เรื่องย่อละคร “แม่ดอกรักเร่”
บทประพันธ์ : แสงเพชร เสนีย์บดินทร์
บทโทรทัศน์ : ทองเอก
กำกับการแสดง : ชาญชัย สวัสดิวิชัยกุล
แนวละคร : แอ็กชั่น - คอเมดี้
ผลิต : บริษัท เค.เอ.เอ็น. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 18.35 น. และวันศุกร์เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม วันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2558 -
จำนวนตอนออกอากาศ : 15/+/-
ทีเซอร์
ในสังคมเมืองใหญ่ยุคปัจจุบัน ความเชื่อเรื่อง ความขยันอดทน และยึดมั่นในความดี จะทำให้ชีวิตได้ดี กำลังจางหายไป แทบทุกคนในยุคนี้คิดแต่เรื่องการฉวยโอกาส ทำอย่างไรให้ร่ำรวยได้โดยเร็วโดยไม่คำนึงถึงความดี ความซื่อสัตย์กันอีกต่อไปแล้ว เรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของลูกผู้หญิงซื่อๆ จากบ้านนา เข้าสู่เมืองกรุง ที่สนุกสนาน เฮฮา เธอผู้มีแค่หัวใจที่ยึดมั่นในความดี และสู้ยิบตา ไม่ว่าจะต้องฝ่าฟัน เหนื่อยยากกับอุปสรรคมากมายแค่ไหน มาร่วมกันลุ้น เอาใจช่วยเธอ ไปพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความประทับใจ
บัวตอง (แม็กกี้-อาภา ภาวิไล) สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 เรียนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วย ยุภา (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของเธอทำนา แต่แล้วเกิดปัญหาดินเสีย ที่นาไม่ได้ผลผลิต จนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะกู้หนี้ยืมสินจาก ตาเอิบ (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เศรษฐีเงินกู้จอมโกง และยังหัวงูเป็นที่สุด ตาเอิบจ้องจะงาบบัวตองมาหลายนาน จึงตั้งใจปล่อยกู้ให้ยุภาทำนา แล้วลอบโรยสารเคมีทำให้ดินเสีย จนปลูกข้าวไม่ได้ และเมื่อเห็นว่ายุภากับบัวตองหมดปัญญาใช้หนี ตาเอิบก็ยื่นข้อเสนอทันที ว่าถ้ายุภายกบัวตองให้เป็นเมียตน ก็จะยินยอมยกหนี้พร้อมดอกเบี้ยร่วมห้าแสนให้ มิฉะนั้น จะยึดที่นาทำกินแห่งนี้ซะ
ยุภาสอนบัวตองมาแต่เกิดให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดี ไม่มีวันที่ยุภาจะยอมให้บัวตองทำสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ บัวตองเลยประเคนผ่าหมากตาเอิบให้ทีหนึ่ง ก่อนจะลั่นวาจาว่าจะขอเวลา 3 เดือน หาเงินมาใช้หนี้ตาเอิบให้ได้
ดวง (มหัศจรรย์ มาตศรี) หนุ่มหล่อผู้เป็นคนรักของบัวตอง กำลังขับร้องเพลงลูกทุ่ง ในชุดเสื้อสูทผูกหูกระต่ายหล่อเหลา มีมาลัยเต็มคอ ก่อนจะกว้างออกมา เห็นว่าดวงร้องเพลงอยู่บนแคร่ข้างกองฟาง ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขาวม้า คนดูที่ดวงยื่นไมโครโฟนให้ จริงๆ คือควายที่บัวตองจูงมากินหญ้า มีเพียงบัวตองที่ยังคอยเชียร์คอยให้กำลังใจดวง บัวตองเจอข่าวค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ‘ซาวด์สยาม’ กำลังจัดโครงการค้นหา
นักร้องลูกทุ่ง ดาวรุ่งดวงใหม่ จึงยุให้ดวง เดินทางจากตำบลบ้านนาดอนแห่งนี้ เพื่อมุ่งหน้าตามล่าฝันในเมืองกรุง ไปพร้อมกับเธอ ที่ตั้งใจจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เหมือนกัน ดวงมีความทะเยอทะยาน อยากเป็นนักร้องลูกทุ่งอย่างแรงกล้า จึงรีบตกลงปลงใจทันที
ดวงกับบัวตองจึงหิ้วกระเป๋ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่ที่ขนส่ง เพราะระหว่างที่ดวงไปเข้าห้องน้ำ บัวตองถูกคนร้าย กระชากกระเป๋าไป บัวตองร้องให้ช่วย บัวตองเดินริมฟุตบาธอย่างไร้จุดหมาย เพราะกระเป๋าสตางค์ดันอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบนั้น แต่เมืองกรุงก็ยังมีคนดี พี่แท็กซี่นายหนึ่งเห็นบัวตองเดินปาดน้ำตา ก็รีบอาสาพาไปส่ง ที่บริษัท ซาวด์สยาม แต่ดันพามุดเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อฉุดเข้าป่าหญ้าข้างทางจะปลุกปล้ำ บัวตองสู้สุดชีวิต ถีบข่วน กัด แต่ก็สู้แรงผู้ชายหื่นๆ ไม่ได้ แต่สวรรค์ยังเห็นใจ เมื่อ กรณ์เทพ (บูม-ปิยพันธิ์ ขากฤษ) หนุ่มเซลส์แมนขายเครื่องดับเพลิงเดินมาพอดี กรณ์เทพต่อสู้ปกป้องบัวตองอย่างไม่เกรงกลัว
