xs
xsm
sm
md
lg

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 12

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 12

โตเดินนำไปที่ท้ายรถตัวเอง เปิดประตูรถออก มีลังใส่เศียรพระวางอยู่ในรถ โตเปิดลังออก มีน้ำแข็งปลอมวางโปะอยู่ด้านหน้าบนถาด เขายกถาดน้ำแข็งออก เห็นเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงอยู่ข้างใน

“นี่ครับ รับรอง ของจริงไม่ใช่ของเทียม”
ชายคนนั้นมองหน้าโตอย่างดุดัน โตยิ้มแหย ๆ ให้
“ผมว่าคุณไปเรียกผู้การมาดูดีกว่าจะได้เห็นกับตา”
ชายคนนั้นเดินกลับไปที่รถเบนซ์ ขั้นเทพกับเมษาส่องกล้องมอง เฟ็นชายคนนั้น เดินกลับไปที่รถเบนซ์ก้มลงคุยกับคนที่นั่งอยู่หลังรถ
“คุณเห็นผู้การสถิตย์ยุทธมั้ย”
เมษาพยายามส่องกล้องมอง
“ฉันยังไม่เห็น สงสัยเขาจะให้ลูกน้องลงมาเช็คดูของก่อนให้แน่ใจ”
“แล้วเราจะลงมือจับเมื่อไหร่ผู้กอง”
“เราต้องรอจนกว่าผู้การสถิตยุทธเดินลงมารับของจากไอ้โต”
“เที่ยวนี้มันไม่รอดแน่ค่ะ เพราะเรามีหลักฐานแน่นหนา”
ปึกโชว์กล้องวิดิโอในมือ ไมค์ โจ๊กเกอร์ โชว์อีกตัว
“ใช่ เราจับภาพวิดิโอตั้งสองตัวมันไม่รอดแน่”
“เธอสองคนก็ต้องระวังตัวนะ เพราะมันคงไม่ยอมให้จับง่าย ๆ” เมษาเตือน
“จะมีการยิงปะทะกันด้วยหรือคะ”
“ไม่แน่ เธอไม่เห็นหรือว่าพวกมือปืนยืนล้อมไอ้โตขนาดนั้น”
“ถ้างั้นงานนี้ก็ได้ยิงกันสนุกล่ะสิ”
“นายอย่าซ่ามากนัก งานนี้พวกเราไม่มีสิทธิ์จับ”
“อ้าว ถ้าเราไม่จับแล้วใครจะจับล่ะคะ”
“ผู้การเสวีเตรียมกำลังสนับสนุนล้อมไว้แล้ว”

ไมค์ โจ๊กเกอร์กับปึกพยักหน้ารับรู้

ประตูรถเบนซ์เปิดออก โตมอง แล้วแอบพูดกับไมค์ตัวจิ๋วที่ติดตัว

“เตรียมตัวนะครับ ผู้การสถิตย์ยุทธกำลังจะลงมาแล้ว”
ขั้นเทพชะงักฟังเสียงจากหูฟัง ยกกล้องส่อง ทุกคนมองตาม เมษายกกล้องตาม เห็นใครคนหนึ่งจากด้านหลังในชุดดำก้าวออกมา แต่ไม่ใช่สถิตย์ยุทธ
“ไม่ใช่ผู้การสถิตยุทธนี่” เมษารู้ทันที
“นั่นน่ะสิ หรือว่าเขาจะอยู่ในรถ”
ขั้นเทพกวาดตามอง เมษาพยายามส่องกล้องมอง
“แต่ฉันดูแล้วไม่เห็นมีใครในรถแล้วนะ นอกจากคนขับ”
โตมองชายชุดดำอย่างตกใจแอบพูดผ่านไวเลส
“ผู้กอง ผู้การสถิตย์ยุทธไม่มา”
เสวีซุ่มอยู่อีกด้านของโกดัง ลดกล้องส่องทางไกลลงพูดผ่านวิทยุจากข้อมือ
“ขั้นเทพ ดูท่าจะผิดแผนนะ สถิตย์ยุทธไม่มา”
“แล้วเราจะเอาไงดีครับ”
“ดูเชิงไปก่อน ว่าคนของมันจะทำยังไง”
“ถ้ามันจะเอาเศียรพระไป เราจะให้มันมั้ยครับ”
“ให้มันไป แล้วเราค่อยตามจากเครื่องติดตามที่เศียรพระอีกที”

“รับทราบ”

ชายชุดดำและชายอีกคน ถือกระเป๋าเจมส์บอนด์เดินเข้ามาหาโต

“แล้วผู้การสถิตย์ยุทธล่ะครับ”
“ผู้การไม่ได้มา เขาให้ฉันมาแทน นายเอาของลงมาได้แล้ว”
“แล้วเงินล่ะครับ”
“นี่ไง”
ลูกน้องยกกระเป๋าเจมส์บอนด์ที่ใส่เงินให้ดู
“ผมจะขอดูก่อนได้มั้ยครับ”
“นี่นายไม่เชื่อใจหรือ”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อใจครับ แต่ผมขอดูเพื่อความสบายใจ”
ชายชุดดำพยักหน้าให้ลูกน้องเปิดกระเป๋าออก มีเงินวางเรียงเต็มกระเป๋า
“พอใจรึยัง”
“โอเคครับ”
โตเดินไปเปิดประตูรถด้านหลัง ก้มลงแอบพูด
“ผู้กองผมจะส่งของให้มันแล้วนะ”
ขั้นเทพฟังเสียงจากโตพยักหน้ากับตัวเองหันบอกพรรคพวก
“ไอ้โตจะส่งของแล้ว”

