xs
xsm
sm
md
lg

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 7

ไมค์ โจ๊กเกอร์เดินเข้ามาหาขั้นเทพ

“ผู้กองเมื่อกี้คุยอะไร ผู้กองเมถึงต้องตามง้อ”
“เป็นความลับ นายอย่ารู้เลย”
“เฮ้ย บอกหน่อยน่า ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่านายทำยังไงถึงทำให้ผู้กองเมชอบได้”
“นอกจากความหล่อแล้ว ยังเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่นายลอกเลียนแบบไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะเข้าออฟฟิศหน่อย เจอกันค่ำ ๆ”
ขั้นเทพเดินออกไป
“ไอ้ผู้กองนี่ขี้โม้จริง ๆ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ หมั่นไส้

เมษาขับรถมาจอดหน้าคอนโดฯ เดินลงจากรถ ปึกเดินตามลงมา
“คุณเมคะ คุณเมขึ้นไปก่อนนะคะ เดี๋ยวปึกจะแวะซื้อของในซุปเปอร์หน่อยค่ะ”
“ดีเลย ซื้อนมแล้วก็น้ำส้มมาด้วยนะ เอา แล้วปึกจะซื้อเอาอะไรก็เอาตังค์นี่แหละ”
“ค่ะ ก็มีผงซักฟอกกับฟองน้ำล้างจาน”
“อืม อยากกินอะไรก็ซื้อมานะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เมษาเดินขึ้นตึกไป

เมษาเปิดประตูห้องเข้ามา เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำเย็นเท เสียงออดดังขึ้น เธอชะงักแปลกใจ
“ทำไมซื้อของเร็วจัง”
เมษาเดินไปเปิดประตูเห็นชายชาติยืนอยู่
“อ้าว พี่ชาย”
“พี่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“งั้นก็เข้ามาสิ”
ชายชาติเดินเข้ามาหยุดมองไปนอกหน้าต่าง เมษาหยิบน้ำเทใส่แก้วส่งให้
“มีเรื่องอะไรหรือคะ”
“เมชอบไอ้เทพมันหรือ”
“พี่พูดอะไร”
“พี่ถามว่าเมเป็นแฟนกับไอ้เทพงั้นหรือ”
“พี่จะพูดเรื่องอะไร เมไม่เข้าใจ”
“พี่รู้นะว่าเมนัดเจอกับมันบ่อย ๆ แถมวันนี้ยังไปหามันถึงบ้าน”
“นี่พี่ชายสะกดรอยตามเมงั้นหรือ”
“ก็แล้วมันจริงรึเปล่าที่เมไปหามันถึงบ้าน”
“เมจะบอกให้พี่รู้นะว่าเมมีสิทธิ์ที่จะไปหาใครที่ไหนก็ได้ มันไม่เกี่ยวอะไรกับพี่”
เมษาขยับจะไป ชายชาติกระชากแขนเธอไว้
“เกี่ยวสิ เพราะเมเป็นแฟนพี่”
เมษาแกะมือชายชาติออก โกรธมาก
“นี่พี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง เมบอกไปแล้วว่าเมไม่ได้ชอบพี่”
“แต่พี่รักเมนะ”
“พอทีเถอะ เราเลิกคุยเรื่องนี้กันได้แล้ว แล้วพี่ชายก็กลับไปได้แล้วด้วย”
“นี่เมไล่พี่งั้นหรือ”
“ใช่ ถ้าพี่จะพูดเรื่องระหว่างเรา พี่ก็กลับไปได้เลย”
เมษาเดินไปเปิดประตู ชายชาติเดินตามไปกระแทกประตูปิด
“ไม่ พี่ไม่กลับ จนกว่าเมจะบอกว่าเมรักพี่”
“เมไม่คิดเลยนะว่าพี่จะเป็นผู้ชายแบบนี้ฆ”
เมษาจะเดินหนี ชายชาติเอามือขวาง
“เมยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เมต้องตอบว่าเมรักพี่ จะอยู่กับพี่”
เมษาผลักมือชายชาติออกแล้วเดินหนี
“เมไม่พูดกับพี่แล้ว”
ชายชาติคว้ามือเมษา เมษายกปืนจ่อ
“ปล่อย”
“นี่เมถึงกับชักปืนขู่พี่งั้นหรือ”
“เมไม่ได้ขู่ ถ้าพี่ไม่ปล่อย เมจะยิงพี่จริง ๆ”
ชายชาติจ้อง เมษาจ้องตอบ เขาจำใจปล่อยมือ
“ก็ได้”
“กลับไปซะพี่ชาย แล้วเมจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้”
ชายชาติโกรธ ดึงประตูเปิด แล้วหันมาบอก

“แต่พี่ก็จะบอกให้เมรู้ พี่จะไม่ยอมให้ไอ้เทพมันแย่งเมไปจากพี่แน่”

ชายชาติจ้อง แล้วเดินออกไป ปิดประตูดังโครม เมษาลดปืนลงถอนใจ ประตูเปิดกลับเข้ามา เมษายกปืนจ่อ

“อย่าค่ะคุณเม หนูปึกเอง เมื่อกี้หนูปึกสวนกับผู้กองชายชาติที่หน้าลิฟต์ค่ะ มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ”
”ไม่มี”
เมษาเดินกลับไปที่ห้อง
“ไม่มีแล้วทำไมต้องชักปืนมาขู่กันด้วย”
ปึกสงสัยระคนตกใจ

ขั้นเทพขับรถอยู่ โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เห็นชื่อชายชาติ เขากดรับ
”ว่าไงชาย”
“เทพ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย”
“มีอะไรก็ว่ามาเลย”
“แต่ฉันอยากเจอหน้านาย เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน”
“ฟังดูซีเรียสนะ พูดยังกะฉันไปแย่งแฟนนาย”
“ฉันรอนายอยู่ที่คอร์ดแบดตำรวจ”
ชายชาติปิดโทรศัพท์
“ไอ้นี่ท่าทางจะเมา มันจะคุยเรื่องบ้าอะไรวะ”
ขั้นเทพโทรศัพท์หาไมค์ โจ๊กเกอร์
“จะมากี่โมงเนี่ย ฉันแต่งตัวรอแล้วนะ”
“ฉันจะโทรบอกนายว่าไม่ต้องรอฉันกินข้าวนะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ นัดสาวหรือ ผู้กองเมใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ พอดีเพื่อนมันมีธุระอยากคุยด้วย”
“จะไปดื่มกันหรือ ฉันไปด้วยสิ”
“ไม่ได้ เพื่อนฉันชื่อชายชาตินายไม่รู้จักหรอก มันอยากคุยเรื่องส่วนตัว”
“ที่ไหนล่ะ”
“ที่คอร์ดแบดตำรวจ มามั้ยล่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นนายก็ไปเถอะ ฉันไม่ชอบตีแบด”
ขั้นเทพกดปิดโทรศัพท์ กลับรถ

คืนนั้น เมษานั่งครุ่นคิด นึกถึงเรื่องที่ชายชาติพูดว่าเธอชอบขั้นเทพ เมษาถอนใจ หงุดหงิด ปึกเดินเข้ามาเรียก
“คุณเมคะ คุณเม”
“หือ”
“เย็นจะทานอะไรดีคะ เดี๋ยวหนูปึกไปสั่งให้”
“ไม่ล่ะ”
“งั้นเอาผลไม้หน่อยมั้ยคะ”
“ไม่”
“แล้วคุณเมจะไปไหนคะ”
“ฉันจะไปข้างนอกหน่อย”
“จะไปไหนนะมืดแล้วด้วย”

