xs
xsm
sm
md
lg

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 14

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 14

พริมวิ่งเข้ามาในห้องเก็บชุดบ้านลิเก เปลี่ยนชุด ถอดเครื่องประดับออกด้วยความคับแค้นใจ มีจริยาวิ่งตามมาท่าทีห่วงใย
“พริม”
“ไม่ต้องพูดแล้วพี่จริยา ที่ฉันทำกับเพชร มันคงแรงเกินไป จนเพชรไม่มีทางให้อภัยฉันแล้วล่ะ ให้ฉันรำจนแขนหัก ร้องจนเสียงแหบ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
“แต่...”
“ฉันคงต้องยอมให้น้าอรด่า ยอมให้เพชรโกรธฉันต่อไป”
พริมเศร้าหนัก หยิบชุดตัวเองวิ่งออกไปเปลี่ยน จริยาโมโหตะโกนตามหลัง
“แต่ฉันยังจะได้สูตรลดน้ำหนักใช่ไหม”
รักษ์เดินผ่านมาเห็นพริมแวบๆ
“เฮ้ย ใครอะ”
แฉะ ลูกดอก เข้าบ้านมา
“มีคนมาสมัครเป็นนางเอกเหรอ” รักษ์ถาม
แฉะจำได้ “นั่นพริม หลานแม่อรชรน่ะ”
“อ้าว ท่าจะติดใจอยากเป็นนางเอกลิเกต่อล่ะสิ” รักษ์แซว
“น่าจะเข็ดแล้วมากกว่านะ” ลูกดอกบอก
“ทำไมล่ะ” รักษ์งง
“ถามพี่เพชรดูละกัน”

ทันทีที่เจอหน้า รักษ์ลากแขนเพชรมาซักฟอกทันที
“เพชร! แกไปแกล้งพริมเขาใช่ไหม”
“แกล้งเกลิ้งอะไร ยัยนั่นสมควรโดนแล้วต่างหาก”
“ฉันไม่รู้ว่าพริมทำไรแก แต่ที่รู้คือแกไม่ควรทำแบบนี้ พริมเขาตั้งใจมาขอโทษ แล้วแกยังจะเอาอะไรอีก”
“ฉันยกโทษให้เขาตั้งนานแล้ว แต่มันสนุกอ่ะ ยัยพริมจะได้รู้ไง ว่าเวลาฝึกฉันหนักๆ ฉันต้องทนอะไรบ้าง” เพชรบอก
“แล้วแกรู้บ้างไหม ว่าพริมเขาต้องทนอะไรบ้าง ตลอดเวลาที่เขาฝึกแก”
“ก็...ไม่รู้อะ พี่รู้เหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
เพชรเซ็ง “เอ้า”
“ก็เพราะเราไม่รู้นี่ไง เราเลยไม่มีสิทธิ์ไปว่าว่าเขาทำเพื่อแกล้งเราเล่นๆ เหมือนกับที่แกแกล้งเขาอยู่เนี่ย”
“จริงๆ ฉันก็รู้ว่าพริมเขาหวังดี แต่บางทีก็เกินไปป้ะ”
“ไม่เท่าที่แกแกล้งเขาหรอก”

พริมเดินออกมาจากข้างกำแพงที่ซ่อน ได้ยินทั้งหมดที่เพชรพูด รีบวิ่งกลับค่ายไปเลย

เพชรเดินกลับค่ายมาได้ยินเสียงโห่ฮาจากลานซ้อมมวย จึงรีบเข้ามาดู เห็นบุญหลง เอื้อย จับพริมอยู่ พริมพยายามดิ้น นักมวยคนอื่นๆ มามุงกันเต็ม

“เกิดไรขึ้นอ่ะ”
“พริมบ้าไปแล้ว”
บุญหลงโมโห “เพราะแกนั่นแหละ”
พริมโวยวายดิ้นหนี “ปล่อยนะ ฉันจะไปหาเพชร”
“เฮ้ยๆ อย่าปล่อยนะ พริมใจเย็นๆ”
“เธอไม่ยกโทษให้ฉันใช่ไหม”
“เอ่อ…”
“ดี! ฉันคงต้องงัดไม้ตายสุดท้ายแล้ว”
พริมสะบัดทุกคนออก
เพชรผวาร้องลั่น “อย่า” พร้อมกันนั้นเพชรยกมือป้องหน้าตัวเอง
“ฉันจะฆ่าตัวตาย”
พริมถลันมากอดแขนเพชรหมับ
“ห๊ะ”
“ถ้าเพชรไม่ให้อภัยฉัน ฉันจะฆ่าตัวตาย” พริมแกล้งร้องไห้โฮๆ “ฉันจะชกตัวเองให้ตายไปเลย”
เพชรรำพึงชอบอกชอบใจ “เฮ้ย ได้ผลเกินคาดเว้ย”
บุญหลงขอร้อง “เพชร ยกโทษให้พริมเถอะ”
เพชรยิ่งเล่นตัว ได้ใจ “แหมๆ เห็นพริมจริงจังขนาดนี้ จะยกโทษให้ก็ได้”
พริมดีใจ “จริงเหรอ”
“แต่มีข้อแม้นะ เพื่อเป็นการแสดงว่าเธอขอโทษฉันอย่างจริงใจ เธอต้องเอาใจฉันแบบนี้ไปตลอด เธอต้องห้ามดุด่าฉันแล้ว เข้าใจไหม”
พริมรับคำ “ได้สิ ฉันจะไม่ดุเพชรแล้ว”
“ดีมาก”
พริมเปลี่ยนโหมดเป็นโหดทันควัน “แต่จะต่อยแทน”
“อะไรนะ”
ไม่ทันมีใครคาดคิด พริมชกเพชรกระเด็นลงไปกองคาพื้น ทุกคนอึ้ง เงียบกันไปทั้งแถบ

ไม่นานต่อมา เพชรนอนอยู่บนแคร่ในค่าย ค่อยๆ ลืมตามา เห็นบุญหลงมองอยู่
“ไหวไหมเพชร”
เพชรลุกขึ้นมามึนอยู่ “พ...พริม นี่มันอะไรอ่ะ”
“ก็ขอโทษอย่าง จริงใจ ไง ชอบไม่ใช่เหรอ”
“จริงใจไงเนี่ย โอย”
“ก็ใจจริงฉันอยากชกนาย ก็เลยชกไง ฉันรู้หมดแล้ว เรื่องที่เธอแกล้งปั่นหัวฉัน ให้ฉันเป็นตัวตลกน่ะ สนุกมากใช่ไหม”
“เฮ้ย ใจเย็นดิ ฉันไม่ได้เห็นเธอเป็นตัวตลกนะ ก็แกล้งกันขำๆ แบบเพื่อนอ่ะ”
“ใครเป็นเพื่อนเธอ”
เพชรนิ่งงันไป
“เราไม่ใช่เพื่อนกัน และไม่มีวันเป็นด้วย”
เพชรน้อยใจ “ได้ ต่อไปนี้ ฉันก็เป็นแค่นักมวย ส่วนเธอก็เป็นพี่เลี้ยง”
“ไม่ใช่อีกแล้ว ฉันจะไม่สอนมวยให้กับคนที่เห็นเดิมพันของค่ายเป็นแค่เรื่องเล่นๆ หรอกนะ เชิญเธอกลับคณะลิเกไปเถอะ”
บุญหลงอึดอัด “ถ้าเพชรไป แล้วเรื่องการแข่งล่ะ ทำไง”
“ฉันจะเป็นคนกู้หน้าให้ค่ายศ.อรชรเอง ฉันจะไปท้าแข่งกับคนของค่ายเมฆดำ ไม่หวังพึ่งคนนอกอย่างเธออีกต่อไปแล้ว”

เพชรอึ้งตะลึงตะไล เป็นใบ้ไปเลย เรื่องบานปลายเลยเถิดสถานการณ์พลิก เพราะความขี้เล่นชอบแกล้งของตน

อ่านต่อหน้า 2

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 14 (ต่อ)

เย็นย่ำ ทุกคนรวมตัวที่ลานบ้านลิเก รักษ์ ลูกดอก แฉะ เตรียมซ้อมพร้อมหน้า สำเริงคุมมองหาจริยา ไม่เจอก็เลยบ่น

