xs
xsm
sm
md
lg

ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 5
เสียงเพลงในไนท์คลับดังลั่น สารภีวาดลวดลายอยู่กับฤดี ทั้งเต้นทั้งดื่ม พวกชายหนุ่มหันมามองอย่างสนใจในสองสาว เพราะเป็นผู้หญิงแ 2 คนที่วาดลวดลายกลางฟลอร์ ซักพักเริ่มมีหนุ่มๆเข้ามาสี

สารภีเห็นผู้ชายสนใจก็ทำเฟลิร์ตใส่ เบียดเนื้อตัวเข้าหา ชายหนุ่มถือโอกาสโอบ
ผู้หญิงสองคนรุ่นราวคราวเดียวกับสารภี ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆฟลอร์ พยักเพยิดเพื่อนให้ดูสารภี สีหน้าไม่พอใจ

เวลาต่อมา สารภีเดินเมาๆ มาที่ห้องน้ำ หัวเราะต่อกระซิกกับฤดีอย่างรื่นเริง แต่ยังไม่ทันเข้าห้องน้ำ หญิง 2 คนก็โผล่มาดักหน้า
"คิดว่าสวยนักใช่ไหม ถึงมายุ่งกับผู้ชายของคนอื่น"
"ใครผู้ชายของเธอ" สารถีถาม
"ก็คนที่แกไปเต้นยั่วเขาอยู่ไง"
สารภีมอง ยิ้มเยาะ
"อ๋อ..... ก็นึกว่าของสาธารณะ ช่วยไม่ได้ คราวหลังก็ทำป้ายแขวนคอไว้สิ หรือไม่ก็ล่ามโซ่ไว้ที่บ้าน"
สารภีเชิดจะเข้าห้องน้ำ หญิง1กระชากไหล่ไว้ให้หันมา แล้วตบฉาด
สารภีอึ้ง พอได้สติก็โมโหจัด ตบกลับทันที
"แก !"
สารภีจิกผม
"คนอย่างสารภี ใครคิดจะหาเรื่องก็แปลว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่"
สารภีพูดจบก็ตบหญิง1คว่ำไปอีก หญิง2 วี๊ดว้ายจะเข้าไปช่วยเพื่อน แต่ฤดีจิกผมไว้
สารภีลากหญิง1เข้าไปให้ห้องน้ำ จิกตบกันอุตลุด สารภีตบอีกฝ่ายไปโดนกระจกแตก แล้วจิกผมแนบไปที่รอยคมของกระจก ดูหน้าหวาดเสียว
"อยู่ดีไม่ว่าดี อยากจะเอาเลือดมาล้างห้องน้ำนักใช่ไหม"
"ว้าย อย่านะ อย่า"
ที่ด้านนอก ฤดีกับหญิง2ตบกัน เพราะหญิง2พยายามจะช่วยเพื่อน คนเริ่มมุงดูกัน บ๋อยในร้านได้ยินเสียงเอะอะ วิ่งเข้ามา
"อะไรกันน่ะคุณ"
หญิง1กรีดร้องจากด้านใน
"ช่วยด๊วย ช่วยด้วย"
ทุกคนได้ยินเสียงร้องของหญิง1 หยุดชะงัก มองกันอย่างสนใจ

กลางคืนต่เนื่องมา เพิ่มพูนกับโกสุมขึ้นมาบนโรงพัก พิศหน้าตาตื่นตามขึ้นมา
"ไหนล่ะคุณ ยายสารภีอยู่ที่ไหน"
สารภีในห้องขังมองเห็นทั้งสาม รีบร้องเรียก
"คุณพ่อ คุณแม่ ช่วยหนูด้วย!! เอาหนูออกไปที อ๊าย" สารภีเขย่าลูกกรง โมโห
เพิ่มพูนกับโกสุมเห็นลูกอยู่ในห้องขังก็เอามือทาบอก คิดไม่ถึง

