xs
xsm
sm
md
lg

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 20

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 20

มืดค่ำมากแล้ว เจ๊ทรงงามยังไม่ยอมออกมาจากห้อง แต่ไม่ได้ยินเสียงร้องไห้แล้ว ตุ้มซึ่งบัดนี้ไม่มีความหวงหึงเหลืออยู่ในใจ จัดสำรับข้าวใส่ถาดมาให้เจ๊ทรงงาม

“เจ๊ ชั้นเอาข้าวมาให้”
รอสักครู่ใหญ่ ยังไม่มีเสียงตอบมาจากในห้อง ตุ้มเลยวางถาดข้าวไว้หน้าห้อง
“ถาดข้าวอยู่หน้าห้องนะเจ๊” ตุ้มระบายออกมาอย่างเศร้าใจ “ชั้นเข้าใจ เจ๊รู้สึกยังไง โดนคนที่
รักที่สุดหักหลัง บางครั้ง ชั้นก็อยากจะเลิกรักฟ้าประทาน”
ฟ้าประทานแอบฟังอยู่ ใจหายวาบ
“ตุ้มจะเลิกรักผมจริงหรอ”
ฟ้าประทานมองตาละห้อย ใจจริงก็ยังรัก ยังผูกพันกับตุ้มอยู่มาก

รุ่งเช้า พร้อมพงศ์ขับรถมารับหลงกับจอมนางไปคุยกับลูกค้าที่กรุงเทพฯ หลงมาดักรอพ่ออยู่หน้าบ้าน คนอื่นๆ ยังไม่ออกมา
“พ่อ จอมกำลังจับผิดผมกับพ่อ”
“งั้นเหรอ งั้น ไม่จำเป็นพ่อจะไม่คุยกับเอ็งแล้วกัน”
“ไม่ต้องครับพ่อ กลับจากกรุงเทพฯ ผมจะบอกความจริงจอม ว่าผมเป็นลูกพ่อ”
“เอ็งคิดคำพูดบอกเค้าได้แล้วเหรอ”
“ผมสรรหาคำพูดหว่านล้อมลูกค้าได้สำเร็จทุกราย แต่กับจอม ผมคิดไม่ออกจะเริ่มพูดยังไง”
“รักเค้าก็อย่างงี้แหละพี่ ไปไม่เป็น” เจ๋งว่า
“ผมจะทำตามคำแนะนำครูเทียม บอกความจริง พูดกับจอมไปตามตรงการพูดความจริง คือ คำพูดที่ดีที่สุด”
จอมนาง กับพวกกำจายแต่งหล่อมาที่รถบอกพร้อมพงศ์ว่า “พวกชั้นขอไปด้วยนะ อยากไปเดินห้างในกรุงเทพฯ”
“วันนี้โก๊ะจัดหนัก หล่อเต็มคราบ”
โก่งหมั่นไส้ “อย่างเอ็งหล่อ ไอ้หลงก็เทพบุตรแล้ว”
จอมนางเอ่ยขึ้น “พี่หลงโทร.บอกลูกค้าหรือยังจ๊ะ เรากำลังจะออกจากบ้าน”
“กะว่าถึงห้างแล้วค่อยโทร.ครับ”
“ขึ้นรถเร็ว อยากไปลุยเมืองกรุงเต็มทีแล้ว” กำจายดี๊ด๊าเต็มที่
โก๊ะปีนขึ้นกระบะหลัง คนอื่นๆ นั่งหน้า หลงเป็นคนขับ เจ๋งไม่ได้ไปด้วย ยืนโบกมือบ๊ายบาย
“ไปกันหมดบ้าน เข้าไปหากระแตดีกว่าเรา”
พอเจ๋งหันมาเห็นกระแตยืนยิ้ม ถือไม้กวาดอยู่
“ใช่ ไปกันหมดบ้าน ไม่มีใครช่วยชั้นกวาดบ้านถูบ้าน อ่ะ”
กระแตส่งไม้กวาดให้ เจ๋งรับไม้กวาดมา ยิ้มฝืด โดนใช้งานอีกแล้ว

ด้านเสี่ยเต๊กเตรียมแผนการล้อมจับพงศ์เทพอยู่ในโถงบ้าน เวลานี้หันมาสั่งอาจง
“ถึงเวลานัด อาจงโทรไปหาพงศ์เทพ ถามว่าอยู่ไหน อั๊วจะไปจับมัน”
“อย่าทำพี่เทพเจ็บตัวนะเตี่ย” เหมยฮัวบอก
เสี่ยเต๊กหงุดหงิด “ห่วงผัวจริง ผัวเหมยมันเคยห่วงเหมยมั้ย หนีหายไปดื้อๆ”
เบิ้ม พล พาลูกน้องเสี่ยอีก 3 คนเข้ามา
“มากันครบแล้วครับเสี่ย”
เสี่ยเต๊กหันมากำชับเมีย “อาเหลียน เตรียมห้องกับกุญแจไว้เรียบร้อยหรือยัง”
“เมื่อวานอั๊วให้พลติดล็อคประตูห้องนอนแขก ทำเป็นห้องขังอาเทพ”
“พงศ์เทพอยากหนีนัก ต้องจับขังซะให้เข็ด เฮ้ย ไป”
เสี่ยเต๊กกับลูกน้องเดินหน้าตาขึงขังออกไป เหลียนฮัวยิ้มพอใจกำลังจะได้ตัวว่าที่ลูกเขย ส่วนเหมยฮัวกังวล เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายที่ห้าง

พวกหลงเพิ่งมาถึงห้างที่นัดกัน กำลังเดินเข้ามาตรงประตูทางเข้าห้าง กำจาย โก่ง โก๊ะ เริงร่าได้มาเที่ยวห้างในกรุงเทพฯ
“หลง จอม คุยกับลูกค้าไปนะ น้าจะไปเดินตากแอร์เล่น” กำจายบอก
“ลุงพงศ์ไปกับชั้นมั้ย ชั้นจะไปดูโทรศัพท์มือถือ” โก๊ะชวน
“เออก็ดี ลุงจะไปจ่ายค่าโทรศัพท์”
“ไม่ต้องรีบนะหลง คุยนานๆ พวกพี่ได้เดินเล่นให้ทั่วห้าง” โก่งบอก
พวกกำจายกับพร้อมพงศ์ไป
“ลุงพงศ์อัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย ทำไม๊ ทำไมลูกชายลุงพงศ์ถึงหนีพ่อไป” จอมนางมองตามพร้อมพงศ์ พูดขึ้นลอยๆ
หลงรู้ทันว่าจอมนางพูดแดกดันตน
“ไว้เจอลูกลุงพงศ์จอมก็ถามซีครับ”
“ชั้นถามแน่จ้ะ มีเรื่องถามลูกลุงพงศ์เยอะแยะเลย”
“จอมจะได้เจอลูกลุงพงศ์เร็ว ๆ นี้แหละ”
จอมนางหันมองหลงสีหน้าฉงน เขาพูดจาแฝงความนัย
“พี่โทร.หาลูกค้านะครับ” หลงกดออกหาเบอร์เดิมที่โทร.เข้ามาเมื่อวาน

ที่บ้านเสี่ยเต๊ก อาจงกำลังจะโทร.หาเช่นกัน หลงโทร.มาพอดี อาจงถึงกับสะดุ้ง!
เหลียนฮัวกำกับอยู่ “ตั้งสติดีๆ นะอาจง ห้ามหลุดให้อาเทพจับได้”
“ค่ะคุณนาย” อาจงรับสาย “ฮัลโหล”
“โทร.จากคณะเทียมฟ้านะครับ ผมมาถึงห้างแล้ว คุณป้าอยู่ไหนครับ”
“คุณอยู่ตรงไหนของห้างคะ”
“ประตูทางเข้าห้างเซียร์หน้าร้านแม็คครับป้า”
“รออยู่ตรงนั้นนะคะ เดี๋ยวดิชั้นจะไปหา” อาจงวางสายหันมาบอกคุณนาย “คุณพงศ์เทพรออยู่ตรงประตูทางเข้าค่ะ”
“อั๊วจะโทร.บอกเสี่ย”
“เหมยโทร.เองค่ะหม่าม้า” เหมยฮัวโทร.หาเตี่ย “พี่เทพมาถึงแล้วเตี่ย”

