xs
xsm
sm
md
lg

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 23

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แหวนทองเหลือง ตอนที่ 23

ดวงใจวิ่งหลบเข้ามาในบ้านประคอง สีหน้าหวาดกลัว เหมี่ยววิ่งตามเข้ามา

"ไม่ต้องกลัวไอ้ดวง นังช้อยมันทำอะไรไม่ได้หรอก มันกลัวยาย"
"ไอ้สองคนนั้น"
"สองคนไหน...ไอ้เปี๊ยก กับ ไอ้เดชน่ะเหรอ""มันเคยจะฉุดฉัน"
ประคองเดินเข้ามากับเสาวรส"มันคงจำไอ้ดวงได้ มันถึงไปตามอีช้อยมาดูตัว"
"เอาไงดียาย ไอ้พวกนี้มันเลวจริงๆ ท่าทางมันจะเอาไอ้ดวงไปเข้าซ่องมัน ไอ้ห่อหมก""ข้าจะไปฟ้องสารวัตรปรีชาที่โรงพักไว้ก่อนดีกว่า"
เหมี่ยวถาม
"สารวัตรก็ลูกค้ามันหรือเปล่า...เค้าจะฟังเรารื้อ"
ประคองคิดหนัก

ประคองกระเดียดกระจาดห่อหมกขึ้นไปบนโรงพัก ตำรวจเห็นก็ทักทาย"มาทำอะไรยายประคอง เอาห่อหมกมาขายถึงบนนี้เลยหรือ"
ประคองยิ้มแย้มเอาใจ"สารวัตรปรีชาอยู่ไหมพ่อ"
สารวัตรปรีชาเดินมาพอดี"ว่าไงยายประคอง...วันนี้มาถึงโรงพัก อย่าบอกนะว่าเอาห่อหมกมาขาย"
ประคองยิ้มแย้ม"เอามาขายที่ไหนกัน...เอามาฝากจ้ะ"
สารวัตรหัวเราะ"จะเอาห่อหมกมาติดสินบนอะไรล่ะ"
"ไม่ได้ติดสินบน คนรักชอบพอกันก็เอามาฝาก"
"ไม่จริงมั๊ง มีอะไรก็บอกมา"
ประคองเก้อที่โดนรู้ทัน"สารวัตรก็รู้ทันอยู่เรื่อย คือเรื่องมันงี้ ตอนนี้ฉันน่ะมีผู้หญิงมาขออาศัยอยู่ด้วย เค้าเป็นคนเหนือหน้าตาสะสวย นังช้อยมันมาเห็น มันจะเอาไปเข้าซ่องมัน สารวัตรรู้จักใช่ไหมนังช้อยแม่เล้าน่ะ""ฉันก็ต้องรู้จักคนในพื้นที่ทั้งนั้นแหล่ะ...เรื่องนี้น่ะ ถ้าเจ้าตัวเขาไม่ยินยอม ฉันก็ทำอะไรไม่ได้""มันไม่อย่างนั้นซิ ไอ้เปี๊ยก กับ ไอ้เดชสมุนมันน่ะ เคยจะไปฉุดเขามาหนหนึ่งแล้ว ดีแต่มีคนช่วยไว้""มันกล้าไปฉุดต่อหน้าคนเลยเหรอ ไอ้สองคนนี่ฉันหมายหัวมันนานแล้ว...ถ้าจับได้คาหนังคาเขาเมื่อไหร่จับมันติดคุกแน่ ตอนนี้ก็อย่าให้ผู้หญิงเหนือคนนั้นออกไปไหนคนเดียว ถ้ายายจับได้ว่ามันจะมาฉุดอีกให้รีบมาบอกฉัน จะได้ปิดซ่องมันเลย"
ประคองดีอกดีใจ ยกกระจาดห่อหมกให้สารวัตร
"มันต้องยังงี้ ค่อยอุ่นใจหน่อยละ เอ้าห่อหมกนี่ยกให้หมดเลยจ้ะ วันนี้ทำสุดฝีมือเลยนา"
สารวัตรเอาห่อหมกมาดู
"ทำไมวันนี้มีเหลือเหรอถึงได้เอามาแจก ทุกทีต้องจองล่วงหน้าไม่ใช่เหรอ"ประคองกระฟัดกระเฟียด"ก็หมั่นใส้อีคนสั่งมันไง...เอามาเท เอ้ย เอามาให้ตำรวจกินดีกว่า"
"ว่าแต่สาวเหนือคนนั้นน่ะ...ชื่ออะไร"
"ชื่อ ดวงใจ นามสกุล หทัยทิพย์"