ในขณะที่ดวงไปที่บริษัทซาวด์สยาม และได้พบกับ นวลอนงค์ (ปลา-ปาลิตา โกศลศักดิ์) คุณหนูสวยเปรี้ยว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เฮียช้าง (สุเมธ องอาจ) เจ้าของบริษัทค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดังแห่งนี้ นวลอนงค์เห็นความหล่อเข้มของดวง ก็แทบใจละลาย ในการร้องออดิชั่นคัดเลือกนักร้องเข้าสังกัดที่เฮียช้างมานั่งเป็นกรรมการเอง เฮียช้างจะไม่ให้ผ่าน แต่นวลอนงค์ ดุให้พ่อรีบเปลี่ยนใจ เฮียช้างที่ดุ เป็นมาเฟียในวงการเพลงลูกทุ่ง ก็ยังต้องยอมแพ้ลูกสาว ดวงคิดว่าบัวตองที่คลาดกันไป คงจะรีบมาหาเขาที่นี่ จึงนั่งรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ จนหลับคาเก้าอี้ไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนเลิกงาน รปภ.นุ้ย (หนุงหนิง) มาปิดประตูบริษัท ขังดวงไว้โดยไม่รู้ตัว
กรณ์เทพพาบัวตองไปที่ค่ายเพลงซาวด์สยาม แต่ก็พบว่าประตูบริษัทปิดไปแล้ว ไปยืนด้อมๆ มองๆ ก็โดนรปภ.นุ้ยตะเพิดออกมา กรณ์เทพรู้ว่าบัวตองไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็พาไปพักที่บ้านบอกว่าตนพักกับแม่ บัวตองจึงยอมไป แต่พอถึงหน้าประตูบ้าน กลับกลายเป็นว่ามีสองหนุ่มมาเปิดประตูบ้าน
บัวตองจินตนาการไปถึงว่าสามหนุ่มเป็นพวกจิตทราม ใช้กำลังฉุดจะรุมโทรมเธอ ก่อนจะสะดุ้งจากจินตนาการ เพราะทั้งสองแสดงท่าทีสุภาพและเป็นมิตร สองหนุ่มก็คือ ทองดี (หมู-ธีรภัทธ์ แย้มศรี) ที่ดูจะมีอายุมากกว่าอีกสองหนุ่ม เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นข้าราชการกทม.และมีรถประจำตำแหน่งด้วย อีกคนคือ เบ๊นซ์ (ตอง-พชรพล ศุขอร่าม) หนุ่มหน้าหยกที่แนะนำตัวเองว่าเป็นนักแสดงที่รับบทพระเอกมาแล้ว เบ๊นซ์ท่าทางกรุ้มกริ่มปากหวาน เห็นว่าบัวตองสวย น่ารัก ก็ทำท่าจะจีบ กรณ์เทพต้องด่าเอาว่า บัวตองมีแฟนแล้ว และแค่มาพักคืนสองคืน พอเจอแฟนที่ชื่อดวง แล้วก็จะกลับ คืนนั้น สามหนุ่มคึกคัก ทำตัวหล่อกันเป็นพิเศษ เพราะร้อยวันพันปี จะมีผู้หญิงสวยๆ มาค้างคืนอยู่ร่วมชายคาสักครั้ง ป้าพลอย (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของกรณ์เทพ เป็นคนปากจัดใจดี เห็นบัวตองก็เข้าใจผิด คิดว่าเป็นพวกเด็กใจแตก หนีตามแฟนเข้าเมืองกรุง แต่พอได้คุยกัน ก็กลับกลายเป็นรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาแทน เพราะความใสซื่อ ไร้จริตของบัวตอง
รุ่งเช้า นวลอนงค์มาที่บริษัทแล้วพบ ดวงที่นอนหลับอยู่ ก็เฉ่ง รปภ.นุ้ยซะยับ ดวงเล่าเรื่องของตัวเองกับบัวตองให้นวลอนงค์ฟัง วันนั้นในห้องอัด นักร้องที่นัดไว้เกิดหวัดลงคอ ร้องเพลงไม่ได้ นวลอนงค์จึงให้ดวงร้องเสียบแทนไปซะเลย พอเข้าห้องอัด ดวงก็ทำได้ดีมาก จนเฮียช้างถึงกับออกปากว่า ตามประสบการณ์ที่ทำค่ายเพลงลูกทุ่งมาหลายสิบปี ขอบอกว่า ดวง คือนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็น พร้อมตั้งชื่อให้ว่า ดวงดี นาดอน (ตามชื่อตำบลบ้านนาดอน ที่ดวงจากมา) นวลอนงค์ยิ่งเห็นรัศมีนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ ก็ยิ่งหลงใหลในตัวดวง
เมื่อบัวตองมาถามหาดวงที่บริษัทอีกครั้ง นวลอนงค์รับหน้าพอดี เลยโกหกว่า ดวงไม่ผ่านการออดิชั่น และคงกลับต่างจังหวัดไปแล้ว บัวตองเสียใจ คิดว่าหาเงินได้ครบห้าแสนเมื่อไหร่ค่อยกลับไปหาดวง ใบพาย (ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) กับ ลิ้นจี่ (เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรฒน์) สองหางเครื่องประจำวง ได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ใบพายเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด คอยประจบสนับสนุนนวลอนงค์ ในขณะที่ ลิ้นจี่ จะรักความถูกต้อง จนรู้สึกสงสาร และลั่นไว้ว่าวันหนึ่งจะบอกความจริงให้ดวงฟัง
บัวตองเริ่มสนิทสนมกับ กรณ์เทพ มากขึ้น และยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนในชุมชนแจ่มใจ ชุมชนที่รวบรวมคนที่จนเงิน แต่ไม่จนน้ำใจ แต่ทุกคนก็แสบก็ร้าย ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ เจ๊พริ้ง (ราตรี วิทวัส) เจ้าของร้านเสริมสวย ที่มีบริการนวดเท้าในร้าน ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมขาเม้าท์ประจำชุมชน เจ๊พริ้งมีลูกมืออีกคนคือ พอลล่า (พลอย-จุฑามาศ มันตะลัมพะ) ที่มีชื่อตามบัตรประชาชนว่า พรหล้า ซึ่งเป็นหลานสาวของเจ๊พริ้ง ที่เพิ่งมาเริ่มหัดวิชาเสริมสวย และมักจะทำผมให้ลูกค้าเจ๊ง เตลิดเปิดเปิง อยู่บ่อยๆ แต่ก็เป็นที่หมายปองของทองดี ที่ชอบแวะมาแทะเล็มบ่อยๆ
