ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 19
เย็นนั้น ขณะเดินจะเข้าอพาร์ตเม้นต์ ขนุนท่องชื่อแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงน่ารัก และทำท่าแอ๊บแบ๊วจิ้มแก้มเอียงคอ ดูขัดเขินมากกว่าน่ารัก
“สรึดดีย์ค่า น้องคินนี่ ปุ๊บปี้แก้มป่อง คร่า...” แล้วลองอีกสำเนียง เอียงหัวอีกข้าง “สรึดดีย์ค่า...น้องคินนี่ ปุ๊บปี้แก้มป่อง คร่า...”
เพชร พริม บุญหลง และไข่เค็มเข้ามา
“ขนุน! ทำอะไร” พริมจ้องหน้า
“อ๋อ เปล่า ชั้นคันแก้มน่ะ” ขนุนทำเป็นเกาแก้ม รีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนี่ไปถ่ายรายการมาเป็นไงบ้าง”
“ไอ้ไข่เค็มน่ะสิ ทำเค้าป่วนไปหมด ไม่แปลกใจเล้ย ทำไมอยู่กับเมฆดำแล้วถึงโดนซ้อม”
“ก็หนูอยากออกทีวี แล้วพรุ่งนี้พี่เพชรกับพี่บุญหลงจะชกรอบชิงชนะเลิศแล้ว เค้าจะถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ หนูจะต้องวิ่งหากล้องให้เจอให้ครบทุกตัว”
“พอเลยไอ้ไข่เค็ม ถ้าพรุ่งนี้ทำงานเค้าล่ม ชั้นจะจับแกกลับไปส่งเมฆดำ” พริมขู่
ไข่เค็มจ๋อย “ไม่ซนก็ได้คร้าบ”
“ขนุน แล้วพรุ่งนี้จะไปดูพวกเราชกมั้ย” บุญหลงถาม
“เอ่อ พรุ่งนี้เพื่อนชั้นเค้าจะเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ชั้นต้องไปส่งเค้าที่สนามบิน”
“อ้าว งั้นก็อดดูน่ะสิ นี่เป็นการชกระหว่างชั้นกับบุญหลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกเลยนะ พลาดได้ไงเนี่ย” เพชรบ่น
“ไม่เป็นไรหรอก ชั้นดูถ่ายทอดสดทางมือถือก็ได้”
พริมนอนไม่หลับ ออกมาเดินเล่น เหม่อลอยคิดเรื่องเพชรกับแก้วแหวนอยู่
ภาพเพชรกะแก้วแหวนผุดขึ้นมาเป็นระลอก ทั้งตอนเพชรแอบหยอดหวานใส่แก้วแหวน ส่วนแก้วแหวนยิ้มให้เพชรตาคมปลาบ
หลายครั้งที่แก้วแหวนยิ้มหวานให้เพชร แล้วเพชรยิ้มรับ
โดยที่พริมแอบเห็น
ยิ่งคิดพริมก็ยิ่งหงุดหงิด ค้อนลมแล้งอย่างงอนๆ
จนเพชรเดินเข้ามาหา
“มานั่งตากลมอยู่คนเดียว ไม่ชวนเลยนะ”
พริมลุกขึ้นเดินสะบัดไป เพชรงง แต่ก็ตาม
“อ้าวไปไหน เป็นอะไรไปพริม”
“ชั้นจะไปนอนแล้ว”
“อย่าเพิ่งสิ อยู่คุยกันก่อน”
เพชรตามไปจับแขนพริมไว้
“คุยอะไร ไม่มีอะไรจะคุย ดึกแล้ว ง่วง”
เพชรดูออก “เดี๋ยวๆ งอนชั้นเรื่องอะไรเนี่ย”
“งอน! ใครงอน? ชั้นไม่ได้งอน! มีเรื่องอะไรให้ชั้นต้องงอน”
“ไม่งอนก็อยู่คุยกันก่อนสิ พรุ่งนี้ชั้นจะชกรอบชิงแล้วนะ ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”
“ไปให้คุณแก้วแหวนพูดสิ คงมีเรื่องพูดเยอะเลยแหละ” พริมประชด
เพชรยิ้มกริ่ม รู้ทัน “อ๋อ...ที่แท้ก็หึงนี่เอง”
“บ้าเหรอ ทำไมชั้นจะต้องหึง ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
เพชรยั่วล้อ ขำๆ ทำกระแซะๆ “แน่ะๆๆ อย่ามาทำปากแข็งน่า...”
พริมหมั่นไส้ หยิกหัวนมเพชรที่โผล่พ้นเสื้อกล้าม
“อย่ามาทะลึ่งกับชั้นนะ”
“โอ้ย”
พริมเดินเข้าตึกขึ้นห้องไป เพชรรีบตาม
ไข่เค็มนอนดิ้นไปดิ้นมาบนเตียง บุญหลงเห็นเข้า
“แกะ 30 ตัว แกะ 31 ตัว แกะ 32 ตัว แกะ 33 ตัว...” ไข่เค็มนับลูกแกะ
บุญหลงงง “เป็นอะไร”
“หนูตื่นเต้นนอนไม่หลับจ้ะ พรุ่งนี้จะชกรอบชิงชนะเลิศแล้วนะ”
“เฮ้ยๆ คนชกคือชั้นนี่ ไม่ใช่แก”
“ก็ตื่นเต้นแทนอ่ะ แกะ 34 ตัว แกะ 35 ตัว...”
