ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 20
ตึกสูงเสียดฟ้าต้องแสงพระอาทิตย์ยามเช้า บนท้องถนนรถราหนาแน่น ผู้คนเดินขวักไขว่รีบเร่ง ประสาชีวิตคนกรุง
ที่สตูดิโอแห่งนี้ เพชรกับแก้วแหวนอยู่ในชุดแฟชั่นนำสมัย ออกสไตล์เท่ห์ สองคนโพสท่าใกล้ชิดสนิทแนบ โดยมีคาร่าที่รวบตึงมันทุกตำแหน่งทั้งสไตลิสต์ และคอลัมนิสต์ของนิตยสารชื่อดังเล่มหนึ่ง กำลังจัดท่าให้สองคน แล้วคอยบอกให้ช่างภาพถ่าย นกฟ้า มองดูอย่างเป็นปลื้มชื่นชม
คาร่ากำกับ “น้องเพชรทำตาปรือๆ อีกนิดนึงค่ะ โอเคเย้ายวนมากค่ะ คุณแก้วแหวนเชิดคางขึ้นอีกนิดค่ะ ตาจิก โน้มตัวลงอีกนิดค่ะ ใกล้ๆ กันเลยค่ะ ใกล้อีกค่ะ ดีมาก สวยค่ะ ลองเปลี่ยนท่าดูนะคะ”
คาร่าเข้าไปจัดท่าให้เพชรกับแก้วแหวน ช่างภาพถ่ายไปเรื่อยๆ
พริม บุญหลง และไข่เค็มดูอยู่มุมหนึ่ง
“โห จะสัมภาษณ์ลงหนังสือต้องถ่ายรูปกันแบบนี้เลยเหรอเนี่ย” ไข่เค็มตื่นตา
“ไม่รู้ว่าจะขายเนื้อหาหรือขายอะไรกันแน่ ดูสิ! ทำไมต้องคุณแก้วแหวนต้องแหวกเสื้อเพชรด้วย” พริมบ่นบ้าหมั่นไส้เต็มกลืน
“พี่พริมไม่ชอบใช่มั้ยจ๊ะ งั้นเดี๋ยวหนูจัดการให้”
ไข่เค็มยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้ววิ่งออกไปเลย
บุญหลงตกใจ “เฮ้ย อย่าไปทำยุ่งอีกนะ”
ขณะที่เพชร กับ แก้วแหวนโพสท่าถ่ายรูปคู่กันอยู่ ไข่เค็มซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง ค่อยๆ ย่อง เข้าไปข้างๆ ฉาก พอสบโอกาสไข่เค็มโยนตุ๊กแกเข้าไปในฉาก วงแตกกระเจิง
คาร่าร้องกรี๊ดๆๆ วิ่งหนี ช่างภาพเองก็สาวแตกกรี๊ดๆๆ วิ่งไปอีกทาง นกฟ้ากรี๊ดไป วิ่งหนีไป ส่วนแก้วแหวนกรี๊ดแล้วกระโดดกอดเพชร เพชรโอบไว้ เพชรร้องเฮ้ย เอาตีนเขี่ยตุ๊กแกแล้วเตะไปไกลๆ
“ใครเล่นอะไรเนี่ย”
ไข่เค็มหนีไปแล้ว พริม กับบุญหลงตกใจที่เห็นไข่เค็มทำอย่างนั้น
คาร่ากลับเข้ามาในฉาก เห็นท่าแก้วแหวนกอดเพชรแล้วปิ๊ง
“คุณแก้วแหวนคะ ค้างท่านั้นไว้เลยค่ะ สวยมากค่ะ เป็นการกอดที่จริงใจแล้วก็อบอุ่นมากค่ะ ไอ้เสือ! ไปไหนแล้ว กลับมาถ่ายสิ แหมสาวแตกเชียวนะ”
แก้วแหวนกอดเพชรในท่าเดิม โพสให้ถ่าย พริมเห็นยิ่งหึง
ไข่เค็มโผล่หน้าออกมาดูตรงมุมหนึ่ง พริมมองดุเอาเรื่อง ไข่เค็มยิ้มแห้งๆ หัวเราะแหะๆ
รักษ์มาเป็นเพื่อนขนุน เวลานี้ยืนอยู่หน้าห้องซ้อมค่ายเอฟมิวสิค
“มันจะดีเหรอพี่รักษ์ เจ๊แหม่มเค้าจะไม่โกรธเอาเหรอ”
“การเป็นนักร้อง คือสิ่งที่ขนุนรัก คือสิ่งที่ขนุนทำแล้วมีความสุข แต่ถ้าสิ่งที่เค้ากำลังให้ทำมันกลับทำให้ขนุนต้องทนอึดอัด ขนุนจะทำไปทำไม”
“ก็จริง...ขนุนจะลองพูดกับเค้าดู”
รักษ์ตบไหล่ให้กำลังใจขนุน
เจ๊แหม่มกับเชอรี่กำลังดูรูปสเกตช์ชุดที่ขนุนจะใส่ มีแต่ชุดแบ๊วๆ อีเจ๊เลือกแบบมาชุดหนึ่ง
“อันนี้ก็ครุคริดีนะ มีหูแมวด้วย”
“ใส่หางกระต่ายเข้าไปด้วยดีมั้ยค่ะ เพิ่มความมุมิ”
ขนุนเข้ามาพอดี “สวัสดีค่ะเจ๊แหม่ม พี่เชอรี่”
“สวัสดีจ๊ะ มาดูนี่สิหนูคินนี่ หนูอยากเปิดตัวสู่สาธารณชนด้วยชุดไหนจ้ะ เจ๊ให้เค้าออกแบบมาหลายชุดเลย”
“เจ๊แหม่มคะ หนูมีเรื่องอยากคุยอ่ะค่ะ”
“ว่ามาเลยจ้ะหนูคินนี่ พี่รับฟังทุกเรื่องอยู่แล้ว” เจ๊จ๊ะจ๋า ยังไม่รู้ชะตา
“อย่างแรกเลย หนูไม่อยากชื่อคินนี่อะค่ะ หนูว่ามันไม่ใช่ตัวหนู หนูขอใช้ชื่อว่าขนุนเหมือนเดิมได้มั้ยคะ”
“เอิ่ม ไม่ชอบชื่อคินนี่ก็ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวเจ๊จะตั้งให้ใหม่ แต่จะใช้ชื่อขนุนเนี่ย ไม่ได้ เพราะมันเชย”
“ค่ะ แล้วก็เรื่องสไตล์การร้องเพลง การเต้น การแต่งตัว หนูอยากได้ที่มันแข็งแรงๆอะค่ะ เพราะที่ทำอยู่หนูรู้สึกฝืนๆ ทำไม่ถนัดเลยค่ะ”
“ไม่เห็นฝืนเลยนี่คะ พี่ดูอยู่ หนูก็ทำได้นี่คะ” เชอรี่ว่า
“งั้นหนูขอพูดตรงๆ เลยนะคะ หนูไม่ชอบที่เจ๊แหม่มกับพี่เชอรี่ทำให้หนูกลายเป็นนักร้องแนวแอ๊บแบ๊วน่ะค่ะ หนูรู้สึกขัดๆ ตลอดเวลาที่ต้องทำค่ะ หนูขอเปลี่ยนได้มั้ยคะ โดยเฉพาะ ไอ้ท่า” ขนุนทำท่าแก้มป่องเอานิ้วจิ้มแก้มแล้วเอียงหัวไปด้วย “อันนี้อ่ะค่ะ”
เจ๊แหม่มลมออกหู โกรธมาก
พริม กับ บุญหลง นั่งประกบไข่เค็มไม่ให้ไปโลดโผนป่วนกองถ่ายเขา
“ไข่เค็ม ห้ามไปไหนหรือทำอะไรนอกสายตาพี่อีกเป็นอันขาด เข้าใจมั้ย” บุญหลงบอกดีๆ
