xs
xsm
sm
md
lg

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 22

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 22

หลังจากงงอยู่ชั่วขณะ พิธีกรสาวข้ามเพศ ตั้งสติได้ก่อนใคร รีบแก้สถานการณ์

“และนี่คือเซอร์ไพรส์ของเราค่ะ ขอต้อนรับคุณพริม โค้ชผู้ฝึกสอนมวยให้คุณเพชรแท้คร่า”
พริมยกมือไหว้งงๆ
แก้วแหวนยืนงงๆ อยู่กับนกฟ้า ที่ข้างเวที
“คุณแก้วแหวนออกมาทำไมคะ”
แก้วแหวนวี้ด “อีบร้า ใครไม่รู้จูงมือชั้นออกมา แกรึเปล่า”
“ว้าย เปล่าค่ะเปล่า”
พิธีกรสัมภาษณ์ต่อ “เมื่อกี้คุณเพชรแท้ได้เปรียบคุณแก้วแหวนเป็นดังผู้เปิดประตูและคอยประคองไปตลอดระยะทางจนถึงจุดหมาย แล้วคุณพริมละคะเปรียบได้กับอะไร”
เพชรมองพริมอย่างลึกซึ้งจริงใจ
“ผมคิดไม่ออกครับว่าผมจะเปรียบพริมกับอะไรดี”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“เพราะพริมคือคนที่มีค่ามาก จนไม่มีอะไรจะเปรียบได้ครับ ผมเล่นลิเกได้ก็เพราะพ่อ ผมชกมวยเป็นก็เพราะพริม ที่ผมมีกำลังใจฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาจนถึงวันนี้ก็เพราะพริมอยู่เคียงข้างผมมาตลอด แล้วผมก็อยากให้พริมอยู่ข้างๆ ผมอย่างนี้ตลอดไปเหมือนกันครับ”
พริมอึ้ง เขินไปเลย บุญหลงทำใจยอมรับสภาพ ไข่เค็มยิ้มกริ่มสมใจ
แก้วแหวนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทนดูไม่ไหว เดินหุนหันออกไปนอกสตู นกฟ้ารีบตาม

แก้วแหวนเดินอารมณ์เสียออกมา นกฟ้าตามติด
“แกขังมันยังไง ถึงปล่อยให้มันหลุดออกมาได้”
“นกฟ้าล็อคกุญแจอย่างดีแล้วนะคะ ต้องมีคนเปิดให้มันแน่ๆ เลยค่ะ”
แก้วแหวนคุมแค้น “ชั้นไม่ยอมให้มันแย่งซีนไปหน้าตาเฉยอย่างนี้นะ ชั้นจะต้องกลับเข้าไปให้สัมภาษณ์อีกรอบนึง ทำยังไงก็ได้”
“ค่ะๆ เดี๋ยวนกฟ้าจะลองไปคุยกับผู้กำกับรายการดูนะคะ”
นกฟ้ารีบกลับเข้าสตูดิโอไป

พิธีกรสัมภาษณ์เพชรในช่วงสุดท้ายแล้ว
“วันนี้เราก็ได้รู้จักกับชีวิตและเส้นทางกว่าจะมาเป็นแชมป์ไทยฟินของคุณเพชรแท้ ศ.อรชรกันอย่างเต็มอิ่มแล้วนะคะ และช่วงสุดท้ายขอรายการ ขอเชิญแม่ยกแฟนเพลงและแฟนมวยทุกท่าน ชมโชว์พิเศษจากคุณเพชรแท้ได้เลยค่ะ”
ไฟตรงเวทีดับลง ไฟอีกเวทีหนึ่งสว่างขึ้น เพชรรับไมค์จากทีมงาน เสียงอินโทรเพลงดังขึ้น เพชรร้องเพลง อย่างไม่เคอะเขิน หรือตื่นเวที
แก้วแหวนเข้ามายืนดูอยู่มุมหนึ่ง นกฟ้าตรงเข้ามารายงาน
“คุณแก้วแหวนคะ ผู้กำกับบอกว่าเวลาออกอากาศหมดแล้วค่ะ”
“แล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย วันนี้นังพริมมันได้หน้าไปเต็มๆ เลยนะ”
“เอางี้มั้ยคะ คุณแก้วแหวนเอาไมค์ไปร้องเพลงคู่คุณเพชรเลย”
“นังบ้า แกก็รู้ว่าชั้นร้องเพลงเพี้ยน ขืนขึ้นไปร้องก็ขายขี้หน้าเค้าทั้งประเทศสิ”
นกฟ้าจ๋อย เพชรเริ่มร้องเพลง
พริมออกมายืนดูกับบุญหลง ไข่เค็มเต้นตามอย่างสนุกสนาน

โดยเด็กแสบผมม้าเต่อ จงใจไปเต้นยั่ว กวนประสาทตรงหน้าแก้วแหวนกับนกฟ้า อย่างรู้ทัน

การถ่ายทอดสดจบลง ทุกคนอยู่พร้อมหน้า แก้วแหวนหันไปตำหนิพิธีกร

“ฝากทีมงานตามตัวคนที่ดับไฟแล้วลากแก้วแหวนออกมาด้วยนะคะ ทำอย่างนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลย”
“แล้วก็ฝากตามตัวคนที่ล็อคห้องขังพวกผมไว้ด้วยนะครับ” บุญหลงเสริมขึ้น
“อุ๊ย เรื่องล็อคห้องเป็นความผิดนกฟ้าเองค่ะ นกฟ้ามัวแต่ออกมาดูคุณเพชรก็เลยลืมคุณพริมกับคุณบุญหลงไปเลย แล้วคนที่ล็อคก็น่าจะเป็นแม่บ้านมั้งคะ อย่าไปถือสาเลยค่ะ” นกฟ้ารีบพูดแก้ตัว
“งั้นก็อย่าถือสาคนที่ดับไฟด้วยสิคะ” พริมย้อน
“ใช่ครับ เพราะก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหายสักหน่อย แถมรายการยังดูตื่นเต้นด้วยนะครับ” เพชรว่า
“จริงๆ ค่ะ เมื่อกี้มีผู้ชมโทร.มารายการบอกว่าดีมาก ซาบซึ้งมาก ยังไม่อยากให้รายการจบเลย อยากให้สัมภาษณ์ต่ออีกนานๆ”
“เหรอคะ งั้นพรุ่งนี้เราจัดรายการสัมภาษณ์อีกรอบสิคะ แก้วแหวนยังมีเรื่องพูดอีกตั้งเยอะเลย” แก้วแหวนแดกดัน
“เอ่อ คนดูเค้าบอกว่าอยากดูคุณเพชรแท้กับคุณพริมอีกน่ะค่ะ”
แก้วแหวนเสียหน้าอีกรอบ

เย็นลงแล้ว ขณะเพชร พริม บุญหลง ไข่เค็มเดินเข้ามาหน้าอพาร์ทเม้นต์ ไข่เค็มหัวเราะไม่หยุดไม่หย่อนด้วยความสะใจ พริมต่อว่าเอา
“เธอนั่นเอง ทำงี้ได้ไง ถ้าคุณแก้วแหวนรู้เข้าโกรธตายเลยนะ”
“ก็หนูอยากให้พี่พริมออกทีวีนี่จ๊ะ”
“แต่แกล้งคนแบบนี้มันไม่ดีนะไข่เค็ม”
“ก็ทีพวกนั้นยังแกล้งขังพี่พริมกับพี่บุญหลงได้เลย”
เพชรตกใจ “อะไรนะ รู้ได้ไงว่าใครเป็นคนขัง”
“หนูก็เดาเอาแหละจ๊ะ แต่จากประสบการณ์การแกล้งคนอื่นและโดนคนอื่นแกล้งมาตลอดชีวิต หนูเดาได้เลยว่าคุณแก้วแหวนกับคุณนกฟ้านั่นแหละที่เป็นคนขังพี่พริมพี่เพชร”
“แล้วเค้าจะแกล้งเราทำไมล่ะไข่เค็ม” บุญหลงท้วง
“เพราะเค้าไม่อยากให้พี่พริมออกทีวีน่ะสิจ๊ะ เค้าอยากออกกับพี่เพชรกันแค่ 2 คน”
พริมหน้าเสียชักรู้สึกไม่ดี
“แกก็พูดไป มองเค้าในแง่ร้ายไปรึเปล่า” เพชรว่า
ทั้งหมดเดินเข้าตึกไป

ส่วนแก้วแหวนอยู่ที่ออฟฟิศ บ๊อกซิ่งเวิลด์ หัวเสียมากเหตุการณ์ที่ผิดพลาดวันนี้ บ่นบ้ากับเลขาคู่ใจ
“ชั้นว่าต้องเป็นนังพริมนั่นแหละที่เป็นคนวางแผนดับไฟ พวกบ้านนอกคงอยากจะออกทีวีจนตัวสั่น”
“นกฟ้าก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ เห็นหน้าซื่อๆ อย่างนี้ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะคะ เราคงต้องระวังมันให้มากขึ้น”
“วิธีแก้ง่ายนิดเดียว เวลาเราจะเพชรไปออกงาน เราก็ไม่ต้องให้มันไปด้วยเท่านี้ก็สิ้นเรื่อง”
“จะทำได้เหรอคะ เห็นพวกนั้นเกาะติดคุณเพชรแจเป็นเห็บหมาเลย”
“นี่ เปรียบเทียบคุณเพชรของชั้นดีๆ หน่อย”
“อุ้ย ขอโทษค่ะ”

แก้วแหวนคิดแผนร้ายบางอย่างได้

อ่านต่อหน้า 2

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 22 (ต่อ)

ค่ำคืนนั้น สามคนกำลังจะเตรียมตัวนอนแล้ว

“ตอนที่พี่เพชรพูดถึงพี่พริมนะ พี่พริมยิ้มแฉ่งเลย” ไข่เค็มเอ่ยขึ้น
“เหรอๆๆ แล้วยังไงอีก” เพชรตื่นเต้น
“พี่พริมก็มองพี่เพชรตลอดเลย”
“เหรอๆๆ แล้วยังไงอีก”
“พี่พริมก็เขินใหญ่เลย”
“เหรอๆๆ แล้วยังไงอีก”
“พี่พริมก็น้ำลายไหลด้วย”
บุญหลงชักรำคาญ เอาหมอนฟาดไข่เค็ม
“มั่วแล้วไข่เค็ม”
“อ้าว ก็พี่เพชรถามอยู่นั่นแหละ หนูไม่มีอะไรจะตอบแล้วนี่”
เพชรล้มตัวลงนอนยิ้ม กลิ้งไปกลิ้งมา
“จริงๆ หรอ ไข่เค็ม...”
บุญหลงเห็นก็อยากช่วย
“เพชร ชั้นมีอะไรจะบอก”
“ไม่เอา ชั้นไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งนั้น ชั้นแค่รู้ว่าพริมไม่ได้เกลียดชั้นแล้ว ชั้นก็นอนหลับฝันดีแล้วล่ะ”
“แล้วแกไม่อยากให้พริมหลับฝันดีด้วยเหรอ”
เพชรสนใจ ลุกพรวดขึ้นมา “ทำยังไงวะหลง บอกชั้นมาซิ”
“พรุ่งนี้เป็นวันเกิดพริม”
เพชรตาโตแหกปากซะดัง “หา”
บุญหลงจุ๊ปาก “ชูว์ อย่าเสียงดังสิ”
“ชั้นควรทำไงดีวะ”
“แกก็ชวนพริมไปเที่ยวสิ ตั้งแต่มากรุงเทพฯ พริมยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยนะ เห็นพริมบ่นๆว่าอยากไปเที่ยวอยู่เหมือนกัน”
เพชรคิดตาม แล้วก็กระโดดลุกขึ้นวิ่งออกไป
ไข่เค็มอ้อล้อ “แล้วหนูจะได้ไปด้วยรึเปล่าจ๊ะ”
บุญหลงบอก “ได้สิ พริมเค้าไม่ใจร้ายหรอก”
“อ้าว ก็นึกว่าเวลาแฟนกันไปเที่ยวกัน เค้าจะไม่ชอบให้มีก้างขวางคอซะอีก”
คำพูดนั้นทำเอาบุญหลงสะอึกอึ้งไปเลย

พริมเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังจะนอน มีเสียงเคาะประตู ก๊อกๆๆๆๆ ตามด้วยเสียงเพชร
“พริม นี่ชั้นเองจ้ะ”
พริมเดินไปเปิด “มีอะไร ทำไมยังไม่นอนอีก”
“ขอเข้าไปคุยข้างในได้มั้ยจ๊ะ”
เพชรเดินมุดเข้ามาเลย พริมเปิดประตูไว้ เดินตามมา
“มีอะไรรีบว่ามา ชั้นจะนอนแล้ว”
“ก็...ชั้นคิดไม่ออกว่าพรุ่งนี้ชั้นจะไปเที่ยวไหนดี...ก็เลยมาให้พริมช่วยคิด”
พริมแปลกใจ “ไปเที่ยว ทำไมอยู่ๆ อยากไปเที่ยว”
“มากรุงเทพฯ ทั้งทีชั้นก็อยากพาเธอไปเที่ยวบ้างสิ”
“จริงเหรอ! ชั้นกำลังอยากไปเที่ยวอยู่พอดีเลย” พริมตื่นเต้น
“ดูสิ ใจเราตรงกันด้วยนะเนี่ย” เพชรยิ้มกรุ้มกริ่ม
พริมเขิน “แล้วเธอว่าจะไปเที่ยวไหนล่ะ”
“ไปที่ไหนก็ได้ ตามใจพริมเลย”
พริมยิ้มบอก “ ชั้นอยากไปจตุจักร”
“โอเค งั้นไปจตุจักรกัน”
“จริงเหรอเพชร! แอร๊ย”
พริมกระโดดกอดเพชรด้วยความดีใจ
“แล้วพริมอยากได้อะไรบอกชั้นมาเลยนะ ชั้นก็จะซื้อเป็นของขวัญให้พริมชิ้นนึง”
“ของขวัญอะไร”
“ของขวัญแฮปปี้เบิรธ์เดย์พริมไง”
พริมอึ้ง ไม่รู้มาก่อนว่าเพชรจะรู้วันเกิดตน แถมใส่ใจขนาดจะพาไปเที่ยว และซื้อของขวัญให้
“เพชร....”

เพชรยิ้มแต้

วันนี้ท้องฟ้ากรุงเทพฯ เช้าวันนี้สดใสมากเป็นพิเศษ เพชร พริม บุญหลง และไข่เค็ม เดินยิ้มแย้มเบิกบาน ออกมาจากอพาร์ทเม้นต์

“วันนี้ใครอยากกินอะไรเต็มที่เลยนะ ป๋าเพชรเลี้ยงเอง”
“โห เค้าให้เงินพี่เพชรแล้วเหรอจ๊ะ” ไข่เค็มถาม
“ยัง ชั้นว่าจะขอยืมพริมก่อน ได้เงินเมื่อไหร่แล้วจะคืน” เพชรบอก
“โถ นี่เค้าเรียกว่าเลี้ยงมั้ยเนี่ย ชั้นคิดดอกแพงนะ”
“คิดมาเลยพริม ชั้นมีจ่ายคืนแน่นอน”
“คอยดู ชั้นจะกินให้เธอหมดตัวเลย”
“เอาเลยจ้า วันเกิดพริมทั้งที ชั้นยอมได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
“แน่ใจ๊” พริมถาม
“แน่ใจ”
“งั้นพวกเรา ลุย”
ทั้งหมดเดินเริงร่าออกจากอพาร์ทเม้นต์

จู่ๆ รถแก้วแหวนขับมาปาดหน้า เกือบจะชน ทุกคนตกใจ แก้วแหวนก้าวลงมา เดินตรงมาหาเพชร
“เพชรคะ ขึ้นรถเร็วค่ะ มีงานด่วนที่ออฟฟิศ”
“เอาไว้วันหลังไม่ได้เหรอครับ วันนี้ผมกำลังจะออกไปเที่ยวกันแล้ว”
“ขอโทษทีนะคะที่กระทันหันแบบนี้ ค่ายหนังจากฮอลลีวู้ดเค้าบินมาไทยเพื่อมาดูตัวคุณโดยเฉพาะเลยค่ะ”
เพชรอึดอัดมาก “เอ่อ...ผม...”
“รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวค่อยไปคุยกันในรถ”
แก้วแหวนดึงเพชรขึ้นรถ เพชรหันไปหาพริม
“พริม พวกเธอไปกันก่อนนะ ชั้นจะรีบตามไป”
แก้วแหวนจิกตาใส่พริมทีหนึ่ง แล้วออกรถไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พริม บุญหลง และไข่เค็มยืนอึ้ง
“เราไปกัน 3 คนก็ได้เนอะพริม” บุญหลงพยายามคลี่คลายบรรยากาศ
“หลงไปกับไข่เค็มเถอะ”
พริมวิ่งกลับขึ้นตึกไปเลย
“เดี๋ยวก่อนสิพริม”
บุญหลงวิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วง
“พังหมดเลย เพราะคุณแก้วแหวนเงินทองคนเดียว หาหนอนกินแถวนี้แทนไปก่อนก็ได้”
ไข่เค็มเดินไปที่สนามหญ้าประชดด้วยการคุ้ยดินจะหาหนอนกิน

พริมกำลังเก็บเสื้อผ้า ข้าวของใส่กระเป๋าอย่างโกรธขึ้ง บุญหลงอยู่ด้วยคอยปลอบ
“พริมใจเย็นๆ เพชรเค้าไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้ซะหน่อย อย่าโกรธเพลยนะพริม”
“ไม่ได้โกรธ”
“งั้นก็อย่างเพิ่งหนีกลับบ้านสิพริม”
“แล้วจะให้ชั้นอยู่ต่อทำไม ชั้นมาส่งเพชรชกมวย ชกเสร็จแล้ว ก็หมดหน้าที่ชั้นแล้วนี่ ต่อไปนี้เพชรอยากจะทำอะไรก็เรื่องของเค้า”
“แล้วจะให้เพชรอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว ได้ยังไง”
“ไม่ต้องกลัวเค้าเหงาหรอก คุณแก้วแหวนอยู่ด้วยทั้งคน”
บุญหลงกลุ้ม พริมเก็บของต่อ

ทางด้านเพชรนั่งรออย่างกระวนกระวาย ส่วน แก้วแหวน กะนกฟ้า ชิลๆ
“นกฟ้า คุณพ่อกับพวกค่ายหนังเดินทางถึงไหนแล้ว”
นกฟ้าแกล้งกดดูมือถือ “เสี่ยไลน์มาบอกว่า เครื่องลงจอดพักระหว่างทางค่ะ”
“นี่พวกเค้านั่งรถทัวร์มากจากฮอลลีวู้ดเหรอครับ ทำไมมีแวะกินข้าวต้มด้วย” เพชรเซ็งมาก
“ไม่ใช่ค่ะ เครื่องบินมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ ก็เลยต้องลงจอด” นกฟ้าตอแหลไปเรื่อยเปื่อย
เพชรร้อนใจ “งั้นผมขอกลับไปหาเพื่อนก่อนได้มั้ยครับ”
“อยู่รอที่นี่เถอะค่ะ ถ้าพวกเค้ามาแล้วไม่เจอคุณ พวกเค้าจะโกรธมากเลยนะคะ ฝรั่งเค้าถือเรื่องเวลามาเลยค่ะ”
แก้วแหวนเดินไปนั่งข้างๆ เพชรจับมือปลอบ
“ใจเย็นๆ นะคะคุณเพชร”
โทรศัพท์มือถือเพชรดัง เขาปล่อยมือแก้วแหวนหลุดไป รีบร้อนหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วลุกไปคุยตรงมุมห้อง

“ว่าไงหลง”

อ่านต่อหน้า 3

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 22 (ต่อ)

พริมอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์เก็บของเสร็จแล้ว นั่งสงบอารมณ์อยู่ในห้อง ไข่เค็มหาของกินอยู่ข้างล่าง บุญหลงคุยสายกับเพชร

“เพชร พริมเค้าจะกลับบ้านแล้ว แกคุยกับพริมหน่อยซิ”
บุญหลงยื่นโทรศัพท์ให้พริม
“พริม ชั้นขอโทษ อย่าเพิ่งกลับบ้านเลยนะ ชั้นเสร็จธุระแล้วจะซื้อของกินซื้อของขวัญกลับไปหาพริมด่วนจี๋เลย”
“ไม่ต้องหรอก ชั้นเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันเกิดมากมายนักหรอก”
“แต่ชั้นให้นี่ นะนะพริมนะ รอก่อน ชั้นจะร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์เป็นทำนองลิเกให้พริมฟังด้วย” เพชรอ้อน
“ชั้นไม่ชอบลิเก”
“งั้นลูกทุ่งก็ได้ ...แฮปปี้เบร์ธเดย์ ทูยู ทูยู้...”
เพชรร้องเพลง แฮปปีเบิร์ธเดย์ ของสายัณห์ สัญญา แต่แปลงเนื้อจาก “ทูมี ทูมี๊” เป็น “ทูยู ทูยู้”
พริมรำคาญ “หยุด! ไม่มีอารมณ์จะฟังตอนนี้”
“งั้นรอฟังตอนเย็นนะ ชั้นจะกลับไปร้องให้ฟังสดๆ เลย”
“ก็ได้ ชั้นรอถึงแค่ 6 โมงเท่านั้นนะ”
“จ้ะๆ เสร็จก่อน 6 โมงแน่ๆ จ้ะ”
แก้วแหวน และ นกฟ้า ได้ยิน
“คุณเพชรคะ มาดูเอกสารตรงนี้หน่อยสิคะ”
“แค่นี้ก่อนนะพริม เย็นนี้เจอกันนะ”
เพชรวางสาย แล้วไปหาแก้วแหวน
“ครับ คุณแก้วแหวน”

นาฬิกาบนผนังห้องทำงานแก้วแหวนที่บริษัทบ๊อกซิ่ง เวิลด์ เดินจาก 10 โมงเช้า ไปเรื่อยๆ เพชรรอ อย่างกระวนกระวาย แก้วแหวน นกฟ้า แอบยิ้มน้อยๆ
เวลายิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ เพชรยิ่งร้อนรน นาฬิกาบอกเวลา 6 โมงเย็น เพชรสุดจะทนลุกพรวด
“ทำไมพวกเค้ายังไม่มาอีกครับ ไหนบอกว่าฝรั่งรักษาเวลาไง”
แก้วแหวน ดูนาฬิกา เห็นเหมือนกันว่า 6 โมงแล้ว
“นกฟ้า ตามซิว่าถึงไหนกันแล้ว”
“ค่ะ” นกฟ้าทำเป็นกดโทรศัพท์ดูแล้วร้องขึ้น “อุ๊ย เสี่ยไลน์มาบอกว่า ทางค่ายหนังเปลี่ยนใจขอไปดูตัวนักกังฟูที่ไต้หวันก่อนน่ะค่ะ”
“แย่จังเลย ดูซิทำเราเสียเวลาทั้งวันเลย ขอโทษด้วยนะคะคุณเพชร”
แก้วแหวนหันไป เพชรหายไปแล้ว เห็นประตูแกว่งอยู่

ค่ำลงแล้ว ขณะที่เพชรวิ่งเข้ามาในอพาร์ทเม้นต์ แล้ววิ่งขึ้นบันได ตรงไปยังหน้าห้องพริม เคาะเรียก
“พริม! ชั้นกลับมาแล้ว พริม...พริม”
ไม่มีเสียงตอบ เพชรเลยเปิดเข้าไป แต่ไม่มีใคร ทั้งห้องโล่ง เพชรรีบวิ่งออกไป เปิดห้องตัวเอง แต่ก็โล่ง ไม่มีใคร เพชรกดโทรออก รอสายอย่างกระวนกระวาย
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...”
เพชรวางสายเดินคอตกออกมา เจอป้าแม่บ้านที่เดินกวาดพื้นเข้ามาหน้าห้องพัก
“อ้าว น้องเพชรแท้ยังอยู่อีกเหรอจ๊ะ นึกว่ากลับไปพร้อมกับเพื่อนๆ แล้วซะอีก”
“กลับไปหมดแล้วเหรอป้า”
“จ้า เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง”
ป้าแม่บ้านเดินกวาดพื้นต่อ เพชรทรุดลงนั่งกับพื้น

อพาร์ทเม้นต์ค่ำคืนนี้ บรรยากาศช่างเปลี่ยวเหงา เพชรนอนอ้างว้าง เดียวดาย ในห้องคนดียว ในใจคิดถึงแต่พริม
ขณะเดียวกันสามคนอยู่บนรถทัวร์ที่แล่นมาตามถนน มุ่งหน้ากลับราชบุรี คนอื่นหลับหมดแล้ว พริมยังลืมตาโพลง น้อยใจเพชร บุญหลงนั่งหลับข้างๆ พริมค่อยๆ เอนหัวพิงไหล่บุญหลง จนบุญหลงรู้สึกตัว ปรือตาดูพริมแว่บหนึ่ง

เพชรพาตัวเองมาอยู่ในห้องทำงานแก้วแหวนแต่เช้า และเดินตรงมาหาโปรโมเตอร์สาวท่าทางจริงจังมาก
“คุณแก้วแหวนครับ งานที่ผมจะต้องทำตามสัญญา มีอะไรบ้างครับ”
แก้วแหวนยิ้มหวาน “อยากทำงานขึ้นมาแล้วสินะคะ งานทั้งหมดก็มี เพลง 1 อัลบั้ม ละคร 2 เรื่อง โฆษณา 3 ตัว ส่วนงานอื่นๆ ก็แล้วแต่คุณเพชรเลยค่ะ ว่าจะรับหรือไม่รับก็ได้”
“แล้วถ้าผมไม่รับเลยล่ะครับ”
แก้วแหวนสะดุดหู “หมายความว่ายังไงคะ”
“ผมเคยบอกไปแล้วว่าผมมานี่เพื่อมาชกมวย ชกเสร็จผมก็จะเอาเงินกลับไปไถ่บ้านแล้วก็ทำคณะลิเก ส่วนที่นอกเหนือจากนั้น ผมไม่ได้อยากทำเลยครับ”
“มันไม่ได้อยู่ที่ว่าอยากทำหรือไม่อยากแล้วค่ะคุณเพชร แต่มันต้องทำ” โปรโมเตอร์สาวเน้นคำตอนท้าย
“แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะครับ”
“คุณก็จะไม่ได้เงิน 2 ล้านค่ะ คุณจะกลับบ้านมือเปล่า”
“เพราะอะไรครับ”
“เพราะสัญญาเขียนไว้อย่างนี้ค่ะ”
นกฟ้าหยิบสัญญาที่เตรียมไว้ มาวางลงตรงหน้าเพชร
“ลองอ่านดูสิคะ”
เพชรมองสัญญาบนโต๊ะ แล้วหยิบขึ้นมา เปิดไปหน้าสุดท้ายที่มีลายเซ็นของตัวเอง แก้วแหวน นกฟ้ายิ้มสมใจ

เพชรมองครู่หนึ่ง แล้วฉีกสัญญาทิ้งโดยไม่แยแส

อ่านต่อตอนต่อไป

เพชรมาถึงทุ่งไก่หลงตอนเช้า พอลงรถรับจ้าง เขารีบแบกเป้พร้อมถุงก๊อบแก๊บใบโตถุงหนึ่งวิ่งเข้ามาที่หน้าค่ายมวยศ.อรชร เปิดประตูเข้าไปยิ้มอย่างดีใจ เพชรชูถุงก๊อบแก๊บขึ้นมา ยิ้มร่า ก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านใน

พอเพชรวิ่งเข้ามาในค่าย เห็นพริมยืนอยู่ก็ดีใจ
“พริม”
เพชรจะวิ่งเข้าไปหา จังหวะเดียวกันนั้นเองพริมก็โยนกระเป๋าเสื้อผ้าลอยข้ามหัวเพชรไปตก กองอยู่หน้าค่ายพอดิบพอดี
“เย้ย...”
พริมเรียก “เพชร”
เพชรมองที่ของพวกนั้น งงๆ จนเห็นว่าล้วนเป็นข้าวของของตน
“เฮ้ยๆๆๆๆ นี่ของๆ ฉันนี่ ทำไรกันน่ะ”
เอื้อยเรียกเด่น แคน ให้ยกของตามออกมา
“ทางนี้เลยทางนี้” เอื้อยเห็นเพชรพอดี “มาถูกเวลาดีนี่ เชิญขนของกลับไปกรุงเทพฯ ให้หมดเลย”
“เดี๋ยวๆ ฉันไม่ได้จะไปไหนซะหน่อย ฉันกลับมาแล้วนี่ไง”
เพชรหมุนตัว พยายามสร้างซีนเปิดตัวการกลับมาให้ตัวเองโชว์ทุกคน พริมโยนเสื้อผ้าใส่หน้าเพชรอีก
“โอ๊ย กลับมาแล้วจริงๆ นะ กลับมาอยู่กับทุกคนไง”
“ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมที่อยากมาก็มา อยากไปก็ไป เดี๋ยวพอคุณแก้วแหวนเรียกตัวก็ต้องไปอีกไม่ใช่เหรอ งั้นก็เอาของย้ายไปอยู่กับเค้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย”
“ฉันเข้าใจนะที่พริมโกรธน่ะ แต่คราวนี้ฉันจะกลับมาถาวรเลย ฉันจะไม่ไปไหนอีกแล้ว”
เพชรหยิบกล่องจากในถุงก๊อบแก๊บยื่นให้พริม
“นี่ไงของขวัญวันเกิดของเธอ”
พริมแอบดีใจแต่เก็บความรู้สึกไว้ รับกล่องมาค่อยๆ เปิดออก เจอผลกระจับจำนวนมาก
“กระจับเนี่ยนะ”
เพชรยิ้มแป้น ร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์ “แฮปปี้เบิ้ดเดย์ ทูยู...”
พริมขว้างกระจับอันหนึ่งใส่เพชร
“การที่ซื้ออะไรก็ได้มาให้คนอื่นเนี่ย เขาไม่เรียกของขวัญหรอกนะ”
“ไม่ใช่อะไรก็ได้นะ ฉันต้องอ้อนวอนคนขับรถทัวร์แทบตายให้เขาจอดข้างทาง แล้วชั้นก็รีบลงไปซื้อมาให้เธอ”
พริมไม่ฟัง เขวี้ยงกระจับลงถังขยะ
“เอาใจชั้นไม่ได้ผลหรอก เก็บของๆ เธอกลับกรุงเทพฯ ไปได้แล้ว เธอไม่ใช่เพชรแท้ ศ.อรชร อีกต่อไป”

รักษ์ แฉะ ลูกดอก จริยา ล้อมวงกินข้าวกันอยู่ที่พื้นศาลาการเปรียญ สีหน้าท่าทางอร่อยล้ำ
“ไอ้ลูกดอก ส่งหมูหันมานี่ดิ๊” แฉะสั่ง
ลูกดอกตักอะไรสักอย่างให้ แล้วขอมั่ง
“พี่ส่งกุ้งเผามาทางนี้ด้วย”
แฉะตักอะไรสักอย่างให้
รักษ์มองสองคนเซ็งๆ “นี่ถามจริงๆ ตาเป็นต้อหรือสมองเลอะเลือน”
ที่แท้ทุกคนนั่งกินข้าวเปล่า มีขวดน้ำปลาขวดเดียววางอยู่กลางวง นอกนั้นเป็นผักลวก ผักต้มต่างๆ
“มีจินตนาการหน่อยสิวะ” แฉะว่า
“นี่เราต้องทนจนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย” ลูกดอกครวญ
เสียงจริยาแปร๋นเข้ามา “ไม่นานหรอกจ้า”
ทุกคนหันไปเห็นจริยา ตัวดำมะเมื่อมมาเลย ทั้งสามอุทานลั่น

“จริยา” / “พี่จริยา”

อ่านต่อหน้า 4

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 22 (ต่อ)

จริยานั่งดูจานข้าวของทุกคน ด้วยความสงสารปนสมเพช

“ตอนแรกฉันได้ยินว่าบ้านโดนยึด แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้”
“ก็ยังดี ที่ยังมีวัดไว้ซุกหัวนอน เดี๋ยวจริยานอนตรงโน้นละกันนะ”
รักษ์ชี้ไปที่มุมหนึ่ง มีกองซากผ้าขี้ริ้วหมกอยู่ หมาเอย แมวเอย เดินอยู่แถวนั้น จริยาหน้าเสีย
“ไม่เป็นไรนะทุกคน เข้มแข็งไว้ เราทุกคนจะผ่านมันไปได้”
“ขอบใจนะ” รักษ์ยิ้ม
จริยาโพล่งขึ้น “ให้ฉันเป็นนางเอกสิ”
“ห๊ะ”
“อะไร อยู่ๆ มาขอเป็นนางเอก” แฉะเซ็ง
“ก็ที่ฉันกลับมา ก็เพื่อกลับมาเล่นลิเก ตอนนี้คณะก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ให้ฉันเป็นนางเอกสิ”
รักษ์บอกเลยว่า “ไม่ได้”
จริยาจ๋อง “ทำไมอ้ะ”
“ไม่ใช่ว่าพวกเรารังเกียจที่จริยาอ้วน เตี้ย ดำ ขี้เหร่หรอกนะ” แฉะว่า
จริยาค้อน... “ถ้าพูดขนาดนี้ ก็รังเกียจมาเลยก็ได้นะ”
“ปัญหาคือ พวกเราเล่นลิเกไม่ได้แล้ว” รักษ์บอก
แฉะเสริม “ไอ้ปลัดมันยึดข้าวของพวกเราไปหมด”
“ทั้งชุด ทั้งอุปกรณ์เลย” ลูกดอกสรุป
“โธ่” จริยาคิดปราด “ฉันนึกออกแล้ว ว่าทำยังไงถึงจะรอด”
ลูกดอกสนใจ “ทำไงเหรอพี่จริยา”
“ฉันกลับบ้านนอกก่อนนะ”
จริยาบอกแล้ว ลุกหนี
ทุกคนร้อง “เฮ้ย”
“เดี๋ยวสิ” รักษ์ท้วง
“ลิเกก็ไม่ได้เล่น แล้วให้มาอยู่แบบแย่งกันกินกันใช้ จะตายหมู่เอานะ”
“จริง งั้นแกไปเถอะ” ลูกดอกบอก
“อ้าว เดี๋ยวสิ เราช่วยกันทำมาหากินอย่างอื่นก็ได้นี่ สักวัน ลิเกเพชรสำเริงของเรา จะต้องกลับมาอีกครั้งแน่ๆ”
“สักวันนี่ วันไหนเหรอ” จริยาหน้าแหยๆ
“วันนี้แหละ”
ลูกดอกชี้ไปที่ด้านหลัง ทุกคนหันไปเจอเพชรยืนหน้าเครียดอยู่
แฉะตะโกนลั่น “ไอ้เพชร”
ทุกคนวิ่งเข้าไปกอดเพชรอย่างดีใจ เห็นเป็นพระมาโปรด
“แชมป์ไทยฟินมาแล้วเว้ย ยินดีต้อนรับกลับ...วัด นะ” รักษ์ร้องต้อนรับ
แฉะ กะ ลูกดอก พยายามให้เพชรขี่คอ แต่ไม่สำเร็จ เปลี่ยนมาจะอุ้มเพชร ก็ไม่สำเร็จอีกเพราะตัวหนัก
“โทษทีว่ะ ช่วงนี้ร่างกายพวกชั้นไม่มีแรงเลย ไม่ค่อยมีอะไรจะกิน” แฉะว่า
“พี่เพชรกลับมา พวกเราก็จะเลิกจนกันแล้วน่ะสิ” ลูกดอกยิ้มร่า
ทุกคนร้อง “เย้...”
“เย้” เพชรร้องตาม หน้าอย่างเจื่อนจ๋อย
“ไอ้เพชร ขอชั้นแตะเงิน 2 ล้าน เป็นบุญมือไอ้แฉะหน่อยดิ้”
“ไม่มีจ้ะพี่”
ทุกคนเงียบกริ๊บ มองหน้าเพชรตาค้าง
“ไม่รู้เรื่องเล้ย เงินเยอะขนาดนั้นใครเค้าให้เงินสดกันล่ะ เค้าก็ต้องโอนเข้าบัญชีให้สิ” รักษ์ว่า
เพชรตอกฝาโลง “บัญชีก็ไม่มีจ้ะ คือ ฉันไม่ได้เงินเลยสักบาทจ้ะ”
ทุกคนตาเหลือกแหกปากประสานเสียง

“หา ไม่ได้สักบาท”

อีกฟากในเวลาถัดมา พริมในชุดซ้อมยืนเหม่อใจลอยไม่มีสมาธิ ตรงหน้าเป็นกระสอบทราย ขนุน กะไข่เค็ม มองเหล่ แล้วเข้าไปออกกำลังกายใกล้ๆ ขนุนกระซิบบอกไข่เค็ม

“พี่พริมคิดถึงพี่เพชรอยู่แน่ๆ เลย จังหวะนี้แหละ ขยี้เลย”
ขนุนเปิดเกมขยี้ ทำเป็นพูดดังๆ
“ช่วงนี้ที่ค่ายดูเงียบๆ เนอะ เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง เอ... ขาดไรน้อ”
ไข่เค็มเสียงดังตาม “วิทยุเหรอจ๊ะ”
ขนุนเซ็ง กระซิบบอก “ไม่ใช่ พี่เพชรสิ”
ไข่เค็มจัดให้ “เฮ้อ ถ้าพี่เพชรอยู่ ที่นี่คงมีสีสันดีเนอะ”
ได้ยินชื่อเพชร พริมนึกถึงภาพตัวเองซ้อมมวยกับเพชร ตั้งแต่แรกๆ ที่ไม่กินเส้นกัน จนมามุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งใส่กัน

ไข่เค็มเหล่อยู่ พูดถึงเพชรต่อ
“แหม รู้งี้แอบหนีมาอยู่ที่นี่ซะตั้งนานแล้วก็คงจะดี จะได้เล่นกับพี่เพชรเยอะๆ ตอนไปอยู่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้เจอพี่เพชรเลย”
พริมนึกถึงภาพแก้วแหวนดึงเพชรขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา โดยเพชรหันมาบอกพริมว่า
“พริม พวกเธอไปกันก่อนนะ ชั้นจะรีบตามไป”
แก้วแหวนปรายหาตาจิกใส่พริม แล้วออกรถไปโดยเร็ว ทิ้งให้พริม บุญหลง ไข่เค็มยืนอึ้ง

นึกขึ้นมาแล้วพริมแค้น เตะกระสอบทรายป้าบๆ อย่างแรง ไข่เค็ม กะ ขนุนตกใจ
“ต่อไปนี้ ห้ามใครพูดชื่อเพชรให้ฉันได้ยิน เข้าใจไหม”
ไข่เค็มอ้อล้อ “แต่พี่เพชร...”
“ยังอีก”
ไข่เค็มเลี่ยงเรียกเพชรว่า เอ๊ด แทน “พี่...เอ๊ด เขาน่าสงสารออกนะจ๊ะ”
“ไข่เค็มยังเด็ก ไม่รู้หรอกว่าคนโกหกเป็นยังไง อย่าไปยุ่งกับเขาอีกนะ ทั้งคู่เลย”
แล้วพริมก็เดินหุนหันหนีไป
ขนุนบ่น “แล้วอย่างนี้ถ้าพี่พริมเห็นเราไปคุยกับพี่รักษ์ล่ะ”
“พี่พริมห้ามยุ่งกับพี่เอ๊ดคนเดียว ไม่ได้ห้ามยุ่งกับคนอื่นในคณะซะหน่อย” ไข่เค็มบอก
“จริงด้วย” ขนุนยิ้ม
พริมเดินย้อนกลับมาซะงั้น
“แล้วก็ห้ามยุ่งกับคนในคณะสำเริงอีกเด็ดขาด”
พริมเดินออกไปอีก เล่นเอาขนุน กะ ไข่เค็มเซ็งเป็ด

ทุกคนนั่งล้อมวงฟังเพชรเล่า บนศาลาวัด
“ต่อให้ฉันอยู่จนครบสัญญา คนพวกนั้นก็ต้องหาเรื่องเอาเปรียบชั้นอยู่ดี ยังไงก็ไม่มีวันได้เงิน 2 ล้านนั้นหรอก”
“ดีแล้วเพชร ที่กลับมา” รักษ์เห็นใจและเข้าใจ
แฉะกัดฟันพูด “ใช่ พวกเราทนได้ พวกเราอดอยากจนชินแล้ว ฮือ”
“ใช่ เรายังมีข้าวก้นบาตรหลวงพ่อกินกันตาย” ลูกดอกบอก
เพชรใจแป้ว “นี่โอเคกันจริงๆ ใช่ไหม”
แฉะ ลูกดอก รวมทั้ง จริยากล้ำกลืนฝืนพยักหน้า
“ขอแค่แกกลับมาที่นี่ เราต้องมีทางหาเงินได้แน่ๆ ไม่ต้องทนโดนเอาเปรียบที่นั่นหรอก” รักษ์ปลอบ
“ฉันจะต้องทำให้พริมเห็นว่า ฉันยังจริงใจเหมือนเดิม พริมต้องให้โอกาสฉันกลับเข้าไปในค่ายอีกครั้ง”

เพชรแท้บอกทุกคน และถือโอกาสบอกใจตัวเอง ด้วยสีหน้าอันมุ่งมั่นมาดหมาย

อ่านต่อตอนที่ 23
กำลังโหลดความคิดเห็น