เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 7
เกี๊ยงกับฮกยืนรอเล้งอยู่ที่รถ สักครู่เล้งก็หิ้วกระเป๋าเงินวิ่งมา
ฮกเปิดประตูให้เล้งขึ้นไปนั่ง เกี๊ยงอ้อมมาทำหน้าที่ขับรถให้ ฮกขึ้นรถ เกี๊ยงออกรถแรงแต่แล้วก็ต้องเบรกเอี๊ยดจนหน้าทิ่มเมื่อรถมอเตอร์ไซด์ไอ้โม่งคนที่สองวิ่งออกมาจากข้างทางตัดหน้ารถ
ไอ้โม่งคนที่สองเล็งปืนในมือมาที่เล้งเตรียมลั่นไก แต่รถมอเตอร์ไซด์ไอ้โม่งคนที่หนึ่งแล่นเข้ามาจากอีกทาง แล้วเล็งปืนลั่นไกใส่ไอ้โม่งคนที่สอง ลูกปืนพลาดเป้าเพราะไอ้โม่งคนที่สองหันมาเห็นแล้วเบี่ยงตัวหลบทัน พร้อมกับเลี้ยวปร๊าดออกมาตั้งหลัก
เล้งตะโกนสั่งเกี๊ยง "ไปสิวะ"
เกี๊ยงออกรถทันที ไอ้โม่งคนที่สองจะไล่ตาม แต่ไอ้โม่งคนที่หนึ่งบิดรถมาขวางกันไว้ เพื่อให้เกี๊ยงขับรถหนีไปได้ ไอ้โม่งคนที่สองหันมามองไอ้โม่งคนที่หนึ่ง
ไอ้โม่งคนที่หนึ่งบิดหนี ไอ้โม่งคนที่สองบิดตาม ทั้งสองขี่มอเตอร์ไซด์ไล่บี้ปาดหน้ากันไปมาฉวัดเฉวียนน่าหวาดเสียว ทั้งคู่ยิงใส่กัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็อาศัยความไวหลบลูกปืนของแต่ละฝ่ายได้ ทั้งสองยิงใส่กันจนกระสุนหมด ทั้งคู่โยนปืนลงข้างถนน แล้วขึ่รถสวนกันเพื่อไปตั้งหลักโดยห่างกันสัก 100 เมตร
ทั้งสองบิดคันเร่งเบิ้ลเครื่องแล้วเร่งความเร็ววิ่งพุ่งเข้ามาหากัน ต่างฝ่ายต่างเร่งความเร็ว ช่วงที่มอเตอร์ไซด์สวนกัน ต่างคนต่างชักอาวุธที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมาแล้วเงื้อเหมือนจะแทงเข้าที่หัวของอีกฝ่ายแต่ด้วยความเร็วและแรงของรถ รวมทั้งประสบการณ์การต่อสู้ ความไวที่ทั้งคู่ได้รับการฝึกมาอย่างดี ทำให้อาวุธของแต่ละฝ่ายซึ่งก็คือกรรไกรของแก๊งกระทิง และมีดสั้นของแก๊งมังกรดำเกี่ยวตัดได้แค่หมวกไหมพรมทำให้หมวกไหมพรมขาดออกจากกัน
ทั้งคู่เลี้ยวรถและหันกลับมาเผชิญหน้ากัน เปิดให้เห็นว่าไอ้โม่งคนที่สองคือ ธาม และไอ้โม่งคนที่หนึ่งก็คือ เฉียง
ธามอึ้งชายิ่งกว่าถูกมีดของแก๊งมังกรดำปักกลางกบาล เฉียงลืมหายใจและอยากจะให้ธรณีสูบตัวเองซะเดี๋ยวนี้
ธามมองมีดในมือเฉียงอย่างโกรธแค้น "เจอคราวหน้า ลื้อไม่ต้องปิดหน้าให้เสียเวลา"
พูดจบธามก็ขี่มอเตอร์ไซด์และขบกรามแน่นออกมาด้วยความแค้น เฉียงมองตามธาม เขาขบกรามแน่นเหมือนกันแต่เพื่อบังคับตัวเองไม่ให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินออกมา
เล้งเดินเข้าไปในภัตตาคาร โบตั๋นยืนร้องเพลงบนเวที เล้งขยับเนกไทดูหล่อและหอมฟุ้งมาก เหมือนไม่ได้ไปทำอะไรมาก่อนหน้านี้ เล้งขยับลงนั่งโต๊ะประจำ หยกมณีพุ่งเข้ามาฉอเลาะเหมือนเดิม
"ย่าหยาล่ะ” เล้งถาม
หยกมณีทำงอน "แหม เสี่ยน่ะ หยกน้อยใจจริงๆนะคะเนี่ย เดี๋ยวนี้หายใจเข้าออกเป็นอาหยาตลอด เอาหยกไปไว้ที่ไหนแล้วคะ"
เล้งตัดบทด้วยการหยิบสร้อยทองเส้นละ 5 บาทจากกระเป๋าเสื้อสูทส่งให้
"ไปตามอาหยาที ไป"
เสียงย่าหยาดังขึ้น "ไม่ต้องตาม ฉันมาแล้วค่ะ"
เล้งหันไปมอง ย่าหยาซึ่งใส่ชุดกระโปรงของธามก้าวเข้ามา เธอช่างสวยสง่า เลอค่าจริงๆ เล้งตะลึง
จิวขับรถธามเข้ามาจอดเทียบหน้าฉั่วเทียนเหลา ธามในชุดสูทก้าวลงจากรถอย่างเท่และเนี๊ยบตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าราวกับไม่ได้ผ่านสมรภูมิมาก่อน ธามปิดประตู จิวขับรถออกไป ชายหนุ่มขยับเดินไปที่ฉั่วเทียนเหลา ย่าหยาเดินออกมาพร้อมเล้งด้วยสีหน้าระรื่นเบิกบานสุดๆ ทั้ง 3 คน ยืนประจันหน้ากัน
ธามเอ่ยถาม "จะไปไหนกันครับ"
"บางปู อั๊วสัญญาว่าจะมารับอาหยา อั๊วก็ต้องมา" เล้งบอก
"ฉันเชื่อเสี่ยค่ะ"
ธามพูดกับย่าหยา "ชุดสวยดีนะ"
ย่าหยาหน้าร้อนผ่าว
"ทำไมไม่ใส่ชุดที่ฉันซื้อให้ล่ะ ฉันเลือกกับมือเลยนะ" เล้งถาม
"คือ..ชุดนั้นมัน เอ่อ คับไปหน่อยน่ะค่ะ"
ธามถามต่อ "งั้นชุดนี้ใครเลือกให้ล่ะ ใส่ได้พอดี เหมือนรู้ไซส์"
ย่าหยารู้สึกร้อนผ่าวเป็นครั้งที่2 เธอรีบตัดบทแบบเหน็บๆ "แถวนี้อากาศอบอ้าวจังนะคะ ฉัน
ว่า เราไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ไปรับลมเย็นๆที่บางปูกันเถอะค่ะ"
เล้งพยักหน้า ยิ้มแล้วส่งแขนให้ย่าหยา เขารู้สึกว่าโลกนี้สวยงามเสมอเมื่อได้มองหน้าผู้หญิงคนนี้
ย่าหยายิ้มหวานให้เล้ง เป็นครั้งแรกที่เธอยอมเกาะแขนเล้งก่อนจะขยับเดิน
ย่าหยาเดินผ่านธาม ช่วงที่เดินผ่านกัน ธามแอบหันมามองย่าหยาเล็กๆ ธามหน้านิ่งและหงิกเล็กๆ
เขารู้สึกว่าจะเสียลูกน้องที่เขารักและผู้หญิงที่เขาก็มีใจให้ นึกถึงตรงนี้แล้วธามใจหายวาบ เขารักย่าหยาเข้าแล้วหรือนี่
เล้งควงย่าหยาออกมา สุ่ยเดินเข้ามา
สุ่ยที่ทำหน้าผมเช้งกระเด๊ะเอ่ยถามเสียงหวาน "จะไปไหนคะเสี่ย"
ธามได้ยินเสียงสุ่ยก็ยิ้มมุมปากนิดหนึ่งก่อนจะเดินเชิดๆ เข้าไปในฉั่วเทียนเหลา
"พาย่าหยาไปเต้นรำที่บางปู" เล้งบอก
"อ๊าย ไม่ได้นะคะเสี่ย วันนี้วันเกิดสุ่ย สุ่ยอยากให้แขกประจำอยู่ฉลองกับสุ่ยด้วยน่ะค่ะ นะคะ"
เล้งหันไปมองย่าหยาพร้อมทั้งส่งสายตาถามกลายๆ ว่าจะเอายังไงดี
โบตั๋นกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที ธามเดินเข้าไปด้านใน โบตั๋นหันมาเห็นธามแล้วแทบร้องเพลงต่อไม่ได้ ธามมองโบตั๋นแล้วทำเหมือนเห็นคนแปลกหน้า เขาเดินไปนั่งโต๊ะประจำ ในขณะที่โบตั๋นพยายามอย่างยิ่งที่จะประคับประคองตัวเองให้ร้องเพลงไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ย่าหยา เล้ง และสุ่ยเดินกลับเข้ามาด้านใน หยกมณีเข้ามาทัก
"ร้านเอาชุดมาส่งแล้วแจ้ สวยเชียว"
สุ่ยพูดกับเล้ง "สุ่ยขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะค้า" สุ่ยเดินไปทางห้องทำงาน
"เลยอดไปบางปูเลยนะคะเสี่ย"
"อั๊วอยู่ที่ไหนก็ได้ที่มีอาหยาอยู่ด้วย"
"แจ้รู้จักเสี่ยมาเป็นสิบปียังไม่เคยได้ยินเสี่ยพูดหวานๆกับใครอย่างนี้มาก่อนเลยน่าอิจฉาอาหยาจริงๆ"
ย่าหยาไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้มหวาน เล้งยิ่งมองยิ่งหลง
"ลื้อร้องเพลงโปรดอั๊วนะอาหยก อั๊วจะเต้นรำกับอาหยาที่นี่" เล้งว่า
"ได้ค่ะเสี่ย" หยกมณีรับคำ
หยกมณีเดินออกไป เล้งมองย่าหยาด้วยแววตาหวานซึ้ง
โบตั๋นร้องเพลงในท่อนสุดท้ายจบลงก็ทอดสายตามองธาม ธามมองโบตั๋นหน้านิ่งด้วยแววตาที่ปราศจากความรู้สึกรัก ผูกพัน โกรธ เกลียดใดใดทั้งสิ้น โบตั๋นรีบหลบสายตาอันเย็นชาและเมินเฉยนั้นก่อนจะเดินลงเวทีไป หยกมณีเดินขึ้นเวทีไปแทนที่ ย่าหยาควงเล้งเดินผ่ากลางห้องมา
"คืนนี้มีแขกพิเศษขอเพลงYe Lai Xiang(เย่ ไหล เซียง) ค่ะแขกท่านไหนอยากเต้นรำ เชิญนะคะ"
ธามหันไปเห็นเล้งส่งตาหวานเยิ้มให้ย่าหยา
"เต้นรำกับฉันนะ อาหยา" เล้งชวน
ย่าหยายิ้มหวาน "ค่ะ"
เล้งโค้งให้ย่าหยาแล้วพาเดินออกไปกลางฟลอร์ ธามมองตาม อาการหึงแล่นพล่านไปทุกรูขุมขน แต่เขาก็ยังเก็บอาการ หยกมณีเริ่มร้องเพลง เล้งเต้นรำไปก็ชวนย่าหยาคุยไป
"ขอโทษนะ จนแล้วจนรอดฉันก็ไม่ได้พาเธอไปบางปูจนได้"
"ไม่เป็นไรค่ะ อยู่ที่นี่ก็ได้ร่วมยินดีกับคุณสุ่ย"
"เธอเคยไปบางปูมั้ย"
"ไม่เคยค่ะ"
"ที่นั่นบรรยากาศดี ลมเย็นสบาย โรแมนติกมาก" เล้งบอก
"บรรยากาศไม่สำคัญเท่ากับคนที่เราอยู่ด้วยค่ะ"
"ฉันเหมาเอาว่าเธอหมายถึงฉันนะ ย่าหยา"
ย่าหยามองตาเล้งหวานเยิ้ม "ฉันหมายถึงเสี่ยค่ะ"
เล้งยิ้ม เขารู้สึกอบอุ่นใจอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต ธามทั้งหึงทั้งหมั่นไส้ย่าหยาที่หว่านเสน่ห์ใส่เล้ง โบตั๋นแอบมองธามอยู่ที่มุมหนึ่งด้วยแววตาเศร้าสร้อย สักครู่ จิวก็เดินเข้ามาหาธาม
"มาแล้วครับเฮีย"
ธามพยักหน้ารับรู้แล้วตัดใจเดินตามจิวออกไป
ธามเดินคู่มากับจิว มิสเตอร์ลีลงจากรถซึ่งจอดอยู่ในมุมมืด
"มิสเตอร์ลี คุณโอเคนะ" ธามถาม
"ชัวร์" มิสเตอร์ลีตอบ "ได้ทองมาครบ แต่ ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องน่าหวาดเสียวอย่างนี้"
"เปลี่ยนใจทันนะ"
"ผมชอบเรื่องตื่นเต้นอีก 2 ครั้งที่เหลือคงไม่หนักหนาไปกว่านี้"
"มันสาหัสกว่านี้มาก พูดตรงๆมันอันตราย"
"ผมเชื่อว่าคนอย่างเฮียกระทิงคงไม่ปล่อยให้เพื่อนร่วมงานตายหรอก จริงมั้ย"
ธามยิ้มส่งมือให้มิสเตอร์ลีเช็คแฮนด์
"เดินทางปลอดภัย" ธามอวยพร
"แล้วเจอกัน"
มิสเตอร์ลีกลับขึ้นรถ จิวขับรถออกไป ธามมองตาม
หยกมณีร้องเพลงในท่อนสุดท้าย เล้งยังคงเต้นรำกับย่าหยาอย่างมีความสุข ธามเดินกลับเข้ามาเจอสุ่ยแต่งชุดใหม่เดินปิ๊งเข้ามาอย่างสมกับเป็นเจ้าของวันเกิด
"สวยมากครับคุณสุ่ย" ธามชม
"กะทันหันไปหน่อยค่ะเฮีย ถ้ามีเวลารับรองสวยเปิ๊ดสะก๊าดมากกว่านี้" สุ่ยว่า
ธามยกแขนให้สุ่ยควงแล้วเดินเข้ามาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หยกมณีร้องเพลงจบ แล้วเล้งพาย่าหยากลับไปนั่งที่โต๊ะ ทั้ง 4 คนเดินมาเจอกันกลางทาง
หยกมณีพูด "เจ้าของภัตตาคาร โสด สวย รวยอารมณ์ขัน เจ้านายที่แสนดีและขวัญใจของ
ลูกค้าในย่านนี้ทุกคน ขอเสียงปรบมือต้อนรับแจ้สุ่ยของพวกเรา และช่วยกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้แจ้สุ่ยด้วยค่า"
หยกมณีนำร้องเพลงแฮบปี้เบิร์ดเดย์กับลูกค้าทุกคน สุ่ยขอตัวธามขึ้นไปบนเวที ธามเหล่ย่าหยากับเล้งแวบหนึ่งก่อนจะเดินมาที่โต๊ะ ในขณะที่เล้งก็ขยับลงนั่งที่โต๊ะตัวเองพร้อมย่าหยา สุ่ยยืนอยู่บนเวที เพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์จบลงทุกคนปรบมือแสดงความยินดีกับสุ่ย
สุ่ยรู้สึกซาบซึ้ง "ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านมากนะคะที่ร่วมแสดงความยินดีกับสุ่ย สุ่ยขอตอบแทนทุกท่านด้วยการเสิร์ฟเมนูเด็ดทุกโต๊ะฟรีนะคะ ฟรี"
เสียงปรบมือชอบใจจากลูกค้าดังกระหึ่ม
"แต่เดี๋ยวค่า เฉพาะของคาวนะคะ ของหวานที่เฮีย เฮีย เฮียแล้วก็เฮีย แอบหนีเมียควงมา ไม่ฟรี เหล้ายาของมึนเมาทั้งหลายก็ ไม่ฟรี นะคะ บอกก่อน"
ลูกค้าหัวเราะขำกับลีลาอ้อล้อแขกแบบมีลูกล่อลูกชนของซือเจ๊ตัวจริง
"และ ที่สำคัญ บรรดาเจ้าพ่อและหัวหน้าแก๊งทั้งหลายที่นั่งอยู่ในนี้ วันนี้ฉลองวันเกิดกับสุ่ยด้วยการหยุดยิงกันที่นี่สักวันนะคะ สุ่ยขอร้อง"
ถึงตรงนี้ทุกคนก็ขำก๊ากกับมุกตลกร้ายของสุ่ย ทุกคนงงว่าใครขัดใจกับใครแล้วทำไมต้องมายิงกันที่นี่ทุกครั้ง
"เป็นเจ้าของวันเกิดก็อยากขอของขวัญบ้างนะคะ" สุ่ยว่า "มีท่านใดอยากจะเต้นรำกับสุ่ยบ้างคะ ไหนใครรู้ตัวว่าหล่อยกมือหน่อยเร้ว"
แขกผู้ชายทั้งหนุ่มทั้งแก่พากันยกมือพรึ่บโดยเล่นกับสุ่ยไปด้วย ยกเว้นธามกับเล้งเพราะมัวแต่เหล่กัน
สุ่ยพูดอย่างอารมณ์ดี "โอ้โห เยอะแยะไปหมดอยากจะลงไปโค้งทุกท่านเลยค่า แต่คิดว่าสังขารคงได้แค่รอบเดียว
เพราะฉะนั้นสุ่ยขออนุญาตเลือกคนที่หล่อที่สุด สมาร์ทที่สุด ดูดีที่สุดนะค้า"
สุ่ยเดินลงมาจากเวทีแล้วมุ่งหน้าไปที่ธาม แขกผู้หญิงที่แอบเชียร์ธามปรบมือกรี๊ดกร๊าด
สุ่ยเดินมาหยุดตรงหน้าธาม "เฮียกระทิงหล่อที่สุด สมาร์ทที่สุด ดูดีที่สุด แต่ สุ่ยว่าคนที่เหมาะจะเป็นคู่เต้นรำสุ่ยคืนนี้มากที่สุดคือคนนี้มากกว่า"
