แหวนทองเหลือง ตอนที่ 2
ดวงใจมองกฤษดา อย่างเสียใจ ตลอดเวลาที่ปานตีดวงใจไม่ร้องไห้ แต่ตอนนี้ดวงใจมองกฤษดาด้วยสายตาเสียใจตัดพ้อ และเริ่มน้ำตาไหล
"ดวงใจทำผิดรู้ใช่ไหม แต่ฉันเข้าใจ ดวงใจตั้งใจดี"
กฤษดาโยนไม้เรียวทิ้งไปเดินไปจับดวงใจที่กอดเสาแน่นออกมา
"ฉันจะทำโทษดวงใจ ด้วยการให้ดวงใจเป็นคนพาฉันไปเที่ยวรอบๆ แถวนี้ เจ้าคุณพ่อบอกว่ามีน้ำตกอยู่ไม่ไกล ดวงใจเคยไปไหม"
ดวงใจดีใจยิ้มหน้าบาน สายคำยิ้มดีใจ แก้ว กับ บัวแก้วก็โล่งอก
"เคยเจ้าค่ะ...ข้าเจ้าไปแทบทุกวัน"
ปานเหล่มองลูกสาว
"คุณกฤษดาอยากไปเที่ยวไกลๆ ก็ได้เจ้า ข้าเจ้าไปมาหมด จำทางได้หมด รับรองไม่หลงแน่ๆ"
จริง ๆ แล้วปานก็โล่งใจ
"จริงของมันครับคุณกฤษดา มันซนยิ่งกว่าลิง เที่ยวได้รู้ไปหมดว่าอะไรอยู่ที่ไหน บางทีกระผมยังต้องถามมันเลยขอรับ แต่กระผมว่า วิธีนี้ไม่ใช่จะลงโทษมันนะขอรับคุณกฤษดา เหมือนปล่อยลิงเข้าป่ามากกว่า"
ดวงใจเก็บสีหน้าไม่พอใจ หันไปค้อนปาน กฤษดาหัวเราะ
"ดวงใจก็โดนกำนันตีไปแล้วนี่ครับ เมื่อคืนก็โดนสมรตบหน้าอีก"
ปานพยายามข่มใจไม่นึกโกรธสมร กฤษดาถอนใจไม่อยากนึกถึง
"สมรมักจะทำอะไรมากไปเสมอ ไป ดวงใจ เราไปดูน้ำตกกันดีกว่า"
แก้วบอก
"ข้าเจ้าจะห่อข้าวนึ่งไปให้ทานกันเจ้า"
"ดี บัวแก้วเอ็งไปบอกไอ้เต่า ให้ไปด้วยกันกับคุณกฤษดา ข้าไม่ค่อยไว้ใจไอ้ดวง เดี๋ยวมันไปทำอะไรแผลง ๆ คุณกฤษดาจะตกน้ำ ตกท่า" ปานบอก
"เอาเป็นว่าถ้าดวงใจดื้อ ฉันจะจัดการเองนะกำนันปาน"
"แล้วแต่คุณกฤษดาเลยขอรับ จะดุด่าตีมันได้เลยขอรับ"
ดวงใจแอบค้อนกฤษดา
บรรยากาศร่มรื่นสบายในตอนเช้า เจ้าคุณเทศานั่งทานอาหารจากสำรับที่จัดไว้ ปานนั่งอยู่ห่างๆ สมรนั่งใกล้ๆ แต่ไม่ได้ร่วมสำรับ
บัวแก้วเดินเอาขันเล็ก ๆ ใส่น้ำมาให้ท่านเจ้า แต่สมรแย่งไปจากมือ บัวแก้วแอบทำปากขมุบขมิบด่าแต่สมรไม่เห็น เธอเอาน้ำไปวางข้างๆ ท่านเจ้าคุณ
"ดีเหมือนกัน ให้กฤษดาได้ไปเที่ยวเล่นซะบ้าง...เอ็งก็อย่าไปดุว่าดวงใจมันนักเลย มันเป็นผู้หญิง แม่ก็ไม่มี"
"กำนันน่าจะมีเมียใหม่นะ แหม...กำนันก็ยังหนุ่ม..ไม่เหงาเหรอ"
ปานหันไปยิ้มกับเทศา
"ไม่มีใครเหมือนแม่ไอ้ดวงหรอกเจ้า...แล้วถ้าหาเมียใหม่ก็กลัวจะได้พวกตีนฝ่อเอาแต่ผัดหน้า แรก ๆ มันก็ดี อยู่ ๆ ไปเดี๋ยวจะมาคอยชี้นิ้ว ไม่เอาหรอก...ไอ้ดวงมันก็ร้าย เคยมีแม่ค้าตลาดมา ยิ้มหวานให้กระผม ยังโดนมันอาละวาดซะวิ่งป่าราบ มันไม่ชอบพวกปากแดง สันหลังยาว"