อีกมุมของชุมชน มีสำนักเจ้าแม่ของ เจ้าแม่ไผ่แก้ว (ไปรมา รัชตะ) ที่รับดูหมอ สะเดาะเคราะห์ ใบ้หวย ดูฤกษ์ยาม หรืออะไรก็ตาม ที่ได้เงิน เจ้าแม่ไผ่แก้วเป็นคนกะล่อน หาเลี้ยงชีพปากกัดตีนถีบ อาศัยรู้จริงตามตำราโหราศาสตร์มาบ้าง แต่ส่วนมากมักจะมั่ว โดนจับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ที่หลอกเงินชาวบ้านก็เพราะต้องเลี้ยงดู หน่อไม้ (ดิสรยา เตชะไพบูลย์) ลูกสาววัยสิบขวบ ที่ฉลาด ฉาดฉาน ช่างถาม แก่นแก้ว แต่ก็มีความน่ารักสมวัย
ส่วนทองดี ที่อวดว่าตนเป็นข้าราชการกทม. มีรถประจำตำแหน่ง บัวตองก็ได้พบความจริง ที่ทองดีมากับรถขยะ เป็นพนักงานขนขยะของกทม.นั่นเอง
บัวตอง พยายามตระเวนสมัครงาน แต่ก็ไม่มีใครรับเลย เพราะคุณสมบัติที่เรียนจบแค่ ม.6 จึงหางานดีๆ ได้ยากเหลือเกิน จนเริ่มคิดว่าอาจจะต้องทำงานแบบใช้แรงงานหาเงินประทังชีวิตไปก่อน โดยมี กรณ์เทพ ทองดี และ เบ๊นซ์ คอยช่วยให้กำลังใจ ทองดีนั้น อาศัยอ่านหนังสือที่คนทิ้งขยะมากมาย จึงเป็นคนที่มีคำคม คำสอนใจมาให้กำลังใจบ่อยๆ ส่วนนายเบ๊นซ์ ก็คอยกะล่อน เล่นมุกแซวให้บัวตองยิ้มได้ และเมื่อบัวตองเศร้าเรื่องของดวง เหมือนคนอกหัก ก็จะได้กรณ์เทพที่คอยดูแลหัวใจให้เป็นอย่างดี
เฮียช้างนั้น นอกจากจะเป็นเจ้าของค่ายเพลงผู้ทรงอิทธิพลในวงการลูกทุ่งแล้ว ยังเป็นเจ้าของที่ดินเกือบทั้งหมดในละแวกชุมชนแจ่มใจ แม้แต่บ้านของกรณ์เทพ ก็เป็นบ้านเช่าของเฮียช้างเช่นกัน โดยเฮียช้างมอบหมายให้ อาวุธ (ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล) ลูกคนโตจอมกร่าง เป็นคนเก็บค่าเช่าทั้งบ้าน ทั้งพื้นที่ค้าขาย ดูแลผลประโยชน์ในพื้นที่นี้ โดยมี จ๊อด (เทวิญธวิ์ คุณารัตนวัฒน์) เป็นลูกสมุนคู่ใจ เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะจีบบัวตองให้ได้
เพลงของดวงเริ่มดัง และขายดี นวลอนงค์จึงยื่นข้อเสนอให้ดวงว่า ถ้าอยากจะดัง เป็นนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งพุ่งแรงตัวจริง และได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มกับบริษัท มีเงินเดือนและที่พักหรู มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ ให้เลิกกับแฟนอย่างเด็ดขาด ดวงหน้ามืด ใฝ่ฝันอยากดัง จึงตอบรับทันที
กรณ์เทพ พาบัวตอง ไปตระเวนสมัครงาน แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนรับ บัวตองจึงแอบไปสมัครงานก่อสร้าง คอยแบกปูน แต่ก็พลาดพลั้งไปเทปูนหล่อติดเอาหัวหน้าช่างติดพื้นปูนไปครึ่งแข้ง โดนตะเพิดออกมา บัวตองท้อใจ คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะหาเงินใช้หนี้ ระหว่างนั้น กรณ์เทพ โหมทำงานหนัก พยายามขยันขายเครื่องดับเพลิงให้มากขึ้นเพื่อค่าคอมมิชชั่น และยังรับทำงานกะดึก ด้วยการเป็นรปภ.หมู่บ้านใกล้ๆ จับพลัดจับผลูไปช่วยจับโจรที่กำลังจะปล้นบ้านของ เจ้าสัวสมโชค (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) อภิอัครมหาเศรษฐีจากตระกูลที่เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าสัวจึงตบรางวัลให้อย่างงาม เพื่อเป็นการตอบแทนความดีของกรณ์เทพ แต่การทำงานทั้งกะดึกกะกลางวัน ก็หนักหนาเกินกำลัง จนกรณ์เทพ ต้องเลิกงานเป็นรปภ.หมู่บ้านไปซะ
ที่ทำเลติดถนนใหญ่ของชุมชนแจ่มใจที่จะมีผู้คนพลุกพล่าน เป็นทำเลที่ดีของร้านอาหารการกิน มีร้านขายอาหารตามสั่ง ของ เชฟหอย (ยุทธพิชัย ป๋วยเฮง) ที่ชอบคุยโม้ว่า ตนคือเชฟระดับ เชฟกระทะเหล็ก ที่อนาคตจะต้องมีภัตตาคารหรูเป็นของตนเอง ร้านเชฟหอยขายดี เพราะอร่อยและมีอยู่ร้านเดียว และมี คิงคอง (กฤตไน เลาหปราสาท) ลูกชายวัย 11 ขวบ (เป็นคู่ซี้คู่ทะเลาะของหน่อไม้ ลูกเจ้าแม่ไผ่แก้ว) คอยเป็นผู้ช่วย
คิงคอง จะคอยช่วยพ่อเสิร์ฟ ช่วยล้างถ้วยชาม ทำงานสารพัดเกินวัย จนกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างกร้านโลก แก่แดดกว่าหน่อไม้ กรณ์เทพกับบัวตองมานั่งกินข้าวที่นี่ เห็นร้านติดกัน ติดป้ายให้เช่า ก็เกิดความคิดว่านอกจากอาหารตามสั่งแล้ว ชุมชนละแวกนี้ยังไม่มีใครทำข้าวมันไก่ขาย แต่ถ้าบัวตองไปฝึกและขอสูตรจากป้าพลอย แม่ของตน ก็น่าจะเปิดร้านขายข้าวมันไก่ได้ บัวตองจึงรีบไปกราบคารวะขอเป็นลูกศิษย์ป้าพลอย จนในที่สุด ด้วยนิสัยสู้ยิบตา ไม่มีถอยของบัวตอง ทำให้เธอสามารถทำได้
