ้วนไปรับนี่ที่คอนโดน้า ขอเอารถไปเก็บก่อน เออ ก็อีพี่ว่ามันเฟอะฟะตกไปในสระน้ำพุ ตัวเลอะหมดเลยขอกลับไปก่อน วันนี้อ้วนต้องปลอบเค้าด้วยน้า ใช่ อีนางฟ้ามันบ้าไปแล้ว.ค่า เจอกันค่า”
คุยพลางเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
คล้อยหลังนั่นเอง ประตูห้องน้ำห้องหนึ่งก็เปิดออก อุไรวรรณเดินออกมามองตามด้วยแววตาอาฆาต

ขณะปกรณ์กำลังเก็บของลงกระโปรงหลังรถ อุไรวรรณก็รีบวิ่งเข้ามา ฝ่ายแรกหันมาบอก
“ไป กลับออฟฟิศกัน”
จังหวะนั้นรถฮันนี่ขับผ่านหน้าทั้ง 2 คนไป อุไรวรรณมองตามอย่างร้อนรน
“เฮ้ย เป๋า เดี๋ยวแกกลับไปก่อนนะ ฉันมีธุระ”

ขาดคำรีบวิ่งออกไป ปกรณ์มองตามอย่างงงๆ

รถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดที่หน้าอาคารคอนโด ฮันนี่รีบเดินออกมาแล้วขึ้นรถออกไป
 
อุไรวรรณซุ่มอยู่ที่มุมหนึ่ง แอบถ่ายพฤติกรรมของฮันนี่ด้วยมือถือ พอแท็กซี่แล่นเข้ามาก็รีบโบก
“ตามคันนั้นไปเลยพี่ ด่วนเลย”

รถหรูวิ่งเข้ามาจอดที่ด้านหลังผับหรู พร้อมๆ กับที่แท็กซี่เข้ามาจอดที่อีกมุมหนึ่ง
อุไรวรรณที่แอบมองอยู่ในรถ เห็นเด็กรับรถเดินมาเปิดประตู ก่อนที่ฮันนี่ลงจากรถพร้อมพี่ติ๊ก ไฮโซหนุ่มลูกสอง
“เป็นชู้กับผัวเค้าจริงๆ”
อุไรวรรณยกกล้องขึ้นมาจะถ่าย แต่บังเอิญดันมีนักเที่ยวเดินเข้ามาบังจึงถ่ายไม่ได้
“โธ่เว้ย”
ฮันนี่กับไฮโซหนุ่มเดินเข้าประตูไป อุไรวรรณรีบลงจากรถเดินตาม

ฮันนี่กำลังนั่งคลอเคลียกับหนุ่มไฮโซในผับ อุไรวรรณเดินเข้ามาเห็น ก็หาที่นั่งหลบแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย พลางยิ้มอย่างพอใจ
“ไปตายซะ อีลวงโลก”
แต่จู่ๆ ก็มีมือเอื้อมเข้ามาดึงมือถือไป
“เฮ้ย”
อุไรวรรณตกใจหันไปมอง เห็นหน้าการ์ดยืนมองด้วยสายตาโหด

อุไรวรรณถูกเหวี่ยงออกมาที่หน้าผับ การ์ด 2 คนยืนมองหน้าเหี้ยม
“เอามือถือฉันมา”
“ที่นี่มีแต่แขกวีไอพี เธอจะเข้าไปถ่ายอะไรไม่ได้ เฮ้ย เอามือถือนี่ไปให้คุณติ๊กเค้าดูซิ”
อุไรวรรณรีบกระโจนเข้าไปแย่งมือถือ พอการ์ดไม่ยอม เธอก็กัดไปที่แขนอย่างแรง แต่แล้วก็กลับเป็นฝ่ายถูกเหวี่ยงกระเด็น จนเจ็บนมจี๊ด แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ พุ่งเข้าใส่อีก
การ์ดผลักอุไรวรรณและเงื้อมือจะตบ พลันมีมือมากระชากแขนการ์ดไว้
อุไรวรรณเงยหน้ามา “คุณอาทิตย์”
การ์ดชักกระบองออกมาจะฟาด แต่กลับถูกอาทิตย์ถีบหงายไป มือถือกระเด็นร่วง อุไรวรรณรีบเข้าไปเก็บ
การ์ดอีกคนจะเข้ามาชกอาทิตย์ ผู้จัดการร้านก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา ก่อนหันไปดุลูกน้อง
“เฮ้ย พวกเอ็ง หยุดเดี๋ยวนี้”
การ์ดหันมาเห็นผู้จัดการก็แยกจากอาทิตย์
“พวกเอ็งทำอะไรวะ อยากหางานใหม่เหรอ ผมขอโทษแทนลูกน้องด้วยครับคุณอาทิตย์ พวกมันเพิ่งมาทำงานไม่นาน ยังไม่รู้จักคุณ”
อาทิตย์พยักหน้าหงึก ผู้จัดการหันไปด่าลูกน้องต่อ
“ไอ้พวกโง่ จำไว้นะนี่คุณอาทิตย์ เพื่อนคุณเท็ดดี้เจ้าของร้าน ลูกค้าโคตรของโคตรวีไอพี”
การ์ดพากันก้มขอโทษอาทิตย์ “ผมไม่รู้จริงๆ ขอโทษนะครับ”
พออาทิตย์พยักหน้าให้ พวกการ์ดเดินออกไป
“คุณอาทิตย์เชิญเลยครับ พวกเพื่อนๆ อยู่ข้างในกันหมดแล้ว”
“เดี๋ยวผมเข้าไปครับ”
ผู้จัดการยิ้มเจื่อนๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน อุไรวรรณแอบโล่งอก

“คุณมาทำอะไรที่นี่”
อาทิตย์หันมาถาม อุไรวรรณตกใจนิดหนึ่ง
“เอ่อ มาเที่ยวค่ะ”
อีกฝ่ายมองอย่างไม่เชื่อ “ แน่ใจนะ ว่าไม่ได้มาหาข่าว”
เหยี่ยวข่าวสาวแอบตกใจ แต่ก็พยายามนิ่ง
“ไรเป็นนักข่าว ถ้าจะมาทำข่าวมันผิดตรงไหน”
“เลิกเล่นงานคนในบ้านเดียวกันเถอะครับ”
“คุณรู้?”
อาทิตย์พยักหน้า อุไรวรรณสวนกลับทันที
“คุณสนับสนุนคนที่แย่งสามีคนอื่นหรือคะ”
“ถามใจตัวเองก่อน ว่าที่คุณทำอยู่นี่ เพื่อจรรโลงสังคม เพื่อการแก้แค้น หรือเพื่อความโด่งดังกันแน่”
อุไรวรรณสะอึก ตอบไม่ถูก
“แต่สำหรับผมในฐานะผู้บริหาร ตราบใดที่ฮันนี่ยังเป็นแบรนด์ของช่อง THE SUN ผมให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้”
พูดพลางเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น อุไรวรรณกระเถิบถอยหนี แต่ถูกฝ่ายแรกจับแขนไว้
“ละครที่ผมตั้งใจทำกำลังจะออนแอร์ ถ้าข่าวนี้ออกไปจะเกิดความเสียหายมหาศาล ไม่ใช่ว่าผมสนับสนุนให้เค้าทำแบบนี้ แต่แค่มันยังไม่ถึงเวลา เดินไปตามทางตัวเองดีกว่า”
อุไรวรรณนิ่งมองอาทิตย์
“กลับบ้านเถอะครับ ดึกแล้ว”

อาทิตย์หันหลังเดินเข้าไปในผับ อุไรวรรณมองตามอย่างสับสน

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 6 (ต่อ)

อัปสรสวรรค์กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน พอเหลือบเห็นดามพ์เดินเข้ามา ก็ยิ้มดีใจ
 
“คุณพ่อ”
จากนั้นก็ลุกโผเข้าไปกอดพ่อแน่น
“เป็นไงลูก ละครเรื่องใหม่จะออนรึยัง”
“อาทิตย์หน้าค่ะ อย่าลืมดูนะคะ”
จู่ๆ เดือนเด่นก็โผล่พรวดออกมา พร้อมกับผลักอย่างแรงจนดามพ์กระเด็นไปชนตู้
“ไอ้คนทุเรศ”
ลูกสาวอึ้ง ตกใจ พวกคนใช้วิ่งออกมาดู ดามพ์ทำหน้างง
“อะไรอีกล่ะคุณ”
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ย จะมีเมียน้อยกี่คนฉันไม่ว่า แต่อย่าพามันออกหน้าออกตาเทียบฉันกับลูก”
“พูดเรื่องอะไร”
เดือนเด่นจ้องหน้า เอาเรื่อง “พูดอะไร เมื่อเย็นฉันเห็นควงใครหราอยู่ที่ห้างนั่นล่ะ”
ดามพ์ชะงักนิดหนึ่งก่อนมองหน้าอีกฝ่าย
“นี่คุณคิดว่าชาวบ้านเค้าไม่รู้เหรอว่าเราแยกกันอยู่ตั้งนานแล้ว”
เดือนเด่นย้อนกลับทันควัน “แต่เรายังไม่ได้หย่ากัน”
“ก็หย่าซะทีซี่ ถ้าห่วงหน้าตัวเองในสังคมมากนัก จะมาทนถือทะเบียนไว้ทำไมนักหนา ยอมอายแค่ ครั้งเดียว”
“อีคนนี้มันดีขนาดคุณต้องเอามาควงออกหน้าเลยเหรอ” เดือนเด่นพูดพลางเข้าไปกระชากเสื้อดามพ์ ”มันเป็นใคร ฮะ มันเป็นใคร”
“เค้าก็ดีกว่าคุณแล้วกัน”
อัปสรสวรรค์รีบเข้าไปห้ามแม่ “ใจเย็นค่ะแม่”
เดือนเด่นร้องไห้สะอึกสะอื้น “ออกไปให้พ้นเลย ไป”
ดามพ์สวนกลับทันที “ผมกลับมา ก็แค่อยากเจอลูก ไม่ใช่มาเจอคุณ”
ฝ่ายลูกสาวน้ำตาไหลพราก “หยุดเถอะค่ะ พอที เวลาที่เจอพ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน ฟ้าหวังให้เราเป็นครอบครัว ไม่ใช่เป็นสนามรบแบบนี้”
พูดจบก็ผลุนผลันวิ่งขึ้นไปบนบ้านทันที ดามพ์กับเดือนเด่นมองตามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