ประคองเดินท่านักเลงลงจากโรงพักไป สารวัตรปรีชามองตามหันไปขำกับลูกน้องในท่าทางนักเลงของประคอง

ช้อยหน้าเครียด นั่งอยู่กับ เปี๊ยก และ เดช ที่หน้าซ่อง  "เอ็งสองคนแน่ใจนะว่า นังคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เอ็งเห็นแถวตลาดสามเสน"


"แน่ใจแม่"
"ไม่ผิดตัวแน่ๆ แม่ ถึงจะปีกว่าแล้วฉันก็จำแม่นไม่ลืม จะหาผู้หญิงที่ไหนสวยอย่างนี้"ช้อยโมโห"แล้วมึงปล่อยให้มันหลุดมือได้ไง...เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ"
เปี๊ยกบอก
"ก็มีไอ้ญี่ปุ่นมาช่วยมัน...พอฉันไปดูมันอีกที มันก็มีพวกทหารญี่ปุ่นมาเดินยามแถวตลอด...แม่เคยบอกไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปทำเรื่องให้ไอ้ยุ่นขัดใจ ฉันก็เลยไม่กล้า" "คนอย่างมึงมันดีแต่เห่า ไอ้เดช..เอาไงดี...ข้าอยากได้อีนี่แล้วก็ต้องได้ด้วย...อยากจะดูหน้าอีประคองซิ ว่ามันจะทำหน้ายังไง หนอยแสล๊นมาเสือกกับกูได้ไง"
"ใจเย็นๆ แม่ ตอนนี้เราต้องทำเป็นเฉยก่อน...แต่ถ้าฉันเอามันมาให้แม่ได้....แม่ต้องให้ฉันประเดิมมันนะ"
เดชทำท่าหื่นกระหาย ช้อยสีหน้าโหด"เอ็งจะทำยังไงข้าไม่สน...อย่าให้ข้าเดือดร้อนก็แล้วกัน"
"ฉันจะให้มันคลานมาหาแม่เองเลย"
เดชสีหน้าเหี้ยมเกรียม

อ้อยเปิดประตูบ้านให้หมอเมตตาเดินเข้าบ้านมา แม่หมอเดินไปหา
"วันนี้กลับค่ำเลยลูก"
เมตตาเซื่องซึมไม่แจ่มใสเหมือนเมื่อก่อน
"วันนี้คนไข้มากครับ ตอนนี้ไข้หวัดระบาด"
"หิวไหมลูก ทานข้าวเลยไหม"
"ผมไม่หิวเลยครับ คุณแม่ทานข้าวหรือยังครับ"
"ยังจ้ะ...แม่รอหมออยู่"
"โธ่…คุณแม่อย่ารอผมเลยครับ ช่วงนี้งานไม่ค่อยเป็นเวลาผมขอไปอาบน้ำเลยดีกว่าครับ"
เมตตาเดินขึ้นบ้านไป แม่มองตามสีหน้าเป็นห่วง อ้อยถอนใจ
"ตั้งแต่พี่ดวงไป คุณหมอก็ซึมไปเลยนะนายแม่"
แม่หมอเมตตาสีหน้าท้อใจ
"บ้านมันเงียบไปเลย แม่ก็คิดถึงลูกหนู ป่านนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้"
แม่สีหน้าเศร้า

เมตตานั่งซึมคิดถึงดวงใจ แม่สงสารเดินมาหา
"ยังไม่ง่วงเหรอลูก"
"นั่งตรงนี้เย็นดีครับ"
"หมอ….ยังคิดถึงดวงใจอยู่ใช่ไหมลูก"
"เป็นห่วงครับ ต้องออกไปตกระกำลำบาก ไม่รู้จักใคร ไม่รู้จักทาง บ้านเมืองตอนนี้ก็มีแต่อันตราย"
"ดวงใจอาจจะกลับไปบ้านเค้าที่เชียงใหม่ก็ได้"
หมอใช้ความคิด ส่ายหน้า
"ผมว่าดวงใจน้อยใจพ่อเค้ามาก ถึงเค้าจะไม่พูดออกมา แต่เค้าไม่เคยพูดถึงพ่อเค้าเลยเค้าเป็นคนใจเด็ด คิดจะทำอะไรต้องทำให้ได้ ลำพังตัวคนเดียวก็ลำบากมากแล้ว ยังจะมีลูกหนูด้วย ลูกหนูไม่เคยลำบาก เกิดมาก็อยู่กับเรา มีคุณแม่ กับ อ้อยช่วยเลี้ยงผมสงสารลูกหนู..ป่านนี้คงร้องไห้อยากกลับบ้าน"

แม่ซับน้ำตา สีหน้าเศร้า...
 