เสี่ยเต๊กกับลูกน้องเดินอยู่ในห้างแล้ว เสี่ยเต๊กคุยสายกับลูก
“มันอยู่ไหน”
“ตรงประตูทางเข้า เตี่ย อย่าทำพี่เทพเจ็บนะคะ”
“เตี่ยไม่ฆ่ามันหรอกน่า มันเป็นพ่อของหลานเตี่ย” เสี่ยวางสายบอกลูกน้อง “มันอยู่ตรงประตู”

จากนั้นเสี่ยเต๊กกับลูกน้องยกพลไปทันที

ถัดมาไม่นาน เสี่ยเต๊กกับลูกน้องเดินมาหยุดหลบมุม แอบดูหลงกับจอมนางยืนรอแถวประตู

“พาผู้หญิงที่ไหนมาด้วยวะ”
“คุ้นหน้านะครับเสี่ย เหมือนอยู่คณะลิเก” เบิ้มว่า
“เป็นอะไรกัน ถึงพามา” เสี่ยสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างพงศ์เทพกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้วย
“ให้ไปจับมาเลยมั้ยครับเสี่ย” พลใจร้อน
เสี่ยเต๊กสั่งลูกน้อง 3 คน “พวกลื๊อทำทีเป็นเดินไปใกล้ๆ อย่าให้พงศ์เทพไหวตัวทัน พอประชิดตัว ค่อยจับ”
ฝ่ายหลงกับจอมนางยืนรอลูกค้านานแล้ว
“โทร.ตามอีกทีสิพี่หลง ลูกค้าอยู่ตรงไหนแล้ว หาเราไม่เจอหรือเปล่า”
หลงกำลังจะโทรศัพท์ สังเกตเห็นผู้ชาย 3 คนเดินผ่าน สายตาที่มองเขาดูแปลก ๆ
ลูกน้องเสี่ยเห็นหลงมองกลับ เหมือนไหวตัวทัน เลยเข้าตะครุบตัวทันที
หลงตกใจพยายามตั้งสติ “พวกคุณเป็นใคร เราไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน”
“ไปช่วยกันจับพงศ์เทพขึ้นรถ”
เสี่ยเต๊ก เบิ้ม พล ออกจากที่ซ่อน ตรงไปหาพงศ์เทพ
หลงมองไปไกลๆ เห็นเสี่ยเต๊กกำลังตรงมาก็รู้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร
“เสี่ย”
หลงสู้ต่อยหน้าลูกน้องเสี่ยลงไปนอนคว่ำ 1 คน
จอมนางช่วย เตะผ่าหมากลูกน้องเสี่ยอีก 1 คน ลงไปนอนจุก
เสี่ยเต๊ก เบิ้ม พล วิ่งมาทางหลง ที่กำลังต่อยสู้ลูกน้องเสี่ยอีกคนจนมึน
“หนีเร็วจอม”
หลงจับมือจอมนางวิ่งหนี จอมนางงงมาก แต่ก็วิ่งไปกับหลง
เสี่ยเต๊กตะโกนก้อง “ตามไป”

หลงกับจอมนางวิ่งหนีพวกเสี่ยเต๊ก จอมนางหยุดวิ่ง
“วิ่งต่อสิจอม”
“พวกนั้นเป็นใครน่ะพี่”
พวกเสี่ยเต๊กวิ่งตามใกล้เข้ามาแล้ว
“ไว้พี่จะบอกทีหลัง”
หลงจับมือจอมนาง วิ่งหนีต่อ

หลงจับมือจอมนางวิ่งหนีมา หันหลังไปดู ไม่เห็นพวกเสี่ยเต๊ก รีบพาจอมนางซ่อนหลังคีย์ออส ก้มหลบ พวกเสี่ยเต๊กมาถึง ไม่เห็นหลงแล้ว
“มันวิ่งทางนี้นี่หว่า” พลแปลกใจ
เสี่ยเต๊กมั่นใจ “ต้องอยู่แถวนี้แหละ เดินดูให้ทั่ว”
พลชักปืนออกมา
เสี่ยเต๊กห้าม “ไอ้พล เก็บปืนก่อน คนมาเห็นได้เป็นเรื่อง”
หลงได้ยินว่าพลมีปืนก็นึกห่วงความปลอดภัยจอมนาง “พวกมันมีปืน พี่ยอมให้จอมเป็นอะไรไปไม่ได้จอมซ่อนอยู่ตรงนี้นะครับ”
หลงออกจากที่ซ่อน
เบิ้มเห็น “อยู่นั่น”
หลงวิ่งหนีไปทางหนึ่ง เสี่ยเต๊กกับลูกน้องวิ่งตามไปเป็นพรวน
จอมนางออกจากที่ซ่อน มองตามไป เป็นห่วงหลงมาก

ขณะเดียวกันที่ร้านโทรศัพท์มือถือ พร้อมพงศ์กับพวกกำจายดูโทรศัพท์มือถือ จะซื้อใหม่ เห็นหลงวิ่งผ่านหน้าร้าน
“ไอ้หลงมันโดนควายไล่ขวิดหรอวะ”
พร้อมพงศ์พวกเสี่ยเต๊กวิ่งไล่ตามมา
“เสี่ยเต๊ก” พร้อมพงศ์รีบวิ่งไปช่วยลูก
โก่งงง “เสี่ยเต๊กไหน”
“ไม่รู้พี่ ตามไปดูพี่หลงก่อน” โก๊ะห่วงพี่หลงของมัน
พวกกำจายวิ่งตามไป

พงศ์เทพหรือหลงวิ่งหนีมาที่ลานจอดรถ วิ่งไปที่รถพ่อ พอขึ้นรถได้ ก็รีบสตาร์ต แต่ไม่ทันได้ออกรถ พวกเสี่ยเต๊กก็มารวบจับตัวพงศ์เทพ ลากลงจากรถ
“ปล่อยผมไปเถอะเสี่ย ผมไม่ได้ทำลูกสาวเสี่ยท้อง”
“ไอ้ผู้ร้ายปากแข็ง ย่ำยีลูกสาวเสี่ย ทำให้เสี่ยอับอาย”
เสี่ยเต๊กเตะต่อยกระหน่ำอัดพงศ์เทพ ให้สมกับความแค้น
พร้อมพงศ์วิ่งมาช่วยลูก จับตัวเสี่ยเต๊กไม่ให้กระทืบลูก
“หนีไปเทพ”
ลูกน้องเสี่ยล๊อคตัวพร้อมพงศ์ จับขึงไว้
“เอาสิเทพ หนีอีกสิ เสี่ยจะได้ยิง”
เสี่ยเต๊กเอาปืนของลูกน้อง มาจ่อบริเวณขาพร้อมพงศ์
“อย่ายิงพ่อผม” พงศ์เทพร้องดังลั่น
จอมนางกับพวกกำจายวิ่งตามมาช่วย ได้ยินหลงตะโกน “อย่ายิงพ่อผม” และเห็นคนที่โดนปืนจ่ออยู่คือพร้อมพงศ์

“ลุงพงศ์เป็นพ่อพี่หลงจริงๆ”

อ่านต่อหน้า 2

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 20 (ต่อ)

หลงเห็นสายตาจอมนางจ้องมายังตนอย่างผิดหวัง ก็เดาได้ว่าจอมนางได้ยิน และรู้ความลับแล้ว

