เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 10 (อวสาน)
ธามโอบกอดย่าหยาใต้ผ้าห่มหนานุ่มก่อนจะกระซิบข้างหู
"อย่าทรยศฉันนะย่าหยา"
"ฉันไม่มีวันทรยศคุณ คุณธาม จันทร์ชมพูต้องชดใช้ ฉันสัญญา"
ธามกอดย่าหยาไว้หลวมๆ ก่อนจะผล็อยหลับไป ในขณะที่ย่าหยานอนตาค้างเพราะเรื่องที่เธอเผชิญอยู่ในขณะนี้ทำให้หลับตาไม่ลงแม้สักนาทีเดียว
เวลาผ่านไปจนเป็นเวลาเช้า ย่าหยาก็ยังนอนอยู่ในท่าเดิม
ซินแสง้วงขยับเข้ามาในหอไหว้พระภายในศาล
"อาธามไม่ใช่อาธีคนเดิมที่ลื้อรู้จัก" ง้วงบอก
"ยังไงหยาก็จะสารภาพกับเขาค่ะซินแส หยาคิดมาทั้งคืน หยาตัดสินใจแล้ว" ย่าหยาแน่วแน่
"อีเปลี่ยนเป็นคนละคนแล้วอาหยา บาดแผลในอดีตไม่มีทางทำให้อีใจเย็นเหมือนเดิมได้ ถ้าลื้อบอกอีว่าลื้อเป็นใคร อีไม่เอาลื้อไว้แน่"
"นั่นก็สุดแต่เวรกรรม หยาจะไม่โกหกเขาเป็นครั้งที่สอง"
"อั๊วหมายถึง ทำไมไม่รอให้งานใหญ่ผ่านไปก่อน ลื้อกับอาธามอาจต้องร่วมมือกัน เสร็จงานแล้วบอก มันก็ยังไม่สาย"
"ยิ่งนานวันมันยิ่งทรมานค่ะซินแส หยาเห็นหน้าเขาแล้ว ภาพที่หยายิงพี่ธีมันตามมาหลอน หยาไม่อยากโกหกเขาอีกแม้แต่นาทีเดียว"
ย่าหยาพูดจบก็มององค์พระที่อยู่ตรงหน้านิ่ง สักครู่จึงหลับตาคล้ายตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ง้วงเห็นท่าทีของเธอก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทัดทาน
ฮกเดินเข้ามายืนด้านหลังธาม
"อาจิวบอกว่า เฮียต้องการพบอั๊ว"
ธามหันมาแล้วพูด "ลื้ออยากออกจากวงการนี้มั้ย"
ฮกก้มหน้านิ่งแล้วสารภาพ "อั๊วอยากไปจากที่นี่ทุกวัน ไม่อยากทำงานชั่วๆพวกนี้แล้ว"
"อั๊วจะช่วยลื้อ แต่ลื้อต้องเอาคนคนหนึ่งไปด้วย"
จิวพาฮั้วเดินเข้ามา ฮกสงสัยว่าธามหมายถึงใครแต่พอหันมาเห็นน้องแล้วก็อึ้งก่อนจะน้ำตารื้นขึ้นมา
"อาฮั้ว" อกวิ่งเข้ามาจับเนื้อตัวอั้ว "นี่ลื้อจริงๆด้วย ลื้อยังไม่ตาย ลื้อยังไม่ตาย"
ฮกโผเข้ากอดน้องชายแล้วน้ำตาไหล
"เสี่ยเล้งมันให้อาซ้งยิงอาฮั้วตอนไปเรียกค่าคุ้มครองกู๋เต๋อ กู๋เต๋อเห็นอียังไม่ตายเลยพามารักษาตัวกับซินแส" ธามบอก
ฮกผงะออกมามองน้องแล้วเห็นแววตาฮั้วแปลกไป "ทำไมเหมือน อีจำอั๊วไม่ได้"
"อีล้มกระแทก สมองกระทบกระเทือนจนจำใครไม่ได้" จิวบอก
ฮกแค้นจัด "ไอ้เล้ง อั๊วจะฆ่ามัน อั๊วกับน้องทำงานเสี่ยงตายให้มันทุกอย่างมันยังทำกับอั๊วขนาดนี้ อั๊วจะฆ่ามันๆๆ"
ธามดึงแขนฮกไว้ "ลื้อไปลื้อตาย ลื้อจะพาน้องหนีไปใช้ชีวิตสงบสุข หรือจะกลับไปให้มันฆ่าตาย เลือกเอา"
ฮกชะงักแล้วร้องไห้ด้วยความแค้นใจ
"เฮียเป็นเฮียอั๊วใช่มั้ย เฮียชื่ออะไร"
"อั๊วชื่อฮก" ฮกบอก
"สักวันอั๊วคงจำเฮียได้ ใช่มั้ยเฮียธาม"
พูดเพียงเท่านั้น ฮกก็ต่อมน้ำตาแตกเป็นเผ่าเต่า เขาเข้ามากอดน้องแล้วหันมาพูดกับธาม
ฮกตัดสินใจ "อั๊วจะพาน้องไปรักษาตัว" ฮกพูดกับฮั้ว "กลับไปอยู่บ้านเรานะอาฮั้ว"
ธามหยิบซองเงินในชุดสูทยื่นให้ "ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แล้วก็เงินตั้งต้นชีวิตใหม่ทำงานอะไรก็ได้ที่มันไม่ผิดกฎหมาย เข้าใจมั้ย"
ฮกรีบดึงฮั้วนั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วก้มหัวปลกๆให้ธาม
"เฮียมีพระคุณกับเราสองคนจริงๆ ไว้ชีวิตช่วยชีวิตเราก็หลายครั้ง"
"ไม่ได้ลื้อช่วยชีวิตอั๊วไว้เมื่อวันก่อน อั๊วก็ตายเหมือนกัน บุญคุณต้องทดแทน" ธามว่า
"ถ้าไม่ตายซะก่อน อั๊วกับน้องจะกลับมาทดแทนบุญคุณเฮีย อั๊วสาบาน"
ฮกกับฮั้วก้มหัวให้ธามจนแทบจะติดดิน
มิสเตอร์ลีพูดกับธามในขณะที่นั่งคุยกันในห้องพัก
"เสี่ยเล้งเลื่อนส่งของและเปลี่ยนสถานที่จากภูเก็ตมาเป็นที่ตึกร้างแถวสี่พระยา ไม่รู้มันจะซ้อนแผนอะไรรึเปล่า"
มิสเตอร์ลีส่งกระดาษแผนที่เส้นทางไปตึกร้างให้ธาม
ธามหยิบมาเปิดดู "เราเตรียมรับมือพวกมันไว้แล้ว ไม่ว่ามันจะย้ายไปส่งของที่ไหน ก็ไม่มีปัญหา ถ้าพลาด เราก็มีแผนสำรอง" ธามพับเก็บกระดาษแผนที่ใส่ในเสื้อสูท
"หวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี"
"ผมจะขายที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้คุณตามสัญญา แล้วก็ต้องขอแสดงความเสียใจเรื่องภรรยาคุณด้วยเรื่อง โรคร้ายที่รักษาไม่ได้" ธามว่า
"ผมทำใจแล้ว ตอนนี้คิดแค่ว่าจะใช้เวลาปีกว่าๆที่เหลืออยู่ทำให้ Melisaมีความสุข ที่สุดแค่นั้น ภรรยาผมชอบที่ดินของคุณมาก เธออยากมีบ้านริมน้ำที่นั่น ผมถึงต้องดั้นด้นมาหาคุณ และทำตามเงื่อนไขและกติกาที่คุณวางไว้"
"ขอบคุณมากครับที่ช่วยเหลือผมทุกอย่าง"
"อย่าถือเป็นการช่วยเหลือ คุณทำเพื่อพ่อแม่ ผมทำเพื่อภรรยา เราต่างมีจุดมุ่งหมายที่ความรักด้วยกันทั้งคู่ ที่เหนือกว่าความรักคือความเป็นเพื่อน ผมยินดีที่ได้รู้จักและมีเพื่อนอย่างคุณ คุณธาม"
มิสเตอร์ลีส่งมือให้ธาม ธามเช็คแฮนด์เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพของความเป็นเพื่อนที่เบ่งบาน
ซินแสง้วงกวาดพื้นลานหน้าหอสวดมนต์อยู่ ธามเดินเข้ามาหา
ง้วงถาม "เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยอาธาม"
"ครับซินแส ผมให้คนพาสองคนนั่นขึ้นรถไฟ แล้วก็เอายาของซินแสให้ไปด้วย ยาหมดเมื่อไหร่ อีจะขึ้นมาหาซินแสครับ" ธามบอก
"ดีแล้ว"
ย่าหยาเดินออกมาจากหอสวดมนต์ ธามหันมามองแล้วส่งยิ้มให้ย่าหยาอย่างชื่นมื่น ง้วงแอบมองแล้วชิงพูดเรื่องงานเพื่อให้ย่าหยาหยุดคิดเรื่องสารภาพความจริงกับธาม
"พรุ่งนี้ลื้อสองคนต้องทำงานใหญ่ สิ่งที่ลื้อต้องเจอ มันยากยิ่งกว่าเดินฝ่ากองไฟ ลื้อต้องอดทนให้ถึงที่สุด การที่ลื้อตั้งใจทำดี จะทำให้ลื้อพบเจอแต่สิ่งดีๆ ขอให้ยึดความรัก ความกตัญญูและการให้อภัยเป็นที่ตั้ง แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี"
ธามกับย่าหยาก้มหัวคารวะซินแสด้วยอาการนอบน้อม "ครับ/ค่ะ ซินแส"
"มีสติและที่สำคัญที่สุด ให้อภัย ขอให้ลื้อสองคนโชคดี" ง้วงอวยพร
ธามกับย่าหยาก้มหัวให้ซินแสอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินออกไป ง้วงมองตามแล้วผ่อนลมหายใจยาวเหมือนรู้ว่าอุปสรรคของทั้งคู่หนักหนาสาหัสเพียงใด
ธามจับมือย่าหยาเดินเคียงกันมาตามทาง ย่าหยาคิดหนัก ในที่สุดก็ตัดสินใจจะบอกความจริงแก่ธาม
"คุณธามคะ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ"
ธามแอบแซว "ท้องรึเปล่า ข่าวดีที่สุดเลย"
"ไม่พูดเล่นสิคะ"
"หน้ามุ่ยอย่างนี้ท่าจะเรื่องใหญ่ เอ้า ว่ามา"
"ฉัน" ย่าหยานิ่งไปนิดหนึ่งเพราะเดาไม่ออกว่าธามจะช็อกขนาดไหน
ธามจับไหล่ย่าหยาพลิกมาเผชิญหน้าแล้วตาก็สบตา "เราเป็นคนคนเดียวกันแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน เธอไม่สบายใจเรื่องอะไร"
ย่าหยาสูดลมหายใจลึกอย่างคนที่พร้อมรับผลกรรมที่จะตามมา
"ฉันคือ"
ยังไม่ทันหลุดคำว่า “จันทร์ชมพู” ออกมา หางตาย่าหยาก็เหลือบไปเห็นพ้งโผล่ออกมาจากเหลี่ยมเสาแล้วจ้องมองมาที่ย่าหยาเขม็ง ย่าหยาใจหายวาบ ภารกิจกำจัดเล้งผุดขึ้นมาในใจแทนที่เรื่องส่วนตัวทันที
"ฉัน จำเป็นต้องโทรหาเสี่ยเล้ง คุณคงไม่ว่าอะไรนะ"
ธามเบาใจว่าที่แท้ก็เรื่องแค่นี้เอง
บรรดาลูกน้องเล้งยืนกันสลอนเต็มบ้านเล้ง
เล้งกวาดตามองลูกน้องทุกคนแล้วถาม "อาฮกไปไหน"
"ออกไปข้างนอกแต่เช้า ป่านนี้ยังไม่โผล่หัวมาเลยครับ"
"ช่างมัน ไม่ต้องรอ" เล้งบอกกับทุกคน "ที่อั๊วเรียกประชุมวันนี้ ก็เพื่อจะบอกพวกลื้อว่า งานครั้งนี้สำคัญสำหรับแก๊งมังกรดำมาก ลื้อต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี อั๊วจะแบ่งเงินให้พวกลื้อ และจะให้พวกลื้อกลับไปเยี่ยมครอบครัว 1 เดือน"
ทุกคนแอบสบตากันด้วยความดีใจที่จะได้กลับไปอยู่กับครอบครัว เพราะเล้งที่ไม่เคยใจดีขนาดนี้มาก่อน
"แต่ถ้าพวกลื้อทำงานพลาด นั่นหมายถึง ลื้อจะไม่มีโอกาสกลับมาเจอลูกเมียอีกถ้าอยากกลับมาหาคนที่ลื้อรัก ต้องไม่มีคำว่าพลาด แก๊งมังกรดำต้องผงาดเหนือทุกแก๊ง จำไว้"
ระหว่างที่เล้งพูด ลูกน้องทุกคนก็ตั้งใจฟัง ขณะที่โบตั๋นซึ่งแอบฟังอยู่ที่มุมหนึ่งเริ่มคิดหนัก
รูปถ่าย เคี้ยง เช็ง ตง เซี๊ยะ เล้ง และพ้งในช่วงที่เป็นหนุ่มเพิ่งมาจากเมืองจีนใหม่ๆ เล้งเดินเข้ามาหยุดยืนมองรูปเพื่อนๆ ในยุคโล้สำเภารูปนั้นซึ่งติดอยู่ที่ผนังห้อง
เล้งเดินเข้ามาจ้อง "เพราะพวกลื้อปฏิเสธอั๊ว พวกลื้อทำให้อั๊วเป็นอย่างนี้เอง”
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา
ตอนโล้สำเภาที่สุงไม่ให้เล้งเข้ากลุ่ม
ตอนที่เล้งขโมยอาหารมาให้ทุกคนแต่ไม่มีใครเอาเพราะเป็นของที่ขโมยมา
เมื่อนึกถึงอดีต เล้งก็ขบกรามขึ้นเป็นสันนูน
"ในเมื่อทำดีแล้วไม่ได้ดี อั๊วจะทำทำไม พวกลื้อก็ไม่ต่างจากอั๊ว มือเปื้อนเลือดมาแล้วทุกคน อั๊วขึ้นเป็นใหญ่เมื่อไหร่ จะเหยียบหัวพวกลื้อให้จมดิน พวกลื้อจะได้รู้รสชาติของความต่ำต้อยว่ามันเป็นยังไง"
เล้งหยิบเหรียญทองคำขนาดใหญ่กว่าเหรียญสิบเล็กน้อยขึ้นมาดู เหรียญทองในมือของเขามีตรา จินหยง ประทับที่เหรียญชัดเจน
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา ตั้งเช็งเอี๊ยงพลิกเหรียญทองขนาดเดียวกับที่อยู่ในมือเล้งแต่ยังไม่มีตราประทับร้าน ตั้งเช็งเอี๊ยงดูเหรียญทองในมืออย่างพินิจพิเคราะห์ เล้งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม
"น้ำหนักใกล้เคียง สีก็ใกล้เคียง ลื้อเอากรดเกลือกับดินปะสิวทดสอบดูรึยัง แต่ให้อั๊วดูจากประสบการณ์ อั๊วว่ามันไม่ใช่ทองแท้"
เล้งหัวเราะอย่างอารมณ์ดี "ลื้อนี่สมกับเป็นเถ้าแก่ ร้านทองอันดับหนึ่งจริงๆ"
"เราอยู่วงการนี้มาเป็นสิบๆปี จับทองทุกวันทำไมจะไม่รู้ แต่ นี่เรียกว่าปลอมได้ใกล้เคียงของจริงนะ ลื้อไปเอามาจากไหน"
"ไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่า ถ้าเราทำทองแบบนี้ออกมาขาย ก็ลดต้นทุนได้เยอะ" เล้งว่า
ตั้งเช็งเอี๊ยงชักเสียงแข็ง "ลื้อหมายความว่ายังไง"
"แค่ทำทองที่มีเปอร์เซ็นต์ทองน้อยลงมานิด ผสมเงินเข้าไปหน่อย ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ที่สำคัญใครจะรู้"
ตั้งเช็งเอี๊ยงฉุน "ตัวลื้อไงที่รู้ ลื้อไม่ได้ฆ่าใครตาย แต่ลื้อทำลายศรัทธาของลูกค้าที่มีต่อลื้อนั่นยิ่งกว่าฆ่าตัวเองอีกนะ ลูกหลานลื้อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จะทำมาหากินอะไรถึงจะเรียกศรัทธาคืนมาได้ ลื้อจะเอาอย่างนั้นเหรอ"
เล้งหยั่งเชิงไม่สำเร็จเลยหัวเราะกลบเกลื่อน "อั๊วแค่พูดเล่น ลื้อร้อนเป็นไฟไปได้"
ตั้งเช็งเอี๊ยงรีบเบรกตัวเอง "ลื้อไม่คิดจะทำก็แล้วไป ขอโทษด้วยที่เสียงดัง ถ้าเจียหลินได้ยินอีต้องต่อว่าอั๊วแน่ รับปากกับอีแล้วว่าจะใจเย็นไม่เลือดร้อนเหมือนเก่า"
"อั๊วก็ว่าลื้อเย็นลงเยอะตั้งแต่มีเจียหลิน"
"ความรักไง ถ้าลื้อมีความรักแล้วลื้อจะรู้ว่า ความรักทำให้เรายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ทุกอย่าง"
เล้งแอบกัดฟันกรอด เขาคิดในใจว่ารู้จักความรัก รู้รักเจียหลินก่อนมึง มึงนั่นแหละที่แย่งคนรักกู สักพักเจียหลินที่แต่งตัวสวยสง่าก็ก้าวลงมากับชลธี
"อ้าว อาเล้งมานานรึยัง ต้องขอโทษด้วยนะ พอดีเราสองคนจะพาอาธีไปกินข้าวแล้วก็ดูหนังกัน เลี้ยงส่งอาธีน่ะ อีจะไปเรียนที่อเมริกามะรืนนี้แล้ว"
"ยินดีด้วยนะอาธี" เล้งบอก
ชลธียิ้มสดใส "ขอบคุณครับ"
ตั้งเช็งเอี๊ยงชวนเล้ง "ลื้อไปด้วยกันสิ"
"ไม่ล่ะ อั๊วจะกลับพอดี เชิญลื้อไปฉลองกับครอบครัวเถอะ"
ตั้งเช็งเอี๊ยงแซวเพื่อน "เที่ยวตามประสาหนุ่มโสดสินะ เอ้า ไปๆ"
ตั้งเช็งเอี๊ยงโอบไหล่ชลธีเดินนำออกไป เจียหลินเดินตามโดยเดินผ่านหน้าเล้ง
เล้งได้กลิ่นน้ำหอมเจียหลิน “Chanel no.5”
หลิวเจียหลินยิ้มๆ "ยังอุตส่าห์จำได้นะ"
เล้งทำหน้าเคลิ้ม "อั๊วไม่เคยลืม"
เจียหลินรีบเดินตามไปแทรกกลางและควงแขนทั้งตั้งเช็งเอี๊ยงและชลธีออกไป
เล้งเดินรั้งท้ายมองภาพครอบครัวสุขสันต์แล้วก็แทบกระอักเลือด ความริษยาอาฆาตแล่นพล่านในใจเขา
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เล้งก็กัดฟันกรอด
"แม้แต่ลูกลื้อก็ไม่มีวันสมหวังในความรัก อั๊วจะทำให้อาธามมันกระอักเลือด ให้มันพินาศย่อยยับเหมือนกับลื้อ อาเช็ง"
เล้งแค้นจัดจนเส้นเลือดปูดโปน แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเบรกอารมณ์เดือดปุดของเล้ง
เล้งเดินมารับโทรศัพท์ "ฮัลโหล" เมื่อได้ยินเสียงจากปลายทางอาการเส้นโลหิตโป่งพองก็หายเป็นปลิดทิ้ง "อาหยา นี่เธออยู่ที่ไหน"
ย่าหยาพูดโทรศัพท์
"หยาออกมาโทรศัพท์ที่โรงแรมในเมืองค่ะ"
"ฉันคิดถึงเธอนะย่าหยา ฉันเตรียมงานไว้เรียบร้อยหมดแล้ว รอแต่เจ้าสาวเท่านั้นตกลงเธอจะกลับเมื่อไหร่" เล้งถาม
"กำลังจะออกเดินทางค่ะ คงถึงกรุงเทพฯเย็นพรุ่งนี้"
"ฉันส่งของเสร็จแล้วจะไปรับเธอ"
"ค่ะ"