อ่านต่อหน้า 2

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 23 (ต่อ)

ภายในห้องของเสาวรส ที่บ้านประคอง เป็นห้องเล็ก ๆ มีเสื่อกับที่นอนแบนๆ เล็กๆ มีมุ้งเก่าๆ ดวงใจสีหน้าเศร้าหมอง กำลังจะให้ลูกหนูนอน

“แม่…หนูจะกลับบ้าน”
“ที่นี่ก็บ้านเราลูก”
“หนูจะหาคุณย่า...จะหาคุณหมอ”
ดวงใจน้ำตาไหล
“คุณย่าไม่อยู่นะลูกนะ”
“หนูจะหาคุณย่า...จะหาคุณย่า”
เสาวรสเดินเข้ามา ถือของเล่นอันเล็กๆ มาด้วย
“ยังไม่นอนอีก...ลูกหนู นี่เห็นไหม ป้ามีของมาฝาก นี่”
ลูกหนูสนใจของเล่นที่เสาวรสเอามาให้
“ต้องหมุนๆ อย่างนี้ ลูกหนูหมุนๆ เลย คนเก่ง”
“ไม่น่าสิ้นเปลืองซื้อมาเลยพี่เสาว์”
“ไม่แพงหรอก...คนขายคุ้นกัน ลูกหนูยังไม่เลิกร้องกลับบ้านหมอเมตตาอีกนะ”
“ฉันสงสารลูกจริงๆ พี่เสาว์ ทุกคนที่บ้านคุณหมอรักแล้วก็ดีกับลูกหนูมากจ้ะ ตอนนั้นลูกหนูแกก็สุขสบายทุกอย่าง”
เสาวรสเห็นใจ ดวงใจเอาขวดนมให้ลูกกิน
“ทานนมซะนะคะ...คนเก่ง”

ประคองนั่งกินขนมอยู่กับเหมี่ยว เสาวรส กับดวงใจเดินออกมา
“ลูกหนูหลับไปแล้วเหรอ” ประคองถาม
“กว่าจะหลับแทบแย่...บ่นจะกลับบ้านอย่างเดียว”
“เด็กน่ะนะ จะติดที่ ติดคนเลี้ยง...แปลว่าบ้านหมอน่ะเลี้ยงดูเค้าดี”
ดวงใจก้มหน้าน้ำตาไหล
“ก็เพราะลูกนี่ละจ้ะ ทำให้ฉันคิดว่าฉันไม่ควรออกจากบ้านหมอเมตตา”
“ฉันว่าดวงคิดถูกแล้วนะ...ขืนอยู่ไปก็ไม่รู้ว่าหมอจะเมามุดมุ้งดวงอีกเมื่อไหร่” เสาวรสบอก
ประคองบอก
“อยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย...ความสวยมันก็พาภัยมาหาตัว พวกอีช้อยมันต้องไม่ปล่อยไอ้ดวงแน่”
ดวงใจสีหน้าหวาดหวั่น
“ฉันจะทำยังไงดีจ้ะ”
ประคองบอก
“วันนี้ข้าไปหาสารวัตรปรีชามาแล้ว เค้าก็กำชับว่าอย่าให้ไอ้เอ็งไปไหนมาไหนคนเดียว”“มันจะเป็นอย่างนั้นได้นานแค่ไหนยาย...ดวงเค้าก็ต้องไปไหนมาไหนของเค้าบ้าง” เสาวรสบอก
“แต่สามสี่วันนี่ก็ไม่เห็นพวกมันนะ”
ประคองขัดใจ
“เอ็งน่ะ ไม่ทันมันหรอกไอ้เหมี่ยว เอางี้ไอ้เสาว์ ตอนนี้เอ็งจะไปไหนมาไหนก็ติดกับไอ้ดวงเข้าไว้...เอ็งอยู่ด้วยพวกมันคงไม่กล้าหรอก”
เสาวรสบอก
“ใช่ซิยาย...พวกมันน่ะรู้ฤทธิ์ฉันดีละ...เอาอย่างนี้ไหมยาย..พรุ่งนี้ฉันจะลองพาดวงใจไปหาอากงร้านทองดู เผื่อเค้าจะมีงานให้ดวงทำ พวกนังช้อยจะได้หาดวงไม่เจอ”
ประคองค้อน