เพิ่มพูนกับโกสุมพาสารภีออกมา รีบเร่งกลัวคนมาเห็น
"แกนะแก ทำเรื่องงามหน้าจนได้ อยู่ๆ ดีก็ต้องมาขึ้นโรงพัก" โกสุมบอก
"หนูไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องนะ มันมายุ่งกับหนูก่อน"
"ก็ถ้าแกอยู่บ้าน ไม่ออกมาแรดๆ มันจะมีเรื่องไหม"
โกสุมหยิกตีสารภีอย่างหมั่นไส้ สารภีหลบไปทางเพิ่มพูน
"พอแล้วน่าคุณ"
"ถ้าใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ยิ่งถ้าเป็นพวกบ้านนพรัตน์ แกคิดเหรอว่าเขาจะอยากได้สะใภ้ที่มีเรื่องตบตีกับคนอื่นจนถูกตำรวจจับ"
"คุณพ่อก็เอาเงินปิดปากพวกหนังสือพิมพ์ไว้สิคะ ข่าวจะได้ไม่รั่วออกไป"
"ฉันทำแน่ แต่อย่าลืมสิว่าคุณสร้อยทองแม่นายเทพไทเขาเพ่งเล็งแกอยู่ ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย"
สารภีหน้าเชิด
"คนอย่างฉัน ใครไม่เลือกก็หน้าโง่เต็มทีแล้วล่ะ!"
สารภีเดินเบียดพ่อกับแม่ออกไป

คืนนั้น หลังประกันตัวแล้ว สารภีกลับบ้าน เดินปึงปังเข้ามาในห้อง ปิดประตูโครมแล้วโยนกระเป๋าลงบนเตียง ท่าทางหัวเสีย
"บ้าที่สุดเลย! จะออกไปสนุกแท้ๆ ทำไมต้องเกิดเรื่องทุเรศ อย่างนี้ขึ้นด้วยนะ"
สารภีเดินสำรวจตัวเองหน้ากระจก
"ถ้าฉันต้องเสียโฉมเพราะอีกพวกสวะชั้นต่ำ ฉันจะเอาคืนให้ดู!"

เสียงไก่ขันดัง สัญญาณของวันใหม่ปลุกดอกแก้วให้สะดุ้งตื่น เธอรีบลุกจากเตียงเก็บที่หลับที่นอนแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยท่าทีรีบร้อน
ที่หน้าเรือน แล่มเมาหลับไปคาขวดเหล้าที่ระเบียงด้านหน้า ดอกแก้วเปิดประตูออกมา
"แม่ แม่จ๋า ทำไมมานอนตรงนี้ แม่ตื่นสิ แม่"
แล่มงัวเงีย
"มึงจะปลุกกูทำไม กูจะนอน"
"แม่เข้าไปนอนในห้องดีๆ สิจ้ะ ฉันจะพาไป"
ดอกแก้วพยุงแล่มด้วยความยากลำบาก พาเข้าห้องไป
"ฮึ่ย อย่ามายุ่ง กูปวดหัว"
ภายในห้อง ดอกแก้วพยุงแล่มมาถึงเตียงจัดให้นอนลง
"อยากจะนอนก็นอนซะให้พอ แต่ต้องมานอนที่นี่ ห้ามแม่ไปนอนหน้าเรือนฉันอีก"
"แล้วนี่เอ็งจะไปไหนยังเพิ่งจะหัวรุ่ง"
"ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นบ่าว ก็ต้องไปทำหน้าที่ของบ่าว จะมัวนอนเหมือนเจ้านายได้อย่างไรกันล่ะจ้ะ"
ดอกแก้วจะออกไป
"เดี๋ยวก่อนนังดอกแก้ว ตอนนี้เอ็งไม่ใช่บ่าวแล้ว เอ็งเป็นเมียคุณหลวง เอ็งลืมไปแล้วรึ"
"ฉันไม่อยากจำ ฉันจะจำเพียงว่าแม่พาฉันมาที่นี่เพื่อเป็นบ่าวรับใช้แลกกับเงินให้แม่ไปใช้หนี้พนัน นอกเหนือจากนี้ ฉันขอไม่จำอะไรทั้งนั้น!"
ดอกแก้วผละออกไปจากห้อง
"เดี๋ยวสินังดอกแก้ว นังดอกแก้ว"
แล่มพยายามจะเรียกแต่ก็แพ้ความอาการเมาค้างของตัวเอง ลุกไม่ขึ้น ได้แต่พึมพำ
"นังลูกไม่รักดี นังลูกโง่" แล้วแล่มกหลับสนิทกรนคร่อก

