xs
xsm
sm
md
lg

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 22

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 22

หาญประคองเดือนลงนอน ชื่นจะเช็ดหน้า หาญฉวยผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้

"แม่เดือน...อย่าเป็นอะไรนะแม่เดือน ฉันขอโทษที่ไม่ได้ปกป้องหล่อนเลย"
ชื่นอึ้ง นึกรู้ว่าสองคนรู้สึกอย่างไรกัน
"นังชื่น เห็นคุณหาญมั้ย นังชื่น"
เอื้อยเข้ามาอย่างรีบร้อน
"คุณหาญมะ..มาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ รีบกลับเรือนใหญ่เถอะเจ้าค่ะ"
หาญไม่สนใจ
"แม่เดือนไม่สบาย ทำไมไม่มีใครบอกฉัน"
"โธ่ คุณหาญ บ่าวจะมีหน้าไปบอกได้เยี่ยงไรเจ้าคะ แล้วอี...เอ่อ แม่ดาว เมียคุณหาญก็โทษว่ามันทำผิดด้วย" ชื่นว่า
"ฉัน...เสียใจจริงๆแม่ชื่น ฉันควรจะออกหน้าคุ้มครองแม่เดือน"
"อย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะ คุณหาญมิได้ทำเช่นนั้นก็ดีแล้ว เพราะคุณหาญกับแม่เดือนไม่ได้เป็นอะไรกันมากกว่า...เป็นนายกับทาส" เอื้อยว่า
เอื้อยย้ำเนียนๆ หาญอึ้งไป
"รีบกลับเรือนใหญ่เถิดเจ้าค่ะ คุณบุษบาบรรณไม่สบาย หมอมาตรวจแล้ว คุณหาญกำลังจะมีลูกอีกคนแล้วเจ้าค่ะ"
"บุษ...ท้อง"
"รีบกลับไปดูแลภรรยาคุณหาญดีกว่าเจ้าค่ะ" ชื่นว่า
ชื่นขยับตัวเข้าไป หาญจำต้องปล่อยมือจากการประคองกอดเดือน ทั้งคู่รู้ว่าหาญและเดือนมีใจให้กัน

บุษบาบรรณนอนซีดเซียวอยู่บนเตียง หาญอยู่ข้างๆ ดูแลไม่ค่อยเป็น
"จิบยาเขียวเสียหน่อยไหม หรือว่า จะเป็นยาหอม"
"เอ้อ...เหม็นค่ะ"
บุษบาบรรณอาเจียน หาญรีบจ่อยาดมส้มมือ
"ดมส้มมือเสียหน่อย เผื่อจะดีขึ้น"
แม่หญิงปัดออกอย่างสุภาพ
"พอเถอะค่ะ คุณหาญไม่ต้องมาดูแลบุษหรอก บุษไม่เป็นอะไรมาก คุณหาญกลับไปดู..."
หาญรู้สึกผิด รีบกอดบุษบาบรรณแนบอก ลูบหัวปลอบโยน
"ผมคงทำให้คุณบุษเสียใจหลายเรื่อง แต่ผมเคยสัญญาแล้วเมื่อเราแต่งงานกัน ผมจะดูแลคุณบุษอย่างดีที่สุด"
"ลูกก็คงดีใจนะคะ"
"ไม่ใช่เพราะคุณบุษมีลูกหรอกครับ ต่อให้คุณบุษจะมีลูกหรือไม่มีก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณบุษเปลี่ยนไป"
"บุษเคยปรารถนาจะเป็นภรรยาเอก เป็นคนเดียว แต่บัดนี้แม้จะไม่ใช่หนึ่งเดียวในใจคุณหาญ แต่ก็ขอเป็นภรรยาที่ดีที่สุดเท่าที่บุษจะทำได้ค่ะ"
"โธ่ คุณบุษ ไม่มีใครแย่งผมไปจากคุณได้หรอก คุณเป็นเมียเดียวของผม"
หาญกอดบุษบาบรรณแน่นเข้าอย่างสำนึกผิด
ดาวแอบมองผ่านประตูที่แง้มไว้นิดๆ
"ฉันเป็นเมียคุณหาญ....ฉันจะเป็นเมียคนเดียวของคุณหาญ"
ดาวกัดฟันแทบไม่อยากมองภาพในห้อง

