xs
xsm
sm
md
lg

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 22

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 22

เหลียนฮัวกับเหมยฮัวพากันบุกเข้ามาในค่ายเพลง ตรงไปถามเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ

“วันนี้คุณพีทเข้ากี่โมงคะ ดิชั้นเป็นแฟนเพลงคุณพีท”
“คุณพีทอยู่ห้องอัดค่ะ น่าจะลงมาตอนเที่ยง แฟนเพลงรอหน้าตึกนะคะ”
เหมยฮัวไม่สนใจรอหน้าตึก เดินตรงไปที่ลิฟต์
พนักงานร้องห้าม “คุณคะ เข้าไปไม่ได้ค่ะ”
เหมยฮัวกดลิฟต์ “ห้องอัดอยู่ชั้นไหนรู้เหรอลูก”
“แฟนเหมยเคยพาขึ้นไปค่ะ”
รปภ.เข้ามาห้าม “ไม่ใช่พนักงานห้ามขึ้นตึกครับ”
เหลียนฮัวไม่สนโลก กร่างใส่ยาม “อั๊วมีเงินซื้อตึกนี้ทั้งตึก อย่ามาห้ามอั๊ว”
เหมยฮัวกับเหลียนฮัวเข้าลิฟต์ ขึ้นไปชั้นห้องอัด

สองแม่ลูกขึ้นลิฟต์มาชั้นห้องอัด ออกจากลิฟท์มาเห็นมีป้ายติดว่า “ห้องอัดเสียง”
รปภ.ประจำชั้นออกมากัน “ชั้นนี้คนนอกห้ามเข้าครับ”
“ไปบอกคุณพีท เหมยฮัวมาหา”
“มัวรอทำไมลูก ลุยเลย”
เหลียนฮัวนำลูกสาวบุก จะเข้าด้านใน ถูกรปภ.ขวางไว้
“หลีกไป”
เหลียนฮัวกับเหมยฮัวช่วยกันผลักรปภ. สามารถเข้าด้านในไปได้

สองแม่ลูกเหลียนฮัวกับเหมยฮัวบุกเข้ามาด้านใน รปภ.ตามเข้ามาจับแขนเหลียนฮัว จะลากออกไป เหลียนฮัวเอากระเป๋าแบรนด์เนมฟาดรปภ. พลั่กๆๆ
ปอนผู้จัดการส่วนตัวพีทออกมาเห็นเหมยฮัว
“เหมย” ปอนรีบบอกกับรปภ. “ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้”
รปภ.ยอมปล่อยเหลียนฮัว เหลียนฮัวโมโหเอากระเป๋าฟาดรปภ. ส่งท้ายไปอีกที
“พี่ปอน เหมยมาหาพีทค่ะ”
เหลียนฮัวงง “ใครเนี่ย”
“พี่ปอนเป็นผู้จัดการส่วนตัวพีทค่ะหม่าม้า เหมยโทร.หาพีท ส่งข้อความหาพีทเป็นร้อยๆ ครั้ง พีทไม่ตอบกลับ”
“ตอนอยู่เกาหลี พีทต้องฝึกร้องเพลง ฝึกเต้นทั้งวัน พี่คอยรับโทรศัพท์ให้ พี่อ่านข้อความเหมย บอกพีทไปแล้วว่า...เหมยท้อง” ปอนบอก
เหมยฮัวถามทันที “พีทว่ายังไงคะ”
“พีทบอกว่า ลูกในท้องเหมย... อืม...ไม่ใช่ลูกพีท”
เหมยฮัวตะลึง เสียใจมาก ปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น
เหลียนฮัวโมโหเลือดขึ้นหน้า “ไอ้นักร้องนั่นอยู่ไหน อั๊วจะคุยกับมัน”
เหมยฮัวสะอึกสะอื้นใหญ่ “พีทพูดอย่างนี้ได้ยังไง เหมือนคนไม่รักกัน”
“พีทรักเหมย เหมือนที่รักแฟนคลับคนอื่น” ปอนบอก
เหลียนฮัวโกรธสุดขีด “ลูกสาวอั๊วเป็นแฟน ไม่ใช่แฟนคลับ ไปตามมันออกมา มันต้องรับผิดชอบลูกสาวอั๊ว”
“เหมย พี่ไม่อยากให้เหมยรู้เรื่องจากสื่อ พีท...มีแฟนใหม่แล้ว”
เหมยฮัวไม่เชื่อ “ไม่จริง เราเพิ่งห่างกันไม่กี่เดือนเอง”
“สาวเกาหลี เป็นนักร้องฝึกหัด ทางค่ายสั่งให้ปิดข่าว แต่พี่คิดว่า ปิดได้ไม่นานหรอก เพราะคนนี้พีทจริงจัง อยากแต่งงานด้วย”
“พีทจะแต่งงานกับคนอื่น”
เหมยฮัวช้ำใจสุดๆ รับความจริงไม่ได้ วิ่งร้องไห้ออกไป
เหลียนฮัวแค้นมาก ชี้หน้าผจก.พีท “อั๊วจะทำลายชื่อเสียงไอ้นักร้องนั่นให้ย่อยยับให้มันไม่ได้โกอินเตอร์”
“คุณแม่ให้ข่าว คนที่เสียหายก็ลูกสาวคุณแม่นะครับ” ปอนย้อนเอา
“ลื๊อมัน...มัน...เลวจริง ๆ”
เหลียนฮัวโมโหถึงขีดสุด เดินปึงปังออกไป

เหลียนฮัวออกมาหาลูก เหมยฮัวยืนร้องไห้อยู่หน้าลิฟต์ พนักงานรอลิฟต์อยู่ หันมองเหมยฮัว
อารมณ์นี้เหมยฮัวไม่อายใคร ทนเก็บน้ำตาไว้ไม่ไหว
“ผู้ชายเลวๆ ตัดมันทิ้งไปลูก อย่าเสียน้ำตาให้มัน”
ลิฟต์มาแม่ลูกพากันเข้า
“กลับบ้านกันลูก” เหลียนฮัวเหวี่ยงใส่พนักงาน “ไปลิฟต์ตัวอื่น”
เหลียนฮัวพาเหมยฮัวที่ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย ลงลิฟต์ไป

ด้านฟ้าประทานกวาดถูกุฎีเสร็จ ก็คว้าไม้กวาดก้มหน้ากวาดลานวัด ชาวบ้าน 1 ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่าน มองฟ้าประทานแว้บหนึ่ง
“เหมือนฟ้าประทานเลย”
ชาวบ้านขี่รถผ่านไป ฟ้าประทานไม่รู้ตัวว่ามีคนเห็น

ทางด้านจอมนางคุมชาวคณะซ้อมรำโชว์ ครูเทียมนั่งยิ้ม มองหลานสาวแสดงฝีมือ
“ไปรำโชว์ที่โรงแรมวันนี้ ชั้นจะโชว์ ฉากน็อค”
“ฉากน็อค คือ อะไรครับ” หลงสงสัย
“คนไหนไม่เล่น ก็ไม่เห็นต้องรู้”
เจอคำนี้ของจอมนาง หลงจ๋อยไป
ครูเทียมอธิบายบอกว่า “ฉากน็อค ก็คือ ฉากเด็ด ทำให้คนดูตะลึงพรึงเพริด วันนี้หลงไม่รำโชว์ด้วยเหรอ”
จอมนางชิงตอบ “ตัวเล่นเยอะแล้ว ชั้นเลยตัดตัวไม่สำคัญออกจ้ะปู่”
“เจ้าหลงเป็นพระเอก ไม่สำคัญได้ยังไง หาตัวให้หลงเล่น” ครูเทียมค้าน
จอมนางหน้าง้ำ ไม่อยากให้หลงไปรำโชว์ด้วย
“ผมไม่ไปรำโชว์ก็ได้ครับครู” หลงบอก
เสียงแตรมอเตอร์ไซค์เรียกหน้าบ้าน
“ผมไปให้ดูครับ ใครมา”
“ไม่ต้องจ้ะ ชั้นไปเอง” จอมนางบอกชาวคณะ “ซ้อมรำ วอร์มอัพกันไปพลางๆ ก่อนนะจ๊ะ”
จอมนางเดินไปทางหน้าบ้าน กำจายพูดบ่นตามหลังไป
“แหมะ มันสั่งวอร์มอัพ อย่างกับจะสอนเต้นแอโรบิคเลยเว้ยเฮ้ย”

