เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 7
อัปสรสวรรค์ยืนอยู่ตรงระเบียงบ้านตัวเอง พลางคิดถึงเรื่องที่เจอแมงมุม 2 ครั้งที่ผ่านมา
พลางย้อนนึกถึงสมัยรับน้อง
“แกกลัวแมงมุมเหรอ”
อุไรวรรณถามอย่างเป็นห่วง ก่อนจะถูกอีกฝ่ายจับมือแน่น พร้อมกับขอร้อง
“แก เรื่องนี้แกอย่าบอกใครนะ”
อัปสรสวรรค์สะบัดหัว พยายามไม่คิดมาก
“ไม่หรอกมั้ง”
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังมาไกลๆ
“หลับไปแป๊บเดียว คนออกไปสองแล้วนะครับ”
พอมองลงไปที่รั้วหน้าบ้าน ก็เห็นอาทิตย์ยืนยิ้มอยู่ข้างรถ
“ฉันไม่รับ”
อัปสรสวรรค์ปฏิเสธเสียงแข็ง เมื่อรู้ข้อเสนอเรื่องพิธีกรจากอาทิตย์
“แต่คุณแม่เป็นคนเลือก”
“เดี๋ยวฉันคุยกับคุณป้าเอง”
อาทิตย์มองอย่างไม่เข้าใจ “นี่ มันยากมากนักเหรอครับไอ้งานพิธีกร นั่งอ่านข่าวตามบทเนี่ย”
“ไม่ยาก แต่ฉันไม่อยากทำ ที่สำคัญฉันกำลังจะบอกว่า ฉันจะพักงานในวงการแล้ว”
อาทิตย์ตกใจ “บ้าน่าคุณ”
“ไม่ได้บ้า แต่ฉันเบื่อๆๆ จะแย่อยู่แล้ว”
“เบื่ออะไร เรื่องไม่สบายนี่หรือครับ คุณแม่ก็ให้คุณพักแล้วไง\”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าเบื่อหน่าย “อ่อ ไม่ใช่แค่พัก แต่ฉันอยากเลิก แล้วก็ไม่ใช่เพราะเรื่องไม่สบายนี่ด้วย”
“แล้วทำไมล่ะครับ” อีกฝ่ายย้อนถาม
“ฉันเพิ่งรู้ตัว ว่ามันไม่ใช่งานที่ฉันรัก”
“โห รู้สึกตัวช้าไปมั้ยคุณ กว่าจะรู้ตัวก็ดังซะละ”
“อย่ามากวนประสาท”
“แล้วงานที่รักคืองานไหนล่ะครับ” อาทิตย์ถามต่อ
“ฉันยังไม่รู้”
“ถ้ายังไม่รู้ งั้นก็ช่วยทำไปก่อนได้มั้ยคุณ”
อัปสรสวรรค์หลับตา พร้อมกับยกมือ “พอที”
อีกฝ่ายมองหน้าพลางถอนใจ ก่อนพูดอย่างจริงจัง
“คุณครับ นี่เป็นละครเรื่องแรกของผม ผมตั้งใจกับมันมาก คุณเองก็เสียเวลาทุ่มเทอยู่กับมันมาตั้งเป็นปี ถ้าเป็นลูกก็เลี้ยงมาจนเดินได้ แล้วนี่จะนิ่งดูให้เป็นไปตามกรรม ไม่เสียแรงเปล่าเหรอครับ”
ซุปตาร์สาวยืนนิ่งเงียบ ทำเหมือนไม่สนใจ
“ว่ากันตรงๆ นะครับ ตอนนี้มีผมกับคุณแม่ที่รู้ว่าช่อง THE SUN กำลังวิกฤติ เรตติ้งเรากำลังตก ค่ายเพลงที่ผมกำลังจะทำ ก็ยังไม่รู้อนาคต คุณจะทิ้งกันตอนเรือใกล้อับปางหรือครับ”
“ฉันบอกแล้ว....”
-ยังพูดไม่ทันจบดี ก็ถูกอีกฝ่ายจับมือหมับ
“ผมขอเถอะ คุณอย่าเพิ่งไปตอนนี้ได้มั้ย”
เดือนเด่นแอบมองอยู่อีกมุมหนึ่ง เห็นอาทิตย์จับมืออัปสรสวรรค์ก็ยิ้มพอใจ
“เยี่ยม มีพัฒนาการ”
“อยากให้คุณอยู่ช่วย THE SUN อีกซักพัก ให้มันผ่านช่วงนี้ไปก่อน คงใช้เวลาไม่กี่เดือน เมื่อนั้นผมจะช่วยพูดกับคุณแม่ ให้คุณได้เลือกไปตามทางที่คุณรัก”
อาทิตย์พยายามโน้มน้าว อัปสรสวรรค์นิ่งคิด
“ช่วยผมอีกสักครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย ผมสัญญา”
แววตาที่เว้าวอนของเขา ยังไม่อาจทำให้ซุปตาร์สาวตัดสินใจ
อุไรวรรณนั่งหน้าโกรธเกรี้ยวอยู่คนเดียวที่โต๊ะทำงาน พอเห็นปกรณ์เดินเข้ามา ก็หันไปแขวะ
“สบายใจแล้วสิ ขวัญใจมาเป็นพิธีกร”
“อะไรวะ”
“ก็จะได้เจอหน้ากันทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เห็นหน้ากันให้ฉ่ำทั้งคู่”
ตากล้องหนุ่มส่ายหน้า แล้วพลันหยิบมือถือขึ้นมากดดู ก่อนจะเห็นข้อความไลน์จากอัปสรสวรรค์
“เป๋า ทำไมหายไปเลย ขอบใจนะที่พาฉันไปรพ.”
รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะหยิบกล้องแล้วเดินออกไป
กรณ์เดินออกมา เห็นอุไรวรรณนั่งอยู่คนเดียว ก็ทำเป็นพูดลอยๆ
“แหม ถ้าตกลงเป็นเลขาพี่ตั้งแต่แรก น้องนางฟ้าคงไม่ได้มาเป็นหรอก”
อุไรวรรณนิ่งไปนิดหนึ่ง จังหวะที่ะกรณ์กำลังจะเดินออกไป ก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“งั้นก็สายไปแล้วสิคะ”
กรณ์ชะงักหันมามอง “เฮ้ย ยัง ไม่มีคำว่าสาย ลืมไปรึเปล่า พี่เป็นโปรดิวซ์นะ จะปรับเปลี่ยนยังไงก็ได้”
“แล้วให้ไรทำไงมั่งคะ”
“เอาจริงๆ ใช่มั้ย” กรณ์ถามย้ำ
อุไรวรรณนั่งนิ่ง รอฟังคำตอบ
เดือนเด่นทุบตีดามพ์ไม่ยั้ง โดยมีบรรดาคนใช้ช่วยกันห้าม
“ผมจะมาเยี่ยมลูก ไม่ได้คุยกับคุณ”
อัปสรสวรรค์เข้ามาจับมือแม่ไว้ “พอแล้วค่ะแม่”
เดือนเด่นตวาดลั่น “ออกไปให้พ้น”
ปกรณ์ยืนอยู่หน้าบ้านอัปสรสวรรค์ ได้ยินดามพ์กับเดือนเด่นทะเลาะกันเสียงดังลั่น ก่อนจะเห็นฝ่ายแรกหิ้วเสื้อเชิ้ตที่คนใช้รีดเสร็จแล้วเดินกลับออกมาที่รถ เตรียมกลับ
เขาเหลือบมองไปที่ระเบียงห้องชั้น 2
อัปสรสวรรค์กลับเข้ามาในห้องนอนด้วยใจละเหี่ย พลันเสียงเตือนข้อความไลน์ ในมือถือดังขึ้น เธอรีบกดอ่าน
“ฟ้า How r u”
เธอรีบพิมพ์ตอบกลับไป “ค่อยยังชั่วแล้วเป๋า แต่เซ็งมาก เรื่องที่บ้าน L ”
ปกรณ์พิมพ์กลับมา “ออกมาที่ระเบียงหน่อยดิ”
อัปสรสวรรค์รีบเปิดประตูออกไปนอกระเบียง พลางชะโงกดู แต่ก็ไม่เห็นอะไร
“เล่นอะไรเนี่ย”
ขณะกำลังจะหันหลับกลับ ปกรณ์ก็มาปรากฏกายข้างๆ พร้อมกับยิ้มให้ เธอรีบโผเข้ากอดเขาแล้วร้องไห้ เขาได้แต่ลูบหลังปลอบใจ
ปกรณ์กับอัปสรสวรรค์นอนคุยกันบนหลังคาบ้าน มองดาวระยิบยระยับบนท้องฟ้ากว้าง
“ฉันเบื่อแล้วเป๋า ยิ่งฉันอยู่ในวงการนานเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเกลียดมัน”
“มันความฝันแกไม่ใช่เหรอ” ตากล้องหนุ่มย้อนถาม
“ฝันฉันเหรอ ? คำว่าฝันเป็นยังไงฉันยังไม่รู้เลย” แววตาของเธอสลดวูบ
“อ้าว แล้วทำไมถึงเลือกเข้าวงการตั้งแต่แรกล่ะ”
“ฉันตามใจแม่ ตั้งแต่ฉันเกิดมาก็ไม่เคยเห็นแม่มีความสุข วันๆ แม่เอาแต่บ่นเรื่องพ่อ ฉันคิดว่าถ้าทำให้แม่มีความสุขแล้วอะไรคงจะดีขึ้น ครอบครัวคงจะกลับมาอบอุ่น”
พูดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหลเอ่อออกมาอีก
“ แต่ก็เปล่าเลย แม่ยิ่งคาดหวังกับฉันหนักขึ้นไปอีก ส่วนพ่อก็คงจะรักแต่ฉัน ไม่มีวันกลับไปรักแม่ อีกแล้ว”
ปกรณ์มองอีกฝ่ายอย่างสงสารและเห็นใจ
“บางวันฉันตื่นขึ้นมาด้วยความงง ว่าทุกวันนี้ทำงานไปเพื่ออะไร พอฉันคิดจะออกจากวงการ ก็ตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่า แล้วอะไรคือสิ่งที่ฉันรักจริงๆ นี่มันอะไรเนี่ยเป๋า ตกลงว่าฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?”
“ฟังคนอื่นมาเยอะแล้ว ลองเงียบๆ แล้วฟังเสียงหัวใจตัวเองบ้างดีกว่า” พูดพลางค่อยๆ ใช้มือเช็ดน้ำตาให้ “แค่หลับตา ก็ไม่ต้องเห็นใครแล้ว”
อัปสรสวรรค์ค่อยๆ หลับตาลง ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอื้อมไปจับมือ
“สบายๆ ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ข้างๆ นี่แหละ”
ซุปตาร์สาวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงเหมือนเด็กน้อยว่าง่าย ตากล้องหนุ่มค่อยๆ หลับตาตาม
ทั้งคู่นอนจับมือกันอยู่บนหลังคาบ้านนิ่ง....นาน
อุไรวรรณนอนตัวเกร็งอยู่บนเตียง ก่อนที่กรณ์จะมุดหัวลงไปไซร้ซอกคอ จากนั้นก็ลุกขึ้นถอดเสื้อตัวเอง เตรียมเผด็จศึก
“โอเค นะ น้องไร”
กรณ์โน้มตัวลงไปอีกครั้ง อุไรวรรณกลั้นใจหลับตา แล้วจู่ๆ ฝ่ายแรกก็ตัวเกร็งขึ้นมา
“โอ้ว ไม่ๆๆ อย่าเพิ่งๆ”
โปรดิวซ์จอมหื่น แต่กลับล่มปากอ่าว ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ รีบผละตัวออกมา อุไรวรรณหน้าเหวอค่อยๆ ลืมตาดู
กรณ์ลุกขึ้นนั่งมองเป้ากางเกงตัวเอง “โธ่ ลูกพ่อ ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะลูก”
“เอ่อ อะไรคะพี่”
“ไม่มีอะไรจ้ะน้องไร พอดีวันนี้พี่เพลียๆ ยังไงกลับไปก่อนแล้วกันนะคะ เดี๋ยวพี่เรียกแท็กซี่ให้”
อุไรวรรณทำหน้างงๆ
ไตเติ้ลรายการ I Love Gossip by “อุไร”
อุไรวรรณในชุดสวย แต่งหน้าพริ้งนั่งอยู่ที่เก้าอี้พิธีกร
“ขอบคุณทุก sms ที่ส่งมาร่วมสนุกนะคะ แล้วกลับมาเจอข่าวแซ่บจี๊ดจ๊าด เพิ่มรสชาติอาหารมื้อเที่ยง กันได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้เวลาเดียวกันนี้ค่ะ กับ I Love Gossip บายอุไร วันนี้อุไรลาไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย”
พูดพลางทำท่าส่งจูบ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีมือยาวยื่นออกมาจากหลังฉากมาแตะไหล่ จนเธอถึงกับสะดุ้งเฮือก
อุไรวรรณตื่นจากภวังค์ ก่อนจะพบว่าตัวเองยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพ์ ในมือมีสคริปต์ เรด้ายืนแตะไหล่อยู่ด้านหลัง
“ถอดจิตไปไหนมา รีบส่งสคริปต์ให้อีพี่กรณ์เร็ว เทปแรกด้วย เดี๋ยวจะโดนเม้งเอา”
“อ๋อ ค่ะๆ”
กรณ์เดินเข้ามาได้ยินพอดี “จะไปเร่งเค้าทำไมวะเรด้า เร่งแล้วงานเสีย แกรับผิดชอบมั้ย”
พออุไรวรรณหันไปมอง กรณ์ก็หลบตาเขินๆ แล้วรีบเดินออกไป
เรด้าทำหน้างง “มาแนวไหนวะเนี่ย”
จากนั้นก็เดินผละออกไป ทิ้งให้อุไรวรรณหันไปพิมพ์งานต่อ
สักพักอัปสรสวรรค์กับอาทิตย์ก็เดินเข้ามาด้วยกัน อุไรวรรณหันไปมอง ก่อนจะประสานตากับซุปตาร์สาวแว่บหนึ่ง
อาทิตย์หันมาบอกอัปสรสวรรค์ “ เดี๋ยวลองซ้อมดูก่อนซักรอบนะครับ”
ทั้งคู่เดินผ่านเข้าไปด้านในสตูฯ อุไรวรรณหันไปก้มหน้าพิมพ์งานต่ออย่างฉุนเฉียว
อัปสรสวรรค์นั่งรออยู่ที่หน้าฉากบลูสกรีน ครู่หนึ่งอุไรวรรณก็เดินเอาสคริปต์เข้ามาส่งให้ โดยไม่มองหน้า
“ขอบใจจ้ะ”
อุไรวรรณสะบัดหน้าเดินออกไป อัปสรสวรรค์รีบเปิดสคริปต์ดู ก่อนจะเห็นรูปวาดแมงมุม พร้อมข้อความ “ที่นี่มีแต่ความกลัว”
ดวงตาเธอเบิกโพลง ก่อนจะนิ่งไป พร้อมกับเสียงกรณ์ตะโกนบอกทีมงาน
“โอเค นะครับ อีก 5 นาทีออนแอร์”
จู่ๆ เรด้าก็ร้องโวยวายอยู่ข้างๆ จอมอนิเตอร์ที่พิธีกรใช้ดูบท
“เฮ้ย ใครมาทำน้ำหกใส่มอนิเตอร์สคริปต์วะ ช็อตดับไปเลย”
ทุกคนหน้าตาตื่นขึ้นมาทันที กรณ์ตวาดเสียงดัง
“โว้ย อะไรวะเนี่ย ใคร ใครทำ”
อัปสรสวรรค์รีบบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องดูหรอก ฟ้าจำสคริปต์ได้”
พูดพลางมองไปที่อุไรวรรณ ฝ่ายหลังยืนกอดอกพิงกำแพงมองตอบมาด้วยสายตานิ่ง
อัปสรสวรรค์ถ่ายรายการอยู่หน้าฉากบลูสกรีน อาทิตย์กอดอกยิ้มพอใจอยู่หลังกล้อง
ปกรณ์ที่กำลังถ่าย หันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์
“แล้วกลับมาเจอข่าวแซ่บๆ จี๊ดจ๊าด เพิ่มรสชาติอาหารมื้อเที่ยงกันได้ใหม่พรุ่งนี้เวลา เดียวกันนี้ค่ะ กับ I Love Gossip บายนางฟ้า วันนี้ลาไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย ปิ๊งๆ”
