แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 13
อีกมุมของผับ ตงแยกมากับนงเยาว์ ไม่ได้สังเกตว่า จันทร์ฟองแอบฟังอยู่
"อะไรวะ นังจันทร์มันมาทำงานเป็นคุณโสอยู่ที่นี่เหรอ"
"ใช่ นงเตือนมันแล้วนะ แต่มันไม่เชื่อ มันใฝ่ต่ำ อีกอย่างมันต้องการเงินเพราะ มันเล่นยา"
"เลิกคบไปเลย แกก็อย่าไปทำแบบมันล่ะ เรื่องยาน่ะอยู่ให้ห่างเชียว"
จันทร์ฟองฟังอย่างเจ็บปวด
"หนูรู้น่าว่าหนูต้องทำอะไร"
พริ้งเดินมาพอดี นงเยาว์รีบพยักเพยิด พริ้งรับทราบ
"พี่พริ้งขา นี่พี่ตง พี่ชายหนู พี่ชายของแท้ค่ะ"
"หวัดดีครับเจ๊ น้องผมทำงานเป็นไงบ้าง"
"ดีค่ะ ขยันขันแข็ง นิสัยน่ารัก เป็นฝ่ายต้อนรับของที่นี่ ต้องเจอสารพัดค่ะ บางรายก็เข้ามาเกาะแกะลวนลาม เราก็ต้องคอยเตือนว่านี่ฝ่ายต้อนรับ ไม่ใช่ต้อนเข้าเล้านะคะ"
พริ้งหัวเราะ ตงหัวเราะตาม
"ต้องขอชมพี่ชายนะคะที่อบรมน้องมาดีเหลือเกิน"
ตงยิ้ม
"ยังไงเหรอครับ"
"ก็กตัญญูรู้คุณ เก็บเงินเก็บทอง ไม่เที่ยวเตร่ที่ไหนเลยนะ เก็บเงินไว้ไปรักษาคุณแม่ที่ป่วยอยู่"
ตงมองนน้องสาวอย่างประหลาดใจ
"อ๋อ เหรอครับ"
นงเยาว์แอบยิ้ม
"แล้วคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"
"อัมพาตน่ะครับ ก็รักษาไปตามสภาพ"
"ขอให้หายวันหายคืนนะคะ"
"ผมเองก็ฝากน้องผมด้วยนะครับเจ๊"
"ดูแลให้อย่างดีค่ะ"
จันทร์ฟอง คิดแผนเล่นงานนงเยาว์
ตงขี่มอเตอร์ไซค์มีต้อยซ้อนท้าย สิงห์และใบพรขี่อยู่อีกคัน ตงและต้อยท่าทางเมามาก หัวเราะลั่นถนน
จ่าพยับและสุวรรณนั่งซุ่มอยู่มุมหน้าผับในเงามืด มองคนทั้งสี่ กลุ่มตงขับรถทะยานออกไป จ่าพยับมองตาม แล้วหันมองข้อมูลในไอแพ็ด
"เท่าที่สืบมาได้นะจ่า มีเท่านิ้ละ"
ในไอแพ็ด มีภาพตง สิงห์ถ่ายรูปด้วยกันในสวนป่าแห่งหนึ่ง มือถือไรเฟิ่ลเหมือนจะไปล่าสัตว์
สามสี่รูป
"ตกลง ไอ้คนพี่ที่ชื่อตง” เป็นคนรับงาน ไอ้สิงห์เป็นผู้ช่วย" พยับว่า
"ใช่ครับ พวกมันฝีมือดีนะจ่า ทำงานไม่เคยพลาด เป็นผู้ต้องสงสัยอยู่หลายคดี แต่ทางการยังจับมันไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน มันมีแบ็คอัพดีน่ะจ่า"
"น่าสนใจว่ะ "
"นั่นซี จ่าอยากรู้ประวัติมันไปทำไม"
"บอกแล้วไง มันอาจเป็นประโยชน์กับข้าในวันหน้า"
วันรุ่งขึ้น ตอนสายๆ สายพิณยังนอนซบบนอกของกฤษณ์อยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้น คิดอะไรบางอย่าง ขยับร่างลุกนั่ง จนกฤษณ์ตื่น
"พิณ ตื่นแล้วเหรอ"
"ค่ะ"
สายพิณกลับไปซบ กฤษณ์อีกครั้ง
"กฤษณ์ขา พิณขอโทษนะ เรื่องเมื่อวานน่ะ"
"หืมม์ เรื่องอะไรเหรอ"
"เรื่องที่พิณพูดไม่ดีกับคุณแม่คุณนี่คะ พิณขอโทษจริง ๆ ยกโทษให้พิณนะ "
"ผมไม่โกรธคุณอยู่แล้ว"
"แต่ยังไงพิณก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี กฤษณ์คะ พิณเข้าใจคุณแม่คุณนะคะ ท่านไม่ชอบแน่ ๆ ที่จะให้ลูกชายมามั่วกับผู้หญิงหากินอย่างพิณ แล้ว... พิณเองก็ยังทำงานแบบนี้ด้วย"
"พิณกำลังจะบอกอะไรผมเหรอ"
"กำลังจะบอกว่า ถ้าพิณลาออกจากอาชีพนี้ละคะ"
"ออกจากเฮเว่น ออกจากบ้านเสน่ห์จันทร์น่ะเหรอ"
"ใช่ค่ะ ทิ้งอดีตทั้งหมดที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับอาชีพใหม่ที่คุณเตรียมไว้ให้พิณ คุณแม่คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้"
"แน่นอนที่สุด"
"งั้น....คุณกฤษณ์เห็นด้วยนะคะที่พิณจะลาออก"
"เห็นด้วยที่สุดเลยครับ"
"ดีค่ะ งั้นพิณจะไปบอกลาแม่ละม่อม แล้วเริ่มต้นหน้าที่ใหม่ บทบาทใหม่.... เป็นแม่บ้านให้คุณยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย"
"เดี๋ยว พิณจะมาเป็นแม่บ้านให้ผม หมายถึง ที่ไหน"
"อ้าว พิณจะย้ายมาอยู่ที่นี่ไงคะ จะปรนนิบัติคุณให้ดีที่สุดเท่าที่เมียจะทำได้เลยค่ะ"