"ดีใจมากที่เธอโทรมาตามสัญญา คิดถึง อยากให้เธอรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ"
"ฉันก็คิดถึงเสี่ยค่ะ แต่ฉัน ติดเงินออกมาโทรศัพท์ไม่มาก"
"งั้นเธอบอกฉันก่อนว่า จะให้ฉันไปรับที่ไหน"
ธามเข้ามาดึงโทรศัพท์จากย่าหยาแล้ววางฉับลงบนแป้น ย่าหยาหันมามอง ธามทำไม่ รุ้ไม่ชี้
เล้งพยายามเรียก "อาหยา อาหยา อาหยา"
"ได้เวลาอาหารเย็นของคนในครอบครัวแล้ว" ธามบอกย่าหยา
ธามขยับเก้าอี้ให้ย่าหยานั่ง บนโต๊ะมีจานสเต๊กวางเคียงคู่กับสลัดผักประดับโต๊ะด้วยเชิงเทียนสวยงาม
"ที่จริงมื้อนี้ฉันอยากพาเธอไปกินอาหารอร่อยๆนอกบ้าน แต่ถ้าคนของเสี่ยเล้งมันเห็นเธออยู่กับฉัน ทุกอย่างคงพัง ฉันชอบกินสเต๊ก ทำกินกับเฮียธามประจำตอนอยู่ที่อเมริกา คิดว่ารสชาติน่าจะพอโชว์เธอได้" ธามว่า
ย่าหยามองอาหารบนโต๊ะแล้วก็น้ำตาตกใน
"คุณคงไม่ได้ทำให้ฉันกินเป็นคนแรก ใช่มั้ย"
ธามชะงักกึกก่อนจะพูดความจริง
"ใช่ ฉันเคยทำให้ จันทร์ชมพู วันที่ตัดสินใจบอกป๊ากับม้าว่า ฉันจะแต่งงานกับเขา" ธามเกรงใจที่เห็นย่าหยาหน้าหมอง "เธอคงไม่ น้อยใจใช่มั้ย"
"ไม่ค่ะ ฉันแค่กลัวว่า เรื่องระหว่างคุณกับฉัน มันจะจบเหมือนครั้งก่อน"
ธามเสียงแข็ง "ไม่ เธอไม่เหมือนและไม่มีวันเหมือนผู้หญิงคนนั้น"
ย่าหยายิ้มเจื่อนๆ ให้ธาม
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา ตั้งเช็งเอี๊ยงยิ้มระรื่นหน้าบานมาก
"เอ้า..เชิญ เชิญนั่งอาจันทร์ มื้อนี้อาธีเข้าครัวปรุงสเต๊กเองกับมือเลยนา"
"อีมีข่าวดีจะบอกป๊ากับม้า ก็เลยต้องประจบเอาใจเสียหน่อย ใช่มั้ย" หลิวเจียหลินถาม
ชลธียิ้มเขิน
"เดี๋ยวรอเพื่อนป๊าก่อนนะ คนนี้รักกันเหมือนญาติ อาจันทร์จะได้รู้จักไว้"
เล้งเดินเข้ามาในห้อง
หลิวเจียหลินหันมาเห็น "อาเล้ง มาพอดี"
จันทร์ชมพูชะงักกึกแล้วหันไปมองเล้งก็หน้าซีดเผือด
หลิวเจียหลินแนะนำ "อาจันทร์ นี่อาเล้งเพื่อนป๊ากับม้า นี่อาจันทร์ชมพู ว่าที่ลูกสะใภ้เราสองคน"
เล้งมองจันทร์ชมพู "ยินดีที่ได้รู้จักนะหนู จะแต่งกันเมื่อไหร่ล่ะ"
"ตอนนี้ก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ผมขออนุญาตบอกข่าวดีทุกคนเลยนะครับว่า ผมกับจันทร์ชมพูจะแต่งงานกัน หลังจากครอบครัวเรากลับจากพักผ่อนที่ภูเก็ตครับ"
"ก็เดือนหน้านี่แล้วสิ เจ็กต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะอาธี อาจันทร์"
ชลธียิ้มขอบคุณ ในขณะที่จันทร์ชมพูหลบตาเล้งวูบ
เล้งถามต่อ "แต่งแล้วจะอยู่ที่ไหนกันล่ะ"
หลิวเจียหลินชิงตอบ "ก็ต้องอยู่บ้านนี้กับม้าสิ"
ตั้งเช็งเอี๊ยงดีใจออกนอกหน้า "รู้มั้ยอาเล้ง อาธีตัดสินใจไม่เรียนต่อหมอที่อเมริกาแล้วนา อีจะเรียนที่นี่ สานต่อธุรกิจของครอบครัว ลื้อเจอคู่แข่งสำคัญแล้ว"
"ต้องขอบคุณอาจันทร์ ถ้าไม่มีอาจันทร์ อาธีคงกลับไปเรียนต่อ ดีไม่ดีไปคว้าเมียแหม่มมาเป็นสะใภ้ม้า ม้าไม่เอานา"
ทุกคนหัวเราะครื้นเครง
"อั๊วดีใจจริงๆที่เห็นครอบครัวลื้อมีความสุข อาเช็ง"
"ก็บอกให้รีบมีเมีย จะได้มีลูกเร็วๆ ดูสิ จนอาธีจะแต่งงานอยู่แล้ว ลื้อยังไม่ยอมสละโสดสักที มีเมียมีลูกจะได้ไม่เหงา มีใครให้กอดให้รักทุกวัน"
ตั้งเช็งเอี๊ยงกอดชลธีแล้วหันมาหอมแก้มหลิวเจียหลินเพื่อยืนยันความสุขของตัวเอง ภาพครอบครัวที่อบอุ่นไปด้วยความรักบาดใจเล้งจนขาดวิ่น เล้งมองภาพนั้นด้วยแววตาวาววับแลดูน่ากลัว จันทร์ชมพูหลบตา ไม่กล้ามองเล้ง
หลิวเจียหลินพูดกับจันทร์ชมพู "ครอบครัวเราอยู่กันแบบสบายๆ เราไม่บังคับใจกัน เพราะป๊ากับม้าก็ไม่เคยถูกอากงอาม่าบังคับใจ บ้านเราถือความกตัญญูเป็นใหญ่ และกฎเหล็กข้อเดียวของครอบครัวคือ เราต้องไม่โกหกกัน เท่านั้นเอง"
เหตุการณ์ปัจจุบัน ย่าหยาตัดสินใจเด็ดขาด
"คุณธามคะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ"
ธามชะงักมองหน้าย่าหยาที่ดูหมองหม่น ไม่สดชื่น
"เกี่ยวกับเสี่ยเล้ง"
ย่าหยาคิดว่าเป็นไงเป็นกัน "ฉันกับเสี่ยเล้ง"
แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเบรกอารมณ์ทั้งคู่
"มิสเตอร์ลี"
ธามเดินมารับโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
"ฮัลโหล" ธามชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะหันมาหาย่าหยา "โทรศัพท์เธอ"
ย่าหยาเดินมารับสายอย่างงงๆ
"ฮัลโหล" ย่าหยาตกใจ "อาปา"
ธามซึ่งจะเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารชะงักแล้วหันไปมอง
พ้งเสียงแข็งใส่อารมณ์เพราะไม่พอใจมาก
"ลื้อทำอะไร ไปอยู่บ้านอาธามทำไม"
"หยา"
"ลื้อลืมไปแล้วเหรอว่าหน้าที่ลื้อคืออะไร ลื้อจะแก้แค้นให้พ่อแม่แต่กลับไปอยู่กับคนที่ฆ่าลื้อได้ตลอดเวลา ถ้าอาธามรู้ว่าลื้อเป็นใคร อีจะปล่อยลื้อเหรอ แล้วถ้าลื้อตายตอนนี้ พ่อแม่ลื้อจะตายฟรีมั้ย"
ย่าหยาน้ำตาคลอเพราะรู้สึกกดดัน "หยาแค่ มาดูว่า พรุ่งนี้เขาจะจัดการเสี่ยเล้งยังไง และหยาพอจะมีโอกาสช่วงไหนบ้าง"
ได้ยินเช่นนั้นพ้งก็เริ่มเบาลง "ถ้าแค่นั้นก็ดี อย่าเผลอทำให้อีรู้ล่ะว่าลื้อเป็นใคร ไม่อย่างนั้น 7 ปีที่ลื้อสู้อดทนมาตลอด มันจะไม่เหลือค่าอะไรเลย อย่าให้ความรักมันบังตาลื้อจนลืมความกตัญญู"
ย่าหยาน้ำตาคลอเพราะที่แท้พ้งก็รู้ความจริงและความเป็นไปของเธอทั้งหมด "อาปา"
"ลื้อเข้าใจที่อั๊วพูดใช่มั้ย"
"ค่ะ อาปา" ย่าหยาค่อยๆวางโทรศัพท์แล้วรีบเช็ดน้ำตา
"มีอะไรรึเปล่า"
"พ่อบุญธรรมฉันโทรมาค่ะ ท่านไม่สบายใจที่ฉันมาอยู่กับคุณ มัน ไม่งาม"
ธามจับมือย่าหยา "จัดการเรื่องครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ฉันจะแต่งงานกับเธอ ฉันจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี ฉันสัญญา"
ย่าหยาผวาเข้ากอดธามแน่นเพราะรู้ดีว่าวันนั้นจะไม่มีวันมาถึง
ธามจับมือย่าหยาขึ้นมากุมแล้วใช้นิ้วเคลียมือเล่นเบาๆ ในขณะที่ทั้งคู่นอนคุยกันบนเตียง
"เราจะมีลูกกี่คนดี อย่างน้อย6คนนะ กิจการเราเยอะ ต้องให้พวกเขาช่วยกันดูแล" ธามบอก
ย่าหยาฝืนยิ้มแม้ไม่พูดอะไรแต่ในใจของเธอร้องไห้โฮ
"เราจะช่วยกันเลี้ยงให้เขาเป็นคนดี ลูกสาวต้องเข้มแข็งเหมือนแม่ แต่" ธามมองย่าหยายิ้มๆ "อย่าใจเด็ดเท่าแม่ ส่วนลูกชาย ฉันจะสอนให้เขารักแม่มากที่สุด เพราะป๊าของเขารักแม่ของเขามากที่สุดเหมือนกัน"
ย่าหยาน้ำตาคลอ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ ฉันกลัวว่า วันพรุ่งนี้ มันจะไม่มาถึง"
"มันอยู่ที่ใจเราสองคน ฉันรักเธอ แล้วเธอล่ะ"
"ฉันรักคุณที่สุด คุณธาม"
"ถ้างั้นไม่มีอะไรต้องกลัว เราจะผ่านวันพรุ่งนี้ไปด้วยกัน นะ"
ธามโอบกอดย่าหยาไว้เพื่อให้เธอมั่นใจในตัวเขา ในขณะที่ย่าหยาแอบน้ำตาไหลเพราะเธอรู้ดีว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเธอ
แสงสว่างสาดลำผ่านเข้ามาที่รูปตั้งเช็งเอี๊ยง หลิวเจียหลิน และชลธี ธามถือธูปนั่งไหว้พ่อแม่อยู่กับพื้นเคียงข้างย่าหยา
ธามคิดในใจ "ผมจะทำเพื่อครอบครัวของเราครับ ป๊ากับม้าช่วยเป็นกำลังใจให้ผมเข้มแข็ง ขอให้ผมอดทนจนถึงที่สุดและผ่านวันนี้ไปให้ได้"
ย่าหยาที่ไหว้ข้างๆ คิดในใจ "วันนี้จันทร์จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง จันทร์จะชดใช้ทุกอย่างให้ป๊า ม้าและพี่ธี ขอป๊ากับม้าได้โปรดอโหสิกรรมให้จันทร์ด้วยนะคะ"
ทั้งคู่ลุกขึ้นปักธูปลงกระถาง แล้วหันมามองหน้ากัน
ธามเอ่ยขึ้น "ฉันอยากให้เธอรอฉันอยู่ที่นี่ แต่ฉันรู้ว่าฉันห้ามเธอไม่ได้ ถ้าเธอจะไป ฉันขอ ชีวิตเสี่ยเล้ง"
ย่าหยาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่พูดความรู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจออกมา "ยิ้มให้ฉันอีกสักครั้งได้มั้ยคะ"
"ทำไม ที่ผ่านมา ฉันชอบทำหน้าบึ้งใส่เธอใช่มั้ย"
ย่าหยายืนมองธามพลางส่งสายตาเหมือนรอคอยรอยยิ้มจากเขา ธามส่งยิ้มอบอุ่นให้ย่าหยาโดยเป็นยิ้มอบอุ่นที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ย่าหยามองภาพนั้นเหมือนจะบันทึกไว้ในความทรงจำ เพราะคง ไม่ได้เห็นภาพธามส่งยิ้มอย่างนี้ให้เธออีกแล้ว
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากบอกเธออีกครั้ง ฉันรักเธอ ย่าหยา" ธามยืนยัน
ย่าหยาโผเข้าไปกอดธามซึ่งเป็นกอดที่เธอมอบให้อย่างสุดชีวิตสุดจิตสุดใจ เป็นกอดสุดท้ายของเธอกับเขา
โบตั๋นติดกระดุมเสื้อให้เฉียง
"คุณอยู่บ้าน เก็บเสื้อผ้ารอผมนะ เสร็จงานแล้วผมจะกลับมารับคุณ เราจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน"
"มันง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ"
เฉียงพูดให้โบตั๋นสบายใจ "ไม่มีอะไรหนักหนาหรอก ผมไปนะครับ"
"ฉันรู้ว่าครั้งนี้มันอันตรายมากกว่าทุกครั้ง"
เฉียงจับมือโบตั๋นบีบเบาๆแล้วยิ้มให้หญิงสาวมั่นใจ
"ผมรู้ว่าคุณรออยู่ ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอก ผมจะกลับมาหาคุณ"
โบตั๋นโผเข้ากอดเฉียง เฉียงหลับตาพริ้มในอ้อมกอดของโบตั๋น
เฉียงเปิดท้ายรถของเล้งขึ้น เขาเห็นกล่องกระดาษสีน้ำตาล 3 กล่องใหญ่แพ็คอยู่เต็มท้ายรถ
เฉียงมองซ้ายมองขวาก่อนจะงับท้ายรถปิดแล้วมายืนรออยู่มุมหนึ่ง สักครู่เล้งก็เดินออกมาพร้อมเกี๊ยง อิกและลูกน้องอีก 2 คน
"ตกลงไอ้ฮกมันหายหัวไปเลยใช่มั้ย"
"อั๊วให้คนไปตามหาทุกที่ที่คิดว่าอีจะไป แต่ไม่มีใครเห็นอีเลย"
เล้งหน้านิ่งแล้วตัดสินใจอะไรบางอย่างในทันที
เล้งพูดกับเฉียง "ลื้อกับอาเกี๊ยงไปกับอั๊ว อาอิก ลื้อคุมคนของลื้อไปนั่งรถอีกคัน เดี๋ยวอาเกาจะให้คนขับมาส่งที่นี่"
เล้งสบตาอิกเหมือนสื่อสารอะไรบางอย่าง
"ครับเสี่ย" อิกรับคำ
เล้งหันมาพยักหน้ากับเกี๊ยง เกี๊ยงรีบเปิดประตูรถด้านหลังให้เล้งขึ้นนั่ง ก่อนจะกลับมานั่งข้างคนขับโดยที่เฉียงทำหน้าที่ขับรถ
ย่าหยาเปิดลิ้นชักก็เห็นปืนที่จันทร์ชมพูใช้ยิงชลธีอยู่ในนั้น พร้อมกับกระดาษที่พับทบเป็นสี่เหลี่ยม
ย่าหยาหยิบกระดาษเปิดออกดูก็เห็นแผนที่ตึกร้างที่เล้งจะนัดส่งของ ย่าหยาพับแผนที่ แล้วหยิบปืนออกจากลิ้นชักก่อนจะเดินจากไป
ย่าหยาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดดำคล่องแคล่วโผล่ขึ้นมาแล้วดันฝ้าเพดานออก เธอหยิบกระเป๋าใส่อาวุธออกมา ย่าหยาวางกระเป๋าลงบนเตียง เปิดซิป แล้วหยิบปืนออกมาเหน็บไว้ที่ขา แล้วหางตาก็เหลือบเห็นสร้อยทองที่มีจี้เป็นรูปพระจันทร์
เธอนึกถึงตอนที่ตั้งเช็งเอี๊ยงกับหลิวเจียหลินให้สร้อยคอเส้นนี้ให้กับเธอในมาดจันทร์ชมพู
ย่าหยาพลิกตัวมาที่กระจกแล้วหยิบสร้อยขึ้นมาสวมเข้าที่คอหน้านิ่งเด็ดเดี่ยว จากนั้นก็หยิบนาฬิกาที่ชลธีให้ใส่กระเป๋ากางเกงพร้อมหยิบปืนที่ใช้ยิงชลธีและจดหมายที่จ่าหน้าถึงชลธีแล้ว เดินจากไป
รถเล้งแล่นมาตามถนนจนกระทั่งถึงทางแยก เฉียงต้องเหยียบเบรกมาแต่ไกลเมื่อเห็นตำรวจ 5 นาย ตั้งด่านอยู่ที่ถนน ตำรวจโบกมือให้เฉียงขับรถชิดข้างทาง เฉียงกับเกี๊ยงหันมาสบตากันก่อนจะหันไปหาเล้ง
"เอายังไงดีเสี่ย ฝ่าด่านไปเลยมั้ย"
เล้งยังไม่ทันตอบอะไร ชานนท์ก็เดินเข้ามาเคาะกระจกด้านข้าง เล้ง เฉียง เกี๊ยงเหลือบมองตากัน
เล้งไขกระจกลง "มีอะไรผู้กอง"
"เราได้รับแจ้งมาว่ามีการขนยาเสพติดร้ายแรงผ่านมาทางถนนเส้นนี้ เลยต้องขออนุญาตตรวจรถด้วยครับ"
"รถอั๊วไม่มีอะไร ลื้อก็เห็น" เล้งว่า
ชานนท์กวาดตามองไปทั่วรถ "ครับ ห้องโดยสารไม่มีอะไร ถ้างั้นขอตรวจท้ายรถครับ"
เล้งสบตาเฉียงกับเกี๊ยงก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถลงมา ทำให้เฉียงกับเกี๊ยงต้องลงจากรถมาด้วย
"ท้ายรถมีแต่หนังสือ อั๊วจะเอาไปบริจาคให้ห้องสมุด" เล้งว่า
"ครับ ขออนุญาตเปิดดูด้วยครับ" ชานนท์ยืนยัน
เล้งเม้งแตกอย่างไม่พอใจ แต่ก็พยักหน้าให้เฉียงไขกุญแจเปิดท้ายรถให้ตำรวจดู ชานนท์ขยับเข้ามาเห็นกล่องที่แพ็คอย่างแน่นหนา
"ขออนุญาตเปิดกล่องนะครับ"
ชานนท์พยักหน้าให้ลูกน้องเอามีดมาตัดเชือกที่มัดกล่องไว้ทุกกล่อง แล้วรื้อเชือกเปิดออกดูของด้านในซึ่งก็คือหนังสือวิชาการต่างๆ ชานนท์ยิ้มกริ่ม
ภาพในอดีตย้อนกลับมา ธามยื่นหนังสือเล่มหนาซึ่งด้านในถูกเจาะเป็นสี่เหลี่ยมลึกตรงกลางให้ชานนท์ดู
"มันแพ็คยาใส่ห่อแล้วซ่อนไว้ในหนังสืออีกทีเพื่อพรางตาครับผู้กอง"
เหตุการณ์ปัจจุบัน ชานนท์พูดกับเล้ง
"ขออนุญาตค้นนะครับ"
ชานนท์พยักหน้าให้ลูกน้องหยิบหนังสือทีละเล่มออกมาคลี่ดูว่ามีการเจาะด้านในเพื่อซุกซ่อนเฮโรอีนอย่างที่ได้รับแจ้งจากธามรึเปล่า ลูกน้องชานนท์พลิกหนังสือทุกเล่มคว่ำเช็คทุกหน้าแต่ก็ไม่พบยาเสพติดแม้แต่กรัมเดียว เฉียงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเพราะเขาได้ยินได้เห็นมากับตาว่าเกี๊ยงให้ลูกน้องซุกยาไว้ในหนังสือ
เล้งขยับเข้ามาถามเย้ยๆ "เป็นไง มีมั้ยยาเสพติดที่ว่าน่ะ"
"ไม่มีครับ" ชานนท์ตอบ
เฉียงนึกถึงคำพูดของเล้ง
