xs
xsm
sm
md
lg

หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 1

วัดธารธรรมยามเช้า ในบรรยากาศสงบร่มเย็น ลมพัดเบาๆ ทำให้กระดิ่งที่แขวนอยู่ดังเป็นจังหวะคลอเบาๆ

"ผมจะมาทำบุญใหญ่ครับหลวงพ่อ"
"บุญอะไรเหรอโยม" หลวงพ่อถาม
"ผมจะมาขอบวชครับ"
กรรไกรตัดผมฉับ เส้นผมที่ถูกตัดค่อยๆ ร่วงหล่นลงไปบนใบบัวที่นาคถือไว้ในมือ
นาคคือดิน และคนโกนผมคือหลวงพ่อ โดยมีมัคนายกยืนอยู่ข้างๆ

ดินเอื้อมมือไปแตะขอบบนประตูโบสถ์ สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง มัคทายกพาดินเข้าไปในโบสถ์
"ฉายาทางธรรมของท่านคือ “ปญฺญาวุโธ(ปัญญาวุโธ) คือ ผู้มีปัญญาเป็นอาวุธ นับจากนี้ท่านจงใช้ปัญญาเป็นอาวุธในการเผยแผ่พุทธศาสนาต่อไปเถิด"
เสียงสวดมนต์ดังลอดออกมากังวาลไปทั่วบริเวณวัด

เช้าวันใหม่ หลวงพ่อแม่นและหลวงพี่ดินเดินบิณฑบาตอยู่ โดยมีหมากเดินตามหลังในสภาพเบื่อหน่าย
"หลวงพ่อครับเราเดินอ้อมให้ถึงวัดเร็วๆ หน่อยไม่ได้เหรอครับ"
"ไม่ได้หรอกหมาก เกิดชาวบ้านเค้ารอตักบาตร แล้วไม่เห็นพระมาบิณฑบาต ก็เสียความตั้งใจเค้าสิ" หลวงพ่อแม่นว่า
หลวงพี่ดินถาม
"ทำไมพระถึงต้องบิณฑบาตด้วยครับหลวงพ่อ"
"การบิณฑบาตมันเป็นกิจของสงฆ์ เพราะเราจะได้ทำหน้าที่ในการเผยแผ่ศาสนา"
"แล้วทำไมชาวบ้านต้องตักบาตรล่ะครับ มันเป็นกิจของชาวบ้านเหรอ"
"มันไม่ได้เป็นกิจเป็นหน้าที่ของเค้าหรอก แต่การตักบาตรเป็นการถวายกำลังแก่พระภิกษุในการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป คนที่ตักบาตรก็ได้เรียนรู้ที่จะละความตระหนี่ และรู้จักเป็นผู้ให้"
หมากบอก
"และชาวบ้านหมู่บ้านธารธรรมคงรู้จักการเป็นผู้ให้หมดแล้ว"
รอบๆบริเวณนั้น ที่หลวงพ่อและหลวงพี่บิณฑบาตนั้นไม่เห็นชาวบ้านสักคน
"ตั้งแต่ผมเดินบิณฑบาตกับหลวงพ่อมาหลายปีเนี่ย มีบ้านที่ตักบาตรประมาณสักสาม"
หลวงพี่ดินถาม
"30?"
"3 หลัง" หมากบอก
หลวงพ่อแม่นก้มมองบาตรที่ไม่มีข้าวเลย ก่อนเงยหน้าไปเห็นชาวบ้านสามคนเดินถือผลไม้ ดอกไม้ หัวหมู ผ่านมา
"แกก็มองโลกแง่ร้ายไอ้หมาก โน้นไง ชาวบ้านมาโน้นแล้ว"
หลวงพ่อแม่นรอเปิดบาตรรับ แต่ชาวบ้านเดินเลยผ่านไปหน้าตาเฉย
หมากถาม
"อ้าวป้านก ไม่ได้จะมาตักบาตรเหรอ"
"ตักบาตรอะไร ข้าจะไปท้ายหมู่บ้าน"
"ไปทำอะไรท้ายหมู่บ้าน"
หลวงพี่มองตามชาวบ้านไป

ณ หลังหมู่บ้าน ชาวบ้านกำลังขอหวยจากต้นไม้ใหญ่ เครื่องเซ่น ดอกไม้ ธูปเทียน ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ บางคนก็ขูดต้นไม้ขอหวยกันอยู่
หลวงพ่อแม่นกับหลวงพี่ดินและหมากเดินผ่านมาหยุดมอง
"พระมีก็ไม่ไหว้ มาไหว้ต้นไม้ เจริญจริงๆ" หมากบอก
หลวงพี่ถาม
"ต้นไม้ให้บุญได้เหรอ"
ตั้มชายวัย 20 ปียิ้มเดินออกมาจากบริเวณใกล้ต้นไม้เหมือนได้หวย แล้ววิ่งมาที่แผงขายหวย
ข้างๆ ต้นไม้มีเจ้ามือหวยและแผงล็อตเตอรี่อยู่มีคนซื้อหวยยืนมุงๆ อยู่
"เอาชุดนี้ป้า" ตั้มบอก
"พันหนึ่ง"
ตั้มรับล็อตเตอรี่มา กำลังล้วงเงินจ่ายค่าหวย
"ไอ้ตั้ม"
ตั้มทำหน้าตกใจ ก่อนหันควับไปมองตามเสียง เห็นเหมยยืนทำท่าทางขึงขังมองตั้มอย่างเอาเรื่อง เจนนี่ยืนอยู่ข้างๆ เหมย
"พี่เหมย" ตั้มเรียก
เจนนี่บอก
"หนี้ไม่ยอมจ่าย แต่มีเงินซื้อหวยนะแก"
"ได้เวลาใช้หนี้ฉันแล้ว" เหมยบอก
เหมยกวาดสายตามองไปทั่ว ทุกคนทำหน้าเลิกลั่ก ก่อนพร้อมใจกันวิ่งหนีเหมย ผ่านไปทางหลวงพ่อ
หลวงพ่อแม่นส่ายหน้ากับพฤติกรรมของชาวบ้าน
เหมยถาม
"ไงตั้ม จะจ่ายหรือไม่จ่าย"
"รอหวยออกก่อนได้มั้ยล่ะ งวดนี้ถูกแน่นอน"
เจนนี่ถาม
"มีเลขเด็ดเหรอ ขอมั่งดิ"
"พี่เจนนี่"
เจนนี่สลดลงทันที
"ถูกกินสิไม่ว่า คืนเงินชั้นมาเดี๋ยวนี้"
ตั้มชี้บนฟ้า
"เฮ้ย นกเงือก!"
ทุกคน รวมทั้งพระ ต่างเงยหน้ามองตามที่ตั้มบอก แล้วตั้มใส่เกียร์หมาวิ่งหนี
เหมยตะโกนเรียก
"ไอ้ตั้ม"
เหมยกับเจนนี่วิ่งตามไปติดๆ
"ดูซิ หลอกได้แม้กระทั่งพระ" หมากบอก
หลวงพี่บอก
"แต่พระก็เชื่อนะ"
หลวงพ่อมองหน้าหลวงพี่ หลวงพี่ยิ้มรับอารมณ์ซื่อ

