xs
xsm
sm
md
lg

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 8

เควิน สมิธ เดินพูดโทรศัพท์กับสถิตย์ยุทธอยู่ภายในบ้าน

“หวัดดีครับผู้การ ว่าไงครับ”
“ชวนคุณมาปาร์ตี้ที่คลับคืนนี้ ผมนัดสาว ๆ มาให้คุณหลายคนนะ”
“วันนี้หรือ”
“ใช่ ว่างมั้ย”
“วันนี้ต้องขอตัว พอดีผมมีสาวที่ติดใจจะมาหา”
“งั้นก็ตามใจ”
“ก่อนผมจะเดินทางไปอัมสเตอร์ดัมวีคหน้า ผมอยากเจอผู้การกับคุณวัฒนาก่อนนะ”
“เกี่ยวกับของใหม่รึเปล่า”
“ใช่ พอดีลูกค้าเขาส่งรูปมา อยากได้ของ”
“ได้ งั้นพรุ่งนี้เที่ยงกินข้าวกัน”
“ซียูทูมอโร่”
เควิน สมิธ ปิดโทรศัพท์ ดูรูปเศียรพระพุทธรูป 3 รูปจากคอมพิวเตอร์

ตอนค่ำ รถแท็กซี่เข้ามาจอดหน้าบ้านเควิน สมิธ ไมค์ โจ๊กเกอร์ ในชุดคนขับแท็กซี่ใส่หมวกแก๊ปใส่แว่นตาหันมามองด้านหลังรถ ปึกในชุดสวยเซ็กซี่นั่งอยู่เบาะหลัง
“แน่ใจนะหนูปึกว่าจะเข้าไป”
“แน่ใจสิพี่ มาถึงหน้าบ้านแล้วหนูปึกไม่มีวันถอยหรอก”
“แต่พี่เป็นห่วงหนูปึกนะ”
“หนูปึกรู้จ้ะว่าอ้ายไมค์รักและเป็นห่วงหนูปึก แต่เชื่อเถอะว่าหนูปึกดูแลตัวเองได้”
“ระวังตัวนะ มีอะไรโทรหาพี่ทันที พี่จะรออยู่ตรงนี้”
“จ้ะ ฉันรักพี่นะ”
“พี่ก็รักหนูปึก”
ปึกหอมแก้มไมค์ โจ๊กเกอร์ แล้วเปิดประตูลงไป เขามองตามอย่างเป็นห่วง ยามเดินมาเปิดประตูให้
“ฉันชื่อหนูปึกมาหาคุณเควิน”
ยามมองซ้ายขวา เปิดประตูให้เข้า ปึกจะเดินเข้าไป หันมองไมค์ โจ๊กเกอร์ อีกครั้ง ก่อนจะก้าวเข้าไป ยามปิดประตูตามหลัง ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองตามอย่างห่วงใย
“ขอให้หนูปึกทำงานสำเร็จแล้วปลอดภัยด้วยเถอะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาขั้นเทพ

รถตู้ขั้นเทพจอดอยู่อีกด้านหนึ่งของซอย ดาบยิ้มกับตำรวจนอกเครื่องแบบยืนชะเง้อมองไปทางบ้านเควิน ขั้นเทพชะเง้อมองไปข้างหน้า เมษานั่งเบาะด้านหลังมองชะเง้อไปด้านหน้ารอเวลาเช่นกัน เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ขั้นเทพหยิบมาดูกดรับ
“หนูปึกเข้าไปรึยัง”
“เข้าไปแล้ว”
“โอเค”
“ผู้กอง ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผู้กองต้องช่วยหนูปึกให้ได้นะ”
“ฉันรู้น่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว นายเองก็อย่าไปไหนดูต้นทางไว้”
“รู้น่ะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ กดปิดโทรศัพท์ มองชะเง้อกลับไปที่บ้านเควิน
ขั้นเทพหันไปบอกดาบยิ้มและตำรวจนอกเครื่องแบบอีกนายที่ยืนรอนอกรถ
“ดาบยิ้มกับชาติไปเฝ้าหลังบ้านไว้นะ ถ้าได้ยินเสียงอะไรผิดปกติก็จู่โจมเข้าไปได้เลย”
“ครับ”
ดาบยิ้มกับเพื่อนตำรวจออกไป เมษาหันมาถามขั้นเทพ
“คุณว่าหนูปึกจะหาเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงเจอมั้ย”
“ผมว่าเจอนะ เพราะไอ้เควินมันต้องเก็บไว้ที่บ้าน”
“หรือว่าฉันควรจะเข้าไปช่วยหนูปึกหา”
“ผมว่าเสี่ยงไป ถ้าเราไม่เจอของแล้วมันจับได้ เราจะเจอข้อหาบุกรุก”
เมษาพยักหน้ารับฟัง มองชะเง้อไปทางบ้านเควิน สมิธ อย่างกังวล

ปึกเดินเข้ามาในห้อง ลงนั่งที่เตียง เควิน สมิธ ออกจากห้องน้ำมาในชุดเสื้อคลุม มองปึก เธอส่งยิ้มให้ เควิน สมิธ เดินเข้ามาเชยคางปึก

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เปิดประตูลงจากรถ ออกมายืนมองชะเง้อเข้าไปในบ้าน ยามเปิดประตูออกมาดู

“มาทำอะไร”
“อ๋อ ผมมารอผู้หญิงที่เข้าไปข้างในน่ะลูกพี่ เขาจ้างเหมารถผมให้มารอรับกลับ”
ยามพยักหน้า แล้วเดินกลับไป

ภายในห้องนอน เควิน สมิธ จ้องหน้าปึก
“ทำไมเธอถึงกลับมาหาฉัน”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าหนูต้องการเงิน แล้วหนูก็เห็นว่าคุณเควินเป็นคนใจดี มีเมตตา”
“เธอไม่ต้องมาทำหวานกับฉันหรอก ครั้งก่อนเธอทำให้ฉันเสียอารมณ์มากนะ หวังว่าครั้งนี้เธอจะไม่หนีฉันไปอีกล่ะ”
“ไม่แล้วค่ะ ครั้งนี้หนูปึกจะอยู่กับคุณทั้งคืนเลยค่ะ”
เควิน สมิธ ยิ้ม เดินไปหยิบเชือกในตู้
“ถ้าอย่างงั้นก็มัดมือเธอซะ”
“หา อะไรนะคะ ต้องมัดมือด้วยหรือ”
“ใช่”
เควิน สมิธ หยิบแส้มาฟาด
“ฉันต้องลงโทษเธอ”
“คุณเควินคะ หนูปึกไม่ได้ซาดิสม์นะคะ”
“เธอไม่ซาดิสม์ แต่ฉันซาดิสม์”
ปึกกลัวมาก

ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองชะเง้อเข้าไปในบ้านอย่างร้อนใจ เป็นห่วงปึก เขากดโทรศัพท์หาขั้นเทพ
“ว่าไง”
“ทำไมหนูปึกเข้าไปนานจังผู้กอง”
“ใจเย็น เธอเพิ่งเข้าไปไม่ถึงชั่วโมงเลย”
“แต่ฉันเป็นห่วงเธอ ใจคอไม่ดีเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันว่ารออีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวหนูปึกคงโทรมา”
ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์ มองหน้าเมษา
“ดูนายไมค์จะรักหนูปึกจริง ๆ นะ”
“ถ้าเป็นคุณเข้าไป ผมก็คงรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน”
“นี่ เลิกเปรียบเทียบเรื่องฉันกับคุณซะทีได้มั้ย”
“ผมก็แค่อยากให้คุณรับรู้ความรู้สึกของผม”
“ฉันไม่อยากรู้ความรู้สึกอะไรของคุณ”
“เฮ้อ อยากจะเห็นหน้าแฟนคุณจริง ๆ ว่าเป็นยังไง”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่คุณแน่”
ขั้นเทพมอง เมษาเหลือบตาหนี ทำมองชะเง้อไปในบ้าน ขั้นเทพขำ

เควิน สมิธ ลงนั่งข้างเตียงดึงเชือกเตรียมจะมัดปึกกับหัวเตียง
“คุณเควินคะ”
“ว่าไงจ๊ะ”
“ก่อนที่เราจะเล่นอะไรกัน หนูปึกขอดื่มอะไรย้อมใจหน่อยได้มั้ยคะ แบบว่ามันตื่นเต้นน่ะค่ะ”
“ได้สิจ๊ะ อะไรดี”
“อะไรก็ได้ค่ะที่มันร้อนและแรง”
เควิน สมิธ เดินไปที่โต๊ะเครื่องดื่ม รินเครื่องดื่มสีขาวเหมือนน้ำใส่แก้ว เอามาส่งให้
“ขอบคุณค่ะ”
เควิน สมิธ หันเดินกลับไปที่โต๊ะ ปึกบิดตัวหันหลัง หยิบยานอนหลับในเสื้อออกมา แอบใส่ยาลงไปในแก้ว ปึกหันหน้ากลับมาสะดุ้ง เห็นเควิน สมิธ ยืนจ้องอยู่
“เธอใส่อะไรลงไปในแก้ว”
“เอ่อ หนู”
“ฉันถามว่าเธอใส่อะไรลงไป”
“เปล่าค่ะ”
“ถ้าเปล่าเธอก็ดื่มซะ”
“เอ่อ คือว่า”
“ฉันบอกให้ดื่มไง”
“เอ่อ”
เควิน สมิธ กระชากผมปึก
“นี่คิดจะวางยาฉันงั้นหรือ”
ปึกเอาเหล้าในแก้วสาดใส่หน้าเควิน สมิธ แล้ววิ่งไปที่ประตู ดึงประตูจะเปิด แต่ประตูติดล็อค เควิน สมิธ ตามเข้ามากระชากปึกกลับ ต่อยท้อง ชกหน้า จนปึกสลบเหมือด
“หนอย เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับเรา”

