เมียเถื่อน ตอนที่ 1
เมื่อเวลาเช้าตรู่ ณ บ้านหลังใหญ่ของ เขต ชายหนุ่มรูปงาม ที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับโรงเรื่อย ธุรกิจของครอบครัว ซึ่งแลเห็นป้ายชื่อโรงเลื่อย “ศักดิ์สุวรรณ” เด่นหรา เขตแต่งตัวหล่อเท่ ดูทะมัดทะแมงเดินมาที่รถโฟร์วีล แล้วขึ้นรถขับออกไป รถแล่นมาเข้าถนนสายหลักเพื่อเดินทางไปกรุงเทพมหานคร
ทุกอย่างดูเร่งรีบแข่งกับเวลาไปหมด รถไฟฟ้าแล่นทะยานเข้าสู่ย่านกลางกรุง ส่วนบนท้องถนนรถรามากมายจอแจ ผู้คนเดินขวักไขว่ในย่านธุรกิจรีบร้อนในงานของตน
ไม่ต่างจากบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์แห่งนี้ เห็นผู้คนเดินกันขวักไขว่ บางคนมาเดี่ยว บางคนมาเป็นคู่ บ้างก็มาเป็นหมู่คณะ บริเวณเคาน์เตอร์ขายตั๋ว ฟ้าสาง สาวสวยพนักงานขายตั๋วของโรงหนังนั่งอยู่ในบูธ เธอแต่งตัวด้วยยูนิฟอร์มพนักงาน
ลูกค้าเดินเข้ามาที่หน้าเคาน์เตอร์ เธอยกมือไหว้นอบน้อม ยิ้มหวาน
"สวัสดีค่ะ...รับตั๋วกี่ที่คะ"
ลูกค้าบอกความต้องการเสร็จ ฟ้าสางจัดการพิมพ์ตั๋วหนังส่งให้ลูกค้า เธอรับเงินแล้วยกมือไหว้อีกครั้ง เพื่อนพนักงานคนหนึ่งเดินมาทางด้านหลังเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่
"เธอจะรีบไปไม่ใช่เหรอฟ้า"
"ใช่จ้ะ งั้นฉันฝากที่เหลือด้วย ขอบใจนะ"
ฟ้าสางลุกขึ้นจากเคาน์เตอร์ ให้เพื่อนพนักงานเข้ารับหน้าที่แทนต่อไป
บริเวณโรงภาพยนตร์อีกมุมหนึ่ง น้อย ผู้จัดการโรงภาพยนตร์ วัยกลางคน กำลังยืนดูความเรียบร้อยในโรงภาพยนตร์อยู่ ฟ้าสางเดินแกมวิ่งออกมาอีกทาง น้อยทักฟ้าสาง
"อ้าว ฟ้าสาง"
"สวัสดีค่ะ พี่น้อย"
"วันนี้มีงานอื่นต่อใช่มั้ย ขยันจริงๆ"
"ใช่ค่ะ ฟ้าอยากเก็บเงินให้มากๆ ไว้เป็นค่ารักษาพ่อ"
"ฟ้านี่กตัญญูจริงๆ ทำงานงกๆ หาเงินรักษาพ่อ เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ หาดีอย่างเธอยาก เจออุปสรรคนิดหน่อย ก็ถอดใจแล้ว"
"ตอนนี้ฟ้าเหลือพ่อเพียงคนเดียว ฟ้าไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ"
"ดีแล้วล่ะฟ้า ความกตัญญูจะทำให้เธอตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ขอให้เจริญๆ พ่อหายไวๆ นะจ๊ะ"
"ฟ้าก็ต้องขอบคุณพี่น้อยที่ช่วยเหลือฟ้าเสมอด้วยค่ะ"
ฟ้าสางยกมือไหว้ขอบคุณ น้อยรับไหว้ ยิ้มอย่างเอ็นดู
ฟ้าสางเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาริมถนนหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ยืนรอโบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่ไม่มีว่างสักคัน
เสียงโทรศัพท์มือถือของฟ้าสางก็ดังขึ้น เธอควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือ หน้าจอโทรศัพท์เป็นชื่อ ต่อศักดิ์ ฟ้าสางกดรับ
"ต่อ"
ต่อศักดิ์ยังอยู่ที่บ้านในชุดนอน สภาพเพิ่งตื่น
"ผมขอโทษนะฟ้า ตื่นสายไปหน่อย ตอนนี้ฟ้าอยู่ที่ไหนครับ ผมจะรีบไปรับ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ฟ้าเกรงใจต่อ"
"จะเกรงใจทำไมล่ะครับฟ้า ฟ้าก็รู้ว่าต่อยินดีบริการฟ้าเสมอ"
"แต่ว่า"
"ไม่มีแต่ ฟ้ารออยู่ที่โรงหนังนะ ผมจะซิ่งไปรับฟ้าอย่างไว"
เขาวางสายไปทันทีโดยไม่ให้เธอปฏิเสธ
ฟ้าสางพยายามโทร.กลับไปหาเขาอีกครั้ง เจอแต่เสียงรับฝากข้อความ เธอมีสีหน้ายุ่งยากใจ เมื่อดูนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าไม่ทันแล้ว จึงโบกมือเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ว่างผ่านมาพอดี
"ไปที่ศูนย์การค้า...ด่วนค่ะ"
ฟ้าสางขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่แล่นออกไปท่ามกลางการจราจรวุ่นวายในเมือง
บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง เขตกับผู้จัดการบริษัทเดินออกมา ทั้งคู่จับมือกัน
"ขอบคุณที่ไว้วางใจโรงเลื่อยศักดิ์สุวรรณนะครับ" เขตบอก
"คุณเขต ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก เราค้าขายกันมานาน ไม้จากโรงเลื่อยศักดิ์สุวรรณเป็นไม้ดีได้มาตรฐาน ปีหน้าบริษัทจะเปิดตลาดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ยังไงคงได้ร่วมงานกันอีก"
"ผมยินดีบริการเสมอครับ"
ทั้งคู่เดินมาถึงรถโฟร์วีลของเขตที่จอดอยู่หน้าบริษัทฯ
สาวออฟฟิศเดินผ่านมามองเขต เห็นว่าหล่อ ก็ส่งสายตาให้
เขตยกมือไหว้ผู้จัดการ
"งั้นผมลาก่อนนะครับ"
"แล้วนี่คุณเขตจะตีรถกลับโรงเลื่อยเลยหรือครับ"
เขตครุ่นคิดเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบว่าอะไร
บริเวณสถานที่จัดงานเปิดตัวรถยนต์ ซึ่งมีรถหลายรุ่นจอดโชว์อยู่ แต่ละจุดมีพริตตี้ยืนโชว์ตัว บรรดาลูกค้ากำลังเดินชมรถยนต์รุ่นต่างๆ ในหลายๆ มุม เสียงเพลงและบรรยากาศดูคึกคัก
อีกมุมหนึ่ง เขตกำลังหยุดฟังพริตตี้สาวสวยบรรยายคุณสมบัติของรถกระบะรุ่นหนึ่งด้วยความสนใจ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาตั้งท่าจะถ่ายรูปรถกระบะเก็บไว้ แต่ปรากฏว่าใกล้เกินไปเขาจึงถอยหลังเพื่อให้ได้ภาพในมุมกว้างที่ขึ้น
ฟ้าสางในชุดพิธีกร สวยน่ารัก เซ็กซี่ มีผ้าพันคอคลุมไหล่ เดินมาพอดี ในจังหวะที่ฟ้าสางอยู่ด้านหลังของเขต เขาถอยหลังหามุมถ่ายรูปเลยชนเข้ากับเธอ
ผ้าพันคอของฟ้าสางร่วงหล่นลงที่พื้น !
ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกัน
"ขอโทษครับ / ค่ะ"
ทั้งคู่ก้มลงเพื่อเก็บผ้าพันคอที่พื้นพร้อมกัน จนมือแตะกันด้วยความบังเอิญ เธอตกใจรีบชักมือออก ทั้งคู่เงยหน้า สบตา พร้อมกัน เขาหยิบผ้าพันคอมาถือไว้ ดวงตาฉายแววพอใจปิ๊งๆ
ฟ้าสางเขินอายที่เขาจ้องมองอย่างไม่ละสายตา ก่อนพูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆ
"คุณคะ"
เขตตะลึง รู้สึกตัว
"ครับ"
"ขอผ้าพันคอคืนด้วยค่ะ"
เขตนึกได้ว่าถือผ้าพันคอของเธออยู่จึงยื่นผ้าส่งให้
จ๊ะเอ๋ กะเทยเจ้าของโมเดลลิ่งที่ติดต่อฟ้าสางมาทำงานวิ่งพรวดพราดเข้ามาอย่างเร็ว
"น้องฟ้า มาอยู่ที่นี่เอง ได้เวลาขึ้นเวทีของหนูแล้วจ้า"
จ๊ะเอ๋รีบลากฟ้าสางออกไป โดยที่เธอพูดบอกอะไรเขตไม่ทัน!