สมรหน้าตึงเหมือนโดนพาดพิง เทศาหัวเราะ
"เออ...เอ็งพูดเข้าท่า ดีแล้ววะ อย่าไปมีมันเลย"
เจ้าคุณเทศาหัวเราะชอบใจกับปาน สมรมองปานอย่างไม่พอใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไร
ท่ามกลางบรรยากาศน้ำตกสวยๆ ดวงใจพากฤษดาเดินลัดเลาะมา เต่าหอบหิ้วของพะรุงพะรัง เดินตามรั้งท้าย
"คุณกฤษดา คุณกฤษดาเจ้า ถึงแล้วน้ำตก"
กฤษดาท่าทางมีความสุขมาก
"สวยมากเลยดวงใจ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้เห็นน้ำตกจริงๆ"
เต่าหัวเราะชอบใจ
"นายน้อยไม่เคยเห็นน้ำตกเหรอเจ้า ข้าเจ้ากับไอ้ดวงมาเล่นแทบทู้กวันเจ้า"
ดวงใจหันมาทำตาเขียวกับเต่า
"ไอ้เต่า พูดมาก คุณกฤษดาอยู่บางกอก จะมาเห็นน้ำตกได้จะได"
กฤษดายืนบนหินริมน้ำตก มองไปรอบๆ อย่างสบายใจ แล้วกระโดดน้ำลงไป ดวงใจไม่ทันมองได้ยินเสียงน้ำ เห็นกฤษดาหายไป ก็ตกใจมาก นึกว่ากฤษดาพลาดตกน้ำ ร้องกรี๊ดดังลั่น แล้วรีบกระโดดน้ำตามลงไป เต่าเองก็ตกใจมาก รีบถลาไปที่โขดหิน แต่ไม่ได้โดดลงไป
"ไอ้ดวง...คุณกฤษดา"
เต่าอยู่บนฝั่งทำท่าจะร้องไห้ ดวงใจลอยคอในน้ำมองหากฤษดาจนทั่ว แต่ไม่เห็น
"คุณกฤษดา....คุณกฤษดาเจ้า...คุณกฤษดา"
ดวงใจทำท่าจะร้องไห้ แต่แล้วก็โดนดึงลงไปในน้ำ เต่าตกใจร้องลั่น
"ไอ้ดวง..."
กฤษดาโผล่ขึ้นมาจากน้ำ พาดวงใจโผล่ขึ้นมาด้วย ดวงใจเห็นกฤษดาดีใจโผเข้ากอด
"คุณกฤษดา คุณกฤษดาเป็นอะหยังเจ้า"
กฤษดาหัวเราะ
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันว่ายน้ำเก่ง ก็อยากจะว่ายน้ำตกไง ดวงใจร้องซะลั่นป่าน่ะ กลัวอะไรล่ะ"
ดวงใจรู้สึกตัว รีบผละออกมาทำท่าแสนงอน
"ก็ข้าเจ้าคิดว่าคุณกฤษดาตกน้ำ...พ่อยิ่งบอกว่าให้ระวังคุณกฤษดาตกน้ำ เดี๋ยวพ่อตีข้าเจ้าตายพอดี"
"ไอ้ดวง นายน้อย...ไม่จมน้ำแล้วใช่ไหม"
"ลงมาเล่นน้ำกันซิเต่า ว่ายน้ำเป็นหรือเปล่าล่ะเรา"
แทนคำตอบ เต่าวางสัมภาระ แล้วกระโดดน้ำลงไป ทั้งสามคนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
อ่านต่อหน้า 2
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 2 (ต่อ)
ท่านเจ้าคุณเทศา เดินคุยกับปานมาด้วยท่าทางสบาย ๆมายังสวนดอกไม้ ส่วนปานนั้นกิริยานอบน้อมยำเกรง