โตยกลังใส่เศียรพระเดินมา ชายชุดดำมอง เสวีส่องกล้องมอง เห็นโตเดินเข้าไปหาชายชุดดำ
“ทุกหน่วยเตรียมพร้อมรอคำสั่งนะ”
ตำรวจตอบวอจากหูฟัง ขั้นเทพกับเมษา ไมค์ โจ๊กเกอร์ ปึก มองเหตุการณ์ในโกดัง
“หวังว่ามันจะไม่หักหลังไอ้โตนะ”
“คุณคิดว่ามันจะฆ่าไอ้โตแล้วเอาของไปเฉย ๆ งั้นหรือคะ”
“หรือคุณว่ามันเป็นไปไม่ได้”

เมษาอึ้ง

โตเอาลังใส่เศียรพระวางลงบนฝากระโปรงรถ ชายชุดดำพยักหน้าให้ลูกน้องเดินไปเอาของ

“เดี๋ยวครับ ก่อนจะเอาของช่วยส่งเงินให้ผมด้วย”
“นายนี่ไม่งกเลยนะ”
“อย่างที่ผมบอกล่ะครับ ทำธุรกิจมันก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน”
ชายชุดดำมองลูกน้องแล้วพยักหน้าให้ ลูกน้องส่งกระเป๋าให้โต โตพยักหน้าอย่างพอใจ
“งั้นคุณก็เอาของไปได้”
โตรับกระเป๋าเงินมา ลูกน้องเดินไปยกลังใส่เศียรพระ โตเปิดกระเป๋าเงินหยิบเงินออกมากรีดดู เห็นเป็นกระดาษยัดไส้
“เฮ้ย นี่มันกระดาษนี่”
“ก็ถูกแล้วไง เราตกลงกันที่สามล้านแต่ไม่ได้บอกว่าเงินหรือกระดาษเปล่า”
“นี่มันโกงกันนี่ ผมขอยกเลิก ยกเลิก”
ขั้นเทพฟังโตจากหูฟัง กดวอหาเสวี
“เอาไงครับผู้การ ไอ้โตต้องการความช่วยเหลือ”
“ดูเหตุการณ์ไปก่อน”
“แต่ไอ้โตกำลังเดือดร้อนนะครับ”
“ฉันว่ามันต้องฆ่าไอ้โตแน่”
เมษาพูดอย่างกังวล

โตหันมาบอกชายชุดดำ
“อย่าฆ่าผมเลยนะลูกพี่”
“คงไม่ได้ เพราะถ้าปล่อยเอ็งไป เอ็งก็จะปากสว่างไปบอกตำรวจ”
ชายชุดดำยกปืนขึ้นจะยิงโต เสียงปืนดังรัวสนั่นขึ้น ชายชุดดำชะงัก เสวีก้าวออกมาพร้อมกับตำรวจและยิงปืนขึ้นฟ้า พูดโทรโข่ง
“หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พูดคุณถูกจับแล้ว วางปืนลง เราล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว”
กลุ่มมือปืนชายฉกรรจ์หันมองเสวี โตกระชากปืน ชายชุดดำหันมาเห็นยิงใส่โตสามนัด โตกระเด็น
“เอาพระขึ้นรถ ยิงสกัดมันไว้”
ลูกน้องอุ้มพระจะวิ่งไปที่รถเบนซ์ บรรดามือปืนสาดกระสุนใส่ตำรวจ ตำรวจกับมือปืนยิงปะทะกัน
ขั้นเทพ เมษา ไมค์ โจ๊กเกอร์ และปึกมองเหตุการณ์
“มันกำลังจะเอาเศียรพระไปแล้วค่ะ”
“เม คุณอ้อมไปดักมันไว้นะ ผมจะตามมันไป”
“ค่ะ”
“แล้วฉันล่ะผู้กอง”
“นายกับหนูปึกรออยู่ตรงนี้ ไป เม”
เมษากับขั้นเทพวิ่งแยกออกไปคนละทาง ไมค์ โจ๊กเกอร์กับปึกมองตามอย่างเป็นห่วง
“เจ้าประคู้น ขออย่าให้มันเอาหลวงพ่อไปได้เลย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์คว้าแขนปึก
“ไปหนูปึก”
“ไปไหน”
“ตามมาเถอะน่ะ”

ไมค์ โจ๊กเกอร์ดึงแขนปึกออกไป
 
อ่านต่อหน้า 2

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 12 (ต่อ)

ลูกน้องอุ้มพระจะวิ่งไปขึ้นรถ ตำรวจตามมาชายชุดดำยิงสกัดใส่ตำรวจ เสวีตามเข้ามา ยิงสกัด

ชายชุดดำหันมายิงใส่เสวี เสวีหลบ มือปืนระดมยิงใส่เสวีและตำรวจ ขั้นเทพวิ่งเข้ามา
“หยุดนะนี่ตำรวจ”
ลูกน้องยิงใส่ขั้นเทพ ขั้นเทพหลบแล้วยิงใส่ลูกน้องทรุดลง ปล่อยลังพระตกลงพื้น ชายชุดดำยิงใส่ขั้นเทพ ขั้นเทพหลบพัลวัน ชายชุดดำเข้ามาอุ้มลังพระกลับไปขึ้นรถ
“ไปเร็ว”
คนขับรถเบนซ์ขับออกไป ขั้นเทพไล่ยิงตามหลัง รถเลี้ยวออกไป