"อาอิก ลื้อคุมคนของลื้อไปนั่งรถอีกคัน เดี๋ยวอาเกาจะให้คนขับมาส่งที่นี่"
เฉียงรู้ในบัดดลว่ายาเสพติดถูกขนย้ายไปไว้ที่รถเรียบร้อยแล้ว
เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 10 (อวสาน) (ต่อ)
เล้งที่นั่งมาในรถเสียงเข้มเพราะแค้นจัด
"มันนึกว่าอั๊วโง่งั้นเหรอ" เล้งว่า
"นายใหญ่แอบเปลี่ยนของตั้งแต่เมื่อไหร่ อั๊วคิดว่าต้องยิงกับพวกมันซะแล้ว"
"คิดจะเล่นงานอั๊ว มันไม่ง่ายนักหรอก!!!มันต้องมีใครสักคนในแก๊งเราที่เป็นสายให้ตำรวจ ไม่งั้นไอ้ชานนท์มันไม่มาตั้งด่านจับเรา"
เฉียงขับรถแทบลืมหายใจเสียวสันหลังว่าเล้งจะเอาปืนจ่อยิงหัวได้ทุกขณะ
เกี๊ยงพูดขึ้น "ต้องเป็นไอ้ฮกแน่ๆนายใหญ่ อีหายตัวไปอย่างนี้ มันมีพิรุธ"
"ไม่ว่าไอ้ฮกหรือหมาตัวไหนที่กล้าหักหลังแก๊งมังกรดำ อั๊วไม่เก็บมันไว้แน่ ไม่ใช่แค่ตัวมัน คนที่มันรักทุกคน อั๊วจะตามไปปาดคอมันให้หมด" เล้งคำราม
เล้งปรายตามองเฉียง เฉียงเห็นเล้งมองตัวเองทางกระจกหน้าก็ได้แต่กลั้นใจขับรถแล้วพยายามไม่แสดงพิรุธใดใดออกมา
ย่าหยาเดินลิ่วๆๆมาตามทาง เธอเดินผ่านตู้ไปรษณีย์จึงหยิบจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงธามเรียบร้อยแล้วหย่อนลงตู้ ย่าหยาเดินหน้านิ่งออกมาจากตู้ไปรษณีย์โดยผ่านผู้คนวุ่นวาย แต่เธอก็ไม่สนใจผู้ใด
ธามพูดโทรศัพท์ที่เคาเตอร์รีเซฟชั่น โดยมีมิสเตอร์ลียืนลุ้นอยู่ข้างๆ
"ครับ แล้วเจอกัน ขอบคุณมากครับ"
ธามวางโทรศัพท์แล้วหันมาหามิสเอตร์ลี
"ผู้กองชานนท์โทรมาส่งข่าวว่าไม่มีเฮโรอีนซ่อนที่ท้ายรถ แสดงว่าพวกมันไหวตัวทัน เราคงต้องเล่นตามเกมมันไปก่อน"
"ถ้างั้นก็ ไปทำให้เกมมันจบสักที"
"ผมจะไม่ยอมให้คุณได้รับอันตรายมิสเตอร์ลี ผมรับรองด้วยเกียรติของผมเอง"
มิสเตอร์ลียิ้มเชื่อมั่นในตัวธาม
รถส่งน้ำอัดลมไบเล่ขยับเข้ามาจอด ลังน้ำอัดลมที่ตั้งเรียงเป็นชั้นๆ รอบคันรถนั้นเป็นการตั้งเพื่อพรางสายตาคนภายนอก แท้จริงแล้วตรงกลางรถเปิดเป็นช่องสำหรับวางลังเฮโรอีนซ้อนกัน 3 ลัง สอดไส้อยู่ตรงกลาง รถเล้งขยับเข้าไปจอดข้างๆรถอิก อิกและลูกน้องลงจากรถเพื่อไปสมทบกับเล้ง เฉียง เกี๊ยง ที่ลงจากรถอีกคัน
เล้งบอกกับอิก "ขนของเข้าไปข้างใน"
"ครับเสี่ย" อิกรับคำ
อิกพยักหน้าให้ลูกน้องขนเฮโรอีนลงมาแล้วตัวเองก็เดินตามเล้ง เฉียง และเกี๊ยงเข้าไปในโกดัง
เล้ง เฉียง อิก และเกี๊ยงเดินดาหน้าเข้ามาเจอกับมิสเตอร์ลีและผู้ช่วยซึ่งถือกระเป๋าเจมส์บอนด์เข้ามา มิสเตอร์ลีส่งมือไปเช็คแฮนด์กับเล้ง
"ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งเสี่ยเล้ง ของได้ครบนะครับ"
"ครบ บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไปถึงฮ่องกงราคาเพิ่มอีกหลายเท่า"
ลูกน้องอิกแบกลังใส่เฮโรอินเข้ามา อิกกับเกี๊ยงช่วยกันเปิดกล่องออก ข้างในเป็นเฮโรอีนที่แพ็คใส่ห่อกระดาษสีน้ำตาลเรียงซ้อนๆกัน ทั้งคู่เปิดห่อกระดาษออกก็เห็นผงเฮโรอีนสีขาวอยู่ด้านใน มิสเตอร์เอานิ้วแตะชิมแล้วพยักหน้าให้ผู้ช่วยซึ่งเป็นตำรวจปลอมตัวมาหิ้วกระเป๋าเจมส์บอนด์เข้ามา ผู้ช่วยเปิดกระเป๋าเผยให้เห็นธนบัตรเป็นปึกๆอัดแน่นเต็มกระเป๋า ผู้ช่วยปิดกระเป๋าแล้วส่งให้มิสเตอร์ลี
มิสเตอร์ลียื่นกระเป๋าส่งให้เล้ง ในขณะที่ผู้ช่วย3นายรับลังเฮโรอีนจากอิกกับเกี๊ยง ในลักษณะยื่นหมูยื่นแมว เมื่อแต่ละฝ่ายแลกเปลี่ยนของเรียบร้อยแล้ว ตำรวจอื่นๆที่แฝงตัวอยู่ในโกดังซึ่งนำทีมโดยชานนท์ก็โผล่ออกมา รวมทั้งลูกน้องธามที่แฝงตัวอยู่ในนั้น
"หยุด ยกมือขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว" ชานนท์ตะโกน
เล้ง เฉียง อิก เกี๊ยง และทุกคนชะงัก
ผู้ช่วยมิสเตอร์ลีชักปืนจ่อไปที่กลุ่มของเล้งด้วย
"ลื้อหักหลังอั๊วเหรอมิสเตอร์ลี" เล้งว่า
ธามก้าวเข้ามาพร้อมจิว
"ไม่ใช่มิสเตอร์ลี อั๊วเอง ไอ้เล้ง" ธามสั่งเฉียง "พามิสเตอร์ลีออกไป อาเฉียง"
เฉียงก้าวออกจากกลุ่มเล้งอย่างภาคภูมิ
เล้งอึ้ง "อาเฉียง หรือกล้าทรยศอั๊ว"
"อื้วไม่ได้ทรยศลื้อ เพราะอั๊วไม่เคยคิดว่าอั๊วเป็นพวกเดียวกับลื้อ" เฉียงว่า
เฉียงเข้าไปหามิสเตอร์ลีและพาเดินออกไป
เล้งแค้น "อาธาม ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ลื้อคิดว่าอั๊วจะยอมให้ลื้อต้อนง่ายๆเหรอ"
ลูกน้องเล้งเป็นสิบๆคนพร้อมอาวุธครบมือดาหน้าเข้ามาดักเฉียงกับมิสเตอร์ลีจากอีกประตู เล้ง อิก และเกี๊ยงชักปืนออกมา ธามหันขวับไปสบตาเฉียง แล้วยิงสกัดให้เฉียงพามิสเตอร์ลีไปหาชานนท์
เมื่อเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด นัดที่สอง สาม สี่ก็ดังตามมาจนสนั่นหวั่นไหว
เล้งหันมาสั่งลูกน้อง "ยิงสกัดมันไว้ อาอิก อาเกี๊ยง ตามอั๊วมา"
เล้งหิ้วกระเป๋าเงินออกไปกับอิกและเกี๊ยง ธามหันไปเห็นกลุ่มเล้งวิ่งเข้าไปทางด้านหลังตึกจึงวิ่งหลบกระสุนไปหาชานนท์
"ช่วยไปส่งมิสเตอร์ลีที่โรงพักด้วยครับผู้กอง"
"ผมเตรียมรถไว้แล้ว"
"แล้วเจอกันคุณธาม โชคดี"
ตำรวจ 2 นายพามิสเตอร์ลีออกไป
"อาเฉียง อาจิว ตามอั๊วมา" ธามว่า
ธาม เฉียง และจิวไล่ตามหลังกลุ่มเล้งไปท่ามกลางดงและควันปืนของเหล่าตำรวจและผู้ร้ายที่ยิงต่อสู้กัน
เล้ง อิก เกี๊ยง และลูกน้องบางส่วนของเล้งวิ่งเข้ามา ลูกน้องเล้งไล่ยิงธาม เฉียง และจิวที่ตามเข้ามา ธาม เฉียง และจิวหลบเข้าที่กำบังแล้วยิงสวนลูกน้องเล้งร่วงทีละคนสองคน เล้ง อิก และเกี๊ยงยิงใส่กลุ่มธาม
เกี๊ยงสั่ง "อาอิก ลื้อคุ้มกันนายใหญ่ออกไป ทางนี้อั๊วจัดการเอง"
อิกพยักหน้าแล้วยิงคุ้มกันให้เล้งซึ่งยังหิ้วกระเป๋าเงินออกไป
"มันหนีไปแล้วเฮีย" เฉียงบอก
"อาเฉียง ลื้อไปกับเฮีย อย่างไอ้เกี๊ยง มันต้องเจอกับอั๊ว" จิวว่า
เฉียงกับธามยิงลูกน้องเล้งกรุยทางจนล้มกลิ้งระเนระนาด
"อย่าให้มันหนีออกไปได้ ยิงบีบให้มันขึ้นไปบนตึก ฉันจะอ้อมไปดักหน้า"
ธามแยกจากเฉียงออกไปอีกทาง เฉียงวิ่งตามหลังเล้งกับอิกไปทำให้เหลือจิวกับเกี๊ยงตามลำพังสองคน
"อั๊วรอเวลานี้มานานแล้วไอ้เกี๊ยง"
จิวทิ้งปืนมองเกี๊ยงท้าทายว่าเกี๊ยงจะกล้าทิ้งปืนมั้ย เกี๊ยงก็นักเลงพอจึงยอมทิ้งปืนเหมือนกัน
ทั้งคู่พุ่งเข้าหากันโดยทั้งเตะต่อยถีบชก ผลัดกันรุกผลัดกันรับจนหน้าแหกปากฉีก สุดท้ายเกี๊ยงลักไก่ หยิบปืนขึ้นมายิงจิว จิวก็เร็วพอกันจึงคว้าปืนได้ทันก็ยิงสวนเกี๊ยงออกไป ทั้งคู่ต่างยิงใส่กันคนละ 2 นัด แล้วล้มฟุบลงนอนนิ่งด้วยกันทั้งคู่
เล้งวิ่งหิ้วกระเป๋า โดยมีอิกคอยระวังหลังให้
"ลื้อสั่งลูกน้องให้เอารถมารออั๊วด้านหลังตึกแล้วใช่มั้ย"
"ครับเสี่ย"
ทั้งคู่ขยับทำท่าจะวิ่งต่อ แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นธามโผล่เข้ามาดักหน้าโดยจ่อปืนมาที่เล้ง
"คิดว่ารอดเหรอ"
เล้งตกใจ "อาธาม"
เล้งกับอิกหันกลับเข้าไปในตึกก็เห็นเฉียงตามเอาปืนมาจ่อ ธามชกเล้งกระเด็น ในขณะที่เฉียงก็เตะอิกจนหน้าทิ่ม ทั้ง 2 คู่ ผลัดกันรับผลัดกันรุกจนสุดท้ายทั้งธามและเฉียงก็ได้โอกาสจับปืนจ่อที่หัวเล้งกับอิก
ธามขู่ "อย่าขยับนะ ไม่งั้นอั๊วระเบิดหัวลื้อแน่"
เล้งชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เมื่อเห็นอะไรบางอย่างตรงหน้า
"แน่ใจนะว่าจะยิงอั๊ว"
เสียงโบตั๋นดังขึ้น "เฮีย อาเฉียง"
ธามกับเฉียงชะงักกึกแล้วหันไปมองทางด้านหลัง
"โบตั๋น"
ทั้งคู่เห็นลูกน้องเล้ง 5 คนเอาปืนจ่อที่โบตั๋นซึ่งถูกมัดมือและอยู่ในอาการหวาดผวา เล้งกับอิก อาศัยจังหวะที่ธามกับเฉียงอึ้งเป็นฝ่ายเอาปืนจี้ทั้งคู่แทน
"วางปืน ไม่งั้นนังนั่นตาย" อิกว่า
ธามกับเฉียงสบตากัน แล้วพร้อมใจกันวางปืนลง
เล้งคำราม "รู้รึยังว่าลื้อกำลังสู้อยู่กับใคร อาเฉียง นึกว่าอั๊วจะไว้ใจลื้อเหรอ"
เล้งเอาปืนตบหน้าเฉียงจนเลือดออกที่มุมปาก
เฉียงเจ็บแค้น "อย่าทำอะไรโบตั๋น"
อิกเตะปืนของทั้งคู่ไปให้ลูกน้อง เล้งเดินถือปืนหัวเราะร่าไปหาโบตั๋น
"ปล่อยโบตั๋น ไอ้เล้ง ผู้หญิงไม่เกี่ยว" ธามว่า
"อั๊วก็ไม่อยากทำอะไรผู้หญิง เพราะฉะนั้นผู้ชายก็ต้องเป็นฝ่าย" เล้งกวน "เสียสละ" เล้งเสียงเหี้ยม "ลื้อเดินฝ่าลูกปืนอั๊วมารับเมียลื้อไป ตกลงมั้ย"
เฉียงขบกรามแน่น "ตกลง"
"ไม่ใช่ลื้อ" เล้งหันไปเหล่ธามแสยะยิ้ม "ต้องเรียกว่าอดีตเมียสินะ อาธาม"
เฉียงกับโบตั๋นหันมามองธาม
โบตั๋นร้องไห้ "เฮีย อย่า"
ธามกัดฟันกรอดแล้วคำรามลั่น "ปล่อยโบตั๋น"
เล้งยิ้มแบบโคตรกวน "ลื้อมารับ อั๊วปล่อย" เล้งยกปืนขึ้นรอ
"ชีวิตโบตั๋นเทียบค่าอะไรกับเฮียไม่ได้เลย อย่าไปฟังมัน อย่าเข้ามาเฮีย"
เล้งนับ "หนึ่ง"
ธามสูดหายใจลึก ส่วนเฉียงก็หายใจไม่ทั่วท้อง โบตั๋นลุ้นไม่ให้ธามเดินมา
เล้งนับต่อ "สอง"
ธามเดินเข้าไปหาโบตั๋น เล้งเหนี่ยวไก ลูกปืนพุ่งเฉียดขาธาม
เฉียงกับโบตั๋นร้องลั่น "เฮีย"
เฉียงจะวิ่งเข้าไปหาธาม แต่อิกเอาปืนจี้ไว้และลูกน้องของเล้งคนอื่นๆ ก็กระชับปืนใกล้โบตั๋นเข้าไปอีก ธามก้าวเข้าไปหาโบตั๋นอีกก้าว ในขณะที่เล้งเตรียมเหนี่ยวไกเป็นครั้งที่สอง เล้งเหนี่ยวไกไปพร้อมๆ กับชานนท์และจิวที่โผล่เข้ามายิงใส่เล้งนั่นทำให้ปืนนัดที่2 ที่เล้งตั้งใจยิงใส่ธามพลาดเป้า ธามได้โอกาสช่วงชุลมุนพุ่งเข้าใส่ลูกน้องเล้ง 2 คนแล้วแย่งปืนมาจากทั้งคู่ ธามดึงโบตั๋นมาหลบข้างหลังตัวเอง ก่อนจะโยนปืนให้เฉียงซึ่งกำลังบู๊พัลวันอยู่กับอิก
ชานนท์กับจิวเดินเข้ามาจัดการลูกน้องเล้ง เล้งยิงธาม ธามพาโบตั๋นหลบแล้วยิงตอบโต้ ลูกน้องเล้งยิงใส่ธาม ธามหันมายิงใส่ลูกน้องเล้ง เล้งหลบมาโผล่อีกมุมก่อนจะแอบยิงธามทางข้างหลัง โบตั๋นหันมาเห็นก็พลิกตัวมารับกระสุนแทนธาม
ธามหันมาเห็นโบตั๋นถูกยิงก็รีบเข้ามาประคอง เล้งจะยิงธามซ้ำแต่เฉียงหันมาเห็นก็วิ่งเข้าไปหาธาม
"เฮีย ระวัง"
กระสุนจากปืนเล้งและอิกพุ่งใส่เฉียง 2 นัด โบตั๋นโผเข้าไปหาเฉียง
"อาเฉียง"
ธามโคตรแค้นจึงยิงอิกเข้าที่ไหล่ 2 นัดซ้อน อิกทรุดลงกับพื้น เล้งเห็นท่าไม่ดีก็จะหนีเอาตัวรอด
ธามหันมาเห็นก็ไล่ยิงเล้งและบีบให้เล้งหนีขึ้นไปบนตึกร้าง เล้งหมดทางไปเพราะมุมอื่นชานนท์กับจิวก็ไล่ยิงลูกน้องตัวเองดักหน้าดักหลังเต็มไปหมดจึงติดกับดักธาม เขาวิ่งหนีขึ้นไปตั้งหลักบนตึก
ธามเข้ามาดูเฉียงกับโบตั๋น "อาเฉียง โบตั๋น"
"ไม่ต้องห่วงเฮีย รีบตามมันไป"
จิวซึ่งอยู่ในสภาพสะบักสบอมวิ่งเข้ามาดูเฉียงกับโบตั๋นแล้วตามด้วยชานนท์
"ผู้กองช่วยพาเพื่อนผมส่งโรงพยาบาลด้วย เรื่องเสี่ยเล้งผมจัดการเอง จับเป็น ผมสัญญา" ธามหันมามองเฉียง โบตั๋น และจิวก่อนจะพูด "ขอบใจนะ"
แล้วธามก็วิ่งขึ้นตึกไป เฉียงประคองโบตั๋นแล้วอุ้มเดินออกไปทางหน้าตึกพร้อมชานนท์กับจิว
เฉียงอุ้มโบตั๋น โดยมีจิวกับชานนท์เดินตามมาติดๆ ทุกคนจ้ำออกไปหน้าตึกจนหมด สักพักเกี๊ยงที่นอนอยู่ก็ค่อยๆ พลิกหน้าหันมาในสภาพสะบักสบอม หายใจรวยริน เกี๊ยงค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมา
ธามเล็งปืนเดินขึ้นบันไดมาอย่างระแวดระวัง เขากวาดตามองไปตามซอกเหลือบต่างๆ ธามเห็นตัวตึกว่างเปล่า เขาเดินขึ้นบันไดมาชั้นแล้วชั้นเล่าภายใต้บรรยากาศดูหลอนๆ เหมือนว่าเล้งพร้อมจะโผล่ออกมาตามเหลี่ยมตึกได้ทุกเมื่อแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ธามเดินขึ้นบันไดมาบนดาดฟ้าพอก้าวพ้นตัวตึกออกมา ปืนเล้งก็โผล่เข้ามาจ่อหัวธามทันที
"ลื้อตาย"
ธามจับมือเล้งบิด ทั้งคู่ชกเตะต่อยกันจนล้มกลิ้งไปกับพื้น สุดท้ายธามก็ได้เปรียบจึงพลิกตัวขึ้นมาอยู่เหนือเล้งแล้วเอาปืนจ่อที่ขา ก่อนจะเหนี่ยวไกยิงสกัดกะให้เล้งบาดเจ็บ แต่กระสุนปืนหมด เล้งถือโอกาสเตะธามแล้วเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายเอาปืนจ่อหัวธามบ้าง เล้งยิ้มสะใจแล้วจะเหนี่ยวไก
ทันใดนั้น ย่าหย่าก็เขวี้ยงมีดสั้นปักเข้าที่ข้อมือเล้ง ในจังหวะที่เล้งเหนี่ยวไกทำให้ลูกปืนพลาดเป้า
ย่าหยาโยนปืนที่เคยใช้ยิงชลธีให้ธาม "คุณธาม"
ธามรับปืนจากย่าหยาแล้วพลิกตัวมายิงเล้ง 1 นัด
เล้งทั้งอึ้งทั้งมึน "อาหยา นี่มันอะไรกัน"
ธามมองปืนในมือพอเห็นเป็นปืนที่จันทร์ชมพูยิงตนเองก็งงว่าย่าหยาหยิบมาทำไม แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตัดความสงสัยเรื่องนี้ไปก่อนเพราะอิกในสภาพเลือดท่วมไหล่ก้าวเข้ามาล็อกคอย่าหยา พร้อมเอาปืนจ่อหลัง
"อั๊วว่าแล้ว ผู้หญิงคนนี้คิดไม่ซื่อกับเสี่ย"
"อั๊วไม่เชื่อ ไม่จริงใช่มั้ย ย่าหยา"
ย่าหยากระแทกศอกซัดใส่อิกแล้วบิดแขนอิกที่ล็อกดึงคอเสื้อออก อิกยื้อคอเสื้อย่าหยาไว้ แต่ย่าหยาออกแรงบิดข้อมืออิกสุดแรง อิกกระชากคอเสื้อย่าหยาจนสร้อยพระจันทร์ขาดกระเด็น สร้อยพระจันทร์ลอยคว้างกลางอากาศแล้วหล่นลงตรงหน้าธาม
อิกจะยิงย่าหยา แต่ย่าหยาไวกว่าจึงชักปืนที่เตรียมมาอีกกระบอกพลิกตัวหันมายิงอิกกลางแสกหน้า ร่างอิกค่อยๆทรุดลงไปกองกับพื้น ธามค่อยๆหยิบสร้อยที่อยู่กับพื้นขึ้นมาดูทางด้านหลัง ธามมองสร้อยพระจันทร์ในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองย่าหยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ย่าหยาอึ้งเมื่อเห็นสายตาธาม