สายพิณหัวเราะระรื่น หอมแก้มกฤษณ์หนึ่งฟอด
"อาบน้ำก่อนละ เดี๋ยวตามมานะคะ จะถูหลังสามีให้"
สายพิณวิ่งเข้าห้องน้ำไป กฤษณ์นิ่งงัน แม่จะยอมรึเปล่าวะเนี่ย
ตงนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง พลิกตะแคงเห็นร่างร่างนึงอยู่ใต้ผ้าห่ม ตงเอาแขนพาด เอาขาก่าย
"ตัวเอ็งอุ่นจังไอ้ชิต"
ตงกอดร่างนั้น
"หอมด้วยว่ะ ทำไมเอ็งหอมเหมือนผู้หญิงเลยวะ"
ร่างใต้ผ่าห่มโผล่หน้าออกมา คือต้อยที่หน้าโล้นเพราะล้างเครื่องสำอางออก ต้อยกอดตง ซบหน้ากับอก
"ก็หญิงน่ะซีพี่ตง ต้อยบูรพาไง"
"อืมม์ ต้อย ต้อยบูรพา เฮ้ย"
ตงสะดุ้งเฮือก ต้อยยังซบอยู่กับอก ตงกระโดดลงจากเตียง
"พี่ตง รีบลุกทำไม มานอนกอดกันต่อ"
"เดี๋ยว พี่พาต้อยมานอนที่นี่เหรอ"
"แหม...ลืมแระ เมื่อคืนพี่ออฟต้อยไง เป็นการออฟครั้งแรกในรอบสัปดาห์ เอ๊ะ หรือรอบเดือนหว่า"
"พี่เมาขนาดนั้นเลยเหรอ"
ต้อยหน้า
"พี่ตง อย่าบอกนะว่าออฟฉันมาเพราะเมา ไม่ใช่เพราะชอบฉัน รักฉัน อย่างที่พี่บอกเมื่อคืน ฮือ พี่โกหกฉัน"
"ต้อย อย่าร้องนะอย่าร้อง"
ตงเข้าไปกอดต้อย
"อย่ามาห้ามนะ พี่รู้ไหมทั้งชีวิตฉันอกหักมาแล้วกี่ครั้ง"
"กี่ครั้ง"
"สองครั้ง"
"โธ่...แค่สองครั้งเอง"
"ฟังให้จบ ครั้งแล้วกับครั้งเล่า โฮ"
"โถ โถ แล้วใครบอกล่ะว่าพี่จะทิ้งต้อย"
ต้อยหยุดร้องทันที มองหน้าตง จับไหล่ตงไว้แน่น
ต้อยเสียงเปลี่ยนจริงจัง ออกนักเลง
"พูดจริง ๆ นะเพ่"
ใบพรกำลังทำอาหารบนเตา สิงห์เข้ามากอดเบื้องหลัง
"พร... ใจดีอะไรอย่างนี้ แวะมาทำกับข้าวให้พี่กินอีก"
"แวะมาหาต้อยด้วยน่ะค่ะ เมื่อคืนมาค้างกับพี่ตงนี่"
"ที่จริงพี่ก็อยากให้พรมาค้างกับพี่เหมือนกันนะ หมายถึงมาอยู่กับพี่ที่นี่เลย"
"ทำไมคะ"
"ไม่อยากนอนคนเดียวน่ะ"
ใบพรหน้าแดง
"รู้ไหมพร ตั้งแต่พี่รู้จักพร พี่นอนหลับฝันดี ไม่ฝันร้ายอีกเลย"
"พี่ฝันร้ายบ่อย ๆ หรือ ฝันว่าอะไร"
"พรอย่ารู้เลย มันเป็นเรื่องไม่ดีน่ะ"
"เอาไว้จะเอาหนังสือสวดมนต์มาให้ สวดมนต์ช่วยให้จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน แล้วก็หลับสบาย"
"ไม่เอาแค่บทสวด พรต้องมาด้วย มาท่องบทสวดให้พี่ฟังนะ"
สิงห์มองใบพรอย่างมีความหมาย ใบพรเขิน หันไปทางเตา
"ทานเถอะค่ะ"
สิงห์ลงนั่ง ใบพรตักอาหารร้อน ๆ ลงจาน
"หอมจัง ทานด้วยกันนะ"
"ค่ะ"
"พร"
"คะ"
"วันนี้ว่าง ๆ พาพี่ไปเยี่ยมแม่หน่อยซี เห็นว่าอาการดีขึ้นมากแล้ว"
"ใช่ค่ะ พี่สิงห์อยากไปเยี่ยมแม่พรจริง ๆ เหรอ"
"จริงซี ทำไมล่ะ จะไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเขยท่านด้วย"
ใบพรเป็นปลื้ม สิงห์ดูจริงจังกับเธอขึ้นทุกที เธอเขินจนไม่กล้าสบตาสิงห์
"พี่ สิงห์ พูดเล่นหรือพูดจริง"
"พี่ไม่เคยพูดเล่นเรื่องความรักของเรา"
ใบพรจะร้องไห้
"แนะ ขี้แยอีกแล้ว"
สิงห์ดึงใบพรมานั่งตักแล้วกอดไว้ เช็ดน้ำตาให้ ตงและต้อยประคองกันเข้ามาในห้อง
"อุ๊ย....พี่ สิงห์ น้องพร ทำอะไรกันจ๊ะ"
ใบพรรีบลุกทันที หน้าแดง รีบกลับไปที่เตา
"ต้อยก็เห็นอยู่ ใบพรทำกับข้าวให้พี่กิน"
"กินด้วยซี แต่ตอนนี้มีอะไรแก้แฮงค์ไหม" ตงว่า
"ได้เลยค่ะพี่ตงฟาง เดี๋ยวต้อยบูรพา จะถอนให้พี่เอง"
"ถอนอะไรต้อย ถอนหงอกเหรอ"
"ถอนเมา ต้มแซ่บร้อน ๆ นี่ละ ถอนชะงัดนัก"
ต้อยและพรช่วยกันปรุงต้มแซ่บอย่างชำนาญ ตงและสิงห์มองอย่างเอ็นดู
อ่านต่อหน้า 2
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 13 (ต่อ)
สายพิณแต่งสวยจะกลับคอนโดฯ เดินออกมาหน้าลิฟท์ ลิฟท์เปิดออกพอดี แดงออกมา ยิ้มให้กันอย่างเจื่อน ๆ แดงจะเลี้ยวไป สายพิณทักขึ้น
"คุณแดง"
แดงหันกลับมา
"ชื่อจริงหรือว่าฉายาคะ"
แดงไม่เล่นด้วย
"มีอะไรคะ"
"จะบอกข่าวดีน่ะค่ะ ฉันจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว คุณกับฉันได้เป็นเพื่อนบ้านกันแล้วละค่ะ"