“อ้าว จริยาไปไหนเนี่ย”
“ไม่รู้เหมือนกัน กลับมาก็ไม่เจอเลย” แฉะว่า
“เอาเข้าไป นางเอกก็ไม่มี นางรองยังจะหายไปอีก ต้องเล่นเป็นละครนอก มีแต่ชายล้วนแล้วมั้งเนี่ย”
ระหว่างนี้ยอดสร้อยหอบกะเป๋าเสื้อผ้าข้าวของพะรุงพะรังเดินเข้ามา
“งั้นฉันขอมาสมัครเป็นนางเอกได้ไหม”
ทุกคนมองจ้องยอดสร้อย อย่างไม่พอใจ
“ที่นี่ไม่ใช่เซเว่นนะเว้ย คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป” แฉะบอก
“ไม่เป็นไร ข้าจะเล่นแบบไม่มีนางเอกเนี่ยแหละ” สำเริงว่า
ยอดสร้อยคอตกหน้าเศร้า “งั้นฉันไม่กลับมาเป็นนางเอกแล้วก็ได้ แต่ฉันขอกลับมาช่วยเพชรได้ไหม”
รักษ์มองประเมิน “จะมาไม้ไหนอีก”
“ไม้ตายเลยล่ะ คราวนี้เพชรชนะไอ้จีบันแน่ๆ”
คนลิเกมองหน้ากัน เห็นใบหน้ายอดสร้อยมุ่งมั่นจริงจังมาก

ขณะเดียวกันที่หลังบ้านลิเก จริยาห่อตัวอยู่ในถุงนอนเป็นดักแด้ นอนคว่ำหน้าบนแคร่ ข้างล่างเป็นเตาถ่านร้อนๆ ตามสูตรลดน้ำหนักที่ได้มาจากพริม
“ถ้าไม่ผอมนะ จะไปโวยถึงค่ายเลย ...โอ้ย ไม่ไหวแล้ว...เตานี่ก็จะร้อนไปไหนเนี่ย”
จริยาเอาเท้ายันเตาออกไป แต่ไม่ถึงสักที เลยตกลงมาจากแคร่แบบคว่ำหน้า
จริยาส่งเสียงพูดอู้อี้ๆ เพราะคว่ำหน้าอยู่ “อ้วยอ้วย” ซึ่งหมายถึง “ช่วยด้วย”

ส่วนที่ค่ายมวย พริมฟิตชกมวยอย่างหนัก บุญหลงเข้ามาพร้อมเป้าล่อ
“มา พริม”
“ขอบคุณนะ ถ้าอีตานั่นเป็นแบบหลงก็คงจะดี”
“พริมหมายถึงเพชรน่ะเหรอ”
“อย่าพูดชื่อนี้ได้ไหม”
บุญหลงหยั่งเชิง “พริมจะไม่สนใจเพชรได้จริงๆเหรอ แล้วน้าอรล่ะ พริมคุยกับน้าอรยัง”
พริมส่ายหน้า “น้าด่าแน่นอน”
“ไม่เป็นไรนะ พริมจะผ่านมันไปได้ หลงจะอยู่ข้างพริมเอง”
พริม กะ บุญหลง มองหน้ากัน ยิ้มๆ ให้กัน แล้วซ้อมมวยต่อไป

รักษ์พาเพชรเข้ามาในบ้าน เจอยอดสร้อยนั่งจ๋อยอยู่
“อ่ะ มีอะไรจะพูด ก็พูดมาไอ้เพชรมานี่แล้ว”
“เพชร ฉันขอโทษ ฉันมันโง่เอง ที่ยอมให้ไอ้เมฆดำมันหลอกใช้ จริงๆ ฉันไม่ได้อยากจะทำร้ายใครเลยนะ”
เพชรหูผึ่ง “เดี๋ยวๆ เมฆดำเหรอ? แล้วพี่ยอดสร้อยไปเกี่ยวข้องกับเมฆดำได้ไง”
“ก็ไอ้ผู้ชายที่นังยอดสร้อยมันหนีตามไปน่ะ ก็ไอ้เมฆดำนั่นแหละ” แฉะเฉลย
ลูกดอกเสริม “แต่ตอนนี้เขาไปมีเมียใหม่แล้ว พี่ยอดสร้อยเลยตกกระป๋อง เลยซมซานกลับมาเนี่ย”
“งี้แหละ เมฆดำมีสาวๆ อึ๋มๆ ในสังกัดเยอะจะตาย จอแบนแบบนังยอดสร้อยจะไปสู้เขาได้ไงล่ะ”
ลูกดอกรับลูก “ถูก”
รักษ์เซ็งแทน “เฮ้ย! เกรงใจหน่อย ยอดสร้อยมันก็นั่งหัวโด่อยู่นี่”
“ขอบใจนะรักษ์” ยอดสร้อยยิ้ม
“ไว้ไปนินทาลับหลังโน่น” รักษ์ว่า
ยอดสร้อยเซ็ง “อ้าว”
“แล้วเอ็งกลับมานี่ทำไมนังยอดสร้อย”
“ฉันขอแก้ตัว ฉันจะทำให้เพชรชนะจีบันให้ได้ ฉันรู้จุดอ่อนของจีบันมันดี แค่เพชรทำตามที่ฉันบอก รับรองชนะใสๆ”
เพชรฟังคิดตาม มองหน้าสำเริง รักษ์ สำเริงครุ่นคิดสักพัก แล้วมองหน้ายอดสร้อยเป็นตาเดียวกัน

พริบตานั้นเอง ร่างยอดสร้อยกระเด็นออกมาจากหน้าบ้านลิเก โดยฝีตีนสำเริง
“เอ็งไปเลย มาทางไหน ไปทางนั้นเลยนังยอดสร้อย”
“ฉันมาช่วยนะ!”
“ใครเชื่อก็บ้าแล้ว”
“คราวนี้ฉันพูดจริงนะน้าเริง”
“คราวที่แล้วพวกข้าก็คิดว่าเอ็งพูดจริงเหมือนกัน แล้วเป็นไงล่ะ”
“เห็นชั้นเป็นลูกเป็นหลายเถอะนะ อย่าทำกับฉันแบบนี้เลย”
“เอ็งทำตัวเองต่างหาก เอ็งเคยหักหลังไอ้เพชรแล้วทีนึง แล้วยังจะให้ข้าไว้ใจอีกเหรอ คนอย่างสำเริงไม่ยอมโง่ซ้ำสองหรอกเว้ย”
สำเริงเดินหนีเข้าบ้านไป คนที่เหลือยืนมองยอดสร้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร เดินตามสำเริงเข้าบ้าน
ยอดสร้อยบอกกับตัวเอง “ฉันจะทำให้ทุกคนกลับมาเชื่อใจฉันให้ได้”

เช้าวันต่อมา พริมเดินมาเห็นเพชรออกกำลังกาย วอร์มก่อนซ้อม เพชรหันมาเจอพริมพอดี แต่พริมแก้เก้อเดินหนีไปที่อื่น ขนุนเดินเข้ามาหาเพชร
“ไปง้อเขาสิ”
เพชรชะงัก “รู้เรื่องกะเขาด้วยเหรอ”
“โอ้ย รู้กันหมดแล้ว ยกเว้นน้าอร รีบไปง้อเร็วเข้า เผื่อพี่พริมหายโกรธ จะได้กลับมาฝึกให้ไง”
“ฉันฝึกของฉันเองได้ ไม่เห็นต้องง้อยัยนั่นเลย”
“ถ้าไม่มีคนฝึกให้ น้าอรก็ไม่มีทางให้พี่ลงแข่งแน่ๆ อ่ะ เอาไง ง้อไม่ง้อ”
เพชรลังเล ลำบากใจ