เล้งสับสน "นี่มันอะไรกันย่าหยา เธอเป็นพวกไอ้ธามงั้นเหรอ"
ธามตั้งสติเล็งปืนในมือมาที่เล้ง
"ไม่ใช่อาธาม อั๊วเอง"
เล้งชะงักกึกเพราะเสียงที่คุ้นหูและเมื่อหันไปมอง เขาก็แทบช็อกเมื่อพบว่าคนที่ยืนด้านหลังเขาคือพ้ง
"เฮียพ้ง"
พ้งแสยะยิ้ม "ยังอุตส่าห์เรียกอั๊วว่า “เฮีย” ได้นะไอ้เล้ง"
เล้งอึ้ง "เฮีย ยัง ไม่ตาย"
"ทั้งๆที่ลื้อยิงอั๊วขนาดนั้นใช่มั้ย ไอ้เนรคุณ" พ้งยกปืนเล็งมาที่เล้ง
เล้งกลืนน้ำลายเอื้อกแล้วย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อ 9 ปีก่อน
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา เล้งส่งแก้วบรั่นดีให้พ้งที่ก้าวเข้ามา
"ลื้อมีเรื่องอะไร" พ้งถาม
"เรื่องที่แก๊งเราจะได้เข้าประชุมสมาคมครั้งแรกน่ะเฮีย เฮียสุงให้หัวหน้าแก๊งเข้าประชุมแค่คนเดียว"
"ก็อั๊วกำลังจะไปอยู่นี่ไง เดี๋ยวอั๊วเล่าให้ลื้อฟังว่าเขาประชุมอะไรกันบ้าง" พ้งไม่พอใจ "หรือลื้ออยากไปแทนอั๊ว"
"อั๊วไม่ได้อยากไปแทน"
"ถ้างั้น ลื้อให้อั๊วแวะมาที่นี่ทำไม"
"ก็แค่อยากจะบอกเฮียว่า ที่เฮียยกพวกไปตีกับนักเลงในตลาดปลา แล้วถูกพวกนั้นไล่ต้อนกลับมาเหมือนหมา เป็นเรื่องที่แก๊งมังกรดำยอมรับไม่ได้"
พ้งจุก "พวกอีมีมากกว่าแล้วพกมีดพกปืนมาทุกคน อั๊วสั่งให้พวกเราถอยเพราะไม่อยากเห็นใครตาย"
"แต่คนอื่นมองว่าเราอ่อนแอ เรื่องไปประมูลที่ดินร้านทองก็เหมือนกัน เฮียไปก่อนใคร รู้จักเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่ก็ยังปล่อยให้อาเช็งคว้าที่ดินผืนนั้นไปได้"
"อาเช็งอีสนิทกับหัวหน้ากรมฯ"
"เฮียรู้จักแต่พวกหางมังกร รู้จักพวกนี้เป็นร้อยคนก็สู้อาเช็งที่รู้จักคนระดับหัวมังกรคนเดียวไม่ได้ เฮียทำธุรกิจอย่างนี้แล้วเล่งเฮงจะเจริญได้ยังไง"
พ้งตบโต๊ะด้วยอาการโกรธจัด "แล้วลื้อจะเอายังไง"
"คนอ่อนแอ ทำงานไม่เป็น เป็นหัวหน้าไม่ได้ อั๊วสร้างแก๊งมังกรดำเพื่อจะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง ไม่ใช่ซ่อนอยู่ใต้ฝ่าเท้าใครอย่างที่เฮียทำ"
พ้งตบหน้าเล้งฉาดใหญ่ "อั๊วเป็นเฮียลื้อ ถึงลื้ออยากเป็นหัวหน้าแก๊ง ลื้อก็ไม่มีสิทธิ์"
เล้งหันกลับมาพร้อมเลือดซึมที่มุมปากก่อนจะพูดเสียงเย็นยะเยือก "ทำไมจะมีสิทธิ์"
โดยไม่มีใครคาดคิดเล้งก็ดึงปืนที่ซ่อนอยู่ด้านหลังยิงใส่ขาพ้ง2 นัด และที่หน้าอกอีก 1 นัด สมชาย กับซ้งสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าเล้งจะยิงพี่ชายตัวเอง
พ้งตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว "ไอ้เล้ง ไอ้เนรคุณ"
"คนโง่ อ่อนแอ ไม่สมควรเป็นหัวหน้าคน" เล้งยิงขาพ้งอีกนัด
พ้งสะดุ้งเฮือกก่อนจะล้มหน้าคว่ำไปกับพื้น
เล้งสั่งสมชาย "ลากอีไปฝัง อย่าให้ใครหาศพเจอ" เล้งหันไปพูดกับซ้งพร้อมขยับสูทให้เข้าที่ "ไปเอารถมา อั๊วจะไปประชุม"
เหตุการณ์ปัจจุบัน พ้งหัวเราะสะใจ
"บังเอิญที่อั๊วยังไม่ตาย แล้วอาสมชายก็ช่วยพาอั๊วไปรักษาตัวกับซินแสง้วง" พ้งเล่า
เล้งเจ็บใจ "ไอ้แก่ ง้วง"
"อั๊วรักษาตัวอยู่กับซินแสเกือบปี หนีไปตั้งหลักที่เซี่ยงไฮ้เกือบ 2 ปี ถึงได้กลับมาตอบแทนบุญคุณอาสมชาย ที่อีกระโดดรถหนีพวกลื้อในวันที่พวกลื้อฆ่าอี มันเป็นแผนที่อั๊วกับอีวางเอาไว้ อียอมตายเพื่อให้อั๊วช่วยลูกอีให้รอด"
พ้งเล่าต่อ "ลื้อจะแปลกใจมั้ยถ้ารู้ว่าอาจันทร์ยังไม่ตาย แถมตอนนี้ยังยืนอยู่ตรงหน้าลื้อด้วย"
ธามกับเล้งช็อกสนิทเหมือนโดนภูเขาน้ำแข็งถล่มใส่แล้วฝังร่างตัวเองไว้ใต้อาร์กติกจนมืดมิดทั้งคู่
เล้งถามย่าหยา "ไม่จริงใช่มั้ย"
ย่าหยาเล็งปืนไปที่เล้งแทนคำตอบทั้งหมดทั้งมวล
พ้งสะใจ "ลื้อหลงรักผู้หญิงที่ลื้อฆ่าอีกับมือ น่าสงสารจริงๆอาเล้ง ฮ่าฮ่าฮ่า เสี่ยเล้งที่แสนจะเหี้ยมโหด ต้องมาตกม้าตายเพราะผู้หญิงที่ลื้อใช้เป็นเครื่องมือ" พ้งตะคอกเสียงดัง "รู้รสชาติแล้วใช่มั้ยว่าการถูกคนที่ลื้อรักหักหลัง มันเป็นยังไง"
เล้งน้ำตาคลอด้วยความเจ็บจนแทบแดดิ้นสิ้นชีวี
เล้งพูดแทบไม่เป็นภาษาคน "เธอไม่ได้รักฉันเลยเหรอ"
"แกทำกับฉันกับพ่อแม่ฉันไว้ยังไง แกต้องขดใช้อย่างนั้น" ย่าหยาว่า
"คนที่ทำกับฉันกับครอบครัวฉันไว้ยังไง ก็ต้องชดใช้กรรมอย่างนั้นเหมือนกัน"
พูดจบธามเบนปลายกระบอกปืนจากเล้งมาที่ย่าหยาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ดุดัน และเจ็บปวดแสนสาหัส
ย่าหยาซึ่งยังถือปืนจ่อไปที่เล้งมองธามในสภาพปากสั่น มือสั่น เล้งยกปืนเล็งไปที่ธาม
"ลื้อยิงอาหยา ลื้อตาย"
ธามไม่สนใจเล้ง สายตาและหัวใจที่แหลกยับเยินของเขาจดจ่ออยู่ที่ผู้หญิงตรงหน้าเพียงคนเดียวเท่านั้น
เหตุการณ์ในอดีตตอนที่ธามถามย่าหยาย้อนกลับมา
ธามถาม "เธอเป็นใคร เป็นใครกันแน่"
"ไม่กล้ากินเพราะรู้ว่ามันคือยาพิษใช่มั้ย จันทร์ชมพู"
ย่าหยาสบตาธามอย่างไม่หวั่น "คุณพูดถึงใคร"
ธามพูดเสียงเข้ม "จันทร์ชมพู"
"อีกแล้ว คนรักคุณรึไง พูดถึงอยู่ได้"
"ฉันให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอเป็นใคร"
"ฉันชื่อเพ็ญนภา จันทร ชื่อเล่นย่าหยา"
"ถ้าไม่ใช่ แล้วเธอเป็นใคร ทำไมต้องมีลับลมคมใน หลอกล่อ เจ้าเล่ห์"
"ก็บอกแล้วไงว่าฉันชื่อย่าหยา"
"จะโกหกไปถึงไหน ยอมรับสักทีว่าเธอคือจันทร์ชมพู"
"ฉันไม่ใช่จันทร์ชมพู คุณจะฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม ฉันไม่ใช่จันทร์ชมพู"
"ฉันยอมรับว่าฉันไม่ใช่เพ็ญนภา" ย่าหยาบอก
"นั่นไง"
"ฉันชื่อ พราวเดือน มาตามหาพี่ชายชื่อพันแสง"
ยิ่งคิดถึงอดีตแล้วธามก็ยิ่งเจ็บใจ เสียใจ เขาถูกผู้หญิงคนนี้ปั่นหัว หลอกลวงถึงสองครั้งเชียวหรือ
ย่าหยาเห็นหน้าธามตอนนี้แล้วหมดเรี่ยวแรง หญิงสาวน้ำตาคลอ"
เล้งอาศัยจังหวะที่ธามและย่าหยาไม่สนใจเขาเหนี่ยวไกยิงชายหนุ่ม แต่พ้งดึงมือเล้งไว้ทำให้กระสุนลั่นพลาดเป้าไปในทิศทางอื่น เสียงปีนลั่นไม่ได้ทำให้ธามหันมาสนใจ เขายังคงพุ่งเป้าไปที่ย่าหยาคนเดียว
พ้งบิดแขนเล้งแน่น "เลิกยิงคนข้างหลังสักทีไอ้เล้ง"
ปืนเล้งหลุดจากมือ เล้งผลักพ้งกระเด็นแล้วผละออกมาก่อนจะวิ่งลงจากดาดฟ้าไป พ้งหยิบปืนเล้งที่หล่นอยู่ที่พื้นวิ่งตามออกไป
"อาปา"
ย่าหยาหันหลังจะวิ่งตามพ้งไป แต่เสียงของธามทำให้หญิงสาวชะงักกึก
"วันแรกที่เธอเป็นเมียฉัน เป็นคนในครอบครัวฉัน ฉันเดินมาบอกเธอว่าฉันคือชลธี" ธามน้ำตาคลอแล้วกัดฟันกรอด "ในขณะที่เธอให้ฉันไล่ต้อนตลอดเวลา ฉันชื่อย่าหยา ฉันชื่อเพ็ญนภา ฉันชื่อพราวเดือน จะโกหกหลอกลวงกันไปถึงไหน ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าเธอชื่อจันทร์ชมพู"
ย่าหยาน้ำตาร่วงพลั่กๆ
เล้งวิ่งลงบันไดมา2-3ชั้น โดยมีพ้งวิ่งกะเผลกตามหลัง
"ไอ้เล้ง ลื้อคิดว่าลื้อจะหนีอั๊วพ้นเหรอ"
พ้งตัดสินใจยิงที่ขาเล้งเพื่อสกัดไม่ให้เล้งหนี เล้งล้มลงด้วยความเคียดแค้น
ธามถือปืนมือสั่น ตะคอกใส่ย่าหยาที่ยังคงยืนหันหลังให้
"ฉันถามไม่ได้ยินรึไง"
"ฉันตั้งใจจะบอกคุณหลังจากที่จัดการเสี่ยเล้งแล้ว"
"คำพูดของเธอมีค่าพอที่ฉันจะเชื่อได้อยู่อีกเหรอ"
ย่าหยาหันมาเผชิญหน้ากับธาม
"สร้อยที่อยู่ในมือคุณกับนาฬิกา ฉันเตรียมมาเพื่อจะบอกคุณว่าฉันคือ"
ธามพูดออกมาด้วยความแค้น "จันทร์ชมพู"
ย่าหยาดึงนาฬิกาออกมายืนยันกับธาม ธามกระชากนาฬิกาจากมือย่าหยาอย่างแรง เขาเปิดนาฬิกาดู
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา
จันทร์ชมพูเปิดออกดู "นาฬิกา มีรูปพี่ธีกับจันทร์ด้วย สวยจังค่ะ"
เหตุการณ์ตอนที่ธามคุยกับย่าหยาย้อนกลับมา
"เราจะเป็นคนครอบครัวเดียวกันได้รึยัง" ธามถาม
ย่าหยาถามลอยๆ "ต้องทำยังไงบ้าง"
"สองข้อ 1.ไม่ทำร้ายกัน"
"คุณไม่ใช่เป้าหมายฉันอยู่แล้ว"
“2. สำคัญที่สุด ไม่โกหกกัน การโกหกทำให้อีกฝ่ายยิ่งกว่าตายทั้งเป็น"
"ฉันรู้"
"งั้นสัญญา ต่อไปนี้เราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ฉันจะดูแลเธอเอง"
"อยู่กับฉัน อย่าทรยศฉันนะย่าหยา"
ธามน้ำตาหยดเจ็บปวดเหมือนโดนมีดแทงจากข้างหลัง ทะลุมาถึงหัวใจด้านหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเขวี้ยงนาฬิกากระแทกพื้นสุดแรง นาฬิกาตกกระแทกพื้นจนแตกกระจาย ย่าหยารู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองแตกสลายไปพร้อมๆกับเศษแก้วจากนาฬิกาที่กระแทกพื้น
"มาสารภาพตอนนี้มันสายไปแล้ว"
ธามเอาปืนจ่อย่าหยาอีกครั้ง
เล้งหันมาหาพ้งที่เอาปืนจ่อตัวเองอยู่
"จะฆ่าอั๊วก็ฆ่าเดี๋ยวนี้เลย" เล้งว่า
"ลื้อไม่ต้องท้า" พ้งว่า
"หรือจะรอให้ผู้หญิงที่เรียกลื้อว่าอาปา มาฆ่าอั๊วแทนลื้อ"
"ไอ้เล้ง"
"ลื้อมันก็แค่ไอ้แก่ที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่าง ใจอ่อน ขี้ขลาด ที่ลื้อผ่านทุกอย่างมาได้ก็เพราะลื้อถีบอั๊ว ให้ออกมาสู้แทนลื้อ เหมือนที่ลื้อถีบอาหยาออกมาสู้แทนลื้อไงล่ะ"
พ้งโดนจี้ใจก็รู้สึกเจ็บ "จะตายแล้วยังจะพูดมากอีก"
"ลื้อต่างอะไรจากอั๊ว ในเมื่อลื้อก็ใช้อาหยาเป็นเครื่องมือแก้แค้นเหมือนกัน แน่จริงลื้อจับปืนขึ้นมายิงอั๊วสิ" เล้งตะคอก "เลิกเป็นเงาอยู่ข้างหลังคนอื่นสักที จับปืนขึ้นมาไอ้ขี้ขลาด"
พ้งจับปืนมือไม้สั่น ในขณะที่เล้งมองพ้งนิ่งโดยส่งสายตาวัดใจว่าใครจะแน่กว่ากัน พ้งลั่นไก แต่ใจไม่กล้าพอที่จะยิงเข้าจุดสำคัญกระสุนพุ่งเฉียดเข้าสีข้างเล้งล้มตึงแล้วแน่นิ่งไป
พ้งหน้าซีดด้วยอาการตกใจ "อาเล้ง อั๊วไม่ได้ตั้งใจ อั๊วไม่ได้ตั้งใจ"
พ้งดึงเล้งที่นอนนิ่งขึ้นมากอดแล้วร้องไห้
แล้วร่างเล้งที่ดูเหมือนนอนนิ่งนั้นก็ลืมตา ดึงปืนอีกกระบอกที่เก็บไว้ด้านหลัง พร้อมกระซิบที่ข้างหูพ้งเบาๆ
"แต่อั๊วตั้งใจ"
พ้งชะงัก
เล้งแสยะยิ้ม "ลื้อมันโง่เหมือนเดิม เฮียพ้ง"
เล้งจ่อปืนยิงพ้งในระยะเผาขนสองนัดซ้อน พ้งตาเหลือกแล้วล้มหงายไปกับพื้น เล้งมองพี่ชายหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตาอย่างเลือดเย็น
ย่าหยาขอบตาช้ำและแดงก่ำ
"คุณจะยิงฉันให้ตายก็เชิญ ฉันพร้อมจะชดใช้"
ธามกัดฟันกรอด "ใจเธอทำด้วยอะไร มีหัวใจมีความรักเหมือนคนอื่นบ้างมั้ย เธอยังเป็นคนอยู่รึเปล่าถึงได้ทำกับคนที่รักเธอได้ขนาดนี้"
ย่าหยากัดฟัน เธอทั้งเสียใจทั้งอับอายทั้งรู้สึกผิดทั้งสมน้ำหน้าตัวเอง
"ฉันตามหาเธอมา 7 ปี แล้ววันหนึ่งเธอก็เดินมาหาฉัน มาโกหกมาทำให้ฉันรักอีกครั้งเพื่ออะไร ฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็นอีกครั้งงั้นเหรอ"
ย่าหยารู้สึกกดดันที่สุดในชีวิต "ฆ่าฉันซะ ทุกอย่างจะได้จบ ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัว"
ธามตวาดลั่น "ไม่ต้องท้า เธอยิงฉันได้ ทำไมฉันจะยิงเธอไม่ได้"
ธามเอานิ้วแตะไกปืนมือสั่น เขาเล็งแล้วเล็งอีกก่อนจะเอาปืนลง สักครู่ก็ยกปืนขึ้นจะยิงอีกครั้ง
ย่าหยามองชายหนุ่มนิ่ง เธอเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มเหมือนพร้อมที่จะตาย ธามกัดฟันกรอด น้ำตาไหล สุดท้ายก็เอาปืนลงอีก เขาเดินวนหมุนไปมาอย่างหาทางออกไม่ได้
สุดท้ายธามตะโกนลั่นด้วยความแค้นใจตัวเองที่ยิงย่าหยาไม่ได้ "อ๊าก"
ย่าหยาแทบจะปล่อยโฮสงสารธาม หญิงสาวรู้ว่าเขารักเธอเกินกว่าจะฆ่าเธอด้วยมือเขาเอง ในขณะที่ธามกับย่าหยากำลังจมอยู่กับอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอง เล้งโผล่เข้ามาทางด้านหลัง เล้งยกปืนขึ้นเล็งทางด้านหลังธาม ย่าหยาเงยหน้าขึ้นมาเห็น เล้งเหนี่ยวไก
ย่าหยาวิ่งมากอดธามแล้วเบี่ยงตัวธามเพื่อหลบ โดยเธอเอาหลังรับกระสุนปืนแทน ลูกปืนพุ่งเข้าที่หลังย่าหยา ย่าหยาสะดุ้ง ธามอึ้ง
เล้งช็อก "อาหยา"
ย่าหยากัดฟันหันมาจ้องเล้งเขม็ง
"ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ฉันรักเธอ"
ย่าหยาเดินดิ่งเข้ามาหาเล้ง "รักมากใช่มั้ย ถ้าฉันตายแกจะเป็นยังไง"
เล้งผวาเข้ามากอด "ไม่นะอาหยา ฉัน ไม่อยากฝันร้ายอีกแล้ว มัน ทรมาน"
ย่าหยาจ่อปืนที่ท้องเล้งแล้วยิง เล้งสะดุ้งแล้วผงะออกมา
ย่าหยาน้ำตาไหลด้วยความแค้นใจ "รู้รสแล้วใช่มั้ยว่าถูกยิงโดยไม่รู้ตัวมันเป็นยังไง 7 ปีที่แล้วฉันจำใจ แต่คราวนี้ฉันตั้งใจ" ย่าหยาผละออกมา "สำหรับพ่อแม่กับอาปา"
หญิงสาวยิงที่ขาเล้งอีก 1 นัด ธามวิ่งเข้ามาจะยื้อปืนจากย่าหยา แต่กลับชะงักเพราะหญิงสาวลดปืนลงและไม่มีทีท่าจะยิงเล้งต่อ
"จบสิ้นกันสักที"
ย่าหยาหันกลับมาเจอธาม
"ฉันชดใช้ให้ครอบครัวคุณด้วยลมหายใจของมัน และสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณคือพี่ธีหรือคุณธาม ขอให้รู้ไว้ ฉันรักคุณเสมอ"
ย่าหยาเดินผ่านธามไปที่ขอบตึกที่ไม่มีอะไรกั้น ธามกับเล้งแปลกใจ แล้วเพียงอึดใจทั้งคู่ก็ฉุกคิดธามกับเล้งช็อกสุดขีด
เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 10 (อวสาน) (ต่อ)
ย่าหยาก้าวเข้ามายืนที่ขอบตึก ท่ามกลางท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ย่าหยาหลับตา น้ำตาหยดแหมะ แล้วตัดสินใจกระโดดลงมา ธามกับเล้งพุ่งตัวเข้ามาดึงมือหญิงสาวไว้คนละข้าง ย่าหยาห้อยลอยอยู่กลางอากาศบนความสูงที่อยู่ห่างจากพื้นดินประมาณตึก7ชั้น
เล้งรู้สึกแทบขาดใจ "อาหยา"
ธามขอร้องแบบสุดใจ "ย่าหยา ฉันขอร้อง"
ย่าหยาบิดมือข้างที่เล้งดึงสุดแรงจนมือย่าหยาหลุดจากมือเล้ง ธามใช้มือข้างที่เหลือซึ่งถือปืนคว้าย่าหยาเอาไว้ตามสัญชาตญาณ ธามกับย่าหยามองตากัน
"จันทร์บอกพี่ธีแล้วใช่มั้ยว่าจันทร์จะชดใช้"
ธามน้ำตาเอ่อท้นดวงตาที่ดุดัน "ไม่นะ"
"จันทร์ยิงพี่ธีด้วยปืนกระบอกนี้ จันทร์ขอชดใช้ด้วยปืนกระบอกนี้"
ธามรู้สึกเหมือนใจจะขาด "อย่า"
"ลาก่อนค่ะพี่ธี"
ย่าหยาพูดจบก็เอามือตัวเองกดเหนี่ยวไกปืนที่อยู่ในมือธามแล้วยิงใส่ตัวเอง ธามพยายามยื้อสุดฤทธิ์ ย่าหยากดไกปืน เสียงปืนดังขึ้นพร้อมลูกกระสุนที่พุ่งใส่หัวไหล่ เฉียดหัวใจย่าหยา เลือดทะลักไหล
ย่าหยาสะดุ้ง เธอส่งสายตาล่ำลาธามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบิดมือตัวเองออกจากมือธาม มือทั้งคู่หลุดจากกัน
ธามกับเล้งร้องออกมาพร้อมกัน "ย่าหยา / อาหยา"
ธามกับเล้งเห็นย่าหยาร่วงดิ่งจากตึกสูงลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเบื้องล่างท่ามกลางแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ธามกับเล้งรู้สึกเหมือนหัวใจกระเด็นหลุดออกจากร่างด้วยกันทั้งคู่ ธามทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างหมดแรงก่อนจะหันไปหาเล้ง
"เพราะลื้อคนเดียว" ธามโมโห
ธามประเคนหมัดอัดใส่เล็งไม่ยั้งจนหน้าแหกยับเยิน
ชานนท์เดินออกมาจากตัวตึกกับจ่าแย้มและลูกน้อง
"เดี๋ยวจ่าส่งคนไปเฝ้าพยานที่โรงพยาบาลด้วยนะ แล้วเรื่องมิสเตอร์ลีล่ะ"
"ผมให้จ่าเมฆขับรถไปส่งที่สนามบินแล้วครับ"
"ดี แล้วทยอยสอบสวนลูกน้องเสี่ยเล้งที่จับมาได้ทั้งหมดด้วย เดี๋ยวผมกลับมา"
"ครับ"
ชานนท์พยักหน้าให้ลูกน้องแล้วเดินออกมา
ธามผลักเล้งที่หน้าเยิน ตาปูด ปากแตก กระแทกผนังตึก เล้งทรุดตัวแล้วเข่าอ่อนด้วยอาการหมดแรง
"ฆ่าอั๊วซะ" เล้งบอก
"ไม่ อั๊วไม่ยอมให้ป๊าม้าอั๊วตายฟรี ลื้อต้องไปขอขมาอี ไปสารภาพกับทุกคนว่าลื้อใส่ร้ายอี” ธามบอก
"ก็ป๊าลื้อมันโง่เอง"
ธามหันขวับกลับมามองเล้ง ในขณะที่เล้งนึกถึงเรื่องราวในอดีตแล้วยิ้มกวนให้ธาม
เหตุการณในอดีตย้อนกลับมา ตั้งเช็งเอี๊ยงทุบโต๊ะดังปังแล้วตะคอกใส่เล้ง
"ไหนลื้อบอกว่าลื้อจะไม่ทำไง แล้วมันมีเหรียญทองปลอมเข้ามาขายในตลาดมืดได้ยังไง"
"ลื้อไปได้ยินข่าวมาจากไหน" เล้งถาม
"เขาลือกันให้ทั่วสมาคม อั๊วนั่งอยู่ตรงนั้น ทำไมอั๊วจะไม่รู้ ลื้อลำบากอะไรนักหนาห๊ะ อาเล้ง จำวันที่ลื้อนั่งเรือมาเหยียบเมืองไทยไม่ได้เหรอ วันที่ลื้อไม่มีจะกิน แล้วคนบ้านเมืองนี้เขาให้โอกาสลื้อทำกินน่ะ ลื้อลืมแล้วหรือ"
"อั๊วไม่เคยลืม แต่มันเกี่ยวอะไรกับอั๊ว"
"ลื้อโกงคนที่นี่ก็เท่ากับลื้ออกตัญญูต่อแผ่นดินนี้ อั๊วเตือนลื้อแล้ว ทำไมลื้อไม่ฟัง ลื้อคนเดียวจะพาธุรกิจทองคำเสียหายกันหมด"
"อั๊วจะทำให้ใครเสียหายได้ยังไง ในเมื่ออั้วะไม่ได้ทำ"
ตั้งเช็งเอี๊ยงงงมาก "ลื้อไม่ได้ทำแล้วใครทำ"
"ก็ร้านทองที่มันเป็นเจ้าของตราประทับนี่ไง"
เล้งส่งเหรียญทองปลอมที่ประทับตราแล้วให้ตั้งเช็งเอี๊ยงดู
ตั้งเช็งเอี๊ยงรับมาดู "นี่มัน ตราร้านจินหยงของอั๊วนี่" ตั้งเช็งเอี๊ยงเขวี้ยงเหรียญทองใส่เล้งอย่างแรง "ลื้อใส่ความอั๊วเหรอ อาเล้ง"
"ทองประทับตราร้านไหน ก็ร้านนั้นล่ะที่เป็นคนทำ หรือไม่ใช่" เล้งบอก
"ไอ้เล้ง ไอ้เพื่อนทรยศ"
ตั้งเช็งเอี๊ยงกระโดดถีบเล้งจนตกเก้าอี้แล้วตามมาชกซ้ำ หลิวเจียหลินกลับเข้าบ้านมา
หลิวเจียหลินตกใจ "อะไรกันคะเฮีย ทะเลาะกันเรื่องอะไร"
ตั้งเช็งเอี๊ยงตั้งสติเพราะไม่อยากให้เจียหลินไม่สบายใจ "ไม่มีอะไร" ตั้งเช็งเอี๊ยงพูดกับเล้ง "ลื้อไปจัดการเก็บของคืนมาให้หมดเลยนะ"
เล้งเอามือเช็ดเลือดที่มุมปาก "ขอตัวก่อนนะเจียหลิน" เล้งเดินออกไป
เจียหลินมองผู้ชายสองคนอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
เหตุการณ์ปัจจุบัน ธามเข้าไปกระชากคอเสื้อเล้ง
"ลื้อหักหลังป๊าอั๊วทำไม"
เล้งยิ้มอย่างโรคจิต "อั๊วอยากให้ครอบครัวลื้อฉิบหาย อยากเห็นป๊าลื้อเครียดจนฆ่าตัวตาย อั๊วจะได้เข้ามาดูแลเจียหลิน อั๊วต้องการม้าลื้อ"
ธามบันดาลโทสะจึงบีบคอเล้ง
"ไอ้โรคจิต"
เล้งตาเหลือกและหายใจไม่ออก ธามได้สติจึงรีบปล่อยมือแล้วผละออกมาสงบสติอารมณ์ เล้งไอค่อกแค่กก่อนจะมองธามแล้วหัวเราะหึ หึ ด้วยท่าทางเหมือนคนโรคจิต
"ยังไม่ทันข้ามวัน แผนที่อั๊ววางไว้ก็สำเร็จ ม้าลื้อมาหาอั๊วที่บ้าน"
ธามหันขวับมามองเล้ง
เหตุการณ์ในอดีต หลิวเจียหลินนั่งลงด้วยหน้าตาท่าทางไม่สบายใจ
"ฉันร้อนใจ ตั้งแต่เฮียเช็งมีเรื่องกับคุณเมื่อวาน เฮียดูเงียบๆไป วันนี้ไปที่สมาคมก็รีบกลับ ไม่อยู่สังสรรค์กับเพื่อนๆ ตกลงพวกคุณทะเลาะกันเรื่องอะไร"
"เข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะเจียหลิน" เล้งบอก
"แต่อาการเฮียเหมือนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะ"
"เครียดเรื่องงานรึเปล่า"
"เราผ่านงานหนัก ผ่านความยากลำบากมามาก เฮียสู้ตลอดไม่เคยท้อ แต่ครั้งนี้เหมือน เฮียมีอะไรหนักใจ นั่งถอนใจตลอดเวลา"
ความริษยาแล่นพล่านในใจเล้ง "ดูเธอเป็นห่วงอาเช็งมาก"
"มากที่สุดต่างหาก ฉันอยากแบ่งเบาความทุกข์จากเฮียมาบ้าง แต่ ฉันไม่รู้ว่าเฮียทุกข์เรื่องอะไร"
เล้งรู้สึกโคตรเจ็บ "แล้วฉันจะถามเพื่อนที่สมาคมให้นะ ได้เรื่องเมื่อไหร่จะรีบส่งข่าวเธอทันที ไปเที่ยวภูเก็ตให้สบายใจก่อนเถอะ"
"ขอบใจมากนะอาเล้ง" เจียหลินพูด
เล้งจับมือเจียหลินลูบไปมาประหนึ่งปลอบใจ แต่แววตาประกาศก้องว่าสักวันต้องได้จับมือผู้หญิงคนนี้ตลอดไป
เล้งยิ้มอย่างโรคจิตมากขึ้นอีกขั้น
"มือม้าลื้อเนียน นุ่มจริงๆ" เล้งว่า
ธามขบกรามแน่น "ไอ้เล้ง"
เล้งเทน้ำมันราดกองไฟเข้าไปอีก "ใครจะคิดว่าวันที่พวกลื้อลงมาภูเก็ต วันพักผ่อนที่แสนจะอบอุ่น ต้องจบลงด้วยความตาย"
ธามกำหมัดชกที่หน้าเล้งอย่างแรงจนกรามแทบหัก
"ไอ้ระยำ"
"ฆ่าอั๊ว อาธาม" เล้งบอก
ธามสะกดตัวเองไม่ให้ปล่อยหมัดที่เตรียมกระแทกใส่ปากเล้งอีกครั้งจนมือสั่น
"คิดจะใช้อั๊วเป็นเครื่องมือหนีความผิดงั้นเหรอ ลื้อต้องไปขอขมาป๊ากับม้าอั๊ว ลื้อต้องไปรับเวรรับกรรมที่ลื้อก่อในคุก เพราะอั๊วไม่ฆ่าลื้อ ไม่มีวัน"
ธามเดินไปยืนสงบสติอารมณ์อยู่อีกมุม
"ก็ให้มันรู้กันไปว่าใครจะทนได้มากกว่ากัน อั๊วตามพวกลื้อลงไปที่ภูเก็ต อั๊วนัดม้าลื้อมาเจอที่บ้าน อีมาตามนัด วันนั้นเจียหลินสวยมาก สวยจนอั๊วอดใจไม่ไหวจนต้องสารภาพรักกับอี"
ภาพในอดีตย้อนกลับมาในระหว่างที่เล้งเล่า ธามรู้ว่าเล้งต้องการยั่วจนเขาระงับอารมณ์ไม่อยู่ แต่ธามท่องในใจว่า “ไม่มีวันๆๆ”
เล้งพูดต่อ "แต่ม้าลื้อไม่ยอมฟัง อีไม่รับรู้ว่าอั๊วรักอี อีจะกลับบ้านไปหาอาเช็งกับลื้อท่าเดียวอั๊วก็เลยต้อง"
ธามชักมีดถลาเข้ามาเหมือนจะพุ่งเข้ากระซวกไส้เล้ง "ลื้อทำอะไรแม่อั๊ว"
เล้งหัวเราะอย่างคนโรคจิตสุดๆ "โปะยาสลบอี นิดหน่อย"
เหตุการณ์ในอดีต เจียหลินพูดกับเล้ง "ฉันจะกลับไปหาเฮีย ไปหาอาธี"
เล้งเว้าวอน "เจียหลิน"
เจียหลินสะบัดมือหลุดจากเล้งแล้วจะวิ่งออกมา เล้งตามมารวบเอวโอบกอดเจียหลินทางด้านหลังแน่นแล้วพยายามจะหอมซอกคอ เจียหลินดิ้นสู้สุดฤทธิ์ ในที่สุดก็สะบัดตัวหลุดออกจากอ้อมกอดแล้วหันมาตบหน้าเล้งฉาดใหญ่อีกครั้ง
"คุณทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่า ฉันรักครอบครัวของฉัน ฉันไม่ได้รักคุณ ไม่มีวัน"
เจียหลินจะวิ่งหนีอีก เล้งคว้าตัวไว้ เจียหลินดิ้นสุดตัว เล้งเอาผ้าเช็ดหน้าโปะยาสลบปิดจมูก เจียหลินเบิกตาโตดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดเล้งสักครู่ ก่อนจะหมดสติ
เหตุการณ์ปัจจุบัน ธามโกรธจัดแล้วจ้วงมีดเสียบลงไปที่ขาเล้ง
"อ๊าก" เล้งร้องลั่น
"ลื้อไม่ตายง่ายๆหรอก ตราบใดที่อั๊วยังไม่ให้ลื้อตาย" ธามว่า
เล้งแทบหมดแรงหายใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้พูดต่อ "อั๊วให้เจียหลินนอนรอที่บ้าน แล้วอั๊วก็สั่งให้อาจันทร์จัดการลื้อ"
ธามสูดหายใจลึกเพื่อสู้กับลาวาร้อนที่พวยพุ่งอยู่ในใจ
"ส่วนอั๊ว แยกมาจัดการป๊าลื้อ"
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา ตั้งเช็งเอี๊ยงก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกใจ
"ลื้อตามมาถึงนี่ มีธุระอะไร"
เล้งกับเกี๊ยงเดินเข้ามา
"อั๊วมาส่งข่าวเรื่องทองปลอม"
ตั้งเช็งเอี๊ยงรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก "ลื้อเรียกคืนมาหมดแล้วใช่มั้ย ดีแล้ว คนเราหากินสุจริต เวลาตายก็นอนตายตาหลับ ไม่มีใครนินทาตามหลัง"
"กลัวว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้น" เล้งบอก
ตั้งเช็งเอี๊ยงงง "หมายความว่ายังไง"
"ก็หมายความว่าตอนนี้เรื่องทองปลอมมันไปถึงหูตำรวจ และตำรวจก็ได้หลักฐานแล้วว่ามันเป็นทอง จินหยง"
"อาเล้ง ลื้อใส่ความอั๊ว"
ตั้งเช็งเอี๊ยงถลาเข้าไปชกเล้ง เกี๊ยงเข้ามาช่วยเล้งแล้วเอาเก้าอี้ฟาดแต่ตั้งเช็งเอี๊ยงหลบทันและสวนกลับด้วยการเอาเก้าอี้อีกตัวฟาดเกี๊ยง
เล้งกับเกี๊ยงสู้แรงนักเลงเก่าขาโจ๋อย่างตั้งเช็งเอี๊ยงไม่ได้จึงชักปืนออกมาจ่อจะยิงเพื่อน
ตั้งเช็งเอี๊ยงกัดฟันพูด "ลื้อจะยิงคนมือเปล่าเหรอไอ้เล้ง ลื้อยังมีศักดิ์ศรีอยู่รึเปล่า"
"ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ ลื้อตายจะมีใครรู้มั้ยว่าอั๊วไม่มีศักดิ์ศรี" เล้งว่า
ตั้งเช็งเอี๊ยงเพิ่งรู้ธาตุแท้ "แสดงว่าลื้อไม่ใช่แค่ต้องการจะให้อั๊วติดคุก ลื้อต้องการฆ่าอั๊วให้ตาย"
เล้งทำท่ากวน "หรือลื้อจะยิงตัวเองตายดีล่ะ มืออั๊วจะได้ไม่ต้องเปื้อนเลือด"
ตั้งเช็งเอี๊ยงแค้นใจจนน้ำตาคลอ "อั๊วคิดมาตลอดว่าลื้อคือเพื่อนรัก มีกินก็แบ่งปัน ไม่มีก็อดด้วยกัน แล้วทำไม อั๊วไม่เข้าใจ ทำไมลื้อถึงเห็นอั๊วเป็นศัตรู"
เล้งระเบิดอารมณ์ "ทำไมนะเหรอ เรื่องมันผิดตั้งแต่ฟ้าลิขิตให้อั๊วมาเจอกับลื้อแล้ว อาเช็ง อั๊วเจอเจียหลิน รักเจียหลินก่อนลื้อ ลื้อก็มาแย่งอีไปจากอั๊ว"
ตั้งเช็งเอี๊ยงอึ้งคิดไม่ถึงว่าเล้งจะรักเจียหลิน
"อั๊วเจอเฮียเฉิน รู้จักเฮียก่อนลื้อ แต่เฮียก็ให้โอกาสลื้อ สอนวิธีทำทองให้ลื้อแม้แต่ตอนที่เฮียจะไปทำธุรกิจที่เซี่ยงไฮ้ เฮียก็ยังยกกิจการจินหยงให้ลื้อ ลื้อเกิดมาเพื่อแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากอั๊ว ลื้อสมควรตายมั้ย อาเช็ง" เล้งบอก
"อั๊วเลือกได้หรืออาเล้ง ถ้าเจียหลินไม่รักอั๊ว เฮียเฉินไม่เมตตาอั๊ว อั๊วจะบังคับใจอีสองคนได้มั้ย ทำไมลื้อไม่คิดบ้าง"
"ไม่ต้องมาแก้ตัว หมดเวลาของลื้อแล้ว เลือกเอาว่าจะยิงตัวเองหรือจะให้อั๊วยิงเพราะไม่ว่าวิธีไหน อั๊วก็จะบอกเจียหลินว่าลื้อยิงตัวตายเพราะไม่อยากติดคุก"
"อั๊วไม่เข้าใจ อั๊วทนคบคนที่ไม่ใช่คนอย่างลื้อได้ยังไง"
เล้งเจ็บใจ เขายิงขาตั้งเช็งเอี๊ยง 1 นัด "จะตายแล้วยังปากดีอีก ก่อนตายลื้อรู้ไว้เลยนะว่า อั๊วจะถ่ายเทสมบัติของลื้อทุกอย่างมาเป็นของอั๊วให้หมด ไม่เว้นแม้แต่เจียหลิน"
เจียหลินที่อยู่ในสภาพเหนื่อยหอบเดินเท้าเปล่าเข้ามาด้วยหน้าตาที่บ่งว่าแค้นใจสุดๆ
"ถามใจฉันก่อนมั้ย" เจียหลินว่า
ตั้งเช็งเอี๊ยง เล้ง และเกี๊ยงหันไปมองเจียหลินพร้อมกัน "เจียหลิน"
เล้งใจหายวาบ "เธอ ฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ออกมาได้ยังไง รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่นี่"
เจียหลินเดินเข้ามาตบหน้าเล้งอย่างแรงจนหน้าหัน
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เล้งอุ้มเจียหลินลงนอนอย่างเบามือ
เล้งค่อยๆเขย่าแขนเจียหลิน "เจียหลิน เจียหลิน เจียหลิน"
เล้งถอนใจยาว เขามองหน้าสวยคมอย่างเคลิบเคลิ้ม เขาอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอ เล้งค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เพราะอยากหอมแก้มเธอสักครั้ง
มือเจียหลินค่อยๆ ขยับกำแน่นทั้งๆที่ยังหลับตา เล้งขยับเข้ามาใกล้จนปลายจมูกจะแตะแก้มเจียหลินอยู่รอมร่อ แล้วเกี๊ยงก็โผล่เข้ามาขัดจังหวะ
"นายใหญ่ เอ่อ ขอโทษครับ"
เล้งถามห้วนๆ อย่างเสียอารมณ์ "อะไร"
"อาซ้งให้คนมาส่งข่าว ให้อั๊วพานายใหญ่ไปจัดการเก็บอาเช็งเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ทางสะดวก เพราะอาธีไม่อยู่บ้านด้วย"
