xs
xsm
sm
md
lg

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 13

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 13

ที่ค่ายมวยศ.อรชร เช้ามืดวันต่อมา เพชรวิ่งตื้อมาจากห้องพัก จะรีบไปซ้อมตามที่นัดกะพริม

“โอ๊ย ไม่ทันแล้วๆ”
เพชรวิ่งมาชนเอื้อยที่เหมือนดักรออยู่
“โอ้ย โทษทีพี่เอื้อย ไปก่อนนะ เดี๋ยวไปซ้อมมวยสาย”
“หยุด! มารับผิดชอบ เรื่องที่ตัวเองทำไว้ด้วย”
“ห๊ะ”
ขณะที่เพชรงงอยู่นั้น เอื้อยก็ฉุดดึงเพชรไปเลย

ถัดมา เห็นเพชรเกาะประตูห้องน้ำไว้มั่น ขณะที่เอื้อยเอาเท้ายันหลังเพชร ให้เข้าไปในห้องส้วม
“ซ่อมส้วมเดี๋ยวนี้!”
“อี๋ ไมต้องให้ฉันซ่อมด้วยอะ ฉันไม่ได้ทำส้วมตันซะหน่อย”
“นี่มันฝีมือนังจริยามาทำไว้ รับผิดชอบแทนคนของบ้านแกด้วย”
“ฉันต้องไปซ้อมมวย ไม่งั้นพริมเอาตายแน่”
“เดี๋ยวฉันไปบอกพริมให้”
“ไม่เอา”
“งั้นฉันจะไปเรียกค่าเสียหายกับพ่อสำเริง”
เพชรได้ยินก็ตกใจ หันมา “อย่าเลยพี่เอื้อย”
อันทำให้เอื้อยที่ยันเท้าอยู่ ถีบวืดไถลเข้าไปในส้วม
“เฮ้ย”
มีเสียง “แพรด” เหมือนของแข็งกระทบน้ำในโถส้วม เพชรมองเข้าไปทำหน้าเหยเก
“ไอ้เพชร”
“จ้า ซ่อมเดี๋ยวนี้แหละ แต่พี่อย่าลืมบอกพริมให้นะ”
เสียงเอื้อยดังมาอีกว่า “เออ! ไปได้แล้ว!”
เพชรเดินออกไปอย่างเซ็งๆ

ฟากพริมนั่งรอเพชรอยู่หน้าค่ายสักพักแล้ว บุญหลงเห็นพริม ก็เดินยิ้มเข้ามาสะกิด พริมยังไม่หัน บุญหลงเลยสะกิดอีกที
พริมลุกขึ้น หันขวับจับบุญหลงล็อกแขน แล้วกดลงพื้นด้วยความโกรธ เพราะนึกว่าเป็นเพชร
“โอ๊ย”
“จะลองดีใช่ไหม”
บุญหลงถูกกดหน้าลงพื้น พูดด้วยความลำบาก
“เปล่า เรา มาทักเฉยๆ”
“อ้าว หลงเหรอ เรานึกว่าเพชรอะ รอซ้อมอยู่นานละ ยังไม่โผล่มาซะที มาเมื่อไรนะ จะเล่นให้หนักเลย”
พริมพูดไปออกแรงเพิ่มไป ด้วยความโกรธขึ้นอีก
“โอ๊ย! อย่าเลยพริม สงสาร”
“สงสารเพชรทำไม”
“เปล่า เราสงสารตัวเอง”
พริมได้สติ หันมาเห็นว่าทับบุญหลงอยู่

“อุ้ย ขอโทษๆ”

ด้านเอื้อยเดินเข้ามาในห้องส้วม เพชรนั่งยองๆ กำลังไขตรงที่กดน้ำของส้วมซึม

“อ่ะ ได้แล้ว”
“ขอบใจนะ”
เพชรพูดพร้อมเอื้อย “อย่าเพิ่งราดน้ำนะพี่”
เอื้อยพูดพร้อมเพชรว่า “ไหนลองราดน้ำดูนะ”
เพชรเก็บอุปกรณ์แล้วหันมา เจอเอื้อยราดน้ำมาโดนเต็มๆ
“เอิ่ม บอกว่า อย่าเพิ่ง”
“ขอโทษนะ โอ้ย ตายละ เปียกไปหมดเลย ทำไงดี”
เอื้อยลุกลี้ลุกลนทำตัวไม่ถูก
“อี๋ เศษไรเนี่ย!”
เพชรดึงเสื้อมาดูความเลอะเทอะ แล้วก็มีน้ำโครมใหญ่ สาดใส่เพชร
“พี่เอื้อย”
“อ้าว ก็เห็นเสื้อมันเลอะ จะล้างให้”
“เปลี่ยนเลยดีกว่าไหม”
เพชรถอดเสื้อออก เอื้อยสาดน้ำใส่เพชรอีกรอบ
“ทำอะไรอีก!”
“ช่วยล้างตัวให้”
“ช่วยหาเสื้อใหม่ดีกว่าไหม”
“จ้ะ...จ้ะ...จ้ะ”
เอื้อยรีบวิ่งจู๊ดออกไป