แสนนอนอยู่บนเตียง สีหน้าสดชื่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อทราบข่าวดีจากลูกชายและลูกสะใภ้
"พ่อดีใจด้วยนะพ่อหาญ...แม่บุษ แต่พ่อไม่รู้จะอยู่ได้เห็นหน้าหลานคนนี้หรือไม่"
"อยู่สิขอรับ คุณพ่อจะต้องแข็งแรงขึ้น ได้เห็นลูกหลานเติบโตขึ้น"
"ถ้าพ่อไม่มีวาสนาถึงวันนั้น พ่อก็ขออวยพรให้พ่อหาญกับแม่บุษมีลูกชายสืบสกุล ทำตระกูลของเราให้เป็นปึกแผ่น"
"ยังไม่เข็ดใช่ไหมคุณพี่" พวงแก้วว่า
"คุณแม่"
กล้าและฟ้าหยาดอยู่แถวนั้น ได้ยินพอดี
"ลูกจะเป็นเพศอะไรก็ยังเป็นลูก อคติที่คุณพี่ยึดมั่นไว้มันได้อะไรนอกจากความเจ็บปวดของทุกคน"
พวงแก้วเดินออกมาจากห้อง ฃ
แสนเสียใจ นึกย้อนทบทวน
"พ่อผิดหรือหาญ ที่พ่ออยากให้ใต้หล้าเป็นปึกแผ่น พ่อผิดหรือที่อยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝาตามจารีตธรรมเนียม เป็นความผิดของพ่อใช่ไหมที่ฉุดกระชากชะตาของทุกคนในใต้หล้าจนตกต่ำแบบนี้"
แสนพูดแล้วก็ไอ กระอักเลือด หาญและบุษบาบรรณรีบช่วยดูแล
"คุณพ่ออย่าคิดมากเลยค่ะ เรื่องที่ผ่านมาแล้วเป็นอดีต เรากลับไปแก้ไขไม่ได้"
"ตอนนี้เราทุกคนในใต้หล้ามีบทเรียนแล้ว เราจะไม่เดินซ้ำรอยเดิมขอรับ คุณพ่อพักผ่อนนะขอรับ"
หาญกับบุษจัดแจงประคองแสนนอนลง
"จริงสิ พ่อได้ยินว่านังเดือนมันถูกแม่ดาวลงโทษรึ"
หาญก้มหน้า
"ขอรับ"
บุษบาบรรณรู้ว่าหาญเศร้าใจ จึงเอ่ยปากกับเจ้าสัว
"ถ้าอิฉันจะขอความเมตตาจากคุณพ่อช่วยสั่งยกเลิกแม่เดือนจะได้ไหมเจ้าคะ เพราะอิฉันไม่มีคนคอยดูแล จะมีคนสนิทก็แต่แม่เดือนเพียงคนเดียวเท่านั้นเจ้าค่ะ"
แสนนิ่งคิดแล้วตอบ
"อืม...ได้สิ ฟ้าหยาดก็มาแจ้งกับพ่อไว้วันก่อนเหมือนกันเรื่องแม่เดือน พ่อหาญจัดการละกันนะ"
"ได้ขอรับคุณพ่อ"

