กุหลาบเล่นไฟ ตอนที่ 15
ทางด้านดอกแก้วก็ออดอ้อนจนพิชัย ซึ่งเมาจนขับรถไม่ไหว ยอมให้เธอประคองไปที่ลานจอดรถ พริดาเข้ามาเห็นพอดี เธอมองดอกแก้วด้วยความแค้นใจ พร้อมๆ กับเตรียมแผนที่จะจัดการกับพิชัยขั้นเด็ดขาด
ชาลินีพยายามโทร. หาพิชัย แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสาย พอพลศิษฎ์เดินเข้าบ้านมา ผู้เป็นมารดาจึงออกคำสั่งให้เขาพาไปตระเวนหาพิชัยตามผับ
“คุณแม่อย่าไปเลยครับ ไปก็ทะเลาะกันอีก เดี๋ยวก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เหมือนครั้งก่อน”
พลศิษฎ์พูดย้ำถึงอดีตที่ชาลินีเคยบุกไล่ยิงเมียน้อยกลางผับมาแล้ว
“แกไม่อยากให้ฉันทำเหมือนวันนั้น แกก็ไปกับฉัน”
พลศิษฎ์รีบเดินเลี่ยงขึ้นไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมๆ กับที่เสียงโทรศัพท์ของชาลินีดังขึ้น “ แก? แกได้เบอร์ฉันมาจากไหน?”
พริดาที่อยู่ทางปลายสายหัวเราะเยาะกลับมา
“เมียน้อยจะหาเบอร์เมียหลวงไม่ใช่เรื่องยากค่ะ อย่าเสียเวลาคุยเลย .รีบตามจิกผัวจะดีกว่า”
พริดาพูดพลางปรายตามองไป ที่ดอกแก้วซึ่งกำลังประคองพิชัยพาขึ้นไปที่คอนโด
“คุณพิชัยอยู่ไหน บอกมานะ”
“นี่ก็ดึกแล้ว อ้อมจะขอตัวกลับแล้วค่ะ อ้อมขอรับเช็คเลยได้ไหมคะ?”
ปริตาพยายามพูดตัดบท สมภพทำทีเป็นค้นในเสื้อ แล้วบ่นดังๆ
“แย่จัง ฉันเขียนเช็คให้เธอแล้วนะ ดันลืมทิ้งไว้ที่คอนโด เอาไงดีล่ะ ฉันรู้ว่ามันไม่เหมาะที่คุณจะไปคอนโดฉัน”
“เรานัดเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”
สมภพรีบหาข้ออ้าง
“รอฉันกลับจากฮ่องกงอาทิตย์หน้านะ ฉันต้องพานางแบบไปถ่ายงานที่ฮ่องกงแต่เช้าเลย”
ปริตารีบตัดสินใจ
“อ้อมไปที่คอนโดคุณสมภพก็ได้ค่ะ”
ตรัยรีบสาวเท้าเดินเข้ามาในผับ เพราะตั้งใจจะมาหาปริตาที่อยู่กับสมภพ แต่รัญชิตาเข้ามาเรียกไว้ เพื่อเบี่ยงความสนใจ จนสมภพเดินพาปริตาออกไป
“คุณตรัยคะ มิ้นท์นึกแล้วว่าคุณต้องมา”
“อ้อมอยู่ไหนครับ ผมจะมารับอ้อมกลับ อ้อมไม่ควรอยู่ใกล้คนอย่างคุณสมภพ”
“อ้อมออกไปกับคุณสมภพแล้วค่ะ”
ตรัยตกใจ “เขาพาอ้อมไปไหน?”
“มิ้นท์จะพาคุณไปเองค่ะ”
ชาลินีมาถึงหน้าคอนโด ที่ดอกแก้วประคองพาพิชัยเข้าไป พริดายืนมองด้วยความสะใจขณะที่พลศิษฎ์ลงมาจากห้องนอน ไม่เจอชาลินี ก็รีบถามกับแม่บ้านทันที
“เธอเห็นคุณแม่ไหม?”
“คุณหญิงคุยโทรศัพท์แล้วก็รีบออกไป ลืมมือถือไว้ค่ะ”
พลศิษฎ์รับโทรศัพท์มา ก่อนจะกดเปิดดู เห็นภาพที่พริดาส่งมา ก็รีบตามออกไปทันที
ระหว่างที่ดอกแก้วกำลังคลอเคลียอยู่กับพิชัยในห้อง ชาลินีก็โผล่เข้ามาที่ห้อง พร้อมกับชักปืนออกมาจ่อขู่
“วันก่อนยัยพอลลี่ วันนี้เป็นยัยดอกแก้ว นี่มันเพื่อนของลูก คุณยังไม่เว้น”
จากนั้นก็เล็งปืนไปที่ดอกแก้ว “เธอมันมักง่าย อยากรวยทางลัด ชอบแย่งของของคนอื่น”
ดอกแก้วกลัวจนลนลาน
“ดอกแก้วไม่ได้คิดแย่งค่ะ ดอกแก้วโดนมอม โดนหลอกมาค่ะ”
“ยังมีหน้ามาโกหก นังแพศยา”
ชาลินีลั่นไกใส่ ดอกแก้วหลบทัน แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องทันที จากนั้นชาลินีก็หันมาจ้องปืนใส่พิชัย
“อย่านะคุณ ต่อไปนี้ผมจะไม่นอกใจคุณ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่กับคุณ”
“คุณสัญญาแล้วนะ ว่าคุณจะอยู่กับฉัน”
“ผมสัญญา”
พิชัยพูดตะล่อม พลางปราดเข้ามาจะแย่งปืน พร้อมกับผลักชาลินีล้มลง แล้วเตรียมจะหนีออกไปจากห้อง แต่ชาลินีคว้าปืนขึ้นมายิงโดนที่ขา จนพิชัยล้มลงไปกองกับพื้น จังหวะนั้นพลศิษฎ์รีบวิ่งเข้ามาห้ามไว้
“คุณแม่อย่าครับ”
“คุณไม่ต้องออกไปไหนอีก”
ชาลินีพูดพร้อมกับลั่นกระสุนอีกนัดที่ขาอีกข้าง พิชัยร้องเสียงดังลั่น พลศิษฎ์รีบพุ่งเข้าไปแย่งปืนออกมา
“พอได้แล้วครับ”
พิชัยร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ชาลินีมองเหยียด ด้วยความเกลียดชัง
ดอกแก้ววิ่งหนีออกมาด้วยความตกใจกลัวจนตัวสั่น พริดารีบเดินมาดักหน้าไว้
“ฉันคิดว่าเธอจะเป็นผีเฝ้าศพชู้รักซะอีก อย่ามาเล่นกับฉัน ใครที่มันทำให้ฉันเจ็บ ฉันเอาถึงตาย”
ทางด้านสมภพ ก็พาปริตาเข้ามาในห้องคอนโด พลางแอบยิ้มอย่างพอใจ
“ฉันอดแปลกใจไม่ได้ที่เธอยอมมากับฉัน”
“อ้อมไม่มีทางเลือกค่ะ อ้อมจำเป็นต้องใช้เงิน ขอเช็คให้อ้อมนะคะ”
สมภพเดินไปที่โต๊ะ แล้วหยิบสมุดเช็คออกมาเขียน ปริตามองอย่างมีความหวัง
รัญชิตารีบพาตรัยเข้ามาถึงหน้าคอนโดของสมภพ
“อ้อมอยู่ที่นี่?”