"นี่คุณหญิงก็ตายได้สามปีกว่าแล้ว... กฤษดาน่ะ ตั้งแต่แม่เค้าตาย เค้าก็ซึมไปมาก เค้าสนิทกับแม่เค้ามาก รู้ได้เลยว่าเค้ายังเศร้ามาก เค้าไม่เคยบ่น แต่ฉันรู้ได้นะปาน บ้านช่องมันก็เงียบเหงาจนฉันแทบจะเป็นบ้า ไม่มีใครสิ่งไหนจะทดแทนคุณลำดวนได้เลย...เชื่อไหมปาน มีแต่กฤษดาที่เข้าใจฉัน"
ท่านเจ้าคุณยังสีหน้าหม่นหมอง พูดถึงตรงนี้ก็น้ำตาคลอ
"เค้าเป็นคนบอกให้ฉันเอาสมรมาอยู่ในบ้านเอง เพราะสมรมารับใช้คุณหญิงนานแล้ว ก็คุ้นเคยกัน กฤษดาเค้าเห็นฉันแย่ บางทีก็ไปนั่งอยู่กับรูปคุณหญิงอย่างนั้น"
"กระผมว่าก็ดีแล้วครับนายท่านจะได้ไม่เหงา" ปานบอก
"ผู้ชายอย่างเรา มันก็ยังมีกิเลสตัณหา สมรมันก็แก้เหงาให้ฉันได้จริงๆ แต่จะไปเอาดีกว่านั้น...ไม่ได้หรอก ถึงจะมีมันมานอนข้างๆ แต่ก็แทนที่คุณลำดวนไม่ได้เลย ฉันก็ยังรู้สึกว่าชีวิตฉันขาดไปครึ่งหนึ่งอยู่ดี สมรมีห้องอีกด้านหนึ่ง...ฉันไม่เคยให้สมรเข้ามาในห้องนอนของคุณหญิงกับฉันเลย"
ดังนั้น ในบางค่ำคืน เจ้าคุณเทศาถึงกับนอนลืมตา สีหน้าไม่มีความสุขนัก แม้จะมีสมรนอนข้างๆ ก็ตาม
ปานฟังเรื่องราวของเจ้าคุณแล้วมองอย่างเห็นใจ
"มาเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ฉันดีใจมาก เพราะสังเกตได้ว่า กฤษดาดูมีความสุขมาก นี่ก็ออกไปเที่ยวกับดวงใจใช่ไหม"
"ขอรับ"
"ดวงใจมันน่ารักนะ ฉลาด ช่างพูด ถ้าฉันมีลูกสาวช่างฉอเลาะอย่างนี้ฉันก็คงไม่ต้องการใครอีกแล้ว...กฤษดาจะมีความสุขที่ได้ไปเที่ยวสนุกกับดวงใจ"
ปานทำหน้ากังวล
"เอ..ไม่รู้ว่าคุณกฤษดาจะมีความสุขอย่างที่นายท่านหวังหรือ จะรำคาญไอ้ดวงลูกสาวของกระผมก็ไม่รู้"
ทั้งสามคนกำลังนั่งทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยที่มุมสวยใกล้น้ำตก มีกองไฟเล็ก ๆ ที่จุดผิงตัวกันจนแห้ง
"ไอ้เต่า...ทำไมเอ็งไม่เอาเบ็ดมา ไม่งั้นได้ตกปลามาปิ้งให้คุณกฤษดากินแกล้มน้ำพริกแล้ว" ดวงใจบอก
"ก็เอ็งไม่บอกข้าก่อนน่ะอีดวง ลุงกำนันให้พี่บัวแก้วไปตามข้าก็รีบมาน่ะซิ"
กฤษดารู้สึกสนุกเต็มที่
"ถ้างั้นพรุ่งนี้เรามากันอีกนะ เต่าเอาเบ็ดมาให้ฉันอีกคันนึงนะ"
ดวงใจห้าม
"คุณกฤษดาไม่ต้อง ตกปลาน่ะมันบาป ให้ไอ้เต่ามันบาปคนเดียว"
เต่าบอก
"เอ้อ..อีนี่ เอ็งน่ะแหล่ะมาตกปลากับข้า จะได้ช่วยกันหาปลา"
"ก็ได้ เพื่อคุณกฤษดา ข้าจะเป็นคนตกปลาเอง"
"ไม่ต้องหรอกดวงใจ มันเป็นหน้าที่ของผู้ชาย"
"แล้วนายน้อยเคยตกปลาหรือเปล่า"
กฤษดาเขิน
"เอ้อ...ไม่เคย"
ดวงใจกับเต่าทำท่าหมดแรง กฤษดาเห็นท่าทางดวงใจก็หัวเราะมีความสุข