เล้งกระเด้งจากที่นอนทันที "ลื้อให้คนเฝ้าหน้าห้องไว้ ถ้าเจียหลินตื่น หลอกล่อให้อีรออยู่ที่นี่ บอกว่าอั๊วไปช่วยอาเช็ง มีคนจะลอบยิงอี"
"ครับ นายใหญ่"
เล้งกับเกี๊ยงเดินออกไป เกี๊ยงไขกุญแจล็อกประตูห้อง เจียหลินลืมตาขึ้นมาแล้วพยายามพยุงตัว เดินเซไปที่ประตู เมื่อขยับประตูก็รู้ว่าถูกล็อกจากด้านนอก เจียหลินรู้สึกร้อนรุ่ม เธอมองไปรอบๆห้อง แล้วมองเลยขึ้นไปบนเพดานจึงเห็นบานเกล็ดที่ระบายลม
เจียหลินมองหาโต๊ะที่จะปีนขึ้นไป
เจียหลิงวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากถนนหลังบ้านเล้งเพื่อมาโผล่ที่ถนนใหญ่ เธอกำลังจะข้ามถนนแต่แล้วก็ต้องหลบวูบ
เมื่อเห็นเกี๊ยงขับรถให้เล้งนั่งผ่านหน้าเธอไปอย่างฉิวเฉียด เมื่อรถเล้งแล่นผ่านไปแล้ว เจียหลินก็มองหารถลากข้างทางแต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีรถที่ไหนผ่านมา
เจียหลินจึงตัดสินใจวิ่ง เมื่อรู้สึกว่าช้าเพราะรองเท้าที่สวมเป็นรองเท้ามีส้นเธอก็ถอดรองเท้าโยนทิ้ง แล้ววิ่งสู้ฟัดเพื่อไปช่วยตั้งเช็งเอี๊ยงให้ทันเวลา
หลิวเจียหลินใช้หลังมือตบเล้งจนหน้าหันไปอีกทาง
เจียหลินน้ำตาไหลพรากเจ็บใจมากจนขึ้นลื้ออั๊วทันที "ลื้อทำลายความเป็นเพื่อนของเราสามคนยังไม่พอ ลื้อยังคิดจะฆ่าเพื่อนได้อีก เสียแรงเราสองคนทั้งรักทั้งไว้ใจลื้อ ใจคอลื้อทำด้วยอะไร ลื้อจะฆ่าเฮียลื้อฆ่าอั๊วก่อน"
เล้งพูดเสียงละห้อย "เจียหลิน"
"ลื้อคิดว่าเฮียตายแล้วอั๊วจะรักลื้อได้เหรอ ต่อให้อั๊วไม่รู้ว่าเฮียถูกลื้อฆ่า ต่อให้ลื้อเป็นคนดี ต่อให้ลื้อไม่ได้ก่อเรื่องชั่วๆนี่ขึ้นมา อั๊วก็ไม่มีวันรักลื้อ อั๊วเกิดมาเป็นเมียเฮียคนเดียว ให้พูดกี่ครั้งอั๊วก็จะพูดอย่างนี้ เข้าใจรึยัง"
ระหว่างที่เจียหลินด่าเล้ง ตั้งเช็งเอี๊งก็ได้โอกาสเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างโซฟาหยิบปืนออกมายิงเล้ง ซ้งเข้ามาเห็นและยิงมือตั้งเช็งเอี้ยงก่อนทำให้กระสุนพุ่งเฉียดแค่ต้นแขนเล้ง และปืนตั้งเช็งเอี๊ยงก็กระเด็นหลุดจากมือ เล้งโมโหยิงเข้าที่ท้องและที่ขาอีกข้างของตั้งเช็งเอี๊ยง
เจียหลินวิ่งเข้ามาหาตั้งเช็งเอี๊ยงพร้อมกับร้องเสียงหลง "เฮีย"
ซ้งเข้ามารายงาน "อั๊วราดน้ำมันที่หลังบ้านแล้วนายใหญ่"
เล้งส่งไฟแช็กต้นเรื่องให้ซ้ง
เล้งสั่งนิ่งๆ "จัดการ"
ซ้งรับไฟแช็กแล้วเดินออกไป
เล้งเข้ามาดึงเจียหลิน "ไป เจียหลิน"
เจียหลินร้องไห้และดิ้นหนีสุดชีวิต "ไม่ อั๊วไม่ไป อั๊วจะอยู่กับเฮีย"
ตั้งเช็งเอี๊ยงน้ำตาคลอ "ไป เจียหลิน เธอต้องอยู่เป็นหลักให้ลูก"
เสียงปืนดังมาจากบ้านชลธี 2 นัด ตั้งเช็งเอี๊ยงกับเจียหลินชะงักแล้วหันไปมอง
"อาธี คงไม่อยู่เป็นภาระลื้อแล้วล่ะ อาเช็ง"
เจียหลินลุกขึ้นทุบตีเล้งพัลวันด้วยท่าทางคลุ้มคลั่งเหมือนจงอางที่ถูกพรากไข่ไปจากอก
"ลื้อฆ่าอาธี ลื้อให้คนไปยิงอาธีเหรอ ไอ้ชาติชั่ว สารเลว"
ซ้งวิ่งเข้ามา "ไฟติดแล้วนายใหญ่ เราต้องรีบไปเดี๋ยวนี้"
"ไป เจียหลิน" เล้งบอก
ความโกรธแค้นทำให้เจียหลินไม่รู้เอาแรงมาจากไหน สะบัดตัวจนหลุดจากมืออันแข็งแกร่งของเล้งทันที
"อั๊วไม่ไป" เจียหลินวิ่งมาหยิบปืนตั้งเช็งเอี๊ยงที่กระเด็นตกที่พื้นขึ้นมา
เล้งตกใจจนแทบช็อก "เจียหลิน"
ซ้งเตือนเสียงดัง "นายใหญ่"
เล้งน้ำตาคลอ "ฉันจะพาเธอออกไป" พูดจบเล้งก็จะเข้าไปอุ้มเจียหลิน
เจียหลินยกปืนขึ้นจ่อหัวตัวเองอย่างใจเด็ดสุดๆ "ลื้อก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว อั๊วยิง"
เล้งน้ำตาไหล "เจียหลิน"
"เราต้องไปแล้วนายใหญ่ ไฟลามแล้ว" ซ้งบอก
เล้งขยับจะเข้าไปดึงเจียหลินออกมา แต่ยังไม่ทันถึงตัวเจียหลินก็ระเบิดขมับตัวเองต่อหน้าต่อตาเล้ง เล้งช็อก ซ้งพยักหน้าเรียกเกี๊ยงให้เข้ามาช่วยทั้งดึงทั้งฉุดทั้งลากเล้งที่แหกปากเหมือนเสียสติออกไปทางด้านหลัง
"เจียหลิน เจียหลิน เจียหลิน"
ธามกำมีดในมือแน่นพร้อมกับมองเล้งอย่างสุดจะทน
เล้งยิ้ม "ฆ่าอั๊ว เรื่องมันจะได้จบสักที"
ธามกัดฟันกรอด "ลื้อไม่ต้องท้า"
ธามง้างมือเหมือนจะกระซวกไส้เล้งทิ้งจริงๆ เขามือไม้สั่นเมื่อเห็นเล้งยิ้มเย้ยราวกับผู้ชนะ สุดท้ายธามก็ต้องข่มความเจ็บปวดหันหลังให้เล้ง
"กล้าๆหน่อย อาธาม ม้าลื้อใจเด็ดกว่าลื้อเยอะ" เล้งว่า
ธามน้ำตาไหลเมื่อเล้งพูดถึงแม่ เขาหันมาจะแทงเล้งอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องระงับอารมณ์เดือดพล่าน ความรู้สึกในใจของเขาต่อสู้กับความรักความกตัญญูที่มีต่อพ่อแม่กันอย่างดุเดือด
ภาพในอดีตย้อนกลับมาทีละตอน ตอนที่ชลธีเข้ามาเจอพ่อแม่ ตอนที่ชลธีเห็นพ่อแม่ถูกไฟคลอก และตัวเขาวิ่งออกมาก็ถูกไฟคลอก
ตอนที่เฉินอี่เสียงวิ่งเข้ามาในบ้านที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟและเห็นชลธีโดนลูกไฟพุ่งใส่คาตา
"อาธี" เฉินอี่เสียงหันไปเรียกคนขับรถ "อาโส่ย มาช่วยพาหลานอั๊วออกไปเร็ว"
เฉินอี่เสียงกับโส่ยกระชากผ้าม่านและอุปกรณ์ทุกอย่างเท่าที่มีลงมาตีดับไฟ และคลุมตัวชลธีก่อนจะพาวิ่งหนีไป
หลังจากได้รู้ความจริง เล้งทั้งอึ้งและช็อก
"ลื้อคือ"
ธามแสยะยิ้ม "เสียใจด้วยนะที่ลื้อทั้งยิงทั้งเผา อั๊วก็ยังไม่ตาย"
"อาธี"
"ลื้อมีอะไรอีกมั้ย ความชั่วความเลวระยำอะไรที่เคยทำกับป๊าม้าอั๊ว ลื้อคายออกมาให้หมด"
เล้งยิ้มหลอนขึ้นมาอีกรอบ "ลื้ออยากรู้มั้ย ระหว่างที่ม้าลื้อสลบ อั๊วทำอะไรอีบ้าง"
ธามเล่นสงครามจิตวิทยากับเล้งโดยการแสยะยิ้มใส่ดูหลอนกว่า
"ลื้อจะยั่วให้อั๊วยิงลื้อให้ได้ใช่มั้ย" ธามหัวเราะหยัน "อั๊วไม่อยากฟังเรื่องที่มันเป็นแค่ความฝันของลื้อ ลื้ออยากฟังเรื่องจริงมั้ย อยากรู้มั้ยว่า อั๊วกับอาหยารักกันเมื่อไหร่ รักกันมากแค่ไหน และ เราสองคนวางแผนกำจัดลื้อยังไง"
เล้งเจ็บจี๊ดตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงสมอง "อาธี"
ธามตะคอกด้วยท่าทางบ้าคลั่ง "ลื้อไปขอขมาป๊ากับม้าอั๊วเดี๋ยวนี้ ไอ้เล้ง"
"ไม่ อั๊วไม่ไป อั๊วไม่ไปเจอเจียหลิน" เล้งบอก
"ลื้อต้องไป" ธามบอก
"ไม่" เล้งปฏิเสธ
"จะไปไม่ไป"
"ไม่"
ธามเงื้อมีดแทงที่ขาเล้งอย่างแรงด้วยแววตาเหี้ยมดุดันและน่ากลัวจนเล้งคาดไม่ถึง
เล้งแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด "อ้าก"
ธามลากเล้งกลิ้งล้มลุกคลุกคลานเหมือนหมาหนีออกมาที่หน้าตึก
"ทำไมอั๊วต้องแพ้พวกลื้อ ตั้งแต่เจียหลินจนมาถึงอาหยา ทำไมอั๊วต้องแพ้อาเช็งกับลื้อ"
"ทำไมลื้อต้องชนะ ชีวิตที่ขึ้นอยู่กับคำว่า “แพ้/ชนะ” อย่างเดียว มันมีความสุขหรือ" ธามว่า
"อาเช็งกับเจียหลินคงแค้นอั๊วมาก ทำไมลื้อไม่ฆ่าอั๊วแก้แค้นให้อี"
"ป๊าม้าอั๊วไม่เคยสอนให้ฆ่าใครเพื่อแก้แค้น ก่อนที่อีจะตาย อีแค่ขอให้อั๊วล้างมลทินให้ครอบครัวเท่านั้น และลื้อต้องไปขอขมาอี"
เล้งน้ำตาซึม "ตั้งแต่อาเช็งกับเจียหลินตาย อั๊วไม่เคยนอนหลับสนิทเลยแม้แต่คืนเดียว จนกระทั่งมาเจออาหยา อั๊วรักอี แต่อีก็ต้องมาตายเพราะอั๊วอีก"
ธามสะท้อนใจเมื่อเล้งเอ่ยถึงย่าหยา เขากัดฟันน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงร่างที่ลอยละลิ่วลงสู่ผืนน้ำ ทันใดนั้นชานนท์ก็เดินเข้ามาเห็นเล้งกับธาม
ธามหันมาเห็นชานนท์ "ก่อนจะจับเสี่ยเล้งเข้าคุก ผมขออะไรสักอย่างนะครับผู้กอง"
เช้าวันใหม่ สุสานตระกูลตั้งตั้งอยู่บนเนินเขาสวยงาม
เล้งถือธูป 1 ดอกนั่งไหว้อยู่ที่ป้ายหลุมศพของตั้งเช็งเอี๊ยงและหลิวเจียหลิน ธาม ทรงกลด ภรพ คณิน และเฉินอี่เสียงยืนอยู่ด้านหลังเล้ง ส่วนชานนท์ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกล
"อั๊วขอขมาเรื่องที่อั๊วทำผิดกับลื้อสองคน อั๊วเป็นคนทำทองปลอมประทับตราจินหยงเพื่อป้ายความผิดให้ลื้อเมื่อ 7 ปีก่อน อั๊วยิงลื้อและเผาบ้านลื้อที่ภูเก็ต" เล้งน้ำตาไหล “7 ปีผ่านไป ภาพนั้นยังตามหลอกหลอนอั๊วตลอดเวลา เจียหลิน ฉันขอโทษ อาเช็ง ได้โปรดรับคำขอโทษจากอั๊วด้วย"
เล้งเอาหัวโขกคำนับลงกับพื้นสุสานปรกๆ อย่างสำนึกผิด ธามน้ำตาคลอด้วยความโล่งใจที่ภารกิจเสร็จสิ้น เขาทำตามคำขอของพ่อแม่ได้สำเร็จแล้ว
เฉินอี่เสียงพูด "เรื่องถล่มทุกคนในศาลเจ้าเมื่อวันสารทจีนก็ฝีมือลื้อใช่มั้ย"
เล้งยอมรับ "ใช่ อั๊วอยากขึ้นเป็นนายกแทนเฮียสุง อีอายุมากแล้วก็อยู่แต่ในโรงงิ้วอีหมดไฟจะลุกขึ้นมาทำให้พวกเรายิ่งใหญ่เหมือนไชน่าทาวน์ที่อื่น อั๊วอยากให้พวกเรายิ่งใหญ่ อั๊วผิดด้วยเหรอ"
"ลื้อคิดไม่ผิด แต่วิธีการมันผิด" เฉินอี่เสียงว่า
"ที่เสี่ยอ๋าตายก็ฝีมือเสี่ย เสี่ยฆ่าเสี่ยอ๋าแล้วโยนศพทิ้งหน้าบ้านผม เพื่อป้ายความผิดให้ผม" ทรงกลดว่า
"เพราะลื้อหักหน้าอั๊วในที่ประชุมสมาคม เด็กเมื่อวานซืนอย่างลื้อได้รับเลือกเป็นนายก อั๊วเลยอยากรู้ว่าลื้อจะแก้ปัญหานี้ยังไง" เล้งว่า
"ในเมื่อตำรวจพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ฝีมือพวกเรา ทุกอย่างก็น่าจะจบ แต่เสี่ยยังตามมาถล่มพวกเราที่ฉั่วเทียนเหลาอีก เสี่ยมีปัญหาอะไรกับพวกเรานักหนาวะ" ภรพบอก
"ลื้อมันเด็กรุ่นหลัง ลื้อไม่รู้หรอกว่าพวกอั๊วลำบากแค่ไหนกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ พอจะร่ำรวยสุขสบาย พวกลื้อก็มาออกนโยบายเฮงซวยที่ตัดหนทางทำมาหากินของคนเก่าคนแก่" เล้งบอก
คณินสวน "คนเก่าคนแก่รวย แต่เด็กรุ่นใหม่ต้องติดฝิ่น ติดยา เล่นการพนัน มันดีหรือเสี่ย ลองเสี่ยมีเมียมีลูก แล้วเมียเสี่ยถูกหลอกไปขายซ่อง ลูกเสี่ยติดยา เสี่ยจะว่ามันดีอยู่มั้ย"
เล้งคอตกอย่างยอมจำนน "มันคงจริงอย่างที่ลื้อว่า ถ้าทุกอย่างที่อั๊วทำมันถูก อั๊วคงไม่เสียทั้งเพื่อน เสียทั้งศักดิ์ศรี ชื่อเสียง เงินทอง แม้กระทั่งอิสรภาพ"
"แต่ยังเหลือความเป็นคน" ธามบอก
"อั๊วขอโทษนะอาธี ไม่ว่าจะเรื่องจันทร์ชมพูหรือย่าหยา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อั๊วจะไม่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้" เล้งบอก
ธามน้ำตารื้นขึ้นมาอีก "เขาไปสบายแล้ว"
ชานนท์เดินเข้ามา "ได้เวลาแล้วครับเสี่ย”
เล้งพยักหน้า "อั๊วขอไปไหว้ลาสุสานญาติอั๊วทางด้านนั้นก่อนได้มั้ย แค่ 5 นาที"
ชานนท์คิดนิดหนึ่งแล้วพยักหน้า
เล้งนั่งไหว้สุสานญาติๆ โดยมีชานนท์ยืนดูอยู่ห่างๆ ธามกับเพื่อนๆ ยังยืนอยู่ที่หน้าสุสานตระกูลตั้งกับเฉินอี่เสียง เฉินอี่เสียงกับเพื่อนๆเข้ามาจับมือและสวมกอดธาม
"ยินดีด้วยนะอาธี ลื้อทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้อาเช็งกับเจียหลินคงหลับสบาย ไม่มีห่วงอะไรแล้ว อั๊วภูมิใจในตัวลื้อแทนป๊าม้าลื้อจริงๆ"
"ถึงเสี่ยเล้งมันไม่มาขอขมาอาเจ็กกับซิ่มเจียหลิน พวกเรารวมทั้งป๊าม้าและผู้ใหญ่ในสมาคมก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเจ็กเช็งค้าทองปลอม มันเป็นไปไม่ได้" ภรพว่า
"แต่ลากตัวคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายอย่างนี้แหละดีแล้ว เสี่ยเล้งไปอยู่ในคุกสักคน ถิ่นมังกรคงเป็นสีขาวได้ไม่ยาก" ทรงกลดบอก
"อาปากลับไปพักเถอะครับ อาจิวรอที่รถแล้ว" ธามบอก
เฉินอี่เสียงพยักหน้าแล้วลาทุกคนก่อนจะเดินออกมา
"เฮ้อ ทีนี้ก็จะได้มีเวลาจีบสาวเยอะหน่อย ไม่ต้องคอยหลบลูกปืนเสี่ยเล้ง" คณินโล่งอก
ภรพสวน "ระวังลูกปืนซ้อแพนธีรา ได้ข่าวว่าแม่น"
คณินจุก "อึ้ม แม่นพอๆกับเจ๊จิ๋ม วันวิสา"
ภรพขำ "เออว่ะ ใครจะมีบุญ ได้เมียเรียบร้อยยังกับผ้าพับไว้แบบนายกสมาคมวะ"
เพื่อนๆ แซวกันอย่างฮาเฮ แต่แล้วก็สะกิดกันให้เงียบเมื่อหันมาเห็นธามหน้าขรึมจนดูเศร้า สักครู่ทุกคนก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนดูแลสุสานวิ่งตะโกนมาจากทางด้านหนึ่งของสุสาน
"ช่วยด้วยๆ ไฟไหม้ ช่วยด้วย"
ธาม เพื่อนๆ ของเขา และชานนท์วิ่งตามคนดูแลสุสานไปโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจ
ทุกคนวิ่งเข้ามาที่ศาลเจ้าในสุสานก็เห็นควันไฟลุกโขมง
"ไหม้อะไร มาจากทางไหน มีน้ำมั้ย" ธามหันมาถามคนดูแล
"มีครับ น้ำจากบึ่งด้านหลัง ทางนี้ครับ"
ทุกคนวิ่งไปดูทางด้านหลัง
เล้งยืนหน้านิ่งมองเกี๊ยงน้ำตาคลอเหมือนสำนึกผิดและรับความจริงไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วเล้งรู้สึกซาบซึ้งในความภักดีของลูกน้องคนสำคัญ
คนดูแลสุสานวิ่งพาทุกคนเข้ามาทางด้านหลังศาลเจ้า ทรงกลดหันมาเห็นเปลือกมะพร้าวรมไฟกองใหญ่ก็พูดขึ้น
"ไฟไม่ได้ไหม้ แต่ควันมันมาจากมะพร้าวพวกนี้"
"ใครมาทิ้งบุหรี่แถวนี้แหง" ภรพว่า
"ถ้าเป็นเมื่อก่อน คิดได้อย่างเดียวเลย เสี่ยเล้งสั่งเผา" คณินบอก
ธามฉุกคิด "เสี่ยเล้ง"
ธามหันมาเห็นชานนท์ยืนรวมอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ก็ใจหายวาบว่าตอนนี้ใครอยู่กับเสี่ยเล้ง