อัปสรสวรรค์หยุดนิ่งสักพัก รอจนได้ยินสัญญาณจากกรณ์
“โอเค ค่ะ เริ่ด เลอค่า”
ทีมงานปรบมือกันเกรียว ยกเว้นอุไรวรรณ
อัปสรสวรรค์พูดหน้านิ่ง ไร้อารมณ์ “ที่ดีก็เพราะบทของไรเค้าแหละค่ะ”
จากนั้นก็เดินผ่านหน้าอุไรวรรณที่ยืนอยู่หลังกล้อง จนมาหยุดตรงข้างถังขยะ ขยำสคริปต์แล้วโยนลงถังอย่างไม่ดี ก่อนเดินออกไป ต่างฝ่ายทำเป็นไม่สนใจกัน อาทิตย์เดินตามออกไป
อุไรวรรณเจ็บใจที่ทำอะไรอัปสรสวรรค์ไม่ได้ เรด้าเดินเข้ามาเก็บของอย่างเหนื่อยใจ
“จัดก็งั้นๆ แหละนะ ถ้าเป็นเธอคงดีกว่านี้”
เหยี่ยวข่าวสาวทำหน้าเซ็ง “กรีดตา ทำนม ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เสียตังค์เปล่า”
“อย่าพูดงั้นซี่ พี่ก็เฟลนะ นึกว่าจะได้เห็น I Love Gossip บายอุไร”
“หึ อุไร ชื่อไม่น่าเป็นดาราเลยนะคะ”
พลันเรด้าก็เกิดนึกอะไรได้ รีบเงยหน้าขึ้นมา “ไร คืนนี้ว่างป่าว”
อุไรวรรณมองหน้าอย่างแปลกใจ
ที่หน้าประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ ติดป้าย “หมอดูงูเขียว” มีตุ๊กตางูเขียวตัวใหญ่ประดับอยู่
ภายในห้องมืดๆ ที่ตกแต่งสไตล์จีน อุไรวรรณกับเรด้ากำลังนั่งลุ้น และรอคอย
“น่ากลัวนะพี่”
เรด้ารีบอธิบาย “ นี่แหละ หมอดูงูเขียวนี่ล่ะ สุดยอดแล้ว ขนาดหมอดูช้างเผือกยังไม่กล้าหือ”
พลันเสียงดนตรีจากขิมก็ดังแว่วขึ้นมา
“มาแล้วๆ”
หมอดูงูเขียวค่อยๆ เต้นพลิ้วไหวออกมาตามจังหวะเพลง ทั้งคู่มองตามอย่างตื่นเต้น
หมอดูงูเขียวกำลังดูดวงให้อุไรวรรณ ก่อนจะก้มหน้าขีดเขียนเลขลงในกระดาษ ลีลาคล้ายคนเมายา ครู่หนึ่งก็ตบโต๊ะเสียงดัง
“ซ่วย”
อุไรวรรณกับเรด้าสะดุ้งโหยง หมอดูงูเขียวพูดต่อด้วยสำเนียงจีน
“อุไรวรรณ ดูจากวันเดือนปีเกิด ไม่ดีเลย ใครตั้งให้”
“แม่ค่ะ”
“อืม ตอนตั้งคงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แม่เธอเค้าเป็นงั้นนี่”
อุไรวรรณยิ้มเจื่อนๆ
“ถ้ายังใช้ชื่อนี้ บอกเลยว่าเก่งแค่ไหน พยายามไปก็เท่านั้น”
เรด้าตาวาว “อุ๊ย แม่นโคตะระแม่น สแกนเป๊ะ”
หมอดูงูเขียวตะคอกใส่ “ใครให้พูด ออกไปเลย”
เรด้าหน้าจ๋อย ปิดปากเงียบ
“ชื่อนี้แพ้คนมีเส้น เป็นเบ๊ตลอดชาติ อยากเปลี่ยนมั้ย”
อุไรวรรณรีบพยักหน้า “เปลี่ยนค่ะ”
“ชื่อดีน้อย ดีกลาง ดีมาก เอาแค่ไหน”
“มันต่างกันยังไงคะ”
หมอดูงูเขียวยิ้มเจ้าเล่ห์ “สองหมื่น สามหมื่น ห้าหมื่น”
อุไรวรรณทำหน้าหนักใจ “งั้น เอาดีน้อยพอค่ะ”
เรด้ารีบแย้ง “โอ๊ย เปลี่ยนทั้งที เอาดีมากไปเลยสิน้องไร”
“แพงไปอะพี่ ห้าหมื่น”
“โห ถ้าชื่อดีแล้วเงินมันจะไหลเข้ามายิ่งกว่านี้” พูดพลางหันมาพูดกับหมอดูงูเขียว “ เอาดีมากไปเลยค่ะคุณแม่”
“ดีมากๆ เออ ดาราสมัยนี้มันต้อง 2 พยางค์” พูดแล้วก็ก้มหน้าดูกระดาษ “ก็มีวันดี สีแพร จันทร์แรมบัวเผื่อน”
อุไรวรรณหน้าเจื่อน เรด้าทนฟังไม่ไหว
“พอก่อนค่ะ นี่มันจะทันสมัยไปมั้ยคะ”
หมอดูงูเขียวตวาดกลับ “งั้นก็ไปให้แม่แกตั้ง”
เรด้าสะอึก รีบบอก “คือ ชื่อสมัยใหม่กึ่งๆ ฝรั่ง แล้วก็พอมีเค้าเดิมบ้าง แบบที่เปลี่ยนให้หนูจากสุดาเป็นเรด้าเนี่ยมีมั้ยคะ”
หมอดูงูเขียวอารมณ์เสีย ก้มหน้าขีดๆ เขียนๆ ลงในกระดาษแล้วบ่นพึมพำไปคนเดียว
อุไรวรรณกระซิบถาม “ชื่อเรด้านี่อยู่ในเกรดไหนอะพี่”
“ดีน้อย ตอนนั้นไม่ค่อยมีตัง แหะๆ”
หมอดูงูเขียวพึมพำชื่อนั้น ชื่อนี้อยู่หลายชื่อ ก่อนจะตัดสินใจ
“เอ้า นี่เลย ใช้ได้ รุ่ง รวย เฮง ก้าวหน้า ชื่อนี้แหละ”
อุไรวรรณกับเรด้าหันมองอย่างสนใจ
“ไลลา”
ทั้งคู่พูดขึ้นมาพร้อมกัน “ไลลา”
ขาดคำ สายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงๆๆ จนต้นไม้ใหญ่ที่หน้าบ้านหักโค่น
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 7 (ต่อ)
ป๋าช้างนั่งทำงานอยู่ในห้องส่วนตัวตามลำพัง
พอเหลือบเห็นอุไรวรรณ หรือในชื่อใหม่ว่า “ไลลา” เดินผ่าน ก็รีบเดินไปเรียก
“อุไร ทำสกู๊ปข่าวให้หน่อย”
ไลลาทำนิ่ง ไม่ยอมหัน จนป๋าช้างต้องเรียกซ้ำ
“อุไร เฮ้ย ได้ยินมั้ย”
ไลลามองเมิน แล้วเดินออกจากห้องไป ป๋าช้างยกมือคลำๆ ตัวเอง
“นี่ฉันตายแล้ว หรือเด็กมันหูตึงวะ”
เรด้ายืนถ่ายเอกสารอยู่แถวนั้นพอดี จึงรีบหันมาบอก
“โอ๊ย ป๋า น้องไลเค้าเปลี่ยนชื่อแล้วค่ะ”
“เปลี่ยนเป็นอะไรวะ”
“ไลลา”
ป๋าช้างทวนคำ “ไลลา ? นี่มันจะบ้าตามแกไปอีกคนแล้วรึ เปลี่ยนชื่อจนฉันจำไม่ได้ไปหมดแล้ว”
“ป๋าอยากเปลี่ยนบ้างมั้ยคะ”
“เออ ว่าจะเปลี่ยนจากช้างเป็นช้างลาก เผื่อจะลากเงินลากทองเข้ามามั่ง”
ป๋าช้างพูดแล้วก็ส่ายหัว เรด้ายิ้มแหยๆ ก่อนจะรีบเดินออกไปที่สตูฯ
อัปสรสวรรค์กำลังจะเดินเข้าไปในสตูฯ พลันได้ยินเสียงบ๊วยยืนคุยกับเรด้าที่หลังฉาก
“นางฟ้าก็จัดโอเค นะ เรด้า ดีกว่านัตตี้ซะอีก”
เรด้าพยักหน้าหงึก “อืม แต่เสียดายไม่หายเลยว่ะ นึกว่าน้องไลจะได้เสียบแทน คนเบื้องหลังเก่งๆ
จะได้ลืมตาอ้าปากขึ้นมามั่ง”
“เอ๊ะ เดี๋ยวนี้เชียร์ไลแล้วเหรอ”
“เปล่า ฉันก็แค่นึกถึงตัวเองสมัยที่ยังมีไฟ ก็คล้ายๆ น้องไลนี่แหละ ขยันแทบตาย หวังอยากออกหน้าจอ แต่พอถึงเวลา เค้ากลับไปเอาคนนอกที่สวยๆ มาจัด บอกว่าฉันหน้าดำไป ถ้ารู้แต่แรก ฉันจะได้ไปเกิดใหม่ ไม่ต้องดิ้นรน”
บ๊วยพยักหน้าอย่างปลงๆ “อืม เนอะ ไอ้คนที่ได้โอกาสก็มักจะได้ไปตลอดชีวิต ไอ้ที่ไม่ได้ ก็ไม่ได้เลย”
“พูดปลงกันเป็นตัวละครโนเนมเลย ไปทำงานดีกว่า”
2 คนหันไปทำงานนต่อ อัปสรสวรรค์ยืนครุ่นคิด
ราศีกับปูเปรี้ยวนั่งดูรายการ I Love Gossip อยู่ในห้องทำงาน
“ฟีดแบ็ควันแรกดีมาก ส่วนใหญ่จะชมนะคะ”
ในทีวี เห็นอัปสรสวรรค์กำลังจัดรายการอยู่
“มาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะคะสำหรับวันนี้ ขอขอบคุณพี่ๆ ทีมงานที่ให้ฟ้าได้มาร่วมสนุกจัดรายการตั้ง 2 วันเต็มๆ”
ราศีทำหน้าเหวอ หันมองหน้าปูเปรี้ยว
อัปสรสวรรค์ที่จัดรายการอยู่ในสตูดิโอ พูดต่อ
“ยังไงฟ้าฝากผลงานละครด้วยนะคะ พรุ่งนี้พบกับพิธีกรคนใหม่ของรายการ นักข่าวคนเก่งที่ทุกคนรอคอย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อุไรวรรณ เกิดงามพริ้ง”
ไลลาที่กำลังดูสคริปต์อยู่หลังกล้องถึงกับอึ้งไป เช่นเดียวกับอาทิตย์ ปกรณ์ และทีมงานคนอื่นๆ
“เธอจะมาตกควาย จับไก่ รึว่าไล่หมู คงต้องติดตามดูกัน วันนี้นางฟ้าขอลาไปก่อนค่ะ บ๊ายๆ ปิ๊งๆ”
กรณ์ตะโกนสั่ง “คัท”
อัปสรสวรรค์ก็รีบลุกออกมา ต่อหน้าต่อตาทีมงานทุกคนที่พากันเหวอ ก่อนจะเดินผ่านมาข้างไลลา
“ฝากด้วยนะไร”
พูดจบก็รีบเดินออกไป อาทิตย์รีบเดินตาม ไลลามองตามอย่างไม่เข้าใจ
อาทิตย์วิ่งตามมาดึงแขนอัปสรสวรรค์ไว้
“อะไรล่ะคุณ ของขึ้นอะไรอีก”
“ก็ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็ไหนคุยกันแล้วไงว่าคุณจะรับงานนี้”
ซุปตาร์สาวทำหน้านิ่ง “ก็ฉันไม่อยากทำแล้ว มีไรมั้ย”
“โห คุณ...”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรับผิดชอบเอง จบ”
อาทิตย์ย้อนถามกลับ “แล้วไง คุณจะไม่ทำงานอะไรแล้วเหรอ”
อัปสรสวรรค์ไม่สนใจ รีบหันหลังเดินไป อาทิตย์พูดไล่หลัง
“เห็นแก่ตัวสุดๆ”
ได้ผล อีกฝ่ายชะงักเท้าทันที
“พอตอนแย่ๆ ก็ทิ้งกันไป”
อัปสรสวรรค์หันขวับมาทำตาขวาง
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะทิ้งเลยนะ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าจะกลับไปรับงานต่อ”
“รับงานอะไรล่ะ ก็คุณป่วยอย่างนี้ ใครจะให้ไปทำ”
“ฉันไม่ได้ป่วย”
อาทิตย์จ้องหน้า “ล้มไป 2 ครั้งเนี่ยนะ”
“ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ฉันรู้ตัวดีก็แล้วกัน ยังไงจะไม่ให้เป็นอย่างนั้นอีก”
อีกฝ่ายถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “คุณเป็นอะไร บอกผมได้มั้ย”
“ฉันโตมาจากที่นี่ สำนึกฉันมีพอ ฉันจะช่วย THE SUN ให้เต็มที่ที่สุด และถ้าทุกอย่างเข้าที่ ฉันก็จะไป วันนั้นใครก็รั้งฉันไว้ไม่ได้”
พูดจบก็เดินออกไปเลย ทิ้งให้อาทิตย์มองตามด้วยความห่วงใย
ราศีนั่งคุยกับอาทิตย์ ปูเปรี้ยว และป๋าช้างในห้องทำงาน
“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สรุปว่าหนูฟ้าคงอึดอัดใจที่จะเข้ามาทำงานนี้”
ป๋าช้างรีบเสนอ “ให้ผมดูพิธีกรใหม่มั้ยครับ”
“ในเมื่อพูดออกไปอย่างนั้นแล้วจะให้ทำไงล่ะ ก็คงต้องให้อุไรมาลองจัดดู”
อาทิตย์พยายามมองในแง่บวก “มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะครับ ข่าวที่ 2 คนนี้เคยมีเรื่องกัน จะได้
จบลงซะที”
ราศีถอนหายใจ
“ฉันจะลองให้เธอจัดดูซัก 2 อาทิตย์ ถ้าฟีดแบ็คแย่ หรือเรตติ้งตก ก็คงต้องว่ากันใหม่ เฮ้อ ปูเปรี้ยวดูฤกษ์นิมนต์พระมาทำบุญบริษัทหน่อย”
พูดจบก็ขยับตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็รู้สึกตาลาย ทำท่าจะล้มลง
“แม่ครับ” อาทิตย์รีบเข้าไปพยุงไว้ “เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไร สงสัยจะนอนดึกไปหน่อย มัวแต่ตรวจเทปละครน่ะสิ”
อาทิตย์พยักหน้ารับ ราศีเดินออกจากห้องไป ทุกคนมองอย่างเป็นห่วง
จริยากับโจ กำลังซ้อมเต้นกันอยู่ โดยมีลูกเป็ดนั่งอ่านนิตยสารอยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆ กัน ครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นจะออกไปข้างนอก
“ลูกโจ คุณแม่จะไปข้างล่าง เอาอะไรรึเปล่าจ๊ะ”
โจเต้นไปด้วย พูดไปด้วย “มะม่วงครับคุณแม่ บอกแม่ค้าขอเปรี้ยวๆ หน่อยนะครับ กะปิเพิ่มด้วย”
“ต๊าย กินเข้าไป เดี๋ยวก็ท้องไส้เสีย”
โจทำเสียงอ้อน “ก็อยากกินอ่ะครับคุณแม่”
“เคๆ จ้ะลูก”
ลูกเป็ดเดินออกไป ทั้งคู่ซ้อมเต้นต่อ เต้นไปสักพัก จนถึงท่าเซ็กซี่ของจริยา ที่ต้องทำท่าโก่งสะโพก
โจสังเกตเห็นอีกฝ่ายเต้นได้ไม่ดีนัก จึงเข้ามาสอน
“จิ๋ว พี่ว่าท่านี้มันต้องเซ็กซี่กว่านี้อีกนะ”
“นี่ก็เซ็กที่สุดของจิ๋วแล้วนะคะ”
โจยิ้มอย่างเอ็นดู “เต้นตามท่าแบบนี้น่ะ โคโยตี้ที่ไหนก็ทำได้ แต่เราต้องให้เห็นความเซ็กซี่ข้างในด้วย”
จริยาทำหน้างง “ยังไงคะ”
“ก็แบบความรู้สึกเรียกร้องเพศตรงข้ามไง แบบสัตว์ปล่อยสารฟีโรโมนเรียกตัวผู้มาสมสู่”
พอเห็นอีกฝ่ายยิ่งงงหนัก ก็ถามออกมาตรงๆ
“นี่ถามตรงๆ นะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโดนซั่มเลยใช่มั้ย?”