ต่อมา พริมซ้อมมวยอยู่ บุญหลงเป็นคู่ซ้อม
“แล้วพริมจะทำยังไงเรื่องเพชร”
“ใครเหรอ ไม่รู้จัก”
บุญหลงอธิบายเหตุผล “พริม... ถ้าเพชรไม่ได้ลงแข่งน่ะ เรื่องใหญ่แน่ๆ นะ”
“เป็นห่วงเพชรจังเลยนะ”
“ห่วงพริมต่างหาก พริมต้องรับผิดชอบที่จับเพชรลงแข่งแต่แรกนะ จำได้ไหม”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะตอนนี้น้าชาติกับพี่แชมป์ก็หายดีแล้ว เดี๋ยวพริมจะไปคุยให้เขากลับมาสอนเพชรเอง”
เด่น กะ แคน เดินเข้ามา เด่นบอกว่า
“พริม น้าชาติ พี่แชมป์ฝากลานะ”
พริมตาโต “ห๊ะ ลาอะไร ไปไหนกัน”
“แกไปทัวร์ไหว้พระเก้าวัดล้างซวย” แคนบอก
พริมตกใจ “ไม่จริง”
เด่นย้ำ “จริง เนี่ย ฉันกับไอ้แคนเพิ่งไปส่งที่ท่ารถมาเนี่ย”
“ไม่จริง”
“จริงๆ จะหลอกทำไมล่ะ” เด่นย้ำคำ
“ไม่จริ๊ง...”
“จริง เอ้า เชื่อคนยากจัง” เด่นชักเซ็ง
“พวกแกไปซ้อมไป”
เด่น กะ แคน เดินออกไป พริมยังยืนอึ้งอยู่
“แล้วถ้าน้าอรถาม จะตอบไงดีล่ะทีนี้”
อรชรเดินเข้ามาพอดี๊พอดี “ซ้อมให้เพชรไปถึงไหนแล้วพริม”
พริมมึนอยู่ รำพึงว่า “นั่นสิ ตอบไงดี”
พลางพริมหันไปยิ้มให้อรชร
“อ้าว แล้วเพชรไปไหนล่ะ”
อรชรเห็นพริมอ้ำอึ้ง
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“คือ...”
พริมไม่กล้ามองอรชรตรงๆ อรชรมองอย่างคาดคั้น พริมทนไม่ไหว กำลังจะสารภาพ
“คือว่าเพชร”
เพชรวิ่งเข้ามาทันพอดี เหนื่อยหอบแฮกๆ
“วิ่งครบแล้ว โห วันหลังขอวิ่งแค่ 2 รอบได้ไหมอ่ะพริม”
เพชรหันมาหาอรชร ทำเป็นว่าเพิ่งเห็นอรชร
“อ้อ สวัสดีจ้ะน้าอร พริมสั่งให้ซ้อมโหดมากเลย ฟิตกว่าจีบันแล้วมั้งเนี่ย”
พริมงง อรชรยิ้มย่อง
“ดีแล้ว ศักดิ์ศรีของค่ายศ.อรชรอยู่ในกำมือเธอ 2 คนนะ”
อรชรชี้ไปที่พริมและเพชร

พริมยิ้มรับแหยๆ แล้วหันมามองหน้าเพชรที่ยิ้มกว้าง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เพชรเดินเก็บอุปกรณ์เข้าที่ พริมเดินเข้ามาหา

“นึกแล้วว่าเธอยังไม่ได้บอกน้าอร” เพชรเอ่ยขึ้น
“ช่วยฉันทำไม อ๋อ จะมาง้อเหรอ เสียใจ ไม่หายหรอก”
“ใครง้อ ว้าย หลงตัวเอง” เพชรวี้ดว้ายน่าถีบมาก
พริมชักโกรธ “เพชร”
“อะไร”
บุญหลงตีระฆังใส่
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว เหลืออีกแค่ 2 วัน เพชรก็ต้องขึ้นชกละนะ กลับไปฝึกเหมือนเดิมก่อน แล้วค่อยทะเลาะกันใหม่ โอเคไหม”
พริม กะเพชรบอกพร้อมกัน “ไม่”
บุญหลงถอนหายใจเซ็งปนระอา
“แล้วจะทำยังไง”
“ก็ทำแบบนี้ไง ต่างคนต่างอยู่ แค่อย่าให้น้าอรรู้ก็พอ”
เพชรบอก พลางจ้องพริมเป็นคำถาม พริมคิดตาม
“ถ้าจะให้โกหกน้าอร พริมไม่ยอมหรอก...”
พริมพูดตัดบทบุญหลง “ตกลง”
บุญหลงงง “พริม”
“ไม่ได้โกหกอะไรนี่ แค่บอกไม่หมดเฉยๆ”
เพชร และ พริม ยื่นมือมาเชคแฮนด์ แล้วปล่อยทิ้งอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกไปคนละทาง บุญหลงเซ็งหนัก

รักษ์ ลูกดอก แฉะ จริยา มาเดินตลาด จริยาคะยั้นคะยอให้ลูกดอกกินปาท่องโก๋
“นะ ลูกดอก กินปาท่องโก๋เร็ว”
“ไม่เอา อิ่มแล้ว”
“โหย ใจร้าย พี่แฉะกินนะ กินให้ฉันดูหน่อยสิ”
“กินให้ดูอะไรวะ? เพื่อ?”
“ก็ฉันลดความอ้วนอยู่อะ เลยกินเองไม่ได้ ช่วยกินแทนหน่อยนะ นะแฉะนะ”
แฉะไม่เอา “โวะ ไม่เอา”
จริยาหันมาทางรักษ์ “รักษ์”
“ไม่”
จริยาเซ็งเดินออกไปทางอื่น
ขณะที่รักษ์เดินไปอีกทาง มีมือมาสะกิดรักษ์คิดว่าเป็นจริยา
“บอกว่าไม่ไง”
รักษ์หันมาเจอคง ลูกน้องธำรงของพ่อรักษ์ ใส่ชุดดำ แว่นดำ ดูเป็นบอดี้การ์ดมาดโหดยืนใกล้รักษ์มาก
“ไอ้คง! มาทำอะไรที่นี่อ่ะ”
คงกำลังจะพูด รักษ์รีบพูดแทรก
“เฮ้ย เดี๋ยว”
รักษ์มองซ้ายมองขวา แล้วดึงคงไปยืนทำเป็นเลือกของที่หน้าร้านขายผัก
“เสี่ยให้ผมมาตามคุณหนูกลับบ้านครับ”
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่กลับๆ อ่ะ แกกลับไปเถอะ”
“ผมกลับไม่ได้ จนกว่าคุณหนูจะไปกับผมครับ ผมมาขอร้องดีๆ กลับบ้านตามที่เสี่ยบอกเถอะ ไม่อย่างนั้น”
จริยาวิ่งมาหารักษ์
“รักษ์”
“เออ พี่จริยา พี่คนนี้เขาอยากกินปาท่องโก๋อะ เอามาให้พี่เขากินสิ”
รักษ์รีบเดินหนี คงจะตามไป แต่จริยากันไว้ได้
“อะพี่ กินเลยๆ กินสิ”
จริยาจับคงยัดปาท่องโก๋เข้าปากคงเลยติดแหง็กอยู่กับจริยา

ฝ่ายเพชร กำลังซ้อมกระสอบทราย เสียงดัง ใส่อารมณ์และตั้งใจเต็มที่ ส่วนพริมกำลังซ้อมกระสอบทราย เสียงดังเหมือนกัน
ปรากฏว่าทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก แข่งกันเสียงดัง ใครดังมากกว่ากันแข่งกัน
เพชรไม่ยอม ตะเบ็งเต็มที่ “เอชๆๆๆๆๆๆๆๆ”
พริมทนไม่ไหว ถอดนวมเขวี้ยงไปที่เพชร แล้วเดินเข้าไปต่อว่า
“โอ้ย! รำคาญ”
“เอ้า รำคาญก็ไปที่อื่นดิ”
“ก็ฉันจะซ้อมตรงนี้”
“ฉันก็จะซ้อมตรงนี้”
“ฉันบอกว่า...”
ระหว่างนี้อรชรเดินเข้ามาพอดี พริมเห็นเข้ารีบทำเป็นดีกัน ยกการ์ดเปล่าๆ มาล่อแทนเป้า ให้เพชรชก
“ชกมาเลยๆ”
เพชรเห็นอรชรมา ทำเป็นซ้อมชกกับพริมอย่างขะมักเขม้น
อรชรสั่งเสียงดัง “หยุด”
พริม กะ เพชร ตกใจ ยืนนิ่ง
“หยุดเลยทั้งคู่ คิดว่าน้าไม่รู้ คิดว่าน้าไม่เห็นใช่ไหม”
เพชรประจบกลบเกลื่อน “อะไรเหรอจ๊ะ ทุกอย่างก็ปกติดีนี่จ๊ะ”
“จับได้ขนาดนี้ ยังทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก”
“น้าอร พริมอธิบายได้...”
“เป้าล่อก็มีทำไมไม่ใช้ เด็กพวกนี้นี่”
เพชร กะ พริม มองหน้ากันงงๆ
เพชรทวนคำ “เป้า...ล่อ”
“ถ้าพลาดโดนขึ้นมา เจ็บตัว ทำไง” อรชรว่า
“เดี๋ยวพริมไปหยิบมาใช้เดี๋ยวนี้เลยจ้ะ”
พริมโล่งอก รีบเดินไปหยิบ
“เอ้อ พริมนี่ไม่ไหวเล้ย” เพชรฉวยโอกาสต่อว่า
พริมหันมามองหน้าเพชรอย่างเคืองขุ่น เพชรส่งซิกให้เล่นต่อไป
อรชรมองหน้าสองคนครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไป พริมโยนเป้าล่อใส่เพชร
“โอ้ย”
“เอาล่ะ เราห้ามซ้อมใกล้กันแล้ว เพราะฉะนั้นเธอต้องไปที่อื่น”
“อ้าว ทำไมฉันต้องไปอ่ะ”
“เพราะไม่งั้น เธอก็จะกลายเป็นกระสอบทรายให้ฉันไง”
พริมกระหน่ำเตะเป้าล่อที่เพชรถืออยู่ เพชรหนี พริมก็ไล่เตะ