พูดจบสุ่ยก็กลับตัวเดินไปหาเล้ง
"ให้เกียรติเต้นรำกับสุ่ยนะคะเสี่ย"
เล้งยิ้ม เขารู้สึกพองเหมือนได้หักหน้าธามก่อนจะลุกขึ้นโค้งให้สุ่ยอย่างผึ่งผายแล้วพาเดินไปที่ฟลอร์ ดนตรีบรรเลง แค่โน้ต2-3 ตัวแรกก็ทำให้ธามกับย่าหยาหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย
ภาพในอดีตย้อนกลับมา ชลธีเปิดแผ่นบนเครื่องเล่นแผ่นเสียง เพลง Meng Zhong Renดังขึ้น
ชลธีหันมาหาจันทร์ชมพูซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้
จันทร์ชมพูเอ่ย "เพลงเพราะมากค่ะพี่ธี แต่ จันทร์เต้นรำไม่เป็น"
"ไม่มีใครเต้นเป็นเองหรอกจันทร์ พี่หัดให้" ชลธีบอก
"แต่ จันทร์ไม่ถนัดจริงๆ"
"เราจะเต้นเพลงนี้วันปิดภาคเรียนด้วยกัน มา"
ชลธีส่งมือให้จันทร์ชมพู
ย่าหยาอึ้งเมื่อธามส่งมือให้เธอ เพลงจากแผ่นเสียงในอดีตเชื่อมต่อกับเพลงที่หยกมณีร้อง ย่าหยาลุกขึ้นยืนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เล้งซึ่งกำลังเต้นอยู่กลางฟลอร์กับสุ่ยหันมาเห็นก็อึ้ง โบตั๋นเข้ามาแอบดูทั้งคู่อยู่ที่มุมหนึ่ง ธามโค้งให้ย่าหยาแล้วพาเธอออกไปเต้นรำ ย่าหยาเดินตามธาม แล้วภาพในอดีตก็ผุดขึ้นในความทรงจำของเธอ
ภาพในอดีตย้อนกลับมา ชลธีพาจันทร์ชมพูออกมาสอนสเต๊ปเต้นรำที่ระเบียง เสียงร้องของหยกมณีเชื่อมเข้ากับเสียงร้องของกง ชิว เสียในแผ่นเสียง จันทร์ชมพูพยายามจับสเต็ปแทงโก้ก้าวตามที่ชลธีสอนแต่ก็ก้าวผิดก้าวถูก ทั้งชลธีและจันทร์ชมพูต่างหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข
เหตุการณ์ปัจจุบัน ธามกับย่าหยากำลังเต้นรำกันที่ฟลอร์ด้วยหน้าตาท่าทางทั้งคู่เหมือนต่างคนต่างค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแววตาของอีกฝ่าย ทั้งคู่เต้นในจังหวะแทงโก้ที่ดุดันและร้อนแรง
ภาพชลธีกับจันทร์ชมพูเต้นแทงโก้ในจังหวะนุ่มนวลเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซ้อนทับกับการเต้นรำของธามกับย่าหยาที่ดุดัน เร่าร้อน ทั้งๆที่เป็นเพลงเดียวกัน
ธามกับย่าหยาเริ่มสับสนว่าตัวเองกำลังเต้นรำอยู่กับใคร
ธามเห็นคู่เต้นรำของเขาคือจันทร์ชมพูเธอส่งยิ้มอ่อนหวานและเสียงหัวเราะสดใสให้เขา
ส่วนย่าหยาเห็นว่าคนที่เต้นรำกับเธอคือ ชลธี ชายหนุ่มที่มีชีวิตชีวา สดใส และร่าเริง
ย่าหยามองชลธีอีกครั้งแล้วพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือ ธาม ธราธร ในขณะที่ธามเรียกสติกลับคืนมาแล้วพบว่าหญิงสาวที่เต้นรำอยู่ตรงหน้าไม่ใช่จันทร์ชมพู แต่คือย่าหยา
ทั้งคู่มองกันนิ่งขณะที่อยู่ในท่าเต้นซึ่งอยู่ในอ้อมกอดกันและกัน เล้งเหล่ด้วยอาการหึงมาก โบตั๋นซึ่งแอบดูอยู่มุมหนึ่งทนไม่ได้จึงวิ่งออกมาชนเฉียงซึ่งเดินเข้ามาหาเธอพอดี ย่าหยาสับสนคิดวนเวียนไปมาระหว่างชลธีกับธามจนเวียนหัว เล้งผละจากสุ่ยเข้ามาดึงย่าหยาออกจากธามในขณะที่เพลงจบลงพอดี
เล้งเป็นห่วง "อาหยา เป็นอะไร"
"มึนหัวนิดหน่อยค่ะ ฉัน ขอตัวกลับก่อนนะคะ" ย่าหยาว่า
ธามกับเล้งพูดพร้อมกัน "ฉันไปส่ง"
ธามกับเล้งมองหน้ากันโดยมีย่าหยาอยู่ตรงกลาง สุ่ยกับหยกมณีซึ่งเดินลงมาจากเวทีแล้วแอบสบตากันอย่างใจหายใจคว่ำว่าทั้งคู่จะยิงกันมั้ย
"ขอบคุณนะคะเฮียกระทิง"
ธามยิ้มนิดๆอย่างเป็นต่อ แต่แล้วก็หนวดกระดิกเมื่อได้ยินประโยคตามมาของย่าหยา
"ฉันจะกลับกับเสี่ยเล้งค่ะ"
เล้งยิ้มมองย่าหยาอย่างอ่อนโยนก่อนจะส่งสายตาเหยียดธามแล้วพาย่าหยาเดินออกไป
"สุ่ยช่วยได้แค่นี้นะคะเฮีย"
ธามยิ้มให้สุ่ยนิดหนึ่งแล้วหันกลับมามองย่าหยาและเล้งอย่างหึงสะบั้นหั่นแหลก
เฉียงกับโบตั๋นนั่งจับเจ่าหันหลังพิงเสาต้นเดียวกันแต่คนละด้าน
"ตอนเฮียเห็นผม สายตาของเฮีย ผม อยากให้เฮียฆ่าผมให้ตายซะเดี๋ยวนั้น" เฉียงว่า
"ฉันก็ไม่ต่างจากคุณ" โบตั๋นบอก
"ผม ไม่แน่ใจว่าจะทนอยู่ในสภาพนี้ไปได้นานแค่ไหน มัน ทรมาน"
"ถ้าเรายอมแพ้ตอนนี้เราจะทรมานน้อยลงเหรอ"
เฉียงอึ้ง
"เราจะหนีไปไหน เราก็ต้องติดอยู่กับความรู้สึกผิดไปจนตาย"
ทั้งคู่หันมามองกันตาละห้อย
"เราจะตายอย่างคนที่ทำอะไรถูกต้องในชีวิตบ้าง หรือจะยอมตายอย่างคนที่ได้ชื่อว่าเนรคุณคนไปตลอดชีวิตดีล่ะ อาเฉียง"
เฉียงยื่นมือมาจับมือโบตั๋น ต่างคนต่างมองกันด้วยหัวใจที่โหยไห้
เล้งขับรถมาจอดหน้าโรงแรมหมู่ตัน ย่าหยาเปิดประตูลงมา เล้งเปิดประตูแล้วก้าวลงตาม
เล้งห่วงใยมาก "แน่ใจนะอาหยาว่าไม่ไปหาหมอ"
"ฉันไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่อยากพักแค่นั้น"
"ถ้างั้นก็ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ"
ย่าหยาพยักหน้ายิ้มให้นิดๆ ก่อนจะผละมา
เล้งยังอาลัยอาวรณ์ "อาหยา" เล้งบอก ย่าหยาหันมา "ได้เต้นรำกับเธอ ฉันมีความสุขมาก"
"ฉันก็เหมือนกันค่ะ"
เล้งยิ้มแล้วเดินมาจับมือหญิงสาว "ขอบใจมากนะ"
เล้งดึงมือย่าหยาขึ้นมาหอมอย่างทะนุถนอมก่อนจะเคลื่อนตัวไปหอมแก้ม ย่าหยารอจนจมูกเล้งเกือบแตะแก้มตัวเอง แล้วขยับผละออกเล็กน้อยอย่างมีชั้นเชิงทำเอาใจเล้งสั่นไหว
"เก็บไว้หลังแต่งงานนะคะ" ย่าหยาบอก
เล้งหัวใจพองฟู "เธอคิดเรื่องแต่งงานแล้ว"
"ค่ะ"
"แล้ว เมื่อไหร่ล่ะอาหยา"
"เมื่อเสี่ยพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเสี่ยรักฉันจริง"
"ฉันรักเธอ"
ย่าหยาโปรยเสน่ห์แพรวพราว "เกือบใจอ่อนแล้วค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ"
ประโยคปิดท้ายของย่าหยาทำให้เล้งจำต้องตัดใจโบกมือลาแล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไป
ย่าหยามองตามรถอย่างเหยียดหยันก่อนจะหันกลับเข้าโรงแรม แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นธามยืนหน้าขมึงทึงอยู่ตรงหน้า
ธามพูดหน้านิ่ง "มีความสุขกันจัง"
ย่าหยาถอนหายใจเฮือกแล้วพ่นเป็นชุด "คุณจะตามฉันมาทำไม ดึกดื่นป่านนี้ ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับคุณนะ ฉันอยากนอน พรุ่งนี้ฉันต้องทำงาน เข้าใจมั้ย"
ธามพูดกวนๆ "ก็แค่มาดูว่าเสี่ยเล้งมันมาส่งเธอที่นี่ หรือพาไปที่บ้านมัน แค่นั้น"
ธามเดินผละออกมา ในขณะที่ย่าหยาอึ้ง เธองงว่าอะไรวะเดินมาดูแค่เนี้ยะ
ธามชะงักแล้วหันกลับไป "อ้อ ไม่เคยมีผู้หญิงตระกูลตั้งคนไหนยืนให้ผู้ชายจูบในที่สาธารณะ จะโปรยเสน่ห์ใส่ใคร หัดเกรงใจผู้ชายตระกูลตั้งบ้าง"
พูดจบธามก็สะบัดหน้าเดินออกไปทันที ย่าหยายืนอึ้งกิมกี่อยู่ตรงนั้น เธอคิดว่านี่เขาหึงเธอเหรอ แค่คิดย่าหยาก็ไหวหวั่นและวาบหวามแล้ว
ธามที่เปลี่ยนมาสวมชุดนอนเดินพล่านไปมา
"ทำไม ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ด้วยวะ ทำไม แกสลัดผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ไม่ได้เลยรึไงห๊ะ นายธี"
ธามหันไปพูดกับรูปชลธีซึ่งตั้งอยู่บนชั้น
ย่าหยาที่อยู่ในชุดนอนนั่งปักผ้าเช็ดหน้าที่ใกล้เสร็จเต็มที เธอปัก ปัก ปักอยู่อย่างนั้น
"หยาจะรอพี่ธี รอพี่ธี รอพี่ธี รอพี่ธีคนเดียว"
เช้าวันใหม่ ซินแสง้วงรับผ้าเช็ดหน้าที่นั่งปักมาทั้งคืนจากย่าหยา
"ลื้อนี่ดื้อไม่เลิกรา จะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" ง้วงถาม
"จนกว่าพี่ธีจะกลับมาค่ะซินแส" ย่าหยาบอก
"อีไม่กลับมา ลื้อเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้ว ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่ออาธี"
"หยากำลังทำอยู่ ไม่ใช่แค่เฉพาะพี่ธี แต่เพื่อทุกคน"
"ทุกคน"
"ป๊าม้าพี่ธี พ่อแม่หยา หยาจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทุกคน รวมทั้งตัวหยาเอง"
"ลื้อกำลังเล่นกับไฟ ระวังไฟมันจะเผาใจลื้อ"
"หยาไม่กลัว ในเมื่อมันเริ่มที่ความเกลียดชัง หยาก็จะจบมันด้วยความเกลียดชัง"
ธามเดินเข้ามากับหงส์
ธามทัก "ซินแส"
หงส์ก้มหัวให้ซินแสแล้วหันมาทักย่าหยา "อาหยา"
"อาหงส์อยากไหว้พระก่อนครับซินแส"
"ไปเถอะ ฤกษ์แต่งงานต้องใช้เวลา เดี๋ยวอั๊วดูให้พวกลื้อเอง"
ธามโอบไหล่พาหงส์เดินออกไปโดยทำเหมือนไม่สนใจย่าหยา ย่าหยาตัวเย็นวาบเหมือนถูกน้ำเย็นเยียบราดหัวพร้อมกันสิบถัง เธอคิดในใจว่าธามกับหงส์จะแต่งงานกัน
ย่าหยามองตามทั้งคู่ไปด้วยความรู้สึกเจ็บจี๊ดก่อนจะหันมาหาซินแส "หยาลานะคะซินแส"
ย่าหยาไหว้ซินแสแล้วเดินออกไป
"ไม่ใช่ความเกลียด..อาหยา ความรักต่างหากที่จะทำให้ลื้อมอดไหม้" ง้วงว่า
ย่าหยาเดินหน้านิ่งมาตามทาง เธอรู้สึกใจสั่นและรุ่มร้อนจนอยากไปให้พ้นศาลเจ้าให้เร็วที่สุด แต่แล้วสักครู่ย่าหยาก็ชะงักเพราะคิดในใจว่าจริงหรือที่ธามกับหงส์จะแต่งงานกัน เธอจะเดินจากไปทั้งๆที่มีคำถามคาใจอย่างนี้หรือ
ธามรับธูปจากหงส์มาปักใส่กระถาง หงส์ไหว้พระแล้วเดินคุยกับธามออกมาทางด้านนอก
"หงส์ไม่แน่ใจเลยเฮีย หงส์จะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน การที่ผู้หญิงจะขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองมันก็ยากมากอยู่แล้ว นี่ยังต้องมาเป็นหัวหน้าผู้ชายรุ่นพ่ออีก"
"ชายหรือหญิงไม่สำคัญเท่ากับใจ หงส์ต้องมั่นใจ"
"ตั้งแต่เสี่ยอ๋าตาย ทุกคนก็พุ่งเป้ามาที่หงส์ หงส์ได้ยินแต่เสียงนินทาว่าหงส์เป็นตัวซวย เกิดมาทำให้พ่อแม่พี่ชายตาย พอขึ้นเป็นหัวหน้าก็ทำให้ผู้ใหญ่ในสมาคมตายอีก หรือหงส์เป็นตัวซวยอย่างที่เขาว่าจริงๆ เฮีย"
หงส์พยายามกลั้นน้ำตาไม่ร้องไห้ออกมา แต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาจนได้ ธามเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้หญิงสาว
"คนอื่นจะคิดยังไงช่างเขา สำหรับเฮีย หงส์คือผู้หญิงที่น่ารักและเข้มแข็งที่สุดหงส์ต้องสู้นะ อย่าให้เฮียเห็นความเข้มแข็งของหงส์คนเดียว หงส์ต้องทำให้คนอื่นเห็นว่าหงส์เข้มแข็งที่สุดด้วย"
หงส์น้ำตาไหล "เฮีย"
"ที่สำคัญ เฮียรักหงส์ที่สุด จำไว้"
หงส์โผเข้าไปกอดธามแน่น ธามกอดน้องสาวด้วยความรัก ย่าหยายืนมองอยู่ที่มุมหนึ่ง เธอได้ยินทุกคำพูดของธาม หญิงสาวพลิกตัวหันกลับมาด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมใจตัวเองถึงเจ็บปวดได้ขนาดนี้
ย่าหยาเดินจ้ำลิ่วๆมาตามทางด้วยใจหวั่นไหวสับสน นี่เธออยากจะร้องไห้หรือ เธอรักธามหรือ ไม่ เธอไม่ได้รักเขา แล้วทำไมต้องเสียใจ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้วขอบตาของย่าหยาก็ร้อนผ่าว เธอคิดในใจว่าเขาจะรักใคร จะแต่งงานกับใครมันเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเธอ ย่าหยาฮึดแล้วทำใจแข็งเดินจากไป
เล้งคุยโทรศัพท์กับมิสเตอร์ลี โดยมีเกี๊ยงยืนอยู่ไม่ไกล
"ต้องขอโทษด้วยที่พวกตำรวจมันมาวุ่นวายจนลื้อต้องลำบากไปด้วย ของล็อตที่2 ได้เร็วกว่าที่คิดไว้ ส่งได้เมื่อไหร่ อั๊วจะโทรบอกลื้อทันที รับรองคราวนี้ตำรวจไม่มีทางได้กลิ่นแน่ แล้วเจอกันมิสเตอร์ลี" เล้งวางโทรศัพท์ "อาเฉียงล่ะ"