บุญหลงมองหา “แล้วเพชรไปไหน เห็นรึเปล่า”
“พี่เพชรบอกว่าจะไปหาพี่พริม”
“หาทำไม เค้าบอกมั้ย”
“ไม่ได้บอกจ้ะ...แกะ” ไข่เค็มเขว “...อ้าว ตัวที่เท่าไหร่แล้ว...เอาใหม่ แกะ 1 ตัว แกะ 2 ตัว”
บุญหลงคิดว่าจะไปตามดีมั้ย
พริมเดินหนี เพชรตามตื๊อ
“พริม ชั้นอยากจะมาขอบคุณพริม”
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
“ก็ถ้าวันนั้นพริมไม่รับชั้นเข้าค่าย ชั้นก็คงไม่มาถึงวันนี้หรอก”
“ชั้นไม่ได้รับ น้าอรรับต่างหาก”
“ก็ถ้าไม่ได้พริมฝึกให้ ชั้นก็ไม่เก่งอย่างวันนี้หรอก”
“น้าอรบังคับชั้น”
“แต่ถ้าพริมไม่พาชั้นมาแข่งไทยไฝว้ ชั้นก็ไม่ได้เข้ารอบชิงหรอก”
เพชรโต้ตลอด พริมเถียงอะไรไม่ออกแล้ว เลยนิ่ง เพชรจับมือพริมขึ้นมา
“พริม ที่ผ่านมา ชั้นรู้ว่าเธอหวังดีกับชั้นมากๆ แม้ชั้นจะเลอะเทอะเกเรหรือว่าทำเป็นเล่น ไม่เอาไหนไปบ้าง เธอก็ยังทนชั้นมาตลอด ที่วันนี้มี เพชรแท้ ศ.อรชรได้ ก็เพราะเธอ เธอเป็นคนสำคัญของชั้นนะพริม”
พริมเขินถูกชมต่อหน้า
“เออ รู้แล้ว ปล่อยมือได้แล้วน่า”
เพชรยอมปล่อยมือ
บุญหลงแอบดูสองคนอยู่ สีหน้าเศร้า
ฝ่ายขนุนกำลังซ้อมเต้นท่าแบ๊วๆ พริมเปิดประตู เดินยิ้มเขินๆ เข้ามา ขนุนรีบหยุดเต้น
“พี่พริม เป็นอะไร”
“เปล่าเป็นซะหน่อย”
“แล้วยิ้มอะไร”
“เปล่ายิ้มซะหน่อย”
“อ้าว ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม จะบอกว่าเปล่าอีก”
“ขนุน คนสำคัญแปลว่าอะไรเหรอ”
ขนุนคิด “คนสำคัญเหรอ ก็แปลว่า คุณที่มีคุณค่ากับเรา คนที่มีความหมายกับเรา เราขาดเค้าไม่ได้ อะไรอย่างนี้มั้ง”
“ขาดเราไม่ได้เลยเหรอ...” พริมยิ้ม
“อืม ทำไม ไปได้ยินที่ไหนมา”
“เปล่า แค่คิดเล่นๆ”
พริมล้มตัวลงห่มผ้านอน ยิ้มสุขใจ ขนุนรู้สึกแปลกๆ
ด้านบุญหลงหลบมายืนเหม่ออยู่คนเดียวบนดาดฟ้าอพาร์ตเม้นต์ เพชรเข้าห้องไม่เจอ จึงเที่ยวตามหา
“มายืนทำเท่อะไรอยู่ตรงนี้วะ”
“ชั้นเท่ไม่เท่าแกหรอก”
“งั้นเรามาเท่ด้วยกัน”
เพชรยกมือขึ้นเพื่อจะจับมือแบบแมนๆ บอกว่า “สัญญากับชั้นซิ”
“สัญญาอะไรวะ”
“สัญญาว่าพรุ่งนี้จะไม่มีใครออมมือให้ใครเด็ดขาด”
บุญหลงจับมือเพชรกระชับแน่นบอกตอบว่า “แน่นอน”
“บนเวที เราเป็นศรัตรูกัน ลงจากเวทีเราก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” เพชรว่า
บุญหลงกับเพชรจ้องหน้ากันแน่วนิ่ง ตบหลังตบไหล่กัน
“เฮ้ยๆ อย่าเยอะ เสียว” เพชรแซว
ที่งานไทยไฟต์คึกคักตั้งแต่เช้า รถตู้วิ่งมาจอดหน้างาน นักข่าวและแฟนคลับกรูไปรุม แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย นกฟ้า ลงมาจากรถ เพชร และ บุญหลง ลงตามมา แฟนคลับรุมกรี๊ดส่วนนักข่าวถ่ายรูปพรึบ แย่งกันสัมภาษณ์
“ขอโทษนะคะ เข้าไปสัมภาษณ์ข้างในดีกว่าค่ะ”
แก้วแหวนเดินนำ แหวกฝูงนักข่าวเข้าไป
พริมกับไข่เค็มลงมาจากรถ แต่ถูกแฟนคลับเบียดกระเด็นไป
เพชรบุญหลงยืนคู่กันหน้าแบ็คดรอป เพชรนั้นยิ้มสู้กล้องเต็มที่ แต่บุญหลงประหม่าตามเดิม แก้วแหวน เสี่ยตุ๋ยยืนประกบ 2 ข้าง นกฟ้ายืนห่างออกมา นักข่าว แฟนคลับรุม พริม กะ ไข่เค็มยืนอยู่นอกวง เข้าไม่ถึง
“คิดยังไงกับที่ตอนนี้กระแสคู่จิ้นที่มาแรงมากเลยครับ” นักข่าว 1 ยิงคำถาม
“อะไรนะครับ คู่จิ้น” เพชรทวนคำถาม
“ก็ที่ไปออกรายการเมื่อวานน่ะค่ะ”
นักข่าว 2 บอก พลางเปิดไอแพดให้ดู เป็นรูปเพชรกับบุญหลงหลายรูป รูปเพชรจับมือบุญหลงออกมาจากฉาก และเพชรกำลังกระซิบบุญหลง และรูปเพชรแค่มองแล้วยิ้มธรรมดา แต่เหมือนส่งตาหวานให้บุญหลง
“อ๋อ ผมกับบุญหลงเป็นเพื่อนรักกันมานานแล้วครับ”
แฟนคลับสาววาย ร้องกรี๊ด “แอร๊ย...เพื่อนรัก”
แฟนคลับกรี๊ดๆๆ สนั่น
นักข่าว 1 บอก “ช่วยกอดคอกันแล้วชูกำปั้นได้มั้ยครับ”