ปึกเป็นห่วง

ขั้นเทพเปิดประตูคอร์ดแบดเข้ามา ทุกอย่างเงียบสนิท ไฟปิดมืด

“ชาย ไอ้ชาย”
ขั้นเทพเดินมาหยุดหน้าเน็ต ไฟตรงหัวเปิดสว่างพรึ่บขึ้น เขาสะดุ้ง ชายชาติเดินลงจากอัฒจรรย์
ถือปืนเดินลงมาพร้อมกับยกปืนจ่อ ขั้นเทพขยับตัวจะชักปืน
“อย่านะไอ้เทพ ถ้ามึงชักปืนกูยิงหัวมึงแน่”
“นี่มันเรื่องอะไรกันไอ้ชาย”
“เรื่องอะไรงั้นหรือ ก็เรื่องที่มึงกำลังจะแย่งน้องเมไปจากกูไง”
“แย่งงั้นหรือ”
“ใช่ อย่านึกว่ากูไม่รู้นะ กูเห็นนะว่าวันนี้น้องเมไปหามึงที่บ้าน”
“เราแค่คุยเรื่องงานกัน”
“กูไม่เชื่อ”
“เฮ้ย ไอ้ชาย เราเป็นเพื่อนกันนะโว้ย เราไม่ควรจะมาทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงนะ”
“แต่มึงกำลังจะแย่งคนรักกู”
“แต่ผู้หญิงเขาบอกกูว่าเขาไม่ได้รักมึง”
“รักหรือไม่รักไม่เกี่ยวกับมึง ถ้าไม่มีมึงเขาก็ต้องรักกู”
“ไอ้ชาย กูว่ามึงกำลังเสียสตินะ เก็บปืนซะ”
“ไม่ วันนี้มึงกับกูต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”
ขั้นเทพอึ้ง แม่บ้านถือไม้กวาดเดินเข้าประตูมา
“ใครอยู่ในห้อง”
ชายชาติชะงักเหลือบมอง ขั้นเทพได้จังหวะเตะมือชายชาติ ทำให้ปืนลั่นขึ้น แม่บ้านตกใจเสียงปืนวิ่งหนีออกไป ชายชาติหันมายิงใส่ขั้นเทพ ขั้นเทพโดดหลบ ชายชาติยิงซ้ำ ขั้นเทพม้วนตัวหลบ หยิบจานที่พื้นร่อนใส่หน้าอกชายชาติ ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือด
“มา ไอ้เทพ มึงเข้ามาเลย”
“มึงยังไม่เข็ดหรือ จำได้มั้ยตอนปีสามที่มึงเจอกูแล้วสลบ”
“ตอนนั้นกูประมาทไป แต่วันนี้กูจะหักคอมึงด้วยมือกู”
“งั้นก็ระวังแล้วกัน”
ทั้งสองต่อสู้กันอีก ขั้นเทพล้มลง ชายชาติเอาขาหนีบล็อคคอขั้นเทพไว้
“กูบอกแล้วไงว่ากูจะหักคอมึง”
ชายชาติบิดขาล็อคแน่นขึ้น ขั้นเทพดิ้นไปมาด้วยความเจ็บ
“มึงต้องตายไอ้เทพ”
ขั้นเทพกลั้นใจม้วนตัวบิดขาขึ้นเตะก้านคอชายชาติ ทำให้เขามีโอกาสต่อสู้อีก แต่แล้วชายชาติก็คว้าเหล็กกระทุ้งท้องขั้นเทพจนตัวงอ ทรุดลงกับพื้น
“มึงตายไอ้เทพ กูจะฆ่ามึง”
ชายชาติเอาเข่ากดคอขั้นเทพ ขั้นเทพเริ่มไม่ไหว เสียงปืนดังขึ้น เมษาวิ่งเข้ามาพร้อมจ่อปืนใส่ชายชาติ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ชาย ปล่อยผู้กองขั้นเทพเดี๋ยวนี้”
“ไม่ พี่จะฆ่ามัน”
“ถ้าพี่ชายไม่ปล่อย เมจำเป็นต้องยิงพี่ชายจริง ๆ นะ”
“ยิงเลย ถ้าเมรักไอ้เทพก็ยิงพี่เลย”
ชายชาติดึงคอขั้นเทพเข้ามา ขั้นเทพจะขาดใจ
“ฉันบอกให้ปล่อย”
“ไม่”
เมษายิงแขนซ้ายชายชาติ เขาปล่อยเหล็กที่กดคอขั้นเทพ ขั้นเทพผละลุกถอยออกมา ชายชาติหยิบเหล็กจะตีอีก เมษาเข้ามาจ่อปืน
“พอได้แล้วพี่ชาย”
ชายชาติโกรธ
“พี่ไม่คิดเลยว่าเมจะเห็นไอ้เทพดีกว่าพี่”
“ที่เมต้องยิง ก็เพราะพี่กำลังจะฆ่าคนต่างหาก”
“ไอ้เทพ มึงอย่าคิดนะว่าวันนี้มึงจะชนะกู เรื่องของมึงกับกูไม่จบง่าย ๆ”
ชายชาติเดินออกไป
“เดี๋ยวพี่ชาย ถ้าขืนพี่ยังทำเรื่องแบบนี้อีกครั้งล่ะก็ เมจะจับพี่เข้าคุก”
ชายชาติมองเมษา แค้น เดินออกไป ปิดประตูปัง เมษาเก็บปืน เดินเข้ามาหาขั้นเทพ
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“นิดหน่อย ขอบคุณที่มาช่วยผมไว้ทัน”
“แล้วคุณรู้ได้ไงว่าผมอยู่ที่นี่”
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณก็เลยไปหาที่บ้าน แต่นายไมค์บอกว่าคุณนัดกับพี่ชายที่คอร์ดแบด ฉันเอะใจก็เลยตามมา”
“แล้วคุณมีเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องพี่ชายน่ะแหละ”

ขั้นเทพมองหน้า

ขั้นเทพกับเมษามาคุยกันที่ผับแห่งหนึ่ง

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าไอ้ชายจะหึงผมขนาดนี้ แสดงว่าคุณต้องแสดงท่าทีที่ชอบผมให้มันเห็น”
“บ้าหรือ ฉันไม่ได้ชอบคุณ ฉันจะไปแสดงท่าทีอะไร เขากำลังพาลมากกว่าก็เลยไปลงที่คุณ”
“นั่นน่ะสิ ผมก็เลยซวยเกือบตายฟรี ถ้าตายเพราะคุณรัก ผมจะไม่ว่าสักคำ”
“ฉันว่าคุณอย่าพยายามจีบฉันเลย เพราะถึงยังไงฉันไม่ชอบคุณแน่”
“ผมรู้แล้ว ผมก็แค่บอกความรู้สึกในใจให้คุณรู้ ว่าถ้าผมตายเพราะคุณ ผมจะไม่เสียใจเลย”
ขั้นเทพมองจ้อง
“ฉันกลับก่อนดีกว่า”
“ทำไมล่ะ คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ”
“ฉันกลัวว่าถ้าฉันอยู่ต่อแล้วฟังคุณพล่ามมาก ๆ ฉันจะอ้วกออกมา”
“เดี๋ยวค่อยไปน่า ให้หมดแก้วแล้วค่อยไป เอาล่ะ ผมสัญญา ผมจะไม่จีบคุณอีกต่อไปแล้ว”
เมษามองหน้า ขั้นเทพพยักหน้าให้
“อย่างงั้นค่อยคุยกันได้หน่อย”
เมษายกน้ำมะนาวจิบ ขั้นเทพยิ้มให้ทำทีใส่ซื่อ ระหว่างนั้น เจ้าของร้านเดินเข้ามาทัก
“อ้าว ผู้กองขั้นเทพ”
“อ้าว พี่ป๊อก”
“มานานแล้วหรือ”
“เพิ่งดื่มน้ำมะนาวไปแก้วเดียว”
“วันก่อนสัญญาว่าจะมาร้องเพลง สาว ๆ เขาทวงนะ”
“ได้เลย เดี๋ยวจัดให้”
ขั้นเทพหันมาบอกเมษา
“รอผมเดี๋ยวนะ”
“นี่คุณจะร้องเพลงจริง ๆ หรือ”
“ถึงคุณจะไม่รักผม แต่คุณอาจจะหลงเสียงผมก็ได้นะ”
เมษามองค้อน หมั่นไส้ ขั้นเทพยิ้มเดินขึ้นเวที

ขั้นเทพร้องเพลง เล่นดนตรี แล้วมองมาทางเมษา ส่งความรู้สึกมาให้ เมษาสะเทิ้น ขั้นเทพร้องท่อนซ้ำ มองเมษา ถามแบบไม่มีเสียงว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมษาอมยิ้มทำท่าว่าโอเค
ขั้นเทพเล่นเพลงจบ สาว ๆ เอาดอกไม้ตามโต๊ะส่งให้ แล้วหอมแก้มซ้ายขวา ขั้นเทพมองมาที่เมษายักคิ้วให้ มษามองยิ้มเขิน ๆ ขั้นเทพเดินลงมานั่งที่โต๊ะ
“เป็นไง เสียงผมใช้ได้มั้ย”
“ก็งั้น ๆ พอฟังได้”
“คุณฟังแล้วรู้สึกอะไรมั้ย”
“รู้สึกอะไร”
“ก็อินไปกับเพลงบ้างมั้ย”
“ก็บอกแล้วไงว่าเฉย ๆ”
“เฮ้อ ผมว่าคุณควรจะไปหาหมอซะหน่อยนะ”
“ทำไม”
“ผมว่าหัวใจอาจจะผิดปกติ”
“ผิดปกติยังไง”
“ก็มันด้านชาไร้ความรู้สึก ขนาดผมส่งออกไปเกินร้อยแล้วนะ”
“ไหนคุณบอกจะไม่จีบฉันไง”
“นี่ผมไม่ได้จีบนะ ผมแค่เป็นห่วงในฐานะเพื่อนร่วมงาน กลัวว่าคุณจะไร้หัวใจเกินไป”
“ต้องขอบคุณนะที่เป็นห่วง ฉันไม่ได้ไร้หัวใจอย่างที่คุณคิด เพียงแต่ฉันไม่มีหัวใจให้กับคุณต่างหาก”
เมษาอมยิ้มจะเดินไป
“เดี๋ยวสิคุณ”
“ดึกแล้ว ฉันง่วง เชิญคุณอยู่กับสาว ๆ ที่หลงผิดแล้วกัน”
เมษาเดินออกไป ขั้นเทพยิ้ม หมั่นเขี้ยว

“สวยร้ายจริง ๆ”
 
อ่านต่อหน้า 2

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 7 (ต่อ)

เควินนำเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงมาเก็บไว้ในห้องเก็บพระที่บ้าน พลางพูดโทรศัพท์กับนิโคลัสไปด้วย

“ผมอยากให้คุณมาเห็นด้วยตาจริง ๆ ว่าเศียรพระหลวงพ่อคำเกลี้ยงงดงามสมราคา”
“แต่ผมว่าราคาที่คุณเสนอมามันสูงไปนิดนะ”
“ไม่สูงหรอกนิโคลัส สำหรับของล้ำค่าอย่างนี้ นี่ไม่ใช่พระพุทธรูปทั่ว ๆ ไปนะ องค์นี้เป็นพระที่ชาวบ้านทางอีสานให้ความเคารพบูชามาก มีประวัติมาเป็นร้อย ๆ ปีนะ”
“เอาล่ะ ถ้าคุณพูดถึงสรรพคุณขนาดนี้ ผมก็ต้องยอมจ่าย”
“มันต้องอย่างงั้นสิ”
“แล้วคุณจะส่งของให้ผมได้เมื่อไหร่”
“ไม่เกินสองอาทิตย์คุณได้รับของแน่ อ้อ อย่าลืมโอนเงินที่เหลืออีกครึ่งล่ะ”
เควินกดปิดโทรศัพท์ มองพระแล้วแสยะยิ้ม
“ลาก่อนหลวงพ่อคำเกลี้ยง”
เควินเดินออกไป

คืนนั้น ปึกนั่งพนมมืออยู่ต่อหน้าหลวงพ่อคำเกลี้ยง เสียงพระดังขึ้น
“อีปึกเอ็งผิดคำสาบานกับข้า เอ็งไม่ปกป้องช่วยเหลือข้า เอ็งปล่อยให้คนชั่วมาทำลายข้า”
“ข้อยขอโทษหลวงพ่อ ข้อยบ่ได้ผิดคำสาบาน แต่ข้อยบ่มีปัญญาไปตามหาหลวงพ่อ”
“เอ็งผิดคำสาบาน เอ็งผิดคำสาบาน เอ็งผิดคำสาบาน”
เสียงพระดังก้องไปทั่วโบสถ์ ปึกสะดุ้งตื่นเด้งตัวขึ้นมานั่งที่โซฟา
“ข้อยขอโทษหลวงพ่อ ข้อยขอโทษ หา นี่เราฝันไปหรือ หลวงพ่อ ลูกบ่ได้ลืมคำสัญญาเด้อ อีหนูปึกคนนี้จะต้องตามหาเศียรหลวงพ่อกลับมาให้ได้”
ปึกยกมือท่วมหัวก้มลงกราบ เมษาเปิดประตูเข้ามา ปึกสะดุ้ง
“คุณเม”
“อ้าว นี่เธอยังไม่นอนอีกหรือ”
“ยังค่ะ หนูปึกรอคุณเมน่ะค่ะ”
“ทีหลังไม่ต้องรอหรอกนะ แล้วนี่เป็นอะไรทำไมตัวเปียกอย่างงั้น”
“หนูปึกฝันร้ายน่ะค่ะ แล้วนี่คุณเมไปไหนมาคะกลับซะดึกเลย”
“ไปคุยเรื่องงานน่ะ เธอไปนอนเถอะไป”
“ค่ะ”
ปึกเดินแยกไป

เช้าวันรุ่งขึ้น ขั้นเทพมาพบเสวีที่ห้องทำงาน เพื่อรายงานความคืบหน้า
“คุณแน่ใจนะว่าผู้กองเมษาจะร่วมมือกับเราจริง ๆ”
“แน่ใจครับ เพราะเธอรู้ความจริงแล้วว่าผู้การสถิตย์ยุทธฆ่าเสี่ยเล็กเพื่อปิดปาก แล้วเอาเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงไป”
“ไม่ได้เป็นแผนเพื่อมาสอดแนมเราอีกนะ”
“ไม่ครับ เพราะเท่าที่ผมคุยกับเธอ เธอก็เพิ่งรู้ว่าถูกผู้การสถิตยุทธหลอก”
“งั้นก็ดี เราจะได้ให้เธอสอดแนมสถิตยุทธอีกที”
“ผมก็คิดอย่างงั้นเหมือนกันครับ เราจะได้รู้ว่าผู้การสถิตยุทธเดินเกมอะไรต่อไป”
“จำไว้อย่าง ถ้าเราจะจับสถิตย์ยุทธให้ได้ เราต้องมีหลักฐานมัดตัวเขาให้ดิ้นไม่หลุด เพราะไม่อย่างงั้นล่ะก็คุณ ผม ผู้กองเมษา ไม่รอดแน่”
“ครับ ผมเข้าใจดี”

เสวียกกาแฟขึ้นจิบ

ชายชาติเดินมาที่หน้าประตูทางเข้าหน่วยฉก.911 ขั้นเทพเดินมาที่ประตูจะดึงเปิดประตูออก ทั้งสองเจอกัน ชะงัก ต่างดึงประตูไม่ยอมกัน แล้วทำท่าจะชักปืนขึ้นมาทั้งคู่ เสวีเดินเข้ามาหาขั้นเทพ มองหน้าทั้งสองคน

“มีอะไรกันหรือ”
“อ๋อ ไม่มีอะไรครับ”
ขั้นเทพตอบ แล้วปล่อยมือจากประตู ชายชาติปล่อยมือจากประตู เสวีดึงประตูเปิดออก
“มีอะไรรึเปล่าชายชาติ”
“ไม่มีครับ”
ชายชาติถอยไปหนึ่งก้าวเปิดทางให้ เสวีผลักประตูเดินเลี้ยวไปทางบันได ขั้นเทพเดินออกไปอีกทาง แต่ทั้งสองยังจ้องกันตาไม่กระพริบ เมษาเดินเข้ามาขวางหน้าขั้นเทพ
“ผู้กองขั้นเทพ”
ชายชาติโกรธจัด เห็นเมษาคุยกับขั้นเทพ
“นึกว่าจะไม่เจอคุณซะแล้ว”
ขั้นเทพหันมองชายชาติ เมษามองตาม เห็นชายชาติมองจ้อง เมษาเมินหน้ากลับมาพูดกับขั้นเทพ
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“ผมว่าไปคุยด้านนู้นดีกว่า”
ขั้นเทพพาเมษาเดินไปฝั่งตรงข้าม ชายชาติปลดปืนจากเอว เปิดประตูเดินออกไป มองอย่างโกรธแค้น
“อย่าอยู่เลยไอ้เทพ”
ชายชาติยกปืนขึ้นเล็ง ยามเดินเข้ามาเรียก
“มีอะไรรึเปล่าครับผู้กอง”
ชายชาติชะงัก
“ผู้กองถือปืนออกมามีเรื่องอะไรหรือครับ”
“อ๋อ เปล่าฉันแค่จะเอาไปให้เขาล้างน่ะ”
“ผมว่าผู้กองเอาใส่เข้าไปในซองพกก่อนดีกว่านะครับ เดินถือแบบนี้มันจะดูไม่ดี”
“โทษที ลืมไป”
ชายชาติเสียบปืนเข้าไปในซองพก ยามถอยกลับไปยืนประจำที่

เมษามองไปฝั่งตรงข้าม เห็นชายชาติจ้องมา ชายชาติหันหลังเดินกลับเข้าห้องไป เมษาหันมาบอกขั้นเทพ
“ฉันว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วนะ ที่มาจ้องดูฉันกับคุณ”
“เขาคิดว่าคุณชอบผมน่ะสิ เขาถึงโกรธและแค้น”
“แต่ฉันไม่ได้ชอบคุณนี่”
“ผมรู้ คุณไม่ต้องย้ำบ่อย ๆ หรอก แต่ตอนนี้ชายชาติเขาก็คิดไปแล้ว เราไม่สามารถห้ามความคิดเขาได้ หรือคุณอยากให้ผมไปเคลียร์กับเขา”
“ไม่ต้อง ขืนคุณไป ครั้งนี้เขาฆ่าคุณแน่”
“ก็ยังดีที่คุณเป็นห่วงผม”
“ฉันไม่ได้ห่วงคุณ เพียงแต่ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องเพราะฉันเป็นต้นเหตุ”
“ถ้างั้นผมว่าเราควรจะปล่อยเลยตามเลย ให้เขาคิดไปเลยว่าเราเป็นแฟนกัน”
เมษาชะงักมองขั้นเทพงง ๆ
“ทำไมต้องทำอย่างงั้น”
“อ้าว แล้วคุณจะไปบอกเขาหรือว่ามาหาผมเพราะคุยเรื่องงานเกี่ยวกับจะจับผู้การสถิตยุทธ”
เมษาคิดตาม
“อืม ก็จริง ขืนบอกแบบนั้นไป ผู้การสถิตย์ยุทธก็จะรู้ตัว”
“ก็นี่ไง ผมถึงบอกให้คุณทำเลยตามเลย แล้วก็แสดงตัวให้เขารู้ว่าเราชอบกัน”
เมษามองหน้าขั้นเทพ
“เวลาที่คุณมาพบผม คุณจะได้ไม่ต้องกลัวคนสงสัย”
“แต่ฉันว่า”
“นี่คุณเม ผมเอางานเป็นที่ตั้งนะ รับรองไม่มีเรื่องส่วนตัว”
เมษาอึกอักลังเล
“แต่ว่า”
ชายชาติเดินกลับออกมามองทั้งสองอีกครั้ง ขั้นเทพรีบบอกเมษา
“คุณอยู่เฉย ๆ นะ”
“อะไร”
“ชายชาติออกมาดูเราอีกแล้ว”
ขั้นเทพจับมือเมษา
“คุณจะทำอะไร”
ขั้นเทพดึงมือเมษาขึ้นไปหอม เมษาตกใจ
“อยู่เฉยๆ เขามองจ้องเราอยู่”
ชายชาติโกรธ เมษาจ้องหน้าขั้นเทพ ขั้นเทพปล่อยมือ จับแก้มเมษา
“นี่คุณ”
“เขาจ้องเราอยู่ คุณอยากทำแผนแตกหรือ”
“หวังว่าคุณจะไม่หอมแก้มฉันนะ”
“ไม่ แต่คุณสิต้องเป็นฝ่ายหอมแก้มผม”
“อะไรนะ”
“ผมอยากให้คุณคิดว่าเป็นเรื่องงาน เร็ว เขากำลังจ้องอยู่”
“แต่ฉัน”
“คุณแค่เอาจมูกมาแตะเฉย ๆ ไม่ต้องสูดลมหายใจแค่นั้นก็จบ เร็วสิ”
เมษาลังเล ขั้นเทพพยักหน้าให้ เธอตัดสินใจขยับหน้าเข้าไปใกล้
“อย่าเพิ่งดึงหน้าออกไป เขากำลังก้มหน้าไม่ทันมอง”
ชายชาติมองยิ่งโกรธหนัก
“พอรึยัง”
“อย่าเพิ่ง”
“ฉันกลั้นหายใจไม่ไหวแล้วนะ”
“ก็อย่ากลั้นสิ สูดลมหายใจเข้าไปหน่อย แก้มผมไม่เหม็นหรอก เร็ว เขามองแล้ว”
เมษาจำใจสูดลมหายใจ แล้วผละออก ขั้นเทพถามทันที
“เป็นไง”
“หมายความว่าไง”
“แก้มผมหอมมั้ย”
เมษากำหมัดทุบขั้นเทพซ้ายขวา
“คุณนี่มันบ้าจริง ๆ”
ชายชาติมอง ยิ่งแค้น เมษาขยับจะไป ชายชาติยังมองจ้องอยู่
“เห็นมั้ย ผมบอกแล้วว่าเขายังมองเราอยู่ ถ้าคุณเดินไปคนเดียวไม่ดีแน่”
“แล้วต้องทำไง”
“เราก็ต้องไปพร้อมกัน ไปจ้ะที่รัก”
เมษามองหน้าขั้นเทพ เขายิ้มให้ แล้วโอบเอว เมษาสะดุ้ง ชายชาติจ้อง ขั้นเทพยักคิ้วให้ชายชาติ เมษาฝืนยิ้มให้ เสวีเดินเข้ามามองตามสายตาชายชาติ เห็นขั้นเทพเดินโอบเอวเมษาลงบันไดไป
“นั่นแฟนขั้นเทพหรือชายชาติ”
เสวีเข้ามากอดไหล่ชายชาติ
“เอ่อ ผมไม่ทราบครับ”
“ดูสมกันดีนะ นายว่ามั้ย”
“เอ่อ ครับ”
“แล้วนายล่ะเมื่อไหร่จะพาแฟนมาเปิดตัวกันบ้าง”
“คงไม่ช้าครับ”
“เอาให้สวยกว่าแฟนขั้นเทพนะ”

เสวีแซวแล้วเดินออกไป ชายชาติแค้นใจ

ขั้นเทพกุมมือเมษาเดินมาตามทาง

“เอาล่ะ ปล่อยมือฉันได้แล้ว”
เมษาสะบัดมือออก
“คุณไม่ต้องทำท่ารังเกียจผมขนาดนั้นหรอก ที่ควงกับคุณ ผมก็ต้องจำใจเหมือนกันนะ”
“ทำไม ฉันเป็นยังไง ฉันเสียหายตรงไหน”
“อ้าว ผมก็ต้องทำทีว่าคุณกับผมรักกัน แต่ในความเป็นจริงคุณเกลียดผม คุณว่าผมไม่เจ็บปวดหรือ”
“ทำไมต้องเจ็บปวด”
“อ้าว ก็ผมเคยบอกแล้วไงว่าผมชอบคุณ”
“ฉันก็เคยบอกแล้วไงว่าอย่ามาพูดอย่างนี้ ฉันไม่ชอบ”
“ผมชอบคุณจริง ๆ นะ”
“ฉันบอกว่าอย่ามาพูดอย่างนี้กับฉัน”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมไม่พูดแล้ว”
เมษามองค้อน ขั้นเทพทำเป็นตีหน้าเข้ม
“ไหน คุณบอกว่าจะมาคุยอะไรกับผม”
“ฉันจะมาคุยกับคุณเรื่องผู้การสถิตย์ยุทธ”
“เรื่องอะไร”
“ฉันว่าถ้าเราจะจับเขา เราต้องวางแผนให้รัดกุมนะ”
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง ผมมีแผนอยู่ในใจแล้ว”
“แผนอะไร”
“คุณเอียงหูมาสิ”
“นี่ ถ้าคุณต้องกระซิบ ฉันก็ไม่อยากฟัง”
เมษาหันจะไป
“เดี๋ยวสิคุณ”
“ว่าไง จะบอกหรือไม่บอก”
“คุณนี่นะ ใครก็หลอกไม่ได้จริงๆ”
ขั้นเทพจ้อง เมษายิ้ม ยักคิ้วให้อย่างรู้ทัน

ไมค์ โจ๊กเกอร์ ตกใจมาก เมื่อฟังแผนของขั้นเทพกับเมษา
“อะไรนะ นายจะให้หนูปึกไปนอนกับเควิน สมิธ งั้นหรือ”
ขั้นเทพรีบอธิบาย
“ไม่ใช่นอน แค่ทำทีว่าจะไปนอนกับมัน แล้วเอายานอนหลับให้ไอ้เควินกิน”
“จากนั้น เราจะให้หนูปึกไปค้นหาดู ว่ามันเอาหลวงพ่อคำเกลี้ยงไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“แล้วเมื่อหนูปึกหาเจอก็โทรบอกเราพวกเรา เราจะจู่โจมเข้าไปจับมัน แค่นี้ก็จบ”
“แต่ถ้าหนูปึกพลาดท่าเสียทีไอ้เควินแล้วถูกมันข่มขืนล่ะ จะทำยังไง”
“ไม่มีทางพลาดหรอก เพราะเราจะอยู่ด้านนอกเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือเธออยู่แล้ว”
“แต่ถ้ามันพลาดขึ้นมาล่ะ ใครจะรับผิดชอบพรมจรรย์หนูปึก”
“ถึงยังไงเราก็ต้องเสี่ยง เพราะเป็นหนทางเดียวที่เราจะจับเควิน สมิธ ได้”
“ใช่ เพราะจากที่หนูปึกเล่า เควิน สมิธ มันชอบเธอ”
“แล้วทำไมคุณเมไม่ยอมเสี่ยง ปลอมตัวเข้าไปเอง ผมว่าคุณจะแสดงได้สมบาทมากกว่านะ เพราะตอนที่คุณมาหลอกผม ผมยังเชื่อเลย”
“นายลืมไปแล้วหรือ ว่าเควิน สมิธ มันเคยเจอผู้กองเมษาที่สนามมวย”
“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เห็นด้วย ฉันว่ามันเสี่ยงเกินไปสำหรับหนูปึก”
“ฉันรู้นะว่านายชอบหนูปึกอยู่ แต่นายไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน”
“ฉันว่าเราอย่าเถียงกันเลย อย่างน้อยเราก็ควรจะถามหนูปึกก่อน ให้เธอเป็นคนตัดสินใจว่าจะเธอจะช่วยพวกเรารึเปล่า”
“ก็ได้ งั้นผมจะเป็นคนคุยหนูปึกเอง”

เมษากับขั้นเทพพยักหน้าหันมาสบตากัน ไมค์ โจ๊กเกอร์ คิดหนัก

ปึกนั่งกินส้มตำอยู่กับไมค์ โจ๊กเกอร์ ภายในสวนสาธารณะ ไมค์ โจ๊กเกอร์ นั่งจ้องหน้าปึกตลอด

“อ้ายเป็นหยังบ่กิน มาจ้องหน้าหนูปึก”
“เอ่อ”
“ไหนว่ามีเรื่องสำคัญคุยกับข้อย ไม่พูดซะทีมัวแต่เอ้ออ้าอยู่ได้”
“คือ พี่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง”
“ก็พูดออกมาเถอะ หรืออ้ายจะขอข้อยแต่งงาน”
“เอ่อ ปะ เปล่า เปล่าจ้ะ ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“งั้นเรื่องอะไรล่ะ พูดมาเถอะ หนูปึกบ่โกรธหรอกเพราะอ้ายไมค์ดีกับหนูปึก”
“คือ ผู้กองเทพกับผู้กองเมเขาให้พี่มาขอร้องหนูปึกให้ช่วยเป็นสายลับ”
“หา สายลับ ข้อยเนี่ยนะ”
“ใช่ เขาอยากให้หนูปึกเข้าไปที่บ้านเควิน สมิธ แล้วก็ทำทีหลอกมันว่าจะยอมไปนอนกับมัน”
“จะให้หนูปึกกลับไปหามันอีกงั้นหรือ”
“แต่ถ้าหนูปึกไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ เพราะพี่บอกผู้กองไปแล้วว่ามันเสี่ยงและอันตรายเกินไป”
“แล้วมันเรื่องอิหยัง ทำไมผู้กองถึงต้องให้หนูปึกเข้าไป”
“คืออย่างนี้ไอ้เควิน สมิธ มันเป็นคนร้าย ผู้กองเขากำลังวางแผนที่จะจับมัน”
“มันเป็นโจรหรือ”
“ใช่ ผู้กองเขาอยากให้หนูปึกเข้าไปในบ้านมัน เพื่อค้นหาว่ามันเก็บเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงไว้ที่ไหน”
“หลวงพ่อคำเกลี้ยง”
“ใช่”
“นี่หลวงพ่อคำเกลี้ยงอยู่กับไอ้เควิน สมิธ งั้นหรือ”
“หนูปึกรู้เรื่องหลวงพ่อคำเกลี้ยงด้วยหรือ”
“รู้สิ หลวงพ่อคำเกลี้ยงเป็นพระที่บ้านเกิดหนูปึกเอง แล้วหนูปึกก็สาบานไว้ว่าจะต้องตามเศียรหลวงพ่อกลับไปคืนที่วัดให้ได้ อ้ายกลับไปบอกผู้กองเลยว่าหนูปึกยินดีค่ะ”
“แต่พี่ว่ามันอันตรายนะ ถ้าพลาดขึ้นมาไอ้เควินมันอาจจะข่มขืนหนูปึกนะ”
“ต่อให้ตายหนูปึกก็ยอม เพราะหนูปึกต้องเอาเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงกลับไปบ้านเกิดให้ได้”
“เอางั้นหรือ”
“อ้ายบ่ต้องห่วง หนูปึกไม่มีวันยอมให้เควิน สมิธ มันเจาะไข่แดงหนูปึกหรอก”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองอย่างเป็นห่วง
“ยิ้มหน่อยสิ กินส้มตำต่อเถอะ มาหนูปึกป้อนให้ อ้าปาก”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ อ้าปาก หนูปึกป้อนส้มตำใส่
“หนูปึกดีใจจริง ๆ ที่รู้ว่าอ้ายไมค์ รักและเป็นห่วงหนูปึก”
“เอ่อ พี่ พี่เป็นห่วงแบบพี่น้องนะ”
ปึกมองชะงัก ผิดหวัง
“อ้าวหรือ หนูปึกก็นึกว่าอ้ายห่วงหนูปึกแบบคนรักกัน”
“คือ พี่”
“อ้ายบ่ต้องเว้า หนูปึกเข้าใจ กินต่อเถอะ”
ปึกจิ้มส้มตำกิน ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองอย่างอึดอัด

หลังจากกินส้มตำเสร็จ ทั้งคู่เดินมาตามทาง ปึกมึนตึงมองต้นไม้ใบหญ้า ไมค์ โจ๊กเกอร์ เหลือบมอง เห็นปึกทำไม่สนใจ
“หนูปึกโกรธพี่หรือ”
“เปล่า”
“ไม่โกรธแล้วทำไมไม่มองหน้าพี่”
“จะให้มองทำหยังล่ะ”
“ก็มองอย่างทุกครั้ง ที่หนูปึกชอบมองพี่”
“ตอนนั้นหนูปึกคิดว่าอ้ายไมค์ ชอบหนูปึกแบบบ่าวสาว แต่ตอนนี้หนูปึกรู้แล้วว่าอ้ายชอบหนูปึกแบบพี่น้อง หนูปึกก็เลยไม่อยากมองให้มันช้ำใจ”
“เอ่อ คือ พี่ พี่”
“อ้ายไมค์ บ่ต้องอธิบาย หนูปึกเข้าใจว่าผู้หญิงอย่างหนูปึกบ่มีไผชอบ หนูปึกกลับก่อนล่ะ”
ปึกผละจะไป ไมค์ โจ๊กเกอร์ คว้าแขนไว้
“เดี๋ยวสิหนูปึก”
“อ้ายบ่ต้องไปส่งหรอก หนูปึกกลับเองได้”
ปึกแกะมือไมค์ โจ๊กเกอร์ ออก วิ่งออกไป
“ว้า ทำไมเราไม่บอกไปตรง ๆ ว่าเราชอบหนูปึกวะ แต่ถ้าเราบอกว่าชอบ เราจะมีปัญญาเลี้ยงเขาหรือวะ โธ่เว้ย”

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เตะพื้นเซ็งตัวเอง
 
อ่านต่อหน้า 3

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 7 (ต่อ)

