xs
xsm
sm
md
lg

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 3

ภายในร้านอาหาร พนักงานวางเครื่องดื่มให้เมษากับชายชาติ

“นี่พี่ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าเมจะโทรชวนพี่มากินข้าว”
“ทำไมหรือคะ”
“ก็พี่โทรชวนเมทีไร เมก็บอกว่าไม่ว่างติดงานตลอด”
“ก็เมพอจะมีเวลา ก็เลยรีบนัดพี่ชายไง”
“แล้วเมว่ามีเรื่องอะไรจะถามพี่หรือ”
“นายเขาให้เมตามเรื่องพวกลักลอบตัดเศียรพระน่ะค่ะ แล้วเมก็เคยได้ยินว่าหน่วยฉก.ของพี่ก็กำลังตามเรื่องนี้อยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือ”
“ใช่จ้ะ ทำไมหรือ”
“เมเลยอยากถามพี่ชายว่ารู้จักคนชื่อไมค์ โจ๊กเกอร์ มั้ยคะ”
“ไมค์ โจ๊กเกอร์ ไม่เคยได้ยินชื่อ มันเป็นพวกค้าของเถื่อนหรือ”
“ใช่ค่ะ เมอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับมัน”
“เอาไว้กลับไปที่ทำงานพี่จะลองถามพรรคพวกดูให้นะ”
“ขอบคุณพี่ชายมากค่ะ”
ระหว่างนั้น ขั้นเทพเดินผ่านมาหยุดด้านหลังเมษาเพื่อทักทายชายชาติ
“อ้าว ชาย”
ชายชาติชะงักมอง
“อ้าว”
เมษาหันไปมองชะงัก ขั้นเทพก็ชะงักเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าจะเจอเมษา
“นี่นาย”
“สวัสดีครับคุณสวยเสมอ”
ชายชาติมองขั้นเทพกับเมษา เมษามองหน้าขั้นเทพแล้วมองชายชาติอย่างแปลกใจ
“นี่พี่ชายรู้จักนายเคนด้วยหรือคะ”
“อ๋อ หวัดดีนายเคน”
“ก่อนผมจะมาอยู่กับคุณไมค์ผมเคยขับรถให้คุณพ่อคุณชายมาก่อนน่ะครับ กี่ปีแล้วนะครับคุณชาย”
“สองปีมั้ง”
“ใช่ครับ สองปี”
เมษามองหน้าขั้นเทพอย่างข้องใจ
“ขอตัวก่อนนะครับคุณชาย ผมไปก่อนนะครับคุณสวยเสมอ นี่ถ้าคุณไมค์รู้ คุณไมค์ต้องเสียใจแย่เลย”
ขั้นเทพเดินออกไป เมษามองตาม
“มีอะไรหรือ ทำไมน้องเมทำท่าเหมือนสงสัยอะไรนายเคน”
“เขาเป็นคนขับรถของไอ้ไมค์ โจ๊กเกอร์”
“อ้าวหรือ แล้วไม่บอกพี่”
“พี่ชายรออยู่นี่นะคะ เมขอตามไปดูเขาหน่อย”
เมษาวิ่งออกไป เสียงโทรศัพท์มือถือของชายชาติดังขึ้น
“ฮัลโหล”
ขั้นเทพยืนหลบอยู่มุมหนึ่งของโรงแรม กำลังพูดโทรศัพท์กับชายชาติ
“เฮ้ย ชาย นายไม่ต้องบอกผู้หญิงที่มากับนายนะว่าฉันเป็นตำรวจ”
“ทำไมหรือ”
“เกี่ยวกับเรื่องงาน อ้อ แต่ฉันจะเตือนนายอย่างนะ ผู้หญิงคนนี้เจ้าชู้นะ ท่าทางจะมีกิ๊กเยอะ”
ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์ หันมาเจอเมษายืนจ้องอยู่
“อ้าวคุณ นี่คุณทานข้าวเสร็จแล้วหรือครับ”
“ยัง”
“แล้วมีอะไรกับผมหรือครับ”
“มี ฉันจะถามว่าคุณไมค์อยู่ไหน”
“คุณนี่ร้ายจริง ๆ นะ คุณสวยเสมอ กินข้าวกับผู้ชายคนหนึ่งยังจะถามหาผู้ชายอีกคน ถามจริง ๆ คุณมีกิ๊กกี่คนเนี่ย”
“กิ๊กกั๊กอะไร ฉันมีสิทธิ์ที่จะคุยหรือกินข้าวกับใครก็ได้ ฉันเป็นเซลล์ขายของ”
“แต่ผมคิดว่าคุณคงจะไม่ได้ขายวัตถุโบราณอย่างเดียวแล้วล่ะ ผมว่าคุณคงต้องขายอย่างอื่นด้วย”
เมษาตบหน้าขั้นเทพทันที
“ฉันว่านายเอาหมาออกจากปากบ้างก็ดีนะ”
“เรื่องอะไรมาตบผมเนี่ย”
“ก็นายว่าฉันขายอะไร นายจะหมายถึงฉันขายตัวด้วยใช่มั้ยล่ะ”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้น”
“แล้วหมายความว่าไง”
“เอาล่ะ ผมไม่พูดกับคุณแล้ว พูดไปผมก็เจ็บตัวฟรีเปล่า ๆ”
ขั้นเทพจะเดินผละไป เมษารีบคว้าแขนชายหนุ่มไว้

“เดี๋ยว”

ขั้นเทพจะสะบัด แต่เมษาบิดมือเขาไพล่หลัง

“โอ๊ย”
เมษาดันตัวขั้นเทพไปชิดผนัง
“พูดมาดี ๆ นะ ว่าฉันขายอะไร”
“ผมไม่พูด แล้วคุณจะทำไม”
ขั้นเทพจ้อง เมษาจ้องตอบ
“หรือคุณจะกัดปากผมให้ผมพูด”
ขั้นเทพทำปากจู๋ เมษาโกรธ
“ได้ ถ้านายต้องการอย่างงั้น”
เมษากระแทกเข่าเข้าเป้าขั้นเทพอย่างจัง จนชายหนุ่มงอตัว ทรุดนอนกุมเป้า
“นี่คุณ”
“ตอนแรกฉันก็กะว่าจะกัดปากนายเหมือนกัน แต่คิดอีกที ปากนายมีหมาอยู่ ก็เลยไล่หมาออกจากปากให้นายดีกว่า หมาออกไปรึยัง”
ขั้นเทพนิ่งเม้มปาก เมษามองอย่างพอใจ
“แสดงว่าหมาออกไปแล้ว”
เมษาเดินออกไป
“โอ๊ย แม่นี่พิษรอบตัวจริง ๆ สงสัยจะเป็นมวยไทย เข่าคมชะมัด โอ๊ย”
ขั้นเทพหน้าเหยเก

เมษากลับมานั่งที่โต๊ะอาหาร ชายชาติตักอาหารให้
“เมลองนี่สิอร่อยจัง”
“พอแล้วค่ะ พี่ชาย พี่ชายทานเถอะค่ะ ช่วงนี้เมกำลังลดน้ำหนัก”
“ลดทำไม พี่ว่าขนาดนี้กำลังสวยนะ”
“ไม่ใช่เรื่องสวยหรอกค่ะ งานของเมต้องการความคล่องตัว ขืนอ้วนตุ๊ต๊ะผู้ร้ายยิงตายพอดี”
“พี่ว่าเมน่าจะย้ายแผนกนะ ถ้าอีกหน่อยเราแต่งงานกัน พี่ก็ไม่อยากให้เมต้องออกไปเสี่ยงแบบนี้”
“เมบอกแล้วไงคะว่าอย่าพูดเรื่องแต่งงานกับเม”
“พี่รู้ว่าเมยังสนุกกับงาน พี่เพียงแต่”
“พี่ชายคะ เมเคยบอกแล้วนะคะว่าเมคิดกับพี่ชายเป็นเหมือนพี่ของเมมากกว่า”
“แต่พี่รักเมจริง ๆ นะ แล้วก็รักมานานแล้ว”
เมษามองชายชาติ เซ็งมาก
“ก็นี่แหละ ถึงเป็นสาเหตุที่เมไม่อยากมากินข้าวกับพี่”
เมษาวางช้อนขยับจะลุก
“เอาล่ะ ใจเย็น พี่ขอโทษ”
“พี่ไม่ต้องขอโทษเมหรอก เมขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวสิเม”
ชายชาติคว้ามือเมษา หญิงสาวมองมือ
“เมมีงานค่ะ”
ชายชาติจำใจปล่อยมือ เมษาคว้ากระเป๋า
“เดี๋ยวเม เมไม่โกรธพี่นะ”
“ค่ะ เมไม่โกรธพี่หรอก”
เมษาบอกเสียงเรียบ แล้วเดินออกไป ชายชาติกำหมัดทุบโต๊ะเจ็บใจ

ไมค์ โจ๊กเกอร์ ขับรถเข้ามาจอด เดินผ่านหน้าร้านตัดผม ชะงักมองกระจก
“เล็มผมซะหน่อยดีกว่าเรา”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินเข้าไปในร้านไป สักพัก ช่างตัดผมตัดเสร็จ สะบัดผ้าคลุมตัดผมออก
“เป็นไงครับ”
“อืม โอเค ช่วยโกนเคราให้หน่อยสิ ฉันจะหลับซะหน่อย”
“ได้เลยครับท่าน เดี๋ยวผมทำให้อย่างหล่อเลย”
ช่างปรับเก้าอี้เอนนอนให้ ไมค์ โจ๊กเกอร์ หลับตา ช่างหยิบครีมโกนหนวดทาคอ ทาเคราให้เต็มหน้า พลางบอกผู้ช่วย
“สาว ขอผ้าร้อนสองผืน”
“ค่ะ พี่ปื๊ด”
“เฮ้ย หนุ่มที่นี่มีตัดผมแบบพิเศษมั้ย”
“พิเศษยังไงครับ”
“ตัดแล้วมีอย่างอื่นด้วย แบบมีสาว ๆ หลังร้าน”
“ไม่มีหรอกครับ ร้านผมตัดผมอาชีพครับ”
ช่างบอกอย่างไม่พอใจ ประตูร้านเปิดเข้ามา ช่างหันไปมอง
“อ้าว สวัสดีครับเฮียฮง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ชะงัก มองกระจก เห็นเฮียฮงเดินเข้ามาในร้าน เขารีบพลิกหน้าหลบไปอีกทาง
“หา เฮียฮง ตายแล้วเรา”
ช่างตัดผมเชิญเฮียฮงเข้ามาด้านใน

“โต๊ะสี่นี่เลยครับ ติดกับพี่เขาเลย”

เฮียฮงมองไมค์ โจ๊กเกอร์ ซึ่งมีครีมปิดหน้าอยู่ ไมค์ โจ๊กเกอร์หันหน้าหลบไปอีกทาง เฮียฮงชะเง้อมอง ไมค์ โจ๊กเกอร์พยายามบิดหน้าหลบ ลูกน้องเฮียฮง 2 คนเดินเข้ามาในร้านลงนั่งที่เก้าอี้รับแขก