“เข้าใจคร้าบ”
“ถ้าทำอีก พี่จะเตะก้านคอ โอเคมั้ย”
“หา”
“ถ้าไม่โอเคก็อย่าทำ”
“คร้าบ”
เพชร กะ แก้วแหวนนั่งคู่กัน คาร่านั่งสัมภาษณ์โดยใช้มือถืออัดเสียงสนทนา
“ในฐานะที่คุณแก้วแหวนเป็นผู้ดูแลการแข่งขันไทยไฝว้ รู้สึกยังไงคะ ที่แชมป์ปีนี้เป็นทั้งพระเอกลิเกและเป็นทั้งนักมวย”
“รู้สึกเซอไพรส์มากเลยค่ะ ตั้งแต่วันแรกที่คุณเพชรแท้มาสมัคร ดิชั้นก็เห็นแล้วว่าผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์บางอย่างฉายออกมา แล้วพอรู้ว่าเค้าเป็นพระเอกลิเกดิชั้นก็ต้องอุทานเลยค่ะว่า โอ้ว มิน่าล่ะ”
“แปลว่าคุณแก้วแหวนหลงเสน่ห์คุณเพชรแท้ตั้งแต่แรกเห็นเลยใช่มั้ยคะ” คาร่าซัก
แก้วแหวนขำ “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ก็ดูตาเค้าสิคะ”
พลางแก้วแหวนมองเพชรด้วยตาหวานซึ้ง เพชรมองเขินๆ
“เวลาผมอยู่บนเวทีลิเก ตาผมก็หวานครับ แต่เวลาผมอยู่บนเวทีมวย ตาผมก็ดุอย่างเสือเลย”
คาร่ากรี๊ด “ว้าย อยากเป็นเหยื่อให้เสือขย้ำจัง”
“ลองดูมั้ยครับ โฮก” เพชรยกมือทำท่าเสือหยอกคาร่า
คาร่าสะดีดสะดิ้งไปมา พริมเห็นแล้วหมั่นไส้นัก
“ฮึ จะอ้วก”
“แล้วคุณเพชรแท้ล่ะคะ รู้สึกยังไงบ้างที่ได้เป็นแชมป์ไทยไฝว้
เพชรเหมือนฝันเลยครับ อย่าที่เคยบอกไปหลายๆสื่อแล้วว่าผมเกิดมาเป็นลิเก แล้วพอวันนึงได้กลายมาเป็นแชมป์มวย มันก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากเลยนะครับ แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความบังเอิญนะครับ แต่มาจากความพยายามแล้วก็การฝึกฝน
“แปลว่ามีครูดี”
“ใช่ครับ ครูผมนั่งอยู่ตรงนั้นครับ”
เพชรผายมือมาที่พริมที่นั่งดูอยู่ พริมเลิ่กลั่ก ทำหน้าไม่ถูก
“อุ๊ยตาย มีครูมวยเป็นผู้หญิงแล้วยังสาวอยู่ด้วย เดี๋ยวต้องขอสัมภาษณ์ด้วยนะคะ” คาร่ากรี๊ดกร๊าด
แก้วแหวนไม่พอใจ รีบขัด
“แต่เท่าที่ดูจากฝีมือของเพชรแล้วเนี่ย คิดว่าส่วนหนึ่งก็มาจากพรสวรค์ด้วยนะคะ เพราะจะเห็นว่าคุณเพชรแท้มีลีลาพลิ้วไหวไม่เหมือนนักมวยคนไหนจริงๆ ถ้าไม่มีคุณเพชรแท้ การแข่งไทยไฟท์ปีนี้ก็คงกร่อยมากเลยล่ะค่ะ ต้องขอบคุณคุณเพชรแท้ด้วยนะคะ”
“ผมก็ต้องขอบคุณคุณแก้วแหวนครับ ที่ให้โอกาสผมเข้าแข่งขัน ถ้าไม่มีคุณผมก็ไม่มีวันนี้เหมือนกัน คุณเป็นคนสำคัญของผมนะครับ”
พริมได้ยินก็เจ็บจี๊ด นึกถึงคำหวานที่เพชรเคยบอก
ตอนนั้นเพชรจับมือพริมขึ้นมา
“พริม ที่ผ่านมา ชั้นรู้ว่าเธอหวังดีกับชั้นมากๆ ที่วันนี้มี เพชรแท้ ศ.อรชรได้ ก็เพราะเธอ เธอเป็นคนสำคัญของชั้นนะพริม”
ยิ่งนึกพริมยิ่งเคืองเพชร
ส่วนขนุนเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าด้วยความโมโหพลางบ่น
“อย่างที่พี่รักษ์ว่าน่ะถูกแล้ว ถ้าได้เป็นนักร้อง แต่ดันกลายเป็นตัวอะไรไม่รู้ที่เราไม่อยากเป็น ก็สู้ไม่เป็นมันซะจะดีกว่า”
“อย่าเพิ่งใจร้อนสิขนุน ลองเข้าไปคุยกับเค้าอีกที เผื่อเค้าจะยอมปรับให้”
“ไม่คุยแล้ว เค้าด่าว่าหนูไม่รู้เรื่องการตลาด เค้าบอกว่าไอ้คิกขุมุมิครุคริมันขายได้ ก็เลยต้องให้ขนุนเป็นน้องคินนี่ ปุ๊บปี้แก้มป่อง เค้าทำอย่างกับขนุนเป็นสิ่งของที่จะปั้นจะแต่งยังไงก็ได้ตามใจ แต่ไม่คิดถึงความรู้สึกขนุนเลย”
“แล้วขนุนจะยอมทิ้งโอกาสที่จะได้เป็นนักร้องไปเลยเหรอ มันไม่ได้มีกันง่ายๆ นะ”
ขนุนอึ้งไป มองรักษ์อย่างจริงจัง
“ถ้าอยากเป็นนักร้อง อยู่ที่ไหนก็เป็นได้ ไม่เห็นจะต้องเป็นกับค่ายนี้เลย”
“แล้วขนุนจะไปเป็นนักร้องที่ไหน”
“ที่ที่ขนุนสบายใจไง กลับบ้านเรากันเถอะพี่รักษ์”
รักษ์ฟังแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
การสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลง นกฟ้าเดินนำ เพชร พริม บุญหลง และไข่เค็มออกมาจากสตูดิโอ มีรถตู้จอดรอข้างหน้า
“คุณนกฟ้าครับ เดี๋ยวเราไปไหนกันต่อครับ”
“ไปรับประทานอาหารกับเสี่ยค่ะ เสี่ยจะคุยเรื่องที่จะชกกับนักชกจากฟิลิปปินส์ เชิญขึ้นรถเลยค่ะ”
รถยนต์คันงามของแก้วแหวนขับมาจอดเทียบหน้ารถตู้ แก้วแหวนเปิดกระจก
“เพชรคะ ไปกับแก้วแหวนดีกว่าค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปรถตู้กับเพื่อนๆ ก็ได้”