เควิน สมิธ อุ้มปึกไปวางที่เตียง มัดมือเธอกับหัวเตียง

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินชะเง้อไปมาอย่างร้อนใจ ยกนาฬิกาขึ้นดู ตัดสินใจเดินไปเรียกยามที่นั่งอยู่ในรั้วบ้าน

“ลูกพี่ ขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ย ฉันท้องเสีย”
“ไปเข้าที่ปั๊มสิ”
“ไม่ได้หรอกลูกพี่ เดี๋ยวลูกค้าออกมาเขาจะด่าเอา แป๊บเดียวลูกพี่”
“เอา เอา เข้ามา”
ยามเปิดประตูให้ ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินเข้าไป ขั้นเทพเห็นพอดี
“นั่นไอ้ไมค์จะทำอะไร”
“เขาเข้าไปในบ้านเควินแล้วนะ”
ขั้นเทพกับเมษาวิ่งมาที่รั้วบ้าน

ยามชี้บอกทางไปห้องน้ำกับไมค์ โจ๊กเกอร์
“ห้องน้ำอยู่ด้านหลัง เร็วนะ เดี๋ยวนายเห็น เขาจะด่าอั๊ว”
“ครับ ๆ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ วิ่งไปเข้าห้องน้ำ ยามมองตามแล้วหันกลับไปหน้าบ้าน ไมค์ โจ๊กเกอร์ โผล่ออกมาวิ่งข้ามเข้าตึกไปในบ้าน เห็นการ์ดนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก เขาชะงักหลบ วิ่งไปด้านหลัง ปีนขึ้นหน้าต่าง แล้วโดดเข้ามาในห้อง ย่องขึ้นชั้นบน

ปึกโดนขึงพืดมัดมือซ้ายขวากับหัวเตียง เควิน สมิธ เดินเข้ามาจับแก้ม
“ทำเป็นลูกเล่น คิดจะมอมยาแล้วรูดทรัพย์ฉันงั้นหรือ เดี๋ยวเถอะ ให้ฉันได้เธอก่อน แล้วจะเอาไปขายซ่องที่ชายแดน”
ปึกมองหาทางหนี เควิน สมิธ เดินไปที่โต๊ะเครื่องดื่ม

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินขึ้นมาตามทางเดิน เปิดประตูห้องแต่ละห้องดูแง้มเข้าไปไม่มีใคร จึงเดินย่องมาตามทางเห็นอีกห้องปิด เขาเอื้อมมือบิดลูกบิด ประตูห้องล็อค ไมค์ โจ๊กเกอร์ ชะงักคิด

เควิน สมิธ ก้มลงกำลังจะจูบปึก แต่ชะงักได้ยินเสียงประตูก็อกแก็ก
“ใครวะ”
เควิน สมิธ เดินมาเปิดประตู ไมค์ โจ๊กเกอร์ ต่อยโครมเข้าที่หน้าจนเซไป ก่อนมองเข้าไปเห็นปึกถูกมัดขึงพืดอยู่บนเตียง
“หา หนูปึก”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ถลาจะเข้าไปช่วยปึก เควิน สมิธ กระชากคอ แล้วต่อยท้องจนตัวงอ เงื้อหมัดจะต่อยอีก ไมค์ โจ๊กเกอร์ ก้มหัวหลบ เควิน สมิธ ต่อยพลาดโดนตู้ ร้องลั่น การ์ดได้ยินเสียง นึกขำ คิดว่าเจ้านาย กำลังมีความสุขกับปึก

เควิน สมิธ โดดเข้าล็อคคอไมค์ โจ๊กเกอร์ เมื่อเห็นหน้าชัด ๆ ก็จำได้ ว่าเคยเจอไมค์ โจ๊กเกอร์ ที่สนามมวย
“หา นี่แก ไอ้ไมค์ โจ๊กเกอร์ หรือ”
“ปล่อยฉันนะ”
“พี่ไมค์ ช่วยหนูปึกด้วย”
“หนูปึก”
“แกสองคนเป็นพวกเดียวกันงั้นหรือ”

“ปล่อยพี่ไมค์นะ”

ขั้นเทพกับเมษาจอดรถซุ่มอยู่ เมษามองชะเง้อขยับดูนาฬิกาข้อมือ แล้วหันมาบอกกับขั้นเทพ

“ฉันว่ามันนานผิดปกตินะ หรือจะเกิดเรื่องอะไร”
“นั่นสิ”
เสียงโทรศัพท์ขั้นเทพดังขึ้น เขากดรับสาย
“ว่าไงดาบยิ้ม อะไรนะ โอเค ดาบยิ้มเข้าไปได้เลย”
“มีอะไรคะ”
“ดาบยิ้มบอกว่าเห็นไอ้ไมค์เข้าไปในบ้านเควิน สมิธ น่าจะเกิดเรื่องในบ้าน”
“งั้นฉันว่าเราควรจะบุกเข้าไปช่วยเขานะ”
ขั้นเทพพยักหน้า สองคนรีบวิ่งออกไป

เมษามาที่หน้าประตูรั้วบ้านเควิน สมิธ แล้วทำทีเดินไปหายาม
“หวัดดีค่ะ”
“มีอะไรครับ”
“ฉันมาพบคุณเควินน่ะค่ะ”
“คุณเควินไม่ได้สั่งไว้นะครับ”
“เขาเพิ่งโทรเรียกฉันมาเดี๋ยวนี้เองค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมไปถามคุณเควินก่อน”
“ฉันว่าคุณอย่าเสียเวลาถามเลย หนูปึกเพื่อนฉันก็เพิ่งมาหาเขา”
“คุณเป็นเพื่อนหนูปึกหรือ”
“ใช่ค่ะ”
ยามเปิดประตูให้ เมษาดันประตูกระแทกหน้า ยามเซ หันมาจะต่อย เธอหลบแล้วถีบยามไปหาขั้นเทพ ขั้นเทพล็อคคอรัดยามสลบ

เมษาวิ่งไปที่ตัวบ้าน ขั้นเทพวิ่งตามหลังมา การ์ดเดินออกมาหลังระเบียงเห็นขั้นเทพพอดี
“เฮ้ย”
การ์ดชักปืน ขั้นเทพหยิบของเขวี้ยงใส่หน้า แล้วพุ่งเข้าจัดการ การ์ดในบ้านวิ่งออกมาจะยิงขั้นเทพ เมษาโผล่ออกมาเตะมือการ์ด การ์ดจะเข้ามาจัดการเมษา เมษาต่อสู้ ขั้นเทพเข้ามาช่วยจัดการการ์ดล้มลง
“เร็ว ข้างบน”
เมษาวิ่งนำขั้นเทพขึ้นมาที่ชั้นบน

เควิน สมิธ จับไมค์ โจ๊กเกอร์ เหวี่ยงเข้าไปหาปึกบนเตียง
“พี่ไมค์ พี่เป็นไงบ้าง”
“พี่ไม่เป็นอะไร”
“ตอนนี้ไม่เป็นไรหรอก แต่อีกเดี๋ยวฉันจะเป่าแกสองคนให้ลงนรกเลย หนอย คิดจะมาลอกคราบฉันงั้นหรือ อย่าหวังเลย”
เควิน สมิธ ยกปืนขึ้น ไมค์ โจ๊กเกอร์ บังปึกไว้
“อย่านะ ไอ้เควิน ตอนนี้ตำรวจเขาล้อมบ้านหลังนี้ไว้หมดแล้ว ถ้าแกยิงเรา แกก็ต้องถูกจับอยู่ดี”
“นี่พวกแกเป็นตำรวจงั้นหรือ”
“ใช่ ฉันเป็นตำรวจ ปล่อยพวกเราซะแล้วแกจะไม่เดือดร้อน”
“ใช่ ถ้าแกยิงเรา ตำรวจเขาก็จะจับแก ที่แกขโมยหลวงพ่อคำเกลี้ยงมา”
เควิน สมิธ มองไมค์ โจ๊กเกอร์ กับปึก
“นี่พวกแกมาจับฉันเรื่องหลวงพ่อคำเกลี้ยงงั้นหรือ”
“เป็นไง อึ้งล่ะสิ เรารู้ว่าแกคือโจร ไม่ใช่นักบุญ บอกมาซะดี ๆ ว่าเอาหลวงพ่อคำเกลี้ยงไว้ที่ไหน”
“หึ บอกงั้นหรือ บอกไปแกสองคนก็ไม่มีวันจับฉันได้หรอก ตายซะเถอะ”
เควิน สมิธ ขยับยกปืนเตรียมยิง ประตูเปิดผัวะเข้ามา
“ทิ้งปืน”
เควิน สมิธ เห็นขั้นเทพกับเมษาจ่อปืนเข้ามา
“ถ้าคุณขยับแม้แต่ก้าวเดียวล่ะก็ ผมจำเป็นต้องยิงคุณนะ”
“ทิ้งปืน”
“คุณเมคะ ช่วยหนูปึกด้วยค่ะ”
“ยิงมันเลยผู้กอง ไม่ต้องห่วงฉัน”
เควิน สมิธ มองขั้นเทพกับเมษา เห็นทั้งสองเล็งปืน
“ก็ได้ ผมยอม”
เควิน สมิธ ทิ้งปืนลง ขั้นเทพเดินเข้าหา หยิบกุญแจมือขึ้นมา
“คุณถูกจับแล้ว”
“จับผมข้อหาอะไร ผมต่างหากที่จะฟ้องพวกคุณที่บุกรุกบ้านผมยามวิกาล”
“ไม่ต้องทำหัวหมอกับเรา เศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงอยู่ไหน” เมษาถามหน้าเครียด
“เศียรอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
ดาบยิ้มกับตำรวจอีกคนเข้ามา
“เราเจอหลวงพ่อคำเกลี้ยงแล้วครับผู้กอง”
“อยู่ที่ไหน ดาบยิ้ม”
“อยู่ในห้องใต้บันไดข้างล่างครับ”
“เที่ยวนี้คุณไม่รอดคุกแน่ เควิน สมิธ”
“ดาบยิ้ม เอาตัวเควิน สมิธ ไปที่หน่วย”
“ครับ”
ดาบยิ้มลากตัวเควิน สมิธ ออกไป
“ผมไม่รู้เรื่องนะ ปล่อยผม”
“ไปให้การที่ศาลแล้วกัน”
ดาบยิ้มและตำรวจพาตัวเควิน สมิธ ออกไป ไมค์ โจ๊กเกอร์ เข้าไปแกะเชือกให้ปึก
“เป็นไงบ้างหนูปึก ไอ้เควิน สมิธ มันยังไม่ได้ทำอะไรหนูปึกใช่มั้ย”
“ใช่จ้ะ”
“โชคดีนะที่พี่บุกเข้ามาช่วยทัน”
“นี่ ไอ้ไมค์ วันหลังจะทำอะไรปรึกษาฉันก่อน ถ้าฉันกับผู้กองเมเข้ามาไม่ทัน แกกับหนูปึกเป็นผีเฝ้าบ้านไอ้เควิน สมิธแล้ว”
ขั้นเทพเดินออกไป เมษามองไมค์ โจ๊กเกอร์ กับปึก
“ไปกันได้แล้ว”
เมษาเดินตามขั้นเทพออกไป ไมค์ โจ๊กเกอร์ ส่งมือให้ปึก
“ไปหนูปึก”