ชาวคณะซ้อมรำ ซ้อมแบบต่างคนต่างซ้อม ยังไม่รำร่วมฉากกัน

จอมนางเดินมาดูที่รั้ว ว่าใครมาบีบแตรรถเรียก เห็นเป็นชาวบ้านชายที่ไปเจอฟ้าประทานมานั่นเอง

“มีอะไรจ๊ะพี่”
“เมื่อกี้พี่ไปหาหลวงพ่อที่วัด เหมือนเห็นฟ้าประทานกำลังกวาดลานวัด”
จอมนางไม่เชื่อ “ฟ้าประทานกวาดลาดวัด มองผิดแล้วล่ะพี่”
“พี่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า ผู้ชายคนนั้นก้มหน้าอยู่ แต่รูปร่างคล้ายฟ้าประทานพี่เข้าบ้านล่ะ แค่แวะบอก”
ชาย 1 ขี่รถไปออกไป จอมนางครุ่นคิด ว่าควรบอกปู่มั้ย

ชาวคณะกำลังซ้อมรำ จอมนางกลับมาจากหน้าบ้าน หน้าตาเครียด ไม่ให้ปู่รู้เรื่องฟ้าประทานไปนอนวัด
“ปู่ดูเหนื่อย ๆ ขึ้นห้องไปนอนพักเถอะจ้ะ”
“ปู่จะดูพวกเอ็งซ้อม”
“คนป่วยต้องนอนเยอะๆ พี่หลงช่วยพาปู่ขึ้นห้องทีจ้ะ” จอมนางแอบขยิบตาให้หลง
หลงเห็นจอมนางขยิบตาให้ช่วยก็เอ่ยขึ้น “คนเป็นพาร์กินสันต้องนอนพักผ่อนเยอะๆ จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นครับครู”
“เอ้อ อยู่ๆ ไล่ปู่ไปนอน”
ครูเทียมบ่นแล้วใช้ไม้เท้าช่วยเดินเข้าบ้าน หลงประคองพาครูเทียมขึ้นห้องไป
จอมนางรอจนปู่เดินหายเข้าบ้าน ถึงบอกชาวคณะ
“มีคนเห็นคนเหมือนฟ้าประทานที่วัด พวกเราไปดูกันว่าใช่หรือเปล่า”
กระแตไม่เชื่อเหมือนกัน “ฟ้าประทานกับตุ้มรักสบายทั้งคู่ ไม่ไปอยู่วัดหรอกจอม”
โก่งท้วง “คนเราเข้าตาจนขึ้นมา ก็ต้องยอมลำบากนะกระแต”
“แม่ยกฟ้าประทานรวยๆ ทั้งนั้น น่าจะไปอยู่บ้านแม่ยกมากกว่า” โก๊ะเสริม
“พวกเอ็งจะเถียงกันทำไมวะ ก็ไปวัด ไปดูว่าใช่ฟ้าประทานหรือเปล่า” กำจายว่า
“ไปกันหมดนี่เลยจ้ะ ถ้าใช่ ได้ช่วยกันจับกลับบ้าน”
ชาวคณะยกโขยงกันไป

ฟ้าประทานกวาดลานวัดอยู่ ส่วนตุ้มกวาดใบไม้มาจากอีกทาง มากองรวมกัน
“กวาดเสร็จแล้วตุ้มไปนั่งพัก ผมจะไปซ่อมก๊อกน้ำ หลวงพี่บอกว่า ช่วยงานที่วัดแล้ว จะให้ค่าจ้างผม เราได้มีเงินค่ารถไปจากบางไทร”
ตุ้มหน้าซึม ไม่อยากไปจากบางไทร บ้านเกิด
ฟ้าประทานพอจะรู้ใจตุ้ม “พอเราได้ดิบได้ดีร่ำรวย ไม่มีใครดูถูกได้ ค่อยกลับบางไทรนะตุ้ม”
ตุ้มเห็นรถตู้คณะแล่นมา “รถตู้ครูเทียม”
ฟ้าประทานตกใจ “หลบเร็ว”
ฟ้าประทานทิ้งไม้กวาด รีบลาแขกพาตุ้มไปหลบ

โก่งขับรถตู้คณะมาจอด ชาวคณะลงจากรถ โก๊ะเหลียวมองไปรอบๆ
“ไหนล่ะฟ้าประทาน”
“ก็เดินหาซีวะ น้าจะไปดูที่กุฎีพระ” กำจายว่า
“ชั้นไปดูที่โบสถ์” จอมนางบอก
“แยกกันไป แล้วกลับมาเจอกันที่รถ” กระแตสรุป
ชาวคณะแยกกันไปเดินหาฟ้าประทาน
ฟ้าประทานกับตุ้มหลบอยู่
ตุ้มยิ้มดีใจ “พวกจอมมาตามหาเรา”
“ผมไม่ยอมกลับบ้านอย่างหนูสกปรกถังแตก”
ตุ้มอ่อนใจกับฟ้าประทาน จนป่านนี้ยังมีทิฐิสูงเช่นเคย

กำจายเดินหาฟ้าประทานกับตุ้มตามกุฎีพระ แต่ไม่เจอ จอมนางตามหาที่โบสถ์
โก่งมาตามหาฟ้าประทานกับตุ้มบนศาลาการเปรียญ ส่วนกระแตเดินออกมาจากครัว ไม่เจอสองคน
โก๊ะเดินไปเดินมาในป่าช้า สุดท้ายกลัวผี ไปดีฝ่า
ฟ้าประทานกับตุ้มหลบอย่างดี เลยไม่มีใครเห็น
โก๊ะ โก่ง กำจาย และกระแต มารอที่รถอยู่ก่อน หาจนทั่วก็ไม่เจอ จอมนางกลับมาคนสุดท้าย
“ไม่มีใครเจอฟ้าประทานกับตุ้มเลยหรอจ๊ะ”
“ฟ้าประทานกับตุ้มไม่ได้อยู่วัดหรอกจอม” กระแตว่า
ฟ้าประทานกับตุ้มแอบดูพวกจอมนาง
“อย่างน้อยพวกเราก็มาดูให้แน่ใจแล้วว่าไม่มี” กำจายบอก
“กลับบ้านไปซ้อมต่อ”
จอมนางสะดุดตากับไม้กวาด 2 อัน วางทิ้งบนลานวัด คิดถึงคำพูด ชาย 1 ที่บอกว่า
“เมื่อกี้พี่ไปหาหลวงพ่อที่วัด เหมือนเห็นฟ้าประทานกำลังกวาดลานวัด”
“หรือฟ้าประทานเห็นพวกเรามา เลยหลบหน้า” จอมนางพึมพำ
ชาวคณะกลับขึ้นรถตู้ จอมนางมองไปรอบๆ ฟ้าประทานกับตุ้มอาจอยู่แถวนี้
ฟ้าประทานกับตุ้มเห็นจอมนางมองหา ก้มหลบ
“ไม่อยู่หรอกจอม ขึ้นรถ” โก๊ะร้องเรียก