รถคนร้ายวิ่งเลี้ยวออกมา เมษาวิ่งมาขวางกลางถนนพร้อมกับยิงใส่ รถเบนซ์ขับบิดหลบไปมา ชายชุดดำโผล่ออกมายิงสาดกระสุนใส่เมษา เมษาโดดหลบ รถขับพุ่งผ่าน เมษามองตามวิ่งอ้อม
ไปอีกทางเพื่อจะไปดัก
รถคนร้ายวิ่งไป รถขั้นเทพวิ่งผ่านทางแยกเข้ามาตามหลัง คนขับมองกระจกหลัง
“มีรถตามมาครับนาย”
ชายชุดดำหันมองหลัง เห็นรถขั้นเทพตามมา เขาเปลี่ยนแมกกาซีนปืน แล้วเปิดกระจกรถยิงปืนสาดออกไปด้านหลัง ขั้นเทพขับรถหลบ แล้วโผล่ไปนอกรถกระหน่ำยิงใส่ กระสุนเข้ากระจกหลังรถคนร้าย

ชายชุดดำหลบกระสุนแล้วโผล่ออกไปยิง ขั้นเทพยิงตาม รถคนร้ายเลี้ยวโค้ง ขั้นเทพขับรถไล่ตาม

ไมค์ โจ๊กเกอร์ขี่มอเตอร์ไซค์โผล่ออกมา มีปึกซ้อนท้าย คนขับเห็นมอไซค์โผล่มาขวาง

“หัวหน้า มีมอไซค์มาขวาง”
“ขยี้มันให้แหลกเลย”
ขั้นเทพเห็นรถคนร้ายกำลังพุ่งเข้าหามอเตอร์ไซค์ของ ไมค์ โจ๊กเกอร์
“ไอ้ไมค์หลบ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ จอดรถมอเตอร์ไซค์ขวางถนนมองไปที่รถคนร้าย
“คนอย่างไอ้ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยอมตายเพื่อหลวงพ่อคำเกลี้ยง”
“หยุดมันให้ได้นะพี่ไมค์”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยิงกระหน่ำสามนัด ไม่โดนสักนัด รถพุ่งเข้ามาใกล้ ปึกมองเริ่มหวาดเสียว
“มันมาใกล้แล้วนะพี่ไมค์”
ขั้นเทพเห็นรถคนร้ายพุ่งเข้าไปใกล้ไมค์ โจ๊กเกอร์
“ไอ้ไมค์ บอกให้หลบ”
ขั้นเทพยิงสกัดรถคนร้าย ชายชุดดำโผล่ออกมากราดยิงขั้นเทพ ขั้นเทพขับรถบิดหลบ ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยิงเข้าที่ฝากระโปรงรถ เขาพยายามยิงไปที่หน้ากระจก
“ไม่โดนพี่ไมค์ มันใกล้มาแล้ว”
“ไม่ต้องกลัว”
ไมค์ โจ๊กเกอร์เล็งยิง กระสุนเข้าที่กระจกรถ เจาะหน้าอกคนขับ คนขับหงาย ปล่อยพวงมาลัย
“เฮ้ย”
รถคนร้ายพุ่งเข้าข้างทาง ชายชุดดำโดดออกจากรถ พร้อมกับสาดกระสุนใส่ไมค์ โจ๊กเกอร์
ไมค์ โจ๊กเกอร์ กับปึก โดดหลบเข้าข้างทาง ขั้นเทพเบรครถวิ่งลงตามชายชุดดำ
“ทิ้งปืน”
ชายชุดดำหันมายิงขั้นเทพ ขั้นเทพหลบแล้วพลิกออกมายิงใส่ ชายชุดดำร่วงลง เมษาวิ่งเข้ามา
ขั้นเทพลุกมาจ่อปืน
“ฉันเอง”
ขั้นเทพมองพยักหน้าให้ เมษาวิ่งไปดู ปึกกับไมค์ โจ๊กเกอร์
“ไมค์ หนูปึก ปลอดภัยรึเปล่า”
“พวกเราปลอดภัยครับ”
ขั้นเทพวิ่งไปที่รถ ทุกคนวิ่งตามมาดู
“หลวงพ่อคำเกลี้ยงอยู่รึเปล่าคะ”
ขั้นเทพเปิดรถ เปิดลัง เห็นเศียรพระหลวงพ่อคำเกลี้ยง
“อยู่ ปลอดภัย”

ทุกคนถอนใจโล่งอก

คนร้ายถูกต้อนขึ้นรถตำรวจ เสวียืนคุยกับตำรวจ ขั้นเทพกับเมษายืนอยู่ด้วยกัน หน้าเครียด ไมค์ โจ๊กเกอร์ กับปึกยืนอยู่ข้างรถขั้นเทพ