"เอ่อ..."
เขตถือผ้าพันคอค้าง มองตามฟ้าสาง ยิ้มๆ แล้วพึมพำ
"ฟ้า...ฟ้าอะไร ที่แน่ๆ สวยเหมือนนางฟ้า"
เขตยกผ้าพันคอขึ้นมาดมกลิ่นหอมอ่อนๆ บนผ้าผืนนั้นของฟ้า
ฟ้าสางตัดสินใจวิ่งกลับมา เห็นเขตแอบดมผ้าพันคออยู่พอดี เลยพูดด้วยเสียงเขินจัด
"ขอคืนด้วยนะคะ"
เขตยิ้มให้ทั้งตา จ้องมอง ตาสบตา ทำท่าไม่อยากคืนผ้า แต่แล้วก็ยอมคืนให้แต่โดยดี
"นี่ครับ"
ฟ้าสางรับผ้าพันคอไป มือของทั้งคู่แอบสัมผัสกัน เหมือนมีไฟมาสปาร์ก โลกสดใส
เธอพูดเบาๆ ก่อนจะรีบจากไปทำงาน
"ขอบคุณค่ะ"
เขตตาลอยใจลอย มองส่งฟ้าสาง สีหน้าแววตาตกหลุมรักเข้าจังเบ้อเริ่ม
ผ่านเวลาเล็กน้อย ฟ้าสางยืนอยู่บนยกพื้นที่มีรถรุ่นใหม่จอดอยู่ เธอกำลังบรรยายเกี่ยวกับรถยนต์ให้บรรดาลูกค้าที่มางานฟังอย่างคล่องแคล่ว เขตยืนอยู่ห่างจากกลุ่มลูกค้าที่ฟังฟ้าสางบรรยายออกไปนิดหน่อย แววตาของเขายังชื่นชมฟ้าสางแบบปิดไม่มิด เขตแอบยกมือถือถ่ายภาพของฟ้าไว้...
ฟ้าสางตั้งใจทำงาน ไม่รู้ตัวว่าเขตแอบมองอยู่
ผ่านเวลามา ฟ้าสางเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับออกมาใส่ชุดธรรมดาตามเดิม
จ๊ะเอ๋รีบเข้ามาประกบฟ้าสาง
"น้องฟ้าจ๋า นี่จ้ะ เงินค่าตัวหนูวันนี้"
"ขอบคุณมากนะคะพี่จ๊ะเอ๋"
"ไม่เป็นไรจ้ะ เออนี่ น้องฟ้ารู้มั้ย ลูกค้าชมว่าหนูน่ะคล่องแคล่ว เอาการเอางาน ถ้ามีงานใหม่ ลูกค้าให้พี่เรียกหนูมาอีกนะจ๊ะ"
ฟ้าสางสีหน้าดีใจมาก
"จริงเหรอคะ ฟ้าทำได้ทุกงาน ไม่เกี่ยงหรอกค่ะ พี่จ๊ะเอ๋เรียกฟ้าได้ตลอดเลยค่ะ"
"ได้เลยจ้า เด็กดี ตั้งใจทำงาน ไม่เรื่องมากอย่างหนู พี่เต็มใจสนับสนุนอยู่แล้ว"
ฟ้าสางดีใจ ดูมีความหวังกับงานภายหน้ายกมือไหว้จ๊ะเอ๋
"ขอบคุณค่ะ"
"หนูนี่ขยันดีจัง ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย งานก็ไม่เสีย ผลการเรียนก็ดี๊ดี ทำได้ไงอะ เออ...ว่าแต่หนูเรียนใกล้จบตรีรึยังล่ะ"
"จบแล้วค่ะ รองานประจำเรียกตัว แต่ฟ้าก็ยังรับจ็อบอยู่นะคะ"
"จ้า แม่คนขยัน"
เมียเถื่อน ตอนที่ 1(ต่อ)
ฟ้าสางเดินผ่านบริเวณลานจอดรถกลางแจ้ง ซึ่งเป็นช่วงปลอดคนพอดี ชายคนหนึ่งนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ สายตาวอกแวกมองหาเหยื่อ
ฟ้าสางเดินพ้นลานจอดรถแบบไม่คิดอะไรเพื่อออกไปขึ้นรถตู้ ทันใดนั้น ชายที่นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็วิ่งตรงมาหา แล้วกระชากกระเป๋าสะพายของเธอไป
ฟ้าสางตกใจ แต่ก็ยังคว้าสายกระเป๋าไว้ได้
"ช่วยด้วย!"
"ปล่อยสิวะ"
"อย่าเอากระเป๋าฉันไปเลย ฉันต้องเอาเงินไปรักษาพ่อ"
"เอ๊ะ...นังนี่ วอนซะแล้ว"
คนร้ายเงื้อมือตบฟ้าสางที่หลบทัน เธอยังไม่ยอมปล่อยกระเป๋า สู้สุดชีวิต สร้อยจี้รูปหัวใจฝังเพชรถูกดึงกระชากไปพร้อมแรงเหวี่ยงกระเป๋า แต่ยังไม่ร่วง
จังหวะนั้น เขตขับรถออกจากลานจอดผ่านมาเห็นเข้าพอดี เขารีบลงจากรถวิ่งเข้ามาจากทางด้านหลังของคนร้าย บิดข้อมือคนร้ายไพล่หลัง
"โอ๊ย! อะไรกันวะ"
"แกทำแบบนี้กับผู้หญิง ไม่หน้าตัวเมียไปหน่อยเรอะ"
"แล้วมึงมาเสือกอะไรด้วย เรื่องของผัวเมียโว้ย"
"ไม่ต้องมาเล่นมุกเก่าๆ เลย ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียแกจริง บอกมาซิว่าเธอชื่ออะไร"
คนร้ายอึกอักแต่บอก
"ติ๋ม...มันชื่ออีติ๋ม"
"ไม่จริงนะคะ ฉันไม่ได้ชื่อติ๋ม"
เขตจับมือคนร้ายไพล่หลังให้แน่นขึ้น
"เสียใจด้วยนะ พอดีฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ชื่อติ๋ม เพราะฉะนั้นแกต้องไปหาตำรวจกับฉันเดี๋ยวนี้"
เขตลากคนร้ายไปที่รถ คนร้ายอาศัยช่วงที่เขาเผลอ กระทืบเท้า จนเขาเผลอปล่อยมือจากคนร้าย ฝ่ายคนร้ายรีบควักมีดพกออกมา ใบมีดเด้งขึ้น เห็นประกายเงาวาววับจากใบมีด ดูน่าหวาดเสียว
"ระวังนะคะ คุณ"
คนร้ายจ้วงมีดแทง เขตเอี้ยวตัวหลบ แต่ก็ถูกมีดถากแขนไปเล็กน้อย คนร้ายเห็นเขตเพลี่ยงพล้ำก็แสยะยิ้มชั่วร้าย ฟ้าสางช่วยลุ้น เอาใจช่วยเขตอยู่อีกทางหนึ่ง
คนร้ายจ้วงแทงอีกครั้ง คราวนี้เขตพลิกตัวหลบแล้วปัดมือที่ถือมีดอย่างแรงจนมีดหล่นกระเด็นไปอีกทาง คนร้ายเห็นท่าไม่ดี รีบขึ้นมอเตอร์ไซค์ขี่หนีไป เขตวิ่งตามไป แต่ไม่ทัน
"หนีไปซะได้"
ฟ้าสางวิ่งเข้ามาดูอาการเขต
"คุณคะ"
เขตหันมาหาฟ้า
"คุณฟ้า บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ฟ้าไม่เป็นไรค่ะ" ทั้งคู่สบตากัน ฟ้าสางจำเขตได้ "คุณนั่นเอง"
เขตยิ้มรับ
"ครับ"
"ขอบคุณที่ช่วยฟ้าไว้" เธอมองไปที่แขนเขต "เอ๊ะ นั่น คุณเลือดออกนี่คะ"
บริเวณแขนของเขามีร่องรอยการต่อสู้ แขนเสื้อขาดและมีเลือดซึมออกมาจากบาดแผลที่แขน
ผ่านเวลาเล็กน้อย ใกล้ๆ รถของเขต ฟ้าสางซื้ออุปกรณ์ปฐมพยาบาลมา เธอกำลังเอาผ้ากอซปิดแผลที่แขนให้ ขณะที่เขตจ้องมองเธอด้วยแววตาชื่นชม
"เสร็จแล้วค่ะ"
"ขอบคุณนะครับ คุณฟ้า"
ฟ้าสางเขินกับสายตาเขต
"ฟ้าต่างหากที่ต้องขอบคุณที่ช่วยฟ้าไว้...ขอบคุณมากค่ะ"
"ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมเต็มใจช่วย"
เขากับเธอมองตากัน ปิ๊งๆ ฟ้าสางเขินอาย
"งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ"
ฟ้าสางจะเดินไป เขตรีบคิด หาทางใกล้ชิดกับเธอให้นานกว่านี้
"เดี๋ยวก่อนสิครับ แล้วคุณจะไม่ไปแจ้งความที่โรงพักหรือครับ"
ฟ้าสางอึกอัก
"ไม่ต้องก็ได้มั้งคะ ฟ้าไม่ได้เป็นอะไร กระเป๋าก็ยังอยู่"
"ไม่ได้ครับ ถ้าขืนปล่อยให้คนพวกนี้ลอยนวล เดี๋ยวมันก็จะไปทำกับคนอื่นอีก ผมพาไปแจ้งความที่โรงพักดีกว่าครับ"