“โอ้ย ไปแล้วๆๆๆ”

อ่านต่อหน้า 3

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 14 (ต่อ)

ในเวลาต่อมา เพชรออกมาซ้อมมวยอยู่คนเดียวที่ลานวัด กำลังวอร์มเส้น พูดประชดไปด้วยความโมโห

“เออ ดี ซ้อมคนเดียว ก็ได้! ดีจะตาย! สงบ! ไม่มีใครมากวน!”
เสียงยอดสร้อยดังขึ้น “เนอะ”
เพชรตกใจร้องเสียงหลง ”ฮ้า…”
เพชรหันมา เป็นยอดสร้อยยืนยิ้มอยู่
“ตกใจหมดเลย... เอ่อ พี่ยอดสร้อย...มาทำบุญเหรอ”
“ใช่จ้ะ ทำบุญช่วยคน ฉันจะบอกวิธีเอาชนะจีบันให้น่ะ”
“พี่ยอดสร้อย อย่าเสียเวลาเลย ฉันเชื่ออะไรพี่ไม่ได้แล้วล่ะ”
“ที่ฉันเสี่ยงตายมาบอกความลับไอ้จีบัน เพราะฉันอยากแก้ตัวจริงๆ นะ ไม่รู้แหละ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเพชรจะฟัง”
ยอดสร้อยกอดแขนเพชร เพชรมองยอดสร้อยสักพัก เพชรถอนหายใจ
“ก็ได้ๆ ไปนั่งคุยกันตรงนั้นละกัน”
“ได้ๆ”
ยอดสร้อยยิ้มดีใจ รีบเดินไปนั่ง พอหันมาหาอีกที แต่เพชรไม่อยู่แล้ว
“เพชร”
ไกลออกไปพุ่มไม้ไหว พบว่าเห็นเพชรวิ่งหนีไป
“เพชร!! เล่นอย่างนี้ใช่ไหม... ได้”
เพชรย้ายมาซ้อมอีกมุมหนึ่งของวัด กำลังกระโดดเชือกแบบวิ่งไปด้วย สักพักยอดสร้อยก็กระโดดตามมาอยู่ข้างๆ เพชร ยอดสร้อยกระโดดไปด้วยพูดไปด้วย
“ความลับของจีบันก็คือ...”
“เฮ้ย” เพชรวิ่งหนีออกไป
ไม่ว่าเพชรจะไปไหนยอดสร้อยก็มาดักทุกที่ เพชรมาโผล่อีกมุมของวัด ก็มียอดสร้อยนั่งอยู่ พอเพชรแอบเข้าไปในโบสถ์วัด ก็เจอยอดสร้อยอีก
“จริงๆแล้วจีบันน่ะ...”
เพชรรีบวิ่งหนีออกมา เหนื่อยจนต้องลงไปนั่งพัก จู่ๆ มีน้ำส้มยื่นมาให้ เพชรรับมากำลังจะกิน
“ขอบใจจ้ะ”
เพชรเห็นว่าคนที่เอามาให้คือยอดสร้อย ก็รีบวิ่งหนีออกมา ยอดสร้อยวิ่งตามเข้ามาประชิด
“เพชรมานี่ก่อน เพชร...”
“หยุด” เพชรร้องลั่น
ยอดสร้อยหยุดกึก
“ฉันจะกลับบ้าน ไม่ซ้ง ไม่ซ้อมมันแล้ว อย่าตามมานะ”
เพชรเดินถอยหลังออกไป คอยระวังยอดสร้อย แต่เดินออกมาสักพัก ก็วกกลับไปอีกทาง มาแอบซ้อมตรงใต้ต้นไม้ในบริเวณป่ารกชัฏ เพชรมองซ้ายมองขวา แน่ใจว่าไม่เห็นยอดสร้อย เลยออกมา เตรียมตัวจะซ้อม สักพักสังเกตว่ามีใบไม้ ร่วงมาเรื่อยๆ จนเริ่มผิดปกติ เพชรเงยหน้าขึ้นไป เห็นยอดสร้อยอยู่บนต้นไม้
“เฮ้ย!”
ยอดสร้อยกระโดดลงมาจากต้นไม้
“อ๊าย“
ร่างยอดสร้อยหล่นมาทับร่างเพชรพอดี เพชรพยายามดิ้นหนีจนลุกขึ้นได้ แต่ยอดสร้อยก็กระโดดเกาะหลังอย่างกะกบ
“พี่ยอดสร้อย ปล่อย...”
ยอดสร้อยพยายามบอกว่า “ไอ้จีบัน.... จีบัน....”
“ไม่ฟัง”
“เวลาแกขึ้นชก ต้องทำเสียง” ทำเสียงเหมือนเรียกสุนัขดัง “กิ๊ด”
เพชรหยุด
ยอดสร้อยบอก “จีบันมันแพ้เสียง กิ๊ด ถ้ามันได้ยินเสียงนี้ เมื่อไร มันต้องชักกระตุกทุกครั้ง”
“พี่ไปเอามาจากไหนอะ”
ยอดสร้อยลงมาจากหลังเพชร
“ฉันอยู่ค่ายนั่นมาตั้งนานก็ต้องรู้สิ...”
“เปล่า ฉันหมายถึง ไอ้การโกงแบบนี้อะ พี่ไปเอามาจากไหน ตอนอยู่ที่คณะด้วยกัน พี่ไม่ใช่คนแบบนี้นี่”
“ไม่อยากชนะหรือไง...”
“อยาก แต่ไม่ใช่การโกงแบบนี้ การชนะด้วยการโกง มันแพ้เสียยิ่งกว่าแพ้อีกนะ”
เพชรเดินออกไป
ยอดสร้อยบ่นกับตัวเองหน้าเศร้า “ถ้าเพชรไม่อยากชนะ” แล้วเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ “งั้นฉันก็จะไปทำให้จีบันแพ้ให้ละกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

บุญหลงซ้อมมวยเหงื่อโทรมกาย กินน้ำอึกใหญ่ มาถือเป้าล่อ ให้พริมใส่นวมซ้อมชกต่อ
“มา ซ้อมต่อ”
“ห๊ะ ซ้อมมา 2 ชั่วโมง พริมไม่พักหน่อยเหรอ”
บุญหลงหันมา เห็นพริมมีสมาธิอยู่กับการชกลม ก็มองอย่างชื่นชม แล้วยกเป้ามาซ้อมกับพริมต่อ
“มา”
บุญหลงจดสายตามองจ้องพริมที่ออกลีลาเตะต่อย ขณะที่บุญหลงกำลังมองอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่ดีๆ ทุกอย่างก็ดับวูบลง เพราะพริมกระโดดเตะเข้าใส่อย่างจัง บุญหลงร่วงตามแรงเตะ
“หลง เป็นอะไรหรือเปล่า พริมขอโทษ”
“ไม่ๆ หลงไม่ระวังเอง มัวแต่มอง...”
บุญหลงยั้งปากไว้ แล้วก้มต่ำหลบตาวูบ พริมงง
“มองอะไร”
“ก็มอง...”
บุญหลงเงยหน้ามองพริมแทนคำตอบ พริมมองบุญหลงสักพักก็เริ่มเขิน ลุกขึ้น
“บ้า มองทำไม”
“จมูกพริมบานอ่ะ”
พริมหุบยิ้ม เอามือปิดจมูกทันที
“จริงเหรอ”
“ไม่ๆ บานนิดเดียวเอง คือพริมจะเป็นแบบนี้ เวลาตั้งใจทำอะไรมากๆ อ่ะ”
พริมค่อยๆ เอามือออก
“มันทำให้หลงรู้สึกมีแรงตามไปด้วย หลงเลยชอบ...ชอบมองอ่ะ”
“ขอบใจนะ ไม่เคยรู้เลยว่าหลงช่างสังเกตขนาดนี้”
บุญหลงแอบบ่นเบาๆ “สังเกตพริมคนเดียวน่ะแหละ”
“งั้น มา! ซ้อมต่อ!”
“ห๊ะ?”
หลงลุกขึ้นเดินกะเผลกๆ ไปซ้อมกับพริมต่อ