“ทีเรื่องของตัวไม่ยอมไปขอให้เขาช่วย พอเรื่องไอ้ดวง จะยอมบากหน้าไปให้เขาช่วย เอ็งนี่มันแปลกคนนะไอ้เสาว์ ดีแต่ทำให้คนอื่น...ไม่นึกถึงตัวเอง”

เช้าวันใหม่ เสาวรส กับ ดวงใจ แต่งตัวเตรียมไปหาอากงของเสาวรส ด้วยเสื้อผ้าเท่าที่มี จึงดูมอมไม่สวย ประคองนั่งป้อนข้าวลูกหนู เหมี่ยวกำลังทำกับข้าว“เอ้า...จะไปกันแล้ว ระวังตัวดีๆ กันนะ” ประคองบอก

เสาวรสหยิบมีดออกมาให้ดู“ไม่ต้องห่วงยาย นี่เห็นไหม ถ้ามันมาก็ได้เลือดสาดกันละ”
ดวงใจตกใจเล็กน้อย
“มันจะถึงขนาดนั้นเลยเหรอพี่เสาว์”
“ของอย่างนี้ต้องเตรียมพร้อมนะดวง ถึงเวลาไม่มีใครช่วยเราได้ เราต้องช่วยตัวเองก่อนละ”“จำไว้นะ ถ้าเจอพวกมันเอ็งรีบวิ่งหาตำรวจก่อนนะ แต่ถ้าจวนตัวก็แทงมันเลย ยายไปประกันตัวเอง” ประคองบอก
เหมี่ยวถาม
“ยายมีค่าประกันเหรอ”
ประคองค้อน“เฮ้ย…ตำรวจสนิทกัน”
ดวงใจเข้ามาหาลูกหนู“แม่ไปไม่นานนะลูกนะ...เดี๋ยวแม่มาจ้ะ”
“ป้าจะซื้อขนมมาฝากนะลูกหนู....ไปเถอะดวงใจ รีบไปเช้าๆ อย่างนี้พวกเวรนั่นมันยังไม่ตื่น”
เสาวรส กับ ดวงใจ เดินออกไป

มุมหนึ่งไม่ไกลจากบ้านประคอง เปี๊ยก กับ เดชและพวกมาแอบซุ่ม เปี๊ยกหาวนอน
"ง่วงนอนจริงโว้ย...นี่ก็หลายวันแล้วไม่เห็นพวกมันออกมาซะที" เปี๊ยกบอก
"ก็แม่มึงน่ะ เร่งกูทุกวัน ไม่ทำงี้จะทำไง"
เปี๊ยกตาสว่างทันที เห็นดวงใจ กับ เสาวรสเดินออกมาจากบ้านประคอง
"พี่เดช..นั่น...มันออกมาแล้ว...จัดการเลยนะ" เปี๊ยกบอก
เปี๊ยกทำท่าจะวิ่งออกไป เดชจับไว้
"ใจเย็นๆ ไอ้เปี๊ยก....ที่นี่มันถิ่นนังประคอง ขืนมาฉุดตรงนี้ มันได้เรียก พวกมารุมเราซิวะ ค่อยๆ ตามมันไปก่อน หาที่เหมาะๆ ค่อยจัดการ"
เปี๊ยก กับ เดช และพวก ค่อยๆตามดวงใจ กับ เสาวรส โดยที่สองสาวไม่รู้ตัว

เสาวรส พาดวงใจเดินมาตามทางที่จะไปขึ้นรถ ดวงใจมองรอบๆ อย่างนึกหวาด
"แถวนี้ไม่ค่อยมีคนนะ พี่เสาว์"
"มันยังเช้าอยู่มั้ง....พอเลี้ยวมุมถนนโน่นก็ถึงป้ายรถรางแล้ว"

เสาวรส กับ ดวงใจพากันรีบเดิน
 
อ่านต่อหน้า 3

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 23 (ต่อ)

เปี๊ยก กับ เดช และ สมุน สะกดรอยตามดวงใจมาห่างๆ เดชหยุดมองรอบๆ เห็นเป็นที่เปลี่ยว ไม่มีผู้คน มีกระท่อมเล็ก ๆ อยู่ไกลๆ