“ใช่ค่ะ คุณจะได้เห็นว่าผู้หญิงแสนดีที่คุณรัก กำลังเอาตัวเข้าแลกเงิน ทำตัวไม่ต่างจากยัยพอลลี่ยัยดอกแก้ว”
ตรัยมองรัญชิตาอย่างผิดหวัง
“คุณเป็นเพื่อนอ้อม แต่คุณไม่รู้จักนิสัยอ้อมเลย”
“เงินมันทำให้คนเปลี่ยนได้ และฉันก็มั่นใจว่าถ้าคุณได้เห็นภาพความสุขของพวกเขา คุณก็ต้องเปลี่ยนความคิด”
ตรัย รีบเดินเพื่อจะเข้าไปที่ห้องสมภพ รัญชิตารีบเดินตามไปทันที
ปริตายืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง แต่พอสมภพเขียนเข็คเสร็จ เธอก็จำต้องเดินเข้าไปรับในห้อง ก่อนจะโดนอีกฝ่ายรวบตัวมากอดไว้
“ฉันให้เธอได้ทุกอย่าง ถึงเวลาที่เธอต้องตอบแทนฉันแล้ว”
“อ้อมรู้ว่าอ้อมเป็นหนี้บุญคุณคุณ อ้อมยินดีจะชดใช้ด้วยการทำงานที่ดี หรือช่วยเหลือในสิ่งที่อ้อมให้ได้ ไม่ใช่รองรับความใคร่คุณ”
ปริตาพูดพร้อมกับดันตัวสมภพออก แต่กลับถูกอีกฝ่ายกลับรวบตัวไว้อีก
“แต่ฉันต้องการมัน มันทำให้ฉันมีความสุข”
“ปล่อยค่ะ ปล่อยอ้อม”
สมภพมองด้วยสายตาหื่น
“อย่าดิ้นเลย เธอสู้แรงฉันไม่ได้หรอก ผู้ชายแข็งแกร่งกว่าเสมอ”
“อ้อมสู้ด้วยแรงไม่ได้ แต่ใช่ว่าผู้หญิงต้องตกเป็นเหยื่อเสมอไป ถ้าเราใช้สมอง”
ปริตาพูดจบ พร้อมกับเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น
“ถ้าคุณไม่เปิดประตูภายในหนึ่งนาที พี่เทพจะพังประตูเข้ามา”
สมภพตกใจ “เธอโทรบอกพี่ชายเธอเมื่อไหร่?”
ปริตายิ้มอย่างใจเย็น พลางเล่าว่าเธอเป็นคนบอกให้ปริเทพตามมาดูแลตั้งแต่ที่ผับ จนมาถึงที่คอนโด สมภพมองอย่างไม่พอใจ
“อ้อมยอมมากับคุณ ไม่ใช่เพราะไว้ใจ แต่อ้อมรู้ว่าอ้อมปลอดภัย คุณต้องเปิดประตูแล้วค่ะ
ไม่งั้นพี่เทพจะโทร. แจ้งตำรวจว่าฉันโดนลวงมาข่มขืน คุณคงไม่อยากมีคดีความก่อนละครออนแอร์ ขอเช็คให้อ้อมค่ะ”
สมภพรีบยื่นเช็คให้ แต่ยังไม่วายพูดขู่
“เธอเล่นฉันหนัก ฉันคงไม่ใจดีอนุมัติเงินให้เธอ ฉันจะสั่งระงับการจ่ายเงิน”
“คุณเป็นคนฉลาด ไม่ฆ่าตัวตายหรอก”
ปริตาพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา
“ฉันอัดเสียงทุกคำสนทนาของเราหมดแล้ว”
“เธอแบล็คเมล์ฉัน”
“อ้อมไม่ได้แบล็คเมล์ขู่เอาเงินนะคะ อ้อมต้องการแค่เงินในส่วนที่อ้อมควรได้รับ อ้อมทำงานแลกเงินค่ะ”
สมภพชี้หน้าปริตาด้วยความแค้นใจ “เธอออกไปได้แล้ว”
“สุภาพบุรุษควรเปิดประตูให้สุภาพสตรีนะคะ”
ปริตามองเย้ย สมภพรีบเดินไปเปิดประตู พร้อมๆ กับที่ปริเทพพุ่งหมัดเข้ามาเต็มหน้า
“คนอย่างแกต้องได้รับการสั่งสอน”
จังหวะนั้นตรัยก็เดินมาถึงหน้าห้องพอดี
“อ้อม”
ปริตาหันไปมองด้วยความแปลกใจ “คุณตรัย”
สมภพรีบร้องขอให้ตรัยช่วยทันที
“คุณตรัยช่วยผมด้วย”
“คุณสมภพคิดจะขืนใจอ้อมค่ะ”
ตรัยปราดเข้าไปดึงตัวปริเทพออก ก่อนจะพุ่งหมัดใส่หน้าสมภพเต็มแรง
“ผมเตือนคุณหลายครั้งแล้ว อย่ายุ่งกับอ้อม เลิกยุ่งกับอ้อม ไม่งั้นผมเอาคุณถึงตาย”
ตรัยพูดขู่ พร้อมๆ กับที่ปริเทพรีบพาปริตาออกไปจากห้อง รัญชิตายืนมองเหตุการณ์อย่างผิดหวังที่ปริตารอดไปได้อีกแล้ว
“ขอบคุณมากนะคะที่มาช่วย ว่าแต่คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
ปริตาอดที่จะหันมาถามตรัยไม่ได้
“คุณมิ้นท์โทร. บอกผมว่าคุณมากับคุณสมภพ”
ปริเทพยิ้มเยาะ “มิ้นท์คงไม่ได้หวังดี ให้คุณมาช่วยอ้อม?”