“รอสักครู่นะครับ เฮียฮง เดี๋ยวผมโกนหนวดให้พี่เขาก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมตัดให้”
“นานมั้ย”
“ไม่นานหรอกครับ หันมาทางนี้ครับ”
ช่างบิดหน้าไมค์ โจ๊กเกอร์ หันมา หยิบมีดโกนขึ้นมาสะบัด เฮียฮงหันมาบอกลูกน้อง
“ไอ้นุ ที่ข้าให้เอ็งไปตามหาตัวไอ้บุญเลิศถึงไหนแล้ววะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ สะดุ้ง มีดโกนปาดใต้คาง
“ผมให้ลูกน้องตามอยู่ครับ แต่ไม่รู้มันหายไปไหน”
“แต่ผมได้ยินมาว่ามันไปเป็นสายให้ตำรวจครับเฮีย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ขยับตัวอึกอัก พยายามบิดหน้าหนี
“พี่ครับ อย่าขยับหน้าครับ เดี๋ยวมีดโกนบาดคอครับ”
ช่างจับหน้าไมค์ โจ๊กเกอร์ บิดกลับมา เฮียฮงหันไปพูดกับลูกน้องต่อ
“มันคงนึกว่าอยู่กับตำรวจแล้วมันจะปลอดภัย เอ็งสองคนจำไว้นะ ถ้าเจอหน้ามันที่ไหน กระทืบมันให้จมดินเลย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ สะดุ้ง มีดโกนปาดเครา ช่างชะงัก
“พี่ พี่เป็นอะไรครับ พี่อยู่นิ่ง ๆ นะ เดี๋ยวมีดโกนบาดคอขึ้นมา ผมยุ่งนะครับ”
เฮียฮงมองชะเง้อ ไมค์ โจ๊กเกอร์ พยายามบิดหน้าหลบ
“พี่อย่าหลบหน้าไปทางนั้นสิครับ”
เฮียฮงมองชะเง้อสงสัยว่าเป็นอะไร
“ไม่ต้องห่วงครับเสี่ย ผมจะเอาให้มันปางตายเลย”
“ไอ้บุญเลิศ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์สะดุ้งตกใจ เฮียฮงบอกกับตัวเอง
“ไม่ช้ามึงจะต้องหมดบุญ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์กลัวจัด
“ช่าง เสร็จแล้วเรียกนะ ฉันจะงีบซะหน่อย”
“งั้นเดี๋ยวผมปรับเก้าอี้ให้ครับ”
ช่างหันไปปรับเก้าอี้ให้เฮียฮงลงนอน ไมค์ โจ๊กเกอร์ ขยับลุกขึ้น
“อ้าว ยังไม่เสร็จนะครับพี่”
“ฉันรีบ”
“เดี๋ยวผมเช็ดครีมให้ก่อน”
“ไม่ต้อง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินออกไป ยกเสื้อปิดหน้า เฮียฮงมอง
“ไอ้นี่ท่าทางจะเป็นคนบ้ารึเปล่าวะช่าง อยู่ ๆ ก็พรวดพราดออกไป”
“สงสัยได้ยินเสี่ยคุยว่าจะกระทืบใครก็เลยกลัวมั้งครับ”
เฮียฮงหัวเราะ ปรับเก้าอี้หงายนอนไป
ไมค์ โจ๊กเกอร์ วิ่งออกมาที่รถ เปิดประตูเข้าไปนั่ง ดึงทิชชู่เช็ดครีมที่หน้า
“เกือบไปแล้วเรา ดีนะที่พวกมันไม่เห็นหน้าเรา ไม่งั้นเราจมดินแน่”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ สตาร์ทรถขับออกไป

เควิน สมิธ มาที่บ้านวัฒนา และมองสำรวจเศียรพระที่อยู่ในห้องทำงานของวัฒนา วัฒนานั่งอยู่ในห้องกับประไพพรรณ ทั้งสองมองเควิน เห็นเควินพยักหน้าพอใจ
“คุณสนใจองค์นี้หรือ”
“ใช่ ผมเอาองค์นี้”
“แล้วที่เหลือล่ะครับ องค์นี้ก็เก่ามากนะ ถึงยุค”
วัฒนาหยิบพระอีกองค์ให้ดู
“ไม่ล่ะ ผมสนใจอีกองค์หนึ่ง”
เควินหยิบไอแพดชี้ให้ดูรูปหลวงพ่อคำเกลี้ยง
“หลวงพ่อคำเกลี้ยงหรือครับ”
“ใช่”
“ผมก็ให้คนหาให้อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่กับใคร”
“คุณก็พยายามหน่อยสิ”
“ครับ ถ้าได้เรื่องยังไงผมจะรีบติดต่อคุณ แต่ผมว่าราคาน่าจะสูงนะครับ”
“ไม่มีปัญหา ผมสู้ทุกราคา เอาล่ะ ผมขอตัวก่อน กับข้าวอร่อยมากครับคุณพรรณ”
“ขอบคุณค่ะ ก่อนกลับมาทานอีกนะคะ”
“ถ้าว่างผมจะมาอีก ยินดีที่ได้ทำธุรกิจกัน”
เควินยื่นมือมาจับมือกับวัฒนา แล้วเดินออกไป ประไพพรรณมองตาม
“ฉันว่าคุณต้องรีบหาหลวงพ่อคำเกลี้ยงให้เควิน สมิธนะ”

“ผมก็ตามอยู่ แต่ไอ้คนที่เอาไปมันคงกลัวตำรวจ มันถึงได้เก็บเงียบ” วัฒนากลุ้ม

ปึกมาที่มูลนิธิเควินโฮป มองเข้าไปในมูลนิธิ ก่อนยกมือไหว้

“เจ้าประคู้น ขอให้หลวงพ่อคำเกลี้ยงดลใจให้ลูกได้เจอฝรั่งเจ๋ง ๆ สักคนเถอะ”
ปึกสูดลมหายใจลึกก่อนเดินเข้าไปด้านใน พอเจอเจ้าหน้าที่ ก็รีบเดินไปหา
“สวัสดีค่ะ หนูซื่อหนูปึกค่ะ หนูสิมาหาผัว เอ๊ย บ่แม่นค่ะ หนูอยากจะมาหางานทำน่ะค่ะ”
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงส่งใบสมัครให้
“คุณเอาใบสมัครนี่ไปกรอกชื่อที่อยู่นะ แล้วก็ระบุลงไปว่าอยากทำงานอะไร แล้วทำอะไรเป็นบ้าง อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่”
“ขอบคุณค่ะ”
ปึกรับกระดาษใบสมัครเดินไปที่ลานด้านนอกแล้วลงนั่งเขียน ครุ่นคิดว่าจะเขียนเงินเดือนเท่าไหร่
ระหว่างนั้น ปีเตอร์นั่งดูปึกกรอกเอกสารผ่านจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิดด้วยความสนใจ ก่อนตัดสินใจเดินออกจากห้องไปหาปึก
“สวัสดีครับ ผมชื่อปีเตอร์ เป็นเมเนเจอร์ของมูลนิธิครับ”
“สวัสดีค่ะ มายเนมอีสหนูปึกค่ะ”
“อ้อ พูดภาษาอังกฤษได้ด้วยนะ”
“นิดหน่อยค่ะ”
“ทำไมถึงมาสมัครทำงานที่นี่ล่ะครับ”
“หนูปึกพูดตรง ๆ นะคะ หนูปึกไม่ได้อยากมาทำงานเหรอกค่ะ หนูปึกอยากจะมาหาคู่มากกว่า”
“อ๋อ อยากหาแฟน”
“ใช่ค่ะ หนูปึกอยากมีแฟนฝรั่งน่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นเชิญที่ห้องผมเลย ขอสัมภาษณ์หน่อย”
“จริงหรือคะ”
“ตามผมมาเลย”
ปีเตอร์ยิ้มให้ ก่อนเดินนำปึกมาที่ห้องส่วนตัว ปึกยิ้มเดินเข้าไป ปีเตอร์เอาป้ายห้ามรบกวนขึ้นม
แขวนแล้วปิดประตู