ทั้งสามคนเดินคุยกันมาอย่างสนุกสนานในป่า กฤษดาแกล้งวิ่งหนีดวงใจ ดวงใจก็วิ่งตาม กฤษดาวิ่งไปแอบ ดวงใจก็วิ่งหาด้วยความเป็นห่วง
"คุณกฤษดา คุณกฤษดา อยู่ไหนเจ้า"
สีหน้าดวงใจร้อนรน
"ไอ้เต่า ยืนเซ่ออยู่ได้ ช่วยกันหาคุณกฤษดาซิ"
"เดี๋ยวเปิ้นก็กลับมาเอง"
"ไอ้เต่า...เอ็งไปหาคุณกฤษดาเดี๋ยวนี้นะ"
เต่าเดินไปตะโกนเรียกหา กฤษดาอย่างเซ็งๆ พอเต่าเดินห่างไป กฤษดาก็โดดออกมาปิดตาดวงใจไว้
"จ้ะเอ๋"
ดวงใจดีใจ ไม่กล้าโกรธ
"คุณกฤษดาอย่าทำอย่างนี้นะเจ้า มันไม่ดี เดี๋ยวผีมันลักซ่อน ในป่า เค้าไม่ให้เล่นแบบนี้นะเจ้า"
"ดวงใจเป็นห่วงฉันเหรอ ตอนเล่นน้ำก็โดดลงไปหาฉันทีนึงแล้วนะ นี่แน่ะ ฉันมีอะไรมาให้แน่ะ"
กฤษดาเอาดอกเอื้องป่าออกมาเสียบที่มวยผมของดวงใจ ดวงใจยิ้มดีใจ
"ดอกเอื้องป่า"
"ชอบใช่ไหมล่ะ ทีนี้ดวงใจก็มีดอกเอื้องของตัวเองในป่านี่เต็มไปหมด จะได้ไม่ต้องกลัวใครแย่งไง"
ดวงใจมองกฤษดาอย่างซาบซึ้ง
พระจันทร์ตอนกลางคืนสวยๆ ก่ำและย้ง จุดคบไฟปักเป็นระยะอยู่ด้านล่าง กฤษดาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งเล่นที่เฉลียง นั่งอ่านหนังสือตำราเรียนภาษาอังกฤษ เทศาเดินเข้ามาหา
"อ่านหนังสือเรียนเหรอลูก"
"ภาษาอังกฤษครับ"
"พ่อมีเรื่องจะถามลูกสักหน่อย"
กฤษดา เงยหน้ามองบิดา เทศาลงนั่งใกล้ๆ
"เรื่องอะไรครับ"
"ลูกเรียนภาษาอังกฤษได้ดี พ่อว่าจะให้ลูกไปเรียนที่เวสต์ปอยด์"
"เมื่อไหร่ครับ"
"ก็กลางปีนี้เลย ไปก่อนเปิดเทอมสักหน่อยจะได้เตรียมอะไรๆให้พร้อมก่อน พ่อจะไปส่งลูกด้วย"
กฤษดายิ้มดีใจ ลุกขึ้นมาก้มกราบบิดา
"ลูกกราบขอบพระคุณเจ้าคุณพ่อมากครับ"
กฤษดาลุกขึ้น เทศาตบบ่ากลูกชายเบาๆอย่างรักใคร่
"พ่อมีแกคนเดียว ทุกอย่างของพ่อเป็นของแก จำไว้นะลูก"
สมรเดินแต่งตัววาบหวิว จะเข้าห้องนอนตัวเอง ก่อนเข้าประตูห้องนอน หันมาทิ้งสายตากับเทศาแล้วเดินเข้าไป กฤษดาเมินหน้าไม่อยากมอง เทศาลุกขึ้น
"เอ้อ...พ่อไปนอนละนะ อย่าอ่านหนังสือดึกนักล่ะ พรุ่งนี้จะไปเที่ยวกับดวงใจอีกไม่ใช่เหรอ"
พอพูดถึงไปเที่ยวกับดวงใจ กฤษดาก็สีหน้ามีความสุข
"ครับ พรุ่งนี้เราจะไปตกปลากัน"
เทศายิ้มรับรู้ แล้วเดินเข้าห้องนอนที่สมรเดินเข้าไปแล้ว กฤษดามองตามพ่อแล้วก็เกิดความรู้สึกหดหู่ใจ คิดนิดหนึ่ง ปิดหนังสือ คว้าตะเกียงเดินลงมาจากเฉลียง
อ่านต่อหน้า 3
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 2 (ต่อ)
