แหวนทองเหลือง ตอนที่ 13
ฟ้าใกล้มืดแล้ว คณะของกำนันปานต่างก็จุดคบไฟสว่างไสว
ชาวบ้าน 1 บอก
"กำนัน...ฉันว่าเรากลับก่อนดีกว่า มันก็จะมืดแล้ว"
ชาวบ้าน 2 บอก
"นี่เรากำลังเข้าถิ่นไอ้ลายพาดกลอนมันแล้วนะ...สองวันก่อนมันก็ออกมาตะปบคนไป...พวกเราไม่ได้เอาปืนมากันเลย"
ชาวบ้าน 3 บอก
"พรุ่งนี้เราค่อยออกมาตามหาแต่เช้าก็ได้"
หนานอุยตบยุงไปเรื่อย
"พ่อจ๋า...ดีเหมือนกันนะ พรุ่งนี้ค่อยออกมาตามเมียฉันใหม่นะพ่อ"
กำนันปานสีหน้าเป็นทุกข์ มองหนานอุยอย่างเบื่อระอา
สายคำ กับ บัวแก้ว นั่งรอด้วยสีหน้าทุกข์ร้อน กำนันปาน ก่ำ เดินเข้ามา บัวแก้วรีบเข้าไปถาม
"ไม่เจอไอ้ดวงเหรอลุง"
กำนันปานส่ายหน้า ลงนั่งอย่างทุกข์ร้อน
"ไอ้ดวงเอ้ย...ป่านนี้จะเป็นยังไง"
บัวแก้วสะกิดสายคำให้หยุดพูด มองดูกำนันปานที่นั่งตาลอยเป็นทุกข์
ก่ำบอก
"หาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ พรุงนี้จะออกไปหาอีก"
แก้วเดินไปปลอบกำนันปาน
"ไอ้ดวงมันเก่ง คงไม่เป็นไรหรอก"
"เก่งแค่ไหนในป่ากลางคืน ยังเป็นแผลฉกรรจ์ อุ้มท้องอีกด้วย"
สายคำร้องไห้ เต่า กับ ม้งเดินเข้ามา กำนันปานรีบถาม
"ไอ้ม้ง ไอ้เต่า...เจอร่องรอยบ้างไหม"
เต่ามองหน้ากับม้งอึกอัก
ม้งบอก
"ไม่เจอเลยกำนัน"
กำนันปานหน้าเสีย ม้งกับเต่าก้มหน้าอย่างมีพิรุธ แต่กำนันปานไม่ทันได้สนใจ เพราะกำลังเป็นทุกข์
ในถ้ำเล็ก ๆ ดวงใจพยายามพันแผลที่เท้าด้วยความเจ็บปวด มีกองไฟเล็กๆ ที่จุดไว้ พอทำแผลเสร็จก็นั่งร้องไห้ มองไปรอบๆ อย่างหวาดกลัว ดวงใจรู้สึกได้ว่าลูกดิ้นในท้อง เอามือลูบท้อง
"ลูกจ๋า...แม่จะต้องพาลูกไปหาพ่อให้ได้ แม่จะไม่ยอมแพ้ แม่จะต้องหาพ่อให้เจอให้ได้"
ดวงใจเอาใบไม้ที่เก็บมาเอามากินทีละใบ
ค่ำวันเดียวกัน กฤษดา และ แสงธรรม ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของหัวหน้าเสรีไทย
หัวหน้าเสรีไทยบอก
"สหายโรบิน สหายโยฮาน ขอต้อนรับกลับแผ่นดินไทย"
"ขอบคุณครับ" กฤษดาบอก
"แต่การฝึกของเรานานกว่ากำหนดครับ" แสงธรรมบอก
"ใช่ เราพาคุณกลับไม่ได้ มันอันตรายเกินไป แต่ก็เป็นผลดีกับคุณสองคนไม่ใช่หรือ"
วาดิม มีนา เจน่าเดินเข้ามาพร้อมแก้วเหล้า แจกให้กับทุกคน
"วันนี้เรามาดื่มฉลองความสำเร็จของคุณสองคนก่อนที่จะออกไปปฏิบัติการ"
หัวหน้าชูแก้วเหล้า
"เพื่อประเทศชาติ และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"