ปึกนั่งหน้าโต๊ะทำงาน ปีเตอร์เดินไปที่โต๊ะวางเครื่องดื่ม หยิบแก้วน้ำออกมา
“คุณจะดื่มอะไร”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
ปึกเห็นน้ำอัดลมกระป๋อง
“ขอเอสก็ได้ค่ะ”
ปีเตอร์เอาน้ำแข็งใส่แก้ว หยิบเครื่องดื่มเปิดเท ปึกมองซ้ายขวารอบห้อง ปีเตอร์เหลือบมองหญิงสาวแล้วหยิบยาเม็ดจากแขนเสื้อใส่ลงไปในแก้ว แล้วนำมาให้ปึก
“เชิญครับ”
“เมื่อกี้คุณบอกว่าจะสัมภาษณ์อะไรหนูปึกหรือคะ”
“ผมอยากรู้ว่าคุณชอบฝรั่งชาติไหน”
“ชาติไหนก็ได้ค่ะ ขอให้รวยหน่อย”
“อ๋อ เน้นที่เรื่องรวย”
“ใช่ค่ะ”
“หนุ่มหรือแก่”
“ได้ทั้งนั้นล่ะค่ะ”
“แล้วอย่างผมโอเคมั้ย”
ปึกตะลึง
“นี่คุณปีเตอร์จะ”
“ผมเองก็ยังเป็นโสดแล้วผมก็ชอบคุณนะ”
“จริงหรือคะ”
ปีเตอร์ยิ้มให้ ปึกมองปลื้ม คิดในใจทันที
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าหลวงพ่อจะดลบันดาลให้เจอเร็วขนาดนี้”
ปีเตอร์เห็นปึกเงียบไป
“ว่ายังไง คุณยังไม่บอกเลยว่าอย่างผมชอบมั้ย”
“ชอบค่ะ คุณปีเตอร์ก็ยังไม่แก่ ว่าแต่คุณปีเตอร์มีฐานะเป็นยังไงคะ รวยมั้ยคะ”
“ผมก็ไม่รวยมากพอมีพอกิน มีรายได้ปีหนึ่งสามถึงสี่ล้านบาท”
ปึกตาโต
“สามสี่ล้านหรือ สิบสองสามสามสิบหก เดือนละสามแสนหก ถ้าอย่างงั้นก็โอเคเลยค่ะ แล้วหนูปึกต้องทำไงบ้างคะ”
“ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไร ดื่มน้ำก่อน เดี๋ยวจะได้คุยเรื่องส่วนตัวกัน”
“ได้ค่ะ”
ปึกหยิบแก้วเครื่องดื่มมาดื่ม ปีเตอร์ยกแก้วของตัวเองดื่ม มองปึกอมยิ้ม
“คุณปีเตอร์จะคุยเรื่องอะไรคะ”
“สูงเท่าไหร่”
“ตอนจบมอสามสูงร้อยหกสิบเจ็ดค่ะ”
“สัดส่วนล่ะ”
“ต้องบอกสัดส่วนด้วยหรือคะ”
ปีเตอร์พยักหน้า
“เอ่อ หน้าอกก็สามสิบสอง เอวก็ยี่สิบสาม”
ปึกมองปีเตอร์ เห็นหน้าปีเตอร์เริ่มเบลอ เธอสะบัดคอพยายามจ้อง
“เอวเท่าไหร่”
“ทำไมหนูปึกเห็นคุณปีเตอร์บ่ชัดเลยคะ เดี๋ยวเด้อค่ะ”
ปึกพยายามเพ่งมอง
“สะโพกเท่าไหร่ สะโพกหนูปึกเท่าไหร่จ๊ะ”
“สะโพก....”
ปึกคอพับพลิกหลับล้มลงกับเก้าอี้ ปีเตอร์มองสำรวจสัดส่วนของปึก
“สะโพกเธอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสามสิบสี่”
ปีเตอร์ตีสะโพกปึกอย่างย่ามใจ แล้วเดินไปใส่กลอนล็อคประตู ก่อนจะอุ้มปึกมาวางลงบนเตียง
“อยากมีผัวฝรั่งรึ จะให้สมใจล่ะ”
ปีเตอร์ปลดกระดุมเสื้อมองอย่างหื่นกระหาย แล้วก้มลงจะจูบแก้ม ปึกพลิกตัวไปอีกฝั่ง ปีเตอร์ขำ
“เดี๋ยวเธอก็จะได้เป็นเมียฝรั่งแล้ว”
ปีเตอร์หยิบยาจากกระเป๋ากางเกงออกมา
“ต้องให้กินยารักสนุกซะหน่อย”
ปีเตอร์ยัดยาใส่ปากปึก แล้วหันไปถอดกางเกงเหลือเพียงบ๊อคเซอร์ หยิบกางเกงหันไปแขวนที่ราวด้านหลังแล้วหันกลับมา สะดุ้งตกใจ เพราะปึกหายไปจากบนเตียง ปีเตอร์กวาดตามองหา เห็นปึกตกลงไปนอนอีกฝั่งหนึ่งของเตียง จึงเข้าไปอุ้ม ปึกเริ่มผลักไสพัลวัน
“นังนี่แรงเยอะจริง”
ปีเตอร์ลากปึกกลับขึ้นมาบนเตียง
“สงสัยต้องเพิ่มยาอีกเม็ด”
ปีเตอร์หันไปหยิบยาจากกระเป๋ากางเกง จะยัดใส่ปากปึก ปึกปัดยาตก จนเขาเริ่มโกรธ
“อีนี่นี่”
ปีเตอร์ก้มลงมองใต้เตียง หายาที่ตก พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นปึกนั่งอยู่บนเตียงอย่างงุนงง
“ที่นี่ที่ไสวะ”
ปึกมองหน้าปีเตอร์เบลอ ๆ
“ข้อยอยู่ไสวะเนี่ย”
“ใจเย็นหนูปึก”
ปึกกระพริบตาถี่ เห็นปีเตอร์ใส่บอกเซอร์
“เจ้าเป็นไผวะ อยู่ ๆ มายืนแก้ผ้า”
“ฉันปีเตอร์ ที่เธออยากจะได้เป็นผัวไง”
“เฮ่ย บ่ บ่ เรายังบ่ได้แต่งงานกันสิเป็นผัวเมียได้จะใด๋”
ปึกลุกเซจะเดินไปที่ประตู ปีเตอร์คว้ารัดตัวไว้
“เดี๋ยวสิ จะไปไหน เรายังไม่ได้เป็นผัวเมียกันเลย”
“ปล่อยนะ ปล่อยข้อย”
“อย่าเสียงดัง”
ปีเตอร์ลากตัวปิดปากปึกมาที่เตียง ปึกดิ้น
“บ่เฮ็ดจั่งซี่ ปล่อยข้อยเด้อ”
ปึกศอกใส่ท้องปีเตอร์ จนหงายหลังลงเตียง แล้วเธอก็เดินเซไปที่ประตู ปลดล็อคกลอนออก ปีเตอร์ตามเข้ามาคว้าแขน ปึกศอกใส่ จนปีเตอร์ชะงัก จุก แล้วเธอก็เดินโซซัดโซเซออกจากห้องไป ปีเตอร์รีบคว้ากางเกงใส่เสื้อ
“นังนี่ฤทธิ์มากจริง ๆ”
ปึกเดินเซออกมาจากห้องเห็นคนมอง
“ข้อยสิกลับบ้าน ไปทางไส”
“ประตูอยู่ทางนู้น”
เจ้าหน้าที่บอก ปึกพยายามรีบเดิน เซไปมา ปีเตอร์วิ่งตามออกมามองซ้ายขวา
“เห็นผู้หญิงคนเมื่อกี้มั้ย เธอขโมยเงินมูลนิธิเรา”
“ไปทางนู้นค่ะ”

ปีเตอร์วิ่งตามปึกไป
 
อ่านต่อหน้า 2

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 3 (ต่อ)

ปึกวิ่งเซออกมาหน้าถนน แสงอาทิตย์แยงตา เธอเริ่มตาลาย ทุกอย่างเบลอไปหมด
 
ปีเตอร์วิ่งเลี้ยวออกมา ชี้หน้าตะโกนเรียก ปึกตัดสินใจวิ่งฝ่าไฟเขียวข้ามสี่แยก รถเก่า ๆ ของไมค์ โจ๊กเกอร์ เลี้ยวออกมาพุ่งจะชนปึก รถเบรกกะทันหัน ปึกกระเด็นกลิ้งผ่านกระโปรงรถไปอีกฝั่ง
“ตายห่าแล้ว”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ วิ่งอ้อมลงมาดู เห็นปึกนอนสลบอยู่ข้างรถ จึงเขย่าตัวเรียก
“น้อง น้อง เป็นอะไรรึเปล่า”
วินมอเตอร์ไซค์เข้ามาดู
“สงสัยจะคอหักตายนะพี่”
“จริงหรือ”
ปีเตอร์วิ่งแหวกคนเข้ามา เห็นปึกนอนอยู่ ปึกลืมตามอง เห็นหน้าปีเตอร์จ้องอยู่ จึงคว้าคอไมค์ โจ๊กเกอร์
“ซ่วยข้อยแน้ มันสิขืนใจข้อย”
ปึกชี้ไปที่ปีเตอร์ ปีเตอร์ชะงักถอยหลังออกไป ทำให้ไมค์ โจ๊กเกอร์ไม่รู้ว่าปึกชี้หน้าใคร
“มันสิขืนใจข้อย ซ่วยข้อยแน้”
“ไผ ผู้ใดสิขืนใจเจ้า”
ปีเตอร์ผละหนีไป
“ซ่วยข้อยแน้ อ้ายรูปหล่อ ซ่วยข้อย”
ปึกสลบคอพับไป
“น้อง น้อง อีนาง อีนาง”
“พาไปส่งโรงพยาบาลก่อนดีกว่าพี่”
หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์แนะ ไมค์ โจ๊กเกอร์ อุ้มปึกเข้ารถแล้วขับออกไป ปีเตอร์มองตามอย่างเสียดาย

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่บ้านขั้นเทพ แล้วหันมาปลุกเรียกปึก ปึกยังสลบไม่ไดสติ เขาจึงอุ้มเธอเดินเข้าบ้าน ไปวางบนโซฟา
“โอ๊ย เหนื่อยโว้ย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่ม แล้วเดินกลับมาหยุดมองปึก เห็นหญิงสาวเริ่มขยับตัว
“น้อง น้อง”
ปึกลืมตามอง เห็นหน้าไมค์ โจ๊กเกอร์ เบลอ ๆ
“ตื่นแล้วหรือ เอา ดื่มน้ำซะหน่อย”
ปึกรับน้ำมาดื่มอย่างกระหายจนสำลัก
“ใจเย็น ๆ”
ปึกดื่มน้ำแล้วหายใจหอบ ยกน้ำทีเหลือขึ้นราดใส่หัว
“อ้าว ราดน้ำทำไม”
“ข้อยร้อนหลาย ๆ เด้อ”
ปึกทำท่าจะถอดเสื้อ ไมค์ โจ๊กเกอร์ ตกใจ
“น้อง นี่เธอจะทำอะไร”
ปึกกระชากเสื้อตัวนอกออก เหลือเสื้อทับชั้นใน
“ก็บอกว่าฮ้อน ฮอท เวรี่ฮอท”
“ฉันว่าเธอถอดเสื้อแบบนี้ไม่ดีนะ”
“ข้อยฮ้อนเด้ออ้าย อ้ายรูปหล่อ อ้ายซ่วยข้อยแน้ ข้อยทนบ่ไหวแล่ว”
ปึกแววตาเร่าร้อน
“เอ่อ น้อง น้องทำแบบนี้มันไม่ดีนะ เดี่ยวพี่ห้ามใจไม่อยู่ มันจะยุ่งนะ”
“ซ่วยข้อยด้วยเด้ออ้าย ข้อยฮ้อนหลาย ถอดกางเกงให้ข้อยหน่อยเด้อ”
“เฮ้ย เอางั้นเลยหรือ”
“ถ้าอ้ายบ่ถอดให้ ข้อยถอดเองก็ได้”
ปึกขยับลุกปลดกางเกง ไมค์ โจ๊กเกอร์ คว้ามือไว้
“เอ่อ เอ่อ ใจเย็นน้อง งั้นพี่ว่าไปถอดในห้องดีกว่านะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ดึงมือปึกจะพาไปห้องน้ำ ปึกดึงรั้งไว้
“บ่ ข้อยทนบ่ไหวแล่ว ข้อยฮ้อน ฮ้อนอีหลี”
ปึกดึงไมค์ โจ๊กเกอร์ มากอดซุกไซ้
“ใจเย็นน้อง ทำไมร้อนแรงจัง”
ปึกกระหน่ำกอด ไซ้ ขั้นเทพเปิดประตูเข้ามาชะงัก เห็นไมค์ โจ๊กเกอร์ กำลังพัลวันกับปึก เขาเข้าไปจิกหัวไมค์ โจ๊กเกอร์ กระชากออกมา แล้วต่อยโครม ปึกหันมาเห็นขั้นเทพ
“อ้าย ซ่วยข้อยแน้”
ปึกโผเข้ากอดขั้นเทพ
“ไม่ต้องกลัว ฉันมาช่วยเธอแล้ว”
“เรื่องอะไรมาต่อยฉันเนี่ย”
“แกนี่มันเลวจริง ๆ พาผู้หญิงมาข่มขืนที่บ้านฉันเลยหรือ”
ปึกกระชากเสื้อขั้นเทพ

“เจ้าอย่าเว้าหลาย ซ่วยข้อยแน้”