จอมนางกลับขึ้นรถ ตอนโก่งออกรถ จอมนางยังสอดตามองหาฟ้าประทานกับตุ้มอย่างห่วงใย

อ่านต่อหน้า 2

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 22 (ต่อ)

ทางฝ่ายเหลียนฮัวขับรถพาลูกสาวกลับจากค่ายเพลง เหมยฮัวร้องไห้มาตลอดทาง

“เช็ดน้ำตา แล้วทาแป้งพัฟลูก เตี่ยเห็นว่าร้องไห้ ต้องถาม มีเรื่องอะไร”
เหมยฮัวเอาแต่คร่ำครวญ “เหมยกับลูกถูกทิ้ง เราไม่มีค่าในสายตาเค้า”
เสี่ยเต๊กกับอาจงออกมารับ มองจากในรถเหลียนฮัวเห็นเสี่ยรีบบอกลูก
“เตี่ยออกมาแล้ว หยุดร้อง เหมย”
เหมยฮัวครวญทำใจไม่ได้ “แฟนเหมยจะแต่งงานกับคนอื่น”
เหมยฮัวลงจากรถ วิ่งร้องไห้เข้าบ้าน
เสี่ยเต๊กทั้งตกใจและห่วง “เหมย เป็นอะไรลูก” รีบตามลูกเข้าบ้าน
“เหมยสติแตกอีกแล้ว” เหลียนฮัวเครียดจัด
“เสี่ยรู้ว่าคุณหนูท้องกับนักร้อง ต้องเอาคุณหนูตาย” อาจงกังวล
เหลียนฮัวกับอาจงรีบตามเข้าบ้าน ไปปรามเหมยฮัว

เหมยฮัววิ่งร้องไห้เข้ามาที่ห้องโถง โดนเสี่ยเต๊กจับตัวไว้หน้าห้อง เห็นลูกร้องไห้แล้วสะเทือนใจ
“เป็นอะไรลูก”
“เตี่ย เค้าไม่รักเหมยแล้ว”
เหลียนฮัวกับอาจงตามมาถึง
“อาจงพาคุณหนูไปล้างหน้าล้างตาในห้อง”
“มานี่ค่ะคุณหนู”
อาจงรีบพาเหมยฮัวเข้าห้อง เสี่ยเต๊กห่วงลูกจะตามเข้าไป เหลียนฮัวปิดประตูห้อง ไม่ให้เสี่ยเข้า
“อั๊วจะเข้าไปดูลูก”
“ปล่อยให้ลูกทำใจเหอะเสี่ย”
“เหมยไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้ เหมยว่าบอกเค้าไม่รักเหมย เหมยหมายถึงใคร”
เหลียนฮัวโกหกหน้าตาย “ก็อาเทพไง”
เสี่ยงง “อาเทพอยู่บางไทร”
“เสี่ยสืบเสาะ จนได้เบอร์มือถืออาเทพมา เหมยโทร.หาอาเทพ ทะเลาะกัน” คุณนายโกหก
เสี่ยเต๊กยิ่งแค้น “มันทำลูกเราท้อง แล้วบอกไม่รักลูกเรา อั๊วจะฆ่ามัน”
เหลียนฮัวเสียงแข็ง “เสี่ยห้ามทำอะไรโดยพลการ อั๊วบอกแล้ว อั๊วจะออกโรงแก้ปัญหาเอง”
เสี่ยเต๊กจ๋อง พยักหน้ารับคำเมียอย่างเสียไม่ได้
“อั๊วสงสารลูก”
แล้วเดินซึมออกไป
“แฟนเหมยไม่รับผิดชอบ เราก็เหลือทางเดียว ขอให้อาเทพมาแต่งงานกับเหมย”
คุณนายหมายมาดว่าจะกล่อมพงศ์เทพหรือหลงช่วยให้ได้

หลงกำลังซ่อมบันไดศาลา ตอกตะปูบนแผ่นไม้ พร้อมพงศ์กับเจ๋งมาหา
“กระแตไม่อยู่หรอพี่ ผมไปหาในครัวไม่เจอ”
“แทนที่จะมาหาพี่เชื้อก่อน ไปหาผู้หญิง”
“ทำไมบ้านเงียบจังวะ” พร้อมพงศ์มองไปทางบ้าน
“ผมพาครูเทียมขึ้นไปนอนบนห้อง ลงมา ก็หายไปกันหมด ไม่รู้ไปไหนจอมก็ทำตัวแปลก ๆ แอบขยิบตาให้ผม”
“ไม่มีใครอยู่อย่างนี้ ไอ้เบิ้ม ไอพลบุกมา เอ็งไม่มีคนช่วยดิวะ”
“ใช้ไอ้นี่ช่วยไงพ่อ” หลงชูค้อนในมือ “นี่แหละอาวุธ”
มีสายเข้ามือถือหลง ไม่โชว์ชื่อว่าใคร
หลงกดรับสาย “คณะเทียมฟ้า ยินดีรับใช้ครับ”

เหลียนฮัวอยู่ที่บ้าน กรุงเทพฯ แอบโทร.มาคุยกับหลง
“อาเทพ นี่อั๊ว คุณนายเหลียนฮัว”
หลงตกใจคาดไม่ถึง “คุณนายเหลียนฮัว”
พร้อมพงศ์กับเจ๋งตาลุก เมียเสี่ยโทร.มาหาหลง
เหลียนฮัวพูดจาดีๆ ใช้ไม้อ่อนกับหลง “อั๊วต้องขอโทษแทนเสี่ย ที่ไล่ล่าลื๊อ อันที่จริงเราน่าจะคุยกันดี ๆ”
“คุณนายครับ ผมเอาเกียรติลูกผู้ชายเป็นประกัน ผมไม่เคยล่วงเกินลูกสาวคุณนาย”
“อั๊วรู้”
หลงตกใจ “คุณนายรู้ แสดงว่าเสี่ยก็รู้ แล้วทำไมเสี่ยถึงยังจะจับผมแต่งงาน”
“เสี่ยเข้าใจผิด ที่อั๊วโทร.มา เพราะอยากแก้ไขทุกอย่างให้ถูกต้อง อาเทพ ลื๊อมาหาอั๊วที่กรุงเทพฯ มานั่งคุยกันแบบเปิดอก”
“คุณนายจะล่อผมไปให้เสี่ยจับ”
“อั๊วจะไปคนเดียว ไม่บอกเสี่ย อั๊วรู้ ลื๊อรักเอ็นดูลูกสาวอั๊วเหมือนน้องสาวแท้ๆ เรามาช่วยกันคิด แก้ปัญหาให้เหมย”
หลงรู้ทัน “คุณนายพูดแบบนี้ แสดงว่าเหมยไปคุยกับแฟนมาแล้ว แฟนไม่รับผิดชอบลูกในท้อง”
“อย่าไปพูดถึงไอ้ผู้ชายคนนั้นเลย ตอนนี้เหมยเหลือแต่อั๊วกับลื๊อ”
“คุณนายจะให้ผมช่วยอะไรเหมย”
“ลื๊อไม่ต้องกลัว อั๊วไม่เอาเปรียบลื๊อหรอก พรุ่งนี้บ่ายสอง มาเจออั๊วที่ร้านกาแฟปากซอยหน้าบ้านอั๊ว อั๊วจะไปรอลื๊อ”
เหลียนฮัวไม่รอฟังคำตอบหลง วางสายไปเลย คุณนายพึมพำว่า

“ชื่อเสียงลูกสาวอั๊ว อยู่ในมือลื๊อแล้วอาเทพ ขอให้ลื๊อใจอ่อน ยอมช่วยเหมยทีเถอะ”

ส่วนที่ศาลาริมน้ำ หลงระแวง กลัวเหลียนฮัวล่อไปกรุงเทพฯ ให้เสี่ยเต๊กจับ

พร้อมพงศ์ร้อนใจ รีบถามลูก “เมียเสี่ยจะให้เอ็งช่วยอะไร”
“คุณนายให้ผมไปหาที่กรุงเทพฯ พรุ่งนี้”
“อย่าไปนะพี่ มันเป็นกับดัก”
“พี่สงสารเหมย พี่อยากไปคุยกับแฟนเหมยแบบลูกผู้ชาย มันยังจะทิ้งเหมยอีก พี่จะต่อยมันซักหมัด ให้มันสำนึก”
พร้อมพงศ์สงสัย “เอ็งรักเหมยฮัวเหรอเทพ”
“รักแบบน้องสาวครับ ผมเคยช่วยสอนการบ้านเหมย เคยให้คำปรึกษาตอนเหมยเข้ามหา’ลัย เหมยเป็นน้องสาวที่ดี”
“ดีอะไรพี่ ใส่ร้ายพี่ว่าทำให้ท้อง” เจ๋งไม่พอใจ
“เหมยต้องบีบคั้นมาก ถึงทำกับพี่”
“เอ้าพี่เอ้า เตือนไม่เชื่อ จะไปหาคุณนายเหลียนฮัวก็ตามใจ แต่ผมไม่ไปช่วยพี่นะ” เจ๋งเซ็ง
“พี่ยังไม่ได้บอกว่าพี่ไปหาคุณนายเหลียนฮัว พี่ต้องคิดดูก่อน”
หลงลังเล จะไปหาคุณานายเหลียนฮัวที่กรุงเทพฯ ดีมั้ย

ทางด้านเสี่ยเต๊กนั่งเศร้าอยู่ในห้องนอน นึกสะเทือนใจที่เห็นลูกสาวร้องไห้
“เป็นอะไรลูก เหมยไปไหนมา”
“เตี่ย...เค้าไม่รักเหมยแล้ว”
เสี่ยเต๊กเข้าใจว่า เค้าที่ลูกสาวหมายถึง คือพงศ์เทพไม่รักเหมยฮัวแล้ว
“พงศ์เทพ ลื๊อทำลูกสาวอั๊วร้องไห้ ลื๊อต้องชดใช้” เสี่ยแค้นโทร.หาเบิ้มทันที “สืบรู้หรือยังนางเอกลิเกคนนั้นเป็นแฟนพงศ์เทพหรือเปล่า”
เบิ้มกับพลกำลังเดินหาร้านข้าว เบิ้มคุยสายกับเสี่ยไปด้วย
“พวกผมมากินข้าว เดี๋ยวว่าจะไปหลอกถามคนแถวบ้านนางเอกลิเกครับเสี่ย”
“ไม่ต้องถามให้เสียเวลา ไปจับตัวมาเค้นถามเลย”
“คุณนายสั่งห้ามจับตัวใครนะครับ”
“ลื๊อเป็นลูกน้องอั๊ว ต้องฟังอั๊ว ไปจับนางเอกลิเกมาเดี๋ยวนี้”
“ครับเสี่ย” เบิ้มวางสายหันมาหาพล “รีบไปบ้านลิเก”
เบิ้มมองไปเห็นท่อนแป๊บน้ำตกอยู่บนพื้น เลยเก็บขึ้นมา
พลงง “เอาไปทำไมวะ”
“คนบ้านลิเกมีดาบ เอาไปสู้กับพวกมัน”
เบิ้มกับพลรีบไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป

ทางฝ่ายเสี่ยเต๊กหน้าตาเคียดแค้นพงศ์เทพเอามากๆ
“พงศ์เทพ ลื๊อจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ นอกจากลูกสาวอั๊ว”

ขณะที่โก่งขับรถตู้คณะกลับจากวัด จอมนางลงไปเปิดประตูรั้ว เพื่อให้โก่งเอารถเข้าบ้าน เบิ้มกับพลขี่มอเตอร์ไซค์มาปาดหน้า
“นางลิเกอยู่นั่น”
เบิ้มกับพลไปจับตัวจอมนาง จะลากไปขึ้นมอเตอร์ไซค์
“อย่ายุ่งกับจอมนะโว้ย” กำจายตะโกนลั่น
ชาวคณะช่วยจอมนาง เบิ้มฟาดแป๊บน้ำใส่พวกกำจาย
“ไอ้โก๊ะไปเอาดาบในบ้าน” โก่งบอก
เบิ้มขวางไม่ให้โก๊ะเข้าบ้าน จอมนางเตะเป้ากางเกงพล แต่พลเอามือป้องกันทัน
“พี่รู้ทันน่าน้อง”
“ไอ้พล เอาผู้หญิงไปขึ้นรถ”
เบิ้มหันไปบู๊กับพวกกำจายเพื่อสกัด โดยเอาท่อนแป๊บน้ำไล่ฟาด พวกกำจายแตกกระเจิง พลลากจอมนางไปที่มอเตอร์ไซค์กระแตเข้าช่วย
“ปล่อยน้องชั้น”
หลงกำลังใช้ค้อนตอกตะปูซ่อมบันไดศาลาอยู่กับเจ๋งและพ่อ เสียงกระแตดังเข้ามา
“ปล่อยจอม”
“เสียงคุณกระแต”
พร้อมพงศ์หันไปทางเสียง “เสียงมาจากหน้าบ้าน”
สามคนรีบวิ่งไปดู หลงถือค้อนติดมือไปด้วย

หลง พร้อมพงศ์ และเจ๋งออกมาหน้าบ้าน เห็นเบิ้มเอาแป๊บน้ำไล่ฟาดพวกกำจาย พลลากจอมนางไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ ถูกกระแตยื้อไว้
“จอม”
หลงวิ่งไปช่วยจอมนาง จะเอาค้อนฟาดพล
“ปล่อยผู้หญิง”
พลกลัวโดนค้อน ยอมปล่อยจอมนาง หลงดึงจอมนางมากอดไว้แนบอก
“เป็นอะไรมั้ยจอม”
“ไม่จ้ะ”
พลมองหลงเขม็ง ดูออกว่าห่วงใยจอมนางมาก
พร้อมพงศ์กับเจ๋งช่วยพวกกำจายสู้กับเบิ้ม กลายเป็น 5 รุม1พร้อมพงศ์แย่งท่อนแป๊บน้ำจากเบิ้มได้
“ฟาดกบาลมันเลยลุง” โก่งบอก
เบิ้มร้องลั่น “อย่า”
“ทีนี้ล่ะกลัว” พร้อมพงศ์แกล้งแต่ไม่ฟาดจริง
“เบิ้ม พล กลับไปซะ อย่ามาระรานคนบ้านนี้อีก”
เบิ้มกับพลล่าถอย ขี่รถหนีไป
กำจายหันมาด่าหลง “เพราะเอ็ง เอาความเดือดร้อนมาให้จอม”
กระแตกับพวกน้ากำจายพาจอมนางเข้าบ้าน

หลงเครียดหนัก เสียใจยิ่งนัก ที่เป็นสาเหตุทำให้จอมนางตกอยู่ในอันตราย

อ่านต่อหน้า 3

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 22 (ต่อ)

เวลาต่อมา ชาวคณะนั่งห้อมล้อมปกป้องจอมนาง หลงมองจอมนางอย่างเป็นห่วงเป็นใยมาก ขณะที่ตัวจอมนางเองกลับไม่มีอาการตื่นกลัวซักเท่าไหร่