เมษากลับเข้ามาในห้องพัก ตกใจเมื่อเห็นชายชาติแอบเข้ามาในห้องเธอก่อนแล้ว

“นี่พี่ชายเข้ามาในห้องนี้ได้ไง”
“พี่อยากถามว่าเมรักกับไอ้เทพงั้นหรือ”
เมษามองอย่างรำคาญ
“จะรักหรือไม่รัก มันไม่เกี่ยวกับพี่ พี่กลับไปได้แล้ว”
“พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าพี่ไม่ได้คำตอบจากเมว่าเมรักไอ้เทพใช่มั้ย”
“ใช่ เมรักกับเขา พอใจรึยัง”
“แล้วพี่ล่ะ เมเอาพี่ไปทิ้งไว้ที่ไหน พี่รักเมเป็นคนแรกนะ”
“ใครจะรักก่อนรักหลังไม่เกี่ยว เมบอกแล้วไงว่าเมไม่ได้รักพี่”
“แต่เมต้อง”
“หยุดนะพี่ชาย”
เมษายกปืนจ่อ ชายชาติตะปบข้อมือเมษาแล้วจับบิด
“โอ๊ย”
ปืนตกพื้น เมษาเอามือสับเข้าคอกระแทกเข้าที่หน้าชายชาติ เขาเอามือปัดรวบมือเมษาแล้วบิดพร้อมกับล็อคแขน แล้วต่อยเข้าที่ท้อง เมษาชะงักงอตัว ทรุด เขารวบแขนเธอจับเหวี่ยงขึ้นโต๊ะ แล้วหยิบกุญแจมือล็อคแขนเมษาทั้งสองข้างเข้ากับขาโต๊ะ
“เธอไม่รักพี่ก็ได้ แต่เธอต้องเป็นของพี่”
ชายชาติก้มลงซุกไซ้ เมษาเบี่ยงหน้าหนี ร้อง
“นี่พี่บ้าไปแล้วหรือ ปล่อยเมนะ ปล่อย”
ชายชาติบีบหน้าเมษาด้วยความแค้น
“ใช่ พี่บ้าไปแล้ว บ้าเพราะหลงรักเธอไง”
ชายชาติก้มลงซุกไซ้อีก เมษาดิ้น ปึกเปิดประตูเข้ามา ตะลึงตกใจ คว้าไม้เบสบอลฟาดเข้ากลางหลังชายชาติอย่างแรง จนเขาตกโต๊ะลงไปนอนกองสลบที่พื้น แล้วจะฟาดซ้ำ
“ไอ้บ้านี่”
“พอแล้วปึก”
“คุณเมเป็นยังไงบ้างคะ”
“ช่วยไขกุญแจมือให้ฉันหน่อย กุญแจอยู่ในกระเป๋า”
ปึกหยิบลูกกุญแจที่กระเป๋าเมษาออกมาไข
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“ฉันไม่เป็นไร แค่จุกนิดหน่อย ขอบใจมากนะที่มาช่วยไว้ทัน”
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ ทำไมอยู่ ๆ ผู้กองชายชาติถึงทำแบบนี้กับคุณเมคะ”
“เขาเสียสติน่ะสิ”
เมษาหยิบกุญแจมือล็อคแขนชายชาติไว้
“แล้วจะเอายังไงกับเขาคะ”
“ให้ตำรวจมาเอาตัวไปน่ะสิ”
เมษาหยิบวอกดเรียก
“วิหคห้าเรียก”
“ศูนย์วิทยุวอสอง”

“มีเหตุบุกรุก ส่งเจ้าหน้าที่มาที่อพาร์ทเมนต์ดีไลท์ด้วย”

เวลาต่อมา ตำรวจเข้ามาที่ห้องเมษาดึงตัวชายชาติขึ้นมาจากพื้น

“เชิญครับผู้กอง”
“อั๊วบอกให้ปล่อยไง หูแตกหรือ”
“ผมทำตามหน้าที่ครับ”
“พี่ไม่คิดเลยนะว่าเมจะกล้าทำอย่างนี้กับพี่”
“ถ้าคราวหน้าพี่ชายบุกรุกอีกล่ะก็ เมจะไม่แค่เรียกตำรวจมาจับนะ”
“เชิญครับผู้กอง”
“เรื่องของเราไม่จบแค่นี้หรอก แกอีกคนนังปึก ระวังตัวให้ดี”
ตำรวจลากตัวชายชาติออกไป
“ไม่ต้องกลัวเขานะ ฉันไม่ปล่อยให้เขาทำอะไรเธอหรอก”
“หนูปึกไม่กลัวหรอกค่ะ อย่างมากก็แค่ตาย”
ปึกเดินตามตำรวจไปปิดประตูห้อง เสียงโทรศัพท์เมษาดังขึ้น เธอมองเบอร์เห็นเป็นเบอร์ขั้นเทพ ก็กดรับสาย
“ฮัลโหล”
“ได้ข่าวว่ามีเรื่องกับชายชาติหรือ”
“คุณรู้ได้ไง”
“ลืมไปแล้วหรือว่าผมเป็นตำรวจเหมือนกับคุณนะ แล้วคุณเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันโอเค คุณโทรมามีอะไร”
“ผมก็เป็นห่วงคุณน่ะสิ”
เมษาฟัง รู้สึกถึงความห่วงใยของขั้นเทพ
“ผมเป็นห่วงจริง ๆ นะ”
“ฉันรู้แล้ว คุณโทรมาแค่นี้ใช่มั้ย”
“เดี๋ยวสิ ที่ชายชาติมาหาคุณเพราะเรื่องของเราใช่มั้ย”
“เรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของเรา”
“แหม คุณนี่ระวังตัวจัง”
“แค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูปึก”
“แล้วหนูปึกเขาบอกคุณรึยังว่าจะยอมช่วยเหลือเรารึเปล่า”
“ยังเลย ฉันกำลังจะคุยกับเขา แค่นี้นะ”
“ผมเป็นห่วงคุณนะ”
“รู้แล้ว”
เมษากดปิดโทรศัพท์
“ตาบ้านี่พูดจาวนไปวนมา”
ขั้นเทพปิดโทรศัพท์แล้วมองรูปเมษาที่หน้าจอ
“ทำเป็นปากแข็ง ผมรู้น่าว่าคุณต้องแอบชอบผมบ้างล่ะ”
ขั้นเทพจูบโทรศัพท์ ไมค์ โจ๊กเกอร์ เปิดประตูเข้ามาพอดี
“อ้าว ได้เรื่องมั้ย หนูปึกเขาว่าไง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ พยักหน้า
“เขายอมช่วยเหลือเราหรือ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ พยักหน้าอีก
“มันต้องอย่างนี้สิ ขอบใจนายมากนะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ พยักหน้า ขั้นเทพมองแปลกใจ
“นายเป็นอะไร ทำไมดูซึม ๆ เศร้า ๆ พูดด้วยก็ไม่พูดตอบ”
“ฉันแค่เป็นห่วงหนูปึกเขา”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันรับรองความปลอดภัยเขา”
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว”
“ถามจริงนายเป็นอะไร ทำหน้าเหมือนคนอกหัก”
“พูดไปผู้กองก็ไม่เข้าใจหรอก”
“เรื่องอะไรไหนพูดมาซิ”
“ผู้กองอย่ารู้เลย”

ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินเลี่ยงไป

เมษาคุยกับปึกเรื่องเควิน สมิธ

“ขอบใจเธอมากนะหนูปึกที่ยอมช่วยเราเรื่องเควิน สมิธ”
“ยินดีค่ะคุณเม ยิ่งหนูปึกรู้ว่าเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงอยู่กับมัน หนูปึกยิ่งเต็มใจทำค่ะ”
เมษายิ้มขอบใจ
“ที่จริงคุณเมบอกหนูปึกเองก็ได้ไม่ต้องให้พี่ไมค์มาบอกหรอกค่ะ”
“ตอนแรกฉันก็ตั้งใจจะมาคุยกับเธอเอง แต่นายไมค์เขาเป็นห่วงเธอ เขาก็เลยขอเป็นคนพูดเอง”
“หึ ห่วงหรือคะ เขาก็พูดไปอย่างงั้นเองแหละ เขาไม่ได้สนใจอะไรหนูปึกจริงจังหรอก”
“ไม่นะ นายไมค์เขาห่วงเธอมาก ตอนแรกที่เราคุยกัน เขายังคัดค้านไม่อยากให้เธอทำงานนี้ด้วยซ้ำ กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับเธอ”
“เขาก็ห่วงเพราะเห็นว่าหนูปึกเป็นคนบ้านเดียวกันเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งหรอกค่ะ”
“แต่ฉันว่าเขาชอบเธอนะ”
“ไม่หรอกค่ะ หนูปึกถามเขาแล้ว เขาบอกว่าชอบหนูปึกแบบน้องสาว”
“จริงหรือ”
“จริงค่ะ แต่ก็ดีแล้วล่ะค่ะที่เขาบอกอย่างนี้หนูปึกจะได้สบายใจ”
“แล้วเธอไม่ได้ชอบเขาหรือ”
“ชอบค่ะ แต่เขาไม่ได้ชอบหนูปึกนี่คะ เราเป็นผู้หญิง ถ้าผู้ชายเขาบอกไม่ชอบ เราก็ต้องหยุดแล้วล่ะค่ะ”
“อืม ก็ดีที่เธอคิดได้ ถ้าเขาไม่ชอบเรา เราก็อย่าไปสนใจเลยนะ”
“ค่ะ”
“งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนล่ะ”
เมษาลุกเดินออกไป ปึกนึกถึงไมค์ โจ๊กเกอร์
“ใช่ ในเมื่อเขาไม่ได้ชอบเรา เราก็ควรจะตัดใจ”
ปึกงอน ๆ

คืนนั้น ไมค์ โจ๊กเกอร์ นอนคิด ๆ ถึงเรื่องระหว่างเขากับปึก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปเธอ
“เราควรจะโทรไปง้อหนูปึกซะหน่อย”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ กดโทรศัพท์หาปึก ปึกมองโทรศัพท์เห็นรูปไมค์ โจ๊กเกอร์ ขึ้นหน้าจอ
“หึ โทรมาทำหยัง บ่ซอบข้อยก็บ่ต้องโทรมา”
ปึกกดปิดโทรศัพท์แล้วโยนทิ้ง ไมค์ โจ๊กเกอร์ รอฟังเสียงปลายสาย อยู่ ๆ ก็ไม่มีสัญญาณ
“หนูปึกคงโกรธเราจริง ๆ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ถอนใจ

