xs
xsm
sm
md
lg

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 11

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แหวนทองเหลือง ตอนที่ 11

แก้ว กับ สายคำ พาดวงใจออกมาจากห้องนอน กำนันปานยืนนิ่งอยู่ที่ห้องรับแขก สีหน้าเครียด หมอผูกไปแล้ว ดวงใจกลัว ๆ กล้าๆ เข้าไปกราบที่เท้ากำนันปาน

"พ่อ....ดวงขอโทษจ้ะ"
กำนันปานไม่มองดวงใจ พยายามสงบสติอารมณ์
"ไอ้ดวง"
"จ๋าพ่อ"
"เอ็งท้องกับใคร"
ดวงใจอึกอัก
"กับ...กับ"
กำนันปานเริ่มโกรธแล้ว หันมามองดวงใจแล้วตวาด ทุกคนสะดุ้ง...ดวงใจลนลาน
"กับใคร"
"กับ...กับ...กับคุณกฤษดาจ้ะพ่อ"
กำนันปานตกตะลึง ขบกรามแน่น พูดอะไรไม่ออก แล้วก็เงื้อมือตบหน้าดวงใจฉาดใหญ่ แก้ว กับสายคำตกใจร้องวี้ด ดวงใจโดนตบฟุบนิ่งไป
"โกหก กูไม่เชื่อ"
ดวงใจเงยหน้ามองกำนันปาน ร้องไห้
"จริงๆ จ้ะพ่อ...คุณกฤษดาเป็นพ่อของลูกฉัน ฉันไม่ได้โกหก"
กำนันปานตวาดเสียงดัง ดวงใจก้มหน้านิ่ง
"หยุดนะ...อย่าได้พูดอีกจนคำเดียว คุณกฤษดาเป็นลูกท่านพระยาดำรง ท่านเป็นคนดีเหมือนเทวดา ท่านไม่มาเอาคนอย่างเอ็งเป็นเมียหรอก อีดวง...เอ็งตอแหล"
ดวงใจลุกขึ้นยืนมองกำนันปานอย่างขอความเมตตา
"จริงๆ จ้ะพ่อ...คุณกฤษดาเป็นผัวฉันจริงๆ เรารักกัน...เขาสัญญาว่าเขาจะมาหาพ่อ จะมารับฉันไปเป็นเมียที่บางกอก...จริงๆ จ้ะพ่อ"
กำนันปานไม่ฟังเสียง ตบหน้าดวงใจล้มลงไป สายคำถลามาประคองดวงใจ แก้วก็รีบเข้าไปยึดมือกำนันปานไว้
"ขอทีพี่ปาน เด็กมันกำลังท้องกำลังใส้ อย่าดุร้ายนักเลย จำคำที่นายท่านขอพี่ไว้ได้ไหม พี่สาบานให้ท่านแล้วว่าจะไม่เป็นคนดุร้าย"
กำนันปานมีท่าทีสงบลง หันไปมองหน้าแก้ว
"เอ็งก็รู้เรื่องนี้ใช่ไหม อีสายคำด้วย ถึงได้แล่นมาเตือนอีดวง มีแต่ข้าที่โง่ไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว"
"ฉันก็กะจะบอกพี่วันนี้แหล่ะ...ใจเย็นๆ ก่อนซิพี่"
"อีลูกเวร...ต่อไปนี้เอ็งอย่าได้พูดถึงชื่อคุณกฤษดาอีกเป็นอันขาด เอ็งจะท้องกับใครก็ช่าง...แต่ต้องไม่ใช่คุณกฤษดา ได้ยินไหม"
กำนันปานตวาดใส่ดวงใจ ดวงใจร้องไห้พยายามอธิบาย
"พ่อ...ก็ฉันท้องกับเขาจริงๆ พ่อจะให้ฉันพูดโกหกได้ยังไง"
กำนันปานทำท่าจะเข้ามาตบดวงใจอีก แต่แก้วยึดไว้แน่น..
"อย่าพี่ปาน"
กำนันปานโมโหมาก
"กูบอกแล้วอย่าเอ่ยชื่อเขา เขากับเอ็งมันคนละชั้น ข้าจะไม่ยอมเชื่อเด็ดขาดว่าคุณกฤษดาเค้าจะมายุ่งกับคนอย่างเอ็ง"
แก้วพยายามไกล่เกลี่ย
"โธ่พี่ปาน อย่าโมโหนักเลย ไอ้ดวงมันอาจจะพูดจริงก็ได้"
แต่ยิ่งทำให้กำนันปานเป็นบ้าสติแตก สะบัดแก้วกระเด็น
"ไม่จริง ไม่ใช่คุณกฤษดาเป็นแน่...อีนี่ต้องไปทำชั่วกับคนอื่น"
แก้วไม่ละความพยายาม ที่จะปลอบกำนันปาน ดวงใจร้องไห้โฮ

"ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ อยากรู้ความจริงพี่ปานลองไปบางกอก แล้วถามไถ่เขาดู"

ดวงใจสะอื้น

"จริงจ้ะพ่อ เราไปบางกอก ไปหาคุณกฤษดากันนะ เขาจะไม่ปฏิเสธแน่ๆ"
"หยุด..อีดวง ข้าจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด เอ็งจะให้ข้าบากหน้าไปถามเขา...ถ้าเขาไม่รับ"
เสียงกำนันปานเริ่มสะดุดด้วยความสะเทือนใจ
"ข้าจะทนมองหน้านายท่านได้อย่างไร ข้าก็จะอาย แล้วก็แค้น แต่นายท่านกับครอบครัวมีบุญคุณกับเราล้นฟ้าให้ข้ามากยิ่งกว่าพ่อแม่ข้าซะด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ท่าน ข้าโดนเค้าตัดหัวไปแล้ว ท่านช่วยข้าไว้ เมตตาสอนข้าทุกอย่าง เอ็งก็รู้ดีนี่แก้ว ถ้าไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราก็ยังอดมื้อกินมื้อไม่ได้ลืมตาอ้าปากได้อย่างวันนี้หรอก นามสกุลเราท่านก็ตั้งให้ จะเท็จจริงอย่างไร ข้าก็ไม่ยอมเชื่อว่าลูกของท่านมักง่ายทำชั่ว ทำผู้หญิงท้องแล้วหนีไปไม่ยอมรับ...ข้าไม่เชื่อ"
ดวงใจพยายามอธิบาย
"พ่อจ๋า...อย่าคิดว่าคุณกฤษดาเป็นอย่างนั้น...เค้าไม่ใช่คนเลว...เค้ารักฉันจริงๆ จ้ะพ่อ...เรารักกัน มันจะต้องมีเรื่องจำเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาต้องรีบไปแบบนี้ อาแก้วพูดถูกที่ให้เราไปหาคุณกฤษดาที่กรุงเทพ"
"อีดวง ข้าบอกแล้วว่าอย่าเอ่ยชื่อเขา เอ็งอยากตายหรือนี่"
กำนันปานกราดเข้าไปหาดวงใจ เงื้อง่าจะตบอีก แก้ว กับสายคำ ต้องรีบเข้าไปดึงตัวเอาไว้
"พี่ปาน อย่า อย่าทำมัน...อย่างน้อยพี่ต้องนึกไว้บ้างว่าเด็กในท้องเป็นลูกคุณกฤษดา หลานนายท่านที่มีพระคุณของพี่"
กำนันปานชะงัก หันไปมองหน้าแก้ว คลายความโกรธลง
"ไม่ว่าอย่างไร...เด็กในท้องมันก็หลานของพี่ พี่จะโกรธไอ้ดวงมากแค่ไหน พี่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นลูกเป็นหลานพี่ หลานท่าน"
กำนันปานจ้องหน้าแก้ว ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องพูดเตือนสติกำนันปาน
"พี่จะมาโกรธตบตีมันตอนนี้ มีแต่ทำให้มันเจ็บช้ำมากขึ้น...พี่เองก็จะเสียใจทีหลัง คิดให้ดีๆ นะพี่ ไอ้ดวงมันจะเลวยังไงมันก็ลูกพี่นะ ถ้าพี่ไม่ช่วยมัน ใครจะช่วย"
แก้วพูดพลางปล่อยโฮ กำนันปานเดินไปลงนั่ง เสียใจอัดอั้น
"ข้าจะช่วยมัน ถูกของเอ็งแก้ว ยังไงๆ มันก็ลูกหลานข้า"
แก้วเดินเข้าไปหาดวงใจสีหน้าทุกคนดีใจ
"ข้าอยากให้เอ็งมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องลำบากเหมือนพ่อกับแม่มัน"
ดวงใจเดินเข้ามานั่งคุกเข่าข้างๆ กำนันปาน กอดขาพ่อไว้
"เอ็งต้องแต่งงาน"
ดวงใจตกใจมองหน้าพ่อ
"อะไรนะพ่อ"
กำนันปานลุกขึ้นยืน สะบัดขาให้พ้นจากการจับของดวงใจเดินห่างไป
"เอ็งจะต้องแต่งงานล้างอายให้พวกเรา ลูกเอ็งจะเกิดมาอย่างทุเรศอับอายชาวบ้านไม่ได้...ข้าจะหาพ่อให้ลูกของเอ็ง คนที่จะเลี้ยงดูเอ็งกับลูกให้สบายไม่ต้องอยู่อย่างผู้หญิงผัวทิ้งประจานตัว"
กำนันปานพูดเสียงเฉียบขาด...ดวงใจตกใจร้องเสียงหลง
"ไม่...ไม่นะจ้ะพ่อ"
ดวงใจร้องไห้โฮ กำนันปานหันมาตวาด
"เอ็งไม่มีหน้าบอกปัดอะไรทั้งนั้น เอ็งหาเรื่องเดือดร้อนอับอายมาให้พ่อ เอ็งต้องรับผิดชอบสิ่งที่เอ็งทำ"
ดวงใจร้องไห้สะอึกสะอื้น
27
"ฉันจะไม่ยอมเป็นเมียใครอีก ให้ฉันตายเสียดีกว่า...คุณกฤษดาเป็นพ่อของลูกฉันคนเดียวเท่านั้น ถ้าพ่อจะให้ฉันมีผัวอีก พ่อฆ่าฉันให้ตายซะ"
กำนันปานโกรธ
"อีลูกเลว...ไม่ต้องพูดถึงคุณกฤษดาอีกได้ยินไหม เขาไปแล้ว เขาไม่ต้องการเอ็งกับไอ้มารหัวขนในท้องด้วย สายคำ เก็บของไอ้ดวง ข้าจะไปว่ารถกลับบ้านเดี๋ยวนี้"
กำนันปานรีบเดินออกไป ดวงใจถลาดึงแขนกำนันปานไว้
"อย่านะพ่อ...พ่อ...อย่าทำอย่างนั้นนะ"