ครูเทียมลูบหัวหลานสาวปลอบขวัญ “ขวัญเอ๋ยขวัญมาลูก”
“ชิลล์ๆ จ้ะปู่ คนอย่างจอมนางไม่กลัวใครอยู่แล้ว”
“หัดกลัวซะมั่ง ปู่เป็นห่วงเอ็ง เอ ทำไมเจ้าหนี้พ่อพงศ์ ถึงให้คนมาจับหลานครูล่ะ เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนี้สินพ่อพงศ์”
พร้อมพงศ์เองก็งง “ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับครู”
กระแตตั้งข้อสังเกตขึ้นว่า “พวกมันต้องเอาจอมเป็นตัวประกัน บังคับให้ลุงพงศ์กับพี่หลงใช้หนี้ เหมือนที่เคยจับเจ๋งไป”
“ผมเป็นน้องพี่เทพ พวกมันเลยมาจับผมครับ”
“นั่นสิ จอมไม่ใช่น้องใช่นุ่งไอ้หลง จับตัวไปแล้วได้อะไร” กำจายว่า
“โธ่เอ๊ย ไม่เห็นยากเลยน้า ก็เพราะพวกมันจับไต๋พี่หลงได้ไง” โก๊ะอวดภูมิ
“จับไต๋อะไรวะ” โก่งงง
“ก็พี่หลงน่ะ รักจอม...” โก๊ะบอก
พอโก๊ะโพล่งออกมา จอมนางก็เขินจัด หลงไม่เขิน แต่หน้าเครียดจัด เสี่ยเต๊กรู้ว่าเค้ารักจอมนาง ผู้หญิงที่เค้ารักคนนี้ต้องอยู่ในอันตราย
จอมนางเขิน รีบแก้ต่างเป็นพัลวัน ลิ้นแทบพันกัน “รักอะไรกัน หนุ่มกรุงเทพฯอย่างพี่หลง ไม่รักเด็กบ้านนอกกะโปโลอย่างชั้นหรอก ใช่มั้ยจ๊ะพี่หลง”
จอมนางมองหน้าหลง ต้องการให้เขาช่วยแก้ต่าง หลงกลับมองจอมนางมาด้วยสายตาสุดรักสุดห่วงใย
“พี่ไม่ยอมให้คนพวกนั้นทำร้ายจอม พี่จะปกป้องจอมด้วยชีวิตของพี่”
หลงผลุนผลันออกไป
“เทพ ไปไหนลูก”
พร้อมพงศ์กับเจ๋งรีบตามหลงไป
คนทั้งบ้านหันมามองจอมนางด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะครูเทียมห่วงหลานสาวมาก จอมนางตีหน้าไม่ถูกอายคนในบ้าน แม้หลงไม่บอกว่ารัก แต่คำพูดโดยนัยและการกระทำเมื่อครู่ บ่งบอกว่าหลงรักเธอ

ฉาก2บ้านเช่าพร้อมพงศ์ / หน้าบ้านกลางวัน ต่อเนื่อง
หลงหน้าตาขึงขังก้าวเดินอย่างเร็วรี่กลับมาบ้าน พร้อมพงศ์กับเจ๋งแทบจะต้องวิ่งตาม ถึงตามทัน
“เจ๋ง หยิบกุญแจรถมาให้พี่ พี่จะไปลุยเสี่ยเต๊ก เสี่ยทำร้ายผู้หญิงที่พี่รัก”
พร้อมพงศ์ร้องขึ้น “ห้ามไปนะเทพ”
“เชื่อลุงเหอะพี่ อย่าไป”
“พี่ไปหยิบกุญแจรถเองก็ได้”
หลงจะเข้าบ้านไปหยิบกุญแจรถ พร้อมพงศ์จับลูกชายไว้ ไม่ยอมให้ไป
“พ่ออยากให้ผมไปหาเสี่ยเต๊กนักไม่ใช่หรอครับ ผมก็จะไปแล้วไง”
“สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เสี่ยเข้าใจว่าเอ็งทำลูกสาวเสี่ยท้องแล้วทิ้ง ตอนนี้เอ็งมารักคนอื่นอีก เสี่ยต้องแค้นเอ็งมาก อาจยิงเอ็งทิ้งเหมือนหมาข้างถนน” พร้อมพงศ์อธิบาย
“ผมยอมตาย เพื่อปกป้องจอม”
พร้อมพงศ์เสียงดังขึ้น “เอ็งนึกถึงพ่อบ้างสิวะ”
“ไม่ไปเคลียร์กับเสี่ยให้รู้เรื่อง จอมก็ไม่ปลอดภัยนะครับพ่อ”
“เราจะช่วยกันคุ้มครองจอมนาง เทพ พ่อเสียเอ็งไปไม่ได้ ตอนแม่เอ็งตาย หัวใจพ่อหายไปครึ่งดวง เสียเอ็งไปอีกคน ใจพ่อก็ไม่เหลือ พ่ออยู่ไม่ได้หรอก
พร้อมพงศ์ร้องไห้ออกมาจากใจจริง ด้วยห่วงชีวิตลูกชายคนเดียว หลงเห็นพ่อน้ำตาไหล ก็รู้พ่อไม่ได้แกล้งดราม่าหลอกตนเหมือนเคย พ่อห่วงเค้ามากจริง ๆ เลยอ่อนลง
“ผมไม่ไปก็ได้ครับพ่อ พ่อไม่เสียผมไปหรอก”
หลงยิ้มให้พ่อ เป็นเชิงรับปากว่าจะไม่ไปหาเสี่ยเต๊ก พร้อมพงศ์ถึงยอมปล่อยมือจากลูก
เจ๋งแซว “ทำซึ้งนะลุง แต่โทษที ผมไม่ซึ้ง”
พร้อมพงศ์หันไปหาไอ้เจ๋ง จะด่ามัน แซวไม่ถูกกาลเทศะ แต่กลับเห็นไอ้เจ๋งน้ำตาเอ่อล้นสองลูกกะตา เจ๋งก็ซึ้งความรักของลุงพงศ์ที่มีต่อพี่เทพแต่ทำปากดีไปงั้น

หลงขบคิดหาทางอื่น เพื่อจบปัญหาระหว่างเขากับเสี่ยเต๊ก

ฝ่ายเสี่ยเต๊กอยู่ในบ้านคุยโทรศัพท์กับพล พอฟังจบก็ด่าลั่น

“ไอ้พวกไม่เอาถ่าน แค่ผู้หญิงคนเดียว จับมาไม่ได้”
เบิ้มกะพลหยุดอยู่ละแวกถนนแถวบ้านครูเทียม พลเป็นคนโทร.รายงานเสี่ยเต๊ก
“พงศ์เทพจะเอาค้อนตีหัวผมครับ ท่าทางพงศ์เทพห่วงนางเอกลิเกคนนั้นมาก”
เสี่ยถามทันที “เป็นเมียมันหรือเปล่า”
“ไม่แน่ใจครับ แต่ต้องเป็นคนสำคัญ ผมเห็นพงศ์เทพดึงผู้หญิงไปกอด” พลรายงานละเอียดยิบ
เสี่ยเต๊กแค้นมาก “มันกอดผู้หญิงคนอื่น ทิ้งลูกสาวอั๊วให้ร้องไห้ จับตาดูมันกับนางเอกลิเกไว้ อย่าให้พากันหนีไป”
“ครับเสี่ย”
เสี่ยเต๊กวางสายไป คำรามในคอ
“พงศ์เทพ ไม่ติดว่าลื๊อเป็นพ่อลูกในท้องลูกสาวอั๊ว อั๊วสั่งยิงลื๊อแล้ว”
หน้าตาท่าทางเสี่ยเต๊กเคียดแค้นพงศ์เทพถึงขีดสุด