ฝ่ายถูกถามหน้าเหวอ โจพูดต่อ
“แต่ช่างมัน เอาเป็นว่า ยังไงจิ๋วต้องรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันถึงจะออกมาทางสีหน้า แววตา ไหนลองใหม่ซิคะ”
สาวตัวจิ๋วเต้นให้ดูอีกครั้ง พยายามทำหน้าเซ็กซี่ ทั้งกัดปาก เล่นหูเล่นตา โจเห็นแล้วก็ส่ายหัว
“ no no ไม่น่าใช่ มันเฟกๆ ยังไงไม่รู้ ผู้ชายดูแล้วไม่ซี้ด อ้ะ เดี๋ยวพี่ทำให้ดู ประมาณนี้”
ว่าแล้วโจก็เต้นให้ดูเป็นตัวอย่าง ดูจริตจะก้านยิ่งกว่าผู้หญิง พลางหลับตาพริ้มเต้นอย่างมีความสุขประดุจนกโผบิน ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับมองตาค้าง
โจเคลิ้มเต้นสักพัก หันไปเห็นจริยากำลังยืนตะลึง ก็สะดุ้ง รีบหยุดเต้น แล้วแกล้งกลับไปเก๊กแมนอย่างเก่า
“เอิ่ม ประมาณนี้”
จริยาปรบมือชื่นชม “โอ้โห พี่โจ เทพมากๆ เต้นเก่งกว่าผู้หญิงจริงๆซะอีก”
โจแอบยิ้ม “ไอ้อารมณ์ที่มาจากภายในนี่แหละ ที่จะไม่มีใครเลียนแบบเราได้ ศิลปินจะต่างจากคนทั่วไปก็ตรงนี้ อ้ะ ลองดู”
“ค่ะๆ”
ทั้งสองซ้อมเต้นด้วยกันต่อ จริยาเริ่มมองโจแปลกๆ พอมองผ่านหน้าต่างกระจกออกไป ก็เห็นไลลามายืนอยู่
“แป๊บนะคะพี่โจ”
พูดจบก็วิ่งปร๋อออกไปทันที
“ไงคะเจ้”
จริยาเปิดประตูออกมาทัก ก่อนจะเหลือบเห็นป้ายพนักงานที่คอ ชื่อ “ไลลา” พร้อมรูปใหม่สวยปิ๊ง
“ไลลา โห เจ๊ เปลี่ยนชื่อมาหรอ”
ไลลาพยักหน้ายิ้มๆ “ขอเวลาแป๊บได้ปะ”
อีกฝ่ายยิ้มรับ พร้อมกับแอบสงสัย
อัปสรสวรรค์กำลังจะเดินเข้าบ้าน พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นสายจากจริยา ก็รีบกดรับ
“ว่าไงจิ๋ว”
“เจ้ฟ้าเหรอ พอดีเมื่อกี้จิ๋วดูรายการเห็นเจ้บอกว่าพรุ่งนี้เจ้ไลจะมาจัดแทน มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
“ก็ฉัน... “ จะพูดว่าไม่ได้อยากทำ แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจ “มาดามปลดฉันออก”
“ปลดเจ้ เรื่องอะไร?”
ไลลานั่งอยู่ข้างๆ ฟังเสียงสปีกเกอร์โฟนจากมือถือ
“ฟีดแบ็คไม่ดี คนทางบ้านไม่ชอบ มาดามเลยให้ฉันเลิก”
ไลลารีบจดคำถามใส่กระดาษยิกๆ แล้วยื่นให้จริยาถามแทน
“แล้วใครเสนอให้เจ้ไลมาจัดแทนอ่ะ”
“เอิ่ม ก็มาดามนั่นแหละ เค้ามีแผนมานานแล้วว่าจะให้ไรเป็น แต่เค้าอยากโปรโมตละคร เลยให้ฉันมาจัดแทนนัตตี้ไปก่อน”
“ไลลารีบจดคำถามส่งให้อีก
“แล้วก็...”
อัปสรสวรรค์พูดแทรกขึ้นมาอย่างรู้ทัน
“นี่จิ๋ว ฝากบอกไรด้วยนะว่าโอกาสมาถึงแล้ว ทำให้ดีที่สุด ฉันยินดีด้วยจากใจ อ่อ อันนี้ก็ต้องบอกให้ได้นะ”
จริยายิ้มแป้น “บอกว่าอะไร”
“บอกด้วยว่าถ้าอยากรู้อะไรอีก ก็ให้ไรโทร. มาเอง”
พูดจบก็วางสายทันที จริยาหน้าจ๋อย หันไปมองหน้าไลลา เห็นฝ่ายหลังทำหน้าครุ่นคิด แล้วจู่ๆ ก็เหมือนนึกอะไรได้
“เออ แป๊บนะเจ้”
จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าในห้องซ้อม ไลลามองตามแบบงงๆ
“ฝากให้คุณอาทิตย์งั้นเหรอ”
ไลลาถามย้ำ เมื่อจริยายืนถุงกระดาษให้
“ใช่” สาวร่างจิ๋วยิ้มเขิน
“ให้เค้าเนื่องในโอกาสอะไร”
“ก็แค่อยากตอบแทนบุญคุณเค้าน่ะ”
“แน่ใจนะ”
จริยาทำหน้าแปลกใจ “ทำไมเหรอเจ้”
ไลลาเริ่มรู้ตัวว่าออกอาการมากไปจึงพยายามกลบเกลื่อน
“แน่ะๆๆ นี่คิดว่าจิ๋วชอบคุณอาทิตย์เหรอ”
“อ๋อ ก็แค่อยากรู้เฉยๆ น่ะ”
จังหวะที่มองไป เห็นเมฆกำลังเดินเข้ามาข้างหลังจริยาพอดี ไลลานึกแผนขึ้นมาได้ รีบรับถุงมา แล้วพูดด้วยเสียงดัง
“โอเค จิ๋ว เดี๋ยวฉันจะเอาของขวัญชิ้นสำคัญนี้ไปส่งให้ถึงมือคุณอาทิตย์ ขวัญใจแกเลย”
เมฆที่กำลังเดินเข้ามาถึงกับชะงัก ขณะที่เจ้าของถุงหน้าระเรื่อ
“บ้าน่าเจ้”
เมฆหน้าสลดทันที ไลลายิ้มเจ้าเล่ห์ ครั้นเห็นโจกำลังเดินออกมาก็รีบหุบยิ้ม
โจมองไลลาแล้วรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะรีบบอกกับจริยา “จิ๋ว ไปต่อท่าสิ พี่จะกลับแล้ว”
“ว้าย ขอโทษค่ะพี่โจ ลืมเลย”
” งั้นไว้เจอกันนะ”
ไลลาโบกมือให้แล้วเดินออกไป จริยากับโจเดินเข้าห้องซ้อมต่อ ส่วนเมฆเดินคอตกหันกลับออกไป
“เพื่อนน้องจิ๋วคนนี้ท่าทางแปลกๆ นะ ระวังไว้บ้างก็ดี”
โจเตือนจริยาด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่มองเห็นทีท่าของไลลา
“โหย เจ้ไลเค้าดูดุๆ วีนๆ อย่างนั้นเอง จริงๆ แล้วนิสัยดีค่ะ”
โจพยักหน้าส่งๆ ทั้งที่ในใจไม่เชื่อ
เรด้าพาไลลาไปร้านทำผมที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็พากันไปเลือกซื้อเสื้อผ้า
เรด้านั่งรออยู่หน้าห้องลองเสื้อ จนเห็นหลังไลลาเดินออกมาในชุดสวย และลุกใหม่ ก็ถึงกับร้องว้าว
ไลลากลับมายืนซ้อมอ่านข่าวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน
“สวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้วกับI Love Gossip กับดิฉันอุไร เอ๊ย ไม่ใช่สิ กับดิฉันไลลา ข่าวแรกวันนี้กับเรื่องละครแซ้บแซ่บแห่งปีที่ทุกคนรอคอย....”
จู่ๆ เพ็ญศรีก็ผลักประตูเข้ามาอย่าแรง ไลลาถึงกับสะดุ้งโหยง
“ไร”
“ โห่ แม่ ไม่เคาะเลย”
“ฉันรีบ จะบอกว่าเดี๋ยวแกล็อกบ้าน ดูฟืนไฟให้เรียบร้อยด้วยนะ คืนนี้ฉันคงไม่กลับ”
ไลลาพยักหน้าหงึกๆ แบบขอไปที ก่อนจะนึกได้
“เออ แม่พรุ่งนี้เที่ยงแม่ไปไหนมั้ย จะบอกให้เปิดดูรายการไอเลิฟ..”
