แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 15
ศรีกลับเข้ามาในห้อง ทรุดลงนั่งที่เตียง ถอนใจเป็นห่วงสายพิณ แล้วเริ่มสังเกตว่าในห้องทุกอย่างแปลกไป ข้าวของของนงเยาว์อันตรธานไปหมดแล้ว ศรีออกจากห้องทันที
ศรีเปิดประตูเข้ามา พบว่า นงเยาว์กำลังเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้อย่างเอ็นจอย ข้าวของเสื้อผ้าวางกองอยู่ที่โต๊ะและบนเตียงกองใหญ่
"แกกำลังทำอะไร"
นงเยาว์ยิ้มหยัน
"ก็เห็นอยู่ยังมาถาม กำลังจัดห้องใหม่ เก็บข้าวของของฉันเข้าที่"
"นี่ห้อง สายพิณ แกมีสิทธิ์อะไรมาอยู่ห้องนี้ไม่ทราบ"
"พี่พิณออกไปแล้ว แล้วถ้าถามเรื่องสิทธิ์ ขอบอกเลยว่า สิทธิ์ของฉันในฐานะนางฟ้าเบอร์หนึ่งของบ้านเสน่ห์จันทร์ไง"
"มโนไปเองละมั้งว่ามึงเป็นนางฟ้าเบอร์หนึ่ง" ศรีบอก
"เปล่า ไมได้มโน เพราะนางฟ้าคนเก่าลาออกไปแล้ว ฉันนี่แหละที่ขึ้นมาแทนทำไม มีปัญหาอะไรเหรอ นังแก่โรคจิต"
"อีนง"
"ทำไม อย่านึกนะว่ากูจะต้องยอมมึงไปทุกเรื่อง ออกไป ออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้เลย แล้วห้ามเหยียบเข้ามาแม้แต่ปลายกีบตีนของมึงเชียวนะ"
"ได้ ออกแน่ แต่ก่อนออก ขอกูสั่งสอนอีชะนีลืมตัวอย่างมึงหน่อยเถอะ"
ศรีกระชากเสื้อสวยที่วางกองอยู่ เอามาฉีกทิ้ง นงเยาว์กรีดร้องเข้ามาแย่ง ศรีได้ทีจับนงเยาว์ตบไม่เลี้ยงจนกลิ้งล้มไปบนเตียงด้วยกัน ต้อย ใบพร พริ้งวิ่งเข้ามา
"ห้ามทัพก่อน จับแยก" พริ้งบอก
ต้อยดึงศรีออกมา ใบพรดึงนงเยาว์
"ปล่อยกู กูจะฆ่าอีนี่"
นงเยาว์สะบัดจากใบพร แล้วหันไปหยิบมีดเล่มใหญ่มา
"เข้ามาเลย เข้ามา อีวิปริต ชอบใช่ไหมความเจ็บปวด เจอของทื่มาเยอะแล้ว
เจอของแหลมแบบนี้บ้างเถอะ"
นงเยาว์กวัดแกว่งมีด ต้อยกรีดร้อง พริ้งตวาดลั่น
"นงเยาว์ หยุดเดี๋ยวนี้"
นงเยาว์ชะงักไปตามเสียงพริ้งตวาด
"เอามีดมานี่"
นงเยาว์ส่งมีดให้พริ้ง
"มันเรื่องอะไรกัน"
"มันเข้ามาหาเรื่องหนู มันบอกหนูไม่มีสิทธิ์อยู่ห้องนี้"
"เจ๊อนุญาตให้มันเข้ามาอยู่ห้อง สายพิณงั้นเหรอ"
เสียงดังมาจากเบื้องหลัง
"ฉันอนุญาตเองแหละ"
ทุกคนหันมามองละม่อม ศรีเจื่อนไป นงเยาว์ยิ้มหยัน
"แม่.... สายพิณเพิ่งออกไปจากบ้านไม่เท่าไหร่ แม่ก็ให้นังนี่มายึดห้องสายพิณเสียแล้ว อย่างนี้ไม่ยุติธรรม"
"แล้วอะไรคือยุติธรรม"
"คนที่เหมาะสมกว่ามันไงแม่ ใบพร หรือนังต้อยก็ได้ ที่สมควรได้อยู่ห้องเดี่ยว" ศรีบอก
"คนที่สมควรได้อยู่ห้องเดี่ยว คือคนที่ทำเงินได้มากที่สุด ตอนนี้ นงเยาว์คือ คนที่มีรายได้ดีสุดของบ้าน คือนางฟ้าคนใหม่ของบ้านเราแทนสายพิณ เพราะฉะนั้นยุติธรรมแล้วที่ นงเยาว์จะได้อยู่ห้องเดี่ยว"
"แม่"
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แยกย้ายกันไปได้แล้ว"
ศรีคับแค้นจนน้ำตาไหล
"นังศรีไปเถอะ"
"ศรี กลับห้อง ต้อยดูแลด้วย" พริ้งบอก
"ค่ะ"
ต้อยจะพาศรีออกจากห้อง นงเยาว์ประกาศเสียงดัง
"เดี๋ยวค่ะ แม่คะ มันยังไปไม่ได้ มันตบหนูจนหน้าช้ำ มันต้องขอโทษหนูก่อน"
ทุกคนตะลึงงันในความกล้าของนงเยาว์
"แกว่าอะไรนะ" ศรีบอก
"ขอโทษฉัน เดี๋ยวนี้"
ละม่อมมองนงเยาว์นิ่ง
"ไม่"
"แม่... ถ้าไม่ขอโทษ หนูขอลาออก"
ศรีบอก
"แม่อย่าบังคับหนูนะ"
ละม่อมนิ่งอย่างที่สุด
"ศรี ในฐานะที่แกวู่วาม ทำร้ายนงเยาว์โดยไม่สอบถามให้รอบคอบเสียก่อน แกมีความผิด ขอโทษนงเยาว์เสีย"
ศรีปล่อยโฮ
"แม่"
ละม่อมตวาด
"ฉันบอกให้ขอโทษนงเยาว์"
นงเยาว์ยิ้มหยัน ใบพรนิ่งงัน
ศรีเช็ดน้ำตามองหน้านงเยาว์
"ก็ได้ ฉันขอโทษ พอใจแล้วใช่ไหม"
"พอใจมาก"
ศรีจะสะบัดออก
"เดี๋ยว นังศรี"
ศรีหันมามองละม่อมอย่างเจ็บช้ำ
"อะไรอีก ให้ฉันกราบตีนมันเหมือนตอนกราบเจ๊พิศงั้นเหรอ"