อัปสรสวรรค์ปิดประตูห้องนอนเข้ามา พร้อมกับน้ำตาไหลพรากไม่หยุด เธอเดินไปนอนร้องไห้บนเตียง เศร้าเสียใจกับสภาพครอบครัวที่แตกแยก

อุไรวรรณนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่กำลังฉายวิดีโอของฮันนี่ในผับ ขณะกำลังนัวเนียกับหนุ่มไฮโซในข่าว พลางนั่งคิด ลังเลใจที่จะปล่อยคลิปนี้ออกไปดีหรือไม่
นัตตี้เดินผ่านมา ก็ชะโงกแอบดู เห็นภาพคลิปในจอแว้บหนึ่ง บังเอิญเท้าดันไปเตะถังขยะที่พื้นเสียงดัง จึงรีบทำเสียง “เมี้ยว”
อุไรวรรณสะดุ้ง ตกใจ ก่อนจะหันไปมอง นัตตี้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ทำเป็นทักกลบเกลื่อน
“ขยันน้า ดึกแล้วยังไม่กลับเหรอ”
แต่พออีกฝ่ายไม่ตอบ ฝ่ายที่เข้ามาก็เดินเลี่ยงออกจากห้องไป จังหวะนั้น บ๊วยที่เดินออกมาจากห้องกรณ์ ก็เข้ามาหา
“อุไรจ๊ะ พี่กรณ์เรียกแน่ะ”
“เรียกไร?”
บ๊วยพยักหน้าหงึกๆ อีกฝ่ายรีบพับหน้าจอโน้ตบุ๊ค แล้วเดินเข้าไปหากรณ์

กรณ์มองอุไรวรรณ ที่เดินเข้ามาในห้องทั้งตัวแล้วยิ้มกริ่ม
“มีอะไรหรือคะ”
กรณ์มองหน้า ทำสายตาเจ้าชู้ “สวยขึ้นนะเราน่ะ”
อุไรวรรณยืนนิ่ง อย่างแปลกใจ อีกฝ่ายถามต่อ
“เอิ่ม ก็จะถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่”
“ก็หาข่าวทั่วไปค่ะ เหมือนเมื่อก่อน”
“เหรอ มันยุ่งรึเปล่าล่ะ”
“ไม่เท่าไหร่ค่ะ”
“คือตอนนี้งานฉันมันยุ่งมาก เลยอยากได้คนมาช่วยจัดการพวกเอกสารแล้วก็ตารางเวลา คือพูดง่ายๆว่าอยากได้เลขาน่ะ”
อุไรวรรณยิ่งอึ้งหนัก “ไรเนี่ยนะคะ”
“อื้ม ทำไมล่ะ ไม่ยากหรอก เดี๋ยวฉันให้เป็นค่าขนมเพิ่ม กรุบกริบๆ”
ฝ่ายถูกชวนทำหน้าเครียด “ไรกลัวแค่จะไม่มีเวลา”
“กลัวจะไม่ค่อยได้ทำข่าวว่างั้นเถอะ”
เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า กรณ์ก็งัดไม้เด็ดทันที
“นี่ ก่อนนัตตี้จะไปพิธีกร เค้าก็เป็นเลขาฉันเนี่ยแหละ แค่ 2-3 เดือนเท่านั้นแหละ ดวงพุ่งปรี๊ด ไม่รู้นะ ลองคิดดู ไม่เอาก็จะได้ให้คนอื่น”
อุไรวรรณอยากกลับไปที่โต๊ะทำงาน จึงรีบขอตัว “เอ่อ ขอตัวก่อนนะคะ ไรทำงานค้างไว้”
ขาดคำก็รีบเดินออกไป กรณ์มองตามตาเยิ้ม

อุไรวรรณรีบเดินกลับมาที่โต๊ะ พลางบ่นอุบ
“จะฟันฉันล่ะสิ ไอ้อ้วนเอ๊ย”

พลันก็เห็นโน้ตบุ๊คเปิดอ้าอยู่เล็กน้อย เธอถึงกับตกใจ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง แล้วจึงหันไปพับโน้ตบุ๊คปิด

ฟากจริยาก็กำลังเก็บของใส่ลังเตรียมย้ายบ้าน
 
ข้าวของและสัมภาระเกลื่อนกลาดกระจัดกระจายไปทั่วขณะก้มไปยกกองหนังสือ บังเอิญเอกสารกองหนึ่งร่วงออกมา
“อุ๊ยๆๆ”
จากนั้นก็รีบเอาหนังสือใส่ลัง แล้วก้มหยิบเอกสารพวกนั้น ซึ่งมีทั้งใบทรานสคริปส์ ใบประกาศ และรูปถ่าย เธอชะงักอยู่ตรงรูปถ่ายหมู่ 3 คนใบเล็กๆ ที่ปกรณ์เคยอัดแจก พลางมองภาพนั้นแล้วยิ้มบางๆ
หลังภาพหมู่นั้น เป็นตั๋วหนังใบหนึ่ง ชื่อเรื่อง “เพื่อนรัก รักเพื่อน”
เรื่องราวในอดีต ย้อนกลับมาในความทรงจำอีกครั้ง

จริยาเห็นโฆษณาภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนรัก รักเพื่อน” ในหนังสือพิมพ์ แล้วก็คิดอยากไปดู พลางมองไปทางปกรณ์ที่กำลังคุยเล่นกับเพื่อนๆ
ครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาหา “อ้าว จิ๋ว ไม่กลับบ้านเหรอ”
“ยัง ขี้เกียจกลับตอนนี้ รถติด”
“คนยังไม่มีแฟนก็งี้แหละ ไม่มีกิจกรรม”
อีกฝ่ายมองค้อน “โห่ แกไม่รู้อะไรหรอก พี่ต้อมวิศวะเค้ามาตามจีบฉันทุกวัน จนฉันล่ะเบื่อ”
ปกรณ์ขำก๊าก “เตี้ยแล้วยังขี้โม้ ฮ่าๆๆ”
“ไอ้เป๋าปากหมา เค้าชวนฉันไปดูหนังด้วยนะยะ นี่ๆ เรื่องนี้” พูดพลางกางหนังสือพิมพ์ให้ดู “เพื่อนรัก
รักเพื่อน” พร้อมกับแอบเหล่อีกฝ่าย “น่าดูนะ”
ปกรณ์มองโฆษณาอึ้งๆ แล้วค่อยๆ หันมามองตาเธอ ก่อนจะปล่อยก๊ากออกมาอีก “เพื่อนรัก รักเพื่อน แบ๊วอ่ะ แบ๊วกว่านี้มีอีกมั้ย”
จริยาทั้งโกรธ ทั้งอาย ผลักปกรณ์หงายเงิบไป ก่อนจะแหกปากด่าลั่น “ไอ้บ้า”
จังหวะนั้น อัปสรสวรรค์กับอุไรวรรณ ก็เดินเข้ามาสมทบ
“อ้าวๆๆ กัดกันอีกแล้วไอ้คู่นี้ นี่ ถ้าอีกหน่อยแก 2 คนเกิดได้แต่งงานกันขึ้นมานะ ฉันจะขอแฉอดีตพวกแกกลางงานแต่งให้เละเลยนะเว้ย”
อุไรวรรณพูดล้อๆ ปกรณ์แกล้งทำท่าเหมือนจะอ้วก
“แหวะ ฝันไปเหอะ ใครอยากจะได้ลูกเตี้ยเหมือนแม่”
จริยาอึ้งไปนิดหนึ่ง แต่รีบกลบเกลื่อนอย่างว่องไว
“แกล่ะไอ้ตี๋ ใครอยากได้ลูกตาตี่เหมือนแกหา”
อัปสรสวรรค์รีบห้าม “อ่ะ พอๆๆๆ เดี๋ยวก็ได้กันอย่างมันว่า”
ทั้งคู่โพล่งออกมาพร้อมกัน “เฮ่ย”
อัปสรสวรรค์กับอุไรวรรณหัวเราะขำ ก่อนที่ฝ่ายแรกจะเอ่ยปากชวน
“เออ วันนี้เลิกเร็ว กินยำสยามกันเหอะ”
ปกรณ์ได้ที รีบชวน 2 สาวประชดจริยา “ดูหนังดีกว่า”
จริยาแอบสะอึก อัปสรสวรรค์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รีบถาม
“มีเรื่องอะไรน่าดูเหรอ”
“เพื่อนรัก รักเพื่อน ไง”
สีหน้าของจริยายิ่งเจื่อนหนัก
“เออๆ เห็นเขาว่าสนุก ไปๆ”
อุไรวรรณส่ายหน้ายิก “ ฉันขอบายอะ ไม่ใช่แนว”
อัปสรสวรรค์หันไปถามจริยา “จิ๋วมีเรียนอะไรอีกป่าว ไปด้วยกัน”
ปกรณ์รีบสอดทันที “จิ๋วเค้ามีคนชวนแล้วล่ะ ดูเรื่องนี้เหมือนกัน เพื่อนรัก รักเพื่อน”
อัปสรสวรรค์ยิ้มล้อๆ “นั่นแน่ ใครเอ่ย”
อุไรวรรณช่วยเสริม “ เห็นตัวเล็กๆ แต่เซ็กส์นะค้า”
“หรือจะเปลี่ยนใจไปดูด้วยกันมั้ยล่ะจิ๋ว”
จริยายิ้มกร่อยๆ “ไม่เป็นไร ไปกันเหอะเจ้ จิ๋วไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวจิ๋วกลับก่อนนะ”
ขาดคำก็หยิบกระเป๋าสะพาย แล้วเดินออกไปทันที ปกรณ์มองตามอย่างไม่เข้าใจ
พอแยกตัวจากกลุ่มเพื่อน ก็บ่นแบบงอนๆ “ไปดูคนเดียวก็ได้วะ”