พอเอื้อยวิ่งออกมา เจอบุญหลงกับพริมเดินสวนมา
“พี่เอื้อยๆ เห็นเพชรไหม พริมเขาหาอยู่”
“เพชรเหรอ อยู่ห้องน้ำ”
“ห้องน้ำ? ห้องน้ำ?”
พริมงงแต่โมโหมากกว่า รีบเดินไปที่ห้องน้ำ บุญหลงรีบเดินตาม
“อ้าว มีอะไรเหรอ” เอื้อยบ่นงึมงำกับตัวเอง “เอ เหมือนมีเรื่องอะไรต้องบอกพริมเลยเว้ย? ช่างมันก่อนละกัน”
เอื้อยยักไหล่แล้วจะเดินออกไป
“เอ๊ะ แล้วนี่เราจะไปไหนเนี่ย... อ๋อ ไปเอาเสื้อ”

เพชรเดินออกมาจากห้องน้ำ มาอยู่ตรงบ่ออาบน้ำ พริม กะ บุญหลงเดินมาเจอพอดี
“นี่เพิ่งจะตื่นมาอาบน้ำเหรอ” พริมฉุนเมื่อเห็นสภาพเพชร
“ห๊ะ ไม่ใช่นะ คือ...”
พริมโมโหสาดน้ำจากบ่อใส่เพชร
“โอ้ย นี่สงกรานต์หรือไง โดนสาดมาทั้งเช้าเลยเนี่ย!”
พริมสาดต่อ สาดไปอีกเรื่อยๆ
“อะ อาบไปเลย อยากอาบ อาบไปเลย”
“เปล่านะ โอ๊ย หยุด” เพชรชักเริ่มโมโห
บุญหลงห้าม “พริม พอแล้ว”
“พี่ยอดสร้อยก็ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครให้โทษละนะ ถึงเวลาโทษตัวเองบ้างได้หรือยัง”
“พริมใจเย็น ฟังเพชรพูดก่อน”
“ไม่ฟังแล้ว คิดอยู่แล้วเชียว ว่านายต้องทำผิดซ้ำซาก แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เขาถึงว่าว่าสันดอนมันขุดได้ แต่สันดานมันขุดกันไม่ได้ ถ้าไม่อยากซ้อม ก็ออกไปเลยไป”
เพชรมองพริม สายตาขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด
“พูดจบยัง”
“จบแล้ว ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคนอย่างเธออีกแล้ว”
เพชรเดินหนี พริมมองตามอย่างโกรธขึ้ง
เอื้อยวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมผ้าเช็ดตัว มองหาเพชร
“อ้าว เพชรไปไหนแล้วอะ งอนหนีพี่ไปแล้วเหรอ”
บุญหลงงง “แล้วเพชรจะงอนพี่เรื่องอะไรล่ะ”
“ก็พี่เรียกเพชรมาซ่อมส้วมไง เพชรเลยไม่ได้ไปซ้อมมวย” เอื้อยคิดได้ “เออใช่ เพชรฝากให้พี่ไปบอกพริมนี่หว่า ลืม...ไปเลย”
บุญหลงชะงัก “เดี๋ยวนะ ที่เพชรไม่ได้ไปซ้อมเพราะมัวแต่ซ่อมส้วมเหรอ”
“ใช่ แล้วพี่ก็เผลอราดน้ำใส่เพชร ก็เลยต้องเอาเสื้อมาเปลี่ยนให้”

บุญหลงเหลียวไปมองหน้าพริม ซึ่งหน้าเสียตั้งแต่ได้ฟังเอื้อยอธิบาย และรู้ว่าเธอนั้นเข้าใจเพชรผิดไปขนานใหญ่

อ่านต่อหน้า 2

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 13 (ต่อ)

อีกฟากหนึ่ง เมฆดำ เดินดูเด็กในค่ายซ้อมมวยอยู่

“อ้าวๆๆ ตั้งใจหน่อยๆ”
เมฆดำหยุดดูนักมวยกำยำคนหนึ่งกำลังต่อยกระสอบรัวๆ
“ดี...เอ้อ ดี”
อยู่ๆ เสียงนักมวยคนอื่นก็ดังฮือฮาขึ้น เมฆดำกับนักมวยกำยำหันไปดู
ทุกคนชะงักตะลึงทั้งแถบ เมื่อเห็นยอดสร้อยเดินนวยนาดเข้ามาในชุดสายเดี่ยวสวยเซ็กซี่ เมฆดำมอง งงจัด นักมวยกำยำมองตาเยิ้มชกมาเฉียดโดนเมฆดำ
“เฮ้ยๆพอได้แล้ว ซ้อมต่อ”
นักมวยในค่ายหันไปซ้อมต่อ ยกเว้นไข่เค็มที่หยุดกวาดพื้นมองยอดสร้อยไม่ขยับ
“อยากกินซาลาเปา”
เมฆดำเบิ๊ดกะโหลกไข่เค็มไปเบาๆ
“เดี๊ยะๆ เป็นเด็กเป็นเล็ก”
ไข่เค็มถูหัวเดินออกไป ยอดสร้อยเดินเข้ามาใกล้เมฆดำ ทำตาหลิ่ว กัดริมฝีปากยั่วยวน
“เป็นอะไร ฝุ่นเข้าตารึไง”
“สร้อยไม่เซ็กซี่เหรอคะป๋า ทีนี้ป๋าจะคุยกับสร้อยได้ยัง หรือยังแหวกไม่พอ”
ยอดสร้อยดึงสายชุดเปิดไหล่ พวกนักมวยจ้องอยู่ส่งเสียงโห่ฮา
“ฮู้ว”
“พอละๆ เราไปคุยต่อในห้องดีกว่าเนอะ”