ทุกคนดื่มเหล้าแสดงความยินดีแก่กัน
เฉลียงหน้าศูนย์เสรีไทยอุตรดิตถ์ กฤษดายืนเหงาๆ นึกถึงรอยยิ้มหวานของดวงใจ แล้วอดที่จะยิ้ม
คนเดียวไม่ได้ แสงธรรมเดินออกมา
"มันน่าทรมานใช่ไหม อยู่ไม่ไกลกัน แต่ไปเห็นหน้ากันไม่ได้"
"ไม่นึกเหมือนกันว่ามันจะทรมานขนาดนี้ คุณนี่รู้ดีนะ แสงธรรม อย่าบอกนะว่าคุณก็มีคนให้คิดถึง"
กฤษดายิ้ม แสงธรรมหัวเราะ
"ผมว่าท่าทางของคุณ...มันบอกได้โดยที่ผมไม่ต้องเป็นอย่างคุณหรอก แต่ผมต้องขอชมคุณนะ....คุณเก่งมากที่แยกเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัวได้อย่างนี้ ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงทำไม่ได้"
กฤษดาสีหน้าเศร้าหมอง
"คุณไม่รู้หรอกว่ามันยากขนาดไหน ต้องพรากจากกันโดยไม่รู้อนาคต ผมก็ไม่คิดว่าผมจะคิดถึงดวงใจแทบขาดใจ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"
กฤษดามองไปในความมืด แสงธรรมเดินมาตบบ่าให้กำลังใจ
อ่านต่อหน้า 2
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 13 (ต่อ)
ดวงใจเดินโซเซเพราะความเหนื่อยมาจนถึงลำธาร ก่อนจะเข้าไปพยายามจะกินน้ำ แต่เรี่ยวแรงไม่มีจึงสลบอยู่ริมลำธารนั่นเอง ทองอินออกมาตักน้ำ เห็นมีผู้หญิงนอนสลบอยู่ริมลำธารก็ตกใจรีบเข้าไปช่วย
"ผู้หญิงที่ไหนนี่...ตายหรือเปล่าวะ"
ทองอินจับตัวดวงใจพลิกขึ้นมา
"ยังไม่ตายนี่หว่า อีหนู...อีหนู"
ดวงใจพยายามลืมตา แต่เพราะความเหนื่อยยังลุกไม่ไหว แทบไม่มีแรงพูด
"ช่วย...ช่วยฉันด้วย"
ทองอินพยายามดึงดวงใจลุกขึ้นประคองไป
"แต่งตัวก็ดีทำไมมานอนในป่าอย่างนี้วะ"
ทองอินพยายามประคองดวงใจให้เดินไป
ดวงใจกำลังกินข้าวอย่างหิวโหยด้วยกับข้าวง่ายๆ ทองอิน กับ เมีย นั่งดูดวงใจกินข้าว
"เอ็งชื่ออะไร"
ดวงใจคิดนิดหนึ่ง เพราะไม่รู้จะไว้ใจได้หรือเปล่า
"ชื่อแดงจ้ะ"
"นี่เอ็งตายอดตายอยากมาจากไหน"
"ไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้วพี่"
ดวงใจยิ้มอาย
เมียทองอินบอก
"ลูกในท้องเอ็งน่ะหิวจนดิ้นพล่านเลยละซิ"
ดวงใจพยักหน้า ยกมือไหว้
"ขอบคุณพี่ทั้งสองมากนะเจ้า ถ้าไม่ได้พี่ช่วยไว้ข้าเจ้าคงเป็นลมตายแน่ๆ จ้ะ"
"ข้าว่าเอ็งจะโดนเสือคาบไปแดกซะมากกว่า...แล้วตีนเอ็งเป็นอะไร เลือดโชกยังงี้...ดีที่กลิ่นเลือดเอ็งไม่เรียกเสือมาทั้งป่าน่ะ...ข้าเอายาใส่ให้เอ็งแล้วนะ...เอ็งไปโดนอะไรมาเนื้อถึงหายไปทั้งก้อนอย่างนั้น"