บริเวณถนนในหมู่บ้าน ไทสะพายเป้ใบใหญ่ กำลังถามทางชาวบ้านอยู่
"เดินไปจนสุดทางเลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้ว"
"ขอบคุณครับ"
ไทมองไปตามทางที่ชาวบ้านบอก แล้วเดินต่อ
เหมยกำลังวิ่งตามตั้มเข้ามาด้านหลังไท เหมยรู้ตัวว่าจะวิ่งไม่ทัน จึงหยุดวิ่ง แล้วคิดแผนร้ายก่อนก้มถอดรองเท้าแล้วปาไปที่ตั้ม
"ไอ้ตั้มแกตาย"
ไทหันไปมองตามเสียง ตั้มวิ่งชนไท แล้วล้มลง ส่วนรองเท้าเหมยลอยละลิ่วมาอย่างจัง
"โอ้ย"
เหมยตกใจ
"เฮ้ย"
เจนนี่วิ่งตามหลังมาตะลึงในความหล่อของไทอยู่
"หล่ออ่ะ"
ตั้มจะวิ่งหนีเหมยหันไปเห็น
"พี่เจนนี่ไปจับมันไว้"
เจนนี่รีบวิ่งไปจับตั้มไว้ เหมยเข้าไปช่วย
"จะหนีไปไหนไอ้ตั้ม"
"ขืนอยู่ก็ได้โดนรองเท้าสิคร้าบ"
ไทได้สติจากอาการมึนรองเท้า ยืนขึ้นพร้อมกับถือรองเท้าขึ้นมาด้วย ก่อนหันไปดุเหมย
"นี่เธอ...ไม่คิดจะขอโทษกันหน่อยเหรอฮะ"
เหมยหันมามองหน้าไท จ้องกันไปมาอย่างไม่พอใจที่ไทขึ้นเสียงใส่
"แล้วนายเดินเอาหัวมารับรองเท้าฉันทำไม"
"อ้าว คุณพูดแบบนี้ก็สวยสิ"
"ตาถึงนะเนี่ย"
"ผมว่าคุณอยู่ ไม่ได้ชม"
ตั้มอาศัยจังหวะวิ่งหนีเหมยออกไปอยากเร็ว เหมยมองเห็นพอดี
"โธ่เว้ย...เพราะนายคนเดียว ไปเร็วพี่เจนนี่"
เหมยโมโหรีบวิ่งตามออกไป เจนนี่มองแต่ไทจนเหมยหันมาดุ
ไทมองตามอย่างเซ็งๆ

ในบาตรพระ มีข้าวกับผัดผักและขนมหวาน หมากกับมัคนายกนั่งมองหลวงพี่ดินที่จ้องข้าวในบาตรไม่วางตา
หลวงพี่ดินมองอย่างสงสัยไม่กล้ากิน ก่อนหันมามองหลวงพ่อแม่นที่นั่งฉันข้าวอยู่
หลวงพ่อเงยหน้ามามองหลวงพี่ดินแล้วยิ้มให้บางๆ ก่อนพูด
"ฉันภัตตาหาร เพื่อให้คลายทุกข์ที่เกิดจากความหิว ไม่ใช่เพื่อหลงไปกับรสชาติของมัน"
"ถ้าหลวงพี่ไม่ฉัน เดี๋ยวผมอาสารับหน้าที่นั้นเอง" หมากบอก
"ไอ้หมากทะลึ่งนะแก"
"ฉันพูดเล่น"
หลวงพี่ดินก้มมองบาตรอีกครั้งแล้วค่อยๆ ตักข้าวมากิน หลวงพ่อมองหลวงพี่ดินค่อยๆ กินข้าว
ไทเดินเข้ามา
"นมัสการครับหลวงพ่อ"
หลวงพ่อเงยหน้ามองอย่างสงสัยว่าใครกัน