"นอนกกเมียไอ้ธามอยู่ในบ้านมั้งครับนายใหญ่ ยังไม่โผล่หัวออกมาเลย" เกี๊ยงบอก
"เมื่อคืนมันกลับกี่ทุ่ม"
“4ทุ่มครับเฮีย ตามหลังอั๊วมาติดๆ"
"หลังจากนั้นมันออกไปไหนรึเปล่า"
เสียงเฉียงดังขึ้น "ไม่ได้ไป" เฉียงเดินเข้ามา "เสี่ยไม่ไว้ใจอั๊วเหรอ"
เล้งเปลี่ยนสีหน้าจากระแวงจับผิดเป็นระบายยิ้มได้ทันที
"ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ อั๊วถามเพราะจะเรียกลื้อมาชมต่างหาก เมื่อวานลื้อทำงานดีมาก"
"อั๊วรู้ว่าเสี่ยยังไม่ไว้ใจอั๊ว" เฉียงว่า "เพราะฉะนั้นอยากจะทดสอบอะไรก็เชิญ อั๊วพร้อมเสมอ"
"ดี กล้าๆอย่างนี้ อั๊วชอบ เดี๋ยวออกไปดูของกับอั๊ว"
เล้งเอามือตบบ่าเฉียงเบาๆ เฉียงสบตาเล้งประมาณว่ามึงแสดงมา กูแสดงกลับว่าใครจะเนียนกว่ากัน
ธามเดินคุยมาตามทางกับหงส์ ทั้งสองออกไปทางด้านหน้าศาลเจ้า
"ตกลง วันเวลาจัดการตามฤกษ์ที่ซินแสแนะนำนะหงส์" ธามบอก
"ค่ะ เฮีย" หงส์รับคำ
หางตาธามหันไปเห็นเหวินเต๋อกับหยงเป่าเดินเข้ามาในศาลเจ้าไกลๆ ธามสงสัยว่ามาทำไม
"อาหลงรอที่รถใช่มั้ย"
"ค่ะ"
"หงส์กลับไปกับอาหลงก่อนนะ เฮียมีธุระต้องคุยกับซินแสอีกนิดหน่อย"
"ค่ะ เฮีย"
หงส์เดินออกไป ในขณะที่ธามเดินกลับเข้าไปในศาลเจ้าโดยเดินตามเหวินเต๋อกับหยงเป่าไป
เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 7 (ต่อ)
ธามสะกดรอยตามเหวินเต๋อกับหย่งเป่ามาตามทาง
สุดท้ายธามก็เห็นทั้งคู่เดินเข้าไปหาซินแสง้วง ง้วงหันมาพูดอะไรกับทั้งคู่ 2-3 คำแล้วหันไปตักยาสมุนไพรที่อุ่นอยู่ในหม้อใส่ถ้วย ธามสงสัยหนักและเลือกที่จะขจัดความสงสัยด้วยการเดินเข้าไปหาทุกคน
ซินแสหันมาเห็นธามแล้วก็นิ่งไปชั่วอึดใจ "ยังไม่กลับเหรออาธาม"
"ครับ" ธามมองสมุนไพรที่ซินแสเตรียมต้มหม้อต่อไป "เก๋ากี้ ห่วยซัว โอวจ้อ ตังเซียม เง็กเต็ก มีใครเป็นอะไรหรือครับซินแส"
ทุกคนหันมามองธามเป็นตาเดียว
"ความจำดีมากอาธาม" ง้วงหันมาหาเหวินเต๋อกับหยงเป่า "ความลับไม่มีในโลก ถึงเวลาแล้วอาเต๋อ อาเป่า"
ธามเหลือบมองผู้อาวุโสทั้งสองแล้วก็เดาว่าความลับที่ซินแสพูดคงเกี่ยวโยงกับเขาด้วย
ซินแสง้วงถือถ้วยยาเดินพาธามเข้ามาในห้อง ตามด้วยเหวินเต๋อกับหยงเป่า ธามเห็นคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วก็ถึงกับอึ้ง
"อาฮั้ว"
ง้วงส่งถ้วยยาให้
"อาเต๋อพาอีมาหาอั๊ว ขอให้อั๊วช่วยรักษา ตอนนี้อาการอีดีขึ้นมาก มีแรงยกถ้วยยากินเองได้ เดิน ลุก นั่งได้" ง้วงบอก
"ใครยิงลื้อ ใครสั่งให้ลื้อมาเล่นงานอากู๋เต๋ออากู๋เป่า ใครฆ่าปิดปากลื้อ อาฮั้ว" ธามว่า
ฮั้วหันมามองธามด้วยท่าทางผวา
"ไม่รู้ อั๊วไม่รู้" ฮั้วกระถดไปนั่งห่อตัวอยู่มุมห้อง
"อีถูกยิงล้มหัวฟาดพื้น สมองถูกระทบกระเทือนหนัก แล้วอีคงช็อกด้วยที่ถูกฆ่าปิดปาก ความจำอีเลยหายไป อีจำใครไม่ได้เลย"
ธามเซ็งที่อุตส่าห์เจอพยานปากสำคัญต่อหน้าโจทย์ทั้งสองคนแล้ว เหวินเต๋อกับหยงเป่าเข้ามายืนประกบข้างหลังธาม
"อียังไม่ตายก็ไม่ได้หมายความว่า ลื้อจะหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัยนะ"
ธามหันไปมองเหวินเต๋อกับหยงเป่า
"ในเมื่ออีบอกไม่ได้ว่าใครบงการ ลื้อนั่นแหละที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบ" หยงเป่าว่า
"อีจำใครไม่ได้ แต่อีบอกได้ครับกู๋ว่าใครบงการ" ธามบอก
ง้วง เหวินเต๋อ และหยงเป่าหันมามองธาม ธามตาวาววับเพราะแผนผุดขึ้นในหัวของเขาเป็นฉากๆ
ย่าหยายังคงคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องธาม เธอบอกไม่ถูกว่าทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอกหักทั้งๆ ที่พยายามตัดใจคิดเรื่องอื่นแต่ใจก็ยังคงวนเวียนกับธามอยู่นั่น
ภาพในอดีตย่อนกลับมา ตอนที่ย่าหยาเห็นธามอยู่กับหงส์ โอบกอดหงส์ครั้งแรกที่งานศพสุง
ตอนที่ย่าหยาเห็นธามโอบกอดหงส์ที่งานเลือกตั้งนายกสมาคม
ย่าหยาว่า "ฉันกับอาหลงคงไม่ได้กอดกันแน่นมากไปกว่าคุณกับคุณหนูหงส์” "อย่าเอาอาหงส์มาเกี่ยวข้อง อาหงส์ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้" ธามบอก
คำพูดธามในอดีตตอนที่เขาพูดกับหงส์ย้อนกลับมา "ที่สำคัญ เฮียรักหงส์ที่สุด จำไว้"
"ไปเถอะ ฤกษ์แต่งงานต้องใช้เวลา เดี๋ยวอั๊วดูให้พวกลื้อเอง"
ย่าหยาเดินใจลอยแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากทางด้านหลัง
"อาหยา"
ย่าหยาหันกลับมามองแล้วก็เผยอยิ้ม "อาปา"
พ้งใส่หมวกยืนถือไม้เท้ายิ้มให้ย่าหยา
เล้งพลิกดูเครื่องลายครามของจีนที่วางคละสีและขนาดตรงหน้า
"อั๊วเอาหมดนี่ แล้วที่จะมาถึงมะรืนนี้อั๊วเหมาหมด"
"ครับเสี่ย" คนขายรับคำ
"อั๊วจะให้อาเฉียงเป็นคนมารับของ ถ้าไม่ใช่อาเฉียง ลื้อห้ามให้ของใครไปเด็ดขาด ลูกค้าอั๊วรอไม่ได้" เล้งบอก
"ได้ๆ"
"วันไหนที่อาเฉียงมารับของ อั๊วจะโทรศัพท์บอกล่วงหน้า"
"ได้ครับๆ"
ระหว่างที่เล้งพูด เฉียงกวาดสายตามองเครื่องกระเบื้องที่วางอยู่รอบห้องโดยพยายามคิดว่าเล้งสั่งกระเบื้องพวกนี้ทำไม
พ้งถือไม้เท้าเดินกะเผลกคุยกับย่าหยามาตามทาง
"เรื่องไอ้เล้งไปถึงไหนแล้ว"
"มันขอหยาแต่งงานแล้วค่ะป๊า"
พ้งยิ้มพอใจ "แสดงว่ามันไม่สงสัย"
"ค่ะ แต่หยาถ่วงเวลาไว้ รอโอกาสเหมาะๆ"
"รอได้ แต่อย่านาน สัญชาตญาณมันเหมือนสัตว์ป่า จมูกมันไว อย่ารอให้มันรู้ว่าลื้อเป็นใคร ลื้อจะกลายเป็นเหยื่อมันโดยไม่รู้ตัว"
"ตอนแรกหย่าคิดว่าจะรออีกสักพัก แต่ตอนนี้" ย่าหยานึกถึงเรื่องธามกับหงส์ "มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรอต่อไปแล้ว"
"ลื้อหมายถึง"
"หยาจะหมั้นกับมัน"
เล้ง เฉียง และเกี๊ยงเดินมาตามถนน เล้งเห็นย่าหยาเพราะหันหน้ามาทางเขา ส่วนพ้งยืนหันหลังให้
"อาหย่า"
ย่าหยาเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็แทบช็อค "เสี่ยเล้ง"
พ้งชะงักกึก ย่าหยาเหลือบมองพ้ง
เล้ง เฉียง และเกี๊ยงค่อยๆ เดินใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาทุกทีจนมายืนข้างหลังพ้ง ย่าหยาแก้สถานการณ์ทันที
"เดินตรงไปทางด้านนั้นนะคะแปะ เจอสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้าย ร้านอยู่ตรงหัวมุมพอดี"
"กำเสี่ย"
พูดจบพ้งก็เดินหน้านิ่งด้วยแววตาเต็มไปด้วยความแค้น
เล้งขยับเข้ามาหาย่าหยาโดยมองตามหลังพ้งไป "ใคร"
"ไม่รู้จักค่ะ แปะแกหาร้านขายยาจีนไม่เจอ หยาเลยบอกทางให้"
เล้งพยักหน้า แล้วมองหญิงสาวด้วยความเอ็นดู "เธอมาทำอะไรแถวนี้"
"โรงงานทำทองของเสี่ยอยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอคะ"
"ใช่"
ย่าหยายิ้มแล้วส่งตาเป็นประกายเย้ายวน "หยามาดักพบเสี่ยค่ะ"
"ธุระสำคัญสินะ" เล้งถาม
"สำคัญค่ะ สำคัญมาก"
ขอทานวิ่งถือข้าวห่อด้วยใบตองวิ่งผ่ากลางเข้ามาชนเล้งกับย่าหยาอย่างจังแล้ววิ่งหนีไป
เกี๊ยงยัวะ "เฮ้ย อะไรวะ"
เกี๊ยงตามขอทานออกไปด้วยอาการยัวะ ย่าหยา เล้ง และเฉียงมองตามเกี๊ยงไป
ขอทานวิ่งถือห่อข้าวเข้ามาแต่ถูกเกี๊ยงวิ่งตามเข้ามากระชากคอ
"วิ่งชนนายใหญ่อั๊วแล้วไม่ขอโทษ อยากตายรึไงวะ"
เล้ง ย่าหยา และเฉียงขยับเข้ามา
"ปล่อยมันไปอาเกี๊ยง”
เกี๊ยงชกขอทานจนเซไปนอนกองที่พื้นหน้าขอทานอีกคนที่นั่งอยู่ที่ฟุตบาท ด้านหน้ามีขันใส่เศษเงินวางอยู่ เล้ง เฉียง และเกี๊ยงจะเดินออกไปแต่แล้วก็ต้องชะงักหันมามองชายขอทานคนนั้นอีกครั้ง แล้วพบว่าเขาคือ ฮั้ว
ขอทานพูด "เอ้า กินซะ อั๊วไปขอที่ร้านเจ๊อ๋ามาให้"
เกี๊ยงพุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อ "อาฮั้ว นี่ลื้อยังไม่ตาย"
ขอทานลนลาน "อย่าทำอะไรอีเลย อีสมองเสื่อมจำใครไม่ได้ อีชื่ออาฮั้วเหรอ"
เฉียงปาดเข้ามาทันที "ทำไมอีเป็นอย่างนี้"
"อั๊วไม่รู้ อั๊วเห็นอีถูกยิงมาทิ้งในสวน อียังไม่ตาย อั๊วเลยเรียกคนมาช่วย"
ย่าหยาหันมาหาเล้ง "ใครมันกล้าทำกับคนของเสี่ยอย่างนี้คะ"
เล้งทำเป็นโกรธ "อย่าให้รู้นะว่ามันเป็นใคร อั๊วจะเอาคืนให้สาสม อาเฉียง ลื้อไปสืบมาว่าใครทำร้ายอาฮั้ว"
เฉียงแอบด่าทางสายตาก่อนจะก้มหัวให้แล้วเดินออกไป เล้งขยับเข้ามาแล้วย่อตัวลงนั่งเผชิญหน้าฮั้ว ฮั้วมองหน้าเล้งด้วยแววตาบ่งว่าคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนแต่ก็จำไม่ได้
"พาอีไปโรงพยาบาล อาเกี๊ยง"
เกี๊ยงผลักขอทานคนนั้นจนกระเด็น แล้วขยับเข้ามาหาเล้งกับฮั้ว
เล้งพูดเหมือนกระซิบกับเกี๊ยงด้วยความเลือดเย็น "เก็บมันทั้งคู่"
เล้งลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนหน้ากากจากซาตานมาเป็นสุภาพชนกับย่าหยา
"ขอโทษทีที่ทำให้เสียเวลา ไปคุยธุระสำคัญของเธอกัน เชิญ" เล้งบอก
ย่าหยาคล้องแขนเล้งเดินผ่านหน้าธามซึ่งยืนมองทั้งคู่อยู่มุมหนึ่ง ธามสงสัยและไม่พอใจว่าย่าหยาไปไหนกับเล้ง แต่ธามก็ต้องตัดอารมณ์นั้นทิ้งเมื่อหันมาเห็นเกี๊ยงลากฮั้วกับขอทานคนนั้นเข้าไปในตรอกซอยแคบด้านข้าง
เกี๊ยงลากฮั้วกับขอทานเข้ามา
"จะพาอั๊วไปไหน ปล่อยอั๊ว"
เกี๊ยงเหวี่ยงทั้งคู่ลงกับพื้นแล้วหยิบปืนออกมา
ขอทานยกมือไหว้ปลกๆ "อย่ายิงอั๊วเลยเฮีย อั๊วกลัวแล้ว เฮียมายิงอั๊วเรื่องอะไร"
"ที่จริงมันก็ไม่เกี่ยวกับลื้อ แต่ลื้อแส่ไปช่วยอาฮั้ว ลื้อก็ต้องตาย" เกี๊ยงว่า
"อะ อีไปทำอะไรให้เฮีย อีเป็นคนไม่ดีเหรอ"
"อีรู้ความลับแก๊งมังกรดำ ถ้าอีอยู่ นายใหญ่อั๊วเดือดร้อน ช่วยไม่ได้ที่ไม่มีทางเลือก ลื้อก็เหมือนกัน"
เกี๊ยงเตรียมลั่นไก ขอทานลุกขึ้นมายื้อปืนกับเกี๊ยง เสียงปืนลั่นขึ้น 2 นัด ฮั้วนั่งเลิ่กลั่กที่พื้น
เสียงชาวบ้าน2-3 ตะโกนโหวกเหวก
"คนยิงกัน เฮ้ย ตำรวจมา ตำรวจ"
เกี๊ยงชะงักเพราะเสียจังหวะ ขอทานบิดข้อมือเกี๊ยงทำให้ปืนกระเด็นหล่นพื้น เกี๊ยงชกขอทานแล้ววิ่งไปหยิบปืนจะหันมายิงฮั้วกับขอทาน แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทางด้านหลัง ตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 คนวิ่งเข้ามา
"นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกมือขึ้น"
เกี๊ยงไม่กล้าหันไปเพราะกลัวตำรวจจำหน้าได้ เขาตัดสินใจเผ่นแน่บออกมา ตำรวจนอกเครื่องแบบหนึ่งในนั้นก็คือ จิว
"วิ่งหางจุกตูดอย่างกับหมา" จิวดึงขอทานขึ้นมา "เป็นอะไรรึเปล่าวะ"
"ไม่เป็นไรเฮีย"
ธามก้าวออกมาจากมุมหนึ่ง ตามด้วยเหวินเต๋อกับหยงเป่าที่มองตามหลังเกี๊ยงไปอย่างเคียดแค้น
เล้งส่งชานมเย็นให้ย่าหยา
"ธุระสำคัญของเธอคือ"
"มีคนทำให้ฉันนอนไม่หลับ คิดหนักตลอดคืนค่ะ"
เล้งชักสีหน้า "ใครกล้าทำให้เธอไม่สบายใจอย่างนั้น"
ย่าหยาโปรยเสน่ห์ "เสี่ยไงคะ"
เล้งงง "ฉัน"
"เสี่ยทำให้ฉันสับสนว่าฉันควรจะรอคนรักเก่าของฉันมั้ย"
"อาหยา"
"ความห่วงใย ความเสมอต้นเสมอปลายที่เสี่ยมีให้ฉัน ทำให้ฉันคิดหนัก ฉันควรจะรอคนที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาหาฉันมั้ย หรือฉันควรจะอยู่กับความจริง อยู่กับคนที่ฉันเห็นว่าเขารักและพร้อมจะอยู่เคียงข้างฉัน"
เล้งตื่นเต้น "เธอใจอ่อนแล้วใช่มั้ย"