“ครับ คุณมิ้นท์ตั้งใจให้ผมมาเห็นว่าอ้อมนอนกับคุณสมภพ”
ปริตาส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
“ถ้ามิ้นท์ไม่สำนึกก็ปล่อยไปเถอะค่ะ หลังละครจบ เราไม่ได้เจอกันอีก ทุกอย่างคงจะดีขึ้น ขอบคุณคุณมากนะคะ”
“ผมขอบคุณ ที่คุณช่วยอ้อม”
ปริเทพยิ้มให้ตรัยอย่างเป็นมิตร
สมภพพยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้น รัญชิตารีบเข้าไปช่วยพยุงขึ้นมาที่โซฟา
“ฉันคิดว่าคุณจะจัดการมันได้แล้ว”
“ผมประมาทเกินไป”
“คุณยังมีโอกาสแก้ตัว ฉันจะร่วมมือกับคุณ ทำลายมัน ยัยอ้อมตกเป็นของคุณ มันก็ไม่มีหน้าคบกับคุณตรัยอีก คุณได้ยัยอ้อม ฉันได้คุณตรัย วินๆทั้งคู่”
สมภพยิ้มพอใจ “เราจะร่วมมือมือ”
รัญชิตายิ้มร้าย “ฉันจะทำลายมันให้ย่อยยับ”
กุหลาบเล่นไฟ ตอนที่ 15 (ต่อ)
รัญชิตากลับมาถึงบ้าน รู้ข่าวชาลินี ว่าพิชัยเข้าโรงพยาบาล ก็ตกใจ
“ต่อไปนี้พ่อแกไปไหนไม่ได้อีก พ่อแกจะอยู่ติดบ้าน บ้านที่เป็นเหมือนสุสาน”
รัญชิตาน้ำตาคลอ ไม่เชื่อว่าแม่จะทำร้ายพ่อได้ถึงขนาดนี้
“คุณแม่ทำกับคุณพ่อได้ไง?”
“คุณพ่อแกทำตัวเองต่างหาก ฉันจะไม่ยอมเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว ใครที่มันทำฉันเจ็บ มันต้องเจ็บกว่าฉัน”
รัญชิตาทั้งตกใจและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พลางคิดถึงเรื่องการแก้แค้นของตัวเอง
วันสุดท้ายของการถ่ายทำละคร ศิโรจน์หอบช่อดอกไม้มาให้กำลังใจต้อยติ่ง ที่รับไว้แบบเขินๆ ขณะที่ปริตาก็แอบใจหาย ที่ละครกำลังจะปิดกล้อง
“คิดแล้วใจหายนะคะ ถ่ายทำมาด้วยกันหลายเดือน วันนี้เป็นวันปิดกล้องแล้ว”
ชาญวุฒิถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“ปิดๆ น่ะดีแล้ว พี่ใจหายใจคว่ำลุ้นทุกวัน ไม่อยากเป็นผู้ผลิตละครล่ะ กลับไปทำโมเดลิ่งอย่างเดียวดีกว่า”
ปริตาปรายตามองไปเห็นนักข่าวก็แปลกใจ “พี่ชาญเชิญนักข่าวมาทำข่าวเหรอคะ”
ชาญวุฒิส่ายหน้า “ไม่นะ ใครพามา?”
อีกด้านหนึ่งพริดาก็มาดักรอสมภพ เพื่อขอรับค่าตัว
“ฉันทำเบิกค่าตัวให้ไปหมดแล้ว”
“มันไม่ครบค่ะ คุณสัญญาให้พอลลี่เล่นจนจบเรื่อง แต่คุณอนุมัติตัดบทพอลลี่ ดังนั้นคุณต้องจ่ายค่าตอนของพอลลี่ทั้งหมดค่ะ”
สมภพจ้องหน้าพริดา พลางยิ้มเยาะ
“ฉันไม่ใช่คนดีที่จะให้ทานเธอได้มากขนาดนั้น”
“หรือคุณไม่อยากให้ละครคุณออนแอร์?” พริดาพูดขู่ “คุณเป็นเจ้าพ่อสื่อ แต่คู่แข่งและศัตรูคุณก็มีมาก คุณอยากอ่านข่าวผู้จัดมั่วกาม กินไม่เลือกทารุณเยี่ยงสัตว์ไหมคะ ? พอลลี่มีหลักฐานครบค่ะ”
พูดพลางส่งภาพในมือถือที่เธอโดนทำร้าย เป็นรอยแผล รอยช้ำเต็มตัวให้ดู
“เธอปล่อยข่าวนี้ เธอก็เสีย”
พริดายักไหล่ “พอลลี่ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อยากแลกกับอนาคตงานของคุณก็ได้ค่ะ”
สมภพเห็นท่าทางเธอเอาจริง ก็รีบพูด
“แล้วฉันจะจัดการเรื่องเงินให้ ออกไปได้แล้ว”
พริดายิ้มสะใจที่มาขู่สมภพได้สำเร็จ จากนั้นก็เดินเชิดหน้าออกไป พร้อมๆ กับกลุ่มนักข่าว
ชาญวุฒิ กับปริตายืนมองสิ่งที่พริดาทำกับสมภพแล้วก็ส่ายหัว
“เคยใช้สื่อทำลายคนอื่น สุดท้ายก็โดนเล่นซะเอง นี่แหล่ะเขาเรียกกฎแห่งกรรม”
“เขาว่ากันว่า กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ”
ปริตาพูดจบ รัญชิตาก็เดินเข้ามาพอดี พ่ออู๊ดเห็นนักแสดงมากันพร้อมหน้าก็เดินเข้ามาทักทาย
ทุกคนยกมือไหว้ ยกเว้นรัญชิตา ที่มองแล้วเมิน
“พ่อปรับบทตอนจบให้แล้ว เพื่อนรักผิดใจแยกทางกันเดิน สุดท้ายรดาก็ได้แต่งงานกับคนรัก โดยมีเดือน เป็นเพื่อนรักและจริงใจกับรดาเพียงคนเดียว”