"เปล่า นงเยาว์เราเป็นเด็กกว่า ไม่ควรตีเสมอรุ่นพี่เขาแบบนี้ ถือว่าผิดเหมือนกัน ขอโทษศรีเขาซะ"
ศรีเซอร์ไพรส์ เช่นเดียวกับทุกคน
"แต่"
"ขอโทษศรีเขาซะ ถ้าไม่ขอโทษ ไม่ต้องลาออก เพราะฉันจะไล่เธอออกเอง"
นงเยาว์หน้าเจื่อน
"พี่ศรี หนูขอโทษ"
ศรีหน้าเชิ่ด
"แล้วจำเอาไว้ บ้านหลังนี้อยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง มีปัญหาก็พูดคุยกันอย่างคนมีสติ ไม่ใช่ลงไม้ลงมือพวกสัตว์หน้าขน"
ละม่อมออกไป
ต้อยบอก
"ไปศรี"
ต้อยพาศรีออกไป นงเยาว์ยังไม่หายแค้น หันขวับมามอง ใบพร
"มายืนทำหน้านางเอกอยู่ทำไม ออกไป"
ใบพรรีบออกไปทันที
เวลาผ่านมา เย็นใกล้ค่ำ ใบพรเย็บผ้ากับละม่อมตามเดิม พริ้งเพิ่งรายงานข่าว
"อะไรนะ นังพิศมันต้องผ่าตัดเลยเหรอ"
"ค่ะ นังต้อยออกไปตลาด ผ่านบ้านสุขสำราญ เพิ่งรู้ข่าวจากนังสามเดือนนี่แหละ เลยโทร.มาบอก"
"อันตรายนะ ผ่าตัดกระดูกหลังเคลื่อนแบบนี้ บางรายเดินไม่ได้เลยก็มี"
"เวรกรรมมันตามทันจริง ๆ ค่ะพี่"
ใบพรมองละม่อมถอนใจ ละม่อมนึกถึงสภาพ จันทร์ฟองแล้วสลดใจ
ศรีนอนอยู่บนเตียง สีหน้ายังกลัดกลุ้มทั้งเรื่องนงเยาว์ เรื่องสายพิณที่บอกใครไม่ได้ ลุกมาหยิบยาระงับอาการที่โต๊ะเครื่องแป้ง เจอแต่ยาชนิดอื่น ไม่ใช่ยาคลายเครียด ศรียิ่งเครียดหนัก ปัดยาและข้าวของบนโต๊ะกระเด็น ประตูห้องเปิดเข้ามาพอดี นงเยาว์ยืนอยู่
"เข้ามาทำไม นี่ห้องกู"
"ไม่ได้อยากเข้ามาหรอก แต่ฉันจะมาเอาของของฉัน เอากลับไปห้องส่วนตัวของฉัน"
นงเยาว์ ตรงไปหยิบของที่มุมห้อง ศรีมองตามแล้วโผนเข้ากระชากผมนงเยาว์อย่างแรง
"ห้องส่วนตัวของมึงงั้นเหรอ มึงอย่าอยู่เลยอีชั่ว"
"แอร๊ย"
สองสาวปล้ำสู้กันจนล้มไปบนเตียง
ละม่อม ใบพร พริ้ง หันขวับมองไปชั้นบนพร้อมกัน
"นังศรี"
ทั้งสามวิ่งขึ้นชั้นบน
ศรีและนงเยาว์ฟัดกันล้มกลิ้งตกจากเตียง ละม่อม พริ้ง ใบพรวิ่งเข้ามา
"จับแยกเร็ว" พริ้งบอก
ใบพรดึงร่างศรีออกมา พริ้งช่วยยึดศรีไว้ ละม่อมดึง นงเยาว์ออกมา นงเยาว์ร้องไห้โฮ
"มันบ้าไปแล้ว แม่ มันจะฆ่าหนู"
ละม่อมกอดนงเยาว์ไว้
"ฉันบอกแล้วใช่ไหม ให้อยู่กันอย่างคน ไม่ใช่อย่างสัตว์เดียรัจฉาน กลับห้องไปนงเยาว์"
นงเยาว์วิ่งออกจากห้อง ใบพรและพริ้งช่วยยึดร่างศรีที่ดิ้นด้วยอาการกำเริบ
"ตายแล้ว อาการมันกำเริบอีกแล้ว ยึดมันไว้อย่างให้มันดิ้นหลุด"
"ยาล่ะพริ้ง" ละม่อมบอก
"นั่นซี ยาอยู่ที่ไหนล่ะ"
ละม่อมเห็นยากระเด็นที่พื้นปนกันหลายขนาน
"ไม่ได้เรื่องแล้ว จับมันยึดไว้"
ละม่อมเข้ามาตรงหน้า แล้วตบศรีฉาดใหญ่ ใบพรตกใจ ศรีฟุบไป
"ลากมันไปที่ห้องน้ำ"
พริ้งและใบพรช่วยกันลากศรีออกจากห้อง ศรียังดิ้นสะบัดไปมา แม้จะอ่อนแรงลง
ศรีถูกลากมาอยู่ใต้ฝักบัว ละม่อมตามเข้ามา
"เปิดน้ำให้แรงที่สุด"
พริ้งเปิดฝักบัวอย่างแรง น้ำพุ่งเข้าร่างของศรี ศรีกรีดร้อง จะถลาออกมา
"ยึดมันไว้"
ใบพรยึดร่างศรีไว้ เปียกปอนไปทั้งคู่ ศรีร้องไห้โฮ ใบพรกอดศรีไว้แน่น
"พี่ศรี ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว"
ศรีได้แต่ร้องไห้ กอดร่างใบพรไว้ ดูน่าเวทนา ละม่อม และพริ้งมองศรีอย่างสลดหดหู่
"เดี๋ยวหายาให้เจอ แล้วให้มันกินซะ"
"จ๊ะพี่"
ใบพรยังกอดศรีอยู่ ศรีสงบลงอย่างรวดเร็ว
ศรียังนอนซมอยู่บนเตียง หน้าตาซีดเซียว เสียงเคาะประตู แล้วเปิดเข้ามา ใบพรในชุดนอน ถือชามข้าวต้มและน้ำถาดเข้ามา
"พี่ศรี ทานข้าวเสียหน่อยนะ"
"กินอะไรไม่ลงหรอก เอากลับไปเถอะ"
"ท้องว่างไม่ดีนะ ทานเสียหน่อยดีกว่า แล้วเดี๋ยวจะได้กินยาคลายเครียด จะได้หลับสบาย"
"เรื่องเครียดน่ะยังไงมันก็ไม่หายหรอก ยาขนานไหนก็ช่วยไม่ได้"