"ถ้าเสี่ยยืนยันว่ายังรู้สึกกับฉันเหมือนเดิม"
"ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน ฉันยืนยันคำเดิม ฉันรักเธอ ย่าหยา"
"ขอบคุณค่ะที่ทำให้ฉันมั่นใจ ฉันคิดว่าฉันพร้อมแล้วที่จะอยู่กับความจริง"
เล้งลิงโลด "แต่งงานกับฉันนะ ย่าหยา"
"หมั้นกันก่อนดีมั้ยคะ"
เล้งยิ้มตาเป็นประกายที่สรรพสิ่งรอบตัวของเขาเป็นสีชมพูหวานละมุน
หยงเป่ากัดฟันกรอดแล้วทุบโต๊ะเปรี้ยง
"มันฆ่าอาจางเพียงเพราะต้องการป้ายความผิดให้ลื้อ" หยงเป่าว่า
เหวินเต๋อพูดกับธาม "เราสองคนต้องขอโทษด้วยนะที่เข้าใจลื้อผิดมาตลอด อาธาม"
"อั๊วจะไปเอาเรื่องอี หลานอั๊วทำผิดอะไรอีถึงกับฆ่าให้ตาย"
"ใจเย็นครับอากู๋ ผมเข้าใจความรู้สึกกู๋ที่สูญเสียคนที่ตัวเองรัก ผมเองก็เคยสูญเสียเคยเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากู๋ เราฆ่ามัน ความแค้นระหว่างมันกับเราอาจจบ แต่ คนอื่นล่ะครับ ญาติพี่น้องของคนที่ต้องตายเพราะมัน จะหมดโอกาสได้เห็นมันชดใช้กรรมทันที"
"อั๊วเห็นด้วยกับอาธาม กรรมของคนบางคนมันหนักเกินกว่าเราจะจัดการได้เพียงลำพัง"
"วันโหวตนโยบายถิ่นมังกรสีขาว เราต้องรวมพลังกันกระชากหน้ากากให้ทุกคนรู้ว่า มันคือคนที่ทำให้ที่นี่มัวหมอง เราต้องอดทนให้ถึงวันนั้น นะครับกู๋"
เหวินเต๋อกับหยงเป่าถอนใจยาวเหมือนจำใจ ธามค่อยๆผ่อนลมหายใจเมื่อประเมินสถานการณ์ว่าทุกอย่างน่าจะเข้าที่เข้าทาง ง้วงมองธามอย่างภูมิใจที่เด็กน้อยในวันนั้น โตขึ้นเป็นชายหนุ่มที่สง่างามทางความคิดในวันนี้
ธามเดินหน้านิ่วมาตามทาง ตาของเขาก็คอยกวาดไปรอบๆตัว เหมือนเรดาร์ที่ตามจับอะไรสักอย่าง
ธามเดินลัดเลาะมาตามถนน ตรอก ซอกซอย
ธามเดินเลี้ยวโค้งมาตามถนน ธามยังคงมองหาเป้าหมายด้วยแววตาคมปลาบยิ่งกว่าพญาเหยี่ยว
สักครู่เขาก็ชะงักตาขวางเมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้ามของถนน เล้งออกมาจากร้านกาแฟกับย่าหยาด้วยใบหน้าชื่นมื่นและอิ่มเอิบในหัวใจ
"ไปที่โรงงานก่อนนะ เดี่ยวฉันขับรถไปส่งเธอ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เสี่ยทำงานเถอะ หยาเดินไปเองได้ แค่ไม่กี่แยกเอง"
"ฉันไม่ปล่อยให้ว่าที่คู่หมั้นฉัน เดินไปไหนมาไหนคนเดียว"
"หยาอยากไปดูผ้าลูกไม้ด้วยค่ะ ยังพอมีเวลาก่อนเข้างาน" ย่าหยาตัดบท "เจอกันที่ฉั่วเทียนเหลานะคะ"
เล้งยิ้มแล้วจูบมือย่าหยาอย่างมีเสน่ห์โคตรๆ ย่าหยาโบกมือบ๊ายบายเล้งเล็กๆ อย่างน่ารักน่าเอ็นดู ก่อนจะหันกลับมาแล้วเดินเครียดออกไป แต่คนที่เครียดหนักกว่าใครกำลังยืนหนวดกระดิกอยู่ฝั่งตรงข้าม
ย่าหยาเดินมาตามทางแล้วใจก็แอบวกไปคิดเรื่องธามกับหงส์อีกจนได้
ภาพในอดีตตอนที่ธามมองหงส์ด้วยความรัก ความเอ็นดู ภาพตอนที่ธามกอดหงส์อย่างอบอุ่น ภาพตอนที่หงส์มองธามอย่างเทิดทูล
ย่าหยาพยายามจะสลัดภาพเหล่านั้นไม่ให้มากวนใจ ธามเดินล้วงกระเป๋ามาดักหน้าย่าหยา ด้วยท่าทางกวนๆ
"มาทำอะไรที่นี่" ธามถาม
"ชมนกชมไม้" ย่าหยาตอบกวนๆ
"นึกว่านัดใครไว้"
"แล้วคุณล่ะ จู่ๆโผล่มาคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"
"เธอมาหาเสี่ยเล้งทำไม เรื่องอะไร"
"เรื่องส่วนตัว"
"คนตระกูลตั้งไม่มีเรื่องส่วนตัวต้องปิดบังกัน"
"ฉันขอเรื่องนี้ไว้สักเรื่อง คุณจะไล่ฉันออกจากตระกูลก็เชิญ"
ย่าหยาเดินผละออกมา ธามตามมาดึงแขนไว้
"มันเป็นความลับอะไรนักหนาห๊ะ ทำไมถึงบอกไม่ได้ คุยอะไร ทำไมต้องให้มันจูบมือ"
"ฉันจะให้เขาจูบปากมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน"
"เธอไม่มีสิทธิ์ ฉันไม่อนุญาต"
"เรื่องของหัวใจ คนในครอบครัวต่อให้เป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง"
ความหึงของธามพุ่งถึงขีดสุด "ไม่มีสิทธิ์เหรอ"
ธามยัวะจัด เขาดึงย่าหยาเข้ามาจูบปากแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ ย่าหยาอึ้ง เธอผลักธามออกแล้วตบหน้าเขาเต็มแรง
ย่าหยาน้ำตาคลอ "คุณมีคุณหงส์แล้วคุณยังกล้าทำกับผู้หญิงอื่นอย่างนี้อีกเหรอ ไม่ให้เกียรติฉัน ก็ควรนึกถึงเกียรติของผู้หญิงที่คุณจะแต่งงานด้วยบ้าง"
ย่าหยามองธามอย่างร้าวราน เจ็บ น้อยใจยิ่งธามอึ้งไม่ตอบโต้อะไรก็แสดงว่าเรื่องเขากับหงส์คือเรื่องจริง ย่าหยากัดฟันเดินออกมาโดยทิ้งให้ธามยืนอึ้งและมึนกับคำว่า แต่งงาน อยู่ทางด้านหลัง
สุ่ยกับหยกมณีเดินสวนกันไปมา แล้วทั้งคู่ก็เอ่ยปากพร้อมกัน
"ทำไงดีล่ะ"
ต่างคนต่างก็ถอนใจเฮือกพร้อมกัน
"อั๊วกลัวจะตีกันจังเลยแจ้" หยกมณีว่า
"นั่นสิ บอกตรงๆ อั๊วน่ะแอบเทใจให้เฮียกระทิง แต่ เราจะขัดใจเสี่ยเล้ง"
ทั้งสองพูดพร้อมกัน "ได้เหรอ"
"เอาอย่างนี้ เราจัดการให้เสี่ยเล้งตามที่อีโทรมา ตามใจอีไปก่อน ขืนขัดใจ อีเรียกเก็บค่าคุ้มครองอั๊วแน่"
"ก็ดีนะแจ้ เผื่อเฮียกระทิงไม่มา เราก็รอดตัวไป"
"เออ แล้วลื้อก็บอกอาหยาด้วย จะตัดสินใจเลือกใครก็เลือกสักที อั๊วเลิกเสียวมานานแล้ว อย่าให้ต้องเสียววาบๆอย่างนี้ทุกวัน เก๊กซิมตายโหง"
หยกมณีพยักหน้าแล้วก็ถอนใจเฮือก ในขณะที่สุ่ยกุมขมับด้วยความมึน
หงส์กำลังเย็บซ่อมชุดงิ้วอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน ธามเดินเข้ามามองหงส์สักครู่แล้วทำท่าเหมือนจะเอ่ยปากเรียก แต่แล้วก็ตัดใจเดินหันหลังกลับ
หงส์เงยหน้าขึ้นมาเห็น "เฮีย"
ธามชะงักหันกลับมา หงส์วางงานในมือแล้วเดินมาหา
หงส์เห็นธามอึกอัก "มีอะไรรึเปล่าเฮีย"
"คือ" ธามคิดว่าจะเริ่มยังไงดี "เฮีย"
หงส์แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นธามอ้ำอึ้งเหมือนขาดความมั่นใจอย่างนี้มาก่อน
ธามกับหงส์เดินคุยกันโดยมุ่งหน้าไปที่ฉั่วเทียนเหลา
"เฮียขอบใจหงส์มากนะที่ เอ่อ เข้าใจ"
หงส์แอบขำพี่ชายจึงหัวเราะคิกคักน่าเอ็นดู
ธามเด๋อด๋ามาก "ทำไม มีอะไรน่าขำ”
"ก็ดูเฮียสิ ถ้าเป็นเฮียธีแล้วแอบเขินอย่างนี้ หงส์จะไม่ว่าเลย แต่นี่มันเฮียธาม เฮียกระทิงที่แสนจะดุดันในสายตาใครๆ มีแอบหน้าแดงกับเขาด้วย" หงส์หัวเราะชอบใจ
ธามโคตรเขินแต่เก๊กเข้มใส่ "อาหงส์"
"กลัวแล้วค่าเฮีย" หงส์เหล่แล้วแซวอีก "หงส์รู้นะว่าเฮียรู้สึกยังไงกับอาหยา"
ธามรีบปัดทันที "เฮียไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เขาได้ยินอะไรแล้วคิดเองเออเองจนเข้าใจเฮียกับหงส์ผิดๆ"
หงส์ขำ "ก็ได้ค่ะ เอาเป็นว่าเฮียไม่อยากให้อาหยาเข้าใจผิด ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น"
ธามเก๊กต่อ "เฮียไม่อยากให้หงส์เสียหายด้วย"
หงส์อดไม่ได้ "ไม่อยากให้หงส์เสียหาย หรือไม่อยากให้อาหยาเสียใจ"
"เขาจะเสียใจทำไม ชีวิตเฮียไม่ได้มีผลอะไรกับเขาสักหน่อย"
"ผู้หญิงคนนั้นรักเฮียค่ะ หงส์ดูก็รู้"
ธามชะงักกึกว่าทำไมถึงใจสั่น
หงส์พูดต่อ "ถึงอาหยาจะเป็นผู้หญิงใจแข็งเก็บอารมณ์เก่ง แต่ยังไงผู้หญิงด้วยกันก็ดูออกแววตาอีฟ้องค่ะว่าอีน้อยใจเสียใจ เวลาที่เห็นเฮียอยู่กับหงส์"
"เป็นไปไม่ได้หรอกหงส์ เขามีคนรักของเขาอยู่แล้ว"
"ใครคะ"
ธามส่ายหน้า
หงส์เกาะแขนพี่ชายแล้วยิ้มให้กำลังใจ "เชื่อหงส์เถอะค่ะเฮีย หงส์ดูไม่ผิดหรอก"
ธามเอามือขยี้หัวน้องด้วยความเอ็นดู
เล้งนั่งหน้าเคลิ้ม ย่าหยานั่งอยู่ข้างๆ
"ฉันสั่งผ้าลูกไม้จากฝรั่งเศสให้เธอแล้วนะย่าหยา เดี๋ยวเราช่วยกันเลือกร้านตัดเสื้อหรือจะบินไปตัดที่ฝรั่งเศสเลยก็ได้ ฉันอยากให้เธอสวยที่สุดในวันสำคัญที่สุด"
ย่าหยายิ้มหวาน "ค่ะ"
"เมื่อไหร่ดี"
ย่าหยาเริ่มอึดอัด
สุ่ยเดินขึ้นเวที "ขอโทษนะคะแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน สุ่ยต้องขอขัดจังหวะการฟังเพลงและการรับประทานอาหารของทุกท่านเล็กน้อย เพราะมีข่าวดีจะแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า"
หยกมณียืนถือช่อดอกไม้เพลินๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง เธอหันมามองที่ทางเข้าแล้วก็อึ้งเมื่อเห็นธามเดินเข้ามากับหงส์
"เสี่ยเล้งหนุ่มหล่อที่ครองตัวเป็นโสดมานานแสนนานซึ่งเราๆท่านๆรู้จักกันดี มาถึงตอนนี้ชักไม่อยากเป็นโสดแล้วค่า" สุ่ยว่า
ทุกคนในห้องพากันหันมามองเล้งแล้วก็ส่งเสียงฮือฮา สุ่ยเหลือบเห็นธามแล้วก็กลืนน้ำลายเอื้อกคิดในใจว่าตายแน่ แต่เธอก็ยังกลั้นใจทำหน้าที่ต่อ
"และสาวสวยที่ทำให้เสี่ยเล้งอยากจะสละโสดเต็มแก่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือพนักงานของฉั่วเทียนเหลา อาหยา หรือย่าหยาของเรานั่นเอง"
ผู้คนหันไปมองย่าหยาซึ่งนั่งหันหลังให้ธามกับหงส์
ธามกับหงส์ยืนอึ้ง หยกมณีหน้าหดเหลือสองนิ้ว เพราะถึงคิวที่ต้องเดินถือช่อดอกไม้ไปให้เล้ง
เล้งลุกขึ้นรับช่อดอกไม้จากหยกมณีแล้วยื่นให้ย่าหยา ย่าหยารับดอกไม้มาอย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าเล้งจะทำอะไรเอิกเกริกอย่างนี้
สุ่ยกร่อยมากแต่ก็พยายามรื่นเริงเกินจริง "เซอร์ไพร์ส คิดว่าตอนนี้ใครๆก็อยากเห็นผู้หญิงที่เสี่ยเล้งรักชัดๆ พาขึ้นมาโชว์ตัวบนเวทีเลยค่าเสี่ย"
เล้งส่งแขนให้ย่าหยาเกาะ ย่าหยาเกาะแขนเล้งข้างหนึ่งมืออีกข้างโอบช่อดอกไม้ไว้
ย่าหยาเดินขึ้นเวทีหมุนตัวหันมาเห็นธามยืนคู่กับหงส์ตรงหน้า ธามกับหงส์เห็นย่าหยายืนอยู่ข้างเล้งซึ่งส่งยิ้มเย้ยมาที่ธามเต็มๆ
หงส์พูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าธาม "นี่มันอะไรกันคะเฮีย"
ธามขบกรามแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดที่ใจ เป็นความเจ็บอย่างที่คนอย่างเฮียกระทิงไม่เคยสัมผัสมาก่อน
สุ่ยอึดอัดมาก "เอ่อ ไม่ทราบเสี่ยมีอะไรจะพูดมั้ยคะ"
เล้งมองหน้าย่าหยาด้วยความรู้สึกรักมากจริงๆ "ผมรักผู้หญิงคนนี้โดยไม่มีเงื่อนไข"
เสียงแขกปรบมือชอบใจเพราะไม่มีใครเคยเห็นเล้งในอารมณ์ in love อย่างนี้มาก่อน
"เธอคือผู้หญิงที่จะเป็นภรรยาและเป็นแม่ของลูกๆผม ผมจะหมั้นและแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด ส่วนจะเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เธอจะกรุณา"
เสียงผู้คนปรบมือเป่าปากกับการขอแต่งงาน ชนิดยอมทิ้งเขี้ยวเล็บมังกรมาเป็นแมวน้อยแสนเชื่องของเล้ง ย่าหยารู้ทันว่าเล้งใช้สถานการณ์บีบให้เธอตอบเรื่องเวลา ธามหูอื้อตาลาย เขาไม่อยู่รอฟังคำตอบแสลงหูจากย่าหยา ธามดึงมือหงส์แล้วเดินออกไปทันที ย่าหยามองตามธามไปก่อนจะหันมาหาเล้ง
"อีกไม่นานค่ะ"
ผู้คนพากันปรบมือเชียร์เล้ง เล้งยิ้มแต่แอบไม่พอใจหญิงสาวที่ไม่ฟันธงว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรือเมื่อไหร่
ธามดึงมือหงส์ออกมาหน้าฉั่วเทียนเหลา
หงส์ยื้อธามไว้ "เฮีย แน่ใจเหรอว่าจะไปทั้งที่มีเรื่องคาใจอย่างนี้"
"เฮียไม่มีอะไรคาใจ" ธามบอก
"ปากแข็ง หงส์รู้นะว่าเฮียรู้สึกยังไง ทำไมไม่รอให้หงส์คุยกับย่าหยาก่อน"
"เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากกว่านี้"
"หงส์รู้ว่าเฮียรักอาหยา"
"ไป เฮียไปส่งบ้าน"