ฟ้าสางเกรงใจ
"จะไม่รบกวนคุณหรือคะ"
"ไหนๆ ผมก็มีโอกาสเป็นพลเมืองดีแล้ว ไม่รบกวนหรอกครับ"
ฟ้าสางยิ้มพยักหน้า
"ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
เขตยิ้มดีใจ กำลังจะเปิดประตูรถ โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นพอดี
"ครับ อะไรนะ เกิดได้ยังไง รายงานเป็นระยะๆ นะ"
ฟ้าสางเห็นจากสีหน้าเขาก็รู้ว่าคงมีงานด่วนเลยพูดบอก
"ถ้าคุณมีงานด่วน ไม่เป็นไรนะคะ"
เขตกำลังจะพูดกับฟ้าสางอีก แต่เสียงมือถือดังแทรกขึ้นมาอีกรอบ เขตกดรับสาย ฟ้าสางมองตาม อมยิ้มประทับใจ
ฟ้าสางเดินจากไป จังหวะนั้นสร้อยพร้อมจี้เพชรรูปหัวใจที่ขาดอยู่ร่วงใกล้ประตูรถเขาพอดี
ฟ้าสางไม่รู้ตัว เดินไปที่รถตู้ซึ่งกำลังออกจากคิวพอดี ฟ้าสางขึ้นรถตู้ไป... เขามองตาม ขณะคุยมือถือกับบัญชา
"ผมฝากอาดูแลเบื้องต้นด้วยนะครับ ถ้าไม่หนักหนา ผมขอแวะเยี่ยมลูกค้าอีกรายก่อนกลับ จะได้ไม่เสียเที่ยว ขอบคุณมากครับ"
เขตตัดสาย ก่อนขึ้นรถ และก่อนจะเปิดประตูรถ... เห็นสร้อยพร้อมจี้เพชรรูปหัวใจของฟ้าสางที่ขาดอยู่ที่พื้น เขาหยิบขึ้นมาตัดสินใจเก็บไว้ รถตู้ออกไปไกลแล้ว
เขตเปิดประตูรถ ขับออกไป ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีมากมาย
บ้านปรีดา เป็นบ้านตึกสองชั้นมีบริเวณจัดว่ามีฐานะพอสมควร ยามกลางวัน วงไพ่ป๊อกเด้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ราตรีหงุดหงิดที่เสียไพ่เลยพาลโวยวาย
"อะไรวะ เสียได้ไง...3 ตารวด ไม่เล่นแล้ว...เลิกๆๆ"
ขาไพ่1บอก
"อ้าว เจ๊ราตรี ที่ผ่านมาเจ้ามือกินเรียบตลอดนะ"
ขาไพ่2บอก
"จ่ายเสีย ให้ไว..."
ราตรีเอาเงินจ่ายขาไพ่ 3 คนรอบวงจนเงินหมดหน้าตัก หน้างอหงิก ฝ่ายขาไพ่ 3 คนใบหน้ายิ้มแย้ม พากันเก็บของเตรียมจะไป
"วันนี้ชั้นเลี้ยงเอง นานๆ จะกินเจ้ามือรอบวง...ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ขาไพ่ 3 บอก
ราตรีรีบเรียกไว้
"เดี๋ยว จะรีบกลับไปไหน"
ขาไพ่2ถาม
"มีอะไรอีกล่ะ เจ๊ราตรี"
ราตรีแบมือ เนื่องจากจานอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ที่ขาไพ่กินหมดแล้วยังวางไว้ระเกะระกะ
"ข้าวกับน้ำที่พวกแกกินไปไม่ฟรีนะยะ จ่ายคืนมา ค่าต๋งด้วย"
ขาไพ่3บอก
"อะไรวะ พอเสียแล้วพาลเหรอเฉยเลย"
"เออ แล้วไง"
ขาไพ่ 3 คนเลยจำต้องจ่ายเงินคืนให้ราตรี ส่ายหน้าไม่พอใจ
ขาไพ่1บอก
"งกชะมัด"
ราตรีมองเงินค่าอาหารค่าต๋งในมือแล้วหงุดหงิด บรรดาขาไพ่พากันเดินออกไป ยังแว่วเสียงหัวเราะ ดีใจที่เล่นได้
"ทำไมดวงมันกุดอย่างนี้วะ"
ราตรีมองไปรอบๆ บ้าน เห็นกองจดหมาย ใบทวงหนี้วางเกลื่อน
"มีแต่ใบทวงหนี้...เบื่อโว้ย"
ราตรีเอามือปัดทิ้งไปอย่างอารมณ์เสีย
เสียงกริ่งเรียกที่หน้าบ้าน ราตรีเห็นผู้หญิงแต่งตัวเหมือนคนขายของยืนรออยู่
ราตรีตะโกนบอกไป
"ไม่ต้องมาเรียก ชั้นไม่ซื้ออะไรทั้งนั้น น่าเบื่อ"
ผู้หญิงคนนั้นกลับตะโกนบอกพร้อมชูสินค้าในกล่อง เป็นจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า
"สินค้าแจกฟรีค่ะ คุณแม่บ้าน ถ้าไม่รับ หนูไปบ้านอื่นนะคะ"
ด้วยความโลภ ราตรีเลยติดกับ เปิดประตูบ้านเดินออกไป มองหาของฟรี
"มาแล้วๆ ไหนแจกอะไร"
ไม่มีแม้เงาของผู้หญิงที่มาชูกล่องแจกสินค้า จู่ๆ แก๊งทวงหนี้นอกระบบ ชายหน้าเหี้ยม 2 คนโผล่ออกมาแทน
ทวงหนี้1 บอก
"โผล่หัวออกมาได้แล้วเรอะ ป้าราตรี"
ทวงหนี้ 2 บอก
"คิดหรือว่าจะหลบหน้าอยู่ในบ้านได้"
ราตรีตกใจที่หลงกล พยายามแก้ตัว ยิ้มแหยๆ
"ใครหลบกันพ่อคุณ...ชั้นแค่ขอเวลารวบรวมนิดหน่อย"
แก๊งทวงหนี้พูดขู่ เสียงดุ ตาดุ พร้อมเดินล้อมหน้าหลังไม่ให้หนีได้
ทวงหนี้1บอก
"งั้นก็จ่ายมา ดอกเบี้ย 2 วัน"
"ห้ามเลื่อนอีก ระวังศพไม่สวย" อีกคนบอก
ราตรีอึกอัก ไม่อยากจ่าย บ่ายเบี่ยง
"มาเย็นๆ ได้มั้ย"
ทวงหนี้1บอก
"ตอนนี้...ต้องเก็บอีกหลายราย ให้ไว"
ราตรีหยิบเงินช้า ถ่วงเวลาหาจังหวะหนี แก๊งทวงหนี้สบตากัน จะค้นตัว ราตรีเลยจำต้องเอาเงินที่ได้จากขาไพ่ออกมาให้ แต่ยังไม่วายแย้งเพราะเกิน
"เอาไปดอกเบี้ยสองวัน ที่เหลือคืนมาด้วย"
ทวงหนี้2 บอก
"เป็นของพรุ่งนี้ละกัน เผื่อป้าจะเบี้ยวหลบหน้าอีก"
"อะไรวะ ไอ้ขี้โกง"
ราตรีเซ็ง แต่พอแก๊งทวงหนี้ถลึงตา จะเอาเรื่อง นางก็ต้องยอมตามระเบียบ
ราตรีหงุดหงิดอารมณ์เสียเดินเข้ามาจากนอกบ้าน รีบตรงไปในห้องครัว เปิดตู้เย็น ภายในตู้เย็นว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่น้ำ ห็ยิ่งหงุดหงิด ตะโกนเรียกหาฟ้าสาง
"นังฟ้า"
เมษาแต่งตัวสวยเดินเข้ามา
"นังฟ้าขี้ข้าส่วนตัวของแม่ มันออกไปทำงานตั้งแต่ไก่โห่แล้วมั้ง"
ราตรีพยักหน้า เพิ่งนึกออก
"ลืมไป"
เมษามองสภาพรอบๆ บ้านแล้วถามแม่
"ว่าแต่ขาไพ่ไปไหนหมด วันนี้ได้เยอะมั้ย แม่"
"ได้กะผีอะไร จ่ายรอบวง แม่เลยไล่เปิดไปหมด ยังไม่พอ เจอไอ้แก๊งทวงหนี้มาดักเอาค่าต๋งไปอีก วันนี้วันซวยจริงๆ"
เมษาหน้าหงิก อารมณ์เสียอีกคน
"อ้าว แม่เป็นเจ้ามือภาษาอะไร แล้วไอ้หนี้นอกระบบน่ะ คิดไงไปกู้มัน...ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ"
"เออๆ หยุดซ้ำเติมเลยนะ เมษา แล้วแกจะไปไหน ทำไมไม่คิดช่วยกันหาเงินบ้าง มีแต่หนี้สิน จะไม่มีกินอยู่แล้ว"
"แม่มีหน้าที่หาเงินไม่ใช่รึ ส่วนชั้น...มีหน้าที่หาความสุขใส่ตัว อ้อ อีกคนที่แม่ควรจะจิกหัวให้มันหาเงินมา นังฟ้าสาง ลูกเลี้ยงนอกไส้ของแม่ไง"
เมษาพูดจบก็สะบัดก้นเดินออกจากบ้านไปไม่สนใจแม่ !