"เครียดอะไรนักหนาละพี่"
"แกก็รู้ สายพิณลาออกไปแล้ว ฉันก็ไม่เหลือใคร แถวยังมีนังนงตัวแสบ ไม่ทันไรมันก็ตีเสมอพวกเราเสียแล้ว"
"พี่ศรี ปล่อยวางบ้างเถอะ แล้วลองคิดในแง่บวกนะ พี่พิณเขาได้ดิบได้ดีแล้ว ไม่ต้องมาทนทำงานแบบนี้ แล้วต่อไปพี่พิณเขาก็จะชวนพี่ศรีไปทำงานกับเขา ทีนี้ละ ทั้งมั่นคง ทั้งร่ำรวย"
ศรีถอนใจเฮือก เมื่อนึกภาพสายพิณร้องไห้ที่ต้องไปอาศัยอยู่ที่ผับ
"ฉันคิดแง่บวกอย่างแกไม่ได้หรอก เพราะชีวิตฉันมันมีแต่เรื่องร้าย ไอ้โรคเวรโรคกรรมที่มันติดตัวฉันมานี่แหละที่ทำให้ฉันต้องทรมานอยู่ทุกวันนี้"
"ทุกอย่างอยู่ที่ใจนะพี่ศรี นี่....ลองอ่านหนังสือธรรมะพวกนี้ดู"
ใบพรหยิบหนังสือธรรมมะ เล่มเล็ก ๆ สองสามเล่นส่งให้ศรี
"อ่านง่าย เข้าใจง่าย แล้วลองปฏิบัติดูนะพี่ จะช่วยให้เราสงบ มีสติ ไม่รุ่มร้อน เวลาไหนที่เราเกลียดชังโชคชะตาที่รุมทำร้ายเรา ลองคิดและปฏิบัติตามคำสอน ช่วยได้เยอะเลยละ"
ศรีหยิบหนังสือมาพลิกดู
"แกอ่านประจำเหรอ"
"จ๊ะ ฉันเองก็ทุกข์ไม่ต่างจากพี่หรอก ธรรมมะนี่แหละที่ช่วยให้ฉันผ่านมาได้"
ศรียิ้มออกมาได้นิด ๆ
"ขอบใจ จะลองอ่านดู"
"จ๊ะ ทานนะ เดี๋ยวเย็นหมด"
ใบพรออกไป ศรีเริ่มอ่านหัวข้อที่หัวข้อตรงกับอาการของตน
อ่านต่อหน้า 2
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 15 (ต่อ)
คืนนั้น นงเยาว์กำลังเฟลิตกับแขกหนุ่ม ๆ ที่โต๊ะ มองเลยไปเห็นจันทร์ฟองอยู่ที่เขตของสมาชิกบ้านสุขสำราญ
"พี่ขา รอนงเดี๋ยวนะ"
นงเยาว์แยกไปหาจันทร์ฟอง ที่สังขารยังทรุดโทรม แต่แต่งหน้าจัด และเสริมหน้าอกให้ชูชัน
"จันทร์ แกเป็นยังไงบ้าง"
"ฉันสบายดี นี่ไงรอยแผลที่ได้จากการที่แกทรยศฉัน"
จันทร์ฟองเปิดชายเสื้อให้เห็นรอยช้ำหลายจุด
"แกไม่สบายนะ มาทำงานทำไม"
"ถึงสังขารยังไม่ให้ แต่ใจฉันเกินร้อยว่ะ รับรองแขกที่ออฟฉันต่อไปนี้จะไม่มีใครบ่นอีกแล้ว นอกจากบ่นว่า เด็ด"
"ที่ใจแกเกินร้อย แกอัพยามาใช่ไหม แกอย่าฝืนตัวเองนะ"
"แหม....ดูห่วงใยฉันเหลือเกินนะ ไม่ต้องแหลหรอกนังนง ตอนที่แกจับฉันส่งไอ้จ่าพยับ แกไม่ห่วงฉันสักนิด"
"จันทร์ ไอ้จ่ามันขู่ฉันนะ มันขู่ว่าจะเล่นงานพี่ตงพี่สิงห์ถ้าฉันไม่บอกว่าฉันซ่อนแกไว้"
"ก็ดีแล้วละนง เป็นห่วงพี่ดีกว่าหวงเพื่อน เอ๊ะไม่ใช่ซีแกกับฉันตัดขาดความเป็น เพื่อนกันไปแล้ว อ้อ ต่อไปนี้เจอกันไม่ต้องทักนะ ถือว่าคนไม่รู้จัก"
จันทร์ฟองสะบัดไป นงเยาว์ซึม แต่แล้วก็หน้าเชิ่ดขึ้นอย่างไม่แคร์โลก กลับไปหาหนุ่มหล่อคนเดิม
ใบพรออกมานั่งพักที่ตรอกหลังร้าน ลงนั่งเก้าอี้อาร์มแชร์ตัวเดิม คิดถึงสิงห์ เสียงดังมาจากมุมมืด ใบพรสะดุ้ง
"คืนนี้ยังไม่มีใครออฟเหรอจ๊ะน้อง"
"ใครน่ะ"
นายนพ พ่อเลี้ยงโฉด ก้าวจากมุมมืดออกมา
"น้านพ"
ใบพรจะวิ่งหนี นพคว้าร่าง ปิดปากแน่น
"อย่าร้องนะนังพร ไง ไม่งั้นทั้งเอ็งทั้งแม่ที่โรงพยาบาลจะเจ็บตัว"
ใบพรหยุดดิ้นทันที
"ดี อย่าร้อง อย่าขัดขืน"
นพคลายมือจากปากใบพร ใบพรดิ้นหลุดออกมา นพจับกดร่างลงนั่งที่อาร์มแชร์
"แหม.....ทีกับข้าทำเล่นตัว ไม่ยอมเป็นเมีย ที่ไหนได้ หนีมาพัทยาแป๊บเดียวก็มาขายตัว ยอมเป็นเมียสาธารณะให้ผู้ชายทั้งเมืองเสียแล้ว"
"น้าต้องการอะไร"
"พูดเข้าเป้าดี ต้องการเงินค่าเลี้ยงดูไงล่ะ ข้าเป็นพ่อเอ็ง ถึงจะพ่อเลี้ยง แต่เอ็งก็ต้องตอบแทนบุญคุณข้าบ้าง เห็นว่าเป็นนางฟ้าที่นี่นี่หว่า รายได้ต้องดีมาก ๆ เอาเงินมาให้ข้าทั้งหมด"
"เงินฉันไว้ใช้รักษาแม่นะ"
"มารักษาพ่อบ้างก็ได้นี่ พ่อก็ป่วย เป็นโรคเหงาเรื้อรัง"
นพเข้าคลอเคลียใบพร ใบพรเบือนหน้าหนีอย่างขยะแขยง ผลักนพกระเด็นไป
"กลับไปซะ อย่าให้ฉันต้องรายงานเฮียที่นี่นะ คนคุมน่ะ มือหนักตีนหนักกันทั้งนั้น"
