เจาะชีวิต “มวยคุก” แสงสว่างหลังลูกกรง

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ชีวิตที่ต้องอยู่อย่างไร้อิสรภาพหลังกรงเหล็กคงไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนถวิลหา เมื่อชะตาชีวิตส่งให้พลาดพลั้ง แปรเปลี่ยนสถานะจากประชาชนธรรมดากลายเป็นผู้ต้องคดี จะมีสักกี่รายที่พ้นโทษออกไปแล้วสามารถเผชิญโลกภายนอกแบบสังคมยอมรับ อย่างไรก็ตาม ในแดนมืดแห่งนี้ยังมีแสงสว่างลอดเข้ามา นั่นก็คือ การฝึกชกมวยในเรือนจำ ที่จะเป็นโอกาสดีในการกลับตัวกลับใจออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ ดั่งเช่น อำนาจ รื่นเริง ยอดกำปั้นชาวไทยเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว

จำนวนผู้ต้องขังทั่วประเทศไทย เวลานี้มีสูงกว่า 3 แสนคน โดย กรมราชทัณฑ์ พยายามมาตลอดที่จะช่วยส่งเสริมไม่ให้นักโทษเหล่านี้ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไปแต่ละวัน ด้วยการเปิดสอนและฝึกอบรมวิชาชีพ ให้ได้มีวิชาติดตัวไปใช้ทำมาหากินหลังพ้นโทษ อาทิ การฝึกงานไม้ งานเกษตร งานฝีมือ งานศิลปะ ไม่เว้นแม้แต่ด้านกีฬา โดยเฉพาะ การชกมวย ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะมีหลายรายที่สามารถสร้างชื่อจากการได้ฝึกชกมวยในเรือนจำมาแล้ว เช่น แซมซั่น ส.ศิริพร (ศิริพร ทวีสุข) อดีตผู้ต้องขังหญิงที่คว้าแชมป์โลกมวยหญิง รุ่นไลต์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) หรือ อำนาจ รื่นเริง แชมป์มวยโลกรุ่นฟลายเวต สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) คนปัจจุบัน

ทีมข่าว MGR SPORT ลงพื้นที่ไปเจาะชีวิตการฝึกชกมวยของเหล่านักโทษที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเคยเป็นศูนย์รวมกำปั้นจากเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศมาฝึกฝนและผลิตนักชกให้กับทีมชาติไทย ซึ่งนายสมใจ คงหอม นักวิชาการอบรมและฝึกอาชีพชำนาญการ ผู้บังคับแดน 4 เรือนจำพิเศษธนบุรี ผู้ดูแลการชกฝึกมวยในเรือนจำแห่งนี้มากว่า 15 ปี เผยถึงจุดประสงค์ว่า มีขึ้นเพื่อเป็นการแก้ไข และพัฒนาพฤตินิสัย รวมถึงค้นหาและผลิตนักกีฬาผู้ต้องขังมุ่งสู่ระดับอาชีพ หรือตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันระดับต่างๆ

“ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นพวกที่คดีไม่หนักมาก โทษไม่เกิน 10 ปี หลายรายโดนจับเรื่องยาเสพติด ซึ่งเรามองว่าแม้พวกเขาจะพ้นโทษไปแล้วแต่สังคมภายนอกในปัจจุบันยังไม่ค่อยเปิดกว้างต้อนรับมากนัก เราจึงริเริ่มให้มีการฝึกอาชีพในเรื่อนจำ มีหลายทางเลือกแล้วแต่ความสมัครใจของนักโทษ โดยในส่วนของกีฬานั้นมีทั้ง ชกมวย ตะกร้อ หรือ ฟุตซอล แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการชกมวย เพราะถือว่ามีโอกาสดีกว่ากิจกรรมอื่นที่จะก้าวออกไปสู่โลกภายนอก เนื่องจากเรามีความสัมพันธ์กับค่ายมวย มีแมวมองมาดูเพื่อที่จะดึงตัวไปร่วมงานหลังพ้นโทษ รวมถึงเรายังเคยเป็นสมาชิกของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในชื่อสโมสรกรมราชทัณฑ์ จึงมีโครงการคัดเลือกผู้ต้องขังฝีมือดีเข้าติดทีมชาติไทย และส่งครูฝึกมาช่วยเทรนด์ถึงเรือนจำ” สมใจ เผย