ค่ำวันนั้นรักษ์เดินเข้ามาในค่ายมวยศ.อรชร ตั้งใจมาหาเพชร โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของคงแอบจับจ้องรักษ์อยู่
รักษ์รู้สึกแปลกๆ หันไปมอง แต่ไม่เห็นอะไร เลยเดินต่อไป แต่ก็ระแวดระวังเป็นระยะ แล้วอยู่ๆ คงก็เดินมาตัดหน้ารักษ์
“เย้ย ไอ้คง ทำไมชอบทำให้ตกใจวะ นี่ยังไม่กลับไปอีกเหรอ”
“ผมต้องพาคุณหนูกลับไปกับผมให้ได้”
“ก็บอกว่าไม่กลับไง ยังไงก็ไม่กลับ
คงแอบควักเชือกออกมาจากกระเป๋าหลัง
“งั้นผมต้องขอโทษคุณหนูด้วย”
เสียงขนุนดังขึ้น “พี่รักษ์”
รักษ์รีบถีบคงออกไปเข้าพุ่มไม้ข้างๆ ขนุนวิ่งออกมาหารักษ์
“มาที่นี่ทำไม”
คงออกมาจากหลังพุ่มไม้ ขึงเชือกจะโผเข้าจับรักษ์
“มานี่เลย”
ขนุนดึงรักษ์ออกไปก่อน คงพลาดจับรักษ์ไม่ได้ เลยล้มลงอีกครั้ง
ขนุนดึงรักษ์ไปซ่อนในหลืบ ต่อว่ารัวๆ
“บอกแล้วไง ว่าขนุนยังไม่พร้อมบอกใครเรื่องเรียนร้องเพลง ทำไมพี่รักษ์ไม่ฟังบ้างเลย อยากให้ขนุนเดือดร้อนหรือไง ถึงมาที่นี่น่ะ”
“พี่เอาของมาให้เพชร” รักษ์ชูถุงกระดาษให้ขนุนดู
“เอ่อ... เอาของมาให้...พี่เพชร”
“ใช่” รักษ์หัวเราะทำเสียงยียวน “ใครจะมาสอนร้องเพลงที่นี่ล่ะ... ขนุนป๊อดจะตาย”
“อะไร”
“หรือไม่จริง สารภาพเถอะ ขนุนจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักสักที”
“สารภาพมันไม่ยากหรอก แต่หลังจากนั้นล่ะ พ่อกับน้าอรต้องไล่ขนุนออก ค่ายมวยคือบ้านขนุนนะ ขนุนไม่เหลืออะไรแน่ๆ”
รักษ์เงียบไปครู่หนึ่ง
“เหลือพี่ไง พี่ยินดีช่วยขนุนเสมอนะ แต่ขนุนต้องยอมให้พี่ช่วยเท่านั้นเอง”
ขนุนมองหน้ารักษ์สักพัก “ช่างมันเถอะพี่รักษ์” แล้วเดินหนีไป

คงแอบฟังอยู่มุมหนึ่งเก็บข้อมูลสำคัญไปรายงานธำรงพ่อรักษ์

ที่ค่ายเมฆดำยิม จีบันเพ่งมองมาด้วยสายตาดุดัน เหมือนทั้งสองคนนี้กำลังจะสู้กัน เมฆดำเองก็มีสีหน้ามุ่งมั่นอย่างโหด

“ยกนี้ ฉันไม่มีทางแพ้แน่”
“ผมขอวางเดิมพัน ด้วยแชมป์ 3 สมัย”
เมฆดำร้องตะโกนเตรียมสู้ “อ๊าก”
จีบัน ร้องตะโกนเหมือนกัน “ย๊าก”
ที่แท้ทั้งสองกำลังเล่นวิดีโอเกมอย่างเมามันแข่งกัน มี เม่น กะ เก้งคอยเชียร์อยู่ข้างๆ
“เอ้ย! เอาเลย! เอ้ย”
ไข่เค็มเดินกวาดพื้นผ่านมา แล้วส่ายหัว สุดท้ายจีบันแพ้ เมฆดำลุกขึ้นมาดีใจ
“เย้! ฮู้ว ล้มแชมป์ได้แล้วเว้ย”
“ผมออมมือให้พ่อต่างหากล่ะ” จีบันบอก
“ออมมือ ฮ่าๆๆๆๆๆ ออมมือ”
เม่น เก้ง หัวเราะตาม เมฆดำหัวเราะๆ อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนโหมดโหดทันที เม่น กะเก้งเงียบกริบ
เมฆดำสวมมาดโหด “สอนกี่ทีแล้วว่าห้ามออมมือ! ห้ามประมาท! นี่อย่าให้ฉันเห็นแกออมมือให้ไอ้กะเทยเด็กใหม่นั่นเด็ดขาดนะ เข้าใจไหม!”
“ครับ”
“เพราะฉันเองก็จะไม่ประมาทแล้ว ฉันมีวิธี ที่จะทำให้แกน็อกมันได้ตั้งแต่ยกแรกแล้ว”
ไข่เค็มถูพื้นผ่านมา
“คือเลิกเล่นเกมแล้วไปซ้อมน่ะเหรอครับ”
เมฆดำยิ้มให้กับไข่เค็ม แล้วเบิ๊ดกะโหลกไข่เค็ม
“ไปถูบ้านต่อไป”
ไข่เค็มเดินเซ็งคอตกออกไป
เมฆดำล้วงมือไปหยิบของจากลิ้นชัก ดึงบางสิ่งออกมาจากลิ้นชัก แต่ยังไม่ทันเห็นสิ่งนั้น
“ด้วยสิ่งนี้ แกต้องชนะแน่นอน ไม่ต้องสงสัย”
หากมีใครสังเกตจะพบว่าที่กระจกนอกออฟฟิศ ยอดสร้อยแอบดูอยู่ แล้วมองด้วยความตกตะลึง

“เล่นแบบนี้ใช่ไหม นึกแล้วว่าแกชนะแบบใสสะอาดไม่เป็นหรอก”

เพชรออกมาซ้อมกระสอบทราย แต่เห็นพริมกำลังวอร์มอยู่แถวนั้น เลยรีบหลบ แล้วหันหลังเดินกลับ
เสียงพริมเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อน”
เพชรชะงัก
จริงๆ แล้วพริมพูดกับหลงที่ช่วยซ้อมอยู่
“เราพอแค่นี้เถอะ”
เพชรเข้าใจว่าพริมพูดกับตัวเอง เลยหยุดนิ่งๆ ทำตัวไม่ถูก พริมเก็บของกับบุญหลง
“ขอโทษนะ ที่ทำให้ลำบาก”
เพชรที่หันหลังอยู่ ตะโกนไปพูดกับพริม พริมได้ยินก็งง
“ฉันก็ต้องขอโทษเธอเหมือนกัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งเธอเลยนะ ฉันแค่อยากให้เธอทำดีกับฉัน เห็นฉันเป็นเพื่อน มากกว่าเป็นแค่นักมวยที่เธอฝึกอ่ะ”
เพชรเดินออกมาหาพริม เจอพริมกำลังยืนอยู่กับบุญหลง มองเพชรงงๆ เพชรอึ้งหน้าแตก พริม บุญหลงหันมามองเพชรงงๆ
“เอ่อ... คือ...” แต่สุดท้ายต้องเลยตามเลย “นั่นแหละ ฉันขอโทษ แต่... ที่พูดนี่ ไม่ได้จะขอให้เธอกลับมาซ้อมให้ฉันหรอกนะ ฉันดูแลตัวเองได้”
เพชรจะเดินออกไป เจออรชร
“ใครอนุญาตให้ดูแลตัวเองเหรอ”
เพชร พริม และบุญหลง อึ้งไปทั้งแถบ