จริยาคิดพลางก้มเก็บภาพและตั๋วหนังลงกล่องไป ด้วยสีหน้าเศร้าๆ

ฮันนี่กำลังนอนหลับซบพี่ติ๊ก ไฮโซลูกสองอยู่ภายใต้ผ้าห่ม พลันมือถือที่วางไว้โต๊ะข้างเตียง ก็มีสายเรียกเข้าจากชิวาว่า เธอกดรับอย่างหัวเสีย
“โอ๊ย พี่ว่า วันนี้ไม่มีงาน โทร. มาทำบ้าอะไร”
ครั้นถือสายฟังอยู่พักหนึ่ง ก็ทะลึ่งตัวพรวดขึ้นมานั่ง ตาโตตกใจ
“วอส ซับ !! ”

ภาพจากเว็บไซต์ต่างๆ ลงข่าวฮันนี่ “เต็มตา ดาราสาวนัวไฮโซหนุ่มลูกสองในผับ” พร้อมคลิปประกอบขณะฮันนี่นั่งตักไฮโซหนุ่ม
ภายในห้องราศี ทุกคนนิ่งเครียด โดยเฉพาะอาทิตย์
“เจ๊งแน่ เจ๊ง ฉันจะแก้ข่าวเธอยังไงดี ฮันนี่”
ฮันนี่นั่งหน้าเครียด ไม่รู้จะตอบอะไร ป๋าช้างรีบเสนอ
“ปล่อยข่าวว่าเป็นแผนโปรโมตละครมั้ยครับ”
ราศียิ่งเครียดหนัก “นี่มันรอบสองแล้วนะคุณช้าง ช่องอื่นเค้าทำสกู๊ปด่ากันตั้งแต่เช้า”
จังหวะนั้น ประตูก็เปิดออก พร้อมกับที่นัตตี้เข้ามา
“คุณราศีมีอะไรเหรอคะ”
ป๋าช้างรีบถามทันที “มาพอดี เธอพอจะรู้มั้ยว่าไอ้คลิปฮันนี่เนี่ยมันหลุดมาจากไหน”
นัตตี้ยิ้มกริ่ม ขณะที่อาทิตย์หน้านิ่ง เครียด พร้อมกับคิดไปว่าอุไรวรรณเป็นคนปล่อย

โน้ตบุ๊คของอุไรวรรณกำลังเปิดคลิปฮันนี่ เจ้าของเครื่องก้มหน้ารับผิดต่อหน้าทุกคน
“ไรเป็นคนถ่ายเองค่ะ”
ทุกคนมองหน้ากันแล้วถอนใจ ฮันนี่ลุกชี้หน้าอุไรวรรณทันที
“เลว ไล่มันออกไปเลยค่ะ”
ชิวาว่ารีบผสมโรง “อีนี่มันตามจองล้างจองผลาญน้องนี่มาตลอดเลยค่ะมาดาม ไม่รู้เป็นบ้าอะไร”
อาทิตย์มองหน้าอุไรวรรณนิ่ง ฝ่ายหลังรีบออกตัว
“แต่หนูไม่ได้เป็นคนปล่อยนะคะ ไรไม่รู้ว่ามันหลุดไปได้ยังไง”
ฮันนี่แหวขึ้นมาทันที “ตอแหล แล้วแกถ่ายเก็บไว้ดูเองรึไง”
อุไรวรรณนิ่งเงียบ ราศีโพล่งออกมาอย่างเหลืออด
“จะปล่อยหรือไม่ปล่อยฉันไม่สนใจ แต่ฉันติดใจว่าทำไมเธอจ้องจะทำแต่ข่าวเสียๆ ของคนกันเอง เธอเป็นไส้ศึกขายข่าวให้คนนอกอยู่รึเปล่า”

“ไม่ใช่นะคะ”

ราศียืนกอดอกคิด ก่อนจะตัดสินใจ “แบบนี้ ฉันคงเอาเธอไว้ไม่ได้แล้วล่ะ”
 
อุไรวรรณอึ้ง ช็อก อาทิตย์ตกใจ ฮันนี่ยิ้มหยัน
“ไล่ออกมันยังน้อยไปค่ะ นี่จะฟ้องมันให้หมดตัวเลย”
อาทิตย์หันไปมองอุไรวรรณที่ก้มหน้านิ่ง แล้วจึงหันไปหาราศี
“แม่ครับ ไหนๆ อุไรก็ยอมรับผิดแล้ว อย่าเพิ่งไล่เธอออกได้มั้ยครับ ให้โอกาสเธอพิสูจน์ตัวเองก่อน”
“พิสูจน์อะไรอีกล่ะ” ราศีย้อนถาม
“อุไรบอกว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปพวกนี้ เราก็น่าจะให้เธอหาคนผิดตัวจริงมาให้ได้”
ฮันนี่แทรกขึ้นมาอย่างเจ็บแค้น “โอ๊ย ยังไงมันก็เป็นคนไปแอบถ่ายมา ยังไม่เลวพออีกเหรอคะ”
“เรื่องทำข่าวนั้น เธออาจทำไปตามสัญชาตญาณนักข่าวบันเทิง ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับช่องเราไม่ใช่หรือครับ แถมภาพที่ถ่ายมานั่นก็เกิดขึ้นจริงทั้งนั้น”
ฮันนี่อึกอัก อาทิตย์พูดต่อ
“เรื่องนี้ถ้าไม่มีคนปล่อยภาพไป ความเสียหายก็ไม่เกิด ถ้าแม่ไล่อุไรออกไป เราก็จะไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนทำ”
บรรยากาศเงียบ ราศีหันไปมองหน้าอุไรวรรณแล้วหยุดคิดนิดหนึ่ง
“เอาล่ะ ฉันจะยังไม่ไล่เธอออก แต่เธอต้องหาคนปล่อยข่าวตัวจริงมาให้ได้ เพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง”
อุไรวรรณค่อยใจชื้นขึ้นมา
“ฉันให้เวลาเธอภายในอาทิตย์นี้เท่านั้น”

ชิวาว่าพาฮันนี่เดินออกมาหน้าตึก กองทัพนักข่าวที่รออยู่ ก็รีบกรูเข้าหาทันที
“ก่อนหน้านี้ที่ปฏิเสธมาตลอด พอมีภาพนี้จะว่ายังไงครับ”
ฮันนี่ทำเป็นยิ้มเครียดๆ “อ๋อ นี่ยังไม่เห็นภาพเลยค่ะ คือนี่เป็นคนเซ้นซิทิฟ ไม่ค่อยกล้าอ่านข่าวดูคลิปอะไร ยังไงขอกลับไปดูก่อนนะคะ”
นักข่าวอีกคนรีบบอก “ไม่ต้องเลยครับ”
พูดพลางหยิบรูปที่โดนแอบถ่ายออกมาชูให้ดู
“นี่ไงครับรูปนี้ พี่พกมาเลย เค้าเห็นกันหมดทั้งประเทศแล้วนะครับ ทำไมน้องฮันนี่ไม่เห็น”
ฮันนี่หน้าเหวอ ตอบไม่ถูก
“สรุปว่าแอบคบกันจริงๆ เหรอคะ”
ชิวาว่ารีบช่วยพูด “เอ่อ พี่ๆ คะ วันนี้งดสัมภาษณ์ก่อนนะคะ น้องฮันนี่ยังไม่พร้อมตอบคำถามค่ะ ขอตัวค่า ขอตัว”
นักข่าวไม่ยอม พากันกระหน่ำถ่ายรูปและพยายามที่จะสัมภาษณ์ให้ได้