ดวงใจมองแผลที่เท้าตัวเองซึ่งพันแผลใหม่ด้วยผ้าที่สะอาดแล้ว
"เอ้อ...โดนหมามันกัดเอาจ้ะ"
เมียทองอินบอก
"โห...หมาที่ไหนดุขนาดฟัดเนื้อหลุด"
ทองอินนิ่งคิด
"แต่แผลที่ตีนเอ็งไม่เหมือนรอยหมากัดนะ...เหมือนโดนมีดตัดเนื้อออกไปมากกว่า"
ดวงใจพยายามบ่ายเบี่ยง
"หมามันตัวใหญ่มากจ้ะพี่...ฟันมันคมมาก"
"แล้วนี่เอ็งจะไปไหน...ทำไมมาเดินป่าคนเดียวอย่างนี้"
"ฉันจะไปกรุงเทพจ้ะ...ฉันจะไปตามผัวฉัน"
"กรุงเทพ....เอ็งจะไปทำไม มันอยู่ที่ไหนข้ายังไม่รู้เลย แล้วผัวเอ็งเป็นใคร ทำไมมันไม่เอาเอ็งไปด้วย"
ดวงใจไม่อยากบอกความจริง
"เอ้อ...ผัวฉันเค้าทำงานอำเภอจ้ะ ต้องไปหาพ่อที่กรุงเทพ เค้าให้ฉันตามไปจ้ะ"
"อะไรวะ...เมียท้องโตอย่างนี้จะให้ไปหามันตั้งไกล"
"ก็ตอนเค้าไป...ฉันยังไม่รู้จ้ะว่าท้อง"
ดวงใจหน้าเศร้าน้ำตาไหล ทองอิน กับ เมีย มองดวงใจอย่างเวทนา
วันที่ 2 คณะของกำนันปานกลับออกมาจากป่าจากการไปตามหาดวงใจจนเกือบค่ำ ทุกคนเหนื่อยอ่อนหมดแรง สายคำเอาน้ำแจกให้ทุกคนที่กลับมา กำนันปานเอาปืนเก็บแล้วเดินมานั่งสีหน้าเครียด บัวแก้วเดินมาหา
"เจอรอยมันไหมลุง"
กำนันปานส่ายหน้าอย่างหมดแรง
"ไปจนถึงเขาพูคาก็ยังไม่เห็นรอยมัน"
"ไอ้ดวงเอ้ย. ป่านนี้มันจะเป็นยังไงก็ไม่รู้"
ก่ำบอก
"พรุ่งนี้เราไปทางตีนเขาอีกด้านดีกว่ากำนัน... เผื่อมันจะไปคนละด้าน"
เต่า กับ ม้งมองหน้ากัน แก้วเดินลงมาจากบนบ้านเอาจดหมายมายื่นให้กำนันปาน
"วันนี้มีจดหมายมาจากกรุงเทพ"
กำนันปานรับจดหมายของหลวงเณติณัตมารีบเปิดอ่าน
"เป็นอย่างไรบ้าง...หมู่นี้เงียบหายไปไม่ส่งข่าวคราวมาเลย ตอนนี้นายท่านกลุ้มใจมาก เพราะไม่ได้ข่าวของคุณกฤษดาเลย ถึงกับล้มเจ็บ กำนันได้ข่าวคุณกฤษดาบ้างไหม ถ้าคุณกฤษดาติดต่อมา
ขอให้กำนันรีบส่งข่าวให้นายท่านรู้เร็วที่สุด ตอนนี้เราก็ได้แต่ภาวนาขอให้มีข่าวดีมาเรียนให้ท่านรู้บ้าง...เผื่อว่าจะช่วยให้ท่านมีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้ายได้บ้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่พอจะได้ข่าวคุณกฤษดา ขอให้
กำนันรีบโทรเลขมาบอกฉันในทันที"
กำนันปานพับจดหมาย สีหน้าทุกข์หนัก
"คุณกฤษดาไม่ได้กลับกรุงเทพ...คุณกฤษดา"
กำนันปานเอามือปิดหน้าร้องไห้ ทุกคนตกใจรีบเข้ามาปลอบ
"พี่ปาน...อะไร...นายท่านเป็นอะไร" แก้วถาม
กำนันปานเช็ดน้ำตาแล้วบอก