สองคนเดินออกไปด้วยกัน
 
อ่านต่อหน้า 2

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 8 (ต่อ)

คืนนั้น เควิน สมิธ ถูกนำตัวมาที่ห้องสอบสวน หน่วยฉก.911 โดยมีเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงวางบนโต๊ะ ใกล้กัน ขั้นเทพ เมษา และ เสวีนั่งอยู่ พร้อมตำรวจถือปืนเอ็ม16 ยืนอยู่ในห้อง และมีกล้องถ่ายวิดิโอตั้งอยู่ เสวียื่นเอกสารให้เควิน สมิธ

“นี่เป็นเอกสารให้คุณเซ็นรับสารภาพ”
“ผมไม่เซ็นอะไรทั้งนั้น ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่รู้ว่าเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงไปในอยู่บ้านผมได้ยังไง”
“ไม่เอาน่ะ คุณเควิน ผมว่าคุณรับสารภาพมาเถอะ โทษจากหนักจะได้เป็นเบา”
“ผมไม่สารภาพเพราะผมไม่ได้ผิด แล้วผมจะฟ้องพวกคุณข้อหาบุกรุกบ้านผม”
“แต่เราเจอเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงในบ้านคุณ คุณยังบอกไม่ผิดอีกหรือ” ขั้นเทพแย้ง
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่รู้ พวกคุณอาจจะเอาหลักฐานไปยัดที่บ้านผมก็ได้”
“แต่เรามีหลักฐานว่าคุณเป็นพ่อค้ารับซื้อเศียรพระพุทธรูปมานานแล้วนะ”
“ถ้าพวกคุณมีหลักฐานก็จับผมสิ เอาล่ะ ผมจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ผมจะรอทนายผม”
เสวีพยักหน้าให้ขั้นเทพหยุดการสอบสวนแล้วเดินออกไป ขั้นเทพหันมาย้ำกับเควิน สมิธ
“แต่ผมจะบอกให้รู้นะ ต่อให้คุณมีทนายเก่งแค่ไหน คุณก็ไม่รอดแน่ คุณจะต้องติดคุกที่เมืองไทยไปจนตาย”
เควิน สมิธ อึ้ง เมษาจ้องหน้าเควิน สมิธ
“ฉันว่าคุณเซ็นรับสารภาพเถอะ โทษหนักจะได้เป็นเบานะ”
เควิน สมิธ ลังเล

เสวี ขั้นเทพ และเมษา มานั่งคุยกันต่อที่ห้องทำงานของเสวี
“คุณสองคนเก่งมากที่ทำงานชิ้นนี้ได้สำเร็จ”
“แล้วเราจะเอายังไงกับผู้การยุทธครับ”
“พรุ่งนี้เช้าให้เราจับผู้การยุทธเลยมั้ยคะ”
“ใจเย็น ผู้กองเมษา ผมเชื่อว่าไม่เกินสองวันนี้ไอ้เควินมันต้องยอมรับสารภาพแน่ และมันก็จะซัดทอดไปที่ผู้การยุทธเพื่อเอาตัวรอด”
“แต่ผมว่าคนอย่างผู้การยุทธคงไม่ยอมให้มันซัดทอดง่าย ๆ หรอกครับ”
“ถูกต้อง แต่งานนี้เขาดิ้นไม่หลุดแน่ เพราะหลักฐานที่เรามีมันโยงไปถึงเขาร้อยเปอร์เซ็นต์”
“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะปิดคดีนี้ได้ง่ายกว่าที่คิด”
“แสดงว่าคุณสองคนเป็นคู่หูที่ทำงานกันได้ลงตัว”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เสวียื่นมือให้
“ขอบคุณอีกครั้งผู้กองเทพ ผู้กองเมษา”
ขั้นเทพกับเมษาจับมือเสวี
“เอาล่ะ นี่ก็จะตีสี่แล้ว พวกเรากลับกันเถอะ พวกคุณเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว”
เสวีเดินนำขั้นเทพกับเมษาออกไป

เมื่อเสวีเดินแยกไปแล้ว ขั้นเทพและเมษาหันมามองหน้ากัน พูดขึ้นพร้อมกัน
“คุณหิวมั้ย”
ทั้งสองชะงักขำ
“ไม่คิดว่าเรา”
ทั้งสองพูดพร้อมกันอีก
“คุณพูดก่อน”
“คุณก่อน”
“คุณดีกว่าเลดี้เฟิร์ส”
“คือ ฉันน่ะหิว”
“ผมก็หิว”

ทั้งคู่ยิ้มให้กันแล้วเดินออกไป

ที่ร้านกาแฟ พนักงานเอาเบอร์เกอร์กับกาแฟมาวางให้ ขั้นเทพหยิบซอสมะเขือเทศเทใส่จานให้ เมษาหยิบเฟรนช์ฟรายจิ้มซอสเข้าปาก ขั้นเทพมอง เมษาเหลือบเห็น

“ไหนว่าหิว ไม่เห็นกินเลย จ้องหน้าฉันทำไม”
“อ๋อ ไม่มีอะไร ผมแค่กำลังคิดถึงเรื่องที่หัวหน้าพูด ก็ดีแหมือนนะ”
“พูดว่าไง”
“ก็ที่หัวหน้าบอกว่าเราสองคนเหมาะสมที่จะเป็นคู่รักกัน”
“น้อย ๆ หน่อย หัวหน้าคุณแค่บอกว่าคู่หูในการทำงาน”
“ก็นั่นล่ะ แสดงว่าเราสองคนมีทัศนคติในการทำงานตรงกัน มีมุมมองเดียวกัน มีจุดยืนเดียวกัน แล้วที่สำคัญมีใจที่ตรงกัน”
“หึ อย่างอื่นก็ใช่ แต่ใจคงไม่ตรง”
“ถามจริง คุณไม่คิดจะใจอ่อนกับผมบ้างเลยหรือ”
“ก็ฉันบอกแล้วไง คุณไม่ใช่สเปคฉัน”
“แต่ผมว่าคุณโกหก จริง ๆ คุณก็ต้องมีใจให้ผมบ้าง ไม่งั้นตอนนี้ตีสี่ครึ่ง คุณจะมานั่งกินเบอร์เกอร์กับผมหรือ”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันหิว”
“แต่อย่างน้อยคุณก็เชื่อใจผม ถึงยอมมากินกับผมสองต่อสอง”
“ฉันเป็นตำรวจ ฉันจะกลัวคุณทำไม”
“เฮ้อ คุณนี่นะ ไม่ว่าผมจะมาไม้ไหนมุกไหน คุณหลบแล้วโต้ตอบได้ทุกมุกเลย”
เมษาอมยิ้มยกกาแฟดื่ม
“ผมคงไม่มีหวังแล้วจริง ๆ”
“ท้อหรือ”
“ก็มีบ้าง คุณคิดดูสิ ถ้าเราตะโกนออกไปแล้วมีเสียงสะท้อนกลับมา มันก็ยังมีความหวังใช่มั้ย แต่นี่ผมตะโกนไปกี่ครั้ง เสียงก็หายไปในหุบเขา”
“คุณไม่คิดหรือว่าฉันอาจจะทดสอบคุณก็ได้”
“นี่คุณพูดจริงหรือ คุณกำลังทดสอบความอดทนผมอยู่หรือ”
“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ”
“บอกผมหน่อยเถอะ ตอนนี้ผมคิดไม่ออกจริง ๆ”
“ถ้าคุณคิดไม่ออก ก็ช่วยไม่ได้”
เมษายกกาแฟจิบ แล้วลุกจะไป
“เดี๋ยวสิคุณเม”
“ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว ฉันง่วงนอน”
เมษาเดินออกไปหน้าร้าน ขั้นเทพลุกวิ่งตามไป
“คุณเมเดี๋ยวก่อน เดี๋ยวสิคุณเม”
“อะไร”
“บอกผมหน่อยเถอะน่ะ ผมจะได้มีความหวัง”
“บอกอะไร”
“ก็บอกว่าคุณเองก็มีใจกับผมอยู่”
“คุณนี่ท่าทางฉลาด ไม่น่าโง่เรื่องง่าย ๆ นะ”
เมษาเดินต่อไป ขั้นเทพวิ่งมาขวางหน้า
“นี่คุณชอบผมเหมือนกันใช่มั้ย”
เมษากอดอกมองหน้าขั้นเทพแล้วทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
“นะ บอกผมนะว่าคุณก็ชอบผม”
เมษาอมยิ้มมองหน้าขั้นเทพ ขั้นเทพมองจ้อง
“นะ”
เมษายิ้มพยักหน้าให้ ขั้นเทพยิ้มปลื้ม โดดตัวลอย จะโผเข้าไปกอดเมษา เมษายกมือขวาง เขาชะงัก
“ผมขอโทษ ผมลืมตัว”
เมษายิ้มมองค้อนเดินออกไป ขั้นเทพเดินตาม
“ผมอยากตะโกนให้คนได้ยินจริง ๆ ว่าในที่สุด คุณก็ชอบผม”
“น้อย ๆ หน่อย ฉันแค่ให้ความสนใจคุณในระดับหนึ่ง”
“ก็นั่นล่ะ ผมเหมาว่าคุณชอบ ไชโย”