“แก้วแหวนมีธุระจะคุยกับเพชรระหว่างทางด้วยน่ะค่ะ”
เพชรลังเล ลำบากใจมาก มองหน้าพริมสีหน้าอึดอัด พริมทำเป็นไม่สน เดินขึ้นรถตู้ไป บุญหลงตามไป
“คุณแก้วแหวน งั้นหนูไปด้วยนะจ๊ะ”
ไข่เค็มเปิดประตูขึ้นไปนั่งเจ๋อข้างแก้วแหวน แก้วแหวนเซ็งไม่รู้จะทำไง จะไล่เด็กผีลงไปก็กลัวเสียภาพ นกฟ้ารีบไปเปิดประตูมาช่วย
“น้องไข่เค็มคะ ผู้ใหญ่เค้าจะคุยธุระกันนะคะลูก หนูไปรถตู้นะคะ”
“หนูจะนั่งอยู่เงียบๆไม่รบกวนเลยจ้ะ”
นกฟ้าขู่เบาๆ “จะลงมั้ยอีเด็กผี ไม่งั้นชั้นจะหยิกแกให้เนื้อหลุดเลยนะ”
ไข่เค็มทำหน้าบึ้งตึงลงมา
“คุณเพชรคะ เชิญเลยค่ะ” นกฟ้าเรียก
เพชรลำบากใจ แต่จำใจยอมขึ้นรถแก้วแหวน
“พี่เพชรระวังพี่นกฟ้าหยิกเนื้อหลุดนะจ๊ะ”
ไข่เค็มวิ่งจู๊ดไปขึ้นรถตู้
“พูดอะไรก็ไม่รู้ พี่นกฟ้าออกจะใจดี๊ใจดี” นกฟ้ายิ้มหวาน
แก้วแหวนยิ้มให้เพชรแล้วออกรถไป นกฟ้ารีบไปขึ้นรถตู้
พริมมองจากรถตู้ ตามรถแก้วแหวนไปหน้าตึง ดูออกว่าหึงชัดๆ
ถัดมาไม่นาน แก้วแหวนเดินนำมาตามทางเดินหน้าห้องประชุมบริษัท เพชรเดินเคียงกันมา นกฟ้า พริม บุญหลง และไข่เค็มตามหลัง
“เชิญค่ะ คุณเพชร” แก้วแหวนกับเพชรเข้าไปในห้อง
คนอื่นจะตาม นกฟ้าเสียงเหี้ยม “หยุด เสี่ยไม่ได้เชิญพวกเธอ น่าจะมีข้าวกล่องเหลือๆ อยู่ในครัวไปหากินกันเอาเอง”
“หลง ไข่เค็ม เราไปหาส้มตำแซ่บๆกินกันดีกว่าเนอะ ข้าวของคนพวกนี้กินไปคงเสียดท้อง”
พริม บุญหลง ไข่เค็ม เดินออกไป นกฟ้าเจ็บใจ ไข่เค็มหันมากัด
“พี่นกฟ้า กินเยอะระวังอ้วนบินไม่ขึ้นนะจ๊ะ”
นกฟ้ากรี๊ด “แอร๊ย อีเด็กเวร”
โต๊ะกลางห้องประชุม มีอาหารคาวหวานวางอยู่เต็ม จัดแต่งอย่างสวยงาม น่าทาน เพชร และ แก้วแหวนเดินเข้ามานั่ง เสี่ยตุ๋ย นั่งรออยู่ที่หัวโต๊ะ นกฟ้าเข้ามาตักข้าวให้
เพชรเหลียวหาอย่างแปลกใจ “อ้าว เพื่อนๆ ผมล่ะครับ”
“อ๋อ คุณพริมบอกว่าอยากกินส้มตำน่ะค่ะ เลยไปหากินกันเองข้างนอกแล้ว นกฟ้าชวนแล้วนะคะ แต่เธอก็ยืนยันจะกินส้มตำให้ได้เลย”
เสี่ยตุ๋ยเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไร เอาไว้หลังชกชนะปากวยแล้วค่อยมางานเลี้ยงฉลองใหญ่เลยทีเดียว”
เพชรชะงัก สะดุดหู “เมื่อกี้เสี่ยว่า ชกชนะใครนะครับ”
“แมนนะ ปากวย แชมป์การแข่งขันฟิลิปปินส์ไฝว้ ที่คุณจะต้องชกพรุ่งนี้ไง” เสี่ยบอก
“อ้าว ผลการแข่งขันฟิลิปปินส์ไฝว้ออกแล้วเหรอคะคุณพ่อ”
เสี่ยตุ๋ยหยิบไอแพดที่วางอยู่บนโต๊ะ มาเปิดให้ลูกสาวดู
“เพิ่งชกชนะกันเมื่อเช้านี้เอง”
เสี่ยตุ๋ยหันไอแพดให้เพชรกับแก้วแหวนดู เป็นรูป ปากวย กำลังคำรามบนเวที หน้าตาดูโหดเหี้ยมมีหนวดเครารุงรัง เหมือนองคุลีมาร
เพชรกำลังดื่มน้ำถึงกับสำลัก พรวด
อ่านต่อหน้า 2
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 20 (ต่อ)
ที่วัดทุ่งไก่หลง ลูกดอก แฉะ แม้นมาศ ตาน้อย และเอี้ยง กำลังเล่นลิเกกันอยู่ในลานวัด
ลูกดอกเป็นพระเอก แม้นมาศเป็นนางเอก แฉะเป็นตัวโกง ตาน้อยรับบทเสด็จพ่อ เอี้ยงเป็นลูก ทุกคนไม่ได้แต่งลิเก แค่เล่นกันแก้เบื่อ เอาผ้าขาวม้าโพกหัว ใบไม้เสียบง่ายๆ ถือกิ่งไม้แทนดาบ
แฉะกำลังฉุดพรากแม้นมาศไปจากอกลูกดอก ลูกดอก กับ เอี้ยงห้ามไม่ให้เอาไป ตาน้อยบอกว่าเมียอย่างนั้นให้เอาไปเหอะ
ระหว่างที่ทุกคนเล่นลิเกคลายเครียดกันเสียงดังอยู่นั้น กล้าขี่จักรยานเข้ามา มีหลวงพ่อซ้อนหลัง
“พระเจ้าตามาแล้ว”
กล้าเบรกเอี๊ยด หลวงพ่อตกจากจักรยานแทบหน้าทิ่ม
“ไอ้กล้า ไอ้เวร จะขี่ดีๆ จอดดีๆ ไม่ได้หรือไง”
“ขอโทษจ้ะ ก็ชั้นตื่นเต้นอยากจะรีบมาบอกข่าวพวกพี่แฉะนี่จ๊ะ”
แฉะงง “ข่าวอะไรวะ ถึงต้องรีบซะหลวงพ่อจีวรปลิวขนาดนั้น”
“เมื่อกี้ไปตลาดมา เห็นข่าวว่าพี่เพชรจะชกกับนักชกจากฟิลิปปินส์พรุ่งนี้แล้ว ถ้าชกชนะ ได้ตังค์ตั้ง 2 ล้านแน่ะ”
ทุกคนยกเว้นหลวงพ่อและกล้าร้องลั่น “2 ล้าน”
ลูกดอกดี๊ด๊า “น้าแฉะ งั้นคณะลิเกของเราก็จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งใช่มั้ยจ๊ะ”
“ไอ้ลูกดอก เค้ายังไม่ทันชกเลย รู้ได้ไงจะชนะ” ตาน้อยเซ็ง
“ก็ตามท้องเรื่อง ยังไงพระเอกก็ต้องชนะอยู่แล้ว” ลูกดอกย้อน
“แต่นี่มันชีวิตจริงนี่จ๊ะ ส่วนมาก แพ้ทั้งนี่แหละ” เอี้ยงว่า
ทุกคนโมโห “ไอ้เอี้ยง!”