ราตรีมองไปรอบๆ บ้าน พยายามคิดว่าจะหาเงินจากไหน แล้วเธอก็ทำตาเจ้าเล่ห์ ตัดสินใจเดินไปห้องนอนที่ชั้นสอง
เธอเข้าไปรื้อค้นในห้องนอน จนข้าวของกระจุยกระจายเกลื่อนพื้น
"อยู่ที่ไหนวะ ไอ้ผัวเฮงซวย นอนเป็นผัก หมดประโยชน์แล้วยังงก คิดว่าจะซุกซ่อนคนอย่างอีราตรีได้เหรอวะ"
ราตรีจะรื้อตู้ข้างหัวเตียง แต่ล็อก ! เธอไม่ยอมแพ้ เดินไปหยิบพวงกุญแจ มาไขทีละดอก
ผ่านเวลา ราตรีเปิดลิ้นชักตู้ข้างเตียงได้ รื้อค้นข้าวของไปมา
เห็นภาพถ่าย Happy Family ของปรีดากับวันดีแม่ของฟ้าสางและฟ้าสางวัยเด็กตอน 10 ขวบต่างยิ้มแย้มให้กัน เธอสบถด่าใส่ภาพอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ
"นังวันดี แกตายไปตั้งสิบกว่าปี ยังจะมาหลอกมาหลอน ช่วยมารับไอ้ปรีดาผัวแกไปสักทีสิวะ"
ราตรีโยนภาพนั้นลงพื้นห้อง จนกระจกแตกร้าว !
ราตรีรื้อค้นลิ้นชักต่อ ขนพบซองสีน้ำตาล เธอรีบเปิดหยิบโฉนดบ้านพร้อมที่ดินของปรีดาออกมา...ยิ้มตาวาวมากขึ้น
"โฉนดบ้านพร้อมที่ดิน เจอจนได้"
ในร้านกาแฟใดๆ ยามบ่ายที่ไม่ค่อยมีลูกค้า เมษานั่งหน้างอง้ำอยู่ที่โต๊ะ จอมเข้ามานั่งข้างๆ แล้วแอบหอมแก้มเมษาที่เบี่ยงหน้าหนีอย่างรำคาญ
"ไอ้พี่จอม ทำบ้าอะไร"
จอมยิ้ม พูดเสียงหวานใส่
"น้องเมษาจ๋า พี่จอมทำเพราะรักนะจ๊ะ อย่าหน้างอสิ เดี๋ยวไม่สวย ย่นก่อนวัยนะจ๊ะ"
เมษามองจอมแบบจับผิดพร้อมค้อนใส่
"พี่จอม ไหนบอกว่าจะพาไปช้อปปิ้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้าใหม่ไงล่ะ มามุกหวานเกินเหตุเนี่ย สงสัยจะกลบเกลื่อน ถังแตกอีกแล้วใช่มั้ย"
"พี่สัญญาว่าพรุ่งนี้จะพาไป รอพี่ไถ เอ๊ย เก็บเงินก่อนนะจ๊ะ ที่รัก"
เมษาแอบหันมาทำหน้าเบ้ กลอกตา พลางพึมพำ
"ไอ้กระจอก"
"เดี๋ยวเราหิ้วของกินไปจู๋จี๋ต่อที่คอนโดพี่จอมดีกว่านะจ๊ะ"
เมษาฉวยกระเป๋าลุกขึ้น จอมรีบดึงแขนไว้
"ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ช้อปปิ้งวันนี้ อย่าหวังจะได้แอ้ม"
จอมฉุดมือไว้ ไม่อยากให้เมษาไป
"อย่าเพิ่งงอนสิจ๊ะ คนดี"
"ชั้นไม่อยากเป็นคนดี แต่อยากเป็นคนสวยที่รวยด้วย ดังนั้น พี่จอมก็ต้องหาเงินด่วนให้ได้วันนี้ ไม่งั้นเราเลิกกัน"
"ก็ได้ๆ แล้วน้องเมคนงาม มีไอเดียอะไรดีๆ รึเปล่าล่ะ"
เมษายิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับพูดท้าทายจอม
"อยู่ที่พี่จะกล้าทำรึเปล่า"
"เพื่อน้องเม พี่ไม่เกี่ยง บอกมาสิจ๊ะ"
เมษากระซิบบอกแผนการกับจอมที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ หอมแก้มเธอฟอดใหญ่
"น้องเมแฟนพี่ร้ายกาจจริงๆ"
"แล้วพี่จอมจะรออะไรอยู่ล่ะ"
จอมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดโทร.ออก รอสักครู่ มีเสียงฟ้าสางรับสายแว่วมา
"ฮัลโหล"
จอมทำเสียงตกใจ
"น้องฟ้าเหรอจ๊ะ นี่พี่จอมนะ รีบมาหาพี่เดี๋ยวนี้ได้มั้ย น้องเมกำลังไม่สบายหนักมาก"
ฟ้าสางตกใจ
"ได้ค่ะพี่จอม ตอนนี้ฟ้าอยู่บนรถตู้ พี่จอมไปรับฟ้าที่... นะคะ"
จอมวางสายจากฟ้าสาง จอมกับเมษายิ้มให้กันอย่างร้ายๆ
เมียเถื่อน ตอนที่ 1(ต่อ)
บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ฟ้าสางยืนอยู่หน้าร้านด้วยท่าทางกระวนกระวาย ภายในรถของเขต เขามองตรงไป บังเอิญเห็นฟ้าสางอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
"นั่นคุณฟ้านี่นา!"
