แหวนทองเหลือง ตอนที่ 15
วันใหม่ ดวงใจเดินมาตามทางรถไฟ แดดร้อนจ้า ท่าทางเหนื่อยอ่อนโทรมมาก ดวงใจจะเอาน้ำในกระบอกไม้ไผ่มากิน แต่น้ำหมดแล้ว
เธอขว้างกระบอกน้ำทิ้ง พยายามจะเดินต่อ สักพักรู้สึกเจ็บท้อง แต่ก็ยังพยายามเดินต่อไป ดวงใจเจ็บท้องมากขึ้นเรื่อยๆ ถุงน้ำคร่ำแตกมีน้ำปนเลือดไหลออกมาจนเลอะขา ดวงใจตกใจลงนอนร้องด้วยความเจ็บปวด รถโยกคันเล็กมาตามทางรถไฟไกลๆ และ ใกล้เข้ามา ดวงใจยังลุกไม่ไหวนอนร้องไห้เจ็บท้อง คนบนรถโยกเห็นดวงใจแล้ว ต่างพากันชี้มาที่ดวงใจ รถโยกเข้ามาใกล้ เสียงพนักงานรถไฟโวยวาย
"มีคนโดนรถไฟทับอีกแล้ว"
รถโยกวิ่งมาถึง หมอเมตตาที่อยู่บนรถรีบกระโดดลงมาดูดวงใจ
"ยังไม่ตาย แต่กำลังจะออกลูก ลงมาช่วยกันหน่อยเร็ว"
พนักงานรถไฟอีกสองคน โดดลงมาช่วยหมอเมตตาพาดวงใจขึ้นไปบนรถ แสายตาดวงใจเห็นหน้าหมอเมตตาด้วยความเลือนลาง
"ใจเย็นๆ นะ...เธอไม่เป็นไรแล้ว"
ดวงใจผล็อยหมดสติไป
หมอเมตตาอุ้มดวงใจเข้าไปในห้องพักนายสถานีในแถบพิษณุโลก นายสถานีตกใจ
"คนตายเหรอครับหมอ"
"ไม่ตาย...กำลังจะคลอด ผมต้องใช้ห้องพักคุณหน่อยนะ"
นายสถานีรีบพาหมอไปที่ห้อง
"ทางนี้เลยครับหมอ"
หมอเมตตาอุ้มดวงใจเข้ามาในห้องพักนายสถานี เอาดวงใจวางบนเตียงนอน เจ้าหน้าที่คนที่อยู่บนรถโยกรีบเอากระเป๋าของหมอเมตตามาให้ หมอเมตตาหันไปรับกระเป๋า
"ขอบใจนะ พวกคุณออกไปก่อนนะ ผมอยากได้น้ำร้อนเดี๋ยวนี้เลย"
นายสถานีท่าทางตื่นเต้น
"ได้ครับหมอ...ผมจะไปตามเมียผมมาช่วยหมอ...แม่อีหนูมันคลอดมาสิบสามคนแล้ว"
หมอเมตตากำลังเปิดกระเป๋าหยิบยา นายสถานีรีบวิ่งออกไป หมอเมตตาเอาเข็มฉีดยาดูดยาเอาไปฉีดให้ดวงใจ ดวงใจรู้สึกตัวแบบเลือนราง ร้องโอยๆ
"ฉันฉีดยาบำรุงให้เธอ จะได้มีแรงเบ่ง"
"เจ็บท้อง...เจ็บเหลือเกิน"
"อีกไม่นานก็หายเจ็บ ใจเย็นๆ นะ ทำใจให้สบาย ฉันเป็นหมอ"
ดวงใจยกมือไหว้
"ฉันปวดเหลือเกินค่ะหมอ"
"เธอกำลังจะคลอดลูกแล้ว...มา..ขอให้ฉันดูหน่อยนะ"
หมอเมตตาดึงผ้าห่มมาคลุมที่ช่วงขาดวงใจ
"ไม่ต้องอายนะ...ฉันจะต้องทำคลอดให้เธอเดี๋ยวนี้"
ดวงใจเจ็บปวดอย่างมาก ทำทุกอย่างที่หมอบอก เมียนายสถานีหอบอ่างน้ำร้อนเข้ามา มีลูกสาวอายุใกล้เคียงดวงใจถือกาน้ำร้อนเข้ามาด้วย