เมษามองขั้นเทพแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ขั้นเทพเดินตามมาคว้ามือเมษากุมไว้ เธอจะดึงออก ขั้นเทพส่ายหน้าไม่ยอม เมษายิ้มมองค้อน ทั้งสองจึงเดินกุมมือกันไปตามทาง

ปึกนอนหลับในอ้อมกอดไมค์ โจ๊กเกอร์ บนโซฟา ภายในบ้านขั้นเทพ เธอขยับตัว ไมค์ โจ๊กเกอร์ ดึงมากอด ปึกเหลือบตามอง เห็นไมค์ โจ๊กเกอร์ หลับ ปึกยิ้ม ซุกตัวเบียดเข้าไปในอ้อมกอดเขา

ตอนเช้า ชายชาติ มาหาสถิตย์ยุทธที่หน่วยวิหคเวหา เคาะประตูห้องแล้วเปิดเข้าไป
“มีอะไรชายชาติ”
“ผู้การรู้เรื่องเควิน สมิธ ถูกจับรึยังครับ”
“เมื่อไหร่”
“เมื่อคืนครับ”
“ใครจับ”
“เทพกับน้องเม”
“แล้วตอนนี้เควินอยู่ไหน”
“อยู่ที่หน่วยเฉพาะกิจครับ ผู้การเสวีเก็บตัวไว้ที่นั่น จะทำไงดีครับ”
สถิตย์ยุทธเครียด

ที่ห้องสอบสวนหน่วยฉก.911 ทนายความกำลังคุยกับเควิน สมิธ
“เท่าที่คุณให้การมาทั้งหมด ผมว่าโอกาสที่คุณจะรอดมีน้อยนะ”
“คุณพูดอะไรของคุณ คุณเป็นทนาย คุณมีหน้าที่แก้ต่างให้ผม”
“แต่คุณเควินครับ ตำรวจพบหลักฐานชัดเจนในบ้านคุณนะครับ”
“แต่คุณก็อ้างได้นี่ว่าผมไม่รู้ ว่ามันมาอยู่ได้ไง”
“เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ผมเชื่อว่าตำรวจต้องมีหลักฐานแน่นหนาที่จะมัดตัวคุณ”
“แล้วในทางต่อสู้ คุณคิดว่ายังไง”
“ผมคิดว่าคุณควรจะรับสภาพว่าเป็นคนรับซื้อไม่ใช่ผู้บงการ แล้วซัดทอดไปถึงผู้บงการว่าเป็นใคร ผมว่าวิธีนี้ตำรวจอาจจะกันคุณไว้เป็นพยาน”
“คุณจะให้ผมซัดทอดผู้บงการงั้นหรือ”
“ถ้าคุณอยากรอดมันก็จำเป็นนะครับ”
“ผมขอคิดดูก่อน แต่ตอนนี้ผมว่าคุณไปหาวิธีอื่นที่จะสู้คดีให้ผม”
“ผมจะลองปรึกษาทีมงานของผมดูก่อน”
ทนายเดินออกไป เควิน สมิธ ครุ่นคิด
“ถ้าเราซัดทอด ผู้การสถิตย์ยุทธมันต้องฆ่าเราแน่”
เควิน สมิธ หวาดหวั่น

วัฒนากำลังส่องดูพระอยู่ที่บ้าน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาดูเบอร์เห็นเป็นสถิตย์ยุทธ ก็กดรับสาย
“หวัดดีครับผู้การ”
“มีเรื่องสำคัญต้องคุยกัน”
“เรื่องอะไรครับ”
“มาคุยกันที่เซฟเฮาส์ผม”
“ซีเรียสขนาดนั้นเลยหรือครับ”
ประไพพรรณเหลือบมองสงสัย
“ใช่”
“งั้นเดี๋ยวผมจะไป”
“ให้ภรรยาคุณมาด้วยนะ”
“นี่ผมชักใจไม่ดีนะ มีเรื่องอะไรกันแน่ผู้การ”
“รีบมาเถอะ”
วัฒนาปิดโทรศัพท์หน้าเครียด ประไพพรรณเดินเข้ามาหา
“มีเรื่องอะไรคะคุณ”
“ผู้การยุทธให้เราไปพบที่บ้านด่วน เขาย้ำให้พาคุณไปด้วย”
“ฉันหรือ เรื่องอะไร”
วัฒนาไม่ตอบ มองหน้าภรรยาด้วยความเครียด

วัฒนากับประไพพรรณรีบมาหาสถิตย์ยุทธที่บ้าน สถิตย์ยุทธเดินออกมาหาพร้อมกับชายชาติ
“ที่ผมเรียกคุณสองคนมาก็เพราะว่าตอนนี้เควิน สมิธ ถูกจับอยู่ที่หน่วยเฉพาะกิจ”
วัฒนาตกใจ
“จริงหรือคะ”
“จริง โดนจับพร้อมกับของกลางเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยง”
“แล้วมันจะโยงมาถึงเรามั้ยคะ”
“ขึ้นอยู่กับว่าไอ้เควิน สมิธ มันจะซัดทอดเรารึเปล่า”
“แต่ผมว่ามันคงไม่กล้าหรอก อย่างน้อยมันก็ต้องรู้ว่าถ้ามันซัดทอดผู้การ มันก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน”
“แต่ถึงยังไงเราก็ต้องช่วยเควิน สมิธ ออกมาก่อน”
“ก็ผู้การบอกว่าตำรวจจับได้พร้อมของกลางเราจะช่วยได้ยังไง”
“นี่ไง ผมถึงเรียกคุณสองคนมา”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราสองคนคะ”
“เพราะตำรวจที่จับเควิน สมิธ คือลูกสาวคุณ”
“ยัยเมน่ะหรือคะ”
“ไหนคุณบอกว่ากันลูกสาวผมออกไปจากเควิน สมิธ แล้วไง”
“น้องเมแอบไปร่วมมือกับหน่วยเฉพาะกิจ911 ครับ” ชายชาติรีบเล่า
“แล้วจะให้เราทำยังไงคะ”
“คุณสองคนก็ต้องบอกลูกคุณให้ถอนคดีนี้ออกไป”
“แต่มันจะทำได้หรือผู้การ”
“ถ้าทำไม่ได้ คุณสองคนก็ต้องเข้าคุกพร้อมกับผม”
ประไพพรรณตกใจ หันมองหน้าวัฒนา
“แล้วจะให้ผมบอกลูกสาวว่ายังไง”
“ให้ลูกสาวคุณไปบอกไอ้ผู้กองขั้นเทพให้ล้มคดีนี้ซะ”

วัฒนาและประไพพรรณอึ้ง

หลังจากวัฒนากับประไพพรรณกลับไปแล้ว ชายชาติยังคุยกับสถิตย์ยุทธอย่างเคร่งเครียด

“ผู้การว่าน้องเมจะยอมช่วยเหลือเรามั้ยครับ”
“ถ้าเป็นคุณ คุณจะยอมให้พ่อแม่ติดคุกงั้นหรือ”
“แต่น้องเมเขาไม่เหมือนคนอื่นนะครับ”
“ถ้าผู้กองเมอยากเป็นลูกอกตัญญู ก็ช่วยไม่ได้”
สถิตย์ยุทธเดินออกไป ชายชาติหนักใจเป็นห่วงเมษา