กำนันปานไม่ฟังเสียง สะบัดแขนเดินออกไป ดวงใจทรุดลงไปร้องไห้โฮ สายคำ กับ แก้ว เข้ามาปลอบ
 
อ่านต่อหน้า 2

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 11 (ต่อ)

ดวงใจนั่งร้องไห้โวยวายอยู่บนเตียง สายคำกับแก้ว ช่วยกันเก็บของใส่กระเป๋าสาน สายคำ กับ แก้วมองหน้ากันสงสาร แต่ทำอะไรไม่ได้

"อย่าดิ้นรนไปเลยไอ้ดวง ลูกในท้องมันจะตาย แต่งตัวแล้วกลับบ้านเราดีกว่า ความมันก็แตกหมดแล้ว ยังงี้ไปคิดกันใหม่ที่บ้านเราพี่บัวแก้วน่าจะช่วยคิดหาหนทางแก้ไขให้เอ็งได้"
ดวงใจหยุดร้อง พยายามตั้งสติ
"หากพ่อจะให้ฉันไปแต่งงานกับคนอื่น ฉันไม่ไป ฉันขอตายอยู่ที่นี่ ฉันไม่ไปแน่ๆ"
แก้วถอนใจ มองดวงใจอย่างสงสาร
"ลงว่าพ่อเอ็งพูดเด็ดขาดแบบนี้ จะหาหนทางเปลี่ยนใจเค้ามันยาก" แก้วว่า
สายคำบอก
"เพราะยายเหม็นเชียว...ออกความคิดดีนักให้เอาหมอผูกมารักษาไอ้ดวง"
"ยายเหม็นมันคงหวังดี"
สายคำสีหน้าโกรธ
"หวังดีที่ไหนกันแม่...ยายเหม็นน่ะมันรับเงินค่าแม่สื่อหนานอุย มาตื้อลุงกำนันทุกวัน ไอ้หนานอุยน่ะมันหลงรักไอ้ดวงนานแล้ว มันจะยกขันหมากมาทันที ถ้าลุงกำนันตกปากรับคำยกไอ้ดวงให้มัน"
ดวงใจไม่พอใจ
"ไอ้หนานอุย อย่าหวังเลย"
"ถ้าอย่างนั้นคนที่พ่อเอ็งจะให้แต่งงานด้วย ต้องเป็นหนานอุยแน่ๆ"
ดวงใจสีหน้าหวาดหวั่น
"อาแก้ว...ฉันจะทำยังไงดี"
แก้วพยายามปลอบ
"ใจเย็นๆ ตอนนี้เอ็งต้องคิดถึงลูกด้วยนะดวง พ่อแกเค้าก็หวังดี..ถ้าหนานอุยเค้ารักเอ็งจริง ยอมแต่งงานด้วย เอ็งกับลูกก็จะสุขสบาย คุณกฤษดาน่ะ อย่าไปหวังอะไรเค้าเลย ว่ามีธุระจำเป็นมันก็น่าจะส่งข่าวมาบ้าง นี่ก็หายเงียบไปเลย คิดให้ดีนะ"
ตลอดเวลาดวงใจไม่เห็นด้วย แต่พอมองหน้าสายคำ กับ แก้ว ที่เห็นด้วยกับกำนันปาน ดวงใจก็เฉยเสีย เพราะรู้ว่าไม่มีใครจะช่วยได้แล้ว เธอสีหน้ามุ่งมั่น ค่อยๆ ลุกขึ้น
"จะไปไหนล่ะ"
"ฉันจะไปห้องน้ำหน่อยจ้ะ" ดวงใจบอก
"ไปคนเดียวไหวไหมล่ะ"
ดวงใจยิ้ม
"ฉันไปได้พี่สายคำ พี่ไม่ต้องช่วยฉันหรอก"
"ไปเข้าห้องน้ำซะก็ดี เดี๋ยวจะต้องนั่งรถอีกนาน...สายคำ..เร่งเก็บของเร็วๆ เถอะ..อีกเดี๋ยวลุงแกก็มา"