ที่บ้านลิเก รักษ์เดินกลับบ้านเห็นคนใส่ผ้าคลุมหัว ทำลับๆ ล่อๆ ปีนออกมาจากบ้าน แล้วแอบเดินไปหลังบ้าน รักษ์ตามไป เห็นคนคลุมนั่งยองๆ อยู่ รักษ์เลยกระโจนเข้าใส่
“แกมาทำอะไร บอกมานะ”
รักษ์เปิดผ้าคลุม กลายเป็นจริยา กำลังคาบข้าวจี่อยู่
“พี่จริยา! เอ้า มาทำลับๆ ล่อๆ เนี่ย”
“ฉันหิวอ้ะ อย่าไปบอกใครนะ ว่าฉันมาแอบกิน”
“เออ ไม่บอกหรอก แล้วทำไมต้องปีนออกจากห้องพี่ด้วย ออกประตูก็ได้”
“ปีนอะไร ฉันนั่งกินข้าวจี่อยู่นี่ตั้งนานแล้ว”
จริยาชี้ให้ดูถุงพลาสติกที่วางเกลื่อน รักษ์เอะใจ รีบเข้าไปในบ้าน
รักษ์เปิดไฟห้องนอน เจอจดหมายวางอยู่ที่พื้นเขียนว่า “จากขนุน” เขารีบเปิดอ่าน
“มีเรื่องให้ช่วย เจอกันวันแข่ง 6 โมง ด้านหลังเวทีบ้านเหนือ”

เพชร กะ พริม นั่งประจันหน้าอรชร หลังเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้อรชรฟังจบ สองคนก็นั่งนิ่ง
“อืม ก็ยังดีที่ยอมบอกความจริงน้าสักที มีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม”
เพชร กะ พริมทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
“พริมไม่ได้จะหลอกน้าเลยนะ แต่พริมกลัวน้าจะไม่ให้เพชรชก”
“ฉันขอโทษนะน้าอร ฉันกะจะบอกความจริงแล้ว แต่ฉันไม่กล้า”
“หยุด”
เพชรถามอีก “ผมจะได้ขึ้นชกใช่ไหมครับ”
“ยังจะกล้าถามอีกเหรอ”
เพชรหงอย
“ก็ต้องได้สิ จะแข่งอยู่แล้ว ยกเลิกได้ไง”
เพชร กะ พริม โล่งอก ค่อยยังชั่ว
“แต่ยังไงเพชรก็ต้องมีพี่เลี้ยง”
“งั้นพริมจะ...” พริมจะบอกว่าตนจะกลับมาฝึกให้
อรชรสวนก่อนว่า “น้าจะเป็นคนฝึกเพชรเอง”
พริมกะเพชรตกใจ “ห๊ะ”
“พริมต้องลงแข่งของตัวเองด้วยไม่ใช่เหรอ น้าชาติกับแชมป์ก็ไม่อยู่ ก็ต้องน้าแล้วละ”

เพชรยิ้มแหยๆ หน้าเจื่อนๆ

อ่านต่อหน้า 4

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 14 (ต่อ)

ถัดมาเพชรอยู่กลางลานซ้อมคนเดียว นั่งตบยุงไป อรชรเดินออกมาในชุดซ้อมมวย ดูเปรี้ยว สวย และเท่ปนกัน เพชรเห็นก็ถึงกับอึ้ง

“โห”
“โหอะไร ลุกขึ้น”
เพชรรีบลุกขึ้น แต่ยังอึ้งอยู่
อรชรวาดจระเข้ฟาดหางใส่เพชรทันที เพชรรีบหลบเกือบจะไม่ทัน จนเสียหลักล้มไป
“โอ้ย”
“ลุกขึ้น เร็วเข้า”
เพชรรีบลุกขึ้นตั้งการ์ด อรชรพูดไป ก็รัวหมัดใส่เพชรไป เพชรรีบหลบ
“เป็นนักมวย มันต้องไว ตื่นตัวอยู่ตลอด”
“จ้ะ....ตื่นเต็มที่ละจ้ะ”
อรชรยังใส่เพชรไม่ยั้งจนกระทั่งถีบมาที่หน้าเพชร แต่ยั้งไว้หัวแม่เท้าอรชรอยู่ที่ปลายจมูกเพชรแค่คืบ เพชรหลับตาปี๋ อรชรลดขาลง เพชรถอนหายใจ
“เมื่อกี้ถือว่าวอร์มเฉยๆ”
“ห๊ะ”
“ต่อไปจะเอาจริงละ มา”
เพชรหน้าเจื่อน ถูกอรชรฉุดให้ไปซ้อมด้วย
เวลาผ่านไป เพชรล้มลงด้วยความเหนื่อย หยิบน้ำมากิน อรชรเข้ามาใกล้
“จะแข่งอยู่แล้ว ยังมาปวกเปียกอยู่อีก”
เพชรแอบบ่น “ซ้อมกับพริมยังจะดีซะกว่า”
“บ่นไร”
“เปล่าจ้ะ”
เพชรซ้อมกับอรชร โดยที่อรชรซ้อมไปเล่าประวัติค่ายมวยไป
“ค่ายนี้ก่อตั้งมาเกือบ 60 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของน้า เราสั่งสมชื่อเสียงมานาน ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกแบบโบราณ จริงจัง เข้มงวดกว่าใคร เพราะชัยชนะที่ได้ มันเป็นการพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ศ.อรชร เป็นค่ายมวยตัวจริง การแข่งครั้งนี้มันคืออนาคตของค่าย ทุกอย่างฝากไว้ที่เธอแล้ว ทำเพื่อค่าย ทำเพื่อเราทุกคนด้วย”
เพชรฟังหน้าเครียด

เพชรแบกความเครียดกลับมาที่บ้านลิเก นั่งนิ่งอยู่สักพักจึงลุกเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเก็บเสื้อผ้าใส่ สำเริงเดินเข้ามาเห็น
“อ้าว จะไปไหนวะ”
เพชรถามขึ้น “พ่อ...น้าอรเขารักค่ายนี้มากเลยใช่ไหม”
“รักสิ นี่มันค่ายของพ่อเค้าเลยนะเว้ย”
“ถ้าฉันไม่ชนะ น้าอรเขาต้องเสียใจมากเลยนะพ่อ”
“ยิ่งกว่าเสียใจอีก แต่มันคือเสียศักดิ์ศรี”
“ฉันทำไม่ได้อะ ทำไม่ได้”
เพชรเครียดจะวิ่งออกไป สำเริงรีบดึงไว้
“จะไปไหน”
“ไปไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ที่นี่ ไปให้รถชนก็ได้ ถ้าฉันขาหัก จะได้ยืดเวลาขึ้นชกไปได้อีกไง”
สำเริงตบหน้าเพชรเรียกสติให้ตื่น
“โอ้ย ทำไรอ่ะพ่อ”
“เรียกสติแกไง”
“ฉันโดนน้าอรเรียกมาพอแล้ว ไม่ต้องเรียกอีกก็ได้...โอ๊ย”
“แล้วเป็นบ้ารึไง ไหนแกว่าอยากต่อยมวย อยากเอาชนะไอ้จีบันมันอยู่เลย”
“แต่ไอ้การแข่งครั้งนี้ มันเป็นมากกว่าแค่ชื่อเสียง มากกว่าเงินรางวัล มันคือศักดิ์ศรีของค่ายศ.อรชร มันคือชีวิตของคนทั้งค่ายเลยนะพ่อ”
“เพราะงี้ไง แกถึงยิ่งต้องสู้ ไม่ใช่ถอยแบบนี้ รู้ไหมทำไมฉันถึงยอมให้แกต่อยมวย”
“เพราะเราไม่มีจะกินแล้วไง” เพชรว่า
“เพราะแกเหมือนนักมวยคนนึงที่ฉันเคยรู้จัก เขาดื้อเหมือนแกนี่แหละ เขาว่าอุปสรรคมีไว้เพื่อสู้ ไม่ได้มีไว้ท้อ แล้วแกก็คิดแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ”
“อาไปรู้จักน้ามวยที่ไหนมาเหรอ”
“อย่าสนใจเลย แต่ตอนนี้แกมีคุณสมบัติของการเป็นนักมวยที่ดี ใช้มันซะ ให้ทุกคนเห็นว่าพระเอกลิเกอย่างแก ก็ทำได้ ไม่แพ้ใคร”
เห็นเพชรยังนิ่งคิดตาม สำเริงประชดขึ้น
“เออๆๆ ถ้าท้อแท้นัก ก็ไม่ต้องแข่งมันหรอก เลิกๆๆๆ”
“แข่งจ้า แข่ง... เอ้ะ แล้วพ่อไม่ห้ามฉันชกมวยแล้วเหรอ”
“เอ็งสู้มาจนถึงป่านนี้แล้ว คนเดียวที่จะห้ามแกได้ ก็มีแต่ตัวแกเองเท่านั้นแหละ”
สำเริงตบไหล่เพชร
“และคนเดียวที่จะกู้ศักดิ์ศรีค่ายศ.อรชรกลับคืนมา ก็คือตัวแกเองเท่านั้นเหมือนกัน”
เพชรพยักหน้ายิ้มรับเป็นเชิงขอบคุณ

