อุตรดิตถ์ - ประชาสัมพันธ์จังหวัดขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีนายกเล็กทุ่งยั้ง บอกถูกกระชากคอเสื้อ-ชกหน้ากลางวงประชุมเตรียมงานอัฐมีบูชา หลังระบุงบ ปชส.งานแค่ 3 หมื่นไม่พอจ่าย ทั้งค่าสปอต-ค่าสินน้ำใจให้ทีวีมาทำข่าว พร้อมร้องเรียนตั้งแต่ระดับจังหวัดยัน คสช. ขณะที่คณะธรรมาภิบาลลงดาบซ้ำ
รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์แจ้งว่า นายภัควัต ศรีสมบูรณ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สรเดช มีอินทร์ถา สารวัตรสอบสวน สภ.ด่านแม่คำมัน อ.ลับแล เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากถูกนายชวลิต ประภัสสร นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งยั้ง ชกเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ โดยให้เวลามาขอโทษแล้ว แต่นายชวลิตกลับเพิกเฉย
นายภัควัตระบุว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลาประมาณ 14.30 น. เทศบาลตำบลทุ่งยั้งได้จัดการประชุมการเตรียมจัดงานอัฐมีบูชาประจำปี 2558 โดยวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นผู้เชิญให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดเข้าร่วมหารือด้วยในฐานะตัวแทนจังหวัด โดยมีนายธาตรี บุญมาก นายอำเภอลับแล เป็นประธานในการประชุม ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัด เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ และเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงาน
จนถึงคิวของประชาสัมพันธ์จังหวัดชี้แจง ซึ่งได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากนายกเทศมนตรีมาแล้วว่า “งบประชาสัมพันธ์มีอยู่กว่า 3 หมื่นบาท จึงบอกว่าเงินแค่ 3 หมื่นบาทไม่พอแน่นอน ทั้งค่าสปอตสถานีวิทยุ ค่าใช้จ่ายสินน้ำใจให้ทีวีแต่ละช่องที่มาทำข่าว ซึ่งต้องให้เขาบ้าง หรือจะโฆษณาถี่ต้อง money ทั้งนั้น”
หลังจากพูดจบ ทำให้นายชวลิตไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ด่าคำถึงบรรพบุรุษ พร้อมพูดต่ออีกว่า “เดี๋ยวชกชะเลย” จึงได้แย้งไปอีกว่า “ผมพูดในหลักการเท่านั้นเอง” หลังจากนั้นนายชวลิตได้ลุกขึ้นแล้วอ้อมเข้ามาจับคอเสื้อ ชกที่ปลายคาง 1 ครั้ง ซึ่งในขณะเกิดเหตุนายธาตรีได้ขอตัวออกจากห้องประชุมไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ต่อมานายภัควัตได้รายงานให้นายอำเภอลับแล รวมทั้งนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และได้รับแจ้งจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดว่าได้ประสานงานว่าวันที่ 12 พ.ค. เวลา 10.00 น. จะให้นายชวลิตมาขอโทษ แต่เมื่อถึงเวลานายชวลิตไม่มาตามนัด จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.ด่านแม่คำมัน ในคดีอาญา ที่ 52/2558 ลว. 12 พ.ค. 58
และในวันเดียวกัน (12 พ.ค.) ก็ได้ทำหนังสือรายงานชี้แจงต่อนายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ โดยมอบหมายให้นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งให้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดดำเนินการตามขั้นตอนของทางราชการ
ขณะที่นายภัควัตได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานจังหวัดอุตรดิตถ์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ เพื่อส่งต่อไปถึง คสช.ด้วย
นายภัควัตกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของข้าราชการประจำเป็นอย่างมาก สมควรให้มีการพิจารณาถึงพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวว่ามีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไปอีกหรือไม่ เพราะปฏิบัติตนไม่สมกับวิญญูชนพึงปฏิบัติ ไม่เคารพสิทธิของบุคคลอื่น เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีในสังคม และเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีของข้าราชการของแผ่นดิน ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำลายสังคม และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
ล่าสุดวานนี้ (20 พ.ค.) คณะธรรมาภิบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ร่วมกันประชุมหารือเรื่องดังกล่าวที่ห้องประชุมพนมมาศ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพราะนายภัควัตผู้เสียหาย เป็นที่ปรึกษาของคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ด้วย และมีมติให้นายสมศักดิ์ เกื้อทอง ประธานธรรมาภิบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ทำหนังสือยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งรัดคดีให้รวดเร็วกว่านี้ เพราะเห็นว่าการกระทำของนายกเทศมนตรีตำบลทุ่งยั้งเป็นการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงต่อข้าราชการประจำ
นายเอกสิทธิ์ ศรีสุวรรณ์รัตน์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของคณะธรรมาภิบาล บอกว่า การกระดังกล่าวของนายชวลิตถือว่าผิดตามมาตรา 157 ซึ่งจะต้องออกจากการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด