เพลิงพ่าย ตอนที่ 13
ไอลดาเข้ามากดรหัสตู้เซฟ เวฬุรีย์มองลุ้น และพยายามจำรหัสไปด้วย แต่พอไอลดากดรหัสเสร็จ จะเปิดตู้ กลับเปิดไม่ได้
"เอ๊ะ..."
"อะไรเหรอ"
"ทำไมเปิดไม่ได้"
"ก็ทำไมเปิดไม่ได้ล่ะ รหัสผิดหรือเปล่า"
"พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน"
"ไม่แน่ใจ? เธอรู้รหัสเปิดตู้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไม่แน่ใจ"
"บางทีคุณพ่อคุณแม่อาจจะเปลี่ยนรหัสแล้ว ถึงได้เปิดไม่ออก เดี๋ยวพี่ลองอีกที"
ไอลดากดรหัสตู้เซฟอีกที แต่ก็ยังเปิดไม่ออก
เวฬุรีย์เข้าไปเขย่าตู้เซฟ
"เปิดสิ เปิดเดี๋ยวนี้"
"ฬุรีย์... อย่าทำอย่างนี้ มันไม่มีประโยชน์ พี่เปิดไม่ได้จริงๆ"
เวฬุรีย์หันมาเขย่าตัวพี่สาว
"โกหก โกหกใช่ไหม เธอไม่อยากให้ฉันใส่เครื่องเพชรของคุณแม่ต่างหาก"
"ไม่ใช่นะฬุรีย์ พี่ไม่รู้จริงๆ"
เวฬุรีย์บีบคอไอลดา
"เอาสร้อยมาให้ฉัน เอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไอลดา"
"อย่าฬุรีย์ อย่าทำพี่ โอ๊ย...ช่วยด้วย"
ออมวิ่งเข้ามา สีหน้าตกใจ
"คุณลดา"
ออมเข้าไปแยกฬุรีย์ออกมาจากไอลดา
"อย่าค่ะคุณฬุรีย์ คุณลดาออกไปก่อนค่ะ ออกไป"
เวฬุรีย์ดิ้นพราดจนหลุดจากออม ออมรีบวิ่งหนีออกมา เวฬุรีย์อาละวาดหาของในห้องมาทุบตู้เซฟอย่างเจ็บใจ
"เปิดซี่ เปิด"
บุญปลูกลูบหลังปลอบไอลดา
"โถ...ขวัญเอ๋ยขวัญมานะคะคนดีของป้า"
ไอลดาพยายามระงับอารมณ์ แต่สีหน้ายังเครียด
"ตอนแรกออมยังเห็นคุณลดากับคุณฬุรีย์รักกันดีอยู่เลยนี่คะ แล้วทำไม"
"ไม่มีอะไรจ้ะ ฬุรีย์คงผิดหวังมาก ก็เลยหงุดหงิดไปเท่านั้นเอง"
"ผิดหวังเรื่องอะไรคะ"
"ช่างเถอะจ้ะ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ"
"คุณผู้หญิงไม่อยู่แล้ว คุณหมอท่านก็มาเจ็บหนัก คุณฬุรีย์น่าจะรักคุณลดามากๆ ไม่น่าทำกันอย่างนี้เลย"
"ฉันผิดเอง ที่ให้ความหวังกับฬุรีย์ ฬุรีย์คงผิดหวังมาก"
"ลดา"
ทั้งสามหันไป ออมมองฬุรีย์ด้วยสีหน้าหวาดกลัว
"ฬุรีย์"
"ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันสติหลุด เพราะเสียใจมากเกินไปเรื่องคุณแม่ อย่าโกรธฉันเลยนะ"
"ไม่หรอกฬุรีย์ พี่ดีใจที่ฬุรีย์เข้าใจพี่"
เวฬุรีย์เข้ามากอดไอลดาไว้ ไอลดาดีใจกอดตอบ บุญปลูกกับออมแอบสบตากันอย่างรู้สึกแปลกๆ
แววตาของเวฬุรีย์แอบซ่อนแผนการบางอย่างไว้
ผ่านเวลาเล็กน้อย เวฬุรีย์แต่งตัวในชุดดำ มองตัวเองหน้ากระจก แล้วพูดกับลูซี่ผ่านกระจก
"นังไอลดาแกล้งทำเป็นไม่รู้รหัสตู้เซฟ...โธ่เอ๊ย...นึกว่าฉันจะเชื่อแกเหรอ"
สีหน้าเวฬุรีย์ในกระจก แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น
ภายในวัด ไอลดากับเวฬุรีย์ยืนต้อนรับแขกอยู่
"สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ"
หญิง 1 ยื่นซองช่วยงานศพให้ไอลดา
"เสียใจด้วยนะจ๊ะ หนูลดา"
หญิง 1 มองไปทางเวฬุรีย์อย่างรู้สึกกลัว ๆ และไม่กล้าพูดด้วย เวฬุรีย์ก็เชิดใส่
"ขอบคุณค่ะ" ไอลดาบอก
หญิง 1 เข้างานไป เวฬุรีย์เหลือบมองซองที่มีอยู่หลายใบในมือไอลดาอย่างมีจุดประสงค์
"ฉันช่วยถือ"
"ขอบใจจ้ะ"
ไอลดาส่งซองให้เวฬุรีย์รับไปถือไว้ ฬุรีย์สีหน้ายิ้มกริ่ม บุญปลูกช่วยพาหญิง 1 ไปนั่ง เหลือบมองเวฬุรีย์อย่างสงสัย
เพ็ญโพยมกับทวีวัชรเข้ามา ตามหลังด้วยวุฒิ
ไอลดากับเวฬุรีย์ยกมือไหว้เพ็ญโพยมและทวีวัชร ทั้งสองรับไหว้
เพ็ญโพยมเข้าไปจับตัวถามไอลดาอย่างเป็นห่วง
"เหนื่อยไหมนะจ๊ะหนูลดา " แล้วทักเวฬุรีย์ตามมารยาท "ฬุรีย์"
"นิดหน่อยค่ะคุณป้า"
"พวกเราเอาใจช่วยนะ" ทวีวัชรบอก
"ขอบคุณค่ะคุณลุงคุณป้า" ไอลดามองไปที่วุฒิ แล้วหลบตาไปมองทางอื่น
วุฒิสบตากับไอลดาเหมือนอยากจะพูดอะไร ไอลดาก้มหน้าหลบ วุฒิเสียใจ แล้วเดินเข้าไปในงาน โดยไม่สบตากับเวฬุรีย์เลย
เวฬุรีย์น้อยใจ แล้วมองไอลดาอย่างหมั่นไส้
หน้าเมรุเผาศพไอลดากับเวฬุรีย์ วุฒิ มณไฑ ทวีวัชร เพ็ญโพยม บุญปลูก ออม ลอร่า และผ่อนศักดิ์ ยืนมองเตาเผาที่เผากระดูกของนวลนภาจนไหม้เป็นเถ้าถ่าน มีแขกอยู่ด้วย
ไอลดาร้องไห้
"หลับให้สบายนะคะคุณแม่"
เวฬุรีย์น้ำตาไหลพราก
"คุณแม่...ทำไมทิ้งฬุรีย์ไปเร็วนัก แล้วใครจะดูแลฬุรีย์"
ไอลดาเข้าไปกอดน้องสาวไว้
"ไม่ต้องกลัวนะฬุรีย์...ต่อไปนี้พี่จะดูแลเธอเอง"
เวฬุรีย์ยกมือกอดไอลดาตอบ
"จ้ะ."
มณไฑน้ำตาไหลไปด้วย
"ขอให้ไปสู่สุคตินะครับ อาจารย์หญิง ผมจะช่วยดูแลอาจารย์หมอให้ดีที่สุด"
ลอร่าพูดกับผ่อนศักดิ์ ทำท่าซับน้ำตาทั้งที่ไม่มีน้ำตาแต่อย่างใด
"ซึ้งจังเลยพี่ผ่อน"
ผ่อนศักดิ์น้ำตาไหล "อือ" แล้วสูดน้ำมูก
"โห...พี่ผ่อนร้องไห้ด้วย"
"เปล่า...ควันเข้าตา"
ลอร่าทำท่าเซ็งใส่
ออมกระซิบกับบุญปลูก
"ป้าว่าไหม มันมีอะไรแปลกๆ นะ"
"แปลกยังไง"
"ก็คุณฬุรีย์น่ะสิ ดูน่ารักอารมณ์ดีจนน่าขนลุก"
บุญปลูกปราม
"นังออม...จุ๊ๆๆ"
บุญปลูกมองอย่างรู้สึกแปลก แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาเหมือนออม
เพ็ญโพยมกระซิบกับทวีวัชร
"หนูลดากับฬุรีย์ญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย"
"ก็เขาสองคนเป็นยิ่งกว่าญาติ เขาเป็นพี่น้องกันนะคุณ"
เพ็ญโพยมค้อนทวีวัชรปะหลับปะเหลือก
"โอ๊ย...คุณนี่ใสซื่อซะจริงจริ๊ง"
วุฒิก็มองเวฬุรีย์อย่างรู้สึกระแวงสงสัยเช่นกัน
/
ผ่านเวลา บริเวณหน้าเมรุ ไอลดายกมือไหว้ลา เพ็ญโพยมจับมือไอลดาไว้
"ป้าไม่รู้นะว่าหนูกับวุฒิเข้าใจอะไรผิดกัน แต่แม่อยากให้สองคนปรับความเข้าใจกันนะจ๊ะ"
ไอลดาสบตากับวุฒิที่ยืนอยู่ด้านหลังแว่บหนึ่ง แล้วเมินใส่
เวฬุรีย์แอบสังเกตทั้งสอง สีหน้าสะใจ
"คุณป้าคะ...ลดาคิดว่าไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดหรอกค่ะ บางทีลดาอาจจะไม่เหมาะกับพี่วุฒิก็ได้"
"ทำไมจะไม่เหมาะจ๊ะ หนูลดาเป็นคนที่ป้าอยากได้เป็นสะใภ้มากที่สุด คนอื่น ป้าไม่เอาเด็ดขาด"
เพ็ญโพยมเหลือบมองเวฬุรีย์นิดหนึ่งเป็นเชิงปรามไว้ก่อน เวฬุรีย์ทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ
"ขอบคุณค่ะคุณป้า"
"ปรับความเข้าใจกันนะจ๊ะ อย่างอนกันเลย"
ไอลดาได้แต่ยิ้มรับ อึกอัก
เพ็ญโพยมมองเวฬุรีย์อย่างพยายามจับพิรุธ เวฬุรีย์ทำหน้าใสซื่อ
มณไฑมองวุฒิอย่างไม่ค่อยพอใจ
"หนูลดาจะเก็บอัฐิของคุณแม่ไว้หรือเปล่า"
"ส่วนนึงจะลอยอังคาร อีกส่วนจะเก็บไว้ที่บ้านค่ะ เพราะฬุรีย์อยากให้เหมือนคุณแม่ยังอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา"
"ป้าเข้าใจจ้ะ คุณแม่มาจากไปกะทันหันแบบนี้คงทำใจยาก แล้วนี่คุณพ่อรู้เรื่องคุณแม่ของหนูหรือยัง"
ไอลดาชะงัก น้ำตารื้นขึ้นมา
อ่านต่อหน้าที่ 2
เพลิงพ่าย ตอนที่ 13 (ต่อ)
บริเวณลานจอดรถของวัด เวฬุรีย์เดินมากับไอลดา ถามอย่างแปลกใจ
"ทำไมคุณพ่อยังไม่รู้เรื่องคุณแม่ล่ะ"
"ท่านยังไม่หายดี พี่ไม่อยากให้ท่านกระทบกระเทือนใจ"
"พาฉันไปเยี่ยมคุณพ่อหน่อยสิ คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง"
ไอลดาส่ายหน้าช้าๆ อย่างเศร้าสร้อย ก่อนจะระบายลมหายใจยาว
"พี่ไม่อยากเล่าอะไรมาก อยากให้ฬุรีย์ไปเห็นเอง คุณพ่อคงอยากเจอฬุรีย์มากเหมือนกัน"
ไอลดานำหน้าน้องสาวไป เวฬุรีย์มองตามอย่างสงสัย
มฆวันนอนนิ่งเหม่อลอยอยู่ ไอลดาและน้องสาวเดินเข้ามา เวฬุรีย์ถลาเข้าไปเกาะขอบเตียง
"คุณพ่อ"
มฆวันเลื่อนสายตามามองเวฬุรีย์ แววตามีแต่ความเลื่อนลอย
"คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
มฆวันไม่ตอบ เลื่อนสายตากลับไปเหม่อลอยเหมือนเดิม
เวฬุรีย์หันไปถามไอลดา
"คุณพ่อ...ทำไมไม่พูดอะไรเลย คุณพ่อยังไม่หายเหรอ"
ไอลดาน้ำตาคลอ
"คุณพ่ออาจจะกลับมา ก็แค่ร่างกายของท่านเท่านั้น แต่ความรู้สึก ความคิด ความทรงจำของคุณพ่อไม่กลับมาอีกแล้ว"
สีหน้าเวฬุรีย์ผิดหวังสุดขีด
"หมายความว่า..."
ไอลดาพยักหน้า
"ใช่...คุณพ่อพิการ ร่างกายของท่านเคลื่อนไหวไม่ได้ ท่านจำไม่ได้แม้แต่...ลูกของท่านเอง"
ดวงตาของเวฬุรีย์เบิกกว้าง ริมฝีปากสั่นระริก เขย่าตัวมฆวัน
"ไม่จริง ไม่จริง... คุณพ่อต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม อย่าทิ้งฬุรีย์ไปเหมือนคุณแม่ อย่าเป็นอย่างนี้ได้ไหม คุยกับฬุรีย์สิ"
ไอลดาดึงเวฬุรีย์ออกมา
"อย่าฬุรีย์ คุณพ่อกำลังป่วยอยู่นะ"
เวฬุรีย์สะบัดออกจากไอลดาอย่างแรง จนไอลดาเซไป
"โอ๊ย...ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ทำไม... แล้วเราจะอยู่ต่อไปได้ยังไง"
"เราต้องอยู่ให้ได้...ฬุรีย์... เราต้องดูแลคุณพ่ออย่างดีที่สุด อาจจะมีปาฏิหาริย์นะฬุรีย์ พี่ยังหวังว่าคุณพ่อจะมีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิม"
เวฬุรีย์กำมือแน่น สีหน้าทั้งเจ็บใจและเสียใจ
ทั้งคู่กลับเข้ามาในบ้าน
"ฬุรีย์จ๊ะ พี่ขอซองที่พี่ฝากฬุรีย์ไว้"
"ซองอะไร"
"ก็ซองเงินทำบุญของแขกไงจ๊ะ ฬุรีย์บอกว่าจะช่วยพี่ถือ"
"ฉันคืนให้เธอไปหมดแล้วนี่"
"ฬุรีย์คืนให้พี่ตอนไหนเหรอ"
"คืนตอนเธอกำลังส่งแขกในงานไงล่ะ ฉันยื่นให้เธอ เธอก็รับไว้"
"ทำไมพี่จำไม่ได้เลย"
"จำไม่ได้เพราะเธอกำลังวุ่นๆ ละมั้ง หรือไม่ก็อาจจะทำหล่น ไม่เกี่ยวกับฉันแล้วนะลดา ... วันนี้ฉันเหนื่อยมาก ขอขึ้นไปพักก่อน"
เวฬุรีย์ตัดบทและเดินหนีขึ้นห้องไป ไอลดามองตามสงสัย
เวฬุรีย์เข้ามาในห้อง หยิบซองที่ซุกไว้ในเสื้อออกมา แล้วเอาเงินออกมานับ
"เก้าหมื่นเจ็ด...โอ๊ย"
ฬุรีย์ปัดเงินทิ้งกระจายอย่างหงุดหงิด
บริเวณหน้าบ้านวุฒิตอนค่ำ เพ็ญโพยมเรียกลูกชาย
"วุฒิ...วุฒิ เดี๋ยวก่อนซี่"
วุฒิก้าวฉับๆ เข้ามาในบ้าน เพ็ญโพยมตามเข้ามา
"ตกลงจะเล่าให้แม่ฟังได้หรือยัง ว่าหนูลดาโกรธแกเรื่องอะไร"
วุฒิทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหงุดหงิด
"ผมเองก็ยังไม่รู้เลยครับว่าเรื่องอะไร แม่จะมาซักผมทำไม"
"ต้องซักสิยะ เพราะฉันไม่เคยเห็นแกกับหนูลดาโกรธกันขนาดนี้มาก่อน แม่สังเกตเห็นนะ ว่าหน้าก็แทบจะไม่ยอมมองกันเลย แกทำไมไม่ไปง้อเขา คุยกับเขาให้รู้เรื่อง"
"ผมพยายามแล้ว แต่ก็ยังพูดกันไม่รู้เรื่อง เขาไม่บอกตรงๆ อ้อมไปอ้อมมา ผมเองก็เดาไม่ถูกว่าเรื่องอะไรกันแน่"
"ถ้าไม่รู้ก็อย่างอนกันสิ แกก็โกรธหนูลดาด้วยใช่ไหม"
"ผมโกรธที่เขาบอกเลิกผมอย่างไม่มีเหตุผลน่ะสิครับ"
"แม่ไม่เชื่อ ปกติหนูลดาเป็นคนมีเหตุผล เดี๋ยวแม่จะพาแกไปคุยกับหนูลดาเอง"
"โธ่...แม่ครับ เขาไม่ยอมคุยกับผมหรอก คุยไปก็ไม่รู้เรื่อง"
ทวีวัชรตามเข้ามา ช่วยไกล่เกลี่ย
"เอาละๆ คุณก็ให้เวลาลูกหน่อยสิ ฝุ่นมันยังตลบอยู่ รอให้หนูลดาหมดเรื่องหมดราวเสียก่อน แล้วค่อยให้วุฒิมันหาทางคุยอีกทีก็ได้"
"ไม่รู้ละ ฉันกลัวว่ามัวแต่รอเดี๋ยวจะมีคนมาเสียบ ฉันต้องหาทางสืบให้ได้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่"
"แม่แกนี่เป็นเอามาก ยังกับเป็นแฟนหนูลดาซะเอง นี่ถ้าหนูลดาเป็นผู้ชายละก็ พ่อมีหึงนะ"
"ฮึ...คุณละก็พูดไปเรื่อย ฉันไม่อยากเสียลูกสะใภ้ดีๆ ไปต่างหากล่ะ สมัยนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ฉันละกลัวตาวุฒิจะไปคว้าผู้หญิงกะเลวกะลาดที่ไหนมา ฉันรับไม่ได้ สะใภ้ฉันต้องหนูลดาเท่านั้น"
วุฒิมองพ่อกับแม่ไปมาด้วยสีหน้าเครียด
หน้าบ้านประวัติ ตอนกลางคืน เขาเดินเข้ามาในบ้าน ผิวปากอย่างอารมณ์ดี
"พี่หวัด"
ประวัติชะงักกึก มองไปรอบๆ อย่างหวาดกลัว
"เฮ้ย...คะ...คะ...ใครน่ะ"
ไม่มีเสียงตอบ ประวัติยิ่งใจคอไม่ดี เริ่มสั่น
"มะ...ไม่...อย่านะ...อย่ามาหลอกฉันเลย"
ประวัติหันกลับทำท่าจะเผ่น แต่แล้วก็ต้องตกใจหน้าเหวอ เมื่อเห็นเงาดำของใครบางคนยืนอยู่ที่ประตู
ประวัติ จ๊ากยกมือไหว้
"ไปที่ชอบที่ชอบเถอะจ้ะ ฉันจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้"
ร่างที่เห็นเป็นเงาดำนั้นกลับตรงเข้ามาหาประวัติ แล้วจับตัวเขาไว้ ประวัติถึงกับหงายหลัง
"อ๊าก...ช่วยด้วย ช่วยด้วยจ้า อย่าทำอะไรฉันเลย"
"พี่หวัด... พี่หวัด นี่ฉันเอง"
"ไม่...ไม่ ฉันไม่รู้จักเธอ อย่ามาหลอกฉันเลย ออกไป ไม่งั้นจะสวดแล้วนะ" ประวัติหลับตาปี๋ สวดมนต์ "นโมตัสสะ ภควะโต..."
"นี่ดูให้เต็มตา จำน้องสาวตัวเองไม่ได้เหรอพี่หวัด"
ไฟถูกเปิดขึ้น ประวัติค่อย ๆ เงยหน้าลืมตามอง
"โธ่เว้ย...ลำดวน จะมาทำไมไม่บอก ปล่อยให้ตกใจอยู่ได้"
ลำดวนยิ้มขำประวัติ
อ่านต่อหน้าที่ 3
เพลิงพ่าย ตอนที่ 13 (ต่อ)
ประวัติเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่ม ขณะฟังลำดวนอธิบาย
"ก็พี่น่ะไม่ได้ฟังอะไรฉันเลย ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันเอง จำเสียงฉันไม่ได้หรือไง"
"แล้วแกไปทำอะไรอยู่มืดๆ ในสวน"
"ฉันมาไม่เจอพี่ เลยไปเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อย"
"แกมาได้ยังไง แกอยู่เชียงใหม่นี่"
"ฉันลาออกจากงานแล้ว"
"ลาออก? ออกทำไม เงินเดือนสูง นายจ้างก็ใจดีไม่ใช่เหรอ"
"ใจดีหวังเคลมน่ะสิ ทั้งที่ป่วยๆ ไอ้แก่นั่นยังจ้องจะแต๊ะอั๋งฉันตลอดเวลา"
"หา....แล้วแกเสร็จมันไปหรือยัง"
"ยังหรอก อีแก่เมียมันจับได้ซะก่อน เลยหาเรื่องไล่ฉันออก แถมป่าวประกาศไปทั่วเมืองว่าฉันจะแย่งผัวมัน ฉันถึงต้องมาหาพี่นี่ไงล่ะ"
"แล้วพี่จะช่วยอะไรแกได้"
"ฉันจะไม่กลับไปทำงานที่นั่นอีกแล้ว มาอยู่กรุงเทพดีกว่า พี่รู้จักคนเยอะ ช่วยหางานให้ฉันหน่อยสิ"
"ทำไมไม่กลับไปอยู่กับแม่ล่ะ จะได้คอยดูแลแม่ด้วย"
"กลับไปอยู่บ้านนอกยิ่งหางานยาก เงินเดือนก็น้อย ฉันอยากอยู่กรุงเทพมากกว่า นะพี่หวัดนะ ช่วยน้องหน่อยเถอะ ไม่งั้นฉันก็จะมาเกาะพี่กินนี่แหละ"
ประวัติมองลำดวนอย่างเซ็งๆ แกมเห็นใจ
หน้าบริษัทวุฒิตอนสาย วันใหม่ ประวัติเปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี
"เอกสารสั่งซื้อวัสดุปูพื้นบ้านล็อตใหม่ครับคุณวุฒิ"
วุฒิตรวจดูเอกสาร สีหน้านิ่ง แล้วยื่นเอกสารคืนให้ประวัติโดยไม่ยิ้มแย้ม
"คุณวุฒิเป็นอะไรไปครับ หน้าตาเหมือนถ่ายไม่ออกมาหลายวัน"
วุฒิเหลือบมองประวัติด้วยหางตา
"ชะอุ๋ย...ไม่ขำด้วยแฮะ"
"มีอะไรก็ไปทำเถอะคุณหวัด"
"เอ่อ...ครับๆ ...อ้อ คุณวุฒิครับ ผมมีเรื่องจะรบกวน"
"รบกวนน่ะได้ แต่ถ้ามากวนแบบเมื่อกี้ละก็...ฮึ่ม"
"ไม่กวนแล้วคร้าบเจ้านาย คือว่า...ผมมีน้องสาวคนนึง จบผู้ช่วยพยาบาลมาตอนนี้กำลังหางานใหม่ ผมเลยอยากให้คุณวุฒิช่วยแนะนำไปที่คลินิกของคุณไอลดาน่ะครับ"
วุฒิชะงักไปนิดหนึ่ง ครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะตอบออกมา
"ตอนนี้ลดายังยุ่ง ๆ เรื่องคุณพ่อคุณแม่ของเขาอยู่ เอาไว้ให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนแล้ว ผมจะช่วยแนะนำให้"
"ขอบคุณครับเจ้านาย ทั้งหล่อทั้งใจดีจริงๆ"
"พอๆ... แต่ถ้าเขาอยากทำงาน พามาช่วยงานที่นี่ก่อนก็ได้ คุณก็ลองดูว่าน้องสาวคุณพอจะทำอะไรได้บ้าง"
ประวัติยิ้มออกมาได้ เข้าไปเกาะแขนวุฒิ
"แหม...รักเจ้านายที่สุดเลย"
วุฒิสะบัดออก
"เย้ย...ขนลุก"
วุฒิเดินเข้าห้องไป ประวัติมองตามดีใจ
คืนวันเดียวกัน ไอลดานำโกศบรรจุอัฐิของนวลนภามาตั้งไว้ที่มุมหนึ่งของหิ้งพระ โดยมีเวฬุรีย์นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ไอลดาก้มลงกราบ เวฬุรีย์กราบตาม ไอลดาหันไปบอกกับเวฬุรีย์
"ต่อไปนี้คุณแม่จะมาอยู่ใกล้ๆ เราแล้วนะจ๊ะฬุรีย์"
"ฮึ...แม่ทิ้งเราไปแล้วต่างหาก"
ไอลดาน้ำตาคลอ
"คุณแม่ท่านไปสบายแล้ว เราต้องช่วยกันดูแลคุณพ่อให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมนะ"
"บางทีคุณพ่อไม่รับรู้อะไรก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจเหมือนพวกเรา"
"ถ้าคุณพ่อหายดีแล้ว เราก็ต้องค่อยๆ หาทางบอกให้ท่านรู้"
ไอลดากอดน้องสาวไว้ เวฬุรีย์ยิ้มหยัน
ไอลดาเข้ามาในห้อง เสียงไลน์ในมือถือดังขึ้น ไอลดาเปิดดู
"ลดาครับ พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า พี่อยากจะเข้าไปคุยด้วย"
ไอลดาเศร้า พิมพ์ข้อความตอบกลับไป
"พี่วุฒิคะ ลดาไม่รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไงกันแน่ แต่ถ้าพี่วุฒิพิสูจน์ความจริงไม่ได้ เราก็คงจบกันเท่านี้ ลดาเสียใจแต่ลดาต้องตัดสินใจค่ะพี่วุฒิ ขอโทษด้วยนะคะ"
ไอลดาน้ำตาซึม แล้วค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ
วุฒิอ่านข้อความตอบกลับจากไอลดา มือที่ถือโทรศัพท์ตกลง หน้าเครียด
เวฬุรีย์กดมือถือหาใครบางคน
"ฮัลโหล นี่ฉันเอง... ฉันเตรียมให้แกพร้อมแล้ว พรุ่งนี้ไปเจอกันที่ไหน"
เวฬุรีย์ยิ้มเหี้ยมเกรียม
บริษัทวุฒิตอนเช้าวันใหม่ วุฒิเดินเข้ามา พนักงานยกมือไหว้ วุฒิเดินมาถึงหน้าห้อง ชะงักอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นลำดวนนั่งรออยู่
ลำดวนมองวุฒิอย่างตะลึงไปครู่หนึ่ง พอรู้สึกตัวก็รีบยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
"สวัสดีค่ะคุณวุฒิ"
วุฒิมองลำดวนอย่างแปลกใจ
"สวัสดีครับ คุณรู้จักผมด้วยเหรอครับ"
ประวัติรีบเข้ามาแนะนำ
"ลำดวน น้องสาวผมเองครับคุณวุฒิ"
วุฒิพยักหน้าเข้าใจ
"อ๋อ...คนนี้นี่เองเหรอ"
"ผมให้ลำดวนไปคุยกับฝ่ายบุคคลแล้ว ตอนนี้มีตำแหน่งพนักงานชั่วคราว พอจะทำไปก่อนได้"
"งั้นก็ดีแล้ว ไว้วันหลังผมค่อยแนะนำลำดวนไปที่คลินิกอีกที"
ลำดวนยิ้มหวาน
"ขอบคุณค่ะคุณวุฒิ"
วุฒิยิ้มๆ แล้วเดินเข้าห้องไป ลำดวนมองตาม ชื่นชมแบบเพ้อๆ
"เจ้านายพี่หวัดใจดีจัง หล่อด้วย"
"ฮึ่ม...เขามีแฟนแล้วนะ อย่าได้ไปยุ่งเด็ดขาด"
ประวัติเหล่มองน้องสาวเป็นเชิงปราม ลำดวนแกล้งทำเป็นเงียบแต่ยังแอบมองตามวุฒิอย่างพอใจ
ธมยืนรอเวฬุรีย์อยู่ที่สวนสาธารณะ เวฬุรีย์ก้าวเท้าเข้ามา ธมหันไปยิ้มให้
"ตรงเวลาดีนี่"
"ฉันเอาเงินมาให้แล้ว"
ธมเดินเข้าไปหาฬุรีย์ แล้วยื่นมือออกไปจะรับซอง แต่ฬุรีย์ชักมือกลับ
"แล้วไหนล่ะ มือถือแก"
"ฉันจะลบคลิปพวกนั้นให้หมด เมื่อได้เงินจากเธอ"
"ฉันจะเชื่อได้ยังไง ว่าแกไม่ได้ก็อปปี้ไว้"
"ถ้าก็อปปี้ไว้ แล้วฉันเอาไปปล่อย เธอก็แจ้งความจับฉันได้เลย"
"เอางี้ดีกว่า ฉันมีข้อต่อรอง"
"ยังจะต่อรองอะไรอีกเหรอ"
"เงินในซองนี้มีแค่สองแสน แต่ฉันจะหาให้แกได้อีกเป็นล้าน"
ธมหัวเราะออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
"ฮ่าๆๆ ฬุรีย์ เธอหาเงินมาให้ฉันได้ไม่ครบ แล้วคิดจะตุกติกเหรอ"
"ฉันน่ะเหรอจะตุกติก แกมีไอ้คลิปบ้านั่น จะทำอะไรฉันก็ได้อยู่แล้ว"
"งั้นบอกมาซิ ว่าเงินที่จะได้อีกเป็นล้านได้มาจากไหน"
เวฬุรีย์ยิ้มเหี้ยม
"พี่สาวฉันเอง"
ธมเริ่มสนใจ
"ยังไง"
"พี่สาวฉันทั้งรวย ทั้งมีหน้ามีตาในสังคมมากกว่าฉัน มันเป็นคนเดียวที่รู้รหัสตู้เซฟในบ้าน แล้วก็เป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในคลินิกแค่นี้พอหรือยัง"
"ฮ่าๆๆ นี่ยิ่งน่าขำเข้าไปใหญ่ เธอกำลังจะบอกว่าจะให้ฉันทำกับพี่สาวเหมือนที่ทำกับเธอ...งั้นเหรอ"
"มันเป็นหนามยอกใจฉันมานานแล้ว ถ้าแกสนใจเงื่อนไขนี้ ฉันนี่แหละจะช่วยแกทำงานนี้เอง"
ธมตาลุกวาวขึ้นมา
"อืม...มันก็น่าสนเหมือนกันนะ"
"อย่าไปเชื่อมันนะธม"
ทั้งสองหันไป ดารินลงจากรถธมที่จอดอยู่
"นังดาริน"
"อาจจะเป็นแผนของมันที่ล่อให้พวกเราเข้าไปติดกับก็ได้" ดารินบอก
"ไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันมีเงินให้พวกแกเท่านี้แหละจะทำอะไรกับชีวิตฉันก็ตามใจ ฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว"
เวฬุรีย์โยนซองเงินให้ ธมรับไป แล้วหันหลังทำท่าจะเดินออก
"เดี๋ยวก่อน...ฬุรีย์"
เวฬุรีย์ชะงัก ยิ้มกระหยิ่ม ดารินมองธมอย่างรู้สึกขัดใจ
อ่านต่อหน้าที่ 4
เพลิงพ่าย ตอนที่ 13 (ต่อ)
เวฬุรีย์ออกมายืนรอแท็กซี่ โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนแล้ว เวฬุรีย์เห็นแท็กซี่คันหนึ่งแล่นมา หญิงคนนั้นโบกอยู่ แท็กซี่เข้าจอด แต่เธอรีบไปแทรกเปิดประตูแท็กซี่
หญิงคนนั้นเข้ามากระชากเวฬุรีย์ออก เธอหันไป
"อะไรกันน่ะ"
หญิงคนนั้นคือลำดวน
"ฉันเรียกก่อน ไม่เห็นเหรอ"
เวฬุรีย์ยักไหล่
"ไม่เห็น"
"ตาถั่วหรือไง ฉันยืนรออยู่นานแล้ว อย่ามาแซงคิว"
"ฉันเป็นคนเรียก"
คนขับแท็กซี่ถาม
"คุณ...จะทะเลาะกันอีกนานไหม ผมจะรีบไป"
เวฬุรีย์จะขึ้นรถ
"ฉันไป"
ลำดวนผลักเวฬุรีย์ออกจนล้มลงพื้น แล้วรีบขึ้นรถ
เวฬุรีย์ไม่ยอมกระชากผมลำดวนออก
ลำดวนโมโห
"อีสก๊อย"
"อีสลัมชั้นต่ำ"
เวฬุรีย์จิกผมลำดวนแล้วตบ ลำดวนตบหน้าเวฬุรีย์บ้าง
คนขับแท็กซี่รีบเข้ามาแยกทั้งสอง
"เฮ้ย...คุณ อย่าทะเลาะกัน"
ลำดวนได้จังหวะ ผลักฬุรีย์ล้มแล้วรีบขึ้นรถ
"ลุง...ไปเลยลุง...เร็วสิ"
คนขับแท็กซี่ขับรถออกไป ลำดวนหันมาสมน้ำหน้าเวฬุรีย์
เวฬุรีย์มองตามเจ็บใจมาก
ไอลดาเปิดดูแฟ้มบัญชีอย่างไม่สบายใจ มณไฑเข้ามานั่งตรงหน้า
"เดือนนี้รายได้ของคลินิกลดลงไปเยอะเลยนะคะ"
"ลูกค้าส่วนใหญ่มาที่นี่เพราะเชื่อฝีมืออาจารย์หมอครับ พอท่านเป็นอย่างนี้ ลูกค้าก็เลยหายไปเกือบหมด"
"ถ้าเราเอาว่านอสรพิษมาเป็นจุดขายได้ไหมคะ ผ่าตัดรักษาเนื้องอกและแผลเรื้อรังโดยไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นอีกเลย"
"ตอนนี้คงยังไม่ได้หรอกครับ เพราะเราทำสำเร็จแค่เคสเดียว"
"ถึงจะเคสเดียว แต่ก็ประสบผลสำเร็จอย่างดีนี่คะ"
"แต่กิ่งว่านที่ใช้สกัดยาได้น่ะถูกตัดไปแล้ว กว่ากิ่งที่เหลือจะโตพอใช้งานได้ก็ต้องรอเวลาอีกหลายเดือน อาจารย์หมอเคยคิดว่าจะขยายพันธุ์ว่านอีก แต่เวลาปลูกต้องระวังมาก ผมไม่อยากทำอะไรกับว่านถ้าไม่มีอาจารย์หมอคอยดูแลอยู่ด้วย"
ไอลดาได้แต่ถอนใจเครียดๆ
"ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลย ถ้าคลินิกคุณพ่อจะต้องขาดทุนเพราะฉัน ฉันรู้สึกผิดมาก"
"อย่าเพิ่งเครียดนะครับลดา ผมเชื่อว่าเราต้องมีทางออก"
ไอลดาฝืนยิ้ม พยายามไม่คิดมาก
"หรือว่า...เราจะจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เพื่อเรียกลูกค้ากลับเข้ามาดีไหมคะ"
"ก็ดีเหมือนกันครับ น่าจะช่วยกระตุ้นให้ยอดเพิ่มขึ้นได้"
"งั้นเดี๋ยวลดาเขียนแผนโปรโมทขึ้นมาเลยดีกว่า"
ไอลดาทำท่ากระฉับกระเฉง แต่มณไฑดูออกว่าไอลดาท่าทางเครียดๆ
"ลดาเป็นยังไงบ้าง ทำใจได้หรือยัง"
ไอลดาหมองลงไป
"ขอโทษนะครับที่ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา"
"ไม่เป็นไรค่ะ ลดากำลังพยายามทำใจอยู่"
"ผมเข้าใจ ลดารู้จักกับคุณวุฒิมาสิบกว่าปี จะให้ลืมภายในไม่กี่วันคงไม่ง่าย แล้วฬุรีย์ล่ะครับ ทำใจได้หรือยัง"
"ดีขึ้นแล้วค่ะ พักนี้ฬุรีย์ดีกับลดามากด้วย"
"ผมก็เห็นตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว ดีใจด้วยนะ หลังจากนี้คงจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาซะที"