อุไรวรรณหน้าเสียเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง เดินเข้ามาในหน่วยบันเทิงพร้อมกับเรด้า ขณะที่พวกนัตตี้ บ๊วย และพนักงานกำลังยืนกินพิซซ่ากันอย่างเอร็ดอร่อย
“อ้าว เรด้า อุไร มาพอดีเลย มามะ มากินพิซซ่ากัน อร๊อย อร่อย” นัตตี้ทำเป็นออกปากชวน
“โอกาสอะไร” เรด้าย้อนถาม
“ฉลองคนโดนไล่ออ...อุ๊ย ไม่ใช่”
บ๊วยรีบบอก “นัตตี้เค้าถูกหวย เลยซื้อมาเลี้ยงน่ะ”
เรด้ายิ้มอย่างรู้ทัน “แหม โชคดีกะทันหันนะคะ แต่เอ๊ะ....” พลางหันมาทางอุไวรรณ “จากประสบการณ์การสแกนของพี่นะ ไอ้พวกที่อยู่ๆ ก็มีตังค์ซื้อขนมมาแจกเพื่อนทั้งที่ไม่เคยทำ แสดงว่ามันเพิ่งได้เงินมาโดยมิชอบนะ”
นัตตี้ถึงกับพิซซ่าติดคอทันที “ไม่เสมอไปหรอกย่ะ พูดมั่วๆ งั้นไม่ต้องกินเลย”
ว่าแล้วก็ไล่หยิบพิซซ่าจากมือคนอื่น รวมทั้งบ๊วยที่กำลังกัดอยู่ ใส่ถาดแล้วเดินออกไปเลย
“อ้าว อดกัน เรด้าอ่ะ พูดไมวะ”
อุไรวรรณมองนัตตี้อย่างสงสัยในพฤติกรรม

จอทีวี. ที่บ้านของอุไรวรรณที่เปิดทิ้งไว้ กำลังออนแอร์รายการข่าวบันเทิงของเออออกับห่อหมก
“sms” ในวันนี้มีหัวข้อว่า...”
เออออพูดนำขึ้นมา ก่อนที่ห่อหมกจะรีบเสริม
“คุณคิดยังไงกับอีพวกหน้าด้าน ที่ชอบแย่งผัวชาวบ้าน”
อุไรวรรณที่กำลังดูคลิปฮันนี่อยู่หน้าโน้ตบุ๊ค ยิ่งดูก็ยิ่งเครียด
“มันหลุดไปได้ไงวะ”
พลันก็ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดหน้าบ้าน เธอรีบเดินไปแง้มม่านชะโงกดู เห็นเพ็ญศรีลงมาจากรถของผู้ชายคนหนึ่ง แต่เธอมองไม่เห็นว่าเป็นใคร
“ก็ยังดีมีคนรวยๆ เลี้ยง จะได้ไม่เครียดตอนลูกตกงาน”
ส่วนที่จอทีวี ตัดมาที่อัปสรสวรรค์กำลังให้สัมภาษณ์
“ฟ้ายังไม่ทราบเรื่องเลยนะคะ ยังไงก็คงเป็นเรื่องของคุณฮันนี่ ฟ้าขอผ่านนะคะ”
ห่อหมกรีบสรุปฉับ “แหม อย่างนี้บัลลังก์นางเอกเบอร์หนึ่งของช่อง SUN ก็ต้องเป็นของ she ไปเลยสิ เค้าเรียกว่าลาภลอยแต๊ๆ เจ้า”
เออออทำหน้าหยัน “ แหม แต่ข่าว she ก็เยอะอยู่นะฮะ จะได้เหรอ”
“เอออีนี่ ไม่ต้องมาเถียง”
ห่อหมกพูดพลางเอาค้อนฟาดหัวเออออ จนจอสั่น
อุไรวรรณเห็นข่าวในทีวี ก็ยิ่งแค้นหนักเข้าไปอีก
“ลาภลอยงั้นเหรอ”

เดือนเด่นนั่งคุยอยู่กับอัปสรสวรรค์ที่ห้องรับแขก
“แล้วคุณราศีเขาว่ายังไงบ้างล่ะ เรื่องละครที่เล่นกับยัยฮันนี่ ฮันเน่านั่นน่ะ จะกระทบอะไรกับแกมั้ย”
“ไม่ค่ะ คุณป้าบอกเป็นเรื่องส่วนตัวเค้า”
เดือนเด่นทำปากเบะ “เรื่องส่วนตัว เป็นเมียน้อยเค้าเนี่ยนะ เฮ้ย นี่มันเรื่องใหญ่ เลว อีผู้หญิงพวกนี้ โรคจิต ชอบทำให้เมียลูกเต้าเค้ามีปัญหา ครอบครัวแตกแยก เฮ้อ นางเอกเน่าๆ แบบนี้ยังเลี้ยงไว้อยู่อีก ยังไงช่วงนี้แกก็ประจบผู้ใหญ่ไว้หน่อยแล้วกัน อะไรมันก็เกิดได้”
ฝ่ายลูกสาวทำเป็นไม่สนใจ

ภาพในทีวี เป็นรายการทอล์กโชว์ พิธีกรกำลังสัมภาษณ์คุณโซเฟีย แกนนำสมัชชาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของเดือนเด่น
“ในความเห็นของแกนนำสมัชชาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแห่งประเทศไทย คุณโซเฟียคิดว่าแนวโน้มการจดทะเบียนซ้อน จะเพิ่มมากขึ้นหรือไม่อย่างไรครับ”
“แน่นอนค่ะ ดิฉันคิดว่าเราควรจะปฏิรูประบบการจดทะเบียนสมรสเสียใหม่”
เดือนเด่นเห็นโซเฟียในจอทีวี ก็ตกใจ
“ต๊าย ยัยโซเฟีย ไม่เจอกัน 30 ปี แก่แร่ด จำไม่ได้เลย”

อัปสรสวรรค์รีบฉวยจังหวะ เดินเลี่ยงออกไป

โซเฟียหันมาชี้หน้าจอ
 
“ไม่มีผู้หญิงคนไหน อยากได้ยินคนเค้าเรียกว่าเป็นเมียหลวงหรอกใช่ไหมคะ”
เดือนเด่นเห็นด้วยสุดๆ “ ถูก”

ราศีนั่งตรวจงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน ครู่หนึ่งอาทิตย์ก็เดินเข้ามา
“คุณแม่ครับ เดี๋ยวผมแวะไปกองถ่ายหน่อยนะครับ”
“อืม เห็นวันนี้จะปิดกล้องแล้วนี่ ปิดไปซะที ยิ่งนานก็ยิ่งบาน บานทั้งงบ ทั้งข่าวฉาว”
อาทิตย์ยิ้ม แล้วทำท่าจะหันหลังออกไป แต่ช้ากว่าเรด้า ที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามา
“เรื่องด่วนค่ะ”
2 แม่ลูกทำหน้าแปลกใจ

หน้าประตูทางเข้าตึก SUN เต็มไปด้วยผู้คนจากการชุมนุมของสมัชชาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 30 คน ที่มีตั้งแต่อายุสิบห้ายันคุณย่าแปดสิบ
เหล่าผู้ชุมนุมชูป้ายประท้วง มีข้อความ อาทิ
“NO SUPPORT ดาราเมียน้อย”
“หยุดสนับสนุนดารามั่ว สังคมเสื่อมพอแล้ว”
“ฮันนี่ ออกไป! “
“มัวเอาแต่เรตติ้ง เมียตัวจริงจะร่ำไห้”
บางคนถึงกับทำหุ่นฟางฮันนี่ตอนทำหน้าตลกๆ มาชูประท้วงด้วย
เรด้ากับบ๊วยพากันมาสังเกตการณ์และถ่ายภาพ จริยาลงจากแท็กซี่เดินฝ่าเข้ามาด้วยความงง
บนเวทีประท้วง โซเฟียแกนนำสมัชชาเข้าไปยืนตรงแสตนด์ที่มีไมโครโฟนจากสำนักข่าวต่างๆ วางรออยู่ มีเหล่าเมียหลวงยืนเป็นวอลล์เปเปอร์ด้านหลัง กองทัพผู้สื่อข่าวเข้าไปรุมล้อมถ่ายภาพ
“ตามที่คุณฮันนี่ อมราวดี นักแสดงชื่อดัง ได้มีข่าวเสื่อมเสียเชิงชู้สาวกับสามีผู้อื่น ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ชั่วช้าและผิดศีลธรรม อันจะนำไปสู่ปัญหาระดับครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ดิฉันในฐานะแกนนำสมัชชาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอฝากหนังสือเรียกร้องไปถึงคุณราศี ผู้บริหารสถานีได้พิจารณาดำเนินการลงโทษนักแสดง ผู้นี้ โดยขอให้ยุติบทบาทการเป็นนางเอก และแบนผลงานเป็นเวลา 3 ปี นับจากนี้เป็นต้นไป มิเช่นนั้นทางสมัชชาจะโจมตีสถานีของท่านทุกวิถีทาง เอ้า พวกเรา ฮันนี่....”
พวกเมียหลวงตะโกนพร้อมชูตะหลิว ทัพพี “ออกไป”
“ฮันนี่”
“ออกไป”

ราศีนั่งอ่านหนังสือร้องเรียนของผู้ชุมนุม เรด้ารีบบอก
“ผู้ชุมนุมจะใช้วิธีเดินเคาะประตูตามบ้าน เรียกร้องให้คนไม่ดูละครของช่องเรา และปิดทางไม่ให้รถเข้าออก จนกว่าจะมีมาตรการกับฮันนี่ค่ะ ในอินเตอร์เน็ต เว็บที่ให้คนลงชื่อต่อต้านฮันนี่ก็ปาไปหนึ่งแสนคนแล้วค่ะ กระทู้ด่าอีกประมาณ 60 กระทู้”
ราศีวางจดหมายลงบนโต๊ะ สีหน้าเคร่งเครียด
“พอล่ะ ฉันปวดหัว โทร. ตามฮันนี่มาหน่อยซิ”