ปริตาได้ฟัง ก็หันไปมองรัญชิตา ต้องการสื่อถึงความจริงใจที่มีให้ แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “เร่งถ่ายเถอะค่ะ มิ้นท์อยากจบให้ไวที่สุด”
พ่ออู๊ดเริ่มถ่ายทำในฉากงานแต่งงานของรดา โดยมีเดือนที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวถือช่อดอกกุหลาบสีแดงเข้ามายื่นให้
“ฉันดีใจกับเธอด้วยนะ หลังจากนี้เธอไม่ต้องแย่งชิงกับใครอีกแล้ว เธอเชื่อฉันแล้วใช่ไหม? ความดีเท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งได้ ฉันขอให้เธอได้อยู่กับคนที่เธอรัก และมีความสุขกับเขาตลอดไป”
รัญชิตามองปริตา แอบเจ็บปวดอยู่ลึกๆ
“ฉันดีใจกับเธอด้วยนะ”
รัญชิตารับช่อดอกกุหลาบ แล้วก็น้ำตาไหลคลอออกมาจริงๆ
“คัท ปิดกล้อง”
พ่ออู๊ดตะโกนสั่งเสียงดัง นักแสดงและทีมงานทุกคน ปรบมือกันสนั่น
รัญชิตากำลังจะเดินออกไปจากฉาก แต่ปริตาเรียกไว้ก่อน
“มิ้นท์ ฉันขอบใจนะที่เธอบอกให้คุณตรัยไปช่วยฉัน ฉันไม่สนใจหรอกว่า เธอคิดดีหรือร้าย แต่อย่างน้อยเขาก็มาช่วย ฉันไว้ได้”
รัญชิตาจ้องหน้าปริตาอย่างชิงชัง
“เธอมันร้ายกว่าที่ฉันคิด ย้อนรอยเอาคืนจนคุณสมภพแทบแย่ แล้วยังจะมาเย้ยฉันอีก”
“ฉันไม่เคยคิดร้ายกับใคร ฉันเพียงปกป้องตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นตามเหตุและผลของมัน ฉันขอเถอะ เธอหยุดได้แล้ว ถ้าเธอยังเลือกทำในสิ่งไม่ดี เธอก็ได้รับผลเหมือนอย่างที่พอลลี่ดอกแก้ว หรือคุณสมภพ
ทุกคนต้องรับกรรมที่กระทำ มีแต่คนสำนึกผิดเท่านั้น ที่จะได้รับการให้อภัย”
รัญชิตาผลักปริตาออกไปเต็มแรง
“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแม่พระโปรดฉัน ฉันจะบอกให้นะ ชีวิตฉันกับตัวละครรดาต้องเหมือนกัน
ไม่ว่าจะเจออุปสรรค ตัวมารมาขัดขวาง ฉันก็จะทำลาย แล้วฉันต้องได้สมหวังกับคนที่ฉันรัก เธอคือศัตรูที่ทำลายฉัน ฉันจะยอมเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอ ในวันที่เธอตาย แล้วฉันจะไปโปรยดอกไม้ลอยอังคารให้เธอ”
รัญชิตาพูดพลางดึงดอกกุหลาบจากช่อ พลางซัดใส่หน้าปริตา แล้วรีบเดินออกไป ปริตามองตามด้วยความผิดหวังที่อีกฝ่ายยังคงไม่เลิกอาฆาต
รัญชิตากกลับเข้ามาในบ้าน พร้อมๆ กับที่พลศิษฎ์เข็นรถพาพิชัยเข้ามา
“คุณพ่อคะ มิ้นท์เสียใจด้วยนะคะ”
พูดพลางเข้าไปจับขาพิชัย ที่กลายเป็นคนพิการ ผู้เป็นบิดายิ้มรับ พร้อมทั้งใช้มือลูบศีรษะลูกสาว
“ช่างมันเถอะ อย่างน้อยพี่ก็ยังมีลมหายใจ ยังอยู่กับลูกๆ ได้อีก”
ขณะที่ชาลินีนั่งนิ่ง
“คุณแม่เข้ามาดูแลคุณพ่อสิคะ”
“ฉันไม่มีหน้าที่เป็นพยาบาลดูแลคนพิการ”
“คุณแม่ควรรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณแม่ทำนะคะ”
ชาลินีมองหน้าพิชัยอย่างรังเกียจ
“ฉันไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะนี่คือโทษที่พ่อแกต้องได้รับ”
พิชัยรู้สึกสะเทือนใจ พลางรีบเข็นรถเข้าไปหาชาลินี
“ผมไม่เอาความเอาเรื่องคุณ ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ผมจะอยู่กับคุณ ให้อภัยผมเถอะ เรากลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมนะ”
ชาลินีมองหน้าพิชัย เหมือนกำลังคิดตัดสินใจ แต่จู่ๆ พริดาก็โผล่เข้ามา
“อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะคะ”
กุหลาบเล่นไฟ ตอนที่ 15 (ต่อ)
ชาลินีเห็นพริดาเข้ามาก็ยิ่งโกรธ รีบผลักรถพิชัยถอยห่างออกไป
“เธอออกไป”
พิชัยออกปากไล่ พริดาทำทีเป็นพูดดี
“อย่าเพิ่งไล่สิคะ คุณอายังไม่ได้โอนเงินให้พอลลี่ ทราบข่าวว่าพิการช่วงล่าง ไปไหนไม่ได้ พอลลี่ก็ต้องเดลิเวอรี่มารับเงินถึงที่ค่ะ”
พลศิษฎ์ทนไม่ไหว รีบหันมาตวาดใส่หน้า
“ฉันจะโอนเงินเธอให้เอง เธอออกไปได้แล้ว”