แสนยพยักหน้านอนเหนื่อยๆ หาญห่มผ้าให้ อาการแสนไม่ค่อยดีเลย

ฟ้าหยาดเหมือนจะยิ้มให้ พวงแก้วยิ้มตอบ ยิ้มนั้นคลี่ออกเป็นความเหยียดหยาม

"ฉันไม่ได้ปกป้องหล่อน ฉันปกป้องลูกกล้าของฉัน หล่อนเองก็เป็นอีกคนที่จุดชนวนความฉิบหายงามหน้าให้ใต้หล้า...แม่ชั่ว ลูกมันก็คงจะชั่วไม่แพ้กัน"
"คุณแม่ขอรับ ผมเองก็ทำเรื่องน่าอับอายให้ใต้หล้าเช่นกันนะขอรับ"
"ลูกชั่วก็คงจะไม่แพ้"
"นังเด็กเมื่อวานซืน"
ฟ้าหยาดมองหน้าพวงแก้ว แล้วสะบัดออกไป
"ปล่อยวางเสียบ้างเถอะขอรับคุณแม่ ขอให้เห็นแก่คุณพ่อ"
"ลูกกล้า ลูกไปญาติดีกับอีลูกเมียหยำฉ่าของคุณพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นหรือ ตั้งแต่คุณพ่อของลูกพามันเข้ามาในใต้หล้า ตั้งแต่รุ่นอีบุหงาแม่มัน...แม่ไม่เคยมีความสุขเลย แล้วจะให้แม่เห็นแก่คุณพ่อของลูกอย่างนั้นรึ"
"หากไม่เห็นแก่คุณพ่อ ก็ขอให้คุณแม่เห็นแก่ตัวเองเถิดขอรับ...ซินแสเทียนสอนกระผมไว้ กิเลสในใจพาไปสู่ทุกข์ หากคุณแม่ไม่ปล่อยวาง ก็เท่ากับคุณแม่กอดกิเลสไว้ให้มันเผาไหม้หัวใจไปจนตาย"
พวงแก้วยืนอึ้งหน้าชา มองลูกตัวเองที่เหมือนจะโตขึ้นแบบพลิกฝ่ามือ กล้าเดินห่างออกไป พวงแก้วสับสน กลัวว่าสายสัมพันธ์แม่ลูกจะห่างออกไปหรือไม่

วันใหม่ โต๊ะอาหารตัวใหญ่ สำรับถูกจัดไว้ที่เดียว พวงแก้วนั่งคนเดียวมองความเงียบหงาเปล่าเปลี่ยวรอบตัว
"คุณหาญรับทานในห้องกับคุณบุษค่ะ ส่วนคุณกล้าบอกว่าจะรีบไปร้าน จะหารับประทานเองที่ตลาดเจ้าค่ะ"
"ฉันผลักไสทุกคนออกไปเองกับมือใช่ไหมเอื้อย...ทั้งท่านเจ้าสัว ลูกกล้า ลูกหาญ"
เอื้อยจับมือพวงแก้วไว้
"มือของเมีย และมือของแม่ ดึงเขากลับมาอยู่ในอ้อมอกได้ทุกเมื่อนะเจ้าคะ"
พวงแก้วเริ่มทบทวน พยายามสู้กับทิฐิตัวเอง

สายฝนนั่งซึมอยู่มุมหนึ่ง ปาดน้ำตาป้อยๆ ฟ้าหยาดยืนมองอยู่มุมหนึ่ง กล้าจะออกไปทำงาน เห็นจึงแวะเดินไปหา
"ฉันเสียใจ และขอโทษแทนแม่ฉันด้วย เรื่องที่แม่แก้วกล่าวหาแม่ของเธอ"
"ฉันไม่ได้ผูกพันกับ..." ฟ้าหยาดจะเรียกบุหงาว่าแม่ ก็เรียกไม่ลง "เขาเท่าไหร่หรอก แต่โน่น"
ทั้งคู่มองไปที่สายฝน
"ถึงน้าบุหงาจะดูเหมือนไม่รักน้องสายฝน ทั้งดุด่าลงไม้ลงมือ แต่เขาก็เลี้ยงกันมา คุณพ่อเองก็ไม่ค่อยอุ้มชูสายฝนเท่าไหร่"
"ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สายฝนเป็นอย่างนี้ใช่ไหม พี่กล้า"
"ตอนนี้สายฝนคงรู้สึกเหมือนตัวคนเดียว แม่ไม่มี พ่อก็นะ...ส่วนพี่น้องก็ไม่เคยญาติดีกันมาก่อน"
"แบบนี้ ดีไม่ดีจะบ้าเอาง่ายๆ"
จู่ๆ สายฝนก็กรี๊ดขึ้นมา กล้าตกใจ ฟ้าหยาดหัวเราะเยาะ
"พูดไม่ทันขาดคำ"
"ฟ้าหยาด อย่างน้อยสายฝนก็เป็นน้องเธอนะ ถ้าคิดว่าถึงเวลาจะชดใช้อะไรก็ตอนนี้แหละ"