เพชรกอดคอบุญหลง บุญหลงเกร็งไม่ได้กอดตอบ เพชรเลยต้องจับแขนบุญหลงขึ้นมากอดคอตัวเอง ทั้ง 2 ชูกำปั้น แฟนคลับกรี๊ดโดนใจฝุดๆ
“ขอท่ากำลังชกกันหน่อยค่ะ” นักข่าว 2 บอก
เพชรกับบุญหลงโพสท่าเอาหมัดจ่อไว้ที่หน้า เพชรทะเล้นทำหน้าเบี้ยว พวกแฟนคลับกรี๊ดคอแทบแตก
“พี่คะ หอมแก้มเลยค่ะ”
แฟนคลับตะโกนเชียร์พร้อมกัน หอมแก้มๆๆ
เพชรกับบุญหลงเหวอ
“เฮ้ย นี่มาต่อยมวยหรืออะไรเนี่ย” พริมไม่พอใจ
เสี่ยตุ๋ยหันมาทางแฟนคลับ “ผมว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวจะเลยเถิดเรตอาร์เรตเอ็กซ์ไปเรื่อยๆ”
“พี่ๆ นักข่าวคะ ขอเชิญที่เวทีเลยดีกว่าค่ะ ดิชั้นขอพาเพชรแท้กับบุญหลงไปเตรียมตัวก่อนนะคะ เชิญเลยค่ะ”
“พี่ๆ นักข่าวกับแฟนคลับตามนกฟ้ามาเลยค่ะ”
นกฟ้านำนักข่าวกับแฟนคลับไปทางหนึ่ง
แก้วแหวนกับเสี่ยตุ๋ย นำเพชรกับบุญหลงไปอีกทางหนึ่ง
เหลือพริมกับไข่เค็มไม่รู้จะไปทางไหน
“พี่พริม แล้วเราจะไปทางไหนดี”
“เราก็ต้องตามเพชรกับบุญหลงไปสิ เราเป็นพี่เลี้ยงนะ”
พริมกับไข่เค็มตามสองหนุ่มไป
เพชรเปลี่ยนชุดเป็นนักมวยเรียบร้อยแล้ว และกำลังวอร์ม ยืดเส้นยืดสาย พริมเข้ามาหา
“เพชร”
“พริม นึกว่าวันนี้จะไม่มีพี่เลี้ยงซะแล้ว”
“ชั้นไม่ปล่อยให้เธอทำเสียชื่อ ศ.อรชร หรอก”
เพชรหยิบผ้าพันมือยื่นให้พริม พริมรับมาบรรจงพันมือให้ เพชรมองพริมอย่างใกล้ชิด ซาบซึ้ง เมื่อพันเสร็จทั้ง 2 ข้าง พริมสวมนวมให้เพชรจนเสร็จ ตรวจดูความเรียบร้อย
เพชรมองซึ้งไม่วางตา
อ่านต่อหน้า 2
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 19 (ต่อ)
ด้านบุญหลงใส่เสื้อแขนกุดอยู่ กำลังพันผ้าพันมือด้วยตัวเอง ได้ไข่เค็มนวดไหล่ให้
“พี่บุญหลงสู้นะ หนูเชียร์พี่อยู่นะจ๊ะ”
“อย่ามาทำเป็นพูดเลย เมื่อกี้ชั้นก็เห็นแกพูดกับเพชรแบบนี้”
“แหม ชั้นก็เชียร์ทั้ง 2 คนแหละจ้ะ”
“แล้วนี่พริมไปไหน รอดูอยู่ข้างนอกเหรอ”
“เปล่าจ้ะ พี่พริมไปดูพี่เพชรอยู่”
บุญหลงสะอึก นกฟ้าเข้ามาพอดี
“คุณบุญหลงคะ เสี่ยเชิญทางนี้หน่อยค่ะ”
บุญหลง งงๆ ลุกไป ไข่เค็มจะตามไปด้วย
“หยุดเลยอีเด็กผี ไม่ต้องตามไป รออยู่นี่แหละ”
ไข่เค็มเซ็ง
เสี่ยตุ๋ยนั่งรออยู่ที่โต๊ะทำงาน นกฟ้านำบุญหลงเข้ามาในห้อง
“นั่งสิ”
“มีอะไรเหรอครับเสี่ย”
เสี่ยตุ๋ยยื่นเชคเงินสด ที่เขียนจำนวนเงินไว้ 100,000 บาท และเซ็นชื่อไว้แล้ว ช่องผู้รับเงินว่างไว้
“เชคนี่มูลค่า 1 แสนบาท ชั้นเซ็นชื่อไว้แล้ว รอแต่ให้คุณมาเขียนชื่อลงไปเท่านั้น”
บุญหลงงง “หมายความว่ายังไงครับ เสี่ยจะให้เงินผมค่าอะไร”
“ค่าแพ้ไง”
บุญหลงตกใจ
“การต่อยครั้งนี้ ผมอยากให้คุณแพ้”
“ทำไมล่ะครับ ทำไมต้องอยากให้ผมแพ้ด้วย”
“มันเป็นเรื่องของธุรกิจ อย่าถามมากเลย คุณก็แค่แพ้ แล้วก็รับเงินไปแสนนึง เข้าใจง่ายๆ”
บุญหลงคิดเครียด
เวลานั้นแก้วแหวนแต่งชุดเท่ แต่ก็ยังดูสง่าและแฝงความเซ็กซี่ ทำหน้าเป็นโฆษกของงานวันนี้
บนเวทีแสงยังมืดสลัว กระทั่งเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจกระหึ่มขึ้น ไฟฟอลโล่เปิดพรึบจับที่แก้วแหวนกลางเวที
“ขอต้อนรับผู้ชมทางบ้านและที่เวทีแห่งนี้เข้าสู่การแข่งขันชกมวยระดับตำนาน ไทยไฟต์”
เสียงคนดูโห่ร้องรับแก้วแหวนตลอดเวลา
“ผู้ชนะ จะได้ชกกับแชมป์จากประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อชิงเงินรางวัล 2 ล้านบาท นักชกคนแรก พระเอกลิเกตาหวานหน้าคมจากราชบุรี ไม่ได้มีดีแค่หมัดหนัก แต่ความหล่อยังกระชากใจสาว เจ้าของฉายาลิเกหมัดสั่ง เพชรแท้ ศ.อรชร!”
ฟอลโล่จับที่เพชรสวมเสื้อคลุมออกมา โบกไม้โบกมือ มีพริมเดินตามหลังเป็นพี่เลี้ยง คนดูกรี๊ดกร๊าด กล้องถ่ายรูป กล้องมือถือถ่ายภาพพรึบพรับ
“และคู่ต่อสู้ของเขาก็คือ นักชกคนยาก จากเด็กวัดสู่นักมวยยอดฝีมือ ใจซื่อหน้า หล่อไม่แพ้กัน บุญหลง ศ.อรชร!”
