อ่างทอง - สุดทึ่งร้านตัดผมชายหนึ่งเดียวในอ่างทอง ยึดแนวพระราชดำริ “ความพอเพียง” เก็บค่าตัดผมลูกค้าเด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท มากว่า 30 ปี ไม่เคยปรับขึ้นราคา จนชาวบ้านเรียก “ช่างออด พอเพียง” เจ้าตัวเผยมีลูกค้าวันละ 20-30 ราย อยู่ได้เพราะยึดถือตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เศรษฐกิจพอเพียง”
“ชาวบ้านแถวนี้เรียกผมว่า “ช่างออด พอเพียง” โดยในแต่ละวันจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตกประมาณวันละ 20-30 คน มีรายได้วันละประมาณ 500 บาท หักค่าใช้จ่าย และต้นทุนประจำวันจะเหลือประมาณวันละ 250 บาท ซึ่งถือว่าพออยู่ได้ เพราะผมไม่มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรมากมาย จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องปรับราคาขึ้นไปมากกว่านี้”
วันนี้ (25 ก.ย.) พ.อ.ธนาอัศม์ จงใจรักษ์โกเศษ รอง ผอ.รมน.จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่ จ.อ่างทอง ยังมีช่างตัดผมฝีมือดี ราคาถูกอยู่ร้านหนึ่ง เปิดบริการตัดผมมาแล้วกว่า 30 ปียังไม่เคยมีการปรับขึ้นราคาค่าตัดผม โดยเด็กคิดราคาหัวละ 10 บาท ผู้ใหญ่คิดราคาหัว 20 บาท โดยมีลูกวันละประมาณ 20-30 คน โดยช่างตัดผมคนนี้ยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกอบอาชีพคือ คิดแบบแนวเศรษฐกิจพอเพียงจนชาวบ้านในพื้นที่เรียกเขาว่า “ช่างออด พอเพียง”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านตัดผมดังกล่าว ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง และได้พบกับ นายประภาส ยามสุข หรือช่างออด หรือ “ช่างออด พอเพียง” อายุ 54 ปี ที่กำลังทำการตัดผมให้แก่ผมลูกค้าอย่างขะมักเขม้นด้วยความพิถีพิถัน
เมื่อได้จังหวะช่วงที่ไม่มีลูกค้า จึงได้พูดคุยกับ นายประภาส ยามสุข หรือ “ช่างออด พอเพียง” ถึงชีวิตความเป็นอยู่ และอาชีพการตัดผมที่ทำมานาน “ช่างออด พอเพียง” ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างตัดผมมาตั้งแต่อายุ 24 ปี จนตอนนี้ผ่านมาแล้ว 30 ปี โดยตัดในราคาที่ไม่แพง ถ้าเป็นเด็กคิดราคาหัวละ 10 บาท โตขึ้นมามาหน่อยคิดราคาหัวละ 15 บาท ถ้าเป็นผู้ใหญ่คิดราคาหัวละ 20 บาท จนถึงทุกวันนี้ตนก็ยังไม่มีเคยมีการปรับขึ้นราคาค่าตัดผมเลย
เมื่อถามว่าแล้วราคาขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร นายประภาส ยามสุข หรือ “ช่างออด พอเพียง” ตอบว่า “ผมยึดถือตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ คิดแบบแนวคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง และการตัดผมในราคานี้ก็เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านอีกทางหนึ่งด้วย”
จนชาวบ้านแถวนี้เรียกผมว่า ช่างออด พอเพียง โดยในแต่ละวันจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตกประมาณวันละ 20-30 คน มีรายได้วันละประมาณ 500 บาท หักค่าใช้จ่าย และต้นทุนประจำวันจะเหลือประมาณวันละ 250 บาท ซึ่งถือว่าพออยู่ได้เพราะผม ไม่มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรมากมาย จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องปรับราคาขึ้นไปมากกว่านี้
ด้าน นายเสนาะ ช่างประดิษฐ์ อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 4 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ลูกค้าที่กำลังตัดผมอยู่ ได้กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่จะกลับบ้านทุกอาทิตย์ และจะต้องมาตัดผมที่นี่ทุกครั้ง โดยตัดมามานานกว่า 27 ปีแล้ว สมัยตั้งแต่ตนเรียนหนังสืออยู่โรงเรียนมัธยมปลาย
“ผมตัดมาตั้งแต่ราคา 10 บาท จนมาถึงขณะนี้ราคาตัดผมปัจจุบันอยู่ที่ 20 บาทต่อหัว ซึ่งผมยังไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน และผมก็ชอบ และถูกใจมาตลอด แต่ที่สำคัญประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ก็ยังได้พาหลานมาตัดผมในครั้งนี้ด้วย”