วันหนึ่งรถยนต์หรูของ เจ้าสัวสมโชค ดันมาเครื่องยนต์ดับ อยู่แถวชุมชนแจ่มใจ เจ้าสัวได้เจอหน้ากรณ์เทพก็จำได้ ที่กรณ์เทพเคยช่วยไว้จากโจรที่ปล้นบ้านเจ้าสัว กรณ์เทพยังช่วยดูเครื่องยนต์ให้ ปรากฏว่าเป็นความสะเพร่าของ นายบุญช่วย คนขับรถที่ดันลืมเติมน้ำมันซะเอง เจ้าสัวด่าบุญช่วยยกใหญ่ ก่อนจะบ่นว่าหิว กรณ์เทพจึงรีบอาสาพาไปกินข้าวมันไก่ของบัวตอง เพียงชิมน้ำซุปคำแรก เจ้าสัวสมโชคก็น้ำตาไหลพรั่งพรู เพ้อว่านี่คือรสมือของอดีตเมียเสี่ย คนเก่าก่อน ที่เสี่ยรักฝังใจ ไม่เคยลืม หลังจากนั้น เจ้าสัวสมโชคจะแวะเวียนมากินข้าวมันไก่อีกครั้ง เจ้าสัวสอบถามบัวตอง ว่าไปได้สูตรน้ำซุปไก่แบบนี้มาจากไหน ขอร้องให้พาไปพบเจ้าของสูตรนั้น
บัวตองกับกรณ์เทพพาเจ้าสัวสมโชคไปพบกับป้าพลอย ทันทีที่ทั้งสองพบกัน ก็ต่างโผเข้าสวมกอดร้องห่มร้องไห้ กรณ์เทพถึงกะอึ้ง ที่ป้าพลอยบอกให้เรียกเจ้าสัวว่า ‘พ่อ’ เห็นเด็กๆ งง เจ้าสัวสมโชคจึงเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า ป้าพลอยจึงเล่าต่อว่า ที่ตนหายไปนั้น เพราะพ่อแม่ของเจ้าสัวสมโชคบุกมาเจรจาข่มขู่ว่า ถ้าไม่หนีออกไปจากชีวิตของสมโชคซะ จะจ้างมือปืนมาเก็บ เจ้าสัวสมโชคคุกเข่าขอโทษ พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะเลี้ยงดูทุกคนอย่างดี แต่ป้าพลอยปฏิเสธทันที พร้อมสั่งให้กรณ์เทพห้ามรับเงินทองจากสมโชค เพราะไม่อยากให้ทางบ้านสมโชคดูถูกเอาได้
ในงานเลี้ยงเปิดตลาดนัด มีงานประกวดเทพีชุมชนแจ่มใจ กรณ์เทพได้เห็นบัวตองใส่ชุดสวย แต่งหน้าทำผมเผ้าสวยหยาดเยิ้มขึ้นประกวดบนเวที โดยมีพอลล่า ใบพาย ลิ้นจี่ มาร่วมประกวดด้วยและแน่นอนผู้ชนะคือบัวตอง คืนนั้น กรณ์เทพรู้สึกความรักแน่นคับอก จนต้องระบายออก เขาตัดสินใจบอกรักบัวตอง บัวตองไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ พูดแต่เพียงว่า ขอจัดการเคลียร์หนี้ของแม่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาว่ากันใหม่
บัวตองถึงกับสับสน แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของดวง ที่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเธอไปเลย บัวตองก็ใจอ่อน ตอบรับรักจากดวง ที่พอรู้สาเหตุว่าบัวตองไม่ได้ตั้งใจทิ้งตนไป ก็ขอร้องบัวตองให้มาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับเขาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็เริ่มมีฐานะพอตั้งตัว และคิดสร้างครอบครัวในอนาคตได้ ทำเอากรณ์เทพถึงกับอกหัก หัวใจสลาย เป็นที่น่าสงสาร จนทองดีและเบ๊นซ์ ต้องคอยเฝ้าปลอบใจ
บัวตองรู้ตัวแล้วในนาทีนี้ ว่าใครกันแน่ ที่ดีกับเธอ และเห็นความสำคัญของเธอจริงๆ บัวตองรีบตรงไปหากรณ์เทพ แต่ก็พบว่าสายไปเสียแล้ว เพราะทองดีกับเบ๊นซ์เล่าให้ฟังว่า กรณ์เทพ หลบไปเลียแผลใจ และสั่งทองดีกับเบ๊นซ์ไว้ว่า ห้ามบอกบัวตอง ว่าเขาหายไปไหน เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าบัวตองอีกให้เจ็บปวดใจ บัวตองเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะตนเป็นฝ่ายทิ้งกรณ์เทพให้เจ็บก่อนจริงๆ
บัวตองเก็บร้านขายข้าวมันไก่ จะย้ายกลับไปที่ตำบลบ้านนาดอน บ้านเกิดของตน บัวตองกลับไปเจอยุภา แม่ของตน ก็สารภาพว่าหาเงินได้ไม่ครบห้าแสน มีอยู่เพียงแค่แสนห้า ตาเอิบ เห็นบัวตองกลับมา ก็ตามมากะลิ้มกะเลี่ย ทำท่าหัวงูอีก ยุภาเลยบอกให้บัวตองเตะผ่าหมากสั่งสอนเสี่ยซะ พร้อมบอกว่าตนเคลียร์หนี้ตาเอิบไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก บัวตองงงว่าแม่เอาเงินจากไหน ยุภาก็งง เพราะได้เงินจากที่บัวตองส่งมา บัวตองนึกย้อน แล้วรู้ทันทีว่ากรณ์เทพเป็นคนส่งมาแน่ๆ เพราะกรณ์เทพเล่าว่าเคยทำงานพิเศษ เคยทำงานหนักสารพัด เคยได้รับเงินเป็นน้ำใจที่ช่วยให้เจ้าสัวสมโชครอดจากเงื้อมมือโจร บัวตองเพิ่งรู้ว่าเงินทั้งหมดนี่ เป็นความช่วยเหลือจาก กรณ์เทพ นั่นเอง
บัวตองรีบกลับไปกรุงเทพฯ อีกที เธออธิบายให้ทองดี และเบ๊นซ์ เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด พร้อมขอร้องให้บอกเธอว่ากรณ์เทพหนีไปอยู่ที่ไหน ทั้งสองจึงตกลงว่าจะพาไป โดยมีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ที่นายบุญช่วยขับมาช่วยอำนวยความสะดวกถึงที่
เรื่องราวของ บัวทอง และ กรณ์เทพ จะลงเอยอย่างไร? รักจะสมหวังในรักหรือไม่? ต้องติดตามชมละคร “แม่ดอกรักเร่” ผู้จัดฯ หน้าใหม่ไฟแรงอย่าง กบ-ปภัสรา ขอการันตีความสนุกจ้า!