บนศาลาวัด หลวงพ่อกับหลวงพี่นั่งอยู่บนอาสนะ ส่วนไทและ หมาก งอยู่ด้านล่าง
"จะมาขออยู่วัด" หมากบอก
"ครับ"
"ทุกวันนี้ที่หลวงพ่อบิณฑบาต ข้าวยังไม่พอฉันเลยนะ แล้วนี่มาอยู่จะมากินอะไร..กินธูปกินเทียนเป็นมั้ยล่ะ"
หลวงพี่ดินถาม
"ธูปเทียนกินได้ด้วยเหรอ"
"ได้สิ กินแล้วได้บุญเยอะด้วยนะ"
"ว้าว อะเมสซิ่งไทยแลนด์" พลวงพี่บอก
"พอแล้วไอ้หมาก อายเค้า...แล้วโยมคิดยังไงถึงจะมาอยู่วัดล่ะ"
"เรียกว่าไม่ได้คิดดีกว่า"
หลวงพ่อมองหน้าหมาก หมากเงียบ
"ผมเพิ่งเรียนจบ จะเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯครับ แต่ยังไม่มีที่อยู่..แม่บอกว่าให้มาขออาศัยอยู่ที่วัดนี้ เพราะหลวงพ่อท่านมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แล้วก็..."
"พอแล้ว...แม่โยมรู้จักหลวงพ่อด้วยเหรอ"
"รู้สิครับ แม่ผมเคยมาหากินอยู่แถวนี้ตั้งหลายปี แม่ชื่อจันทร์ หลวงพ่อจำได้มั้ย" ไทบอก
หลวงพ่อนึก
"อ๋อโยมจันทร์ที่ผมสั้นใช่มั้ย"
"ผมยาวครับ"
"ผิวคล้ำหน่อย"
"ผิวขาวครับ"
"ตัวสูงๆ ผอม"
"อ้วน เตี้ยครับ"
หมากบอก
"ผมว่าหลวงพ่ออย่าเดาเลยครับ อายเค้า"
หลวงพ่อมองหน้าไท อย่างมีเมตตา
"ถ้าโยมยังไม่มีที่ไปหลวงพ่อก็ยินดีให้อยู่ที่วัดนี้ โยมก็ช่วยงานวัดไปด้วยละกัน"
"หลวงพ่อจะให้ผมทำอะไรก็ได้ครับผมทำได้ทุกอย่าง"

ภายในโบสถ์ หมากส่งถังน้ำกับผ้าให้ไท
"นี่เป็นงานแรก เพื่อตอบแทนวัดแห่งนี้ที่พี่มาขออยู่อาศัย"
"ฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ"
"นายต้องทำความสะอาดพระประธาน ถูพื้น เช็ดหน้าต่าง ขัดบานประตู เปลี่ยนมู่ลี่ ทาสีโบสถ์ ส่วนฉันจะออกไปนั่งกินข้าวโพดรอข้างนอก...โอเค้"
"อ้าว...ไม่ช่วยกันล่ะ"
"เห็นบอกหลวงพ่อว่าทำได้ทุกอย่าง ตกลงทำได้มั้ยแค่เนี้ย"
"ได้"
"ถ้าได้ฉันไปก่อนนะ ข้าศึกโจมตีแล้ว"
หมากทำท่าปวดอึแล้ววิ่งออกไปอย่างเร็ว
ไทมองรอบๆ โบสถ์แล้วเข้าไปทำความสะอาดด้านหลังพระประธานอย่างตั้งใจ
เจนนี่กับเหมยเดินเข้ามา
"มาเลยค่ะน้องเหมย ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล ก็ต้องบนหลวงพ่อเนี่ยแหละคะ"
"แน่ใจนะพี่เจน ว่าจะสำเร็จ"
"ชัวร์ พี่เจนนี่เอาคอเป็นประกัน"
"คงไปประกันไว้เยอะละสิ เลยเหลือคอสั้นนิดเดียว"
"น้องเหมยก็...หยอกพี่ตลอด"
ไทค่อยๆ ยื่นหน้าออกมามองเห็นเป็นเหมย ไทยิ้มเหมือนนึกอะไรออก

หลวงพี่เดินมาหลังหมู่บ้านกับมัคนายก สวนกับชาวบ้านที่เดินออกมาจากต้นไม้ขอหวย
ชาวบ้าน 1บอก
"อ้าวน้ามั่น พระใหม่เหรอไม่คุ้นหน้าเลย"
"จะคุ้นได้ไง เอ็งเคยเฉียดไปวัดกันบ้างมั้ยละ..วันๆอยู่แต่กับต้นไม้เนี่ย"
"ก็พวกฉันมันคนรักธรรมชาตินี่นาฮ่าๆๆ"
"รักธรรมชาติหรือทำลายธรรมชาติ..ขูดกันจนต้นไม้ยางออกหมดแล้ว"
"แล้วพระฝรั่งพูดไทยได้เปล่าน้า"
"ไทย" หลวงพี่ดินบอก
"ชัดแล้วนะ"
"แหมหลวงพี่ก็ แล้วนี่มาจากไหน นึกยังไงมาบวชวัดนี้ล่ะจ๊ะหลวงพี่"
"ซักเป็นตำรวจเลยนะแก"
"ฉันก็ถามไปงั้นแหละ..ไปละ จะรีบไปซื้อหวย"
ชาวบ้านเดินออกไป หลวงพี่ดินมองไปที่ต้นไม้ที่ชาวบ้านกราบไหว้ด้วยความศรัทธาอยู่
หลวงพี่ดินถาม
"การกราบไหว้ต้นไม้นี่ได้บุญมากกว่าการกราบไว้ทำบุญกับพระเหรอ"
"ไม่ได้บุญหรอกแต่ได้หวย ทำบุญได้ชาติหน้า ถูกหวยมาได้งวดนี้"
"แต่ก่อนหลวงพี่ก็ไม่ค่อยอยากได้บุญหรอกนะ แต่ตอนนี้หลวงพี่อยากได้บุญมากๆ ถ้ามีทางไหนที่จะทำให้ได้บุญ หลวงพี่จะทำทุกทาง"
"งั้นก็เริ่มจากทำทางราดยางเข้าหมู่บ้านก่อนเลยมั้ยหลวงพี่"
หลวงพี่หันมองมัคนายกแบบไม่รับมุก มัคนายกยิ้มอายๆ หลวงพี่เดินนำออกไป ชาวบ้านมองพระฝรั่งแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