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เล้งหยิบไฟแช็ก Zippo The Furniture Club ที่ธามให้ขึ้นมาจุด เล้งเลื่อนไฟแช็กขึ้นมาด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น น้ำตาของเขาคลอเบ้าแต่เขาก็ตัดสินใจเด็ดขาดก่อนจะทิ้งมันลงบนหญ้าที่เกี๊ยงราดน้ำมันรอไว้แล้ว
ไฟแช็คตกลงพื้นหญ้าทำให้ไฟลุกพรึ่บ ธาม ทรงกลด ภรพ คณิน ชานนท์ วิ่งไต่เนินขึ้นมาที่สุสานที่เล้งอยู่ ทุกคนก้าวเข้ามาที่สุสานแล้วต้องผงะเมื่อเห็นร่างของเล้งมีไฟลุกท่วมตัว เล้งดิ้นร้องทุรนทุรายราวสัตว์ป่า ธามเห็นไฟแช็ก Zippo The Furniture Club หล่นอยู่ที่พื้นก็อึ้ง ธามมองเห็นร่างเล้งในเปลวไฟ เขาจ้องมองจนร่างนั้นสะท้อนอยู่ในแววตา
ธามเดินมาตามระเบียงทางเดิน เฉียงในชุดคนไข้เดินออกมาจากห้องโบตั๋นมาเจอธามกลางทาง
"เฮีย" เฉียงเรียก
"เป็นยังไงบ้าง" ธามถาม "ขอโทษนะที่ต้องรีบสะสางเรื่องครอบครัว เลยเพิ่งได้มาเยี่ยม เห็นอาจิวบอกปลอดภัยแล้วทั้งคู่ ฉันก็วางใจ"
"อั๊วไม่เป็นอะไรมากครับเฮีย โบตั๋นเจ็บหนักแต่ก็พ้นขีดอันตรายแล้ว" เฉียงนึกได้ "เมื่อเช้าอั๊วได้ยินหมอกับพยาบาลคุยกันว่าเสี่ยเล้ง"
"อีใช้ไฟแช็คที่ให้ไป เผาตัวเองตาย"
เฉียงปลง "อีทำกรรมกับคนไว้เยอะ ก็ต้องชดใช้" เฉียงมองหน้าธามพลางคิดว่าจะพูดดีไม่พูดดี แต่แล้วก็ตัดสินใจพูด "เรื่อง คุณย่าหยา อั๊วเสียใจด้วย"
ธามรู้สึกเหมือนถูกสะกิดแผลในใจ เขาหน้าหมองเศร้า แต่ก็รีบเก็บอารมณ์แล้วเปลี่ยนเรื่อง
"ขอเข้าไปเยี่ยมโบตั๋นหน่อยนะ" ธามบอก
ธามเดินผ่านเฉียงไป เฉียงหันมามองตามหลังธามอย่างรู้ดีว่าเจ้านายเสียใจและเจ็บปวดมากขนาดไหน
ธามค่อยๆเปิดประตูเข้ามาในห้อง โบตั๋นที่นั่งเอนอยู่บนเตียงหันมามอง พอเห็นเป็นธาม เธอก็ดีใจจนน้ำตารื้น
โบตั๋นเรียกเสียงแหบแห้ง "เฮีย"
"เป็นยังไงบ้าง" ธามถาม
"โบตั๋นดีใจที่เฮียมาเยี่ยม นึกว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้พูดกับเฮียซะแล้ว"
"ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตฉัน เธอคงเจ็บมาก"
"แค่เห็นหน้าเฮีย โบตั๋นก็หายเจ็บแล้ว"
ธามส่งยิ้มขอบคุณหญิงสาว โบตั๋นเอื้อมมือจะไปจับมือธามแต่แล้วก็ชักมือกลับเพราะรู้สึกว่าไม่สมควร
"เฮียยิ้มใจดีแบบนี้ ทำให้โบตั๋นนึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน เฮียจำได้มั้ย"
เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 10 (อวสาน) (ต่อ)
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา โบตั๋นถูกลูกน้องของเล้ง 3 คนดักฉุดหมายจะลากไปข่มขืน
โบตั๋นดิ้นสู้สุดฤทธิ์ "ปล่อยนะ ปล่อย แกจะพาฉันไปไหน"
"ไปขึ้นสวรรค์ไงจ้ะน้องสาว"
โบตั๋นช็อก เธอวิ่งหนีออกมาแต่ก็โดนผู้ชาย 3 คนช่วยกันฉุดกลับมา ลูกน้องสองคนยึดแขนหญิงสาวไว้คนละข้าง ส่วนลูกน้องอีกคนเตรียมเข้ามาทำมิดีมิร้าย โบตั๋นกลัวสุดขีดหลับตาแหกปากร้องกรี๊ดลั่น เมื่อลูกน้องคนนั้นเคลื่อนตัวเข้ามาเพื่อจะจูบ แต่ยังไม่ทันได้จูบ ลูกน้องเล้งก็ถูกธามกระชากคอเสื้อแล้วชกกระเด็น
ธามจัดการลูกน้องอีกสองคนโดยทั้งชกเตะต่อยจนทั้งคู่หมอบคาเท้า
ระหว่างนั้นโบตั๋นคลานหนีไปหลบอยู่ข้างกระถางต้นไม้ที่อยู่ในมุมมืด เธอพยายามมองธามแต่ก็เห็นเขาเพียงด้านหลัง ลูกน้องเล้งคนหนึ่งดึงมีดออกมาจะแทงธาม โบตั๋นตกใจรีบเอามือปิดตานั่งกลัวจนตัวสั่น ธามบิดมือลูกน้องคนนั้นจนมีดหล่นพื้น แล้วก็ดึงมีดของตัวเองออกมาปาดแขนลูกน้องคนนั้นจนเลือดพุ่ง
ลูกน้องเล้งจับแขนร้องลั่น "อ๊าก"
"ถ้าไม่อยากตายก็ รีบไสหัวไป แล้วถ้าอั๊วรู้ว่าพวกลื้อมารังแกผู้หญิงคนนี้อีก อั๊วจะตามไปเชือดพวกลื้อถึงบ้าน"
ลูกน้องเล้งทั้งสามคนรีบพากันวิ่งออกไป
ธามเดินกลับมาหาโบตั๋นที่ยังนั่งเอามือปิดหน้าหวาดกลัวจนตัวสั่น
"ไม่เป็นไรแล้วนะ ลุกขึ้นเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งบ้าน"
โบตั๋นค่อยๆเอามือที่ปิดหน้าลงแล้วเงยหน้ามองคนที่ช่วยเธอเต็มๆ ตา โบตั๋นเห็นธามส่งยิ้มใจดีให้ก็ถึงกับตกตะลึง เธอคิดในใจว่านี่หรือคือเฮียธาม ทำไมช่างหล่อ ดูดีและมีน้ำใจเกินหน้าตาขนาดนี้
เหตุการณ์ปัจุบัน ธามส่งยิ้มใจดีให้โบตั๋น
"ฉันจำได้" ธามบอก
โบตั๋นยิ้มดีใจจนน้ำตาคลอ "โบตั๋นรักเฮียตั้งแต่เห็นยิ้มใจดีของเฮียครั้งแรก โบตั๋นไม่คิดว่าเฮียจะช่วยโบตั๋น ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริงสักนิด"
"หมายความว่ายังไง" ธามถาม
"โบตั๋นถูกเสี่ยเล้งบังคับให้มาตีสนิทเฮีย เหตุการณ์วันนั้นมันสร้างขึ้นเพื่อล่อเฮียมาติดกับ มันบังคับโบตั๋นให้ล้วงความลับว่าเฮียทำอะไรที่ไหน โบตั๋นต้องฝืนใจทำตามที่มันสั่งทุกอย่าง มีอยู่อย่างเดียวที่โบตั๋นทำให้มันด้วยความเต็มใจ นั่นคือการเป็นเมียเฮีย ทั้งๆที่รู้ว่าเฮียไม่ได้รักโบตั๋นเลย"
ธามอึ้ง "โบตั๋น"
"นอกจากกู๋แล้ว เฮียเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดของโบตั๋น โบตั๋นอยากจะขอโทษเฮียในความผิดทุกเรื่องที่ผ่านมา"
"ฉันลืมมันไปหมดแล้ว เธอเองก็ควรจะลืมเรื่องเลวร้ายในอดีต แล้วตั้งต้นชีวิตใหม่ อาเฉียงเป็นคนดีและรักเธอมาก"
โบตั๋นมองหน้าธามแล้วน้ำตาหยดพลั่กๆ ด้วยความสงสารและเห็นใจสุดๆ
"เฮียนึกถึงคนอื่นก่อนเสมอ ทำไมคนดีๆอย่างเฮียต้องอยู่โดดเดี่ยวอย่างนี้ เรื่องย่าหยา โบตั๋นเสียใจด้วยจริงๆ ฟ้าส่งอีมา แล้วทำไมต้องพรากอีไปจากเฮีย"
ธามเป็นฝ่ายเอามือแตะไหล่โบตั๋นให้หยุดร้องไห้ทั้งๆที่ในใจเต็มไปด้วยคำถามดังก้องว่าทำไม
ธามเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าตึกร้าง เขารู้สึกเจ็บปวดว่าทำไมฟ้าต้องลิขิตให้เขามาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ จันทร์ชมพูตาย เขาควรจะดีใจไม่ใช่หรือ ทำไมเขาต้องย้อนกลับมาที่นี่ มาดูที่ที่เธอจากไป เขาควรจะหัวเราะแต่ทำไมเขาถึงร้องไห้ เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ธามมองดูผืนน้ำที่อยู่เบื้องล่าง เขาคิดว่าป่านนี้จันทร์ชมพูจะเป็นอย่างไร ไปอยู่ที่ไหน สวรรค์จะรับเธอไว้ในอ้อมกอดหรือไม่
ธามทรุดตัวลงนั่งอยากหมดอาลัยตายอยาก เมื่อค้นพบว่าเขามาที่นี่เพราะอยากอยู่ใกล้เธอ อยากมานั่งเป็นเพื่อนเธอ ไม่ว่าเธอจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม
ธามนั่งนิ่งอยู่หน้าองค์พระประธานในศษลเจ้า ซินแสง้วงยืนดูธามอยู่ที่มุมหนึ่ง
"สวดมนต์ให้อาหยาหรืออาธาม" ง้วงถาม
"ย่าหยาคือคนคนเดียวกับจันทร์ชมพูครับซินแส ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายผม ถ้าผมไม่ถูกยิง ถ้าผมไปช่วยป๊ากับม้าทัน บางที เราอาจไม่ถูกเผาให้ตายทั้งเป็นอย่างนี้" ธามบอก
"อาเล้งรับกรรมที่อีก่อไว้แล้ว ส่วนอาหยา อีก็จากไปแล้ว ลื้อควรจะให้อภัย"
"ผมอยากให้อภัย แต่พอคิดย้อนกลับไปผมก็เจ็บปวดทุกครั้ง ผมรักเขา ป๊าม้าผมก็รักเขา ทำไมเขาถึงร่วมมือกับเสี่ยเล้ง ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างทางไม่ทำให้เขาเปลี่ยนใจเลยหรือ ทำไมเขาถึงเลือดเย็นได้ขนาดนี้"
ง้วงค้าน "อั๊วไม่คิดอย่างนั้น"
เหตุการณ์ในอดีต จันทร์ชมพูนั่งขอพรอยู่หน้าองค์พระ
"ลูกขอพรจากองค์พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขออย่าให้ครอบครัวคนที่ลูกรักเป็นอะไร ขอคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองพ่อแม่ ป๊าม้า พี่ธี ให้อยู่รอดปลอดภัย ถ้าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอะไร ลูกขอรับไว้คนเดียว"
จันทร์ชมพูพูดซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ทุกวัน
ระหว่างที่จันทร์ชมพูพูด ง้วงก็แอบได้ยินจากที่คิดว่าเป็นคนมาไหว้พระปกติ ง้วงก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจและสนใจเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้มานั่งไหว้พระทุกวัน
ซินแสไหว้พระอยู่อีกมุม เขาเดินเอาน้ำชาเข้ามาเปลี่ยนบ้าง มาทำความสะอาดกระถางธูปเทียนบ้าง ฯลฯ จนกระทั่งวันหนึ่งง้วงจึงเอ่ยปากถามเมื่อเห็นจันทร์ชมพูไหว้พระไปร้องไห้ไป
"มีเรื่องไม่สบายใจอะไร"
จันทร์ชมพูเงยหน้าขึ้นมาในสภาพน้ำตานองหน้า "หนูทำผิด หนูอยากจะพูดความจริงแต่หนูทำ
ไม่ได้"
"ทำไมถึงทำไม่ได้"
"พวกเขาจะทำร้ายพ่อแม่หนู ซินแสคะ ถ้าเราต้องทำบาปเพื่อช่วยพ่อแม่เรา บาปนั้นจะหนักหนามั้ยคะ"
"ถ้าไม่หนัก มันคงไม่ติดอยู่ในใจลื้อ จนต้องมาไหว้พระทุกวันอย่างนี้"
"แล้วจันทร์จะทำยังไงดีคะ ถ้าจันทร์มาสวดมนต์ทุกวัน จะทำให้บาปกรรมเบาลงมั้ยคะ"
"การสวดมนต์คือการรวบรวมสมาธิทบทวนในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ถ้าเราละเลิกที่จะทำชั่วได้ การสวดมนต์ก็ได้ประโยชน์ แต่ถ้าสวดแล้วยังมุ่งที่จะทำผิดมันก็เปล่าประโยชน์ บาปบุญอยู่ที่การกระทำของเรา"
ง้วงว่า
เหตุการณ์ปัจจุบัน ซินแสง้วงก้าวเข้ามาในส่วนหนึ่งของศาลเจ้าพร้อมธาม
"ถึงรู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร แต่อาจันทร์อีก็ยังมาสวดมนต์ทุกวัน อีคงหวังว่าเสียงของอีจะดังไปถึงสวรรค์ แล้วช่วงหนึ่งอีก็หายหน้าไปเป็นอาทิตย์ ก่อนที่อาพ้งจะพาอีมาให้อั๊วรักษาที่นี่"
"อีเป็นอะไร" ธามถาม
"ถูกอาเล้งฆ่าปิดปากหลังจากที่ยิงลื้อ พ่ออีตาย ตัวอีก็แทบไม่รอด อีถูกอาเล้งยิงบาดเจ็บสาหัส อั๊วรักษาอีอยู่ 6 เดือน เห็นอีฝันร้าย สะดุ้งตื่นกลางดึกทุกคืน" ง้วงเล่า
เหตุการณ์ในอดีตที่ง้วงเล่า จันทร์ชมพูหลับตาพึมพำในสภาพใบหน้ายังมีรอยฟกช้ำ เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลถูกกิ่งไม้เกี่ยว เธอยกมือไขว่คว้ากลางอากาศ
"พี่ธี จันทร์ขอโทษ.. ป๊า ม้า ยกโทษให้จันทร์ด้วย พ่อ..พ่อ อย่ายิงพ่อฉัน อย่ายิง" จันทร์ชมพูตะโกนลั่น "อย่า"
ง้วงเปิดประตูเข้ามา ในจังหวะที่จันทร์ชมพูผวาผุดลุกขึ้นนั่งมาในสภาพเหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้า
เธอเอามือปิดหน้าร้องไห้โฮ
"ตั้งสติ สงบใจให้ได้นะอาจันทร์"
"จันทร์จะทำได้ยังไง หลับตาครั้งไหน ภาพพ่อ ภาพพี่ธีก็ตามหลอกหลอนจันทร์ทุกครั้ง" จันทร์ชมพูร้องไห้โฮ
ง้วงได้แต่ยืนมองจันทร์ชมพูด้วยความสงสาร
เหตุการณ์ปัจจุบัน ซินแสเดินคุยกับธามมาตามทาง
"จนอีสงบและรู้สึกดีขึ้น อาพ้งก็มารับตัวอีกลับไปหาแม่ที่ภูเก็ต แล้วอีก็เหมือนตายทั้งเป็นอีกครั้งเมื่อรู้ว่าแม่อีถูกฆ่าตายไปนานแล้ว อีรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือเสี่ยเล้ง"
"คนอย่างไอ้เล้งมันน่าจะต้องทรมานเพราะเวรกรรมที่มันก่อ มันไม่น่าชิงฆ่าตัวตายไปก่อนเลย" ธามว่า
"อาพ้งพาอีไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้เพื่อความปลอดภัย อีส่งของจากเซี่ยงไฮ้มาให้อั๊วทุกเดือน อีขอให้อั๊วเก็บรักษาของพวกนั้นและช่วยส่งต่อให้อาธี อาจันทร์ไม่เชื่อว่าลื้อตายแล้ว และของที่อีส่งมาก็ยังอยู่ที่นี่ทุกชิ้น" พ้งบอก
ธามหันมามองหน้าง้วงด้วยความสงสัย
ซินแสง้วงส่งหีบไม้ให้ธาม ธามรับมาเปิดดู เขาเห็นว่าในหีบไม้เต็มไปด้วยผ้าเช็ดหน้าที่พับซ้อนเป็นตั้งๆ จนเต็มหีบ ธามคลี่ผ้าเช็ดหน้าออกดูแล้วก็ช็อกเพราะมันคือผ้าที่ปักลายเดียวแบบเดียวกับที่ผู้หญิงซึ่งช่วยชีวิตเขาที่เซี่ยงไฮ้ให้ไว้ทุกประการ เขาเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่เขาตามหามานานหลายปีคือย่าหยาเองหรือนี่
ที่เซียงไฮ้ในปี พ.ศ. 2496 กลุ่มนักเลงที่กำลังรุมชกตีใครคนหนึ่งอยู่ตรงกลาง นักเลงกระชากถุงเงินจากชายคนที่ถูกรุมตีมาทำให้เห็นว่าคือ เฉียง เฉียงโผเข้ามาดึงถุงเงินจากนักเลง
เฉียงขอร้องด้วยภาษาจีนกลาง "ป่าหว่อเตอะเฉียนหวนเก่ยหว่อ (เอาเงินอั๊วคืนมา) หว่อเอี้ยวหนาเฉียนชุ่ยใหม่เอี่ยวเก่ยไหจื่อ (อั๊วจะเอาไปซื้อยาให้ลูก)”
ชายนักเลงไม่คืนถุงเงินให้แถมยังให้เพื่อนๆ รุมเฉียงต่อจนหมอบ กลุ่มนักเลงเดินผละออกมา เฉียงไม่ยอมตามมายื้อเงินคืน
"หว่อไหจื่อฟาเซา (ลูกอั๊วเป็นไข้) ทาโชวจิง (อีชัก) ทาอีติ้งเอี้ยวชื่อเอี่ยว (อีต้องกินยา)”
กลุ่มนักเลงไม่สนใจแถมยังรุมยำเฉียงอีก ทันใดนั้นธามก็ถือไม้หน้าสามเข้ามากระโดดฟาดกลุ่มนักเลง
นักเลงหันมาหาธาม "หนีเสี่ยงซื่อมะ (ลื้ออยากตายใช่มั้ย)”
กลุ่มนักเลงกรูเข้ามารุมธาม ธามสู้สุดตัวแต่ด้วยความที่เพิ่งฝึกเรียนการต่อสู้ได้ไม่นานทำให้ธามถูกชกถูกตีกลับน่วม แต่เขาก็หลอกล่อโดยมีเฉียงคอยช่วยสู้แบบงูๆปลาๆ สุดท้ายธามดึงเอาถุงเงินคืนมาจนได้
ธามหันไปหาเฉียงแล้วโยนถุงเงินคืนให้ "กั่นไขว่เผ่า ( หนีเร็ว)”
ธามรีบวิ่งหนีออกมากับเฉียง โดยมีกลุ่มนักเลงวิ่งตามมาอย่างยัวะอยู่ไกลๆ
ธามวิ่งเข้ามากับเฉียง
"หนีหวั่งน่าเปียนโจ่ว (ลื้อแยกไปทางนั้น) หว่อเอี้ยวหยิ่นทาเมินเต้าเจ้อเปียนไหล (อั๊วจะล่อพวกมันมาทางนี้)”
"น่าหนีจิ้วเป่ยเหรินต่าโละ (ลื้อก็โดนพวกมันรุมน่ะซิ)”