ทางด้านหลงหรือพงศ์เทพแอบพ่อออกมาโทร.หาเหลียนฮัว
เหลียนฮัวกำลังกลัดกลุ้มเรื่องลูกสาวอยู่ในห้อง ขณะพงศ์เทพโทร.มา
เหลียนฮัวเห็นเบอร์ รีบรับสาย “อาเทพ อย่าบอกนะว่าลื๊อโทร.มายกเลิกนัดพรุ่งนี้”
พงศ์เทพหน้าตาโกรธแค้นอยู่ “ผมโทร.มาเลื่อนเวลานัดให้เร็วขึ้นครับ จากช่วงบ่าย เป็นเช้าผมจะไปเจอคุณนาย 9 โมงเช้า ที่ร้านกาแฟปากทางบ้านคุณนาย”
เหลียนฮัวนึกว่าพงศ์เทพอยากช่วย ยิ้มดีใจ “ได้ เจอกัน 9 โมง ขอบใจลื๊อมากที่กระตือลือร้น อยากช่วยเหมย”
“คุณนายห้ามบอกเสี่ยเต๊กให้ไปจับผมนะครับ เสี่ยเต๊กเล่นแรง อาจเอาผมถึงตาย ผมยังมีพ่อต้องดูแล”
“อั๊วเป็นคนรักษาคำพูด ลื๊อจะปลอดภัย กลับไปหาเฮียพงศ์”
พงศ์เทพบอกเสียงเข้ม “คุณนายครับ พรุ่งนี้ปัญหาระหว่างเราต้องจบ ผมปล่อยให้ยืดเยื้อไม่ได้อีกแล้ว”
เหลียนฮัวบอกเสียงเข้มเช่นกัน “อั๊วก็ต้องการให้เรื่องนี้จบเร็วที่สุด เหมยท้องโตขึ้นทุกวัน พรุ่งนี้เรามาช่วยกันคิดแก้ปัญหา อั๊วหวังว่าทุกอย่างจะจบด้วยดี”
“ผมก็หวังอย่างนั้นครับ” พงศ์เทพวางสายไป
เหลียนฮัวเข้าใจผิดว่าพงศ์เทพโทร.มาเพราะอยากช่วยเหมยฮัว จึงรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก คุณนายยิ้มย่อง
“อาเทพโทร.มาพูดแบบนี้ อาจยอมช่วยกู้หน้าเหมย แต่งงานกับเหมย”
พงศ์เทพมีจุดประสงค์คนละอย่างกับเหลียนฮัว
“ผมปล่อยให้ชีวิตผู้หญิงที่ผมรักตกอยู่ในอันตรายไม่ได้ ผมต้องรีบจบปัญหา”

ตกตอนกลางคืนที่วัดแห่งนั้นในบางไทร
ฟ้าประทานรับหมอน ผ้าห่ม จากเด็กวัด
“หลวงพี่ให้เอามาให้”
“ขอบใจ”
เด็กวัดกลับออกไป ฟ้าประทานส่งหมอนกับผ้าห่มให้ตุ้มใช้นอน
ตุ้มซึม ไม่อยากอาศัยวัดนอนแล้ว “เราต้องนอนวัดอีกกี่คืนจ๊ะ”
“วันนี้จอมมาตามหาเรา ต้องรู้ระแคะระคายว่าเราอยู่วัดนี้ พรุ่งนี้เราต้องรีบไปแต่เช้า หลวงพี่จะให้เงินค่าจ้างผม ที่ช่วยงานในวัด เรามีค่ารถไปจากบางไทร”
“ฟ้าประทานจะไปไหน”
“พิจิตร”
“พิจิตร มีคนรู้จักที่นั่นเหรอจ๊ะ”
“ที่พิจิตรมีลิเกหลายคณะ อยู่ไกลอยุธยา ข่าวผมอมเงินคณะ ไม่น่าไปถึง ต้องมีซักคณะไม่รังเกียจผม รับผม”
ตุ้มหน้าเศร้าไม่อยากไปจากบางไทร บ้านเกิด
ฟ้าประทานมองตุ้มอย่างเข้าใจ “ผมสัญญา วันนึงเราจะกลับบางไทร กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ผมจะมี
คณะลิเกของตัวเอง มีรถบัสขนลูกคณะมาเป็นสิบชีวิต”
“ชั้นไม่อยากยิ่งใหญ่ ชั้นอยากมี ครอบครัว ครูเทียมคือครอบครัวของชั้น”
“ผมทะนงตน ทิ้งครูไปในวันที่ครูลำบาก ตากหน้ากลับไป ผมก็เสียศักดิ์ศรี” ฟ้าประทานบอก
“วางศักดิ์ศรีลงเถอะจ้ะฟ้าประทาน จอมกับพวกน้ากำจายมาตามหาเรา แสดงว่าอยากให้เรากลับบ้าน”
ตุ้มเกลี้ยกล่อมแต่ฟ้าประทานไม่ยอม “ผมขอไปตายเอาดาบหน้า ยังไงผมก็ไม่กลับบ้านเทียมฟ้า เมื่อตัดใจจากมาแล้ว ฟ้าประทานก็ไม่ขอหวนคืน”
ตุ้มกลุ้ม ป่วยการจะเกลี้ยกล่อมฟ้าประทาน เลยล้มตัวลงนอน ใบหน้าหมองเศร้า
ฟ้าประทานนั่งเอาหัวพิงเสาศาลา สีหน้าวิตกกังวลกับอนาคตข้างหน้าของตนกับตุ้มอย่างมาก

คืนเดียวกันโก่งกับโก๊ะปิดประตูหน้าต่าง ลงกลอน ครูเทียมหน้าเคร่งเครียด ยืนดูว่าลงกลอนแน่นหนาหรือเปล่า
ครูเทียมกำชับ “ลงกลอนให้แน่นๆ ให้งัดเข้ามาไม่ได้”
กำจายถือดาบลิเกมา 3 เล่ม แบ่งดาบให้โก่งกับโก๊ะคนละเล่ม
“พวกมันบุกเข้ามา ก็แพ่นกบาลให้แยก”
“ไม่จวนตัวจริงๆ พวกเอ็งอย่าทำร้ายใคร ข้าไม่อยากให้เลือดตกยางออก” ครูบอก
“คนลิเกไม่รังแกใครก่อน แต่ถ้าใครรังแกเรา เราก็สู้ยิบตาจ้ะครู”
“ขอบใจพวกเอ็งมากที่ไม่เกรงกลัวอันตราย ช่วยปกป้องหลานข้า”
“จอมก็เหมือนญาติสนิทเรา ใครจะทำร้ายจอม ต้องข้ามศพพวกเราไปก่อนจ้ะ” โก๊ะว่าขึงขัง
โก๊ะกับโก่งปิดประตูหน้าต่างหมดทุกบานแล้ว อีกทั้งพวกกำจายแสดงท่าทีแข็งขันจะปกป้องจอมนาง

ครูเทียมเบาใจ สีหน้าคลายกังวลลง อย่างน้อยคืนนี้หลานสาวยังปลอดภัย

อ่านต่อหน้า 4

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 22 (ต่อ)

ฝ่ายจอมนางยืนเกาะขอบหน้าต่าง มองลงไปที่ประตูรั้ว มืดค่ำแล้ว หลงยังไม่กลับบ้าน จอมนางวิตกกังวลเป็นห่วงเขา กระแตมายืนข้างน้อง รู้ทันว่าคิดอะไร