ที่ลานจอดรถของตึก SUN ด้านหลังกลุ่มผู้ชุมนุม ปกรณ์กำลังยืนรออย่างร้อนใจ ครู่หนึ่งอุไรวรรณก็เดินเข้ามา
“โห่ ทำไมมาช้าจังวะไร”
“โทษที ฉันแวะไปซื้อของมาน่ะ แล้วนั่นเค้ามาทำอะไรวะเยอะแยะ”
“ช่างเหอะ ไปๆ เดี๋ยวไม่ทัน”
ตากล้องหนุ่มรีบเดินออกไป อุไรวรรณเหลือบมองกลุ่มผู้ชุมนุม แล้วเดินตามไป

ที่กองถ่าย ซึ่งปักหลักถ่ายทำกันที่สะพานยาวแห่งหนึ่ง ทีมงานกำลังเตรียมพร้อมกับฉากสุดท้ายของเรื่อง ที่ภีมจะบอกรักอัปสรสวรรค์ พี่หมีกำลังแนะนำบทให้ทั้งคู่
“เดี๋ยวฉากสุดท้ายนี้ จะเป็นฉากภาคินขอยุรฉัตรแต่งงานนะคะ เทคเดียวน่าจะผ่านนะฮะหมูๆ”
ครู่หนึ่งอุไรวรรณก็เดินเดินเข้ามาพร้อมกับปกรณ์ พวกทีมงานมองตามกันเกรียวเพราะสวยขึ้นมาก
อัปสรสวรรค์หันมาเห็น ต่างฝ่ายก็ทำเป็นไม่สนใจกัน
ภีมมองอุไรวรรณตาเยิ้ม อีกฝ่ายยิ้มตอบ
“เฮ้ยไร เดี๋ยวแกเก็บภาพทั่วๆ เลยนะ”
ตากล้องหนุ่มหันมาบอก แล้วเดินออกไป อุไรวรรณหยิบกล้องขึ้นมาดูอย่างเซ็งๆ
“สูงสุดสู่สามัญ เหยี่ยวข่าวเปิดหน้า กลับไปเห็นแค่มือกับไมค์เหมือนเดิม”
จากนั้นก็เดินไปหลบมุม ดูซ้อม เห็นภีมคุกเข่าตามบทเพื่อขอแต่งงาน อัปสรสวรรค์พยักหน้า อีกฝ่ายรีบล้วงกระเป๋า แล้วหยิบกล่องแหวนออกมาเปิด เห็นแหวนเพชรประกายวาบ
อุไรวรรณยิ้มเหมือนมีแผน เสียงพี่หมีตะโกนสั่ง
“เอ้าๆ อีก 15 นาที สแตนด์บาย นะ”
ภีมรีบเก็บกล่องแหวนใส่กระเป๋ากางเกง แล้ววิ่งเข้าไปหลบร้อนในรถตู้ที่จอดแอบไว้ในดง

ภีมเข้ามานั่งในรถตู้ตรงเบาะข้างคนขับแล้วสตาร์ทรถเปิดแอร์
“โอย ร้อนตับจะแตก” บ่นแล้วก็รีบปรับเอนเบาะแล้วเอาผ้ามาปิดตา “นอนซะหน่อยเว้ย แฮ้งค์ไม่หาย”
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงประตูรถเลื่อนเปิดและปิดอย่างเร็ว พร้อมกับที่อุไรวรรณกระโดดคร่อมตัว
“เฮ้ย” พอเขาเปิดตามา ก็ตกใจ “คุณ”
อุไรวรรณมองตายั่ว พร้อมกับใช้มือลูบไล้ใบหน้าภีมเบาๆ
“เมื่อกี๊คุณมองฉันไม่ใช่หรอ”
ฝ่ายถูกถามมองเจ้าของคำถามอย่างอึ้งๆ จากนั้นอุไรวรรณก็ก้มลงไป ใช้จมูกค่อยๆ ไซร้ไปที่ซอกคอ จนภีมตัวเกร็ง ก่อนจะเป็นฝ่ายไซร้กลับอย่างหื่นกระหายทันที
อุไรวรรณหน้าซีด ตกใจกลัว รีบใช้มือควานๆ ไปที่กางเกงอีกฝ่าย
“จะเริ่มเลยใช่มั้ย”
ภีมกลับเป็นฝ่ายรุก อุไรวรรณหน้าเหวอ โดนทั้งกอดทั้งหอม
เท้าภีมยันไปโดนเบรคมือ รถตู้ไหลออกมาจากดง พวกช่างไฟกำลังปูเสื่อตำส้มตำกันอยู่พากันกระโดดหลบพรวด รถไหลไปนิดหนึ่งก็จอด
ภีมยังรุกอุไรวรรณไม่ยั้ง ฝ่ายหลังรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง พอคว้ากล่องแหวนมาได้ ก็กระเด้งออกแล้วเปิดประตูวิ่งออกไปเลย ทิ้งให้ภีมมองตามแบบงงๆ
“เฮ้ย คุณ”

อุไรวรรณออกมาจากรถแล้วเดินลิ่วไป พวกช่างไฟพากันงง

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 6 (ต่อ)

เสียงพี่หมีตะโกนสั่ง
 
“เอ้า สแตนด์บาย พร้อมๆ จะปิดกล้องแล้วโว้ย วันนี้ไม่มีอะไรจะมาห้ามได้นอกจากโลกแตกกับนักแสดงตาย เร็วเลย”
ภีมรีบวิ่งเข้ามายืนคู่กับอัปสรสวรรค์ พี่หมีรีบถาม
“กล่องแหวนพร้อมยัง”
พระเอกหนุ่มรีบล้วงกระเป๋ากางเกง แต่ไม่เจอกล่องแหวน
“เดี๋ยวแป๊บนะครับ”
พี่หมีถอนใจเฮือก “นั่นไง กูว่าแล้ว”
ภีมรีบวิ่งกลับไปที่รถตู้ทันที แล้วมองๆ ไปที่เบาะ เห็นกล่องแหวนวางอยู่บนเบาะ เขารีบหยิบกล่องแหวนแล้ววิ่งกลับไป
อุไรวรรณแอบยืนมองอยู่ข้างรถอย่างพอใจ

“โอเค ห้า สี่ สาม สอง ไป”
พี่หมีตะโกนให้สัญญาณ ภีมรีบคุกเข่าต่อหน้าอัปสรสวรรค์
“แต่งงานกับผมนะครับ”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าปลาบปลื้ม จะร้องไห้ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ ภีมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องแหวนออกมา แล้วค่อยๆ แง้มกล่องแหวน เมื่อกล่องเปิดออกมา แมงมุมตัวใหญ่ ก็กระโดดออกมาจากในนั้น
อัปสรสวรรค์ปิดปาก ตาโต ช็อกสุดขีด ก่อนจะล้มลงไปทั้งยืน ทีมงานลุกยืนกันทั้งกอง แมงมุมกระโดดออกจากกล่องไป โดยไม่มีใครเห็น
ภีมหันกล่องแหวนมาดู ก็ไม่เห็นมีอะไร อุไรวรรณแอบยิ้มอย่างสะใจ ปกรณ์ตกใจ รีบวิ่งเข้าไปทันที “ฟ้า ฟ้า ฟ้า”
เขาพยายามร้องเรียก ก่อนที่จะตัดสินใจอุ้มอัปสรสวรรค์แล้ววิ่งออกไปทันที
พี่หมีทรุดกายคุกเข่ากุมหัวจะร้องไห้ “ฮือ กูไม่เอาแล้ว กูไม่กำกับแล้วละคร กูจะเข้าป่า กูจะใช้ชีวิตกับสัตว์ป่า กูจะบ้า....”
แมงมุมคลานมาหยุด ก่อนที่อุไรวรรณจะค่อยๆ เอื้อมมาหยิบไป

ปกรณ์กับปูเปรี้ยวช่วยกันเข็นเตียงอัปสรสวรรค์เข้ามาในโรงพยาบาล ซุปตาร์สาวหลับตานิ่ง ที่จมูกถูกครอบด้วยหน้ากากออกซิเจน
จนถึงห้องฉุกเฉิน พยาบาลรีบรับเตียงต่อไป
“แย่แล้วๆ” ปูเปรี้ยวพนมมือท่วมหัว “เจ้าประคู้ณขออย่าให้นางฟ้าเป็นอะไรเล้ย”
ปกรณ์นึกเป็นห่วงอัปสรสวรรค์เจียนใจจะขาด
“มาดามจะพักงานนี่”
ฮันนี่ถามย้ำเสียงดังลั่น เมื่อได้ยินประกาศิตจากราศี
“ฉันจำเป็นต้องทำ กระแสต่อต้านเธอแรงมาก ดันทุรังต่อไปจะได้น้อยกว่าเสีย”
ฮันนี่โกรธจัดทุบโต๊ะเสียงดัง ชิวาว่าสะดุ้งโหยง
“ทำแบบนี้กับนี่ไม่ได้นะคะ นี่สร้างรายได้ให้กับสถานีตั้งเท่าไหร่”
ราศีถอนหายใจ “เธอทำตัวเองนะ หยุดไปซักพัก ให้คนลืม แล้วค่อยกลับมาใหม่ก็ได้”
“ไปฟังเสียงคนพวกนั้น มันมาจากไหนก็ไม่รู้ พวกเขียนด่าในเน็ต ก็แค่คน 2-3 คน เปลี่ยนชื่อไปมา”
“แล้วตอนที่เค้าเขียนชม ทำไมไม่คิดแบบนี้บ้างล่ะ” ราศีย้อนกลับ
ฮันนี่ทำท่าจะร้องไห้ “โธ่ มาดาม มาดามช่วยใครมาตั้งเยอะ เรื่องแค่นี้ทำไมช่วยนี่บ้างไม่ได้”
“เรื่องนี้มันแรงเกินไป มันทำลายภาพลักษณ์นางเอกของเธอ ใครอยากจะดูละครที่นางเอกเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน”
ฮันนี่ชักโมโห “นี่ไม่ได้เป็นชู้กับใครนะคะ ยังไงนี่ก็ไม่ยอม อนาคตนี่จะมาดับง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้”
ราศีส่ายหน้าช้าๆ “เธอดับอนาคตตัวเอง”
ฮันนี่ดวงตาวาววับ โกรธจนตัวสั่น หยิบเอกสารสัญญาตรงหน้าขึ้นมา
“เอาสิคะ ถ้ามาดามพักงานนี่ นี่จะฉีกสัญญา ชาตินี้จะไม่เล่นอะไรให้อีกเลย”
ราศีถอนหายใจแล้วหยิบเอกสารในมือฮันนี่มา แล้วค่อยๆ ฉีกสัญญานั้น ก่อนจะโยนสัญญาที่ฉีกลงตรงหน้า แล้วจ้องมองฮันนี่ด้วยสายตานิ่งราวนางพญา อันเป็นสายตาที่ใช้กำราบบริวารทั้งปวง
ฮันนี่เป็นลมล้มตึง ชิวาว่ารีบเข้าไปดู
“น้องนี่”
ราศียืนนิ่ง อย่างเหนื่อยใจ จังหวะนั้น อาทิตย์ก็กดมือถือขึ้นรับ
“ว่าไงครับพี่ปูเปรี้ยว”