ค่ำต่อเนื่องมา ที่เฉลียงบ้านกำนัน ปาน กับ ก่ำ กำลังนั่งสานตะกร้า ดวงใจกับสายคำ ช่วยบัวแก้วทอดหมู ตำน้ำพริก
"ไอ้ดวง พ่อจะได้กินชิ้นปิ้งบ้างไหมน่ะ"
"ได้สิพ่อ...จะแบ่งให้พ่อสองชิ้น"
ดวงใจชูหมูทอดให้ปานดู
"ให้อากินด้วยน้อ ดวงเอ้ย" ก่ำบอก
"โห...เดี๋ยวก็ไม่พอน่ะอาก่ำ"
"เยอะแยะไอ้ดวง ทำหวงน่ะ แหม ร้อยวันพันปีเอ็งไม่เห็นจะมาช่วยทำกับข้าวนะ"
"ไอ้ดวงมันจะทำให้นายน้อย ใช่ไหมไอ้ดวง " เต่าบอก
"พูดมากไอ้เต่า เดี๋ยวอดกินนะเอ็ง"
"ไอ้ดวง พ่อว่าพรุ่งนี้พาคุณกฤษดาไปเที่ยวปางช้างทิดอ่วมดีน่ะ จะได้พาคุณกฤษดา ขี่ช้างด้วย"
"ดีจ้ะพ่อ จะได้ชวนไอ้หนานอุยมาเล่นด้วยกัน"
"พรุ่งนี้เอ็งรีบไปบอกทิดอ่วมแต่เช้ามืดนะไอ้ก่ำ ขากลับจะได้แวะตลาดซื่อของมาเพิ่มด้วย"
"ได้จ้ะกำนัน" ก่ำรับคำ
กฤษดาถือตะเกียงเดินเข้ามา ปานตกใจ
"คุณกฤษดา มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ"
ปานลุกขึ้นไปรับตะเกียงจากกฤษดา มาวางไว้
"ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมนอนไม่หลับก็เลยออกมาเดินดูว่า ดวงใจนอนหรือยัง กำลังทำอะไรกันครับ"
ดวงใจดีใจที่เห็นกฤษดา
"ก็ทำของกินพรุ่งนี้ไงเจ้า"
กฤษดาดีใจ เดินไปหาดวงใจ แล้วหยิบหมูที่ดวงใจทำขึ้นมากิน
"จริงเหรอ...อื้อ อร่อยน่ะ นี่ดวงใจทำเองเหรอนี่"
ดวงใจยิ้มเจ้าเล่ห์ อยากเอาหน้า แต่ไม่กล้าเพราะเห็นบัวแก้วเหล่อยู่
"เอ้อ ช่วยกันหลายคนเจ้า เอ้อ...พี่บัวแก้วเป็นคนทำ"
ปานจัดแจงจัดที่ทางให้กฤษดานั่ง เอาผ้าที่คล้องคอปัดให้สะอาด
"คุณกฤษดามานั่งตรงนี้ดีกว่าขอรับ เดี๋ยวจะโดนกับข้าวกระเด็นเหม็นซะเปล่าๆ"
กฤษดาเดินมานั่งตรงที่ปานจัดให้ มองไปรอบ ๆ
"นายน้อยลองสานดูไหมครับ" ก่ำถาม
กฤษดาสนใจ
"ผมทำไม่เป็น แต่ก่ำสอนหน่อยนะ"
"แรก ๆ จะเจ็บมือครับ แต่ทำๆ ไปก็ชิน มันก็เพลินๆ ดีครับ"
ก่ำสอนกฤษดา ให้สานตะกร้า
"ดีกว่าอยู่เฉย ๆ เจ้า แล้วยังได้ตะกร้าไว้ใช้ด้วย"
กฤษดา เพลิดเพลินไปกับสิ่งรอบตัว ดวงใจเอาถ้วยใส่ขนมมาวางให้
"คุณกฤษดาเจ้า ทานถั่วต้มน้ำอ้อยสิเจ้า อร่อยดีนะ"
กฤษดารับถ้วยขนมจากดวงใจ มองรอบ ๆ อย่างมีความสุขมาก ดวงใจยิ้มหวานที่รู้สึกได้ว่า กฤษดามีความสุข
เช้าวันรุ่งขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศและดอกไม้สวย กฤษดาแต่งตัวทะมัดทะแมงกว่าเมื่อวาน ถือปืนลม เดินจากทางเดินมาที่บ้านปาน