ยังพูดไม่ทันจบดี ผู้เป็นแม่ก็ปิดประตูห้องไป
“เฮ้อ คิดจะดูผลงานลูกบ้างมั้ย”
ไลลาเซ็งที่แม่ไม่สนใจเธอเลย จึงเดินไปแง้มม่านหน้าต่างดู ก่อนจะเห็นเพ็ญศรีขึ้นรถหรูออกไป
เธอส่ายหัวช้าๆ แล้วเดินกลับไปซ้อมอ่านข่าวที่หน้ากระจกต่อ
ทีมงานกำลังวิ่งวุ่นกับรายการสดครั้งแรกของไลลา
“โอเค ไฟพร้อม กล้องพร้อม ห้า สี่ สาม สอง ไป”
กรณ์ให้สัญญาณ ที่มอนิเตอร์ขึ้นไตเติ้ล “I Love Gossip by Layla” พร้อมเพลงประกอบ เหมือนในความฝันเป๊ะ
ไลลายืนลุ้นตื่นเต้น ก่อนที่แสงไฟจะสาดใส่เข้ามา เธอยกมือไหว้แล้วเริ่มพูดเข้ารายการด้วยแอ็กติ้งอย่างมืออาชีพ และสคริปส์แหวกแนว
“สวัสดีที่รักแห่งสวนสะระแหน่ พบกันเป็นครั้งแรกกับดิฉัน “ไลลา” ในรายการ I Love Gossip ดินแดนแห่งความหฤหรรษ์ของพวกเรา ผู้เสพข่าวฉาวเป็นอาหาร ไม่ว่าท่านจะเป็นชาวสวนเผือก สวนสะระแหน่ ชาวสภากาแฟในเวลาทำงาน พวกเราก็มีสโลแกนร่วมกันที่ว่า....เสพเรื่องของชาวบ้านเพิ่มประสบการณ์ชีวิต”
กรณ์ดูท่าทางไม่ค่อยมั่นใจ ตรงข้ามกับเรด้าที่ยิ้มแป้น
“สวย สวยจริงๆ ภาพที่เราเคยอยากได้ ตอนนี้คงหมดปัญญาแล้ว ฝากความหวังไว้กับไลลาแล้วกัน”ไลลาดำเนินรายการไปจนใกล้จบ
“ภาพบรรยากาศงานเปิดตัวโจ & จิ๋ว จะเป็นยังไง ดิฉันจะเก็บภาพเอามาให้ชมในวันพรุ่งนี้ แล้วกลับมาเจอข่าวแซ่บๆ ถามจริง! เจ็บจริง! กันได้ใหม่พรุ่งนี้เวลาเดียวกันนี้ค่ะ กับ I Love Gossip อย่าลืม ไม่ว่าเขาและเธอจะเป็นใคร หากอยู่ใต้ฟ้าบันเทิงไทย จะเล็กจะใหญ่..ไลไม่สน”
ไลลาโพสต์ท่ายิ้มสวย พร้อมกับเสียงกรณ์สั่งคัท
เรด้าเดินยิ้มเข้ามา “เยี่ยมไปเลยน้องไล เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเป็นคนแบบนี้”
กรณ์ส่ายหัว
“จัดวันแรกก็แรงเลย รายการบันเทิงนะจ๊ะไม่ใช่ตามล่าฆาตกร”
ไลลายักไหล่ “ก็เพราะจัดกันแบบเดิมๆ น่ะสิคะ ถึงสู้เค้าไม่ได้ ยุคนี้ไม่แรงก็อยู่ไม่รอดหรอกค่ะ ดาวมีเป็นล้านดวง ถ้าไม่ทำตัวเองให้สว่าง จะมีใครเห็นล่ะค่ะ”
“นี่พูดจากประสบการณ์ที่ผ่านร้อยผ่านหนาวมามากหรอกนะ”
ฝ่ายหนึ่งพยายามเตือน แต่อีกฝ่ายไม่สน
“แต่ถ้าผ่านมาโดยไม่เคยปรับตัว ยอมให้มันร้อนมันหนาวซ้ำซากจำเจอยู่อย่างนั้น เขาเรียกว่าโง่ค่ะ”
กรณ์โกรธ รีบผลุนผลันเดินออกไป ไลลามองตามด้วยแววตาหยิ่งผยอง
อีกฟากหนึ่ง ที่รายการข่าวบันเทิงทางช่องเคเบิ้ล ชื่อ “มีนัดกับนัตตี้”
นัตตี้ยืนอ่านข่าวอยู่หน้าแบ็คดรอปราคาถูก มีจอทีวีเล็กๆ ด้านข้างฉายคำพาดหัวข่าว
“นางฟ้าถูกปลดฟ้าผ่า มาดามดันไลลาขึ้นชูโรง”
“เพราะเหตุใด มาดามราศีถึงผลักดันไลลาขึ้นมาเป็นผู้ประกาศข่าวแทนนางฟ้า ทั้งที่เคยมีเรื่องกัน หรือนี่คือการโชว์อิทธิฤทธิ์บางอย่างให้นางฟ้าได้เห็น เป็นการดันไลลาขึ้นเป็นดาวรุ่งตีคู่นางฟ้า หรือทั้งหมดเป็นเพียงแค่ดราม่าของช่องที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูอย่างTHE SUN ดิฉันจะนำมาวิเคราะห์ต่อไปในวันพรุ่งนี้”
นัตตี้ทำหน้าดุดัน ก่อนจะหยิบกล่องกระดาษเล็กๆ ขึ้นมา
“และในช่วงนี้อากาศร้อนแดดแรง การดูแลผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมสบู่หน้าเด้ง “นัตติย่า บายนัตตี้” หน้าคุณจะนวลเด้งเป็นก้นเด็กภายในสามสิบวินาที พบกันช่วงหน้าค่ะ”
พูดจบก็ยิ้มเล็กๆ โดยมีกล่องสบู่แนบหน้า
ไลลานั่งหน้าเครียดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ กำลังอ่านโพสต์แสดงความคิดเห็นของผู้ชมทางบ้านในเว็บช่อง THE SUN
“เกลียดมากๆ ไม่อยากดู”
“ชอบนางฟ้าจัดมากกว่า”
ไลลาโกรธจัด รีบพิมพ์ตอบกลับไปทันที
“ถ้าเก่งก็มาจัดเองสิคะ ทำได้อย่างเค้าแล้วค่อยมาพูด”
“ทุเรศจริงๆ”
ไลลาด่าลับหลัง ก่อนจะเลื่อนหน้าจอลงไป เห็นข้อความถัดไป “สงสัยจะเส้นดี” เธอรีบกดพิมพ์ตอบจนนิ้วระรัว แล้วนั่งหายใจแรง
กรณ์เดินเข้ามา พอเห็นไลลาก็ทำเป็นหยอด
“แก้ตัวอีกรอบม้า”
ไลลาหันไปเห็นกรณ์ ก็เชิดใส่
“เฮ้ย มาดามเค้าให้ทดลองงานแค่ 2 อาทิตย์นะ เรตติ้งไม่ขึ้นก็หลุดได้นะ”
“ลองดูค่ะ ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากัน”
กรณ์ทำหน้าเอือม “เออ ตามใจ ฉันหาดันเด็กอื่นก็ได้วะ”
ไลลาสวนกลับ “ไปหาหอยนางรมกินก่อนดีมั้ยคะ จะได้อึดๆ”
กรณ์ทำหน้าฉุนเดินออกไป ไลลาหันไปสนใจกับคอมพ์ต่อ ก่อนที่เสียงมือถือจะดังขึ้น
“ไงจิ๋ว”
จริยาที่อยู่ทางปลายสาย กำลังจัดห้องอยู่กับสมร
“ฮัลโหลเจ้ วันนี้จิ๋วทำบุญขึ้นห้องใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว คืนนี้จึงขอเรียนเชิญเจ้มาพาร์ที่ด้วยกันนะคะ”
ไลลานิ่งนิดหนึ่งก่อนจะถามออกไป “ใครไปบ้างล่ะ”
“ก็มีเป๋า มี...เอ่อ เจ้ฟ้า”
“ขอบายแล้วกัน วันนี้ฉันเครียดๆ”
จริยารีบอ้อน “โธ่ เจ้ แม่จิ๋วทำกับข้าวไว้เต็มเลย นี่จิ๋วให้ทำยำปลาหมึกที่เจ้ชอบด้วย”
“อยากไปนะจิ๋ว แต่กลัวจะไปทำงานกร่อย ขอบใจนะที่นึกถึง”
พูดจบก็รีบวางสายอย่างจำใจ จู่ๆ ไฟก็ดับพรึ่บ เธอถึงกับร้องเสียงหลง
“ว้าย”
พอไฟเปิด ก็เห็นอาทิตย์ยืนอยู่ตรงสวิตช์ไฟ
“อ้าว ขอโทษครับ ผมนึกว่ากลับกันหมดแล้ว”
ไลลาหันไปเห็นอาทิตย์ก็ยิ้มให้
รถหรูของอาทิตย์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านไลลา
“ถึงแล้วครับ เราลงกันดีกว่า”
ไลลามองหน้างงๆ “คุณจะลงด้วยหรือคะ”
“ก็ลงไปสวัสดีคุณแม่คุณไง”
“อ๋อ ไม่ต้องหรอกค่ะ คงยังไม่กลับ เอ๊ย! คงหลับไปแล้วน่ะค่ะ บายนะคะ
ขณะเธอกำลังจะเปิดประตูรถ เขาก็เรียกขึ้นมา
“คุณไลลา”
ไลลาชะงัก อาทิตย์ถอนใจ
“เอ่อ ดูคุณเครียดๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ผมก็อยากให้คุณยิ้มสู้กับมัน บางทีอุปสรรค พวกนั้นมันอาจเข้ามาเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง ผ่านมันไปให้ได้แล้วชีวิตคุณจะแข็งแกร่งขึ้น”
“ใช่ค่ะ ไลต้องพิสูจน์ตัวเอง และคนที่ไลอยากพิสูจน์ให้เห็นที่สุด...ก็คือคุณ”
ขาดคำไลลาก็พุ่งเข้าไปจูบอาทิตย์แบบไม่ทันให้ตั้งตัว
ทั้งคู่ประกบปากกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่อาทิตย์จะได้สติ รีบดันไลลาออกจากตัวเอง
“คุณทำแบบนี้ทำไม”
“ไลแค่อยากพิสูจน์ให้คุณรู้ ว่าไลเองก็มีดีไม่ต่างจากนางฟ้า”
ไลลาพูดพร้อมจ้องหน้าอาทิตย์นิ่ง
“อย่าทำแบบนี้อีก”
ไลลายิ้มเยาะ “หึ ยังไงไลก็สู้นางฟ้าไม่ได้อยู่แล้ว สำหรับทุกคน นางฟ้ามีค่ามากกว่าเสมอ”
อาทิตย์ส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่มีใครมีค่ามากไปกว่ากันหรอกครับ แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือเห็นคุณค่าในตัวเอง ก่อนจะให้คนอื่นเห็น”
ไลลาทั้งอึ้ง ทั้งน้อยใจ ก่อนจะรีบเปิดประตูรถลงไป อาทิตย์พยายามจะรั้งไว้ แต่ก็ไม่ทัน
“คุณ...”
พอเห็นไลลารีบเดินเข้าบ้านไป เขาก็ตัดใจขับรถออกไป
เพ็ญศรีแง้มม่านหน้าต่างดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ แล้วก็ปิดม่านด้วยความสะใจ
“เยส แจ๋วจริงลูกฉัน”
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 7 (ต่อ)
ไลลานั่งย้อนนึกถึงภาพตอนจูบอาทิตย์ แต่กลับถูกเขาปฏิเสธด้วยความแค้นใจ
“วันนี้เค้าอาจจะปฏิเสธฉัน แต่วันหน้าฉันจะทำให้เค้าปฏิเสธเธอ นางฟ้า จะไม่มีใครสักคนที่ต้องการเธอ แม้แต่ไอ้เป๋า”
ขณะเรด้ากำลังยืนตรวจบทหน้าเครียดอยู่ในสตูดิโอ ครู่หนึ่งไลลาในชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้นเซ็กซี่ ก็เดินเข้ามา
“โห อะไรดลใจเนี่ยน้องไร”
ไลลายิ้มให้ พร้อมกับย้อนถาม “เรตติ้งรายการเป็นไงบ้างคะพี่”
เรด้าทำหน้าเจื่อนๆ “เอ่อ ก็ใช้ได้อ่ะจ้ะ”
“พี่ บอกมา” ไลลาคาดคั้น
“เอาจริงนะ ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอะจ้ะ น่าเป็นห่วงอยู่”
ไลลาหน้าเสีย จังหวะนั้นกรณ์ก็เดินออกมา พอเห็นฝ่ายแรกแต่งตัวโป๊ก็ชะงัก แต่พอเห็นเธอมองหน้าก็ทำกลบเกลื่อน
“จัดดีๆ วันนี้รายการสดนะ แล้วก็ไปหาเสื้อคลุมมาใส่ซะด้วย โป๊เกิน เดี๋ยวนมจะทิ่มตาคนดูซะก่อน”
กรณ์เดินเลี่ยงออกไป เรด้าเดินหน้าเครียด เข้ามาใกล้ๆ ไลลา
“อันนี้สำคัญกว่า อย่าเพิ่งช็อกนะจ๊ะ คือมาดามบอกว่า ถ้าวันนี้เรตติ้งไม่ขึ้น จะให้เธอจัดเป็นวันสุดท้าย”
ไลลาเครียดกว่า
ไลลายืนล้างมืออยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ พลางนึกแค้นใจสาดน้ำใส่กระจกด้วยความโมโห
“นี่มันอะไรกันวะ โลกจะกลั่นแกล้งฉันไปถึงไหน เรตติ้งบ้าบอ ติ้งพ่อติ้งแม่ใครกันวะ หอกเอ๊ย ไหนวะ คำว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ชื่อก็เปลี่ยน หน้าก็เปลี่ยน นมก็เปลี่ยน ให้ทำไงอีกวะ โว้ย”
จากนั้นก็จัดเสื้อให้เรียบร้อยอีกครั้ง
“สุดท้ายก็ต้องสุดท้าย ถ้าไม่ได้ ก็ช่างลูกคุณยายมันแล้วกัน”
ด่าพลางสะบัดสะบิ้งอย่างโมโห จนสายเดี่ยวตรงหัวไหล่ทำท่าจะหลุด ดีที่คว้าไว้ทัน
“อุ๊ย แม่”
จังหวะที่ขยับจะผูกสายเดี่ยว พลันก็เหมือนคิดอะไรได้
ในสตูฯ ที่กำลังอัดรายการ I Love Gossip วันนี้ผู้คนหนาแน่น ไลลากำลังสัมภาษณ์นักร้องหนุ่มจากเกาหลี โดยมีล่ามช่วยแปลให้
“ถามเขาว่ารู้สึกยังไงกับสาวไทยบ้างคะ”
ล่ามหันไปส่งภาษาถาม นักร้องตอบด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ “น่ารักมั่กๆ คับ”
บรรดาติ่งเกาหลีกรี๊ดกันสนั่น
“จะถามเค้าว่าแปลกใจมั้ยคะ ว่าที่เมืองไทยมีแฟนคลับเยอะมากๆ”
ล่ามหันไปกระซิบถาม นักร้องตอบ ล่ามช่วยแปลเป็นภาษาไทย