เวลาต่อมา อึ่งนั่งนำงานอยู่ในวงสาวๆ กำลังเตรียมอาหารกันวุ่นวาย
"นี่พวกมึง อย่ามาอู้ให้กูทำคนเดียวนะ ลงมือลงไม้กันเข้าสิ จะมาซึมกระทืออยู่ทำไม ใครยังไม่ตื่น เดี๋ยวกูจะสาดด้วยน้ำข้าวเดือดๆให้ตื่นเลย"
หมอนบอก
"ข้าวเดือดแล้ว นังอึ่งไปดงข้าวที"
"กูอีกละ เป็นขี้ข้านายยังไม่พอ ยังจะให้กูเป็นขี้ข้าบ่าวด้วยกันอีก ฮึ่ย"
อึ่งกระฟัดกระเฟียดลุกไป
มุมหนึ่ง...ดอกแก้วเดินเข้ามาท่าทางเจียมๆ อ่อนน้อม
" มีอะไรให้แก้วช่วยไหมจ๊ะ"
ทุกคนชะงัก หันไปมองดอกแก้วเป็นตาเดียว ดอกแก้วยืนสงบเสงี่ยม
อึ่งเหวอๆ เพราะดอกแก้วมาผิดคาด นึกว่าจะมาเชิดๆ เริดๆ ดอกแก้วหันไปหา
"ทำปลาอยู่เหรอจ๊ะ ให้แก้วช่วยนะ"
ดอกแก้วจะเข้าไปฉวยมีด เข็มตกใจรีบห้าม
"อุ๊ยๆๆ คุณดอกแก้ว ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะมือจะเหม็นคาว อิฉันทำเอง"
"ไม่ต้องเรียกคุณหรอกจ้ะ ทำตัวเหมือนเดิมเถอะ ฉันไม่ได้มียศมีตำแหน่งอะไร ฉันยังเป็นดอกแก้วคนเดิม มีอะไรจะใช้ก็ใช้มาเถอะจ้ะ"
เข็มเกรงใจ
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ พวกเราทำกันได้"
"แต่ฉันอยากช่วย ให้ฉันช่วยเถอะ"
ดอกแก้วลงนั่งข้างๆ บ่าวสาวๆ จะช่วยหั่นผัก แต่พอจะหยิบก็มีมือมากระชากผักในกระจาดไป
ดอกแก้วหันไปมอง อึ่งยืนเท้าเอวอยู่
"คุณลำเจียกสั่งให้ใครทำก็ทำกันเองสิวะ จะเกี่ยงงานกันหรือไง"
"คุณดอกแก้วเธอ"
"ในครัวเป็นพื้นที่ของคุณลำเจียก คำสั่งเธอสำคัญที่สุด เอ็งจะเชื่อคำคนอื่นหรือ"
"ฉันเห็นว่างานมันมาก ฉันเองก็มาอยู่ในฐานะบ่าว ไม่ใช่อื่นใด มีอะไรก็ต้องช่วยๆ กันตามหน้าที่บ่าว"
อึ่งยิ้มเยาะ
"กลับไปนั่งๆ นอนๆ ให้สมกับการเป็นคุณผู้หญิงของบ้านนพรัตน์เถอะเจ้าค่ะ อุตส่าห์ลงทุนเลื่อนขั้นตัวเองมาได้ขนาดนี้แล้วจะทำงานทำไมให้ลำบาก"
"นังอึ่ง เอ็งจะลามปามเกินไปนะ" หมอนบอก
"อึ่งมันพูดถูก"
ทุกคนหันไปมอง เห็นลำเจียกเดินมา ดอกแก้วรีบลุกขึ้นยกมือไหว้ แต่ลำเจียกไม่มอง
"ในครัวเป็นที่ของฉัน ฉันสั่งงานพวกแก ไม่ได้สั่งคนอื่น ! ถ้าขี้เกียจสันหลังยาวจนต้องให้คนอื่นมาช่วย ก็สมควรจะลาออกไป จะได้จ้างคนที่เต็มใจทำงานมาอยู่แทน !"
หมอนและพวกบ่าวในครัวจ๋อย ลนลานรีบทำงาน อึ่งยิ้มสมน้ำหน้า
ดอกแก้วมองลำเจียกอย่างไม่เข้าใจ แต่ลำเจียกเมินเชิด ทำเหมือนดอกแก้วเป็นอากาศ
อึ่งลอยหน้า
"ส่วนคนที่ไม่มีหน้าที่อะไรก็ไม่ควรจะมาเกะกะ ! เดี๋ยวจะล้มหน้าคว่ำใส่หม้อแกงเหมือนนังมะลิอีกคน"
ลำเจียกเดินเชิดผ่านไป ดูอาหารหน้าเตา ไม่สนใจดอกแก้วอีก
ดอกแก้วจ๋อยเศร้า ค่อยๆ ถอยตัวออกจากเรือนครัวอย่างเงียบๆ