โก่งงง “ใครเป็นพ่อหลงนะจอม”
“อย่าเพิ่งถาม ไปช่วยพี่หลงก่อน” โก๊ะบอก
กำจายทัดทาน “มันมีปืนนะว้อย”
โก๊ะคว้าถังฉีดดับเพลิงใกล้ๆ วิ่งไปฉีดใส่เสี่ยกับสมุน พวกเสี่ยเต๊กวงแตกหนีกลุ่มควัน
พร้อมพงศ์สลัดหลุดจากลูกน้องเสี่ย
“ขึ้นรถเร็วเทพ”
“อย่าให้มันหนีไปได้” เสี่ยเต๊กตะโกนก้อง
จอมนาง โก่ง กำจาย ช่วยกันดันรถเข็นซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายคัน ชนเสี่ยเต๊กกับสมุน จนพวกเสี่ยล้มระเนระนาด โดนรถเข็นล้อมไว้ ปีนออกแต่ก็ทำรถเข็นล้ม ตัวเองก็ล้มไปด้วย สภาพทุลักทุเล
“หนีไปพี่หลง” โก๊ะตะโกนบอก
“จอมกลับเข้าห้างไป”
จอมนางกับพวกกำจายวิ่งกลับเข้าตัวห้างไป พอหลงเห็นจอมนางหนีไปก่อนและปลอดภัย ก็รีบขับรถหนี พวกเสี่ยเต๊กล้มลุกคลุกคลานในวงล้อมรถเข็น
เสี่ยเต๊กแหกปากด้วยความแค้น “พงศ์เทพ”

พงศ์เทพขับรถพาพ่อหนีมาจากห้างไกลแล้ว จึงจอดรถเข้าข้าทาง
“จอดทำไมวะ หนีไปให้ไกลๆ”
“เสี่ยไม่ได้ตามเราออกมาจากห้างครับพ่อ ผมจะกลับไปรับจอม”
“ยังมีหน้าไปหาเค้าอีกหรอวะ เค้าได้ยินเอ็งแหกปากเรียกพ่อเต็มๆ เค้ารู้แล้วเราเป็นพ่อลูกกัน”
“ผมผิดเอง ผมควรบอกจอมก่อนหน้านี้ จอมต้องโกรธผมมาก”
หลงกลุ้มสุดๆ

ทางด้านพวกกำจายยืนชะเง้อรอแท็กซี่ จอมนางยืนห่างออกไป หน้าบึ้ง โกรธหลง ที่โกหกเรื่องเป็นลูกพร้อมพงศ์
“นอกจากเรื่องพ่อ พี่หลงโกหกอะไรอีก”
พวกกำจายเรียกแท็กซี่ได้
กำจายถามราคา “เหมาไปบางไทร อยุธยาเท่าไหร่”
แท็กซี่บอก “พันห้าแล้วกัน”
“ไป” กำจายบอกทุกคน
โก่งเรียก “จอม ขึ้นรถ กลับบ้าน”
“ไม่โทรหาพี่หลงหน่อยหรอพี่โก่ง” โก๊ะเป็นห่วงหลง
“คนโกหก อย่าไปสนใจเลย แค่เราช่วยเมื่อกี้ที่ห้าง ก็ดีถมแล้ว”
จอมนางบอก ทั้งโกรธและโมโหมาก ขึ้นนั่งหน้าคู่คนขับ
กำจายกับโก่งขึ้นแท็กซี่ โก๊ะห่วงหลงมากกว่าคนอื่น ชะเง้อมองหารถกระบะลุงพงศ์
“พี่หลงหนีไปไหนหว่า”
โก๊ะไม่เห็นรถพร้อมพงศ์ เลยขึ้นรถ แท็กซี่ขับไป

เวลาเดียวกัน เจ๊ทรงงามร้องไห้ทั้งคืน จนตาบวมแดงช้ำ เจ๊เอาแป้งผัดหน้า ลบรอยช้ำรอบดวงตา เจ๊ทรงงามมองตัวเองในกระจก ด่าตัวเอง “ทำไมเราโง่เง่าอย่างนี้นะ หลงเชื่อว่าเค้าดี เค้าจริงใจ ที่ไหนได้เค้ามาหลอกเอาเงินเรา เจ๊ทรงงามคนนี้จะไม่เป็นเหยื่อใครอีกแล้ว เราจะรักตัวเอง เห็นค่าตัวเอง แล้วถ้าใครไม่เห็นค่าเรา เราก็จะไม่เห็นค่ามัน”
แววตาเจ๊ทรงงามเป็นประกายวาววับ แววแค้นฉายโชนในตาคู่นั้น

หลังจากเก็บตัวอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อวาน เจ๊ทรงงามก็โผล่ออกมา ฟ้าประทานกับตุ้มกำลังปรึกษากันอยู่
“ผมว่างัดห้องเจ๊เหอะตุ้ม”
“งัดให้ประตูพัง เสียค่าซ่อมเปล่าๆ จ้ะ” เสียงเจ๊ดังขึ้น
ฟ้าประทานดีใจ “เจ๊ เจ๊ไม่โกรธผมนะครับ”
เจ๊ทรงงามยิ้มหวานให้ฟ้าประทาน “ใครจะไปโกรธพ่อฟ้าประทานสุดที่รักลงล่ะจ๊ะ”
ฟ้าประทานยิ้มออก “ผมนึกว่าจะต้องคุกเข่าขอโทษเจ๊สามวันสามคืนซะอีกครับ”
“ฟ้าประทานอยากไถ่โทษล่ะก็ ไปซื้อข้าวมันไก่ร้านหน้าอำเภอ เจ้าโปรดของเจ๊มาให้เจ๊กิน ตอนนี้เจ๊หิวมาก”
“ไปกินที่ร้านเลยมั้ยครับเจ๊ ผมไปนั่งกินเป็นเพื่อน”
“เจ๊อยากอาบน้ำ” เจ๊หันมาทางตุ้ม “ตุ้ม เอาน้ำจิ้มมาเยอะๆ”
“จ้ะ”
“ผมจะรีบกลับมานะครับ”
พอฟ้าประทานกับตุ้มลับตัวไป เจ๊ทรงงามก็หน้าบึ้งโกรธขึ้งอย่างเก่า
“เจ๊ไม่ได้โกรธ แต่เจ๊เกลียด เกลียดคนหลอกลวง เจ๊ต้องรู้ให้ได้ ฟ้าประทานอมเงินเจ๊ไปเท่าไหร่ เจ๊จะเอาคืนให้หมด”

เจ๊ทรงงามเดินหน้าเคร่งไปทางห้องฟ้าประทาน เพื่อค้นห้อง

พอเข้าห้องมา เจ๊ทรงงามก็ยกฟูกที่นอนขึ้นจะหาสมุดบัญชีที่เคยเจอ

“สมุดบัญชีธนาคารไปไหนแล้ว”
เจ๊ทรงงามค้นทั่วห้องฟ้าประทาน รื้อของกระจุยกระจายโดยไม่แคร์เจ้าของห้อง แต่ไม่เจอสมุดบัญชี เจ๊เดินออกไปหาที่อื่น

เจ๊มาค้นลิ้นชักโต๊ะตรงมุมออฟฟิศ หาสมุดบัญชีธนาคาร รื้อกระจุยกระจาย ไปเจอสัญญาว่าจ้างที่ถูกลิขวิดลบ เจ๊เอะใจ นึกถึงตอนที่ฟ้าประทานพูดถึงสัญญาที่ถูกลบข้อความบางส่วน
“เราตกลงไว้ที่คืนละแสน ในสัญญาเป็น 8 หมื่น ค่ามัดจำก็ไม่มี”
“เราเป็นคณะใหม่ ต้องเอาใจลูกค้า ผมโทร.ไปบอกเค้าเมื่อวาน ลดค่าจ้างเหลือ 8 หมื่น ค่ามัดจำไม่ต้อง เค้าพิมพ์สัญญาไปแล้ว เลยใช้ลิขวิดลบน่ะครับ”
เจ๊ทรงงามสังหรณ์ใจว่าฟ้าประทานเป็นคนแก้สัญญา เพื่ออมเงินค่าจ้าง
“จะจับโกหกฟ้าประทานได้ยังไง ว่าแอบแก้สัญญาหรือเปล่า”
เจ๊ทรงงามแววตาฉลาด ครุ่นคิดหาทางจับโกหกฟ้าประทาน
ฟ้าประทานขับรถพาตุ้มไปซื้อข้าวให้เจ๊ทรงงาม
“ชั้นว่าเจ๊ทรงงามทำเป็นยิ้มแย้ม แต่ที่จริงเสียใจมาก มากจนเบลอ ให้ชั้นมากับฟ้าประทานสองคน ปกติยอมซะที่ไหน หวงฟ้าประทานจะตาย”
“นั่นสิ เจ๊ให้เรามาด้วยกัน ผิดวิสัยเจ๊”
ฟ้าประทานฉุกคิด เฉลียวใจ จึงตัดสินใจกลับรถ กลับบ้าน