เมฆดำยิ้มเจ้าเล่ห์ ยอดสร้อยยิ้มกริ่มสมใจ

ส่วนที่บ้านลิเก ทุกคนนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ จริยานั้นกินอย่างมูมมาม จนแฉะด่าเอา

“ตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ย” แล้วหันมาทางรักษ์ “...เออ ขนุนมาซ้อมไหมวันนี้”
“คงไม่จ้ะ ช่วงนี้ต้องระวังหน่อย มาบ่อยเดี๋ยวผิดสังเกต”
จริยาบอกทั้งที่ข้าวเต็มปาก “ไม่ไหวเล้ย แบบนี้จะเป็นนางเอกลิเกได้ไง”
รักษ์เคืองที่จริยาว่าขนุน “ขนุนอยากเป็นนักร้อง ไม่ได้อยากเป็นนางเอกลิเกซะหน่อย”
ลูกดอกปราม “ใจเย็น พี่จริยาก็พูดไปงั้นน่ะ แหม ปกป้องใหญ่เลยนะ”
รักษ์กินข้าวกลบเกลื่อน
“สวยแค่ไหน แต่ใจไม่กล้า ก็เป็นนางเอกไม่ได้หรอก” จริยายังไม่เลิกบ่น
“นี่ก็ไม่เลิก ได้ยินเขาพูดกันไหม ไขมันจุกหูหมดแล้วหรือไง” แฉะไม่เลิกด่าเหมือนกัน
“ได้ยิน! แต่จะบอกว่า คนที่จะเป็นนางเอกลิเกได้ ต้องมุ่งมั่นจริง อย่างฉันนี่”
จริยากินต่ออย่างตะกลุมตะกราม
“มุ่งมั่นในการกินน่ะเหรอพี่” ลูกดอกแซว
“ก็ถ้าฉันกินแบบนี้ แต่ฉันก็ยังผอมได้ล่ะ จะให้ฉันเป็นนางเอกไหม”
รักษ์หัวเราะ “เออ ถ้าผอมได้จริง ชั้นให้พี่เป็นนางเอกเลย”
รักษ์เดินออกไปเก็บจาน จริยายิ้มกริ่ม แอบหยิบซองที่แปะสติ๊กเกอร์คำว่า ”ยาถ่าย” ติดมือออกมา จริยาแกะสติ๊กเกอร์ออก แล้วเปิดซองมา จะโรยผงยาถ่ายใส่แก้ว แล้วลังเล
“นี่เป็นยาลดกรดในกระเพาะนะ ไม่ใช่ยาถ่าย”
“ใครถามเหรอ กินไรก็กินไปเหอะ”
จริยากำลังจะใส่ผงลงไปในแก้ว แต่แฉะลุกขึ้นจะเอาจานไปเก็บพอดี
สะโพกแฉะไปชนแขนจริยา ทำให้จริยาเทผงพลาด หกลงบนโต๊ะหมด
“ไอ้แฉะ!”
“เฮ้ยๆๆ โทษๆๆ”
แฉะกวาดผงยาถ่ายจากโต๊ะใส่มือตัวเอง จริยาเอาแก้วน้ำมารองไว้ จะให้แฉะใส่ยาลงแก้ว แต่แฉะเป่าผงยาจากมือตัวเองปลิวไปที่อื่น
“ไอ้แฉะ!”
แฉะไม่รู้ตัว “เรียกอยู่ได้! ก็ช่วยทำความสะอาดแล้วไง อย่าบอกนะจะกินของหล่นโต๊ะ เดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก”
แฉะเดินออกไป จริยากรีดร้องกับตัวเอง
“ก็ฉันอยากท้องเสียไงเล่า!”
จริยานั่งเซ็ง จับท้องตัวเอง แย่แล้ว