“เอาตัวไปสอบสวน เค้นให้ได้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้างมา”
“ครับ”
ตำรวจออกไป เสวีเดินเข้ามาหาขั้นเทพ
“ผมว่าตอนนี้ผู้การสถิตย์ยุทธคงรู้ตัวแล้วว่าพวกเราซ้อนแผนจะจับกุมเขา”
“ใช่ ป่านนี้เขาคงได้ข่าวแล้ว”
“อย่างนี้เราก็หมดโอกาสที่จะจับเขาได้สิคะ” เมษาถามขึ้น
“ยัง”
ขั้นเทพกับเมษาชะงักมองแปลกใจ
“ผมกำลังคิดว่าผมจะทำเรื่องขอให้คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเขา”
“แต่เราไม่มีหลักฐานอะไรที่จะโยงไปถึงผู้การสถิตยุทธนะครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ผมจะส่งเรื่องให้ปปช.ตรวจสอบทรัพย์สินเขา”
“ท่านจะโยงเรื่องเงินที่ได้มาไม่ถูกต้องกับการลักลอบค้าเศียรพระงั้นหรือครับ”
“ถูกต้อง ถ้าสถิตย์ยุทธไม่สามารถตอบได้ว่าเงินในธนาคารที่มีมากมายมาจากไหน เขาก็เกม”
“ถ้าเป็นอย่างงั้นเขาต้องไม่รอดแน่ค่ะ”
“ใช่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคณะกรรมการจะเห็นด้วยกับผมรึเปล่า”
ขั้นเทพกับเมษาพยักหน้ารับรู้ ตำรวจเข้ามารายงาน
“หัวหน้าครับ ผมจะนำผู้ต้องหาไปสอบสวนนะครับ”
“เชิญ”
ตำรวจขึ้นรถ รถตำรวจขนคนร้ายออกไป
“เอาล่ะ ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวเราค่อยคุยกันอีกที แยกกันตรงนี้นะ”
“ครับ สวัสดีครับท่าน”
“สวัสดีค่ะ”
“อย่าเพิ่งท้อนะ”
“ค่ะ”
เสวีขึ้นรถตัวเองออกไป ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยกลังเศียรพระใส่รถขั้นเทพ
“ไปกันรึยัง ผู้กอง”
“ไป”

ทั้งหมดพากันขึ้นรถ

สถิตย์ยุทธทุบโต๊ะ โกรธจัด เควิน สมิธ นั่งอยู่ด้วย

“ไอ้เสวี นี่มึงยังไม่ยอมเลิกเล่นกับกูจริง ๆ งั้นหรือ”
“ดีนะที่คุณไหวตัว ไม่ไปตามนัดพวกมัน ไม่งั้นล่ะก็ป่านนี้เราสองคนเขาไปนอนในคุกแน่”
“คุณนึกว่าคนอย่างผมโง่งั้นหรือที่อยู่ๆ จะเดินเข้าไปซื้อของโจรด้วยตัวเอง”
“แต่ผมว่าเราต้องหยุดเรื่องนี้ก่อนนะ เพราะตอนนี้ตำรวจมันจ้องเล่นงานคุณ”
“คุณนี่มันตาขาวจริง ๆ มีเรื่องนิดหน่อยทำเป็นกลัว”
“ผมยังไม่อยากตายในคุกนะ”
“คุณลืมไปแล้วหรือว่าผมเป็นใคร ระดับคนอย่างผมนี่หรือจะยอมให้คุณติดคุกง่าย ๆ”
“แล้วเราจะเอายังไง ผมว่าตอนนี้ผู้การเสวีเขาไม่ปล่อยเราแน่”
“แล้วคุณคิดว่าผมจะปล่อยเขางั้นหรือ”
เควิน สมิธ มองหน้า
“ไอ้เสวี เราคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว”
สถิตย์ยุทธอาฆาต

เสวีนั่งอยู่ในห้องประชุม ประธานตำรวจและนายตำรวจผู้ใหญ่อีก 2 คนนั่งอยู่ด้วย ประธานอ่านเอกสารแล้วส่งให้นายตำรวจ อ่านต่อ ๆ กันไป แล้วส่งคืนให้เสวี เสวีส่งเอกสารอีกชุดให้ทุกคนอ่าน
“ท่านมีความเห็นยังไง” ประธานที่ประชุมถามขึ้น
“จากข้อมูลที่มีอยู่ น่าจะมีน้ำหนักพอที่จะยื่นฟ้องได้” ตำรวจคนหนึ่งแสดงความิคดเห็น
“แล้วท่านล่ะ”
“ถ้าผู้การสถิตย์ยุทธไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเงินที่มีอยู่ได้มาจากไหน เราก็สามารถเอาผิดเขาได้” ตำรวจอีกนายแสดงความเห็น
“ตอนนี้ผมกำลังประสานกับธนาคารขอดูบัญชีเครือญาติและผู้ใกล้ชิดสถิตย์ยุทธ เพื่อจะสอบจากบุคคลพวกนี้ว่าถือเงินฝากแทนเขารึเปล่า”
“แล้วคุณคิดว่าจะสรุปเรื่องทั้งหมดได้เมื่อไหร่”
“ผมขอเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ครับ”
“ผมอยากให้คุณทำทุกอย่างด้วยความรัดกุม ไม่อยากให้เหมือนคดีผู้กองขั้นเทพ”
“รับรองครับท่าน ผมว่าครั้งนี้สถิตย์ยุทธหนีไม่รอดแน่”
“ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่คุณนะผู้การเสวี คุณเป็นคนเดียวที่จะรวบรวมหลักฐานเล่นงานสถิตยุทธได้”
“ครับ”
“คุณเองก็ต้องระวังตัว”
“ไม่ต้องห่วงครับท่าน”

ประธานพยักหน้า เสวีพยักหน้ากับตัวเองอย่างมั่นใจ
 
อ่านต่อหน้า 3

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 12 (ต่อ)