ปึกซุกไซ้ขั้นเทพ

“เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย”
ปึกผลักขั้นเทพล้มลงแล้วขึ้นคร่อม
“นี่จะทำอะไรเนี่ย”
“ข้อยฮ้อนหลาย ซ่วยข้อยแน้”
“ปล่อยนะ ไอ้ไมค์ ยืนเซ่อทำไม จับผู้หญิงออกไป”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เข้ามาดึงปึกแยกออก
“ทำไมถึงร่านสวาทอย่างนี้ ปล่อย เป็นผู้หญิงทำอย่างนี้ไม่ดี”
“บ่ ปล่อยข้อยเด้อ ข้อยฮ้อน อ้าย อ้ายจูบข้อยหน่อยเด้อ”
ปึกยื่นหน้าให้ไมค์ โจ๊กเกอร์ แต่ถูกชายหนุ่มตบ ขั้นเทพสะดุ้ง ไมค์ โจ๊กเกอร์ตบอีกที ปึกสลบ
“เฮ้ย นี่แกทำอะไรเนี่ย อยู่ ๆ ไปตบเขา”
“ถ้าฉันไม่ตบ ฉันก็ต้องทำอย่างอื่นกับเธอแน่นอน หรือผู้กองจะให้ฉันทำ”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง แล้วผู้หญิงนี่ใคร”
“ฉันไม่รู้จัก”
ขั้นเทพไม่เชื่อ
“ใจเย็น นั่งลงก่อน แล้วจะเล่าให้ฟัง เรื่องมันยาว”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เริ่มเล่าให้ขั้นเทพฟังจนจบ
“นายบอกว่าเธอร้องว่าจะมีคนข่มขืนเธองั้นหรือ”
“ใช่”
“แสดงว่าต้องมีคนเอายาปลุกเซ็กส์ให้เธอกิน เธอถึงได้เป็นแบบนี้”
“ก็คงเป็นอย่างงั้น ไม่งั้นคงไม่ไล่ปล้ำเราขนาดนี้”
“แต่นับว่าเธอยังโชคดีนะ ที่ฉันมาทันเวลา ไม่งั้นนายก็ต้องข่มขืนเธอแล้ว”
“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าเธอโดนมอมยา ฉันก็นึกว่าเธอชอบฉัน เกือบเข้าตะรางแล้วเรา เออนี่ผู้กอง ว่าแต่ว่าถ้าน้องเขาฟื้นขึ้นมา แล้วยายังไม่หมดฤทธิ์ เราจะทำไง”
“ฉันว่ากว่าเธอจะฟื้นยาคงหมดฤทธิ์แล้วล่ะ”
“แล้วเราจะให้เธออยู่ที่นี่หรือ จะว่าไป น้องเขาก็หน้าตาสวยดีนะ”
“ฉันว่าในหัวนายเนี่ย ควรจะคิดเรื่องดี ๆ บ้างนะ เฝ้าเธอไว้ เดี๋ยวเธอตื่นขึ้นมาค่อยถามว่าบ้านช่องอยู่ไหน”
ขั้นเทพเดินออกไป ไมค์ โจ๊กเกอร์มองปึกหลับ
“ถ้าผู้กองมาไม่ทัน เราคงได้จูบกับเธอแล้ว” ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยิ้มเจ้าชู้

เมษารับโทรศัพท์จากประไพพรรณ เรื่องของปึก
“อะไรนะคะแม่ นี่หนูปึกยังไม่กลับอีกหรือคะ”
“ใช่จ้ะ นี่ไปตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว แม่บอกให้มันกลับมาหกโมงเย็น ป่านนี้ยังไม่มาเลย”
“แล้วทำไมแม่ถึงให้หนูปึกออกไปข้างนอกล่ะคะ เพิ่งมาอยู่กรุงเทพไม่กี่วัน หลงทางรึเปล่า”
“ก็แม่เห็นมันบ่นเหงา ๆ ก็เลยให้มันออกไปเดินเล่นปากซอย ลูกไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวมันก็ม ไอ้พวกนี้พอได้ออกไปข้างนอกหน่อย มันไม่กลับเข้าบ้านง่าย ๆ หรอก เผลอ ๆ เจอผู้ชายถูกใจก็ไปค้างกับเขา”
“เอาล่ะค่ะ มีอะไรแม่ก็โทรบอกหนูละกัน”
“จ้ะลูก ไม่ต้องห่วงนะ”
ประไพพรรณวางสาย
“นังหนูปึกนะนังหนูปึก เดี๋ยวกลับมาจะต้องเล่นงานซะหน่อย”
เมษาปิดโทรศัพท์ หยิบกาแฟดื่ม มองที่คอมพิวเตอร์ เห็นรูปถ่ายไมค์ โจ๊กเกอร์กับขั้นเทพ เธอหยิบโทรศัพท์มาโทรหา ไมค์ โจ๊กเกอร์ กำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปา เสียงโทรศัพท์ดัง เขาหยิบดู แล้วกดรับ
“สวัสดีครับ คุณสวยเสมอ ผมกำลังคิดถึงคุณอยู่พอดี”
“คิดถึงอะไรคะ อยู่ ๆ ก็หนีมา จะกลับจากร้อยเอ็ดก็ไม่บอกสวยด้วย”
“ขอโทษครับ พอดีผมมีงานสำคัญต้องบินต่อไปฮ่องกง”
“ด่วนอย่างงั้นเลยหรือคะ”
“ครับ รีบไปประชุมกับลูกค้า”
“แล้วคืนนี้ว่างมั้ยคะ”
“คืนนี้หรือครับ เอ่อ”
“ทำไมล่ะคะ อย่าบอกนะคะว่าไม่ว่าง สวยอยากจะชวนไปดื่มแล้วฟังเพลงกันหน่อย”
“ถ้างั้นก็ได้ครับ”
“งั้นสองทุ่มเจอกันนะคะ ที่ผับไอวี่”
“ได้เลยครับ”
“คิดถึงนะคะ จุ๊บจุ๊บ”
เมษาปิดโทรศัพท์
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าช่วงนี้เราจะเสน่ห์แรง เมื่อบ่ายน้องนี่ก็อยากจะฟัด อีกชั่วโมงถัดมาก็มีผู้หญิงชวนไปดื่ม”
ขั้นเทพเดินลงมาจากชั้นบน
“ดื่มอะไร”
“อ๋อ เปล่า ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรก็ดี เดี๋ยวน้องเขาตื่นขึ้นมา นายก็ถามเขาว่าบ้านอยู่ไหน แล้วก็ให้ค่าแท็กซี่เขาไปร้อยหนึ่ง”
“แล้วนี่ผู้กองจะไปไหน”
“ฉันจะไปทำงาน”
“เดี๋ยวผู้กอง ฉันบอกความจริงก็ได้ คือเมื่อกี้น้องสาวโทรมาบอกว่าแม่ฉันป่วยหนัก”
“เป็นอะไร”
“ดื่มยาพิษ ก็ที่เมื่อกี้ฉันบอกว่าดื่มน่ะแหละ”
“นี่นายพูดจริงหรืออำ”
“เฮ้ย พูดจริงสิ ฉันจะเอาเรื่องแม่มาอำได้หรือ น้องสาวบอกให้รีบไปโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าจะรอดรึเปล่า”
“งั้นก็รีบไป”
“ขอบใจมากผู้กองที่เข้าใจ ขอยืมเงินสักห้าพันได้มั้ย”
“ห้าพัน”
“ผู้กอง แม่ฉันอยู่ไอซียูนะ โรงพยาบาลเขาต้องการเงินมัดจำ”
“ฮื่ย เอา”
ขึ้นเทพหยิบเงินจากกระเป๋าส่งให้
“ฉันไปก่อนนะ อ้อ ถ้าน้องเขาตื่น ก่อนไปผู้กองขอเบอร์ไว้หน่อยนะ”
“นายจะทำไม”
“ก็จะได้โทรถามว่าใครที่จะข่มขืนเธอ จะได้ไปกระทืบซะหน่อย”
“ได้ จะขอให้”
“ฉันไปก่อนล่ะ”

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินออกไป ขั้นเทพมองตามได้แต่ส่ายหน้าในความเจ้าชู้

เมษานั่งรอไมค์ โจ๊กเกอร์ ที่ผับแห่งหนึ่ง เขาเดินเข้ามาด้านหลัง ก้มลงจะหอมแก้ม

“จ๊ะเอ๋”
เมษาสะบัดหลังมือตบ ไมค์ โจ๊กเกอร์ หน้าสะบัด
“โอ๊ย”
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ สวยตกใจมือเลยไปเอง”
“ผมแค่จะล้อเล่นเท่านั้น หน้าชาไปทั้งแถบเลย”
“ขอโทษด้วยค่ะ”
“คุณสวยมานานแล้วหรือครับ”
“เพิ่งมาค่ะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ส่งดอกกุหลาบขาวดอกเดียวให้
“นี่ครับ สำหรับคนสวยอย่างคุณ”
“ขอบคุณค่ะ ทำไมรู้คะว่าสวยชอบกุหลาบขาว”
“ก็เราใจตรงกันนี่ครับ ผมเองชอบกุหลาบขาวมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ”
“ดื่มอะไรดีคะ”
“คุณสวยดื่มอะไรอยู่ครับ”
“โมจิโตะค่ะ”
“น้อง ขอโมจิโตะที่”
“คุณไมค์ยังสนใจสินค้าที่สวยเคยเสนอให้ดูมั้ยคะ”
“สนใจสิครับ โดยเฉพาะคุณสวยเสมอ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ คว้ามือเมษา หญิงสาวชะงัก
“อย่าหาว่าผมปากว่ามือถึงเลยนะครับ ผมเป็นคนปากกับใจตรงกันครับ ผมรักคุณสวยนะครับ”
“จริงหรือคะ”
“จริงสิครับ”
“แต่เราเพิ่งรู้จักกันนะคะ”
“แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมเคยเจอคุณมาแต่ชาติปางก่อน”
“คุณไมค์อย่ามาหลอกสวยเลยค่ะ สวยยังไม่รู้จักคุณไมค์ดีเลยสักอย่าง ไม่รู้มีลูกกี่คน มีเมียซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง”
“ไม่มีหรอกครับ เป็นแฟนกับผมนะครับ แล้วคุณสวยจะไม่เสียใจเลย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ยิ้มเจ้าชู้ให้

ระหว่างนั้น นักเลง 2 คน เดินเข้ามาในร้าน เฮียฮงเดินตามเข้ามา ไมค์ โจ๊กเกอร์ หุบยิ้มตาเหลือกหลบตาก้มหน้าลง
“มีอะไรหรือคะ”
“เอ่อ เปล่าครับ”
“คุณไมค์หลบใครอยู่หรือคะ”
“เดี๋ยวผมมานะครับ”
“จะไปไหนคะ”
“ไปห้องน้ำหน่อยครับ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยกเสื้อขึ้นปิดหน้าลุกจะเดินหลบไป เฮียฮงหันมอง
“ไอ้บุญเลิศ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ทำเป็นไม่ได้ยินจะเดินต่อ
“หยุดนะไอ้บุญเลิศ ถ้าคิดจะหนีล่ะก็ กูยิงมึงจริง ๆ”
เมษาหันมองตามเสียง เฮียฮงยกปืนจ่อเดินเข้ามาหาไมค์ โจ๊กเกอร์
“หวัดดีครับ เฮีย”
“ไม่ได้เจอกันนาน แต่งตัวซะหล่อแสดงว่ารวยล่ะสิ”
“เอ่อ เอ่อ ก็พอมีพอกินน่ะครับ”
“ถ้าพอมีพอกินเอ็งก็ควรจะใช้หนี้ข้านะ”
“ขอเวลาอีกสักเดือนได้มั้ยครับเฮีย”
“เมื่อคราวที่แล้วเอ็งก็หลบหน้าข้า ถ้าเด็กที่ผับไม่โทรบอก ข้าคงไม่เจอเอ็ง”
“ผมไม่ได้คิดที่จะเบี้ยวเฮียหรอกครับ ถ้าผมมี ผมต้องให้เฮียอยู่แล้ว”
เฮียฮงมองเมษา
“ถ้างั้นข้าขอเอาเด็กเอ็งไปขัดดอกสักคืนได้มั้ย”
“คืออย่างนี้ครับเฮีย เธอไม่ใช่เด็กผม เราเพิ่งรู้จักกัน”
“อย่ามาโกหก ไอ้นุ ไอ้สอน พาน้องไปที่รถ”
“เอ่อ แต่ว่าเฮีย”
เฮียฮงกระชากคอไมค์ โจ๊กเกอร์ พร้อมกับจ่อปืน

“มึงอยู่เฉย ๆ ถ้ามึงไม่อยากตาย”

ลูกน้องเดินเข้ามาหาเมษา

“หวัดดีจ้ะน้องสาว”
“ไปคนสวย ไปเที่ยวกับเสี่ยกัน”
“ปล่อยฉันนะ”
“แน่ะ ทำดุซะด้วย ถ้าพี่ไม่ปล่อยน้องจะทำไมหรือจ๊ะ”
“ถ้าฉันนับถึงสาม แล้วพวกแกไม่ปล่อย เจอดีแน่”
“แน่ะ เป็นไงนุ กลัวมั้ยวะ”
“กลัวจ้ะ งั้นพี่นับให้เลยแล้วกัน สาม สอง”
เมษาเอาส้นเท้ากระแทกเข้าที่หน้าแข้งซ้ายขวาของสอนกับนุ ทั้งสองร้องลั่น เธอศอกไปที่ท้องนุ สอนจะเข้ามาตบ เมษาเอามือรับไว้แล้วชกเข้าที่ท้องและหน้าสอน จนเซล้มไป นุวิ่งเข้ามาจะสับคอ เมษาจับทุ่มลงกลางโต๊ะ สอนวิ่งเข้ามารวบตัวล็อคหลังเมษา เมษาสับศอกซ้ายขวาแล้วจับทุ่ม เฮียฮงยกปืนจ่อใส่เมษา
“อีนี่ ตายเถอะมึง”
เมษาหันมากระชากปืนจ่อเฮียฮง
“ก็ลองดู ว่าใครจะไวกว่ากัน ทิ้งปืน ถ้าฉันนับถึงสามแล้วแกไม่ทิ้งล่ะก็ ตาแกทะลุแน่ หนึ่ง สอง”
“เอ่อ ฉัน ฉัน ฉันยอมแล้ว”
เฮียฮงปล่อยปืน ไมค์ โจ๊กเกอร์ วิ่งไปหาเมษา
“ถ้าฉันเห็นแกเข้ามาขู่คุณไมค์อีกล่ะก็ แกได้เจอดีแน่ ไปซะ อย่าให้ฉันเห็นหน้าแกอีก”
เฮียฮงรีบวิ่งออกไป ลูกน้องวิ่งตาม
“คุณสวย ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นยูโด”
“อ๋อ สวยเรียนมาตั้งแต่เด็กน่ะค่ะ”
“แล้วนี่คุณพกปืนด้วยหรือครับ”
“สวยเป็นผู้หญิงนะคะ กลับบ้านดึก ๆ ก็ต้องป้องกันตัวค่ะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ยิ้มถอนใจโล่งออก หันไปตะโกนบอกพนักงานของผับ
“เฮ้ย น้อง เคลียร์โต๊ะใหม่ซิ”

ภายในผับ ไมค์ โจ๊กเกอร์ ดื่มเหล้าหมดแก้วแล้ววางลง
“ผมต้องขอบคุณคุณสวยอีกครั้งนะครับ ถ้าไม่ได้คุณ ผมต้องโดนมันอัดจนน่วมแน่”
“แล้วคุณมีเรื่องอะไรกับพวกมันหรือคะ”
“เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อครับ น้องชายผมเคยยืมเงินไอ้เสี่ยมันสิบล้าน แล้วผมก็ใช้หนี้แทนไปแล้ว แต่อยู่ ๆ มันก็มาบอกน้องผมว่ายังไม่ได้ใช้หนี้มัน ดูมันพูดสิครับ”
“นี่มันโกงกันซึ่ง ๆ หน้าเลยหรือคะ”
“ครับผมถึงบอกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อไงครับ”
“แล้วบุญเลิศนี่ใครคะ”
“อ๋อ น้องชายฝาแฝดผมครับ มันคงจำผิดคิดว่าผมเป็นน้องชาย”
“เรื่องมันพัลวันจังเลยนะคะ”
“อย่าไปพูดถึงมันเลยครับ มาพูดเรื่องของเราดีกว่า”
เสียงโทรศัพท์มือถือของไมค์ โจ๊กเกอร์ ดังขึ้น เขาหยิบมาดูแล้วกดทิ้ง
“คุณสวยยังไม่ตอบผมเลยว่าจะไปค้างกับผมรึเปล่า”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก ไมค์ โจ๊กเกอร์ หยิบมาดูแล้วกดทิ้งอีก
“ว่าไงครับ”
เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะอีก
“รับเถอะค่ะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ จำใจกดรับ
“ฮัลโหล”
ขั้นเทพพูดโทรศัพท์อยู่ที่บ้านของเขา
“แม่นายเป็นไง”
“ก็โอเค”
“โอเคนี่หมายความว่าไง”
“ก็ยังไม่ดีขึ้น คืนนี้ฉันคงไม่กลับบ้านนะ”
“แล้วนายอยู่โรงพยาบาลอะไร เผื่อฉันจะแวะไปดูแม่นายหน่อย”
“ไม่ต้องหรอก”
“เอ๊ะ นี่นายอยู่โรงพยาบาลอะไรทำไมเสียงเพลงดังจัง”
“อ๋อ นางพยาบาลเขาเปิดทีวี”
เมษามองชายหนุ่มอย่างสงสัย
“แค่นี้ก่อนนะ หมอเขาเรียกบอกว่าแม่ชัก”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ปิดโทรศัพท์ทันที
“เฮ้ย เดี๋ยวสิไอ้ไมค์”
ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์แปลกใจ ไมค์ โจ๊กเกอร์ หันมาบอกเมษา
“เพื่อนน่ะครับ มันจะชวนไปลงอ่าง ผมไม่ชอบเที่ยวพวกนี้ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เลยต้องอ้างเรื่องนี้ครับ”
“อ๋อ หรือคะ”
“คุณสวยยังไม่ตอบผมเลยว่าจะไปค้างกับผมมั้ย”
“ขอไปคืนอื่นได้มั้ยคะ พรุ่งนี้สวยมีงานแต่เช้า”
“เช้ากี่โมงครับ ผมตื่นมาปลุกคุณสวยได้ครับ ปกติผมต้องตื่นมาใส่บาตรตอนตีห้าทุกวัน”
“เอาไว้วันหลังนะคะ”
“ก็ได้ครับ ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะครับ”
“ค่ะ”

เมษายกนิ้วก้อยให้ ไมค์ โจ๊กเกอร์ จะเกี่ยว แต่เมษาดึงหลบ
 
อ่านต่อหน้า 3

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 3 (ต่อ)

คืนนั้น ปึกลืมตาตื่น มองรอบตัว เห็นขั้นเทพนั่งทำงานอยู่ เธอชะงัก

“หรือบักห่านี่มันสิเป็นพวกที่จะข่มขืนข้อย”
ปึกวิ่งไปที่ประตู ขั้นเทพหันมอง
“อ้าว น้องตื่นแล้วหรือ ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ฉันเป็นตำรวจ”
“อีหลีบ่ค่ะ คุณเป็นตำรวจอีหลีเด้อค่ะ”
ปึกมองอย่างไม่ไว้วางใจ ขั้นเทพชูบัตรตำรวจให้ดู
“แล้วหนูปึกมาอยู่ที่นี่ได้จั๋งใดคะ”
“เธอวิ่งออกมาชนรถเพื่อนฉัน เขาก็เลยพาเธอมาที่นี่”
ปึกคิด
“แม่นแล้วค่ะ หนูปึกจำได้ว่าหนูปึกวิ่งข้ามถนนแล้วโดนรถชน มีบักสีดาสิข่มขืนหนูปึกค่ะ”
“บักสีดา ใครหรือ”
“อ้อ ฝรั่งน่ะค่ะ”
“ฝรั่งที่ไหน”
“ที่มูลนิธิเควินโฮปค่ะ”
“แล้วเธอไปทำอะไรที่นั่น”
“คือ หนูปึกไปหางานทำน่ะค่ะ” ปึกตอบอายๆ
“แล้วเธอจำหน้าฝรั่งที่จะข่มขืนเธอได้มั้ย ฉันจะให้เธอพาไปชี้ตัว”
“โอ๊ย โอ๊ย บ่ค่ะคุณตำรวจ ปึกบ่อยากมีเรื่องค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ มันจะข่มขืนเธอนะ”
“เขายังบ่ได้ทำอิหยังค่ะ แล้วที่สำคัญปึกกลัวเจ้านายรู้ค่ะ ถ้าคุณนายรู้ขึ้นมาล่ะก็ ปึกจะลำบาก”
“งั้นก็ได้ แต่ชั้นจะเตือนเธอนะอย่าไว้ใจคนง่ายๆ แล้วเธอเป็นผู้หญิงสวยๆ ด้วย”
“อุ๊ย ปึกสวยหรือคะ”
ปึกมองหน้าขั้นเทพ ชอบทันที
“ก็หน้าตาดีน่ะ แล้วตอนนี้เธอพักอยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ปึกทำงานอยู่ที่บ้านคุณนายประไพพรรณค่ะ”
“แถวไหน”
“สุขุมวิท 60 ค่ะ”
“เอาล่ะ เธอไปล้างหน้าล้างตาซะ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ค่ะ”