ขณะที่เพชรซ้อมชกกระสอบทรายอยู่คนเดียว
เสียงพริมดังเข้ามา “การ์ดอย่าตกสิ”
เพชรหยุดมองพริม แล้วเปลี่ยนเป็นเตะ
“ดี แรงอีก งอเข่าอีกนิดนึง”
เพชรหยุด บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก “ไหนว่าไม่มีอะไรพูดกับคนอย่างฉันแล้วไง แล้วมาทำไม”
“ฉันรู้เรื่องที่นายซ่อมส้วมแล้ว” พริมอึกอักอ้ำอึ้ง “ฉัน...ขอโทษ”
“อะไรนะ”
พริมอายพูดเบาๆ “ขอโทษไง”
“ไม่ได้ยิน”
“ก็บอกว่าขอโทษ! ขอโทษ! หูตึงหรือไง” พริมเริ่มยัวะ
“เนี่ยเหรอคนมาขอโทษ เธอมันก็แค่คิดถึงแต่ตัวเองน่ะแหละ”
“คิดถึงแต่ตัวเองยังไง ฉันก็มาขอโทษเธออยู่เนี่ย”
“เหรอ... คนขอโทษ เขาพูดน้ำเสียงแบบนี้เหรออออ ก็แค่พูดเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ที่ว่าฉันไปเท่านั้นแหละ”
“นี่ฉันรู้สึกผิดจริงๆ นะจะให้ฉันทำไงอะ”
เพชรเข้าไปมองหน้าพริมในระยะใกล้ๆ “พิสูจน์มาสิ”
แล้วเพชรเดินขึงขังทำเป็นโมโหออกมา แต่พอหันหลังให้พริมปุ๊บ เพชรก็แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

ทิ้งให้พริมยืนรู้สึกผิดอยู่อย่างนั้นเพียงลำพัง โดยไม่รู้ว่าเพชรหายโกรธเป็นชาติล้าวว

อ่านต่อหน้า 3

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 13 (ต่อ)

ทางฝ่ายเมฆดำเปิดประตูให้ยอดสร้อยเข้ามาในออฟฟิศท่าทีปกติทุกอย่าง

“เชิญจ้ะ”
ยอดสร้อยเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง เมฆดำตามเข้ามาปิดประตูลง ยอดสร้อยกอดแขนเมฆดำออเซาะ
“หายโกรธสร้อยแล้วใช่ไหมจ้ะ”
“นี่ ป๋ามีของขวัญให้สร้อยด้วยนะ”
“โธ่” ยอดสร้อยหัวเราะใหญ่ “ที่แท้ป๋าก็แกล้งโกรธเพราะจะเซอร์ไพรส์สร้อยใช่ไหมล่ะ”
“สร้อยหันไปก่อนสิ”
ยอดสร้อยรีบหันไปอีกทาง
“สร้อยไม่ได้อยากได้ของอะไรหรอก อยากให้ป๋าทำตามสัญญา ที่ว่าจะแต่งงานกับสร้อยมากกว่า สร้อยหนีมาอยู่กับป๋า จนโดนชาวบ้านนินทาใหญ่แล้ว ป๋าแต่งงานกับสร้อยซะทีสิ”
“หลับตาแล้วหันมาสิ”
นางเอกลิเกเนื้อเต้นแอบพูดกับตัวเอง “แหวน แหวนแน่ๆ”
ยอดสร้อยรีบหลับตา แล้วยื่นมือซ้ายออกไป เมฆดำยื่นเป้าล่อให้ ยอดสร้อยลูบๆ คลำๆ ดู
“แหม ของขวัญใหญ่กว่าที่คิดเนอะ”
ยอดสร้อยคลำไปเรื่อยๆ ชักไม่แน่ใจ เลยลืมตามาดูของในมือ ยอดสร้อยดูอย่าง งงๆ
“ให้ฉันทำไมเหรอ”
“ก็จะได้เจ็บน้อยหน่อยไง”
พอยอดสร้อยเงยหน้ามาดู เห็นเมฆดำในชุดนักมวย ตั้งท่าจะเตะยอดสร้อย
เท่านั้น ยอดสร้อยก็กรี๊ดลั่นค่าย “แอร๊ย...”

ยอดสร้อยวิ่งหนีออกมาพร้อมเป้าล่อในมือ แหกปากร้องกรี๊ดๆ มาตลอดทาง เมฆดำวิ่งมาตัดหน้า วาดลวดลายแม่ไม้มวยไทย แต่พอถึงท่าเตะ เมฆดำก็ยั้งขาไว้ หยุดที่หน้ายอดสร้อยถามว่า
“ยังอยากจะแต่งงานกับชั้นอยู่มั้ย”
ยอดสร้อยช็อก อึ้ง พูดไม่ออก เมฆดำรอยอดสร้อยตอบสักพักก็เมื่อย เลยเอาขาลง
“โว้ย ตอบเซ่!!!
เมฆดำเตะอัดกระสอบทรายรัวๆ
“ตอบ! ตอบ! ตอบ! ตอบ! ตอบ!”
ยอดสร้อยเรียกสติกลับมาได้รีบตอบรัวๆ
“ไม่ล่ะจ้ะๆๆๆๆ”
“ไอ้เรื่องแต่งงานน่ะ ฉันไม่เคยคิดให้รกสมองเลย ที่พูดไป ก็เพื่อให้แกยอมทำงานให้เท่านั้นแหละ”
เมฆดำเตะอัดกระสอบข่มขวัญอีก 2 ที
“ป๋าไม่ได้คิดจะแต่งงานกับฉันเลยเหรอ”
“เออดิโว้ย ใครๆ เขาก็รู้”
เมฆดำเตะอัดกระสอบรัวๆๆๆ ยอดสร้อยหันมองนักมวยที่มามุงดู นักมวยทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน
“ตอนนี้ฉันมีอาวุธลับใหม่ มาจัดการไอ้เด็กนั่นได้ แกหมดประโยชน์แล้ว แต่ที่ฉันยอมให้แกอยู่ต่อก็เพราะสงสาร ได้ยินชัดไหม ถ้ายังไม่พอใจ ก็เก็บของออกไปได้เลย”
ยอดสร้อยอิดออดเล้าหรือ “แต่...”
“โว้ย รำคาญ...”
เมฆดำตะเบ็งเสียง พร้อมวิ่งไล่จะเตะยอดสร้อยไม่ลดละ ยอดสร้อยตะลีตะลานวิ่งหนีตาย