"เอ้านังอ้อย เอากาน้ำร้อนวางไว้ก่อน"
อ้อยเอากาน้ำร้อนวาง ระหว่างนั้นดวงใจร้องโอดโอย เมียนายสถานีเข้าไปปลอบโยน หมอเมตตาเดินมาหยิบเครื่องมือใส่ในอ่างน้ำร้อน
"ไม่ต้องร้อง...เดี๋ยวก็หายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง"
หมอเมตตาเดินมาดูดวงใจที่นอนชันขาคลุมผ้าไว้
"ปากมดลูกเปิดหลายเซ็นต์แล้ว..เอ้าเบ่ง...เบ่ง"
เมียนายสถานีเข้าไปนั่งหนุนไหล่ให้ดวงใจ ปากก็ร้องให้เบ่งเสียงดัง
"เอ้าเบ่งเข้าอีหนู...เบ่ง อื้ด...เบ่งลูก...อื้ด ฉันน่ะชินแล้ว สิบสามท้องแล้ว ไอ้คนหลังๆ นี่จามมันก็หลุดออกมาเลย"
ตลอดเวลาดวงใจร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ แข่งกับเสียงของเมียนายสถานี
อ่านต่อหน้า 2
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 15 (ต่อ)
นายสถานีและทุกคนลุ้นอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าตื่นเต้น ทุกคนลุ้นตามเสียงเมียนายสถานีที่บอกให้ดวงใจเบ่ง นายสถานีหันไปมองลูกน้องขำๆ
"พวกเอ็งจะเบ่งอะไรกันวะ...เดี๋ยวมึงก็มาทำกูเหม็นหรอกโว้ย"
"มันลืมตัวเบ่งตามน่ะลูกพี่"
พนักงานลูกน้องพากันหัวเราะ เสียงเด็กร้องดังมาจากข้างในห้อง นายสถานี กับลูกน้องไชโยดีใจ อ้อยโผล่หน้าออกมาด้วยสีหน้ายิ้มดีใจ
"ผู้หญิงจ้ะ"
อ้อยกลับเข้าไปในห้อง
"ลูกพี่ วันนี้วันที่เท่าไหร่น่ะ เอาไปแทงหวยดีกว่า"
"พวกมึงก็คิดอยู่เรื่องเดียววะ อะไรๆ มึงก็เอาไปตีเป็นหวยหมด"
"ลูกพี่...อย่างนี้คนจีนเค้าถือว่าเฮงสุดๆ นะ...ถือว่าฤกษ์งามยามดีเลยละ"
ทุกคนหัวเราะชอบใจ
ดวงใจนอนเหนื่อยอ่อนอยู่บนเตียง เมียนายสถานีเอาลูกที่ห่อผ้าไว้มาส่งให้ดวงใจ
"หน้าตาน่าเกลียด น่าชัง เชียวนะ"
ดวงใจมองลูกด้วยสายตารักใคร่ เอามือโอบกอดไว้อย่างทะนุถนอม
จะตั้งชื่อลูกว่าอะไรล่ะ...คิดไว้หรือยัง"
"ยังเลยจ้ะ ฉันจะเรียกแกว่า ลูกหนู"
เมียนายสถานีหัวเราะชอบใจ
"เออดี...เหมาะ เหมาะ ลูกเอ็งตัวแดงเหมือนลูกหนูจริงๆ แล้ว เอ็งล่ะชื่ออะไร"
ดวงใจคิดนิดหนึ่ง หมอเมตตาคอยฟัง
"ฉันชื่อดวงใจจ้ะ"
หมอเมตตากำลังทำแผลที่เท้าดวงใจ
"เท้าเธอเป็นแผลไปโดนอะไรมา...อักเสบจนเป็นหนองอย่างนี้."