"ไม่ต้องมาขู่ ขืนแกเรียกคนคุมออกมา ความลับของแกถูกเปิดเผยแน่"
"ความลับอะไร"
"ก็ที่แกโกหกแม่ว่าทำงานต้อนรับไง ฉันจะบอกแม่แกว่าที่แท้เงินที่เอามารักษาตัวมัน เป็นเงินที่ลูกสาวมันขายตัวต่างหาก"
นพยิ้มแสยะ ใบพรน้ำตาไหล ไม่มีทางเลือกใด ๆ
ดึกมากแล้ว ตงนั่งดื่มอยู่ โดยมีชิตและต้อยนั่งดื่มอยู่ด้วย ต้อยช่วยชงเครื่องดื่มให้ตง
"เฮ้ย ...ไอ้ชิต ฉันต้องขอบคุณแกมาก ๆ เลย"
"ขอบคุณผมเรื่องอะไรครับพี่"
"เรื่องที่แกช่วยแนะนำนังนงให้มันมาทำงานดี ๆ รายได้งาม ๆ ที่เฮเว่นน่ะซีวะ"
ชิตและต้อยหยุดกิจกรรมทันที
"เออ นงมันว่าอย่างนั้นเหรอพี่"
"ใช่....ทำไมทำหน้าอย่างนั้นวะ ทั้งคู่เลย"
ชิตและต้อยรีบกลบเกลื่อน
ชิต/ ต้อยบอก "ไม่มีอะไรนี่พี่ /ปลื้มน่ะ"
"เฮ้ย เข้าห้องน้ำก่อนว่ะ"
ตงแยกไป จังหวะนี้ จันทร์ฟองเดินเข้ามาในร้าน แอบฟังคนทั้งสองพูด ทั้งสองไม่เห็นจันทร์ฟอง
"ต้อย แกอย่าบอกความจริงพี่ตงนะ เรื่องที่ฉันพานงเยาว์กับจันทร์ฟอง ไปสังเวยแม่พิศน่ะ ตอนนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่านงเยาว์เป็นน้องพี่ตง"
"เห็นไหม กรรมมันตามทันเห็น ๆ เออ..ฉันไม่บอกหรอกน่าเรื่องเลว ๆ แบบนี้"
"พี่สิงห์รู้เข้ากระทืบแกตาย"
จันทร์ฟองยิ้มหยัน แล้วออกไปทางห้องน้ำชาย
ตงกำลังยืนฉี่อยู่ที่โถ จันทร์ฟองมายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
"ไงพี่ตง"
ตงสะดุ้ง "เฮ้ย"
ตงรีบเก็บอาวุธ
"เหงาไหมพี่ คืนนี้ไปกับจันทร์ไหม"
ตงล้างมืออย่างเร็ว
"อะไรวะ นังจันทร์ มาเร่ขายตรงนี้เลยเหรอ"
"ก็ดีนี่ ไม่ต้องจ่ายเปอร์เซนต์ให้ร้าน นะพี่ คืนนี้ไปกับจันทร์ จะบริการให้สุดฤทธิ์เลย"
"พอเลยนังจันทร์ แกเป็นพื่อนนังนง พี่ไม่ได้พิศวาสแกแบบ...แบบนั้นหรอกว่ะ"
"งั้นเหรอ พี่เป็นพี่ชายแสนดีจริง ๆ นะ"
"เฮ้อ จันทร์ฟอง เพราะยาใช่ไหม แกถึงคิดสั้นมาทำงานแบบนี้ เลิกยาเถอะว่ะ"
จันทร์ฟองเจ็บปวด
"ไมใช่เพราะยาสักหน่อย นงเยาว์ไม่ได้เล่าให้พี่ฟังเรื่องทั้งหมดหรอกเหรอ ว่าทำไมทั้งฉันทั้งนังนงต้องมาขายตัว"
"แกว่าอะไรนะ นังนงขายตัว"
"ใช่ มันขายตัวเหมือนฉันนี่แหละ"
"นังบ้า เมาแล้วแกน่ะ นังนงมันทำงานรีเซฟชั่น"
"พี่ก็เชื่อมันเหรอ"
ตงอึ้ง
"ลองถามไอ้ชิตมันดูซิ มันนั่นแหละหลอกล่อฉันกับนังนงเข้าวงการ ฉันน่ะทำเพราะถูกบังคับ แต่ อีนง มันเต็มใจเป็นกะหรี่เลยละ "
ตงนิ่งงัน เหมือนมีของแข็งมาทุบหัวโครมใหญ่
อ่านต่อหน้า 3
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 15 (ต่อ)
ตงเดินเร็วกลับเข้ามาในร้าน ชิตยังนั่งดื่มต่อเนื่องกับต้อย ตงเข้ามากระชากคอเสื้อ ต้อยร้องหวีด
"ไอ้ชิต"
"พี่ตง มีอะไร"
"มึง....มึงหลอกน้องกูไปขายซ่องเหรอวะ"
ต้อยอ้าปากค้าง เหลือบไปเห็น จันทร์ฟองเดินยิ้มเข้ามา
"พี่ตง ผะ ผม เปล่า"
"โกหก นังจันทร์เล่าให้กูฟังหมดแล้ว"
ชิตมองไปที่ จันทร์ฟอง ยกมือไหว้ตงท่วมหัว
"พี่ตง ผมไม่รู้จริง ๆ ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ"
"โธ่...ไอ้เลว"
ตงชกเข้าเต็มหน้าชิต ร่างชิตเซไปโดนโต๊ะล้มฟาดไป ต้อยกรีดร้อง ตงวิ่งออกจากร้านทันที
"พี่ตงจะไปไหน ชิตเป็นไงบ้าง"
ต้อยเข้าประคองชิตที่ปากแตก จันทร์ฟองหัวเราะชอบใจ ชิตหันมามอง จันทร์ฟอง
"แกบอกอะไรพี่ตง"
"ทุกเรื่องที่แกปิดไว้ไง รวมทั้งเรื่องที่แกได้เสียกับนังนงก่อนจับฉันกับนังนงเข้าคุกด้วย"
"โธ่....อีนัง"
ชิตลุกจะเข้าใส่จันทร์ฟอง ต้อยยึดไว้
"อย่า ชิต แล้วนี่พี่ตงไปไหน"
"ก็ไปหาน้องสาวมันไง จะได้เห็นกับตาว่ามันกำลังค้าขายจริง ๆ"
"ต้อย นงอยู่ที่ไหน"
"ก็ที่ออสการ์นั่นแหละ ห้องประจำของมัน"