“ขอบคุณนะคะ ว่างๆ เราน่าจะไปดื่มด้วยกัน”
ชาลินีหันมามองหน้าพริดาอย่างเกลียดชัง “ออกไปก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมาลากตัวเธอออกไป”
พริดาหันมายิ้มเย้ย ก่อนที่จะเดินออกไป พิชัยรีบเข็นรถเข้ามาหาชาลินี
“คุณ มันจบแล้ว เรามาเริ่มต้นกันใหม่”
“ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
ชาลินีผลักรถเข็นออกไปอย่างแรง จนพิชัยร่วงลงมานอนกองกับพื้น พลศิษฎ์รีบเข้าไปประคอง
“คุณพ่อ”
รัญชิตาเห็นความหายนะในครอบครัวก็ยิ่งแค้นใจ รีบวิ่งตามไปคว้าตัวพริดามาตบไม่เลี้ยง
“ออกไปจากบ้านฉัน แล้วไม่ต้องมายุ่งกับครอบครัวฉันอีก”
แต่อีกฝ่ายกลับชักมีดออกมาขู่
“บอกให้พี่ชายเธอเร่งจัดการเงินให้ฉัน ไม่งั้นฉันจะบุกมาทุกเวลา หลังอาหารเช้าเที่ยงเย็น จำไว้นะ ถึงฉันไม่ได้เล่นละครจนจบ ไม่มีงานในวงการ ฉันก็จะดังไม่แพ้เธอ ฉันจะเอาข้อมูลเลวๆ ชั่วๆ ของเธอมาแฉรายวัน แล้วดูกันว่านางเอกในจอกับจอมแฉ ใครจะดังกว่ากัน?”
พริดาหัวเราะเยาะเย้ย แล้วรีบเดินออกไป รัญชิตาโกรธมาก รีบกดโทรศัพท์หาสมภพทันที
“คุณสมภพ คุณอยู่ที่ไหน ?”
ทางด้านปริตาก็มาเยี่ยมเสาวลักษณ์ถึงที่บ้าน แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายังคงตั้งแง่รังเกียจตัวเองก็ตาม“อ้อมมาเยี่ยมคุณหญิงค่ะ”
เสาวลักษณ์หันมามองปริตาด้วยแววตาไม่พอใจ
“ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ น้อย น้อยเรียกคนมาลากตัวออกไป”
ปริตาค่อยๆ เดินเข้ามาหาเสาวลักษณ์ใกล้ๆ
“อ้อมกราบล่ะค่ะ อ้อมไม่คิดมากวนใจคุณหญิง อ้อมมาเป็นกำลังใจให้คุณหญิง คุณตรัยเองก็
พยายามทำทุกอย่างเพื่อคุณหญิงนะคะ ตอนนี้คุณตรัยถอนตัวจากบริษัทโฆษณา เข้ามาดูแลงานในบริษัทของคุณหญิงค่ะ”
เสาวลักษณ์ได้ฟังก็นึกแปลกใจ เพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
“อีกไม่นานสถานการณ์ของบริษัทก็จะดีขึ้น ขอให้คุณหญิงอดทน แล้วก็ให้กำลังใจคุณตรัยด้วยนะคะ อ้อมรู้ว่าคุณหญิงกับคุณตรัย มีเรื่องที่ค้างคาใจกัน ถ้าพวกคุณได้ปรับความเข้าใจกัน ทั้งตัวคุณหญิงและคุณตรัยเองก็จะมีความสุข”
“เธอพูดจบรึยัง? ออกไปได้แล้ว ฉันต้องการพักผ่อน”
“หากสิ่งใดที่อ้อมเคยล่วงเกินคุณหญิง ขอให้คุณหญิงอโหสิกรรมให้อ้อมด้วยนะคะ อ้อมเชื่อค่ะดาวเอง ก็พร้อมอโหสิกรรมให้คุณหญิงค่ะ”
ปริตาพูดถึงปัทมาศ แล้วก็ยกมือไหว้ลา พลางรีบเดินออกไป เสาวลักษณ์ได้ฟังเรื่องปัทมาศ ก็ฉุกคิดถึงเรื่องในอดีต ทั้งรู้สึกเศร้าใจ เสียใจและผลกรรมที่ทำกับปัทมาศ
“ ยกโทษให้ฉันด้วย”
เมื่อลงมาจากห้องนอนของเสาวลักษณ์ ปริตาก็เจอตรัยที่ด้านล่างพอดี ตรัยรีบคว้าตัวเธอมากอดไว้
“อ้อม ฉันเหนื่อยเหลือเกิน”
ปริตากอดตอบอย่างเข้าใจความรู้สึกของตรัย
“ทุกคนล้วนแต่ต้องเผชิญกับมัน คุณทำดีที่สุดแล้ว ฉันเชื่อคุณจะผ่านมันไปได้ ฉันทำเรื่องเบิกเช็คได้ ฉันจะรีบเอาเงินมาให้คุณ ซื้อบ้านคืนจากคุณ”
ตรัยยิ้มเศร้าๆ “ฉันไม่ต้องการเงินจากเธอ”
“คุณจำเป็นต้องใช้เงินค่ะ ฉันลาก่อนนะคะ”
ปริตาพูดจบก็เดินออกไป ตรัยมองตามอย่างเศร้าใจ เพราะถ้าขายบ้านให้ปริตาแล้ว โอกาสที่จะเจอกัน ก็คงน้อยลง
รัญชิตานัดเจอกับสมภพ พลางรีบพูดแกมบังคับ
“ฉันอยากให้คุณจัดการกับพอลลี่ พอลลี่ยังตามรังควานฉันและครอบครัว”
“พอลลี่อีกแล้วเหรอ? มันยังเล่นผมไม่เลิก”
แววตาของรัญชิตาวาวด้วยความแค้น
“เรามีศัตรูคนเดียวกัน ช่วยทำให้มันอับอายไม่กล้าสู้หน้าใครอีก”
จากนั้นสมภพก็นัดให้พริดามาเจอที่คอนโด เพื่อรับเช็ค แต่กลับมีผู้ชายสองคน ใส่กางเกงยีนส์ เปลือยท่อนบน สวมหัวไอ้โม่งอยู่ในห้องด้วย
“พวกแกจะทำอะไร ?”
สมภพยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ละครของฉันเร็ตติ้งเป็นไงไม่รู้ แต่หนังแผ่นของเธอ น่าจะดังกระฉูด”
พริดาขยับตัวเตรียมจะหนีไป แต่กลับถูกผู้ชายสองคนจับโยนลงไปบนเตียง
“ ฉันไหว้แล้ว ฉันไม่เอาเช็คก็ได้ ปล่อยฉันไป”
“เธอเคยบอกฉันว่าเธออยากเป็นดารา อยากดังเป็นซุปตาร์ ฉันมันคนรักษาคำพูด ฉันจะกำกับให้เอง”
พูดพลางสมภพก็กดสวิต์ไฟสำหรับใช้ถ่ายหนังฉายในห้อง พริดาร้องลั่นด้วยความตกใจกลัว พร้อมๆ กับที่ผู้ชาย 2 คนนั้น ปราดเข้ามากระชากเสื้อผ้าเธอจนขาดกระจุย
จากนั้นสมภพก็เอาคลิปที่ถ่ายพริดาไปให้รัญชิตาดู ฝ่ายนั้นรับไปดูด้วยความสะใจ
“ต่อไปก็จัดการอ้อม”
“เรื่องพอลลี่ผมช่วยฟรี แล้วงานอ้อมผมได้อะไร?” สมภพเริ่มมีเงื่อนไข
“คุณก็ได้อ้อมสมใจคุณ?”
“งานมันยากและเสี่ยงนะคุณ ผมน่าจะได้รางวัลตอบแทน มันถึงจะคุ้มกับความเสี่ยง”
สมภพพูดพลางเข้ามาลูบไล้ตัว รัญชิตาค่อยๆ จับมือออก
“เสร็จงานก่อนแล้วว่ากัน”
“อ้อมคงไม่ไว้ใจออกมาพบผมอีก”
รัญชิตายิ้มเยาะ “เรื่องนั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของฉัน”
ปริตากับปริเทพคุยกันที่หน้าโกฎิของพ่อและแม่ ถึงเรื่องที่เตรียมจะนำเงินไปให้ตรัย เพื่อซื้อบ้านคืนมา
“แม่ต้องภูมิใจในตัวอ้อมมาก ที่ทำจนสำเร็จ พ่อก็คงมีความสุขเหมือนกัน”
“พี่เทพหายโกรธพ่อแล้ว?” ปริตาย้อนถาม
“พี่อโหสิกรรมให้พ่อนานแล้ว และก็หวังว่ามิ้นท์ คุณตรัยจะให้อภัยพี่ กับความผิดที่พี่เคยทำกับพวกเขา พี่ไม่อยากเอาอดีตมาทำร้ายตัวเองอีก”
ปริตายิ้มอย่างดีใจ
“อ้อมจัดการทุกอย่างจบในวันพรุ่งนี้ อ้อมจะกลับไปอยู่บ้าน พี่เทพว่าไงคะ?”
“อ้อมทำเพื่อคนอื่นมามากแล้ว อ้อมควรเลือกในสิ่งที่อ้อมต้องการ ว่าแต่คุณตรัยล่ะ? พี่รู้นะ คุณตรัยเขารักอ้อม รักมานานแล้วด้วย อ้อมเองก็มีใจให้เขา”
ปริตาหน้าเศร้า
“ถึงแม้ว่าเรารักกัน แต่ความรู้สึกผิดที่เรามีส่วนร่วมกับมัน ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ มันก็ทำให้อ้อมยังไม่พร้อมจะคิดเรื่องนั้นอีกแล้ว”
ปริตาพูดถึงตรงนี้ สายเรียกเข้าจากรัญชิตาก็ดังเข้ามาแทรกพอดี
“ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ ฉันอยากเจอเธอพรุ่งนี้”
ปริตาได้ฟังก็นึกแปลกใจ “มีอะไรเธอก็พูดมาเถอะ”
“เธอยังโกรธฉันใช่ไหม? เธอถึงไม่อยากเจอฉัน ? เธอจะเลิกคบฉันก็ได้ แต่ขอให้ฉันได้พูดกับเธอ พรุ่งนี้เจอกันที่.. แล้วฉันจะรอเธอ”
ปริตาวางสาย พลางรีบหันไปบอกปริเทพ
“มิ้นท์โทรมาขอนัดเจอกับอ้อมค่ะ”
“ทำไมไม่มาหาที่นี่ล่ะ พี่ไม่ไว้ใจเลย อ้อมไม่ต้องไปนะ”
ปริตายืนนิ่ง เหมือนกำลังตัดสินใจ
กุหลาบเล่นไฟ ตอนที่ 15 (ต่อ)
ทางด้านพลศิษฎ์ที่เดินเข้ามาได้ยินว่ารัญชิตานัดหมายกับปริตาก็อาสาจะไปด้วย รัญชิตาจำยอมอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“ก็ได้ค่ะ พี่มาร์ทไปกับมิ้นท์ มิ้นท์จะช่วยพูดให้อ้อมยอมรับรักพี่มาร์ท พี่มาร์ทช่วยมิ้นท์มาตลอดถึงเวลาที่มิ้นท์จะทำเพื่อพี่มาร์ทบ้าง มิ้นท์อยากให้พี่มาร์ทมีความสุขค่ะ”
พลศิษฎ์ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“เรายอมรับอ้อมได้แล้วเหรอ?”