เขาตั้งใจจะจอดทักฟ้าสาง แต่รถคันหน้าของเขตกดแตรเรียก ฟ้าสางหันไปมองเห็นจอมกดเปิดกระจกฝั่งคนขับออกมาชะโงกมาเรียกฟ้า
"น้องฟ้า ขึ้นมาเลยจ้ะ"
ฟ้าสางเดินขึ้นรถจอมไปต่อหน้าต่อตาเขต จอมออกรถไป เขตมองตามไปแบบเสียดาย
รถคันหลังบีบแตรไล่ ทำให้เขตต้องออกรถตามรถของจอมไป
ภายในรถ ฟ้าสางซักถามจอมเรื่องเมษาด้วยความร้อนใจ
"พี่เมไม่สบาย เป็นอะไรมากรึเปล่าคะพี่จอม"
จอมยิ้ม
"เดี๋ยวถึงที่ก็รู้เองแหละ"
ฟ้าสางนั่งพิงเบาะมองทิวทัศน์ข้างนอกไปเรื่อยๆ ก่อนจะเอะใจ เมื่อเห็นจอมชะลอรถที่ป้ายโมเต็ลแห่งหนึ่ง เธอชักกลัว
"พี่จอมจะพาฟ้าไปไหนคะ"
ฟ้าสางหวาดกลัว จอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
เขตจอดรถอยู่ริมถนน มองรถของจอมเลี้ยวเข้าไปในโมเต็ลตรงหน้า ด้วยแววตาผิดหวัง
"ที่แท้ก็มีแฟนแล้ว แถมยังเข้าโรงแรมกลางวันแสกๆ สวยแต่รูป ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเลย"
เขตส่ายหัว ผิดหวังมาก ก่อนจะตัดใจออกรถ ไม่อยากสนใจฟ้าสางอีก
เมื่อรถจอมเลี้ยวเข้าไปในโมเต็ล มีเด็กมาปิดม่านให้เสร็จสรรพ ฟ้าสางนั่งเบียดชิดประตูรถด้วยความกลัว ก่อนตัดสินใจเปิดกระจก ตะโกนขอความช่วยเหลือ
"ช่วยด้วยค่ะ ฉัน..."
ฟ้าสางพูดยังไม่ทันขาดคำ จอมก็กระชากฟ้าสางกลับเข้ามาในรถ
"อย่าโวยวายเชียวนะมึง ไม่งั้นเจอหนักแน่"
ฟ้าสางยกมือไหว้ น้ำตาคลอเบ้า
"พี่จอมอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"
จอมบีบแขนฟ้าแน่น
"จะให้ปล่อยไปเฉยๆ อย่างนั้นหรือ อย่างน้อยก็น่าจะมีอะไรที่มันพอจะชดเชยกันได้บ้าง"
จอมแบมือกระดิกๆ ฟ้าสางเข้าใจอากัปกิริยานั้น เธอแม้รู้ว่าจอมมาไถเงิน แต่พอคิดถึงพ่อก็กอดกระเป๋าแน่นขึ้นอย่างหวงแหน
"ขอร้องเถอะนะคะ ฉันต้องเอาเงินไปรักษาพ่อ"
"พ่อที่นอนไม่ขยับตัว จะรักษาทำไม เอาเงินมาให้พี่กับน้องเมใช้ดีกว่า หรืออยากจะให้พี่ไปส่งพ่อของน้องลงนรกไวขึ้น"
ฟ้าสางเห็นแววตาเหี้ยมของอีกฝ่าย ก็รู้ว่าจอมพูดจริง ไม่ได้ขู่ เธอหวาดกลัว
"อย่าทำอะไรพ่อฉันนะ!"
จอมแบมืออีก ตาจ้องเขม็ง ฟ้าค่อยๆ เปิดกระเป๋า หยิบซองที่เก็บรวบรวมเงินไว้ออกมา แล้วส่งให้จอมไปสองพันบาท จอมรับไป แต่โวย...
"สองพัน! มันจะไปพอยาไส้อะไร เอามานี่"
จอมกระชากซองใส่เงินไปจากมือ หยิบเงินที่รวบรวมออกมาทั้งหมด แล้วโยนซองเปล่าคืนให้
"เอาคืนมานะ นายจะเอาเงินไปหมด ไม่ได้"
จอมพูดเสียงเข้ม หน้าเหี้ยม ข่มขู่ แล้วเชยคางฟ้าสางมองด้วยสายตาหื่นๆ
"ทำไมจะไม่ได้จ๊ะ...หรือจะแลกกับตัวดี คนสวย"
ฟ้าสางแม้จะกลัวแต่ก็พยายามเบี่ยงให้พ้นมือจอม แต่จอมไม่ยอมปล่อย
"ปล่อยนะ"
ฟ้าสางสู้สุดชีวิต แล้วรีบเอื้อมมือไปบีบแตรรถกดยาว... จอมเลยจำต้องปล่อยตัวเธอ
"เฮ้ย จะบีบทำไมวะ เดี๋ยวก็แตกตื่นกันทั้งโรงแรมหรอก อีนี่"
ฟ้าสางไม่สนใจ รีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งหนีออกไปไม่หันมามองอีก เด็กรูดม่านเดินมามองดูจอมที่ทำหน้ายักษ์ใส่
"มองทำไม"
จอมรีบขับรถออกไปจากโรงแรมอย่างอารมณ์เสีย แต่ยิ้มได้เพราะได้เงินมาแล้ว !
ฟ้าสางยืนหลบมุมอยู่ มองรถจอมที่แล่นออกไป แล้วมองซองเงินว่างเปล่าในมือ เศร้า น้ำตาร่วง
เวลาต่อเนื่องมา จอมหิ้วถุงใส่ของที่เมษาช้อปปิ้งหลายใบยืนอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า เธอมองเป้าหมายร้านต่อไป รีบบอกจอม อารมณ์ดี
"เดี๋ยวเราไปดูรองเท้าร้านโน้นดีกว่า พี่จอม"
จอมฉุดมือเมษาไว้พร้อมกับบอกเสียงอ้อนๆ
"น้องเม พี่จอมหิวแล้ว"
"ก็ได้ หาอะไรแพงๆ กินแก้เบื่อก่อน...แล้วมาช้อปกระจายต่อ เงินจากหยาดเหงื่อของนังฟ้าเนี่ย ใช้สนุกจริงๆ"
"เดี๋ยวคืนนี้เราไปแดนซ์กันต่อมั้ยจ๊ะ"
"ได้จ้า จัดไป"
จอมโอบไหล่เมษาแล้วพากันออกไป ไม่ได้นึกเสียดายเงินแม้แต่น้อย
บริเวณป้ายรถเมล์ ฟ้าสางยังนั่งเศร้า ร้องไห้น้ำตาซึม เสียงมือถือฟ้าสางดังขึ้น หน้าจอขึ้นชื่อ ต่อศักดิ์ เสียงรอบตัวเธอดังมาก บวกกับเธอกำลังเศร้าเลยไม่สนใจ ผู้คนเดินผ่านไปมา ไม่มีใครสนใจเธอเช่นกัน รถคันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบป้ายรถเมล์
ต่อศักดิ์ลดกระจกฝั่งผู้โดยสารแล้วชะโงกหน้าดีใจ
"ฟ้า...อยู่ที่นี่เอง ผมหาตั้งนาน...ทำไมไม่รับสาย"
ฟ้าสางตกใจ รีบเช็ดน้ำตาไม่ให้ต่อศักดิ์เห็น
"ต่อไม่ทำงานหรือคะ"
ต่อศักดิ์รีบลงจากรถแล้วเข้ามาฉุดมือฟ้า
"งานของต่อคือบริการฟ้าไง ขึ้นรถก่อน วันนี้ไปเยี่ยมพ่อรึยัง"
ฟ้าสางนึกถึงพ่อได้เลยยอมขึ้นรถไปกับต่อศักดิ์
ในร้านอาหาร ต่อศักดิ์กับฟ้าสางนั่งที่โต๊ะ มีอาหารวางอยู่บนโต๊ะมากมาย
"ฟ้าครับ ทานเลย ต่อรู้ว่าฟ้ามัวแต่ทำงาน ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงแน่ๆ เดี๋ยวต่อจะพาไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลนะครับ"