"คนรักของอาหยาไม่ใช่เสี่ยเล้งแน่"
"จะใช่หรือไม่ใช่เฮียไม่สนใจ ผู้หญิงคนนั้นลึกลับซับซ้อนเกินกว่าที่เฮียจะเข้าใจและ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เฮียจะเสียเวลาไปใส่ใจเขา"
"บางทีคนรักของอาหยาอาจไม่มีตัวตน อีอาจจะสร้างเรื่องขึ้นเพื่อกันตัวเองออกจากเฮีย บางทีอาหยาอาจจะรอว่าเมื่อไหร่เฮียจะพูดความจริงกับอี ก่อนที่อีจะตัดสินใจแต่งงานกับคนอื่นก็ได้นะ"
"ถ้ารักเฮียก็เลิกพูดเรื่องนี้เถอะหงส์ ไป กลับบ้าน"
ธามเดินจูงหงส์ออกมา หงส์เห็นธามหน้านิ่งขรึมจริงจังก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
รถเล้งแล่นมาจอดที่หน้าโรงแรม เล้งเดินลงมาเปิดประตูรถให้ย่าหยา
"ฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเธอ หวังว่าอีกไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ"
"ค่ะ"
"หลับฝันดีนะย่าหยา"
ย่าหยายิ้มหวาน "ราตรีสวัสดิ์ค่ะเสี่ย"
ย่าหยาโบกมือลาเล้ง เล้งยิ้มให้หญิงสาวก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วขับออกไป ย่าหยาเดินกลับเข้าโรงแรมแต่อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองถนนรอบๆ บริเวณนั้นอีกครั้ง เผื่อธามจะอยู่มุมใดมุมหนึ่ง แต่ก็ไม่มีวี่แวว ย่าหยาใจแป้ว เธอหันกลับเข้าโรงแรมแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นธามก้าวออกจากโรงแรมมายืนเผชิญหน้ากับเธอ
ธามหน้านิ่ง "นี่ใช่มั้ยความลับที่เธอบอกว่าเดี๋ยวฉันก็รู้เอง"
ย่าหยาอึ้ง
"ที่เคยบอกว่าห่วงเนื้อห่วงตัวเพื่อคนรัก มันคงไม่ใช่เรื่องจริงสินะ ระหว่างเรามีอะไรที่เป็นเรื่องจริงบ้างย่าหยา นอกจากเรื่องที่เธอจะแต่งงานกับไอ้เล้ง" ธามขยับเข้ามาใกล้ย่าหยาด้วความเจ็บปวด "หัวใจเธอเป็นยังไงกันแน่ ฉันอยากรู้จริงๆ"
ธามมองย่าหยานิ่ง แววตาของเขาแฝงความเจ็บร้าวอยู่ลึกๆ ก่อนจะเดินออกมา
ย่าหยาหันมามองธามด้วยความรู้สึกหน่วงหนักในหัวใจ เธอได้แต่พึมพำ "แล้วหัวใจคุณล่ะ เป็นยังไง"
ธามเดินห่างจากย่าหยาไปไกลและไกลออกไปทุกที
เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 7 (ต่อ)
ย่าหยาเปิดpocket watch ขึ้นมาแล้วพูดกับรูปชลธีที่อยู่ในนั้น
"พี่ชายพี่ธีจะแต่งงานกับคุณหงส์แล้ว พี่ธีกลับมาแสดงความยินดีกับเขานะคะ กลับมานะคะพี่ธี กลับมาสักที"
ย่าหยามองรูปชลธี สักครู่ก็ปรายตามองไปที่เตียง ผ้าพันคอของธามวางอยู่บนหมอนที่เขาเคยหนุนนอน แล้วจู่ๆหญิงสาวก็ใจหายเมื่อคิดว่า ต่อไปนี้เขาคนนั้นคงไม่มาที่นี่อีกแล้ว
ธามนั่งก้มหน้าที่เก้าอี้โดยจมอยู่ในแสงสลัวมืดๆทึมๆ
"ฉันเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่ง เจ็บอีกครั้งจะเป็นอะไรไป"
ธามนั่งอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
เช้าวันใหม่ ย่าหยาใส่กางเกงวอร์มกับเสื้อยืดเตรียมวิ่งออกกำลังกายที่หน้าโรงแรมหมู่ตัน แล้วเธอก็ชะงักเมื่อเห็นหงส์เดินเข้ามา
"พอมีเวลามั้ยอาหยา ฉันขอคุยด้วยหน่อย"
ย่าหยากับหงส์เดินคุยกันมาตามทาง
"ฉันอยากทำความเข้าใจกับเธอเรื่องเฮีย" หงส์บอก
"คุณธามให้คุณมาคุยกับฉันหรือคะ" ย่าหยาถาม
"เปล่า ฉันมาเอง เฮียไม่สบายใจที่เธอเข้าใจผิด"
"เรื่องอะไรคะ"
"ฉันไม่ได้คิดจะแต่งงานกับเฮีย และเฮียก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับฉัน เราสองคนเป็นพี่น้องที่รักกันมาก เราตายแทนกันได้แต่ไม่เคยคิดจะใช้ชีวิตร่วมกัน"
ย่าหยาอึ้ง "แล้วเรื่อง ฤกษ์แต่งงาน"
"ฤกษ์แต่งของเฮียคณินที่ปากน้ำโพ มีเรื่องฉุกละหุกที่นั่นนิดหน่อย เฮียธามกับฉันเลยรับเป็นธุระจัดการเรื่องชุดเรื่องฤกษ์ให้ ไม่ใช่งานแต่งของเราสองคน"
ย่าหยาโล่งอก เธอดีใจแต่ก็เก็บอาการ "ที่จริงคุณหงส์ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาบอกฉันเลย"
"จำเป็นสิ จำเป็นมาก อย่างน้อยเธอควรได้รู้ความจริงก่อนจะตัดสินใจอะไร"
ย่าหยายืนนิ่ง หงส์มองย่าหยาเหมือนจะส่งผ่านความรู้สึกที่มีต่อธามให้ย่าหยารับรู้อย่างจริงจัง
"เฮียเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ ถ้าเฮียรักใครเฮียตายแทนคนคนนั้นได้ โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นคือผู้หญิงที่เฮียรัก ฉันบอกเธอได้เท่านี้ ขอให้เธอโชคดี"
หงส์ยิ้มจริงใจให้ย่าหยาก่อนจะเดินจากไป ย่าหยามองตามหงส์แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆคลี่ออกมา เป็นยิ้มที่บอกถึงความโล่งอก สบายใจ สดชื่นและมีความหวังโดยที่เจ้าตัวเองยังไม่รู้ตัว
เสียงกุกกักดังขึ้นจากด้านนอกประตูบ้านเฉียง ก่อนที่ประตูจะเปิดผัวะออกพร้อมกับเกี๊ยงซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกุญแจในมือ เฉียงซึ่งนอนบนเสื่อข้างล่างและโบตั๋นซึ่งนอนบนเตียงคนเดียวตกใจตื่น
เฉียงฉุน "จะเข้าห้องใครทำไมไม่เคาะประตู แล้วลื้อถือสิทธิ์อะไรไขกุญแจเข้ามา"
"ถ้าทำอย่างลื้อว่าแล้วอั๊วจะเห็นลื้อสองคนแยกกันนอนเหรอ สงสัยยังอาลัยอาวรณ์นายเก่าเลยไม่กล้าแตะต้องเมียนาย" เกี๊ยงว่า
เฉียงลุกขึ้นมาทันที "เมียนายก็เมียอั๊วเหมือนกัน"
"แล้วทำไมลื้อไม่นอนกับอี"
เฉียงกับโบตั๋นหันมามองหน้ากัน โบตั๋นทำเป็นไอค่อกแค่ก
"อีป่วย อั๊วอยากให้อีนอนสบายๆ มันหนักหัวลื้อรึไงอาเกี๊ยง"
"อ้อ รักเมียเลยเอาไว้เหนือหัว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เกี๊ยงหัวเราะ
เฉียงกระชากคอเสื้อเกี๊ยง "หุบปากเลยนะไอ้เกี๊ยง ลื้อมีอะไรก็ว่ามา"
"นายใหญ่ให้มาตามลื้อสองคน มีงานให้ทำ"
เฉียงปล่อยมือจากคอเสื้อเกี๊ยง เกี๊ยงเดินด้วยท่าทียียวนกวนประสาทออกไป
โบตั๋นตามมายืนข้างเฉียง "มันจับตามองเราตลอดเวลา"
เฉียงพยักหน้า "เราต้องระวังตัวให้มาก"
ย่าหยาวิ่งออกกำลังกายมาตามทาง สักครู่เธอก็ชะเง้อมองไปทางซ้าย ย่าหยากำลังมองเข้าไปในบ้านธามก่อนจะวิ่งเลยผ่านบ้านไป ย่าหยาวิ่งต่อสักพักแล้วก็วนกลับมาชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน เธอทำอย่างนี้ 2- 3 รอบแต่ก็ไม่เห็นธามแถมบ้านยังเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่
ย่าหยาตัดสินใจหยุดวิ่งแล้วแอบมองผ่านช่องประตู เธอกวาดตามองไปทั่วบริเวณ ย่าหยาคิดว่าธามคงออกไปทำงานแล้วจึงเดินออกมาแต่แล้วก็ถึงกับเซเมื่อปะทะกับอกหนาเป็นกำแพงของชายหนุ่มซึ่งกลับจากวิ่งออกกำลังและจะเข้าบ้านพอดี
"คุณ"
ธามพูดหน้านิ่ง เสียงห้วน "มีธุระอะไร"
ย่าหยากำลังคิดว่าจะยิ้มให้แต่กลับกลายเป็นห้วนกลับ "ไม่มี แค่วิ่งผ่านมา"
ธามอยากจะพูดอะไรต่อแต่ก็ตัดใจไม่พูด เขาแค่มองย่าหยาแวบเดียวแล้วเดินเข้าบ้านไป ย่าหยาอึ้งที่ธามตีมึนใส่ เธอยัวะนิดๆ ก่อนจะเดินออกมา สักครู่ ธามก็โผล่หน้าออกมาดู เขาเห็นย่าหยาเดินออกไปแล้ว ธามทำท่าจะเรียกแต่แล้วก็เกิดคิดว่าไม่ ธามกลับเข้าบ้าน
ย่าหยาหันมามองธามอีกครั้งแต่ก็ไม่เห็นเขาตามมาเหมือนทุกครั้งก็ใจหาย แต่ทิฐิทำให้ย่าหยาเดินหน้าต่อ
เล้งพูดกับเฉียง โดยมีโบตั๋นยืนอยู่ข้างๆ ไกลออกไปด้านหลังเป็นเกี๊ยง
"เครื่องลายครามมาถึงแล้ว ลื้อไปเช็คของให้อั๊วนะอาเฉียง แล้วลื้อ อาโบตั๋น คอยจับตาดูอาธามไว้ อย่าให้อีมาวุ่นวายกับอาหยา ถ้ามาวุ่นวายเมื่อไหร่ลื้อบอกอั๊วทันที" เล้งว่า
"ค่ะ เสี่ย"
เล้งหันมาหาเกี๊ยง "เรื่องอาฮั้วเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย"
"เอ่อ" เกี๊ยงเอาตัวรอด "ครับ นายใหญ่"
"ดี อย่าให้อั๊วเห็นมันไปโผล่ที่ไหนอีกนะ ถ้าเห็นอีกครั้ง ลื้อเป็นศพแทนมันแน่ อาเฉียง อาโบตั๋น ลื้อสองคนไปรอที่รถก่อน"
เฉียงกับโบตั๋นเดินออกไป เกี๊ยงปรี่เข้ามาหาเล้ง
"นายใหญ่ถามเรื่องอาฮั้วต่อหน้าอาเฉียง ไม่คิดว่ามันจะคาบข่าวไปบอกไอ้ฮกเหรอครับ"
เล้งยิ้ม "อาฮกรู้แล้วทำไม อั๊วต้องกลัวมันเหรอ อั๊วไม่สนใจอาฮก แต่สนใจสองคนนั่นมากกว่า มันอยู่ข้างอั๊วจริงๆ หรืออยู่เพื่อรอวันลอบกัด ถ้าไอ้ฮกรู้ก็เท่ากับมันสองคนคิดไม่ซื่อกับอั๊ว"
เฉียงกับโบตั๋นซึ่งแอบฟังอยู่หน้าประตูหันมามองหน้ากัน เฉียงรีบดึงโบตั๋นออกมา
เฉียงกับโบตั๋นเดินคุยกันมาที่รถเล้งซึ่งจอดอยู่
"มันไม่เคยไว้ใจเรา เราต้องทำอะไรสักอย่างให้มันไว้ใจเราให้ได้"
"อะไรล่ะอาเฉียง" โบตั๋นถาม
"อะไรที่ทำให้มันรู้สึกว่าเราจงรักภักดีมันจริงๆ ซึ่งนั่นอาจทำให้เฮียเกลียดเรามากขึ้น" เฉียงบอก
"แต่สุดท้ายเฮียจะรู้ว่าเรารักเฮียใช่มั้ย"
"รู้หรือไม่รู้เราก็ต้องเดินหน้าต่อ เราไม่มีทางเลือกแล้วโบตั๋น"
โบตั๋นพยักหน้าพร้อมคิดในใจว่าเป็นไงเป็นกัน
ธามพูดกับเพื่อนอยู่ที่ห้องรับแขก
"ฉันเห็นด้วยกับแก เราจะไม่ยอมเป็นเป้านิ่งให้มันอีกแล้ว"
ทรงกลดนั่งตรงข้ามธาม จิวเอาน้ำชาเข้ามาเสิร์ฟทั้งคู่แล้วออกไปยืนดูแลอยู่ห่างๆ
"ฉันว่าวันที่เรานัดประชุมกันน่าจะเหมาะที่สุด" ทรงกลดบอก
"ใช่ จะมีงานไหนที่มันจะเด็ดหัวแก ฉัน ภรพ คณิน อาหงส์ได้ครบเซ็ทอย่างวันนั้น"
"งั้นเรานัดประชุมวันไหนดี ควรทิ้งระยะแล้วกระจายข่าวให้ถึงหูพวกมันด้วย"
"อีก 3 วันเป็นไง" ธามเสนอ
"ดี สถานที่ ฉั่วเทียนเหลา" ทรงกลดถาม
"คุณสุ่ยคุยง่ายสุดแล้ว ส่วนเรื่องกระจายข่าวฉันจัดการเอง แกบอกภรพ คณิน อาหงส์ให้รู้ตัวด้วยก็แล้วกัน" ธามบอก
ทรงกลดพยักหน้า ธามหมายมั่นปั้นมือว่าคราวนี้เล้งต้องถูกถลกหนังแน่นอน
โบตั๋นนั่งซุกตัวอยู่มุมหนึ่ง หยกมณีเดินเข้าห้องมา
"อยู่นี่เอง หาตั้งนาน แจ้สุ่ยอยากคุยกับเธอแน่ะ รออยู่ที่ห้อง รีบไปนะ"
หยกมณีเดินออกไป โบตั๋นเดินตามออกมา
ธามก้าวเข้ามาส่งยิ้มเจ้าเสน่ห์ก่อนพูด
"พวกเราตกลงใจเลือกฉั่วเทียนเหลาครับ"
สุ่ยก้าวเข้ามาด้วยหน้าตายิ่งกว่าถูกผีหลอกกลางวันแสกๆ เธอคิดในใจว่าร้านชั้นพินาศแน่
"จะดีเหรอคะเฮีย"
โบตั๋นเดินเข้ามาแล้วชะงักอยู่ที่หน้าประตูที่เปิดแง้มไว้นิดๆ
"ดีที่สุดครับ ผม ทรงกลด ภรพ คณิน อาหงส์จะมาประชุมที่นี่ วันพฤหัสที่จะถึงนี้ บ่ายโมง อาหารว่างขอเป็นน้ำชากับติ่มซำ ทุกอย่างเป็นความลับนะครับคุณสุ่ย เราคุยเรื่องสำคัญ ต้องการเป็นความเป็นส่วนตัว" ธามบอก
โบตั๋นเก็บข้อมูล
"เจาะจงวัน เวลากับเมนูแบบนี้ กะไม่ให้สุ่ยปฏิเสธเลยใช่มั้ยคะ" สุ่ยบอก
ธามพยักหน้าแล้วส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่สุ่ยอีกครั้ง
สุ่ยเขินจึงตีแขนธาม "เฮียน่ะ อย่ายิ้มอย่างนี้สิ ยิ้มอย่างนี้แล้วสุ่ยแข้งขาอ่อนทุกที โอเคค่ะ เดี๋ยวสุ่ยจองห้องให้นะคะ" สุ่ยมองเลยไปที่หน้าห้อง "ใครน่ะ"
"โบตั๋นเองค่ะ" โบตั๋นเดินเข้ามา
"ขอตัวนะคุณสุ่ย"
โบตั๋นแอบมองธาม ธามเดินสวนออกไปโดยไม่มองหน้าหญิงสาว โบตั๋นเสียใจจนน้ำตาคลอ
"อาจารย์เฉินจะเข้ามาต่อเพลงใหม่ให้พรุ่งนี้แปดโมงเช้า อย่าลืมเข้ามาล่ะ" สุ่ยว่า
โบตั๋นรับคำ "ค่ะ"
สุ่ยพยักหน้า "ไปได้แล้ว"
โบตั๋นรีบเดินออกไป ทันทีที่โบตั๋นเดินไป หยกมณีก็ปรี่เข้ามา
"สำเร็จมั้ยแจ้"
"น่าจะได้ยินไปเต็มสองรูหูเลยล่ะ"