เด็กเอี้ยงตีปากตัวเอง “ขอโทษจ้ะ”
“งั้นเราทุกคนต้องมาร่วมเชียร์ไอ้เพชร มันจะได้ชนะ” แฉะหันมาทางหลวงพ่อ “เครื่องรางของขลัง หลวงพ่อมีใช่มั้ยจ๊ะ”
หลวงพ่อบอก “เพียบ”
“ชั้นจะบนกับหลวงพ่อ ถ้าเพชรชนะชั้นรำแก้ผ้าถวาย” แม้นมาศบอก
“อาตมาว่าอย่าเลย เดี๋ยวเพชรมันจะแพ้เอา”
“งั้นเต้นเชียร์หน้าจอทีวีก็ได้” แม้นมาศไม่ดูสังขาร แด๊นซ์ลืมโลกให้ดู
“แต่เราจะเชียร์ยังไง ที่วัดไม่มีทีวี” ตาน้อยว่า
ทุกคนเพิ่งนึกได้ มองหน้ากัน ทำตาปริบๆ
บุญหลงอยู่ในห้องพักกำลังอ่านจดหมายจากรักษ์อยู่ ไข่เค็มชะโงกหน้าอ่านด้วย พริมเข้ามาพอดี
“อ่านอะไรอยู่เหรอ”
“จดหมายพี่รักษ์ บอกว่าขอกลับบ้านไปกับขนุนก่อน”
“อ้าว แล้วเรื่องนักร้องล่ะ”
“ขนุนบอกว่าไม่ชอบที่ค่ายเพลงให้แอ๊บแบ๊ว ก็เลยลาออก”
“แปลกจัง 2 คนนี้ มาเร็ว ไปเร็ว นิสัยเข้ากันดีเนาะ” พริมมองหาทั่วห้อง “แล้วนี่เพชรอยู่ไหนล่ะ”
“เห็นยกกะละมังออกไปข้างนอกจ้ะ ไม่รู้ไปไหน”
“ชั้นไปหาเพชรก่อนนะ”
พริมเดินออกไป
เพชรกำลังซักผ้าพันมือผืนเก่าดั้งเดิมของเขา ในกาละมังเล็กๆ อย่างอารมณ์ดี พริมเข้ามาเห็น
“ทำไรอะ ซักกางเกงในเหรอ
“ไม่ใช่ซะหน่อย”
“แล้วทำไมต้องแอบมาซักตรงนี้ด้วย ขี้เลอะกางเกงในอ่ะดิ”
เพชรยกผ้าพันมือขึ้นให้ดู
“อ้าว ผ้าพันมือนี่” พริมลงนั่งข้างๆ “ทำไม่ต้องซักด้วย เก่าจะตายอยู่แล้ว เปลี่ยนผืนใหม่เถอะ”
“ผืนใหม่มันไม่ขลังเท่าผืนนี้หรอก”
“ขลังตรงไหน หลวงพ่อลงอาคมให้รึไง”
“ลืมไปแล้วรึไง”
เพชรมองพริมยิ้มกรุ้มกริ่ม
เพชรนึกถึงตอนที่อยู่ค่าย ศ.อรชร พริมเดินถือผ้าพันมือออกมา 2 ม้วน โยนให้ เพชรรับไว้เกือบทำหล่น
“อะไรจ๊ะ”
“ผ้าพันมือ ป้องกันไม่ให้มือบาดเจ็บ”
“เป็นห่วงชั้นด้วยเหรอเนี่ย”
“นักมวยทุกคนต้องพันก่อนใส่นวม”
“พันยังไง ชั้นทำไม่เป็น”
“พันๆ ไปเถอะน่ะ”
เพชรพันเองแต่พันมั่วๆ ไม่ถนัดและไม่เป็น พริมทนไม่ได้เลยแก้ออก
“ดู แล้วจำให้ดีๆ นะ ชั้นจะทำให้ดูแค่ครั้งเดียว”
พริมจับมือเพชรมาแล้วพันผ้าให้ดู เพชรมองรู้สึกดี๊ดี มองมือพริมที่บรรจงพันผ้าให้ตัวเอง เขาลอบมองหน้าพริมตาซึ้ง พริมพันผ้าและอธิบายให้ฟังทีละขั้น จนเริ่มรู้สึกตัวว่าเพชรมอง
“นี่ดูอยู่รึเปล่า”
“ดูอยู่”
พริมพันให้จนเสร็จ
“อีกข้างน่ะ ทำเอง”
เพชรอิดออด “มันคนละข้าง มันก็พันไม่เหมือนกันสิ ชั้นทำไม่ถูกหรอก”
“มันเหมือนกัน แค่สลับด้าน”
“ยากอ่ะพริม ชั้นเป็นคนหัวช้า ทำให้ดูอีกทีสิ”
พริมตัดรำคาญ คว้าผ้ามาพันมือให้เพชรอีกข้าง
เพชรลอบมองหน้าพริม แล้วแอบยิ้มที่หลอกให้พริมจับมือได้
พริมรู้ว่าเป็นเส้นนั้นก็อดทึ่งไม่ได้
“โห ยังเก็บไว้อีกเหรอเนี่ย”
“ของที่เธอให้ ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว ชั้นเอาไว้หัวนอนไหว้เช้าไหว้เย็นเลยนะ”
“บ้า คนนะไม่ใช่เจ้าแม่ตะเคียนทอง”
เพชรพูดอย่างจริงจัง “พริม ทุกไฟต์ที่ชั้นขึ้นชก ชั้นใช้ผ้าเส้นนี้ตลอด ไม่เคยใช้เส้นอื่นเลยนะ มันมีพลังพิเศษ ทำให้ชั้นมั่นใจที่จะปล่อยแต่ละหมัดออกไป เหมือนมีเธออยู่ใกล้ๆคอยร่วมชกไปกับชั้นด้วย ถ้าไม่ใช่ผ้าเส้นนี้ชั้นก็คงต่อยไม่ออก”
พริมเขิน เลยช่วยเพชรซักแก้เขิน
“ชั้นช่วย จะได้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวก็แห้งไม่ทันพรุ่งนี้หรอก”
พริมเอามือจุ่มลงกาละมังขยี้ๆ เพชรก็ขยี้ๆ
เพชรมองพริมยิ้มตาหวาน พริมเขิน
เพชรแอบจับมือพริมในน้ำ พริมตกใจรีบชักมือขึ้น
“เฮ้ย จะทำอะไร”
“ขอโทษๆ ชั้นไม่ได้ตั้งใจ”
เพชร กะ พริม เอามือจุ่มกาละมัง ซักผ้าต่อ เพชรแอบจับมือพริมอีก
“เฮ้ย จับอีกแล้ว”
พริมยัวะ จะชักมือขึ้นแต่เพชรจับไว้ซะแน่น
“ปล่อย”
“ปล่อยอะไร ชั้นซักผ้า” เพชรทำไก๋
“นี่มือชั้น”
เพชรยอมปล่อย แต่หยอดหวาน
“อ้าวเหรอ ขอโทษที มือนุ่มอย่างนี้ชั้นก็นึกว่าผ้าอ่ะดิ”
พริมเขินอายม้วน เอาฟองผงซักผ้าสลัดใส่หน้าเพขร เพชรโกยฟองจะป้ายหน้าพริมบ้าง พริมลุกวิ่งหนี
เพชร กะ พริมวิ่งไล่เอาฟองป้ายกัน สุดท้ายพริมจะเอากะละมังสาด เพชรเลยยอมแพ้
สองคนยิ้มหัวให้กันมุ้งมิ้งพอท้วมๆ
รุ่งเช้า ไม้แขวนเสื้อที่แขวนอยู่นอกหน้าต่างห้องพักว่างเปล่า ไม่มีผ้าพันมือ เหลือเพียงตัวหนีบให้ดูต่างหน้า