"งั้นต้องตามไปแล้ว"
ทั้งสองจะไป จันทร์ฟองพูดไล่หลัง
"ไอ้ชิต"
ชิตชะงักหันมา
"ผลกรรมมันตามสนองมึงแล้ว กรรมที่มึงก่อไว้กับกู"
ชิตมองจันทร์ฟองหน้าซีด
"ไปเร็วไอ้ชิต"
ต้อยดึงชิตออกจากร้านไป จันทร์ฟองยิ้มสะใจ แล้วเกิดอาการสะท้านเพราะเสี้ยนยาขึ้นมาทันที
ภายในออสการ์อพาร์ทเมนท์ กลางคืนต่อเนื่องมา ลูกค้าหนุ่มเดินตัวปลิวออกมาจากห้อง แป้งเต็มตัว กำลังกลัดกระดุมเสื้อ ใบพรตามออกมา เพิ่งอาบน้ำเช่นกัน ผมเปียกเล็กน้อย หน้าตาอิดโรยพอประมาณ ใบพรจะเลี้ยวไปทางลิฟต์ นพมายืนขวาง
"ได้เท่าไหร่"
"สองพันจ๊ะ"
"เอามาให้หมด"
ใบพรเปิดกระเป๋าจะหยิบเงินส่งให้ นพคว้ากระเป๋ามาค้นเงินเอง มีเงินมากกว่าสามพัน ดึงออกไปจนหมด
"น้า...เหลือให้ฉันบ้าง พรุ่งนี้ต้องจ่ายให้ทางโรงพยาบาลอีก"
"งวดแรกขอเต็ม ๆ ก่อน มาอยู่พัทยารายจ่ายมันเยอะ แล้วงวดต่อไปจะผ่อนผันให้"
"ฉันต้องมีเงินเก็บเป็นหมื่นต่อเดือนไว้รักษาแม่นะ"
"ไม่ยากนี่ ก็รับแขกให้มันเยอะ ๆ คืนเดียวก็ได้เกือบหมื่นแล้ว"
นพใส่เงินเข้ากระเป๋าเรียบร้อย จังหวะนั้นสิงห์เลี้ยวออกมาจากลิฟต์พอดี เห็นเข้ารีบหลบมุม
"แล้วบางคืนก็ช่วยให้พ่อนพมีความสุขบ้างนะ ใบพร"
นพเชยคางใบพรที่สะบัดหน้าหนี นพยิ้มแล้วแยกไปทางบันไดหนีไฟ ใบพรนิ่งงัน น้ำตาไหล
สิงห์เดินเข้ามาหา ใบพรรีบเช็ดน้ำตา
"พร... เป็นอะไรรึเปล่า"
"เปล่าค่ะพี่"
"นั่นใครน่ะ ท่าทางโทรม ๆ ไม่น่าเป็นลูกค้าเฮเว่น"
"อ๋อ คนแถวบ้านน่ะ ทักทายกันธรรมดา กลับเถอะพี่"
สิงห์รู้สึกแปลก ๆ ที่ใบพรไม่บอกความจริง
ตงผลุนผลันเข้ามาในล็อบบี้ ตรงมาที่ลิฟต์ ประตูลิฟต์กำลังลงมา เปิดออก สิงห์และใบพรจะก้าวออก ตงกระชากคอเสื้อ สิงห์
"ไอ้สิงห์ เอ็งโกหกข้าทำไมวะ"
"โกหกเรื่องอะไรพี่"
"โกหกว่านังนงมันทำงานต้อนรับไง ที่จริงมันต้อนรับแขกด้วยร่างมันนั่นแหละ"
ตงกระชากร่าง สิงห์ ออกมาจากลิฟทต์ แล้วชกเต็มหน้า ใบพรกรีดร้อง ร่างสิงห์ล้มไป ตงกลับเข้าลิฟต์ กดปิดลิฟท์ทันที
"พี่สิงห์"
"พร นงเยาว์อยู่ห้องไหน รู้ไหม"
"รู้จ๊ะ"
นงเยาว์นอนคลอเคลียกับเสี่ยหนุ่ม ใส่เสื้อคลุมบาง ๆ หัวเราะระรื่นไปมา เสียงทุบประตูอย่างแรง
"อุ๊ย.....ใครน่ะ"
เสี่ยลุกไปเปิดประตู ประตูถูกถีบเข้ามาอย่างแรง จนเสี่ยผงะล้มไปกับพื้น นงเยาว์ร้องกรีด ตงเข้ามากระชากร่างเสี่ยลุกขึ้น
"นี่ใช่ไหมอีนง งานต้อนรับของเอ็ง เอ็งต้อนรับผู้ชายทุกคนที่มีเงินซื้อเอ็งใช่ไหม"
"พี่ตง อย่าทำอะไรคุณเจษ"
ตงเหวี่ยงร่างเสี่ยออกจากห้อง เสี่ยรีบวิ่งหนีกระเจิง
"กูไม่ทำหรอก แต่กูจะสั่งสอนมึงเอง"
ตงตบหน้านงเยาว์ฉาดใหญ่ จนกระเด็นไปบนเตียง ตงเข้ากระชากผมน้องสาว
"ทำไม ทำไมมึงใฝ่ต่ำอย่างนี้ นังจันทร์มันบอกแล้วว่ามึงสมัครใจมาทำที่บ้านนังแม่เล้า มึงมาสมัครเป็นกะหรี่เองเลย จริงรึเปล่า"
"จริง ฉันมาสมัครเอง ฉันมันใฝ่ต่ำ มีอะไรไหม"
"โธ่....มึงเอาเลือดชั่ว สันดานชั่วนี่มาจากไหน มึงอย่าอยู่เลย"
ตงบีบคอ นงเยาว์ตาเหลือกลาน
สิงห์วิ่งเข้ามาพร้อมใบพร พยายามแกะมือของตงออก แต่ตงขาดสติ
"พี่ตง พอ จะฆ่านงมันเหรอ พอแล้ว"
ตงยังไม่เลิกบีบคอ สิงห์ใช้แขนล็อกคอตง แล้วกระชากออกจากร่างนงเยาว์ ตงผงะหงาย ล้มไปที่พื้นพร้อมกับสิงห์ นงเยาว์ไออย่างแรง ใบพรเข้าดูอาการ
ตงยังดิ้นพล่าน สิงห์ล็อกไว้กับพื้น
"ปล่อยซีวะ ปล่อยกู กูจะฆ่ามัน อีน้องไม่รักดี"
"นง ลุกไหวไหม"
นงเยาว์ร้องไห้ ใบพรประคองลุกขึ้นมา ตงเองก็ร้องไห้โฮออกมาเหมือนกัน ชี้มาที่นงเยาว์
"อีนง....มึงต้องเลิกขายตัว ไม่งั้นมึงไม่ต้องมาเป็นพี่น้องกับกู"
"ได้ ฉันเลือกตัดพี่ตัดน้อง ดีกว่าเลิกอาชีพขายตัว"
"โธ่ อี..."