"นายท่านป่วยหนัก เพราะเป็นทุกข์ที่คุณกฤษดาหายไป"
"คุณกฤษดาหายไป...หายไปกับคุณแสงธรรมแน่ๆ แล้ว..." สายคำว่า
บัวแก้วถาม
"เอ็งรู้ได้ไง"
"ก็วันที่คุณกฤษดาหายไป คุณแสงธรรมก็หายไปด้วย...ฉันว่าต้องไปด้วยกันน่ะแหล่ะ"
เต่าบอก
"สงสัยจะไปรบกับพวกญี่ปุ่นละมั้ง ก็คุณกฤษดาเป็นทหารนี่"
บัวแก้วหงุดหงิด
"โอ้ย...อย่าเดากันเลยน่า ที่แน่ๆ คุณกฤษดาหายไปไหนก็ไม่รู้ ไอ้เรานึกว่าหนีไอ้ดวงกลับบ้าน....แต่นี่ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว หรือ จะไปโดนคนญี่ปุ่นมันฆ่าตายซะแล้วก็ไม่รู้"
กำนันปานร้องไห้
"ข้าผิดเอง ข้าทำผิดเอง ข้าผิดเอง"
กำนันปานลุกขึ้นเดินหนีไป ทุกคนมองตามด้วยความกลุ้มใจ
อ่านต่อหน้า 3
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 13 (ต่อ)
ในเวลาเดียวกัน พระยาดำรงพิรมย์นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงนอน หมออิศรากำลังตรวจชีพจร หลวงเณติณัตินั่งอยู่ห่างออกไปคอยดูอยู่กับสมร หมอตรวจอาการแล้วก็เดินไปทั้งคู่
หลวงเณนิณัตถาม
"เป็นยังไงหมอ...อาการท่านดีขึ้นไหม"
หมอส่ายหน้าสีหน้าไม่ดี
"อาการท่านไม่ดีเลยครับคุณหลวง ตอนนี้ยาก็หายากมาก"
"หายากมาก แล้วก็แพงมากด้วย"
"คุณสมรพอจะขอให้หมอฮารุเค้าช่วยเรื่องยาได้ไหมครับ"
สมรทำท่าอึดอัด
"แหม...จะให้หมอนทำยังไงล่ะคะ หมอฮารุเค้าก็ไม้ได้มานานแล้ว เค้าอยู่ที่ไหนหมอนก็ไม่รู้"
"ผมพอจะจัดการให้ได้ครับ...ผมอยากขอร้องให้คุณสมรไปพบหมอฮารุหน่อย...เค้าน่าจะช่วยท่านอยู่แล้ว"
พระยาดำรงพยายามลุกจากเตียง มีมิ่งช่วยประคอง หมอรีบวิ่งไปประคองด้วย
"ท่านนอนพักดีกว่าครับ ท่านต้องนอนพักนิ่งๆ จะดีที่สุดครับ"
พระยาดำรงลุกขึ้นยืน
"ฉันไม่ได้เป็นง่อยนะหมอ คุณหลวง ได้ข่าวกฤษดาหรือยัง"
หลวงเณติณัติรีบเดินมาหา
"ผมกำลังพยายามสืบหาครับท่าน...พรุ่งนี้ผมจะไปพบเพื่อนที่สันติบาลให้เค้าช่วยอีกทางหนึ่งครับ"
พระยาดำรงโบกมือห้าม
"อย่าไปยุ่งกับสันติบาลเลย"
"แต่หมอนว่าดีนะคะ...ไม่งั้นเราก็ไม่รู้ว่าคุณกฤษดาเป็นตายยังไง"
พระยาดำรงหันมาตวาด
"กฤษดายังไม่ตาย หล่อนอย่าปากเปราะให้มันมากนักนะ"
สมรเถียง
"ถ้ายังไม่ตายยังไง ๆ คุณกฤษดาก็ต้องกลับมาหาท่านแล้วซิเจ้าคะ จะปล่อยให้ท่านอยู่อย่างนี้ไม่ดูดำดูดีได้ไง...แต่ถ้าไม่กลับมาแบบนี้ ก็แสดงว่า..."
"หยุดพูดอีหมอน."