ค่ำวันนั้น ขั้นเทพ เมษา ไมค์ โจ๊กเกอร์ และ ปึก มาฉลองกันที่ร้านอาหาร ชนแก้วให้กับความสำเร็จ
“ไชโย ไช โย ไช โย”
ปึกปรบมือ ทุกคนยกดื่ม
“ยินดีด้วยกับความสำเร็จของผู้กองเมกับผู้กองขั้นเทพนะคะ”
“แล้วพี่ล่ะหนูปึก ถ้าไม่ได้พี่ ผู้กองก็จับไอ้เควินไม่ได้นะ”
“ถูกต้อง ขอบใจนายมากบุญเลิศ แล้วก็ต้องขอบใจหนูปึกด้วยที่ยอมเสียสละเอาตัวเข้าไปล่อไอ้เควิน สมิธ”
“ใช่ ต้องบอกว่างานนี้สำเร็จได้ก็เพราะเธอนะ”
“หนูปึกก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นล่ะค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กองขั้นเทพที่เป็นคนวางแผนทั้งหมด”
“ไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอก ผู้กองเมก็เป็นผู้ร่วมวางแผนจับไอ้เควิน สมิธ ด้วย”
“อย่างนี้ก็เข้าล็อค เรียกว่าคู่รักคู่คิดนะผู้กอง”
“ใช่ เห็นมั้ยใคร ๆ ก็บอกว่าเราสองคนเหมาะสมกัน”
ขั้นเทพโอบไหล่เมษา เมษากระทุ้งท้อง
“น้อย ๆ หน่อย”
“โอ๊ย”
“ผู้กองต้องระวังนะคะ คุณเมเป็นคาราเต้สายดำนะ ที่บ้านมีเหรียญทองเต็มไปหมด”
“มา ดื่มให้กับความสำเร็จและความรักของพวกเราดีกว่าครับ ใช่มั้ยจ๊ะน้องปึก”
“ใช่จ้ะพี่ไมค์”
ปึกกับไมค์ โจ๊กเกอร์ ยกแก้วชนกัน ขั้นเทพยกแก้วให้เมษา เมษายิ้มยกแก้วชน ทั้งสองมองสบตากันหวานชื่น เสียงโทรศัพท์เมษาดังขึ้น เธอชะงัก ทุกคนชะงักมอง
“อย่าบอกว่ามีงานด่วนนะ” ขั้นเทพดักคอ
“ไม่ได้นะคะคุณเม คุณเมสัญญาแล้วว่าคืนนี้เราจะสนุกกันให้เต็มที่”
เมษามองเบอร์เห็นรูปแม่ที่หน้าจอ
“ผิดหมด แม่ฉันโทรมา ฮัลโหล หวัดดีค่ะแม่”
“เม แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูก”
“เรื่องอะไรคะ”
“แม่อยากให้ลูกมาหาแม่ที่บ้านหน่อย”
“ตอนนี้หรือคะ”
“ใช่ลูก แม่กับพ่ออยากให้ลูกมาเดี๋ยวนี้”
“มีเรื่องสำคัญอะไรหรือคะแม่ บอกหนูเลยได้มั้ย”
“แม่ไม่อยากพูดทางโทรศัพท์ มาหาแม่ที่บ้านนะ”
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูไปนะคะ”
เมษากดปิดโทรศัพท์ นึกสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องไม่ดี
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะคุณเม”
“แม่อยากให้ฉันไปหาเดี๋ยวนี้”
“ท่านเป็นอะไรหรือครับ ไม่สบายรึเปล่า”
“ไม่รู้ แต่เท่าที่ฟังจากเสียงน่าจะเป็นเรื่องสำคัญ ฉันขอตัวก่อนนะ คราวหน้าฉันเป็นเจ้ามือเอง”
“งั้นผมไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก คุณอยู่ทานเถอะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรฉันจะกลับมา”
“ผมจะรอนะ”
“ค่ะ”
เมษาลุกออกไป ขั้นเทพมองอย่างเป็นห่วง
“แหม ผู้กองไม่ต้องห่วงเขามากขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวเขาก็มา”
“พี่ไมค์น่ะ ชอบไปแซวผู้กองอยู่เรื่อย”
ขั้นเทพหันมายิ้ม ยกแก้วให้
“ดื่ม”

ทั้งหมดยกแก้วชน
 
อ่านต่อหน้า 3

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 8 (ต่อ)

เมษาเดินเข้ามาในบ้าน เห็นพ่อกับแม่นั่งรออยู่อย่างร้อนใจ

“ลูกเม”
เมษามองวัฒนา เห็นพ่อสีหน้าไม่ดี
“พ่อกับแม่เรียกหนูมามีอะไรหรือคะ”
“นั่งก่อนสิลูก พ่อกับแม่มีเรื่องสำคัญอยากให้ลูกช่วย”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่องเควิน สมิธ”
“พ่อรู้เรื่องเควิน สมิธ ด้วยหรือคะ”
“ใช่”
“แล้วจะให้หนูช่วยเรื่องอะไรคะ”
“เราอยากให้ลูกล้มคดี แล้วปล่อยตัวเควิน สมิธ”
“นี่แม่พูดอะไรของแม่ แม่รู้รึเปล่าว่าเควิน สมิธ มันคือพ่อค้าลักลอบซื้อขายเศียรพระพุทธรูปอย่างผิดกฎหมายนะคะ”
“พ่อรู้ เราถึงอยากให้ลูกช่วย”
“นะลูก ช่วยแม่กับพ่อสักครั้ง”
“หนูทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นเรื่องของกฎหมาย”
“แต่ถ้าลูกไม่ช่วยพ่อกับแม่ก็จะเดือดร้อน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพ่อแม่คะ”
เมษามองหน้าพ่อกับแม่ ทั้งสองมีสีหน้าอึดอัด
“นี่พ่อกับแม่อย่าบอกนะคะว่าพ่อกับแม่ร่วมมือกับเควิน สมิธ”
วัฒนาพยักหน้า เมษาอึ้ง มองพ่ออย่างตกใจ
“ไม่จริง”
เมษามองหน้าแม่ แม่พยักหน้าให้ เมษาใจหายวูบ
“พ่อกับแม่ ลักลอบขายเศียรพระพุทธรูปผิดกฎหมายงั้นหรือคะ”
“แม่ขอโทษแม่ผิดไปแล้ว”
ประไพพรรณร้องไห้โฮ เมษาอึ้ง
“ลูกต้องช่วยพ่อกับแม่นะ ไม่งั้นเราสองคนต้องเข้าคุกนะลูก”
เมษาน้ำตาคลอ ตัวชา ไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น

เมษาเดินลงบันไดหน้าบ้าน ชะงักไปเมื่อเห็นชายชาติยืนมอง เธอจะเดินไปเปิดประตูรถ
“เดี๋ยวสิน้องเม”
เมษามองหน้าชายชาติ โกรธมาก
“พี่รู้ว่าน้องเมมีเรื่องกลุ้มใจ”
“คุณเองก็อยู่ในขบวนการนี้ด้วยใช่มั้ย”
“พี่”
“ฉันถามว่าใช่มั้ย คุณ ผู้การสถิตย์ยุทธ พ่อฉัน แม่ฉัน เควินสมิธ อยู่ในขบวนการลักลอบตัดเศียรพระพุทธรูปใช่มั้ย”
ชายชาติพยักหน้า เมษามองอย่างผิดหวังและโกรธมาก
“นี่ฉันอยู่ในวงล้อมของคนที่”
“พี่เสียใจ แต่พี่อยากให้เมช่วยพวกเรา”
เมษาเข้าไปกระชากคอเสื้อชายชาติ
“ช่วยงั้นหรือ พวกคุณทำผิดกฎหมาย คุณเองก็เป็นตำรวจ คุณกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง”
“แต่ว่า”
เมษาผลักชายชาติออกไป
“ฉันจะบอกให้รู้นะ ฉันจะไม่มีวันบิดเบือนความจริงหรอก”
เมษาขึ้นรถขับออกไป
“นี่เธอกล้าจับพ่อแม่ตัวเองงั้นหรือ”

ชายชาติไม่อยากจะเชื่อ

ที่ร้านอาหาร ไมค์ โจ๊กเกอร์ กับปึกป้อนอาหารกัน ขั้นเทพนั่งดื่ม ขยับมองนาฬิกา มองโทรศัพท์ ชะเง้อมอง รอเมษา

เมษากลับมาห้องพัก นั่งซึมอยู่ในความมืด น้ำตาไหลริน
“นี่เราจะทำยังไงดี เราต้องปล่อยเควิน สมิธ ไปงั้นหรือ แต่ถ้าเราไม่ปล่อย พ่อกับแม่ก็ต้องติดคุก”
เมษาล้มตัวลงนอน มองเพดาน

ขั้นเทพนั่งรอเมษาอยู่ที่ร้านอาหาร แต่ทนต่อไปไม่ไหวตัดสินใจโทรศัพท์หา ฟังเสียงปลายสาย ไม่มีคนรับ
เมษามองโทรศัพท์ เห็นรูปขั้นเทพขึ้นที่หน้าจอ เธอมองอย่างเสียใจ ขั้นเทพรอ เมษามองคิด แล้ว เมษาเมินหน้าไม่รับสาย ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์อย่างกังวล
“ทำไมคุณเมไม่รับสาย”
“สงสัยคุยกับคุณนายอยู่มั้งคะ คงเป็นเรื่องสำคัญ”
“เรื่องสำคัญอะไร”
“อาจจะคุยเรื่องว่าที่ลูกเขยอยู่ก็ได้นะ ผู้กอง”
“ฉันกำลังซีเรียสนะ นายก็พูดเล่นอยู่ได้”
“หนูปึกว่าผู้กองเมคงไม่มาแล้วล่ะค่ะ นี่ก็เที่ยงคืนแล้วนะคะ”
“งั้นเรากลับดีกว่ามั้ย”
“อืม ก็ดี”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งหนูปึกเอง แล้วเจอกันที่บ้าน”
“อืม”
“ไปล่ะค่ะผู้กอง หวัดดีค่ะ”
ปึกกับไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินออกไป
“หรือว่าจะมีเรื่องอะไรไม่ดี”
ขั้นเทพยกเครื่องดื่มดื่ม