เพชรแหกปากร้อง “อ๊าก” ชะโงกหน้าออกไปดูนอกหน้าต่างๆ “ไม่มี หายไปไหน”
บุญหลงงง “เป็นอะไรเพชร อะไรหาย”
“ผ้าพันมือชั้นตากไว้เมื่อวานอะ แกเห็นรึเปล่า”
“ไม่อะ”
เพชรไปปลุกไข่เค็มที่แต่งตัวเสร็จแล้วแต่ยังหลับอุตุอยู่
“ไข่เค็ม แกเอาผ้าพันมือชั้นไปเล่นรึเปล่า”
“เปล่าจ้ะ”
เพชรรื้อทั่วห้อง “เฮ้ย แล้วหายไปไหนอ่ะ”
พริมเดินเข้าห้องมา “เสียงดังอะไรเพชร”
“ผ้าพันมือหายไปไหนไม่รู้ ชั้นตากไว้นอกหน้าต่าง”
“ปลิวหล่นลงไปข้างล่างแล้วมั้ง เอาเส้นใหม่เถอะ”
“ไม่ได้ ชั้นจะเอาเส้นนั้น ลงไปช่วยกันหาเร็ว”
เสียงโทรศัพท์เข้า เพชรกดรับสาย “ครับคุณนกฟ้า”
เสียงนกฟ้าลอดออกมาว่า “รถตู้มารอรับที่หน้าอพาร์ตเม้นแล้วนะคะ เชิญได้เลยค่ะ”
“ขอเวลาแป๊บนึงครับ ผมหาของอยู่ เดี๋ยวรีบไปครับ”
เพชรวางสาย ทุกคนวิ่งออกจากห้องไป
ขณะเดียวกันที่วัดทุ่งไก่หลง น้อย แฉะ ลูกดอก แม้นมาศนั่งรออยู่บนศาลากระวนกระวาย
“โอ๊ย ไอ้กล้ากับไอ้เอี้ยงมันไปหายืมทีวีถึงประเทศไหนเนี่ย ทำไมมันช้านักวะ”
“ไอ้เพชรมันจะต่อยกี่โมง” หลวงพ่อถาม
“บ่ายจ้ะหลวงพ่อ” ลูกดอกบอก
“แล้วนี่มันเพิ่งจะ 11 โมง พวกเอ็งจะกระวนกระวายไปทำไม มานี่ มานั่งสมาธิทำใจให้สงบกะข้านี่มา”
“เวลาแบบนี้ ใครจะมีกะใจนั่งสมาธิล่ะหลวงพ่อ ใจมันร้อนรุ่มเหมือนไฟสุมทรวง อยากจะดูเพชรเค้าชกจะตายอยู่แล้ว” อดีตคุณนายปลัดบ่น
“นี่แหละยิ่งต้องนั่งสมาธิ มานี่ให้หมด”
แฉะ ลูกดอก แม้นมาศ และตาน้อย ไปนั่งเรียงแถวกันนั่งสมาธิ หลวงพ่อนั่ง เป็นผู้นำ คอยบอก
“หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ กำหนดลมหายใจไว้ที่ปลายจมูก...พุทธ...โธ...พุทธ...โธ...”
ผ่านไปสักระยะ กล้าแบกทีวีวิ่งขึ้นศาลามา มีเอี้ยงวิ่งตามมา ทั้ง 2 ตะโกนดังโหวกเหวกเข้ามา
“มาแล้ว ทีวีมาแล้ว”
ทุกคนสะดุ้งพรวด ออกจากสมาธิรีบมารับทีวี
“เฮ้ยเปิดเลย เปิดเลย” แฉะเปิดทีวี แต่ไม่ติด กดย้ำๆ
“อ้าว ทำไมไม่ติด”
ตาน้อยเซ็ง “จะไปติดยังไงล่ะ ปลั๊กยังไม่ได้เสียบ”
กล้าไปลากสายพ่วงมาเสียบปลั๊ก
แฉะกดอีกหลายๆ ที ก็เหมือนเดิม “อ้าว เสียบแล้วก็ยังไม่ติด”
“ไอ้กล้า เอ็งเอาทีวีนี่มากจากไหน” ตาน้อยถาม
“กองขยะจ้ะ ชั้นเห็นเค้าทิ้งเลยหยิบมา” กล้าบอก
“ปั๊ดโธ่ เค้าทิ้งแล้วมันก็แปลว่าเสียสิวะ” ตาน้อยโมโห
“แต่เสียแล้ว ก็ซ่อมได้นี่จ๊ะ” เด็กเอี้ยงบอก
ทุกคนมองหน้ากัน มีหวัง
อ่านต่อหน้า 3
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 20 (ต่อ)
ฝ่าย เพชร พริม ไข่เค็ม ลงมาด้านล่าง กระจายค้นหาตามสุมทุมพุ่มไม้ ไข่เค็ม เลื้อยไปตามพื้นหญ้า
“เจอมั้ยพริม” เพชรถามอย่างร้อนใจ
พริมบอก “ไม่เจอ”
“เจอมั้ยไข่เค็ม”
ไข่เค็มตอบ “ไม่เจอจ้ะ”
บุญหลงวิ่งเข้ามาสมทบ
เพชรรีบหันไปถาม ““ว่าไงหลง”
“ป้าแม่บ้านบอกว่าไม่มีใครเห็นเลย”
“ถ้ามันตก มันก็ต้องตกแถวนี้สิ แต่นี่มันไม่มีแปลว่ามันต้องมีคนเอาไป”
บุญหลงท้วง “ไม่แน่นะเพชร ป้าแม่บ้านบอกว่าเมื่อคืนมีลมพัดแรง เสาอากาศบนหลังคายังหักเลย”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น คงปลิวไปไกลแล้วล่ะเพชร” พริมว่า
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพชรกดรับสาย
“คุณเพชรคะ เราไม่มีเวลาแล้วนะคะ ถ้าไปสายนกฟ้าจะโดนคุณแก้วแหวนกับเสี่ยด่าเอานะคะ”
“ครับ ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” เพชรวางสาย สีหน้าเศร้าไม่สบายใจเอาเลย
“เอาอย่างงี้ พวกเธอไปที่งานเลย เดี๋ยวชั้นจะตระเวนหาแถวนี้ ถ้าเจอจะรีบเอาไปให้” บุญหลงบอก
“ขอบใจนะหลง”
พริม เพชร และไข่เค็มออกไปทางหนึ่ง ส่วนบุญหลงออกไปหาอีกทาง
ส่วนที่ศาลาวัด กล้ากำลังประกอบทีวีกลับเข้าเป็นอย่างเดิม มีเครื่องไม้เครื่องมือจำพวกไขควง คนอื่นๆมุงดูเอาใจช่วย
“พี่กล้าซ่อมทีวีเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ” เอี้ยงแปลกใจนัก
“ไอ้นี่ไม่รู้อะไร ชั้นเรียนช่างกลมานะเว้ย”
ลูกดอกซัก “แล้วเรียนจบรึเปล่า”
กล้าบอก “ไม่จบ”
ทุกคนร้อง “อ้าว”
“แต่ก่อนจะถูกไล่ออก ชั้นก็ได้เรียนวิชาซ่อมทีวีอยู่หรอกน่า”