ฟ้าประทานขับรถกลับบ้าน พอลงมาก็ไม่เห็นรถเจ๊ทรงงาม
“อ้าวเจ๊เอารถไปไหน” ตุ้มแปลกใจ
ฟ้าประทานคิดออกทันที “ผมคิดแล้วไม่ผิด เจ๊หลอกให้เราออกไป”
ตุ้มตกใจรีบถาม “ฟ้าประทานซ่อนสมุดบัญชีไว้ไหน”
“ในเก๊ะรถ” ฟ้าประทานนึกถึงสัญญาเงินว่าจ้างที่ปลอมแปลงตัวเลข “แย่แล้ว”
ฟ้าประทานรีบเข้าบ้านโดยเร็ว

ฟ้าประทานรีบมาที่มุมบอร์ดสำนักงานลิเก เห็นเอกสารถูกรื้อกระจุย รีบหาสัญญาว่าจ้าง ฉบับที่
แอบแก้ไข ตุ้มตามเข้ามา
“สัญญาว่าจ้างที่ผมแอบใช้ลิขวิดแอบ หายไป เจ๊ทรงงามเอาไป”
“เจ๊จะไปเอาทำอะไร”
“เอาไปเป็นหลักฐานว่าผมโกงเงินไง สัญญาว่าจ้างมีผลทางกฎหมาย ผมติดคุกได้นะตุ้ม”
“แค่เห็นลิขวิดลบ เจ๊ไม่รู้หรอกว่าฟ้าประทานโกง”
“เจ๊ทรงงามเป็นคนฉลาด ต้องหาทางจับผมจนได้ ผมจบเห่แล้วตุ้ม ผมต้องติดคุก”
“เจ๊ทรงงามไม่ใจไม้ไส้ระกำหรอกจ้ะ”
ฟ้าประทานเข่าอ่อนแทบทรุด ตุ้มจับไม้จับมือปลอบขวัญ

เจ๊ทรงงามขับรถ หน้าตาโกรธขึ้ง สัญญาว่าจ้างที่ถูกลบ วางบนเบาะข้างคนขับ
“บ้านลูกค้าคนแรกอยู่อ่างทอง ลูกค้าพูดไม่ตรงกับฟ้าประทานล่ะก็ ฟ้าประทานโกงเจ๊”
รถเจ๊ทรงงามแล่นทะยานไป

ขณะนั้นเจ๋งนั่งตัวลีบ โดนพวกลิเกรุมจ้องเขม็ง
กระแตถามเสียงเขียว “เจ๋งเป็นอะไรกับพี่หลง”
“เอ่อ...ลูกพี่ลูกน้องครับ”
“ทำไมพี่หลงถึงหลอกพวกเรา” กระแตซัก
“อ่า... ไว้ถามพี่ชายผมเองนะครับ”
เสียงรถจอดหน้าบ้าน ทุกคนชะเง้อดู
“พี่หลงกลับมาแล้ว” โก๊ะบอก
“ผมรีบไปตามพี่ชายผมมาให้นะครับ”
เจ๋งรีบเผ่นออกไป ชาวคณะหน้าบึ้ง เคืองหลงที่โกหกหลอกลวง มีครูเทียมกับโก๊ะที่เฉยๆ ไม่โกรธใดๆ

หลงกับพร้อมพงศ์ลงจากรถ ทั้งสองคนหน้าไม่สู้ดี พวกบ้านลิเกรู้ความจริงแล้วว่าเป็นพ่อลูกกัน
“ถอยไปตั้งหลักก่อนเหอะเทพ”
“การถอย ก็เหมือนหนีความจริงครับพ่อ”
เจ๋งวิ่งหน้าตั้งออกมาหาพี่เทพกับลุงพงศ์ “พวกบ้านลิเกรอรุมขย้ำพี่เทพอยู่พี่”
“ไปก่อนเหอะเทพ พรุ่งนี้ค่อยมาสู้หน้าบ้านลิเก” พร้อมพงศ์บอก
“ผมผิดพลาดที่บอกความจริงพวกเค้าช้าไป ผมไม่รออีกวันครับพ่อ บอกซะวันนี้พวกเค้าจะโกรธ จะเกลียด ผมก็ก้มหน้ายอมรับ”

พงศ์เทพสูดหายใจลึกๆ ทำใจ แล้วเข้าบ้านไปเผชิญหน้าทุกคน พร้อมพงศ์กับเจ๋งตามไปด้วย

อ่านต่อหน้า 3

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 20 (ต่อ)

หลงเดินนำ พร้อมพงศ์ และเจ๋ง เข้ามาในโถงบ้าน ชาวคณะกำลังรอฟังคำตอบอยู่ แต่ละคนหน้าตาขึงขัง อยากรู้ความจริง โดยเฉพาะจอมนางหน้าบึ้งที่สุด หลงเข้ามาถึงก็ตรงไปกราบเท้าขอโทษครูเทียม

“ผมขอโทษครับที่โกหกครู”
ครูเทียมถามตรงๆ “จอมบอกว่า เอ็งกับพ่อพงศ์เป็นพ่อลูกกัน จริงรึ”
“ครับ”
ชาวลิเกจ้องมาที่พร้อมพงศ์เป็นตาเดียว พร้อมพงศ์หน้าแหย ไม่กล้ามองหน้าชาวคณะเทียมฟ้า
“ผมกับพ่อ เราติดหนี้เสี่ยคนนึง เสี่ยเลยตามล่าผม”
จอมนางซัก “เสี่ยคนเดียวกับที่ตามจับตัวพี่วันนี้”
“ใช่ครับ คืนวันที่ผมโดนเสี่ยตามฆ่า ผมวิ่งหนีไปโดนโก๊ะขับรถชน” หลงบอก
ทุกคนคิดถึงเหตุการณ์ตอนกลับบางไทรหลังประกวดลิเกเสร็จ
“โก๊ะคิดว่าผมตาย ขับหนี ลูกน้องเสี่ยไล่ตามมา ผมเลยกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะโก๊ะ นั่งมาถึงบ้านครูเทียมครับ” หลงเล่าหน้าจ๋อยๆ
จอมนางซัก “แล้วพี่ก็มาเจอชั้น”
สองคนนึกถึงเหตุการณ์ไฟดับแล้วสว่างพรึ่บ ตอนเจอกัน จอมนางถามว่า
“คุณเป็นใครมาอยู่หลังรถกระบะชั้นได้ยังไง”
พงศ์เทพใคร่ครวญ สถานการณ์นี้ เขาควรเอาตัวรอดอย่างไง สุดท้ายบอกไปว่า
“ผม...จำชื่อตัวเองไม่ได้ครับ”