ดวงใจก้มหน้าไม่ตอบ
"แล้วทำไมถึงไปเดินตามทางรถไฟอย่างนั้น จะเดินไปไหน"
"ฉันจะไปกรุงเทพ"
"แล้วบ้านเอ็งอยู่ที่ไหน...เอ็งจะไปกรุงเทพทำไม"
"บ้านฉันอยู่เชียงใหม่จ้ะ ฉันจะไปหาผัวที่กรุงเทพ เงินค่ารถไฟมันไม่พอก็เลยเดินไปตามทางรถไฟ...ยังไงก็ต้องถึง"
หมอเมตตาตกใจ
"นี่เธอเดินจากเชียงใหม่มาถึงนี่เชียวหรือ...รู้ไหมว่ามันไกลขนาดไหน"
ดวงใจน้ำตาร่วง เมียนายสถานีเห็นแล้วก็สงสาร
ดวงใจน้ำตาร่วง เมียนายสถานีเห็นแล้วก็สงสาร
"ผัวเอ็งมันก็เหลือเกินนะ ปล่อยให้เมียมาเดินซมซานได้ คุณหมอ เวทนามันหน่อยเถอะ หมอจะกลับกรุงเทพก็เอามันไปด้วย"
ดวงใจดีใจ มองหน้าหมอเมตตาอย่างมีความหวัง หมอเมตตามองดวงใจอย่างใช้ความคิด
"แล้วที่กรุงเทพเธอจะไปพักกับใคร"
ดวงใจหน้าเศร้า
"ฉันไม่รู้จักใครนอกจากผัวฉันจ้ะ บ้านเค้าอยู่ทุ่งมหาเมฆ ไปถามคนแถวๆ นั้นเค้าคงรู้"
"เธอยังไม่แข็งแรง จะออกไปเที่ยวตามหาอย่างนั้นไม่ได้หรอก เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะกลับกรุงเทพ เธอจะไปกับฉันก็ได้ ไปพักที่บ้านฉันก่อน ฉันอยู่กับคุณแม่สองคนเท่านั้น"
เมียนานสถานีรีบสนับสนุน ดวงใจดีใจมากลุกขึ้นนั่ง ยกมือไหว้หมอ
"ขอบคุณหมอมากจ้ะ"
"ดีจริงหมอ ถือว่าเอาบุญนะ ช่วยคนด้วยกัน"
หมอเดินมาเก็บเครื่องมือ ซึ่งอ้อยล่างเช็ดเก็บเรียบร้อย หมอเมตตาเห็นก็พอใจ
"แหม...เก็บเรียบร้อยดีจริง เก่งนี่เรา"
อ้อยมองหมออย่างกลัวๆ กล้าๆ
"ขอหนูไปอยู่กรุงเทพด้วยคนได้ไหมจ้ะ"
"นังอ้อย...เอ็งอยากไปกรุงเทพกับเขาหรือ คุณหมอ...เอามันไปไว้ใช้ไหมคะ นังนี่น่ะมันทำงานบ้านเก่งสะอาดกว่าพี่น้องคนอื่นๆ ดีเหมือนกัน ฉันน่ะมันลูกเยอะแย่งกันกิน แย่งกันอยู่ ดูไม่ค่อยจะไหว แกไปคอยรับใช้หมอก็ทำตัวดีๆ ล่ะ"
หมอเมตตายิ้มใจดี มองอ้อย กับ ดวงใจยิ้มๆ
"ทีนี้คุณแม่ฉันไม่เหงาแน่แล้ว"
ดวงใจดีใจมาก หอมลูกอย่างโล่งใจแล้ว...
อ่านต่อหน้า 3
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 15 (ต่อ)
สถานีรถไฟแถวพิษณุโลก วันใหม่ หมอเมตตา พร้อมดวงใจและอ้อยมาคอยขึ้นรถไฟที่รถไฟ ดวงใจอุ้มลูกไว้ เมียนายสถานีเอาของกินให้อ้อยชะลอมใหญ่ ลูบหน้าลูบหลังน้ำตาร่วง
"เอาของไว้กินระหว่างทางกันนะ จะได้ไม่หิว คุณหมอ ฝากนังอ้อยด้วยนะคะ ถ้ามันดื้อก็อบรมสั่งสอนมันด้วย"
หมอเมตตายิ้มใจดี
"ฉันจะดูแลอ้อยอย่างดี ไม่ต้องห่วงหรอก"
"นังอ้อย เอ็งไปอยู่บ้านท่านก็ให้ขยันเข้าไว้ อย่าไปนอนสันหลังยาวมือตีนห่าง"
"จ้ะแม่"
"พอเอ็งจะไปจริงๆ แม่ก็อดใจหายไม่ได้"
อ้อยยิ้มล้อแม่ แต่ก็เศร้าเหมือนกัน
"ไหนแม่ว่าอยากให้ฉันไปพ้นๆ จะได้ไม่เปลืองไง"
"แม่ก็บ่นไปอย่างนั้นแหล่ะ คนเป็นแม่น่ะมันรักลูกทุกคนแหล่ะ."