บุญหลงสวมเสื้อคลุมเดินดุ่มๆ ออกมาจากทางหนึ่ง สีหน้าเข้ม มุ่งมั่นไม่วอกแวก มีไข่เค็มเดิมส่ายอาดๆ วางมาดท่าเท่เป็นพี่เลี้ยงใหญ่
คนดูกรี๊ดกร๊าด แสงแฟลชถ่ายรูปพรึบพรับไม่แพ้เพชร
แก้วแหวนทำหน้าที่ต่อ “ศิษย์จากสำนักเดียวกัน แต่ต้องมาสู้กันเอง งานนี้ใครจะชนะ ไฟท์นี้ห้ามกระพริบตา”
เพชรกับบุญหลงขึ้นเวที คนละมุม บุญหลงเห็นว่าพริมอยู่ฝั่งเพชรก็น้อยใจ พริมถอดเสื้อคลุมให้เพชร ไข่เค็มถอดเสื้อคลุมให้บุญหลง
เสียงปี่กลองดังเร้าใจขึ้นมา เพชรกับบุญหลงไหว้ครู สองหนุ่มไหว้ท่าเดียวกัน พร้อมกัน แต่หันหน้ากันไปคนละด้าน ขณะไหว้ครูแล้วต้องหันมาประจันหน้ากัน เพชร กะ บุญหลงสบตากันเอาจริง คนดูกรี๊ด
แก้วแหวน ลงมานั่งข้างเสี่ยตุ๋ยที่หน้าเครียด อยู่ที่นั่งมุมหนึ่ง สักครู่นกฟ้าเข้ามาหา
“เสี่ยคะ ทางช่องโทร.มาบอกว่า เรตติ้งตอนนี้พรุ่งกระฉูดทะลุเพดานเป็นประวัติการเลยค่ะ”
เสี่ยตุ๋ยหมั่นไส้ “อย่ากระฉูดมาก เดี๋ยวเส้นเลือดในสมองชั้นจะแตกซะก่อน รอดูไป ของอย่างนี้มันไม่แน่”
พูดจบเสี่ยตุ๋ยหันไปทำหน้าเครียด
อีกฟาก ที่ห้องซ้อม ของค่ายเอฟ มิวสิค ขนุนกำลังดูเนื้อ ฝึกร้องเพลง “เปิดใจสาวแต” อย่างสนุกและมัน เจ๊แหม่ม กะ เชอรี่ ตาดูหูฟัง ท่าทางครุ่นคิดเคร่งเครียด
ขนุนร้องจนจบ พอเห็นหน้าอีเจ๊แหม่มเครียดก็เสียเซล์ฟ
“เอ่อ... เจ๊แหม่มว่ายังไงบ้างคะ”
“หนูลองร้องแบบนี้ซิ” เจ๊แหม่มร้องเพลงเดิม แต่สไตล์แบ๊ว หวาน
ขนุนท้วง “แต่เพลงนี้มันต้องร้องสนุกๆ มันๆ ไม่ใช่เหรอคะ”
“ลองร้องมาก่อน”
ขนุนจำใจร้องตามสไตล์ที่เจ๊แหม่มสาธิตแบบแบ๊วๆ น่ารักๆ ปรากฏว่าอีเจ๊ชอบมวาก
“ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง กระจุ๋งกระจิ๋ง จิงเกอร์เบลล์มากค่ะหนูคินนี่ เอาแบบนี้”
ขนุนหน้าเจื่อน “จริงๆ เหรอคะ”
เจ๊แหม่มพยักหน้าหงึกๆ
ส่วนที่งานไทยไฟต์ ถึงเวลาชก เพชร กะ บุญหลง ถอดมงคลแล้ว มายืนประจันหน้ากันกลางเวที
เพชรบอก “อย่าลืมที่สัญญากันนะ ห้ามออมมือเด็ดขาด”
บุญหลงพยักหน้า
กรรมการสั่ง “ชก”
เพชร และ บุญหลง ฟุตเวิร์ค ดูเชิงกัน ยิงหมัดแหย่ๆ ออกไป
พอสบโอกาส เพชรกับบุญหลงใส่กันเต็มที่ เตะต่อยป้าบๆ พริม กะ ไข่เค็มเสียวไส้ ส่วนแก้วแหวน เสี่ยตุ๋ย และนกฟ้า ลุ้นตัวโก่ง
จนพอเพชรบุญหลงกอดกันตีเข่าคลุกวงใน แฟนคลับร้องกรี๊ดๆๆ
หมดยกที่ 1 เพชร กะ บุญหลงเข้ามุม พริมออกมาดูแลให้น้ำนวดตัวเพชร ไข่เค็มดูแลบุญหลงที่เห็นพริมดูแลเพชรก็น้อยใจ
ยก 2 เพชรบุญหลงต่อยกันดุเดือด เพชรถูกต่อย เตะเข้าจังๆ พริมตกใจมาก เพชรโดนไปอีกดอกหนึ่งล้มลง พริมตะโกนเชียร์สุดเสียง บุญหลงเห็นอาการของพริมที่เป็นห่วงเพชรมากก็สะท้อนในอก
ยก 2 ผ่านไป ยก 3 ผ่านไปอีก ทั้งคู่ต่อยกันสูสีมาก
ช่วงพักยกบุญหลงมองพริมที่ดูแลเพชรอย่างดีไม่วางตา
เริ่มยกที่ 4 บุญหลงเข้าใกล้กระซิบเพชร
“ใช้ไม้ตายเลยสิเพชร”
“ชั้นไม่ใช้กับแกหรอก”
“ไหนว่าจะไม่ออมมือไง”
บุญหลงชกเปรี้ยงโดนหน้าเพชรอย่างแรง จนเพชรลงไปกอง
พริมตกใจ ร้องบอก “เพชร! ลุกขึ้น ลุกขึ้น แพ้ไม่ได้นะเพชร”
บุญหลงเห็นพริมเชียร์เพชรออกหน้าก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด เพชรลุกขึ้นมาชกต่อ แต่โดนไปอีกหลายหมัด
ร่วงตลอด เสี่ยตุ๋ยชักเครียด
“อะไรของมันวะ ถ้าบุญหลงชนะละก็ชิบหายเลยนะ”
เสียงระฆังหมดยกที่ 4 พริมรีบเข้มาดูเพชร และให้น้ำ
“เพชร อีกนิดเดียว อีกยกเดียวเอง คิดถึงเงินรางวัลไว้ คิดถึงคณะลิเกไว้สิเพชร”