ดวงใจแต่งตัวทะมัดทะแมง ใส่กางเกงม่อฮ่อมสี่ส่วนโพกหัวแบบแม้วดูน่ารัก ยืนคอยกฤษดา เต่าที่หอบสัมภาระพะรุงพะรังกว่าเมื่อวาน พร้อมเบ็ดตกปลาอีก ๒ คัน กฤษดาเห็นสองคนที่ยืนรอตัวเองก็หัวเราะ
"เต่า...ทำไมวันนี้ข้าวของเยอะนักล่ะ"
"ก็ไอ้ดวงน่ะซิ...มันจะเอาของกินไปเลี้ยงลิงทั้งป่ามั้ง"
"พูดมากไอ้เต่า เอ็งน่ะแหล่ะกินมากกว่าคนอื่น"
กฤษดายิ้ม
"มาเต่า...ฉันช่วยเอง"
ดวงใจรีบแย่งการถือข้าวของ
"คุณกฤษดาเจ้า...ไม่ได้นะ มาข้าเจ้าจะช่วยไอ้เต่าเอง"
กฤษดาไม่ยอม
"ไม่ได้หรอกดวงใจ มันเป็นหน้าที่ของผู้ชายจ้ะ ดวงใจเป็นผู้หญิงไม่ต้องช่วยถือหรอก ผู้หญิงน่ะเตรียมของให้ขนาดนี้ก็พอแล้ว"
กฤษดายิ้มหวานให้ดวงใจ ดวงใจอายม้วน บัวแก้ว กับสายคำเดินเข้ามาถือกระบอกใส่น้ำมาด้วย
บัวแก้วบอก
"อู้ย...ไอ้ดวง อายม้วนเชียวนะเอ็ง คุณกฤษดา ข้าเจ้าทำน้ำขิงไปให้ทานกันจะได้ไม่เสาะท้องนะเจ้า"
"ขอบใจมากนะบัวแก้ว สายคำไม่ไปด้วยกันเหรอ"
"ข้าเจ้าต้องอยู่ช่วยพี่บัวแก้วทำงานเจ้า" สายคำบอก
แสงธรรมตะโกนมา
"กฤษดา"
แสงธรรมแต่งตัวทะมัดทะแมงมาเหมือนกัน เดินเข้ามากับปิ่นแก้วที่ใส่กระโปรงฟูฟ่อง
"อ้าว...แสงธรรม มาได้ยังไงนี่"
"เจ้าคุณลุงให้บ่าวไปบอกเมื่อวานว่ากฤษดาจะเข้าไปเที่ยวในป่า ถ้าอยากไปด้วยให้มาแต่เช้า"
"ดีเลยแสงธรรม ไปหลาย ๆ คนสนุกดีนะ"
บัวแก้วเห็นชุดปิ่นแก้วก็บอก
"แต่คุณหนูจะไปชุดนี้เหรอเจ้าเดี๋ยวได้โดนกิ่งไม้เกี่ยวขาดหมด"
ปิ่นแก้วไม่พอใจทนที
"ทำไมล่ะ...พวกแกไม่รู้จักกระโปรงแบบแหม่มละซิ"
ตลอดเวลาปิ่นแก้วมองดวงใจแบบไม่ชอบหน้า เต่าหัวเราะ
"เหมือนสุ่มไก่ไม่ว่า ฮ่า ฮ่า ลิงคงมุดเล่นได้ละ"
ปิ่นแก้วหันขวับ
"ลิงอะไร"
"ก็ลิงในป่าไง มันชอบฉีกชอบมุด ไอ้ผ้าป่อง ๆ อย่างนี้ละ.. แล้วก็ทากอีก"
ดวงใจทำเป็นเดินกวนเข้าไปใกล้ ๆ ปิ่นแก้วเริ่มกลัว
"เคยเห็นมั้ยทากน่ะมันเหมือนหนอนดูดเลือดได้ มันจะโดดเข้าไปดูดเลือดในขาเลย"
ดวงใจแกล้งทำดีดมือใส่ ปิ่นแก้วร้องกรี้ดดังลั่น
อ่านต่อหน้า 4
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 2 (ต่อ)
เทศากำลังจะทานน้ำชา ปานดูแลอยู่ต้องหยุดชะงัก เพราะเสียงกรี้ดที่ดังก้องมาของปิ่นแก้วเทศาหัวเราะเบาๆ ดื่มชาต่อ
"น่าจะคุณหนูคนเล็กของท่านเจ้าคุณสุริยันละขอรับ"
สมรแต่งตัวเดินออกมาหาเทศาที่ระเบียงบ้าน