“คืนนี้พี่หลงคงนอนบ้านลุงพงศ์น่ะจอม”
จอมนางทำเฉไฉ “อยู่ๆ พี่กระแตพูดถึงพี่หลงขึ้นมาทำไมจ๊ะ”
“ก็จอมชะเง้อรอพี่หลง”
“ใครว่าชั้นชะเง้อรอ ชั้นยืนรับลมต่างหาก”
จอมนางเดินหนีไปขึ้นเตียงนอน ทำเป็นว่าไม่สนใจไยดีหลง
“จอม ดูพี่หลงเค้ารักจอมมากนะ”
“เอาอะไรมาพูดจ๊ะพี่กระแต พี่หลงเค้าไม่ได้บอกว่ารักชั้นซักคำ”
“เค้าบอกจะเอาชีวิตปกป้องจอม มันหนักแน่นกว่าคำว่ารักอีกนะ”
จอมนางนึกถึงตอนที่พี่หลงพูดคำนี้
“พี่ไม่ยอมให้คนพวกนั้นทำร้ายจอม พี่จะปกป้องจอมด้วยชีวิตของพี่”
จอมนางเผลอยิ้ม อดปลาบปลื้มใจไม่ได้ หลงรักเธอถึงขนาดจะเอาชีวิตปกป้อง
“จอมล่ะ รักพี่หลงแค่ไหน” กระแตถามน้อง
จอมนางพูดด้วยความรู้สึกเศร้าลึกๆ “ชั้นจะรักหรือไม่รักพี่หลง ก็ไม่สำคัญเท่าความจริงที่ว่า พี่หลงโกหกชั้นสารพัด พี่กระแตจ๋า เราควรรักคนที่เราไว้ใจไม่ได้งั้นหรอวันหน้า เค้าจะโกหกเราอีกมั้ย”
“พี่ก็ตอบไม่ได้”
“ชั้นไม่ไว้ใจพี่หลง นี่คือสิ่งที่ชั้นรู้สึกชัดเจนแจ่มแจ้งที่สุด”
กระแตมองเห็นใจน้องสาว แล้วหันไปปิดหน้าต่างห้องนอน
“ปิดทำไมจ๊ะ อุดอู้”
“ปู่สั่งให้ปิดหน้าต่าง เผื่อคนร้ายปีนขึ้นห้อง”
กระแตปิดหน้าต่างห้องนอนหมดทุกบาน

หลงหลบมุมมืดอยู่กะเจ๋งและพ่อ เขายืนชะเง้ออยู่นอกรั้วบ้าน ดูห้องนอนจอมนาง เห็นหน้าต่างห้องนอนกำลังถูกปิดหมดทีละบาน
“ปกติจอมเปิดหน้าต่างนอน”
“กลัวไอ้เบิ้มไอ้พลปีนขึ้นไปจับตัวน่ะพี่” เจ๋งว่า
หลงเศร้า “พี่ผิดเอง ลากจอมเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“รักใครซักคนมันไม่ผิดหรอกพี่ เพียงแต่ พี่มารักเอาผิดเวลา พี่กำลังถูกตามล่า”

หลงมีสีหน้าเจ็บใจโกรธแค้นเสี่ยเต๊กมาก “เสี่ยเอาพี่ไปแล่เนื้อเถือหนัง พี่ทนเจ็บได้ แต่ถ้าเสี่ยแตะต้องจอมแม้แต่ปลายเล็บ พี่ทนไม่ได้”
พร้อมพงศ์เห็นลูกชายโกรธแค้นเสี่ยเต๊กเรื่องจอมนางมาก กลัวลูกชายบุกไปหาเสี่ย
“ผู้หญิงเค้าปิดบ้านปิดช่อง ปลอดภัยดีแล้ว เราก็กลับบ้านเหอะพี่”
หลงกับเจ๋งเดินกลับ พร้อมพงศ์ยังยืนนิ่งอยู่
“พ่อล่ะกลัวใจเอ็งจริงๆ เทพ กลัวเอ็งบ้าระห่ำ ไปลุยเสี่ยเต๊ก”
พร้อมพงศ์เครียดจัด คิดหาทางป้องกัน ไม่ให้ลูกชายไปหาเสี่ยเต๊ก

เมื่อคืนสามคนมานอนรวมกันที่ห้องโถง พร้อมพงศ์กับเจ๋งยังหลับสนิท หลงตื่นแต่เช้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว จะหนีพ่อไปหาเหลียนฮัวที่กรุงเทพฯ แต่หากุญแจรถไม่เจอ หันไปมองพ่อที่หลับอยู่อย่างรู้ทัน
“พ่อต้องเอากุญแจรถไปซ่อน กลัวเราบุกไปหาเสี่ย”
หลงมองทั่วห้องโถง ว่าพ่อน่าจะซ่อนกุญแจรถไว้ไหน เขาหันกลับมามองพ่อเห็นกางเกงนอนพ่อมีกระเป๋าดูตุงๆ คิดว่ากุญแจรถต้องอยู่ในกระเป๋ากางเกง หลงล้วงกระเป๋ากางเกงพ่อที่นอนหลับอย่างเบามือที่สุดไม่ให้พ่อตื่น
จู่ๆพร้อมพงศ์ลุกนั่งพรวด หลงเฉย ไม่หลบ รู้ดีว่าอาการนี้พ่อละเมอ
“เทพ...”
หลงขำพ่อ “นอนละเมอแต่หนุ่มยันแก่นะพ่อ”
พร้อมพงศ์ละเมอต่อ “พ่อรักเอ็งนะว้อย” จบคำก็ล้มตัวนอนต่อ
หลงซึ้งพ่อขนาดละเมอ ยังห่วงตน “ผมก็รักพ่อครับ แต่ผมต้องไปผมต้องปกป้องจอม”
หลงล้วงกระเป๋ากางเกงต่อ จนเอากุญแจรถออกมาได้ แล้วย่องออกไปหน้าบ้าน

หลงปิดประตูรถเบาๆ กลัวทำพ่อกับเจ๋งตื่น บิดกุญแจสตาร์ตรถ
เสียงเครื่องยนต์หน้าบ้านทำให้พร้อมพงศ์สะดุ้งตื่น รีบลุกไปดูหน้าบ้าน
พร้อมพงศ์วิ่งออกมา เห็นลูกชายกำลังขับรถออกไป
“เทพ อย่าไปลูก เทพ”
หลงขับรถออกจากบ้าน โดยไม่เห็นพ่อ
“โธ่เอ๊ยลูก ไม่เชื่อฟังพ่อ หนีไปหาเสี่ยเต๊ก”
เจ๋งงัวเงียออกมา

“เทพไปลุยกับเสี่ยเต๊ก”
เจ๋งหายง่วงทันที “เอ้าพี่เทพ รนหาที่ชัดๆ”
“ลุงจะไปหารถชาวบ้าน จ้างให้ขับตามไป เอ็งรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ลุงแก่แล้ว ต้วมเตี้ยม ผมวิ่งไปหารถเอง ลุงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”