ปึกเดินเข้าห้องน้ำไป

เวลาต่อมา ขั้นเทพขับรถมาจอดที่หน้ารั้วบ้านวัฒนา แล้วหันมาพูดกับปึก

“บ้านใหญ่โต นายจ้างเธอคงรวยมากนะ"
“อุ๊ย รวยคั่กคั่กค่ะ”
“คืออะไรรวยคั่กคั่ก”
“ก็รวยมากน่ะสิคะ”
“เอาล่ะ เธอเข้าบ้านเถอะ”
“ขอบคุณเด้อค่ะ หนูปึกยังบ่รู้เลยว่าคุณตำรวจชื่ออิหยังคะ”
“เรียกฉันว่าผู้กองเทพก็ได้”
“เอ่อ แล้วถ้าหนูปึกสิขอเบอร์ผู้กองได้บ่คะ หนูปึกมาอยู่กรุงเทพตัวคนเดียว เผื่อวันไหนหนูปึกต้องขอความช่วยเหลือ”
ขั้นเทพหยิบกระดาษจดเบอร์ส่งให้
“ไป เข้าบ้านได้แล้ว”
ปึกหันหลังเดินเข้าไป ขั้นเทพออกรถ ปึกหันมามองอีกครั้ง
“คนอะไรน้อหล่อหลาย ๆ แถมเป็นคนดี ถ้าอีหนูปึกบ่ติดว่าจะต้องหาผัวฝรั่งล่ะก็ อีหนูปึกสิขออ้ายทำผัวเด้ออ้ายผู้กองเทพ”
ปึกเดินเข้าบ้าน ไปหาประไพพรรณที่ห้องรับแขก
“แกหายหัวไปไหนมาทั้งวัน นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว อย่าบอกนะว่าแอบไปนอนกับผู้ชายมา”
“อุ๊ย คุณนายขา อย่าเพิ่งด่าว่าหนูเสีย ๆ หายเลยค่ะ เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับหนูปึกค่ะ”
“เรื่องร้ายอะไร”
“หนูถูกคนมอมยาค่ะ”
“จริงหรือ”
“หนูสิโกหกคุณนายทำหยัง โชคดีที่ปึกหนีออกมาได้ มีคนมาช่วยก่อน”
“หมายความว่าแกไม่โดนข่มขืนใช่มั้ย”
“ค่ะ ยังบ่โดน”
“แล้วไปเกิดเรื่องที่ไหน ปากซอยบ้านเราหรือ”
“เอ่อ ค่ะ หนูเดินไปเรื่อย ๆ แล้วหลงทางค่ะ”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าให้เดินเล่นอยู่แถวปากซอย”
“หนูขอโทษค่ะ”
“โชคดีนะที่แกไม่โดนมันฆ่าตาย เอาล่ะ ไปอาบน้ำนอนไป พรุ่งนี้จะได้ทำงานแต่เช้า”
“ค่ะ”
ปึกลุกออกไป

ตอนเช้า ขั้นเทพดื่มกาแฟ พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“วันนี้มันจะไปดูมวยหรือ อืม ดี ขอบใจมาก ตามหาข่าวต่อไป”
ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์ ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินลงบันไดมา
“เช้านี้มีอะไรกินบ้างผู้กอง”
“ไม่มี ฉันไม่ได้ออกไปข้างนอก”
“โธ่เอ๊ย เราก็นึกว่าจะมีโจ๊กมีปาท่องโก๋บ้าง”
“นายอย่าพูดมาก แล้วแม่นายเป็นไง”
“ดีแล้ว หมอเขาให้กลับบ้านได้แล้ว”
“งั้นก็ดี เพราะวันนี้เรามีงานสำคัญ”
“สำคัญอีกแล้วหรือ”
“ใช่ วันนี้เราจะได้เจอกับไอ้เควิน สมิธ นายต้องเข้าไปตีสนิทกับมันให้ได้”
“แล้วฉันจะเข้าไปได้ยังไง”
“วันนี้มันจะไปดูมวยที่ราชดำเนิน เราจะไปเจอมันที่นั่น”
“แล้วแผนเป็นไง”
“เอาไว้ถึงที่นั่นแล้วฉันจะบอกนาย”
“ทำไมนายต้องปิดบังฉันอยู่เรื่อยๆ เราเป็นคู่หูกันนะ ฉันควรจะรู้เรื่องทุกอย่างที่นายรู้”
“ไม่ต้อง นายไม่ใช่คู่หูฉัน นายเป็นลูกน้อง มีหน้าที่ทำตามที่ฉันสั่ง”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ ถ้านายทำไม่ได้ นายก็ออกไปได้เลย”
“นายรู้ว่าฉันไม่มีที่ไป ใช่มั้ยล่ะ ถึงได้ข่มขู่ฉันตลอดเวลา”
“รู้ตัวก็ดี กินกาแฟแล้วอาบน้ำแต่งตัวซะ เราจะได้ไปทำงาน”
ขั้นเทพเดินขึ้นไปข้างบน ไมค์ โจ๊กเกอร์ แค้นใจ
“ฮึ่ย ไอ้ผู้กอง อย่าให้ถึงทีฉันบ้างละกัน ฉันจะเอานายให้เจ็บแสบถึงรูทวารเลย”
เสียงโทรศัพท์มือถือของไมค์ โจ๊กเกอร์ ดังขึ้น เป็นสายจากเมษา เขากดรับทันที
“ฮัลโหล”
“ว่าไงคะ ดาหลิง”
“ดาหลิงหรือครับ”
“ก็เมื่อคืนเราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือคะว่าเราเป็นแฟนกัน”
“ผมดีใจจริง ๆ ที่คุณยอมรับผมเป็นแฟน”
“วันนี้ว่างมั้ยคะ”
“ไม่ได้เลยครับ พอดีมีลูกค้ามาจากเมืองนอก เขาอยากดูมวย ผมต้องพาเขาไปน่ะครับ”
“ที่ไหนหรือคะ”
“ราชดำเนินน่ะครับ”
“คืนนี้หรือคะ”
“ครับ”
“แหม เสียดายจัง เราเลยไม่ได้เจอกัน”
“เอาไว้คืนถัดไปดีมั้ยครับ”
“ก็ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ รักนะจุ๊บ จุ๊บ”
“โอ๊ว ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากคุณ รักเช่นกันครับ จูบุ๊จูบุ๊”

เมษาปิดโทรศัพท์ นึกถึงเรื่องไปดูมวย

ค่ำนั้นเควิน สมิธ เชียร์มวยอย่างสนุกสนาน ไมค์ โจ๊กเกอร์และขั้นเทพ นั่งหลบอยู่อีกมุม เมษาแอบมาที่สนามมวยด้วย เธอเห็นขั้นเทพมองไปอีกด้านหนึ่ง จึงมองตามก็เห็นเควินนั่งอยู่ เมษาชะงัก

“นั่นมันเควิน สมิธนี่”
เมษาหันกลับไปมองขั้นเทพอีกครั้ง
“ทำไมนายไมค์ทำท่าเหมือนฟังคำสั่งนายเคน”
เมื่อการชกมวยจบลง เควินลุกขึ้น ขั้นเทพหันไปบอกไมค์ โจ๊กเกอร์ ให้ลุกตาม แต่ไมค์ โจ๊กเกอร์ บอกให้ขั้นเทพไปก่อน เพราะเขากำลังติดพันเก็บเงินพนันมวยอยู่กับคนข้างๆ เมษาส่องกล้องมองสองหนุ่ม แล้วเห็นขั้นเทพลุกไป
“เหมือนนายเคนกำลังตามใคร”
เมษาเก็บกล้องยัดใส่เป้ เดินตามขั้นเทพไป

เควินเดินเลี้ยวไปตามทาง มีการ์ดเดินคุ้มกัน ขั้นเทพเดินตามหลังมา การ์ดเห็น จึงไปดักขั้นเทพ ตรงทางโค้ง แล้วต่อยจนขั้นเทพทรุดตัวงอ การ์ดอีกคนเข้ามาล็อคคอขั้นเทพ แล้วจับมือไพล่หลังดันเข้ากำแพง เควินเดินเข้ามา
“แกตามมาทำไม”
การ์ดเจอปืนในตัวขั้นเทพ
“มันพกปืนมาด้วยครับคุณเควิน”
“แกเป็นใคร ตามฉันมาทำไม”
“ผมไม่ได้ตามคุณนะครับ”
การ์ดกดไหล่แล้วต่อยขั้นเทพ
“โอ๊ย”
“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าใครส่งแกมา แล้วแกพกปืนมาทำไม”
“ผมเป็นคนขับรถให้คุณไมค์ครับ”
“คุณไมค์ คุณไมค์ไหน”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ก้าวเข้ามา
“ไมค์ โจ๊กเกอร์ ครับ”
การ์ดสองคนกระชากปืนจ่อ
“ใจเย็น calm down ผมมาดี สวัสดีครับคุณเควิน สมิธ”
“เราเคยรู้จักกันหรือ”
“ผมน่ะรู้จักคุณเควิน แต่คุณคงไม่รู้จักผม ผมเป็นนายหน้าค้าวัตถุโบราณ”
“แล้วไง”
“ผมมีสินค้าอยากจะมาเสนอขาย”
“ปล่อยผมได้รึยังเนี่ย” ขั้นเทพบอก
“อ้อ นั่นคนขับรถผมชื่อนายเคน ผมเป็นคนสั่งให้เขาเดินตามพวกคุณ ปล่อยเขาเถอะครับ”
เควินพยักหน้า ลูกน้องปล่อยตัวขั้นเทพ
“ที่เขาพกปืนเพราะต้องคุ้มกันให้ผม”
“ขอปืนผมคืนด้วยครับ”
เควินพยักหน้าให้ลูกน้องส่งปืนคืนให้ขั้นเทพ
“เมื่อกี้ที่คุณว่ามีสินค้ามาเสนอขายผมมันคืออะไรหรือ”
“คุณเควินอยากได้อะไรล่ะครับ ผมหาให้ได้ทุกอย่าง”
“คุณพูดจริงหรือ ผมไม่ชอบคนพูดซี้ซั้วนะ”
“งั้นคุณเควินก็บอกผมมาสักอย่าง ดูซิว่าผมจะหาให้ได้มั้ย”
“ผมอยากได้เศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ อึ้ง
“ทำไมเงียบไป ไหนบอกว่าหาได้ทุกอย่าง”
“แน่นอนครับ อีกเจ็ดวันคุณโทรหาผมได้เลย ผมจะเอาเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงมาให้คุณ"
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ส่งนามบัตรให้เควิน
“ถ้าคุณทำได้จริงอย่างที่ปากพูด เราก็จะทำธุรกิจด้วยกัน”