"สมร หล่อนรีบไปดูลูกสาวท่านเจ้าคุณสุริยันซิ สงสัยจะอาละวาดเพราะพี่ๆ ไม่ให้ตามไป"
"หมอนยังไม่ได้ทานข้าวเลยค่ะ"
เทศาหงุดหงิด ใช้น้ำเสียงเป็นคำสั่ง
"ก็ไปหากินที่ครัวโน่น จะได้ดูเด็กไปด้วย ...ไป"
สมรไม่พอใจ เสียหน้ากับปาน เดินกระแทกกระทั้นออกไป
บัวแก้วกับสายคำ ยืนแอบอยู่มุมหนึ่ง ดูปิ่นแก้วอาละวาดขว้างปาข้าวของอย่างบ้าคลั่ง บัวแก้วสีหน้าหมั่นไส้มาก แต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนสายคำสีหน้าหวาดหวั่น สมรเดินเข้ามา
"บัวแก้ว....ยืนเซ่ออยู่ได้ ทำไมไม่ทำให้คุณปิ่นหยุดร้อง"
"ป้าก็ห้ามเองซิ"
บัวแก้วพาสายคำ เดินหนีออกไปเลย สมรโมโห
"อีนี่วอนซะแล้ว"
สมรหันไปหาปิ่นแก้ว พยายามจับไว้
"คุณปิ่น คุณปิ่น เป็นอะไรคะ"
ปิ่นแก้วร้องไห้สะอึกสะอื้น
"พี่ธรรม....ใจร้าย. พี่กฤษดาก็ใจร้าย ปิ่นจะไปก็ไม่ให้ไป"
"คุณปิ่นก็เล่นที่นี่สิคะ ให้สายคำมาเล่นด้วยดีไหมคะ"
"ไม่เอา"
"งั้นหมอนเล่นด้วยนะคะ"
ปิ่นแก้วมองหน้าสมร
"ไม่เอา คนแก่จะมาเล่นกับเด็กได้ไง"
สมรสะอึก แต่ยังพยายาม
"อีดวงใจ...มันไม่ยอมให้ปิ่นไป พี่กฤษดาก็เชื่อมัน"
"นังดวงใจอีกแล้วเหรอ"
สมรทำหน้าเจ้าเล่ห์ มองซ้ายขวา กระซิบที่หู
"คุณปิ่นคะ"
สมรกระซิบข้างหูปิ่นแก้ว ปิ่นแก้วหยุดร้องไห้ หันไปมองหน้าสมรที่ยิ้มเจ้าเล่ห์
สมรถือตะกร้า กับมีด เข้ามาในเรือนกล้วยไม้ ปิ่นแก้วท่าทางดีใจ
"คุณปิ่นอยากได้ช่อไหนคะ หมอนจะตัดให้"
ปิ่นแก้วยิ้มมองกล้วยไม้ และ ดอกเอื้องที่ออกดอกสวยงามมากมาย
"เอาหมดเลย"
"ได้ค่ะ"
สมรเอามีดตัดดอกเอื้องช่อใหญ่ ส่งให้ปิ่นแก้ว
"ถ้านังดวงใจมันกลับมาเห็นว่าดอกไม้มันหายไปหมด มันต้องดิ้นตายแน่ๆ"
สายคำมาแอบมองด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
ปางช้างของทิดอ่วม พ่อของหนานอุย กฤษดานั่งหลังช้างกับดวงใจ แสงธรรมนั่งหลังช้างกับเต่า ท่าทางกฤษดาและแสงธรรม สนุกมาก กฤษดาชี้ชวนให้ดวงใจดูสองข้างทาง
กฤษดากับแสงธรรม ตกปลาในลำธาร กฤษดาตกปลาได้ ดวงใจตบมือดีใจ หนานอุยมองอย่างหมั่นไส้
ดวงใจ กับ เต่าปิ้งปลาให้กฤษดากับแสงธรรมกิน หนานอุยจะหยิบของกฤษดากิน โดนดวงใจไล่เตะ แต่กฤษดากลับแกะปลาให้ดวงใจกิน
คณะของกฤษดา กำลังช่วยกันเก็บของเตรียมตัวจะกลับ ทิดอ่วมกับคนงานอีก 2 คนก็เดินตามมา
"หนานอุย กลับบ้านได้แล้วเน้อ"
"เดี๋ยวซิพ่อ ฉันจะไปกับดวงใจอีกนะ"
"พอแล้ว ดวงใจเอ็งก็พาพวกคุณ ๆ กลับได้แล้ว เดี๋ยวมืดค่ำกลางทางจะไม่ดีเน้อ"