ปึกเดินเข้ามาในห้อง เห็นไฟในห้องเปิด เห็นกระเป๋าเมษา กุญแจรถวางอยู่บนโต๊ะ
“อ้าว นี่คุณเมกลับมาแล้วหรือ”
ปึกเดินไปที่ห้อง จะเคาะประตูแล้วชะงักแอบจับลูกบิดประตู เห็นประตูล็อค
“สงสัยจะหลับไปแล้ว”
ปึกมองอย่างแปลกใจ ก่อนจะเดินออกไป

ภายในห้อง เมษายืนมองออกไปนอกหน้าต่าง นึกถึงเรื่องที่เคยคุยกับขั้นเทพ
“เชื่อมั้ย ผมยังเคยจับพ่อตัวเองเข้าคุกเลย”
“จริงหรือ”
“ใช่ ให้ท่านเข้าไปสงบสติอารมณ์สักพัก”
“แล้วท่านว่าไง”
“ก็ด่าสิ หาว่าผมเป็นลูกอกตัญญู แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ท่านไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น”
“คุณนี่แน่จริง ๆ ถ้าเป็นฉัน ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะกล้าจับพ่อแม่ตัวเองเข้าคุกรึเปล่า”
“แต่ผมว่าคุณน่ะกล้า”
“ทำไม”
“ก็คุณเป็นคนไม่มีหัวใจให้ใคร”

เมษาเจ็บปวด กำมือแน่นทุบผนังอย่างแรง

ตอนเช้า ขั้นเทพชงกาแฟดื่ม แล้วมองโทรศัพท์ เห็นไม่มีข้อความเข้ามาเลย จึงคิดจะโทรออก แต่ก็ลังเล

“นี่เพิ่งจะเจ็ดโมง ไม่รู้ตื่นรึยัง”
ขั้นเทพหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูในอัลบั้มรูป เห็นรูปเมษาจากงานเลี้ยงเมื่อคืน มีรูปเดี่ยวเมษา รูปคู่เธอกับเขา ขั้นเทพมองยิ้ม ไมค์ โจ๊กเกอร์ โผล่หน้าเข้ามาแอบมองขั้นเทพ
“โอ้โห ผมว่าผู้กองเป็นเอามากนะ”
“อะไร”
“ก็บ้าผู้หญิงน่ะสิ แหม ดูรูปเขาแต่เช้า”
“ทำไม คนเขาชอบ ดูไม่ได้หรือ”
“ผมถามจริงเหอะ ผู้กองชอบเขาตั้งเต่เมื่อไหร่ อย่าบอกนะว่าตั้งแต่วันแรกที่เห็นเขาเป็นสวยเสมอ”
“ใช่ ฉันเห็นปั๊บ ฉันก็ชอบเขาเลย”
“หา แล้วตอนนั้นที่ผมชอบอยู่ ผู้กองก็ชอบเขาหรือ”
“ใช่”
“โอ้โห ผู้กองนี่เลวจริง ๆ กะแทงผมข้างหลังเลยหรือ”
“ฉันรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่มีวันชอบนายอยู่ดี”
“ทำไม ผมเสียหายตรงไหน”
“ไม่ได้เสียหายหรอก เพียงแต่ฉันหล่อกว่านาย”
“โหย ตั้งแต่เล่นตลกมา ไม่เคยเห็นใครหลงตัวเองเท่ากับผู้กองเลย”
“ฉันไม่ได้หลงตัวเองนะ เพราะผู้กองเมเขาก็ชอบฉัน นายไม่เห็นหรือ”
“เอาล่ะ ผมยอมแพ้ เพราะจะว่าไป ผู้กองกับผู้กองเมก็สมกันดี ส่วนผมก็เหมาะกับหนูปึกมากกว่า”
ขั้นเทพยิ้มยกกาแฟดื่ม
“เออ แล้วนี่แฟนโทรมาบอกรึยังว่าทำไมเมื่อคืนไม่มา”
“เขายังไม่โทรมาเลย”
“อ้าว แล้วทำไมผู้กองไม่โทรไปถามล่ะ”
“ฉันไม่กล้า เห็นว่ายังเช้าอยู่”
“ทีเรื่องอื่นล่ะกล้าหมด พอมีแฟนเข้าหน่อยกลัวนั่นเกรงนี่”
“ไม่ใช่ เดี๋ยวเขาจะรำคาญหาว่าฉันยุ่งเรื่องส่วนตัวเขามากไป”
“เราไม่ได้ยุ่ง เราแค่เป็นห่วงเขา คนรักกันชอบกันก็ต้องเป็นห่วงกันสิ ผมว่าผู้กองโทรหาเขาเถอะ เขาจะดีใจ”
“จริงหรือ”
“จริงสิ นี่แสดงว่าตั้งแต่เรียนจบมาไม่เคยมีแฟนเลยใช่มั้ยเนี่ย”
“มี แต่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น คนนี้พิเศษสุด”
“ถึงขั้นแต่งเลยมั้ย”
“ไม่อยากคิด เดี๋ยวผิดหวัง”
“โอ้โห นี่แสดงว่ารักเขามากเลยนะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เข้าไปกอดขั้นเทพ
“อิจฉาจังโว้ย”
“ไอ้บ้า ไปไกล ๆ เลย เดี๋ยวฟ้าผ่า”
“อย่าลืมโทรหาเขาล่ะ”

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินออกไป ขั้นเทพยิ้ม กดโทรศัพท์

โทรศัพท์มือถือวางอยู่บนโต๊ะหน้ากระจกดัง เมษาเดินเข้ามาหยุดมอง รูปขั้นเทพโชว์ขึ้นหน้าจอ เธอหยิบขึ้นมากดรับ

“ฮัลโหล”
“คุณตื่นรึยัง”
“ตื่นแล้วค่ะ”
“นี่ทำอะไรอยู่ครับ”
“กำลังแต่งตัวจะออกไปข้างนอก”
“วันนี้มีงานเช้าหรือ”
“ค่ะ”
“มีอะไรรึเปล่า ทำไมดูเสียงไม่ค่อยดี”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
“แล้วเมื่อคืนมีปัญหาอะไรรึเปล่า ทำไมผมโทรหาคุณแล้วคุณไม่รับสาย”
เมษาอึ้ง ตอบไม่ได้ ขั้นเทพรอฟังแปลกใจที่เมษาเงียบไป
“คุณเม”
“ค่ะ”
“ทำไมเงียบไป”
“เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน ฉันต้องรีบไปแล้ว”
เมษากดปิดโทรศัพท์อย่างเสียใจ ขั้นเทพฟังเสียงสัญญาณขาดไป
“ทำไมดูแปลก ๆ”

เมษาเปิดประตูออกมาจากห้อง หนูปึกหยิบกาแฟและจานขนมปังหันมา
“นี่ค่ะ คุณเม กาแฟกับขนมปังร้อน ๆ ค่ะ”
“เธอกินเถอะฉันรีบไป”
“ไม่ทานสักหน่อยหรือคะ”
“ไม่ล่ะ”
เมษาเดินออกไป ปึกจะเรียกไว้แต่ไม่ทัน
“มีงานด่วนอะไร ถึงไม่กินอาหารเช้าเลย”
ปึกหยิบขนมปังใส่ปาก

ชายชาติมาหาสถิตย์ยุทธที่ห้องทำงาน ปรึกษาเรื่องเมษา
“มีอะไรว่ามา”
“น้องเมยืนยันว่าเธอจะไม่ยอมช่วยเหลือใครทั้งนั้นครับ”
“แม้แต่พ่อแม่เขางั้นหรือ”
“ครับ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะคุยกับเขาเอง”
ชายชาติหนักใจ

ลิฟต์เปิดออก เมษาเดินเข้ามาในแผนก เพื่อนตำรวจปรบมือให้
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะน้องเม เก่งมาก”
“ร้ายนะเนี่ย ทำงานอยู่วิหคเวหาแต่ไปร่วมมือกับหน่วยเฉพาะกิจ 911 จับเควิน สมิธ”
“เรื่องราวมันเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อยซิ”
“เรื่องมันยาวน่ะค่ะ เอาไว้ให้ทางนู้นเขาสรุปคดีก่อน แล้วเมจะเล่าให้ฟังนะคะ”
เมษาฝืนยิ้ม ตำรวจอีกคนเข้ามาเรียก
“ผู้กองเมคะ ผู้การเชิญพบที่ห้องค่ะ”
เมษาอึ้ง รู้ว่าสถิตย์ยุทธเรียกทำไม
“หัวหน้าคงจะแสดงความยินดีด้วยล่ะสิ รีบไปเลยจ้ะน้องเม”
“สงสัยสิ้นปีได้ติดนายพันแน่”
เมษามองทุกคน ฝืนยิ้ม
“ขอตัวนะคะ”

เมษาเดินออกไป ทุกคนมองชื่นชม
 
อ่านต่อหน้า 4

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 8 (ต่อ)