จอมนางนึกออก “พี่ไม่ได้ความจำเสื่อมสินะ พี่โกหก”
“ตอนนั้นพี่ต้องการที่ซ่อนตัว กลัวว่าบอกความจริงไปแล้ว จอมจะไล่พี่ไป”
โก่งถามแทรกขึ้นด้วยอารมณ์โกรธ “แล้วพอเจอพ่อ ทำไมเอ็งถึงยังโกหกอีกวะ”
“ผมไม่อยากกลับไปกับพ่อครับ พ่อจะจับผม...”
หลงจะบอกเรื่องแต่งงาน แต่ถูกพร้อมพงศ์ชิงตัดบท อธิบายแทน
“ผมจะจับลูกชายไปทำงานใช้หนี้เสี่ย ลูกไม่ยอมทำ เพราะเสี่ยให้ไปช่วยงานที่เลาจน์ ให้ซ้อมลูกหนี้คนอื่น”
หลงหันมองพ่อ นึกสงสัย ว่าพ่อโกหกพวกเทียมฟ้าอีกทำไม
พร้อมพงศ์ทำเนียนๆ โกหกต่อ “ลูกชายผมเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ยอมข้องเกี่ยวกับอบายมุข หนี้สินทั้งหมด ผมก็เป็นคนก่อ ลูกต้องมารับกรรม ถ้าจะโกรธ ก็โกรธผมคนเดียวนะครับ”
สีหน้าชาวคณะ มีความรู้สึกแตกต่างกัน ครูเทียมกับกระแตขุ่นเคืองเล็กน้อย ส่วนจอมนาง กำจาย โก่ง โกรธเอาเรื่อง
กำจายถามขึ้น “เอ็งชื่อจริงชื่ออะไร อย่าโกหกอีกล่ะ”
“ผมชื่อพงศ์เทพครับ ชื่อเล่นเทพ ทุกคนเรียกผมว่าหลงเหมือนเดิมนะครับ ผมอยู่บ้านลิเกจนผูกพัน รู้สึกเหมือนเป็นบ้านตัวเอง แล้วผมก็รักอาชีพลิเก ไม่อยากทำมาค้าขายอย่างอื่นแล้ว ผมมีความสุขที่ได้เป็นลิเก เป็นไอ้หลงของทุกคน”
โก่งบอกเสียงขุ่น “คำพูดคนโกหก เชื่อถือไม่ได้หรอกว้อย”
“ผมขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งนะครับครู ให้ผมเป็นไอ้หลงของครูเทียมเหมือนเดิม”
ครูเทียมสั่งสอนหลง “การโกหกไปเรื่อยๆ ก็เหมือนติดอยู่ในร่างแห ยิ่งดิ้น ยิ่งพันแน่น...เอาเถอะ ข้าเห็นกับที่เอ็งช่วยกอบกู้คณะเทียมฟ้า ข้าไม่ถือโทษโกรธเอ็งกับพ่อ ส่วนเอ็งจะอยู่บ้านข้าต่อหรือไปอยู่กับพ่อ ก็แล้วแต่เอ็ง”
พูดจบ ครูเทียมใช้ไม้เท้าช่วยเดินไป กระแตช่วยประคองปู่เดินขึ้นบ้านไป
จอมนาง กำจาย โก่ง จ้องหลงอย่างโกรธเคืองไม่หาย หลงหน้าซีด จอมนาง กำจาย โก่งจ้องหลงจนพอใจถึงไป จอมนางไปเป็นคนสุดท้าย
เจ๋งสงสารพี่เทพของมัน เลยเอ่ยขึ้นว่า “ไปเหอะพี่เทพ เค้าใช้สายตาไล่พี่แล้ว”
“อย่าไปเลยจ้ะพี่หลง ชั้นอยากให้พี่เป็นพี่หลงของชั้นเหมือนเดิม ชั้นนับถือพี่” โก๊ะขอร้อง
หลงหน้าละห้อย เศร้าใจ ใจก็ไม่อยากไปจากบ้านเทียมฟ้า

พร้อมพงศ์กับเจ๋งช่วยหลงเก็บเสื้อผ้าใส่ถุง หลงจะกลับไปอยู่บ้านเช่าพ่อ
โก๊ะใจหายนั่งซึม “เสื้อพี่ตากอยู่ตัวนึง ชั้นไปเก็บมาให้”
พอโก๊ะออกไป หลงถึงถามพ่อ ถึงเหตุผลที่พ่อโกหกบ้านลิเก
“พ่อไปโกหกเค้าอีกทำไมว่าเสี่ยบังคับผมไปทำงาน เสี่ยบังคับให้ผมแต่งงานต่างหาก”
พร้อมพงศ์อธิบายว่า “บอกว่าเอ็งทำผู้หญิงท้อง แล้วหนีมา จอมนางต้องโกรธเอ็งตาย เอ็งรักเค้าไม่ใช่เหรอ พ่อช่วยเอ็งไว้นะเว้ย”
“เรื่องนั้นผมถูกใส่ร้าย” หลงย้ำคำเดิม
“คิดสิวะเทพ คิด ผู้หญิงเค้าจะเชื่อเอ็งหรอ เอ็งเพิ่งสารภาพว่าโกหกเค้าสารพัด เค้าต้องเชื่อว่าเอ็งทำผู้หญิงท้องจริง”
เจ๋งเห็นด้วย “ถูกของลุงนะพี่ บอกทีเดียวรวด พี่ได้ตายเหมือนเขียดโดนรถทับ เราจะหนีไปอยู่ไหนพี่ เสี่ยเต๊กรู้แล้ว พี่อยู่คณะเทียมฟ้า ต้องตามมาบ้านนี้”
หลงเครียดจัด นิ่งคิด คิดถึงจอมนางหลายๆ เหตุการณ์ นับตั้งแต่เจอจอมนางครั้งแรก แล้วปิ๊งทันที
จนถึงตอนเขามองจอมนางมุ่งมั่นในการแต่งกลอนลิเก ยิ่งชื่นชมมาก
“จอมขะมักเขม้นทำงาน รู้จักเก็บออม น่ารัก แสนดีผู้หญิงแบบจอมนี่แหละ ที่ผู้ชายอยากร่วมชีวิตด้วย
หลงรู้ตัวดีว่าเขารักจอมนางจริง และตัดใจไปจากจอมนางไม่ได้
“พี่ไม่หนีไปไหนทั้งนั้น พี่จะอยู่บ้านเทียมฟ้า ทำดีไถ่โทษ ให้ทุกคนอภัยให้พี่”
พร้อมพงศ์รู้ทันลูก “โดยเฉพาะจอมนาง”
“ผมยอมรับ ผมแคร์จอมมาก ถ้าผมหนีไป ก็กลับมาสู้หน้าจอมลำบาก”
เจ๋งท้วง “เกิดเสี่ยเต๊กบุกมาล่ะพี่”
“พี่แก้ปัญหาด้วยการหนีความจริง ด้วยการโกหก จอมถึงโกรธพี่ ต่อไปนี้ พี่จะเอาความจริงเข้าสู้ พี่ไม่ได้ทำลูกสาวเสี่ยท้อง พี่ไม่ผิด เพราะฉะนั้นพี่ไม่หนี”
โก๊ะกลับจากเก็บเสื้อให้หลง
“โก๊ะ พี่เปลี่ยนใจแล้ว พี่จะอยู่ต่อ” หลงบอก
โก๊ะยิ้มแป้นดีใจมาก “คิดถูกแล้วจ้ะพี่ คนบ้านนี้ใจดีจะตาย เดี๋ยวก็หายโกรธพี่กัน”
โก๊ะกุลีกุจอรื้อเสื้อผ้าหลงในถุงเก็บเข้าตู้
พร้อมพงศ์กับเจ๋งมองเป็นห่วงหลง

ส่วนหลงหนักใจมากทีเดียว ว่าเขาจะทำอย่างไรให้จอมนางและทุกคนยกโทษให้

ที่กรุงเทพฯ เวลาเดียวกัน เสี่ยเต๊กด่าเบิ้มกับพลมาเป็นชั่วโมงแล้ว มีเหลียนฮัว เหมยฮัว กะอาจง นั่งฟังจนเบื่อ