ฝนทำท่าเหมือนจะโดดน้ำ
กล้ารวบตัวไว้
"น้องสายฝน จะทำอะไร"
"ปล่อยสายฝน สายฝนไม่อยากอยู่แล้ว สายฝนไม่เหลือใครแล้ว"
"พูดอะไรไม่คิด คุณพ่อก็ยังอยู่ เธอก็เป็นลูกคุณพ่อ"
"คุณพ่อใจร้ายไล่คุณแม่ อีกหน่อยสายฝนก็คงถูกถีบหัวส่งเหมือนกัน ไล่แบบนั้นเหมือนไล่ไปตาย ถ้างั้นก็ตายๆไปซะตอนนี้เลยดีกว่า"
ฟ้าหยาดรำคาญมาก ใช้ไม้แข็ง
"โง่ !"
สายฝนหันขวับ หยุดดิ้นชั่วคราว
"โตมาจนป่านนี้ ยังไม่รู้จักคุณค่าตัวเอง ไม่เสียดายชีวิต ก็ปล่อยให้สายฝนตายไปเถอะพี่กล้า"
สายฝนหยุดบ้า สะบัดกล้าออก แล้วเดินมาหาฟ้าหยาดด้วยความโมโห
"อีนังฟ้าหยาด...นัง นางโลม แก..แก"
"เออ ด่ามา รวบรวมเรี่ยวแรงเก็บไว้ด่าฉัน อย่าเพิ่งรีบตาย พี่น้องด่ากันตบกันนี่ สนุกที่สุดละ"
"อิบ้า บ้า บ้า บ้า"
สายฝนเดินหนี รังเกียจฟ้าหยาด บ่นแรงออกไป
"บ้านนี้มีแต่คนบ้า ไม่มีใครหวังดีกับฉันเลย อร๊าย แม่ แม่กลับมาจัดการพวกมันให้สายฝนที"
"ฉันจะไปร้าน อยู่บ้านก็ดูน้องเธอหน่อยล่ะ ถึงจะเกลียดกันแค่ไหน แต่สายเลือดเดียวกัน คงไม่ฆ่าแกงกันนะ"

ฟ้าหยาดยักไหล่ ฝากฉัน ฉันก็มีวิธีแบบนี้นะจ๊ะ
 
อ่านต่อหน้า 2

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 22 (ต่อ)

หาญเข้ามาหาบุษบาบรรณ

"ผมไปทำงานก่อน คุณบุษต้องทานข้าวทานยาบำรุง รักษาตัวเองและลูกนะครับ"
"สั่งราวกับว่าบุษเป็นเด็กดื้อและป่วยมากอย่างนั้น"
"ก็ดูใบหน้าคุณบุษสิ ซีดเซียวอย่างไรพิกล"
"อาจเป็นเพราะช่วงแพ้ท้องค่ะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ"
หาญจุ๊บหน้าผากบุษบาบรรณก่อนไป เดือนเข้ามาเห็นพอดี
" อุ๊ย ขอโทษเจ้าคะ"
เดือนกำลังออก หาญรีบเข้าไปหา
" แม่เดือนไม่ต้อง เราดีใจนะที่ได้เห็นหน้าแม่เดือนที่นี่"
"เดือนขอบพระคุณความเมตตาของคุณบุษและคุณหาญมากเจ้าคะ ที่ปล่อยเดือนออกมา"
" ไม่ใช่พวกฉันหรอก ท่านเจ้าสัวต่างหากที่เมตตาเดือนในครั้งนี้รู้ไหม"
เดือนดีใจ
"ในที่สุดท่านเจ้าสัวก็เมตตาเดือนเหมือนเดิมแล้ว"
ทุกคนยิ้มสุขใจ
" แม่เดือน ดูแลภรรยาของฉันด้วยนะ ฉันต้องออกไปทำงานแล้ว"
เดือนรับคำ หาญมองแธอเธอก่อนออกไปและยังไม่รู้ว่าบุษบาบรรณเอะใจเรื่องเธอกับหาญแล้ว
"คุณบุษต้องการอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ จะให้บ่าวทำอะไรไม๊เจ้าคะ"
"ตอบคำถามฉัน"
"เจ้าคะ"
"อย่างซื่อสัตย์"
"คุณบุษ !"
เดือนหน้าถอดสี
"ก่อนหน้าที่ฉันแต่งงานกับคุณหาญ คุณหาญมีใจให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง"
"เออ..ไม่เจ้าค่ะ ไม่มี"
"ผู้หญิงคนนั้น คือ เธอ...แม่เดือน"