“แล้วได้เกรดอะไร” คราวนี้แฉะเป็นคนถาม
กล้าบอก “เกรดศูนย์”
ทุกคนร้อง “โว้”
“อย่าเพิ่งดูถูกกันซี่”
กล้าประกอบทีวีเสร็จ ทดลองกดเปิด โทรทัศน์ติดขึ้นมา แต่ซ่าเป็นตัวหนอน
“เห็นมั้ยมาแล้ว มันต้องปรับเสาอากาศอีกหน่อย” กล้าว่า แล้วหันไปปรับเสาอากาศไปมา “ไอ้เอี้ยง ไม้แขวนเสื้อ”
เอี้ยงยื่นให้ “นี่จ้ะ”
กล้าเอาไม้แขวนเสื้อมาต่อกับเสาอากาศ ปรับไปปรับมาอยู่นาน
“ไม่เห็นมันจะติดเลยไอ้กล้า ทำเป็นจริงรึเปล่าเนี่ย” ตาน้อยบ่น
“เป็นสิ มันต้องจูนอีกนิดนึง”
กล้ากดๆ หมุนๆ ตรงแป้นทีวีมั่วๆ รัวๆ
จู่ๆ ทีวีระเบิดดังปุ้ง ควันขึ้นโขมง ทุกคนผงะออก วงแตกไปคนละทาง
เพชรแท้ ศ.อรชร มาถึงงานแข่งมวยไทยฟินแล้ว และอยู่ที่บริเวณหน้าแบ็คดรอปงาน แก้วแหวน กะ เสี่ยตุ๋ยยืนขนาบข้าง มีนกฟ้าอยู่ข้างๆ คอยดูแล ทัพนักข่าวรุมสัมภาษณ์ แฟนคลับกรี๊ดกร๊าดไม่สงสารคอหอย กรี๊ดเสร็จถ่ายรูปรัวๆ พริม กะ ไข่เค็มยืนนอกวง
เพชรนั้นท่าทางเครียดเอาการ ไม่ค่อยมั่นใจ แต่พยายามเก็บอาการ
นักข่าว1 ถาม “วันนี้พกความมั่นใจมาเท่าไหร่ครับคุณเพชรแท้”
“พกมา...สิบครับ” เพชรว่าเหมือนคนใจลอย ไม่มีสมาธิ
แก้วแหวน เสี่ย และนักข่าวจอมเผือก เหวอ
เสี่ยตุ๋ยรีบแก้ให้ “เค้าหมายถึงสิบหมื่นน่ะครับ ภาษาลิเกเค้าเรียกสิบหมื่น”
นักข่าว 2 เผือกต่อ “แล้ววันนี้เราจะได้เห็นท่าไม้ตายอีกรึเปล่าครับ”
“ท่าไม้ตายเหรอครับ ตายครับ ตายแน่ๆ”
แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้า รวมทั้งนักข่าว เหวอทั้งแถบ
“เค้าหมายถึงปากวยต้องตายคาหมัดแน่ๆ น่ะครับ” เสี่ยแก้ให้อีก
“เพชรแท้คะ พูดขอกำลังใจแม่ยกแล้วก็แฟนมวยทางบ้านหน่อยสิคะ”
เพชรมองกล้อง สีหน้าประหม่าชัดแจ้ง ไม่รู้จะพูดอะไร
“เอ่อ...ขอกำลังใจให้ผมแพ้ปากวย เอ้ย ให้ปากวยชนะผม เอ้ย ให้ผมชนะปากวย เอ๊ย...”
เห็นเพชรงงๆ เบลอๆ แก้วแหวนรีบแก้ให้ “ถูกแล้วค่ะ”
พริมเห็นท่าไม่ดีรีบแหวกวงล้อมเข้าไปหาเพชรบอกกับนักข่าวว่า
“ขอโทษนะคะ ไฟท์นี้เป็นไฟท์สำคัญมาก คุณเพชรแท้มีความตั้งใจมากๆ และตอนนี้คุณเพชรแท้ต้องการทำสมาธิก่อนขึ้นชกค่ะ ขออนุญาตคุณเพชรแท้ไปเก็บตัวก่อนนะคะ”
พริมจูงมือเพชรออกไปเลย
แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้า นักข่าว รวมทั้งแฟนคลับเหวอ
โปรโมเตอร์สาวสุดเซ็กซี่รีบแก้สถานการณ์ทันที
“พี่ๆนักข่าวและแฟนคลับทุกท่านคะ อย่างที่พี่เลี้ยงบอกนะคะ คุณเพชรแท้ต้องไปวอร์มร่างกายแล้วก็ทำสมาธิ ขอเชิญพี่ๆ จับจองที่ข้างเวทีได้เลยค่ะ นกฟ้าคะ พาไปทีค่ะ”
“เชิญทางนี้เลยค่ะ”
นกฟ้านำนักข่าวและแฟนคลับเข้าไปในสนามชก
“ยัยพี่เลี้ยงมันกล้าดียังไงมาเสนอหน้า บังหน้าชั้นมิดกล้องเลย” เสี่ยตุ๋ยหนวดกระดิก ไม่พอใจ
“ก็คงทำได้อีกไม่นานหรอกค่ะ แก้วแหวนจะหาทางไล่มันกลับบ้านนอกให้เร็วที่สุด จะได้ไม่มาเกะกะขวางทางการทำงานของเรา”
ใบหน้าสวยของแก้วแหวนยามนี้ ดูคล้ายนางร้ายละครช่อง 8 กระนั้น
เพชรเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ กดโทรศัพท์โทร.ออก ผุดลุกผุดนั่งร้อนอกร้อนใจ รอบุญหลงรับสาย
“หลง เจอรึยัง” ฟังอีกฝ่ายแล้วใจแป้ว “...โธ่ รีบหน่อยสิ ให้คนแถวนั้นช่วยหาด้วยก็ได้ นี่ชั้นจะขึ้นชกอยู่แล้วนะ เออๆๆ เร็วๆนะ”
เพชรวางสาย จู่ๆ พริมยื่นผ้าพันมืออันใหม่เข้ามาตรงหน้า
“เพชร ไม่ต้องรอแล้วล่ะ ชั้นเอาเส้นใหม่มาให้แล้ว”
“ไม่เอา ชั้นจะเอาเส้นนั้น”
“อย่างี่เง่าได้มั้ยเพชร ก็มันหาไม่เจอ เธอจะให้คนทั้งประเทศรอเธอหาผ้าพันมือให้เจอรึไง”
“แต่ที่ชั้นชนะมาได้ทุกไฟต์ก็เพราะผ้าพันมือคู่นั่นนะพริม”
“เพชร ที่เธอชนะเนี่ย เธอจะยกความดีความชอบให้ไอ้ผ้าพันมือนั่นเหรอ เธอชนะมาได้เพราะฝีมือของเธอเองต่างหาก พลังมันไม่ได้มาจากสิ่งของนอกตัวเลยเพชร” พริมชี้ไปที่ใจของเพชร “แต่มันมาจากตรงนี้”
เพชรนิ่งคิดทบทวน
บนศาลาวัดตอนนี้ มีทีวีตั้งอยู่กลางวง โดยทุกคนนั่งล้อมพนมมือ และหลวงพ่อนำเข้าสมาธิ
“ทุกคนตั้งจิตดีๆ นะ ทำจิตใจให้เป็นกุศล เพ่งจิตไปที่ทีวี ...กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา กะตะเม ธัมมา กุสะลา...”