“เค้าบอกว่าไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะในแฟนเพจของเค้า ก็มีแฟนๆ ชาวไทยเข้าไปคอมเมนท์ตลอด”
“เอิ่ม...แล้วก็”
ไลลากำลังจะถามต่อ บังเอิญเหลือบไปดูหน้าเวที เห็นนักข่าว ช่างภาพสำนักต่างๆ และแฟนคลับต่างจับจ้องมาบนเวที จึงพยายามขยับไหล่ให้สายเดี่ยวตก
“วันนี้ไปเที่ยวมาหลายที่ ประทับใจที่ไหนบ้างคะ”
ล่ามหันไปถาม ไลลาขยับไหล่อีก จนสายเดี่ยวเลื่อนหลุด ก่อนจะขาดผึงลงทั้งสองข้าง เสื้อตกลงจนเห็นหน้าอก เธอถึงกับช็อกอ้าปากค้าง
ปกรณ์ เรด้า กรณ์ และคนดู ต่างเหวอไปตามๆ กัน นักร้องเกาหลีหน้าเหวอ เลือดกำเดาไหลริน
ไลลารีบดึงเสื้อขึ้นปิดนม แล้วถามอีกรอบแก้เก้อ
“เอ่อ ประทับใจที่ไหนคะ”
นักร้องตอบด้วยสำเนียงเกาหลี “ที่นี่ แหละคับ”
ไลลายิ้มขวยเขิน คนดูทุกคนยังตะลึงงัน
เรด้ากับบ๊วยกำลังอ่านข่าวในจอคอมพิวเตอร์ ในหัวข้อข่าว “สองเต้าเขย่าจอ ไลลาหลุดออกอากาศ”
“ดังแล้วน้องเรา ยอดวิวดูรายการย้อนหลังล้านกว่าแล้ว”
เรด้าตาเป็นประกาย บ๊วยพยักหน้าเห็นด้วย
“พอมีข่าวปั๊บ คนตามไอจีไลลาเพิ่มตั้งแสน เดี๋ยวฉันเอามั่งดีกว่า”
“โชว์นมอะนะ”
“อื้อ”
เรด้าทำท่าจะอ้วก “แหม เดี๋ยวกระโถนคงขาดตลาด อ้วก”
จังหวะนั้น กรณ์ก็เดินเข้ามาหน้าเครียด เรด้าหันไปเห็นพอดี
“ว่าไงพี่”
“มันอยู่ไหน”
เรด้าทำหน้างง “ใคร”
กรณ์ถึงกับลิ้นพันกัน “อีอุลาไล อุรังอุตังอุไร ถุย! อะไรนั่นน่ะ”
ขาดคำ ไลลาก็เดินเข้ามา “มีอะไรคะ”
“แกเก็บข้าวของออกไปเลย ไม่ต้องมาจัดแล้ว”
ไลลาหน้าเสีย เรด้ารีบถาม
“มาดามว่าไงมั่งอะพี่”
“ไม่ว่าอะ”
เรด้ายิ้มดีใจ “เยี่ยม”
กรณ์พูดต่อ “แต่ด่ากูเลย โดนแฟ้มโยนใส่หน้าอีก หาว่าฉันเป็นโปรดิวเซอร์ไม่ยอมดูแล แกก็เห็นไม่ใช่เหรอ ว่าฉันเตือนมันแล้ว”
เรด้าทำเป็นไม่รู้เรื่อง “เตือนตอนไหนเหรอ ไม่เห็นได้ยิน”
“อ้าว นี่แก”
เรด้าลอยหน้าลอยตาพูดต่อ “ก็มันอุบัติเหตุห้ามได้เหรอ”
“อุบัติหอกอะไร มันตั้งใจชัดๆ”
“แล้วมาดามบอกรึไงคะ ว่าให้ไลเลิกจัด” ไลลาย้อนถาม
“ฉันเป็นโปรดิวซ์รายการนี้ ฉันสั่งได้”
ทันใดนั้น ป๋าช้างก็เดินตามเข้ามา
“ อ้าวไอ้กรณ์ มายืนหน้าง่าวอยู่ทำไม ฉันโทร. ไปบอกฝ่ายธุรการแล้วว่าแกจะย้ายไปอยู่ชั่วคราว ช่วงที่โดนทำโทษ เดี๋ยวไปได้เลยนะ”
กรณ์ปากเบะ จะร้องไห้ “ครับป๋า” แล้วก็เดินหน้าเศร้าเข้าไป
ป๋าช้างหันมาถามเรด้า “ข่าวเป็นไงมั่งเรด้า”
“เปรี้ยงไม่เปรี้ยงไม่รู้ แต่ถ้าเปิดเน็ตดู ก็มีแต่นมไลลาอะค่า”
ไลลาถามป๋าช้าง เสียงเศร้า “ให้ไลเลิกเลยใช่มั้ยคะ”
“มาดามยังไม่ได้พูดอะไร ไปเปลี่ยนเสื้อซะ แล้วเดี๋ยวลงไปแถลงข่าวพร้อมคุณอาทิตย์”
ไลลาหน้าเหวอ
ไลลากำลังจะเดินออกประตูตึก พลันปกรณ์ก็เดินเข้ามาขวาง
“อยากดังมากนักเหรอ“
“อะไรวะไอ้เป๋า”
“ทำไมต้องทำขนาดนั้นอะ” ตากล้องหนุ่มย้อนถาม “ไม่รักตัวเองเลย”
“ฉันตั้งใจเหรอ” ไลลาเชิดหน้า “ก็เสื้อมันหลุดเอง”
“ไม่ต้องโกหก ฉันรู้จักแกดี”
ไลลาเริ่มโมโห “แล้วไง เป็นคนมันก็ต้องดิ้นรนนี่หว่า”
“ดิ้นรนแบบนี้เหรอ แก้ผ้าให้คนทั้งโลกดู ไม่มีศักดิ์ศรี”
ขาดคำ ไลลาก็ตบหน้าปกรณ์ เสียใจ จนน้ำตาคลอ
“ศักดิ์ศรีเหรอวะเป๋า ฉันพยายามแค่ไหน เจ็บมาเท่าไหร่ ขนาดเพื่อนรักอย่างแก ก็ยังไม่เห็น ฉันทน
ฉันทำมาหมดแล้ว แต่มันไปไม่ถึงไหน ถึงต้องมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ ฉันไม่อยากทำหรอกเป๋า แต่โลกนี้ไม่ได้ต้องการ คนเก่ง แค่ต้องการคนดัง แกเข้าใจมั้ย”
พูดจบก็เดินร้องไห้ออกไป ปกรณ์มองตาม พร้อมกับถอนใจเฮือก
อาทิตย์กับไลลายืนให้สัมภาษณ์อยู่ตรงแบ็คดรอปบริเวณล็อบบี้อาคาร
“ผมในฐานะตัวแทนของช่อง THE SUN ขอยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดจากการเตรียมพร้อมของทางทีมงาน รายละเอียดเป็นยังไง ขอเชิญคุณไลลาครับ”
ไลลาเขยิบเข้ามาพูดไมค์
“ก่อนอื่นดิฉันคงไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่าคำว่าขอโทษค่ะ” พูดพลางยกมือพนม ทำเสียงเครือ “สิ่งที่ดิฉันทำไปนั้นเกิดจากความไม่ตั้งใจ ก่อนถ่ายทำดิฉันได้เตือนพี่โปรดิวเซอร์รายการแล้วว่า อาจจะเกิดเหตุผิดพลาดเช่นนี้ แต่เค้าก็ไม่ฟัง ยังยืนยันให้ใส่ชุดนี้ ดิฉันซึ่งเป็นแค่พนักงาน จึงไม่อาจขัดคำสั่งได้”
กรณ์กำลังยืนดูทีวีอยู่อีกห้อง ด้วยความโมโห
“อีไล นรกสุดๆ”
ไลลาพูดต่อ “ดิฉันขอยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกค่ะ ขอบคุณค่ะ”
จากนั้นทั้งอาทิตย์และไลลาก็พากันเดินออกไปทางด้านหลังฉาก
“จะให้ไลพักงานมั้ยคะ”
“พักทำไม ต่อยอดสิคุณ รีบทำซะตอนที่กำลังมีคนสนใจ ลงทุนขนาดนี้แล้ว”
อาทิตย์กำลังจะเดินออกไป ก่อนจะหันมาพูดทิ้งท้ายยิ้มๆ
“แต่วันหลัง จะทำอะไรแบบนี้ ช่วยปรึกษาผมก่อนนะ”
พูดจบก็เดินผละไป ไลลามองตาม ด้วยสายตาหวิว
ในเว็บ Youtube เห็นคลิป MV. ซิงเกิ้ลแรกของ โจ & จิ๋ว ที่วาดลวดลายแด๊นซ์กระจาย ในกลุ่มแดนเซอร์มีเมฆเต้นอย่างเต็มที่
ภาพในสตูดิโอ ไลลานั่งเล่าข่าวอย่างถึงพริกถึงขิง
พาดหัวข่าวจากนิตยสาร “ไลลา มาแรง I Love Gossip เรตติ้งพุ่ง”
ที่ร้านอาหารตามสั่ง ทั้งแม่ค้าที่กำลังผัดข้าว และลูกค้าที่นั่งกินต่าง พากันสนใจลีลาเม้าท์ข่าวของไลลาในทีวี
ไลลาพาเพ็ญศรีเข้าไปยังบ้านหลังใหม่ เป็นบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านกลางเมือง ผู้เป็นแม่ยิ้มดีใจ เช็ดน้ำตาป้อยๆ ด้วยความปลื้มปริ่ม
ที่บ้านของอัปสรสวรรค์ เดือนเด่นกับคนใช้นั่งดูละคร “สองกฤษณา” ที่กำลังออนแอร์ฉากพระเอกจะจูบนางเอกอยู่ที่โซฟาหน้าตายิ้มแย้ม
ที่ทีวีอีกเครื่อง ในฉากภีมจูบอัปสรสวรรค์ มะเขือเทศลูกใหญ่ถูกปามาแตกเลอะจอ ฮันนี่นั่งกัดฟันแค้น โดยมีชิวาว่านั่งนวดอยู่ข้างๆ
ที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง อัปสรสวรรค์กับภีมยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ที่หน้าแบ็คดรอป อาทิตย์ยืนกอดออกมองอยู่ห่างๆ
ที่สตูดิโอช่อง THE SUN ปกรณ์กำลังเล็งกล้อง ถ่ายรูปให้โจ & จิ๋ว ในซิงเกิ้ลใหม่
ที่ป้ายรถเมล์ วัยรุ่นนั่งดู MV. ซิงเกิ้ลแรกของโจ & จิ๋ว ใน Youtube ตัวเลขยอดวิวพุ่งขึ้นเป็นแสน
บอร์ดประชาสัมพันธ์ของช่อง THE SUN มีโปสเตอร์โฆษณาทั้ง “สองกฤษณา” , “I LOVE GOSSIP by Layla ” และ “ซิงเกิ้ลแรกของโจ & จิ๋ว” แปะเรียงกัน
ราศีนั่งดูแฟ้มที่ปูเปรี้ยวนำมาเสนออยู่ที่โต๊ะทำงาน
“ตอนนี้ผลงานของช่องเราทั้งละคร รายการ เพลง เรตติ้งขึ้นอันดับหนึ่งหมดเลยค่ะ ทั้งภีมทั้งน้องนางฟ้าเดินสายออกรายการ งานอีเว้นต์ ถ่ายแบบกันหัวหมุน แทบไม่มีเวลาว่าง”
ราศีพยักหน้ารับ “เออ ดูๆ ยัยฟ้าด้วย”
“ส่วนเรตติ้ง I Love Gossip ก็แซงรายการของเออออห่อหมกกับนัตตี้ได้แล้วค่ะ”
ราศีรับรู้ด้วยความแปลกใจแต่แล้วก็ยิ้มออก
“อืม เด็กคนนี้ดวงแปลกนะ ยิ่งด่ายิ่งดัง ทำอะไรก็เป็นเรื่องเป็นประเด็นไปเสียหมด”
“ตอนนี้ตามเพจต่างๆ ถึงขั้นมีการแบ่งฝักฝ่าย เป็นติ่งนางฟ้า ติ่งไลลากันเลยทีเดียวค่ะ”
อาทิตย์รายงานต่อ “ส่วนค่ายเพลงของผม ก็สอบผ่านแล้วนะครับ โจ&จิ๋ว ซิงเกิ้ลแรก คนดูห้าล้านวิว งานโชว์ยาวไปปีหน้า นี่ขนาดยังไม่ได้ออกอัลบั้มเต็มนะครับ”
“ไปเอาดีดีทีมาซิปูเปรี้ยว ฉันจะเอามาฉีดแมงโม้ บินว่อนเลย”
ราศีมองลูกชายยิ้มๆ อาทิตย์ยิ้มหน้าทะเล้นให้แม่ ปูเปรี้ยวอมยิ้มมอง 2 แม่ลูกอย่างปลื้มปริ่ม
บ๊วยทำตาโตเมื่อเห็นภาพปกรณ์ถือกล้องถ่ายรูป แอ็คชั่นอย่างเท่ในนิตยสาร
“ว้าย กรี๊ด อะไรเนี่ย พี่เป๋า ช่างภาพสุดฮิปคนใหม่ ไปลงหนังสือมาเมื่อไหร่เนี่ย”
ตากล้องหนุ่มยิ้มเขิน คนอื่นๆ กรูเข้ามารุมดู ไลลายืนดื่มกาแฟมองเพื่อนอย่างชื่นชม
ป๋าช้างหัวเราะหึๆ “ได้ข่าวตั้งแต่ถ่ายแฟชั่นให้โจ & จิ๋ว งานนอกจ้างมาเพียบ”
ไลลาชะงักฟัง ข่าวความดังของปกรณ์ ป๋าช้างพูดต่อ
“สงสัยไม่นานช่องเราคงต้องหาตากล้องมาใหม่ซะล่ะมั้ง ดังแล้วก็แยกวง”
“โห ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ใครจะทิ้งลุงได้”
“ถ้ามันเจริญกว่าก็ทิ้งไปเถอะวะ ทำงานที่รักน่ะ รุ่งเร็วกว่า ยังไงเจอคุณอาทิตย์ก็ขอบคุณเค้าซักหน่อย ที่ให้โอกาสแกจนคนได้เห็นฝีมือ”
ปกรณ์ทำหน้านิ่ง ไลลาแอบเหล่มอง จังหวะนั้น เรด้าก็วิ่งถือแฟ้มเข้ามา
“เอ้าๆ ทุกคน มีข่าวดี”
ป๋าช้างหันไปถามทันที “อะไรยะ”
“คืนนี้มาดามกับคุณอาทิตย์ เค้าจะพาไปเลี้ยงฉลองเรตติ้งช่องขึ้นอันดับหนึ่ง ให้พวกเราทุกคน”
ป๋าช้างเฮลั่น “เอ้า เฮ”
ทุกคนพากันเฮตามด้วยความดีใจ
ที่งานเลี้ยงที่จัดขึ้นที่ห้องอาหาร
ป๋าช้างกับลูกเป็ดกำลังร้องเพลง “จูบเย้ยจันทร์” อยู่บนเวที เรด้า บ๊วยและพวกพนักงาน ลุกขึ้นเต้นและโห่ร้องกันสนุกสนาน
ราศีนั่งยิ้มแย้มคุยกับเดือนเด่น ปูเปรี้ยว อัปสรสวรรค์นั่งอยู่กับจริยา ส่วนอาทิตย์นั่งคุยกับโจ
ที่โต๊ะฝ่ายข่าว ปกรณ์ ไลลา และพนักงานนั่งรวมวงกิน ดื่มกันอย่างครึกครื้น
ป๋าช้างร้องจบพอดี ทุกคนปรบมือเกรียว เรด้าตะโกนเสียงดัง
“จูบเลยๆๆ”
ป๋าช้างมองเขม่น “ เชียร์บ้าๆ เดี๋ยวคุณลูกเป็ดเค้าด่าให้”
ลูกเป็ดทำขวยเขิน “ไม่ด่าหรอกค่ะ ชอบเลย”
ป๋าช้างรีบตัดบท “เอ้าๆ เชิญคนต่อไปมาร้องดีกว่า ใครดีพวกเรา เอาคนที่ไม่เคยขึ้นมานะ ไอ้พวกเมาไมค์ร้องไม่หยุด ไม่เอา เอ้า! ใครวะ..ไม่เคย”
พนักงานมองๆไปข้างหลังแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“ไอ้เป๋า”
ตากล้องหนุ่มยกมือโบก “ไม่เอาๆ ร้องไม่เป็น”