“แอร๊ยย...”

เพชรเดินเข้ามา เตรียมตัวมาซ้อมมวยคนเดียว แต่เจอพริมมายืนรออยู่พริมยิ้มให้ แต่เพชรทำเป็นไม่สนใจ แล้วตั้งท่าเริ่มซ้อม เพชรชกลมไป 2 ที แล้วหยุด

“อ้าว หยุดทำไมอ่ะ”
“เหนื่อย”
“แค่นี้เหนื่อย”
เพชรหันมามองหน้าพริม
“รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างไหม อ๋อ ไม่เคยอยู่แล้วล่ะ คนอย่างเธอน่ะ”
พริมข่มอารมณ์โกรธเพชรไว้ พยายามพูดดีๆกับเพชร
“อากาศมันร้อนอะเน้อ เลยเหนื่อยกว่าปกติ กินน้ำหน่อยไหม”
เพชรนั่งเก๊ก พริมหยิบน้ำเปล่ามาเทให้เอาใจ
“ไม่เย็นเหรอ” เพชรถาม
“ก็...”
“ลืมไปเนอะ เธอไม่ได้เป็นคนกินหนิ เธอจะแคร์ทำไม”
พริมทำหน้าเซ็ง แล้ววิ่งออกไป

ถัดมา พริมในสภาพเหนื่อยหอบยื่นน้ำเย็นให้เพชร เพชรยิ้มดูดน้ำเย็น พริมเห็นเพชรยิ้มก็ยิ้มตาม เพชรเลยรีบหุบยิ้ม
เพชรซ้อมชกลมไปเรื่อยๆ แล้วเกิดอาการเคล็ดที่ไหล่ พริมยังนิ่งอยู่ เพชรเลยเล่นใหญ่ขึ้น ทำเป็นว่าปวดหนัก พริมลังเล แต่ก็กัดฟันเข้ามาช่วยนวดให้ เพชรแอบยิ้มขำ
เพชรลงมานั่งพัก พริมก็พัดให้ แล้วฝืนยิ้มให้เพชร เพชรกวน ชูจั๊กกะแร้ให้พริมพัด พริมก็อุดจมูก จำใจพัดให้
เพชรจะผูกผ้าพันมือใหม่ พริมเข้ามาช่วยพัน เพชรทำท่าว่าพริมรัดแน่นเกินไป ทำให้เจ็บ พริมขอโทษขอโพย
พริมตั้งใจพันผ้าให้เพชร อีกฝ่ายมองแล้วลอบยิ้มเขินๆ
เวลาผ่านไป ทั้งคู่ซ้อมเสร็จ พริมกุลีกุจอมาช่วยเพชรเก็บของ
“มา ฉันช่วย”
เพชรแกล้งโยนทุกอย่างให้พริมทั้งขวดน้ำ รองเท้า ผ้าเช็ดตัว พริมอดทนเดินตามเพชรไป
“ถ้าทนไม่ไหว ก็ไม่ต้องทนก็ได้นะ”
“หมายความว่าไง”
“แน่ะๆ เนียนนะ”
พริมงง “อะไรของเธอ”
“เธอนี่ชอบเอาชนะจริงๆเลย ที่ยอมทำตามใจฉัน ก็เพื่อให้ฉันยอมรับว่าเธอรู้สึกผิดจริงๆ ใช่ไหมล่ะ”
“ก็ฉันรู้สึกผิดจริงๆ อะ”
“จุ๊ๆๆๆๆ เลิกแสดงได้แล้ว”
“ไม่ได้แสดง”
เพชรไม่เชื่อ “ชู่ จุ๊ๆๆๆ”
พริมชักยัวะ “เพชร”
“นี่ ทำแค่เนี้ย ใครๆ ก็ทำได้ ถ้าอยากให้ฉันยอมรับจริงๆ เธอต้องจริงใจมากกว่านี้”
“นี่ยังไม่พออีกเหรอ!”
เพชรส่ายหน้า ทำมือเป็นกำปั้นทุบที่อกปึ๊กๆ
“จริงใจน่ะ เข้าใจไหม”
เพชรหยิบของคืนมาจากพริม
“ไม่งั้นก็ยอมรับมาเถอะว่าเธอไม่จริงใจ”

เพชรเดินออกไปเลย พริมอยากจะแก้ตัวทำดีกับเพชร แต่พูดไม่ออก สุดท้ายคิดอะไรบางอย่างได้