"อ้อ เหรอคะ ไม่รู้สึกว่าเป็นข่าวดีสักเท่าไหร่เลยค่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณที่บอก"
สายพิณชักสีหน้า แดงจะกลับห้อง
"แต่ยังไงฉันก็อยากเป็นเพื่อนบ้านคุณแดงอยู่ดี"
แดงหันมาเลิกคิ้วเป็นเชิงฉงนว่า ยังไม่เลิกรา
"ฉันจะลาออกจากเฮเว่นแล้ว เลิกอาชีพเก่าเด็ดขาด เพื่อมาเป็นภรรยาไฮโซของคุณกฤษณ์"
"ไม่เข้าใจ มาเล่าให้ฉันฟังทำไมคะ จะให้แสดงความยินดีด้วยงั้นเหรอ"
"ที่เล่า เพื่อจะบอกว่าฉันเป็นไฮโซเหมือนคุณแล้วไง ก็เลยอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์"
"แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ประสบการณ์อะไร"
"ก็.... เป็นไฮโซอยู่ดี ๆ จะทำยังไงถึงจะไม่ตกต่ำต้องไปขายตัวอีก อย่างที่คุณเป็นกะหรี่ไฮโซอยู่แบบนี้ไง"
แดงนิ่งงันไป ลิฟท์เปิดออกพอดี สายพิณยิ้มสะใจ
"วันหลังแลกประสบการณ์กันนะคะ คุณแดง นามแฝง"
สายพิณเข้าลิฟท์ไป แดงสีหน้าเจ็บปวดวูบขึ้น สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วกดมือถือทันที
"คุณปริมเหรอคะ มีเรื่องสายพิณจะรายงานค่ะ"
เพลินกับสาวสามเดือนสุมหัวกันอยู่กลางโถงบ้านสุขสำราญ
"เอายังไงวะ เงินค่าตัวนังจันทร์ฟองเท่านี้เอง แถมเฮียสมยศยังโทรมาด่าอีก ว่ามันตายซากอย่างกะศพ" เพลินบอก
"มันโทรมอย่างกะศพจริง ๆ นี่ ก็ต้องรายงานไปตามจริงละเจ๊" เมย์ว่า
"รายงานตามจริง ก็โดนกระทืบเหมือนเดิมละซี" จูนบอก
เอพริลบอก
"กลัวจะโดนยิ่งกว่านั้น ไอ้พี่สุวรรณมันไม่ให้ยา มันลงแดงชักแด็ก ๆ ถึงตายเลยนะ"
"เอางี้ ฉันขอบริจาคเงินพวกแกละกัน ลงขันกันหน่อย สงเคราะห์นังจันทร์มัน"
เอพริลบอก "ได้"
สามสาวหยิบเศษเงินใส่ซอง
"ขอบใจพวกแกมาก แล้วก็พูดให้เหมือน ๆ กันนะ เดี๋ยวพี่พิศจะจับได้"
เสียงพิศดังมาจากเบื้องหลัง
"ฉันจับอะไรได้"
ทุกคนสะดุ้งเฮือก พิศเดินออกมาด้วยเสื้อคลุมหลวม ๆ สุวรรณใส่เสื้อกล้าม เพิ่งนวด
กันเสร็จเรียบร้อย เนื้อตัวทั้งสองเป็นมันเลื่อมจากออยทาตัว
"ไม่มีอะไรจ๊ะ" เพลินบอก
พิศถาม
"ไง....นังจันทร์มันรับแขกวันแรก มีปัญหาอะไรไหม"
"ไม่มี ทุกอย่างเรียบร้อย"
"นังจันทร์ได้กี่ออฟ"
"ออฟเดียวพี่"
"ทำไม มันเบี้ยวเหรอ"
"เปล่า เปล่า มันไม่ค่อยสบายน่ะพี่ แต่ว่าไม่ได้นะออฟเดียวแต่มันทำรายได้เข้าเป้านะ นี่น่ะพี่"
เพลินส่งซองเงินให้พิศ พิศเปิดซองดูจำนวนเงิน สาวสามเดือนหลบตาพร้อมกัน พิศมองอย่างสงสัย
"แหม ไม่รู้ลูกค้าคนไหนเขาออฟมันนะถึงให้เยอะขนาดนี้ไง...รู้ไหมใครออฟมัน"
เพลินและสามสาวส่ายหน้าพร้อมกัน กลัวลนลาน
"ไม่มีใครบอกใช่ไหม สุวรรณ"
"ครับแม่"
"ไปลากตัวอีจันทร์ออกมา"
"เดี๋ยวพี่ มันไม่ค่อยสบาย จะไปลากตัวมันออกมาทำไม"
พิศตวาด
" ฉันอยากรู้ความจริง ไอ้เสี่ยใจดีที่ไหนเขาออฟกะหรี่สภาพโคม่าอย่างมันไปนอน"
ทุกคนสะดุ้งที่พิศรู้ทั้งหมด สุวรรณออกจากห้องไป
"เฮียหมาโทรมารายงานหมดแล้ว บอกขายขี้หน้าแขกที่มันขึ้นโชว์ แกเป็นคนต้นคิดให้มันโชว์ใช่ไหมนังเพลิน"
"ฉันไม่รู้นี่พี่ว่าสภาพมันเป็นแบบนี้ นึกว่าตกแต่งขึ้นมาจะพอดูได้บ้าง"
ทั้งสี่สะพรึงกับสายตาของพิศ
บริเวณตรอกหน้าบ้านสุขสำราญ กลางวันต่อเนื่องมา นงเยาว์ซื้อของเซเว่นหลายถุง กำลังจะกลับบ้าน ผ่านมาหน้าบ้านสุขสำราญเลยมองเข้าไปในบ้าน แต่ไม่เห็นใคร
นงเยาว์เดินเลยไป รถของจ่าพยับแล่นตามมาจอดเทียบพอดี จ่าพยับลดกระจกหน้าต่างลง
"น้องนง กลับบ้านเหรอจ๊ะ ไปกับจ่าไหม จ่าไปส่ง"
"ไม่ละ เดี๋ยวแวะกินก๋วยเตี๋ยวแถวนี้ก่อน"
"ได้ข่าวว่าพี่ชายหนูมาอยู่พัทยางั้นเหรอ พี่แท้ ๆ น่ะ"
นงเยาว์สะดุ้ง
"จ่ารู้จักพี่ชายหนูด้วยเหรอ"
"รู้จักซี ชื่อตงใช่ไหม ไอ้พี่หน้าหยกที่โดนจ่ากระทืบวันนั้นชื่อสิงห์"
"จ่าจะทำไมเหรอ คงไม่..."