เรด้าสอดขึ้นมาทันที “ไม่ต้องเลย มาๆ”
ว่าแล้วก็เข้าไปดึงปกรณ์ออกมาจากโต๊ะ
ตากล้องหนุ่มเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างเขินๆ ป๋าช้างยื่นไมค์ให้ พวกข้างหน้าเวทีส่งเสียงเฮชอบใจ
อัปสรสวรรค์กับจริยาอมยิ้ม พลางมองมาบนเวที ไลลากอดอกยิ้มๆ รอลุ้นว่าปกรณ์จะร้องเพลงอะไร
“เอ่อ ผมก็ไม่เคยร้องเพลง”
เรด้าตะโกนสวนขึ้นมา “ก็เคยซะสิโว้ย”
ปกรณ์มองไปที่โต๊ะด้านล่าง เห็นอัปสรสวรรค์กำลังยิ้ม แล้วมองมา พร้อมทำท่าชูสองนิ้วสู้ๆ แถมด้วยสามนิ้วเลิฟยูแบบขำๆ แต่ก็ทำเอาเขาฮึดสู้ เอาจริง พลางเดินเข้าไปกระซิบนักดนตรี แล้วเดินมาที่หน้าเวที
“เพลงนี้ จะเป็นเพลงแรกและเป็นเพลงสุดท้ายที่ผมจะร้องให้ฟังนะครับ”
พนักงานเฮกันลั่น บ๊วยถามล้อๆ
“ทำไมเพลงสุดท้าย จะตายแล้วเหรอ หล่อตี๋หยั่งงี้ อย่าเพิ่งรีบตายนะจ๊า”
ทุกคนเฮลั่น ปกรณ์อมยิ้มเขิน ก่อนจะตั้งใจพูด น้ำเสียงจริงจัง
“บทเพลงนี้ แทนใจของผมครับ”
อินโทรขึ้นเพลง ทุกคนส่งเสียงกรี๊ด
ตากล้องหนุ่มร้องเพลงไป พลางส่งสายตามองไปยังอัปสรสวรรค์ ที่มองแล้วยิ้มตอบ จริยาเหลือบเห็น ก็รู้สึกจ๋อย ไลลามองอย่างหมั่นไส้
ปกรณ์เริ่มร้องเพลงด้วยความผ่อนคลาย และฉายเสน่ห์ขึ้นทุกทีๆ สายตาอัปสรสวรรค์เริ่มเปลี่ยนไปเช่นเดียวกับไลลา ส่วนจริยาได้แต่ทำใจ
ดนตรีกำลังจะจบเพลง พวกที่หน้าเวที กรูกันขอจับมือแบบเวทีคอนเสิร์ต
“จับมือหน่อยค่า พี่เป๋าของหนู”
ปกรณ์ยิ้ม พร้อมกับเดินแตะมือพวกหน้าเวทีเหมือนนักร้อง พวกขี้เมาร้องตะโกน
“เอาอีกๆๆๆ”
พลันก็มือใครคนหนึ่งยื่นดอกกุหลาบมาที่หน้าเวที ตากล้องหนุ่มยื่นมือไปรับ
“ขอบคุณครับ”
พอเงยหน้า ก็เห็นว่าเจ้าของดอกกุหลาบนั้นคืออัปสรสวรรค์ ทั้งคู่ยิ้มเขินกัน จริยายิ่งจ๋อยหนัก พลันก็กระดกแก้วดื่มพรวด เมฆถึงกับตาเหลือก
อาทิตย์ที่กำลังคุยอยู่กับเดือนเด่นหันมาเห็นภาพนั้นพอดี ก็ถึงกับอึ้งไปเช่นเดียวกัน
เดือนเด่นเห็นอาการของอาทิตย์ ก็รีบพุ่งไปที่เวที แล้วกระชากลูกสาวออกไปทันที
“กลับบ้าน”
“แม่”
ปกรณ์ได้แต่จ๋อย มองตามอัปสรสวรรค์ถูกกระชากไปจนลับตา ไลลาทำหน้าเบ้ด้วยความหมั่นไส้
หลังงานเลี้ยงเลิก ทุกคนเตรียมแยกย้ายกันกลับบ้าน
ไลลาเดินแยกออกมาที่ลานจอดรถเปลี่ยวๆ อย่างเซ็งๆ ชีวิต หางตาเหลือบไปเห็นเด็กเสิร์ฟชายหญิงคู่หนึ่งขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์แล้วกอดกันออกไปอย่างมีความสุข ยิ่งเห็น ก็เครียด ที่คนอื่นมีความรักกัน
ที่ลานจอดรถเปลี่ยวด้านหลังไลลา ชายในชุดคลุมสีดำวิ่งผ่านแวบไป เธอสะดุ้งหันไปมองแต่ก็ไม่เห็นใคร พอหันกลับมาจะเดินไปที่รถ จู่ๆ ชายชุดดำ ใส่หน้ากากแบบในหนังเรื่อง Scream ก็เข้ามาทางด้านหลังแล้วปิดปากเธอทันที
ไลลาช็อก ตกใจ ก่อนจะถูกชายชุดดำลากเข้าไปหลังเสา
เธอพยายามสะบัดดิ้นสุดแรง แต่มันบีบคอเธอแล้วดันไปจนติดกำแพง ก่อนจะหยิบมีดคมและมันวาวออกมา
“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันนะ”
“กลัวเหรอ? เก่งนักไม่ใช่เหรอ ปากเก่งขี้เม้าท์ชาวบ้าน วันนี้จะเอาให้ปากฉีกไปถึงหูเลย”
มันจิกหัวเธอจนหน้าหงาย เตรียมเอามีดปาดหน้า
“อย่านะ”
ปกรณ์เดินออกมาที่ลานจอดรถ เหลือบหันไปเห็นอะไรบางอย่างที่หลังเสาไกลๆ ในขณะที่มันกำลังจะกดมีดไปที่หน้าไลลา เขาก็วิ่งเข้ามากระโดดถีบจนมันเซไป
“ไล เป็นอะไรรึเปล่า”
พลันมันก็พุ่งเข้ากระชากตัวเขา และแทงฉึกเข้าที่ท้องจนมิดด้าม
ไลลาร้องด้วยความตกใจ “เป๋า”
คนร้ายรีบวิ่งหนีไป พร้อมกับที่ปกรณ์ล้มลงไปนอน เลือดจากแผลไหลนอง
ไลลาหน้าซีดทำอะไรไม่ถูก รีบคุกเข่าลงไปเขย่าตัว
“เป๋า เป๋า แกอย่าเป็นอะไรนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย เพื่อนฉันโดนแทง”
ตากล้องหนุ่มหมดสติในนาทีนั้นเอง
จริยา เรด้า ป๋าช้าง ยืนเครียดกันอยู่ที่หน้าห้องไอซียู
ป๋าช้างมองเข้าไปในห้องด้วยความเป็นห่วง “เวรกรรมอะไรของไอ้เป๋ามันน้า”
เรด้าหน้าเศร้า “เฮ้อ คนมันจะซวย ช่วยไม่ได้จริงๆ”
“บ้านเมืองสมัยนี้ขโมยขโจรมันชุมยิ่งกว่ายุง แล้วไลลาล่ะ”
“กำลังไปแจ้งความค่ะ”
สักพักพยาบาลก็เดินออกมาจากห้อง จริยารีบเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปหา
“เพื่อนฉันเป็นยังไงบ้างคะ”
ทุกคนรอฟัง สีหน้าตื่นเต้น
อัปสรสวรรค์คุยมือถือกับจริยา สีหน้าไม่ดีนัก
“โอเค จ้ะจิ๋ว เจอกัน”
พอวางสาย ก็รีบคว้ากระเป๋าจะออกไป เดือนเด่นหันมาถาม
“จะออกไปไหน”
“ไปโรงพยาบาลค่ะ เป๋า เอ่อ...เพื่อนโดนแทงอ่ะค่ะ”
“นายเป๋า ไม่ต้องไปเลย บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปยุ่งกับมัน มันเป็นกุ๊ย เป็นอันธพาล นี่คู่อริมันคงตามมาดักตีสิ”
อัปสรสวรรค์เสียงแข็งขึ้นมาทันที “โจรค่ะแม่ เป๋าโดนโจรแทง”
“นั่นไง คนเสนียดทั้งคู่เลย ไม่ต้องไปเลย เดี๋ยวมันตามไปแทงกันต่อในโรงพยาบาล แกจะไม่พลอยซวยไปด้วยเรอะ ไม่ต้องไป”
ซุปตาร์สาวไม่สนใจ สะบัดหน้าเดินออกไปเลย เดือนเด่นตะโกนตาม
“ยัยฟ้า”
พอไลลาเดินออกมาจากโรงพัก พวกนักข่าวที่รออยู่แล้ว ก็เข้ามารุมทันที
“อาการคุณเป๋าเป็นยังไงบ้างคะ”
“อ๋อ ปลอดภัยแล้วค่ะ”
นักข่าวอีกตนถามต่อ “คนร้ายต้องการอะไรคะ ชิงทรัพย์? หรือโกรธแค้นส่วนตัว”
ไลลาชะงักไปนิดหนึ่ง รีบคิดอย่างรวดเร็วก่อนตอบ
“เอ่อ คนร้ายเป็นแฟนคลับไลค่ะ”
“แฟนคลับ ?”
“ค่ะ เค้าคลั่งไลมาก ทั้งโทร. ไปรบกวนที่บ้าน ทั้งคอยเดินตามไปทุกที นี่เห็นไลอยู่กับเป๋า ก็คงหึงหวง
น่ะค่ะ”
พวกนักข่าวหันมองหน้ากัน
“ทำไมต้องหวงคะ น้องไลกับน้องเป๋า เป็นแฟนกันเหรอคะ”
ไลลาสะดุ้ง เพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้ข่าวนี้ แต่พอนักข่าวต้อนขอคำตอบ เธอก็ตาวาวเกิดแผนการ ทำเป็นแกล้งพิรุธแอบเขิน
“ไลขอให้ข่าวแค่นี้ละกันนะคะ”
ขาดคำก็รีบเดินออกไป นักข่าวตะโกนถามกันเซ็งแซ่ ต่างพากันงง
เรด้ากับบ๊วย กำลังนั่งอ่านข่าวในมือถือ โดยมีจริยานั่งอยู่ใกล้ๆ
“บุกแทงเป๋า ช่างภาพสุดฮิป ขณะกุ๊กกิ๊ก 2 ต่อ 2กับนักข่าวดังไลลา คาดเป็นแฟนคลับนักข่าวที่หึงหวง”
เรด้าตกใจ “เฮ้ย เพิ่งรู้วันนี้ 2 คนนี้เค้าแอบคบกันเหรอ”
บ๊วยตาโต “อะไร ยังไง ตอนไหนอ่ะ โห่”
จริยาได้ยินอย่างนั้น ก็ยิ่งจิตตก หน้ามุ่ย
เรด้าอมยิ้ม “เจ้าเป๋านี่ไม่เบานะเนี่ย กินเงียบๆ”
บ๊วยรีบเถียง “ใครกินใครกันแน่ แหม น้องเป๋าดูขาวๆ ใสๆ ซื่อๆ อย่างนี้ โดนแม่ไลลาจับกินมากกว่ามั้ง”
“นังบ๊วย ไม่กล้าก็อย่าอิจฉา นี่เค้าทำข่าวด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันยันเช้า สงสัยจะรักจะเกิดระหว่างงาน น้องจิ๋วว่าไง”
จริยาจากหน้าสลด เปลี่ยนเป็นโมโห “ไม่น่ารอดเลย น่าจะตายๆ ไปซะ”
พูดจบก็เดินสะบัดหน้าออกไป เรด้ามองหน้าบ๊วยแบบงงๆ
ปกรณ์นอนหลับอยู่บนเตียงในห้องคนไข้ จริยาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มองเขาอย่างเป็นห่วง แต่ก็อดพูดประชด
ไม่ได้
“สมน้ำหน้า ฮีโร่”
แต่พอมองหน้าเขาสักพัก เธอก็เสียงเครือด้วยความน้อยใจ
“แกชอบใครกันแน่เป๋า ฟ้า หรือไล”
พลันมือถือก็สั่นรัว จริยารีบหยิบขึ้นมาดูแล้วกดรับ
“คะ คุณอาทิตย์ ค่ะๆ”
พอวางสาย ก็รีบเดินออกจากห้องไป คลาดกับอัปสรสวรรค์ที่เปิดประตูเข้ามานิดเดียว
ซุปตาร์สาวเดินเข้ามาอยู่ข้างๆ เตียง พลางก้มมองหน้าตากล้องหนุ่ม แลัวค่อยๆ เอื้อมไปจับมือเขา
“แกต้องไม่เป็นไรนะเป๋า ฉันอยู่นี่แล้วนะ”
ประตูค่อยๆ แง้มออก พร้อมกับที่อาทิตย์กับจริยาที่ช่วยหิ้วกระเช้าผลไม้เดินเข้ามา
ทั้งสองเห็นภาพที่อัปสรสวรรค์ก้มลงไปและจับมือคุยกับปกรณ์ก็รู้สึกวูบในใจ
เสียงประตูปิด อัปสรสวรรค์หันมาเห็นทั้งคู่ ก็รีบถามทั้งที่จับมือปกรณ์อยู่อย่างนั้น
“จิ๋ว หมอบอกเป๋าเป็นไงบ้าง”
ฝ่ายถูกถามพยายามปรับสีหน้า “เอ่อ คุณหมอเย็บแผลให้แล้วก็รอฟื้น”
ซุปตาร์สาวเหลือบมองอาทิตย์ “มาด้วยหรือคะ”
“เค้าเป็นพนักงานบริษัทผมนี่ครับ”
“แล้วไลล่ะจิ๋ว”
จริยาหน้าเจื่อนไปนิด เมื่อได้ยินชื่อไลลา
จังหวะนั้นไลลาก็เปิดประตู แล้วเดินเข้ามาพอดี ทุกคนหันไปมอง
ไลลาเห็นหน้าอัปสรสวรรค์ ก็แอบหน้าเบ้ ไม่อยากอยู่ต่อ รีบหันไปบอกอาทิตย์
“เดี๋ยวไลเข้ามาใหม่นะคะ”
พลันปกรณ์ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น พร้อมกับบีบมืออัปสรสวรรค์
“เป๋า เป๋าฟื้นแล้ว”
ทุกคนเข้าไปดูข้างๆ เตียง ไลลาเปลี่ยนใจยังไม่กลับ แต่เดินเลี่ยงเข้าไปดูอีกมุมเตียง
ปกรณ์มองหน้าทุกคนแล้วก็ค่อยๆ ยิ้มออกมา ทุกคนยิ้มตอบ ยกเว้นอาทิตย์ที่ทำหน้าเฉยๆ
ป๋าช้างและทุกคนในหน่วยบันเทิงกำลังทำงานอย่างเคร่งเครียด ไลลานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ กำลังดูแฟนเพจ “ไลลา FANCLUB” เห็นมียอดไลค์กว่า 5 แสนคน
ในแฟนเพจ เห็นภาพที่แฟนคลับคนหนึ่งตัดต่อรูปเธอคู่กับปกรณ์เหมือนเป็นคู่รักกันเอามาโพสต์
ปกรณ์เดินเข้ามา ทุกคนหันไปเห็นก็พากันดีใจ รีบเข้าไปรุมล้อม ไลลารีบเปลี่ยนหน้าจอคอมพ์
“หายดีแล้วรึไงไอ้หลานชาย” ป๋าช้างถามยิ้มๆ
“โอเค แล้วครับ”
เรด้าพูดต่อ “มาดามเค้ากำลังเครียดอยู่เลย เพราะเดี๋ยวจะทำปฏิทินปีใหม่แจกแฟนๆ ทางบ้าน กลัว ไม่มีช่างภาพ”
ปกรณ์ยิ้มกว้าง “สบายมากครับ”
พูดจบก็มองไปที่โต๊ะไลลา เจ้าของโต๊ะยิ้มให้
ไลลากับปกรณ์เดินคุยกันมาตามระเบียง
“แผลเป็นไง”
“โอเค ละ แล้วตกลงไอ้โจรนั่นมันจะเอาอะไรวะ” ตากล้องหนุ่มถามอย่างคาใจ
“มีคนจ้างมันมา”
“ใคร ?”