มณไฑจับมือแสดงความยินดีกับไอลดาแบบเพื่อน
"ลดาก็หวังว่าอย่างนั้นค่ะหมอ"
ในห้องไอซียู มฆวันนอนนิ่งอยู่บนเตียง เงาของเวฬุรีย์เข้ามามองพ่อผ่านกระจก ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ
"พ่อคะ ฬุรีย์กำลังจะทำอะไรบางอย่างกับนังลดา แต่พ่อไม่ต้องห่วง ถึงยังไง ฬุรีย์ก็จะดูแลพ่ออย่างดี... ฬุรีย์จำเป็นต้องทำ ถ้าไม่ใช่เพราะนังไอลดามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปชีวิตของฬุรีย์จะต้องดีกว่านี้"
มฆวันเบือนหน้ามามองเวฬุรีย์เหม่อๆ เธอตกใจ
"พ่อได้ยินฬุรีย์แล้วเหรอคะ ทีอย่างนี้ทำไมถึงได้ยิน เป็นห่วงนังลดามันใช่ไหม ถ้าห่วงก็บอกรหัสตู้เซฟมาสิ ตอนนี้ฬุรีย์จำเป็นต้องใช้เงิน บอกมาแล้ว นังลดาจะปลอดภัย"
มฆวันกลับไปเหม่อมองเพดานเหมือนไม่รับรู้อะไร ฬุรีย์กัดฟันกรอด
"ถ้าอย่างนั้นก็นอนเป็นง่อยอย่างนี้ต่อไปเถอะ แล้วคอยดูว่าชีวิตนังลดาจะยับเยินมากแค่ไหน มันจะต้องตกนรกทั้งเป็น ยิ่งกว่าที่ฬุรีย์เคยเจอ และยิ่งกว่าที่พ่อเป็นอยู่ตอนนี้ หึๆๆ"
มฆวันยังคงเหม่อ แต่แววตากลับเศร้าอย่างประหลาด
ฬุรีย์เข้ามาในบ้าน ไอลดาเข้ามาถามฬุรีย์อย่างเป็นห่วง
"ฬุรีย์...ไปไหนมาจ๊ะ กลับซะค่ำเลย"
"ฉันก็ไปเดินเที่ยวแก้เบื่อบ้างน่ะสิ"
ไอลดาจับหน้าฬุรีย์
" เอ๊ะ...ทำไมหน้าแดง ไปโดนอะไรมา"
ฬุรีย์ปัดมือลดาออก เบือนหน้าหลบ
"ไม่มีอะไรหรอก วันนี้คงโดนแดดเยอะไปหน่อย อ้อ...พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า ไปช้อปปิ้งด้วยกันไหม"
ไอลดาอุทานอย่างแปลกใจกึ่งดีใจ
"ได้สิจ๊ะ พรุ่งนี้วันหยุด พี่ไม่ได้ไปไหน"
"หมู่นี้มีแต่เรื่องเครียดๆ ฉันอยากช้อปให้หายเซ็ง"
"พี่ดีใจนะที่เธอชวนพี่ เรายังไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยกัน พี่จะพาเธอช้อปให้สนุกเลย"
ไอลดาโอบน้องสาวไว้ เวฬุรีย์แอบทำหน้าหยัน
ธมคุยมือถือนัดแนะกับเวฬุรีย์
" ได้...พรุ่งนี้ฉันจะไปตามนัด"
ธมวางสาย ดารินมองธมอย่างหงุดหงิด
"ฉันไม่เข้าใจเลย เธอจะไปร่วมมือกับมันทำไม เอาเงินมาซะก็จบๆ จะได้เอาไปใช้หนี้ซะที"
"อย่าเพิ่งจบง่ายๆ สิ นังเด็กนี่ยังหาประโยชนให้เราได้อีกเยอะ"
"บอกตามตรง ฉันไม่ไว้ใจนังนั่นเลย กับพี่สาวตัวเองยังทำได้ลงคอ สักวันมันอาจจะย้อนกลับมาแว้งกัดเราก็ได้"
"เด็กมันมีปมด้อย อิจฉาพี่สาวตัวเอง ฉันรู้ว่ามันกำลังใช้เรา แต่เราก็ได้ใช้มันกลับด้วย มีแต่ได้กับได้"
ดารินได้แต่ฮึดฮัดอย่างรู้สึกขัดใจ
"ฮึ...ชอบด้วยล่ะสิ"
ธมเข้าไปกอดดารินไว้
"ไม่เอาน่าดาริน เธอก็รู้นี่ว่ามันเป็นงาน ฉันเคยคิดจริงจังกับใครที่ไหนล่ะ ไม่มีใครเร้าใจเท่าเธออีกแล้ว"
ดารินหันกลับมาโอบธม
"ขอให้จริงเถอะ"
"ถ้าได้เงินล้านก้อนนี้มา เราแบ่งครึ่งแล้วไปเวกัสด้วยกัน คราวนี้เราจะกลับมาอย่างมหาเศรษฐี โอกาสลอยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เราจะไม่คว้ามันไว้เลยเหรอ"
ดารินยิ้มออกมาได้ ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างร่วมมือร่วมใจ
บริเวณหน้าบ้านวิเศษมฆวัน วันใหม่ สองพี่น้องเดินเคียงคู่กันมาที่รถอย่างร่าเริง ออมซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่แอบมองอย่างแปลกใจ หันไปคุยกับผ่อนศักดิ์ซึ่งกำลังใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้
"พักนี้คุณฬุรีย์ดูรักกับคุณลดาจังเลยนะพี่ผ่อน"
"ก็ดีแล้วนี่ พี่น้องมีกันแค่สองคน เขาก็ต้องรักกันมากกว่าคนอื่น"
"พี่ผ่อนก็รู้นิสัยคุณฬุรีย์ดีนี่ จู่ๆ กลายเป็นคนน่ารักนิสัยดีแบบนี้มันแปลกๆ"