ตงจะถลาเข้าหาอีก สิงห์ยึดไว้
"พอแล้วพี่ตง ใบพรพานงเยาว์ออกไป"
ใบพรดึง นงเยาว์ออกจากห้อง
"ทำไมวะ ทำไม ทำไมน้องกูมันเป็นแบบนี้"
ตงสะอื้น สิงห์ปล่อยร่างตง
"ผมขอโทษพี่ ผมเตือนนงแล้ว มันไม่ฟังเลย ขอโทษที่ต้องโกหกพี่"
ตงพิงร่างกับผนังห้อง ร้องไห้เสียใจ
"พี่มันไม่ดีเอง พี่ไม่ได้ดูแลมันตั้งแต่เด็กแล้ว เลี้ยงมันทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ มันถึงคิดสั้นแบบนี้"
สิงห์นิ่งงันไป โอบตงไว้
"อย่าโทษตัวเองเลยพี่ กรรมของใครก็ของคนนั้น"
ทั้งสองพิงผนังห้องหมดเรี่ยวแรง ตงยังสะอื้นเบา ๆ
วันรุ่งขึ้น กฤษณ์ทานอาหารกลางวันร่วมกับ ไกรวิทย์ นภา เคนรับใช้หญิงสองนาง รับใช้อยู่มุมห้อง ทั้งสามทานกันเงียบ ๆ บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด กฤษณ์มองหน้าพ่อแล้วพูดขึ้นมา
"พ่อครับ อาทิตย์หน้าผมจะเปิดผับแล้ว เชิญพ่อด้วยนะครับ"
"ฉันไปไม่ได้หรอก"
"ทำไมล่ะครับ ผมอยากเชิญพ่อเป็นเกียรติให้ร้านผม เป็นประธานเปิดงานเลยนะครับW
นภามองทั้งสองฝ่ายอย่างพร้อมห้ามทัพ
"ให้ฉันพูดจริง ๆ ไหมล่ะ"
"ว่ามาซีครับ"
"ฉันไม่สนับสนุนให้แกมาทำงานแบบนี้ แกจบโทจากอเมริกา แต่มาทำงานเป็นเจ้าของร้านเหล้า มั่วสุมอัพยากับเพื่อน ๆ ของแก แล้วไอ้ร้านพวกนี้มันก็ลงเอยด้วยการขายบริการทางเพศแบบแอบแฝงนั่นแหละ สรุปคือ ถ้าฉันสนับสนุนแก ก็เท่ากับฉันสนับสนุนให้แกเปิดซ่อง นี่ละความจริง รับได้ไหมล่ะ"
"ได้ครับ พ่อก็เลยหน้าบางไม่อยากให้ผมเป็นพ่อเล้า แต่อยากให้ผมไปทำงานพรรค เล่นการเมือง ให้ลูกพรรคหาเงินสกปรกเข้าพรรค เอ มันก็งานพ่อเล้าเหมือนกันนะครับพ่อ"
"ไอ้กฤษณ์"
"พอค่ะ พ่อลูกคู่นี้ยังไง คุยกันไม่เกินสามคำทะเลาะกันแล้ว"
กฤษณ์ลุกทันที
"แม่ก็ไม่น่านัดให้ผมมากินข้าวกับพ่อ เจอกันสามเดือนครั้งดีกว่าครับ สะดวก ใจดี"
กฤษณ์จะแยกไป
"เดี๋ยว มีเรื่องจะเตือนแกอีกเรื่อง"
กฤษณ์รอฟัง
"ไอ้ผับของแกเนี่ย มันอยู่ในเขตของไอ้กวง ระวังก็แล้วกันเรื่องค่าส่วยน่ะ มันเรียกเก็บแกบานแน่"
"ขอบคุณครับพ่อ ที่เตือน"
กฤษณ์ออกไป ไกรวิทย์ส่ายหน้า
"เหนื่อยกับไอ้ลูกเวรนี่จริง ๆ"
"อย่าเพิ่งเหนื่อยค่ะ เดี๋ยวต้องแวะโรงพยาบาลเยี่ยมคุณองอาจอีก"
นภาทานต่อไป ไกรวิทย์หยิบหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นขึ้นมา เห็นข่าวสังคม - - "คุณนายพิศ หรือ แม่พิศคุณแม่ใจบุญแห่งบ้านสุขสำราญ ตอนนี้เพิ่งผ่าตัดกระดูกหลัง พักฟื้นที่โรงพยาบาลวัฒนาฯ ใครว่างแวะไปให้กำลังใจกันหน่อยนะ"
ไกรวิทย์ครุ่นคิดบางอย่าง
สายพิณนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงแข็ง ๆ ฟูกที่ยังไม่เปิดพลาสติก เสียงตอก เจาะและเสียงเลื่อยไม้ดังครบเครื่องพร้อมกัน สายพิณลุกพรวดขึ้น
"โอ๊ย อะไรของพวกมึงกัน คนจะหลับจะนอน"
สายพิณออกจากห้องทันที
สายพิณออกมาที่กลุ่มคนงานกำลังทำงานกันอยู่
"หยุด เลิก เลิกเดี๋ยวนี้"
คนงานหยุดทันที
"คนจะหลับจะนอน ไม่เกรงใจกันบ้างเลยเหรอ"
หัวหน้าบอก
"เออ ไม่ทราบว่าคุณมานอนที่นี่ แล้วนี่เวลาทำงานของพวกเรานะครับ"
"ไม่ต้องทำ หยุดไปเลย"
"หยุดไม่ได้หรอกครับ ผมว่าคุณเจรจากับคุณกฤษณ์ก่อนดีกว่า"
สายพิณหัวเสีย สะบัดออกมา พร้อมหยิบมือถือ หัวหน้าสั่งคนงานทำงานต่อไป
กฤษณ์รับสายสายพิณ สายพิณออกมาอีกมุมของร้าน
"ว่าไงพิณ"
"พิณนอนไม่หลับทั้งคืนนะคะ ทั้งกลิ่นสาปที่นอน ทั้งกลิ่นสี กลิ่นทินเนอร์ จะเป็นลมอยู่แล้ว แล้วพอเช้ากำลังหลับดี ๆ เสียงคนงานก็มาปลุกอีก คุณกฤษณ์ สั่งพวกมันเลยนะให้หยุดทำงานเดี๋ยวนี้"
"พิณ หยุดไม่ได้หรอก งานต้องเสร็จตามเวลา เดี๋ยวผู้รับเหมามันก็โกงเราเท่านั้น"
สายพิณร้องไห้
"คุณกฤษณ์ แล้วเมื่อคืนคุณไปไหน ทำไมไม่มาอยู่เป็นเพื่อนพิณ"