ขั้นเทพพูดโทรศัพท์กับเสวี หลังจากเสวีประชุมเสร็จ

“คณะกรรมการเห็นดีด้วยกับท่านหรือครับ”
“ใช่ เพราะจากหลักฐานที่ผมส่งให้ท่านดู ทุกท่านในที่ประชุมพอใจและคิดว่าน่าจะมีน้ำหนักพอ”
เมษาฟังอยู่ด้วยกับขั้นเทพ
“แล้วท่านจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการปปช.เมื่อไหร่ครับ”
“คงต้องอีกสักระยะ เพราะผมต้องรวบรวมหลักฐานให้มากกว่านี้”
“มีอะไรที่ผมจะช่วยได้บ้างครับ”
“ตอนนี้ยัง ผมต้องเดินเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เอาล่ะ ถ้ามีอะไรคืบหน้า ผมจะโทรบอกคุณ”
“ขอบคุณครับท่าน”
ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์ หันมายิ้มกับเมษา
“ถ้าคณะกรรมการเห็นดี ผู้การสถิตย์ยุทธเสร็จเราแน่”
ขั้นเทพพยักหน้าเห็นด้วย เมษายกกำปั้นชนกับขั้นเทพ

เสวีนั่งอยู่ในรถ คุยกับขั้นเทพเสร็จก็เก็บเอกสาร เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขามองชะงัก เห็นเป็นเบอร์สถิตย์ยุทธ มองลังเลก่อนจะกดรับ
“ฮัลโหล”
“วีหรือ”
“มีอะไร”
“อั๊วมีเรื่องอยากจะคุยกับลื้อ”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องของอั๊ว”
“มีอะไรก็ว่ามาเลย”
“ก็เรื่องที่ลื้อกำลังรวบรวมหลักฐานจะจับอั๊ว”
เสวีชะงัก
“แล้วไง”
“คือ อั๊วรู้ว่าถ้าเรื่องถึงมือปปช. อั๊วคงไม่รอดแน่ อั๊วอยากให้ลื้อช่วยเหลืออั๊วได้มั้ย ถือว่าเราเป็นเพื่อนกัน”

เสวีฟัง

เวลาต่อมา เสวีมาที่เฟซเฮาส์ของสถิตย์ยุทธ เมื่ออยู่ในลิฟต์เขานึกถึงเรื่องที่พูดกับสถิตย์ยุทธก่อนหน้านี้

“ถ้าอั๊วยอมมอบตัวและสารภาพทุกอย่าง ลื้อจะช่วยอั๊วได้มั้ย แค่ลื้อทำคดีให้มันเบาลงหน่อย อั๊วก็อาจจะโดนแค่ภาคทัณฑ์ หรือไม่ก็ออกจากราชการ มาหาอั๊วหน่อย อั๊วอยากปรึกษาลื้อจริง ๆ”
เสวีถอนใจเครียด
ลูกน้องสถิตย์ยุทธเปิดประตูห้องให้เสวีเข้าไป คนขับรถจะตามเข้าไปด้วย
“ขอโทษครับท่าน ผู้การอยากคุยกับท่านเป็นส่วนตัวครับ”
เสวีชะงัก หันมาบอกคนขับรถให้รออยู่ด้านนอก

ลูกน้องสถิตย์ยุทธเดินนำเข้าไป เสวีเดินตาม
“เชิญนั่งครับท่าน ท่านจะดื่มอะไรดีครับ”
“น้ำเย็น”
ลูกน้องเดินไปรินน้ำเย็น แล้วเข้ามาส่งให้ เดินออกไป เสวีนั่งมองรอบห้อง เห็นมีเศียรพระวางประดับ เขาส่ายหน้าระอา สถิตย์ยุทธออกจากห้องเดินเข้ามาหา
“ขอโทษด้วย ที่ทำให้ต้องรอ”
“มีอะไรก็ว่ามา อั๊วมีเวลาไม่มาก”
“อั๊วอยากจะถามลื้อตรง ๆ นะ ลื้อจะจับอั๊วจริง ๆ งั้นหรือ”
“ก็อั๊วเคยบอกลื้อแล้วไง ถ้าลื้อทำผิดอั๊วก็ต้องจับ”
“แล้วลื้อได้ประโยชน์อะไรจากการจับอั๊ว”
เสวีสะดุดใจกับคำพูดของสถิตย์ยุทธ
“ตกลงที่ลื้อให้อั๊วมา ลื้อไม่ได้ต้องการคุยเรื่องมอบตัวนี่หว่า”
“ใช่ ลื้อคิดว่าคนอย่างอั๊วจะมอบตัวง่าย ๆ งั้นหรือ”
เสวีชะงักรู้ตัวว่าถูกหลอก ขยับลุกขึ้น
“ถ้างั้นเราคงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”
เสวีหันจะเดินออกไป
“เดี๋ยว เสวี”
“มีอะไรอีก”
“ลื้อยังไปไม่ได้”
“ทำไมอั๊วจะไปไม่ได้”
“ก็ถ้าลื้อไป ลื้อก็ต้องหาเรื่องมาจับอั๊ว”
ทั้งสองมองหน้ากัน เสวีจะตะปบปืนที่เอว
“หยุดนะไอ้วี”
เสวีชะงัก ลูกน้องสถิตย์ยุทธ 2 คน เดินออกมาพร้อมกับเล็งปืนเก็บเสียงมาที่เสวี สถิตย์ยุทธเดินเข้ามาพร้อมจ่อปืน ลูกน้องเดินเข้ามาหยิบปืนจากเอวเสวีออกไป
“นี่ลื้อจะทำอะไร”
“ก็อย่างที่บอก อั๊วคงปล่อยลื้อไปไม่ได้”
สถิตย์ยุทธเอาปืนตบหน้าเสวีซ้ายขวา เสวีเซไป สถิตย์ยุทธตามเข้าไปกระทุ้งเข้าที่ท้องเสวี แล้วทุบคอ เสวีทรุดลงกอง ลูกน้องเข้ามาหิ้วปีกจับมือไพล่หลัง ใส่กุญแจมือ
“เอาตัวมันไป อย่าให้เหลือหลักฐาน”