ดอกแก้วกับเอี้ยง ช่วยกันพรวนดินใส่ปุ๋ยให้ดอกซ่อนกลิ่นที่ปลูกไว้ พลางปรับทุกข์กัน
"ฉันก็คงเหมือนซ่อนกลิ่นต้นนี้ ต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่"
ดอกแก้วทอดสายตามองซ่อนกลิ่นที่ชูช่อ
"ฉันไม่รู้ว่าจะอยู่บ้านนี้ต่อไปได้ยังไง หัวใจของฉันมันพังสลายลงเสียแล้วล่ะเอี้ยง ที่ยังหายใจอยู่ได้ก็เพื่อช่วยแม่ ลำพังตัวฉันเอง....มันไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรี" เธอคิดถึงเทพไท "จนใครต่อใครก็พาลรังเกียจไม่ต่างอะไรกับดอกซ่อนกลิ่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ดอกไม้อัปมงคล ถึงจะส่งกลิ่นหอมแค่ไหน ก็มีแต่ผู้คนรังเกียจ"
เอี้ยงจับมือดอกแก้ว พยักหน้าให้กำลังใจ แล้วส่งสัญญาณว่าเชื่อใจดอกแก้ว
"ขอบใจนะเอี้ยง แต่ก็อาจจะมีแค่เธอคนเดียวกระมังที่เห็นใจฉัน"
ดอกแก้วยิ้มให้เอี้ยงอย่างสบายใจขึ้น
"ทำอะไรน่ะดอกแก้ว !"
ดอกแก้วชะงัก หันไปเห็นสร้อยทองยืนมองอยู่