เควินเสียบนามบัตรเข้ากระเป๋า

การ์ดของเควินลากตัวเมษาเข้ามา

“ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อย”
ขั้นเทพกับ ไมค์ โจ๊กเกอร์ ชะงัก เควินถามลูกน้อง
“มีเรื่องอะไร”
“เราเจอผู้หญิงคนนี้กำลังลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่แถวนี้ ดูท่าทางเหมือนแอบฟังพวกนายคุยกันครับ”
“แอบฟังอะไร ฉันกำลังจะไปห้องน้ำ”
“คุณสวยเสมอ คุณมาที่นี่ได้ไง”
“ฉันจะมาเซอร์ไพรส์คุณน่ะสิคะ ที่รัก”
“คุณรู้จักเธอด้วยหรือ” เควินแปลกใจ
“ใช่ เธอเป็นแฟนผม เกริลเฟรนด์น่ะ”
“ปล่อยเธอ”
การ์ดปล่อยตัวเมษา เควินหันมาบอกไมค์ โจ๊กเกอร์
“แล้วเจอกัน”
เควินเดินออกไปพร้อมลูกน้อง ขั้นเทพเข้ามากระชากแขนเมษา
“คุณตามพวกเรามาทำไม”
“ฉันไม่ได้ตามคุณนะ ฉันมาตามแฟนฉันต่างหาก”
“ปล่อยเธอนะ ไอ้เคน เธอเป็นแฟนฉัน”
“แฟนงั้นหรือ”
“ใช่ ทำไม ผิดหวังล่ะสิ”
เมษาสะบัดแขนจากขั้นเทพ
“สวยมาตามหาคุณ กะว่าถ้าคุณเสร็จงานแล้วจะชวนไปทานข้าว บังเอิญเห็นคุณเดินมาทางนี้สวยก็เลยวิ่งตามมา”
“แต่วันหลังจะมาต้องบอกผมก่อนนะ ผมต้องคุยบิสสิเนส”
“ก็บอกแล้วไงคะว่ามาให้คุณเซอร์ไพรส์ ไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ”
เมษาดึงแขนไมค์ โจ๊กเกอร์
“คุณไมค์ครับ ลืมไปแล้วหรือครับว่าคุณแม่คุณป่วยหนัก เราต้องไปโรงพยาบาลนะครับ”
“เอ่อ”
“เมื่อกี้ตอนที่คุณดูมวยอยู่ หมอโทรมาบอกว่าอาการเป็นตายเท่ากันนะครับ”
“คุณแม่คุณเป็นอะไรคะ”
“เอ่อ คือ”
“ผมว่าไปเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันดูใจคุณแม่”
“งั้นสวยไปด้วยค่ะ”
“ไม่ได้ครับ ผมว่าคุณกลับไปก่อนเถอะ นี่มันเป็นเรื่องในครอบ ครัว เชิญครับคุณไมค์”
“เอ่อ”
“คุณไมค์คะ”
“เดี๋ยวผมโทรหานะครับ”
ขั้นเทพลากไมค์ โจ๊กเกอร์เดินออกไป
“ฉันว่านายไม่ใช่คนขับรถธรรมดาแล้วนายเคน”
เมษาเริ่มมั่นใจ

ขั้นเทพกระชาก ไมค์ โจ๊กเกอร์ มาตามทาง แล้วเหวี่ยงอย่างแรง
“โอ๊ย นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมต้องเหวี่ยงฉันแรงขนาดนี้”
“ฉันบอกนายแล้วใช่มั้ยว่าให้เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนี้”
“นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันนะ”
“แต่มันกำลังจะทำให้งานฉันเสีย”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณสวยเสมอ”
“นายไม่แหกตาดูหรือไงว่าเธอกำลังติดตามเราอยู่”
“ฉันว่านายคิดมากน่ะ เธอบอกแล้วไงว่ามาตามหาฉัน มาเซอร์ไพรส์ แล้วเราก็เป็นแฟนกันอยู่”
“แฟน”
“ใช่ เมื่อคืนเราตกลงเกี่ยวก้อยเป็นแฟนกันแล้ว”
“นี่นายโกหกฉันหรือ นายฟังให้ดีนะไอ้บุญเลิศ หน้าอย่างนาย ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่เอาหรอก”
“นี่นายดูถูกฉันมากไปแล้วนะ”
ขั้นเทพตบปากไมค์ โจ๊กเกอร์
“โอ๊ย”
“ฟังฉันนะ นายเพิ่งรู้จักผู้หญิงคนนั้นแค่สองสามครั้ง นายว่าผู้หญิงสวย ๆ ดูดีมีการศึกษา เขาจะเอาคนอย่างนายทำแฟนงั้นหรือ”
“ก็ฉันหล่อนี่”
“ถุย”
ขั้นเทพถุยน้ำลายใส่หน้า
“โอ๊ย”
“ฉันว่าเธอกำลังเข้ามาหาเราเพราะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง”
“ก็บอกแล้วไงว่าเขาชอบฉัน”
“นายฟังฉันให้ดีนะ งานของฉันสำคัญมาก มันขึ้นอยู่กับความเป็นความตาย จากนี้ไปฉันสั่งห้าม ไม่ให้นายยุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีก แล้วถ้าเธอติดต่ออะไรมา นายต้องบอกฉันทุกอย่าง เข้าใจมั้ย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ จ้องมองด้วยความโกรธ ขั้นเทพกระชากคอเสื้อ
“ฉันถามว่าเข้าใจรึเปล่า”
“เข้าใจแล้ว”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ตะโกนใส่หน้า ขั้นเทพปล่อยมือแล้วเดินออกไป
“อะไรกันวะ อยู่ ๆ จะให้เราเลิกกับน้องสวย เรายังไม่ได้ฟันเธอเลยนะ”
ขั้นเทพโผล่หน้ากลับมา
“จะไปรึเปล่า เร็ว”
“ทำไมต้องทำตามมันด้วยวะ”

ไมค์ โจ๊กเกอร์ วิ่งตามไป
 
อ่านต่อหน้า 4

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 3 (ต่อ)

เมษามาพบสถิตย์ยุทธ พร้อมกับให้ดูภาพเควิน สมิธ ยืนคุยกับ ไมค์ โจ๊กเกอร์

“เมไม่รู้ว่านายไมค์ โจ๊กเกอร์ ไปคุยอะไรกับเควินสมิธ”
“หรือว่ามันจะไปขอความช่วยเหลือเขา เพราะมันคงรู้ว่าเควิน สมิธ เขาเป็นเศรษฐี มันอาจจะไปขอเงิน”
“เมก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่เท่าที่เมแอบดู เมว่ามันต้องเป็นเรื่องไม่ดี”
“ไม่ดียังไง”
“เหมือนเขาสองคนกำลังตกลงอะไรกันสักอย่าง”
“คิดมากไปรึเปล่า เควิน สมิธ เขาเป็นมหาเศรษฐีมีเงินมากมาย แถมใจบุญ เขาจะทำเรื่องไม่ดีได้ยังไง”
“ก็จริงของหัวหน้า หรือจะเป็นไปได้มั้ยคะว่านายไมค์กำลังจะเสนอขายวัตถุโบราณให้เควิน สมิธ”
“คุณก็ลองสืบดูสิ อาจจะเป็นเรื่องนั้นก็ได้”
“ค่ะ ได้เรื่องยังไงเมจะรีบรายงานให้หัวหน้าทราบ”
เมษาลุกขึ้นทำความเคารพแล้วเดินออกไป สถิตย์ยุทธกดโทรศัพท์
“ชายชาติหรือ ฉันได้ข่าวว่าผู้กองเทพเข้าไปถึงตัวเควิน สมิธ แล้วนะ นายไปสืบซิว่าผู้กองเทพมีแผนอะไร”
“ครับ”
ชายชาติวางสาย

ขั้นเทพเดินเข้ามาในหน่วย เห็นเจ้าหน้าที่นั่งทำงาน
“มีมี่”
“ขา”
“ที่ผมให้คุณเช็คประวัติผู้หญิงชื่อสวยเสมอได้รึยัง”
“ได้แล้วค่ะ มีมี่ส่งเข้าเมล์ผู้กองไปแล้ว”
“ขอบใจ”
ขั้นเทพเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว เปิดคอมพิวเตอร์เข้าเมล์ เห็นประวัตินางสาวสวยเสมอ สุดสวาท อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 549/ 23 ตำบลบางบ่อ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม บิดาชื่อ นายสมศักดิ์ สุดสวาท มารดาชื่อนางบุบผา สุดสวาท”
ขั้นเทพกดดูรูป เป็นหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง เขาหยิบนามบัตรเมษามาดู เห็นชื่อ นามสกุล ตรงกับผู้หญิงในข้อมูล
“นี่เธอปลอมตัวมางั้นหรือ”
เสียงเคาะประตูห้องดัง ชายชาติเปิดประตูเข้ามา
“หวัดดีเทพ”
“อ้าว มีอะไรหรือชาย”
“เมื่อสองวันก่อนฉันไปวังน้ำเขียวเลยซื้อไวน์ที่นายชอบมาให้”
“ขอบใจ”
“แล้วเป็นไงได้ข่าวว่านายเจอกับไอ้เควิน สมิธ แล้วหรือ”
ขั้นเทพชะงัก
“นายรู้ได้ไง ฉันยังไม่ได้บอกให้ใครฟังเลย”
“อ้าว ก็เควิน สมิธ มาเมืองไทยตั้งหลายวัน ฉันเดาว่านายคงต้องเข้าถึงตัวมันแล้ว”
“ยังไม่มีอะไรคืบหน้าแค่กำลังตามมันอยู่”
“มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย”
“ตอนนี้ยัง ถ้ามีแล้วจะบอก”
“ไปก่อนล่ะ”
“ขอบใจสำหรับไวน์ เออ ชาย”
“อะไร”
“วันนั้นแฟนนายที่ฉันเจอชื่ออะไรนะ”
“สวยเสมอ”
ขั้นเทพเหลือบมองรูป แล้วเหลือบมองกลับไปที่หน้าชายชาติ
“มีอะไรหรือ”
“เปล่า แค่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เห็นสวยดี”
“เฮ้ย อย่ามาแย่งนะโว้ย คนนี้หวง”
ชายชาติเดินออกไป
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอปลอมตัวมาเพื่ออะไร แม่สวยเสมอ”