“มันก็ไม่ง่ายนะคะที่จะทำใจยอมรับ แต่เพื่อความสุขของพี่มาร์ท มิ้นท์ก็ต้องยอมค่ะ”
พลศิษฎ์ยิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่รัญชิตายิ้มอย่างมีแผนร้าย
พริดานั่งดื่มเหล้าเมามาย ด้วยความเสียใจที่โดนรุมโทรม และถ่ายคลิปประจานว่อนไปทั่ว จังหวะที่กำลังจะเดินออกจากร้าน บังเอิญเหลือบไปเห็นสมภพและผู้ชายสองคนที่สวมไอ้โม่ง กำลังนั่งดื่มในร้านอย่างมีความสุข เธอมองด้วยสายตาอาฆาตแค้น และคิดจะเอาคืนให้สาสม
ตรัยนั่งหน้าเศร้ามองโฉนดที่ดิน ที่ต้องขายคืนให้ปริตา ครู่หนึ่งยายน้อยก็เดินมาตามบอกว่าเสาวลักษณ์เรียกหา เขาจึบรีบลุกเดินไปหาที่ห้องด้วยความแปลกใจ
“ตรัย แม่ ขอบใจมากนะที่ทำเพื่อแม่”
ตรัยถึงกับอึ้ง เพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของมารดา
“มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำมานานแล้วครับ แต่ผมละเลยมันไป ชีวิตผมมีแม่อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น”
“แล้วลูกให้อภัยแม่ได้รึยัง? แม่ต้องใจดำส่งลูกไปเมืองนอกตั้งแต่เล็ก เพราะครอบครัวเราขาดเสาหลัก แม่หวังให้ลูกมาดูแลกิจการแทนคุณพ่อ ลูกเป็นความหวังเดียวของแม่ แล้วผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตแม่ เขาเป็นเพียงผู้ร่วมทำธุรกิจ”
“คุณแม่คงไม่ได้รวมถึงบอล ?”
ตรัยย้อนถาม “ช่างมันเถอะครับ ผมเองก็ผิด ผมขอชดเชยสิ่งที่ทำพลาดไป ผมจะทำให้คุณแม่พบแต่ความสุขครับ”
ปริตาพยายามกดมือถือโทร.หาตรัย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย จังหวะนั้นรัญชิตาเดินเข้ามาหาถึงในบ้าน
“ฉันไม่ได้กลัวเธอไม่ไปตามนัดหรอก แต่ฉันใจร้อน อยากคุย อยากปรับความเข้าใจกับเธอให้เร็วที่สุด”
“ฉันมีธุระต้องไปจัดการ เราคุยกันที่นี่ก็ได้”
รัญชิตาแอบยิ้มอย่างมีแผน “มันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเรา ไปกับฉันนะ”
ปริตาจำใจต้องพยักหน้ารับ พลางเดินออกไปพร้อมมกับรัญชิตา
ทางด้านพลศิษฏ์ก็ร้อนใจที่รู้ว่ารัญชิตาออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า รีบคว้ามือถือมากดโทร.หา
ปริตาทันที
“อ้อมไม่อยู่ครับ”
ปริเทพที่เป็นคนรับสาย รีบตอบกลับไป
“อ้อมออกไปหามิ้นท์เหรอครับ?”
“ผมไม่ทราบ แต่ผมเป็นคนห้ามอ้อมไม่ให้ไป ผมไม่อยากให้อ้อม มีปัญหากับมิ้นท์อีก”
พลศิษฎ์หน้าเครียด “น้องมิ้นท์ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ผมคิดว่ามิ้นท์มาหาอ้อม”
“ผมจะโทรหาอ้อม”
ปริเทพวางสายจากพลศิษฎ์ แล้วรีบโทร. หาปริตาทันที ส่วนตรัยเดินลงจากห้องเสาวลักษณ์ พร้อมกับหยิบมือถือที่วางไว้บนโต๊ะ เห็นสายไม่ได้รับจากปริตาก็รีบโทร. กลับ แต่อีกฝ่ายกลับวางมือถือไว้ในรถของรัญชิตา
รัญชิตาพาปริตาเข้ามาบนดาดฟ้าตึก ที่ทั้งคู่ รวมถึงปัทมาศมักจะมาพูดคุยกันเป็นประจำ
“แกมีอะไรอยากคุยกับฉัน ?”
รัญชิตากวาดสายตามองไปรอบๆ
“มาที่นี่ แล้วอดคิดถึงดาวไม่ได้นะ ที่ของพวกเรา เราสามคน”
รัญชิตามองไปที่มุมหนึ่ง แล้วก็เห็นเป็นภาพหลอนของปัทมาศยืนยิ้มให้
“ดาว ฉันอยากบอกแกนะ ฉันขอโทษ ฉันเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น.มันเป็นความผิด ความเห็นแก่ตัวของฉันที่ฉันทำร้ายแก แล้วฉันก็ยังทำร้ายอ้อม ดาว แกยกโทษให้ฉันนะ ดาว”
รัญชิตาพูดพร้อมกับพุ่งตัวไปที่ขอบดาดฟ้า ผ่านภาพหลอนของปัทมาศที่เธอมโนขึ้นมา ปริตาตกใจ รีบถลันวิ่งเข้าไปกอดรัญชิตาไว้
“หยุดนะมิ้นท์ อย่า”
“ปล่อยฉันเถอะอ้อม ฉันผิดที่ฆ่าดาว ปล่อยให้ฉันตายไปกับดาว”
ปริตาน้ำตาซึม “แกไม่ต้องทำอย่างนั้น แค่แกพูดคำว่าขอโทษ ฉันก็พร้อมให้อภัยแก ต่อให้แกทะเลาะกับฉันร้อยครั้ง ทำผิดร้อยหน ฉันก็ให้อภัยได้ เพราะเรารู้ว่าเรารักกัน เราเป็นเพื่อนกัน”
“เพื่อนรักของฉัน ฉันดีใจที่แกรักฉัน ฉันรักแกนะ”
รัญชิตาแสร้งเข้าไปสวมกอดปริตาไว้แน่น พลางทำสีหน้าเหมือนรู้สึกผิด
จู่ๆเสียงของสมภพก็ดังมาจากด้านหลัง
“ฉันก็รักเธอนะอ้อม”
ปริตาตกใจหันกลับไปมองด้านหลัง เห็นสมภพ และผู้ชายอีกสองคนยืนอยู่
“คุณสมภพ คุณมาได้ไง?”