"แล้วเฮียกระทิงล่ะ"
"ออกไปแล้ว" สุ่ยถอนใจ "เฮ้อ เป็นเมียก็ไม่ใช่ ทำไมเราถึงต้องช่วยเฮียกระทิงขนาดนี้วะ เต็มใจซะด้วยสิ เฮ้อ"
หยกมณีพยักหน้าถอนใจแต่เห็นด้วยกับสุ่ยร้อยเปอร์เซ็นต์
ธามเดินมาตามถนนหน้าฉั่วเทียนเหลา สักครู่โบตั๋นก็วิ่งกระหืดกระหอบตามมาไกลๆ จนเข้ามาใกล้ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่เธอจะได้คุยกับธามตามลำพัง
"เฮีย" โบตั๋นหอบ "ขอเวลาโบตั๋นสักนาทีได้มั้ย" โบตั๋นส่งปิ่นปักผมที่ธามให้เป็นของขวัญวันเกิดคืน "โบตั๋นเอาติดกระเป๋ามาทุกวัน แต่ไม่มีโอกาสคืนเฮีย"
ธามนิ่งมาก "ฉันให้เธอแล้ว ถ้าไม่อยากได้ก็เอาไปให้คนอื่น"
ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอหอยของโบตั๋น เธอน้ำตาคลอ
"โบตั๋นไม่เหมาะกับของชิ้นนี้ โบตั๋นไม่มีค่าพอ"
ธามแฝงนัยยะ "อะไรที่ฉันให้คนอื่นไปแล้ว ฉันไม่เอาคืน"
ธามพูดจบก็เดินหนีออกมา โบตั๋นน้ำตาเล็ดวิ่งมายื้อมือธาม
"เฮีย"
ธามมองหน้าแล้วมองมือโบตั๋นที่ยื้อมือเขาอยู่ เธอจำต้องปล่อยมือออกจากธามช้าๆ
"โบตั๋นขอโทษ ได้โปรดรับคำขอโทษจากโบตั๋นด้วย"
โบตั๋นพูดจบก็คุกเข่าลงแล้วก้มหัวแทบจะติดพื้นถนนขอโทษธาม ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันมามอง
"ทำอะไร ลุกขึ้นมาเลยนะ" ธามดึงโบตั๋นขึ้นมา
"โบตั๋นจะไม่ทำให้เฮียรำคาญ ไม่ขออะไร ไม่โผล่หน้ามาให้เฮียเห็นอีกเลยก็ได้ ขอแค่เฮียยกโทษให้โบตั๋น โบตั๋น ขอแค่นั้น"
ธามตัดบททันที "กลับไปทำงาน"
โบตั๋นน้ำตาไหลพราก และปากคอสั่น "เฮีย"
"หมดเวลาหนึ่งนาทีของเธอแล้ว"
ธามยืนหน้านิ่ง โบตั๋นลิ้นจุกปากเมื่อรู้ว่าธามไม่มีวันเปลี่ยนใจ โบตั๋นค่อยๆเดินออกไปอย่างคนหัวใจแตกสลาย เมื่อโบตั๋นเดินจากไปแล้ว ธามก็ผ่อนลมหายใจยาวเพราะว่าเขาไม่อยากใจดำแต่จำเป็นต้องทำ ธามเดินออกมา ย่าหยาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยขึ้น
"ใจดำเกินไปรึเปล่า"
"เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับว่าที่มาดามเสี่ยเล้งไม่ทราบ" ธามสวน
ย่าหยาสะอึก "ฉันลืมไปว่าเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน"
ย่าหยาเดินไปทางฉั่วเทียนเหลา ธามยืนส่ายหน้าถอนหายใจเฮือกก่อนจะหมุนตัวเดินตามย่าหยาไป
ย่าหยาเดินหน้าตึงมาตามถนน สักครู่ธามก็ดึงมือย่าหยาหลบมาคุยข้างซอกตึก
"ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันหมายความว่ายังไง ตกลงเธออยากใช้นามสกุลเสี่ยเล้งมากนักใช่มั้ย" ธามฉุน
"ฉันจะใช้นามสกุลใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ" ย่าหยาบอก
"เธอลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเป็นคนในครอบครัวฉัน"
"ฉันไม่เคยลืม"
"ไม่เคยลืมแล้วทำแบบนี้ทำไม มันมีวิธีอีกตั้งเยอะแยะที่เธอจะเข้าใกล้มันได้ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยง ทำไมเธอต้องเลือกเอาตัวเข้าแลกแบบนี้"
"คุณก็บอกฉันมาสิว่าทำไมฉันถึงเอาตัวเข้าแลกไม่ได้" ย่าหยาจ้องตาธามเพราะต้องการคำตอบจากส่วนลึกของหัวใจของเขา "เพราะอะไร"
"เพราะฉัน" ธามจะพูดว่ารักเธอแต่ก็กลืนคำนั้นหายลงไปในใจ "เพราะมันเป็นศัตรู"
เล้งเดินเข้ามา
"มีเรื่องอะไรกันอาหยา"
"ไม่มีอะไรค่ะ บังเอิญเจอกัน คุณธามเพิ่งออกจากฉั่วเทียนเหลา กำลังจะกลับค่ะ"
ธามวางระเบิด "คิดให้ดีนะย่าหยา"
"คิดให้ดีเรื่องอะไร"
ย่าหยายิ้ม "เพื่อนคุณธามอยากได้เลขาฯน่ะค่ะ คุณธามเลยมาชวนหยา แต่หยาคง ไม่ทำ"
"อั๊วไม่ให้ว่าที่คู่หมั้นอั๊วไปทำงานกับคนอื่น อีต้องอยู่กับอั๊ว ลื้อไปบอกเพื่อนลื้อได้เลยว่า เสียใจ"
เล้งพูดจบก็ควงย่าหยาเดินออกไป ย่าหยาแอบเหลือบมองธามได้แวบหนึ่ง ธามหันหลังหนีภาพนั้น แล้วเดินขบฟันจนกรามปูดออกมา
ย่าหยาถือถาดเหล้าขวดใหม่มาเสิร์ฟเล้ง ส่วนตาก็ปรายไปมองโต๊ะธามที่ว่างเปล่า เธอคิดในใจว่าเขาคงไม่กลับมาแล้ว ย่าหยาฝืนยิ้มแล้วรินเหล้าให้เล้ง บนโต๊ะมีขวดเหล้าขวดแรกที่เพิ่งหมดไป
"อย่าดื่มมากนะคะเสี่ย หมดขวดนี้ ฉันไม่เสิร์ฟแล้วนะคะ" ย่าหยาบอก
เล้งยิ้มภูมิใจ "เธอเป็นห่วงฉัน"
"ห่วงสิคะ" ย่าหยาพูดด้วยเสียงเย็นชาแต่หน้ายิ้ม "ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้เสี่ยล้มป่วยหรือเป็นอะไรเพราะเหล้าพวกนี้หรอกค่ะ"
"ถ้าเธอขอให้หยุด ฉันจะหยุดดื่มเดี๋ยวนี้"
"จะดีกว่ามั้ยคะ ถ้าเสี่ยจะหยุดดื่มโดยที่ฉันไม่ต้องขอ"
เล้งยิ้มชอบใจ "ฉลาด ฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ" เล้งดันแก้วเหล้าออกจากตัว "เพื่อเธอ ย่าหยา"
ย่าหยายิ้มแล้วหางตาก็เห็นผู้ชายในชุดสูทเดินมานั่งโต๊ะธาม หญิงสาวใจเต้นตึกตักก่อนจะแอบหันไปมองเนียนๆ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่เขา ย่าหยาใจแป้ว เล้งหันไปมองตามสายตาย่าหยาแต่ยังไม่ทันได้จับผิดอะไร เฉียงก็เข้ามาทักซะก่อน
"อั๊วไปตรวจของเรียบร้อยแล้วครับเสี่ย"
ย่าหยาหันมามองเฉียงอย่างไม่อยากเชื่อว่าเฉียงจะทำงานให้เล้งได้
"เสี่ยคงมีธุระส่วนตัวที่ต้องคุยกับคนของเสี่ย ฉันขอตัวก่อนนะคะ" ย่าหยาบอก
เฉียงกลืนน้ำลายเอื้อกที่โดนย่าหยาเหน็บก่อนจะลงนั่ง ย่าหยาเดินออกไป แต่ยังไม่วายปรายตามองไปที่โต๊ะประจำของธามอีกครั้ง
ธามวาดแพลนคร่าวๆของฉั่วเทียนเหลาลงกระดาษแผ่นใหญ่เพื่อจะหาจุดที่จะซ่อนอาวุธให้เพื่อน สักครู่ธามก็วางดินสอแล้วเดินไปเดินมาผ่านหน้าจิวซึ่งนั่งอยู่แถวนั้น
จิวลุกขึ้นแล้วตัดสินใจเอ่ยปาก "ไปฉั่วเทียนเหลามั้ยเฮีย"
"ไม่" ธามตอบ
จิวนั่งลงตามเดิมอย่างจ๋อยๆ สักครู่เขาก็อดพูดไม่ได้อีก
"อั๊วเหมือนคนไม่มีหัวใจก็จริง แต่อั๊วรู้นะว่าคนมีหัวใจที่ว้าวุ่นเพราะความรักมันเป็นยังไง อั๊วรู้ว่าเฮียรักอาหยา"
"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลื้อ"
"อั๊วเจออาหยก อีบอกว่าเสี่ยเล้งขออาหยาแต่งงาน เฮียจะยอมเสียอาหยาไปยังนั้นเหรอ"
"อาจิว"
"แค่เฮียออกไปคุยกับอี บอกอีว่าเฮียรู้สึกยังไง มันก็น่าจะ"
ธามตวาดลั่น "ออกไปได้แล้ว"
จิวสะอึก สักครู่เขาจึงเดินออกไป ธามหงุดหงิดจึงเขวี้ยงดินสอในมือทิ้งเพื่อระบายอารมณ์
เล้งพูดกับเฉียง
"พรุ่งนี้ลื้อทยอยขนเครื่องลายครามไปไว้ที่โกดังท่าน้ำ"
"เอาลงเรือเหมือนคราวที่แล้วรึเปล่าเสี่ย" เฉียงถาม
"ยัง อั๊วต้องตรวจของดูอีกที"
"แต่อั๊วตรวจละเอียดทุกใบแล้วนะ"
"ขั้นตอนสุดท้ายอยู่ที่อั๊ว อั๊วจัดการเสร็จแล้วจะบอกลื้อว่าไปส่งที่ไหน"
เฉียงพยักหน้ารับรู้ แต่ยังสงสัยว่าทำไมเล้งต้องตรวจเป็นคนสุดท้าย หยกมณีเดินดูแลแขกโต๊ะอื่นผ่านมา
"อาหยก" เล้งเรียก
"ขา เสี่ย" หยกมณีเสียงหวาน
"ลื้อไปตามอาหยาให้อั๊วหน่อย อั๊วจะไปส่งอีที่บ้าน"
"อาหยากลับไปแล้วเสี่ย เห็นบ่นปวดท้อง คุณสุ่ยเลยให้กลับไปนอนพัก"
"ทำไมอีไม่มาบอกอั๊ว"
"อีเกรงใจเสี่ยน่ะสิ เห็นคุยงานอยู่"
"เป็นอะไรมากรึเปล่า อั๊วจะไปดูอี"
เล้งลุกขึ้นทันที หยกมณีรีบรั้งมือไว้
"แค่ปวดท้องที่ผู้หญิงเป็นกันทุกเดือนน่ะเสี่ย เสี่ยปล่อยให้อีนอนพักเถอะนะ"
เล้งค่อยเบาใจลง
ย่าหยาเดินเข้าไปหยุดที่หน้าบ้านธาม เธอยืนครุ่นคิดแล้วจะเดินไปกดกริ่ง แต่แล้วย่าหยาก็ชะงักเดินกลับออกมาแล้วหันไปมองที่บ้านธามอีกครั้ง
ธามเดินมาหยุดที่ถนนฝั่งตรงข้ามโรงแรมหมู่ตัน
เขาถอนใจยาวก่อนจะตัดสินใจเดินข้ามถนนมา แล้วเดินเข้าไปในโรงแรม แต่เพียงครู่เดียว ธามก็กลับออกมายืนเท้าเอวถอนใจเฮือกอีกครั้งที่หน้าโรงแรม
โบตั๋นนั่งชันเข่าอยู่บนเตียง
"ฉันได้ยินเฮียคุยกับแจ้สุ่ยอย่างนี้ ถ้าเราไปบอกเสี่ยเล้ง มันจะเชื่อเรามั้ย"
เฉียงนั่งชันเข่าเหมือนโบตั๋นแต่นั่งอยู่กับพื้นบนเสื่อ
"ต้องทำให้มันเชื่อ"
"แล้ว เฮียกับเพื่อนๆล่ะ จะเป็นอะไรมั้ย ฉันกลัวเสี่ยเล้งมันจะทำอะไรเฮีย"
"มันทำแน่ โอกาสที่ทุกคนจะมารวมตัวกันอย่างนี้ไม่ได้มีง่ายๆ มันไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก"
"ฉันกลัวเฮียจะเป็นอันตราย"
เฉียงสะท้อนใจ "คุณไม่ต้องห่วง ผมอยู่กับเฮียมาหลายปี ผมรู้ว่าเฮียคิดอะไร เฮียฉลาดกว่าที่มันคิด บางที..เรื่องที่คุณได้ยินอาจเป็นเรื่องที่เฮียจงใจจะบอกเราก็ได้"
"คุณพูดเหมือน เฮียอยากให้เสี่ยเล้งมา" โบตั๋นบอก
"ถ้าผมเดาใจเฮียไม่ผิดนะ และถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง นั่นหมายความว่าเฮียเตรียมตั้งรับไว้แล้ว คุณสบายใจได้ นอนเถอะ พรุ่งนี้เราต้องไปคุยกับมันแต่เช้า"
พูดจบเฉียงก็จะล้มตัวลงนอน โบตั๋นเอื้อมมือคว้าแขนของเขาไว้
"ขึ้นมานอนด้วยกันเถอะอาเฉียง"
เฉียงชะงัก "ผม"
"ฉันไม่อยากให้อาเกี๊ยงมันสงสัยเราสองคนอีก"
"คุณไว้ใจผม"
"ถ้าไม่ไว้ใจ ต่อให้อยู่คนละมุมห้องฉันก็หนีคุณไปไหนไม่พ้น ฉันไว้ใจคุณ ตั้งแต่เห็นคุณครั้งแรกด้วยซ้ำไป"
โบตั๋นยิ้มจริงใจให้เฉียง รอยยิ้มน้อยๆและแววตาที่เป็นมิตรของเธอทำให้หัวใจชายหนุ่มอบอุ่นขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์
ธามเดินถอนใจหน้านิ่งมาตามทาง
คำพูดของจิวย้อนกลัมา"อั๊วเจออาหยก อีบอกว่าเสี่ยเล้งขออาหยาแต่งงาน เฮียจะยอมเสียอาหยาไปยังนั้นเหรอ"
เขานึกถึงตอนที่คุยกับหงส์
หงส์ว่าธาม "ปากแข็ง หงส์รู้นะว่าเฮียรู้สึกยังไง ทำไมไม่รอให้หงส์คุยกับย่าหยาก่อน"
"เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากกว่านี้" ธามบอก
"หงส์รู้ว่าเฮียรักอาหยา"
ธามยิ่งถอนใจหนัก
ย่าหยาเดินปล่อยอารมณ์รับลมมาเรื่อยๆ เหมือนมีเรื่องหนักใจ
เธอนึกถึงตอนที่ธามคุยกับเธอ
ธามพูด "ระหว่างเรามีอะไรที่เป็นเรื่องจริงบ้างย่าหยา นอกจากเรื่องที่เธอจะแต่งงานกับไอ้เล้ง หัวใจเธอเป็นยังไงกันแน่ ฉันอยากรู้จริงๆ"
"เธอลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเป็นคนในครอบครัวฉัน" ธามว่า
"ฉันไม่เคยลืม" ย่าหยาบอก
"ไม่เคยลืมแล้วทำแบบนี้ทำไม มันมีวิธีอีกตั้งเยอะแยะที่เธอจะเข้าใกล้มันได้ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยง ทำไมเธอต้องเลือกเอาตัวเข้าแลกแบบนี้"
"คุณก็บอกฉันมาสิว่าทำไมฉันถึงเอาตัวเข้าแลกไม่ได้" ย่าหยาจ้องตาธามต้องการคำตอบจากส่วนลึกของหัวใจ "เพราะอะไร"
"เพราะฉัน" ธามจะพูดว่ารักเธอแต่ก็กลืนคำนั้นหายลงไปในใจ "เพราะมันเป็นศัตรู"
ทันใดนั้นเอง ธามกับย่าหยาก็ชะงักเหมือนทั้งคู่เห็นกัน แต่ไม่ใช่เพราะสิ่งที่ทั้งคู่มองเห็นคือ คู่รักคู่หนึ่งที่ยืนคุยกันสวีทหวานมองกันหวานซึ้ง สักครู่ฝ่ายชายก็ส่งช่อดอกไม้ให้ฝ่ายหญิง แล้วฝ่ายหญิงก็โผเข้ากอดฝ่ายชายบนสะพานหรืออีกฝั่งของน้ำพุ
ธามกับย่าหยามองภาพนั้นแล้วเจ็บจี๊ดที่ใจ ทั้งคู่อยู่ในสถานที่เดียวกัน กำลังมองสิ่งเดียวกัน แต่ยืนอยู่ในมุมที่ไม่เห็นกัน
เช้าวันใหม่ เล้งเหงื่อผุดเต็มหน้าและแผ่นอก เขาวางมือจากการยกดัมเบลแล้วหันมามองโบตั๋น
"ลื้อแน่ใจนะ อาโบตั๋น" เกี๊ยงถาม