ดวงใจตัดสินใจ รีบเดินออกมาจากห้อง

ดวงใจค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากบ้านแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ในละแวกตลาดในอำเภอ มีคนเดินไปมาขวักไขว่ ดวงใจรีบเดินออกมาจากบ้านแก้ว มองไปรอบ ๆ เพราะกลัวเจอกำนันปาน เธอเดินเร็ววิ่งหายไปในหมู่คนในตลาด

สายคำยกกระเป๋าหวายของดวงใจออกมาจากห้องนอนมาวางไว้ที่ห้องรับแขก กำนันปานเดินกลับมาจากตลาด
กำนันปาน
"เก็บของเสร็จแล้วใช่ไหม"
"เสร็จแล้วจ้ะ"
กำนันปานมองหาดวงใจ
"แล้วไอ้ดวงล่ะ"
"อยู่ในห้องน้ำ"
แก้วเดินไปจะเคาะประตูเรียกที่ห้องน้ำ แต่พอยกมือจะเคาะประตู ประตูก็เปิดออกช้าๆ เพราะไม่มีคนอยู่ข้างใน แก้วตกใจ
"อ้าว...ไม่มี"
กำนันปานตกใจ
"มันหายไปไหน"
แก้วอึกอักตกใจ
"ก็เมื่อกี้นั่งเก็บของกัน ไอ้ดวงมันบอกจะเข้าห้องน้ำ มันก็เดินออกมา"
"ไอ้ดวง...ไอ้ดวง"
สายคำยื่นหน้าเข้าไปดูในห้องน้ำให้แน่ใจ กำนันคิดนิดหนึ่งรีบวิ่งออกไปทันที สายคำ กับ แก้ววิ่งตามไปด้วย

กำนันปานวิ่งเข้ามาในตลาด สายคำกับแก้ววิ่งตามมาด้วย กำนันปานถามคนขายของในตลาด คนขายของชี้มือบอกทางกันไปเป็นทอดๆ ในที่สุดทั้งสามคนก็มาถึงทางแยกที่ไม่รู้จะไปทางไหน
"ฉันจะแยกไปดูทางโน้นนะ" สายคำบอก
"เออดี...แก้ว เอ็งไปดูทางอีกทางก็แล้วกัน"
ทั้งสามคนแยกกันออกหาดวงใจ

สายคำเดินหาดวงใจไปเรื่อยๆ สักครู่ดวงใจเดินมาดึงแขนสายคำ สายคำหันไปเห็นดวงใจก็ดีใจ
"ไอ้ดวง...เอ็งมาทำอะไรที่นี่ ลุงกำนันไปจ้างรถมาแล้วรีบไปเถอะ"
ดวงใจอ้อนวอน
"พี่สายคำ...เมตตาฉันเถอะนะ. ฉันอยู่ไม่ได้แล้ว พ่อไม่ฟังฉันเลย ฉันต้องไป"สายคำตกใจมาก เอามือปิดปากตัวเองเพราะกลัวจะร้องออกมา
"นี่เอ็งจะหนีหรือไอ้ดวง"
"ฉันจะไปหาคุณกฤษดาที่กรุงเทพ พี่อย่าบอกพ่อนะ นะพี่นะ สงสารฉันเถอะนะ...ฉันตายซะดีกว่าถ้าต้องมีผัวใหม่"
สายคำพยายามตั้งสติอดเห็นใจดวงใจไม่ได้
"เอ็งจะไปยังไง"
ดวงใจมองซ้ายขวา กลัวกำนันปานมาเห็น พยายามหลบ
"ฉันจะนั่งรถที่เข้าตัวจังหวัด แล้วก็นั่งรถไฟไปกรุงเทพ"
สายคำทำหน้าเห็นด้วย
"เออใช่ ต้องไปอย่างนั้นแหล่ะ แล้วเอ็งมีเงินแล้วเหรอ"
ดวงใจหน้าสลด
"ไม่มีน่ะซิ...ทำยังไงดีพี่สายคำ.. พี่สายคำมีเงินให้ฉันบ้างไหมพี่"
สายคำหยิบเงินออกมานับ
"มีอยู่ไม่ถึงสิบบาทน่ะไอ้ดวง"
สายคำกับดวงใจหน้าสลด สายคำใช้ความคิด พอคิดได้ก็ดีใจ
"พี่คิดออกแล้ว....เอ็งไปคอยที่ท่ารถหาที่หลบให้ดีๆ ล่ะ"
"พี่จะทำยังไง"