ตอนเช้า เสวีเรียกชายชาติมาพบ หลังจากรู้เรื่องที่ชายชาติบุกห้องเมษา
“ผมต้องสั่งพักงานคุณเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
“แต่หัวหน้าครับ”
“นี่เป็นโทษสถานเบานะ ถือว่าคุณโชคดีที่ผู้กองเมษาเขาไม่เอาเรื่อง ถอนฟ้องคุณ ไม่อย่างงั้นคุณต้องติดคุกโทษฐานบุกรุกพยายามจะข่มขืนเขา และคุณอาจจะถูกออกจากราชการด้วย”
“ครับ”
ชายชาติหน้าสลด
“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคุณถึงทำเรื่องแบบนี้ ซ้ำร้ายคุณเป็นตำรวจ คุณควรจะมีความยับยั้งรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก”
“ผมขอโทษครับ ที่ผมทำลงไปเพราะผมโกรธที่ขั้นเทพมาแย่งแฟนผม”
“แย่งงั้นหรือ หมายความว่าคุณชอบอยู่กับผู้กองเมษาก่อน”
“ใช่ครับ ผมชอบผู้กองเมษาก่อนที่เธอจะรู้จักเทพ”
“แล้วเทพเขารู้รึเปล่า”
“ทราบครับ”
“แต่ถ้าผู้หญิงเขาไม่ได้รักเรา ไปรักคนอื่น เราก็ควรจะมีความเป็นลูกผู้ชายยอมรับความจริงนะ ยังไงผมก็ต้องตำหนิที่คุณทำเรื่องบัดสีแบบนี้ เอาล่ะ คุณเซ็นรับคำสั่งแล้วไปสงบสติอารมณ์ คิดทบทวนเรื่องที่ทำซะระหว่างพักงาน”
“ครับ”
ชายชาติเซ็นเอกสารแล้วเดินออกไป เจ้าหน้าที่ในหน่วยต่างมองเขา ชายชาติเหลือบมองอย่างไม่พอใจ

ชายชาติเดินออกจากหน่วยเลี้ยวลงบันไดก็เจอกับขั้นเทพพอดี เขาชะงัก โกรธ เกลียด ทั้งสองเดินสวนกัน ขั้นเทพตัดสินใจเรียก
“เฮ้ย ชาย”
ชายชาติหยุดเดินแต่ไม่หันมอง
“เราต้องคุยกันนะ”
ชายชาติยังนิ่ง
“ในฐานะเพื่อน”
“มึงกับกูไม่ได้เป็นเพื่อนกันนานแล้ว”
“เฮ้ย ทำไมถึงคิดอย่างงั้นวะ”
“ก็เพราะว่าเพื่อนเขาไม่แทงข้างหลังเพื่อน”
“แต่คุณเมเขาบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาไม่เคยชอบมึง”
“เขาบอกมึงด้วยงั้นหรือ”
“ชาย ไม่ว่ายังไง กูก็คิดว่ามึ”
“มึงพอได้แล้ว กูบอกแล้วไงกูไม่นับมึงเป็นเพื่อน”
ชายชาติหันหลังเดินไป ขั้นเทพขยับจะตาม
“เฮ้ย ไอ้ชาย”
เสวีเดินเข้ามาหาขั้นเทพ
“ปล่อยเขาไปเถอะเทพ เขากำลังพาลอยู่”
ขั้นเทพได้แต่ถอนใจมอง เดินคุยมากับเสวี
“ผมแค่อยากเคลียร์ให้เขาเข้าใจ เพราะว่าจริง ๆ แล้วผมกับผู้กองเมษาก็ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกครับ”
“อ้าว จริงหรือ”
“จริงครับ ผมกับเธอแกล้งทำทีเป็นคู่รักกันเพื่อไม่อยากให้คนสงสัยว่าเธอมาหาผมทำไม”
“อ้อ นี่คือส่วนหนึ่งของแผน”
“ครับ”
“แต่แนบเนียนมากนะ วันก่อนผมเห็นคุณเดินจับไม้จับมือกัน ผมยังบอกชายชาติเลยว่าคุณสองคนเหมาะสมกัน”
“ผมไม่ทราบว่าหัวหน้าเห็นด้วย”
“เห็นสิ ก็คุณเดินโชว์รอบตึกออกอย่างงั้น แล้วที่คุณบอกผมว่าจะส่งคนเข้าไปประกบเควิน สมิธ ได้เรื่องรึยัง”
“ได้แล้วครับ เธอชื่อหนูปึก บ่ายนี้ผมนัดเจอเธอเพื่อมาคุยเรื่องแผน”

เสวีพยักหน้ารับรู้

ชายชาติมาหาสถิตย์ยุทธที่ห้องทำงาน หลังจากถูกสั่งพักงาน

“นายบ้าไปแล้วหรือ ถึงขั้นบุกปล้ำผู้กองเม”
ชายชาติหน้าสลดหลบตา
“ถ้าคุณวัฒนารู้เรื่องนี้ขึ้นมา ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ผมขอโทษครับ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ”
“กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียว ลุ่มหลงอะไรนักหนา รู้มั้ยว่าไอ้เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้มันอาจจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เสียงานก็ได้”
“ผมขอโทษครับ ผมให้สัญญาผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
“แล้วคุณวัฒนาเขารู้เรื่องนี้รึเปล่า”
“ผมก็ไม่ทราบ แต่คิดว่าน้องเมคงไม่ได้บอก”
“แล้วที่นายบอกว่าผู้กองขั้นเทพกับผู้กองเมเป็นแฟนกัน มันจริงหรือ”
“จริงครับ เธอบอกผมเอง ผมถึงระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่”
“แต่ฉันว่าเป็นไปไม่ได้ ที่อยู่ ๆ สองคนนี้จะมารักกัน ฉันว่าเขาสองคนเล่นละครตบตานายมากกว่า”
“ผมไม่เข้าใจครับ”
“เขาสองคนอาจจะร่วมมือกันสืบเรื่องของพวกเราอยู่ก็ได้”
“แล้วทำไมต้องทำทีเป็นคู่รักกันด้วย”
“ก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากพวกเรา”
ชายชาติยิ้มมีหวัง
“ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงก็ดีสิครับ แสดงว่าผมยังมีโอกาส”
“นี่ชายชาติ ฉันว่านายเลิกบ้าถึงผู้หญิงคนนี้ซะที ถ้าผู้หญิงเขาชอบนาย เขาชอบนายไปนานแล้ว อย่าเสียเวลาตื้อให้ยากเลย”
“ขอโทษครับ”
“ฉันว่าตอนนี้เรื่องที่นายควรจะทำก็คือเก็บสองคนนี้ซะ”
“นายจะให้ผมฆ่าน้องเมด้วยหรือครับ”
“ก็ถ้าเธอร่วมกับไอ้เทพสืบเรื่องของเรา นายว่าสมควรมั้ยล่ะ”
“แล้วคุณวัฒนาล่ะครับ”
“ก็อย่าบอกให้เขารู้ เมษาเป็นตำรวจอาจจะตายเพราะน้ำมือผู้ร้ายที่ไหนก็ได้”
“แต่ผมคิดว่า”
“นายลืมไปแล้วหรือ ผู้กองเมเขาไม่เคยรักนายและจะไม่มีวันรักด้วย ทำตามที่ฉันบอก แล้ววันหนึ่งฉันจะหาผู้หญิงที่ดีกว่าผู้กองเมเป็นสิบเท่าให้นาย”
“ครับ”

ชายชาติรับคำหน้าสลด
 
อ่านต่อหน้า 4

สวยร้ายสายลับ ตอนที่ 7 (ต่อ)

เวลาเดียวกันนั้น เมษาเดินเข้ามาในครัวฝั่งตรงข้ามห้องทำงานสถิตย์ยุทธ เห็นสถิตย์ยุทธพูดอบรมชายชาติ ชายชาติพยักหน้ารับ เมษาฉุกใจคิดว่าชายชาติอาจจะทำงานให้สถิตย์ยุทธ เธอจึงนัดเจอกับขั้นเทพที่ร้านกาแฟ เพื่อปรึกษาเรื่องนี้

“คุณว่ามีเรื่องอะไรจะปรึกษาผม”
“คุณว่าเป็นไปได้มั้ยว่าผู้กองชายชาติทำงานให้กับหัวหน้าฉัน”
“ผู้การยุทธน่ะหรือ”
“อืม”
“ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น”
“ฉันเห็นผู้กองชายชาติมาหาหัวหน้าบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำงานที่หน่วยวิหคเวหาแล้ว”
“มันก็ว่าไม่ได้นะ ชายชาติเคยเป็นลูกน้องเก่าผู้การยุทธ”
“ก็นี่แหละ ฉันถึงสงสัยว่าเขาอาจจะทำงานลับ ๆ ให้กับผู้การก็ได้”
ขั้นเทพคิดตาม
“แล้วคุณเองก็เคยบอกไม่ใช่หรือ ว่าคุณสงสัยในหน่วยคุณ อาจจะมีหนอนบ่อนไส้ บางทีอาจจะเป็นเขาก็ได้นะ”
“ก็เป็นไปได้”
ขั้นเทพมองเมษา เมษาหลบตา
“คุณจ้องฉันทำไม”
“หรือว่าชายชาติคือคนที่ลอบยิงผม”
เมษาคิดตามคำพูดของขั้นเทพ นึกถึงตอนที่เธอเคยต่อสู้กับคนร้ายและยิงกระสุนถากแขนไป แล้วชายชาติก็เกิดมีแผลที่แขนเช่นกัน
“ใช่ ฉันว่าต้องเป็นเขาแน่”
“ถ้าอย่างงั้นคุณก็ต้องระวังตัวนะ”
“คุณหมายถึงเขาจะเก็บฉันด้วยงั้นหรือ”
“ถ้าผู้การยุทธรู้ว่าคุณร่วมมือกับผม เขาต้องไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
“แต่หัวหน้ากับพ่อฉันเป็นเพื่อนกันนะ”
“เรื่องนั้นผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าคนอย่างผู้การยุทธคงไม่ยอมให้ตัวเองเดือดร้อน”
เมษาอึ้ง
“ผมชักเป็นห่วงคุณแล้ว ผมว่าคุณย้ายไปอยู่บ้านผมดีมั้ย”
“ทำไมต้องย้ายไปอยู่บ้านคุณ”
“อ้าว ก็ชายชาติเคยบุกเข้าไปทำร้ายคุณถึงในห้องพักนะ”
“ไม่ต้อง ฉันดูแลตัวเองได้”
“ผมเป็นห่วงคุณจริง ๆ นะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันดูแลตัวเองได้ แล้วฉันก็ไม่เชื่อว่าพี่ชายจะกล้าฆ่าฉัน”
ขั้นเทพมองหน้าเมษาแล้วถอนใจยกแก้วกาแฟมาดื่ม แต่ยังจ้องอยู่ เมษามองค้อน