อ่านต่อหน้า 4

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 13 (ต่อ)

ที่คิดและลงมือทำแล้วคือ พริมแอบปีนเข้ามาในห้องเก็บชุดลิเกในบ้านลิเกอย่างทุลักทุเล

“อยากให้ฉันแสดงความจริงใจใช่ไหม ได้...”
จากนั้นก็เลือกดูชุด พริมหยิบมาชุดนึง ทาบกับตัวดูในกระจก
“ใส่ชุดลิเกไปง้อขนาดนี้ ถ้ายังไม่หายโกรธ ก็ไม่รู้จะทำไงละ”
พริมส่องกระจกดูอีกที “ใส่ชุดนี้จะเวิร์คไหมเนี่ย”
ยินเสียงจริยาอ้วกดังเข้ามา “แหวะ”
“แหม ไม่สวยก็พูดกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องอ้วกใส่หรอก” พริมคิดได้ “เฮ้ย ใครอะ”
พริมย่องเข้ามาดู เห็นจริยากอดกระโถนอ้วกอยู่ในโถงชั้นล่างของบ้าน
“พี่จริยา! เป็นอะไรหรือเปล่า”
พริมลูบหลังจริยาลูบลง
“อย่าๆ อย่าลูบลง ลูบขึ้นๆ จะอ้วกๆ”
“ห๊ะ? อยากอ้วกเหรอ? จะบ้าเหรอ ดูซิ นี่ออกมาหมดตัวแล้วเนี่ย”
“นั่นแหละดี...จะได้ผอมๆ”
“ถ้าอยากผอมใช้วิธีอื่นก็ได้ สูตรลดน้ำหนักมีตั้งเยอะ ที่ค่ายมีสูตรนึงไว้ใช้กับนักมวยเวลารีดน้ำหนัก ได้ผลทันตา ไม่ต้องอ้วกแบบนี้”
จริยาตื่นเต้น “จริงเหรอ! สูตรไรอ่ะ บอกหน่อยดิ”
“ความลับจ้ะ”
จริยาจับชุดลิเกที่พริมถือ
“โธ่ สงสารฉันเถอะ ฉันแค่อยากจะมีโอกาสได้ใส่ชุดนางเอกพวกนี้บ้าง สักครั้งในชีวิตก็ยังดี” จริยาคิดได้ “แล้วนี่ชุดลิเกใคร ทำไมคุ้นๆ”
“อ๋อ ของที่นี่แหละ”
“เอามาได้ไง”
“ก็เข้ามาหยิบ”
“แล้วเข้ามาได้ไง”
“ก็ปีนเข้ามา”
จริยานิ่งไปสักพัก มองหน้าพริม ทั้งสองอยู่ในความเงียบ แล้วจริยาก็ตะโกนออกมาดังลั่นบ้าน
“ขโมย”
พริมตะปบปิดปากจริยาไว้
“ฉันไม่ได้จะขโมยนะ แค่ขอยืมใส่แป้บนึง”
“จะใส่ทำไม อย่าบอกนะ ว่าติดใจอยากเป็นนางเอกลิเก ไม่ได้นะ”
“เปล่า ฉันทำเพชรโกรธน่ะ เลยจะยืมไปใส่ง้อเพชรเขา”
“แค่ใส่ชุดลิเกเนี่ยนะ”
“ก็ถ้าเพชรเห็นว่าฉันยอมทำเรื่องที่ฉันอายที่สุด เขาจะได้รู้ไง ว่าฉันอยากขอโทษเขาจากใจจริงๆ”
“อืม ถ้ามีใครมาร้องลิเกง้อฉันละก็ ฉันก็คงหายงอนอะ”
“เฮ่ย แค่ใส่เฉยๆ ไม่ได้จะร้องลิเก ฉันร้องเป็นที่ไหนล่ะ”
“เสียของจริงๆ เราสองคนน่าจะมารวมกันแล้วหารสองเนอะ เอาหุ่นเธอมา เอาเสียงฉันไป”
จริยาหยุดกึก ได้ไอเดีย
“อยากร้องลิเกเป็นไหม ฉันฝึกให้”
พริมมองจริยางงๆ
“แลกกับสูตรรีดน้ำหนักของนักมวย ว่าไง ดีลไม่ดีล”