เหมยกำลังนั่งตั้งสมาธิแล้วขอพรจากพระประธานในโบสถ์
"หลวงพ่อเจ้าคะ"
เหมยมองเจนนี่ประมาณว่าเอาจริงดิ...เจนนี่พยักหน้าให้เหมย
เหมยตัดสินใจ
"คือตอนนี้หนูยังเก็บเงินกู้ให้พ่อได้ไม่ถึงครึ่งเลย ท่านช่วยดลบันดาลให้ลูกเก็บเงินครบภายในพรุ่งนี้ด้วยเถิดค่ะ"
ไททำเสียงก้องถาม
"แล้วให้เค้ายืมไปทำไมละ"
"มันบอกจะเอาไปจ่ายค่าเทอม สิ้นเดือนว่าจะให้ แต่ตอนนี้ผ่านไปสองเดือนแล้ว มันก็ยังไม่จ่ายหนูเลยเจ้าค่ะ"
เหมยเหมือนนึกได้ว่าใครพูด
"เสียงใครพี่เจนนี่"
เหมยกับเจนนี่จ้องหน้ากันก่อนกระโดดกอดกัน
ทั้งคู่บอก
"พระประธานพูดได้"
ด้านหลังพระประธาน ไทใช้มือป้องเป็นลำโพงแล้วพูด ก่อนหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งเหมย
"ทะทะท่านพูดได้ด้วยเหรอคะ"
"ถามแปลก ถ้าเราไม่พูดใครจะพูด..ถ้าพวกเจ้าอยากได้เงินคืนก็ไปแจ้งตำรวจสิ"
"แจ้งไม่ได้หรอกค่ะ เพราะน้องเหมยกับพ่อเก็บดอกเกินที่กฎหมายกำหนดเจ้าค่ะ"
เหมยดุ
"พี่เจนนี่"
"ใจร้าย..นิสัยแย่แบบนี้ ต้องโดนเครื่องประหารหัวสุนัข"
"นี่หลวงพ่อดูเป้าบุ้นจิ้นด้วยเหรอจ๊ะ"
"อย่ามาตลกกับเรา สิ่งที่เจ้าทำมันไม่ถูกต้อง เป็นการทำนาบนหลังคนด้วยดอกเบี้ยแพงๆ เจ้าต้องไปปรับลดหนี้ให้เค้า แล้วคิดดอกเบี้ยอย่างยุติธรรม ไม่งั้นชีวิตเจ้าจะมีอันเป็นไป เข้าใจมั้ยๆๆ"
เหมยกลัว
"ขะขะ เข้าใจแล้วค่ะ"
ไทหัวเราะคิกคักอยู่หลังพระประธาน สองคนกอดกันด้วยความกลัว ก่อนที่หมากจะเอื้อมมาจับแขนเจนนี่
ทั้งคู่ร้อง "ว๊าย"
"หล่อซะขนาดนี้กลัวทำไม นี่หมากเอง"
"พระประธานพูดได้" เจนนี่บอก
"พระประธานพูดได้...ตลกละพี่สองคน นี่เมายากันยุงปะเนี่ย แล้วนี่พี่ไทไปไหน"
หมากพูดพลางมองหา เหมยเงยหน้ามองที่หมากพูด
"ไทไหน"
"ก็ไทเด็กวัดคนใหม่ไง สงสัยแอบอู้...พี่ไท พี่ไท"
ไทค่อยๆ ชโงกหน้าออกมา
ไททำเสียงพระประธาน
"อยู่นี่ ฮ่าๆๆ"
เหมยกับเจนนี่เห็นหน้าไท
"นี่นายเองเหรอ"
"พี่สุดหล่อ" เจนนี่บอก
เหมยจ้องหน้า ไทยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ

เหมยไล่ตีไทออกมานอกโบสถ์ หมากกับเจนนี่วิ่งตามออกมาด้วย
"กล้าดียังไงมาแกล้งฉันแบบนี้"
"ใจเย็นๆก่อนคุณ ก็ผมเห็นคุณคุยกับพระประธานอยู่ ถ้าท่านไม่ตอบก็กลัวจะเสียมารยาท ผมเลยช่วยพูดแทนท่านไง"
"โถ่...พ่อคุณพ่อขนุนหนัง หน้าตาดี จิตใจงาม ขอถามหน่อยสิ มีแฟนรึยัง"
"พี่เจนนี่"
เจนนี่สลด
"พี่ไทไปแกล้งพี่เค้าก็ไม่ถูก ขอโทษพี่เค้าซะ" หมากบอก
"ขอโทษทำไม ทีเค้าปารองเท้าโดนหน้าคนอื่นเค้ายังไม่ขอโทษเลย"
"เรื่องอะไรฉันต้องขอโทษ ไปพี่เจนนี่กลับ"
เหมยเดินออกไป ดึงแขนเจนนี่ที่มองไทเหมือนจะกลืนกินออกไปด้วย
"ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพงๆ ระวังสักวันกรรมจะตามสนอง ทุกวันนี้กรรมติด 3จีนะรู้ยัง" ไทบอก
"3จีปลอมนะสิ ยังไงฉันก็ต้องทำทุกทางให้ได้เงินคืน นายเพิ่งมาอยู่ใหม่คงยังไม่รู้ล่ะสิว่าฉันเป็นใคร"
"ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย"
"ไอ้บ้า...ฝากไว้ก่อนเหอะ"
"ฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำครับ..แฮ่!"
"ฝากชีวิตเจนนี่ไว้กับคุณได้มั้ย" เจนนี่หยอด
"พี่เจนนี่...ไป"
เหมยหันมาค้อนให้ไทก่อนเดินออกจากวัดไป ไทมองตามยิ้มๆ

หลวงพี่เดินนำมัคนายกเข้ามาในห้องผู้ป่วย
มัคนายกถาม
"หลวงพี่มาทำอะไรเหรอครับ"

หลวงพี่ไม่ตอบเดินไปหยุดที่หน้าห้องฉุกเฉิน แล้วมองเข้าไปเศร้าๆ

ในอดีต ภายในห้องผู้ป่วย ลูกของดินมีเครื่องช่วยหายใจ ประตูห้องผู้ป่วยถูกเปิด หมอกับพยาบาลเดินออกมา

"ลูกผมมีโอกาสฟื้นจากอาการเจ้าหญิงนิทรามั้ยครับหมอ"
"หมอคงรับปากไม่ได้ แต่หมอจะรักษาลูกคุณให้ดีที่สุดครับ"
หมอกับพยาบาลเดินออกไป
ดินเดินมาทรุดนั่งลงที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินอย่างหมดอะไรตายอยาก
แม่บ้านบอก
"ถ้าอยากให้ลูกหาย ลองทำบุญให้ลูกสิ"
ดินเงยหน้าขึ้นมาเห็นแม่บ้านอายุ 55 ยืนถือไม้ถูกพื้นอยู่ตรงหน้า
"ทำบุญยังไงครับป้า"
"บุญที่ใหญ่ที่สุด ก็คือผ้าเหลืองยังไงล่ะ"
"ให้ผมซื้อผ้าเหลืองถวายพระเหรอครับ"
แม่บ้านทำหน้าเซ็ง
"ป้าหมายถึงบวช..อานิสงส์บุญจากการบวช จะช่วยให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับลูกคุณได้"
ดินมองหน้าป้าแล้วคิดตาม

หลวงพี่ดินที่ดูเครียดๆ ก่อนหันไปคุยกับมัคนายกที่เดินอยู่ข้างๆ
"น้ามั่น หลวงพี่ต้องทำยังไงถึงจะได้บุญเยอะๆ"
มัคนายกตอบสีหน้ามั่นใจ
"จากที่ผมเป็นมัคนายกมาเกือบสามสิบปี"
หลวงพี่มองมัคนายกลุ้นๆ รอคำตอบ
"ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันครับหลวงพี่"
"เฮ้อ"
"เอาน่ะหลวงพี่ ของแบบนี้มันไม่ได้ทำแล้วได้เลย มันต้องใช้เวลาสะสมครับ"
"เดี๋ยวหลวงพี่ลองไปถามกูดู"
"กูคือใครครับหลวงพี่"
"ก็กูเกิ้ลไง รู้ทุกเรื่อง ถามได้ทุกอย่าง ใช้งานง่าย"
"ผมใช้ไปซื้อกาแฟได้มั้ยครับ"
"น้ามั่นนี่อารมณ์ดีจังเลยนะ"
มั่นยิ้มๆ ก่อนหันไปเห็นชายร่างใหญ่สองคนยืนล้อมผู้ชายคนหนึ่งอยู่
ตั้มโดนนักเลงล้อมอยู่ ตั้มมีอาการหวาดกลัวสุดขีด ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ
"ถ้าพรุ่งนี้แกไม่มีเงินมาจ่ายอย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
มัคนายกบอก
"หลวงพี่ดูโน้นสิครับ"
หลวงพี่หันไปมองตามที่มัคนายกบอก
"ทำอะไรกันน่ะ"
นักเลงสองคนได้ยินเสียงมัคนายกก็รีบเดินเลี่ยงออกไป
หลวงพี่กับมัคนายกเดินไปหาตั้ม
"มีอะไรกันรึเปล่าโยม"
หลวงพี่จ้องหน้าตั้มรอคำตอบ

หลวงพี่เล่าเรื่องที่เจอให้หลวงพ่อกับทุกคนฟัง
"ถามแล้วไม่บอกแบบนี้จะอะไรล่ะครับ ก็คงทวงหนี้กันนั่นแหละ ชาวบ้านเล่นหวยหวังรวยทางลัด พอไม่ถูกก็ไปกู้เงินมาจับจ่ายใช้สอย วนไปวนมาหนี้ก็พอกพูน" มัคนายกบอก
"หรือว่ายัยคนนั้นจะทวงหนี้โหด เลยไปจ้างนักเลงมา" ไทว่า
"พูดถึงใครไท"
"ก็ยัยเหมยอะไรนั่นสิครับ เมื่อตอนเย็นเค้าบอกผมว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินคืน" ไทบอก
"แล้วทำไมคนหมู่บ้านนี้ติดหนี้กันเยอะขนาดนี้" หลวงพ่อถาม
มัคนายกบอก
"จะไม่ให้เป็นหนี้ได้ยังไงล่ะหลวงพี่ ทำมาหากินได้ก็เอาไปลงทุนกับหวยหมด พอเจ๊งก็ไปกู้หนี้ยืมสินกันมาอีก"
หลวงพ่อทำหน้าเครียดๆ หมากวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"หลวงพ่อครับแย่แล้วครับ"

เวลากลางคืน บริเวณโบสถ์โดนรื้อค้นเงิน ตู้บริจาคโดนขโมย
มัคนายกบอก
"ฝีมือใครเนี่ย..มารศาสนาชัดๆ"
"เงินมีแค่ 300 มันยังจะเอาอีก" หมากบอก
"เดี๋ยวปิดโบสถ์ให้สนิท แล้วพรุ่งนี้ไทกับหมากก็ไปแจ้งตำรวจแล้วกัน"
"ครับ" ไทบอก
"ตอนนี้คงยังทำอะไรไม่ได้ แยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน"
หลวงพ่อเดินออกไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย
"เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยมั้ยน้ามั่น" หลวงพี่ถาม
"ก็ไม่บ่อยหรอก เพราะเงินบริจาคที่วัดก็ไม่ค่อยมี..เงินไม่กี่ร้อยมันยังจะขโมยกันอีก"
"ผมว่ามันต้องเกี่ยวกับที่ชาวบ้านติดหนี้นอกระบบแน่ๆ"ไทบอก
หมากทำเสียงพากย์คนอวดผี
"มันอาจจะจริงอย่างที่พี่ไทบอก..ก็เป็นได้"
มัคนายกถาม
"นี่แกมีญานเหรอไอ้หมาก"
"มีอยู่สองลำ แต่พังไปละ" หมากแบมือ "ขอเงินซื้อยานลำใหม่หน่อยสิลุง"
มัคนายกเขกกระโหลกหมาก
"เอามะเหงกไปแล้วกัน เนียนนะไอ้นี่"
"นอกจากไม่รู้จักทำบุญ ยังขโมยสมบัติวัดอีกเห้อ"
หลวงพี่ดินมองไปที่พระพุทธรูปแล้วครุ่นคิด

เช้าวันใหม่ ที่บ้านตั้ม
เสียงตั้มโวยวายออกมาจากในบ้าน
"โอ้ย"
ตั้มโดนนักเลง 2 คนซ้อมในสภาพเละอยู่ในบ้าน นักเลงมองเงิน 300 ที่ตั้มให้
"ยืมไปหมื่นหนึ่งใช้มาสามร้อย ดอกเบี้ยยังไม่พอเลย"
"ฉันไม่มีจริงๆพี่ แต่ฉันมีล็อตเตอรี่นะ ถ้าฉันถูกฉันใช้หนี้พี่หมดเลย"
"ฉันไม่รอหวังลมๆ แล้งๆหรอกโว้ย ฉันจะเอาตอนนี้"
"ตอนนี้ฉันไม่มีให้พี่หรอก"
"แกก็ไปขอญาติแกสิ"
"ฉันตัวคนเดียวพี่ ฉันไม่มีใคร"

เหมยกับเจนนี่ย่องมาทำตัวเป็นสายลับมาที่บ้านตั้ม
"คราวนี้แหละไอ้ตั้ม แกหนีไม่พ้นแน่"
เจนนี่หยิบโทรศัพท์มาทำเป็นคุยวิทยุ
"วอ1เรียกวอ2 ตอนนี้เราถึงบ้านเป้าหมายแล้ว ขอพลแม่นปืนสแตนบายด้วย"
"เอาเอฟ16มาบินคุ้มกัน แล้วก็รถถังมาดักรอหน้าปากซอยด้วยมั้ยล่ะ"
"ขอเอฟ16บินคุ้มกันแล้วก็รถถังมาดักรอหน้าปากซอยด้วย"
"ยังๆ"
"ยังไม่พอเหรอคะ งั้นขอหน่วยซีลมาด้วยมั้ย"
"ยังไม่หยุดอีก"
"อ้าว"
เหมยถาม
"มันใช่เวลามาตลกมั้ยเนี่ย"
"แหม..หนุกหนานนิดนึงก็ไม่ได้"
"ไปบุก"
เจนนี่ทำท่าถีบประตู
นักเลงเปิดประตูพอดี เจนนี่ถลาไปกองกับพื้น
ภายใน เหมยตกใจที่มองเห็นตั้มในสภาพโดนซ้อมเละ
"ไอ้ตั้ม"
นักเลง 1ถาม
"รู้จักกันเหรอ"
"หึ...เปล่าไม่รู้จัก"
"พี่เหมยช่วยฉันด้วย"
"ใครอ่ะ...ไปเถอะพี่เจนนี่ สงสัยมาผิดบ้าน"
"จริงด้วยค่ะ"
เจนนี่กับเหมยจะเดินออกไป
นักเลง 2 บอก
"เดี๋ยวก่อน"
นักเลง 1 ไปขวางทางเจนนี่กับเหมยไว้
"งานเข้าแล้วไง" เจนนี่บอก
"วอ1เรียกวอ2ขอกำลังเสริมด่วน"
"ยังๆ"
"ถ้ายังไม่พองั้นขอเอฟ16สักฝูงกับรถถังอีกสิบคัน"
"ยังไม่หยุดอีก มันใช่เวลามาฮามั้ยเนี่ย"
"บ่นไรกัน"
เหมยยิ้มแหยๆ ให้นักเลงที่จ้องเธออยู่

ไทและหมากกำลังจะไปแจ้งความที่โรงพัก
ไทถาม
"อีกไกลปะเนี่ย กว่าจะถึงโรงพัก"
"เดี๋ยวแยกหน้าแล้วเลี้ยวขวา" หมากบอก
"อืม ก็ไม่ไกล"
"พอเลี้ยวขวาแล้วก็เลี้ยวซ้าย"
"แล้วก็ถึง?"
"เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปจนเจอสามแยก"
"แล้วก็ถึง"
"ถึงสามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายอีกที"
"แล้วก็ถึง"
"พอเลี้ยวซ้ายแล้วก็..."
ไทตัดบท จะลากหมากกลับวัด
"กลับวัดเถอะ ไม่ไปละ"
"ล้อเล่น ไม่ไกลหรอกน่า ...แล้ววันนี้พี่จะไปสมัครงานที่ไหนเนี่ย"
"ก็บริษัทใกล้ๆ เนี่ยแหละ"
"เค้าจะเข้าAEC แล้วภาษาอังกฤษสำคัญนะ..ดูหน้าพี่ก็รู้ว่าโง่ภาษาอังกฤษ" หมากบอก
"มันชัดขนาดนั้นเลยเหรอ"
"เปล่า เมื่อคืนตอนพี่นอน ฉันแอบดูเกรดพี่ฮ่าๆๆๆ โง่ไม่เบานะเราเนี่ย..เอางี้เดี๋ยวฉันช่วยสอนสำเนียงภาษาอังกฤษให้..กล่องภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร"
"บ๊อก"
"สำเนียงไม่ได้อะ มันต้องแบบนี้" หมากออกเสียงเหมือนหมาเห่า "บ๊อก"
"แล้วถ้ากล่อง 3 ใบละ"
"บ๊อก บ๊อก บ๊อก ไหนลองทำสิ"
"บ๊อก บ๊อก บ๊อก..บรู๋ววว์ จะบ้าเหรอ ไม่ใช่หมา"
สองคนหัวเราะกันอยู่ก็มีเสียงแว่วมา
"ปล่อยฉันนะ"
ไทกับหมากได้ยินมองหน้ากัน