เมษาขับรถมาจอดที่คอนโดฯ ขั้นเทพลงจากรถตามลงมา มองซ้ายขวา ทั้งสองเดินไปที่ลิฟต์ ขั้นเทพกดลิฟต์แล้วหันมองซ้ายขวา เมษามองหน้า
“ความจริงคุณส่งฉันแค่นี้ก็พอ ไม่มีอะไรหรอก”
“เพื่อความสบายใจของผม ผมอยากให้แน่ใจว่าคุณปลอดภัย”
ระหว่างรอลิฟต์ มีเสียงกระป๋องล้ม ทั้งสองชะงัก ขั้นขั้นเทพกระชากปืน
“คุณอยู่นี่นะ”
ขั้นเทพถือปืนวิ่งออกไปดูในลานจอดรถ แต่ไม่พบอะไร จึงเดินกลับมาหาเมษา
“มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มี ผมคงระแวงไปเอง”
ลิฟต์เปิด ทั้งสองเดินเข้าลิฟต์ไป เมื่อลิฟต์เปิดออก ขั้นเทพก็เดินไปส่งเมษาที่หน้าห้อง
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาส่ง ไม่มีอะไรหรอก”
“ผมก็บอกแล้วเหมือนกันว่าผมเป็นห่วงคุณ”
“นี่คุณจะจีบฉันจริง ๆ ใช่มั้ย”
“ใครบอก ที่ผมมาส่งคุณเนี่ย เพราะว่าเราทำงานด้วยกันต่างหาก คุณอย่าคิดมากน่า”
“ให้มันจริงเถอะ”
เมษาเดินมาถึงห้อง หยิบกุญแจออกมาไขประตูแล้วหันมาบอก
“แต่ยังไงก็ขอบคุณนะที่มาส่ง”
“อย่าลืมล็อคห้องล่ะ”
เมษาพยักหน้า ขั้นเทพเดินกลับไป
“เดี๋ยว ผู้กองเทพ”
ขั้นเทพชะงักหันมามอง
“คุณเองก็ระวังตัวด้วย”
ชั้นเทพยิ้ม
“ในที่สุดคุณก็เป็นห่วงผม”

เมษายิ้มอายมองค้อนเข้าห้องดึงประตูปิด ขั้นเทพอมยิ้มเดินออกไป

เมษาเดินเข้ามาเหลือบมองไปนอกห้องอมยิ้มขำ

“ตาบ้านี่”
ปึกเดินเข้ามาได้ยิน
“มีอะไรคะคุณเม”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
เมษายิ้มให้แล้วเดินไป
“ทำไมวันนี้คุณเมดูอารมณ์ดีจัง”
ปึกแปลกใจ

กลางคืน ไมค์ โจ๊กเกอร์ กดโทรศัพท์ สายว่างแต่ไม่มีคนรับ เขาปิดโทรศัพท์เซ็ง ๆ ขั้นเทพเปิดประตูเข้าบ้านมา
“อ้าว นายอยู่บ้านหรือ ฉันนึกว่าวันนี้นายจะออกไปข้างนอกซะอีก”
“ไม่รู้จะไปไหน แล้วนี่ผู้กองไปไหนมา”
“ไปส่งผู้กองเมษาที่อพาร์ทเมนท์”
“แล้วเจอหนูปึกมั้ย”
“คงอยู่ห้องมั้ง ทำไม มีอะไรหรือ”
“เปล่า ฉันโทรหาเขาแต่เขาไม่รับสาย”
“ทะเลาะกันหรือ”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินออกไป
“พักนี้มันเป็นอะไรของมันวะ”
ขั้นเทพมองสงสัย

ปึกมาฝึกศิลปะการต่อสู้กับครูฝึก ที่โรงยิม
“เก่งมากหนูปึก ท่าต่อไป เวลาที่มีคนเข้ามาจะจับ ให้เอามือปัดซ้าย ขวาแล้วแทงเข้าคอ”
ปึกทำตาม
“อย่างนี้ใช่มั้ยคะ”
“ใช่”
ปึกจับคู่ต่อสู้ทุ่ม จับตี หักศอก เมษายืนมองอยู่
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ เธอนี่หัวไวนะ เรียนไม่กี่ชั่วโมงก็จำได้หมด”
“แล้วต้องให้หนูปึกมาอีกมั้ยคะครู” เมษาถาม
“ไม่ต้องแล้ว แค่นี้ก็ไม่มีใครทำอะไรได้แล้ว”
“ขอบคุณมากค่ะครู”
ครูฝึกและคู่ซ้อมเดินออกไป ขั้นเทพกับไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินเข้ามา
“เป็นไงบ้างหนูปึก”
“โอเคค่ะผู้กอง ครูยังชมเลยว่าหนูปึกหัวไว ใช่มั้ยคะคุณเม”
เมษาพยักหน้าให้ปึก แล้วหันมาบอกขั้นเทพ
“รับรองเควิน สมิธ ทำอะไรหนูปึกไม่ได้แน่ เพราะครูเขาสอนทักษะในการป้องกันตัว ที่เป็นหลักสูตรของตำรวจ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เหลือบมองปึก ปึกทำมึนตึง
“แล้วหนูปึกต้องไปฝึกยิงปืนมั้ยคะ”
“ถ้ายิงเป็นก็ดีนะ”
“พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปยิงปืนเอง”
“ดีจังเลยค่ะ หนูปึกไม่เคยคิดเลยนะคะว่าในชีวิตจะได้มาเป็นสายลับกับเขา”
“แต่พี่ว่าหนูปึกก็อย่าประมาทนะ การเป็นสายลับมันไม่ได้สนุกอย่างที่คิดหรอก”
“คนอย่างหนูปึกไม่เคยประมาทอยู่แล้วล่ะค่ะ”
ปึกบอกเสียงห้วน ไมค์ โจ๊กเกอร์ อึ้งไป ขั้นเทพกับเมษามองหน้ากันแปลกใจ
“เดี๋ยวหนูปึกจะโชว์ให้ผู้กองดูค่ะ”
“เอ้า ไมค์ นายลองเข้าไปปล้ำหนูปึกซิ”
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย”
“หรือว่านายอยากให้ฉันเข้าไปปล้ำ”
“ไม่ต้อง ฉันเอง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ เดินเข้าไปหา ปึกมองจ้อง เขาจู่โจมพุ่งเข้าหา ปึกหลบ ไมค์ โจ๊กเกอร์ เข้ามากอดด้านหลัง ปึกศอกกลับแล้วกระทืบเท้าเขา
“โอ๊ย”
ปึกจับไมค์ โจ๊กเกอร์ หมุนลงพื้น แล้วต่อยเข้าที่ท้องรัวติดกันสามหมัด
“นี่แน่ะ นี่แน่ะ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ร้องลั่น
“พอก่อนหนูปึก”
เมษาเข้าไปคว้าแขนปึก ขั้นเทพเข้าไปพยุงไมค์ โจ๊กเกอร์
“เป็นไงบ้าง”
“จะเป็นไงเล่า ก็เจ็บน่ะสิ ทำไมถึงต่อยพี่จริง ๆ เนี่ย”
“ก็อยากให้รู้บ้างน่ะสิว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง หนูปึกขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะคุณเม”
ปึกเดินออกไป เมษากับขั้นเทพมองหน้ากันงง ๆ ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองตามหน้าจ๋อย
“มีเรื่องงอนอะไรกันรึเปล่าไมค์”
“ฉันจะไปรู้หรือ ฉันไม่ได้ทำอะไรเขานี่”
“แน่ใจหรือว่าไม่ได้ทำ”
“ทำอะไร ผมไม่ได้ทำอะไรนะ”
“ก็นายไม่ได้ชอบหนูปึกเขาจริง แล้วไปหลอกเขาทำไม”
“ผมไม่ได้หลอกหนูปึกนะ”
“แล้วนายชอบเขารึเปล่า”
“เอ่อ”
“นี่ ชอบก็บอกเขาไป จะมานั่งเก็บงำทำไม รู้มั้ยหนูปึกเขาเสียใจมากนะที่นายบอกว่าชอบเขาแบบพี่น้อง”
“อ๋อ ที่แท้โกรธผมเรื่องนี้หรือ”
“ฉันว่านายรีบไปเคลียร์ให้เร็วดีกว่า ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป” ขั้นเทพแนะ
“แล้วจะเคลียร์ยังไง”
“ก็บอกเขาไปสิว่านายรู้สึกยังไงกับเขา ไป”
ขั้นเทพผลักไมค์ โจ๊กเกอร์ ออกไป เมษามองตามอย่างไม่ชอบใจ
“เป็นผู้ชายอะไรไม่กล้าพูดความจริง”
“ใช่ ดูอย่างผมสิ รักก็บอกว่ารัก ชอบก็บอกว่าชอบ แต่คุณไม่ชอบผม”
“อย่ามาเหมารวมที่ฉัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา”
เมษาเดินออกไป
“เดี๋ยวสิคุณเม“

ขั้นเทพตามเมษาไป

ปึกอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เดินออกจากห้องแต่งตัวของโรงยิม ชะงักไป เมื่อเห็นไมค์ โจ๊กเกอร์ ยืนรออยู่ ปึกมอง เขายิ้มให้ แต่เธอทำเมินเดินผ่าน ไมค์ โจ๊กเกอร์ เข้ามาขวาง