คาแร็กเตอร์ตัวละคร
บัวตอง รับบทโดยอาภา ภาวิไล (แม็กกี้)
สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 เรียนจบแค่ ม.6 และต้องออกมาช่วยแม่ ทำนา คิดว่าถ้ามีเวลามากขึ้น จึงจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอนาคต เป็นคนซื่อ จิตใจดี มีนํ้าใจ ไม่คิดร้ายกับใคร จนกลายเป็นเหมือนไม่ ทันคน พร้อมจะเป็นเหยื่อของคนปลิ้นปล้อนในเมืองใหญ่ บัว คือ ฟอเรสต์ กัมพ์ ภาคสาวบ้านๆ ที่ศรัทธาในการทำดี ว่าจะทำให้ ชีวิต ตนได้ดีแน่นอน ขยัน สู้ชีวิต ช่างคิดฝัน จินตนาการ อย่างคน ที่ยังมองโลกสวย เวลาพบเจออะไร ก็มักจะมีภาพจินตนาการเข้า มาในหัว เป็นเรื่องเป็นราวสนุกเว่อร์ๆ อยู่บ่อยๆ
กรณ์เทพ รับบทโดยปิยพันธิ์ ขากฤษ (บูม)
หนุ่มอายุ 23 เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี มาแค่ปี สองปี ในภาวะที่งานยังหายาก จึงต้องมาเป็นเซลส์แมน ขายเครื่องดับเพลิง เพื่อหาเงินประทังค่ากินอยู่ไปก่อน เทพเป็นคนกะล่อน คล่องแคล่ว พูดเก่ง เจ้าคารมคมคาย สมกับงานเซลส์แมน ในระดับ บอร์นทูบี เกิดมาเพื่อสิ่ง นี้จริงๆ ฝันอยากเป็นนักธุรกิจร้อยล้านในอนาคต มีนํ้าใจ ถึงแม้จะแสดงออก พูดจากวนๆ แบบขวานผ่าซากใน บางที
ทองดี รับบทโดยธีรภัทธ์ แย้มศรี (หมู)
อายุ 23-25 ปี เพื่อนรุ่นพี่ที่อาศัยในชายคาเดียวกับกรณ์เทพ ชอบแนะนำตัวว่าเป็นข้าราชการ กทม. ที่มีรถประจำ ตำแหน่ง แต่จริงๆ คือพนักงานขนขยะที่ต้องไปกับรถขยะ ทุกเช้า ทองดีอายุมากกว่าเพื่อนร่วมแก๊งค์ และเป็นคนอ่าน มากรู้มาก (เพราะเก็บหนังสือเก่าที่คนทิ้งขยะมาอ่าน) ทำให้มีคำคมดีๆ มาสั่งสอน ตักเตือน หรือแม้แต่ให้กําลังใจผู้อื่นเสมอ แต่ก็เข้าทำนอง รู้หมด แต่อดไม่ได้ คือรู้อะไรดีๆ ทั้งหมด แต่ก็ไม่ทำ เพราะขี้เกียจ และชอบคิดดูถูกตัวเองว่าตํ่าต้อย อยู่กับขยะก็เหมาะแล้ว
พอลล่ารับบทโดยจุฑามาศ มันตะลัมพะ (พลอย)
ชื่อตามบัตรประชาชนคือ พรหล้า เป็นลูกสาววัย 20-23 ของเจ๊ พริ้ง ที่เพิ่งมาเริ่มหัดวิชาเสริมสวย และมักจะทำผมให้ลูกค้าเจ๊ง เตลิดเปิดเปิง อยู่บ่อยๆ เช่นอบผมไว้แล้วลืมจนหัวไหม้ฟูเลย คิดว่าอาชีพนี้ไม่รุ่งแน่ จึงเปิดร้านขายหวานเย็นอยู่หน้าร้านทำ ผมแทนซะเลย ชอบกรี๊ดหนุ่มๆ ไม่แพ้เจ๊พริ้ง แต่ก็เป็นลักษณะ ชอบหว่านเสน่ห์ แค่เช็คเรตติ้งแล้วก็ชิ่งหนี ไม่มีลักษณะมั่วกับ ผู้ชาย จะชอบจรงจังก็แต่กรณ์เทพคนเดียว
นวลอนงค์ รับบทโดยปาลิตา โกศลศักดิ์ (ปลา)
อายุ 20 ปี คุณหนูลูกเฮียช้าง เจ้าของค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ‘ซาวด์สยาม’ เป็นสาวสวย เปรี้ยว แต่งหน้าแต่งตัว จัด เรียกว่าภาพลักษณ์แทบจะตรงกันข้ามกับบัว เพราะเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน จึงถูกเลี้ยงดูแบบตามใจสปอยล์จนกลายเป็นคนนิสัยอยากได้อะไรต้องได้ วีนเหวี่ยง เอาแต่ใจ ไม่เคยมีใครกล้าขัดใจ แพ้ไม่เป็น
อาวุธ รับบทโดยภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล (แอมป์ เดอะสตาร์ 7)
ลูกชายของเฮียช้าง อายุ 25 ปี เป็นพี่ชายของนวลอนงค์ เป็นจอมกร่าง ประเภทรวยแต่ไม่เรียน ไม่มีสมองมีทำ หน้าที่คอยเก็บค่าเช่า ทั้งบ้าน และร้านค้า เพราะพ่อของตนเป็นเจ้าของที่ดินครึ่งหนึ่งของชุมชนแห่งนี้ เป็น คนอวดเก่ง วางโต ร้ายสุดๆ เมื่อเห็นบัวตองเข้า ก็ถูกใจ พยายามจะแย่งจากเทพ มาครอบครองให้ได้ เห็นแก่ ผลประโยชน์ส่วนตน โหด เจ้าอารมณ์ไร้นํ้าใจ
เบ๊นซ์ รับบทโดยพชรพล ศุขอร่าม (ตอง)
หนุ่มหน้าหยก อายุ 23-25 ปี เพื่อนร่วมชายคาอีกคนของกรณ์เทพ กับทองดี ชอบแนะนำตัวเองกับทุกคนว่าเป็นนักแสดงระดับพระเอก แต่จริงๆ เป็นแค่พระเอกในโรงลิเกๆ เล็กๆ ท้ายชุมชน ปากหวาน ออดอ้อน เจ้าสำนวน หลอกเงินจาก บรรดาแม่ยกไปวันๆ เลยสร้างปัญหา พาให้เดือดร้อนอยู่บ่อยๆ เป็นคนเฮฮาไปวันๆ ไม่มี จุดหมายในอนาคต เหมือนคนไม่รู้จักโต ขี้เกียจ หนีงานหนักคอยสมัครงานสบาย ขอชิลไปวันๆ ไม่เครียดอะไร
ป้าพลอย รับบทโดยอุทุมพร ศิลาพันธ์
