รู้หรือไม่.. อุปกรณ์ในร้านเสริมสวยจำพวก กรรไกรตัดผม, แปรงม้วนผม, หวี, กิ๊บติดผม, ที่แคะเล็บ, ตะไบเล็บ ฯลฯ พบการปนเปื้อนเชื้อรากว่า 85 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผู้ที่สุขภาพอ่อนแอมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อราสูงมาก
จากการตรวจสอบของกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ระบุชัดว่าร้านเสริมสวยหรือแต่งผม เป็นกิจการที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องควบคุมตามดูแลตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ซึ่งการสุ่มสำรวจพบว่า 21เปอร์เซ็นต์ ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งเกณฑ์การตรวจจะประกอบด้วย
1. สุขลักษณะของอาคารสถานที่ เช่น สภาพอาคาร การจัดแสงสว่าง การระบายอากาศ
2. สุขลักษณะของอุปกรณ์ ได้แก่ อ่างสระผม-เตียงสระผม น้ำดื่ม - น้ำใช้ เครื่องใช้ประเภทผ้า
3. ความสะอาดและความปลอดภัย เช่น การเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ การทำความสะอาดอุปกรณ์ การเลือกใช้เครื่องสำอาง การปฐมพยาบาล การป้องกันอุบัติเหตุ สุขอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน
ซึ่งสถานประกอบการที่ไม่ผ่านการประเมินบกพร่องในเรื่องความสะอาดเป็นหลัก อาทิ พื้น ผนัง มีคราบสกปรก อ่างสระผมและเตียงชำรุดไม่สะอาด อุปกรณ์จำพวกผ้าคลุม หวี มีคราบเลอะเทอะ ทั้งบางแห่งยังไม่มีการทำความสะอาดหลังใช้งานประจำวัน หรือร้ายแรงกว่านั้น คือไม่มีการจัดการขยะอันตรายจำพวก ใบมีดโกน, ภาชนะบรรจุน้ำยาดัดผม, กระป๋องสเปรย์ ฯลฯ ทั้งยังเรื่องสุขภาพอนามัยของช่างตัดผม กรณีช่างฯ เจ็บป่วยขณะให้บริการ ในหลายๆ ร้าน ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยจนทำให้เชื้อโรคแพร่สู่คนได้
ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live เดินทางไปยังร้านตัดผมชายเก่าแก่ บริเวณถนนพระอาทิตย์ พูดคุยกับเจ้าของร้าน สวัสดิ์ รู้สมัย เจ้าของร้าน จำรัสบาร์เบอร์ ซึ่งประกอบธุรกิจนี้มากว่า 30 ปี บรรยากาศภายในร้านอบอวลด้วยความเก๋าของอุปกรณ์ตกแต่งแบบเก่าที่จัดวางเป็นระเบียบสะอาดสะอ้าน
สวัสดิ์ ช่างผมฝีมือดี เล่าให้ฟังว่า ทางร้านของตนมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกอย่างหลังใช้งานเสร็จ โดยอุปกรณ์จำพวกกรรไกรตัดผมหลากรูปแบบตามการใช้งาน จะให้เป็นความรับผิดชอบของช่างผมแต่ละคนดูแลรักษาความสะอาด ส่วนใบมีดโกนนั้นใช้ของชั้นดีและมีการเปลี่ยนทุกครั้ง
สอบถามไปยัง รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร้านเสริมสวยเป็ยสถานที่ที่เชื้อรามีโอกาสเกิดสูงมาก แต่โอกาสการติดเชื้อสู่คนมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
“คือมันมีเชื้อราบางชนิดที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ผ่านหวีหรืออะไรก็ตามที่ไม่ค่อยสะอาด มันเป็นเชื้อรา และเราก็มีการใช้หวีที่ไม่สะอาด หรือว่ามืออของช่างตัดผมที่สัมผัสโดนเรา ตรงนี้ก็มีโอกาสติดได้ แต่ว่าการติดเชื้อราในผู้ใหญ่ค่อนข้างจะน้อย จะไม่พบบ่อยเหมือนเด็ก แต่ในทางทฤษฎีสามารถติดต่อได้เลย ถ้ามีเชื้อมากพอ”
รศ.นพ.นภดล ให้ความรู้ถึงลักษณะอาการหากเกิดกรณีติดเชื้อรา “ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อรา โดยทั่วไปบางชนิดทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย บวมอักเสบ ผมขาดผมร่วงออกมา บางชนิดเป็นแค่การอักเสบ ผมขึ้นมาก็หักเป็นจุดๆ เป็นตอๆ อยู่บนหนังศีรษะ โดยที่มีการอักเสบน้อย”
อย่างไรก็ตาม เชื้อราไม่สามารถรักษาหายเองได้ และอาจจะลุกลามไปยังสามาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน สำหรับผู้ที่มีอาการลักษณะดังกล่าว สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาอาการต่อไป ซึ่งแพทย์จะดึงเส้นผมมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ดูว่ามีเชื้อราอยู่หรือเปล่า
“ผู้ประกอบการควรจะดูแลรักษาความสะอาดในร้านเสริมสวย เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ถ้าติดเชื้อแล้วไม่มีการทำความสะอาดก็อาจนำเชื้อโรคไปสู่ผู้ใช้บริการรายอื่นต่อไปได้ง่าย”
แน่นอนว่า ผู้ประกอบกิจการร้านเสริมสวยต้องใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการรักษาความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานภายในร้าน มิเช่นนั้นแล้ว เชื้อราร้ายและเชื้อโรคที่หมักหมมอาจส่งผลต่อสุขภาพผู้ที่เข้ามาใช้บริการ