พระยาดำรงล้มคว่ำลง มิ่งรับไว้ไม่ทัน หมอรีบเข้าไปพลิกร่างขึ้นมา ทุกคนตกใจมาก
"ท่านครับ ท่านครับ"
พระยาดำรงไม่ได้สติ มีเลือดออกจากจมูกนิดหนึ่ง
เช้าวันใหม่ ภายในห้องทำงานของฮารุ สมรนั่งร้องไห้อยู่
"แปลว่าจนป่านนี้คุณกฤษดาหายไปไม่ได้ส่งข่าวมาเลย"
"หมอนน่ะ สังหรณ์ใจว่า คุณกฤษดาน่ะต้องตายแล้วแน่ๆ แต่ท่านยังมั่นใจว่าลูกตัวเองยังไม่ตาย"
"ไม่มีพ่อแม่คนไหนจะยอมรับว่าลูกตายได้หรอก...นอกจากจะได้เห็นกับตาตัวเอง."
มีเสียงเคาะประตู โตชิโร่เปิดประตูเข้ามากับเถ้าแก่ทง โตชิโร่ถือห่อยามาด้วย
"นี่ยาที่คุณขอให้จัดหา...พอดีผมจะมาหาคุณเลยเอามาให้เอง"
สมรทึ่งที่โตชิโร่หล่อ แต่เถ้าแก่ทง มองสมรอย่างถูกใจ หมอฮารุโค้งคำนับโตชิโร่
"ขอบคุณมากครับ"
ฮารุรับห่อของมา
"นี่คุณสมร...เป็นภรรยาของพระยาดำรงที่มาขอความช่วยเหลือเรื่องยาครับ. คุณสมร นี่คือ พันตรีโตชิโร่"
โตชิโร่ก้มหัวให้สมรนิดหนึ่ง ฮารุส่งยาให้สมร สมรให้ท่าตามนิสัย
"ขอบคุณมากค่ะผู้พัน ถือเป็นบุญคุณอย่างมากหมอนจะไม่มีวันลืมเลย ถ้าผู้พันต้องการให้หมอนทำอะไรให้ หมอนยินดีทุกอย่างนะคะ"
สมรทิ้งสายตาอย่างมีความหมาย โตชิโร่ยิ้มๆ
"มีแน่นอนครับ"
สมรตาเยิ้ม
"ได้ทุกอย่างค่ะ"
"ถ้าได้ข่าวคุณกฤษดา กรุณาบอกเราด้วย"
"แหม...เรื่องแค่นี้เอง นึกว่าจะขอมากกว่านั้น"
"มีอีกอย่างหนึ่งครับ...เถ้าแก่ทงเค้าอยากขอซื้อบ้านคุณ"
สมรตกใจ มองเถ้าแก่ทงที่มองสมรอย่างถูกใจ...
อ่านต่อหน้า 4
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 13 (ต่อ)
ดวงใจใส่ชุดชาวบ้านเดินออกมาหน้ากระท่อมของทองอิน เมียทองอินเดินเอาชุดเสื้อผ้าของดวงใจที่ซักสะอาดแล้วพับเรียบร้อยมายื่นให้
"นี่เสื้อผ้าเอ็ง...ข้าซักให้สะอาดแล้ว"
ดวงใจยกมือไหว้ รับเสื้อมา
"ฉันจะไม่ลืมบุญคุณพี่เลย"
เมียทองอินหัวเราะใจดี
"ไม่ต้องขอบอกขอบใจอะไรหรอก คนเราเดือดร้อนก็ช่วยๆ กันไปเอ็งยังโชคดีได้มีของสวยๆ งามๆ ใส่กับเขา ข้าน่ะ...ชาตินี้คงไม่มีวาสนาหรอก"
เมียทองอินพูดอย่างอารมณ์ดี ดวงใจคิดนิดหนึ่ง