"ไอ้ถั่ว...นั่นมันกระท่อมใครวะ...เอ็งรู้ไหม"
สมุนเดชที่ชื่อถั่ว มองไปที่กระท่อมเล็กๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในพงหญ้า
"ไม่มีคนอยู่หรอกพี่...ฉันเคยมาแอบนอนสูบยา"
เดชยิ้มเหี้ยม
"ตรงนี้ละไอ้เปี๊ยก เอ็งกับอีกสองคนไปจัดการอีเสาว์...อีคนสวยนั่น ข้าจัดการเอง"
ดวงใจ กับ เสาวรส กำลังเผลอ เดช ตรงเข้าไปกระชากดวงใจเข้าไปในพงหญ้า เปี๊ยกตรงเข้าไปผลักเสาวรสล้มกระแทกกับพื้น ดวงใจตกใจมากร้องตะโกนลั่น
"ช่วยด้วย...พี่เสาว์ ช่วยด้วย"
เดชเอามือปิดปากดวงใจ สมุนอีกสองคนช่วยกันลากดวงใจเข้าไปในพงหญ้า
"เอามันไปที่กระท่อม" เดชสั่ง
ทางด้านเสาวรสถูกผลักล้มไปกับพื้นจนจุกลุกไม่ขึ้น แต่ก็พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา เปี๊ยกเตะเสาวรสกลิ้งไปอีก
"ไงอีเสาว์....วอนตีนกูมานานแล้ว ปากหมาดีนัก วันนี้กูจะเตะมึงให้หนำ ใจเปี๊ยกเดินเข้าไปหาเสาวรส หวังจะทำร้ายอีก เสาวรสเจ็บตัวแต่ก็กัดฟันหยิบมีดออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่เดชก้มตัวลงไปจิกหัวเสาวรส จึงโดนเสาวรสเอามีดแทงเอาเต็มแรง เปี๊ยกผงะด้วยความเจ็บปวด เสาวรสดึงมีดออกมา เปี๊ยกล้มลงไปนอนดิ้น... ลูกน้องของเดชอีกสองคนทำท่าจะเข้ามาทำร้ายเสาวรส แต่ไม่กล้าเพราะเสาวรสเหวี่ยงมีดฟัน
"ไอ้สัตว์นรก...รู้จักกูน้อยไป พวกมึงอยากโดนอย่างไอ้เปี๊ยกก็เข้ามา"
เสาวรสมองหาดวงใจด้วยสีหน้าเป็นห่วง เริ่มมีคนมาดู เสาวรสรีบตะโกน
"ช่วยด้วย...ช่วยด้วย ไอ้พวกแมงดามันจะฉุดฉัน ช่วยด้วย"
สมุนเดชเห็นคนเริ่มเข้ามาดู เปี๊ยกนอนตาย จึงวิ่งหนีไปทั้งสองคน เสาวรสทำท่าจะบุกพงหญ้าเข้าไปช่วยดวงใจ ชาวบ้านผู้หญิงรีบห้ามไว้
"ไปเรียกตำรวจตรงหัวมุมถนนโน่นซิอีหนู"
"พี่ช่วยไปตามตำรวจให้ฉันด้วยนะจ้ะ...ฉันจะรีบไปช่วยเพื่อนมันคงฉุดไปที่กระท่อมโน่นแล้ว"
"จะเข้าไปคนเดียวได้ไง รีบไปตามคนมาช่วยซิ ฉันจะไปตามตำรวจให้"
ชาวบ้านคนนั้นรีบวิ่งไปหา เสาวรสละล้าละลัง แต่ก็ตัดสินใจวิ่งกลับไปบ้านประคอง