บุญหลงมองอยู่ตลอด ไข่เค็มเข้ามาให้น้ำทำหน้าที่โค้ชเวอร์ๆ
“พี่บุญหลง มาถูกทางแล้ว อีกนิดเดียวร่วงแน่ๆ ขอแม่นๆ อีก 2-3 ทีนะ”
เข้ายกที่ 5 เพชร กับ บุญหลงดูเชิงกันก่อน
ทั้งคู่เข้าใส่กันป๊าบๆ บุญหลงกันได้ทุกหมัด เพชรใช้วิชาหมัดสั่งขั้นเทพ เกิดกระกายไฟขึ้นที่หมัด เพชรชกรัวๆๆๆ บุญหลงหลบได้หมด เพชรปล่อยหมัดสุดท้ายเป็นหมัดฮุค
บุญหลงยกการ์ดขึ้นกัน พริมลุ้นมาก บุญหลงลดการ์ดลงนิดนึง โดนหมัดเพชรเข้าไปจังๆ บุญหลงกระเด็นลงนอน
กรรมการนับ เพชรยืนดูอย่างเป็นห่วง พริมดีใจ, คนดูโห่ร้อง
บุญหลงแกล้งทำตาปรือขึ้นมาดู
ไข่เค็มเรียก “ลุกสิพี่บุญหลง ลุก”
“ไอ้หลง ลุกขึ้นมา ชั้นรู้ว่าแกยังไหว อย่าสำออยน่า ไอ้หลง” เพชรเรียกเร่ง
กรรมการนับ 10 คนดูโห่ร้องชอบใจที่เพชรชนะ
เพชรรีบเข้าไปดูบุญหลง พริม ไข่เค็มเข้าไปช่วยพยุงบุญหลงขึ้น เสี่ยตุ๋ย นกฟ้าดีใจ
แก้วแหวนประกาศ “และแล้วพลังหมัดสั่งก็ยังคงมนต์ขลังอีกครั้ง แชมป์ไทยไฟต์ปีนี้นี้ได้แก่ เพชรแท้ ศ.อรชร!”
กรรมการชูมือให้เพชรชนะ
เสี่ยตุ๋ยขึ้นมามอบเข็มขัด นักข่าวถ่ายภาพ แฟนคลับทำหน้าที่ กรี๊ดๆๆ คอแทบแตก
อ่านต่อหน้า 3
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 19 (ต่อ)
ส่วนที่ห้องซ้อมค่ายเอฟ มิวสิค ขนุนใส่ชุดแบ๊ว ทำผม แต่งหน้าแบ๊ว กำลังร้องเพลง “เปิดใจสาวแต” สไตล์แบ๊วๆ เต้นก็แบ๊วจัดเต็ม สวยใสไร้สติ เจ๊แหม่มดูพอใจมาก เชอรี่ดูไปแกนๆ งั้นๆ
จู่ๆ รักษ์เปิดประตูเข้ามา ขนุนตกใจ รักษ์เห็นสภาพขนุนก็ตาโตตกใจมาก
“อุ๊ย คุณเป็นใครคะ เข้าไม่ได้นะคะ ศิลปินกำลังซ้อมอยู่ค่ะ” เชอรี่ร้องโวยวาย
ขนุนตะลึง “พี่รักษ์”
เจ๊แหม่มงง “อ้าว รู้จักกันด้วยเหรอ”
“ค่ะ พี่ชายคินนี่เองค่ะ ขอตัวแป๊บนึงนะคะ”
ฟากพริมลากเพชรเข้ามาในมุมลับตาคน ทั้งคู่กระโดดกอดกันกลมอย่างดีใจ
“เพชร ความพยายามของเธอสำเร็จแล้วนะ ดีใจด้วยนะเพชร”
“ถ้าไม่ได้พริม มันก็ไม่สำเร็จหรอก จริงๆ แล้วมันเป็นความสำเร็จของเธอด้วยนะที่เคี่ยวเข็ญชั้นจนมาถึงวันนี้”
พริมกำลังบิดเป็นงู เขินที่ถูกเพชรชม แก้วแหวนเข้ามาขัด
“คุณเพชร ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ถ้าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วขอเชิญที่ห้องคุณพ่อหน่อยนะคะ มีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลยค่ะ”
แก้วแหวนยิ้มให้เพชร โดยไม่ได้สนใจพริมเลย จากนั้นก็เดินออกไป
“พวกเค้าต้องเรียกไปคุยเรื่องเงินรางวัลแน่ๆ เลย ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ”
เพชรออกไปเลย พริมมองตามหงอยๆ
ขนุนงอนไม่หาย แม้รักษ์จะงอนง้อมาสักระยะแล้ว สองคนแอบคุยกันอยู่มุมหนึ่งของค่ายเอฟมิวสิค
“พี่รักษ์ตามขนุนมาถูกได้ยังไง”
“พี่เห็นประกาศรับสมัครนักร้องในหนังสือพิมพ์ที่ขนุนเคยพูดถึง แล้วพี่รู้จากพี่แฉะกับลูกดอกว่าขนุนเข้ากรุงเทพมากับพวกเพชรพวกพริมด้วย พี่ก็เลยเดาว่าขนุนน่าจะอยู่ที่นี่น่ะ”
“แล้วไม่อยู่เฝ้ากิจการร้านโอ่งของตระกูลแล้วเหรอ” ขนุนเหน็บแนม
“ก็พี่รู้ว่าขนุนจะต้องเข้ามาคัดนักร้องคนเดียวแน่ๆ พี่ก็เลยเป็นห่วงน่ะสิ แล้วพี่ก็อยากอยู่กับขนุน ในวันที่ฝันขนุนใกล้จะเป็นจริง”
“อยากอยู่กับขนุน ในวันที่ฝันใกล้เป็นจริง แล้วที่อยู่ๆ พี่รักษ์ก็ทิ้งขนุนไปขายโอ่งโดยไม่บอกกล่าวกันซักคำ ทำแบบนี้แปลว่าอะไร”
“ก็พี่จำเป็นต้องไปจริงๆ”