“มาขวางทางข้อยทำหยัง”
“พี่มีเรื่องจะสารภาพ”
“หนูปึกบ่อยากฟัง”
“แต่หนูปึกต้องฟังนะ นี่มันเป็นความในใจของพี่”
“หนูปึกรู้แล้วว่าอ้ายไมค์ บ่ชอบหนูปึก บ่ต้องมาบอกย้ำบ่อย ๆ”
“ไม่ใช่ไม่ชอบ พี่อยากจะบอกว่า”
“ไม่ต้องบอก หนูปึกไม่อยากฟัง”
ปึกผลักไมค์ โจ๊กเกอร์ ล้มลง แล้วเดินหนี
“เดี๋ยวสิหนูปึก พี่จะบอกว่าพี่รักหนูปึกนะ”
ปึกชะงัก แต่ยังไม่หันมามอง ไมค์ โจ๊กเกอร์ คุกเข่าลงกับพื้น
“พี่รักหนูปึกจริง ๆ นะ ที่พี่บอกว่ารักแบบพี่ชายเพราะพี่ไม่กล้าบอกความจริง พี่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวกับหัวใจที่รักหนูปึกเต็มร้อย”
ปึกอึ้งตะลึง หันหน้ามามอง
“อีหลีบ่ อ้ายบ่ได้หลอกข้อยเด้อ”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ ลุกขึ้นยืน
“แม่นแล่ว อ้ายฮักเจ้าอีหลี ฮักแบบหนุ่มฮักสาว”
ปึกยิ้ม วิ่งเข้าหาไมค์ โจ๊กเกอร์ เชากอดปึกไว้ เมษาเดินเลี้ยวมุมตึกเข้ามาชะงัก เห็นทั้งสองกอดกัน ขั้นเทพเดินตามหลังเมษามา ชะงักไปเช่นกัน ปึกผละออก
“อ้ายไมค์บ่ได้หลอกหนูปึกเด้อ”
“บ่ อ้ายฮักหนูปึกคั่กคั่ก ฮักหลาย ๆ ฮักทั้งหัวใจ”
“หนูปึกก็ฮักอ้ายไมค์เด้อ”
ปึกหอมแก้มไมค์ โจ๊กเกอร์ ซ้ายขวา เขาจูบหน้าผากเธอ แล้วดึงมากอด เมษามองยิ้มอาย ขั้นเทพเดินเข้ามาโอบไหล่เมษา
“เขาสองคนเหมาะกันดีนะ เหลือแต่เรา”
เมษาเหลือบมอง จับมือขั้นเทพดึงออก
“ขอโทษ กำลังอินกับคู่นั้นอยู่พอดี”
เมษามองค้อน ขั้นเทพยิ้ม

เควิน สมิธ นั่งดื่มกาแฟอยู่ภายในบ้าน เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ลูกน้องกดรับ
“ฮัลโหล จากไหนครับ สักครู่ครับ”
ลูกน้องเดินเข้ามาหา
“โทรศัพท์ครับนายจากผู้หญิง”
“ใคร”
“บอกว่าชื่อหนูปึกครับ”
“บอกว่าไม่อยู่”
“ครับ”
ลูกน้องขยับจะพูด เควิน สมิธ เปลี่ยนใจ
“เฮ้ย เดี๋ยว เอามานี่ ฮัลโหล”
ปึกพูดโทรศัพท์ มีขั้นเทพ เมษาและไมค์ โจ๊กเกอร์ อยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะคุณเควิน จำหนูปึกได้มั้ยคะ”
“จำได้สิ โทรมามีอะไร”
“หนูปึกอยากขอโทษค่ะ ที่คืนนั้นหนูปึกหนีคุณเควินไป”
“โทรมาแค่เนี้ยหรือ”
“ไม่ใช่ค่ะ หนูปึกอยากจะขอโอกาสจากคุณเควินอีกสักครั้งได้มั้ยคะ”
“หมายความว่าไง”
“หนูปึกกำลังเดือดร้อน ต้องการใช้เงินด่วนน่ะค่ะ”
“อ้อ นี่เห็นฉันเป็นตู้เอทีเอ็มหรือไง”
“ไม่ใช่ค่ะ คือ หนูปึกไม่รู้ว่าจะหาที่พี่งที่ไหน แล้วหนูปึกก็เห็นว่าคุณเควินเคยใจดีกับหนูปึก”
“แต่ครั้งนี้ฉันคงให้เธอได้ไม่เท่าเก่า”
“ทำไมล่ะคะ”
“เพราะฉันไม่ได้อยากได้เธอ”
“ก็ได้ค่ะ”
“เธอต้องการเงินเท่าไหร่”
“สองแสนค่ะ”
“ฉันให้เธอได้ห้าหมื่น”
“เอ่อ แสนหนึ่งได้มั้ยคะ”
“ห้าหมื่น ถ้าเธอต้องการก็มา ถ้าไม่ต้องการก็ไม่ต้องมา”
“ก็ได้ค่ะ ห้าหมื่นก็ได้”
ปึกพยักหน้าให้ทั้งกลุ่ม ขั้นเทพ เมษาพยักหน้ายิ้ม ไมค์ โจ๊กเกอร์ มองเป็นห่วง
“แหม คุณเควินนะ จากห้าแสนลดเหลือห้าหมื่น”
“ช่วยไม่ได้เธออยากหนีฉันไปเอง ทุ่มหนึ่งเจอกัน”
“ค่ะ”

เควิน สมิธ ปิดโทรศัพท์ แสยะยิ้ม

ปึกปิดโทรศัพท์แล้วหันมาบอกทุกคน

“โอเคค่ะ ทุ่มหนึ่งมันให้หนูปึกไปหา”
“เอาล่ะ คราวนี้เธอฟังแผนให้ดีนะ นี่เป็นยานอนหลับชนิดแรง เอาใส่ไวน์หรือเบียร์ให้มันกิน
ยาจะออกฤทธิ์ภายในสองนาที”
ปึกพยักหน้ารับรู้
“หลังจากมันสลบ เธอก็พยายามค้นหาว่ามันซ่อนเศียรหลวงพ่อคำเกลี้ยงไว้ที่ไหน เมื่อเธอเจอเศียรรีบโทรหาพวกเราฉันจะบุกเข้าไปจับมัน”
“คิดว่าทำได้มั้ยหนูปึก”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
“ต้องระวังตัวให้ดีนะหนูปึก ถ้าผิดแผนยังไงรีบหนีออกมา พี่จะปลอมตัวเป็นคนขับแท็กซี่จอด
รออยู่หน้าบ้านมัน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า หนูปึกไม่ยอมเสียตัวให้มันง่าย ๆ หรอก”
“เอาล่ะ งั้นก็ไปเตรียมตัวได้แล้ว”
“งั้นหนูปึกไปทำผมก่อนนะคะ”
“พี่ไปส่ง”
ไมค์ โจ๊กเกอร์ กับหนูปึกเดินออกไป เมษาหันมาถามขั้นเทพ
“ถ้าคืนนี้เราจับเควิน สมิธได้ คุณว่ามันจะยอมซัดทอดไปถึงผู้การยุทธมั้ย”
“ถึงมันไม่ซัดทอด เราก็มีหลักฐานโยงไปถึงผู้การยุทธแน่ รับรองเขาไม่รอด”
“ไม่อยากเชื่อเลย ว่าวันนี้ฉันจะต้องจับผู้ร้ายที่เคยเป็นหัวหน้าตัวเอง”
“หวังว่าคุณจะไม่ใจอ่อนปล่อยเขาไปนะ”
“ไม่มีทาง ฉันแยกแยะได้ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว”
“คุณนี่เด็ดเดี่ยวจริง ๆ นับถือ”
เสียงโทรศัพท์มือถือเมษาดังขึ้น เธอหยิบมาดู เห็นหน้าพ่อที่หน้าจอโทรศัพท์
“โทษนะพ่อฉันโทรมา ฮัลโหล หวัดดีค่ะพ่อ”
“ทำอะไรอยู่ลูก”
“ประชุมงานน่ะค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะพ่อ”
“แม่เขาให้พ่อโทรหาลูกว่าทำไมพักนี้หายไป”
“งานยุ่งน่ะค่ะพ่อ”
“งานอะไรหรือลูก”
“งานใหญ่ค่ะ”
“งานใหญ่เลยหรือ อย่างนี้ก็ต้องดังล่ะสิ ลงหนังสือพิมพ์รึเปล่า”
“งานนี้ต้องขึ้นหน้าหนึ่งเลยค่ะ”
“ขนาดนั้นเลยหรือ งานอะไรบอกพ่อได้มั้ย”
“ไม่ได้ค่ะ พ่อรอดูข่าวแล้วกัน”
ขั้นเทพมองยิ้ม
“เอ้า คุยกับแม่แล้วกัน”
วัฒนาส่งโทรศัพท์ให้ประไพพรรณ
“ว่าไงลูก เมื่อไหร่จะมากินข้าวกับแม่”
“อีกสองวันนะคะ”
“แม่คิดถึงลูกนะ”
“หนูก็คิดถึงแม่กับพ่อค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ หนูคุยงานค้างอยู่ รักพ่อกับแม่นะคะ”
“จ้ะ แม่กับพ่อก็รักลูกนะ”
ประไพพรรณปิดโทรศัพท์ หันมายิ้มกับวัฒนา

เมษาปิดโทรศัพท์ ขั้นเทพมองอยู่
“ท่าทางคุณจะสนิทกับคุณพ่อคุณแม่นะ”
“คุณพูดเหมือนคุณมีปัญหาครอบครัว”
“ก็นิดหน่อย ผมไม่ค่อยถูกกับพ่อ”
“เพราะอะไร”
“พ่อผมขี้เมาชอบก่อเรื่องบ่อย ๆ เชื่อมั้ย ผมยังเคยจับพ่อตัวเองเข้าคุกเลย”
“จริงหรือ”
“ใช่ ให้ท่านเข้าไปสงบสติอารมณ์สักพัก”
“แล้วท่านว่าไง”
“ก็ด่าสิ หาว่าผมเป็นลูกอกตัญญู แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ท่านไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น”
“คุณนี่แน่จริง ๆ ถ้าเป็นฉัน ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะกล้าจับพ่อเข้าคุกรึเปล่า”
“แต่ผมว่าคุณน่ะกล้า”
“ทำไม”
“ก็คุณเป็นคนไม่มีหัวใจให้ใคร”
“ฉันว่าจะเลิกคุยกับคุณแล้วนะ พูดอะไร ไป ๆ มา ๆ ก็มาลงที่เรื่องไร้สาระ”
“เรื่องความรักไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะคุณ”
“พอเลย ฉันบอกแล้วไง เราไม่คุยเรื่องนี้กัน”
เมษาลุกเดินออกไป
“สักวันผมจะทำให้คุณคุยเรื่องนี้กับผมให้ได้”

ขั้นเทพยิ้ม
 
อ่านต่อตอนที่ 8
กำลังโหลดความคิดเห็น