วันชกนัดล้างตา ระหว่างเพชรแท้ และ จีบัน มาถึง
งานจัดขึ้นภายในสนามมวยบ้านเหนือ ซึ่งบรรยากาศคึกคักแต่เช้า ชาวบ้านทยอยกันเข้ามาจับจองที่นั่งติดเวที เสียงโฆษกประกาศ ขณะเพชรเดินเข้ามากับอรชร เด่น และแคน
“นัดล้างตาวันนี้จีบัน ค่ายเมฆดำ ปะทะเพชรแท้ ศ.อรชร ไม่รู้คราวนี้จะแต่งหน้าแบบไหนขึ้นชกอีกนะครับ”
“เมื่อไรจะเลิกพูดเรื่องแต่งหน้าเนี่ย” เพชรบ่นพลางมองซ้ายมองขวา
อรชรรู้ทัน “ไม่ต้องชะเง้อหาพริมหรอก”
“นั่นสิ เขาจะมาทำไมเนอะ”
“เปล่า เพราะเขาเดินมานู่นแล้ว”
พริมถือเอกสารเข้ามาพร้อมบุญหลง ยื่นให้อรชร
“เอกสารครบแล้วจ้ะ”
อรชรยิ้มแล้วเดินออกไป พร้อมเด่น แคน เพชรอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พริมรีบชิงพูด
“รีบไปเก็บของแล้วไปรายงานตัวด้วย”
บุญหลงกับพริมจะเดินออกไป บุญหลงหันมาให้กำลังใจเพชร
“เต็มที่นะ”
เพชรรอว่าพริมจะพูดสั่งเสียอะไรมั้ย
“ถ้าแพ้มาล่ะโดน”
พริมกับบุญหลงเดินออกไป เพชรยิ้มเล็กๆ ที่พริมยังพูดด้วย เพชรออกไปอีกทาง
อีกมุม สำเริงเดินมา พร้อมกับแฉะ ลูกดอก จริยา รักษ์
“ห้องนักมวยอยู่ไหนเนี่ย”
“ทำไมคราวนี้พี่เริงดูตื่นเต้นจัง เห็นด้วยที่ไอ้เพชรมันไปต่อยมวยแล้วล่ะสิ” แฉะถาม
สำเริงกลบเกลื่อน “เผื่อมันดัง คณะเราจะได้ดังด้วยต่างหาก”
รักษ์ดูนาฬิกาแล้วบอกจริยา
“ฉันมีนัดกับขนุน เดี๋ยวมานะ”
จริยาพยักหน้า รักษ์เดินออกไป ขนุนเดินเข้ามาอีกทาง
จริยารีบบอก “อ้าว พี่รักษ์เพิ่งออกไปหาเองขนุน นี่นัดกันที่ไหนเนี่ย”
“นัดอะไรเหรอ” ขนุนงง
“ก็พี่รักษ์บอกว่าขนุนส่งจดหมายมานัดนี่”
“เปล่านี่”

ขนุนมองหน้าจริยางงๆ แล้วรีบวิ่งออกไป

ทางด้านยอดสร้อยเดินมาถึงหน้าห้องกรรมการ พูดกับตัวเอง

หึ รอกรรมการรู้แผนแกก่อนเถอะไอ้เมฆดำ”
จากนั้นยอดสร้อยก็ทำท่าจะเข้าไปในห้อง แต่เห็นเมฆดำกับเม่นเก้งอยู่กับกรรมการ เลยชะงักแล้วแอบดู พบว่าในนั้นมีไข่เค็มอยู่ด้วย
เก้งยื่นซองเงินให้ กรรมการเปิดดู แล้วยกนิ้วทำท่า OK เมฆดำหัวเราะชอบใจ เม่น และ เก้ง หัวเราะสอพลอ
“นี่พ่อเมฆดำติดสินบนกรรมการอีกแล้วเหรอจ๊ะ” ไข่เค็มถาม
“ไม่ติดสินบนเว้ย เค้าเรียกค่าน้ำร้อนน้ำชา ฮ่าๆๆๆ”
ยอดสร้อยเห็นว่าแย่แล้ว

รักษ์มารอขนุนที่หลังเวทีบ้านเหนือ สอดตามองหาไปทั่ว
ส่วนขนุน และจริยา ก็พากันมาเดินตามหารักษ์
“ไม่เห็นมีเลย ไปดูข้างหลังกันเถอะ”
ขนุน กับ จริยาออกไปหาทางอื่น
รักษ์กำลังยืนรออยู่ ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง ดังมาลิบๆ
“พี่รักษ์”
พอรักษ์หันไป แต่กลับเจอคงเอาถุงดำคลุมหัว ขนุน จริยาวิ่งมาที่ด้านหลัง ไม่เจอใคร
“นี่เธอนัดพี่รักษ์ที่ไหนเนี่ย”
“ก็บอกว่าไม่ได้นัดไง”
“แล้วทำไมพี่รักษ์บอกว่านัดเธอล่ะ”
“นั่นน่ะสิ”
ขนุน กับ จริยามองหน้ากันสักพัก แล้วเดินออกไป โดยไม่รู้ว่าตรงด้านหลังพุ่มไม้ คงแอบอยู่พร้อมกับรักษ์ที่นอนสลบแน่นิ่งไปแล้ว

ฝ่ายเพชรกำลังทำสมาธิอยู่ สำเริง แฉะ และ ลูกดอก อยู่ข้างๆ เป็นเพื่อน
“เวลาพี่เพชรจะขึ้นเล่นลิเกไม่เห็นเครียดแบบนี้เลย” ลูกดอกว่า
“เฮ้ย อย่าพูดมาก เดี๋ยวเสียสมาธิ” แฉะติง
“รักษ์กับจริยา หายไปไหน” สำเริงเหลียวหา
“นั่นสิ ขนุนด้วย” ลูกดอกมองหาอีกคน
อรชรเดินเข้ามาสมทบ “ได้เวลาแล้วเพชร”
ทันใดนั้นเอง ยอดสร้อยก็บุกเข้ามา โดยเอาสายรัดสายไฟรัดแขนตัวเองกับเพชรไว้
“เฮ้ย” เพชรตกใจจะสลัด
ยอดสร้อยรีบพูด “เพชร อย่าขึ้นชกเด็ดขาด เมฆดำมันลอบบี้กับกรรมการแล้ว"
สำเริงยัวะ “ยอดสร้อย ทำบ้าไรเนี่ย”
“ฉันเห็นกับตาเลยนะ เมฆดำมันยัดเงินกรรมการไว้แล้ว”
อรชรแย้ง “เพชรซ้อมมาดีแล้ว ถึงเมฆดำจะโกงยังไง ถ้าผลออกมาค้านตาคน เราก็ประท้วงได้”
“มันมีมากกว่านั้นน่ะสิ”
ยอดสร้อยเล่าบรรยายจนทุกคนเห็นภาพที่เกิดขึ้น