ประคอง กำลังทำกับข้าว ลูกหนูกำลังร้องโยเย เหมี่ยวปลอบเท่าไหร่ก็ไม่หยุดร้อง
"ลูกหนูเป็นอะไรลูก...ไม่เคยงอแงอย่างนี้เลยนะ"
เสาวรสรีบวิ่งเข้ามา สภาพผมกระเซิง เสื้อผ้าเลอะดิน ปากก็พยายามตะโกนมา
"ยาย…ยาย เร็วยาย ไปช่วยไอ้ดวงเร็ว"
ประคอง กับ เหมี่ยวตกใจ
"อะไร…เป็นอะไรไอ้เสาว์"
"ไอ้เดชมันฉุดดวงใจไปแล้ว...รีบไปช่วยดวงใจเร็วๆ ยาย"
ประคองตกใจมาก
"ฉุดไอ้ดวงไป...ที่ไหน"
"กระท่อมกลางทุ่งน่ะยาย เร็วๆ เถอะ"
ประคองโมโหมาก
"มึง…เดี๋ยวโว้ย เฮ้ย ไอ้เจ็ง ไอ้เชาว์ ไอ้น้อย เร็วโว้ย ไปช่วยกันถล่มพวกอีช้อยเร็วโว้ย"
พลพรรคของประคองพากันโผล่ออกมาจากบ้าน ส่งเสียงเซ็งแซ่ ต่างพากันถืออาวุธ สากบ้าง ทัพพีบ้าง ด้ามฟืนบ้าง วิ่งตามประคองกับเสาวรสออกไป
"ไปพวกเรา...ไปจัดการพวกอีช้อยซะที"เจ็งบอก
"ไปเร็ว" เชาว์ว่า
น้อยสนับสนุน
"ฉันไปด้วย...ฉันจะไปช่วยถล่มมัน"

ทั้งหมดพากันวิ่งออกไป เหมี่ยวอุ้มลูกหนูที่ร้องไห้จ้าไว้

ในกระท่อมร้าง ดวงใจนอนนิ่ง สีหน้าปวดร้าวแต่ไม่ร้องไห้แล้ว เสื้อถูกฉีกขาดไป เดชลุกขึ้นยืนรูดซิปกางเกง สีหน้าอิ่มเอมสมหวัง ก้มไปหอมแก้มดวงใจ
 
ดวงใจนิ่งเฉย
"ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันไม่ให้เธอไปอยู่ในซ่องยายช้อยหรอกฉันจะเก็บเธอไว้เอง"เดชพยายามจะคลอเคลียดวงใจอีก ดวงใจสะบัดโดยแรงร้องกรี๊ดลั่น"ไป…ไปให้พ้น ไอ้สารเลว"
เดชหัวเราะ"อย่าด่าผัวซิจ้ะ ทำตัวเป็นเมียที่ดี ไอ้เดชจะหาเลี้ยงเอง"
ดวงใจตาขวาง หันมาตวาด"ใครเป็นเมียแก ฉันก็แค่ให้ทานหมามันแดกแค่นั้น"
"ปากดีนักนะ...เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก"
เดชทำท่าจะกระชากดวงใจมาอีก ถั่วรีบเข้ามา เสียงประคอง กับพรรคพวกดังมาแล้ว
"ลูกพี่…รีบไปเถอะ อีเสาว์มันไปยกพวกมาแล้ว" ถั่วบอก
"ให้มันมาเลย...กูจะสั่งสอนพวกมันเอง"
เสียงพวกประคองมาแล้ว เดชกำลังจะเปิดประตูออกไป แต่เสาวรสและชาวบ้านอีกหลายคนผลักประตูอย่างแรง จนเดชกระเด็นไป เสาวรสรีบข้ามาดูดวงใจอย่างเป็นห่วง
"ดวง…ดวง"
เสาวรสเห็นสภาพดวงใจก็หน้าเสีย ประคองเอาท่อนฟืนฟาดหัวเดช เดชกับพวกพยายามจะต่อสู้ แต่พวกชาวบ้านมีมากกว่า เดชกับสมุนถูกประคองกับพวกทำร้ายสะบักสบอมจนหัวแตกแขนหัก เดชโดนหนักที่สุด โดนเตะทางโน้นทีทางนี้ที ประคองถือมีดเดินเข้ามาสีหน้าหน้ากลัว
"ถอดกางเกงมัน"
เดชตาเหลือกลาน พลพรรคประคองพากันจับเดชกดให้นอนกับพื้น เจ็งรีบถอดกางเกงเดช เดชพยายามดิ้นรนแต่สู้ไม่ได้
"ชาติหมาอย่างมึงอย่ามีทำพันธุ์เลยวะ" เจ็งบอก
"อย่านะ อย่าทำฉันนะ ฉันไหว้ละ"

ตำรวจวิ่งมาที่กระท่อมร้าง เห็นชาวบ้านกำลังรุมซ้อมสมุนเดชจึงพากันห้ามปรามชาวบ้าน ทันใดนั้นมีเสียงเดชร้องโหยหวนออกมาจากในกระท่อม
"อย่า...อ๊าก"