“แล้วรู้มั้ยว่าพี่รักษ์ก็จำเป็นกับขนุนมากเหมือนกัน ขนุนตัวคนเดียว ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ซ้อมร้องก็ซ้อมคนเดียว มาสมัครก็มาคนเดียว ในเวลาที่ขนุนต้องการใครสักคนอยู่ข้างๆ แต่ไม่มีเลย”
“พี่ขอโทษ พี่ยอมรับผิด แต่วันนี้พี่ก็มาแล้วนะ”
“สายไปแล้ว ขนุนไม่ไว้ใจพี่รักษ์อีกแล้ว ไม่รู้ว่าพี่รักษ์จะหายไปขายโอ่งอีกเมื่อไหร่ ขนุนบอกตัวเองแล้วว่าต้องสู้ด้วยตัวคนเดียวให้ได้”
“ขนุน ที่พี่หายไปก็เพราะพี่ทำสัญญากับพ่อว่า ถ้าพี่กลับไปขายโอ่งพ่อจะช่วยปลดหนี้ให้บ้านลิเก แต่พอพี่รู้ว่าขนุนเข้ากรุงเทพฯ พี่ก็ยอมผิดสัญญา พี่ยอมทิ้งเงินที่จะช่วยบ้านลิเกมาหาขนุนนะ”
ขนุนอึ้ง ที่รู้ความจริงว่ารักษ์ยอมทำเพื่อตนมากถึงเพียงนี้
เวลานั้น เพชรนั่งอยู่ตรงหน้าเสี่ยตุ๋ย แก้วแหวน นกฟ้า มีแฟ้มเอกสารหนาเป็นปึกวางตรงหน้าเพชร
“อะไรครับเนี่ย”
เสี่ยตุ๋ยบอก “เซ็นซะสิ เอกสารเกี่ยวกับการจ่ายเงินรางวัล”
เพชรงง “โห เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ ผมอ่านกี่วันจะหมดเนี่ย”
“จะต้องไปอ่านทำไมเล่า มีแต่ภาษากฎหมายน่าเบื่อ ใจความจริงๆ มีนิดเดียว”
“แหม พ่อคะ คนจะเซ็นเอกสารก็ต้องรู้ก่อนสิคะว่ากำลังจะเซ็นอะไร” แก้วหันหันมาทางเพชร “เนื้อหาในเอกสารเกี่ยวกับเงินรางวัลที่เพชรจะได้ แล้วก็งานที่เพชรจะต้องไปออกหลังจากชกกับนักชกจากฟิลิปปินส์น่ะค่ะ”
“งานเหรอครับ หมายถึงงานที่ได้เงินใช่มั้ยครับ”
“ใช่ค่ะ ทางเราจะเป็นคนดูแลจัดการงานให้เพชรทั้งหมดเลยค่ะ”
“ดีเลยครับ เรื่องงานในกรุงเทพฯ ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง ถ้ามีคุณแก้วแหวนมาดูให้ ผมก็สบายใจครับ”
“ด้วยความเต็มใจค่ะ” แก้วแหวนยิ้มหวานเปิดเอกสารหน้าสุดท้าย “เซ็นตรงนี้เลยค่ะ”
เพชรหยิบปากกา แล้วเซ็นชื่อโดยไม่อ่านใดๆ
เสี่ยตุ๋ย สบตา แก้วแหวน และนกฟ้า สามคนยิ้มชั่วสมใจ
รักษ์ กะ ขนุน เดินเข้ามาหน้าอพาร์ตเม้นต์
“ขนุนต้องขอโทษพี่รักษ์ด้วยนะ ที่ขนุนโวยวายใส่”
“พี่ก็ขอโทษขนุน เอาเป็นว่าเข้าใจกันแล้ว เราก็ดีกันได้แล้วนะ”
ขนุนพยักหน้า ยิ้มรับ
“แล้วนี่กะว่าจะบอกคนอื่นๆ เมื่อไหร่ ว่าขนุนไปเป็นนักร้อง”
“ไม่รู้เหมือนกัน ยังหาโอกาสเหมาะๆ ไม่ได้ซะที”
“พี่ว่าต้องบอกให้เพชรกับพริมรู้ก่อนเลย เพราะว่าจะได้ไม่เป็นห่วงว่าขนุนหายไปไหนทุกวัน แล้วจะได้ช่วยหาทางอธิบายกับพ่อกับน้าอรด้วย”
“เอางั้นเลยเหรอ แล้วถ้าพี่พริมเค้ารับไม่ได้ล่ะ”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว เดี๋ยวพี่ช่วยพูดให้”
ขนุนยังกังวลอยู่ไม่คลาย
บุญหลงนั่งเหงาๆ เศร้าๆ อยู่คนเดียวในห้องเก็บตัว
ภาพใกล้ชิดของพริมกะเพชรผุดขึ้นมาหลอกหลอน ทั้งพริมร้องเชียร์เพชรตลอดๆ ทำหน้าหวาดเสียวเมื่อเพชรถูกต่อย พักยกพริมเข้าไปดูแลเพชร และมองอย่างห่วงใยเมื่อเพชรถูกเขาชก
บุญหลงจมอยู่ในความเศร้านิ่งนาน
ขณะเดียวกันไข่เค็มลากแขนพริมไปตามทางเดิน
“มาเร็วพี่พริม พี่บุญหลงเสียใจใหญ่แล้ว”
“เออจริงด้วย ลืมนึกถึงบุญหลงไปเลย”
บุญหลงเอาแต่เหม่อ จนมือเสี่ยตุ๋ยตบลงบนไหล่ บุญหลงสะดุ้งหันมาเห็นเสี่ยตุ๋ยกับนกฟ้า
“แนบเนียนมากไอ้หนู”
เสี่ยตุ๋ยรับซองมาจากนกฟ้า แล้วยื่นให้บุญหลง
“ค่าแพ้ ที่เราตกลงกันไว้”
พริมกับไข่เค็มเห็นเหตุการณ์เต็มตา มองอึ้งตะลึงตะไลกันอยู่ พริมรีบฉากตัวหลบออกมา นึกถึงตอนที่เพชรจะต่อยบุญหลง แล้วบุญหลงลดการ์ดลงนิดหนึ่ง ทำให้โดนหมัดสั่งไปเต็มๆ
พริมแค้นมากโกรธมากที่บุญหลงล้มมวย
“พี่พริม ทำไมเสี่ยต้องให้ค่าแพ้พี่บุญหลงด้วย ...หรือว่า!”