แม่ของเทพ เป็นคนปากจัดใจดี ชอบสั่งสอนลูกๆ หลานๆ รับจ้างเย็บผ้าเล็กๆ น้อยๆ อยู่กับบ้าน ถึงจะอยู่บ้านเช่าชายคาเดียวกับกรณ์เทพ ทองดี และเบ๊นซ์ แต่ก็จะแยกไปอยู่ในห้องส่วนตัวซะมากกว่า ไม่มาสุงสิงกับแก๊งค์สามหนุ่มนัก ป้าพลอยเป็นคนขยัน ชอบพึ่งตนเอง ไม่ยอมรับเงิน ช่วยเหลือจากกรณ์เทพ เพราะคิดว่าตนเป็นแม่ ควรจะมีแต่ให้ จะไม่เอาอะไรจากลูกเด็ดขาด ป้าพลอยมีฝีมือในเรื่องการทำอาหาร โดยเฉพาะการ ทำซุปก๋วยเตี๋ยวไก่ตามตำรับของตนเอง ที่อร่อยเริ่ด ออริจินัลสุดๆ ไม่เหมือนใคร
เฮียช้าง รับบทโดยสุเมธ องอาจ
เจ้าของบริษัท ‘ซาวด์สยาม’ ค่ายเพลงลูกทุ่งที่โด่งดัง มาแรงของวงการ เป็นผู้มีอำนาจ และอิทธิพลในวงการ ลูกทุ่ง สามารถชี้เป็นชี้ตาย ใครจะเกิด ใครจะดับได้อย่างใจ จำต้องสนับสนุน ดวงดี นาดอน เพราะ ลูกสาว (นวล อนงค์) หลงรักผู้ชายคนนี้ แต่ก็เป็นคนดุ เด็ดขาด วางอำนาจ เหมือนเป็นมาเฟียวงการลูกทุ่ง และยังเป็น เจ้าของที่ดินครึ่งหนึ่งของชุมชนแถบนี้ จึงมีรายได้ จากการเก็บค่าเช่าต่างๆ อีกด้วย
เจ้าสัวสมโชค รับบทโดยเฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์
อภิอัครมหาเศรษฐีจากตระกูลที่เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์มากมาย วัย 55 ปี มาดดีแต่งสูทอย่างเจ้าสัวสมัยใหม่ บุคลิกการพูดจาดูเป็นคนรวยที่ไม่ยกตนข่มผู้อื่น ในอดีต สมัยหนุ่มเคยพบรักกับสาวที่รับจ้างเย็บ ปะ ชุน แก้ทรงเสื้อผ้า จนเขาส่งเสีย เลี้ยงดู ทั้งคู่อยู่กินมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง แต่เมื่อพ่อแม่ของทางเจ้าสัวทราบ ก็สั่งเด็ดขาดให้เลิกกัน และยังไปเจรจาข่มขู่ฝ่ายหญิงว่า ถ้าไม่หนีออกไปจากชีวิตของสมโชคซะ จะจ้างมือปืนมาเก็บ (เพราะพ่อแม่เข้าใจว่าฝ่ายหญิงจะมาหลอกคบเพื่อหวังสมบัติเงินทอง) ฝ่ายหญิงจึงต้องระเห็จหนีไป โดยที่เจ้าสัวสมโชค หรือแม้แต่ฝ่ายหญิงเองในขณะนั้นก็ยังไม่รู้ว่า วันที่หนีไปนั้น เธอเองได้ตั้งครรภ์ไอ้หนูกรณ์เทพมาเดือนนึงแล้ว
เจ้าแม่ไผ่แก้ว รับบทโดยไปรมา รัชตะ
เป็นเจ้าแม่ เปิดสำนักดูหมอ สะเดาะเคราะห์ ใบ้หวย ดูฤกษ์ยาม หรืออะไรก็ตาม ที่ได้เงิน เป็นคนกะล่อน หาเลี้ยงชีพปากกัดตีนถีบ อาศัยรู้จริงตามตำราโหราศาสตร์มาบ้าง แต่ส่วนมากมักจะมั่วโดนจับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ลึกๆเป็นคนจิตใจดี บางทีหลอกเอาเงินชาวบ้านจนๆ ก็มีสำนึกสงสาร แอบเอาเงินไปคืนบ้าง เหตุเพราะกลัวบาปกรรมจะตกกับลูกสาวที่ตนรักมากเท่าชีวิต มีปมเกลียดผู้ชาย เพราะเคยถูกสามีทิ้งเธอกับลูกไป ชอบเป็นแม่ยก ทั้งลิเก ทั้งนักร้องลูกทุ่ง เลยเป็นไม้เบื่อไม้เบากับเจ๊พริ้งไป
เจ๊พริ้ง รับบทโดยราตรี วิทวัส
เจ้าของร้านเสริมสวย แต่ไม่สวย วัย 45 ดูทรงแล้วน่าจะไปเป็นเจ๊ร้านขายส้มตำมากกว่า และที่ร้านยังมีบริการนวดเท้าอีกด้วย บางทีนวดเท้าอยู่ ก็เผลอสลับไปยีผมให้ลูกค้าบ้าง เรียกว่า บริการครบวงจร เป็นหัวหน้าขาเม้าท์ประจำร้านเสริมสวย และยังมีหัวการค้า ขายครีม ขายเครื่องสำอางสารพัด เพราะยังโสด จึงเห็นหนุ่มๆ หล่อๆ เป็นไม่ได้ จะต้องแทะเล็มให้ชื่นใจ ชอบเป็นแม่ยกทั้งลิเก ทั้งนักร้องลูกทุ่ง
เชฟหอย รับบทโดยยุทธพิชัย ป๋วยเฮง
หนุ่มวัย 40-45 เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ที่จะเป็นคู่แข่งของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ของบัวตอง มักจะชอบ คุยโม้ว่า ตนคือเชฟระดับ เชฟกระทะเหล็ก ที่ อนาคตจะต้องมีร้านอาหารหรูเป็นของตนเอง ทุกวันจะต้องแต่งตัวแบบเชฟจัดเต็ม ราวกับมาจาก โรงแรม 5 ดาว ที่ร้านขายดีมานาน แต่ต้องมาสั่นคลอนเพราะเจอก๋วยเตี๋ยวไก่ของบัวตองที่ขายดีกว่า เชฟหอยจึงยอมไม่ได้ ต้องหาทางกําราบบัวตอง
ป้าเม้าท์ รับบทโดยน้อย โพธิ์งาม
ขาเม้าท์ปากปลาร้า ลำโพงประจำชุมชน เป็น gossip girl รุ่นดึก มีชื่อจริงว่า “โฉมสะคราญ” ชอบแต่งตัวแบบที่มีดอกทานตะวันเป็นพร็อพอยู่เสมอ เพราะอดีตเคยเป็นนางงามทุ่งทานตะวัน สมัยอยู่ที่ลพบุรี ที่เม้ามอยประจำคือร้านส้มตำนิดหน่อย ชอบคุยโม้ถึงความงามของตนสมัยสาวๆ สามารถเม้าเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ ชาวบ้านตีกัน เพราะป้าเม้ากระพือข่าวกันอยู่เนืองๆ แต่ก็ภูมิใจในความเป็นประชาสัมพันธ์ของตน