"ใจเย็นพิณ เดี๋ยวบ่าย ๆ ผมแวะไป"
"มาตอนนี้ไม่ได้เหรอ คุณทำอะไรอยู่"
"ผมต้องอยู่ทานกลางวันกับปริม พิณเข้าใจผมนะ แค่นี้ก่อน"
กฤษณ์เลิกสาย
"คุณกฤษณ์"
สายพิณทรุดนั่ง ร้องไห้โฮ เสียงตอก เลื่อย เจาะ ยังดังขรมไปหมด
อ่านต่อหน้า 4
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 15 (ต่อ)
ที่บ้านเช่า ชิตก้มลงกราบตงและสิงห์ ใบพรกับต้อยนั่งอยู่ห่าง ๆ ชิตมีรอยช้ำที่ปากจากเมื่อคืน
“พี่ตง พี่สิงห์ ผมขอโทษ ผมเป็นคนพานงเยาว์กับ จันทร์ฟองไปเข้าบ้านยายพิศ จริง ๆ ผมไม่รู้หรอกว่านั่นน้องพี่”
“โธ่ ไอ้ทุเรศ ไม่ว่าจะน้องฉันหรือไม่ใช่ แกก็ไม่มีสิทธิ์บังคับผู้หญิงที่ไหนไปขายตัวทั้งนั้น มันน่ากระทืบ”
ตงจะเข้าถีบชิต สิงห์รีบห้าม
“อย่าเลยครับพี่ตง ไอ้ชิตมันสำนึกผิดแล้ว”
“แล้วแกล่ะ แกรู้เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า”
“ไม่ทราบครับ ผมเพิ่งรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กับพี่นี่แหละ แต่เรื่องที่ นงเยาว์มันสมัครใจไปขายตัวน่ะ ผมรู้เรื่องอยู่ตลอด ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ผมก็จนปัญญา”
“จริงนะ”
“พี่สิงห์เคยไปห้ามนงที่เฮเว่น จนถูกจ่าพยับทำร้ายสลบไปเลยค่ะ” ใบพรบอก
“ไอ้จ่านี่ใช่ไหมที่มันจับนงเข้าคุก”
“ครับพี่ เป็นวิธีการบังคับให้ขายตัว ร่วมมือกับยายพิศทำแบบนี้กับเด็กสาว ๆ เป็นประจำล่ะครับ” ชิตบอก
“มันน่าเข้าไปปล้นฆ่าแม่งทั้งบ้านเลย”
“พี่ตง ใจเย็น ๆ นะ พวกนี้มันอิทธิพล ทำอะไรมันไม่ได้หรอก อย่าไปยุ่งกับพวกมันดีที่สุด”ต้อยบอก
ตงส่ายหน้า
“สิงห์ แกมาคุยกับฉันหน่อย”
ตงออกไปที่สนาม สิงห์ตามไป ชิตหน้าเศร้า ต้อยแนะนำ
“ชิต แนะนำนะ แกไปรดน้ำมนต์เก้าวัดดีกว่า ปล่อยของดำในตัวด้วย จะได้หายซวย ในตัวมีของดำไหมขอดูหน่อย”
ตงคุยสิงห์อย่างเครียดที่สนามหญ้า
“ฉันคงอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้วว่ะ แค่นึกว่านังนงมันออกไปขายบริการทุกคืน ก็รับไม่ได้แล้ว เดี๋ยวพาลจะไปฆ่ามันทั้งร้านเฮเว่น รวมทั้งไอ้จ่าชั่วนั่นด้วย”
“ไม่อยู่นี่พี่จะไปไหน”
“อาจไปแถวชายแดน ที่นั่นมีจ็อบพิเศษให้ทำเยอะ แกไปกับฉันไหม”
“บอกตามตรงนะพี่ ตอนนี้ผมอยากอยู่กับใบพร”
“เข้าใจว่าแกกำลังมีความรัก แต่ตอนนี้เงินเราเหลือน้อยเต็มทีแล้วนะ ไม่มีเงินก็อยู่ไม่ได้”
“ผมจะหางานทำที่นี่น่ะพี่ งานที่ไม่ต้องเสี่ยงกฎหมายอีก”
“มันจะได้สักเท่าไหร่วะ”
“รู้ครับ”
ตงมองหน้าสิงห์อย่างเข้าใจ
“เข้าใจว่ะ แกอยากสร้างครอบครัวกับใบพร งั้นฉันก็คงบินเดี่ยวละทีนี้”
สิงห์พยักหน้า มองตงอย่างขอบคุณที่เข้าใจ
ภายในโรงพยาบาลวัฒนาฯ นางพิศนอนเจ็บอยู่บนเตียง พยาบาลกำลังวัดความดัน ละม่อมยืนอยู่หน้าประตู ถือช่อดอกไม้มาด้วย
“แล้วจะไม่ให้ยาฉันกิน จะปล่อยให้ฉันปวดอยู่อย่างนี้เหรอ”
พยาบาลบอก
“เราให้ยาตามโดสที่คุณหมอสั่งนะคะ”
“หมอส่งหมอสั่งอะไร ฉันไม่สน ฉันปวดจะตายอยู่แล้ว ไปเรียกหมอมา ไปซี้”
“ค่ะ ค่ะ”
พยาบาลออกไป พิศหลับตาครางเบา ๆ
“โอย เจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว อีเพลินอยู่ไหน ทำไมไม่มาดูแลเลย”
“ใจเย็น ๆ ยายพิศ มีอะไรให้ฉันช่วยบ้างไหม”
พิศมองละม่อมอย่างประหลาดใจ
ไกรวิทย์และนภาเพิ่งเยี่ยมผู้ป่วยเสร็จ เดินออกมาด้วยกัน
“ช่วงนี้มีแต่คนป่วย คุณก็อย่าเครียดกับงานให้มากนักนะคะ เดี๋ยวจะป่วยไปอีกคน”
“นภา ไปรอที่ล็อบบี้ข้างล่างนะ ผมเข้าห้องน้ำหน่อย”
“ค่ะ”
ไกรวิทย์แยกไป นภามองตามอย่างสงสัย
ละม่อมอยู่กับพิศ
“ทนเจ็บเอาหน่อยเถอะ กินยาระงับปวดมาก ๆ มันมีผลข้างเคียง”
“ถ้าแกจะมาเยี่ยมฉัน แล้วมาอบรมฉันแบบนี้ อย่ามาเสียดีกว่า ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว แกไปเรียกหมอมาเถอะ ฉันต้องการยา”