“ไม่ต้องพูดแล้วไข่เค็ม”
พริมจูงไข่เค็มออกไปด้วยความโกรธ
พริมนั่งลงอย่างโมโห
“พี่พริม ทำไมพี่บุญหลงทำแบบนี้ ทำมีพี่บุญหลงต้องยอมล้มมวยด้วย”
“หยุดพูดได้แล้วไข่เค็ม”
“แล้วพี่พริมจะปล่อยไว้อย่างนี้เหรอ”
พริมคิดเครียด
“ไข่เค็ม รอเพชรอยู่ที่นี่นะ พี่จะไปคุยกับบุญหลง แล้วอย่าให้เพชรรู้เรื่องนี้เด็ดขาด”
พริมลุกออกไป
เย็นแล้ว ขณะบุญหลงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า พริมเข้ามา จับบุญหลงพลิกตัวมาแรงๆ
“หลง! ตอบชั้นซิ จุดหมายของนักมวยคืออะไร”
บุญหลงมองงง “อะไรกันเนี่ยพริม”
“ตอบชั้นมา! จุดหมายของนักมวยคืออะไร”
“ก็คือชัยชนะไง”
“หน้าไม่อาย ยังกล้าตอบอีกเหรอว่าชัยชนะ เธอควรจะตอบว่าเงินต่างหาก”
“พริมพูดถึงอะไร ชั้นไม่เข้าใจ”
“เธอทรยศต่ออาชีพนักมวย เธอรับเงินเสี่ยเพื่อยอมแพ้เพชร เธอไม่สมควรจะเป็นนักมวยค่าย ศ.อรชร เธอควรจะเลิกการเป็นนักมวยเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะเป็นนักมวยอีกแล้ว!”
หลงจับตัวพริมไว้
“พริม ฟังชั้นก่อน เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่พริมคิดนะ”
บุญหลงเล่าว่า ตอนที่บุญหลงเหม่อ จนเสี่ยตุ๋ยตบไหล่ ทำเอาบุญหลงสะดุ้งหันมาเห็นเสี่ยตุ๋ยกับนกฟ้า
“แนบเนียนมากไอ้หนู”
เสี่ยตุ๋ยรับซองมาจากนกฟ้า แล้วยื่นใหบุญหลง
“ค่าแพ้ ที่เราตกลงกันไว้”
บุญหลงนิ่งอยู่สักพักหนึ่ง “ขอบคุณนะครับ”
บุญหลงผลักมือเสี่ยออก “แต่ผมไม่เอา”
“เอาไปเถอะน่า อย่าทำตัวเป็นพระเอกไปหน่อยเลย ไม่มีใครเห็นหรอก”
“ขอโทษทีครับ ผมโตมากับวัด หลวงพ่อสั่งสอนให้ผมละอายต่อบาป”
“คุณทำงานตามที่ผมสั่ง ผมก็ให้เงินตอบแทนคุณ ก็ถูกต้องแล้วนี่ ผิดตรงไหน”
“ที่ผมแพ้ ไม่ใช่เพราะเงินของคุณ คุณอาจจะใช้เงินซื้ออะไรก็ได้ แต่ซื้อผมไม่ได้”
เสี่ยตุ๋ยงงไปชั่วขณะ แล้วยิ้มชมน้ำใจนักมวยคนซื่อ
อ่านต่อหน้า 4
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 19 (ต่อ)
พริมฟังบุญหลงเล่ามาถึงตรงนี้อาการอึ้งๆ
“แต่ตอนแข่ง ชั้นเห็นว่าเธอลดการ์ดลง ทั้งๆ ที่ฝีมืออย่างเธอ หมัดแค่นี้กันได้ไม่ยาก มันหมายความว่ายังไง”
บุญหลงอึกอัก ไม่คิดว่าพริมจะจับได้ บุญหลงเงียบไปนาน
“ตอบมาสิหลง เธอยอมแพ้เพชรทำไม!”
“ก็ชั้นอยากให้เพชรชนะ”
“ก็แล้วทำไมล่ะ”
“อย่าถามได้มั้ยพริม เธอเองก็อยากให้เพชรชนะไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ชั้นอยากให้เพชรชนะ แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีให้เธอยอมแพ้ เธอก็บอกเองว่าจุดหมายของนักมวยคือชัยชนะ”
“แต่จุดหมายของชั้นคืออยากให้พริมมีความสุข”
พริมประหลาดใจ นิ่งงันไป
“ชั้นจะเอาชัยชนะไปทำไม ถ้าชนะแล้วต้องเห็นพริมเศร้า เห็นพริมผิดหวัง ชั้นยอมแพ้ เพื่อจะได้เห็นรอยยิ้มของพริมไง”
พริมอึ้ง “หลง...”
ทางฝ่ายไข่เค็มกำลังขบคิดหนัก หัวแทบระเบิด
“ทำไมพี่บุญหลงทำแบบนี้นะ แล้วถ้าพี่เพชรรู้เข้า จะเกิดอะไรขึ้น พี่เพชรก็ต้องโกรธน่ะสิ โอ้ย แย่แล้วแย่แล้ว”
เพชรเดินร่าเริงเข้ามา “ไข่เค็ม”
ไข่เค็มสะดุ้ง “จ๋า...”