เมษาเดินไปที่ห้องสถิตย์ยุทธ ชายชาตินั่งอยู่ในห้องก่อนแล้ว สถิตย์ยุทธหันหน้ามามอง

“นั่ง”
เมษาลงนั่ง ชายชาติเหลือบมอง
“คุณคงได้คุยกับพ่อแม่คุณแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“แล้วคุณตัดสินใจว่ายังไง”
“ดิฉันยังไม่ตัดสินใจค่ะ”
“หมายความว่าคุณอาจจะยอมให้พ่อแม่คุณติดคุกก็ได้ใช่มั้ย”
เมษาอึ้ง ชายชาติเหลือบมอง
“ว่าไง คุณยังไม่ตอบผมเลย”
“ค่ะ”
“งั้นคุณก็คิดจะจับผมด้วยงั้นสิ”
“ถ้าคดีความซัดทอดไปถึงใครที่ผิด ดิฉันก็ต้องจับค่ะ”
สถิตย์ยุทธโกรธมาก
“หึ นับว่าคุณเป็นตำรวจที่ดีจริง ๆ”
“ที่หัวหน้าเรียกดิฉันมาเพื่อจะถามเรื่องนี้หรือคะ”
“ใช่ ผมอยากรู้จุดยืนของคุณ”
เมษามองเมิน
“แต่ผมจะบอกให้คุณรู้อย่าง คุณไม่มีวันจับผมได้หรอก คุณเป็นแค่มดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง ทำได้แค่กัดให้ผมคัน ระวังนะ ผมอาจจะบี้ให้คุณตายเลยก็ได้”
เมษาโกรธ อึดอัดใจ แค้นใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ สถิตย์ยุทธจ้องหน้า แสดงให้รู้ถึงอำนาจของตัวเอง
“คุณไปได้แล้ว”
เมษาจะผลักประตูเปิดออก
“เดี๋ยว ผู้กองเมษา”
เมษาชะงัก
“ผมลืมบอกไปอีกอย่าง ถ้าพ่อแม่คุณติดคุกก็คงไม่ต่ำกว่าสิบปี ไม่แน่อาจจะยี่สิบ สามสิบหรือไม่ก็ตลอดชีวิต เพราะผมจะแฉว่าพ่อแม่คุณลักลอบตัดเศียรพระมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันองค์แล้ว”
เมษาอึ้ง ฝืนน้ำตาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเดินออกไป ชายชาติมองเมษาอย่างห่วงใย สถิตย์ยุทธจ้องหน้าชายชาติ เขารีบหลบตา
“คิดหรือว่าคนอย่างฉันจะให้เธอจับง่าย ๆ”
สถิตย์ยุทธพูดด้วยสายตาอำมหิต

เมษาเดินออกมา น้ำตาไหลริน เพื่อนตำรวจยิ้มค้าง แปลกใจว่าเมษาเป็นอะไร เมษาเดินออกไปที่ลิฟต์ ขั้นเทพเดินขึ้นบันไดมาเห็นก็ส่งยิ้มให้ แล้วชะงักตกใจ เมื่อเห็นเมษาร้องไห้
“คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
เมษาก้มหน้าร้องไห้ ขั้นเทพจับมือเธอไว้
“คุณเม บอกผม ว่าคุณเป็นอะไร มีเรื่องอะไรหรือ”
เมษามองหน้าขั้นเทพ รู้ดีว่าเป็นเรื่องที่บอกใครไม่ได้
“บอกผมสิว่ามีเรื่องอะไร ทำไมถึงร้องไห้”
ลิฟต์เปิดออก ชายชาติเดินออกมา ขั้นเทพชะงัก สถิตย์ยุทธเดินตามออกมา ยิ้มให้ขั้นเทพแล้วเดินผ่านไป ชายชาติเดินตามไป ขั้นเทพหันมามองหน้าเมษา
“เขาทำอะไรคุณรึเปล่า”

เมษาส่ายหน้า ขั้นเทพมองอย่างสงสัย

ทั้งสองจะพากันไปคุยที่ร้านกาแฟ

“บอกผมได้รึยังว่ามีเรื่องอะไร”
“ฉันเพียงแต่มีเรื่องกลุ้มใจนิดหน่อย”
“เกี่ยวกับผู้การสถิตย์ใช่มั้ย เขาพูดอะไรกับคุณ หรือเขาข่มขู่อะไรคุณรึเปล่า”
เมษานิ่ง
“บอกผม ผู้การสถิตย์เขาข่มขู่คุณใช่มั้ย”
“เปล่า”
“แล้วคุณมีเรื่องกลุ้มใจอะไร บอกผมเถอะนะ”
“มันเป็นเรื่องครอบครัวฉัน”
“มีอะไรหรือ คุณพ่อหรือคุณแม่คุณไม่สบายงั้นหรือ”
เมษามองขั้นเทพอย่างอัดอั้น
“บอกผมเถอะ มีอะไรที่ผมช่วยเหลือคุณได้ ผมอยากช่วยนะ”
เมษาลังเล อยากบอกแต่บอกไม่ได้
“ผมอยากให้คุณรู้นะว่าผมรักคุณ อะไรที่ทำให้คุณเสียใจหรือไม่มีความสุข มันก็ทำให้ผมไม่มีความสุขด้วย”
เมษามองน้ำตารื้น ไม่สามารถบอกได้ ขั้นเทพตกใจ
“คุณเม”
“ฉันขอบคุณนะที่คุณดีกับฉัน ถ้าวันหนึ่งฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด คุณยังจะรักฉันอยู่มั้ย”
“รักสิ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง ผมก็จะรักคุณตลอดไป”
ขั้นเทพกุมมือเมษา เธอมองเขาอย่างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะดึงมือออก แต่ขั้นเทพดึงไว้
“เดี๋ยวสิ บอกผมเถอะนะว่าคุณมีเรื่องอะไรในใจ”
“ฉันบอกคุณไม่ได้”
“เรื่องอะไร ทำไมถึงบอกไม่ได้”
“ฉันขอโทษ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะรู้เอง”
เมษาขยับลุกขึ้น
“แล้วคุณจะไปไหน”
“ฉันจะกลับบ้าน”
“งั้นผมไปส่ง”
“ฉันขออยู่คนเดียวได้มั้ย”
ขั้นเทพอึ้ง
“ฉันขอโทษ ฉันเพียงแต่อยากมีเวลาทบทวนอะไรหน่อย”
“แต่ผมอยากให้คุณรู้นะ ไม่ว่ายังไง ผมก็จะอยู่เคียงข้างคุณ”
เมษาน้ำตารื้นพยักหน้าเดินออกไป ขั้นเทพมองอย่างเป็นห่วง
“มันเรื่องอะไร ทำไมเธอถึงบอกเราไม่ได้”
ขั้นเทพสงสัยมาก

ตอนกลางคืน สถิตย์ยุทธโทรศัพท์คุยกับทนายความของเควิน สมิธ
“คุณบอกกับเควิน สมิธได้เลยว่าไม่ต้องห่วง ผมรับรอง เขาจะไม่ติดคุก”
“ถ้าผู้การยืนยันอย่างงั้นผมค่อยเบาใจหน่อย เพราะตามรูปคดีแล้ว ผมว่าคุณเควินไม่น่ารอด”
“แต่เกมนี้ต้องรอด เอาล่ะ มีอะไรคืบหน้าก็ส่งข่าวผมแล้วกัน”
สถิตย์ยุทธปิดโทรศัพท์

วันรุ่งขึ้น เสวีไปหาเควิน สมิธ ซึ่งรออยู่ที่ห้องสอบสวน
“สวัสดีคุณเควิน สมิธ”
“สวัสดีผู้การ”
“กาแฟอีกมั้ย”
“ไม่ล่ะ ผมกินไปหลายแก้วแล้ว ผู้การมีอะไรก็ว่ามา แต่ถ้าเป็นเรื่องที่จะให้ผมรับสารภาพ ผมบอกก่อนนะผมไม่สารภาพอะไรทั้งนั้น”
“คุณเควิน ผมจะบอกให้คุณรู้นะ ไม่ว่าทนายคุณ หรือใครที่บอกกับคุณว่าเขาจะช่วยเหลือคุณได้ในคดีนี้ล่ะก็ ผมบอกได้เลยว่าไม่มีทาง เพราะตอนนี้หลักฐานที่ผมมีอยู่ทั้งหมด สามารถส่งให้อัยการฟ้องคุณติดคุกได้ไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีแน่”
เควิน สมิธ ชะงัก
“ผมว่าคุณควรจะให้ความร่วมมือกับผม ผมจะได้ช่วยเหลือคุณ จากยี่สิบปีอาจจะเหลือแค่สามปีหรือห้าปี”
เควิน สมิธ นิ่ง
“คิดดี ๆ นะ ผมจะให้เวลาคุณจนถึงเย็นนี้ ถ้าคุณยังยืนกรานที่จะไม่ให้ความร่วมมือกับผม พรุ่งนี้ผมจะให้เขาส่งคุณเขาคุก วันจันทร์ผมจะให้อัยการส่งฟ้องคุณ”
เสวีหันจะเดินออกไป
“เดี๋ยวผู้การ แล้วจะให้ผมช่วยอะไร”
“คุณแค่บอกว่ายังมีใครที่อยู่ในขบวนการของคุณ บอกผมมาให้หมด”
เสวีเดินออกไป
“เอาไงดีวะเรา เราจะเชื่อใครดีวะ”

เควิน สมิธ ถอนใจ

ขั้นเทพมาหาเสวีที่ห้องทำงานเพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนเควิน สมิธ