บุษบาบรรณพูดนิ่ง ไม่มีร่องรอยแห่งความโกรธหรือเกลียดชัง เดือนนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วน้ำตาไหลพราก

ดาวมีผ้าคลุมหัว เหลียวซ้ายขวาด้วยความระแวง เดินเข้าไปในป่า ในใจมีแต่ความริษยา

"นังเดือน นังบุษบาบรรณ...พวกมึงไม่มีวันได้คุณหาญไป คุณหาญต้องเป็นของข้าคนเดียว "
ดาวแหวกต้นไม้จนไปถึงกระท่อมตาด
"ยาย...อยู่หรือเปล่า ยายตาด"
ดาวร้องเรียก ไม่มีเสียงตอบรับ ดาวกำลังจะเดินเข้าไปใกล้ แล้วพลันสะดุดกับอะไรบางอย่าง สะดุดหงายหลัง
"เฮ้ย อะไรวะ"
ดาวมองให้ชัด พลันตะลึง ศพยายตาด บุหงาลากมาทิ้ง เอากิ่งไม้สุมทับ
"ยะ...ยายตาด"
เสียงกรอบแกรบ ออดแอดที่กระท่อม ดาวหันขวับ
"คุณบุหงา"
บุหงาหน้าแหก เนื่องจากต่อสู้กับตาด เธอเปิดประตูกระท่อมออกมา ในสภาพบุหงาโทรมมาก แววตาเท่านั้นที่กล้ากร้านด้วยความแค้น
"เอ็งตกใจทำไมนังดาว เอ็งรู้จักนังตาด เอายาพิษยาสั่งเข้าไปใต้หล้า หรือเอ็งเคยวางยาข้าด้วย เพราะอีตาดมันจะแก้แค้นข้าใช่ไหม"
"มิได้เจ้าค่ะ บ่าวไม่เคยคิดร้ายหรือทำร้ายคุณบุหงา บ่าว...บ่าวแค่ตกใจ เอ่อ ดีใจที่ได้เจอคุณบุหงาเจ้าค่ะ"
"เอ็งดีใจ แสดงว่าเอ็งสำนึกบุญคุณ งั้นก็ถึงเวลาที่เอ็งจะตอบแทนให้ข้าแล้ว นังดาว"
ดาวแอบซ่อนสายตาประเมินไว้ บุหงาต้องการให้ดาวเป็นเครื่องมือ ดาวคิดการใหญ่อะไรบางอย่างเช่นกัน

ฟ้าหยาดถือถาดอาหารมาที่เรือนเล็ก หน้าห้องสายฝน
"สายฝน เปิดประตูหน่อย เธอต้องกินข้าวบ้างนะ ไม่งั้นจะมีแรงตบฉันเหรอ สายฝน"
"สายฝน คุณหนูสายฝน นังสายฝน...อ้าว ประตูไม่ได้ลงกลอน"
ฟ้าหยาดเปิดผลัวะเข้าไป ในห้องว่างเปล่า
"ไปร้องไห้เพ้อเจ้ออยู่แถวไหนอีกละมั้ง"
ฟ้าหยาดไม่ค่อยกังวลคิดมาก เว่ยชิงมองห้องแล้วบอก

"แต่ในห้องดูแปลกๆ หีบผ้าเปิดอ้าไว้ ผ้านุ่งก็หายไปหลายชุด"
 
อ่านต่อหน้า 3

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 22 (ต่อ)