ลูกน้องหิ้วปีกเสวีออกไป

เมษาเปิดดูสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม ขั้นเทพหยิบสมุดบันทึกบัญชีจากชั้น มีปึกเอกสารการเงินบัญชีต่าง ๆ รวมอยู่ ทั้งสองเปิดดู เมษาหยิบต้นขั้วเช็คเปิดดู แล้วส่งให้ขั้นเทพ

“คุณดูนี่สิ นี่เป็นต้นขั้วเช็คที่พ่อโอนเงินให้ผู้การสถิตย์ยุทธ”
ขั้นเทพรับไปดู เมษาส่งสมุดบันทึกบัญชีให้ขั้นเทพดู
“แล้วนี่ก็เป็นรายชื่อคนที่พ่อโอนเงินให้ มีหลายรายการที่มีชื่อผู้การสถิตย์ยุทธรับเงิน”
“งั้นเดี๋ยวผมจะโทรบอกหัวหน้าว่าเรามีหลักฐานเพิ่มเติมจะให้ท่าน”
เมษาพยักหน้ารับรู้ ขั้นเทพหยิบโทรศัพท์โทรหาเสวี รอฟังเสียงปลายสายไม่มีสัญญาณ เขากดซ้ำ เมษาเดินเข้ามาพร้อมแก้วน้ำส้ม
“ทำไมผู้การไม่เปิดเครื่อง”
“อยู่ในจุดที่ไม่มีสัญญาณรึเปล่าคะ”
“อาจเป็นไปได้”
“อีกสักพักค่อยโทรก็ได้ น้ำส้มค่ะ”
“ขอบคุณ”
“เย็นนี้ทานอะไรดีคะ เดี๋ยวจะให้เด็กไปซื้อ”
“ผมว่าไปทานข้างนอกดีกว่า ผมนัดไมค์กับหนูปึกไว้ด้วย”
“ก็ได้ค่ะ”

ทั้งสองยิ้มให้กัน

เสวีถูกมัด มีเทปปิดปาก ถูกใส่กุญแจมือ คนขับรถเสวีถูกมัดมาด้วย ชายชุดดำ 5 คนนั่งคุมอยู่ในรถตู้ รถตู้วิ่งเข้ามาจอดในป่าแห่งหนึ่ง
 
ชายชุดดำก้าวลงมา หิ้วเสวีและคนขับรถลงจากรถ พาเดินเข้าไปในป่าทึบ เสวีมองซ้ายขวาคิด แล้วหยุดเดิน ทุกคนชะงักหยุด จ่อปืน
“มีอะไร”
เสวีทำท่าพยักเพยิด ชายชุดดำดึงเทปที่ปิดปากเสวีออก
“มีอะไรผู้การ”
“ถ้าพวกลื้อปล่อยอั๊ว อั๊วจะไม่เอาเรื่องพวกลื้อ”
“แต่ถ้าเราปล่อยผู้การไป พวกเราก็คงไม่มีชีวิตรอดเหมือนกัน”
“แต่อั๊วให้สัญญาว่าพวกลื้อจะปลอดภัย”
“แต่เราอยู่กับผู้การสถิตย์ยุทธเราได้เงิน แต่อยู่กับท่านเราไม่ได้อะไร”
“แต่พวกลื้อ”
“พอทีเถอะ ไปได้แล้ว”
ชายชุดดำจะปิดเทปที่ปากเสวี เสวีกระทุ้งเข่าเข้าหว่างขา แล้วหันไปฟาดใส่ชายชุดดำอีกคน คนขับรถเสวีได้จังหวะเหวี่ยงกำปั้นเข้าต่อยคนพวกนั้น เสวีเหวี่ยงบิดมือเอาหัวโขกใส่ชายชุดดำจนทรุดลง
“หนีเร็ว”
เสวีวิ่ง คนขับรถวิ่งตาม มือปืนยิงใส่ เสวีและคนขับรถหลบ มือรีบตามล่าเสวี
“แยกกันไปดักมัน อย่าให้มันหนีไปได้”
มือปืนวิ่งแยกกันไป

มือปืนไล่ล่า และมาดักหน้าเสวีกับคนขับรถ คนขับรถเอาตัวบังกระสุนให้เสวีจนถูกยิง เสวีสู้ยิบตา จะวิ่งไปถึงถนนใหญ่ให้ได้ รถสีดำคันหนึ่งวิ่งมาตามถนน เขากลั้นใจวิ่งโผล่ขึ้นมาบนถนน รถวิ่งพุ่งเข้ามา เสวีวิ่งออกมาขวางกลางถนน โบกขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย”
รถวิ่งเข้ามาจอด ประตูด้านหลังเปิด เสวีวิ่งเข้าไป
“ช่วยผมด้วย มีคนจะฆ่าผม”
เสวีชะงัก ผงะถอย เมื่อเห็นสถิตย์ยุทธแสยะยิ้มก้าวลงมาพร้อมปืน
“อั๊วบอกแล้วไงไม่มีใครช่วยลื้อได้”

สถิตย์ยุทธยกปืนขึ้น ลั่นไกยิง เสวีล้มลง เขาเดินเข้ามาดู เห็นเสวีนอนตาย จึงเดินกลับไปที่รถ
 
อ่านต่อหน้า 4

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 12 (ต่อ)