"ปู่เอี้ยวตันซินหว่อ (ไม่ต้องห่วงอั๊ว) เถาเผ่า (หนีเอาตัวรอดไป) หนี่ไหจื่อเติ่งเจอะ (ลูกลื้อรอยาอยู่)”
เฉียงจะวิ่งแยกไปแต่แล้วก็หันกลับมาถาม
"หนินกุ้ยซิ่ง (เฮียชื่ออะไร)”
ธามพะวักพะวงมองไปทางด้านหลัง "หว่อเจี้ยวธาม"
เฉียงซึ้งใจ "ธามต้าเกอ (เฮียธาม) ..โย่วอีเทียนหว่อหุ้ยเป้าต๋าต้าเกอ (สักวันอั๊วจะกลับมาตอบแทนบุญคุณเฮีย)”
เสียงพวกนักเลงวิ่งตามมาทางด้านหลัง ธามรีบวิ่งแยกไปอีกทาง พวกนักเลงเห็นธามก็วิ่งตาม
เฉียงจำใจวิ่งหนีออกไปอีกทาง นักเลงไล่ธามจนทันทั้งกลุ่มตั้งวงล้อมธามเพื่อไม่ให้หนี แล้วต่างคนต่างก็เข้ามารุมชกรุมกระทืบ
ธามพยายามสู้สุดตัวแต่ฝีมือที่ยังอ่อนด้อยทำให้สู้พวกหมาหมู่ไม่ได้ เจ๊กลากรถวิ่งผ่านมา ใครคนหนึ่งชะโงกหน้าออกมานอกรถแล้วเห็นผู้ชายคนเดียวโดนผู้ชายอีก 5 คนรุม คนที่โผล่หน้าออกมามองคือ ย่าหยา ย่าหยาเห็นนักเลงเอาไม้ฟาดหัวผู้ชายที่ถูกรุมคนนั้นอย่างแรงจนเลือดไหลอาบหน้า
ย่าหยาสะกิดให้เจ๊กลากรถจอดแล้วตะโกนลั่น "จิ่งฉา (ตำรวจ)”
กลุ่มนักเลงชะงักหันมามองย่าหยา
"จิ่งฉาไหลเลอ (ตำรวจมา)" ย่าหยาชี้ไปทางด้านหลัง
นักเลง 5คน มองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วพากันวิ่งหายไปในความมืด
ย่าหยารีบลงจากรถแล้ววิ่งตรงมาที่ชายหนุ่มซึ่งนอนฟุบหน้ากับพื้นโดยไม่รู้ว่าเป็นใคร
"กั่นไขว้ซ่างเชอ (รีบไปขึ้นรถเร็ว)”
ย่าหยาประคองธามขึ้นมาโดยมีเจ๊กลากรถวิ่งมาช่วยลากธามขึ้นไปนั่งบนรถ ธามพยายามรี่ตามองว่าผู้หญิงที่ช่วยเขาคือใครแต่เลือดที่ไหลอาบลงมาที่หน้าก็ทำให้ตาของเขาพร่าเลือน ย่าหยาเปิดกระเป๋าหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ตั้งใจจะส่งให้ชลธียื่นให้ธาม
"ย่งไหล่เปาจ่าจื๋อเซวี่ย (เอาไว้ซับเลือด)”
ธามรับผ้ามาค่อยๆ เช็ดเลือดที่หน้า
ย่าหยายื่นเงินให้เจ๊กลากรถ "ซ่งทาเต้าเจีย (ไปส่งเขาที่บ้าน) ทาเหมินฟ่านหุยไหลจือเฉียนเซียนโจ๋ว (รีบไปก่อนที่พวกมันจะย้อนกลับมา)”
ธามเช็ดเลือดออกจากตาเสร็จก็หันมาถาม "หนินกุ้ยซิ่ง (คุณชื่ออะไร)”
ย่าหยาไม่ทันได้ตอบ เจ๊กลากรถก็วิ่งออกไปจากที่ตรงนั้น
เมื่อธามชะโงกหน้าออกมามองที่นอกรถก็เห็นหลังผู้หญิงที่ช่วยเขาวิ่งห่างเขาไปไกลและไกลขึ้นทุกที
ธามน้ำตาคลอ
"ผมถือผ้าเช็ดหน้าไปยืนรอผู้หญิงคนนั้นตรงที่ที่ผมเจอเธอทุกวัน รอ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร หน้าตาเป็นยังไง"
ณ ถนนเมืองเซียงไฮ้ในอดีต ธามถือผ้าเช็ดหน้าเดินถามผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาว่าเป็นเจ้าของผ้าผืนนี้หรือเปล่า สาวๆพากันส่ายหน้า ปีแรกธามถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความหวัง แต่พอนานไปเขาก็มีสีหน้าเจื่อน จ๋อย จนกลายเป็นหมดหวัง ธามถือผ้าเช็ดหน้าเดินคอตกขึ้นมาบนสะพานแล้วเท้าแขนกับราวสะพานมองสายน้ำที่อยู่เบื้องล่างอย่างเหนื่อยหน่ายใจโดยหารู้ไม่ว่าที่อีกฟากหนึ่งของสะพานนั้นเองที่ย่าหยายืนหันหลังมองสายน้ำอยู่อีกฟาก ทั้งคู่เหม่อมองสายน้ำกันสักพักก่อนจะถอนตัวออกมาจากราวสะพานแล้วเดินออกไปคนละทางโดยไม่เห็นกัน
เหตุการณ์ปัจจุบัน ซินแสรับฟังเรื่องราวต่างๆอย่างเข้าใจชีวิต
"ผู้หญิงคนนั้นคืออาจันทร์ ตัวอักษร ”ต้าไห่” ที่อีปักบนผ้าเช็ดหน้า มันหมายถึงลื้อ ลื้อเคยบอกอั๊วว่า “ชลธี” แปลว่า “ทะเล” / “ต้าไห่” ก็แปลว่าทะเล"
ธามหดหู่และเสียใจ "ทำไมผมไม่เฉลี่ยวใจเลยสักนิด"
"อาจันทร์อีไม่ได้โหดร้ายอย่างที่ลื้อคิด อีก็เหมือนลื้อนั่นล่ะ..เป็นเหยื่อเสี่ยเล้งด้วยกันทั้งคู่ ลื้อต้องรู้จักให้อภัย"
"ผมให้อภัยเขาตั้งแต่วันที่เขาจากไปแล้วครับซินแส" น้ำตาคลอ "ที่เสียใจคือผมไม่มีโอกาสได้ขอบคุณผู้หญิงที่ช่วยชีวิตผมที่เซี่ยงไฮ้เลย"
ธามกัดฟันไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ง้วงมองธามโดยเอามือแตะหลังเพื่อให้กำลังใจ
ธามเดินมาตามทางอย่างโดดเดี่ยวและเศร้าหมอง
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา ทั้งภาพจันทร์ชมพูบอกลาก่อนสะบัดมือหนีเขา ภาพย่าหยาบอกรัก ภาพย่าหยาเสี่ยงชีวิตวิ่งเอาตัวบังกระสุนให้เขาสองครั้งสองครา ภาพย่าหยาประคองเขาขึ้นรถเจ๊กแล้วให้ผ้าเช็ดหน้า ภาพทั้งหมดวนเวียนอยู่ในหัวของเขา
ธามน้ำตาซึม ด้วยความเก็บกดและอึดอัดว่าทำไมเขามารู้ความจริงเมื่อทุกอย่างสายไปแล้ว ธามเอามือชกกำแพงเพื่อระบายอารมณ์ว่าทำไมฟ้าดินต้องลงโทษเขาขนาดนี้
ธามเดินหน้าเศร้ากลับเข้ามาในบ้าน เฉียงเอาน้ำชาออกมาเสิร์ฟ
"น้ำชาครับเฮีย"
"โบตั๋นเป็นยังไงบ้าง"
"ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ"
"พาอีกลับไปอยู่กับอาม้ากับฉิงฉิงที่เซี่ยงไฮ้..อาเฉียง ทางนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง เสี่ยเล้งก็ตายไปแล้ว"
"แต่อั๊วอยากดูแลเฮีย อั๊วอยากตอบแทนบุญคุณเฮียที่ช่วยชีวิตอั๊วกับลูกไว้"
"ลื้อตอบแทนบุญคุณอั๊วมามากพอแล้ว ลื้อมีแม่มีเมียมีลูก ลื้อควรได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"
"แต่อั๊ว"
"ครอบครัวสำคัญที่สุด และต้องมาก่อนทุกอย่าง อาเฉียง"
เฉียงน้ำตาซึม "ตั้งแต่วันแรกที่อั๊วเจอเฮียจนถึงวันนี้ เฮียช่วยเหลืออั๊วมาตลอด อั๊วไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณเฮียยังไง ให้อั๊วกราบเฮียเหมือนที่คนไทยเขากราบพ่อสักครั้ง จะได้มั้ย"
ธามมองลูกน้องมือขวาแล้วก็น้ำตาซึมเมื่อรับรู้ถึงความรักความซื่อสัตย์ที่มีให้กันอย่างมากมาย
เฉียงก้มลงกราบเท้าธามเหมือนลูกที่ก้มลงกราบพ่อด้วยความรัก เทิดทูนและศรัทธา
"ดูแลครอบครัวให้ดีที่สุดนะอาเฉียง" ธามอวยพร
"ครับเฮีย" เฉียงนึกขึ้นได้จึงเดินไปหยิบจดหมาย "อ้อ มีจดหมายถึงเฮียครับ อั๊วเพิ่งเปิดเจอ น่าจะค้างอยู่ในตู้หน้าบ้านหลายวันแล้ว"
เฉียงยื่นจดหมายให้ธาม
ธามเปิดจดหมายออกอ่านในห้องทำงานของเขา เพียงแค่เห็นประโยคแรกธามก็มือสั่น ใจสั่นเพราะมันเป็นจดหมายของย่าหยาที่เขียนมาถึงเขา
"คุณธามคะ กว่าจดหมายฉบับนี้จะถึงมือคุณ คุณคงรู้แล้วว่าฉันคือจันทร์ชมพู และฉันได้ตายจากคุณไปแล้ว ไม่ว่าจะตายด้วยมือคุณ หรือจะด้วยวิธีไหน ฉันเลือกแล้วที่จะให้มันเป็นอย่างนั้น ฉันอยากชดใช้ให้คุณ เพียงแต่เสียดายที่ช่วงเวลาที่ต้องชดใช้มาถึงเร็วเกินไป ฉันอยากจะอยู่กับคุณให้นานกว่านี้"
เหตุการณ์ในอดีต ย่าหยาเขียนจดหมายถึงธามที่โต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนเหตุการณ์ปัจจุบันคือธามกำลังอ่านจดหมายฉบับนั้นอยู่
"คุณรู้มั้ย วินาทีที่ฉันรู้ว่าคุณคือพี่ธี เป็นวินาทีที่ฉันดีใจที่สุด ดีใจที่คุณยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นวินาทีที่ฉันเจ็บปวดที่สุด เพราะรู้ว่าชีวิตคู่ของเราสองคน จบลงแล้ว"
"ขอบคุณจิตใจอันดีงาม รอยยิ้ม ความอ่อนโยนของพี่ธีที่มีต่อจันทร์ชมพู ขอบคุณความรัก ความห่วงใย ความเชื่อใจที่เฮียกระทิงมีให้กับย่าหยา ฉันจะไม่มีวันลืม ฉันขอโทษที่ตลอดเวลา ฉันสร้างแต่ความทุกข์กายทุกข์ใจให้คุณ แต่ก็อยากให้คุณรู้ว่า ทุกครั้งที่คุณเจ็บปวด ฉันเองก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าคุณ สุดท้ายนี้..ฉันอยากขอบคุณฟ้าที่ทำให้เราได้มาเจอกัน รักกัน ฉันจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้จนลมหายใจสุดท้าย สำหรับพี่ธี จันทร์ขอชดใช้ให้พี่ธีด้วยชีวิต สำหรับคุณธาม ฉันจะไม่ขอให้คุณอภัยให้ฉัน แต่ได้โปรดอย่าโกรธเกลียดฉัน จนลืมความสุขในชีวิต เพราะถึงอย่างไร ฉันก็อยากให้คุณพบเจอคนที่ดี มีความรักที่สวยงาม และมีความสุขตลอดไป ลาก่อน ย่าหยา"
ธามนั่งจมอยู่ในห้องนอนด้วยน้ำตาไหลนองหน้า จดหมายย่าหยายังอยู่ในมือของเขา
"ความรักที่สวยงาม ความสุข ฉันเคยเจอมาแล้ว ย่าหยา มันจบที่เธอแล้ว"
ธามรู้สึกใจสลายว่าทำไมเขาถึงคิดถึงย่าหยาได้มากมายขนาดนี้
วันต่อมา จิวเดินเข้ามาในบ้านแล้วมองหาธาม พอยังไม่เห็นว่าเขาลงมาจึงเดินไปชงกาแฟให้ ธามเดินลงมาจากชั้นบนเข้ามาที่ห้อง
"ลื้อไปเตรียมรถ อั๊วจะไปไหว้ป๊าม้าที่ชลบุรี พรุ่งนี้มีประชุมใหญ่ที่สมาคมอั๊วอยากไปบอกอีว่า เราจะเริ่มงานกันอย่างจริงจังแล้ว"
"ครับ เฮีย"
จิวเสิร์ฟกาแฟให้ธาม ธามมองถ้วยกาแฟบนโต๊ะแล้วก็สะท้อนใจ
เหตุการณ์ในอดีต ธามยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มแล้วก็ชะงักหันมามองย่าหยา
"รสชาติดีมาก"
ย่าหยายิ้มมีความสุข "ต่อไปนี้ไม่ต้องให้อาเฉียง อาจิวชงให้แล้วนะคะ เพราะมันเป็นหน้าที่ของภรรยาค่ะ"
ธามส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ภรรยาก่อนจะเข้ามากอดหอมภรรยาจนชุ่มปอด
เหตุการณ์ปัจจุบัน ธามจิบกาแฟด้วยความเศร้า ทุกมุมในบ้านหลังนี้มีภาพความทรงจำระหว่างเขากับย่าหยาเต็มไปหมด
ณ สุสานตระกูลตั้ง ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งคุกเข่าไหว้ตั้งเช็งเอี๊ยงกับหลิวเจียหลินอยู่ ธามเดินไต่มาตามเนินมุ่งหน้ามาที่สุสานไกลๆ
ธามเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ยังห่างไกล ผู้หญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพก็คือ ย่าหยา
ธามโผล่เข้ามาที่หน้าสุสานในลักษณะที่เหมือนจะเจอย่าหยา แต่เขาพบเพียงธูปที่ปักในกระถางอยู่เพียงดอกเดียว ธามหันไปมองรอบตัวก็ไม่เห็นเงาใครนอกจากความว่างเปล่า ธามรู้สึกแปลกใจว่าใครมาไหว้พ่อแม่ของเขา
เช้าวันใหม่ ธามก้าวเข้ามาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่หน้ากระจกอย่างเศร้าๆ
เหตุการณ์ในอดีต ย่าหยาก้าวเข้ามากลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ธาม ธามมองย่าหยาแล้วก็ยิ้มชวนฝัน
"แบบนี้จะทำให้ฉันเคยตัว เพราะฉะนั้นต้องทำให้ทุกวันนะ"
ย่าหยายิ้มเขิน "ค่ะ จะทำให้จนกว่าคุณอยากจะให้คนอื่นมาทำแทน"
"ไม่มีวัน คนตระกูลตั้งรักเดียวใจเดียว"
ย่าหยาเขินมาก "ผู้ชายมีหนวดหน้าดุแบบนี้ ปากหวานก็เป็นด้วย"
"ไม่ได้ปากหวาน ฉันพูดจริง ไม่ได้พูดพร่ำเพรื่อกับใคร กับผู้หญิงคนนี้คนเดียว"
ย่าหยายิ้มและหัวใจพองโต เธอติดหูกระต่ายให้ธาม "ผู้หญิงคนนี้รักคุณธามมากค่ะ"
ธามก้มลงจูบที่หน้าผากย่าหยา
เหตุการณ์ปัจจุบัน ธามหยิบหูกระต่ายบนโต๊ะขึ้นมาติดเอง เขาพบว่าการที่ต้องอยู่โดยไม่มีย่าหยา มันช่างทรมานเหลือเกิน
ถ้วยกาแฟควันขึ้นฉุยตั้งอยู่บนโต๊ะ ธามเดินเข้ามานั่งจิบกาแฟแต่แล้วเขาก็ต้องชะงักกึกกับรสชาติที่คุ้นลิ้นเหลือเกิน จิวเดินเข้ามาในห้อง ธามเอ่ยถาม
"ใครชงกาแฟ"
"ไม่รู้สิเฮีย ใครล่ะ อาเฉียงก็ไม่อยู่แล้ว อั๊วก็เพิ่งไปเอารถมา"
ธามหันขวับไปมองรอบๆห้อง แล้วเขาก็ใจสั่น มือสั่น อยากรู้ว่าใครกัน
จิวหันมามองที่โต๊ะอีกตัว "นี่กล่องของขวัญใคร" จิวหยิบของขวัญมายื่นให้ธาม
ธามแกะกล่องออกดูแล้วหัวใจก็เต้นโครมครามจนแทบทะลุออกมานอกอก เมื่อพบว่าของที่อยู่ในกล่องคือผ้าเช็ดหน้าแบบเดิมลายเดิมกับที่เขาเคยได้เป๊ะ
ธามยิ้มละไม เป็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าเป็นครั้งแรกหลังจากเหตุการณ์ที่ตึกร้าง เขาบรรจงพับผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋าเสื้อตรงหัวใจตัวเองพอดี
"รถพร้อมแล้วเฮีย" จิวบอก
"วันนี้ฉันอยากเดิน" ธามบอก
ธามเดินแตะผ้าเช็ดหน้าออกไปอย่างอารมณ์ดีจนจิวแปลกใจ
ท้องฟ้ายามเช้าสดใส ธามเดินฝ่าผู้คนที่เดินไปมาหน้าตาเบิกบาน ควันที่โชยออกมาจากร้านค้าและรถเข็นข้างทางทำให้โลกในเช้าวันนี้ช่างมีชีวิตชีวา
ธามคิดในใจ "ขอบคุณเช้าวันใหม่ อากาศที่สดชื่น แสงแดดอันอบอุ่น กับของขวัญที่มีค่าที่สุด ชีวิตคนเราผ่านพายุร้ายมาได้ก็ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวัง แต่มันจะมีความสุขมากแค่ไหน ถ้าบนเส้นทางที่ต้องเดินนั้น มีใครอีกคนเคียงข้าง..ฉันหวังว่าฉันจะไม่ได้มีชีวิตอยู่กับเงาของใคร ฉันจะรอวันนั้น วันที่เราพร้อมจะยืนและเดินไปด้วยกัน"
ธามมีความสุขจนนึกครึ้มใจ เขาเอามือล้วงกระเป๋าผิวปากเพลง Ye Lai Xiang ผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านไป ธามและผู้หญิงคนนั้นเดินสวนกัน ช่วงที่เดินผ่านกันผู้หญิงคนนั้นชะงักนิดหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงผิวปากของชายหนุ่ม
ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาทำให้เห็นว่าเธอคือ ย่าหยา ที่ดูงดงามมาก หญิงสาวเผยอยิ้ม น้ำตารื้นอย่างอิ่มเอมที่รู้ว่าเขาคนนั้นยังไม่ลืมเธอ เธอก้าวเดินผ่านธาม ทั้งคู่เดินสวนกัน ท่ามกลางผู้คนมากมาย
ธามเดินมุ่งมั่นไปข้างหน้าอย่างมีกำลังใจเปี่ยมล้นและเต็มไปด้วยความหวังคงมีสักวันที่ผู้หญิงซึ่งเพิ่งเดินผ่านเขาไปจะเวียนกลับมาเดินเคียงข้างเขาอีกครั้ง
-จบบริบูรณ์-