"เอ็งน่ะมองโลกในแง่ร้ายอีกแล้ว คุณฬุรีย์เขาก็รักพี่สาวของเขาสิ ที่ผ่านมา คุณฬุรีย์ไม่สวย ก็เลยอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดใส่คนนั้นคนนี้ แต่พอสวยขึ้นมา แล้วก็เหลือกันสองพี่น้อง คุณฬุรีย์เลยคิดได้ละมั้ง"
"ฉันว่าไม่ใช่หรอก แปลกนะ...คุณฬุรีย์ไปไหนมาไหนไม่เคยให้พี่ผ่อนขับรถพาไปเลย ทั้งที่ตอนนี้พี่ก็ว่างอยู่"
"เขาคงอยากไปส่วนตัวละมั้ง"
ผ่อนศักดิ์ตัดกิ่งไม้ต่อไปโดยไม่สนใจอีก แต่ออมกลับรู้สึกสงสัยไม่หาย
วุฒิเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
"กาแฟไหมลูก"
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ"
วุฒินั่งพักลงอย่างหมดแรง
"หนูลดาเป็นยังไงบ้าง"
"ยังไม่ได้คุยกับเขาเลยครับ"
"อะไรกันตาวุฒิ ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วยังไม่ปรับความเข้าใจกันอีกเหรอ"
"ลดาเขาไม่ยอมคุยกับผมนี่ครับแม่ สองวันก่อนไลน์ไปจะขอนัดเคลียร์ เขาก็ไม่ยอมมาเจอ"
"แกต้องไปเจอเขาด้วยตัวเองเลย"
"เขาจะไล่ตะเพิดผมออกมาน่ะสิ"
เพ็ญโพยมดึงวุฒิขึ้นมา
"งั้นไปกับแม่ หนูลดาจะกล้าตะเพิดแม่ด้วยก็ลองดู แม่รู้จักหนูลดาดี"
วุฒิจำต้องตามเพ็ญโพยมไปด้วย
ไอลดากับเวฬุรีย์ถือถุงช้อปปิ้งกันมาคนละหลายใบ ผ่านร้านกาแฟร้านหนึ่ง
"เมื่อยจังเลย แวะเข้าไปหาอะไรกินก่อนดีไหม"
ไอลดามองเข้าไปในร้าน
"ร้านนี้ดูมืดๆ ไม่น่านั่งเลย เดี๋ยวพี่พาไปอีกร้านดีกว่า"
"เอาร้านนี้แหละ ส่วนตัวดี ฉันชอบ"
เวฬุรีย์เดินเข้าไปในร้าน ไอลดาจำต้องตามเข้าไป
เวฬุรีย์เข้ามาในร้าน ไอลดาตามเข้ามา ทั้งสองเดินผ่านด้านหลังชายคนหนึ่งซึ่งนั่งคู่กับหญิงคนหนึ่ง ทั้งสองหันมามอง ปรากฏว่าเป็นธมกับดาริน
เวฬุรีย์แอบสบตากับธมและดาริน แล้วไปนั่งโต๊ะที่ใกล้กับสองคนนั้น
"ฬุรีย์จะสั่งอะไรดี"
"เธอไปสั่งก่อน เดี๋ยวฉันค่อยไปดูเอง"
"ฬุรีย์ไปดูก่อนก็ได้จ้ะ"
"เธอนั่นแหละไปดูก่อน ฉันขอพักแป๊บ"
"ฬุรีย์ฝากสั่งอะไรไหม"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันสั่งเอง"
ไอลดาลุกไป ฬุรีย์สบตากับธมและดารินอย่างรู้กัน
เพ็ญโพยมโวยวายเมื่อรู้จากออมว่าไอลดาไม่อยู่บ้าน
"อะไรกัน ลดาออกไปกับฬุรีย์เหรอ จะกลับเมื่อไร"
"ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คุณลดาไม่ได้บอก"
"ผมบอกแล้ว ว่าแม่น่าจะโทร.มาก่อน"
"งั้นแกโทร.ถามสิว่าหนูลดาอยู่ที่ไหน"
"แม่ครับ...ช่างเขาเถอะครับ ไว้เราค่อยมาวันหลังก็ได้"
"ไม่ได้ แม่ร้อนใจ วันนี้ยังไงต้องให้แกคุยกับหนูลดาให้รู้เรื่อง"
เพ็ญโพยมหยิบมือถือขึ้นมากดหาไอลดาทันที
ไอลดารับน้ำผลไม้มา เสียงมือถือดังขึ้น
"สวัสดีค่ะคุณป้า... ตอนนี้อยู่ที่ห้าง...อีกชั่วโมงก็กลับแล้วค่ะ คุณป้ามีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ"
"ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ป้าแค่แวะมาเยี่ยมหนู มาดูว่าเป็นยังไงบ้าง ป้าจะรอหนูอยู่ที่บ้านหนูนะจ๊ะ"
ไอลดารู้สึกแปลกๆ แต่ก็รับปากไป
"งั้นลดาจะรีบกลับนะคะ"
ไอลดาวางสาย แล้วกลับไปที่โต๊ะ เวฬุรีย์มองน้ำของไอลดาแล้วแสร้งทำท่าสนใจ
"น้ำอะไรน่ากินจังเลย"
"พันช์จ้ะ"
"สั่งให้ฉันด้วยสิ"
"ฬุรีย์เอาของพี่ไปก่อนก็ได้" ไอลดาเลื่อนแก้วน้ำให้ "เดี๋ยวพี่ซื้อใหม่"
"ไม่เอาละ ฉันเปลี่ยนใจเอาชามะนาวดีกว่า เธอสั่งให้หน่อยสิ ฉันสั่งไม่เป็น"
"รอเดี๋ยวนะ"
ไอลดาลุกออกไป เวฬุรีย์มองตามจนไอลดาหันหลังให้แล้ว จึงหยิบซองยาบางอย่างออกมาจากกระเป๋า แล้วเทซองยานั้นลงไปในแก้วน้ำของไอลดา
เวฬุรีย์หันไปยิ้มกับธมและดาริน ทั้งสามยิ้มกริ่มอย่างเข้าแผน
อ่านต่อตอนที่ 14