"อั๊วได้ยินมาเต็มสองรูหู" โบตั๋นหันมาหาเล้ง "ถ้าเสี่ยไม่เชื่ออั๊วก็ตามใจ"
เฉียงกับโบตั๋นทำทีจะเดินออกมา
"เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป" เล้งสั่งเกี๊ยง "อาเกี๊ยง ลื้อไปตามอาอิกมาหาอั๊ว บอกอีว่ามีงานใหญ่ให้ทำ" เล้งพูดกับโบตั๋น "ลื้อว่ากี่โมงนะ"
"บ่ายโมงค่ะ"
"ถ้าเฮียกระทิงบอกบ่ายนั่นหมายถึง 11 โมง เฮียมักขุดหลุมพรางเรื่องเวลาสำหรับคนที่ไม่เกี่ยวข้องเสมอ เพื่อความปลอดภัย" เฉียงบอก
"ลื้อแกล้งบอกเวลาผิดเพื่อจะช่วยนายเก่าลื้อรึเปล่าวะ อาเฉียง" เกี๊ยงว่า
"อั๊วไม่มีนายเก่า อั๊วอยู่กับคนที่ให้ข้าวให้น้ำอั๊วกินตอนนี้ อั๊วบอกไม่ได้ว่าเรื่องที่อั๊วพูดมันจะเป็นตามนั้นรึเปล่า เสี่ยคงต้องวัดใจกับอั๊ว ถ้าอั๊วถูก ทุกคนจะได้เลิกระแวงสงสัย แต่ถ้าอั๊วผิด เสี่ยยิงอั๊วได้ทันที"
เล้งชั่งใจแป๊บนึงแล้วสั่งเกี๊ยง "ไปตามอาอิก เกณฑ์คนของเราให้พร้อม ไป"
เกี๊ยงก้มหัวให้เล้งแล้วเดินออกไป
เล้งพูดกับเฉียงและโบตั๋น "ลื้อสองคนทำดีมาก โชคเข้าข้างอั๊วจริงๆ" เล้งหน้าเหี้ยม "พรุ่งนี้คือวันตายของพวกมัน"
เล้งหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่เฉียงกับโบตั๋นสบตากันด้วยความโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
ธามเช็ดขัดเงากรรไกรสลักลายกระทิงในมือในขณะที่สั่งจิว
"เตรียมของให้พร้อม แล้วไปเจอฉันที่ฉั่วเทียนเหลา บอกเพื่อนฉันทุกคนด้วยว่าเราซ่อนของไว้ที่ไหนบ้าง"
"ครับเฮีย"
จิวก้มหัวให้ธามก่อนจะเดินออกไป ธามขยับกรรไกรคมกริบในมือหมุนผ่านหน้าด้วยแววตาคมยิ่งกว่ากรรไกร
เกี๊ยงพาอิกเข้าไปในบ้าน เฉียงกับโบตั๋นซึ่งยืนมองอยู่มุมหนึ่ง
"อาอิก คนของเถ้าแก่เคี้ยง"
"ได้ยินว่ามันออกมาจากเถ้าแก่เคี้ยงแล้ว มันมาทำอะไรที่นี่"
เฉียงกับโบตั๋นมองหน้ากันด้วยความสงสัย
เลือดมังกร : กระทิง ตอนที่ 7 (ต่อ)
โบตั๋นเดินเหลียวซ้ายแลขวาแล้วย่องเข้ามาทางด้านหลังบ้าน สักครู่เธอก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเกี๊ยงโผล่เข้ามาถามทางด้านหลัง
"ลื้อเข้ามาทำอะไรในนี้"
โบตั๋นตั้งสติแล้วหันมา "อั๊วจะเข้ามาถามเสี่ยว่า วันนี้จะไปหาอาหยาที่ฉั่วเทียนเหลารึเปล่า"
"นายใหญ่ต้องเตรียมงานใหญ่ ไม่ไปไหนจนกว่าจะพรุ่งนี้"
ระหว่างที่เกี๊ยงพูด เฉียงโผล่เข้ามาทางด้านหลัง โบตั๋นแอบสบตาเฉียงแวบเดียว เฉียงรีบเดินผ่านเกี๊ยงแล้วจะตรงไปที่ห้องทำงานเล้ง เกี๊ยงหันกลับไปทางเฉียง เขาเกือบเห็นเฉียงถ้าโบตั๋นไม่คว้าแขนเกี๊ยงไว้ได้ทัน
เกี๊ยงหันมาถาม "อะไรอีก"
"คือ อั๊วฝากผัวอั๊วด้วยนะกู๋ ถึงอาเฉียงจะเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ แต่อีก็ตั้งใจนะ ยังไงก็เมตตาอีด้วย นึกว่าเห็นแก่กู๋อั๊วเถอะนะ"
เกี๊ยงถอนใจเพราะแอบสงสารโบตั๋นที่ไม่รู้ว่าซ้งตายแล้ว
เล้งสั่งงานกับอิก
"ลื้อให้ลูกน้องแฝงตัวเป็นลูกค้ากับพนักงานเสิร์ฟรอจัดการไอ้พวกนั้นอยู่ด้านใน ให้อาหมงดักเก็บพวกที่หนีรอดออกไปทางด้านนอก"
"ครับเสี่ย คราวนี้ไอ้ทรงกลดไม่รอดแน่" อิกบอก
"อั๊วต้องการกุดหัวพวกมันทุกคน อาธาม อาทรงกลด อาภรพ อาคณิน อาหงส์ ค่าหัวมันเท่ากันทุกคน" เล้งบอก
"อั๊วจะเก็บมันให้เรียบ"
"ยกเว้นคนหนึ่ง ลื้อต้องกำชับลูกน้องลื้อให้ดี อย่าให้ใครแตะต้องอีเด็ดขาด"
"เสี่ยหมายถึงใคร"
เล้งตาเป็นประกาย "อาหยา อีเป็นพนักงานที่นั่น”
"เสี่ยรักผู้หญิงคนนั้น"
"อีคือคนที่อั๊วจะแต่งงานด้วย"
อิกยิ้ม "ผมคงต้องแวะไปที่ฉั่วเทียนเหลาหน่อยแล้ว"
"เตรียมคนของลื้อให้พร้อม หมดเสี้ยนหนามเมื่อไหร่ ลื้ออยากเป็นหัวหน้าแก๊งไหน ว่ามา"
อิกยิ้มทะเยอทะยาน เฉียงยืนแอบฟังอยู่ที่หน้าห้อง เมื่อเห็นเกี๊ยงเดินเข้ามาจากอีกทางเฉียงก็รีบปีนราวระเบียงออกไป
ย่าหยาเอาอาหารเสิร์ฟลูกค้าแล้วเหลือบตามองที่โต๊ะธามซึ่งมีลูกค้าคนอื่นนั่งอยู่ แล้วย่าหยาก็เดินใจลอยออกมา หยกมณีเดินมายืนดักหน้า
"ใจลอยคิดถึงใคร" หยกมณีถาม
ย่าหยายิ้ม "แค่คิดเพลินๆน่ะค่ะแจ้ ว่าทำไมวันนี้แขกประจำหายหน้าไป"
"แขกประจำที่ว่า ไม่น่าใช่เสี่ยเล้ง" หยกมณียิ้มเพราะอ่านใจย่าหยาออก "เสี่ยเล้งโทรมาบอกเมื่อกี้ว่าติดประชุม เข้ามาไม่ได้ ส่วนเฮียกระทิงไม่ได้โทรมา แต่แจ้รู้ว่าเฮียกำลังทำงาน สำคัญ"
"งานอะไรคะ"
"หยาไม่ต้องรู้หรอก พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานนะ แจ้สุ่ยสั่ง"
ย่าหยาแปลกใจ "ทำไมล่ะ"
สุ่ยก้าวเข้ามายืนข้างๆ
"เอาน่า ไม่ต้องสงสัย" สุ่ยว่า "อั๊วบอกไม่ต้องมาก็ไม่ต้องมา อั๊วเองจะมารึเปล่ายังต้องคิดอีกทีเลย เฮ้อ เก๊กซิม"
สุ่ยส่ายหน้าแล้วเดินออกไปอย่างเซ็งๆ ย่าหยามองตาม อิกยืนมองย่าหยาอยู่ที่มุมหนึ่ง
ย่าหยาเดินเอื่อยๆมาตามทาง ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถามว่าธามหายไปไหน ทำอะไร อยู่ที่ไหน ทำไมเธอต้องนึกถึงแต่เขา ย่าหยาคิดวนไปวนมาเหมือนหลงเข้าเขาวงกตหาทางออกไม่เจอ แล้วใจหญิงสาวก็กระตุกวาบ เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อกำลังจะข้ามถนนแล้วมองเห็นธามยืนพิงกำแพงอยู่ที่หน้าโรงแรมหมู่ตัน ธามเงยหน้าขึ้นมองมาที่เธอ
ย่าหยาเดินข้ามถนนมาด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่เห็นหน้ากันแค่วันเดียวแต่เหมือนไม่ได้เจอกันเป็นสิบปี ทั้งคู่ขยับเข้ามามองหน้ากันด้วยแววตาบ่งบอกว่าโหยหาและคิดถึงกันสุดๆ
ธามขยับเข้ามาหาหญิงสาว "พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานนะ"
"ทำไม มีอะไร ทำไมทุกคนต้องห้ามไม่ให้ฉันไปที่นั่น"
"ไม่ต้องรู้ รู้แค่ไม่ต้องไป"
"แต่คุณไป"
"ฉันมีประชุมกับเพื่อนๆ ที่นั่น"
"ฉันต้องไปทำงาน"
"ไม่ได้"
"คุณให้เหตุผลฉันมาสิ คนครอบครัวเดียวกันต้องไม่มีอะไรปิดบังกัน คุณบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ"
"มัน อันตราย" ธามบอก
"คุณไป ฉันไป"
"เธอต้องอยู่ ถ้าฉันเป็นอะไรไป เธอต้องสานต่องานของเราให้สำเร็จ"
"คุณไปฉันไป คุณตายฉันตาย ไม่ใช่แค่ฉันเป็นคนในครอบครัวคุณ แต่คุณคือคนในครอบครัวฉันด้วย คุณธาม"
ธามมองย่าหยาชั่วอึดใจ ก่อนจะคว้าตัวเธอมากอดอย่างตื้นตันใจ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวอ้างว้างอีกต่อไป ใน
ขณะที่ย่าหยาก็อบอุ่นหัวใจจนแทบละลายอยู่ในอ้อมกอดของธาม
ย่าหยาที่เปลี่ยนชุดนอนแล้วนั่งอยู่มุมหนึ่งของเตียง
"กลับไปพักผ่อนเถอะคุณธาม"
ธามนั่งอยู่มุมหนึ่งบนพื้นห้องโดยนั่งหลังพิงกำแพง และหันไปมองย่าหยา
"ให้ฉันมองเธอจนกว่าเธอจะหลับได้มั้ย" ธามบอก
"ฉันจะหลับได้ยังไงในเมื่อคุณนั่งมองฉันอยู่อย่างนี้"
"ขอฉันมอง ในเวลาที่ยังมองได้ ฉันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง อาจไม่มีโอกาสมอง เธออย่างนี้อีกแล้ว"
ย่าหยาใจหายวาบ "ทำไมพูดอย่างนั้น"
"ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน ฉันเคยผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดในชีวิต ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าจะต้องเผชิญกับมันอีกครั้ง ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว"
ย่าหยาขอบตาร้อนผ่าว "แล้วไม่คิดว่าฉันจะกลัวบ้างเหรอ คุณดึงฉันมาเป็นคนในครอบครัวคุณ แต่คุณพูดเหมือนคุณอยู่ตัวคนเดียว ทำไมคุณไม่พูดกับฉันว่าเราจะสู้ด้วยกัน รอดไปด้วยกัน"
ธามรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอหอย ความรู้สึกตื้นตันถาโถมเข้าสู่หัวใจจนทำอะไรไม่ถูก
ธามลุกขึ้นยืนเก้ๆกังๆ ก่อนจะฝืนยิ้มกลบเกลื่อน "ขอบใจนะ ที่ทำให้ชีวิตฉันไม่โดดเดี่ยวจนเกินไป นอนเถอะ ฉันไม่กวนเธอแล้ว"
ธามอยากจะพูดอยากจะทำอะไรมากกว่านั้น แต่รู้สึกเหมือนมือไม้ จังหวะหายใจ ทุกอย่างดูผิดที่ผิดทางผิดจังหวะไปซะหมด เขาจึงได้แต่มองย่าหยาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันหลังกลับ
"ฉันอาจมีเหตุผลร้อยแปดที่ต้องทำเพื่อครอบครัวของฉัน บางครั้งมันอาจทำให้คุณโกรธ เกลียด ไม่พอใจ แต่ฉันอยากให้คุณรู้ไว้.. ไม่เคยมีสักครั้งที่ฉันคิดจะทรยศหรือหักหลังคุณ" ย่าหยาพูด
ธามทนไม่ไหวจึงหันมากอดย่าหยาแน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหลุดลอยไปไหน
"เราจะสู้ด้วยกัน รอดไปด้วยกัน ย่าหยา" ธามว่า
ย่าหยาโอบกอดธามแน่นเช่นกัน
หน้าภัตตาคารฉั่วเทียนเหลา ธาม ทรงกลด ภรพ คณิน หงส์ หันมามองหน้ากันก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้าไปในฉั่วเทียนเหลา
ธาม ทรงกลด ภรพ คณิน และหงส์เดินต่อเนื่องเข้ามาด้านในฉั่วเทียนเหลา ผู้ชายทั้งสี่คนกวาดตาไปรอบบริเวณด้วยความรู้สึกวันนี้ฉั่วเทียนเหลาลูกค้าแน่นคึกคักเป็นพิเศษ ย่าหยาเดินเสิร์ฟน้ำชาให้ลูกค้าโต๊ะหนึ่ง ในขณะที่พนักงานเสิร์ฟอื่นก็กระจายกันดูแลโต๊ะอื่น ธามกับย่าหยาสบตากัน
คณินเห็นย่าหยา "สวัสดีครับคุณย่าหยา พนักงานเสิร์ฟที่สวยที่สุดในโลก"
"สวัสดีค่ะ เชิญห้องวีไอพีด้านบนเลยนะคะ"
ทุกคนเดินผ่านย่าหยาตรงไปที่บันได โดยมีธามเดินรั้งท้าย ช่วงที่เดินผ่านย่าหยา ธามก็แอบจับมือหญิงสาวแน่น ทั้งคู่หันมามองหน้ากันแล้วส่งสายตาให้กำลังใจกันและกัน ก่อนที่ธามจะเดินจากไป
ทรงกลด ภรพ คณิน และหงส์เดินขึ้นบันไดมาโดยมีธามตามมาทีหลัง ทั้งหมดเดินผ่านระเบียง
ทรงกลดยืนรอหน้าห้องให้เพื่อนๆ กับหงส์เข้าไปก่อนแล้วหันไปมองธามที่ตามมา ทั้งคู่ขยับไปที่ระเบียง
ธามมองนาฬิกาข้อมือซึ่งบอกเวลา 11.00น. ธามกับทรงกลดมองลงไปที่ด้านล่าง ทั้งคู่เห็นเล้งเดินมานั่งโต๊ะประจำพร้อมเฉียง เกี๊ยง ย่าหยาเดินมาต้อนรับ ธามกับทรงกลดสบตากันคล้ายจะบอกว่ามาจนได้แถมตรงเวลาดีจริงๆ
เล้งพูดกับย่าหยา "ไม่ได้เจอวันเดียว คิดถึงเธอมากอาหยา"
เล้งพูดจบแล้วดึงมือย่าหยาขึ้นมาหอมอย่างทะนุถนอม อิกแอบมองย่าหยาอยู่ในมุมมืดมุมหนึ่งที่ด้านล่าง ธามกัดฟันกรอด
ทรงกลดแซว "หึงหนวดกระดิกเลยนะ"
ธามตัดอารมณ์ตัวเองฉับแล้วเดินเข้าห้องประชุมไปกับทรงกลด
มือปืนเล้งในคราบพนักงานเข็นรถอาหารว่างเข้ามาแล้วงัดปืนออกมายิงใส่ทุกคน ธาม ทรงกลด ภรพ และคณินดึงปืนที่ตัวเองเตรียมมายิงสวนกลับ ธามพุ่งไปหาหงส์ก่อนจะพาหงส์วิ่งหนีไป
ภรพมาประจำที่ระเบียงมุมหนึ่ง ในขณะที่คณินอยู่อีกมุมเพื่อคอยดักยิงลูกน้องเล้งและอิกซึ่งแฝงตัวเป็นลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟที่โผล่ออกมาตามห้องวีไอพีทางด้านบนเพื่อคุ้มกันให้ธามพาหงส์วิ่งลงบันไดไปข้างล่าง
ทรงกลดกระโดดจากระเบียงด้านบนลงมาประจำที่หลังเคาเตอร์ด้านล่าง ธามพาหงส์วิ่งลงบันไดและยิงสกัดไม่ให้ใครยิงหงส์ เล้งโอบย่าหยาหลบเข้าหลังเสา เฉียงกับเกี๊ยงยิงคุมกันให้เล้ง จิวโผล่ขึ้นมาจากโต๊ะที่ซ่อนตัวอยู่แล้วช่วยยิงสกัดให้ธามกับหงส์ ลูกน้องเล้งและอิกที่แฝงตัวเป็นลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟด้านล่างพากันยิงใส่กลุ่มของธาม มือปืนเล้งในชุดดำยังทยอยออกมาจากห้องวีไอพีด้านล่าง