ตาน้อยฟังทะแม่งๆ “หลวงพ่อ นี่มันสวดศพ เอาที่เป็นมงคลๆ สิ”
“ชั้นว่ามงคลก็ไม่น่าจะอยู่ มันต้องอาคมฝั่งเขมร”
ทุกคนดี๊ด๊า ตื่นเต้น
หลวงพ่อสวดคาถา ทำปากขมุบขมิบ หยิบข้าวสารในกระถางธูปมาปาใส่ทีวี แต่กระเด็นไปโดนคนโน้นทีคนนี้บ้าง
“เพี้ยง”
ทุกคนจ้องดูทีวีนิ่งเงียบ รอลุ้น แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลวงพ่อชักโมโห “กูหมดปัญญาแล้วโว้ย”
เจ้าอาวาส ผู้เป็นเจ้าของวิชาหมัดสั่งลุกขึ้น เอาตีนยันทีวีเต็มแรง ทีวีกลิ้งโค่โล่ไปตั้งอีกมุม แล้วอยู่ๆ ทีวีติดภาพขึ้นมา
แฉะร้องลั่น “ติดแล้ว”
ลูกดอกอัศจรรย์ใจ “ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ หลวงพ่อ”
ทุกคนดีใจมานั่งแป้นแล้นรุมล้อมทีวี จดจ่อรอดูการชกของ เพชรแท้ กับ ปากวย ยอดนักมวยฟิลิปปินส์
งานชก ไทยฟิน ถึงเป็นโปรแกรมการชกที่ยิ่งใหญ่มาก ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและคนดูล้นหลาม
เวทีชกยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง กว่าทุกเวที ดนตรีประกอบกระหึ่มขึ้นเร้าใจสุดๆ ไฟสปอร์ตไลต์ส่องลงตรงเวที แก้วแหวนสวยเซ็กซี่ในชุดโฆษกบนเวทีแล้ว
“ขอต้อนรับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน สู่การชกไฟท์ประวัติศาสตร์ แชมป์ไทยฟิน และแชมป์ฟิลิปปินส์ฟิน โคจรมาปะทะหมัดกันให้สั่นสะเทือนเออีซี”
ผู้คนโห่ร้อง เสี่ยและนกฟ้านั่งดูอยู่ตรงที่นั่งริงไซด์
“นักชกฝ่ายไทย ได้แก่ หนุ่มหน้ามนคนหน้าหล่อ อยากน็อกขอมา สั่งได้ จัดให้ เพชรแท้ ศ.อรชร”
อีกฟากสายตาทุกคู่บนศาลาวัด จดจ่อดูทีวี พอได้ยินชื่อเพชรก็กรี๊ดวัดแตกป่าช้าระเบิด
“เพชรมาแล้ว เพชรมาแล้ว” แม้นมาศ คุณนายตกทำเนียบร้องดังกว่าใคร
ดนตรีปี่พาทย์กระหึ่มขึ้นในสนามแข่ง เพชรแท้ ศ.อรชร ในชุดนักมวยสวมเสื้อคลุมอย่างเท่ แต่มีไมค์ลอยติดข้างแก้ม วาดลีลาฟ้อนออกมาในท่าพระเอกลิเกขึ้นเวทีชก ร้องแนะนำตัวเหมือนออกโรงเล่นเลิเก
คนดูฟิน กรีดร้องระงม ชอบอกชอบใจ
ร้องเสร็จเพชรกลับเข้ามุม พริมตามออกมาเป็นพี่เลี้ยง ไข่เค็มอยู่ด้วย แก้วแหวนประกาศต่อ
“และนักชกผู้มาเยือน จากประเทศฟิลิปปินส์ ใจหินหน้าโหด เจ้าของฉายาขวาตายซ้ายพิการ แมนนะ ปากวย”
ปากวยเดินออกมา เป็นนักชกร่างใหญ่ มีหนวดเคราน่ากลัว หน้าตาถมึงทึงเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ คำรามออกมาเป็นระลอก คนดูจะเอามือเข้าไปแหย่ ก็ขู่กรรโชกเหมือนจะกัด คนดูร้องกรี๊ดตกใจ
ปากวยขึ้นเวทีมองเพชรด้วยสายตาดุดันเหมือนสัตว์ป่า เพชรเห็นเข้าก็สยอง ทำท่าขยาดๆ ปากวยคำราม โฮก ใส่ เพชรสะดุ้งโหยง
พริมร้องบอก “เพชร ไม่ต้องไปกลัว ตั้งสติดีๆ”
ทุกคนมุงดูด้วยใจจดจ่อ
“นี่มันนักมวยหรือฆาตรกรวะเนี่ย” แม้นมาศใจแป้ว เข้าไปข้างทีวีแล้วกราบทีวี “ขออย่าให้มันฆ่าลูกเพชรของอิชั้นเลยนะเจ้าคะ”
พลันที่แม้นมาศกราบทีวีเสร็จ ทีวีดันแบะออกเป็น 2 เสี่ยง
ทุกคนตาเหลือก ไม่เว้นหลวงพ่อ “เฮ้ย!”
แม้นมาศตกใจ “ชั้นไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่กราบเบาๆเอง หลวงพ่อนั่นแหละเมื่อกี้ถีบแรง”
“หลีกๆ ชั้นซ่อมเอง”
ลูกดอกรีบเอาทีวี 2 ส่วนประกบกัน แต่ก็เอาไม่อยู่ ดันแบะออกมาอีก
แฉะร้อนใจ “ทำไงดีเนี่ย จะต่อยอยู่แล้ว”
หลวงพ่อคิดปราดเดียว “ไอ้กล้า ไปเอาสายสิญจน์มา”
“ครับ” กล้ากระโจนไปหยิบมาจากกองสายสิญจน์ใกล้ๆ ยื่นให้ทันควัน
“พวกเรามาช่วยกันจับหน่อย”
ทุกคนไปช่วยกันจับทีวีประกบกัน หลวงพ่อเอาสายสิญจน์พันมัดไว้ไม่ให้แบะออก ระหว่างพันก็สวดคาถางึมงำไปด้วย
สุดท้ายปาฏิหาริย์มีจริง ภาพเกิดติดขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ ทุกคนเฮลั่น
อ่านต่อหน้า 4
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 20 (ต่อ)
เพชรและปากวยถอดเสื้อคลุม ถอดมงคลแล้ว มายืนกลางเวที กรรมการตรวจความเรียบร้อยแล้วสั่งชก สีหน้าเพชรไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ปากวยมั่นใจมวาก
ปากวยเริ่มรุก เพชรได้แต่ตั้งการ์ดกัน ไม่ออกอาวุธเลย พริมดูเชิงแล้วกังวลหนัก ไข่เค็มเอาใจช่วย พวกแก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้า ลุ้นระทึก
ไข่เค็มเห็นท่าไม่ดี แอบเอาโทรศัพท์พริมมาโทร.หาบุญหลง
“พี่บุญหลง เจอมั้ยจ๊ะ พี่เพชรจะแย่แล้ว”
บุญหลงกำลังหาผ้าพันมือมาตามข้างทางละแวกอพาร์ตเม้นต์
“ยังเลยไข่เค็ม บอกเพชรรอหน่อยนะ”
กองเชียร์ที่ศาลาวัดทุ่งไก่หลง ทุกคนนั่งดูใจจดจ่อ
“ทำไมพี่เพชรมันใส่มันมั่งล่ะ ปล่อยให้ไอ้หน้าโหดนั่นใส่อยู่ฝ่ายเดียวเลย” ลูกดอกแปลกใจ
หลวงพ่อบอกว่า “เพชรมันคงกำลังดูเชิงมวยอยู่ อย่าเพิ่งใจร้อนน่า”
บนเวทีไทยฟิน ปากวยเริ่มยิงหมัด และ เตะใส่ เพชรยังกันอยู่อย่างเดียว
จนระฆังหมดยกที่ 1 เพชร กะ ปากวยแยกกลับเข้ามุม