"เอาเถอะน่า...เอ็งหลบพ่อเอ็งให้ดีๆ ก็แล้วกัน"
 
อ่านต่อหน้า 3

แหวนทองเหลือง ตอนที่ 11 (ต่อ)

สายคำวิ่งเข้ามาในบ้านแก้ว มองซ้ายมองขวาอย่างระวัง เพราะกลัวกำนันปานจะกลับมา สายคำวิ่งไปค้นหีบเก็บเงินของแก้ว หยิบเงินออกมาหลายใบ แล้วยัดใส่ไว้ในอกเสื้อ

กำนันปานกับแก้วสีหน้าผิดหวังจะเดินกลับบ้าน
"เดี๋ยวมันก็กลับมาเองพี่ปาน"
"อีหัวดื้อ...เอ็งรู้จักมันน้อยไป"
กำนันปานกับแก้วเดินมาจะถึงบ้าน เห็นสายคำทำท่ารีบร้อนออกมาจากบ้าน แก้วทำท่าจะเรียก แต่กำนันปานรีบเอามือปิดปากแก้วไว้
"อย่าเพิ่งเรียกมัน ท่าทางมันแปลกๆ"
สายคำมองซ้ายขวา ด้วยความระมัดระวัง แล้วรีบวิ่งไป กำนันปาน รีบเดินตามสายคำห่างๆ มีแก้วเดินตามไปด้วย

บริเวณท่ารถ มีรถเก่าๆ คันหนึ่งจอดอยู่ มีคนโดยสารหลายคนนั่งรออยู่บนรถ ดวงใจยืนอยู่ใกล้ๆ อย่างกระวนกระวาย คนขับรถเดินมาพูดกับดวงใจด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ
"เอาไงอีหนู คนเค้ารอแล้วนะ ถ้าไม่มีค่ารถข้าจะได้ไปละ"
ดวงใจยกมือไหว้อ้อนวอน
"น้าจ๋า...รออีกเดี๋ยวเดียวนะจ้ะ พี่ฉันกำลังไปเอาเงินมาแล้ว พอได้เงิน น้าก็ออกรถได้เลยจ้ะ...นั่นไง...มาแล้ว"
ดวงใจดีใจ เพราะเห็นสายคำกำลังวิ่งมา สายคำวิ่งมาถึงรีบเอาเงินออกให้ดวงใจ
"ข้าขโมยแม่มาได้เท่านี้แหล่ะ เอ็งรีบไปเลยไอ้ดวง"
ดวงใจรับเงิน กอดสายคำ
"ชาตินี้ฉันจะไม่ลืมบุญคุณพี่เลย"
คนขับรถขึ้นไปนั่งที่คนขับ
"เอ้าเร็ว ๆ ซิ จะออกรถแล้วนะ"
ดวงใจรีบขึ้นไปบนรถ คนขับรถสตาร์ทรถจะเคลื่อนรถออก กำนันปานวิ่งมาอย่างเร็ว กระชากประตูคนขับเปิดออก
"เดี๋ยวก่อน...ยังไปไม่ได้"
ดวงใจกับสายคำ ตกใจมาก คนขับรถโกรธลงมาอย่างไม่พอใจ
"อะไรของมึงวะ เสือกมาเปิดประตูรถกูทำไม"
คนขับเดินเข้ามาจะต่อยกำนันปาน แต่โดนกำนันปานต่อยตูมเดียวลงไปนอนสลบ ชาวบ้านบนรถร้องลั่น กำนันปานหน้าเหี้ยมเกรียมตาลุก สายคำกลัวมาก ไปแอบข้างหลังแก้ว ดวงใจปิดหน้าร้องไห้

"มึงลงมาเดี๋ยวนี้ อีลูกสารเลว"

กำนันปานผลักดวงใจ กับสายคำเข้ามาในห้อง บัวแก้วกับแก้วตามเข้ามาด้วย

"เข้าไป...ข้าจะไม่ยอมให้เอ็งหนีไปได้อีก เอ็งด้วยสายคำ ในเมื่อเอ็งถึงกับขโมยเงินแม่เอ็งไปช่วยนังดวง เอ็งก็ต้องถูกทำโทษเหมือนกันถ้าข้าปล่อยเอ็ง...เอ็งก็จะหาทางปล่อยไอ้ดวงอีก"
แก้วพยายามอ้อนวอน
"พี่ปาน"
กำนันปานหันมาดุแก้ว
"หยุด...ไม่ต้องพูด บัวแก้วเอ็งไปเอาโซ่ที่ข้าเคยล่ามไอ้โจรมาสองเส้นกับทั่งตีเหล็กด้วย"
บัวแก้วบอก
"ลุงจะเอามาล่ามอะไร ไม่มีโจรผู้ร้ายให้ล่ามที่นี่หรอกนะลุง"
กำนันปานโกรธ แก้วทำหน้าปรามไม่ให้บัวแก้วพูด
"กูบอกให้ไปเอาโซ่..ก็รีบไปเอามาเร็วๆ สิวะอีนี่"
บัวแก้วเห็นท่าไม่ดี รีบวิ่งออกไป ดวงใจยกมือไหว้
"โธ่พ่อ...หากพ่อเห็นว่าฉันทำผิดทำชั่วจะไม่เมตตาฉัน พ่อก็ควรไล่ฉันไปซะให้พ้นบ้าน พ่ออย่าทรมานฉันอย่างนี้เลย"
"ข้าจำเป็นต้องทำให้เด็ดขาด เอ็งไม่ยอมเลิกรา ปากของเอ็งจะทำให้คุณกฤษดาต้องพลอยเสียไปด้วย...ข้าไม่ต้องการให้ใครมานินทาว่าร้ายลูกผู้มีพระคุณของข้า ว่าเป็นผู้ชายเลว พร่าผู้หญิงแล้วทิ้งไม่ใยดี เหมือนผู้ชายบางกอกเสเพลคนอื่นๆ ที่มันมาหลอกสาวเหนือโง่ๆ อย่างเอ็ง...ข้าจะยอมเสียเลือดก้อนนึงเพื่อความกตัญญู"
ดวงใจร้องไห้เสียใจ
"พ่อไม่สงสารฉันหรือ ฉันเป็นลูกพ่อนะ"
"ก็เพราะเอ็งเป็นลูกข้าน่ะซิ ข้าถึงต้องหาผัวที่ดีที่สุดให้เอ็ง เพื่อเลี้ยงดูเอ็งกับลูกคุณกฤษดา...จะต้องไม่มีใครรู้ว่าไอ้เด็กในท้องเอ็งเป็นลูกคุณกฤษดา"
ดวงใจร้องให้โวยวาย
"ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอมมีผัวอีกเด็ดขาด"
"ไม่ยอมก็ต้องยอม ต่อไปนี้เอ็งต้องทำตามที่ข้าสั่งเท่านั้น"

บัวแก้วถือโซ่ กับทั่งเหล็กเดินเข้ามาส่ง กำนันปานถือโซ่เดินเข้าไปหาดวงใจกับสายคำ
 
อ่านต่อหน้า 4


แหวนทองเหลือง ตอนที่ 11 (ต่อ)

ก่ำ เต่า และ ม้ง ต่างนั่งสีหน้าไม่ดีอยู่ใต้ถุนบ้านกำนันปาน ได้ยินเสียงตีทั่งเหล็กดังลงมาจากบนบ้าน และ เสียงดวงใจกับสายคำร้องโหยหวน

"กำนันทำเกินไปนะ...ลูกตัวเองแท้ๆ"
"พ่อ...ไอ้ดวงมันท้องโตใช่ไหม มันท้องกับใครพ่อ" เต่าถาม
"เอ็งอย่าไปยุ่งเลยไอ้เต่า...เวลากำนันโมโหน่ะ อยู่ห่างๆ ดีกว่า" ก่ำบอก
"แต่ฉันก็ว่าเหมือนอาม้งนะ...ลุงกำนันทำกับไอ้ดวงเกินไป"
กำนันปานเดินลงมาจากบ้าน ตาก่ำเห็นกำนันปานตาแดงก่ำมีน้ำตา ก่อนเดินออกไปจากบ้านอย่างเร็ว

ดวงใจกับสายคำโดนล่ามโซ่กับเสาในห้อง ดวงใจสีหน้าไม่พอใจมีน้ำตาไหลตลอด สายคำทำท่าเหมือนจะเป็นลมมีแก้วคอยดูแล เต่ากับก่ำแอบโผล่หน้าเข้ามาดู บัวแก้วก็ไม่พอใจ
"ลุงกำนันทำเกินไปนะแม่...ทำไมต้องทำกับลูกตัวเองขนาดนี้"
"นั่นสิ"
ก่ำตีหัวเต่าเบาๆ ให้หยุดพูด
"ลุงกำนันน่าจะเห็นใจไอ้ดวง...นี่เอาแต่เข้าข้างปกป้องนายท่าน"
"ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เห็นคนอื่นดีกว่าลูกตัวเองขนาดนี้ได้ไงฉัน อยากจะรู้จริงๆ ว่าบุญคุณนายท่านมากอะไรนักหนา"
แก้วสะเทือนใจ
"อย่าไปว่าเค้าเลย พวกเอ็งอยากรู้ว่าทำไมกำนันปานถึงได้ยกย่องบูชานายท่านนักหนา ข้าจะเล่าให้ฟัง"

ตอนนั้น อานอายุ 15 ปี แก้วเล่าอดีตให้ฟังว่า
“พ่อกับแม่ของเรา ยากจน มีกินบ้างไม่มีกินบ้าง พอพ่อกับแม่ตายสมุนโจรก็มาชวนพี่ปานให้เข้ากับพวกมัน...ตอนนั้นแม่อายุ 10 ขวบเห็นจะได้ ก็ไปอาศัยคนรู้จักอยู่"
พวกโจรพากันเข้าปล้น ฆ่าชาวบ้านล้มตาย หัวหน้าโจรชื่อ ไอ้เสือเอาวา
“พวกโจรพากันฆ่าฟันชาวบ้าน พี่ปานก็ต้องตามเขาไป แรก ๆ ก็กลัวไม่กล้าทำร้ายใคร อยู่ไปสักหน่อยนิสัยใจคอก็เริ่มดุร้ายตามพวกโจร”
เพียงปีเดียว เมื่อปานอายุได้ 16 ปีก็เริ่มปล้นผู้คน สีหน้าเริ้มดุดัน ปล้นบ้าน รื้อค้นข้าวของ มีตำรวจหลาย คนเข้ามาปราบโจร ยิงหัวหน้าโจรตาย
"นายท่านตอนนั้นเป็นนายอำเภอ ออกไปปราบโจรกับตำรวจ และ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง"
พระยาดำรง สมัยที่เป็นหนุ่มเกลี้ยกล่อม - "ออกมามอบตัวซะดีๆ ทางการล้อมไว้หมดแล้ว"
แก้วบอกเล่าต่อ
"พี่ปานโดนจับไปกับพวกโจร โทษตอนนั้นก็ต้องถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่จะเป็นเพราะชาติก่อนเคยทำบุญด้วยกันมา นายท่านเห็นพี่ปานก็เมตตา"
พวกโจรโดนจับนั่งคุกเข่าเรียงกัน พระยาดำรงเดินดูมาสะดุดที่ปานนั่งก้มหน้าร้องไห้
"อ้ายนี่มันยังเด็กอยู่แท้ๆ เอ็งอายุเท่าไหร่"
"สิบหก"
"ปล้นกับเค้ามากี่ครั้งแล้ว"
ปานเช็ดน้ำตา
"ไม่กี่ครั้งครับ"
โจรอีกคนหนึ่งมองปาน
"มันเพิ่งริเป็นโจร กรุณามันเถิดครับ มันยังไม่เคยฆ่าใคร"
พระยาดำรงมองปานด้วนความเวทนา
"ถ้าเอ็งสัญญาว่าจะกลับตัวเป็นคนดี ข้าจะช่วยเอ็งจะได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่"
"พ่อแม่ตายหมดแล้ว"
"แล้วเอ็งมีพี่น้องไหม"
"มีน้อง...ฝากเค้าไว้"
ปานนั่งร้องไห้ พระยาดำรงมองอย่างเวทนา
"ถ้าอย่างนั้นเอ็งกับน้องมาอยู่เสียกับข้า ข้าจะชุบเลี้ยงเอ็งให้เป็นคนดีให้เรียนหนังสือ หากเอ็งยังคิดชั่ว ข้าจะฆ่าเอ็งด้วยมือของข้าเอง"
ปานก้มกราบดีใจ

"ผมขอสาบานว่าจะเป็นคนดี จะเคารพเชื่อฟังนายท่านทุกอย่าง"

แก้ว กำลังเล่าเรื่องต่อ

"ถ้าไม่ได้นายท่านช่วยไว้ พี่ปานคงโดนประหารไปแล้ว พอนายท่านมาเป็นสมุหเทศาที่นี่...ท่านก็พาพี่ปานกับแม่มาอยู่ด้วย จนมาซื้อที่ปลูกบ้านทำไร่ที่นี่ ท่านก็ให้พี่ปานคอยดูแลเฝ้าบ้านให้ท่าน ท่านให้ทุกอย่างแม้แต่แม่ท่านก็รับมาอยู่ด้วย ให้เรียนหนังสือ ทำอะไรให้ท่าน ท่านก็ให้เงิน...ปลูกบ้านนี่แหล่ะให้อยู่กัน จนพี่ปานจะมีเมีย แม่ไอ้ดวง ท่านก็ตบแต่งให้...ตั้งนามสกุลให้ด้วยว่า หทัยทิพย์ จะได้เตือนใจพี่ปานว่า ไม่ต้องใจโหดอีกแล้ว พวกเอ็งเข้าใจหรือยังว่า ทำไมพี่ปานถึงได้บูชาเทิดทูนนายท่านอย่างนี้...เอ็งสองคนก็เหมือนกัน. พ่อเอ็งก็เป็นคนงานใน่ไร่นี่แหล่ะ พอพ่อเอ็งตายท่านก็เลี้ยงพวกเราทุกคน มีเงินเดือนกินทุกคน ส่งให้แม่เรียนเย็บผ้าในตลาดจนเลี้ยงตัวเอง บุญคุณท่านล้นหัวพวกเราทุกคน”
ทุกคนนิ่งฟังเงียบอย่างยอมเข้าใจความรู้สึกของกำนันปาน

เวลาต่อเนื่องมา กำนันปานเดินมาถึงบ้านหนานอุยสีหน้าร้อนรน ตะโกนเรียก
“หนานอุย...หนานอุย.”
ทิดอ่วม กับ หนานอุย โผล่หน้าออกมา หนานอุยดีใจที่เห็นกำนันปาน
“กำนัน...ลมอะไรหอบมานี่ล่ะ” ทิดอ่วมถาม
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับหนานอุยหน่อย”
หนานอุยรีบลงมาหากำนันปาน
“ขึ้นมาคุยกันบนบ้านซิกำนัน”
“ขอฉันคุยกับหนานอุยก่อนนะ”
กำนันปานพาหนานอุยเดินไป ทิดอ่วมมองอย่างงงๆ

กำนันปานพาหนานอุยเดินห่างจากบ้านมาคุยกันไม่ให้ใครได้ยิน
“ลุงกำนันมีเรื่องอะไรจะคุยกันฉัน”
“เอ็งรักไอ้ดวงหรือเปล่า”
หนานอุยดีใจมาก
“รักซิลุง...ฉันรักดวงใจมากเท่าชีวิตของฉัน รักมานานแล้วด้วย”
"เอ็งฟังให้ดีนะ เรื่องที่ข้าจะพูดนี่เอ็งต้องสาบานก่อนว่าจะไม่บอกใคร แม้แต่พ่อแม่ของเอ็ง ถ้าเอ็งรักไอ้ดวงจริง เอ็งต้องสาบาน"
"ถ้าเพื่อดวงใจ จะให้ฉันสาบานอะไร ฉันยอมทั้งนั้น"
"เอ็งยืนยันจะแต่งงานกับไอ้ดวงไหม...ถ้ามัน...มัน."
หนานอุยรอฟังลุ้น
"มันอะไรลุงกำนัน ดวงใจเป็นอะไร"
"มันท้องกับคนอื่น"
หนานอุยอึ้งไป
"ว่าไง ถ้าเอ็งไม่แต่งข้าก็ไม่ว่า แต่เอ็งสาบานกับข้าแล้วว่าเรื่องไอ้ดวงจะต้องเป็นความลับ เพราะถ้าเอ็งไปบอกใคร ข้าจะตามฆ่าให้หมด"
หนานอุยสีหน้ากลัว แต่ก็มั่นใจ
"ไม่เป็นไร ดวงใจจะท้องกับใครฉันไม่ว่า ขอให้ฉันได้แต่งงานกับดวงใจ ฉันยอมทุกอย่าง"
"เอ็งจะยอมรับเด็กในท้องไอ้ดวงว่าเป็นลูกของเอ็งไหม"
"ยอมจ้ะ...ฉันจะบอกใครๆ ว่าเด็กในท้องดวงใจเป็นลูกฉัน ลุงกำนันไม่ต้องห่วง ฉันรักดวงใจมาก จะให้ฉันทำอะไรให้ดวงใจ ฉันทำได้ทั้งนั้น ขอให้ได้แต่งงานกับดวงใจ"
กำนันปานพอใจ
"ถ้าอย่างนั้น เราไปบอกพ่อกับแม่เอ็งว่าไอ้ดวงมันท้องกับเอ็ง..วันมะรืน เอ็งยกขันหมากไปได้เลย"

หนานอุยไชโยร้องด้วยความดีใจ จับกำนันปานขึ้นอุ้ม
 
อ่านต่อตอนที่ 12

กำลังโหลดความคิดเห็น