“ไอ้พวกลูกกระจ๊อก ไอ้นักเลงกระจอก ทำงานไม่เคยสำเร็จ จับพงศ์เทพไม่เคยได้”
เหลียนฮัวเซ็ง “ด่ามาเป็นชั่วโมงแล้ว ไม่เหนื่อยหรอเสี่ย อั๊วฟัง ยังน้ำลายแห้งแทน เบิ้ม พล พวกลื๊อไปได้แล้ว”
เบิ้มกับพลไม่กล้าไป เพราะเสี่ยไม่ได้สั่ง
เสี่ยเต๊กเลยตวาด “เมียอั๊วสั่งไม่ได้ยินรึไง”
เบิ้มกับพลรีบเผ่นออกไป
อาจงเอ่ยขึ้น “ให้อาจงโทร.หลอกคุณพงศ์เทพมาให้จับอีกมั้ยคะ”
“พงศ์เทพไม่หลงกลเราอีกแล้วล่ะ ป่านนี้หนีจากบ้านลิเกไปถึงชายแดนนู้น”
เหมยฮัวฟังแล้วยิ่งสงสารพงศ์เทพ “เพราะเหมย ทำให้พี่เทพต้องหนีหัวซุกหัวซุน”
เสี่ยเต๊กโมโห “โทษตัวเองทำไมเล่าเหมย มันทำเหมยท้อง มันต้องโดนไล่ล่า”
เหมยฮัวน้ำตาคลอ ละอายแก่ใจที่ใส่ร้ายพี่เทพ
“เอ้า ไปสงสารคนทำผิดอีก ลูกนะลูก” เสี่ยชักรำคาญลูกสาว
“เตี่ย พี่เทพไม่ได้...ไม่ได้...” เหมยฮัวอยากบอกความจริงเตี่ย
เหลียนฮัวกลัวความลับแตก พงศ์เทพไม่ได้ทำลูกสาวท้องเลยรีบตัดบท
“อาจงพาเหมยขึ้นห้อง”
“ไปค่ะคุณหนู”
อาจงพาเหมยฮัวออกไป
เสี่ยเต๊กคาใจ “เมื่อกี้เหมยจะพูดอะไร ไอ้เทพมันไม่ได้อะไร”
เหลียนฮัวตอบแทน “จะอะไร้ ก็แก้ตัวแทนอาเทพน่ะสิ เสี่ย ทีนี้เราจะไปตามหาอาเทพที่ไหน”
“ตอนนี้อั๊วยังคิดไม่ออก”
เสี่ยเต๊กหงุดหงิดโมโห ส่วนเหลียนฮัวลอบส่ายหน้า พึมพำด่าผัวเบาๆ
“ด่าแต่ลูกน้อง ตัวเองก็บ้อท่า จับอาเทพไม่ได้ซะที”

ตกตอนเย็นวันเดียวกัน
เจ๊ทรงงามขับรถกลับเข้าบ้านหน้าตาบูดบึ้ง โกรธจัด หลังจากไปคุยกับลูกค้ามา ได้รู้ว่าฟ้าประทานแอบแก้สัญญาว่าจ้าง และอมเงินค่ามัดจำเป็นหมื่นๆ
ฟ้าประทานกับตุ้ม ถลาออกมารับหน้าเจ๊ ฟ้าประทานยิ้มหวานประจบ
“เจ๊ไปไหนมาครับ”
เจ๊ทรงงามไม่พูดไม่จา ไม่มองหน้าฟ้าประทาน ผลุนผลันเข้าบ้านไป
“เจ๊ทรงงามไปไหนมา ทำไมถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”
ฟ้าประทานมองไปบนเบาะรถ ฝั่งข้างคนขับ เห็นสัญญาว่าจ้าง เขาหยิบขึ้นมาดู
“สัญญาว่าจ้างที่ผมแอบแก้ เจ๊ต้องรู้แล้ว ว่าผมอมเงินมัดจำ”
ฟ้าประทานรีบเข้าบ้านไปเคลียร์กับเจ๊ทรงงาม

ฟ้าประทานกับตุ้มตามเข้าห้องมาก็ตกใจ เมื่อเห็นเจ๊ทรงงามกำลังรื้อเสื้อผ้าประทานออกจากตู้ รื้อแบบไม่ปรานีปราศรัย โยนเสื้อผ้าฟ้าประทานออกมากองกับพื้นห้อง
“พอเถอะครับเจ๊ มีปัญหาอะไรก็คุยกัน”
เจ๊ทรงงามไม่คุย หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าฟ้าประทาน พร้อมกับหอบเสื้อผ้าฟ้าประทานบนพื้นออกไป
ฟ้าประทานกับตุ้มตามไป

เจ๊ทรงงามถือกระเป๋าเสื้อผ้า และหอบเสื้อผ้าฟ้าประทานออกมาหน้าบ้าน อีเจ๊โยนทั้งกระเป๋าทั้งเสื้อผ้าทิ้ง ตุ้มรีบไปเก็บ ไม่ให้เสื้อผ้าผัวเปื้อนดิน
ทรงงามชี้หน้าด่าฟ้าประทาน “ฟ้าประทานแทงข้างหลังเจ๊ เจ๊ไปหาลูกค้ามา ทุกคนพูดเหมือนกันหมด ให้เงินค่ามัดจำฟ้าประทานไว้ 2 หมื่น แต่เงินไม่ถึงเจ๊ซักบาท ฟ้าประทานอมเงินเจ๊ แอบแก้สัญญาจ้าง”
ฟ้าประทานแก้ตัวเสียงอ่อย “ความจนทำให้ผมหน้ามืด อยากได้เงิน ตอนนี้ผมคิดได้แล้ว ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับเจ๊”
ทรงงามด่าอย่างรุนแรง “อย่าเอาความจนมาอ้าง! คนจนที่ไม่โกงเงินคนอื่นมีเยอะแยะไป! เจ๊ทุ่มเทให้ฟ้าประทาน หมดไปไม่รู้ตั้งกี่ล้าน กำลังจะเอาบ้านกับตลาดไปจำนอง เอาเงินมาขยายคณะให้อีก ดีที่เจ๊รู้ตัวก่อน ว่าเจ๊...เลี้ยงงูเห่า”
“ผมยังเป็นฟ้าประทานคนเดิมของเจ๊ เพียงแค่...ทำผิดพลาดไปเล็กน้อย”
ทรงงามโมโหสุดขีด แผดเสียงลั่นบ้าน “เล็กน้อยหรอ โกงเงินคนที่รัก ที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง มันเล็กน้อยรึไง”
ฟ้าประทานคุกเข่าลง วิงวอน “ให้อภัยฟ้าประทานคนนี้นะครับ”
“ไปซะ อย่ามาให้เจ๊เห็นหน้าอีก ไม่อย่างนั้น เจ๊จะแจ้งตำรวจ พวกลูกค้ายินดีเป็นพยานให้เจ๊ ว่าฟ้าประทานแอบแก้สัญญา โกงเงินเจ๊”
ฟ้าประทานตกใจกอดขาเจ๊ทรงงาม “อย่าบอกตำรวจนะครับ เจ๊เป็นนางฟ้าของผม นางฟ้าผู้ใจดี
มีเมตตา”
“เวลานางฟ้าถูกหักหลัง ก็กลายร่างเป็นนางมารได้เหมือนกัน”
เจ๊ทรงงามจ้องฟ้าประทานเขม็ง โกรธจัด แค้นมาก
“คนอย่างเจ๊ทรงงาม รักมาก ก็แค้นมาก”
“เจ๊ครับ ได้โปรดยกโทษให้ผม”
ฟ้าประทานจะก้มกราบเจ๊ทรงงาม เจ๊เดินหนี ไม่ยอมให้กราบ
“เจ๊ไม่ให้อภัย เราก็ไปกันเถอะจ้ะฟ้าประทาน” ตุ้มสงสารผัว
เจ๊ทรงงามพาลหันมาด่าตุ้ม “ดี หล่อนก็ไปด้วย ผัวเมียกัน ต้องรู้เห็นเป็นใจกัน”
“เจ๊ ชั้นทำอะไรให้เจ๊ไม่พอใจ ชั้นก็ขอโทษนะจ๊ะ”
ตุ้มไหว้เจ๊ทรงงาม อีเจ๊เมินหน้าหนี ไม่รับไหว้
ฟ้าประทานรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่าเจ๊ทรงงามไม่ให้อภัยแน่นอนจึงลุกขึ้น จะเข้าบ้าน
“จะเข้าไปทำไมอีก”
“หยิบกุญแจรถ กระเป๋าตังค์ แล้วก็โทรศัพท์มือถือครับ”
เจ๊ทรงงามเสียงแข็ง “ของพวกนั้น เจ๊ซื้อให้ ฟ้าประทานเอาไปไม่ได้”

ฟ้าประทานมองเจ๊ทรงงามอย่างตัดพ้อและน้อยใจมาก แต่เจ๊ทรงงามก็ไม่ใจอ่อนแม้แต่น้อย จ้องฟ้าประทานกลับอย่างโกรธจัด
“ชั้นลานะเจ๊” ตุ้มไหว้ลา
ฟ้าประทานจำใจรับสภาพถูกเจ๊ทรงงามทิ้ง ฟ้าประทานไหว้ลาเจ๊ เจ๊ไม่รับไหว้ ฟ้าประทานหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า เดินคอตกออกไปกับตุ้ม