อ้อยกอดกับแม่ร้องไห้
"เอ้า..แม่อีหนู..ตกลงจะให้มันไปรึเปล่า"
"ไม่ต้องห่วง อยากไปเยี่ยมเมื่อไหร่ก็ไปได้ หัวหน้าเค้ารู้ที่อยู่ฉันดี ไปเถอะ..รถไฟจะออกแล้ว"
ตลอดเวลาดวงใจไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น พยายามระงับความตื่นเต้นเหลือเกินที่จะได้นั่งรถไฟไปกรุงเทพแล้ว ดวงใจหันมาลานายสถานี กับ เมีย
"ฉันลาละจ้ะ...ขอบคุณน้าทั้งสองมากนะจ้ะ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณน้าทั้งสองเลย"
นายสถานีบอก
"เออ...สวัสดีมีชัยนะ ขอให้โชคดี"
หมอเมตตา พาดวงใจ กับ อ้อยขึ้นรถไฟ นายสถานีกับเมีย และพนักงานรถไฟพากันมาส่งโบกมืออวยพรให้ ดวงใจทั้งดีใจและตื่นเต้นเมื่อขึ้นไปนั่งบนรถไฟ อ้อยก็เหมือนกัน
ตลาดเล็ก ๆ หน้าปากซอยบ้านหมอเมตตา มีหาบเร่ขายของพอสมควร เสาวรสนั่งขายหาบข้าวแกง มีคนมานั่งกินสองสามคน ไอ้เปี๊ยกเดินมากวน
"ห่อหมกหมดหรือยังเจ๊"
"มึงเรียกใครเจ๊ไอ้เปี๊ยก"
เปี๊ยกหัวเราะกวน
"โง่หรือไงถึงมาถาม...ก็เรียกมึงแหล่ะ"
เสาวรสยืนเท้าสะเอวสีหน้าเอาเรื่อง
"ไอ้ชิบหาย....มากวนตีนกูใช่ไหมไอ้เปี๊ยก เดี๋ยวกูสาดหน้าด้วยน้ำล้างจาน"
เสาวรสฉวยถังใส่น้ำล้างจานจะสาดเปี๊ยก ไอ้เปี๊ยกรีบห้าม
"อย่านะ...หน้าไม่เหมือนแม่กู กูเตะให้"
"มาซิมึง มือตีนกูไม่ได้ซุกหีบนะโว้ย"
เสาวรสคว้าไม้คานมาทำท่าจะสู้ คนกินเดินหนี
"ดูซิมึงทำคนกินกูหนีหมดแล้ว"
"ช่วยไม่ได้ แม่ค้าปากตลาดอย่างมึง ใครเค้าจะอยากมากิน"
เสาวรสเอาน้ำล้างจานสาดหน้าไอ้เปี๊ยกจนหมดถัง มีเศษอาหารติดที่หน้า ไอ้เปี๊ยกโวยวาย
"อะไรวะอีนี่...โสโครก"
"เหมาะกับคนโสโครกอย่างมึงไง ไอ้พวกโสโครกลามกจกเปรต ถ้ามึงยังมายุ่งกับกู อีกโดนไม้คานนี้ฟาดกบาลมึงแน่"
"อีนี่ต้องสั่งสอน"
เปี๊ยกทำท่าจะเข้ามาตบเสาวรส เจ็งแม่ค้าขนมคว้าไม้คานเข้ามาช่วย
"ไอ้เปี๊ยก...เอ็งไปหาเรื่องมันก่อนทำไม พวกข้าเห็นนะมันอยู่ของมันดีๆ เอ็งก็มาพูดแขวะหาเรื่องมันก่อน"
พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆ เดินเข้ามาเข้าข้างเสาวรส ท่าทางเอาเรื่อง
"นี่พวกเอ็งจะรุมข้าหรือไง...อย่านะมึง กูจะไปตามลูกพี่กูมานะ"