ในบ้านตั้ม เหมยถูกจับมัดไว้กับเจนนี่ โวยวายเสียงดังอยู่
"ปล่อยฉันนะฉันไม่เกี่ยวกับไอ้นี่ซะหน่อย มันก็ติดหนี้ฉันเหมือนกัน"
"ใช่ ชั้นก็มาทวงหนี้มันเหมือนกัน" เจนนี่บอก
ภายนอก ไทกับหมากย่องตามเสียงร้อง
"เสียงมาจากบ้านนี้แน่ๆ เราบุกเข้าไปเลยมั้ย"
"เดี๋ยวก่อน ดูให้แน่ใจก่อนดีกว่า" ไทบอก
ภายใน ตั้มร้องไห้อ้อนวอนเหมย
"พี่เหมย พี่จ่ายหนี้แทนฉันไปก่อนได้มั้ย ไม่งั้นมันฆ่าฉันแน่"
"ของเก่าไม่จ่าย ยังจะกล้ายืมใหม่อีก ชั่วจริงๆ"
นักเลง 1บอก
"เอางี้ถ้าแกไม่เกี่ยวก็ออกไป ส่วนไอ้เนี่ยเดี๋ยวฉันจัดการเอง"
"ขอบคุณค่ะคุณพี่..กลับกันเถอะค่ะ" เจนนี่บอก
"แต่เหมยยังไม่ได้เงินเลยนะ"
"เอาตัวรอดก่อนเถอะค่ะ ชั่วโมงนี้"
"ไอ้ตั้มมันจะตายมั้ยอ่ะ"
เหมยสงสารตั้ม ก่อนเจนนี่จะลากเหมยกลับ
ภายนอก หมากกับไทสีหน้าเคร่งเครียด
"เข้าไปเถอะพี่ จะรอให้ใครตายก่อนรึไง..เป็นพลเมืองดีป่ะเนี่ย" หมากบอก
"โอเค เข้าก็เข้า"
ไทตัดสินใจถีบประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่เหมยเปิดประตูพอดี
ภายใน ไทเสียหลักล้มลงทับเหมย ไทกับเหมยสบตากันอย่างกระชั้นชิด
"อ๊าย...ไอ้บ้า ไอ้ลามก ออกไปจากตัวชั้นเดี๋ยวนี้นะ"
เหมยผลักไทพร้อมกับร้องโวยวาย
นักเลง1ถาม
"เฮ้ย แกสองคนเป็นใครวะเนี่ย"
หมากอึกอัก
"เอ่อ ผม..ผม"
นักเลง2 ถาม
"ว่าไง อ้ำๆอึ้งๆ มีอะไรป่าวเนี่ย"
หมากคิดแผนได้ ตะเบ๊ะไท
"หมวดครับ เอาไงต่อดีครับ"
ไทอึกอัก ก่อนจะคิดได้ ทำเสียงหล่อ
"ผมร้อยตำรวจเอกเทพไท ไม่ได้ปลอมตัว แต่บังเอิญผ่านมาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ครับ"
นักเลง1หน้าเจื่อน
"อ๋อ ไม่มีอะไรครับ"
"ตำรวจบ้าบออะไรไอ้หมากแกเด็กวัด พี่ไทก็เพิ่งมาขออยู่วัดไม่ใช่เหรอ" เจนนี่ว่า
เหมยดุ
"พี่เจนนี่"
นักเลงมองสองคนอย่างไม่พอใจ
"แกไอ้พวกทวงหนี้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ออกไปซะ" หมากบอก
นักเลง 2 บอก
"ถ้าฉันไม่ออกแกจะทำไม"
หมากเลิกลัก ก่อนผลักไทไปชนนักเลง นักเลงเข่าเข้าที่ท้องไทจนจุก
"เก่งนักนะพวกแก"
นักเลงสองคนเดินเข้าหาหมากกับไท ต่างฝ่ายตะลุมบอนกันเละ เหมยกับเจนนี่ช่วยชุลมุนด้วย

ที่หน้าของหมากกับไท มีแผลโดนต่อย สภาพมอมแมม
มัคนายกบอก
"ถ้าคุณตำรวจไม่ไปเจอพวกแกคงเละ ทำอะไรไม่คิด"
ตั้มก้มกราบหลวงพ่อ
"ผมขอโทษด้วยนะครับหลวงพ่อที่ขโมยเงินวัดไป"
"อาตมาอโหสิให้ โยมได้รับโทษของโยมแล้ว"
"ผมลานะครับ"
ตำรวจพาตัวตั้มออกไป
เหมยกับเจนนี่ที่ยืนหลบมุมอยู่ข้างๆหัวฟูสภาพมอมเพราะช่วยสู้กับนักเลง
"พี่เจนนี่แล้วเงินเหมยละ"
"อยู่นิ่งๆ ดีกว่าค่ะเดี๋ยวก็ได้โดนตำรวจจับไปอีกคนหรอก" เจนนี่บอก
เหมยทำหน้าเซ็งๆ
"นี่ถ้าหัดเข้าวัดฟังธรรมกันบ้างก็คงจะมีความละอายต่อบาปทำผิดน้อยลง" มัคนายกบอก
หลวงพี่บอก
"ท่านครับ ตอนนี้ชาวบ้านกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินกันเยอะเลยใช่มั้ยครับ"
"หลวงพ่อรู้ หลวงพ่อก็ทำได้เพียงให้ธรรมะเพื่อขัดเกลาจิตใจชาวบ้านไปวันๆนี่แหละ"
"ปัญหาคือชาวบ้านก็ไม่ค่อยจะเข้าวัดกัน ถ้าจะมาก็ไม่เว้นเรื่องขอหวย ขอให้รวย..ขอกันแต่ยังงอมืองอเท้า มันจะรวยมั้ย" มัคนายกว่า
หลวงพี่ครุ่นคิด
"หลวงพ่อครับ การทำบุญแล้วหวังผลตอบแทนนี่เป็นเรื่องถูกต้องมั้ยครับ ... ผมอยากจะทำบุญกับชาวบ้านผมต้องทำยังไงครับท่าน ถ้าผมอยากให้เงินพวกเค้าใช้หนี้ดีมั้ยครับ"
"การทำทานมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเจตนาแหละท่าน"หลวงพ่อบอก
"แล้วการทำทานด้วยอะไรถึงจะได้บุญมากที่สุด"
"การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง"
"งั้นผมจะให้ธรรมะ กับทุกคนในหมู่บ้านนี้"
หลวงพ่อมองที่หลวงพี่ยิ้มแล้วพูดบางๆ
"ถ้าท่านทำได้ก็จะเป็นกุศลยิ่งใหญ่แก่ชาวบ้านธารธรรมทุกคน"
หลวงพ่อเดินเข้าไปในศาลา หลวงพี่และมัคทายกเดินตาม
เหมยกับเจนนี่เซ็งๆ จะเดินกลับบ้าน
"เดี๋ยวก่อนเธอจะไปไหน" ไทถาม
เหมยไม่สนใจเดินอย่างเร็ว ไทกับหมากเดินตาม

ไทเดินตามมาว่าเหมย
"นี่เธอบอกว่าเดี๋ยวไง"
"อะไรเนี่ย ฉันจะไปทำมาหากิน ไม่ได้ว่างงานอย่างนายนะ" เหมยบอก
ไทถาม
"ไปทวงเงินชาวบ้านแบบโหดๆ ต่อนะเหรอ"
"น้องเหมยไม่ได้ทวงหนี้โหดอะไรนี่คะ พวกนั้นต่างหาก" เจนนี่บอก
"ขึ้นชื่อว่าหนี้นอกระบบ มันก็โหดพอๆกันนั่นแหละ..เก็บดอกเบี้ยมหาโหด ทำนาบนหลังคนชัดๆ" ไทบอก
"นี่นายเป็นใครมายืนด่าฉันปาวๆ รักความยุติธรรมนักก็มาจ่ายหนี้แทนชาวบ้านสิ"
"เอาเลยพี่ไทอย่าให้เค้าดูถูกว่าเราจน"
ไทเงียบๆ อึกอักเพราะไม่มีเงิน
"เงียบแบบนี้ไม่มีเงินละสิ"
"ใช่ผมไม่มีเงิน แต่ผมก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เหมือนคนมีเงินบางคนที่คิดแต่จะเอาเปรียบคนอื่น"
เหมยถาม
"ใครทำธุรกิจแล้วไม่อยากได้กำไรบ้าง"
"กำไรจากหยาดเหงื่อ หยดเลือดของชาวบ้านนะเหรอ"
เหมยกับไทจ้องหน้ากันเหมือนจะเปิดศึก
เจนนี่บอก
"ใจเย็นๆ นะคะ ไอ้อ้วนช่วยห้ามสิ"
"อ้าวใครอ้วนป้า" หมากถาม
"ไอ้ปากเสียแกเรียกใครป้า"
"ก็เรียกป้านั่นแหละ"
"ไอ้อ้วน ตายซะเถอะ"
หมากกับเจนนี่ปรี่เข้าตบตีกัน ไทกับเหมยก็จ้องหน้าเอาเรื่องกัน

หลวงพี่นั่งสวดมนต์จากไอแพดอยู่ในโบสถ์ หลวงพ่อกับมัคนายกเดินเข้ามา
"เป็นยังไงบ้างท่าน"
"ไฟน์ครับหลวงพ่อ"
มัคนายกหันขวับ
"เฮ้ย หลวงพี่ด่าหลวงพ่อเหรอ หลวงพี่พูดแบบนี้ได้ไง"
"โนๆ หลวงพี่บอกว่าสบายดี ไฟน์แปลว่าสบายดีน่ะ"
"อ๋อ ผมนี่ใจหายแว๊บ คิดว่าหลวงพี่จะด่าหลวงพ่อ"
"ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด"
"ผมจบแค่ป.3ท่อง a ยังไม่พ้น c เลยครับหลวงพ่อ"
"งั้นผมไปสวดมนต์ต่อนะครับ"
"แล้วท่านเอากระดานชนวนมาทำไม"
"เค้าเรียกว่าแท็บเล็ต หลวงพ่อก็" มัคนายกว่า
หลวงพ่อพยักหน้ารับ
"ผมอ่านบทสวดมนต์จากในนี้ครับ"
"หลวงพ่อว่าใช้หนังสือสวดมนต์ดีกว่านะ"
"ไม่เป็นไรครับผมถนัดอันนี้มากกว่า ... ผมกำลังคิดว่า ถ้าชาวบ้านเข้าไม่ถึงวัดแบบนี้ เราน่าจะมีสื่ออะไรที่เข้าถึงชาวบ้านได้ง่ายๆนะครับ เช่น youtube Facebook อะไรแบบนี้ ชาวบ้านน่าจะเข้าถึงได้ง่ายและเร็วขึ้นนะครับ"
"ถ้าใช้เทคโนโลยีอย่างที่ท่านว่า ชาวบ้านจะยิ่งไม่เข้าวัดกันเลยน่ะสิ"
หลวงพ่อเดินออกไปอย่างไม่เห็นด้วย หลวงพี่คิดหนัก หาทางเผยแผ่พุทธศาสนาให้ชาวบ้านเข้าถึง

หลวงพ่อแม่นกับมัคนายกเดินออกมาจากโบสถ์
"หลวงพ่อครับหลวงพี่ใหม่ทำอะไรก็หวังแต่บุญแบบนี้มันผิดมั้ยครับ"
"การทำบุญทำทานจะหวังผลหรือไม่หวังผล ล้วนเป็นสิ่งดีทั้งนั้น ดีกว่าไม่ทำบุญทำทานเลย"
"เห็นผมอย่างนี้ ผมนี่ทำทานทุกวันนะครับ"
"ทำยังไง"
"ไม่เจียวไข่ก็ต้มไข่ทานครับ นานๆมีผัดกระเพราทานบ้างถ้ามีหมู"
"ตลกแบบนี้ออกจากวัดไปเล่นตลกมั้ย"
"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวนี้ตลกแทะฝาบ้านกินเยอะแยะ"
"การทำบุญแล้วตั้งจิตปรารถนาถือเป็นเรื่องดี ไม่ผิดอะไรหรอก ก็เหมือนเป็นเป้าหมายให้คนยึดเหนี่ยวและมีกำลังใจในการคิดดีทำดีต่อไป"
"ครับหลวงพ่อ"
"พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ถึงประโยชน์ 3 ระดับของการตั้งจิตปรารถนา คือ1. ประโยชน์ชาตินี้ เช่น รวย สวย แข็งแรง อายุยืน มีชื่อเสียง เป็นที่รักอะไรทำนองนี้ และ2. ประโยชน์ชาติหน้า คือ ตายแล้วขอให้ได้ไปเกิดบนสุคติโลกสวรรค์ และระดับสุดท้ายถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คือ ได้บรรลุธรรม"
"สาธุ"

หลวงพ่อพูดจบก็มองเข้าไปในโบสถ์ เห็นหลวงพี่กำลังกราบพระด้วยอาการสงบ... แสงสีทองของพระพุทธรูปสว่างไสวทั่วทั้งโบสถ์
 
อ่านต่อตอนที่ 2
กำลังโหลดความคิดเห็น