ขั้นเทพมองจอคอมพิวเตอร์อย่างครุ่นคิด

เมื่อขั้นเทพกลับมาบ้าน เขาบอกให้ไมค์ โจ๊กเกอร์ โทรศัพท์หาเมษา

“อะไรนะ นายจะให้ฉันโทรหาคุณสวยเสมองั้นหรือ”
“ใช่ ก็นายอยากเจอเธอไม่ใช่หรือ”
“นี่ผู้กอง บอกมาดี ๆ ดีกว่า ว่ามีแผนอะไร”
“ไม่มี ฉันเพียงแต่คิดว่าฉันคิดมากไป แล้วฉันก็ไม่ควรที่จะขัดขวางความรักของนาย นายโทรนัดเธอเลย บอกว่าฉันอยากจะเลี้ยงอาหารขอโทษเธอสักมื้อ”
“ฮะ แล้วนายจะให้ฉันไปรึเปล่า”
“ไปสิ”
“แต่เมื่อกี้นายพูดเหมือนจะไม่ให้ฉันไป”
“คิดมากน่ะ โทรเลย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ กดโทรศัพท์หาเมษา
“ว่าไงคะคุณไมค์”
“เย็นนี้ผมว่างอยากชวนคุณทานข้าว อย่าบอกนะครับว่าคุณไม่ว่าง”
“อ๋อ ว่างสิคะ สำหรับคุณไมค์ แต่นายเคนคนขับรถคุณจะไม่ว่าหรือคะ”
“มันจะมาว่าผมได้ไง ผมเป็นเจ้านายมันนะ อย่าไปถือมันเลยครับ ไอ้นี่มันทื่อ ๆ เหมือนควาย”
“งั้นก็ได้ค่ะ เจอกันที่ไหนดีคะ”
“ร้านอาหารเกาหลีที่สยามซอย 3 ดีมั้ยครับ”
“ได้ค่ะ รักนะคะ จุ๊บ ๆ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ปิดโทรศัพท์ หันมาบอกขั้นทพ
“ได้ยินชัดรึยังว่าเขารักฉันจริง ๆ”
“ฉันก็ดีใจกับนายด้วยที่นายสมหวัง เอาล่ะ ฉันว่านายไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ”
“อะไรกัน นี่เพิ่งจะบ่ายสาม”
“นายไม่ไปตัดผมซะหน่อยหรือ มันดูยาวไปนะ”
“ทำไมวันนี้นายดูดีกับฉันเหลือเกิน”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันสำนึกผิด”
“รู้ตัวก็ดี เดี๋ยวฉันมา”
“เออไมค์”
“อะไร”
“ฉันว่าฉันไม่ไปกินข้าวกับนายดีกว่า”
“อ้าว ทำไม”
“ฉันไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอนาย”
“นั่นล่ะถูกต้อง แล้วฉันดีใจนะที่นายคิดได้ผู้กอง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินออกไป ขั้นเทพหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเมษา หญิงสาวมองเบอร์โทรศัพท์อย่างแปลกใจก่อนจะกดรับ
“ฮัลโหล”
“คุณสวยเสมอหรือครับ”
“ใช่ นั่นใคร”
“ผมเคน คนขับรถคุณไมค์ครับ”
“แล้วโทรหาฉันทำไม”
“คุณไมค์ให้ผมโทรมาบอกคุณว่าขอเปลี่ยนร้านน่ะครับ”
“เปลี่ยนร้าน”
“ครับ”
“เป็นร้านอะไร”
“เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ทองหล่อซอย 13 ครับ”
“แล้วทำไมคุณไมค์ไม่โทรมาเอง”
“แกคุยกับลูกค้าอยู่ครับ เลยให้ผมรีบโทรมาแจ้งคุณ”
“ได้”
เมษากดปิดโทรศัพท์ เอะใจ ขั้นเทพปิดโทรศัพท์

“เดี๋ยวก็รู้ว่าเธอเป็นใคร” ขั้นเทพมั่นใจ

คืนนั้น เมษาเดินเข้ามาในร้านอาหาร แหวกม่านเข้ามามองซ้ายขวา พนักงานเข้ามาต้อนรับ

“จองโต๊ะไว้รึเปล่าคะ”
“น่าจะจองนะคะ ชื่อคุณไมค์มีมั้ยคะ”
“เชิญด้านนี้เลยค่ะ”
พนักงานเดินนำไปที่ห้องส่วนตัว เมษาแหวกประตูเปิดเข้ามา ชะงัก เมื่อเห็นขั้นเทพนั่งอยู่
“เชิญครับ”
“คุณไมค์ล่ะ”
“เดี๋ยวมาครับ กำลังติดธุระอยู่ เชิญนั่งก่อนสิครับ หรือว่ารังเกียจที่ผมเป็นคนขับรถ”
“ก็นิดหน่อย”
เมษาลงนั่ง ขั้นเทพมองจ้อง
“จ้องหน้าฉันทำไม”
“ผมแค่อยากถามคุณตรง ๆ คุณเข้ามาตีสนิทกับคุณไมค์ต้องการอะไร”
“คุณพูดเรื่องอะไร”
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ชอบคุณไมค์ คุณมีแผนอะไร”
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณ”
“ผมรู้นะว่าคุณไม่ได้ชื่อสวยเสมอ”
“ฉันไม่คุยกับคุณดีกว่า”
เมษาลุกเปิดประตูจะเดินออกไป ลูกน้องตำรวจของขั้นเทพสองนายเข้ามาขวาง
“คุณไปไหนไม่ได้ครับ”
เมษาชะงัก ขั้นเทพเดินเข้ามาขวาง
“คุณตอบผมมาตรง ๆ ดีกว่า คุณเข้ามาหาคุณไมค์ คุณต้องการอะไร”
“ถอย”
เมษาขยับจะไป ลูกน้องจะคว้ามือไว้ เธอสะบัดแล้วจับเหวี่ยงโครม ขั้นเทพมองการต่อสู้ของเมษา แล้วเข้ามาขวาง เมษาเตะต่อย แต่ขั้นเทพป้องกันตัวได้ แล้วจับขาเมษาบิด
“โอ๊ย”
เมษาถูกทุ่มลงพื้น เธอดีดตัวขึ้น โดดขึ้นโต๊ะแล้วสับสันมือลงที่ก้านคอขั้นเทพจนทรุด แล้วจับมือชายหนุ่มไพล่หลัง สับกุญแจมือ ขั้นเทพใช้มือที่เหลือกระชากคอเมษาเหวี่ยงข้ามมาข้างหน้า แล้วคว้ากุญแจมือล็อคใส่เมษา ทั้งสองจึงถูกกุญแจล็อคติดกัน
“คุณถูกจับแล้ว”
“ปล่อยฉันนะ”
“บอกมาว่าคุณคือใคร”
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ”
“ถ้าคุณไม่บอกผมจะหักคอคุณเดี๋ยวนี้”
“โอ๊ย”
“จะบอกหรือไม่บอก”
“ปล่อยฉันนะ ฉันเป็นตำรวจ”
ขั้นเทพตะลึง เหวี่ยงเมษาออกไป
“หา คุณเป็นตำรวจหรือ”
“ใช่ ฉันร้อยตำรวจเอกเมษา ฉันขอจับนาย”
“ผมร้อยตำรวจเอกขั้นเทพ นราดุล หน่วยฉก.911”
“อะไรนะ นี่คุณก็เป็นตำรวจหรือ”

ทั้งสองมองหน้ากันอย่างงุนงง

เวลาต่อมา ขั้นเทพกับเมษา พากันมาคุยที่ดาดฟ้า

“ทำไมหน่วยวิหคเวหาต้องส่งคุณมาสอดแนมผม”
“ฉันเองก็ไม่รู้ ฉันแค่ทำตามคำสั่งของหัวหน้า”
ขั้นเทพคิด มองสบตาเมษา เมษาชักประหม่า หลบตาไปทางอื่น
“คุณจ้องหน้าฉันทำไม”
“เปล่า ผมแค่กำลังสงสัยว่า หัวหน้าคุณมีแผนอะไรรึเปล่า”
“คุณหมายความว่าไง”
“ผมอยากรู้ว่าทำไมหัวหน้าคุณถึงต้องการรู้ความเคลื่อนไหวของหน่วยงานผม หรือว่าเขาต้องการผลงานเพื่อตัดหน้า”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้ ฉันมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง”
“แล้วแฟนคุณล่ะ”
“ใคร คุณหมายถึงนายไมค์หรือ”
“ไม่ใช่ ผู้กองชายชาติไง”
“เขาไม่ใช่แฟนฉัน”
“แต่เขาบอกผมว่าคุณเป็นแฟนเขา”
“นั่นเขาคิดไปเอง”
“งั้นก็ดี”
“ทำไม ดียังไง”
“ก็เท่ากับว่าคุณยังโสด ไม่มีพันธะทางใจกับใคร”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”
“ผมเองก็โสด”
“นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่”
“ผมกำลังพูดถึงเรื่องผู้กองชายชาติ เขารู้มั้ยว่าคุณเป็นตำรวจ”
“รู้”
“แต่ทำไมเขาไม่บอกผมว่าคุณเป็นตำรวจ”
“เขาก็ไม่บอกฉันเหมือนกันว่าคุณเป็นตำรวจ”
“แสดงว่าชายชาติไม่อยากให้เราสองคนรู้จักกัน”
“แล้วทำไมเขาถึงไม่อยากให้เรารู้จักกัน”
“เขาคงกันกลัวว่าผมจะจีบคุณน่ะสิ”
เมษาประหม่า
“ฉันว่าไม่เกี่ยวหรอก”
ขั้นเทพจ้องหน้า เมษามองสบตาอย่างเขิน ๆ ทำตัวไม่ถูก
“ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่า”
“อ้าว เรายังไม่ได้ข้อสรุปเลย”
“เชิญคุณสรุปของคุณคนเดียวเถอะ”
เมษาหันเดินไป ขั้นเทพเรียกไว้
“เดี๋ยว ผู้กองเมษา”
“มีอะไรอีก”
“คุณลืมกุญแจมือ”
ขั้นเทพโยนกุญแจมือให้ เมษารับ แล้วเดินออกไป ขั้นเทพมองตามอมยิ้ม
“หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก”
เมษาเดินออกไป ขั้นเทพหันหลังเดินออกไปอีกทาง ทั้งสองแอบหันกลับไปมองอีกฝ่าย โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

ไมค์ โจ๊กเกอร์ ใส่ชุดหล่อเดินไปมา กดโทรศัพท์
“ทำไมน้องสวยเสมอไม่รับสายเราวะ”
ขั้นเทพกลับเข้าบ้านมา
“อ้าว นี่นายไม่ได้ไปกินข้าวกับแฟนหรือ”
“กินบ้าอะไร ฉันไปรอที่ร้านตั้งสองสามชั่วโมงแต่น้องสวยเสมอไม่มา”
“ทำไมไม่โทรถามเขาดูล่ะ”
“โทรแล้ว แต่เขาไม่เปิดเครื่อง”
“หรือเขาไปผิดร้าน”
“ไม่รู้สิ แต่ไม่เจอเราก็ต้องโทรหาสิ ทำไมอยู่ ๆ ถึงขาดการติดต่อ แล้วนี่นายไปไหนมา”
“ฉันก็ไปกินข้าวกับแฟนน่ะสิ”
“แฟน ผู้กองมีแฟนด้วยหรือ ทำไมฉันไม่รู้”
“เพิ่งเจอกัน”
“ใคร สวยมั้ย”
“สวย สวยคล้าย ๆ กับคุณสวยเสมอของนาย”
ขั้นเทพบอกยิ้ม ๆ แล้วเดินขึ้นชั้นบนไป
“พูดยังไงวะ หวังว่าคงไม่ได้มาตีท้ายครัวเรานะ”
ไมค์ โจ๊กเอร์ หันกลับไปกดโทรศัพท์หาเมษาอีกครั้ง แต่เมษายังปิดเครื่อง

เมษานอนแช่น้ำในอ่างภายในห้องพัก พลางครุ่นคิด
“ทำไมหัวหน้าถึงไม่บอกเราว่าผู้กองเทพเป็นตำรวจ”
เมษาคิด ภาพขั้นเทพแว่บเข้ามาตลอดเวลา จนเธอถอนใจอย่างหงุดหงิด
“ฮื้อ ทำไมเราเห็นแต่หน้าผู้ชายคนนี้จ้องหน้าเรา ไม่น่าไปมองหน้าอีตานี่เลย ภาพเลยติดตา”

เมษาถอนใจอีกครั้งแล้วหลับตาเลื่อนตัวลงหายไปในอ่างน้ำ
 
อ่านต่อตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น