พริมมองจริยาอย่างลังเล

ฝ่ายเพชรมานั่งอ่านการ์ตูนอยู่ใต้ต้นไม้มุมหย่อนใจของค่ายมวยสบายใจเฉิบ

“แอบอู้แบบนี้ เดี๋ยวพริมก็มาดุหรอก”
“กล้าดุเหรอ อะไรๆ มันเปลี่ยนไปแล้วเพื่อน ลองดุมาดิ จะตอกกลับให้จ๋อยเลย”
“หายโกรธพริมเขาได้แล้วน่า”
“เดี๋ยวก่อน ขออยู่ในสถานะนี้ต่ออีกหน่อยดิ นานๆ ที จะมีโอกาสอยู่เหนือยัยโหดนั่นได้”
“นี่แกแกล้งโกรธพริมเหรอ”
“ก็...ไม่ได้แกล้ง แค่โกรธน้อยลงแล้ว แต่ยังไม่อยากให้อภัย”
“พริมเขาก็ขอโทษแกทุกวิธีแล้วนะ”
“ยังดีไม่พอ”
“แบบไหนถึงจะพอ”
เสียงขลุ่ยดังมา เพชร บุญหลงหันไปมองทางที่มาของเสียง
แฉะเป่าขลุ่ยนำมา ลูกดอกตีกรับ จริยาตีฉิ่ง เดินนำมา พอแหวกแถวออกเผยให้เห็นพริมแต่งเป็นนางเอกลิเกชนิดจัดเต็ม
“อะไรของเขาเนี่ย แค่แต่งชุดลิเกมา แล้วจะให้ฉันยกโทษให้เหรอ”
พริมร้องลิเกเสียงสั่นๆ “สวัสดีจ้ะพี่น้อง”
เพชร บุญหลง พากันอึ้ง
พริมร้องต่อ “มาฟังฉันร้องกันให้ดี ลิเกน้องใหม่คนนี้ จะมีอะไรให้ชม”
พริมข่มความอายเต็มที่ นักมวยคนอื่นๆ ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันตรึม

ทางด้านยอดสร้อยนั่งซักผ้าอยู่ เม่น เก้ง ไข่เค็ม เดินมา เม่นโยนผ้าลงกะละมังที่ยอดสร้อยซักอยู่
“ฝากด้วยนะป้า”
ยอดสร้อยแค้น “ใครป้า”
เม่นตกใจจริงคิดไม่ถึง “อุ้ย ลืมไปว่าพี่สร้อยมารับตำแหน่งคนซักผ้าแทนป้าคนก่อนแล้ว”
“ขอโทษนะพี่...แต่ฝากอีกตะกร้าละกันนะ”
เก้งเทผ้าในตะกร้าที่เยอะมากลงในกะละมัง หล่นลงหัวยอดสร้อยบ้าง
“โอ้ย คอยดูเถอะ ฉันกลับไปเป็นเหมือนเดิมเมื่อไรนะ จะใส่วันละ 16 ชุด ให้พวกแกซักทั้งวันเลย”
เก้งหมั่นไส้ “ตื่นได้แล้ว คนไหนที่ป๋าเขี่ยทิ้งแล้ว ไม่เอากลับไปใช้ใหม่หรอก”
“ทิ้งเทิ้งอะไร ฉันเป็นถึงนางเอกลิเกอันดับหนึ่งเลยนะ”
“นี่นะ นางเอกลิเก... แล้วมาทำอะไรอยู่ตรงนี้อ่ะ” เม่นเยาะ
ยอดสร้อยอัดอั้น รับตัวเองไม่ได้ ลุกจะเดินออกไป
“ฉันจะไปคุยกับป๋า ฉันทิ้งชีวิตลิเกก็เพื่อมาเป็นเมีย ไม่ใช่คนใช้”
“คุยตอนนี้ไม่ได้หรอก ตอนนี้ป๋าไม่ว่าง” เก้งบอก
“ไม่เป็นไร ฉันค่อยไปคุยหลังป๋าดูซ้อมเสร็จก็ได้”
“ป๋าไม่ได้ดูซ้อมหรอก แต่ดูเมียใหม่อยู่ในห้องโน่น”
เม่น กะ เก้งเดินออกไป ยอดสร้อยช็อกอ้าปากค้าง อยู่ท่าเดิม ยอดสร้อยกำลังจะกรี๊ด
ไข่เค็มร้อง “ชู่!”
ยอดสร้อยชะงัก
“เอาเวลากรี๊ดมาซักผ้าดีกว่านะครับ มีประโยชน์กว่า”
ยอดสร้อยร้องกรี๊ดด “แอร๊ย... ไอ้ไข่เค็ม”
ยอดสร้อยง้างมือจะตีไข่เค็ม ไข่เค็มวิ่งหนี ยอดสร้อยนั่งเศร้าต่อไป