เวลาต่อมา ชื่นและมั่น เดินตามหาสายฝน ร้องเรียก

"คุณสายฝนขอรับ...คุณสายฝน"
อีกมุมหนึ่ง ฟ้าหยาดและเว่ยชิงเดินตามหาบนตึก
"สายฝน อย่าทำตัวน่ารำคาญน่า เธออยู่ไหน สายฝน"
"อาสายฝน !"
พวงแก้วเห็นทาสในบ้าน และฟ้าหยาดกับเว่ยชิงเดินตามหาสายฝน
"วุ่นวายจริงอีสำเพ็งพวกนี้"
"แหม แม่ผู้ดี ถ้าไม่ช่วยก็นั่งสงบปากจะดีกว่า" เว่ยชิงบอก
"จะตามหาสายฝนทำไม คงเที่ยวเร่ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำเหมือนแม่มั้ง"
"คุณแก้วเจ้าคะ อย่างไรคุณสายฝนก็ลูกท่านเจ้าสัวคนหนึ่ง"
ฟ้าหยาด ตวัดสายตา แต่ยังไม่ทันพูดอะไร มั่นรีบวิ่งเข้ามา
"ทาสเรือนม้าเห็นคุณสายฝนเดินเหม่อๆออกไปจากใต้หล้าร้องหาแต่คุณบุหงา"
"ยัยนั่นบ้าไปแล้ว"
ฟ้าหยาดร้อนใจ กำลังจะก้าวลงจากเรือน แก้วร้องห้าม
"หล่อนไม่ต้องไปตามหรอก แม่ฟ้าหยาด"
"คุณแก้ว ถึงฉันกับสายฝนจะไม่ถูกกัน แต่ยังไงฉันก็เป็นพี่น้อง"
"หล่อนเป็นผู้หญิง เห็นทีจะไม่สะดวก นายมั่น รีบไป บอกลูกกล้าด้วยก็ดี ที่ร้านมีคนงานมาก จะได้ช่วยตามหาอีกแรง"
เอื้อยแอบบีบขาแก้วด้วยความตื้นตันในความมีน้ำใจของนายตัวเอง

ฟ้าหยาด มองหน้าแก้วอึ้งไปนิด

สภาพป่าชานเมือง ที่ค่อนข้างเปลี่ยว สายฝนหิ้วห่อผ้า เดินสะเปะสะปะร้องหาบุหงา

"แม่...แม๊..."
มุมหนึ่ง มีขนำ นักเลงหน้าโจร 4 คน ก๊งเหล้าไหกันอยู่ กำลังกึ่มได้ที่ ทั้งหมดเห็นสายฝน
นักเลง1บอก
"เมื่อกี๊ใครร้องหาไก่วะ ไก่หลงมาโน่นแล้ว"
นักเลง 4 คนลุกจากขนำ กรูเข้ามาล้อม
"พวกแก"
นักเลลวนลาม สายฝนร้องกรี๊ด ปัดนักเลงออก ห่อผ้าหล่นลงพื้น นักเลงฉวยจับตรงนั้นตรงนี้
นักเลง2 บอก
"อย่าดีดดิ้นนักเลยน่า"
"อย่านะ อย่า....แม่ช่วยสายฝนด้วย แม่"
สายฝนรีบวิ่งหนี นักเลงวิ่งตาม

สายฝนวิ่งมาใกล้ละแวกกระท่อมตาด
"อย่านะ อย่าทำชั้น แม่ ช่วยสายฝนด้วย"
บุหงาได้ยินเสียง โผล่ออกมาจากกระท่อม
"สายฝน"
สายฝนเจอหน้าแม่ ดีใจ โผเข้าหา แต่แล้วโดนนักเลงกระชากผมดึงกลับ
"แม่....ช่วยสายฝนด้วย โอ๊ย"
"พวกแก"
บุหงาคว้าไม้ดุ้นฟืน ฟาดใส่นักเลง1 - 2
นักเลง2 บอก
"ยุ่งอะไรด้วย อีแก่"
"อย่ายุ่งกับลูกชั้น"
นักเลง3 บอก
"นังขาวอวบนี่ลูกเหรอ ดีเลย เดี๋ยวฉัน 4 คน จะผลัดกันเป็นผัวของลูกแม่เอง"
"แม่ช่วยสายฝนด้วย สายฝนไม่อยากเป็นอีตัว สายฝนไม่อยาก ไม่อยากเป็นอีตัวเหมือนแม่"
บุหงาน้ำตาร่วง จังหวะพอดีกับที่นักเลง 2 คน ต่อยท้องซ้ายขวา แล้วลากบุหงาถูกโยนกลิ้งม้วนลงไปตามทางลาดสู่คูน้ำ นักเลงกลัดมันเต็มที่ ต่างฉุดลากสายฝนเข้าไปในกระท่อม
"สายฝนไม่อยากเป็นอีตัว สายฝนไม่อยากเป็นอีตัวเหมือนแม่ ... แอร๊ย"
ในคูน้ำบุหงากลิ้งลงไปแน่นิ่ง หัวกระแทกหิน เลือดอาบใบหน้า เสียงกรีดร้องของสายฝนบอกให้รู้ว่า เธอกำลังเจอชะตากรรมแบบไหน บุหงาตาค้าง ดวงตาเลื่อนลอย