“คนที่เพิ่งมีปัญหากับฉัน มีแค่ฮันนี่กับนัตตี้ แต่ฉันว่าตัวแรก”
“แล้วทำไมโกหกนักข่าว” ปกรณ์ย้อนถาม
ไลลาอึ้งไปครู่หนึ่ง “ฉันจะไปพูดถึงพวกนั้นได้ยังไง เดี๋ยวมันได้ฟ้องหมิ่นประมาทสิ”
“แล้วจะแก้ข่าวยังไง เรื่องฉันกับแกแอบกิ๊กกัน”
ฝ่ายถูกถามฉุนขึ้นมาทันที “ทำไมอะ เป็นข่าวกับฉัน มันเดือดร้อนมากเหรอ”
“ฉันก็แค่กลัวแกคิดมาก”
“กลัวฉันคิด รึกลัวนางฟ้าจะคิด”
ปกรณ์มองหน้าไลลา อึ้งจนพูดไม่ออก
“ยังไงก็ขอบใจมากนะ”
“ต่อไปก็ระวังๆ หน่อยแล้วกัน อย่าไปไหนคนเดียว”
ไลลายิ้มหวาน “เป็นห่วงเหรอ”
“ฉันก็เป็นห่วงทุกคนแหละ”
“ก็ยังดี ที่รวมฉันด้วย”
พูดจบก็ทำหน้าเซ็งๆ แล้วเดินนำออกไป ตากล้องหนุ่มส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปเห็นจริยาเดินเข้ามาพอดี เขายิ้มให้ แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าบึ้ง แล้วเดินหนีไป
ปกรณ์ยืนมองงงๆ
“อะไรวะ”
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 7 (ต่อ)
อัปสรสวรรค์ยืนโพสท่าให้ปกรณ์ถ่ายแบบ
อยู่บนเรือสปีดโบ๊ทที่แล่นออกไปกลางทะเล โดยมีอาทิตย์กับปูเปรี้ยวยืนดูอยู่ห่างๆ
อีกมุมหนึ่งในเรือ ไลลา จริยา และดาราคนอื่นๆ กำลังแต่งหน้ากันอยู่ โดยมีเรด้ากับบ๊วยคอยคุม
ภีมเดินมายิ้ม พร้อมกับสบตาไลลา แต่อีกฝ่ายทำเมิน
ปกรณ์ทำหน้าที่ถ่ายภาพ ทั้งภาพภีมคู่กับอัปสรสวรรค์ , ไลลา , โจ&จิ๋ว รวมถึงอาทิตย์ในท่านั่งสบายๆ สไตล์ผู้บริหาร
พอเสร็จงาน อัปสรสวรรค์ จริยา ปกรณ์ ก็กระโดดน้ำเล่น ร้องเฮฮาสนุกสนาน ไลลายืนมองเพื่อนๆ เล่นน้ำกัน พลางนึกถึงเรื่องในอดีต
ที่ร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งเป็นร้านประจำของเพื่อนรักทั้งสามสมัยเรียนมหาลัย อัปสรสวรรค์ อุไรวรรณ และจริยา นั่งล้อมวงกินขนม และพูดคุยกันอยู่
“เจ้ฟ้าอยากเป็นผู้จัดละคร เจ้ไรอยากเป็นนักข่าว จิ๋วก็อยากเป็นนักร้อง จะเป็นไปได้มั้ยน้า ที่เราจะได้ทำงานอยู่ที่เดียวกัน”
จริยาถามขึ้นมาก่อน อุไรวรรณส่ายหัวยิก
“บ้าเหรอ อย่างน้อยฉันว่าไอ้ฟ้ามันต้องได้ไปอยู่ช่องใหญ่ๆ ส่วนฉันก็คงเป็นนักข่าวอยู่ตามช่องท้องถิ่นล่ะมั้ง”
“แล้วจิ๋วอ่ะ”
“แกคงไปยืนเต้นอยู่ตามหน้าลานรถบั๊มพ์งานวัดอะ”
จริยาแกล้งทำหน้ามุ่ย “โห คิดได้เนอะ”
อัปสรสวรรค์แย้งขึ้นมา “ฉันว่าถึงเราจะไม่ได้ทำงานอยู่ที่เดียวกัน แต่แค่ทำงานที่ตัวเองรักและได้อยู่วงการเดียวกัน ก็มีความสุขมากๆ แล้วนะ”
อีก 2 สาวพยักหน้าเห็นด้วย พลันก็มีรุ่นพี่หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมา
“แหม แก๊งนี้เหนียวแน่นจริงๆ แม้แต่นังหมวยไรที่หน้าตาไม่เข้าพวกก็ยังคบกันมาได้ ยกนิ้วให้เค้าเลย”
อุไรวรรณรีบบอก “ โห่ พี่เหมียว ความเป็นเพื่อนน่ะ เทพธิดาหรือภูตผีปีศาจก็คบกันได้น่า”
“พวกแกแต่ละคนนี่ แคแรกเตอร์ต่างกันมากเลยนะ แล้วก็โดดเด่นมาก ถ้าซักวันแยกกันเมื่อไหร่ คงจะดังทั้ง 3 คนเลย”
จริยารีบย้อนถาม “แล้วทำไมต้องแยกกันด้วยล่ะพี่”
“แกก็ดูจากรุ่นพี่ๆ เป็นตัวอย่างสิ แก๊งไหนหน้าตาดี ทำงานเก่ง แต่คบกันเหนียวแน่น เฮไหนเฮกัน ทีนี้พอใครในกลุ่มจะทำอะไรก็รั้งกัน งอนกัน มันก็เลยหยุดอยู่แค่นั้น แต่แก๊งไหนมีแต่ตัวเด็ดๆ แล้วซักวันแยกกันไปสร้างผลงาน นั่นแหละดังทุกคน”
“อาจจะไม่เป็นงั้นเสมอไปก็ได้ พวกเรานี่แหละค่ะ จะรวมกันดังให้ดู แบบขบวนการดิอเวนเจอร์ไงคะ”
รุ่นพี่หัวเราะขำ “หวาย อีจิ๋ว อีบ้าการ์ตูน”
3 เพื่อนรักหัวเราะร่วน
ไลลามองไปเห็นอัปสรสวรรค์เล่นน้ำกับปกรณ์อย่างร่าเริง รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปทั้งคู่เล่นน้ำไว้
อาทิตย์ที่เห็นภาพเดียวกันแอบทำหน้าเศร้า ก่อนจะลุกเดินมา
“ไม่ไปเล่นเหรอคุณ”
ไลลาสะดุ้งรีบเก็บมือถือ “เอ่อ ไม่หรอกค่ะ”
“ไปสิ เดี๋ยวผมเล่นด้วย หายากนะ กลุ่มเพื่อนรักที่มาถึงฝันพร้อมๆ กันหมด ไม่เหมือนแก๊งผม ไม่ได้เรื่องกันซักตัว”
จริยาขึ้นจากน้ำ วิ่งเข้ามาชวน “คุณอาทิตย์ด้วย ไปเล่นน้ำกันค่ะ”
อาทิตย์หันมาทางไลลา “ไปครับ ไปเล่นน้ำกัน เขินเหรอ?”
ไลลาส่ายหน้า “ไม่ได้เขิน แต่ไม่ชอบเล่น”
จริยาพูดแขวะขึ้นมาทันที “ไม่ชอบอะไร เมื่อก่อนตอนเรียนน่ะ เจอน้ำไม่ได้เลย ลืมแล้วเหรอ”
ไลลาหันขวับมองเจ้าของคำพูด รู้สึกทะแม่งๆ แต่จริยาทำหน้าตาเฉย
อาทิตย์ชวนซ้ำ “เวลาสนุกก็ให้มันเต็มเหนี่ยวดีกว่า ไปเหอะ”
ไลลายอมลุก อาทิตย์ยิ้มแล้วเดินเข้าไปคว้าจริยาอีกมือหนึ่ง
“ไปเล่นด้วยกัน”
จริยาหน้าตึง แต่จำใจยอมเดินไป ทั้ง 3 คนเดินไปหยุดยืนมองปกรณ์ที่กำลังประคองอัปสรสวรรค์ขึ้นจากน้ำ
ไลลารีบพุ่งไปดึงมือปกรณ์ พร้อมกับยิ้มแย้ม
“เป๋า เล่นน้ำกัน”
ทั้ง 5 คนต่างก็อึ้งกันไปนิดหนึ่ง ก่อนที่อัปสรสวรรค์จะวิ่งไปกระชากมือจริยา
“จิ๋ว โดด”
ฝ่ายถูกกระชากตกใจ รีบคว้ามืออาทิตย์ “ คุณอาทิตย์”
อาทิตย์หันมาคว้ามือไลลา “โดด”
ปกรณ์ที่ถูกไลลาคว้าข้อมือไว้แล้ว ก็รีบเอาอีกมือคว้ามืออัปสรสวรรค์ พร้อมกับยิ้มให้
ทุกคนพากันวิ่งจับมือเป็นแถวจับมือกันกระโดดน้ำ พร้อมกับตะโกนร้องเสียงดังด้วยความสะใจ
อัปสรสวรรค์ จริยา และพวกสาวๆ เล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดกันอย่างสนุกสนาน ส่วนพวกพนักงานชายรวมกลุ่มกันเตะบอล
ไลลาในชุดบิกินี่ท่อนบนใส่แว่นดำนอนอยู่ที่เตียงริมหาด ค่อยๆ เอือมมือหยิบครีมกันแดดขึ้นมา ก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นปกรณ์กำลังพักเหนื่อยจากเตะบอลพอดี
“เฮ้ย เป๋า”
ปกรณ์หันมอง แล้วเดินเข้ามาหา
“ว่าไง”
“ทาครีมให้หน่อยดิ”
ปกรณ์หน้าเหวอ “ทาครีม ทำไมอะ ทาเองไม่ได้เหรอ”
“ทาหลังจะเอื้อมถึงมะ”
พูดจบก็นอนคว่ำหน้าทันที
“เอ่อ ให้ไอ้จิ๋วมันทามั้ย”
“ก็มันเล่นกันอยู่ แกนั่นแหละ แป๊บเดียวเอง”
ปกรณ์รับขวดครีมมาแล้วนั่งลงข้างๆ บีบครีมใส่มือแล้วนั่งมองหลังไลลาอึ้งๆ ไม่กล้าทา
“เร็วสิ เดี๋ยวฉันดำหมด”
ตากล้องหนุ่มค่อยๆ ทาครีมกันแดดลงที่หลังอย่างเจื่อนๆ ไลลานอนหลับตายิ้มเคลิ้ม
“อืม โอเค เลยเป๋า ช้าๆ”
อัปสรสวรรค์กับจริยาที่เล่นวอลเล่ย์อยู่ พอดีบอลกระเด็นออกนอกสนามไปทางเตียง ทั้งคู่หันมาเห็นปกรณ์กำลังนวดหลังไลลาก็อึ้งๆ โดยเฉพาะจริยา ที่รู้สึกหึงขึ้นมา
ไลลาเหลือบไปเห็นอัปสรสวรรค์กำลังมองมาก็ยิ่งอยากยั่ว
“โอ๊ย ตรงไหล่เนี่ยแหละ เจ็บมาก นวดให้หน่อยๆ”
ปกรณ์จำใจต้องนวดด้วยสีหน้าเริ่มรำคาญ
เสียงเรด้าตะโกนขึ้นมา “เฮ้ย เป๋า เก็บบอลให้หน่อย”
ปกรณ์หันมาเห็นลูกบอลที่กลิ้งมาก็ผละจากไลลาจะไปเก็บให้ แต่พอกำลังจะก้มเก็บ จริยาก็รีบเดินเข้ามาเก็บก่อน
ทั้งคู่มองหน้ากัน จริยาโมโห เอาบอลปาใส่หน้าปกรณ์อย่างแรงแล้วเดินออกไป
อัปสรสวรรค์กำลังจะขอปลีกตัวกลับ
“ไปล่ะ กลับก่อน เดี๋ยวไม่ทัน”
จริยาทำหน้าสงสัย “อ้าว ไปไหนอ่ะเจ้”
“เดี๋ยว 2 ทุ่มมีเดินแฟชั่นอะจ้ะ พี่คนขับรถมารับแล้ว”
“โห่ เซ็งเลย ได้อยู่กะเจ้แป๊บเดียว”
“น่า อย่างอแงไอ้จิ๋วหลิว” พูดพลางขยี้หัวจิ๋วอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินออกไป ผ่านไลลาที่นอนอยู่ที่เตียงชายหาด
ไลลากำลังมองไปเบื้องหน้า เห็นอาทิตย์กำลังนั่งดีดกีต้าร์อยู่คนเดียว ก็ยิ้มกริ่ม
อาทิตย์นั่งเกากีต้าร์เล่นๆ อย่างเหงาๆ ไลลาถือแก้วค็อกเทล 2 แก้วเข้ามานั่งบนพื้นทรายข้างๆ
“ไงคะ ศิลปินหนุ่ม”
อาทิตย์หันมายิ้มให้ “อ้าว ไม่ไปเล่นกับเค้าหรือครับ”
“ไม่อะค่ะ ปวดขาจะแย่”
ทั้งคู่หัวเราะให้กัน ไลลายื่นแก้วค็อกเทลให้
“นี่ค่ะ เอามาฝาก”
“โห ผมเมาจะแย่ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะหาว่าไม่ให้เกียรติ”
อาทิตย์รับไป ทั้งสองชนแก้วกัน
เขายกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เธอมอง พลางยิ้มมีแผน
ปกรณ์ที่กำลังเตะบอลสกัดบอลจากฝ่ายตรงข้าม หันไปเห็นไลลากับอาทิตย์นั่งหัวเราะต่อกระซิกกัน ก็อึ้งไป จนฝ่ายตรงข้ามยิงเข้าประตู
จริยาเห็นภาพเดียวกัน ก็ชะงัก พลันลูกวอลเล่ย์ก็กระเด็นมาใส่หน้า จนเซล้ม
“ว้าย ขอโทษจ้า น้องจิ๋ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ปาร์ตี้ขนาดเล็กๆ ถูกจัดขึ้นที่บริเวณชายหาด ไลลา จริยา อาทิตย์ และพวกพนักงานนักดื่มพูดคุยเสียงดัง ส่วนปกรณ์และเพื่อนๆ ผู้ชายยืนปิ้งบาร์บีคิวกัน
ปกรณ์มองหน้าจริยา แต่พออีกฝ่ายหันมาเจอ ก็ทำเหวี่ยงใส่
อาทิตย์นั่งหน้ามึนๆ ส่วนเรด้าเมากึ่ม
“ไอ้บ๊วยเนี่ย ทุเรศมาก เมาแล้วชอบถอดเสื้อเต้น”
บ๊วยปิดหน้าอาย ไลลารีบถาม
“เอ้า แล้วทำไมพี่ไม่ห้ามบ๊วยล่ะ”
“ห้ามบ้าอะไร ฉันก็ถอดกางเกงเต้นอยู่ข้างๆ มัน”
คนในโต๊ะหัวเราะกันครึกครื้น อาทิตย์เริ่มตาลาย มองเห็นภาพเรด้ามีหลายคน ไลลาหันไปเห็น
“เป็นอะไรหรือคะ”
“มึนๆ น่ะครับ สงสัยจะนอนน้อยแล้วมาดื่ม ปกติไม่เคยเป็นงี้เลย”
“ไปห้องมั้ยคะ”
อาทิตย์รีบบอกกับทุกคน “ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ”
พอเขาลุกเดินออกไป ไลลาก็แอบยิ้ม
“เอ้า ไลลา นั่งยิ้มอยู่นั่น”
เรด้าพูดแซว จริยารีบพูดเร่ง
“ถึงคิวเจ้เล่าเรื่องตลกแล้ว”
“อ้าว เหรอๆ”
ว่าแล้วก็ทำเป็นสนุกไปกับเขา
ไลลากับจริยานอนอยู่ในห้องเดียวกัน พลันก็มีเสียงครางดังมา
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
จริยาลืมตาโพลง เริ่มกลัว
“เจ้ไล”
ไลลานอนหลับสนิท จู่ๆ แอร์และไฟที่หัวเตียงก็ดับพรึ่บ จริยาสะดุ้ง ตกใจ
ที่ระเบียง เรด้ากับบ๊วยเดินออกมา ทาครีมมาสค์หน้าวางแตงกวากันทั้งคู่
“เฮ้ย ไฟดับทั้งโรงแรมเลย บ้ารึเปล่าวะ ดูแลยังไง เดี๋ยวเอาไปด่าลงเว็บเลย”
เรด้าบ่นพลาง เดินมาเคาะห้องจิ๋ว
“น้องไล ไฟดับมั้ยคะ”
จริยาเปิดประตูออกมา พอเห็นหน้าเรด้ากับบ๊วยก็ช็อก
“ผี”
เรด้ากับบ๊วยนึกว่าข้างหลังมีผี ก็กรี๊ดด้วย ก่อนจะพากันวิ่งเข้าไปในห้อง
จริยาวิ่งสวนออกจากห้องไป เรด้ากับบ๊วยวิ่งตาม
เรด้ากับบ๊วยวิ่งตามจริยามาจนถึงสุดทางซึ่งเป็นห้องเก็บของ
จริยาที่ถูกเรด้าจับตัว หลับตาปี๋ “อย่าค่ะ อย่า นะโมตัสสะ...”