เจ๋งรีบวิ่งออกไปหารถรับจ้าง พร้อมพงศ์รีบเข้าบ้าน ต่างคนรีบร้อนจะตามไปช่วยหลง

ทางฝ่ายครูเทียมจุดธูปไหว้พ่อแก่

“ตอนนี้หลานสาวลูกถูกปองร้าย ขอพ่อแก่ปกปักษ์คุ้มครองจอมให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเถิด”
จอมนางเดินมานั่งประนมมือไหว้พ่อแก่ข้างๆ ปู่
“เมื่อคืนหลับสบายมั้ยลูก กลัวหรือเปล่า”
“มีพ่อแก่คุ้มครอง ชั้นต้องกลัวอะไรล่ะจ๊ะ”
ครูเทียมขอพรพ่อแก่ต่อ “ขอพ่อแก่ดลใจให้ฟ้าประทานกับตุ้มหวนกลับมาหาลูกในเร็ววัน”
ครูเทียมกำลังขาไม่ดี ลุกนั่งลำบาก จอมนางเลยเอาธูปไปปักในกระถางหน้าพ่อแก่ให้ปู่
จอมนางตัดสินใจบอกเรื่องฟ้าประทานกับตุ้ม
“ปู่จ๊ะ เมื่อวานคนข้างบ้านมาบอกว่า เห็นผู้ชายเหมือนฟ้าประทานที่วัด พวกชั้นไปตามหา แต่ไม่เจอ”
“ทำไมเอ็งถึงเพิ่งบอกปู่ ก็รู้อยู่ ปู่ห่วงฟ้าประทานกับตุ้มมาก”
“ชั้นไม่อยากให้ปู่ไม่สบายใจจ้ะ ชั้นสงสัยว่า ฟ้าประทานหลบหน้าพวกชั้น”
“อะไรทำให้เอ็งคิดอย่างนั้น”
“คนข้างบ้านบอกว่า เห็นคนเหมือนฟ้าประทานกำลังกวาดลานวัด ตอนไปถึงวัด ชั้นเห็นไม้กวาดวางทิ้งอยู่กลางลาน ขยะยังไม่เก็บทิ้ง เหมือนคนกวาดรีบร้อนหนีไป”
ครูเทียมฟังหลานสาวเล่าจบ ก็ไม่รอช้า ใช้ไม้เท้ายันกายลุกขึ้น รีบลงข้างล่าง
“เดินช้าๆ จ้ะปู่ เดี๋ยวล้ม”
จอมนางไปประคองปู่ ให้เดินช้าลง

จอมนางประคองปู่เดินลงมาในห้องโถงแล้ว ครูเทียมร้อนอกร้อนใจมากตะโกนไปทางห้องนอนพวกกำจาย
“โก่งเอ๊ย ตื่นเร็ว เอารถออก ข้าจะไปวัด”
“ชั้นไปด้วยนะจ๊ะ”
“เอ็งห้ามออกไปไหน คนร้ายอาจมาจับตัวเอ็งอีก”
โก๊ะถือดาบลิเกวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องนอน
“พวกมันบุกเข้ามาหรอจ๊ะครู ไหน มันอยู่ไหน”
“ไม่มีใครบุกเข้าบ้าน ไอ้โก๊ะก็ได้ ขี่มอเตอร์ไซค์พาข้าไปวัด”
โก๊ะงง “วันนี้ไม่ใช่วันพระ ที่วัดไม่มีทำบุญนะจ๊ะครู”
ครูเทียมตัดบท “เอ็งไม่ต้องพูดให้มากความ หยิบกุญแจรถเร็ว”
“จ้ะๆ ครู”
โก๊ะวางดาบ รีบไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์
ครูเทียมกำชับหลานสาวหนักแน่น “ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด ไปยืนหน้ารั้วบ้านก็ไม่ได้ รับคำปู่ซีจอม อย่าดื้อ”
“ชั้นจะอยู่แต่ในบ้านจ้ะ”
ครูเทียมคลายความเป็นห่วง รีบออกไปกับโก๊ะ จอมนางอยู่รอปู่ในบ้าน

สองคนนั่งสำรวมอยู่บนกุฎีในวัด ฟ้าประทานรับเงินค่าทำงาน 1 พันบาท จากหลวงพี่รูปเดิม
“ผมไม่มีเงินทอนครับหลวงพี่ หลวงพี่บอกจะให้ค่าแรงผม 500”
“อาตมาเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้ โยมเอาไปเป็นค่ารถเถอะ”
“ขอบพระคุณมากครับหลวงพี่” ฟ้าประทานก้มกราบ
“ไม่ว่าโยมไปอยู่ไหน หมั่นทำความดี ทำบุญตักบาตร บุญกุศลจะเกื้อหนุนให้ชีวิตพวกโยมเจริญก้าวหน้า”
“สาธุค่ะหลวงพี่”
ฟ้าประทานกับตุ้มกราบลาหลวงพี่ เดินเข่าออกไป

ฟ้าประทานกับตุ้มกำลังจะออกจากวัด ตุ้มร้องไห้กระซิกๆ ตลอดทาง ไม่อยากจากบางไทรบ้านเกิด
ฟ้าประทานมองสงสาร “ตัดใจไปไม่ได้ ตุ้มก็กลับบ้านเทียมฟ้าเถอะ ผมไปคนเดียว”
“ชั้นจะทิ้งให้ผัวไปลำบากคนเดียวได้ยังไง ผัวเมียกัน ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน”
“เราจะสู้ไปด้วยกันนะตุ้ม”
ฟ้าประทานจับมือตุ้มให้กำลังใจกันและกัน สองคนเดินต่อ และกำลังจะออกนอกประตูวัด โก๊ะขี่มอเตอร์ไซค์พาครูเทียมมา
ตุ้มเห็นก่อนตกใจระคนดีใจ “ครู”
ครูเทียมลงรถ ใช้ไม้เท้าช่วยยืน มองศิษย์รักสองคนด้วยความรักห่วงใยยิ่งยวด ฟ้าประทานกับตุ้มเห็นครูต้องใช้ไม้เท้าค้ำช่วยทรงตัว ก็สะเทือนใจรู้ว่าครูป่วย
“ครูป่วยมากเหรอครับ ต้องใช้ไม้เท้า”
“ต่อให้ข้าเดินไม่ได้ ข้าก็จะคลานมาหาพวกเอ็ง มาตามพวกเอ็งกลับบ้าน”
“ผมอกตัญญู ทอดทิ้งครูในยามยาก ผมไม่มีหน้ากลับไปพึ่งพิงครูครับ”
“ถึงพวกเอ็งไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่ข้าก็เลี้ยงดู ผูกใจกันมานับสิบปี ข้ารักพวกเอ็งเหมือนลูกเหมือนหลาน ข้าไม่ถือโทษโกรธหลานตัวเองหรอก”
“ครูเทียม ชั้นรักครูจ้ะ”
ตุ้มตื้นตันใจในความรักของครูเทียม ทรุดลงนั่งคุกเข่ากอดขาครูเทียมร้องไห้สะอึกสะอื้น ฟ้าประทานกลั้นน้ำตา ทำใจแข็งไว้
“ฝากตุ้มด้วยนะครับครู ผมลา”
“เอ็งจะทิ้งเมียเหรอฟ้าประทาน” โก๊ะฉุน
“หนทางข้างหน้า อาจลำบากแสนสาหัส ตุ้มอยู่ทางนี้ ต้องสุขสบายกว่าขอโทษนะตุ้ม ผมไม่ยอมให้ตุ้มไปร่วมทุกข์กับผมด้วย”
ฟ้าประทานหันหลัง จะเดินจากไป
ครูเทียมใจหายบอกเสียงเครือ “ข้าขอร้องเอ็งในฐานะ ปู่...อย่าทิ้งปู่ไปเลยลูก...ปู่รักเอ็ง”
คำพูดครูเทียมทะลุทะลวงเข้าไปในหัวใจฟ้าประทาน เขาหันมาช้าๆ เห็นครูร้องไห้
น้ำตาของครูเทียมทำลายทิฐิของฟ้าประทานแทบหมดสิ้น เขาสำนึกผิดโผกอดขาครูเทียมร้องไห้
“บุญคุณของครูหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ ผมไม่ตอบแทนพระคุณ แล้วยังทำครูร้องไห้
“ไม่อยากให้ข้าร้องไห้ เอ็งก็กลับบ้านกับข้า ไปเป็นลูกหลานข้าเหมือนเดิม”
“ครับครู ผมจะกลับบ้านไปดูแลครู”

ฟ้าประทานสิ้นฐิติ กราบเท้าครูเทียมขอขมา ครูเทียมก้มลงลูบหัวฟ้าประทานอย่างรักและเมตตาดังเดิม

อ่านต่อตอนที่ 23
กำลังโหลดความคิดเห็น