นิดหน่อย รับบทโดยอาภาพร นครสรรค์
แม่ค้าส้มตำ สวย เซ็กซี่ เรียกได้ว่าจัดเนื้อ นม ไข่มาเต็มพิกัด ไม่ได้นิดหน่อยตามชื่อเลยสักนิด แต่เจ้าตัวไม่เคยรู้ว่าตัวเองสวย มีฉายาว่า ส้มตำใส่นม นอกจากที่ร้านจะเป็นศูนย์รวมของขาเม้าประจำชุมชนแล้ว ยังเป็นที่รวมของบรรดาหนุ่มๆ ที่ชอบมาดูนิดหน่อยตำ ส้มตำด้วย แต่นิดหน่อยไม่ค่อยรู้ เพราะเป็นคนมึนๆ ตามชาวบ้านไม่ค่อยทัน แต่ก็เป็นคนดี
เจ้าที่ รับบทโดยเทพ โพธิ์งาม
ชายวัยประมาณ 60-70 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวดา แดง เหมือนจะเป็นคนดุ แต่ก็ตลกหน้าตาย เคยถูกขี้เมาขับรถชนตาย เลยมาสิงอยู่ที่จอมปลวก ตรงบริเวณทางสามแพร่งในชุมชน ซึ่งไม่เคยมีใครสนใจ จนฉลอง ขี้เมาในหมู่บ้าน มาฉี่รด ทาให้เจ้าที่ไม่พอใจ ปรากฏตัวออกมาด่า แต่ฉลองก็แวะมาฉี่และคุยด้วยทุกวัน เจ้าที่ก็สั่งสอนเรื่องเมาทุกวันเช่นกัน เพราะไม่ชอบคนกินเหล้าเมายา เมื่อชาวบ้านเห็นว่าฉลองพูดคนเดียวกับจอมปลวกบ่อยๆ จึงคิดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทับอยู่เลยพร้อมใจกันอัพเกรดสร้างเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ให้ เจ้าที่ แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นท่าน นอกจากฉลองคนเดียว จะคอยวิจารณ์และสั่งสอนเรื่อง ศีลธรรม
ฉลอง รับบทโดยชูศรี เชิญยิ้ม
ชายวัยประมาณ 40-45 ปี เป็นสัปเหร่อขี้เมา เมา ตลอด 24 ชั่วโมง ฉลองทั้งวัน ชอบไปฉี่รด ที่อยู่เจ้าที่ ตั้งแต่ยังเป็นจอมปลวกจนกระทั่งสร้างเป็นศาลสวยงามแล้ว ก็ยังจะไปฉี่รดได้ทุกวัน เป็นคู่กัดกับเจ้าที่ และเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เห็นและคุยกับเจ้าที่ แต่ด้วยความเมาตลอด เลยไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร จะคอยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวใน ชุมชนกับเจ้าที่ สิ่งที่พูดออกมาจะมีคำสอนที่คาดไม่ถึงเสมอ และยังเป็นเหมือนโฆษกประจำตัวของเจ้าที่ เมื่อเจ้าที่ต้องการอะไรฉลองก็จะเอาไปพูดกับคนในหมู่บ้านต่อ แต่ชาวบ้านจะคิดว่าเป็นคนบ้า เพราะเห็นว่าพูดคนเดียวเสมอ
ใบพาย รับบทโดยภัทรนิษฐ์ แก้วมณี
หางเครื่องวงลูกทุ่งของ ดวงดี นาดอน เป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด เห่อตามกระแส ไม่มีจุดยืน มีนิสัยช่าง ประจบนาย มีอะไรก็ต้องคาบไปฟ้องนวลอนงค์ทันที จึงเป็นเหมือนตาขวาของนวลอนงค์ที่คอยสอดส่อง ดวงดี นาดอนไม่ให้มองใครนอกจาก นวลอนงค์ผู้เดียว
ลิ้นจี่ รับบทโดยเสาวนิตย์ ณัฐวรวโรฒน์
หางเครื่องสาววงเดียวกับใบพาย แต่นิสัยกลับแตกต่าง เป็นด้านตรงข้าม เพราะจะคอยช่วยเหลือ ดวงดี นาดอน ให้รอดพ้นการตามราวีของนวลอนงค์ เพราะได้ฟังตำนานรักที่ดวงเล่าให้ฟัง แล้วเห็นใจ คอยเป็นฝ่ายเชียร์ และเป็น ตัวเชื่อมให้ดวงยังรักบัวตอง
จ๊อด รับบทโดยเทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์
หนุ่มวัย 20 เป็นลูกสมุนคนสนิทของอาวุธนิสัยเหมาะกับเป็นลูกคู่ของนาย เพราะชอบอวดเบ่งใหญ่โต และชอบใช้กําลังข่มผู้อื่น พอๆ กัน เป็นที่เกลียดกลัวของพ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านทุกคน ที่อาศัยเช่าที่ค้าขาย หรือเช่าบ้านในชุมชนแห่งนี้ จ๊อดจงรักภักดีกับนาย ชนิดที่อาวุธสั่งให้ทำอะไร จะเลวร้ายแค่ไหน ก็จัดให้เต็มแม็กซ์ทุกอย่าง
บุญช่วย รับบทโดยตูมตาม เชิญยิ้ม
คนขับรถ และผู้ติดตามคนสนิทของเจ้าสัวสมโชค อายุ 40-45 ชอบแอบบ่น แอบจิกกัด เจ้านายตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่เจ้าสัวทำอะไรแปลกๆ เช่นชอบมาแวะกินก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านข้างทางของบัวตองบ่อยๆ แต่เจ้าสัวสมโชคก็ไม่เคยถือโกรธ ได้แต่ด่ากลับไป จนเหมือนเป็นคู่กัด มากกว่า เจ้านายกับคนขับรถ