ขั้นเทพและพวกพากันมาที่ร้านอาหาร เขากดโทรศัพท์ ฟังเสียงปลายสายไม่มีสัญญาณ

ขั้นเทพกดปิดอย่างแปลกใจ
“ทำไมวันนี้ทั้งวัน ผมติดต่อผู้การเสวีไม่ได้เลย”
“แล้วนายโทรไปที่ทำงานรึยัง”
“โทรไปแล้ว หน้าห้องท่านบอกว่าท่านออกไปตั้งแต่เที่ยงไม่ได้กลับเข้ามาเลย นี่เขาก็พยายามติดต่อหาท่านอยู่เหมือนกัน”
“แล้วที่บ้านล่ะคะ ผู้กอง”
“ภรรยาท่านบอกว่ายังไม่กลับ แล้ววันนี้ท่านก็ไม่ได้โทรกลับไปที่บ้าน”
“หรือว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับผู้การเสวี”
“อะไรไม่ดีหมายถึงผู้การสถิตย์ยุทธรึเปล่าครับคุณเม”
“ฉันสังหรณ์ใจว่าจะเป็นเรื่องนั้น”
เสียงโทรศัพท์มือถือขั้นเทพดัง เขากดรับสาย
“ฮัลโหล ครับ ขอบคุณครับ เมียจ่ามานะที่เป็นคนขับรถท่าน โทรมาบอกว่าเธอก็ติดต่อจ่ามานะไม่ได้เหมือนกัน”
“ฉันว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับผู้การแล้วล่ะ”

ทุกคนมองหน้าเมษา

คืนนั้น สถิตย์ยุทธกับเควิน สมิธ ชนแก้วแชมเปญกันด้วยความยินดี อยู่ที่เซฟเฮาส์

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมนับถือผู้การจริง ๆ ขอคารวะ”
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าคนอย่างผมไม่มีใครทำอะไรได้ ตอนนี้เชื่อรึยัง”
“เชื่อแล้วครับ จากนี้ต่อไปก็ไม่มีใครขวางทางเราแล้วใช่มั้ย”
“ใช่ ถ้าใครคิดจะขวางมันก็ต้องตายสถานเดียว”
“แล้วเราจะจัดการยังไงกับไอ้ขั้นเทพ จะเป่ามันทิ้งเลยมั้ย”
“หึ ตอนนี้หมดไอ้เสวีหัวหน้ามัน มันก็เหมือนผีไม่มีศาล เป็นแค่เห็บหมาไม่มีพิษสงอะไรแล้ว”
“ใช่สินะ เพราะทุกวันนี้มันไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว มันก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเรา งั้นคืนนี้ต้องฉลองให้เต็มที่นะผู้การ”
“ได้เลย”
สถิตย์ยุทธยกแก้วชนกับเควิน สมิธ

ขั้นเทพพูดโทรศัพท์กับนายตำรวจท่าหนึ่ง โดยมีเมษาและพวกนั่งฟังอยู่ด้วย
“ครับท่าน ครับ ขอบพระคุณครับท่าน ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยเหลือ บอกได้เลยนะครับผมยินดี”
ขั้นเทพปิดโทรศัพท์ เมษาถามขึ้นทันที
“ท่านรองว่าไงคะ ได้ข่าวผู้การเสวีมั้ยคะ”
“ท่านให้คนไปตรวจสอบที่การสื่อสาร คุณทายซิว่าเบอร์สุดท้ายที่หัวหน้าเสวีคุยคือใคร”
“ผู้การสถิตย์ยุทธ”
“ถูกต้อง”
“แล้วเขาให้การว่าไง”
“เขาบอกว่าโทรคุยกันเรื่องงานเลี้ยงรุ่นที่จะมาถึงเดือนหน้า”
“ฉันว่าต้องเป็นฝีมือผู้การสถิตย์ยุทธแน่ เขาคงโทรเรียกให้ผู้การเสวีออกไปพบ”
“แล้วทางตำรวจเขาไม่สามารถสืบหาร่องรอยได้เลยหรือผู้กอง จากกล้องวงจรปิดหรือจากอะไรต่าง ๆ”
“ตอนนี้เขากำลังส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบอยู่”
“แต่ถึงพวกมันจะฆ่าหัวหน้าเสวี มันก็ต้องเจอศพนะผู้กอง”
“ระดับผู้การสถิตย์ยุทธคงไม่เหลือหลักฐานให้เราค้นหา”
“หมายความหัวหน้าเสวีจะหายไปจากโลกนี้เลยหรือคะ”
ขั้นเทพไม่ตอบถอนใจ
“ผมว่ามันโหดเหี้ยมป่าเถื่อนเกินไปแล้วนะ”
“ก็เหมือนที่มันทำกับพ่อแม่ฉันไง”
“ไอ้สถิตย์ยุทธ แกมันเลวเกินกว่าที่จะเป็นคนแล้ว”

ปึกบอกอย่างโกรธแค้น เมษาแค้นใจเมื่อนึกถึงพ่อแม่

สถิตย์ยุทธคุยกับเควิน สมิธ อยูที่เซฟเฮาส์เช่นเคย

“หลวงพ่อคำเกลี้ยงงั้นหรือ”
“ใช่ เสียดายที่ไม่ได้เศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยง”
“ทำไมถึงจะไม่ได้”
“อ้าว ก็ผู้การบอกว่าเศียรอยู่กับไอ้ผู้กองขั้นเทพ มันก็ต้องเอาไปคืนวัดไม่ใช่หรือ”
“ถ้าคุณอยากได้ ผมจะสั่งให้พวกมันเอามาให้คุณ”
“นี่ผู้การพูดจริงหรือพูดเล่น”
“คนอย่างผมเคยพูดเล่นงั้นหรือ”
“ผมหมายถึงว่าที่ผู้การจะสั่งให้มันเอามาให้เรา”
“อยากได้รึเปล่าล่ะ”
สถิตย์ยุทธย้อนถาม เควิน สมิธ พยักหน้า