"ไม่อะไรจ๊ะ อ้อ จับพี่หนูเข้าคุกใช่ไหม ติดอยู่หลายคดีนี่ จ่าสืบประวัติมาหมดแล้ว"
นงเยาว์ไหว้
"หนูไหว้ละ อย่าจับพี่หนูเลย ให้หนูทำอะไรหนูก็ยอม"
"สักวันหนูต้องทำเพื่อจ่าแน่ ๆ ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจ่าจะแวะไปบ้านเสน่ห์จันทร์ ไปเก็บดอกเบี้ยดอกหอยเสียหน่อย ไม่ไปกับจ่าจริง ๆ นะ"
"ไม่จ๊ะ"
จ่าพยับหัวเราะกับท่าทางกลัวลนลานของนงเยาว์ ขับรถแล่นเข้าตรอกไป นงเยาว์หายใจไม่ทั่วท้อง
จันทร์ฟองยืนอยู่ต่อหน้าพิศและทุกคนในห้อง
"บอกความจริงมา เมื่อคืนแกได้ค่าจ้างมาเท่าไหร่"
"เจ๊เพลินเก็บเงินไปแล้วนี่ แม่ก็ดูเอาซิ"
"ไม่ต้องมาย้อน ฉันต้องการคำตอบจากปากของแก"
"ห้าร้อย ไอ้เสี่ยมันจ่ายเท่านี้"
พิศหันขวับมามองเพลิน
"ห้าร้อย ค่าตัวเท่าพวกอีแก่ปลดระวางแถวท่าเรือเลย แต่แปลก เงินในนี้นี่สองพันกว่า งั้น.....พวกแกก็ลงขันกันหลอกฉัน "
จันทร์ฟองมองกลุ่มเพลินอย่างแปลกใจที่ช่วย
"ใช่ไหมนังเพลิน"
พิศจับหน้าเพลินขึ้นแล้วตบอย่างแรง เพลินล้มไปกับพื้น สาวสามเดือนหวีดร้องเข้าประคอง
" ฉันแค่จะช่วยมัน ถ้ามันทำเงินไม่ได้ พี่ก็จะซ้อมมันอีก พอเถอะพี่ ทำร้ายมันมาก ๆ เดี๋ยวพวกมูลนิธิเพื่อนหญิงเขามาตรวจสอบ พี่นั่นแหละจะลำบาก"
"นังเพลิน นี่แกหวังดีเตือนฉัน หรือว่าแกกำลังขู่ฉันกันแน่"
"ฉันเตือนสติพี่ต่างหาก"
"มึงคิดว่ามึงเป็นใครมาเตือนสติกู"
พิศจะเข้ามาจะกระทืบเพลิน สามสาวรีบห้าม ยกมือไหว้ ร้องไห้ระงม
"แม่ อย่าทำอะไรพี่เพลินเลย / หนูขอละ / พวกเราหวังดีนะคะแม่"
"ไม่ต้องมาอ้างเรื่องหวังดี พวกแกมีความผิดกันทุกคนที่ลงขันกันช่วยอีนี่ แต่ฉันจะไม่ทำโทษแกหรอก เพราะคนที่ควรจะได้บทเรียนว่ามันต้องทำรายได้ให้บ้านมากกว่านี้ก็คือนังนี่ต่างหาก"
พิศชี้ไปที่จันทร์ฟอง
"ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะแม่"
"ผิดซี ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนกลายเป็นซากแบบนี้ ผู้ชายที่ไหนมันจะหิ้วแก"
"จัดการ เอาแบบเบาะ ๆ"
สุวรรณชกเบา ๆ เข้าที่ท้องของจันทร์ฟอง จันทร์ฟองทรุดลงไปกองกับพื้น
"เอาธูปมา"
"ครับแม่"
จันทร์ฟองเงยหน้ามองพิศอย่างอาฆาตแค้น สุวรรณหยิบกระถางธูปจากระเบียงทั้งกระถางยื่นให้พิศ พิศหยิบก้านธูปขึ้นมา แล้ววนไปรอบ ๆ หน้าของฟองจันทร์
ทุกคนมองอย่างสยอง เอพริลที่เคยโดนมาแล้วเบือนหน้าหนี
"ต้องจุดธูปเรียกวิญญาณกันหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงนะนังจันทร์ หน้าแกจะไม่เสียโฉมหรอก แม่สัญญา"
พิศจะจี้ลงที่ไหล่ของจันทร์ฟอง อย่างไม่มีใครคาดคิด จันทร์ชกเข้าปลายคางพิศอย่างแรง พิศเซไปปะทะเก้าอี้ ล้มโครมไป จันทร์ฟองหยิบกระถางในมือของสุวรรณกระแทกหน้าสุวรรณเข้าเต็ม ๆ สุวรรณร้องลั่นเพราะเศษกระถางและผงธูปเข้าตา จันทร์ฟองลุกขึ้นหยิบเก้าอี้ฟาดเข้าเต็มร่าง สุวรรณล้มไป แล้วหยิบธูปที่หล่นอยู่ขี้นมา
"อีชั่ว"
จันทร์ฟองจี้ธูปเข้ากลางหลังเปลือยของนางพิศที่ร้องโหยหวน จันทร์ฟองเตะเข้าสะเอวอย่างแรง ก่อนจะวิ่งเซซังออกจากบ้าน สี่สาว ตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก สุวรรณรีบวิ่งตามไป สามสาวตามไปด้วย เพลินมองไปที่ร่างของพิศ ที่นอนร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
"นังเพลิน ชะ ช่วยด้วย"
"พี่พิศ เป็นยังไงบ้าง"
"ฉัน....ฉันขยับขาไม่ได้ มันชา มันชาไปหมด"
พิศตาเหลือกลาน เพลินมองสภาพพี่สาว ทำอะไรไม่ถูก
อ่านต่อหน้า 3
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 13 (ต่อ)
จันทร์ฟองวิ่งออกมาจากบ้าน วิ่งออกมาที่ตรอก ตรงไปทางบ้านเสน่ห์จันทร์
นงเยาว์กำลังจะเข้าบ้านเสน่ห์จันทร์ จันทร์ฟองวิ่งตรงมา
"นง ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย"
"จันทร์ แก"
"ฉันหนีออกมา ช่วยพาฉันหนีที"
"งั้นเข้าไปในบ้านก่อน"
นงเยาว์พาจันทร์ฟองเข้าบ้านไป สุวรรณวิ่งตามมาระยะไกล แต่ทันเห็นหลังสองสาวเข้าบ้านไป
นงเยาว์พาจันทร์ฟองเข้ามาในโถง แล้วเบรกตัวโก่งทั้งคู่ เพราะจ่ากำลังนับเงินที่ได้จากละม่อม พริ้งยืนอยู่ข้าง ๆ มองค่าส่วยอย่างเซ็ง ๆ
"หลบหลังบ้านก่อน"
นงเยาว์พาจันทร์ฟองเข้าหลังบ้าน หลบอยู่ในห้องเก็บของ
"แกต้องพาฉันหนีนะนง ฉันกลับไปบ้านนั้นไม่ได้แล้ว มันฆ่าฉันแน่ ๆ"
"เดี๋ยวฉันไปเอากุญแจไขประตูหลังบ้าน มันออกไปอีกตรอกนึงได้ แกรอก่อน"
จันทร์ฟองทรุดลงนั่งกับพื้น ตัวเริ่มสั่นเทาเพราะอยากยา
"แกเป็นอะไรรึเปล่า"
"มันเสี้ยนยา"
นงเยาว์มองเพื่อนอย่างเวทนาก่อนออกไป จันทร์ฟองยังสั่นและหายใจหอบ
นงเยาว์แอบมองเข้ามาในโถง เสียงเอะอะของสุวรรณลั่นบ้าน จ่าพยับ ละม่อม พริ้งยืนเผชิญหน้า
"ผมเห็นว่านังจันทร์มันวิ่งเข้าบ้านนี่แหละ เจ๊อย่ามาปิด" สุวรรณบอก
"ปิดอะไรวะ ฉันยังไม่ทันรู้เรื่องอะไร อยู่ดี ๆ นายก็บุกเข้ามาในบ้านฉันแล้ว" ละม่อมบอก
"เจ๊ไม่รู้เรื่องก็ลองถามนังนงเยาว์ดู มันเป็นคนพานังจันทร์เข้ามาในบ้าน ผมเห็นกับตา"
นงเยาว์สะดุ้งยืนหลบอยู่ แล้วรีบหลบไปห้องครัว จังหวะนี้ สุวรรณเหลือบเห็นพอดี
"เหมือนคราวที่แล้วไม่มีผิด ที่นงเยาว์หนีเข้ามาหลบในบ้านนี่ แล้วเจ๊ละม่อมก็ช่วยมันไว้ จะให้เกิดซ้ำสองเหรอเจ๊"
"พริ้ง ไปตามตัวนงเยาว์มา"
"ค่ะ"
พริ้งขึ้นชั้นบนไป
สุวรรณกระซิบ
"จ่า มันไม่ได้อยู่ข้างบนหรอก มันอยู่ในครัวนั่นแหละ"
จ่าพยับ สุวรรณตรงไปที่ครัวทันที
นงเยาว์ค้นกุญแจเปิดประตูเพื่อจะออกด้านหลัง กุญแจพวงใหญ่ นงเยาว์หาดอกที่ถูกต้องไม่เจอ จ่าพยับดึงกุญแจไปทั้งพวง นงเยาว์สะดุ้งเฮือก สุวรรณยืนหน้าเหี้ยมอยู่เบื้องหลัง
"ไงหนูนง หากุญแจจะไปไขอะไรเหรอ"
"เปล่า"
"ทำไมตัวสั่นอย่างนั้นล่ะ"
จ่าพยับเข้ามาโอบร่าง นงเยาว์
"สุวรรณมันบอกว่าหนูนงพานังจันทร์ฟองมาซ่อนในบ้านนี่ จริงไหม"
"ฉันเปล่านะ"
"พูดความจริงมาเถอะน่า พามันมาซ่อนเหมือนครั้งที่หนูเคยมาซ่อนที่นี่กับไอ้ชิตใช่ไหม อย่าโกหกนะ รู้ใช่ไหมว่าโกหกจะเกิดอะไรขึ้น"
"อย่าทำอะไรหนูนะ"
"ไม่ทำหรอก ถ้าสารภาพความจริง"
"มะ....มันหนีออกหลังบ้านไปแล้ว"
"งั้นผมไปตามนะจ่า" สุวรรณบอก
สุวรรณจะวิ่งออกหลังครัว
"เดี๋ยว ไม่ต้องไป"
สุวรรณชะงัก
"จ่าไม่เชื่อเราน่ะ มันจะหนีออกไปได้ยังไง ในเมื่อนงยังหากุญแจไขประตูอยู่เลย"
สุวรรณถึงบางอ้อ นงเยาว์ตัวสั่นด้วยความกลัว น้ำตารื้น
"จะโกหกก็ให้มันแนบเนียนหน่อยนะ"
จ่าพยับกระชากผม นงเยาว์หน้าหงายกรีดออกมาเบา ๆ
"ต่อไปนี้คือความจริงล้วนๆ ถ้ายังตอแหลอีก จ่าจะไม่ทำร้ายเราหรอก แต่กับพี่ชายเราทั้งสองคน ไอ้ตง กับไอ้สิงห์ จ่าไม่รับประกันความอยู่รอดของมันสองคน คดีอุกฉกรรจ์ระดับมัน จะถูกวิสามัญเมื่อไหร่ก็ได้"
นงเยาว์ตาเบิกโพลง ร้องไห้ออกมา จ่าพยับหัวเราะเบา ๆ สุวรรณหัวเราะตาม
ประตูห้องเก็บของถูกถีบเข้ามาอย่างแรง จันทร์ฟองนั่งอยู่ที่พื้น สะดุ้งเฮือก สุวรรณเข้ามากระชากร่าง พริ้ง ละม่อม ยืนดูอยู่ ตกใจ
"ปล่อยกู ปล่อย"
"มึงอย่าคิดหนีอีกนะ ไม่งั้นมึงตาย"
สุวรรณลาก จันทร์ฟองไป
"นังนงมาเพื่อนมาหลบจริง ๆ ด้วย" พริ้งบอก
"ทำไมสภาพมันแย่ขนาดนี้"
"ก็อย่างที่หนูบอกพี่ อีพิศมันเลี้ยงเด็กด้วยแข้งกับยา"
สองนางรีบตามไป
จันทร์ฟองถูกสุวรรณลากออกมาที่สนาม พริ้ง ละม่อมตามมา
"มึงไม่รอดแน่คราวนี้"
"ฆ่ากูไปเลยซีวะ มึงจะทรมานกูไปถึงไหน"
จันทร์ฟองนิ่งไป เมื่อเห็นจ่าพยับยืนอยู่กับนงเยาว์ที่หน้าซีด น้ำตารื้น
"อีนง มึงเรียกพวกมันมาจับกูใช่ไหม"
นงเยาว์ไม่กล้ามองหน้าเพื่อน
"บอกเพื่อนไปซีนงเยาว์ ว่าเป็นแผนเพื่อนช่วยเพื่อน อ่ะฮ่ะ"
"อีทรยศ กูไม่มีวันยกโทษให้มึงจนวันตาย มึงจำไว้อีนง"
จ่าพยับบอก
"ลากมันขึ้นรถไป น้องสามเดือน กลับบ้านเรา"
จันทร์ฟองยังตะโกนกลับมา
"กูไม่มียกโทษให้มึง"
สุวรรณลากจันทร์ฟองออกจากรั้วบ้าน นงเยาว์มองตาม สภาพของจันทร์ฟองดูน่าเวทนา จ่าพยับหันมาเชยคางนงเยาว์
"ทำดีมากน้องนง เอาละ จ่าจะทำตามที่สัญญาเรื่องพี่ชายของเรานะ"
จ่าพยับออกไป
"พี่ชายแก เรื่องอะไรกันนง"
นงเยาว์ไม่ตอบพริ้ง เช็ดน้ำตาวิ่งขึ้นบ้านไป
"จะไปถามให้รู้เรื่องไหมพี่ม่อม"
"ไม่ต้อง เรื่องอย่างนี้สืบได้ไม่ยากหรอก"
ละม่อมหดหู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
สุวรรณล็อกร่างของจันทร์ฟอง นอนฟุบไปที่เบาะหลัง จ่าพยับขึ้นรถ มือถือของสุวรรณ ดังขึ้น
"ว่าไงเจ๊เพลิน หา แม่ลุกไม่ได้ ได้ จะกลับเดี่ยวนี้แหละ ได้ตัวนังจันทร์ฟองแล้ว"
สุวรรณเลิกสาย
"มีอะไรวะ" จ่าพยับถาม
"แม่พิศล้มครับ ลุกไม่ขึ้นเลย ต้องพาส่งโรงพยาบาล เพราะอีนี่คนเดียว แม่ไม่น่าเลี้ยงมันไว้เลย"
จ่าพยับบึ่งรถออกทันที สุวรรณยังก่นด่าต่อไป
"เป็นผมนะเอามันไปทำปุ๋ยนานแล้ว"
วิไล แม่ของใบพรอาการดีขึ้นมาก แต่ยังเข้าเฝือกขาอยู่ สิงห์ ใบพรนั่งข้างเตียง ต้อยนั่งปอกผลไม้อยู่ที่โต๊ะข้างๆ ตงช่วยกิน ต้อยตีมือเป็นระยะ สิงห์มองวิไลอย่างสงสาร นึกไปถึงแม่ของตนที่เป็นอัมพาต
"เพื่อน ๆ เขาอยากมาเยี่ยมแม่น่ะจ๊ะ" ใบพรบอก
"อีกไม่นานแม่ก็หายแล้วนะครับ กลับมาเดินได้เหมือนเดิม" สิงห์บอก
"สาธุ ให้สมพรปากเถอะค่ะ แต่คงอีกนานกว่ากระดูกมันจะต่อกันได้เหมือนเดิม"
"แม่ต้องมีกำลังใจนะครับ พวกเราจะมาเยี่ยมทุกวันเลย"
"ขอบคุณค่ะ พร แต่แม่สงสัยน่ะ อยู่โรงพยาบาลอย่างนี้มันแพงนะ ลูกเอาเงินที่ไหนมาจ่าย เดือนนึงเป็นหมื่น ๆ ไม่ใช่เหรอ"
ใบพรมองหน้าสิงห์อย่างแคลงใจ
"พรมีรายได้จ๊ะ แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินนะ อยู่ให้สบายเลย"
"พรทำงานอะไรเหรอ ถึงมีเงินเยอะขนาดนั้น"
ใบพรพยายามกล้ำกลืนความรู้สึก ควบคุมไม่ให้เสียงสั่น สิงห์รีบตอบแทน
"พรทำงานแผนกต้อนรับน่ะครับ รายได้ดีมาก ทิปจากลูกทัวร์บางทีได้เดือนละหลายหมื่นเลยนะครับ"
"จริงเหรอพร"
"ค่ะแม่"
"ตอนที่ตำรวจไปหาแม่ที่บ้าน เขาบอกว่าลูกถูกหลอกมาขายตัวที่กรุงเทพ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม"
ใบพรจุกที่อก
"พร บอกแม่มาตามตรงนะ เพราะอย่างนี้ใช่ไหมรายได้ถึงเยอะนัก"
ต้อยรีบเข้ามาข้างเตียงทันทีแก้สถานการณ์
"แม่ขา....ลูกสาวแม่เขาเป็นคนสวยระดับนางงาม เขาอยู่ฝ่ายต้อนรับจริง ๆ ค่ะ สวยขนาดนี้รายได้เรือนแสนกันทั้งนั้นค่ะ และก็ไม่เกี่ยวกับอาชีพอย่างว่าด้วย ดูต้อยซีคะ สวยรองลงมาหน่อย ก็เลยอยู่ต้อนรับเหมือนกัน"
"ตำแหน่งเดียวกันเลยเหรอ"
"ค่ะ เพียงแต่ต้อยต้อนรับอยู่หน้าห้องน้ำค่ะ ขัดถูทุกสิบนาที"
ทุกคนหัวเราะเฮ วิไลยิ้มออกมาได้ ใบพรโล่งอก
"แม่ก็โล่งอก ขอนะพร อย่าทำอาชีพที่มันเปลืองเนื้อเปลืองตัว"
"จ๊ะแม่"
ตงและสิงห์มองวิไลอย่างเข้าใจหัวอก คิดถึงแม่ตัวเองกันทั้งคู่
อ่านต่อหน้า 4
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 13 (ต่อ)