"พี่จ้ะ...ฉันยกเสื้อผ้าชุดนี้ให้พี่นะ"
"ไม่เอาหรอก...เอ็งเก็บของเอ็งไว้เถอะนะ"
"รับไว้เถอะจ้ะพี่ ฉันไม่มีอะไรตอบแทนพี่เลย ถือว่าพี่ช่วยฉันนะ ถ้าฉันใส่ชุดนี้ไปกรุงเทพ คนมันจะจ้องฉันแย่นะพี่ พี่เอาชุดสวยๆ นี้ไว้ใส่ที่นี่ดีแล้วจ้ะ แลกกับชุดนี้นะพี่นะ"
เมียทองอินรับชุดมา
"ก็จริงของเอ็ง...ไปไหนมาไหน แต่งตัวล่อตาคนมันก็ไม่ดี..ขอบใจนะ"
ทองอินเดินกลับมาจากข้างนอก
"พี่ ๆ ไอ้แดงมันให้ชุดนี้ฉันน่ะ"
"จะใส่ไปไหน"
"ก็ใส่อยู่นี่แหล่ะพี่ทองอิน...ดีออกจ้ะ ..ให้พี่สาวใส่ชุดสวยๆ บ้าง"
"ตามใจ...ข้าก็ไม่เคยได้ซื้อของสวยๆ ให้เมียเลย..เอ้อ ไอ้แดง..ข้ามีข่าวดีจะมาบอกเอ็ง...ยายตุ่นเจ้าของแพล่องซุงน่ะ..แกจะล่องซุงไปในตัวเมืองพรุ่งนี้เช้า...เอ็งจะไปไหมล่ะ...ถ้าจะไปเดี๋ยวเอ็งก็รีบเตรียมตัวได้แล้ว จะได้ไปที่แพแกก่อน...ถ้าจะไปเช้าไม่ทันแกแน่ เดินเลาะแม่น้ำไปอีกไกลโขละ"
ดวงใจดีใจมาก
"ไปจ้ะพี่...ฉันจะรีบไปเลย"
"ก่อนไปเอ็งทำแผลซะอีกก่อนนะไอ้แดง ไม่งั้นแผลจะเหวอะอีกนะ"
ทองอินหยิบขวดสมุนไพรส่งให้
"เอ้า...เอาสมุนไพรนี่ติดไป ข้าทำเองนะ...คอยใส่แผลไว้ตลอด ถ้าแผลสกปรกมันจะเน่าเป็นหนอง"
ดวงใจรับขวดสมุนไพรมายกมือไว้สองคนผัวเมีย
"ฉันจะไม่ลืมบุญคุณพี่สองคนจนชั่วชีวิต...ถ้าพี่ไม่ช่วยฉันไว้ป่านนี้ฉันคงตายไปแล้ว"
"รีบไปเถอะ...ไปถามหายายตุ่น มีแพแกอยู่แพเดียว...แกใจดี ให้อัฐแกนิดหน่อยพอเป็นสินน้ำใจ"
ดวงใจหน้าเศร้า
"ฉันไม่มีเงินเลยพี่อิน...เอางี้นะ ฉันมีสร้อย กับ สร้อยข้อมือ ฉันจะชายให้พี่ถูกๆ...ฉันจะได้มีค่ารถไปด้วย"
ทองอินหัวเราะอายๆ โบกมือ
"ข้าไม่มีเงินมากพอจะซื้อทองหรอกไอ้แดง...มีอยู่ก็นิด ๆ หน่อยๆ เท่านั้น"
ดวงใจถอดสายสร้อย
"เท่าไหร่ก็ได้พี่... สายสร้อยนี้มีพระหุ้มทองด้วย พี่ก็เอาไว้ขายตอนพี่สาวออกลูก...ข้อมือนี่พี่ก็เก็บไว้ก่อนก็ได้"
ทองอินเห็นเมียมองด้วยความอยากได้
"ทั้งเนื้อทั้งตัวข้าสองคนมีอยู่ห้าสิบบาทเท่านั้นนะไอ้แดง"
ดวงใจคิดนิดหนึ่ง ตัดสินใจ
"ห้าสิบบาทก็พอแล้วจ้ะ."