พริม กับ ไข่เค็มเข้ามาให้น้ำ นวดตัวเพชร พริมต้องตบหน้าเพชรเรียกสติ
“เพชร ไหนบอกว่าจะมาสู้เพื่อคณะลิเกไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ทำอะไรอยู่ อย่าทำให้คนที่คณะเพชรสำเริงผิดหวังสิ”
เพชรเครียดหนัก จนหูอื้อ ไม่ได้ยินเสียงอะไรรอบข้างเลย
บนเวทีมวย ขึ้นป้ายยกที่ 2 เพชรเริ่มปล่อยอาวุธบ้าง แต่โดยรวมก็ยังเป็นฝ่ายตั้งรับ
กองเชียร์ที่วัดใจหายใจคว่ำ แต่ทุกคนยังช่วยกันเชียร์ไม่ท้อ
ด้านบุญหลงกำลังหาผ้าพันมือ ตามพื้นถนน ตามป่า ตามถังขยะ อย่างมาดมั่น
ยกที่ 3 เพชรยังเป็นฝ่ายตั้งรับ ปากวยได้ทียิ่งใส่หนักขึ้น
พริมเครียด เพชรกำลังแย่
ที่วัดหลวงพ่อลืมตัวออกท่าออกทางเหมือนจะชกซะเอง ตาน้อยต้องคอยรวบตัวหลวงพ่อไว้
เพชรโดนปากวยชกเข้าไปเต็มๆ ร่วงไปกองให้กรรมการนับ
ทางด้านบุญหลงเร่งมือหาไปอีกฟากถนน
ขึ้นยกที่ 4 เพชรชักจะอ่อนแรงลงทุกขณะ
พริมเหมือนจะถอดใจหมดหวังแล้ว แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้า เครียดทั้งแถบ คนดูเซ็ง และเริ่มท้อ เชียร์ยังไงเพชรแท้ก็ไม่สู้
เสียงระฆังหมดยก เพชรเดินซึมเข้ามุม จู่ๆ บุญหลงถือผ้าพันมือเส้นนั้นเข้ามายื่นให้ตรงหน้า นักมวยคนซื่อเหนื่อยหอบ เพชรดีใจมาก
“หลง ช่วยกันเร็ว”
พริมกะบุญหลง ช่วยกันถอดนวมทั้ง 2 ข้าง จากนั้นพริมและบุญหลง ช่วยกันพันผ้าพันมือคนละข้างอย่างไว จนใส่นวมเสร็จแล้ว
“เพชร ต้องน็อกให้ได้ภายในยกนี้นะ ไม่งั้นแพ้คะแนนมันแน่” พริมบอกจริงจัง
เริ่มยกที่ 5 เพชรหน้าตาดุดันมั่นหมาย เดินดุ่มเข้าไปหาปากวย เพชรกระหน่ำใส่ทั้งหมัดและเท้า ปากวยตกใจตั้งรับไม่ทัน คนดูเฮขึ้นมา แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้าเฮตาม
“มาแล้วเว้ย ของขึ้นแล้วเว้ย” เสี่ยตุ๋ยชอบใจ
เพชรใส่ต่อ ปากวยตั้งหลักได้ เอาคืนรัวๆ แบบไม่ให้เพชรตั้งตัวได้เช่นกัน เพชรแค่ป้องกันได้อย่างเดียว ไม่มีช่องให้เอาคืน
เพชรตั้งการ์ดกำลังโดนชก บอกตัวเองในใจ
“เพื่อคณะเพชรสำเริง เพื่อค่าย ศ.อรชร” พลางเพชรเป่ามนต์ใส่หมัด เห็นมีประกายไฟฟ้าขึ้นที่นวม ไม้ตายต้องมา เพชร ออกหมัดรัวๆๆๆๆ ปากวยงง ไม่ทันระวัง
เพชรอัปเปอร์คัตเสยคาง จนฟันยางปากวยกระเด็นลอยไปตกพื้นเวที ปากวยเซไปแต่ไม่ล้มกรรมการเอาฟันยางมาใส่ให้แล้วสั่งชกต่อ
เพชรตามเข้าใส่อีก เปรี้ยงๆๆ ปากวยโดนไปอีกดอกถึงกับเซไปคุกเข่าลง แล้วรวบรวมแรงลุกขึ้นมาใหม่ และท่าทางชักโกรธ เพชรตกใจ ปากวยเริ่มบ้าเลือด เข้าใส่เพชรเป็นพายุ เพชรได้แต่กันจนร่างสะเทือน
พริม บุญหลง ไข่เค็ม หน้าเสีย เพชรแย่แล้ว
กรรมการจับเวลาดูนาฬิกา ใกล้ครบ 3 นาที
เพชรเห็นช่องนิดเดียวสบโอกาสฟันศอกเข้าปลายคางปากวยจังๆ ปากวยหลับกลางอากาศ กรรมการนับ คนดูเริ่มกระโดดดีใจลุ้นขี้เยี่ยวแทบราด พริม บุญหลง ไข่เค็มดีใจ แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้าดีใจกว่า
สุดท้ายกรรมการนับ 10 ยกมือให้เพชรชนะ
พริม บุญหลง และไข่เค็มกระโดดขึ้นไปบนเวที สามคนกอดเพชรอย่างดีใจ นักข่าวถ่ายรูปรัวๆ แฟนคลับกรี๊ดไม่สงสารคอหอย
กองเชียร์ที่วัดทุกคนดีใจกระโดดกอดกัน หลวงพ่อเองยังดีใจด้วย แฉะกับลูกดอกอุ้มหลวงพ่อเขย่าๆ ตัวโยกตัวโยน
เพชรถูกนักข่าวรุมล้อมสัมภาษณ์อยู่ตรงแบคดร็อปป้านงานไทยฟิน พริม บุญหลง และไข่เค็ม ดูอยู่นอกวง
นักข่าว 1 ยิงคำถาม “คุณเพชรแท้ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างครับ”
“ผมไม่อยากตอบว่าดีใจเลยครับ เพราะมันมากกว่าดีใจมากๆ มันดีใจคูณสิบคุณร้อยเลยครับ”
นักข่าว 2 เผือกต่อ “คุณเพชรมีอะไรจะพูดกับใครเป็นพิเศษรึเปล่าคะ”
เพชรมองกล้อง บอกไปถึงสำเริง เป็นการเฉพาะ
“พ่อ ที่ชั้นเคยสัญญากับพ่อว่าถ้าชั้นหาเงินไปกู้คณะลิเกของเราได้แล้ว ชั้นจะกลับไปเล่นลิเก ตอนนี้ชั้นทำสำเร็จแล้วนะจ๊ะพ่อ”
นักข่าว 3 ถามเข้าประเด็น “แล้วคุณเพชรแท้ยังจะชกมวยต่อรึเปล่าครับ”
“ยังไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ต้องขอคิดดูก่อน แต่ผมจะกลับไปเล่นลิเกแน่นอนครับ ขอฝากคณะลิเกเพชรสำเริง บัญเทิงศิลป์ ไว้ในหัวใจพี่น้องแฟนมวยทุกท่านด้วยนะครับ”
นักข่าว 1 แย่งถาม “ขอถามหน่อยครับ ทำไมในยกที่ 5 คุณเพชรแท้ถึงมีแรงฮึดขึ้นมาครับ”
เพชรยิ้ม มองไปที่พริมข้างๆ แบคดร็อป
“เพราะผมได้กำลังใจดีครับ”
“กำลังใจอะไรครับ บอกได้มั้ยครับ” นักข่าว 1 ซักไซ้
“จากครูที่สอนมวยผมเองครับ คนนู้นครับ”
นักข่าวหันไปเห็นพริม ก็กรูเข้าไปสัมภาษณ์ถามรัวๆ พริมอึ้ง ตอบไม่ถูก ไข่เค็มสบโอกาสแจ้งเกิดเสนอหน้าออกกล้อง แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้า ยืนมองอยู่ไม่พอใจทั้งแถบ
เสี่ยตุ๋ยบอกลูกสาว “ให้มันแย่งซีนบ่อยๆ ไม่ดีนะลูก”
แก้วแหวนตามวาววับ โกรธ และโมโหพริม เอามากๆ
อ่านต่อตอนที่ 21