"นั่นซินะ...กลับกันดีกว่า บ่ายมากแล้วด้วย"
ทิดอ่วมบอก
"ไอ้กุ่ย...เอ็งไปกับพวกคุณ ๆ เอาคบเผื่อไปด้วย แล้วคืนนี้เอ็งขอกำนันปานนอนที่นั่น ค่อยกลับมาตอนเช้า"
"ไม่ต้องหรอกทิดอ่วม พวกเรากลับกันเองได้ ยังไม่ค่ำหรอก" แสงธรรมบอก
"พอแดดตกก็ไม่ค่อยดีแล้วละคุณ ไอ้กุ่ยมันเก่ง ให้มันไปด้วยดีกว่าครับ"
กฤษดาบอก
"วันนี้ขอบคุณทิดอ่วมมากนะครับ...พวกเราสนุกมาก"
ระหว่างที่คุยกัน มีตะขาบตัวใหญ่วิ่งเลื้อยขึ้นไปบนขากฤษดา ดวงใจเห็นตกใจ รีบเอามือปัดตะขาบ จึงโดนตะขาบต่อยที่มือ
"โอ้ย"
หนานอุยตกใจมาก
"พ่อ...พ่อ...ดวงโดนตะขาบต่อย"
ทุกคนตกใจ หันมาดูดวงใจที่เริ่มปวด กุ่ยหาใบไม้ข้างๆ ทาง มาขยี้พอกที่แผล ดวงใจยิ่งปวด
"โอ้ย...ปวด"
"ทำอะไรไอ้กุ่ย ดวงใจยิ่งปวดน่ะ" หนานอุยบอก
กฤษดาประคองดวงใจไว้
"ปวดมากเหรอดวงใจ"
ดวงใจน้ำตาไหล
"ปวดมากเจ้า"
ทิดอ่วมบอก
"รีบกลับเถอะ ดวงใจจะมีไข้ รีบกลับไปจะได้ต้มยากิน ไอ้กุ่ยเอ็งเก็บว่านตีนตะขาบไปอีก"
"รีบไปกันเถอะ" แสงธรรมบอก
คณะของกฤษดา รีบเดินทาง โดยมีกุ่ยตามไปด้วย หนานอุยมองตามดวงใจอย่างเป็นห่วง
ค่ำต่อเนื่องมา เจ้าคุณเทศา สุริยัน ยืนคอยคณะของกฤษดาอย่างกังวลใจ บัวแก้วกับสายคำ ก็มีสีหน้าเป็นกังวล สายคำทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
"ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ พี่บัวแก้ว หรือ...หรือว่า ..เสือ" สายคำบอก
"หยุดเลยสายคำ...อย่าพูดให้เป็นลางซิวะ" บัวแก้วว่า
ปาน เดินกลับเข้ามากับก่ำและม้ง
"ไม่เจอเหรอปาน"
"ทิดอ่วมมันก็บอกว่าออกมาตั้งแต่บ่ายแล้ว"ปานว่า
"หรือจะหลงป่า"
"ทิดอ่วมมันว่าไอ้ดวงโดนตะขาบต่อย"
เทศากับสุริยันตกใจ บัวแก้วกับสายคำรีบวิ่งมาฟังปาน ระหว่างนั้น คณะของกฤษดา ก็เดินทางมาถึง กฤษดา อุ้ม ดวงใจที่นอนไม่ได้สติ มีแสงธรรม และ เต่า กับกุ่ยเดินมาด้วย ปานหันไปเห็นก็ตกใจรีบเข้าไปรับดวงใจม
"ไอ้ดวง"
ปานอุ้มดวงใจรีบขึ้นบ้านไป มีบัวแก้ว กับ สายคำ วิ่งตามขึ้นไปด้วย
"ทุกคนเป็นห่วงแทบแย่ ไหนว่าออกจากป่าตั้งแต่บ่าย"
"ดวงใจไข้ขึ้นสูง นอนแทบไม่ได้สติครับ กุ่ยก็ไม่คุ้นทาง พอเริ่มมืดก็เดินวนซะหลายหนครับ"
"ไปโดนตะขาบกัดได้ยังไง"
"ตะขาบมันไต่ขึ้นไปบนตัวกฤษดา ครับ ดวงใจเอามือปัด" แสงธรรมบอก
เจ้าคุณเทศาถอนใจ
"โธ่เอ้ย ดวงใจ"
อ่านต่อตอนที่ 3