รัญชิตายิ้มเยาะ “เขารักแก เขาก็ต้องมาหาแกสิ”
“มิ้นท์ แกหมายความว่าไง?”
รัญชิตาหันไปยิ้มให้สมภพ
“มิ้นท์บอกคุณแล้ว ว่าอ้อมเขาไว้ใจเพื่อนรักเสมอ คราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของคุณแล้ว”
สมภพ พร้อมผู้ชายสองคนเข้ามาช่วยกันจับตัวปริตา ที่พยายามดิ้นรนสุดชีวิต
“ปล่อย มิ้นท์ ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย”
รัญชิตายืนยิ้มมองด้วยความสะใจ
ขณะที่ปริเทพกับพลศิษฎ์กำลังยืนหน้าเครียด เพราะติดต่อทั้งปริตาและรัญชิตาไม่ได้ จู่ๆ ก็ตรัยก็โผล่เข้ามา
“อ้อมอยู่ไหมครับ อ้อมนัดกับผมวันนี้ ผมโทรติดต่ออ้อมไม่ได้”
ปริเทพยิ่งเป็นกังวล “ผมว่ามันไม่ปกติแล้วล่ะ มิ้นท์นัดอ้อมไปไหน?”
“หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวกับคุณสมภพด้วย ?”
พลศิษฎ์คาดคะเน ตรัยกับปริเทพครุ่นคิดตาม
“ผมได้ยินมิ้นท์คุยเรื่องไปโรงแรม ผมถึงไม่ไว้ใจ ขอตามมิ้นท์มาหาอ้อมด้วย แต่มิ้นท์ชิงออกมาก่อน”
จากนั้นทั้ง 3 คน ก็รีบพุ่งออกไปที่โรงแรมทันที
สมภพจับตัวปริตาซึ่งมัดผ้าปิดปากไว้เข้ามาที่โรงแรม ที่มีลักษณะเหมือนรีสอร์ท เป็นบ้านพักแยกเป็นหลังๆ มีความเป็นส่วนตัว อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ออกไปเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปสั่งการลูกน้อง
“พวกแกเฝ้าไว้ อย่าให้ใครไปกวนใจ”
สั่งเสร็จก็รีบลากตัวปริตาพาไปยังห้องพัก รัญชิตายืนมองอย่างสะใจ
ปริตาพยายามดิ้นรน เพื่อให้หลุดพ้นจากการกอดรัดของสมภพ
“ไม่เอาน่า ฉันไม่อยากใช้กำลังกับเธอ ช้ำแล้วไม่น่ากิน”
“คุณทำอย่างนี้กับฉัน ฉันจะเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด”
สมภพยิ้มเยาะ “อย่ามาขู่ฉันเลย ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเอาความอัปยศของตัวเองมาเปิดเผยหรอก เธอต้องเล่าเรื่องการข่มขืนของฉันอีกกี่ครั้งให้ตำรวจ ให้ทนายให้ศาล มันไม่สนุกเลยนะ ยิ่งเล่าก็เท่ากับเธอกำลังถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
“ผู้หญิงที่ไม่กล้าพูดความจริง คงไม่ใช่ฉัน ถ้าฉันไม่พูด ต้องมีผู้หญิงอีกเป็นร้อยเป็นพันที่ตกเป็นเหยื่อกามของคุณ ฉันไม่ยอมให้คุณรังแกใครอีก”
ปริตาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“เธอคิดว่าฉันโง่ยอมให้เธอเอาหลักฐานเล่นงานฉันได้เหรอ? เธอไม่มีพยาน เพราะว่าคุณมิ้นท์เขาพร้อมเป็นพยานให้ฉัน ฉันก็จะให้การว่าฉันอยู่ทานอาหารกับคุณมิ้นท์ ไม่ได้กินกับเธอ เพื่อนที่เธอรักเขาอยู่ฝั่งเดียวกับฉัน แล้วใครกันจะเชื่อเธอ?
ตรัย ปริเทพ พลศิษฎ์บุกมาถึงที่หน้าโรงแรม แต่กลับเจอลูกน้องของสมภพ 2 คน สกัดไว้
“ขอโทษนะครับ ห้องพักด้านในเป็นพื้นที่ส่วนตัว เข้าไม่ได้ครับผม”
“ผมสงสัยว่าน้องผมถูกจับตัวมาที่นี่ ผมขอเข้าไปดู”
“ยังไม่มีใครเข้ามานะครับ นายของผมกำลังพักผ่อนกับครอบครับ”
พวกตรัยหันมามองหน้ากัน ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไร ขณะนั้นก็มีพนักงานถือเครื่องดื่มผ่านเข้ามา
“ผมขอเข้าไปนะครับ คุณสมภพสั่งเครื่องดื่ม”
พนักงานเดินถือเครื่องดื่มเข้าไปด้านใน พวกตรัยจะตามเข้าไป แต่ลูกน้องของสมภพขวางไว้
“เข้าไม่ได้”
พวกตรัยกับลูกน้องของสมภพแลกหมัดใส่กัน จนในที่สุดตรัยก็ฉวยจังหวะเข้าไปด้านในได้สำเร็จ
ปริตาพยายามดิ้นหนี พร้อมกับคว้าของใกล้มือทำร้ายสมภพ แต่อีกฝ่ายหลบทัน พลางตบเธอจนล้มคว่ำลงไปบนเตียง
พนักงานถือเครื่องดื่มไปเคาะห้อง ตรัยรีบพุ่งเข้าไปผลักประตูเข้าไป แต่ปราฏว่าไม่เจอใครในห้อง
“คุณสมภพอยู่ไหน ?”
พนักงานหน้าเหวอ “ผมไม่รู้ ที่บาร์ให้ผมมาส่งห้องนี้”
ตรัยรีบออกตามหาปริตาด้วยความเป็นห่วง
จบตอนที่ 15