ประคอง กับ เสาวรสเดินเข้าบ้านมา เหมี่ยวกับพวกชาวบ้านที่ไปช่วยดวงใจ นั่งรอฟังข่าว
"เป็นไงไอ้เสาว์ ตำรวจเค้าว่าไง" น้อยถาม
"เค้าก็บอกว่าฉันสู้เพื่อป้องกันตัว"
เจ็งถาม
"แล้วไอ้เปี๊ยกมันตายไหม"
"ตายซิ...แต่ไอ้เดชไม่ตาย"
"ดีแล้วละยายที่มันไม่ตาย เพราถ้ามันตายยายจะโดนจับฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา""นั่นซิ...ติดคุกตอนแก่นี่มันแย่นา แต่อย่างนี้ไอ้เดชมันจะเอาเรื่องเราได้ไหม" เจ็งถาม
"มันก็โดนคดีฉุดข่มขืน ขอให้มันติดคุกหัวโตทีเถอะ"
"ไอ้ดวงไปไหน ไอ้เหมี่ยว"
"กลับจากโรงพยาบาลก็อยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมออกมาเลย"
เสาวรสสีหน้าเครียดมาก
"เป็นเพราะฉันแท้ๆ ถ้าฉันไม่พาดวงไป ถ้าฉันไปช่วยดวงทัน"

"อย่าโทษตัวเองเลยวะ เอ็งน่ะทำดีที่สุดแล้ว เป็นเคราะห์เป็นเวรของมัน... ไอ้ดวงเอ้ย"
 
อ่านต่อหน้า 4

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 23 (ต่อ)

ดวงใจนั่งร้องไห้น้ำตาไหลเงียบๆ มองดูลูกหนูที่แต่งตัวมอมแมมเล่นของเล่น ลูกหนูหันมายิ้ม ดวงใจพยายามยิ้มแต่แอบสะอื้น
 
ดวงใจหยิบล๊อกเก็ตของกฤษดาออกมากำไว้ร้องไห้สะอึกสะอื้น เสาวรสถือจานข้าวเข้ามาในห้อง ดวงใจเห็นเสาวรสเข้ามาก็เช็ดน้ำตา
"ดวง…พี่เอาข้าวมาให้ ทานข้าวหน่อยนะ ตั้งแต่เช้าดวงยังไม่ได้กินอะไรเลย"
"ฉันกินไม่ลงพี่เสาว์"
เสาวรสกอดดวงใจ
"พี่ขอโทษนะดวง...พี่ไปช่วยดวงช้าไป"
"ไม่มีใครนึกว่ามันจะทำขนาดนี้พี่เสาว์...พี่ช่วยฉันไว้มากแล้ว"
เสาวรสเห็นสายสร้อยในมือดวงใจ
"สายสร้อยอะไรดวง"
"สายสร้อยคุณกฤษดา...พ่อของลูกหนูจ้ะ"
ดวงใจวางสายสร้อยลงบนพื้น เสาวรสรีบหยิบขึ้นมาจะใส่ให้ดวงใจ
"เอาใส่ไว้ซิดวง ของอย่างนี้อย่ามาวางแบบนี้"
ดวงใจไม่ยอมใส่
"ฉันไม่มีหน้าจะใส่สายสร้อยเส้นนี้อีกแล้วพี่เสาว์...ฉันเป็นผู้หญิงสกปรก" ดวงใจสะอื้น "ฉันแปดเปื้อนสิ่งโสโครก ฉันไม่คู่ควรกับสร้อยเส้นนี้ ไม่คู่ควรเป็นแม่ลูกหนู ไม่คู่เป็นเมียคุณกฤษดาอีกแล้วพี่เสาว์"
ดวงใจร้องไห้สะอึกสะอื้นดังจะขาดใจ เสาวรสพยายามปลอบโยน เสาวรสก็ร้องไห้

"ไม่จริงดวง ดวงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่จริง"