ตงและสิงห์เดินมาที่โถงทางเดิน เห็นใบพร ต้อยยืนคุยอยู่ที่เคาน์เตอร์กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
"คิดถึงแม่ว่ะ อยากให้นงมันมาเห็นแม่ใบพร เผื่อมันจะคิดได้ อยากกลับไปดูแลแม่บ้าง" ตงบอก
สิงห์ไม่กล้าพูดความจริงเรื่อง นงเยาว์ขายตัว
"คงยากแล้วละพี่"
"สิงห์ พี่ว่าเราคงต้องรับงานอีกแล้ว เงินที่มีอยู่ร่อยหรอลงทุกที"
"ขอให้เป็นงานสุจริตได้ไหมพี่ ผมไม่อยากทำงานผิดกฏหมายอีกแล้ว"
"งานอะไรละว้าที่ได้เงินขนาดนี้ แล้วถูกกฏหมาย"
"งั้นผมก็คงต้องปฏิเสธ ตอนนี้ผมมองงานที่พัทยานี่ละครับ งานใช้แรงงานลูกจ้างชั่วคราว หรืออะไรก็ทำทั้งนั้น"
"เพราะใบพรรึเปล่าวะ แกถึงอยากลงหลักปักฐานแบบนี้"
"ใช่ครับ เพราะใบพรแท้ ๆ"
สิงห์มองไปที่ใบพร ตามีความสุข
ประตูลิฟท์เปิดออก บุรุษพยาบาลเข็นร่างนางพิศที่นอนอยู่บนเตียงออกมา นางพิศใส่หน้ากากออกซิเจน เพลินตามมาด้วย หน้าตาทุกข์ร้อน เตียงผ่านเคาน์เตอร์ตรงไปห้องฉุกเฉิน ต้อยและใบพรมองตาม
"ว้าย ยายพิศ เจ๊เพลิน" ต้อยเรียก
"นังต้อย" เพลินเรียก
"ยายพิศเป็นอะไร"
"ล้มน่ะซี ลุกไม่ขึ้นเลย"
ตงและสิงห์เข้ามาสมทบ
"ไม่รู้กระดูกกระเดี้ยวหักรึเปล่า อีนังเด็กใหม่นี่ข้าจะไม่ช่วยมันแล้ว มีแต่ปัญหา"
"เด็กใหม่คนไหนวะ"
"อีนังจันทร์ฟองไง อีตายซากนั่นแหละ มันชกพี่พิศ แล้วหนีออกจากบ้าน ดีนะ ที่มันไปหลบอยู่บ้านแก เลยลากมันกลับมาได้"
เพลินแยกไป ตงกระซิบสิงห์
"จันทร์ฟองไหนวะ จันทร์ฟองเพื่อนนังนงใช่ไหม"
สิงห์ไม่ทันตอบ
จังหวะนั้น จ่าพยับและสุวรรณออกมาจากลิฟท์พอดี ใบพร สิงห์และต้อยตะลึง จ่าพยับ สุวรรณชะงัก
ใบพรหลบตาจ่า ตงยังไม่รู้เรื่องอะไร สิงห์มองกลับอย่างไม่เกรงกลัว
"อ้าว...น้องพร กำลังคิดถึงอยู่พอดี มาเยี่ยมแม่เหรอจ๊ะ"
"ค่ะ"
"เรายังไม่ได้ตอบโจทย์จ่าเลยนะ ต้องหาเวลาเหมาะ ๆ อีกสักครั้ง หวังว่าครั้งหน้า คงไม่พาไอ้ผัวตีนหนักมาอีกนะ เพราะถ้ามา จ่าเตรียมลูกโม่ทะลวงไส้มันแล้ว"
สิงห์ขบกรามแน่น ตงมองอย่างไม่ชอบขี้หน้า
"เอ....คนนี้ ใช่พี่ชายน้องนงรึเปล่า คืนนั้นที่โดนจ่ากระทืบน่ะ"
"ใช่...ฉันเอง"
"ขอโทษนะน้องชาย วันนั้นน้องชายอาละวาดเกินกว่าเหตุ ก็เลยต้องสั่งสอนกันหน่อย"
"ใครที่มันทำเกินกว่าเหตุ มันต้องโดนกระทืบอยู่แล้ว จ่าเองก็รู้รสชาติมาบ้างแล้วนี่"
จ่าพยับหน้าเครียดขึ้น ไม่นึกว่าสิงห์จะท้าทายขนาดนี้ ใบพร ต้อยหายใจไม่ทั่วท้อง
"เราต้องได้เจอกันอีกแน่"
จ่าพยับยิ้มแสยะ เหลือบมามองที่ตง ตงมองตอบไม่สะทกสะท้าน แต่ยังงง ๆ ว่าเรื่องอะไรกัน จ่าพยับแยกไปพร้อมสุวรรณ
"ใครวะ กวนส้นตีน" ตงถาม
"เราไปจากที่นี่เถอะ" ใบพรบอก
"ใช่ ใช่ รีบไปเลย ขืนอยู่ต่อ" ต้อยสนับสนุน
สองสาวดึงสองหนุ่มเข้าลิฟท์ไปทันที
จันทร์ฟองเนื้อตัวมีรอยฟกช้ำ นอนฟุบอยู่ที่ที่นอน สุวรรณเปลือยท่อนบน เหงื่อท่วมตัว มือถือเข็มขัดเพิ่งลงฟาด จันทร์ฟองจนแน่นิ่งไป สาวสามเดือนแอบมองอยู่นอกห้อง
"มึงทำร้ายแม่จนเข้าโรงพยาบาล มึงต้องชดใช้"
สุวรรณเงื้อเข็มขัดจะฟาดอีก สามสาววิ่งเข้ามาห้าม
"พี่สุวรรณขอเถอะ เท่านี้มันก็ช้ำใจจะตายอยู่แล้ว" เอพริลบอก
"ก็ได้ บอกมันนะ มันจะไม่ได้ยาเป็นอาทิตย์ ถ้ายังแข็งข้อก็ให้รู้ไป"
สุวรรณออกไป สามสาวเข้าดูอาการจันทร์ฟองที่ยังมีสติอยู่
"โอย...ไหวไหมวะเนี่ย" จูนว่า
จันทร์ฟองสะอื้น
"ฉันไม่เป็นไร"
"ฉันเคยเตือนแกแล้วนะ ยังไงแกก็ต้องยอมว่ะ"
"ฉันก็ยอมทุกอย่างแล้วไง มันก็ยังทำร้ายฉันอยู่ดี"
เมย์บอก
"หมายถึงว่าแกก็ต้องดูแลตัวเองด้วย อาชีพอย่างเรา ถ้าไม่สวย ไม่เซ็กส์เอ็กซ์บึ้มมันก็ขายไม่ได้"