ทองอินนิ่งคิด มองทองในมือดวงใจที่ยื่นมาให้
"ข้าจะดูว่าพอจะเจียดอะไรให้เอ็งไปได้อีก"
ดวงใจยิ้ม ยื่นสายสร้อยคอห้อยพระ กับสร้อยข้อมือทองคำ ให้กับทองอิน ทองอินมองหน้าเมียแล้วรับมา
เวลาต่อมา เมียทองอินนั่งอยู่ ใส่ชุดสวยของดวงใจ ใส่สายสร้อยคอทองคำที่ห้อยพระซึ่งเป็นของหมั้นที่แม่หนานอุยให้เอามาแต่ง
ดวงใจกำลังใส่สายสร้อยข้อมือให้เมียทองอิน ทองอินมองดูเมียด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม ดวงใจใส่สายสร้อยข้อมือเสร็จก็มองเมียทองอินอย่างปลื้มใจ
"พี่สาวจ๋า...สวยแต้ๆ หนอพี่สาว"
"ตั้งแต่เกิดมา...ข้าไม่เคยมีของสวยๆ แต่งอย่างนี้เลยไอ้แดงเอ้ย"
ดวงใจจับให้เมียทองอินลุกขึ้นยืน
"ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้ทำดีๆ ให้พี่สาว กับ พี่อินนะเจ้า"
ทองอินยื่นย่ามที่มีของใส่อยู่ให้ดวงใจ
"เอ้า...ข้าเจียดเนื้อเค็มกับน้ำพริกข่าไปให้เอ็งกินกลางทาง มีข้าวนึ่งด้วยนะ...มีผ้าไว้ให้เอ็งเปลี่ยนด้วย ..นี่เงินอีกห้าสิบบาท"
ดวงใจน้ำตาไหล รับย่ามมาจากทองอิน ยกมือไหว้
"ถ้าฉันไม่ตายซะก่อน...ฉันจะกลับมาตอบแทนคุณพี่"
"ไม่ต้องหรอก ที่เอ็งให้ข้านี่ก็มากหลายแล้วไอ้แดง ขอให้เอ็งโชคดี ได้เจอผัวเอ็งนะ"
"ฉันลาพี่ละจ้ะ"
ดวงใจยกมือไหว้ลาทองอิน กับเมียอีก สะพายย่ามเดินไปด้วยสีหน้ามีความหวัง หันกลับไปมองทองอิน กับเมียที่ห่างออกไปเบื้องหลัง ยืนโบกมือให้
ดวงใจเดินเลาะลำธารซึ่งเป็นทางขรุขระ จนเริ่มเจ็บเท้าเดินไม่ถนัด แต่ก็ยังมุมานะเดินไป
ดวงใจนั่งกินข้าวเหนียวที่อยู่ในย่าม ไปล้างมือแล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลใส่ยา ดวงใจเอาผ้าพันเท้าที่เลอะเลือดซักในแม่น้ำเพื่อเก็บไว้ใช้เปลี่ยนอีก ดวงใจเก็บของแล้วเดินต่อไปอีก
เวลาต่อมา เสือลงมากินน้ำที่ลำธาร มองไปทางด้านที่ดวงใจเดินมา
ดวงใจเดินมาถึงแพล่องซุง มีคนงานเดินผ่านไปมา ดวงใจเข้าไปถาม
"ป้าตุ่นอยู่ไหนจ้ะ"
คนงานบอก
"แถวๆ นี้ละ...บนแพมั้ง"
ดวงใจมองไปบนแพ
ดวงใจเดินขึ้นมาบนแพ เห็นมีสำรับอาหารวางอยู่ ดวงใจเห็นแล้วอดกินไม่ได้ ยายตุ่นเดินออกมาจากด้านหลัง
"เอ็งน่าจะขอเจ้าของเค้าก่อนนะ"
ดวงใจตกใจหันมา พอยายตุ่นเห็นดวงใจท้องก็เวทนา ดวงใจยกมือไหว้
"ขอโทษจ้ะป้า"
ยายตุ่นเดินมาลงนั่งกินข้าว กวักมือเรียกดวงใจ
"ไหนๆ แล้ว ก็มากินด้วยกันเลยมา"
ดวงใจดีใจยกมือไหว้
"ขอบคุณจ้ะป้า...ป้าใช่ป้าตุ่นไหม"
ยายตุ่นมองหน้าดวงใจ
"เอ็งเป็นญาติไอ้ทองอินใช่ไหม ข้านึกแล้ว เอ้ากิน คนท้องคนใส้น่ะ มันหิวตลอดเวลาละ...ข้ารู้"
ยายตุ่นอารมณ์ดีหัวเราะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดวงใจมองสบายใจ
อ่านต่อตอนที่ 14