เมื่อได้ยินทางปลายสายแจ้งเหตุ เขาก็หน้าตื่น ตกใจ

โซเฟียคลี่จดหมายออกแล้วประกาศก้องที่หน้าเวทีม็อบ
 
“คุณราศี ตกลงแบนผลงานฮันนี่แล้ว เป็นเวลา 3 ปี”
ผู้ชุมนุมพากันส่งเสียงร้อง พร้อมกับเอาตะหลิวกับทัพพีตีกัน
โซเฟียลงจากเวทีแล้วเดินไปหลังตึก ก่อนจะหลบมุมยกมือถือขึ้นมาคุย
“ฮัลโหล ฉันเห็นตัวเลขในบัญชีแล้วนะ ขอบคุณมาก วันหลังมีอะไรเรียกใช้ได้”
เดือนเด่นที่อยู่ทางปลายสาย กดวางสาย พลางยิ้มอย่างพอใจ
“จบสิ้นซะที อีดารากินผัวชาวบ้าน ตำแหน่งนางเอกอันดับหนึ่งของช่องสมควรเป็นของลูกสาวฉัน”
จากนั้นก็หันขวับเข้าโรงพยาบาลไป
อัปสรสวรรค์นอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีปกรณ์กับปูเปรี้ยวคอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆ พลันเสียงมือถือของปูเปรี้ยวก็ดังขึ้นมา เธอรีบหยิบมากดรับ
“ค่ะ คุณหญิง อ๋อ อยู่ห้องเบอร์....เอ จำไม่ได้ ซักครู่นะคะ มาถึงแล้วหรือคะ” พูดพลางเอามือป้องโทรศัพท์แล้วหันมากระซิบกับปกรณ์ด้วยความเป็นห่วง “คุณหญิงมาแล้ว เธอกลับไปก่อน”
ตากล้องหนุ่มพยักหน้าเซ็งๆ พร้อมกับที่ปูเปรี้ยวเดินออกไป
ขณะที่ปกรณ์กำลังจะเดินออกไป มือของอัปสรสวรรค์ก็เอื้อมมาจับแขน เขารีบหันไป ซุปตาร์สาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
“เป๋า ฉันกลัว”
ปกรณ์กุมมืออัปสรสวรรค์ไว้ “ไม่เป็นไรนะฟ้า ฟ้าเป็นยังไงบ้าง”
เขานึกอยากจะปลอบเธอต่อ แต่ได้ยินเสียงปูเปรี้ยวคุยกับเดือนเด่นใกล้เข้ามาแล้ว

ทั้งคู่เดินเข้ามาถึงในห้อง พร้อมกับที่ปกรณ์หายไปแล้ว เดือนเด่นรีบเข้าไปดูลูกสาว
“เป็นไงบ้าง”.
ปกรณ์แอบมองจากหน้าห้อง หน้าตาดูเป็นกังวล ก่อนตัดใจหันหลังเดินออกไป

ตากล้องหนุ่มเดินออกมาที่หน้าโรงพยาบาล พอเห็นรถอาทิตย์แล่นเข้ามาจอด เขาก็ทำท่าจะเดินเลี่ยงไป แต่จริยา ที่เปิดประตูลงมา รีบตะโกนทัก
“เป๋า เจ้ฟ้าอยู่ห้องไหน”
เขาหันมองอย่างงงๆ ว่าทำไมทั้งคู่ถึงมาด้วยกันได้ จริยาเห็นสายตานั้น ก็รีบแก้ตัว
“เอ่อ พอดีเจอคุณอาทิตย์ เค้าบอกว่าเจ้ฟ้าเข้าโรงบาล ก็เลยชวนมาด้วยกัน”
“ห้อง 801”
“เออๆ นี่จะกลับแล้วเหรอ ขึ้นไปด้วยกันก่อนสิ”
อาทิตย์เดินลงมาพอดี ปกรณ์หันมองหน้า ก่อนจะพูดกับจริยา
“ขึ้นไปเถอะ”
จากนั้นก็รีบเดินออกไป จริยามองอย่างงงๆ อาทิตย์พยักหน้าชวนอีกฝ่ายเดินเข้าไปด้วยกัน

ฮันนี่กำแน่น น้ำตาคลอเบ้า พลางมองจากระเบียงชั้นบนของตึก มายังม็อบเมียหลวงด้วยความแค้น ที่บัลลังก์นางเอกต้องสูญสิ้นอย่างไม่คาดฝัน ชิวาว่ายืนหน้าเสียอยู่ข้างหลัง
“อีอุไร”


ทางด้านอุไรวรรณ ก็ยืนคุยมือถืออยู่ที่ข้างถนน
“หวัดดีค่า หนังสือพิมพ์ดาราสแควร์ ใช่ไหมคะ จากบริษัทเครื่องเพชรลามู พอดีเจ้านายดิฉันจะลงโฆษณาน่ะค่ะ ช่วยส่งใบเสนอราคามาหน่อยได้ไหมคะ เอ๊ะ เจ้านายดิฉันอยากทราบว่าใครเป็นคนทำข่าวภาพหลุด คุณฮันนี่น่ะค่ะ ท่านชอบมาก บอกไม่ได้เหรอคะ ค่ะ ไม่เป็นไร”
เธอรีบกดวางสาย พลางถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปกดลิฟต์ ระหว่างรอ ก็หยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนๆ ดู
เห็น IG ของนัตตี้ มีภาพถ่ายเจ้าของ IG อยู่หน้าป้ายร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่ง พร้อมข้อความ
“มีคนพามาเลี้ยงอีกแว้ว หุหุ”
“กินร้านหรูซะด้วย ช่วงนี้รวยจริงนะนังนัตตี้”
จู่ๆ อุไรวรรณก็คิดอะไรขึ้นมาได้ รีบเลื่อนดูภาพก่อนหน้านี้ เห็นภาพถ่ายนัตตี้สะพายกระเป๋าแอร์เมส สีฟ้าแปร๋น พร้อมข้อความ
“ในที่สุดก็ได้มาแล้ว เย้”
“โห กระเป๋าแอร์เมส มันถูกหวยเท่าไหร่วะเนี่ย”
อุไรวรรณเริ่มคิดปะติดปะต่อเรื่องจากเมื่อตอนกลางวัน ที่เห็นนัตตี้ทำเสียงเมี้ยวอยู่ด้านหลังโน้ตบุ๊ค ก่อนจะเห็นโน้ตบุ๊คเปิดอ้าอยู่ กระทั่งตอนที่อีกฝ่ายซื้อพิซซ่ามาเลี้ยงเพื่อนๆ คำพูดของเรด้าแว่วอยู่ในหู
“จากประสบการณ์การสแกนของพี่นะ ไอ้พวกที่อยู่ๆ ก็มีตังค์ซื้อขนมมาแจกเพื่อนทั้งที่ไม่เคยทำ แสดงว่ามันเพิ่งได้เงินมาโดยมิชอบนะ”
เธอเริ่มครุ่นคิด

“หรือว่าจะเป็นมัน รวยเพราะถูกหวยหรือขายข่าว เดี๋ยวก็รู้”

“คุณนัตตี้กลับไปแล้วครับ”
 
อุไรวรรณที่กำลังยืนคุยกับพนักงานต้อนรับที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน แกล้งทำหน้าเสียดาย
“โธ่ แล้วมากับใครคะ”
“อ๋อ ป๋าต๋อยครับ”
อุไรวรรณรีบถามต่อ “ต๋อยไหนอ่ะ”
“ป๋าต๋อย ที่เป็นเจ้าของหนังสือบันเทิงไทยนิวส์ไงคุณ ใส่สร้อยทองเส้นเท่านี่”
พูดพลางทำนิ้วให้ดู อุไรวรรณเริ่มได้เค้า