“น้องจิ๋วพี่เองค่ะ”
พอลืมตามาเห็นเป็นเรด้าก็โล่งอก “โธ่ พี่เรด้า จิ๋วก็นึกว่าผี”
บ๊วยเริ่มช็อกเมื่อเห็นบางอย่างอยู่ที่ถังขยะตรงหน้า “เรๆๆๆๆ ด้า”
“มาลิ้นไก่สั้นอะไรตอนดึก”
บ๊วยชี้ให้เรด้ากับจริยาดูอะไรบางอย่าง พอทั้งสองหันไปมองตาม ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดขาวเนื้อตัวมอมแมม นั่งยองๆ หันหลังอยู่ที่ถังขยะ 3 สาวเริ่มกลัวๆ
ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆ หันหน้ามา ปากเธอเปื้อนเลือด ในมือมีเครื่องในสัตว์โชกเลือด 3 สาวตาโตช็อก สุดขีด
ผู้หญิงลุกขึ้นทันที “ตาย”
3 สามกรี๊ดสุดเสียง ก่อนจะพากันวิ่งลงบันไดไป ผีสาววิ่งตาม
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ครู่หนึ่งอาทิตย์ก็เปิดประตูออกมาดู ท่าทางมึนๆ ก่อนจะถูกร่างที่ยืนในเงามืดหน้าห้อง ดันเข้าไปในห้อง
จริยาวิ่งกลับเข้ามาในห้อง พลางกระโดดลงบนเตียงคลุมโปง
“โรงแรม บ้าอะไรเนี่ย หึย”
จู่ๆ ก็มีมือเอื้อมมาจับขาหมับ
“ว้าย ไม่เอาแล้ว ผีปอบ ไปที่อื่นเถอะนะ ฉันตัวเล็ก ไม่อร่อยหรอก”
“ปอบบ้าอะไรวะไอ้จิ๋ว”
จริยาหันไปมอง ก็เห็นไลลายืนอยู่
“เจ้ไล”
“แกออกไปไหนมา ฉันตามหาแกตั้งนาน”
จริยาตัวสั่น “ผีน่ะสิเจ้ โรงแรมนี้มันมีปอบนะ เจ้รู้ป่าว”
ไลลาส่ายหน้า “เพ้อล่ะ ดื่มมากไปป่าว นอนๆ”
“ฉันไม่ได้กินเหล้าเลยนะเจ๊ พี่เรด้า พี่บ๊วยก็เห็น”
ไลลาทำงัวเงียลงไปนอนบนเตียงแล้วห่มผ้า จริยาตัดสินใจยกผ้าห่มไปนอนเตียงเดียวกัน
“อะไรวะ ไอ้จิ๋ว”
“นอนด้วยเจ้ ฉันกลัว”
เช้ารุ่งขึ้น ปกรณ์ยืนเช็คเอ๊าท์อยู่ที่เคาน์เตอร์ ครู่หนึ่งจริยา เรด้าบ๊วย ที่หน้าเหมือนอดนอน ก็ลากกระเป๋าออกมา
“เอ้า ทำไมหน้าเป็นงั้นล่ะครับ อดนอนกันเหรอ”
เรด้าทำท่าสยอง “ใครเป็นคนจองวะโรงแรมนี้ ฉันจะฆ่ามัน”
“มีอะไรเหรอครับ”
จริยานึกอยากกัดเป๋าเรื่องเมื่อวานที่ทาครีมให้ไลลา “ก็โรงแรมนี้ มันเต็มไปด้วยเรื่องโลกีย์”
ปกรณ์มองงงๆ แล้วจะเดินเข้าไปช่วยจริยาลากกระเป๋า
“กระเป๋ามา”
อีกฝ่ายสะบัดออก “ไม่ต้อง ทำเองได้ทุกอย่าง รวมทั้งทาครีมหลังด้วย”
ตากล้องหนุ่มส่ายหัว ก่อนจะลากกระเป๋าของตัวเองกับของเรด้าและบ๊วยออกไป
อีกมุมหนึ่ง ไลลาเดินลงมาเจอกับอาทิตย์ ทั้งสองสบตากัน แล้วยิ้มให้กันเล็กน้อย
“หลับสบายมั้ยคะ”
“ก็ ฝันดีครับ”
อาทิตย์ยิ้มแล้วเดินแยกไป ไลลาเห็นไม่มีคนแล้วจึงเดินแยกออกไปด้านหลัง
เด็กเสิร์ฟหญิงที่ปลอมเป็นผีเมื่อคืน กำลังใช้มือถือถ่ายเซลฟี่คู่กับไลลา ที่โอบไหล่แล้วยิ้มกว้าง
“ขอบคุณค่ะพี่ไลลา หนูตายตาหลับแล้ว ได้ถ่ายรูปคู่กับไอดอล”
“ไม่เป็นไร ขอบใจมากนะ ถ้าที่ช่องมีละคร ฉันจะติดต่อเธอไปลองแคสดู โดยเฉพาะแนวผีๆ”
เด็กเสิร์ฟหญิงยิ้มปลื้ม
อัปสรสวรรค์กับเดือนเด่นกำลังวุ่นวายกับการหายตัวไปของดามพ์
“ยังติดต่อคุณพ่อไม่ได้เลยหรือคะ”
เดือนเด่นร้อนรน “โอ๊ย ฉันจะบ้าตาย ไม่รับสายเลย นี่อีกครึ่งชั่วโมงรายการเขาก็จะมาสัมภาษณ์กันแล้ว”
“แต่คุณพ่อรับปากฟ้าไว้แล้วนี่คะว่าจะมา เพราะเขาจะถามถึงชีวิตในวัยเด็กของฟ้าด้วย”
“โถ แกยังเชื่อคำพ่อแกอยู่อีกรึ เดือนนี้ทั้งเดือน อยู่บ้านไม่ถึงสิบวันด้วยซ้ำ”
พลันเสียงออดก็ดังขึ้น
“นั่นไงมากันแล้วมั้ง” พลางหันไปสั่งคนใช้ “แกไปดูซิ”
สาวใช้วิ่งออกไปนอกบ้าน อัปสรสวรรค์หันมาถามแม่
“แล้วจะเอายังไงดีคะ หรือจะสัมภาษณ์แม่คนเดียวไปก่อน แล้วบอกว่าพ่อติดธุระ”
“คงต้องอย่างนั้นแล้วล่ะ เฮ้อ จะปิดไปได้อีกนานซักเท่าไหร่ ซักวันคนทั่วประเทศเค้าคงได้รู้ว่าซุปตาร์นางฟ้าบ้านแตกสาแหรกขาด”
อัปสรสวรรค์หน้าเครียด
ที่บ้านหลังใหม่ของไลลา
ไลลาโยนกระเป๋า แล้วทิ้งตัวนอนคว่ำลงบนเตียง พลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงแรมริมทะเล
อาทิตย์เปิดประตูออกมาในสภาพมึนๆ ไลลาที่ยืนอยู่หน้าประตู รีบผลักอกเขาเข้าไปในห้อง
ก่อนจะผลักไปนั่งบนเตียง แล้วขึ้นไปคร่อมบนตัว
“คุณ ?”
ไลลามองอาทิตย์ด้วยสายตาอย่างยั่วยวน ใช้มือลูบไล้ไปที่ใบหน้า แล้วพูดด้วยเสียงกระเส่า
“ไลรู้นะ ว่าคุณเหงา”
อาทิตย์มองหน้าไลลานิ่ง
“คุณก็เหงา ไลก็เหงา งั้นเรามาเหงาด้วยกันมั้ย”
“แต่ว่าคุณ...”
ไลลายักไหล่ “ก็แค่คืนนี้ ไม่มีผูกมัดอะไร คุณจะนึกว่าฝันไป ก็สิทธิ์ของคุณ”
อาทิตย์ทำหน้านิ่ง ไลลาทำตาหวานเยิ้ม เชิญชวน ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะโผเข้าจูบกันด้วยความเร่าร้อน
เสียงเคาะประตูดังรัว
“เปิดประตูหน่อย”
ไลลาตื่นขึ้นจากภวังค์ รีบวิ่งออกจากห้องไป
ประตูบ้านชั้นล่างถูกเปิดออก เพ็ญศรีเดินยิ้มแย้มเข้ามาในบ้าน ไลลายืนหน้าเครียด
“เป็นงาย วันนี้”
ไลลามองออกไปหน้ารั้วเห็นรถหรูกำลังกลับรถ
“นี่แม่ยังคบไอ้เสี่ยนั่นอยู่อีกเหรอ”
“ก็...แหม”
“นี่ไลให้ตังค์แม่เพิ่มตั้งเยอะ บ้านช่องเราก็มีแล้ว ทำไมยังต้องให้มันเลี้ยงอีกล่ะแม่”
“ก็คบเป็นเพื่อน แก้เหงา”
เพ็ญศรีตบๆ ที่ไหล่ เพิ่งรู้สึกตัวว่าลืมอะไรบางอย่าง
“ว้าย กระเป๋า ลืมกระเป๋าตังค์ไว้บนรถ”
จังหวะกำลังจะวิ่งกลับออกไปแต่ดันสะดุดล้ม
“โอ๊ย แก ช่วยวิ่งไปตามที”
ไลลาโมโห แต่ก็ต้องช่วยแม่ จึงจำต้องวิ่งออกจากบ้านไป
ไลลาเปิดประตูมาเห็นรถหรูกำลังจะแล่นออกไป ก็รีบวิ่งไปตีกระโปรงรถให้หยุด สักพักรถก็จอดสนิท ก่อนที่ประตูรถจะเปิดออก
เจ้าของรถเดินลงมา ที่แท้ก็คือดามพ์ พ่อของอัปสรสวรรค์
ไลลาอึ้ง ตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ทุกสิ่งรอบกายคล้ายหยุดนิ่ง
“คุณพ่อนางฟ้า”
ดามพ์มองหน้าไลลาแวบหนึ่ง เมื่อนึกได้ว่าเป็นเพื่อนลูก ก็หน้าซีด
“เอ่อ...หนูไร”
ไลลาชาไปทั้งตัวจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณไปกับแม่ไลมาหรือคะ”
“หนู เป็นลูกเพ็ญศรีเหรอ”
ไลลาพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
ดามพ์รีบแก้ตัว “คือพอดีลุงเป็นเพื่อนของเพื่อนเพ็ญศรีเขาอีกทีน่ะ วันนี้เพื่อนเขาเมามาก ลุงเลยรับอาสามาส่ง”
ไลลามองอีกฝ่ายหน้านิ่ง
“หนูอย่ามองฉันอย่างนั้น มันไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆ นะ นี่ กระเป๋าจ้ะ”
พูดพลางรีบยื่นกระเป๋าให้ ไลลารับมาอย่างไร้วิญญาณ
“ว่างๆ แวะไปเยี่ยมฟ้าบ้างสิ เค้าคิดถึงหนูไรนะ เอ่อ ..ลุงไปก่อนนะ”
ดามพ์สุดอับอาย ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรรีบขึ้นรถแล้วขับออกไป
ไลลายืนนิ่งมองอยู่ตรงนั้น ด้วยอาการชาไปทั้งตัว จนทำอะไรไม่ถูก
จบตอนที่ 7