ดอกแก้วทรุดนั่งลงที่พื้น ท่าทางนอบน้อม
"ซ่อนกลิ่นต้นนั้น แก้วเอามาจากบ้านแพ้วค่ะ ตั้งใจว่าจะปลูกไว้ข้างเรือนให้หายคิดถึงบ้าน แก้วขอโทษนะคะที่..."
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันเองก็ชอบดอกไม้ดอกไร่เหมือนกัน เพียงแต่ ไม่เคยคิดจะปลูกซ่อนกลิ่นในบ้าน แต่ถ้าเธอชอบก็ไม่ว่าอะไร เพราะยังไงตอนนี้เธอก็เป็นเจ้าของบ้านอีกคนหนึ่ง"
ดอกแก้วเงยหน้าขึ้นสบตากับสร้อยทอง ยังเกรงๆ ระคนละอายใจ
"ได้ยินจากนังศรีว่าเธอถูกแม่ลำเจียกตะเพิดเอาหรือ"
"วันนี้แก้วจะช่วยงานในครัวน่ะค่ะ"
"ปกติเรื่องอาหารการกินเป็นหน้าที่ของแม่ลำเจียกเขา เธอไม่ต้องยุ่งหรอก"
"แต่แก้วเป็นบ่าว...."
"เธอไม่ใช่บ่าวอีกต่อไปแล้ว หน้าที่ของเธอก็คือปรนนิบัติคุณหลวง ยังไม่ต้องทำอย่างอื่น"
ดอกแก้วสะอึก ค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองสร้อยทอง
"เรื่องงานบ้านก็ปล่อยให้บ่าวไพร่ทำไป แล้วก็อย่าไปคลุกคลีด้วยจนเกินจำเป็น เดี๋ยวจะเสียการปกครอง อย่าลืมว่าเธอไม่ใช่ดอกแก้วคนเดิมแล้ว"
ดอกแก้วเศร้าใจ
"แต่แก้ว...อยากเป็นดอกแก้วคนเดิมค่ะคุณสร้อยทอง"
สร้อยทองถอนใจ
"นี่ก็อีกเรื่อง เลิกเรียกฉันว่าคุณ ต้องเรียกฉันว่าคุณพี่ เพราะเราอยู่ในฐานะเดียวกันแล้ว"
ดอกแก้วอึกอัก ส่ายหน้าไม่กล้า สร้อยทองเข้าไปประคองดอกแก้วขึ้นมา
"ต่อไปนี้ เธอก็ถือเป็นน้องสาวฉันอีกคน เหมือนแม่ลำเจียก ถ้าเธอจะยังเคารพนพนอบฉันอยู่ ฉันก็ขอบใจ แต่ก็ไม่ต้องให้มันมีพิธีรีตองเหมือนเมื่อก่อน"
ดอกแก้วซึ้งใจ มองหน้าสร้อยทองอย่างค้นหาความจริงใจ
"คุณสร้อย" ดอกแก้วรีบแก้เพราะเห็นสายตาสร้อยทอง "ค...คุณพี่สร้อยทองไม่โกรธ ไม่เกลียดแก้วหรือคะ"
"เรื่องที่เธอกลายเป็นเมียคุณหลวงน่ะรึ" สร้อยทองหัวเราะขื่น "ไม่หรอก ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้วโกรธเธอไปก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้"
ดอกแก้วชื่นชมกับคุณสร้อยทองที่เยือกเย็นสุขุมซะจนตัวเองรู้สึกผิด สร้อยทองปลอบพลางลูบผมดอกแก้วอย่างอ่อนโยน
"อีกไม่นานบ้านเราจะทำบุญรับขวัญเธอ เธอจะกลายเป็นคุณดอกแก้ว แห่งบ้านนพรัตน์อย่างเต็มภาคภูมิ ต้องรู้จักวางตัวให้สมฐานะ ไม่งั้นคนจะตำหนิฉันได้ว่ากดขี่ข่มเหงเมียน้อยของสามี"
ดอกแก้วสบตากับสร้อยทอง สัมผัสได้ถึงความมีเมตตา เริ่มใจชื้นขึ้น
"เริ่มตั้งแต่วันนี้ เธอต้องร่วมโต๊ะอาหารกับพวกเราทุกมื้อ"
ดอกแก้วสีหน้าตกใจ ไม่คาดคิดมาก่อน

อ่านต่อหน้าที่ 2







กำลังโหลดความคิดเห็น