ป๋าต๋อยกำลังนั่งตรวจงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้น เขารีบหยิบมากดรับ
“ครับ หวัดดีครับ”
อุไรวรรณที่อยู่ทางปลายสายโพล่งออกมาทันที “ไอ้ต๋อยใช่มั้ย”
ป๋าต๋อยตกใจ “อ้าวๆ ใครอ่ะ เพื่อนเล่นมึงเหรอ”
“ไอ้ต๋อย ฉันเป็นหัวหน้าแฟนคลับพี่ฮันนี่ แกใช่มั้ยที่ปล่อยข่าว”
“พูดบ้าอะไร ไม่รู้เรื่องโว้ย แค่นี้นะ”
อุไรวรรณแกล้งพูดดักคอ “ฉันรู้นะว่าแกได้มา 2 คลิป ถ้าแกปล่อยอีก ฉันเอาระเบิดไปปาโรงพิมพ์แน่”
ได้ผล ป๋าต๋อยชักสนใจ มองซ้ายมองขวาแล้วกระซิบถาม
“เดี๋ยวก่อนหนู เรื่องคลิปฮันนี่น่ะ ฉันรู้ แต่ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อยหรอก ว่าแต่มันมีคลิปเดียวไม่ใช่เหรอ อีกคลิปคืออะไรอ่ะ บอกป๋าเป็นวิทยาทานหน่อย”
“อย่าทำเป็นโง่ ก็คลิปในโรงแรมไง ที่ถอดเสื้อผ้าหมดทั้งคู่”
ป๋าต๋อยตาโต “อะไรนะ แล้วเค้าเข้าไปทำอะไรกันในโรงแรม”
อุไรวรรณยิ้มหยัน “ บีบสิวที่ก้นกันมั้งไอ้โง่ ย้ำนะ ถ้าแกปล่อยคลิปนี้ไป ฉันจะฆ่าลูกเมียแก จะเผาบ้านแกให้ไปนอนวัด จำไว้”
พูดจบก็กดวางสายทันที ป๋าต๋อยทำหน้างง แต่เพียงครู่เดียวก็กลับมายิ้มกริ่ม
“หึ จะฆ่าเมีย เผาบ้านก็ช่างเถอะ ได้ข่าวนี้มา รวย”
ว่าแล้วก็หยิบมือถือมากดโทร. ออกทันที

อุไรวรรณวางสายจากป๋าต๋อยแล้วก้มหน้าก้มตาเดิน โดยไม่ได้มอง จู่ๆ เสียงอาทิตย์ก็ดังขึ้นมา
“จับตัวคนปล่อยคลิปได้รึยังครับ”
เธอหันไปเห็น ก็รีบตอบ “เอ่อ ยังเลยค่ะ โทร. เช็คนักข่าวหมดทั้งวงการ ไม่มีใครบอกซักคน”
“ใครจะไปบอกคุณล่ะครับ แหล่งข่าวมีค่ายิ่งกว่าเพชร”
“แล้วนี่เรื่องละครจะทำยังไงต่อคะ” อุไรวรรณย้อนถามกลับ
“ทำไงได้ล่ะครับ ก็คงต้องฉายต่อไป ข่าวอาจจะทำให้ดังขึ้นก็ได้ มีอะไรให้ผมช่วย บอกได้นะครับ”
อีกฝ่ายพยักหน้านิดหนึ่ง “ จะกลับแล้วหรือคะ”
“อ๋อ ยังครับ วันนี้เหนื่อยมากๆ เลย นี่จะไปจัดการเรื่องคอนโดให้จิ๋วต่อน่ะครับ”
อุไรวรรณขมวดคิ้วสงสัย เพราะเพิ่งทราบเรื่องนี้
“ผมเปิดให้เค้าห้องนึง จิ๋วยังไมได้บอกคุณเหรอครับ”
เหยี่ยวข่าวสาวส่ายหน้าแบบงงๆ

อุไรวรรณกับอาทิตย์เดินมาด้วยกันที่หน้าตึก ก่อนจะเห็นปกรณ์ยืนอยู่ก่อนแล้ว
อาทิตย์ไม่สนใจตากล้องหนุ่ม รีบหันไปลาอุไรวรรณ
“เจอกันครับ”
พอเขาเดินแยกออกไป อุไรวรรณก็เดินออกมาคุยกับปกรณ์
“ไง เป๋า ขวัญใจแกเป็นไงมั่ง”
“โอเค. แล้ว แกไม่ไปเยี่ยมมันมั่งเหรอ”
อุไรวรรณเบ้ปาก “ไม่มีเวลา นี่ก็กำลังหายใจ แหม นางฟ้าสมชื่อเลยว่ะ คนอื่นเค้าวุ่นวายกัน มันนอนสบาย” จากนั้นก็รีบยิงคำถามต่อ “ แกรู้เรื่องคอนโดไอ้จิ๋วยัง”
ตากล้องหนุ่มสายหน้า แปลกใจ “คอนโดไหน จิ๋วมันซื้อคอนโดแล้วเหรอ”
“ได้ข่าวคุณอาทิตย์เค้าซื้อให้ เค้าซื้อให้เรื่องอะไรวะ”
“ไอ้เสี่ย โชว์รวย ไอ้จิ๋ว”
ปกรณ์แอบเป็นห่วงจริยา ก่อนจะถอนใจเฮือกแล้วเดินออกไป อุไรวรรณยังคาใจ ระคนอิจฉา

จริยากำลังเดินออกจากตึก จะกลับบ้าน ปกรณ์รีบเข้ามาขวาง
“เฮ้ย จิ๋ว”
“เอ๊า ไง กลับแล้วเหรอ”
ตากล้องหนุ่มทำหน้านิ่ง “มีคนเปิดคอนโดให้จิ๋วเหรอ”
จริยาอึ้งไปนิด ก่อนพยักหน้า “ เอ่อ ใช่ คุณอาทิตย์ไง ก็เนี่ย เตรียมไว้แล้วว่าวันเข้าไปอยู่จะชวนแก เจ้ฟ้า เจ้ไร ไปปาร์ตี้กัน”
ปกรณ์ไม่สนุกด้วย รีบถามแทรกต่อ “แล้วเค้าเปิดให้แกทำไม”
อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดให้คลายใจ “อ๋อ เค้าอยากให้ฉันกับแม่อยู่ที่ดีๆ กลัวภาพลักษณ์ศิลปินจะไม่ดี อะไรประมาณนั้นไง”
“แล้วมันเปิดให้ฟรีๆ เลยเหรอ”
“อื้อ”
ปกรณ์ยังติดใจ “ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนเลย”
จริยาเริ่มโมโห “เออ”
ตากล้องหนุ่มมองหน้า ก่อนจะถามเสียงดัง “แล้วแก็เอา? นี่แกโง่หรืองกกันแน่วะ มีสมองรึเปล่า ผู้ชายแบบนั้น ไม่มีทางลงทุนแล้วไม่หวังอะไรหรอก”
“แล้วไง มาด่าฉันทำไมเนี่ย? ห่วงฉันด้วยเหรอ” เธอย้อนถามด้วยน้ำเสียงเจือประชด
เขาถึงกับอ้ำอึ้งไปนิดหนึ่ง “ก็...ก็...เพื่อนกัน”
จริยาที่ลุ้นรอฟังคำตอบ ถึงกับปี๊ดขึ้นมาเลย
“นี่ ถ้าแกไม่ห่วง ก็อย่ามาทำเป็นหมาหวงก้าง”

พูดจบก็เดินงอนออกไป ปกรณ์มองตามอย่างอึ้งๆ

ที่โต๊ะทำงานของอุไรวรรณมีโน้ตบุ๊ควางอยู่
 
นัตตี้เดินย่องเข้ามา พลางหันซ้ายขวา พอเห็นว่าไม่มีใคร ก็รีบลงนั่ง แล้วแอบเปิดเครื่องทันที ก่อนจะรีบคลิกอย่างรวดเร็วและลนลาน เมื่อเจอไฟล์ “คลิปฮันนี่ 2” ก็ยิ้มพอใจ
จู่ๆ ไฟก็สว่างพรึ่บ นัตตี้ตกใจ รีบลุกขึ้น พอเห็นอุไรวรรณกับเรด้าเดินเข้ามา ก็ตะลึง ช็อก