ที่ค่ายมวยศ.อรชร พริมยืนร้องลิเก มีวงลิเกเล่นดนตรีประกอบข้างๆ นักมวยในค่ายมามุงดู
“อันตัวฉันนี้มีความในใจ กล่าวออกไปถึงชายงามนามหนึ่ง
เรื่องจริงจังฟังแล้วไม่ซึ้ง เพราะฉันดันทะลึ่งก่อเรื่องร้อนใจ
อยากจะกล่าวขอโทษถึงพ่อเพชรพ่อจะเด็ดสุดเผ็ดสุดหล่อ”
พริมร้องไปก็แอบรู้สึกขัดแย้งในใจไป
“ขอโทษที่ฉันไปตัดพ้อ พ่อรูปหล่อใจงามกล้ามใหญ่”
เพชรเดินมาร้องเพลงโต้กลับ
“โอ้โห ฟังซิเสียงใครนั่น ใช่ที่ฉันคิดหรือเปล่า
ใช่แม่พริมแม่พริ้มเพรา โอ้ ใช่แล้วเล่าตัวจริงไม่ใช่ใคร”
เพชรรำเข้าไปหาพริม พยักหน้าให้พริมรำด้วย พริมก็ยกมือมารำแบบเก้งก้าง
“ฉันขอโทษจากใจจริงๆนะ”
เพชรกลับว่า “อ๋อเหรอคะ ต๊ายตายดีใจเป็นบ้า”
“ให้โอกาสฉันนั้นได้ขอขมา” พริมร้องบอก
“มามะมา กราบตรงอุรา กลางหว่างใจ”
เพชรตบที่อก เป็นเชิงบอกให้พริมไปกราบที่อก ดนตรีบรรเลงโหมตอนจบ เตร้ง เตรง เตร่ง เตร้ง เตรงๆๆๆ
“อะไรนะ”
“ไหนๆ ก็มาเป็นนางเอกลิเกแล้ว ก็ขอโทษให้สมตามท้องเรื่องหน่อยสิ”
เพชรรำเข้าไปหาพริม พริมเดินหนี ดนตรีบรรเลงขึ้น เพชรเข้ามาต้อนพริม
“เพชร ไม่เอา”
“แหม อะไรกัน ถ้าจริงใจก็ต้องทำได้สิ อ้อ ฉันลืมไป เธอดีเด่นกว่าใคร ไม่มาทำเรื่องแบบนี้หรอก”
พริมเริ่มลังเล เอื้อยเดินเข้ามา พร้อมตีระฆัง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย พวกลิเกสำเริงมาทำอะไรที่นี่”
พริมรีบวิ่งไปหลบ
“ก็ไม่รู้สินะ สงสัยต้องถาม...”
เพชรหันมา ไม่เจอพริมแล้ว “อ้าว”
“ออกไปให้หมดเลยนะ”
“เดี๋ยวสิจ้ะเอื้อยจ๋า รอก่อนจะถึงไฮไลท์แล้ว” แฉะอ้อน
“เหรอ.... ไฮไลท์ใช่ไหม ได้” เอื้อยตะโกน “ใครไล่พวกลิเกไปได้ ฉันจะเบิ้ลมื้อเย็นให้”
พวกนักมวยวิ่งกรูไปหาแฉะ ลูกดอก ทั้งสองวิ่งขนเครื่องดนตรีหนี
แฉะ กะ ลูกดอกตาเหลือก “เย้ย...”
พวกนักมวยวิ่งไล่จับแฉะ และ ลูกดอกเป็นที่อลหม่าน
“แล้วตะกี้ เห็นมีนางเอกมายืนกางแขนด้วยนี่ หายไปไหนแล้ว”

ขณะที่ทุกคนวิ่งวุ่น เพชรก็เห็นพริมซ่อนตัวอยู่ เพชร เดินเข้าไปที่ๆ พริมซ่อนตัวอยู่
“เนี่ยเหรอ มาขอโทษ ทำพวกพี่แฉะลำบากไปอีก สมใจเธอหรือยังล่ะ”
เพชรเดินออกไป พริมตัดสินใจวิ่งตามเพชรออกไป
พริมเดินมาตรงกลางลาน ตะโกนลั่น “ทุกคน หยุด!”
ทุกคนหยุดนิ่งกับที่ แฉะ ลูกดอก โหนต้นไม้อยู่ เตรียมปีนหนี ก็ห้อยหยุดกับที่
“ที่ฉันยกวงลิเกมาที่นี่ ก็เพื่อจะขอโทษเพชร แต่ถ้ายังไม่พอ แล้วเพชรต้องการมากกว่านั้น ฉันก็จะทำ”
พริมเดินไปใกล้เพชรกำลังจะพนมมือ บุญหลงอยากจะช่วยพริม รีบเดินเข้ามาแทรก ทำเป็นปรบมือ
“เอ้า ลิเกจบแล้ว พอ ทุกคนแยกย้าย”
“ยัง นางเอกยังไม่ได้ขอโทษพระเอกเลย” เพชรว่า
พริมโผเข้าไปกราบเพชรที่อก
“ขอโทษ... จริงใจพอไหม”
เหล่านักมวยโห่ฮา ปรบมือชอบใจ ถ่ายรูปกันใหญ่ เพชรมองพริมอย่างอึ้งที่พริมทำ นิ่งไปสักพัก
“โหย ทำจริงด้วย เอาเป็นว่า นี่ถือเป็นการซ้อมละกันนะ ไหน ทำทั้งหมดนี้อีกซะ 2 รอบซิ”
“นี่” พริมคุมแค้น
เพชรยืนยิ้ม พริมมองทุกคน แล้ววิ่งออกไป บุญหลงมองหน้าเพชรอย่างโกรธขึ้ง เพราะสงสารพริม
“ห้ามทุกคนบอกเรื่องนี้กับน้าอรชรเด็ดขาด เข้าใจไหม”

บุญหลงกำชับนักมวยทุกคน แล้วมองหน้าเพชรอย่างเคืองขุ่น ทำกับพริมมากเกินไปแล้ว

อ่านต่อตอนที่ 14
กำลังโหลดความคิดเห็น