ดวงใจเดินจูงลูกหนูมาที่บ้านหมอเมตตา พอจวนจะถึงหน้าบ้านหมอ ดวงใจก็หยุดร่ำลาลูก

"ลูกหนู…จำไว้นะลูก แม่รักลูกมากที่สุด"
สองแม่ลูกกอดกันแน่นน้ำตาไหล
"เราจะไปไหนจ้ะแม่"
"เราจะไปบ้านคุณย่า ไงลูก...ดีไหมจ้ะ"
ลูกหนูดีใจ
"ดีจ้ะ"
ดวงใจชะโงกหน้าดูหน้าบ้านเมตตา เห็นยังไม่มีใครก็หันมาหอมมากอดลูกอีก
"เอาจดหมายนี่ให้คุณหมอนะลูก...แม่จะไปซื้อขนมให้ลูกหนู...เดี๋ยวแม่มานะ"
"ไม่เอา...หนูจะไปกับแม่"
"อย่าไปเลยลูก ลูกหนูรอแม่เดี๋ยวเดียว...รอคุณย่าดีกว่าอย่าดื้อนะจ้ะคนดี คนเก่งของแม่"
ดวงใจกอดลูกอีก หัวใจแทบสลาย ดวงใจก้มตัวไปกดกริ่งแล้วรีบหลบออกมา ดันตัวลูกหนูให้ไปหน้าประตู พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องไห้
"น้าอ้อยมาแล้ว...เห็นน้าอ้อยไหมลูก"
ลูกหนูมองไปในบ้าน อ้อยเดินมาเปิดประตู ดวงใจรีบหลบไป อ้อยเห็นลูกหนูก็ดีใจรีบเข้ามาอุ้ม
"ลูกหนู ลูกหนูนี่ มายังไง นายแม่ นายแม่ ลูกหนูมา"
แม่หมอเมตตารีบเดินออกมา
"ไหนอ้อย ลูกหนูจริงๆ ด้วย ลูกหนูของย่า แล้วแม่เขาไปไหนล่ะลูกแม่ไปไหน"
"แม่ไปซื้อหนม"
เมตตาเดินออกมาอย่างเร็ว
"ลูกหนู…ดวงใจล่ะครับคุณแม่"
"ไม่เห็นลูก...ลูกหนูถือกระดาษอะไรลูก" แม่บอก
เมตตาดึงจดหมายออกมาจากมือลูกหนู เปิดออกอ่าน
"เรียนคุณหมอ และ นายแม่...ดวงขอฝากลูกไว้ด้วยนะคะ ลูกหนูจะมีชีวิตที่ดีกว่าถ้าได้อยู่ที่นี่...ดวงมีกรรมมาก ไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขได้... ดวงนึกถึงความเมตตาของคุณหมอและนายแม่ที่มีต่อดวงเสมอ ช่วยกรุณารับลูกหนูเป็นลูกของคุณหมอ อย่าให้ลูกหนูรู้ว่าแม่เป็นใคร และ ได้ตายไปแล้ว...คุณหมออย่าตามหาดวงเลยค่ะ...เพราะดวงใจคนนี้ ไม่อยากอยู่ในโลกนี้ อีกแล้ว"
เมตตาอ่านจดหมายแล้ว รีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน
"ดวงใจ…ดวงใจ"
เมตตายืนอยู่ในความมืดคนเดียว

ดวงใจวิ่งร้องไห้ออกมาจากซอยบ้านเมตตา พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดจนเหนื่อยหอบ มาถึงสะพานข้ามแม่น้ำ ดวงใจหยุดยืนมองสะอื้น มีเสียงเครื่องบินและ เสียงหวอดังขึ้นชาวบ้านเริ่มวิ่งหนีกันอลหม่าน ดวงใจเดินเลื่อนลอยไม่ได้สนใจ มีชาวบ้านวิ่งมาชนแต่ดวงใจไม่ได้สนใจ เครื่องบินทิ้งระเบิดลงมา ชาวบ้านแตกตื่นร้องดังไปทั่ว ดวงใจเริ่มตกใจเสียงระเบิด แต่ก็ไม่ได้วิ่งหนี โตชิโร่อยู่บนรถจี้ปที่มีทหารญี่ปุ่นขับมา โตชิโร่เห็นดวงใจเดินเลื่อนลอยไม่วิ่งหนีระเบิดอย่างคนอื่นๆ ดวงใจโดนคนดันให้ไปที่กลางสะพาน โตชิโร่หยุดรถวิ่งตามดวงใจไป ระเบิดลงสะพานข้างหน้า โตชิโร่รีบฉุดดวงใจให้หลบไปใต้สะพาน
 
ดวงใจเป็นลมในอ้อมอกของโตชิโร่
 
อ่านต่อตอนที่ 24
กำลังโหลดความคิดเห็น