ถึงแม้สองคนจะพ้นสายตาไปแล้ว เจ๊ทรงงามก็ยังไม่หายโกรธ แค้นเหลือประมาณ

อ่านต่อหน้า 4

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 20 (ต่อ)

ฟ้าประทานกับตุ้มเดินย่ำต๊อก ออกจากซอยบ้านเจ๊ทรงงาม ฟ้าประทานหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า หน้าตาหมองจัด หมดอาลัยตายอยากในชีวิต

“ผมไม่เหลืออะไรแล้ว รถ บ้าน”
“เรากลับบ้านเทียมฟ้ากันนะจ๊ะ” ตุ้มว่า
ฟ้าประทานไม่เอาด้วย “ขืนกลับไป พวกนั้นก็เหยียบย่ำ”
“พวกเทียมฟ้าไม่ซ้ำเติมฟ้าประทานหรอกจ้ะ”
ฟ้าประทานไม่ยอมอยู่ดี “ตุ้มอย่าโลกสวยนักเลย คนสมัยเนี้ย ใครล้มก็เหยียบซ้ำทั้งนั้นแหละ วันนี้เราต้องหาที่นอนก่อน ตุ้มมีเงินเท่าไหร่”
ตุ้มควักเงินในกระเป๋าออกมานับ “2 ร้อย 60 เงินเก็บชั้นอยู่ในห้องนอน เจ๊ทรงงามไม่ให้ชั้นกลับเข้าไปเอาหรอก”
“ผมมีเงินติดตัว” ฟ้าประทานควักเงินในกระเป๋ากางเกงออกมา มีแต่แบงค์ย่อย “30 บาท เรามีเงินไม่พอจ่ายค่าห้อง”
“ชั้นยังมีนี่จ้ะ” ตุ้มล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา

ไม่นานต่อมา ฟ้าประทานส่งโทรศัพท์มือถือตุ้มให้เจ้าของบังกะโล
“ขอจ่ายค่าห้องด้วยโทรศัพท์มือถือนะครับ เครื่องนี้เอาไปขาย น่าจะได้ซัก 500 พอดีค่าห้อง”
“เอาไปก็วางไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้” เจ้าของว่า
“เห็นใจพวกเรานะจ๊ะ พวกเราเดือดร้อนมาก ถ้ามีเงิน เราก็ให้แล้ว” ตุ้มอ้อนวอน
“รับซื้อก็ได้ 500 แทนค่าห้อง” เจ้าของบอก
“ขอบใจมากจ้ะ”
ฟ้าประทานกับตุ้มมองหน้ากัน โล่งอก อย่างน้อยคืนนี้ก็มีที่นอน

คืนนั้นฟ้าประทานใช้โทรศัพท์บังกะโล โทร.หาคณะลิเกที่รู้จัก
“ให้ผมเล่นเป็นพระรองก็ได้ครับ ค่าตัวแล้วแต่จะให้” เขาโดนวางหูใส่ถึงกับหน้าเสีย
ตุ้มอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกจากห้องน้ำ ตุ้มใส่เสื้อผ้าฟ้าประทาน
“เสื้อผ้าชั้นอยู่ที่บ้านเจ๊ทรงงาม เลยเอาของฟ้าประทานใส่จ้ะ โทร.หาใครจ๊ะ”
“เจ้าของคณะลิเกที่ผมรู้จัก ของานทำ เค้าไม่รับ บอกว่าไม่อยากมีลูกคณะขี้โกง วางหูใส่ผมอีก”
“นังเก๋ต้องเอาฟ้าประทานไปประจาน หือ นังนี่ ร้ายจริง” ตุ้มแค้นเก๋ไปโน่น
“เรื่องผมอมเงินค่าตัวลูกคณะ ป่านนี้รู้กันทั่ววงการแล้ว”
“ในเมื่อคณะอื่นไม่รับเรา เราก็กลับไปคณะเดิม คณะเทียมฟ้า” ตุ้มว่า
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่กลับ ผมจะลองโทร.หาแม่ยก” พระเอกลิเกดวงดับกดโทรศัพท์ โทร.หาแม่ยก “เจ๊นาครับ ผมฟ้าประทานนะครับ” แต่โดนวางหูใส่ “เจ๊นาวางหูใส่ผม”
ตุ้มรู้ทันที “เจ๊ทรงงามต้องโทร.เล่าเรื่องวันนี้ให้พวกแม่ยกของฟ้าประทานฟัง”
“ไม่มีใครรักผมแล้ว โลกนี้มีแต่คนเกลียดผม”
ฟ้าประทานเสียใจ หน้าตาสลดมาก
ตุ้มกอดปลอบ “ฟ้าประทานยังมีชั้นนะจ๊ะ ไม่ว่าคนอื่นมองฟ้าทานยังไง ชั้นก็ยังรักฟ้าประทานของชั้นเหมือนเดิม”
ฟ้าประทานซาบซึ้งมาก ถึงกับน้ำตาซึมบีบมือตุ้มเบาๆ ตุ้มกอดปลอบฟ้าประทานไว้นิ่งนาน

อีกฟาก ที่บ้านครูเทียม โก่งแกล้งนอนกางขา กินที่ฟูกที่นอน กะไม่เหลือที่ให้หลงนอน
“เป็นฝีมะม่วงหรอพี่โก่ง หุบขาไม่ลง” โก๊ะหมั่นไส้
“ไอ้โก๊ะ เดี๋ยวปั้ดเตะกระเด็น ใครไม่มีที่นอน ก็ไปนอนข้างนอกนู้น”
หลงจ๋อยสนิท หยิบหมอน จะไปนอนข้างนอก
“น้ากำจาย ที่น้ามีเงินผ่าตัด เพราะพี่หลงหางานเข้าคณะ น้าน่าจะเห็นความดีของพี่หลงบ้างนะ”
กำจายใจอ่อน “ไอ้หลง ย้อนเวลากลับไปได้ เอ็งจะโกหกพวกข้ามั้ย”
หลงตอบจากใจจริง “โกหกครับ”
โก่งยัวะ “เฮ้ย ไม่สำนึกเลยเหรอวะ”
กำจายจ้องตาหลงจับโกหก หลงไม่หลบตา เพราะเขาตอบจากใจจริง
“อย่างน้อยเอ็งก็มีความจริงใจหลงเหลืออยู่บ้าง ตอบข้าจากใจจริง ความดีของเอ็งก็มีอยู่ไม่น้อย เอามาหักล้างกันแล้ว ก็พอทำเนา ให้ข้ายกโทษให้เอ็ง”
หลงยิ้มออก กำจายบอกต่อว่า
“แต่...ข้าคงไม่สนิทใจกับเอ็งเหมือนเดิม”
“แค่น้ากำจายยกโทษให้ ก็เป็นพระคุณมากแล้วครับ”
“เอ็งช่วยหาเงินให้น้ากำจายได้ผ่าตัด แต่เอ็งไม่ได้มีบุญคุณกับข้า ข้าเล่นลิเกแลกเงิน ไม่ได้ขอเงินเอ็งโว้ย”
โก่งกางขากางแขนกว้างกว่าเดิม แทบจะมานอนบนฟูกหลง
“พี่โก่งไม่เขยิบ เราก็ลากฟูกออกมาเลยพี่หลง” โก๊ะว่า
“ไม่ต้องหรอกโก๊ะ พี่จะไปนอนข้างนอก”

หลงเดินซึมถือหมอนออกไป โก๊ะสงสารจับใจ ส่วนกำจายเฉยๆ ไม่เข้าข้าง โก่งเบ้ปากชังน้ำหน้าไอ้หลง

ส่วนในห้องนอนจอมนางตอนนี้ จอมนางเกาะขอบหน้าต่าง เหม่อมองท้องฟ้ายามราตรีข้างนอก ด้วยความเสียใจ ที่ถูกหลงโกหกหลอกลวงสารพัด