สำหรับนักโทษส่วนใหญ่ที่เลือกเข้ามาฝึกชกมวยนั้น หลายคนมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว บางคนมีดีกรีถึงขั้นเป็นแชมป์มวยไทยมาก่อน แต่การที่ชีวิตต้องหักเหนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าการชกมวยในสมัยเริ่มต้นอาชีพรายได้ยังน้อย เมื่อไม่ได้ขึ้นชกต่อเนื่อง จึงต้องหาช่องทางอื่นในการหาเงินเลี้ยงชีพ และอาจเลือกทางผิดก้าวเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ฝึกชกมวยในเรือนจำพิเศษธนบุรีกว่า 10 ราย

ขณะที่เส้นทางการต่อยอดนั้น นายสมใจ เผยว่า “ในแต่ละปีกรมราชทัณฑ์จะมีจัดการแข่งขันกีฬาผู้ต้องขังระดับประเทศ ภายใต้ชื่อ แดนสามัคคีเกมส์ โดยการชกมวยถือเป็นที่น่าจับตาที่สุด เพราะแชมป์รายการนี้มีโอกาสที่จะได้ไปชกกับบุคคลทั่วไปในรายการ คิงส์ คัพ หรือชิงแชมป์ประเทศไทย แต่ผู้ที่จะได้สิทธิ์ไปชกข้างนอกได้จะต้องอยู่ในข่ายการคัดเลือก คือ เป็นนักโทษชั้นดี และเหลือโทษเด็ดขาดไม่เกิน 2 ปี ที่สำคัญ หากถึงขั้นติดทีมชาติก็มีสิทธิ์ที่จะได้พักโทษออกไปชก รวมถึงยังสามารถนำมาเป็นเกียรติคุณของตัวเองในการยื่นขอลดโทษอีกด้วย ซึ่งทางเรือนจำจะพิจารณายื่นใหัทันทีเมื่อมีโอกาส ส่วนเรื่องเงินรางวัลนั้นผู้ต้องขังก็จะได้รับหลังพ้นโทษ”

ด้าน นช.ถาวร จันทร์ผูก 1 ในนักโทษวัย 29 ปี ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองในแดนสามัคคีครั้งล่าสุด กล่าวด้วยสีหน้าสดใสว่าการชกมวยเป็นความหวังเดียวของตนหลังพ้นโทษ 3 ปี จากคดี จำหน่ายยาเสพติด เมื่อปี 2555 “ผมไม่เคยชกมวยมาก่อน แต่เมื่อถูกจับจึงลองมาฝึกดู เพราะเห็นตัวอย่างจากพี่อำนาจ เลยอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง ส่วนการซ้อมในแต่ละวันจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เช้าและบ่าย เริ่มตั้งแต่ตื่นมาวิ่ง กระโดดเชือก ล่อเป้า ชกลม และลงนวม จนถึงเย็น โดยมีนักโทษรุ่นพี่ที่มีความรู้เรื่องเชิงมวยเป็นผู้ฝึกสอนให้ รวมถึงได้ดูเทคนิคการชกของนักมวยเก่งๆ จากโทรทัศน์ที่ผู้คุมเปิดให้ดู ซึ่งการเข้ามาอยู่ในเรือนจำทำให้เรามีสมาธิฝึกซ้อมมาก เพราะไม่มีอย่างอื่นให้ทำ ผมซ้อมมาตลอดหลายปี จนมีโอกาสได้ลงแข่งเพราะเหลือโทษอีกเพียงไม่กี่เดือน หลังได้แชมป์ก็มีค่ายมวยมาติดต่อให้ไปอยู่ด้วยเมื่อพ้นโทษ จากนี้จึงตั้งใจว่าจะขอมุ่งมั่นไปในเส้นทางนี้ และจะไม่ทำผิดอีกแล้วแน่นอน”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *