เนื่องจากมีการแก้ไขบทโทรทัศน์ ในระหว่างการถ่ายทำ ทีมงาน "ละครออนไลน์" ต้องขออภัยแฟนๆ มา ณ ที่นี่
เนตรนาคราช ตอนที่ 18 อวสาน แก้ไข
ภายในห้องขังกาญจนา ชาติเดินผ่านลูกน้องที่เฝ้าเปิดประตูเข้าไป กาญจนานั่งอยู่ที่เตียง ชาติคุกเข่าลง
“ผมขอโทษนะที่ทำตามที่คุณบอกไม่ได้ เพราะผมเคยสัญญาและติดค้างเขามากมาย ผมจำได้แค่ว่าผมจะต้องทำ เพราะไม่อย่างนั้นผมจะไม่มีวันมีความสุขได้อีกเลย”
กาญจนากุมมือชาติ
“กาญไม่รู้นะคะว่าคุณกับคุณวาเนสซ่ามีเรื่องอะไรกัน แต่กาญขอร้องนะคะอย่าทำร้าย พี่อัศ พี่รัตน์ คุณอิทธิ คุณโรสเลย เพราะทุกคน เพื่อนรักของคุณ พวกเขาทุกคนรักคุณ จริงใจกับคุณและสามารถตายแทนคุณได้ทุกคน”
ชาติพยายามคิดแต่คิดไม่ออก
“ก็ได้ครับ ถึงผมจะจำพวกเขาไม่ได้ แต่ผมเชื่อทุกคำที่คุณพูด เพราะผมรู้ว่าคุณคือคนที่ดีกับผมและไม่มีวันทำร้ายผม”
กาญจนาซบหน้าลงมาหาชาติจนหน้าผากของทั้งสองแนบกัน น้ำตาไหล
“ขอบคุณนะคะคุณชาติ ขอบคุณค่ะที่คุณเชื่อใจฉัน”
สองคนซบกันนิ่ง
โทรศัพท์มือถือของรัตนากรดังขึ้นเป็นเบอร์ของกาญจนาโทรมา ทุกคนหันมอง อิทธิ โรส รีบวิ่งเข้าไปนั่งที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โรสเคาะแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ สัญญาณหน้าจอติด อิทธิ โรส พยักหน้าให้รัตนากร รัตนากรยกโทรศัพท์ขึ้นรับ
“ว่าไง จะนัดแลกเปลี่ยนกันที่ไหน”
วาเนสซ่ายิ้ม
“เข้าใจง่ายดีนี่ ถ้างั้นเราเจอกันที่สนามบิน วันมะรืนนี้ตอน 9 นาฬิกา 30 นาที”
“แต่ฉันต้องแน่ใจก่อนว่ายัยกาญปลอดภัย”
“เธอคิดว่าฉันจะโง่ ฆ่าตัวประกันก่อนจะได้ของอย่างงั้นหรอ”
“แล้วเธอคิดว่าฉันจะโง่เอาของไปแลกกับคนตายเหรอ”
“ได้ คืนก่อนวันแลกเปลี่ยนฉันจะให้เธอคุยกับคนของเธอ”
“และขอเตือน ถ้ายัยกาญเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว เธอไม่ได้ตายดีแน่”
“ฉันก็ขอเตือนเธอเหมือนกัน ถ้าเธอคิดไม่ซื่อ รับรองได้ว่าเธอก็ได้ศพ โอเค้”
วาเนสซ่าวางหู รัตนากรหันมอง อิทธิ โรส ทั้งสองพยักหน้า
“รู้พิกัดพวกมันแล้วค่ะ”
“แต่มีแฮกเกอร์เข้ามาด้วย”
ทุกคนมองสงสัยว่าใคร
เวลานั้น โจซิงกับจินหัวเปิดคอมพิวเตอร์อยู่เช่นกัน
“เราได้พิกัดของพวกมันทั้งคู่ละ จะเอาไงต่อ” โจซิงถาม
“รีบโทรตามกำลังพล เราจะไม่บุก แต่เราจะรอให้พวกมันกัดกัน แล้วค่อยฉวยจังหวะจัดการพวกมันทั้งสองกลุ่ม แล้วเอาเนตรนาคราชมาเป็นของเรา”
โจซิงยิ้ม
พวกอัศวินประชุมกันต่อ
“ไอ้แฮกเกอร์ที่ว่าเนี่ย ถ้าฉันเดาไม่ผิดน่าจะเป็นโจซิงกับจินหัว” อัศวินบอก
“ไม่ต้องเดาหรอก ต้องเป็นไอ้สองตัวนั้นชัวร์อยู่แล้ว” อิทธิเห็นด้วย
อัศวินเหลือบมอง เห็นหลินมองมาด้วยแววตาขอร้องอยากแก้แค้น รัตนากรเห็น
“ถ้าเป็นอย่างงั้นเราจะเอาไง จะบุกไปชิงตัวยัยกาญกับคุณชาติกลับมา หรือว่าเราควรจัดการไอ้โจซิงและจินหัวก่อน เพื่อเป็นการตัดกำลังของวาเนสซ่าก่อน”
“โรสว่าเราควรบุกไปเอาตัวคุณชาติกับคุณกาญมาก่อนดีกว่า”
“ฉันเห็นด้วย” อิทธิบอก
“นายองเห็นด้วยค่ะ ชีวิตของพี่กาญกับพี่ชาติสำคัญที่สุด”
ทุกคนหันมองอัศวินรอการตัดสินใจ หลินฟังทุกคนแล้วพูดขึ้น
“ผู้กองไม่ต้องอึดอัดค่ะ พวกคุณรีบไปช่วยคุณกาญกับคุณชาติเถอะค่ะ ส่วนพวกจินหัวฉันจัดการเอง”
“ผมไม่ยอมปล่อยให้คุณไปคนเดียวหรอกครับ มันอันตรายเกินไป ฉันว่าเรื่องของน้องกาญกับไอ้ชาติสำคัญ แต่ถ้าบุ่มบ่ามอาจจะทำให้สองคนนั้นตายได้”
ทุกคนคิดตามและเห็นด้วยกับอัศวิน
“อย่าลืมนะ วาเนสซ่าไม่มีทางอยู่คนเดียวแน่นอน แล้วถ้าเกิดไอ้ชาติหันปืนใส่พวกเราล่ะ พวกเราจะทำยังไง”
ทุกคนอึ้ง
“ฉะนั้น ฉันจึงคิดว่าเราควรตัดกำลังของวาเนสซ่าก่อน”
หลินมองอัศวินซึ้งใจ รัตนากรเห็น เจ็บจี๊ด อิทธิ โรส นายอง เห็นด้วยกับอัศวิน
“เหตุผลของแกถูกวะ”
“ถ้าอย่างนี้ พวกเราไปกันเลยไหมคะ” โรสชวน
“งานนี้นายองขอไปด้วยนะคะ”
“ทั้งสามคนอยู่ที่นี่ แล้วรีบทำทุกอย่างตามแผนให้เรียบร้อย ส่วนฉันจะไปกับคุณหลินเอง”
“ถ้างั้นรัตน์จะไปด้วยคะ”
ทุกคนมอง รับรู้ถึงรังสีของรักสามเส้า
รัตนากรเดินมาที่รถ อัศวินเดินตามมา
“รัตน์ รัตน์ เข้าใจพี่ใช่ไหมที่พี่ทำไปทั้งหมดไม่ใช่เพื่อคุณหลินอย่างเดียว”
“รัตน์เข้าใจพี่วินค่ะ แต่รัตน์ก็อดคิดไม่ได้”
“รัตน์ รัตน์ไม่ไว้ใจพี่เหรอ”
“รัตน์ไว้ใจพี่วินคะ แต่รัตน์ไม่สามารถห้ามความรู้สึกตัวเองได้ค่ะ ลองกลับกันนะคะ ถ้าเป็นพี่วินบ้าง พี่วินจะรู้สึกไหมคะ”
“พี่เข้าใจ ขอบคุณนะที่รัตน์รักพี่ แล้วเวลารัตน์เป็นแบบนี้ รู้ป่ะว่าน่ารัก”
“จริงอ่ะ”
อัศวินหอมแก้มรัตนากร หลินแอบมองอยู่ พยายามสงบสติอารมณ์แล้วเดินไปหาทั้งคู่
“พร้อมกันหรือยังคะ”
“ค่ะ”
ทั้งสามขึ้นรถขับออกไป
โจซิง จินหัวเดินออกมาจากแหล่งซ่องสุม มีลูกน้องเดินตาม ทุกคนกำลังจะไปที่รถ อัศวิน รัตนากร หลิน ส่องกล้องมองอยู่ หลินมองจินหัวแค้น
“พวกมันจะไปไหนกัน” รัตนากรสงสัย
“ถ้าไม่ไปจัดการพวกเรา ก็ไปดักรอวาเนสซ่าที่สนามบิน” อัศวินประเมิน
“แล้วจะเอายังไง”
หลิน รัตนากร มองอัศวินรอการตัดสินใจ
“ผมกับรัตน์จะจู่โจมพวกมัน เพื่อดึงความสนใจ คุณหลินรอจังหวะ แล้วจัดการไอ้จินหัวซะ”
หลินพยักหน้า
กลุ่มของจินหัวกับโจซิง เดินกันไปขึ้นรถ
“จำไว้ เนตรนาคราชสำคัญที่สุด” จินหัวย้ำ
“แน่นอน”
ทั้งคู่กำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ เสียงปืนดังขึ้น ลูกน้องร่วงตามเสียงปืน โจซิงกับจินหัวรีบหลบหาที่กำบัง แล้วชักปืนออกมา เสียงปืนดังขึ้นอีก ลูกน้องอีกกลุ่มทรุดลง
โจซิงกับจินหัวมองหน้ากัน ส่งสัญญาณ ทั้งคู่ออกจากที่กำบัง วิ่งไปที่รถของตัวเอง กระสุนปืนยิงใส่พื้น รอบๆ ตัวของทั้งคู่ ทั้งคู่กลิ้งหลบ แล้วยิงสวนไปทางทิศที่ได้ยินเสียงปืน อัศวิน รัตนากร วิ่งเข้ามายิงใส่ ลูกน้องสองคนสุดท้ายร่วงลงพื้น จินหัวกับโจซิงโผล่มาจะยิงสวน แต่หลินยิงขึ้นรอบตัว ทั้งคู่หลบ
“ไอ้อัศวิน”
“นังหลิน”
“ไป”
ทั้งคู่กัดฟันลุกขึ้น ยิงใส่อัศวิน รัตนากร และหลิน ทั้งสามหลบ จินหัวกับโจซิงได้โอกาส วิ่งหนีไปยิงไป
“รัตน์ รีบอ้อมไปดัก”
“โอเค”
“ไป”
อัศวินกับหลินวิ่งตามโจซิง จินหัว ทั้งสองกลุ่มยิงใส่กันสนั่น ขณะที่โจซิงกับจินหัว กำลังถึงปากทางด้านหนึ่ง รัตนากรโผล่ออกมาดัก ทั้งคู่ตกใจ
รัตนากรยิงใส่ทั้งคู่ อัศวินกับหลิน ก็กระหน่ำยิง โจซิง จินหัว กลิ้งหลบ
อัศวิน หลิน รัตนากร ยิงจนปืนค้างสไลด์ โจซิง จินหัว เห็น พลิกตัวขึ้น จะยิงทั้งสาม แต่อัศวินกับรัตนากรรีบพุ่งเข้าชาร์จโจซิง รัตนากรเตะมือโจซิง ปืนกระเด็นหลุดไป
ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง หลินก็กลิ้งหลบลูกปืนที่จินหัวยิง แล้วกระโดดพลิกตัว เตะเข้าที่ข้อมือจินหัว ปืนกระเด็นหลุดไป หลินเข้าประชิด ฟันศอกใส่จินหัว จินหัวกัน ผลักหลินกระเด็นไป
“คุณหลิน ไม่ต้องกังวลทางนี้ จัดการไอ้จินหัวได้เลย”
อัศวินกับรัตนากร รุมซัดโจซิง โจซิงฉากหลบ รัตนากรหมุนตัวเตะ โจซิงแอ่นตัวหลบ อัศวินจะเข้าซ้ำ โจซิงพลิกตัว แล้ววิ่งเข้าหากำแพง พอถึงกระโดด หมุนเตะอัศวินที่วิ่งตามมา อัศวินฉากตัวหลบ หมุนฟาดเข้าหน้าโจซิง
หลินซัดกับจินหัวสักครู่ ได้จังหวะ หมุนตัวชักมีดสั้นออกมา แล้วพุ่งเข้าใส่จินหัว จินหัวพยายามปัดป้อง แต่โดนมีดหลายแผล
อัศวินกับรัตนากร ยังคงรุมกระหน่ำโจซิง ทั้งคู่โดนโจซิงบ้าง โจซิงโดนทั้งคู่บ้าง เห็นว่าสูสี หลินได้โอกาส สะบัดมีดกรีดเข้าข้อมือจินหัว จินหัวร้องลั่น หลินยิ้มสะใจ แล้วสะบัดมีดโถมใส่จินหัวอีกครั้ง ทั้งสองซัดกันสักครู่ หลินได้โอกาส ย่อตัวลงกรีดเข้าที่ข้อเท้าจินหัว จนเส้นเอ็นทั้งสองข้างขาด จินหัวทรุดลง หลินตามเข้าไป กระชากมือที่เหลือ แล้วตัดเส้นเอ็นที่ข้อมือ จินหัวร้องลั่น หลินจิกผมจินหัว ไม่ให้ล้ม
“คนชั่วอย่างแก ต้องตายอย่างทรมาน และสาสมที่สุด”
หลินใช้มีดสั้นกรีดเข้าเส้นเลือดใหญ่ที่คอจินหัว เลือดพุ่งกระจาย หลินถอยพร้อมถีบจินหัวล้มลงไปนอนกองที่พื้น จินหัวล้มลง กระตุก พยายามอุดปากแผลที่คอ แต่มือขยับไม่ได้เพราะเส้นเอ็นขาด หลินยิ้ม แล้วหันกลับไปดูทางอัศวิน
โจซิงรับเท้าอัศวินที่ถีบเต็มอก แล้วใช้จังหวะนั้นเซถลาถอยไปทางรัตนากร ย่อตัวหลบ รัตนากรเตะสวนมา โจซิงเตะกวาดใส่ รัตนากรล้มลง โจซิงเห็นเป็นโอกาสรีบวิ่งหนี รัตนากรพลิกตัววิ่งตาม ทันใดนั้น มีดสั้นของหลินผ่านหน้ารัตนากรปักเข้ากลางหลังโจซิง โจซิงทรุดลง
“ไม่ต้องขอบคุณฉัน รีบจัดการมันเร็ว”
อัศวิน รัตนากร รีบตามไปซ้ำโจซิง โดยมีหลินตามมาติดๆ โจซิงพยายามสู้เหมือนสุนัขจนตรอก แต่เพราะบาดเจ็บทำให้เคลื่อนไหวไม่ถนัด จึงโดนอัศวิน กับรัตนากรซัด หลินตามไปซ้ำ แต่สุดท้าย อัศวินได้จังหวะ หมุนตัวซัดโจซิงเต็มๆ โจซิงกระเด็นเข้าฝาผนัง ถูกเหล็กทิ่มหลังทะลุอก ทำให้ร่างแขวนอยู่ โจซิงกระอักเลือด
“ขอร้อง ช่วยให้ข้าพ้นความทรมานที”
อัศวินมอง แล้วค่อยๆ หยิบปืนส่งให้โจซิง
“ฉันช่วยนายได้แค่นี้แหละ”
โจซิงรับปืนไป แต่กลับขยับปืนจะยิงอัศวิน รัตนากรตกใจ
“พี่วินระวัง”
อัศวินหันมาเห็น ตกใจ โจซิงกำลังเหนี่ยวไก กระสุนเจาะเข้าร่างโจซิง 5 นัดซ้อน โจซิงขาดใจตาย อัศวิน กับรัตนากรหันไปมอง เห็นหลินถือปืน เขม่าปืนกรุ่นที่ปากกระบอก
“ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยชีวิตผม”
หลินลดปืนลง ยิ้ม
“แล้วคุณจะตอบแทนฉันยังไงล่ะ”
อัศวิน ไม่มีคำตอบ รัตนากรอึ้งกับคำพูดนั้น
“ถ้ายังตอบไม่ได้ ระวังฉันจะเป็นคนเรียกร้องเองนะคะ”
หลินเดินออกไป จินหัวกำลังเจ็บปวดทรมาน และกลัวความตายที่กำลังมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
รถของวาเนสซ่า ชาติ กาญจนา และลูกน้องวิ่งเข้าด้านหน้าโรงเก็บเครื่องบิน ส่วนรถของอัศวิน รัตนากร อิทธิ โรส หลิน วิ่งเข้ามาอีกด้าน
อัศวิน รัตนากร อิทธิ โรส หลิน ลงจากรถ ลูกน้องวาเนสซ่า การ์ด ลงจากรถ แล้วเปิดประตูให้วาเนสซ่าก้าวลงมา
“เนตรนาคราชอยู่ไหน”
“แหม ห่วงแต่ธุรกิจ จนไม่มีเวลาทักทายกันเลยหรอครับ” อิทธิกระเซ้า
“ฉันมาทำธุรกิจ ไม่ได้มาพบมิตรสหาย ที่สำคัญ ฉันไม่อยากมาพบพวกคุณด้วย”
“แล้วคนของผมล่ะ” อัศวินถาม
วาเนสซ่ายิ้ม แล้วดีดนิ้ว ชาติ พากาญจนาลงมาจากรถ ทุกคนมอง
“กาญ กาญไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“แล้วเนตรนาคราชล่ะ”
โรสกับหลิน หยิบกล่องใส่เนตรนาคราชออกจากท้ายรถ แล้วส่งให้อัศวิน อัศวินรับมาแล้วเปิดฝา พลิกให้วาเนสซ่าดู วาเนสซ่ายิ้ม ตาเป็นประกาย
“เอาเนตรนาคราชมาให้ฉัน แล้วทันทีที่เครื่องบินขึ้น คุณชาติจะปล่อยคนของคุณ”
อัศวิน รัตนากร มองกาญจนา กาญจนานึกถึงเรื่องราวที่ได้ยินวาเนสซ่ากับชาติคุยกันก่อนหน้านี้
“คุณช่วยคุมตัวผู้หญิงนี่ไว้ หลังจากที่วาเนสได้เนตรนาคราชแล้ว คุณจะทำอะไรก็ตามใจ”
“แค่นี้ใช่มั้ย”
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก แต่ถ้าระหว่างการแลกเปลี่ยน พวกมันตุกติก คุณก็ยิงมันทิ้งซะ แล้วเราก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน”
ชาติมองไม่ตอบ วาเนสซ่าจ้องมอง สายตาขอร้อง
“ก็ได้ ผมจะทำตามนั้น”
กาญจนาพยายามบอกเรื่องราวทั้งหมดทางสายตา อัศวิน รัตนากรรับรู้ มองหน้ากัน
“ก็ได้ คุณมาเอาเนตรนาคราชไปได้เลย” อัศวินบอก
“ไม่ คุณนั่นแหละ เดินเอาเนตรนาคราชมาวางตรงกลาง แล้วฉันจะส่งคนไปเอา”
อัศวินจ้องวาเนสซ่า วาเนสซ่าจ้องตอบยืนยันความคิดตัวเอง
“โอเค ตกลงตามนั้น”
อัศวินเดินออกไป ลูกน้องวาเนสซ่าไม่มั่นใจ จ่อปืนไปที่อัศวิน อัศวินเดินไปเรื่อยๆ ถึงตรงกลางระหว่างสองกลุ่ม ค่อยๆ ย่อตัวลง วางกล่องลงพื้น ใต้กล่อง นิ้วอัศวินกดปุ่ม
อัศวินวางกล่องเนตรนาคราชเสร็จ ค่อยๆ ถอยออกมา วาเนสซ่าหันไปมองการ์ด การ์ดเดินออกไปหยิบกล่องเนตรนาคราช แล้วหยิบมาให้วาเนสซ่า ระหว่างนั้น อัศวิน รัตนากร อิทธิ โรส หลิน ล้วงมือไปในเสื้อ การ์ดส่งกล่องให้วาเนสซ่า
“ฉันขอเช็คของก่อน”
“เชิญ”
อัศวินหันมากระซิบกับพวกตัวเอง
“เตรียมจู่โจม”
ทุกคนพูดเบาๆ
“ทราบ”
วาเนสซ่าค่อยๆ เปิดฝากล่องใส่เนตรนาคราชขึ้น ทันทีที่ฝากล่องเปิดสุด ควันจากแก๊สน้ำตาที่ซ่อนอยู่ในกล่อง พุ่งออก ฟุ้งตลบ กระจายทั่วกลุ่มวาเนสซ่า วาเนสซ่าสูดเข้าไปเต็มที่ น้ำตาไหล จังหวะนั้น
พวกอัศวิน รีบดึงหน้ากากกันแก๊สพิษออกมาใส่ แล้วเปิดฉากยิงใส่พวกวาเนสซ่า
อ่านต่อหน้า 2
เนตรนาคราช ตอนที่ 18 อวสาน แก้ไข (ต่อ)
ชาติรีบพุ่งไปคว้าตัววาเนสซ่า แล้วดึงถอยหลังออกมา กาญจนารีบทรุดตัวลงต่ำ หมอบนิ่งกับพื้น เพื่อให้พ้นวิถีกระสุนของพวกอัศวิน พวกอัศวินบุกเข้ายิงถล่ม ลูกน้องและการ์ดที่เหลือตายหมด
“รัตน์ คุณโรส รีบไปเอาเนตรนาคราชมาก่อน”
รัตน์กับโรสรีบวิ่งไปที่กล่อง ชาติรีบพาวาเนสซ่าวิ่งไปที่เครื่องบิน พร้อมหันมายิงใส่พวกอัศวินที่วิ่งตามมา กาญจนาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เป็นห่วงพวกอัศวิน และชาติ จึงตัดสินใจลุกขึ้นตะโกน
“อย่ายิง”
ระหว่างที่ตะโกน กาญจนาวิ่งฝ่าแนวกระสุนของชาติ ขวางตรงกลาง ชาติหยุดยิง พวกอัศวินก็หยุดยิง ชาติหันไปบอกวาเนสซ่า
“รีบขึ้นเครื่องไป ผมจะสกัดไว้เอง”
ชาติดันวาเนสซ่าไปทางเครื่องบิน พวกอัศวินเห็น แต่ยิงไม่ได้ เพราะกาญจนาขวางอยู่ ทั้งหมดจึงวิ่งตามวาเนสซ่า ชาติเห็นจึงโถมเข้าหากลุ่มอัศวิน ชาติวิ่งได้ระยะ ก็กระหน่ำยิงใส่พวกอัศวินแบบลืมตาย พวกอัศวินวิ่งเข้าปะทะ
“คุณหลิน จับตัววาเนสซ่าไว้”
“ได้”
หลินวิ่งตามไป ชาติเห็น อิทธิเตะชาติ ชาติเซ กลิ้งตัวลงพื้น เตะตัดขาหลิน หลินเซ ชาติลุกขึ้นใส่หลินไม่ยั้ง หลินปัดป้อง อัศวิน รีบตามไปช่วยหลิน อิทธิไปจับวาเนสซ่า แต่โดนชาติกันทั้งสามไว้
รัตนากร และโรส ได้กล่องเนตรนาคราชมา แล้วรีบวิ่งไปที่กาญจนา
“กาญ กาญเป็นไงบ้าง”
“กาญไม่เป็นไรค่ะ”
“คุณโรส เอากล่องเนตรนาคราชไปเก็บที่รถนะคะ”
“ได้ค่ะ”
โรสพากาญจนาวิ่งไปที่รถพร้อมกล่อง รัตนากรรีบวิ่งตามวาเนสซ่าไป
วาเนสซ่าวิ่งไปเกือบถึงเครื่องบิน ที่พร้อมออก พวกอัศวินเห็น
“ฉันว่ารีบน็อคไอ้ชาติก่อน” อัศวินบอกอิทธิ
“ฉันก็ว่างั้นแหละ”
ทั้งสองกระหน่ำใส่ชาติ ชาติได้แต่ปัดป้อง
วาเนสซ่าวิ่งมาถึงเครื่องบิน
“เร็วครับ”
วาเนสซ่ารีบปีนขึ้นเครื่องบิน รัตนากรวิ่งตามมา เห็น ยิงสกัด วาเนสซ่าหลบไปมา
ชาติโดนพวกอัศวินกระหน่ำ แต่ก็กัดฟันสู้ตาย เพื่อประวิงเวลาให้วาเนสซ่า อัศวินกับหลินบุกโถมเข้าใส่ชาติไม่ยั้ง จนชาติเซ อิทธิได้โอกาส วิ่งเข้ามา อัศวินเห็น ย่อตัวตั้งเข่าขึ้น อิทธิกระโดดขึ้นหน้าขาแล้วโดดตัวลอยไปสะบัดเตะชาติเต็มแรง ชาติหน้าสะบัด กระเด็นลง หัวกระแทกพื้น สลบไป อิทธิรีบเข้าไปประคองชาติ
“ชาติ ไอ้ชาติ”
ชาติไม่รู้สึกตัว อัศวิน หลิน รีบวิ่งไปช่วยรัตนากร
รัตนากรวิ่งไป ยิงไป จนปืนค้างสไลด์ ขณะจะเปลี่ยนแมกกาซีน วาเนสซ่าได้โอกาส ชักปืนยิงใส่ รัตนากร อัศวิน และหลิน ตามมา ทั้งสามกลิ้งหลบ ขณะยิงไป วาเนสซ่าปีนขึ้นเครื่องบินไป ทันทีที่เธอขึ้นเครื่องบินได้ นักบินรีบออกเครื่อง พวกอัศวินลุกขึ้น วิ่งไล่ตาม พร้อมยิงไปด้วย
ภายในเครื่องบิน นักบินโยกคันเร่งเพิ่มความเร็ว เครื่องบินวิ่งเร็วขึ้น จนทิ้งห่าง พวกอัศวินยังคงยิงใส่เครื่อง นักบินเร่งเครื่องเต็มพิกัด อัศวินวิ่งสุดฝีเท้า หัวเครื่องบินเชิดขึ้น โดยมีพวกอัศวินวิ่งตามหลังในระยะไกล วาเนสซ่ายิ้ม เครื่องทะยานขึ้นสู่อากาศ พวกอัศวินมองตาม เหนื่อยหอบ วาเนสซ่ามองลงมา เห็นชาตินอนสลบนิ่ง เธอน้ำตาไหล
“ขอบคุณมากนะคะชาร์ล”
ชาตินอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มีนายองนอนเฝ้าอยู่ข้างๆ อัศวิน รัตนากร อิทธิ โรส กาญจนา หลิน และหมอ ยืนคุยกันถัดไป
“อาการภายนอก ผมเช็คแล้วนะครับไม่มีอะไร แต่ยังไง ต้องรอคนไข้ฟื้น แล้วเราจะเช็คกันอีกที ว่าสมองที่ได้รับการกระทบกระเทือนจะมีผลอย่างไรบ้าง”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
“กาญ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณชาติ”
รัตนากรถาม กาญจนาอึ้ง
บนเครื่องบิน วาเนสซ่าครุ่นคิดถึงเรื่องในอดีต เป็นเหตุการณ์ภายในโบสถ์แห่งหนึ่ง เสียงบาทหลวงถามขึ้น
“ท่านจะรับผู้หญิงคนนี้”
ชาติในชุดสูทสีฟ้าอ่อน ยืนอยู่ข้างๆ วาเนสซ่าในชุดเจ้าสาวสีขาว โดยมีบาทหลวงทำพิธีแต่งงานให้ ชาติยิ้ม จ้องมองวาเนสซ่า
“ครับ ผมจะรัก และซื่อสัตย์กับเธอตลอดไป”
วาเนสซ่ายิ้ม มีความสุข
“แล้วลูกล่ะ จะรับผู้ชายคนนี้เป็นสามีมั้ย”
“ค่ะ ลูกจะรัก และซื่อสัตย์กับชาร์ลตลอดไป”
ชาติยิ้ม มีความสุข โน้มตัวจะจูบวาเนสซ่า วาเนสซ่าเงยหน้าขึ้น รอรับจูบจากชาติ ขณะที่ริมฝีปากทั้งสองกำลังจะสัมผัสกัน
“หยุด ฉันไม่ยอมให้แกแต่งงานกับไอ้กระจอกนี่หรอก”
ทั้งคู่หันไปมอง เห็นพ่อวาเนสซ่า มาพร้อมการ์ดคนสนิท และลูกน้องหลายคน ทั้งหมดเดินตรงมาที่ทั้งสอง
“แต่วาเนสรัก และอยากใช้ชีวิตร่วมกับชาร์ลค่ะ”
พ่อตบหน้าวาเนสซ่า
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย แกไม่รู้เหรอว่าแกเป็นใคร”
“ผมขอร้องนะครับท่าน เราสองคนรักกัน ผมสัญญานะครับ ว่าผมจะดูแลวาเนสให้ดีที่สุด เท่าที่ชีวิตนี้ผมจะทำได้”
ทันทีที่พูดจบ การ์ด และลูกน้องก็เข้าล็อคตัว การ์ดคนหนึ่งชกท้องชาติอย่างแรง
“คนอย่างแกเหรอ จะดูแลลูกสาวฉันได้ แกรู้มั้ย ว่าวาเนสเป็นใคร อาณาจักรของฉันมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน ชีวิตที่มีค่าน้อยกว่าหมาอย่างแก ต่อให้หลับตาฝัน แกยังฝันได้ไม่ถึงครึ่งที่ลูกสาวฉันมีเลย”
“หนูไม่สนสมบัติของพ่อ พ่อปล่อยหนูได้มั้ย ชีวิตนี้หนูมีแค่ชาร์ล หนูก็มีความสุขแล้ว”
“แกรักมันมากใช่มั้ย”
“มากกว่าชีวิตหนู”
“ถ้ามันตาย แกก็คงจะเลิกบ้าได้ซะทีใช่มั้ย”
พ่อหันไปส่งสัญญาณกับลูกน้อง ลูกน้องที่เหลือล็อคตัววาเนสซ่าไว้ ส่วนพวกการ์ดรุมกระหน่ำใส่ชาติไม่ยั้ง วาเนสซ่าน้ำตาไหล
“หยุด พอได้แล้ว หยุดซะที พ่อ หนูขอร้อง”
“หยุด”
พ่อสั่งลูกน้อง ชาติแทบสลบคาหมัด สภาพยับเยิน พ่อวาเนสซ่าผายมือออกไป ลูกน้องคนสนิท ส่งปืนให้ พ่อกระชับปืน แล้วเล็งไปที่ชาติ
“แกดูไว้ ฉันจะยิงมันให้ตายเดี๋ยวนี้ แล้วฉันก็อยากจะรู้ว่า แกจะขาดใจตายตามมันไปมั้ย”
พ่อค่อยๆ เหนี่ยวไกปืน
“อย่าค่ะ อย่ายิง หนูยอมทุกอย่างแล้ว พ่ออย่ายิงชาร์ลนะคะ
เปรี้ยง ฝุ่นกระจายขึ้นข้างตัวชาติ
“แกจำไว้นะ ว่าแกพูดอะไรกับพ่อไว้ ถ้าแกผิดสัญญา ไม่ว่ามันจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ฉันจะ
จับมันมาให้แกฆ่ามันด้วยมือของแกเอง”
“ค่ะ หนูสัญญา”
ทั้งคู่น้ำตาไหล
“ก่อนที่จะไป หนูขอพูดอะไรกับชาร์ลได้มั้ยคะ”
พ่อพยักหน้า วาเนสซ่าสะบัดหลุดจากการ์ด แล้วพุ่งเข้าหาชาติ คุกเข่าตรงหน้าชาติ แล้วใช้สองมือประคองหน้าชาติไว้
“ชาร์ล จำไว้นะคะ ว่าวาเนสจะรักชาร์ลตลอดไป”
“ผมก็เหมือนกันครับ ผมจะไม่มีวันลืมคุณ”
“ขอบคุณนะคะ สำหรับเวลาดีๆ ที่คุณมอบให้วาเนส วาเนสมีความสุขที่สุดที่ได้อยู่กับคุณ วาเนสจะจดจำทุกวินาทีที่ได้อยู่กับคุณตลอดไปค่ะ”
วาเนสซ่าจูบชาติเบาๆ
“ผมสัญญานะครับวาเนส ไม่ว่าวันใดก็ตาม ที่คุณอยากให้ผมทำอะไรเพื่อคุณ ผมจะทำให้คุณ แม้ว่ามันจะต้องแลกด้วยชีวิตผมก็ตาม”
วาเนสซ่าน้ำตาไหล ชาติขยับเข้าจะจูบวาเนสซ่าครั้งสุดท้าย ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน พ่อก็ดึงวาเนสซ่าลุกขึ้น แล้วเตะหน้าชาติเต็มแรง
ชาติผวา ตะโกนลั่นห้องคนไข้
“วาเนส!!”
ทุกคนตกใจรีบวิ่งไปที่ห้องชาติ พอไปถึงกาญจนาก็รีบเข้าคว้าตัวชาติ
“คุณชาติเป็นอะไรคะ”
บนเครื่องบิน วาเนสซ่าดูรูปแต่งงานของเธอกับชาติ
“ฉันยังรักคุณนะคะชาว์ล”
วาเนสซ่าค่อยๆ เอารูปใส่กระเป๋าด้านในสูท ที่อยู่ใกล้ๆ หัวใจ
“และคุณจะอยู่ในนี้ตลอดไป”
วาเนสซ่ากุมรูปที่อยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย หลับตาลงช้าๆ
ทุกคนอึ้งที่รู้ความจริง เรื่องระหว่างชาติกับวาเนสซ่า
“อย่าคิดมากเลยนะคะ เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว และพวกเราทุกคนก็เข้าใจและไม่โกธรคุณเลย” กาญจนาปลอบ
“ใช่คะ อย่าคิดมากนะคะ” โรสช่วยพูดด้วย
“และตอนนั้นแกก็จำอะไรไม่ได้ จำได้แค่เรื่องที่มันฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของแก” อัศวินช่วยพูด
“เลิกคิดเถอะวะ หมามองเครื่องบินยังไงเครื่องบินก็ไม่ตก แกโชคดีตั้งเท่าไหร่แล้วที่เห่าจนเครื่องตก แต่ดันเจอเจ้าของ”
อิทธิจะเข้าไปตบบ่าเพื่อนปลอบใจ แต่ทันทีที่มือเกือบถึงบ่าชาติ อิทธิรีบหยุด ชาติหันมายิ้มแล้วคว้ามืออิทธิมากระชับ เสร็จแล้วก็คลายออกเอากำปั้นมาชนกัน ทุกคนยิ้มดีใจที่ความจำของชาติคืนมาแล้ว
“เย้ย พี่ชาติจำได้แล้ว” นายองร้องดีใจ
“ดีใจด้วยนะเพื่อน”
ชาติมองอิทธิงงๆ
“เออ ขอโทษนะนายชื่ออะไร”
“อ้าว”
ทุกคนเหรอหรา แต่ไม่เครียดมาก เพราะอย่างน้อยวันนี้ชาติก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
“อย่างงี้ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวก็จำได้ว่าเคยรักเรา”
รัตนากรแซว กาญจนาเขิน
“พี่รัตน์อ่ะ”
ทุกคนเบิกบานยิ้มแย้มให้กัน
อ่านต่อหน้า 3
เนตรนาคราช ตอนที่ 18 อวสาน แก้ไข (ต่อ)
ทุกคนนั่งคุยกันในร้านกาแฟใกล้โรงพยาบาล
“อีก 2 วัน ก็จะเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11แล้ว ยังไงเราก็เอาเนตรนาคราชคืนสู่เจ้าของตามเวลาที่กำหนด" รัตนากรบอก
“ถ้าเป็นไปได้ พี่อยากเดินทางพรุ่งนี้เลย ยิ่งส่งคืนเจ้าของเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ” โรสบอก
“แกจะไม่รอไอ้ชาติเหรอวะ”
“นั่นสิ รัตน์ว่าทุกคนต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน เราก็น่าจะได้นำเนตรนาคราชไปคืนเจ้าของเดิมด้วยกัน”
“ก็จริง แต่ก็ไม่คิดเลยนะว่าที่ผ่านมา พวกเราเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย เรื่องบางเรื่องก็เหลือเชื่อเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ด้วยซ้ำ”
“ถูก มันเพ้อเจ้อยิ่งกว่าละครทีวีที่ฉันดูอีกว่ะ” อิทธิบอก
“ใช่ค่ะ ฉันก็ไม่คิดนะว่าสิ่งที่เราพบ ทั้งป่าวิญญาณ ทั้งเผ่ากินคน แล้วก็ไฟนาคราชพวกนี้ จะมีอยู่จริง ถ้าไปเล่าให้ใครฟัง เขาคงคิดว่าเราบ้า” โรสทึ่งกับเรื่องที่ผ่านมา
“ดีไม่ดี จะหาว่าเราเป็นพวกแต่งนิยายหลอกเด็กซะด้วยซ้ำไป”
อิทธิเห็นด้วยกับโรส รัตนากรหัวเราะ
“หรือว่า พวกเรามาช่วยกันเขียนเป็นบทละครดีมั้ย ดีไม่ดีเรื่องแบบนี้อาจจะเรียกเรตติ้งถล่มทลายเลยก็ได้”
ทุกคนขำๆ
“เพ้อเจ้อนะเราอ่ะ” อัศวินแซว
“ฉันขอบคุณ คุณอัศวิน และคุณรัตนากรมากนะคะ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง” โรสบอก
“อ้าวน้องสาว พูดยังกะจะไปไหน เหมือนจะลากันเลย” รัตนากรท้วง
“ใช่ค่ะ ถ้าเรานำเนตรนาคราชคืนเจ้าของเดิมเสร็จ โรสจะแยกกลับอเมริกาเลย”
รัตนากรมองหน้ากับอัศวิน อิทธิอึ้ง
ตกตอนค่ำ กาญจนาเข็นรถวิวแชร์ให้ชาตินั่งชมบรรยากาศสวนหย่อมในโรงพยาบาล
“คุณจำได้มั้ยคะ คืนนั้น เราก็อยู่กันสองคนแบบนี้ แล้วก็มีเสียงนกร้อง คุณยังสอนให้กาญฟังเสียงนกต่างๆ เลย รวมถึง นกซามู”
กาญจนาพยายามเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาให้ชาติฟัง
โรสยืนเหม่อลอยมองออกไปข้างหน้า อิทธิเดินมาหา
“คุณไม่ไปไม่ได้หรอ”
“คุณก็รู้ ถ้าฉันอยู่ต่อไป เราทั้งสามคน ก็จะเจ็บไปด้วยกัน และฉันก็ทนเห็นคนที่ฉันรัก อยู่อย่างไม่มีความสุขไม่ได้”
อิทธิอึ้ง พูดไม่ออก
“ปล่อยโรสไปเถอะนะคะคนดี คุณอยู่ที่นี่ อยู่ให้ดีๆ อยู่ให้มีความสุขนะคะ”
โรสจับหน้าอิทธิเบาๆ
“ลาก่อนค่ะที่รัก”
โรสน้ำตาไหล แล้วค่อยๆ บรรจงจูบอิทธิอย่างนุ่มนวล นายองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด น้ำตาไหล
นายองสะพายกระเป๋าเดินออกจากโรงพยาบาล มองหาแท็กซี่ น้ำตาไหลพราก นึกถึงคำพูดของพรานเมิง
“รักเขาอยู่ห่างๆ ดีกว่า อยู่ใกล้ๆ แล้วเขาไม่สนใจเราแบบนี้ เอ็งว่ามันเหนื่อยมั้ยวะ”
นายองพูดกับตัวเองเบาๆ
“ขอให้พี่อิทธิมีความสุขนะจ๊ะ”
นายองโบกแท็กซี่
“ไปหัวลำโพงค่ะ”
แท็กซี่พยักหน้า นายองดึงประตูกำลังจะปิด แต่ปิดไม่ได้ เธอเงยหน้ามอง เห็นโรสขวางประตูไว้
รัตนากรนั่งซบไหล่อัศวินอยู่ริมน้ำ ในบรรยากาศสบายๆ
“พี่ขอโทษรัตน์นะที่ทำให้รัตน์อึดอัด และไม่สบายใจ แต่หลังจากที่ลอยเนตรนาคราชแล้ว หลินบอกว่า เธอจะกลับฮ่องกง”
“แล้วพี่วินไม่เสียดายเหรอคะ”
“พี่จะเสียดายทำไมล่ะ เพราะเดี๋ยวคุยกับรัตน์เสร็จ ก็จะบินตามไปW
รัตนากรผลักอัศวิน แล้วลุกขึ้น
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิ แน่ใจมาก”
“ถ้างั้นก็ขอให้พี่วินมีความสุขค่ะ”
อัศวินขยับตัวคุกเข่า
“แต่งงานกับพี่นะคนดี”
รัตนากรอึ้ง คาดไม่ถึง อัศวินค่อยๆ ลุกขึ้น
“พี่สัญญานะ ว่าพี่จะรัก และทำให้รัตน์มีความสุขตราบเท่าที่พี่ยังหายใจ”
ทั้งสองจูบกัน
โรสเดินนำนายองเข้ามา แล้วหันมาพูดกับนายอง
“นายองไม่ต้องไปหรอกนะ พี่จะเป็นคนไปเอง”
“ทำไมล่ะจ๊ะพี่โรส”
“ถ้าพี่อยู่ นายองกับคุณอิทธิก็จะไม่มีความสุข นายองอยู่ที่นี่ อยู่กับพี่อิทธิ ดูแลพี่อิทธิให้ดีนะจ๊ะ”
“แต่พี่อิทธิเขารักพี่โรสนะ”
“พี่รู้จ้ะ และพี่ก็รักนายองด้วย แต่ถ้าเราจะรักใครสักคน เราก็อยากให้คนที่เรารักมีความสุขไม่ใช่เหรอ แล้วพี่ก็เชื่อว่านายองรักคุณอิทธิ ไม่ได้น้อยไปกว่าพี่หรอก”
นายองอึ้ง พูดไม่ออก
“ถ้าอยู่แล้วต้องทรมานกันทั้งสามคน พี่ขอเป็นคนเดินออกไปเองดีกว่า พี่เก่งนะ ดูแลตัวเองได้ แต่นายองสิ นายองต้องการคนที่รัก ห่วงใย และคอยดูแลนายอง”
“พี่โรส”
โรสเอามือแตะปากนายองเบาๆ ไม่ให้พูด
“ไม่ต้องห่วงพี่ พี่ดูแลตัวเองได้ นายองต้องรักพี่อิทธิมากๆ นะรู้มั้ย ดูแลพี่อิทธิดีๆ ล่ะ ถ้าเขาเครียด นายองต้องหาเรื่องทะเลาะ ไม่ต้องบอกรักเขาบ่อยๆ เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายหวาน พี่อิทธิเขาชอบคนที่เข้าใจ คิดทันเขา เวลาเขาพูดเรื่องลามก นั่นแหละ เขากำลังบอกชอบนายอง เขาเป็นคนวู่วาม ใจร้อน ชอบลุย นายองต้องไปกับเขานะ คอยเตือนเขา แล้วก็คอยเป็นตาหลังให้เขา เพราะพี่อิทธิเขาจะชอบมุ่งไปแต่ข้างหน้า ไม่มองข้างหลัง พี่อิทธิเขาไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่นายองเห็นหรอกนะ เขาอ่อนไหว ต้องการคนดูแล และคนที่คอยอยู่เคียงข้าง”
โรสน้ำตาร่วง นายองยิ่งฟังยิ่งอึ้ง เพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย
“รักพี่อิทธิมากๆ รักเขาแทนพี่ด้วย กลับไปหาพี่อิทธิ แล้วทำให้พี่อิทธิมีความสุข พี่ไปก่อนนะ”
โรสเดินออกไป นายองลุกขึ้น พุ่งเข้ากอดโรสจากด้านหลัง
“พี่โรสอย่าไปเลยนะ นายองรู้แล้วว่าทำไมพี่อิทธิถึงรักพี่โรส พี่โรสอยู่กับพี่อิทธิเถอะนะจ๊ะ”
“ทำไมนายองพูดอย่างงั้นล่ะ”
“นายองเข้าใจแล้ว ว่าความรักที่แท้จริงมันคืออะไร นายองไม่สามารถรักพี่อิทธิได้อย่างที่พี่โรสรัก พี่โรสต่างหากที่ควรอยู่กับพี่อิทธิ”
“แต่นายองก็รู้ใช่มั้ย ถ้านายองจากไป พี่อิทธิก็คงไม่มีความสุขเหมือนกัน”
“จ้ะ นายองรู้ นายองรู้ว่าพี่อิทธิยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อ แต่พี่โรสไม่ต้องห่วงนะ นายองเข้าใจแล้ว นายองจะอยู่กับพี่ทั้งสองคน แล้วขอเป็นน้องสาวแบบนี้ได้มั้ยจ๊ะ”
โรสยิ้ม ดึงนายองเข้ามากอด
“ได้สิ น้องสาว”
ทั้งคู่กอดกันแน่น ยิ้มมีความสุข
อ่านต่อหน้า 4
เนตรนาคราช ตอนที่ 18 จบบริบูรณ์ แก้ไข
ชาตินอนหลับอยู่บนเตียง รัตนากรคุยกับกาญจนาที่ห้องรับรองในห้องผู้ป่วย กาญจนากุมมือพี่สาวแน่น ดีใจมาก
“จริงเหรอคะพี่รัตน์ กาญคิดว่าจะเสียพี่อัศให้คุณหลินไปซะแล้ว”
“ร้ายนะเราเนี่ย”
“แต่งเสร็จ พี่รัตน์จะอยู่ที่นี่ หรือไปอยู่อเมริกาคะ”
“ก็ต้องอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเราน่ะสิ ถ้าคุณชาติตื่นขึ้นมา แล้วยังจำเราไม่ได้ เดี๋ยวมีบางคนร้องไห้ขี้มูกโป่ง แล้วจะไม่มีใครปลอบ”
“พี่รัตน์อ่ะ”
“ล้อเล่นน่า เชื่อพี่สิ อีกไม่นาน คุณชาติก็จะกลับมาจำทุกอย่างได้ โดยเฉพาะน้องสาวสวยๆ หน้ากลมๆ แบบนี้เนี่ย ไม่มีผู้ชายคนไหนลืมได้หรอก”
ชาติเห็นกาญจนา ยิ้มตาเป็นประกาย
อัศวินกำลังเดินกลับไปที่ห้องพักของชาติ หลินมาดักรอ
“ขอคุยหน่อยได้มั้ยคะ ผู้กอง”
“ได้สิครับ”
“ฉันขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และความเชื่อใจที่ผู้กองมีให้ฉัน”
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ เพราะคุณหลินเอง ก็ทำให้พวกเรามากมายเช่นกัน”
“คืนพรุ่งนี้ ผู้กองพอมีเวลามั้ยคะ”
“ทำไมเหรอครับ”
“ฉันขอเลี้ยงอาหารผู้กองสักมื้อ เพื่อเป็นการขอบคุณจะได้มั้ยคะ”
“เอ่อ คือ”
“นะคะผู้กอง นั่นคือสิ่งที่ฉันจะขอผู้กอง ผู้กองทำให้ฉันได้มั้ยคะ คืนพรุ่งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ที่ฉันจะได้พบกับคุณ และรับรองนะคะว่าฉันจะไม่พูดอะไรที่ทำให้เสียบรรยากาศ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ได้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
อัศวินเดินออกไป หลินยิ้ม มองอัศวินอย่างหลงใหล
อิทธิยืนเหม่อมองไปข้างหน้า คิดถึงเรื่องราวระหว่างเขากับโรส น้ำตาไหล
“พี่อิทธิ”
อิทธิรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันมา
“นายองมีอะไรจ๊ะ”
นายองคว้ามืออิทธิ
“พี่อิทธิ ไปกับนายองเร็ว”
“เดี๋ยวๆๆ นายองบอกพี่ก่อน ว่านายองมีเรื่องอะไร”
“นายองมีของขวัญชิ้นพิเศษจะมอบให้พี่อิทธิจ้ะ”
“จะให้ของขวัญพี่เนื่องในโอกาสอะไรเนี่ย”
“อย่าถามมากได้มั้ยล่ะ นายองบอกว่าเป็นของขวัญ ถ้าบอกก่อนพี่อิทธิก็ไม่สไปรซ์น่ะสิ”
“เซอร์ไพรส์ นายอง”
“นั่นแหละๆ ถามจัง ตามมายองมาเถอะน่า”
นายองลากอิทธิออกไป อิทธิอึ้ง เมื่อเห็นโรสยืนหันหลังอยู่ ข้างตัวมีกระเป๋าใบใหญ่
“สไปรซ์มั้ยพี่อิทธิ”
อิทธิอึ้ง พูดไม่ออก นายองดันอิทธิไปหาโรส
“หมดหน้าที่นายองแล้วนะ”
นายองวิ่งออกไป อิทธิค่อยๆ เดินเข้าหาโรส
“นี่คุณจะไปวันนี้เลยหรอ”
โรสหันมามองอิทธิ พยักหน้า
“ไหนคุณบอกว่า ลอยเนตรนาคราชเสร็จ คุณถึงจะไปไง”
“ก็ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเคลียร์แล้ว ฉันเองก็ทนที่จะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว”
“ผมเข้าใจ”
“แน่ใจนะ ว่าคุณเข้าใจถูก”
“ผมมั่นใจ”
“ถ้างั้นช่วยบอกหน่อยสิ ที่คุณเข้าใจมันคืออะไร”
“ก็ คุณอยากให้ผมอยู่ที่นี่ ดูแลนายองไม่ใช่หรอ ทั้งๆ ที่คุณก็รู้ว่าผมรักคุณ และคุณเองก็รักผม”
โรสนิ่ง ไม่ตอบอะไร
“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกช่วงเวลาที่เรามีกันและกัน ผมจะจดจำมันตลอดไป”
“ถ้างั้น ฉันไปนะ”
อิทธิน้ำตาร่วง
“โชคดีครับ”
อิทธิคิดว่าโรสจะไป แต่โรสยืนนิ่ง เขามองสงสัย โรสยืนไม่ขยับไปไหน
“เอ่อ คุณ คุณไม่ไปเหรอครับ”
“ฉันไปไม่ถูก”
อิทธิงงหนัก จ้องโรส
“จะให้ผมไปส่งมั้ยครับ”
“ไม่ต้องไปส่ง แต่ช่วยพาไปบ้านคุณหน่อยได้มั้ย”
อิทธิหันมา งงมาก
“ก็ฉัน เก็บเสื้อผ้า เพื่อขอไปอยู่กับคุณตลอดชีวิตเลยได้มั้ยคะ”
อิทธิอึ้ง ยังไม่ทันที่จะปรับความรู้สึก นายองวิ่งพรวดเข้ามา แล้วใช้เข่ากระแทกอิทธิจนคุกเข่าลง แล้วจับมืออิทธิ กุมมือโรส พร้อมกระซิบ
“พูดตามนายองนะ แต่งงานกับผมนะที่รัก”
อิทธิลุกขึ้น แล้วรวบโรสขึ้นอุ้ม
“เฮ๊ย พี่อิทธิ ทำอะไรอ่ะ”
“ขืนขอแต่งงาน พี่ก็เสียค่าสินสอดสิ พี่ไม่มี คุณจะยอมจ่ายค่าสินสอดกับเรือนหอให้ผมมั้ย”
“จะบ้าหรอ ฉันเป็นผู้หญิงนะ”
“ได้”
อิทธิอุ้มโรสไปที่ขอบระเบียง ทำท่าจะโยน
“อย่าๆ ฉันยอมแล้ว ได้ ฉันจะเอาสินสอดไปขอคุณเอง จะเรียกเท่าไหร่ ว่ามาสิ”
อิทธิยิ้ม ดึงโรสเข้ามาจูบ นายองกระโดดดีใจ
เช้าวันใหม่ หมอปิดชาร์ทผลตรวจชาติ แล้วเงยหน้าขึ้น
“ผลการตรวจเป็นที่น่าพอใจนะครับ อาการคุณชาติดีขึ้นเป็นลำดับ พรุ่งนี้เช้าคุณชาติน่าจะกลับบ้านได้แล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องความทรงจำ มีเปอร์เซ็นเป็นไปได้มากที่คุณชาติจะกลับมาเป็นปกติ”
กาญจนากับรัตนากรดีใจ จับมือกัน
“เห็นมั้ยยัยกาญ พี่บอกแล้วว่าคุณชาติต้องกลับมาจำน้องสาวคนสวยของพี่ได้แน่ๆ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
หมอยิ้มๆ “แต่ต้องคอยดูแล และหมั่นเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้คุณชาติฟังบ่อยๆ นะครับ”
“ค่ะคุณหมอ”
โรสเปิดเว็บไซต์การศึกษาหาที่เรียนในอเมริกาให้นายอง
“เลือกสินายอง อยากจะเรียนโรงเรียนไหน”
“โห พี่โรส อเมริกาเลยหรอ ตายแล้ว ขนาดเซอร์ไพร้ส์ นายองยังพูดเป็นสไปรซ์อยู่เลย”
โรสขำ
“ใหม่ๆ ก็เป็นงี้แหละ อีกหน่อยนายองก็เก่ง เชื่อพี่สิ พี่จะทำให้น้องสาวของพี่เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งเก่งให้ได้”
“นายองอยากเก่งเหมือนพี่โรสจ้ะ”
โรสยิ้ม ช่วยกันเลือกต่อ รัตนากรกับกาญจนาเดินเข้ามา
“ยิ้มอะไรกันจ๊ะ สาวๆ”
“พี่โรสจะพานายองไปอยู่อมริกาจ้ะ”
“จริงหรอคะคุณโรส” กาญจนาแปลกใจ
“ค่ะ หลังจากลอยเนตรนาคราชแล้ว โรสจะแต่งงานกับคุณอิทธิ แล้วเราสามคนจะย้ายไปอยู่อเมริกาค่ะ น้องกาญก็ดูแลคุณชาติดีๆ นะคะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ รายนี้เขาดูแลกันดีอยู่แล้ว” รัตนากรแซว
“หืม พี่รัตน์ เออ งั้นพี่รัตน์ กับคุณโรส ก็แต่งงานพร้อมกันเลยสิคะไม่เปลืองด้วย”
“ใช่ค่ะ เพราะงานนี้พี่โรสจะออกทั้งหมด” นายองกระเซ้า
ทุกคนขำ
“ว่าแต่ หนุ่มๆ ยังไม่กลับจากกรมกันอีกหรอเนี่ย” รัตนากรมองหา
“แหม เรื่องราวเยอะขนาดนี้ คงโดนเจ้านายซักกันยาวเลยล่ะค่ะ”
“แล้วพี่กาญจะแต่งเมื่อไหร่จ๊ะ”
“ถ้าให้เดานะ ก็คงแต่งทันทีที่คุณชาติจำทุกอย่างได้” โรสบอก
“แต่พี่ว่า คงตามเรามาติดๆ นี่แหละ” รัตนากรแซวอีก
สาวๆ หัวเราะ มีความสุข ชาติมองกาญจนายิ้มๆ ตาเป็นประกาย
หลินกับอัศวินนั่งอยู่ใต้แสงเทียนบนโต๊ะอาหาร กับไวน์ 2 แก้ว เธอมองชายหนุ่ม เหมือนพยายามจะประทับภาพของอัศวินไว้ในใจตลอดไป
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะหยุดเวลา ให้หยุดนิ่งอยู่ตรงนี้”
“เราหยุดมันไว้ไม่ได้หรอกครับ แต่เราสามารถจดจำเวลานี้ วินาทีนี้ ให้อยู่กับเราได้ตลอดไปขอบคุณนะครับ สำหรับความรู้สึกดีๆ ที่คุณมีให้กับผม และผมจะไม่มีวันลืมมัน”
“ฉันเข้าใจค่ะ เราเจอกันช้าไป”
หลินจับแก้วยกขึ้น
“ขอให้มีความสุข กับคนที่รักคุณนะคะ”
“ผมก็ขอให้คุณหลิน มีความสุข และได้พบคนที่รักคุณนะครับ”
ทั้งคู่ชนแก้ว
“หมดแก้วค่ะ”
ทั้งคู่ดื่มจนหมดแก้ว หลินยิ้ม
รัตนากรเดินๆ อยู่ อัศวินโทรศัพท์มาหา
“ว่าไงคะพี่วิน”
“ฉันเองค่ะ คุณรัตนากร”
รัตนากรอึ้งที่เป็นเสียงหลิน
“ว่าไง”
“ไม่ต้องแปลกใจ เพราะถึงเวลาที่เธอต้องพิสูจน์ ว่าเธอรักผู้กองอัศวินแค่ไหน”
รัตนากรวิ่งตามทาง ด้วยความกลัว และกระวนกระวายใจ พอวิ่งมาถึงก็เห็นหลินนั่งอยู่ที่โต๊ะดินเนอร์ ข้างๆ มีอัศวินนอนนิ่งอยู่ รัตนากรตกใจ
“พี่วิน พี่วินเป็นอะไรอ่ะ เธอทำอะไรพี่วิน”
รัตนากรเคลื่อนตัวเข้าหาอัศวิน หลินชักปืนจ่อหัวอัศวิน
“หยุด”
รัตนากรหยุดนิ่ง ตกใจ
“เธอต้องการอะไร”
“ถ้าเธอไม่อยากให้ผู้กองตาย ก็ถอนตัว แล้วจากไปซะ”
“คุณคิดว่าถ้าฉันถอนตัว แล้วพี่วินจะรักคุณอย่างงั้นเหรอ”
หลินอึ้ง
“ฉันเคยบอกคุณแล้วนี่คะ ถ้าพี่วินรักคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ เพราะฉันจะเป็นคนเดินจากไปเอง”
“ฉันก็เคยบอกคุณแล้วเหมือนกัน ว่าคนอย่างฉัน ถ้าอยากจะได้อะไร ก็ต้องได้”
“แล้วมันมีประโยชน์อะไรล่ะค่ะ ที่จะอยู่กับคนที่เขาไม่รักเรา”
“แต่ถ้าเรารักเขา ฉันเชื่อว่าสักวันเขาก็จะรักเรา”
“ความรักไม่ใช่ตรรกะนะคะ ที่จะได้มีเหตุมีผลตามสมการ แต่ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก ที่ไม่สามารถบังคับและหาเหตุผลได้ ถ้าเราจะรักใครสักคนก็รักให้สุดหัวใจแต่อย่าให้เขาอึดอัด ทรมานเหมือนติดคุก เราควรจะรักอย่างเข้าใจ และสุขใจทุกครั้งที่เห็นเขามีความสุข อย่ารักแบบครอบครองเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะเจ็บก็คือคุณเอง”
หลินอึ้ง
“การที่เราจะรักใครสักคน ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่ผิดคือการยึดติดที่คิดเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ บางครั้งรักอยู่ห่างๆ ดีกว่าอยู่ใกล้ ๆ แล้วเขาไม่สนใจเรา”
“เธอจะพูดให้สวยหรูยังไงก็ได้สิ เธอไม่ได้เป็นแบบฉันนี่”
“หยุดเถอะคะ เพราะอย่างน้อยตอนนี้พี่วินยังรู้สึกดีๆ กับคุณ ยังเป็นห่วงคุณ และรักคุณแบบเพื่อนตายที่สามารถตายแทนกันได้ อย่าให้เขาตื่นมารู้ แล้วเกลียดคุณเลย”
“ก็ได้ ถ้างั้นเรามาจบเรื่องนี้กัน”
“ยังไง”
“ก็พิสูจน์มาสิว่าเธอรักผู้กองอัศวินมากกว่าฉัน”
หลินหยิบปืนอีกกระบอกขึ้นมา
“ถ้าไม่อยากให้ฉันฆ่าผู้กอง ก็เอาปืนนี่ไปยิงตัวเองซะ”
รัตนากรมองหน้าหลิน
“ฉันอยากรู้นักว่าเธอจะรักผู้กองยิ่งกว่าตัวเธอเองหรือป่าว”
“คุณจะทำแบบนี้นี้เพื่ออะไร”
“ก็บอกแล้วไงนี่คือการพิสูจน์ แต่ถ้าเธอได้ปืนนี่ไป แล้วจะหันมายิงฉันก็ได้เลย เพราะฉันพร้อมที่จะตายอยู่ข้างๆ กับคนที่ฉันรัก”
หลินโยนปืนให้รัตนากร รับไป
“ถึงเวลาที่เธอต้องเลือกแล้ว ว่าจะเห็นคนที่เธอบอกว่ารัก ตาย หรือจะตายเพื่อคนที่รักเธอ”
รัตนากรมองหลิน
“หนึ่ง”
รัตนากรกระชับปืนมองหลินนิ่ง
“สอง”
หลินค่อยๆ ขยับนิ้วพร้อมจะเหนี่ยวไก รัตนากรเห็นก็ตัดสินใจยกปืนขึ้นมาจ่อที่ใต้คางตัวเอง มองอัศวินเป็นครั้งสุดท้าย
“ลาก่อนคะพี่วิน”
นิ้วของรัตนากรเหนี่ยวไก หลินจ้อง ไม่อยากเชื่อว่ารัตนากรจะยิงจริงๆ รัตนากรตัดสินใจลั่นไก
“แชะ”
รัตนากรนิ่งอึ้ง หลินลดปืนลง
“ดูแลเขาให้ดี แล้วจำวินาทีนี้ไว้ตลอดไป ว่าคุณรักผู้ชายคนนี้มากกว่าชีวิตของคุณ”
หลินก้มลงจูบหน้าผากอัศวินเบาๆ
“คุณเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่มีคนรักคุณยิ่งกว่าตัวเขาเอง ลาก่อนค่ะ”
หลินลุกขึ้น หันมาพูดกับรัตนากร
“ขอบคุณนะคะที่คุณทำให้ฉันเข้าใจว่าความรักคืออะไร”
หลินเดินออกไป
เวลาต่อมา อัศวินนอนที่ตักรัตนากร ค่อยๆ ลืมตา
“รัตน์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รัตน์บอกให้คุณหลินลองใจพี่วิน แล้วก็ได้รู้ความจริงว่า พี่วินน่ารักที่สุดในโลกเลยอ่ะ พี่วินไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นเลย พอโดนคุณหลินบอกรัก ก็เลยแกล้งหลับไปใช่มั้ยคะ”
“เหรอ”
รัตนากรเอามือปิดปากอัศวินเบาๆ
“เรื่องบางเรื่องอย่ารู้เลยค่ะ รู้แค่ว่า รัตน์รักพี่วินคนเดียวก็พอ”
“จ้า”
รัตนากรค่อยๆ ลูบผมอัศวินอย่างนุ่มนวล ทั้งคู่มองดวงจันทร์อย่างมีความสุข
วันต่อมา พวกอัศวินใส่ชุดขาวบริสุทธิ์ เดินถือกล่องใส่เนตรนาคราช มาหยุดที่ริมน้ำโขง
“ในที่สุด เราก็ได้นำเนตรนาคราชมาคืนกลับสู่เจ้าของเดิมแล้ว”
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ความโลภ และอำนาจ มันจะทำให้มนุษย์กล้าทำทุกอย่าง แม้กระทั่งไปขโมยดวงตาของท่านมา” รัตนากรบอก
“ตราบใดที่มนุษย์ยังหลงมัวเมา กับความอยากมี อยากเป็น เรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกค่ะ” กาญจนาย้ำบอก
“ใช่ครับ ถ้าคนเราไม่รู้จักควบคุมความอยาก โลกนี้ก็ไม่มีวันสงบหรอก” อิทธิเห็นด้วย
“ไม่รู้จะโลภหลงในเงินตรา อำนาจ และชื่อเสียงกันไปทำไมนะคะ เพราะสุดท้ายคนเราก็กลายเป็นศพ นอนอยู่ในโลงแคบๆ แค่นั้น” โรสพูดปลงๆ
“ใช่จ้ะ คนเราไม่รู้หรอก ว่าจะตายวันไหน ทำไมไม่ใช้ชีวิตวันนี้ให้มีคุณค่า แล้วก็มีความสุขที่สุดนะจ๊ะ” นายองเห็นด้วยกับโรส
“ถ้าคนเรามีความสำนึกกันได้อย่างงี้ โลกใบนี้ก็คงสงบสุข และน่าอยู่ขึ้นอีกมาก”
อัศวินพูดจบก็เปิดฝากล่องใส่เนตรนาคราช ทุกคนรวมตัวกัน แล้วลอยเนตรนาคราชลงสู่แม่น้ำโขง ทันทีที่เนตรนาคราชหลุดจากกล่อง ลงสู่ผืนน้ำ ก็เกิดคลื่นน้ำเหมือนมีบางอย่างแหวกว่าย ทั้งกลุ่ม ตื่นเต้น ตกใจกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น รัตนากรพูดขึ้น
“ลูกขอสมาโทษแทนเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย ที่เต็มไปด้วย ความโลภ โกรธ หลง อะไรก็ตาม ที่มนุษย์กระทำไป จะโดยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ทั้งกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านอโหสิกรรมด้วยเถิด”
ทันใดนั้น ลูกไฟพญานาคก็ลอยขึ้นจากผิวน้ำ
“พี่รัตน์ ท่านอโหสิกรรมให้พวกเราแล้ว”
นายองตะโกนดีใจ ทุกคนกอดกันแน่น น้ำตาไหลด้วยความปิติ
ผู้คนนับหมื่น รวมทั้งนักข่าว ทุกคนตื่นเต้น ดีใจ กับปรากฏการณ์ลูกไฟพญานาค อัศวินหันมาบอกกลุ่มเพื่อน
“ไป หมดภารกิจแล้ว เราไปฉลองกันดีกว่า”
ทุกคนดีใจ อัศวินจูงมือรัตนากร อิทธิจูงมือโรส โรสโอบเอวนายองเดินออกไป กาญจนาหันมาพูดกับชาติ
“ไปกันเถอะค่ะคุณชาติ”
“ครับ”
กาญจนาเดินไป ทันใดนั้น ชาติผิวปาก เป็นเสียงนกซามู
“ผม รัก คุณ”
กาญจนา ช็อค แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ผมรักคุณ ผมรักคุณ”
กาญจนาดีใจสุดชีวิต น้ำตาไหล โผเข้ากอดชาติ ชาติอุ้มกาญจนา ทุกคนหันมามอง โห่ร้อง ดีใจ ที่ชาติจำได้
“จูบเลย”
อิทธิตะโกนนำ ทุกคนตะโกนตาม
“จูบเลย จูบเลย จูบเลย”
ชาติวางกาญจนาลงอย่างนิ่มนวล แล้วก้มลงจูบหญิงสาว อัศวินกับรัตนากร อิทธิ โรส นายอง วิ่งเข้ามาคว้าชาติกับกาญจนา อิทธิตบหัวชาติหนึ่งที
“เวร จำได้แล้วทำนิ่ง”
อัศวินต่อยท้องชาติเบาๆ
“มันน่าจับโยนลงแม่น้ำโขงนัก”
“ถีบเลยๆๆ”
นายองตะโกนนำ ทุกคนเงื้อเท้า ชาติวิ่งหนี ทุกคนวิ่งตามไป
ระหว่างนั้นชายอายุประมาณ 40-50 ปี แต่งตัวดูดีเดินมาหยุดที่ริมน้ำโขง จ้องมองลูกไฟพญานาคชายคนนั้นถอดแว่นดำออก ดวงตาสีน้ำข้าว หน้าตาเหมือนเคนราวกับคนเดียวกัน
“อย่าคิดว่าจะพ้นมือข้า”
ดูเหมือนว่าทีมของอัศวิน รัตนากร และผองเพื่อน คงต้องออกแรงปกป้อง ดวงตาพญานาค ในอีกไม่ช้าไม่นานจากนี้!
จบบริบูรณ์