"ขอบคุณค่ะ แต่ต่อไม่น่าสั่งอาหารมาเยอะขนาดนี้ ฟ้ากินไม่หมดหรอก"
"ไม่ได้ครับ สำหรับฟ้า ทุกอย่างต้องดีที่สุดเสมอ"
ฟ้าสางทำหน้าลำบากใจ ต่อศักดิ์ตักอาหารใส่จานฟ้าสางเพื่อเอาใจ
"ทำไมฟ้าไม่รอให้ผมมารับล่ะ ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้รอ"
"แต่ฟ้ามาเองได้จริงๆ"
"ฟ้าอย่าพูดแบบนี้สิครับ ฟ้าก็รู้ว่าไม่มีอะไรสำคัญกับผมมากไปกว่าฟ้า ใจของผมอยู่ที่ฟ้านะครับ"
ต่อศักดิ์จับมือเธอไว้ ส่งสายตาหวานเชื่อมใส่ เธออึดอัด ยิ้มให้ตามมารยาท
อีกทางหนึ่ง เขตแวะมาทานข้าว อิ่มแล้วกำลังจะเดินออกไปจากร้าน หางตาเขาเหลือบเห็นฟ้าสาง เลยถอยกลับมาดูให้แน่ใจ เป็นจังหวะที่ต่อศักดิ์จับมือฟ้าสางไว้ แววตาเขาเปลี่ยนเป็นดูถูกเธอทันที
"เมื่อกี้ก็เข้าม่านรูดกับคนนึง ตอนนี้ก็มากินข้าวกับอีกคน ผู้หญิงสมัยนี้ดูแค่หน้าตาไม่ได้จริงๆ"
เขตเดินออกไป หน้าบึ้งตึงเหมือนคนอกหัก เสียดายเสียใจอย่างบอกไม่ถูก พอเขตออกไป ฟ้าสางก็รีบเอามือออกจากมือของต่อศักดิ์ทันที
"ต่ออย่าพูดแบบนี้สิ ฟ้าว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันดีกว่า"
"วันนี้ฟ้ายังไม่รับรักผม แต่สักวัน ผมจะทำให้ฟ้ารักผมให้ได้"
ต่อศักดิ์ยิ้ม มั่นใจมาก ฟ้าสางอึดอัด ทำตัวไม่ถูก
เขตขับรถผ่านป้ายชื่อ โรงเลื่อยศักดิ์สุวรรณ เข้ามาในเวลาเย็นใกล้ค่ำ เขาขับรถผ่านมาตัวบ้านตึกหลังใหญ่ ไปบริเวณหน้าโรงเลื่อย เขาจอดรถ รีบลงจากรถร้อนใจ
ดำเดินออกมา มีสลิงห้อยแขนที่ซ้น มิ่งเดินตามมาอีกคน ทั้ง 2 คนเป็นคนงานในโรงเลื่อย
"ดำ เป็นยังไงบ้าง"
"แขนซ้นนิดหน่อย หมอฉีดยาให้แล้วครับ" ดำบอก
"รู้มั้ย พวกมันเป็นใคร"
"ผมว่าเป็นคนของเสี่ยซ้งครับ คุณเขต" มิ่งบอก
"แต่พวกมันปิดหน้าปิดตานะ ไอ้มิ่ง" ดำบอก
"ที่แน่ๆ คงไม่มาดี"
"เดี๋ยวผมจะไปดูแนวรั้วสักหน่อย" เขตบอก
มิ่งเป็นห่วง
"ตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว...ผมว่าไปพรุ่งนี้ดีกว่านะครับ"
เขตบอกจริงจัง ไม่ยอมรอปัญหา
"กว่าจะถึงพรุ่งนี้ หลักฐานต่างๆ ก็อาจจะหายไปหมดแล้ว"
"งั้นผมไปด้วยครับ"
"ไม่เป็นไร ดำกลับไปนอนพักเถอะ มิ่ง นายพาไปดูหน่อย"
เขตเดินไปที่รถ มิ่งกระโดดไปนั่งท้ายกระบะ เขตขับรถออกไป
เขตเดินสำรวจแนวรั้วของโรงเลื่อยศักดิ์สุวรรณที่เชื่อมต่อกับที่ดินของเสี่ยซ้ง พบว่า แนวรั้วไม่ได้ชำรุดตามกาลเวลา แต่มีรอยตัดเหล็กเข้ามาอย่างจงใจ
"รอยตัดเหล็กยังสดๆ ใหม่ๆ"
"ใช่ครับ"
เสี่ยซ้งพร้อมเบิ้มกับบางเดินเข้ามาหาจากอีกฝั่งรั้ว
"ขยันจังนะ คุณเขต ค่ำๆ มืดๆ มาทำอะไรครับ" ซ้งถาม
"ผมแค่มาดูแนวรั้ว พอดีวันนี้มีหมาหรือแมวพยายามจะแอบเข้ามาครับ เสี่ย"
เสี่ยซ้งหน้ายิ้มแต่แววตากร้าว หันไปมองหน้าเบิ้มกับบาง
"ไอ้เบิ้ม ไอ้บาง เอ็งสองคนเลี้ยงหมารึเปล่าวะ"
"ไม่มีนี่ครับ เสี่ย" เบิ้มบอก
"แมวสักตัวก็ไม่เลี้ยง" บางว่า
"ดีครับ ถ้าผมวางยาเบื่อ จะได้ไม่ตายฟรี...ทั้งหมาทั้งแมว"
เขตพูดไม่หลบตาเสี่ยซ้งก่อนเดินจากไป
เสี่ยซ้งมองไปอย่างไม่เป็นมิตร พูดกับลูกน้องเสียงในลำคอไม่พอใจ
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ปล่อยมันยโสไปก่อน"
"มิ่ง พรุ่งนี้หาคนมาซ่อมแนวรั้ว"
"ได้ครับ คุณเขต"
บ้านปรีดาค่ำแล้ว ฟ้าสางกลับเข้ามาในบ้าน ซื้ออาหารสำเร็จ จำพวก แกงใส่ถุงและไข่มาด้วย
เธอมองเห็นจานชามกองเกลื่อน บ้านรกไปหมด เธอเริ่มเก็บจานชามไปไว้ในครัว แล้วมาเก็บกวาดบ้านที่สองแม่ลูกทำรกไว้
ผ่านเวลา ฟ้าสางล้างจานชามเสร็จ อุ่นแกงถุงไว้รอบนโต๊ะทานข้าว
ราตรีเดินเข้ามาถามเสียงดุๆ พร้อมบ่นว่าไปเรื่อย แต่ฟ้าสางกลับไม่เถียง
"ไปไหนมา กลับจนมืดจนค่ำ บอกว่าเป็นพนักงานโรงหนัง ที่แท้เป็นพนักงานโรงนวดหรือเปล่า ชั้นหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว"
"ฟ้าอุ่นแกงไว้พร้อมแล้ว เดี๋ยวตักข้าวให้นะคะ น้าราตรี"
ราตรีมองอาหารบนโต๊ะแล้วส่ายหน้าเหม็นเบื่อ
"แกงถุงถูกๆ ชั้นไม่กิน"
"งั้นฟ้าเจียวไข่ให้นะคะ"
"เสร็จแล้วยกไปที่ห้องนั่งเล่น ชั้นจะดูละครรอ" แล้วราตรีก็นึกได้หันมาสั่งเพิ่ม "อ้อ เสื้อผ้ายังไม่ได้ซักเลย"
"เดี๋ยวฟ้าซักให้ค่ะ"
"ซักมือนะ จะได้ไม่เปลืองไฟ บ้านนี้มีแต่รายจ่ายไม่มีรายได้ หัดประหยัดบ้าง"
ฟ้าพยักหน้ารับคำ ราตรีเดินออกไป
เธอออกมาจากห้องนอนเมษา มือถือตะกร้าใส่เสื้อผ้าที่จะซัก เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนราตรี เก็บเสื้อผ้าของราตรีใส่ตะกร้า กำลังจะออกไป
ที่พื้นห้อง ฟ้าสางเห็นภาพครอบครัวที่ถ่ายอย่างมีความสุข พ่อ แม่ ลูก ในสภาพกรอบกระจกแตกอยู่ เธอวางตะกร้าผ้า แล้วเดินไปหยิบภาพนั้น...เศร้า
ภาพนั้น... วันดีกับฟ้าสางในวัย 10 ขวบกำลังนั่งอยู่ในสวนของบ้านนี้ ปรีดาตั้งกล้องแล้วรีบวิ่งมาเข้าเฟรม สามคนพ่อแม่ลูกยิ้มกับกล้อง เสียงชัตเตอร์กด !