หน่อไม้ รับบทโดยดิสรยา เตชะไพบูลย์
ลูกสาววัยสิบขวบของเจ้าแม่ไผ่แก้ว ฉลาด ฉาดฉาน ช่างถาม แก่นแก้ว แต่ก็จะไม่ทำอะไรน่าเกลียดเกินวัยเด็ก บางทีก็หลุด เผลอพูดความจริง แฉแม่ของตัวเองให้วงแตกอยู่บ่อยๆ มีความซื่อๆ ง่ายๆ แบบความคิดเด็ก ที่มักจะเตือนใจ ให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาไหว้เจ้าแม่ หรือแม้แต่ตัวเจ้าแม่เองได้หวนฉุกคิดอยู่บ่อยๆ
คิงคอง รับบทโดยกฤตไน เลาหปราสาท
ลูกชายวัย 11 ขวบ ของเชฟหอย ที่ปิดเทอมมา ช่วยพ่อเสิร์ฟ ช่วยล้างถ้วยชาม ช่วยทำกับข้าวสารพัด เป็นคู่รักคู่แค้นของหน่อไม้ ที่บางครั้งก็รัก สามัคคี แต่บางครั้งก็ขัดแย้งทะเลาะกัน แต่ลึกๆ เด็กสองคนนี้ต่างมีนํ้าใจ ช่วยเหลือ เป็นห่วงกัน คิงคองจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างกร้านโลก แก่แดดกว่าหน่อไม้
ดวง รับบทโดยมหัศจรรย์ มาตศรี (นักร้องลูกทุ่งค่าย บีบี เรคคอร์ด)
หนุ่มหล่อนักร้องลูกทุ่งเสียงทองที่ใช้ชื่อในวงการว่า ดวงดี นาดอน ดวงเป็นแฟนบัวมาตั้งแต่สมัยเรียน ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังมาตลอดชีวิต แต่ประกวดร้องเพลงที่ไหนก็ได้แต่ที่ 2 ในชีวิตไม่เคยได้ถ้วยชนะเลิศกับเขาเลย ยิ่งเป็นปมทำให้ดวงทะยานอยากมากขึ้น จนเผลอลืมรากเหง้า ลืมคนรัก ทำได้ทุกอย่างเพื่อหวังตะกายดาวตามฝัน
ตาเอิบ รับบทโดยเกรียงศักดิ์ เหรียญทอง
เศรษฐีเงินกู้ จอมหัวงู ขี้โกงสุดๆ แห่งตำบลบ้านนา ดอน จ้องจะงาบบัวมาหลายปี จึงตั้งใจปล่อย กู้ให้ยุภาทำนา ให้กู้เงินเยอะๆ แล้วลอบโรยเคมี ทำลายดิน จนปลูกข้าวไม่ได้ จนยุภาต้องหมด เนื้อหมดตัว ไม่มีปัญญาใช้หนี้ เพราะหวังว่าจะได้
บัวเป็นเมียแทนการใช้หนี้
ยุภา รับบทโดยวรารัตน์ เทพโสธร
แม่ของบัว ทำนามาทั้งชีวิต แต่ต้องเจ๊ง หมดเนื้อหมดตัว ดินเสีย ทำให้ข้าวตายทั้งผืนนาจนจะต้อง โดนยึดบ้าน และที่นาทำกิน เป็นคนที่มีศักดิ์ศรี ยึดมั่นในหลักธรรม ความดี เชื่อว่า ถ้าเป็นคนดี ลงท้ายจะต้องตกนํ้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
รปภ.นุ้ย รับบทโดยหนุงหนิง
รปภ.ประจำบริษัทซาวด์สยาม วัย 35 เป็นคนเข้มงวด มีอารมณ์ขัน แต่ก็แอบรั่ว แอบหลับเป็น ประจำ อดีตเคยใฝ่ฝันอยากมาสมัครเป็นนักร้องลูกทุ่ง แต่โลกแห่งความเป็นจริงผลักดันมาได้แค่เป็นรปภ.ค่ายเพลงลูกทุ่ง
รายชื่อนักแสดง
1. อาภา ภาวิไล (แม็กกี้) รับบทเป็น บัวตอง
2. ปิยพันธิ์ ขากฤษ (บูม) รับบทเป็น กรณ์เทพ
3. ธีรภัทธ์ แย้มศรี (หมู) รับบทเป็น ทองดี
4. จุฑามาศ มันตะลัมพะ (พลอย) รับบทเป็น พอลล่า
5. ปาลิตา โกศลศักดิ์ (ปลา) รับบทเป็น นวลอนงค์
6. ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล (แอมป์ เดอะสตาร์ 7) รับบทเป็น อาวุธ
7. พชรพล ศุขอร่าม (ตอง) รับบทเป็น เบ๊นซ์
8. อุทุมพร ศิลาพันธ์ รับบทเป็น ป้าพลอย
9. สุเมธ องอาจ รับบทเป็น เฮียช้าง
10. เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ รับบทเป็น เจ้าสัวสมโชค
11. ไปรมา รัชตะ รับบทเป็น เจ้าแม่ไผ่แก้ว
12. ราตรี วิทวัส รับบทเป็น เจ๊พริ้ง
13. ยุทธพิชัย ป๋วยเฮง รับบทเป็น เชฟหอย
14. น้อย โพธิ์งาม รับบทเป็น ป้าเม้าท์
15. อาภาพร นครสรรค์ รับบทเป็น นิดหน่อย
16. รับบทโดยเทพ โพธิ์งาม รับบทเป็น เจ้าที่
17. ชูศรี เชิญยิ้ม รับบทเป็น ฉลอง
18. ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี รับบทเป็น ใบพาย
19. เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรฒน์ รับบทเป็น ลิ้นจี่
20. เทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์ รับบทเป็น จ๊อด
21. ตูมตาม เชิญยิ้ม รับบทเป็น บุญช่วย
22. ดิสรยา เตชะไพบูลย์ รับบทเป็น หน่อไม้
23. กฤตไน เลาหปราสาท รับบทเป็น คิงคอง
24. มหัศจรรย์ มาตศรี (นักร้องลูกทุ่งค่าย บีบี เรคคอร์ด) รับบทเป็น ดวง
25. เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง รับบทเป็น ตาเอิบ
26. วรารัตน์ เทพโสธร รับบทเป็น ยุภา