ภายในห้องพักนักมวย จีบันใส่ลูกเหล็กที่มือ มีเม่น เก้งช่วยพัน แล้วใส่นวมทับ ไข่เค็มมองอยู่ รู้สึกไม่เห็นด้วยเลย
ยอดสร้อยเล่าเป็นฉากๆ เริ่มจาก
“จีบันมันแอบพันเหล็กไว้กับมือ แล้วใส่นวมทับ”
โดยภายในห้องกรรมการ มีกรรมการคนที่รับเงินสินบน ทำเป็นเดินมาตรวจนวมจีบัน แล้วบอกผ่าน
ยอดสร้อยบอกอีกว่า “แล้วมันก็ยัดเงินกรรมการ ทำให้กรรมการให้ผ่าน”
จีบันเดินไปที่เวทีมวย ทุกคนโห่ร้องรับ เมฆดำ เม่น และ เก้ง เดินตามแหนยิ้มร้ายกาจ
“ทีนี้มันก็น็อกเพชรตั้งแต่ยกแรกได้สบาย โดยที่ไม่มีใครรู้แล้ว”
ทุกคนฟังยอดสร้อยอยู่
“มุมแดงแชมป์ของเรา จีบัน ค่ายเมฆดำยิม”
สิ้นเสียงโฆษกประกาศ เสียงโห่ฮาคนดูดังต้อนรับ ทุกคนมองหน้ากันอึกอัก
“ฉันสาบาน ฉันพูดจริงๆ นะ”
สำเริงเดินมาตัดสายรัด
“งั้นก็หยุดพูดได้ละ จะใช้แผนไหนก็ไม่ได้ผลหรอก แกห้ามไอ้เพชรไม่ให้ขึ้นชกไม่ได้หรอก ไปไอ้เพชร”
ยอดสร้อยเครียด “น้าเริง เชื่อชั้นเถอะ”
ทุกคนเดินพาเพชรออกไป ยอดสร้อยอึดอัด รีบวิ่งออกไปหาทางหยุดการแข่ง

ยอดสร้อยเดินออกมาหน้าเวทีอย่างเจ็บใจ
“โอ้ย เพชรต้องตายคาเวทีแน่ๆ ทำไงดีวะ”
ไข่เค็มถือถุงใส่หมามุ่ยฝักนึงเข้ามา ชูให้ดู
“พี่ยอดสร้อย”
ยอดสร้อยงง “อะไรของเอ็งวะ”
ไข่เค็มบอก ”หมามุ่ยจ้ะ”
ยอดสร้อยสะดุ้ง เขยิบหนี “เฮ้ย เอาไปไกลๆ เดี๋ยวก็ได้คันคะเยอกันหรอก”
“คันก็ดีสิจ๊ะ จะได้เกา”
ยอดสร้อยเง็ง “พูดอะไรของเอ็ง”
ไข่เค็มกระซิบแผนให้ยอดสร้อยฟัง ยอดสร้อยยิ้มร้ายเห็นดีด้วย

จีบันยืนโบกมือให้แฟนๆ อยู่บนเวที ขณะที่เพชรเดินขึ้นเวทีมวย พร้อมเสียงโฆษกประกาศ
“มาแล้วนะครับ สำหรับมุมน้ำเงิน เพชรแท้ ศ.อรชร อ้าว คราวนี้ไม่แต่งหน้านะครับ”
ที่ขอบเวทีมุมน้ำเงิน กองเชียร์เพชรรวมตัวกันอยู่
“วันหลังดูแลอย่าให้นางเอกลิเกมาวุ่นวายอีกล่ะ” อรชรตำหนิ
สำเริงยิ้มกริ่ม “อ๊ะๆๆ ทำไม หึงเหรอจ้ะ”
อรชรกระทืบเหยียบเท้าสำเริงเต็มแรง สำเริงต้องข่มความรู้สึกไว้ทำหน้าตาย พออรชรเดินสะบัดออกไปอย่างหงุดหงิด สำเริงถึงลงไปจับเท้าอย่างเจ็บปวด

บนเวทีเพชรเริ่มไหว้ครู มีจีบันขยับแข้งขยับขาวอร์มอยู่ เพชรเห็นยอดสร้อยอยู่แถวขอบเวทีลับๆ ล่อๆ เพชรพยายามส่งซิกให้สำเริงเห็น แฉะเห็นเข้าเดินมาบอกสำเริงที่เจ็บเท้าอยู่
“เพชรมันเป็นอะไรของมันพี่เริง”
สำเริงมองตาม เห็นยอดสร้อยอยู่ สำเริงชี้ไปทางยอดสร้อย
“ไอ้แฉะ ไอ้ลูกดอกไปจับมัน”
ยอดสร้อยไปใกล้มุมของจีบันซึ่งมีพัดลมตัวใหญ่ตั้งอยู่ ใส่ถุงมือยาง เปิดถุงที่มีหมามุ่ยอยู่เต็ม กำลังจะหยิบหมามุ่ย แฉะ ลูกดอกเข้าไปหายอดสร้อย
“นี่แกยังไม่หยุดใช่ไหม” แฉะชี้หน้า
ยอดสร้อยงง “หยุดอะไรล่ะ ฉันจะช่วยเพชร”
ยอดสร้อยชูถุงขึ้นมา ลูกดอกจับถุงยื้อกับยอดสร้อย
“ไม่ต้องช่วยแล้ว”
ยอดสร้อยขัดขืน “ลูกดอก ปล่อย”
ลูกดอกไม่ยอม “พี่แหละปล่อย”
ยอดสร้อย กับลูกดอกยื้อกันแรงมากขึ้น จนถุงขาด หมามุ่ยนับหลายสิบพวงกระจายตัวขึ้นฟ้า
ไข่เค็มโผล่มา หันพัดลมตัใหญ่เป่าหมามุ่ยกระจาย ไปตกลงบนเวที และคนรอบๆเวทีเต็มไปหมด
เพชร และ จีบันงงว่าคืออะไร
แฉะตะโกนลั่น “เฮ้ย หมามุ่ย”
ทุกอย่างวุ่นวายในบัดดล ทุกคนในสนามต่างแตกตื่น วิ่งออกกันใหญ่เป็นที่อลหม่าน
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างก็คันกันยกใหญ่ ส่วนบนเวทีเพชร กะ จีบันเริ่มคัน เกาด้วยนวมก็ไม่หายคัน จีบัน และ เพชร รีบถอดนวมออกมาเพื่อเกา
พอจีบันถอดนวมออกมาแล้ว เผยให้เห็นเหล็กที่พันอยู่ที่นวม ลูกเหล็กตกลงพื้นเวที สำเริงเห็นชี้ให้อรชรดู
“มันใส่เหล็กในนวมจริงด้วย”
อรชรร้องบอก “ถ่ายรูป ถ่ายรูปไว้”
จีบันรีบวิ่งลงเวทีไปอย่างไว อรชรกับสำเริงเจ็บใจ แต่ก็ยังไม่หยุดเกา เมฆดำ เม่น และ เก้งเห็นว่าแผนแตกก็หน้าเสีย

กลับถึงบ้านสำเริงเอาหลังไถกับเสา มือก็เกาส่วนอื่นๆ ต่อไปไม่หยุด พ่อลูกเกาให้กันน่าเอ็นดู๊
“ทำไมไอ้แฉะ กับลูกดอกมันไปนานจังวะ แค่ให้ไปตามนังยอดสร้อยเนี่ย”
“พี่ยอดสร้อยเขาก็ช่วยเราจริงๆ นะพ่อ”
“เออ เลยจะเรียกมันมาขอบคุณนี่ไง”
พริมเดินเข้ามา เอายามาให้ “น้าอรให้เอายามาให้”
“ยาแก้คัน หรือยายิ่งคัน” สำเริงแกล้งถาม
“อ้อ น้าอรฝากบอกน้าเริงว่า สำหรับน้าเริงต้องทาที่ปากด้วย จ้ะ”
สำเริงเงิบไป
พริมค้อนเพชรทีหนึ่ง แล้วออกไป แฉะ กะ ลูกดอกเดินเข้ามา
“อ้าว นังยอดสร้อยล่ะ”
แฉะ กะ ลูกดอกบอกพร้อมกันว่า “หนีตามผู้ชายที่เจอที่เวทีมวยไปแล้วจ้ะ”

สำเริงและเพชรถอนใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ...”

อ่านต่อตอนที่ 15
กำลังโหลดความคิดเห็น