ต่อมา วันดีนอนป่วยอยู่บนเตียงในห้องของราตรี ซึ่งในอดีต เคยเป็นห้องของพ่อกับแม่ฟ้าสางมาก่อน
ในห้องนั้น ปรีดากับลูกนั่งอยู่ด้วยกัน ต่างจับมือวันดีที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ กำลังสั่งเสียก่อนสิ้นลม
"แม่ฝากลูกด้วยนะพ่อ"
"แม่ทำใจดีๆ ไว้ แม่ต้องหาย"
"ฟ้าไม่ให้แม่ไปไหน ฟ้ารักแม่"
"แม่ก็รักฟ้า"
วันดีพูดจบก็หมดลม มือที่จับลูกกับสามีไว้ร่วงลง
"วันดี"
"แม่จ๋า"
ทั้งคู่ต่างเสียใจ
ฟ้าสางน้ำตาร่วง มือเผลอไปโดนกระจกบาด ราตรีเดินเข้ามาพอดี เอามือจิ้มหน้าผากฟ้าสางหาว่าสำออย
"คิดว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มาสำออยน้ำตาร่วงอยู่ที่นี่"
"ฟ้าขอโทษค่ะ"
ฟ้าสางรีบเก็บรูปพ่อแม่ใส่ตะกร้าผ้าแล้วเดินจะไป
"เดี๋ยว เก็บกวาดเศษกระจกแตกพวกนี้ด้วยสิยะ"
"ค่ะ น้าราตรี"
"แล้วรูปเก่าของพ่อแม่แกน่ะ เอาไปทิ้งด้วย รกบ้านเปล่าๆ"
ฟ้าสางทำท่าจะปฏิเสธ แต่แล้วก็ตัดสินใจนิ่ง
"อย่าให้เลือดแกมาติดเสื้อผ้าของชั้นกับยัยเมล่ะ"
ราตรีพูดพร้อมมองด้วยสายตาเยาะๆ
ผ่านเวลา ฟ้าสางซักผ้ามากมาย ตากเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งทานข้าวที่เหลือเศษจากราตรีอย่างกลืนไม่ลง เธอรีบล้างจานที่ราตรีทานไว้ พร้อมเก็บครัวเรียบร้อย ฟ้าสางมองดูมือที่มีพลาสเตอร์ปิดไว้
ฟ้าสางเดินแกมย่องผ่านราตรีที่เปิดทีวีในห้องนั่งเล่นทิ้งไว้ แต่คุยมือถือ
"วันไหนก็ได้ที่คุณบัญชาสะดวก ดิฉันจะรอ ขอบคุณมากนะคะ"
ฟ้าสางมองราตรีที่วางสายแล้วมองมาพร้อมถาม
"มองอะไร ทำงานเสร็จหรือยัง"
"เสร็จแล้วค่ะ"
ฟ้าสางเดินออกไป ราตรีมองตามด้วยสายตาเหยียด ก่อนหยิบซองใส่โฉนดที่วางอยู่ขึ้นมา เธอยิ้มที่แผนการหาเงินกำลังจะสำเร็จในไม่ช้า
กลางดึก ในห้องนอนเล็กของฟ้าสาง เธอนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง เธอลุกขึ้นเปิดไฟที่หัวเตียง หยิบภาพแห่งความสุขของครอบครัวออกมาดู...
"เดี๋ยวฟ้าจะเปลี่ยนกรอบใหม่ให้นะจ๊ะ แม่จ๋า พ่อจ๋า"
ฟ้าสางวางภาพไว้อย่างทะนุถนอม
เธอมองไปที่อีกภาพหนึ่งบนหัวเตียง ที่เธฮถ่ายคู่กับพ่อ ก่อนที่ปรีดาจะประสบอุบัติเหตุ ในภาพนี้ ฟ้าสางสวมสร้อยจี้เพชรรูปหัวใจเล็กๆ
ในอดีต ปรีดามองฟ้าสางในชุดนักศึกษา แล้วหยิบสร้อยจี้เพชรรูปหัวใจเล็กๆ ออกมาถือไว้
"พ่อให้เป็นรางวัลที่ฟ้าเรียนเก่ง เป็นเด็กดี สร้อยพร้อมจี้เพชรรูปหัวใจนี้ อาจจะไม่มีราคามากมาย แต่เป็นของแทนความรักที่พ่อเคยมอบให้แม่ของฟ้า ตอนนี้จะแทนความรักที่พ่อมีให้ฟ้าตลอดไป...นะลูกนะ"
ปรีดาสวมสร้อยให้ลูก
"ขอบคุณมากค่ะ สร้อยเส้นนี้มีค่ากับฟ้าที่สุด ฟ้าจะเก็บไว้เป็นตัวแทนความรักของพ่อแม่ ของเราสามคนนะคะ"
เธอโผเข้าไปกอดพ่อ ดีใจ
ฟ้าสางพยายามหาสร้อยที่คอซึ่งพ่อให้ แต่หาไม่เจอ
"สร้อยหายไปไหน หรือจะทำร่วง"
เธอได้แต่ร้องไห้...
กลางดึก เขตนั่งทำงานจนดึก แล้วออกไปยืนมองดาว เขาแอบคิดถึงฟ้าสาง นึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ บนผ้าพันคอของเธอคนนั้น...และนึกไปถึงสร้อยพร้อมจี้เพชรรูปหัวใจของฟ้าสางที่ขาดอยู่ที่พื้นในรถที่เขาตัดสินใจเก็บไว้
เขตไปหยิบสร้อยพร้อมจี้หัวใจเพชรที่ขาดของฟ้าสางมาถือไว้
ก่อนตัดสินใจเก็บสร้อยเส้นนั้นไว้ในลิ้นชักหัวเตียง
เมียเถื่อน ตอนที่ 1(ต่อ)
บ้านปรีดา เช้าวันใหม่ ฟ้าสางใส่บาตรพระ 1 รูป แล้วกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ เธอถือภาพครอบครัวมานั่งซึมๆ ในสวน
เมษาชี้ให้ราตรีดูจากด้านในตัวบ้าน
ราตรีเห็นแล้วหงุดหงิด เดินอาดๆ ออกมากระชากภาพไปจากมือ
"ชั้นบอกให้เอาไปทิ้ง เอามานี่"
"อย่านะคะ น้าราตรี ฟ้าขอ..."
ราตรีไม่สนใจ เอาภาพนั้นไปโยนทิ้งถังขยะ
เมษาตามมา ขวางฟ้าสางไว้ มองด้วยสายตาเยาะหยัน
"หยุดนะ แกจะทำอะไรแม่ชั้น นังลูกไม่มีแม่"
เมษายังถือโอกาสตบหน้าฟ้าสางด้วย ฟ้าสางกลั้นน้ำตา เมษาถามเสียงหน้าเชิด
"มองทำไม หรือแกจะตบชั้นกลับ"
"คนอย่างมันไม่กล้าหรอก ดีแต่หน้าด้านหน้าทน อยู่เป็นภาระ ทั้งพ่อทั้งลูก เปลืองข้าวเปลืองน้ำจริงๆ" ราตรีบอก
"ฟ้ากำลังหางานประจำทำ จะได้มีรายได้มาช่วยค่ารักษาพ่อ"
"เมื่อไหร่กัน แกรู้มั้ย พ่อแกนอนเป็นผักสบาย แต่ฉันต้องเสียเงินไปเปล่าๆ อีกเท่าไหร่ ฮึ"
"ก็เลิกรักษาซะเลยสิแม่ จะได้ตายๆ ไปซะที"
"อย่านะคะ น้าราตรี พี่เม ฟ้าสัญญาว่าจะทำงานให้หนักขึ้น อย่าหยุดรักษาพ่อนะคะ"
"งั้นแกก็กราบเท้าชั้นกับแม่ก่อนสิ"
ฟ้าสางพยายามกลั้นน้ำตา กำลังจะยอมกราบเท้าราตรีกับเมษา
เสียงต่อศักดิ์พูดขึ้นก่อนเดินเข้ามา
"อย่ากราบนะฟ้า"
สองแม่ลูกหันไปมองหน้าต่อศักดิ์
"แกเสือกอะไรด้วย" ราตรีถาม
"อย่ามาทำเท่ ปกป้องแฟน เก่งจริง ก็พามันไปจากบ้านนี้สิ"
"ถ้าฟ้าต้องการจะไป ผมก็พร้อมจะพาไป แต่ฟ้าเป็นเจ้าของบ้านนี้ตัวจริง ทำไมฟ้าต้องไปด้วย"
"นังฟ้า เดี๋ยวนี้แกเสี้ยมสอนให้แฟนแกมาก้าวร้าวกับฉันรึไง แม่แกตายไปนานแล้ว ฉันเป็นเมียของพี่ปรีดา แกต่างหากที่มาอาศัย"
"ใช่ จำใส่กะโหลกหนาๆ ของแกไว้" เมษาบอก
"ทำไมพวกคุณใจร้ายอย่างนี้"
ฟ้าสางรีบเข้าไปห้ามต่อศักดิ์
"พอเถอะต่อ"
"แต่..."