“คนหน้าเนื้อใจเสือ เป็นอย่างพี่หลงนี่เอง”
กระแตนอนอยู่บนเตียงพูดกล่อม “พี่หลงไม่ใช่คนใจร้าย เพราะหนีตาย ถึงต้องโกหกเรา”
“อยู่บ้านเรามาตั้งหลายเดือน ไม่มีซักวันเลยเหรอ ที่พี่หลงคิดจะบอกความจริง พี่หลงเห็นพวกเราซื่อ เลยคิดว่าหลอกง่าย”
ที่ข้างล่าง หลงเดินซึมออกมา กะจะไปนั่งที่ศาลาท่าน้ำ
จอมนางมองลงมาเห็นหลงเดินอยู่ จอมนางมองหลงด้วยสายตาโกรธขึ้ง
หลงรู้สึกตัวว่าถูกจ้องอยู่ จึงหันไปดู เห็นจอมนางกำลังจ้องลงมาจากบนห้อง หลงยิ้มให้
“ยกโทษให้พี่หลงไม่ได้เหรอจอม” กระแตถามน้อง
จอมนางจ้องพี่หลงที่อยู่ข้างล่าง แล้วปิดหน้าต่างใส่หน้า ไม่อยากเห็น
หลงโดนจอมนางปิดหน้าต่างใส่ ก็เสียใจ ยืนมองหน้าต่างห้องนอนจอมนางตาละห้อย

ทางด้านเหมยฮัว ทั้งกลุ้มใจ และสงสารพงศ์เทพ นึกถึงวันที่พงศ์เทพโดนเข้าใจผิดว่าทำตัวเองท้อง
ในตอนนั้นเหมยฮัวอยู่บนระเบียงห้องนอน กำลังโยนกระเป๋าเสื้อผ้าให้พงศ์เทพที่รออยู่ข้างล่าง เสี่ยเต๊กเข้ามาในห้องเห็นพอดี
เหมยฮัวกลัวสุดๆ “เตี่ย”
เสี่ยวิ่งไปก้มดูตรงระเบียง “เทพ มาทำอะไร”
พงศ์เทพหน้าตาเหลอหลา ไม่รู้จะตอบเสี่ยยังไง
เสี่ยคิดเองเออเอง “โยนกระเป๋าเสื้อผ้าลงไปให้ไอ้เทพ จะปืนลงมาหามัน จะหนีตามกัน ไอ้เทพมัน ทำลื๊อท้อง”
เหมยฮัวสึกผิดต่อพงศ์เทพเอามากๆ
“ป่านนี้พี่เทพไประหกระเหินที่ไหน”
เหมยฮัวอยากรู้ความเป็นไปพงศ์เทพ เลยออกไปหาอาจง เพื่อขอเบอร์มือถือ

อาจงกำลังเช็ดเคาน์เตอร์ครัวอยู่ เหมยฮัวเดินหน้าเศร้าเข้ามาหา อาจงมองอย่างเป็นห่วง
“ทำใจให้สบายใจค่ะคุณหนู เสี่ยต้องเอาตัวคุณพงศ์เทพมาแต่งงานกับคุณหนูจนได้ค่ะ”
“ขอเบอร์พี่เทพ ที่อาจงโทร.ไปหน่อยจ้ะ”
“อยู่ในมือถือค่ะ” อาจงหยิบมือถือมาเปิดหาเบอร์พงศ์เทพ “เบอร์นี้ค่ะ”
เหมยฮัวเซฟเบอร์มือถือหลง ใส่โทรศัพท์มือถือตัวเอง

เหมยฮัวเดินไปเดินมา ท่าทีลังเล จะกดโทร.หาพงศ์เทพดีมั้ย
“พี่เทพต้องด่าเรา แต่เราเป็นห่วงพี่เทพ อยากรู้พี่เทพเป็นยังไงบ้าง”
เหมยฮัวตัดสินใจโทร.หาพงศ์เทพ

ขณะที่หลงออกมานั่งทอดอาลัยอยู่ในศาลาท่าน้ำ จู่ๆ มีเบอร์มือถือแปลกๆ โทร.มา หลงรับสาย น้ำเสียงเนือยๆ ใบหน้าหมองเศร้า
“สวัสดีครับ”
เหมยฮัวไม่กล้าพูด
หลงถามอีกว่า “ติดต่อคณะเทียมฟ้าหรือเปล่าครับ”
เหมยฮัวเอ่ยขึ้นน้ำเสียงแผ่ว “พี่เทพ”
หลงตื่นเต้น จำได้ “เหมย พี่จำเสียงเหมยได้ ผู้หญิงที่โทร.มาหลอกพี่ นัดพี่ไปคุยสัญญา เป็นคนของเตี่ยเหมยสินะ เอาเบอร์พี่มาจากไหน”
“เตี่ยเหมยสามารถทำได้ทุกอย่างแหละพี่ พี่เทพลำบากมากมั้ยคะ”
หลงหรือพงศ์เทพนึกฉุน “ยังจะถามอีก เตี่ยเหมยตามล่าพี่ พี่ต้องซัดเซพเนจรมานอนบ้านคนอื่นลูกน้องเตี่ยเหมยยังตามมาป้วนเปี้ยนแถวบ้าน พี่ต้องระแวงอยู่ตลอดเวลากลัวถูกจับตัว กลัวถูกซ้อม”
“เหมยขอโทษค่ะ” เหมยฮัวเริ่มร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิด
“เหมยท้องกับใคร”
เหมยฮัวไม่ยอมบอก
“ไปบอกผู้ชายคนนั้นให้มากราบขอขมาเสี่ย แล้วถ้าหมอนั่นไม่ยอมมา เหมยก็ต้องบอกเสี่ย พี่ไม่ใช่พ่อลูกในท้องเหมย”
เหมยฮัวสะอื้น “เหมยไม่กล้า”
“เหมย เรารู้จักกันมานาน พี่เห็นเหมยตั้งแต่เหมยผูกคอซอง เราสองคนสนิทกันมาก รักกันเหมือนพี่น้อง เหมยทำลายชีวิตพี่ชายคนนี้ได้ลงคอเหรอ”
เหมยฮัวสะเทือนใจ เอาแต่ร้องไห้โฮ
“เหมย พูดอะไรบ้างสิเหมย”
เหมยฮัวพูดไม่ออก ร้องไห้ลูกเดียว
หลงได้ยินเสียงเหมยฮัวเอาแต่ร้องไห้ ไม่มีประโยชน์จะคุยต่อจึงวางสาย
เหมยฮัวค่อยๆ หยุดร้องไห้ เช็ดน้ำตา
“เหมยทำผิด เหมยต้องคืนชีวิตให้พี่”

เหมยฮัวฮึด ทำใจให้เข้มแข็ง ตัดสินใจเด็ดขาด จะบอกความจริงเสี่ยเต๊ก เพื่อช่วยพงศ์เทพ!

อ่านต่อตอนที่ 21
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 19
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 19
ทางด้านเจ๊ทรงงามรอง้อพ่อสุดหล่อผู้เป็นกล่องดวงใจ พอเห็นฟ้าประทานที่เพิ่งอาบน้ำแต่งหล่อออกมาจากห้องนอน ด้วยวันนี้มีงานลิเก ก็รีบไปเสนอหน้าเอาใจ “เมื่อเช้าเจ๊ไปหาเพื่อนในตัวเมือง ซื้อเสื้อที่ห้างมาให้จ้ะ ตัวตั้งพันกว่าบาท” ฟ้าประทานรับเสื้อมาแล้ววาง ทำเป็นไม่อยากได้ แกล้งโกรธเจ๊ทรงงามอยู่ มีเสียงรถตู้บีบแตรหน้าบ้าน ตุ้มขนชุดลิเกมาจากข้างบน “ไปกันเลยนะจ๊ะ ต้องไปรับชาวคณะอีก” ฟ้าประทานช่วยตุ้มขนชุดลิเกออกไป เจ๊ทรงงามจ๋อย ปิดบ้านหงอยๆ รถตู้คณะรออยู่ ฟ้าประทานกับตุ้มขึ้นรถ เจ๊ทรงงามขึ้นคนสุดท้าย ฟ้าประทานพูดขึ้นอย่างหมางเมินใส่ “เจ๊ไม่ต้องไปครับ ผมคุมคณะคนเดียวได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น