“มันยังไม่ยอมซัดทอดอีกหรือครับ”
“ใช่ มันลังเลอยู่ เพราะสถิตย์ยุทธคงบอกว่าจะเอามันออกมาได้”
“แล้วผู้การสถิตยุทธจะช่วยมันได้จริงหรือครับ”
“ไม่มีทาง ไม่ว่ามันจะรับหรือไม่รับ ยังไงไอ้เควินมันต้องติดคุกไม่ต่ำกว่าห้าปีอยู่แล้ว เพราะเรามีหลักฐานมัดตัวมัน ขอแค่ให้มันสารภาพว่ามีใครร่วมมือกับมันเท่านั้นเอง ทุกอย่างก็จบ”
“หวังว่าคงไม่มีอะไรพลิกล็อคนะครับ”
“ไม่มีทาง ยกเว้นว่าคุณจะถูกไอ้เควินซื้อตัว แล้วให้การว่ามันไม่เกี่ยว”
“ไม่มีวันหรอกครับ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ไม่มีอะไรพลิกล็อค”
ขั้นเทพพยักหน้า

ปึกหวีผมแต่งตัวอยู่ภายในห้องพักของเมษา เสียงออดดังขึ้น เธอรีบไปเปิดประตู
“อ้าว อ้ายไมค์ ทำไมมาเร็วจัง ไหนบอกจะมาบ่าย ๆ”
“พอดีพี่ตื่นเช้า ไม่รู้จะไปไหนก็เลยซื้อข้าวเที่ยงมาฝาก”
“กำลังหิวอยู่พอดี ไหน ซื้ออะไรมากิน”
“ส้มตำไกย่าง แต่วันนี้พิเศษหน่อย ซื้อสปาเกตตี้ขี้เมามาฝากด้วย”
“อ้ายไมค์นี่น่ารักจริง ๆ”
ปึกหอมแก้มไมค์ โจ๊กเกอร์ ฟอดใหญ่ ก่อนเดินนำเข้าไปในห้อง แล้วจัดอาหารออกมากินกัน
“แล้วตำรวจเขาจะให้เอาเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยง กลับไปที่บ้านนอกของหนูปึกได้เมื่อไหร่พี่ไมค์”
“เห็นผู้กองบอกว่าต้องรอศาลฉันต้นตัดสินก่อนนะ เพราะเศียรหลวงพ่อ เป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวไอ้เควินกับพรรคพวก”
“ในที่สุดหนูปึกก็ทำภารกิจนี้สำเร็จ จะได้กลับบ้านซะที”
“กลับบ้านเลยหรือ”
“ใช่จ้ะ พ่อกับแม่ส่งข่าวมาว่าตอนนี้ญาติไอ้เสี่ยเล็กเขาก็ยอมให้เราผ่อนใช้หนี้ที่ดินแล้ว หนูปึกก็เลยจะกลับบ้านไปช่วยแม่ทำนา”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ชะงัก กินไม่ลง
“แล้วพี่ล่ะ หนูปึกจะทิ้งพี่แล้วหรือ”
“ไม่ใช่จ้ะ หนูปึกกลับบ้าน พี่ไมค์ก็ทำงานที่นี่ต่อไป แล้วถ้าพี่ไมค์ว่างก็ไปหาหนูปึกสิ”
“แต่พี่ไม่อยากให้หนูปึกกลับบ้านนอกเลย”
“แต่ถ้าหนูปึกไม่กลับ แล้วใครจะช่วยพ่อกับแม่ทำนาล่ะ”
“เอาอย่างนี้ พี่จะไปสู่ขอหนูปึก แล้วเราก็ช่วยกันทำงานที่นี่แล้วส่งเงินไปให้พ่อกับแม่ที่บ้านดีมั้ย”
“ก็ได้ แต่หนูปึกต้องไปบอกพ่อกับแม่ก่อนนะ”
“พี่จะไปด้วย”
“อีหลีบ่”
“แม่น พี่บ่ยอมให้หนูปึกกลับบ้านคนเดียว เดี๋ยวไอ้หนุ่มบ้านนาจะมาแย่งหนูปึกไป”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ทำตาหวาน ปึกเอียงอาย พลันเสียงออดดังขึ้น ทั้งสองชะงัก
“สงสัยคุณเมจะลืมกุญแจ”

ปึกลุกไปเปิดประตู

ปึกเปิดประตูเห็นประไพพรรณยืนอยู่หน้าห้อง ก็ตกใจ

“นังปึก”
“คุณนาย สวัสดีค่ะ”
“นี่แกมาอยู่บ้านลูกสาวฉันได้ไง”
“คือ คุณเมให้หนูปึกมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ”
“นี่ตั้งแต่แกออกจากบ้านฉัน แกก็มาอยู่กับยัยเมงั้นหรือ”
“ค่ะ”
“แกนี่ร้ายจริง ๆ แล้วยัยเมก็ไม่บอกฉันซะด้วย”
ประไพพรรณเดินเข้ามาในห้อง เห็นไมค์ โจ๊กเกอร์ นั่งอยู่
“อ้าว แล้วนี่ใคร”
“คือ ผม ผมชื่อบุญเลิศหรือจะเรียกว่าไมค์ก็ได้ครับ ผมเป็นแฟนหนูปึก”
“แฟน”
“อีหลีครับ”
“นี่แกแอบพาผู้ชายมาลักลอบได้เสียกันในบ้านลูกสาวฉันงั้นหรือ”
“บ่ค่ะคุณนาย ไม่ใช่ค่ะ พี่ไมค์เขารู้จักกับคุณเมค่ะ”
“ใช่ครับ คุณแม่”
“ฉันไม่ใช่แม่แก”
“ขอโทษครับคุณนาย ผมกับคุณเมเป็นทีมเดียวกันครับ เราร่วมกันจับผู้ร้ายน่ะครับ”
ประไพพรรณอึ้ง
“คุณนายรู้รึยังคะ ว่าเควิน สมิธ ถูกผู้กองเมจับแล้วนะคะ มันเป็นโจรลักลอบค้าเศียรพระค่ะ”
“ใช่ครับ หนูปึกเป็นคนปลอมตัวเข้าไปหาเควิน สมิธ ครับ แล้วพวกเราก็ร่วมกันจับมัน พร้อมเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงครับ”
ประไพพรรณช็อค
“พวกแกเองงั้นหรือ”
“ใช่ค่ะฝีมือพวกเราเอง”
เมษาเปิดประตูเข้ามา ชะงักเมื่อเห็นประไพพรรณ
“แม่”
“หวัดดีครับผู้กอง”
“คุณนายเพิ่งมาค่ะ”
“แม่มีอะไรหรือคะ”
“แม่มีเรื่องจะคุยกับลูก”
“ปึก เธอกับไมค์ออกไปข้างนอกก่อนนะ ฉันจะคุยธุระกับแม่”
“ค่ะ ไปจ้ะพี่ไมค์”
ปึกกับไมค์เดินออกไป เมษาหันมามองหน้าแม่

ไมค์ โจ๊กเกอร์กับปึกเดินมาตามทาง เขาหันมองกลับไปที่ห้อง
“คุณนายนี่ท่าทางจะดุนะหนูปึก”
“ดุมากค่ะ”
“แต่เมื่อกี้พอเราบอกว่าจับไอ้เควินได้ แกอึ้งเลยนะ”
“อึ้งสิคะ ก็ไอ้เควิน สมิธ มันเป็นเพื่อนสนิทคุณพ่อคุณแม่คุณเม แกก็คงช็อคไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นผู้ร้ายน่ะสิ”
“เอ๊ะ หรือคุณนายจะมีส่วนร่วมกับไอ้เควิน สมิธ”
“บ้าน่ะพี่ไมค์ ลูกเขาเป็นตำรวจนะ เขาจะทำเรื่องเสียหายได้ไง ไป”
ปึกลากแขนไมค์ โจ๊กเกอร์ ออกไป

ภายในห้อง เมษายืนหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่าง ประไพพรรณลงนั่งที่เก้าอี้
“ลูกตัดสินใจที่จะช่วยพ่อกับแม่แล้วใช่มั้ย”
เมษานิ่ง
“เม แม่ถามว่าลูกจะช่วยพ่อกับแม่ใช่มั้ย”
“แล้วถ้าหนูไม่ช่วยล่ะคะ”
“ลูกจะปล่อยให้พ่อกับแม่ติดคุกไปจนตายงั้นหรือ พ่อกับแม่แก่แล้วนะลูก”
“แต่แม่กับพ่อไม่ควรทำอย่างนี้ แม่ก็รู้ว่าหนูเป็นตำรวจ หนูมีหน้าที่จับคนทำผิดเข้าคุก แต่พ่อกับแม่กลับมาทำผิดซะเอง”
“แต่ที่แม่ทำไปก็เพราะลูกนะ”
“เพราะหนูงั้นหรือคะ”
“ใช่ เงินทองที่เราเลี้ยงส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ได้ไปเมืองนอกก็มาจากเงินพวกนี้”
เมษาน้ำตาไหล
“แล้วทำไมแม่ไม่บอกหนู ถ้าแม่บอกหนูสักคำ หนูจะไม่มีวันแตะไอ้เงินสกปรกพวกนั้น”
เมษาทรุดลงร้องไห้ ประไพพรรณเข้ามากอดร้องไห้เช่นกัน
“แม่ขอโทษ แม่ผิดไปแล้ว แม่ขอโทษนะลูก บอกแม่สิว่าลูกจะช่วยแม่ นะเม บอกแม่ว่าลูกจะช่วยพ่อกับแม่ อย่าปล่อยให้พ่อกับแม่ต้องตายอยู่ในคุกนะลูก”

ประไพพรรณจับแก้มเมษาอ้อนวอน เมษาไม่ตอบได้แต่ร้องไห้ ประไพพรรณดึงลูกสาวเข้ามากอดอย่างเสียใจ
 
อ่านต่อตอนที่ 9
กำลังโหลดความคิดเห็น