ภาพความคิดและความทรงจำของบุหงาท่ามกลางเสียงกรีดร้องของลูกสาวที่ดังเข้ามาเป็นห้วงๆ
 
อ่านต่อหน้า 4

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 22 (ต่อ)

เรื่องราวอยู่ในจิตอันดำมืดและดิ่งลงของบุหงา เมื่อสมัยเป็นนางโลมปรนเปรอชาย เสียงดนตรีในโรงน้ำชา เป็นจังหวะเร่งเร้ากระโชกรัญจวนใจ ต้นไม้ไหวกิ่งลู่ลมแรง บุหงาร่ายรพยั่วยวน

ฝ่ายกล้าและพวกวิ่งมาเจอห่อผ้าที่ตกอยู่ที่พื้นใกล้ขนำ เขาหยิบผ้าขึ้นดู มั่นดูร่องรอย แล้วเห็นเศษเสื้อติดอยู่ที่กิ่งไม้ทางหนึ่ง มั่นชี้ให้กล้าดู กล้าพยักหน้า นำพวกวิ่งไป

นักเลงกระชากเสื้อผ้าสายฝนออกจากร่าง สายฝนผลักไส ปัดป้องนักเลงตบตี เธอเบือนหน้าหนีนักเลงที่ซุกไซ้ลงมา นักเลงกระชากผ้านุ่งออกจนเห็นขาอ่อน นักเลงจับปลายเท้าไว้

ขณะที่ภาพความหลังของบุหงายิ้มยั่วยวนชายหนุ่มในโรงน้ำชา ทว่าสายฝนกลับเบ้ปาก กรีดร้องดัง นักเลง 4 คน สาละวนลงแขกบนที่นาผืนน้อยของ สายฝนจิตใจหลุดลอยไปไกลแสนไกล

กล้าเข้ามาในกระท่อม ฟาดหัวนักเลงคนที่อยู่บนตัวสายฝนก่อน กล้าเห็นสายฝนชัดเจน น้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความสลดพร้อมกับความเจ็บปวดแทนน้องสาว กล้าจัดการนักเลงอีกคนจนน่วมหนีลงเรือน

มั่นโผล่หน้าเข้ามา เห็น รู้ทันที รีบกระชากนักเลงออกไป กล้าปลดผ้าขาวม้าคลุมน้องสาว ถอดเสื้อตัวเองห่มร่างให้สายฝน กล้าร้องเรียกสายฝน เขย่าตัว
สายฝนเบิ่งตาโพลง ร่างกายที่มีลมหายใจแต่ไร้การตอบสนองอยู่ในอ้อมกอดกล้า

บุหงาตาหรี่ปรือ เจ็บปวดร่างจนแทบไม่ได้สติ แต่แววตาสุดท้ายที่ยังพอจะฉายแสง คือความเคียดแค้นชิงชัง ระคนเจ็บปวดเสียใจ

กล้าอุ้มสายฝนเข้ามาในใต้หล้า เหล่าทาสอื้ออึง ฟ้าหยาด เว่ยชิง พวงแก้ว เอื้อย ตกใจมาก