ฟ้าสางมองต่อศักดิ์ด้วยสายตาขอร้อง ฝืนทนเพื่อพ่อ เอาความดีชนะใจ ต่อศักดิ์เลยต้องหยุด
เมษาเร่งให้ฟ้าสางมากราบ
"เร็วๆ มากราบ"
ฟ้าสางกราบเท้าราตรี และเมษา
สองแม่ลูกหัวเราะสะใจ พากันเดินผ่านฟ้าสางเพื่อจะเข้าบ้าน เมษาแกล้งเดินเฉียดไหล่ฟ้าสางแรงๆ จนเซ เธอก้มหน้า พยายามกลั้นน้ำตา พอสองแม่ลูกเดินเข้าบ้าน ฟ้าสางรีบวิ่งไปที่ถังขยะ รื้อค้นจนได้ภาพครอบครัวคืนมา เธอสีหน้าดีใจมาก
ต่อศักดิ์มองด้วยความสงสารเห็นใจแล้วอาสา
"กรอบรูปมันแตกนี่ฟ้า ต่อเอาไปใส่กรอบให้ใหม่นะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฟ้าจัดการเองดีกว่า"
ต่อศักดิ์อึดอัดมากที่ฟ้าสางโดนแกล้งเลยพูดขึ้นมา
"ฟ้า ต่อไม่เข้าใจ ทำไมฟ้าต้องทนสองแม่ลูกนี่ด้วย"
ฟ้าสางหันมามองหน้าต่อศักดิ์พร้อมกับพูดด้วยแววตาร้าวราน
"ยังไงน้าร้าตรีก็เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของพ่อ ตอนนี้พ่อป่วย น้าราตรีก็ดูแลเป็นเจ้าของไข้ เพื่อพ่อ...ฟ้าทำได้"
ภายในบ้าน เมษากับราตรีมองต่อศักดิ์คุยกับฟ้าสางอย่างไม่พอใจ
ฟ้าสางเดินกลับเข้ามาในบ้าน แล้วก็ตกใจมาก เพราะพื้นบ้าน สกปรก เลอะเทอะไปด้วยขยะ ข้าวของเกลื่อนกลาด
เมษาเดินถือนมกล่องเข้ามา หลังจากดูดหมดกล่องแล้ว ก็ขว้างกล่องข้ามศีรษะฟ้าสางไป
ราตรียืนมองฟ้าสางเขม็ง จ้องจะหาเรื่อง
"มัวแต่ยืนเซ่อทำไม นังฟ้า บ้านรกเลอะเทอะขนาดนี้ ไม่เห็นหรือไง"
"เห็นค่ะ น้าราตรี"
"เห็นแล้ว ทำไง ร้องไห้ใส่หรือไง นังโง่ รีบเก็บให้ไว"
ฟ้าสางรีบตรงเข้าไปเก็บกวาด
ผ่านเวลา บ้านเริ่มเป็นระเบียบ ฟ้าสางถูพื้นเสร็จ กำลังจะหยิบถังน้ำที่ซักผ้าขี้ริ้วไปเก็บ เมษาเดินออกมา หันไปสบตากับราตรี ก่อนจะไปหยิบถังที่ซักผ้าขี้ริ้วเอามาราดไปบนตัวฟ้าสาง
"อุ๊ย ฉันเห็นว่าแกสกปรก เลยจะอาบน้ำให้"
"นั่น มันน้ำซักผ้าขี้ริ้วนี่จ๊ะ น้องเม"
เมษาทำทีเนียนเป็นตกใจ ไม่รู้มาก่อน
"อุตะ เหรอคะ"
ฟ้าสางอยู่ในสภาพเปียกปอนไปด้วยน้ำสกปรก
"พื้นบ้านสกปรกอีกแล้ว รีบถูใหม่สิยะ"
"ค่ะ น้าราตรี"
สองแม่ลูกพากันหัวเราะ สนุกสนานที่แกล้งฟ้าสางได้
เมษามองฟ้าสางแล้วก็เดินเข้าไปกระชากตัวเธอแรงๆ พร้อมพูดด้วยสีหน้าแววตาเย้ยหยัน
"แล้วก็อย่าทำสำออย วิ่งโร่ไปฟ้องแฟนแกอีก ไม่งั้นแกจะโดนหนักกว่านี้ เข้าใจมั้ย"
เธอได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบ กล้ำกลืนความทุกข์ไว้
ในห้องรับแขก ราตรีวางโฉนดบ้านพร้อมที่ดินตรงหน้าบัญชาพร้อมบอกด้วยเสียงหวานปนเศร้าเพื่อให้เมตตาสงสารพร้อมส่งสายตาอ่อยบัญชาเผื่อฟลุ๊กหาที่เกาะใหม่ได้
"รบกวนคุณบัญชาด้วยนะคะ"
บัญชาหน้าขรึมรับมาเปิด
"โฉนดบ้านพร้อมที่ดินบ้านนี้นี่ครับ"
ราตรีโกหกหน้าตายทั้งที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง
"ใช่ค่ะ สมบัติชิ้นสุดท้ายของดิฉันกับคุณปรีดา...ที่ร่วมสร้างกันมา น่าเสียดาย คุณปรีดาประสบอุบัติเหตุ"
เธอเริ่มร้องไห้
บัญชากับปรีดาจบมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกัน บัญชาไม่รู้เบื้องลึกหนาบาง เลยค่อนข้างเห็นใจราตรี
"อาการปรีดาเป็นอย่างไรบ้างครับ ไม่อยากคิดเลยว่างานเลี้ยงรุ่นครั้งที่แล้ว ปรีดายังควงคุณราตรีออกงานอยู่เลย"
"นอนเป็นเจ้าชายนิทรามาเป็นปีแล้วค่ะ ดีนะคะที่ดิฉันได้รู้จักคุณบัญชาที่เป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยของคุณปรีดา ดิฉันไม่มีหนทางแล้วจริงๆ"
"ความจริง ผมก็ไม่ได้ทำธุรกิจด้านนี้...คุณราตรีน่าจะลองไปติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินโดยตรงนะครับ"
"ดิฉันไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลักเป็นฐาน ลูกสาวก็เพิ่งเรียนจบ ไม่ทำงานทำการเอาแต่เที่ยวเตร่ คงไม่มีธนาคารที่ไหนปล่อยกู้ให้หรอกค่ะ ดิฉันเดือดร้อนจริงๆ ไหนจะค่าใช้จ่ายกินอยู่ในบ้าน ที่สำคัญค่าดูแลรักษาคุณปรีดา"
บัญชาฟังปัญหาของราตรีที่เล่นละครสมบทบาท จึงสงสารและใจอ่อน
"งั้นผมจะลองหาทางให้นะครับ"
ราตรีเดินเข้าไปนั่งข้างๆ บัญชาพร้อมยกมือไหว้บัญชาที่ไหล่อย่างอ่อนน้อม
"ดิฉันกราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ"
บัญชารับไหว้ราตรี ขยับนิดหน่อย รักษาระยะห่าง
ผ่านไปหลายวัน ราตรีถือเช็คในมือ ยิ้มหน้าบานดีใจมากมาย เมษาเดินเข้ามา รีบถามแม่
"แม่ ได้เช็คมาแล้วใช่มั้ย"
"ใช่"
เมษาดึงเช็คไปดูแล้วหัวเราะมีความสุข
"โอ้โห...บ้านนี้จำนองได้ตั้งสองล้านเลยเหรอแม่"
"บ้านพร้อมที่ดินในกรุงเทพฯ ก็ต้องราคานี้แหละ นี่ยังไม่เต็มวงเงินเลยนะ"
เมษาเก็บอาการไม่อยู่ กรี๊ดดีใจ ราตรีรีบดึงเช็คไปพร้อมกับห้ามไม่ให้เมษาเสียงดัง
"อย่าดังไป เดี๋ยวนังฟ้ามันรู้"
เมษาเลยรีบเข้าไปกระซิบกระซาบกับแม่
"ชั้นดีใจมากไปหน่อย"
เมษาพูดจบก็แบมือ ทำหน้าอ้อนแม่
"ขอชั้นเอาไปช็อปปิ้งแก้เบื่อสักสองแสนได้เปล่า แม่"
"สำหรับลูกสาวคนเดียวของแม่ ทำไมจะไม่ได้"
"งั้นเราไปธนาคารกันเลยนะจ๊ะ แม่จ๋า"
สองแม่ลูกพากันออกไป อารมณ์ดีมากมาย
ฟ้าสางเดินเข้ามา เก็บจานชามที่สองแม่ลูกทำไว้ ยังทำงานบ้านราวคนใช้เหมือนเดิม
เวลาต่อเนื่องมา ฟ้าสางไปดูแลพ่อที่โรงพยาบาล ปรีดานอนลืมตา กึ่งเจ้าชายนิทรา...เหมือนไม่รับรู้ เธอได้รับใบแจ้งหนี้ค่ารักษาพ่อจากโรงพยาบาล
ใบหน้าปรีดา มีหยดน้ำตาไหลลงมา แท้จริงแล้วรับรู้ความทุกข์ของลูก แต่บอกไม่ได้
ฟ้าสางหยิบกระเป๋าสตางค์มาดูเงิน สีหน้าเป็นทุกข์ใจเพราะเงินไม่พอจ่าย
จบตอน 1 อ่านต่อตอนที่ 2 / 09.30 น.