“ที่ฉันมา ฉันอยากจะมาเตือนแก สภาพของนังเด็ก จันทร์ฟองมันรบกวนจิตใจฉัน”
“ทำไม”
“แกไม่ควรทำกับเด็กของแกแบบนั้น มันบาป”
“โถ นังนักบุญ ถ้าคิดจะมาสอนศีลธรรมฉันหรอก แกรีบกลับไปเถอะ คนอย่างฉันน่ะทำบุญสร้างวัดทีเป็นแสนเป็นล้าน บาปนิดบาปหน่อย บุญมันก็หักลบกลบหนี้ไปแล้ว”
“ไม่มีบุญมีบาปที่ไหนหักลบกลบหนี้กันได้หรอก ทำอะไรไว้มันต้องชดใช้อย่างนั้นดูซิ ที่แกเจ็บอยู่นี่มันใช่จากกรรมที่แกก่อไว้รึเปล่าล่ะ”
พิศเถียงไม่ออก
“ฉันมาเตือนเพราะหวังดีเท่านั้นละ”
ละม่อมจะออกจากห้อง ประตูเปิดเข้ามาพอดี ไกรวิทย์เข้ามาพร้อมช่อดอกไม้เยี่ยมไข้ที่เพิ่งซื้อมา
“คุณไกร”
พิศเสียงหวานทันที
“ท่าน สส. มาเยี่ยมพิศเหรอคะ”
ไกรวิทย์ยิ้มให้ทั้งคู่
ในห้องผู้ป่วยรวม ใบพรและต้อยกำลังปอกผลไม้ พยาบาลวัดความดันให้วิไลอยู่
“พร พี่ตงน่ะ เขาจะไปแล้วนะ”
“ไปไหนล่ะต้อย”
“เห็นบอกว่าจะไปรับงานแถวตะเข็บชายแดน ไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากเห็นนังนงมันขายตัว”
“พี่เขาคงเสียใจมาก แล้ว....กับต้อยล่ะ เขาจะทิ้งต้อยไปอย่างนี้เหรอ”
“พี่เขาก็ชวนให้ไปอยู่ด้วยนะ แต่ฉันไปไม่ได้หรอก ไม่รู้พี่เขาไปทำงานอะไรที่นั่น ผิดกฏหมายรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่เขาก็สัญญานะว่าจะกลับมาหาต้อย”
“แสดงว่าพี่เขาก็รักต้อยนั่นแหละ อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นซี”
พยาบาลตรวจร่างกายเสร็จก็แยกไป วิไลมองมาที่สองสาว
“พร ฝากขอบคุณสิงห์เขาด้วยนะ อุตส่าห์เอาขนมมาให้กิน ตอนนั้นแม่ก็หลับพอดี เลยไม่ได้ขอบคุณ”
ใบพรเอะใจ ลุกขึ้นมามองถุงขนมที่โต๊ะข้างเตียง
“ถุงนี้เหรอแม่”
ใบพรเปิดดู เป็นกล้วยแขกทอดใหม่ ๆ
“รู้ด้วยนะว่าแม่ชอบกล้วยแขก” วิไลบอก
“เอามาให้ตอนไหน”
“เมื่อสักชั่วโมงนี่เอง”
“เอ....แม่ขา เราก็เพิ่งออกมาจากบ้านพี่สิงห์ พี่ สิงห์ยังอยู่ที่บ้านนี่คะ”
“อ้าว แล้วใครเอามาให้ล่ะ”
ใบพรถึงนพทันที
“ไม่ใช่พี่สิงห์แน่ ๆ”
ใบพรมองเลยไป เห็นนพยืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วย ยิ้มแสยะ ใบพรนิ่งงัน ทำอะไรไม่ถูก
ไกรวิทย์ยืนอยู่ข้างเตียง สีหน้าอึดอัด พิศกอดแขนไกรวิทย์แน่น ร้องไห้ออเซาะอย่างไม่อาย
ละม่อมยืนอยู่ที่มุมห้อง มองมารยาของพิศอย่างเบื่อ ๆ
"ท่านขา พิศทรมานจะตายอยู่แล้ว ท่านช่วยพูดกับคุณหมอให้จ่ายยาแก้ปวดให้พิศเพิ่มอีกได้ไหม ไม่นึกเลยว่าผ่าตัดกระดูกเคลื่อนนิดเดียวมันจะเจ็บสาหัสถึงขนาดนี้"
"โธ่...พิศ ผ่าตัดน่ะมันเจ็บทั้งนั้นแหละ ทนนิดเดียวเดี๋ยวก็หาย อีกอย่างผมไม่มีสิทธิ์ไปสั่งหมอเขาอย่างนั้นหรอก"
"ท่านขา....ยังไงพิศต้องกราบขอบคุณท่าน ที่มาเยี่ยมพิศวันนี้ นึกว่าท่านตัดญาติขาดมิตรกับพิศไปแล้ว ตั้งแต่ลงเลือกตั้ง ท่านก็ไม่ไปมาหาสู่พิศอีกเลย"
"ต้องเข้าใจซีพิศ ตำแหน่งทางการเมืองน่ะ มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตเยอะ เลยนะ"
"พิศเข้าใจค่ะ ได้แต่ชื่นชมท่านอยู่ห่าง ๆ ท่านขา พิศไม่เคยลืมท่าน รักยังไงก็
รักอย่างนั้น ทูนหัวของพิศ"
พิศจูบที่มือของไกรวิทย์ ไกรวิทย์ยิ้มเจื่อนเต็มที
"เออ.....ไม่ขัดจังหวะละค่ะ ดิฉันลา" ละม่อมบอก
"น่าจะไปเสียนานแล้ว ผัวเมียเขาจะคุยกัน"
ละม่อมอยากหัวเราะดัง ๆ จะออกจากห้อง
ไกรวิทย์บอก
"เดี๋ยวซีละม่อม รอก่อน เรายังไม่ได้คุยกันเลย"
"ไม่ดีมังคะ ให้เมียคุณสารภาพรักคุณให้หนำใจเถอะค่ะ"
"นังละม่อมแกออกไปเลยนะ"
"เออ....งั้นผมก็ต้องขอตัวด้วยเหมือนกัน เพราะนภารออยู่น่ะ" ไกรวิทย์ว่า
"เดี๋ยวซีคะท่าน"
ละม่อมนิ่งงันไป เพราะนภาก้าวเข้ามาในห้อง
"จะคุยต่อก็ได้นี่คะ เพราะฉันมารออยู่ตรงนี้แล้ว"
ทุกคนสีหน้าเจื่อนไป
อ่านต่อตอนที่ 16