เล้งยิงปืนใส่คนของตัวเองเพื่อหลอกตาคนอื่นว่า ย่าหยาเห็นมือปืนถูกยิงล้มลงก็เผลอคว้าปืนในมือมือปืนแล้วยิงใส่มือปืนเล้งอย่างแม่นยำ เล้งหันมามองย่าหยาทำเป็นถือปืนมือสั่นแล้วโยนปืนทิ้งเหมือนไม่เคยจับปืนมาก่อน อิกโผล่ออกมาหาจังหวะยิงธาม ทรงกลด แต่มุมไม่ดีทำให้ยังหาจังหวะไม่ได้ ธามยิงดะแล้วฝ่าด่านพาหงส์ออกไปทางด้านนอก
ธามวิ่งพาหงส์ตะลุยออกมานอกฉั่วเทียนเหลาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หลงจะเข้าไปหาหงส์ด้านในพอดี
"ฝากน้องฉันด้วยอาหลง"
"ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลคุณหนูด้วยชีวิตครับคุณธาม"
ธามส่งหงส์ให้หลงแล้ววิ่งกลับเข้าไปด้านใน
ธามเดินตึงๆ เข้ามาหงายโต๊ะแล้วหยิบปืนที่อยู่ใต้โต๊ะออกมา 2 กระบอกยิงใส่ลูกน้องเล้ง
ทรงกลดวิ่งจากเคาเตอร์สวนธามออกไป ธามจะเข้าไปแทนที่ทรงกลดตรงเคาเตอร์แต่ยังไม่มีจังหวะ เฉียงทำเป็นไล่ยิงธาม แต่พอมาประชิดตัวก็แอบกระซิบบอกธาม
"ระวังห้องวีไอพีทุกห้องเฮีย"
เฉียงทำเป็นยิงธามพลาดก่อนผละออกมา
ธามกวาดตามองหาย่าหยา อิกหาจังหวะจะยิงธามแล้วก็สบโอกาส อิกยกปืนเล็งไปที่ธาม ย่าหยาหันมาเห็นอิก ธามเงยหน้าขึ้นยิงมือปืนที่จะยิงคณิน ย่าหยาวิ่งออกไปหาธาม อิกลั่นไก เล้งกลัวย่าหยาโดนลูกหลงจึงวิ่งตามมาแล้วรวบตัวโดยเอาหลังบังย่าหยาไว้
ลูกกระสุนพุ่งใส่ไหล่ซ้ายของเล้งจนเลือดกระฉูด ธามหันไปยิงโดนมืออิกแล้ววิ่งมาช่วยยิงกันให้เฉียงกับเกี๊ยงลากเล้งไปหลบที่เคาเตอร์กับย่าหยา อิกอาศัยจังหวะนี้กุมมือที่ถูกยิงวิ่งหนีออกไปทางด้านหน้า
ภรพกับคณินกระโดดจากชั้นบนมาสมทบกับธาม ธาม ภรพ และทรงกลดยืนหันหลังชนกันแล้วยิงสาดใส่มือปืนเล้งที่เหลือ สักครู่ สุ่ย ชานนท์และตำรวจติดตามอีก 5 คนก็วิ่งถือปืนเข้ามา
คณินกระซิบเพื่อน "พวกตำรวจนี่มาตอนจบตลอด ว่ามั้ย"
สุ่ยเห็นสภาพร้านแล้วก็ปวดตับ "อ้ายหยา ร้านอั๊วเหรอเนี่ย" สุ่ยหันไปเห็นย่าหยา "อ้าว อาหยา ลื้อมาทำไม"
สุ่ยวิ่งไปดูย่าหยาว่าเป็นอะไรรึเปล่าก่อนจะถอนใจโล่งอก
"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว" สุ่ยหันมาเห็นเลือดที่หลังเล้ง "อ๊าย เสี่ย เลือด นี่เสี่ยโดนยิงนี่คะ เอ้า อาเกี๊ยง เร็วๆเข้าสิ รีบพาเสี่ยไปโรงพยาบาล"
เกี๊ยงพยุงเล้ง โดยมีสุ่ยกับเฉียงตามไป
ย่าหยากับสุ่ย "หยาไปด้วยค่ะคุณสุ่ย"
ย่าหยาตามสุ่ยออกไปพร้อมเล้ง เฉียง และเกี๊ยง ธามมองตามย่าหยา
ชานนท์พูดกับธาม "เกิดอะไรขึ้นครับคุณธาม"
ธาม ภรพ และคณินหันมามองชานนท์
ชานนท์คุมตำรวจเอาเชือกมาล้อมหน้าฉั่วเทียนเหลาเพื่อกันไม่ให้คนเดินเข้าออกมาทำลายหลักฐาน ธาม ภรพ และคณินยืนดูการทำงานของตำรวจอยู่ที่มุมหนึ่ง
"เสี่ยเล้งโดนยิงด้วยอย่างนี้ ตำรวจต้องคิดว่าเป็นมือที่สามแน่" ภรพว่า
"ไม่ใช่มัน แล้วใครจะจ้างมือปืนมาเป็นฝูงได้ขนาดนี้วะ ถ้าเราไม่เก่งจริง ไม่ได้มายืนหล่อตรงนี้หรอก" คณินบอก
ธามเจ็บใจที่เล้งหลุดจากการเป็นจำเลยของสังคมอีกจนได้ ชานนท์เดินเข้ามาพูด
"อยากให้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดได้มั้ยครับคุณธาม"
"เรามาประชุมเรื่องสมาคมกันครับ ระหว่างที่กำลังจะรับของว่าง จู่ๆคนร้ายที่แฝงตัวเป็นพนักงานที่นี่ก็ยิงถล่มเรา เราเลยต้องป้องกันตัว"
"จบ นี่ละเอียดสุดแล้วครับผู้กอง ถ้าจะให้จาระไนว่ามันมาทางไหน มายังไง มากี่คนก็จนด้วยเกล้าครับ นับไม่ทันจริงๆ"
"พวกคุณสงสัยใครบ้างมั้ยครับ" ชานนท์ถาม
"ไม่สงสัย แต่เชื่อว่ามันเป็นพวกเดียวกับที่ดักยิงพวกเราวันสารทจีนครับ" ภรพบอก
สุ่ยนั่งรถลากมาลงที่หน้าภัตตาคาร
"เสี่ยเล้งเป็นยังไงบ้างครับ" ชานนท์ถาม
"หมอกำลังผ่าเอากระสุนออกค่ะ"
"แล้ว ย่าหยาล่ะ" ธามถาม
"อยู่ที่โรงพยาบาล บอกจะรอดูให้แน่ใจว่าปลอดภัยแล้วน่ะค่ะ"
ธามรู้สึกจุกเสียดเพราะไม่พอใจว่ารอทำไม ห่วงอะไรนักหนา
เล้งนอนบนเตียงในห้องพยาบาล สักครู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆเมื่อเห็นย่าหยานั่งอยู่ข้างเตียงกำลังส่งยิ้มให้เขา
"อาหยา ขอบใจมากนะที่อยู่เฝ้าฉัน"
"ฉันต่างหากคะที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเสี่ย ถ้าเสี่ยไม่ช่วยฉันไว้ ป่านนี้ฉันคง"
"ฉันยอมเจ็บแทนเธอ ดีกว่าจะเห็นเธอเจ็บ"
"ตอนเห็นเลือด ฉัน กลัวว่าเสี่ยจะ"
เล้งยิ้มละไม "ตาย"
ย่าหยาหน้าสลดแต่ตาแอบวาวเพราะยังไม่อยากให้เล้งตายง่ายๆ
"ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกอาหยา ฉันจะอยู่กับเธอ"
ย่าหยาฝืนยิ้มให้เล้ง
สักครู่ เกี๊ยงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
"อาอิก จะขอเข้ามาเยี่ยมนายใหญ่"
เล้งส่งสายตาด่าเกี๊ยงที่เข้ามาขัดจังหวะ แล้วหันมาพูดกับย่าหยา
"ฉันขอคุยเรื่องงานสักครู่นะ"
ย่าหยาพยักหน้ารับคำก่อนจะลุกออกมา
ย่าหยาเปิดประตูออกมา เธอเห็นเฉียงยืนรออยู่ที่หน้าประตูกับอิกซึ่งสวมหมวกพรางหน้าที่มือขวามีผ้าก็อชพัน ย่าหยามองหน้าอิก อิกขยับหมวกลงมาบังตา เฉียงก้มหัวทักท้ายย่าหยาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องกับอิก
ย่าหยานึกถึงตอนที่เธอหันมาเห็นอิกในขณะที่ยิงต่อสู้กันเมื่อคืน เธอจำอิกได้อย่างแม่นยำ
อิกกลืนน้ำลายเอื้อกแบบทั้งกลัวทั้งเกรงเล้งจนขี้หด
"อั๊วขอโทษครับเสี่ยที่ทำงานพลาด แถมเสี่ยยังต้องเจ็บตัวเพราะอั๊วอีก"
"ตำรวจมันสงสัยอะไรเรารึเปล่า" เล้งถาม
"มันก็คงมาสอบปากคำตามปกติเพราะเราอยู่ในเหตุการณ์ แต่อาจไม่สงสัยอะไรเพราะเสี่ยก็โดนยิงเหมือนกัน" เฉียงบอก
อิกพูด "อั๊วตั้งใจจะยิงอาธาม ไม่คิดว่าคุณย่าหยาจะวิ่งออกมา ความผิดครั้งนี้"
เกี๊ยงส่งปืนให้เล้ง อิกอึ้งเพราะหายใจไม่ทั่วท้อง เล้งรับปืนจากเกี๊ยงมาพลิกซ้ายพลิกขวาแล้วยกขึ้นเล็งมาที่อิก อิกแทบลืมหายใจ แต่แล้วจู่ๆ เล้งก็ส่งปืนคืนเกี๊ยง
"เอาล่ะ ครั้งนี้อั๊วจะคิดในแง่ดี อย่างน้อยมันก็ทำให้อั๊วรู้ว่า พวกมันรู้ตัวว่ามีคนคิดถล่มมัน ครั้งต่อไปจะได้วางแผนให้ดีกว่านี้ ขอบใจลื้อด้วยอาเฉียง ถ้าลื้อไม่เปลี่ยนเวลา เราคงไม่ได้ถีบมันหน้าหงายอย่างนี้"
"มันคงดิ้นกันพล่านเลยนะนายใหญ่"
"ล่ออั๊วไปติดกับแต่กลับทำอะไรอั๊วไม่ได้" เล้งหัวเราะ "ไม่มีหมาตัวไหนทำอะไรอั๊วได้หรอก ไอ้เด็กเมื่อวานซืน"
จากที่หัวเราะหึ หึ เล้งสะใจจนกลายเป็นหัวเราะดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆ ย่าหยาที่ได้ยินยืนขบกรามแน่น
เธอคิดในใจว่าหมาตัวนี้แหละที่จะทำให้แกลงไปหัวเราะในนรก
ธามส่งเงินที่อยู่ในถุงสีน้ำตาลให้สุ่ย
"ค่าเสียหายครับ"
สุ่ยเปิดออกดูแล้วหยิบส่งคืนธามฟ่อนใหญ่ "มากไปค่ะเฮีย"
"เก็บไว้เถอะครับ"
"ไม่ค่ะ สุ่ยคืนให้เพราะเฮียหล่อถูกใจ อันนี้ก็ส่วนหนึ่งสุ่ยยอมรับ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ สุ่ยเองก็เบื่อไอ้นักเลงพวกนั้น ถ้าไม่ร่วมมือกับเฮียจัดการมันให้เด็ดขาด สุ่ยก็ต้องปวดหัว เพราะมันเทียวมาหาเรื่องยิงกันที่นี่ไม่จบไม่สิ้น"
"เรื่องมันใกล้จบแล้วครับคุณสุ่ย"
สุ่ยดีใจ "จริงเหรอเฮีย" แล้วสุ่ยก็นึกขึ้นได้จึงชะงัก "ใกล้จบก็คือยังไม่จบ" สุ่ยหน้าเจื่อน "สุ่ยรักและนับถือเฮียนะ แต่ ไปจบที่อื่นบ้างได้มั้ยคะ"
ธามยิ้มให้สุ่ย "คงไม่รบกวนคุณสุ่ยแล้วล่ะครับ"
สุ่ยยิ้มกลับ "วันนั้นที่เฮียออกไปกับคุณหงส์ อาหยายังไม่ได้รับปากเสี่ยเล้งนะคะว่าจะหมั้นวันไหน เฮียยังมีโอกาสค่ะ"
ธามเบนสายตาจากสุ่ยที่จ้องมองมาอย่างรู้ใจ เขาแอบทำตาเคลิ้มเล็กๆ ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องบอกให้ย่าหยารู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ
ย่าหยาเดินเข้าห้องพักเล้งมาพร้อมหมอ
"ปวดแผลมั้ยครับ" หมอถาม
"ไม่ครับ ถ้าไม่มีอะไรที่ต้องอยู่ในความดูแลของหมอ ผมขอกลับไปรักษาตัวที่บ้านนะครับ หมอส่งพยาบาลไปดูแลทำความสะอาดแผลให้ผมก็ได้ ผมจ่ายค่าจ้างพิเศษให้พยาบาลเอง" เล้งบอก
หมอเปิดแผลดู "ก็ได้ครับ แผลเรียบร้อยดี เดี๋ยวผมให้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบแล้วก็ยาแก้ปวดไป เย็นๆเลิกงานแล้ว ผมจะแวะไปดูแผลให้จนกว่าจะตัดไหมนะครับ"
"ถ้าแค่กินยา ทำความสะอาดแผลไม่ต้องจ้างพยาบาลพิเศษก็ได้ค่ะ ฉันดูแลให้เอง"
"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบคุณเป็นอะไรกับคนไข้ครับ"
"ฉันเป็นคู่หมั้นเสี่ยค่ะ"
หมอพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินออกไป เล้งหัวใจพองโตที่ย่าหยาประกาศตัวกับคนอื่นว่าเป็นคู่หมั้นของเขา ย่าหยายิ้มให้เล้งซึ่งเป็นยิ้มที่ซ่อนความชิงชังไว้ข้างในอย่างแนบเนียนที่โอกาสมาถึงอีกครั้ง ย่าหยาออกมานอกหน้าต่าง ณ จุดที่เธอแอบฟังเล้งเมื่อครู่ตอนนี้กลายเป็นจุดที่ธามยืนแทนที่ ชายหนุ่มหูอื้อตาลายที่เมื่อคืนเขากอดหญิงสาวอย่างมีความสุข เขากำลังจะบอกรักเธอแต่มาตอนนี้ ผู้หญิงคนเดียวกันกลับทำให้เขาทุรนทุรายหายใจไม่ออก เขาไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ
ย่าหยาเปิดประตูเข้ามาในห้องท่ามกลางความมืด เธอเอื้อมมือไปเปิดไฟ เมื่อหันกลับมาก็ต้องตกใจเพราะเห็นธามนั่งรออยู่บนเตียง
“คุณ มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่เธอออกตัวกับหมอว่าเป็นคู่หมั้นเสี่ยเล้ง”
“คุณไปที่โรงพยาบาลมา”
ธามเจ็บหนึบ “ตกลงเธอจะหมั้น จะแต่งงาน จะอยู่กับมันให้ได้ใช่มั้ย”
“คุณก็รู้ว่าโอกาสเข้าถึงตัวมันทำได้ยากขนาดไหน ไม่ใช่แค่อาเกี๊ยงหรืออาเฉียงที่ตามประกบมัน ที่แฝงตัวอยู่รอบนอกมีอีกเป็นสิบ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
ธามพุ่งมาหาย่าหยา
“เธอคิดว่ามันจะนั่งนิ่งๆ รอให้เธอมาเชือดงั้นเหรอ เธอไว้ใจอะไรมันนักหนา”
“ฉันไม่ได้ไว้ใจมัน ฉันไว้ใจตัวเอง”
ธามหงุดหงิด “แต่เธออาสาไปดูแลมันอย่างนั้น ถ้ามันทำอะไรเธอขึ้นมาจะว่ายังไง”
“ก็แค่ยอมตาย”
ธามชะงักกึก “อย่าพูดอย่างนี้”
“ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วง”
ธามกระชากแขน “เห็นแก่ตัว!!! แล้วคนที่ห่วงเธอล่ะ เธอไม่คิดถึงใจเขาบ้างเหรอ”
ย่าหยาค้นหาคำตอบจากสายตาของธาม “ใคร”
ธามอยากจะพูดความในใจแต่ปากแข็ง “ก็ คนรักของเธอไง เธอรอเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ย่าหยาหน้าชาเพราะใจคิดถึงธาม แต่ธามกลับตบหน้าเธอด้วยการเตือนสติให้นึกถึงชลธี
ย่าหยาทั้งเจ็บทั้งเสียใจ “ขอบคุณที่เตือน คุณกลับไปได้แล้ว ฉันอยากพักผ่อน”
ธามอึ้งบ้าง ชายหนุ่มยังไม่อยากไป เขาอยากบอกว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ
“ไปสิ บอกให้ออกไปไง” ย่าหยาไล่
ธามจำต้องออกไป ย่าหยานั่งหน้านิ่งที่เตียงด้วยหัวใจที่ว้าวุ่นว่าทำไมเธอนึกถึงธามก่อนชลธี
ย่าหยารู้สึกผิดมหันต์ “หยาขอโทษค่ะพี่ธี หยา ขอโทษ”
จบตอนที่ 7