จอทีวีในห้องประชุม กำลังฉายภาพจากกล้องแอบถ่าย เห็นนัตตี้แอบเปิดโน้ตบุ๊คของอุไรวรรณ
ทุกคนจ้องจอตาเขม็ง นัตตี้หน้าซีดเผือด พยายามหาข้ออ้าง
“เอ่อ นัตตี้ไม่ได้ตั้งใจนะคะ ทีแรกนึกว่าเป็นเครื่องนัตตี้ พอเปิดมาถึงรู้ว่าไม่ใช่”
ป๋าช้างส่ายหัวอย่างเอือมๆ นัตตี้หันไปด่าอุไรวรรณ
“แค่นี้จะมาหาว่าเป็นคนปล่อยข่าวไม่ได้หรอก”
ราศีจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
“แล้วข้อมูลพวกนี้ล่ะเธอจะว่ายังไง มีการโอนเงินจากบัญชีของบก.ข่าวหนังสือบันเทิงไทยนิวส์เข้าบัญชีเธอสองแสนบาท วันเดียวกับที่มีคลิปฮันนี่หลุดออกไป”
นัตตี้อึ้ง ก่อนจะแถต่อ “ก็แหม หนูขายสบู่ ขายครีมบำรุงผิว ป๋าต๋อยเค้าเลยโทร. มาสั่งซื้อไปให้เมียน่ะค่ะ”
อุไรวรรณยิ้มหยัน “ตั้งสองแสนเนี่ยนะ”
ราศีรีบตัดบท “พอเถอะ เมื่อเช้าฉันให้คนไปหาข้อมูลมาหมดแล้ว เพิ่งรู้ว่าเธอหากินกับการเอาข่าวเสียๆในช่องเราไปสาวไส้ให้สำนักอื่นมาตลอด”
นัตตี้มองหน้าราศีอึ้งๆ “อะไรอะคะ มาดามพูดไร”
“ช่องเรามีกฎชัดเจนสำหรับคนทำแบบนี้ คือการไล่ออกเท่านั้น แต่เธอยังไม่เคยทำผิด ฉันจะแค่ลงโทษ ให้เธอไปทำงานอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงานข่าว และการประสานงานคนนอกอีกต่อไป คุณช้าง ทำเรื่องโอนนัตตี้ไปอยู่ฝ่ายอำนวยการ”
นัตตี้ช็อก “ ไม่ได้นะคะมาดาม นัตตี้ถนัดงานนี้ คนรู้จักก็ตั้งเยอะ หน้าก็ทำมาเท่าไหร่ ป๋าช้างช่วยนัตตี้ด้วย”
ป๋าช้างทำหน้านิ่ง นัตตี้รีบหันมาทางกรณ์
“พี่กรณ์ช่วยด้วย”
กรณ์หน้าเสีย เพราะช่วยอะไรไม่ได้ นัตตี้หันไปเห็นหน้าอุไรวรรณยิ้มเยาะ ก็ยิ่งเดือด
“อีอุไร อีเลวเข้ากระแสเลือด”
พลันพุ่งเข้าไปตบอุไรวรรณ กรณ์ต้องรีบเข้าคว้าตัวไว้ พร้อมกับที่ราศีออกคำสั่ง
“หยุดเดี๋ยวนี้ ออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก”
“ถ้าไม่ให้นัตอ่านข่าว งั้นนัตก็ขอลาออกตรงนี้เลย” นัตตี้ยื่นคำขาด
กรณ์พยายามปราม “ใจเย็นๆ สิคะ”
“ไม่แคร์หรอกโว้ย ช่องใหม่ๆ เปิดตั้งเยอะแยะ ให้เยอะกว่านี้อีก”
ราศีส่ายหน้าเอือม “ตามสบาย”
นัตตี้ชี้หน้าด่ากราด “ฉันจะประกาศให้โลกรู้ ว่าผู้ใหญ่ที่นี่มันเฮงซวยห่วยแตก ไม่มีความยุติธรรม
มาดามก็จำไว้ด้วย จุดจบของ THE SUN น่ะ มันใกล้เข้ามาถึงแล้ว ส่วนแก อีอุไร แกไม่ตายดีแน่”
กรณ์รีบลากนัตตี้ออกไปจากห้อง เสียงเธอตะโกนด่าจนลับตาไป
ราศีหันไปพูดกับอุไรวรรณ “ฉันถือว่าเธอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้แล้ว ฉันจะไม่ไล่เธอออก
ส่วนเรื่องแอบไปถ่ายคลิปของคนกันเอง ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ฉันขอให้เป็นครั้งสุดท้าย”
อุไรวรรณยกมือไหว้ราศีก่อนจะมองอาทิตย์แล้วยิ้มให้

ราศีกลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว ปูเปรี้ยวรีบรายงาน
“หนูนางฟ้า คุณหมอให้นอนเช็คอาการต่อซักพักค่ะ”
“เฮ้อ ยุคมืดของ THE SUN รึไงนะ”
“แล้วเรื่องละครจะเอาไงดีคะ” ปูเปรี้ยวถามต่อ
“คิวฮันนี่ถ่ายจบไปแล้วคงไม่มีปัญหา ส่วนของหนูนางฟ้า เดี๋ยวรอให้หาย ค่อยกลับมาถ่ายเพิ่ม เอ แล้วหมอเค้าว่าเป็นอะไร ทำไมเป็นลมบ่อยอย่างนั้น”
“ก็เหมือนเดิมค่ะ น่าจะทำงานหนัก หรือไม่ก็เครียดสะสม”
ราศีพูดอย่างเป็นห่วง “ท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะ ถ้าเป็นหนักกว่านี้จะแย่ ฉันว่าให้หนูฟ้าได้พักบ้างดีกว่า ทั้งละคร ทั้งอีเว้นต์นั่นแหละ”
“แต่ละครก็กำลังจะออนนะคะ ให้หายหน้าไปเลยคงไม่ดีมั้งคะ”
เมื่อปูเปรี้ยวท้วงขึ้นมา ราศีก็ครุ่นคิดหนัก

ส่วนนัตตี้ที่ออกมานั่งร้องไห้ พร้อมกับเก็บของอยู่ที่โต๊ะ พอเห็นอุไรวรรณก็เดินเข้ามา ก็ไม่รีรอ รีบพุ่งเข้าไปตบหน้าทันที แต่อีกฝ่ายตบสวนกลับ จนล้มคว่ำไปกระแทกโต๊ะปากแตก
นัตตี้เลือดกลบปาก ลุกขึ้นชี้หน้าด่า
“จำสิ่งที่แกทำกับฉันไว้ให้ดี อีอุไร ศัตรูแกเพิ่มมาอีกคนแล้ว อีกไม่นานฉันจะมาเอาคืน”
จากนั้นก็รีบยกกล่องสัมภาระออกไป อุไรวรรณมองตาม พร้อมกับที่เรด้าวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“อุไรๆ ข่าวด่วนข่าวร้อน”
“ขอไม่ฟังได้ไหมคะ ไรเหนื่อยมาก”
“อ้าว นี่มันเรื่องของแกนะ คือรายการ I LOVE GOSSIP ต้องหาพิธีกรใหม่ด่วนเลย”
“ให้ประกาศออดิชั่นเหรอ” อุไรวรรณย้อนถาม
“ออดิช่งออดิชั่นอะไรล่ะยะ ป๋าช้างเค้าเสนอชื่อเธอให้คุณราศีไปแล้ว”
อุไรวรรณตกใจสุดขีด ก่อนจะยิ้มอย่างดีใจสุดชีวิต

เอกสารประวัติพร้อมรูปถ่ายของอุไรวรรณอยู่ในมือราศี ป๋าช้างนั่งอยู่ตรงหน้า
“ผมว่าอุไรดีสุดครับ สมัยเป็นเหยี่ยวข่าวตกควาย แฟนๆ ก็เยอะอยู่ครับ หน้าตาก็ใช้ได้”
ราศีคิดพักหนึ่ง ก่อนวางเอกสารลง แล้วหยิบปากกาออกมา เตรียมจะเซ็น

โปรเจ็กเตอร์หน้าห้องประชุม กำลังฉายภาพ Powerpoint หัวข้อ “I LOVE GOSSIP รูปแบบใหม่”
ที่โต๊ะประชุมมีอุไรวรรณ ปกรณ์ เรด้า กรณ์ โดยมีป๋าช้างนั่งหัวโต๊ะ
“ที่เรียกมากะทันหัน เพราะรายการ I LOVE GOSSIP ของเรา กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง”
เรด้าหันมากระซิบกับกรณ์ “หลังพิธีกรเก่าโดนถีบออกไป”
“ระวังเป็นรายต่อไป”
ป๋าช้างหันมาดุ “จะฟังมั้ย”
ทั้งคู่รีบหุบปากเงียบ
“คุณราศีเค้าอยากปรับรายการให้มันจี๊ดจ๊าด หวังจะดันเรตติ้งให้ตีห่างคู่แข่งมากที่สุด ก็เลยสั่งการมาดังนี้ ไอ้กรณ์”
กรณ์ดีดตัวตรงตั้งใจฟัง
“ย้าย”
กรณ์ตกใจ ทำท่าจะร้องไห้ “หา ย้ายไปไหนครับ โธ่ สงสารผมเถอะครับ แม่ผมก็ตาย ยายผมก็ยังเล็ก”
“ย้าย มานั่งใกล้ๆ นี่ จะเว้นที่ไว้ทำไม”
กรณ์โล่งใจเขยิบไปข้างๆ ป๋าช้างพูดต่อ
“กรณ์ แกเป็นโปรดิวเซอร์เหมือนเดิม”
กรณ์ยิ้ม ปรบมือดีใจเป็นเด็ก เรด้าที่นั่งข้างๆ ทำหน้าเบื่อระอา
“ไอ้เป๋าก็เหมือนเดิม ช่างภาพ ตากล้อง ส่วนอุไร”
ป๋าช้างทำหน้าหนักใจ อุไรวรรณนั่งลุ้น เรด้าเอียงตัวไปกระซิบ
“ดังแล้วอย่าลืมเจ๊นะจ๊ะ”
ป๋าช้างพูดต่อ “มาดามขยับให้อุไรมาดูแลสคริปต์พิธีกร ให้เรด้าเป็นพี่เลี้ยง”
ทั้งอุไรวรรณ ทั้งเรด้าฟังแล้วก็อึ้ง
“อ้าว แล้วพิธีกรล่ะคะป๋า ลืมไปรึเปล่า”

ป๋าช้างหน้าเครียดก่อนเอ่ย “ พิธีกรที่จะเข้ามาแทนนัตตี้ ก็คือ...” พูดพลางเคาะคีย์บอร์ด 1 ครั้ง ก่อนที่จอรับโปรเจ็กเตอร์หน้าห้อง จะค่อยๆ ปรากฏภาพของ....อัปสรสวรรค์

อุไรวรรณถึงกับช็อก แค้นใจจนสุดจะแค้น


จบตอนที่ 6 
กำลังโหลดความคิดเห็น