"ใช่ อย่าปล่อยให้ตัวเองทรุดโทรมอย่างนี้ ที่จริงแกก็เป็นคนสวยนะ บำรุงอีกหน่อยก็เป็นดาวได้แล้ว"
"ที่แม่เขาโกรธเพราะแกขายไม่ออกนี่แหละ"
"ยังไงก็ขอบใจพวกแกนะที่ช่วยกันลงเงินให้ฉันน่ะ ไม่ใช่เพื่อนแต่กลับช่วยเหมือนเพื่อน แต่อีคนที่มันเป็นเพื่อน มันกลับทรยศเรา"
จันทร์ฟองสะอื้น สามสาวมองหน้ากันงง รู้ว่าจันทร์ฟองพูดถึงนงเยาว์ แต่ไม่รู้เหตุการณ์อะไร
"ได้...ฉันจะทำตามที่แกแนะนำ ฉันจะกลับไปที่เฮเว่น ไปเป็นกะหรี่แข่งกับนังนงเยาว์"
สามสาวยิ้มให้กัน
วันต่อมา ต้อยเข้ามาในห้อง ใบพรเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
"ใบพร ลงไปข้างล่างก่อน แม่เรียกคุยทุกคนเลย"
"มีอะไรเหรอต้อย"
"มีนิดหน่อย รีบลงไปนะ"
"จ๊ะ"
นงเยาว์นอนหลับอย่างอ่อนเพลีย เมื่อคืนรับศึกหนักมาทั้งคืน ต้อยเข้ามาปลุก
"นง นงเยาว์"
"อย่าเพิ่งปลุกเด๊ะ ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย"
"แม่มีเรื่องคุย เรียกทุกคนไปข้างล่างน่ะ เร็ว ตื่น ล้างหน้า ล้างตาซะ"
นงเยาว์ลุกนั่ง หัวกระเซิง ทำท่าจะล้มลงนอนอีก ต้อยตวาดแว้ด
"อย่านอนต่อนะแก นังนง"
นงเยาว์สะดุ้ง พยักหน้าเกาหัวอย่างอารมณ์เสีย
นงเยาว์หัวกระเซิงลงมาเป็นคนสุดท้าย ทุกคนนั่งพร้อมกัน ละม่อมนั่งกลางวง พริ้งนั่งกับสายพิณ มีศรีที่หน้าช้ำเพราะร้องไห้นั่งอยู่ข้าง ๆ ใบพร ต้อยนั่งคู่กัน นงเยาว์ลงนั่งลำพัง สงสัยบรรยากาศดูเศร้า ๆ
"แม่คุณ กว่าจะลงมา"
"มีอะไรเหรอคะ เอ๊ะ หรือมีใครตาย"
"ไม่มีใครตายหรอก แต่มีคนที่กำลังจะจากพวกเราไป" ละม่อมบอก
"ใครคะ"
"ฉันเองละ" สายพิณบอก
"พี่จะไปไหนล่ะ หรือว่าย้ายเข้ากรุงเทพ กลับไปเป็นดารา" นงเยาว์ว่า
ทุกคนขำนงเยาว์
"แกก็ช่างคิดนะ" ศรีว่า
"ดาราคงกลับไปเป็นไม่ได้แล้ว พี่จะเลิกอาชีพนี้น่ะ พี่จะแต่งงานจ๊ะ"
นงเยาว์ตาลุกโพลง
"ดีใจกับพี่พิณจริง ๆ จ๊ะ"
ต้อยพูดประสาซื่อ
"ลูกนักการเมืองคนนั้นเขารักจริงหวังแต่งขนาดนี้เลยเหรอน้องพิณ"
สายพิณไม่ตอบ สีหน้าสลดไป
"ทำไมเหรอนังต้อย พูดเหมือนรู้อะไรมาอย่างนั้น"
"ข่าววงในเขาบอกว่ามีว่าที่คู่หมั้นแล้วนี่ ทายาทนายทุนใหญ่ของพรรคเสียด้วย แล้วจะมายอมจดทะเบียนซ้อนกับทายาทบ๊ะจ่างทำไม"
ศรีบอก
"อีต้อย พูดให้เป็นมงคลหน่อย"
"ฉันไม่ได้จดทะเบียนหรอก แค่แต่งกันเฉย ๆ"
"อ้าว เหรอ โทษ เจ๊ไม่รู้"
ละม่อมบอก
"เอาละ จะจดไม่จดไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่สายพิณได้แต่งงานกับคนรักของเขา เท่านี้ก็ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ แล้วละ"
"สายพิณเขาก็เลยมาบอกลาพวกเรา" พริ้งว่า
"แล้วพี่จะไม่ทำงานเฮเว่นแล้วใช่ไหม" ใบพรถาม
"จ๊ะ เลิกอาชีพนี้ถาวรเลย แต่แม่ขา คืนนี้ขอพิณแวะไปเฮเว่นคืนสุดท้ายนะคะ จะไปลาเฮียหมา เฮียก้านด้วย แต่ไม่ออฟนะคะ"
"ดีแล้ว ไปมาลาไหว้ เฮ้อ อาชีพอย่างเรา ๆ นี่ต่างจากสัมมาอาชีพอื่นเนอะ อาชีพอื่นยิ่งทำก็ยิ่งมีเกียรติประวัติเป็นที่จดจำ ของเรามีแต่เสื่อมเกียรติ อยากลืมเสียให้หมด ทั้ง ๆ ที่....เป็นงานที่อุทิศทั้งแรงกายแรงใจไม่ต่างจากอาชีพอื่นเลย"
ทุกคนสลด ทั้งต้อย ใบพร ศรี พริ้ง มีแต่ นงเยาว์คนเดียวที่ไม่รู้สึกรู้สม
"ไปดีนะสายพิณ"
สายพิณน้ำตารื้น
"ค่ะ แม่ ขอบคุณแม่มาก"
สายพิณกราบละม่อม
ศรีสะอื้น
"พวกเราจะไม่ลืมเลยว่า บ้านเสน่ห์จันทร์เคยมีนางฟ้าที่สวยที่สุด ดีที่สุดอย่างสายพิณ"
"ขอบใจพี่ศรี"
สายพิณกอดศรีสะอื้น ทุกคนพลอยซึ้งไปด้วย
นงเยาว์แอบยิ้ม คิดอะไรบางอย่าง ไม่น่าจะใช่เรื่องดีนัก
อ่านต่อตอนที่ 14