"ไปเลย...มึงขี่ม้าสามศอกไปบอกอีแม่เล้ามึงมา" เสาวรสว่า
เจ็งบอก
"ถ้านังช้อยมันรู้ว่าแกมาทำกร่างกับพวกข้า...ระวังนะมึง...นังช้อยมันจะกระทืบมึง เพราะมันรู้ว่าพวกกูจะพากันไปถล่มซ่องมัน...มึงอย่าก่อเรื่องดีกว่า"
เสาวรสถ่มน้ำลายเหยียด
"ถุย...ไอ้แมงดา ไหนๆ มึงจะไปฟ้องแม่มึงแล้ว พวกกูจะรุมกระทืบมึงก่อนดีกว่า"
พวกพ่อค้าแม่ค้าพากันรุมด่าอย่างเกลียดชัง เปี๊ยกชะงัก ชี้หน้าด่ากราด
"ฝากไว้ก่อนเถอะวะ"
เปี๊ยกเดินหนีปากก็ยังด่าไปเรื่อย รถสามล้อที่หมอเมตตา นั่งมากับดวงใจ และอ้อย ขับผ่านมาพอดีจะเลี้ยวเข้าซอย ไอ้เปี๊ยกเหลียวมอง พวกพ่อค้าแม่ค้า และ เสาวรสก็มอง เจ็งดีใจ
"หมอกลับมาแล้ว"
"พี่เจ็ง...มีผู้หญิงมากับหมอด้วย" เสาวรสบอก
พ่อค้าบอก
"ผู้หญิงอุ้มเด็กมาด้วยนี่ สงสัยหมอจะแอบไปมีเมียมีลูกไว้แล้ว"
เสาวรส และ พ่อค้าแม่ค้า พากันปลาบปลื้มกับหมอ...
อ่านต่อหน้า 4
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ในเวลาต่อมา ดวงใจ กับ อ้อย นั่งคุกเข่าไหว้แม่หมอเมตตาที่ท่าทางดีใจ หมอเมตตาอุ้มลูกหนูไว้
"เอาเถอะจ้ะ...มาอยู่ซะด้วยกัน ที่นี่ก็มีกันแค่สองคนนี่แหล่ะ หมอน่ะต้องออกตรวจบ่อยๆ ฉันก็อยู่คนเดียว มีเธอสองคนมาอยู่ด้วยก็ดี ไหนหมอ ส่งลูกหนูมาให้แม่ดูหน้าหน่อยซิ"
หมอเมตตาส่งลูกหนูที่นอนหลับอยู่มาให้แม่อุ้ม แม่หมอเมตตาอุ้มลูกหนูพอเห็นหน้าก็หลงรัก
"หมอ แม่รักลูกหนูซะแล้วซิลูก ดูซิรู้อยู่..น่าเกลียดน่าชังจริงๆ"
ดวงใจสีหน้าสบายใจรู้สึกอุ่นใจเป็นครั้งแรก หมอเมตตาก็ดีใจ
บ้านยายประคอง ตอนเย็น เสาวรสกำลังล้างหม้อล้างไหที่กลับจากขายของ มีเหมี่ยวคอยช่วย ประคองกำลังหั่นเครื่องแกงที่วางเรียงรายอยู่
"ไอ้เปี๊ยกนี่มันเลวจริงๆ หนอย...ข้าอยู่หน่อยไม่ได้ จะเอาอีโต้เฉาะปากมัน"
ประคองควงอีโต้ในมือว่อน เสาวรสหัวเราะชอบใจ
"พรุ่งนี้ก่อนยาย พรุ่งนี้ฉันจะเอาติดไป ถ้ามันมาปากหมาอีกคราวนี้แม่จะฟันให้ปากมันยัดหม้อได้เลย"
เหมี่ยวบอก
"ฉันว่าแกอย่าไปยุ่งกับไอ้คนพวกนี้ดีกว่า พวกเดนคนอย่างมันทำได้ทุกอย่าง เอ็งน่ะเดินหาบขายของคนเดียว เดี๋ยวมันแค้นจะดักตีหัวเอานะ"