“พริมไปไหนล่ะ”
“พี่พริม... พี่พริมไปหาพี่บุญหลงจ้ะ”
“จริงด้วย ยังไม่ได้ไปดูไอ้หลงเลย เป็นไงมั่งก็ไม่รู้ ไปดูมันหน่อยดีกว่า”
เพชรจะออกไป ไข่เค็มดึงแขนไว้
“อย่าเพิ่งไปจ้ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“เอ่อ เรามาเก็บข้าวของเตรียตัวกลับกันก่อนดีมั้ย”
“เก็บแป๊บเดียวก็เสร็จ เดี๋ยวกลับมาค่อยเก็บก็ได้ ไปดูไอ้หลงก่อน”
เพชรจะไป ไข่เค็มดึงไว้อีก “อย่าเพิ่งจ้ะ”
เพชรเง็ง “อะไรอีกล่ะ”
“หนู หนู” เด็กผมม้าเต่อคิดอะไรไม่ออกเลยลงไปชักดิ้นที่พื้นแหงกๆ “หนูจะตายแล้ว หนูโดนวางยาพิษ ช่วยด้วย”
ไข่เค็มดิ้นไปสักพัก จึงค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมามอง แต่ไม่เห็นเพชรแล้ว
“อ้าว พี่เพชร แผนนี้ใช้ไม่ได้ผลเหรอเนี่ย”
ไข่เค็มรีบวิ่งตามไป “พี่เพชรกลับมาก่อน”
เพชรเดินมาถึงหน้าห้องพักบุญหลง ไข่เค็มตามมาดึงไว้อีก
“พี่เพชร อยู่กับหนูก่อนนะ หนูเหงา”
“ไอ้ไข่เค็ม ถ้าแกยังกวนชั้นไม่เลิก ชั้นจะเตะแกกระเด็นกลับค่ายเมฆดำเลยนะ”
ไข่เค็มจ๋อย ยอมปล่อยมือ เพชรเข้าไปในห้องเก็บตัวบุญหลง
“บุญหลง เป็นไงบ้างวะ”
เพชรพบว่าภายในห้องว่างเปล่า ไม่มีใคร ไข่เค็มตามมา
“อ้าว ไข่เค็ม ไหนแกบอกว่าพริมกับบุญหลงอยู่ห้องนี้ไง”
“แหะๆ ไม่รู้เหมือนกัน”
ไข่เค็มโล่งอก
พริมกับบุญหลงเดินอยู่ด้วยกันในสวนสวยด้านนอกสถานที่แข่ง
“ที่เธอยอมแพ้เพชรเพราะอยากเห็นชั้นยิ้ม รอยยิ้มของชั้นมีค่ากับเธอขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ของมีค่าในชีวิตมันไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง หรือของมีแพงๆ หรอก แต่มันเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆของคนรอบตัวชั้นเนี่ยแหละ โดยเฉพาะพริม”
“ทำไมต้องชั้นด้วย”
“ก็เพราะพริมคือคนที่ใกล้ชิดชั้นที่สุดไง ถ้าพริมมีความสุข ชั้นก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย พริมก็รู้ว่าชีวิตชั้นไม่มีใครเลย ถ้าไม่ให้ชั้นแคร์พริม แล้วชั้นจะไปแคร์ใครล่ะ”
พริมรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีบุญหลง และสิ่งที่เขาจะสื่อมาให้ ได้แต่มองบุญหลงนิ่ง
ค่ำนั้น เพชร พริม รักษ์ ขนุน บุญหลง ไข่เค็ม ล้อมวงกินข้าวบนดาดฟ้าตึก ทุกคนเอาแก้วน้ำหวานชนกันตรงกลางร้อง “เย่”
“ขอดื่มให้กับความตั้งใจและความสำเร็จของเพชรแท้ ศ.อรชร” รักษ์ร้องนำ
“พี่รักษ์น่าจะมาทันเห็นชั้นชกกับบุญหลง มันมากเลยพี่ ชั้นนี่เกือบร่วงไปตั้งหลายที”
“เสียดายเหมือนกัน จริงๆ พี่มาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ แต่ว่าเป็นห่วงขนุน เลยไปตามหาขนุนก่อน”
พริมงง “จะเป็นห่วงขนุนทำไม ไปเที่ยวเล่นหาเพื่อนได้ทุกวัน จนจะกลายเป็นคนกรุงไปแล้ว”
รักษ์มองหน้าขนุน เป็นเชิงบอกว่าถึงเวลาจะบอกความจริงแล้ว รักษ์พยักหน้าให้ขนุนเป็นฝ่ายพูด
“จริงๆ แล้วชั้นไม่มีเพื่อนอยู่กรุงเทพฯ หรอกจ้ะ แต่ชั้นไป...ชั้นไปสมัครเป็นักร้องที่ค่ายเอฟมิวสิคมาน่ะจ้ะ แต่...อย่าด่าเพิ่งด่าชั้นเลยนะ อย่าเพิ่งบอกพ่อกับน้าอรด้วยนะ ชั้นขอร้อง”
พริม เพชร บุญหลง ไข่เค็ม มองหน้ากัน ยิ้มขำๆ
ขนุนงง “อ้าว ขำอะไรกัน”
“ขนุน ชั้นรู้จักเธอมาตั้งกี่ปี่แล้ว มีเหรอชั้นจะไม่รู้ว่าเธออยากเป็นนักร้อง เวลาซ้อมมวย ชั้นเห็นเธอเตะต่อยออกมาเป็นจังหวะเพลงทุกทีแหละ”
“ชั้นก็เคยเห็นขนุนแอบฮัมเพลงบ่อยๆ เวลาออกไปวิ่ง” บุญหลงเสริม
เพชรบอกว่า “แล้วพวกเราก็รู้แล้วด้วยว่าขนุนไปสมัครร้องเพลง เพราะพริมแอบเห็นใบประกาศรับสมัครนักร้องในกระเป๋าขนุน”
ขนุนตกใจ “แล้วมีใครบอกพ่อกับน้าอรรึเปล่า”
“พวกเราสัญญากันว่า จะไม่มีใครบอกเรื่องนี้ให้น้าชาติกับน้าอรรู้ เพราะเรารู้ว่านี่มันคือความใฝ่ฝันของเธอ ชั้นรอแค่ว่าเมื่อไหร่เธอจะบอกเราเท่านั้นแหละ”
ขนุนซึ้งใจจนน้ำตาไหล โผเข้ากอดพริม
“ขอบใจมากนะทุกคน ชั้นจะทำให้ดีที่สุด ชั้นจะต้องเป็นนักร้องให้ได้แล้วพอถึงวันนั้น ชั้นจะไปบอกพ่อกับน้าอรเอง”
“พี่ขนุนต้องเป็นนักร้องดังๆ ให้ได้เลยนะ ไข่เค็มจะเป็นแฟนคลับคนแรกเลย” ไข่เค็มบอก
ขนุนแกล้งตะโกนดังลั่น “ย๊าก! ดังพอรึยัง”
ทุกคนหัวเราะเฮฮา แล้วเชื้อชวนกันกินข้าวเฮฮาปาร์ตี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความรัก และความอบอุ่นที่ทุกคนมอบให้กัน
อ่านต่อตอน 20