ปึกปัดทำความสะอาดพระหลวงพ่อคำเกลี้ยงอยู่ที่บ้านขั้นเทพ
“ในที่สุดเราก็ทำไม่สำเร็จนะ อุตส่าห์ยอมเสี่ยงเอาหลวงพ่อมาล่อพวกมัน เรากลับไม่ได้อะไรเลย”
“แถมตอนนี้ท่านผู้การเสวีก็หายสาบสูญไปอีก”
เมษาหันมามองหน้าขั้นเทพ
“หรือว่าเราไม่สามารถจับไอ้สถิตย์ยุทธได้จริง ๆ นี่เราแพ้พวกมันจริง ๆ หรือ”
“ถึงวันนี้เราอาจจะแพ้ แต่ต้องมีสักวันที่เราจะต้องจับมันได้”
“ใช่ค่ะ ต้องมีสักวันที่โอกาสเป็นของเรา”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยกมือไหว้พระ
“หลวงพ่อครับ หลวงพ่อต้องช่วยพวกเรานะ ให้พวกเราจับไอ้เควินกับไอ้สถิตย์ยุทธให้ได้ทีเถอะครับ”
“แต่หนูปึกว่าอันดับแรกที่เราควรจะทำตอนนี้ก็คือ นำหลวงพ่อกลับไปคืนวัดก่อนดีมั้ยคะ ขืนเอาไว้ที่นี่ พวกมันอาจจะบุกมาขโมยก็ได้”
“ฉันก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะโทรหาท่านผู้ว่า เรียนท่านว่าพรุ่งนี้เราจะนำเศียรหลวงพ่อไปคืน”
“ฉันเห็นด้วย”
“ถ้างั้นหนูปึกขอไปซื้อของฝากกลับไปให้พ่อแม่หน่อยนะคะ”
“อืม ระวังตัวด้วยแล้วกัน”
“ไม่ต้องห่วงผู้กอง มีฉันอยู่ทั้งคน รับรองไม่มีใครทำอะไรหนูปึกได้แน่”
“โม้ตลอด พี่ไมค์เนี่ย”
“เก็บพระซ่อนไว้ให้ดีล่ะผู้กอง”
“เออ ฉันรู้น่ะ รีบไปรีบกลับแล้วกัน”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ กับปึกออกไป เมษามองที่เศียรพระ
“หลวงพ่อคะ บอกหนูได้มั้ย ว่าทำยังไงเราถึงจะจัดการกับไอ้พวกคนชั่วพวกนี้ได้”

ขั้นเทพมองแล้วถอนใจ

ปึกกับไมค์ โจ๊กเกอร์ พากันมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า

“หนูปึกยังต้องซื้ออะไรอีก”
“เดี๋ยวไปร้านขายขนมปังหน่อยนะ จะซื้อไปฝากเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน”
“ได้เลยจ้ะ”
“เดี๋ยวพี่ไมค์”
“อะไร”
“พี่ไมค์ ไปเลือกของในซุปเปอร์ก่อนเลย เดี๋ยวหนูปึกเข้าห้องน้ำแล้วตามไป”
“ไม่เป็นไร พี่รอดีกว่า”
“จะรอทำไม”
“เดี๋ยวมีใครมาจับหนูปึกไปจะยุ่ง”
“ใครจะมาจับ”
“ไม่เอา พี่รอดีกว่า”
“งั้นก็ตามใจ”
ปึกเดินนำเลี้ยวไปทางห้องน้ำ ไมค์ โจ๊กเกอร์ ตามไป มีใครบางคนแอบมองทั้งคู่เดินไป
“พี่ไมค์รออยู่นี่นะ รอหนูปึกแป๊บเดียว”
“จ้ะ พี่จะคอยระวังไม่ให้ใครมาทำอะไรหนูปึกได้”
“พี่ไมค์นี่น่ารักจัง มาหอมที”
ปึกจูบแก้มไมค์ โจ๊กเกอร์ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองตามแล้วหันกลับมา เห็นหญิงสาวเดินตามเข้าไป ปึกเปิดประตูเข้าไป หญิงคนนั้นเดินไปเข้าห้องน้ำห้องข้าง ๆ ปึก
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยืนรอมองซ้ายขวา แม่บ้านทำความสะอาดเข็นรถเข้ามา มีถังใส่ขยะใบใหญ่พร้อมไม้กวาดและไม้ถูพื้นเข้ามา
“ขอโทษค่ะ”
“เชิญเลยครับ”
แม่บ้านวางป้ายพื้นปียก ที่หน้าห้องน้ำ ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองอย่างไม่ได้สนใจนัก

ปึกเปิดประตูห้องน้ำออกมา เห็นแม่บ้านกำลังเช็ดกระจก เธอเดินมากดน้ำล้างมือ มองกระจกสำรวจหน้าตาตัวเอง สายตาเหลือบไปเห็นแม่บ้านมองจ้องมาในกระจก ปึกหันมองแม่บ้านเอาผ้าโปะหน้าปึก หญิงสาวที่ตามปึกเข้ามา ออกมาจากห้องน้ำ เอามือสับคอปึก
 
ปึกสลบร่วงลง
 
อ่านต่อตอนที่ 13
กำลังโหลดความคิดเห็น