"ก็จริงนะ...วันนี้ถ้าไม่ได้เจ๊เจ็งกับลุงเชาว์มีหวังฉันกับมันคงแลกกันคนละแผลละ"
"ไม่ต้องไปกลัวพวกมัน อีประคองซะอย่าง ใครมาแหยมกับพวกกูละ เละ"
"เอาเข้าไป...ทำเก่งอยู่เรื่อยนะป้า เออไอ้เสาว์..วันนี้พ่อเอ็งมาหาอีกแล้วนะ"
"ทำไม...เค้าอยากให้ฉันกลับบ้านเหรอ"
ประคองมองหน้ากับเหมี่ยว
"เค้าก็มาถามสารทุกข์สุขดิบเอ็ง ไม่เห็นพูดนี่ว่าอยากให้เอ็งกลับบ้าน เอ้านี่แน่ะ เค้าฝากเงินไว้ให้เอ็ง สิบบาท"
เสาวรสล้างจานเสร็จเอาจานไปคว่ำ สีหน้าเศร้าไป ประคองหยิบเงินจากพกออกมาส่งให้ เสาวรสเม้มปากอย่างน้อยใจ
"ยายเก็บไว้เถอะ ฉันมาเกาะยายกินอย่างนี้ฉันก็สบายดีแล้ว ถ้าเค้ามาอีก ยายบอกเค้าด้วยนะ...ว่าต่อไปไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก อยู่กับเมียใหม่ลูกใหม่ไปเถอะ"
เมตตากับแม่กำลังนั่งทานข้าวกัน มีอ้อยนั่งใกล้ๆ ที่พื้น
"มานั่งทานด้วยกันซิดวงใจ" เมตตาบอก
"ข้าเจ้าทานทีหลังกับอ้อยดีกว่าเจ้า"
"ลูกหนูหลับไปแล้วเหรอ"
"กินนมแล้วก็หลับไปเลยจ้ะ"
ดวงใจเดินไปนั่งเย็บผ้า
"เธอก็ควรจะไปนอนพักผ่อนนะดวงใจ เพิ่งจะคลอดใหม่ ๆ ไหนจะเดินทางตั้งไกล รีบทานข้าวแล้วไปนอนได้แล้ว"
ดวงใจยิ้มสดใส
"ข้าเจ้ายังไม่ง่วงเลยเจ้า...คุณหมอไม่ต้องห่วง ข้าเจ้าแข็งแรง."
"อย่าดื้อกับหมอซิดวงใจ...หมอเค้ารู้ดีกว่าเรานะ"
"เจ้า..."
มีเสียงคนมาเรียกหน้าบ้าน
"หมอครับ...หมอครับ"
หมอเมตตาลุกขึ้นเดินออกไปหน้าบ้าน แม่มองตามอย่างสงสาร
"คงมีคนเจ็บอีกตามเคย"
หมอเมตตาเดินกลับเข้ามา แต่รีบตรงไปหยิบกระเป๋าเครื่องมือ"
"ทานข้าวกันไปก่อนเลยนะครับคุณแม่...เดี๋ยวผมมา"
หมอหันมายิ้มกับทุกคน แล้วรีบเดินออกไป แม่ถอนใจ หันไปปรับทุกข์กับดวงใจ
"อย่างนี้แหล่ะ ข้าวกินยังไม่หมดชาม คนไข้ก็มาเรียกเหมือนเคย บางทีกว่าจะได้กลับมาก็ดึกดื่น"
"มีคนไข้มาเรียกบ่อยหรือเจ้า"
"ทุกวันละจ้ะ ยิ่งถ้ามีบอมบ์นะ ไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลย"
แม่นั่งทานข้าวต่อเงียบๆ ดวงใจมองตามหมออย่างรู้สึกเห็นใจ
อ่านต่อตอนที่ 16