"พี่กล้า เกิดอะไรขึ้น"
กล้าอัดอั้น ไม่กล้าพูด แววตารวดร้าวของเขาทำให้ทุกคนตรงนั้นพอจะเดาออก
"คะ...ใครทำอะไรสายฝน" เว่ยชิงถาม
"พวกมันทำอะไรสายฝนไม่ได้แล้ว"
"พวกมัน ?" พวงแก้วว่า
ทุกคนอึ้งสนิท พวกมัน หมายถึงมีหลายคน
"กระผมให้คนงานนำตัวพวกมันไปส่งเจ้าหน้าที่แล้วขอรับ ติดคุกไม่ได้ผุดได้เกิดแน่" มั่นบอก
เอื้อยบอก
"รีบพาคุณสายฝนเข้าไปในบ้านเถอะเจ้าค่ะ"
กล้าจะอุ้มไปทางเรือนเล็ก
"อย่าพาไปเรือนเล็กเลยพ่อกล้า จะไม่มีใครดูแล เอื้อย ไปจัดห้องที่เรือนใหญ่ ยืนอึ้งอยู่ทำไมล่ะแม่ฟ้าหยาด สายฝนก็น้องเธอมิใช่รึ" พวงแก้วว่า
ฟ้าหยาดกำลังอึ้งที่พวงแก้ว ไม่เหยียดอย่างที่เคย
พวงแก้วกำราบเหล่าทาสด้วยความเด็ดขาด
"หากพวกเอ็งยังสติสมประดี เอ็งทุกคนย่อมรู้ แม่สายฝนเป็นนาย เป็นลูกสาวคนหนึ่งของท่านเจ้าสัว ถ้าข้าได้ยินใครพูดเรื่องที่เกิดขึ้นกับสายฝน ข้าจะเฆี่ยนเองกับมือ"
เหล่าทาสพยักหน้ารับด้วยความยำเกรง ก่อนแยกย้ายกันไป

ฟ้าหยาดช่วยเช็ดตัวให้สายฝน
"สายฝน ได้ยินฉันไหม สายฝน"
ฟ้าหยาดเช็ดหน้าแผ่วเบา สายฝนเอียงหน้าหันมา เห็นเป็นหน้าแม่ที่ยิ้มอ่อนโยนให้
"สายฝน แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีใครทำร้ายสายฝนแล้วนะลูก"
"แม่"
"สายฝน นี่ฉันเอง" ฟ้าหยาดบอก
"แม่....แม่รักสายฝนแล้วใช่ไหม แม่จ๋า แม่ไม่เกลียดสายฝนแล้วใช่ไหม"
สายฝนโผกอด ฟ้าหยาดอึ้งไป คนอื่นๆ จุกอกไปตามๆกัน
"โธ่เอ๊ย เวรกรรมแท้ๆ" เว่ยชิงบอก
"สายฝนคงฝังใจมาตลอดว่าบุหงาไม่เคยรักเขาเลย"
"ผมก็คงมีส่วนผิดที่แกล้งน้องมาแต่เล็ก ผลักเขาไปอยู่ในมุมโดดเดี่ยว แม่ไม่รัก พี่น้องไม่แล"
กล้าเข้าไปหาสายฝน ยื่นมือไป หวังจะลูบหัวลูบไหล่
"สายฝน นี่พี่กล้าเองนะ น้องจำพี่ได้ไหม"
สายฝน เห็นเป็นนักเลงชาย ที่กำลังจะเข้ามาทำร้าย
"ผะ..ผู้ชาย...อย่าเข้ามานะ อย่าทำร้ายสายฝน อย่าเข้ามา อย่าทำร้ายสายฝน"
"น้องสายฝน นี่พี่เอง พี่ไม่มีวันทำร้ายน้อง"
"ไม่นะ อย่า อย่าทำฉัน แม่ช่วยสายฝนด้วย สายฝนไม่อยากเป็นอีตัว ไม่อยากเป็นอีตัวเหมือนแม่"
ฟ้าหยาดน้ำตารื้น กอดสายฝนแน่นขึ้น เว่ยชิงกลืนก้อนสะอื้นลงคอ
"พ่อกล้า ออกมาห่างๆน้องก่อนลูก เขาคงยังกลัว คงต้องให้เวลาสายฝน"
"ฉันจะดูแลสายฝนเอง พี่กล้าออกไปก่อนเถอะค่ะ"
"เอื้อย ไปกำชับบ่าวไพร่ผู้ชายในเรือน อย่าขึ้นมาเรือนใหญ่ จากนี้เราคงต้องระวังไม่ให้อะไรกระทบกระเทือนใจสายฝน"
กล้าและเอื้อยแยกออกไป

พวงแก้วมองสายฝน อดเวทนาไม่ได้ ยื่นมือจับสายฝนแผ่วเบา ก่อนออกจากห้องไป เว่ยชิงมองกิริยาพวงแก้ว
 
อ่านต่อตอนที่ 23
กำลังโหลดความคิดเห็น